Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บรรพ 6 มรดก

บรรพ 6 มรดก

Published by pim, 2020-12-24 02:03:41

Description: บรรพ 6 มรดก

Search

Read the Text Version

บรรพ 6 หมวด 1 การตกทอดแห่งทรพั ยม์ รดก มาตรา1599 “เมื่อบคุ คลใดตาย มรดกของบุคคลนนั้ ตกทอด แก่ทายาท มาตรา 1601 ทายาทไมจ่ าต้องรับผดิ เกินกวา่ ทรพั ยม์ รดก ที่ได้ตก ทอดแกต่ น มาตรา 1603 “กองมรดกยอ่ มตกทอดแก่ทายาทโดยสิทธิตาม กฎหมายหรือโดยพินัยกรรม ทายาททมี่ ีสทิ ธิตามกฎหมาย เรียกว่า ทายาทโดยธรรม ทายาทท่ีมีสทิ ธิตามพนิ ยั กรรม เรียกว่า ผรู้ ับพินยั กรรม

การตกทอดแหง่ ทรัพย์มรดก มาตรา 1604 บคุ คลธรรมดาจะเป็นทายาทได้ กต็ อ่ เมอ่ื มสี ภาพบุคคล ในเวลาเจา้ มรดกถงึ แก่ความตาย เพื่อประโยชน์แหง่ มาตรานี้ ให้ถือว่าเดก็ ทีเ่ กิดมารอด อยภู่ ายใน 310 วันนับแต่เวลาทีเ่ จ้ามรดกถึงแกค่ วามตายนั้น เป็นทารกในครรภม์ ารดาอยู่ในเวลาทีเ่ จา้ มรดกถึงแกค่ วามตาย

บรรพ 6 หมวด 3 การตัดมใิ หร้ ับมรดก มาตรา 1608 เจ้ามรดกจะตัดทายาทโดยธรรมของตนคนใด มิให้รบั มรดกก็ไดแ้ ตด่ ้วยแสดงเจตนาชัดแจ้ง (1) โดยพินยั กรรม (2) โดยทาเปน็ หนงั สอื มอบไว้แกพ่ นกั งานเจา้ หน้าท่ี ตวั ทายาทผถู้ กู ตดั มิให้รบั มรดกน้นั ต้องระบุไว้ให้ชัดเจน แตเ่ มือ่ บคุ คลใด ไดท้ ำพนิ ยั กรรมจำหนำ่ ยทรัพยม์ รดกเสียทงั้ หมดแล้ว ใหถ้ อื วำ่ บรรดำทำยำทโดยธรรมผทู้ ีม่ ิไดร้ ับประโยชน์ จำกพนิ ยั กรรม เป็นผู้ถกู ตดั มิใหร้ ับมรดก

ลกั ษณะ 2 สิทธิโดยธรรมในการรับมรดก(มว.1) มาตรา 1620 ถ้าผูใ้ ดตายโดยไม่ได้ทาพนิ ยั กรรม หรือทาพนิ ยั กรรมไว้แต่ไมม่ ีผลบังคับได้ ให้ปนั มรดกท้งั หมดแก่ทายาทโดยธรรม ของผู้ตายนน้ั ถา้ ผใู้ ดตาย โดยไดท้ าพินัยกรรมไว้ แต่พนิ ัยกรรมนั้นได้ จาหนา่ ยทรัพยห์ รอื มีผลบังคบั ได้ แต่เพียงบางส่วนแหง่ ทรพั ย์มรดก ใหป้ นั สว่ นทม่ี ไิ ดจ้ ำหนำ่ ย โดยพนิ ยั กรรม ใหแ้ ก่ทำยำท โดยธรรมตำมกฎหมำย

ลักษณะ 2 สทิ ธิโดยธรรมในการรับมรดก (มว.1) มาตรา 1621 ทายาทคนใดได้รับทรัพยส์ ินตาม พินัยกรรม แล้ว ผู้นน้ั ยงั มีสิทธิ ที่จะเรียกเอาสว่ นโดยธรรมของตนจาก ทรพั ย์มรดกทีย่ งั มิได้จาหน่ายโดยพินัยกรรม จนเต็มอีกก็ได้ มำตรำ 1622 พระภิกษุ ไม่สำมำรถเรียกเอำมรดกในฐำนะทำยำท ได้ เว้นแต่จะสึกมำเรยี กร้องภำยในกำหนดอำยคุ วำมตำม ม.1754 ( 1 ปีนบั แตเ่ จำ้ มรดกตำย หรือนบั แตเ่ ม่อื ทำยำทได้รู้ หรอื ควรไดร้ ู้ ถึงควำมตำยของเจำ้ มรดก )

ลักษณะ 2 สิทธิโดยธรรมในการรับมรดก (มว.1) มำตรำ 1623 ทรัพยส์ ินของพระภกิ ษุ ท่ีไดม้ ำใน ระหว่ำง เวลำท่บี วช เม่ือมรณภำพ ใหต้ กเปน็ สมบตั ขิ องวัด ท่ีเป็นภูม-ิ ลำเนำของพระนน้ั เวน้ ไวแ้ ต่ พระภกิ ษนุ นั้ จะไดจ้ ำหน่ำยไป ในระหว่ำงชวี ติ หรอื โดยพนิ ัยกรรม มำตรำ 1624 ทรพั ย์สินทเ่ี ป็นของพระภกิ ษุก่อนบวช ไม่ตกเปน็ สมบตั ิของวดั ใหเ้ ป็นมรดกตกทอดแก่ทำยำทโดย ธรรม หรอื จะจำหนำ่ ยใหใ้ ครก็ได้โดยให้เปน็ ไปตำมกฎหมำย

ลกั ษณะ 2 สิทธิโดยธรรมในการรบั มรดก (มว.1) มาตรา 1625 ถา้ ผู้ตายเป็นผู้สมรสแล้ว การแบง่ ทรัพย์สิน ระหวา่ งผู้ตายกบั คู่สมรสที่ยงั มีชีวิตอยู่ ใหเ้ ปน็ ดงั นี้ (1)ให้อยู่ในบงั คับของบทบญั ญตั แิ หง่ ประมวลกฎหมายนี้ ว่าดว้ ยการหยา่ โดยความยินยอมท้ัง 2 ฝ่าย อันมบี ทบญั ญตั เิ พม่ิ เตมิ ใหบ้ รบิ รู ณใ์ นมาตรา 1637 และ 1638 และโดยเฉพาะต้องอยู่ในบงั คบั แหง่ มาตรา 1513 ถึง 1517 แห่งประมวลกฎหมายนก้ี ารคดิ ส่วนแบง่ นนั้ ใหม้ ผี ลตงั้ แต่ วนั ทก่ี าร สมรสไดส้ ้นิ สดุ ไปดว้ ยเหตคุ วามตายน้นั (2) ใหอ้ ย่ใู นบังคบั ของบทบัญญัติ แหง่ บรรพน้ี นอกจากมาตรา 1637 และ 1638

การตกทอดแห่งทรัพยม์ รดก (ม.1599) เมอื่ บุคคลใด ตาย มรดกของบุคคลนนั้ ตก ทอดแกท่ ายาท (ผูต้ าย กค็ อื เจา้ มรดก) กองมรดก แบ่งได ้ 4 กรณี 1.ทรัพยส์ ินทกุ ชนิดของ ผูต้ าย 2. สทิ ธิทั้งหลายซง่ึ ผตู้ ายมีอยู่ 3.หนา้ ท่ี 4.ความรับผดิ ของผู้ตาย เมอ่ื เจา้ มรดกตาย ถา้ มีทรพั ย์สนิ ๆ นนั้ จะตกทอดแกท่ ายาทโดยทันที

การตกทอดแห่งทรพั ย์มรดก เจ้ามรดกตาย กองมรดก ทายาท ผมู้ ีสทิ ธริ ับมรดก แผน่ ดิน (ม.1603 วัด (ม.1699, ) 1753) (ม.1623) (ผูต้ ายไม่มี (ภกิ ษุ ทายาท) มรณภาพ)

การแบ่งทรัพย์สินของผู้ตาย สินสมรส (2 สว่ นใหญ)่ (240,000) ผู้ตาย(1 ส่วนใหญ่) (120,000) ค่สู มรส(120,000) สว่ นของผู้ตายเปน็ มรดก (1 ส่วนใหญ)่ ทายาทโดยธรรม 1.ตามพินยั กรรมเทา่ น้ัน ทายาททเี่ ป็ นญาติ ทายาทท่ีเป็น คู่สมรส (ถ้าม)ี 6 ลาดบั (คนละ1 (1ส่วนย่อย) 2.ตกทอดแก่ทายาทโดย สว่ นย่อย) ธรรม(ถา้ ไมม่ ีพนิ ัยกรรม)

การตกทอดแห่งทรัพยม์ รดก มรดก ทายาท (ม.1753 บคุ คลใดไมม่ มี รดกตกแกแ่ ผ่นดนิ ) (ตอ้ งมสี ภาพบคุ คลในขณะที่เจา้ มรดกตาย) ทายาทโดยธรรม ผรู้ บั พนิ ยั กรรม (ทายาททมี่ สี ทิ ธิ ตามกฎหมาย) (ทายาททมี่ สี ทิ ธิ ตามพนิ ัยกรรม) ตอ้ งมีการทาพินยั กรรม ทายาททเี่ ปน็ ญาติ (6ลาดบั ) ทายาททเี่ ป็นคู่สมรส ถ้าไม่ไดท้ า ทายาทประเภทนจ้ี ะไมม่ ี

ความหมายของ “บุตร” ทีเ่ ปน็ ผู้สืบสันดาน 1. เกดิ มาภายใน 310 วันนบั แตเ่ จ้ามรดก(บดิ า)ถงึ แก่ความตาย (ม.1604 วรรค2) แมเ้ กิด มามชี ีวติ รอดอยเู่ พียงวินาทีเดียวก็ตาม 2. บุตรนอกกฎหมาย ท่ีบิดารบั รองแลว้ (มสี ทิ ธิเฉพาะการรับมรดกอยา่ งเดยี วเทา่ นน้ั ไมท่ าให้เปน็ บุตร ชอบด้วยกฎหมาย และก็ไม่ทาใหบ้ ิดานัน้ เป็นบิดาชอบดว้ ยกฎหมายของบุตร หรอื มสี ทิ ธิรบั มรดกของบตุ รได้ ) 3. บตุ รนอกกฎหมาย ที่บิดาไม่ได้มีการรับรอง การฟอ้ งคดขี อให้รับเด็กเปน็ บุตร ของผ้ตู าย ที่ได้ฟอ้ งภายในกาหนดอายุความมรดก ถ้าศาลพิพากษาใหเ้ ปน็ บุตร ชอบดว้ ยกฎหมายของผู้ตาย เด็กมสี ทิ ธิรบั มรดกในฐานะทายาทฯ ตาม ม.1558 ซ่งึ จากดั เฉพาะสิทธิในการรบั มรดกเท่าน้นั 4. บตุ รบุญธรรม 5.บตุ รท่เี กิดระหว่างการสมรส ซง่ึ ศาลพิพากษาใหเ้ พิกถอนภายหลงั 6. บุตรที่ บดิ า จดทะเบยี น รับเป็นบุตร

ลักษณะ 2 สิทธิโดยธรรมในการรับมรดก (มว.1) มาตรา 1627 บตุ รนอกกฎหมายที่บิดาได้รบั รองแลว้ และบุตรบุญธรรม ใหถ้ ือวา่ เปน็ ผู้สืบสนั ดาน เหมือนกับบตุ รที่ชอบดว้ ยกฎหมาย มาตรา 1628 สามีภริยาทีร่ ้างกนั หรือแยกกนั อยู่โดยมิได้ หยา่ ขาดจากกนั ตามกฎหมาย มิไดส้ ิน้ ไปซึ่งสิทธิโดยธรรมในการสืบมรดก ซึ่งกนั และกนั

ลกั ษณะ 2 สทิ ธโิ ดยธรรมในการ รบั มรดก (มว.2) (กามรแาบตง่ รทารัพ1ย6์มร2ด9กระทหวา่ายงาททายโาดทยโดธยรธรรมรมมใีน6ลาลดาบั ดแลับะเชทนั้ ่าตนา่ งัน้ ๆ) (1) ผ้สู บื สนั ดาน (ลกู หลาน เลน ลื้อ) (2) บิดามารดา (ม.1630วรรค 2 เสมือนหนึง่ ว่าเป็นทายาทชั้นบตุ ร) (3) พีน่ ้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน (4) พ่ีนอ้ งร่วมบิดาหรอื รว่ มมารดาเดยี วกัน (5) ปู่ ย่า ตา ยาย (6) ลงุ ปา้ น้า อา (คสู่ มรส ทีย่ ังมีชีวิตอยู่นัน้ ก็ เปน็ ทายาทโดยธรรม) ลาดบั ที่ 2 และ 5 ไม่มีการรบั มรดกแทนทีก่ ัน

“ทายาท” ทีเ่ ป็นญาติ 6 ลาดบั ญาติ 6 ลาดบั ตราบใดท่ที ายาทยัง (ม.1629) มีชวี ติ อยใู่ นลาดบั 1.ผูส้ บื สนั ดาน (ลูก หลาน เหลน ลอื้ ) หนึง่ ๆ ตาม ม.1629 ทายาทท่ี 2.บดิ ามารดา (เปรยี บทายาทชนั้ บุตร) อย่ใู นลาดบั ถดั ลงไป ไมม่ สี ิทธิ ในทรัพย์ 3.พนี่ อ้ งรว่ มบดิ ามารดาเดยี วกนั มรดกของผู้ตาย 4.พนี่ ้องรว่ มบดิ าหรอื รว่ มมารดา (ม.1630วรรค1) เดยี วกนั บิดามารดา 5.ปู่ ย่า ตา ยาย เปรยี บเสมือนทายาท ช้ันบุตร (ม.1630 วรรค2) 6.ลุง ป้ า น้า อา

ลกั ษณะ 2 สิทธิโดยธรรมในการรับมรดก (มว.2) (การแบ่งทรัพยม์ รดกระหวา่ งทายาทโดยธรรมในลาดบั และช้ันต่างๆ) มาตรา 1630 ตราบใดที่ทายาทยังมีชีวิตอยู่ หรือมีผ้รู บั มรดก แทนที่ยังไม่ขาดสายแลว้ แต่กรณีในลาดบั หนึ่งๆ ที่ระบุไวใ้ น ม.1629 ทายาทผอู้ ยู่ในลาดบั ถัดลงไปไม่มีสิทธิ ในทรพั ย์มรดกของผู้ตายเลย แต่ความในวรรคกอ่ นมิให้ใชบ้ งั คับกรณีเฉพาะทีม่ ีผู้สืบสนั ดาน คนใดยงั มีชีวิตอยู่ หรือมีผ้รู ับมรดกแทนที่กนั แล้วแต่กรณี และมีบิดา มารดายังมีชีวิตอยู่ ในกรณีเช่นน้นั ใหบ้ ิดามารดาไดส้ ว่ นแบ่งเสมือน หนึง่ ว่าเป็นทายาทช้ันบุตร

มาตรา 16๓๐วรรค๑ “ทายาทโดยธรรม” (การแบง่ ทรพั ยม์ รดกระหว่างทายาทโดยธรรม ในลาดบั และชน้ั ตา่ งๆ) มรดก 1.ผสู้ บื สนั ดาน 2.บดิ ามารดา 5.ปู่ ย่า ตา ยาย 1.1 บุตร 3.พี่นอ้ งร่วมบดิ ามารดาเดยี วกนั 6.ลงุ ป้า นา้ อา 1.2 หลาน 1.3 เหลน 4.พ่นี อ้ งรว่ มบิดาหรอื รว่ มมารดาเดยี วกนั 1.4 ลื้อ ทายาทลาดบั ที่ ๑ ยงั มชี วี ติ อยู่ ฯลฯ ลาดบั ถดั ไปไม่มสี ทิ ธิ (ม.1630วรรค1) (สบื สายโลหติ )

มาตรา 1630วรรค๒ “ทายาทโดยธรรม” (การแบง่ ทรพั ยม์ รดกระหว่างทายาทโดยธรรม ในลาดบั และชน้ั ตา่ งๆ) มรดก 1.ผูส้ ืบสนั ดาน 2.บดิ ามารดา 5.ปู่ ย่า ตา ยาย 3.พ่ีนอ้ งร่วมบิดามารดา ไม่มสี ทิ ธิ 1.1 บตุ ร ไม่มีสทิ ธิ 1.2 หลาน 1.3 เหลน 6.ลุง ป้า นา้ อา ไมม่ สี ทิ ธิ 1.4 ลอื้ 4.พน่ี ้องรว่ มบิดาหรือรว่ มมารดา ไม่มสี ทิ ธิ ลาดับท่ี 2 ยังมชี วี ิตอยู่ มสี ทิ ธเิ ช่นเดียวกบั ลาดับที่1 ลาดับที่ 3 - 6 ไม่มีสิทธ(ิ มาตรา 1630 วรรค 2)

มาตรา 1630 “ทายาทโดยธรรม” (การแบ่งทรพั ยม์ รดกระหวา่ งทายาทโดยธรรม ในลาดบั และชนั้ ตา่ งๆ) มรดก 1.ผสู้ บื สนั ดานไม่มี 2.บดิ ามารดาไม่มี 5.ปู่ ย่า ตา ยาย 3.พ่ีน้องรว่ มบิดามารดา มสี ิทธิ (ใหแ้ บ่งกันคนละ 1 สว่ น) ไมม่ ีสทิ ธิ 6.ลุง ป้า น้า อา ไม่มสี ทิ ธิ 4.พี่นอ้ งรว่ มบดิ าหรือร่วมมารดา ไม่มีสิทธิ ลาดบั ที่ 1 หรือ 2 ไม่มี ลาดบั ที่ 3 มีสิทธิ ลาดบั ท่ี 4 - 6 ไมม่ ีสิทธิ

ลกั ษณะ 2 สทิ ธโิ ดยธรรมในการ รบั มรดก (มว.2) (การแบ่งทรพั ยม์ รดกระหวา่ งทายาทโดยธรรม ในลาดบั และชนั้ ตา่ งๆ) มาตรา 1631 ในระหว่างผสู้ ืบสันดานต่างชนั้ กนั นั้น บตุ ร เจา้ ของมรดกอนั อยู่ ในช้นั ที่สนิทที่สุด เทา่ นั้น มีสิทธิ ได้ รบั มรดก ผู้สืบสนั ดานที่อย่ใู นชั้นถัดไปลงไป จะรับมรดกได้ กแ็ ต่โดยอาศัยสิทธิในการ รับมรดกแทนที่เท่านั้น

มาตรา 163๑ “ผสู้ บื สนั ดานชน้ั ทสี่ นทิ ทส่ี ุด” มรดก (12๐,000) 1.ผสู้ บื สันดาน มีหลายคน และตา่ งชน้ั กนั 2.บดิ ามารดา คสู่ มรส 1 สว่ น (20,000) บุตร(20,000) บุตร (20,000) บุตร (20,000) มารดา (20,000) หลาน หลาน หลาน บดิ า (20,000) เหลน เหลน จะรบั มรดกไดก้ อ็ าศยั สทิ ธแิ ทนที่ เท่านน้ั

ลกั ษณะ 2 สิทธิโดยธรรมในการรับมรดก (มว.3) (การแบง่ สว่ นมรดกของทายาทโดยธรรมในลาดบั และ ชน้ั ตา่ งๆ ส่วนที่ 1 ญาต)ิ มาตรา 1633 ทายาทโดยธรรมในลาดับเดียว กนั ในลาดบั หนึ่งๆ ที่ระบไุ วใ้ น มาตรา1629 ชอบที่ จะได้รบั ส่วนแบง่ เทา่ กนั ถา้ ในลาดบั หนึง่ ๆ มีทายาท โดยธรรม คนเดียว ทายาทโดยธรรมคนนัน้ มีสิทธไิ ด้รับส่วนแบง่ ท้งั หมด

มาตรา 163๓ “ได้รบั สว่ นแบ่งเท่ากนั ” มรดก (12๐,000) 1.ผสู้ บื สันดานลาดบั เดยี วกนั มหี ลายคน 2.บิดามารดา คู่สมรส 1 ส่วน (20,000) บุตร(20 บุตร บุตร ,000) (20,000) (20,000 มารดา (20,000) ) บดิ า (20,000) หลา หลา หลา ผนูส้ บื ฯชน้ั ทสี่ นนิททสี่ ุดยงั มชี วี นติ ชนั้ ถดั ไปไม่มสี ทิ ธิ

ลกั ษณะ 2 สทิ ธโิ ดยธรรมในการรบั มรดก (มว.3) (การแบง่ สว่ นมรดกของทายาทโดยธรรมในลาดบั และ มาตรา 1634 ระหชวนา่้ั งตผูส้ า่ ืบงสๆนั ดสา่วนนที่รทบั ี่ม1รดญกแาทตน)ิที่กันในส่วนแบง่ ของ สายหนึ่งๆ ตามบทบญั ญตั ิในลักษณะ 2 หมวด 4 นั้น ให้ไดร้ ับสว่ นแบง่ มรดกดั่งน้ี (1) ถ้ามีผสู้ ืบสันดานตา่ งชั้นกนั บุตรของผู้ตายซึง่ อยใู่ นชนั้ สนิทที่สดุ เท่าน้นั มีสิทธิรบั มรดก ผ้สู ืบสันดานในช้ันถัดลงไปจะรับมรดกไดก้ ็ แต่โดยอาศัยสิทธิการรบั มรดกแทนที่ (2) ผสู้ ืบสันดานในช้ันเดียวกนั ได้ รบั สว่ นแบ่งเทา่ กนั (3) ถา้ ในช้ันหนึ่งมีผู้สืบสันดานคนเดียว ใหผ้ ู้สืบสันดานคนน้ันมีสิทธิ ได้ รับส่วนแบง่ ทงั้ หมด

มาตรา 163๔ “การรบั มรดกแทนท่กี ัน” มรดก (120,000) 1.ผูส้ ืบสันดาน มหี ลายคน และตา่ งช้ันกัน 2.บิดามารดา ค่สู มรส 1 ส่วน (20,000) ในชั้นเดียวกนั จะได้รบั สว่ นแบ่งเทา่ กนั บตุ ร บตุ ร(ตาย) (20,000) บตุ ร(ตาย) (20,000) มารดา 20,000 หลาน (ตาย) (20,000) หลาน(10,000) หลานตาย(10,000) เหลน (20,000) บดิ า รบั มรดกแทนที่ (20,000) รบั มรดกแทนที่ เหลน เหลน (5,000) (5,000)

มาตรา 163๔ “การรับมรดกแทนทก่ี ัน” มรดก (12๐,000) 1.ผูส้ ืบสันดาน มหี ลายคน และต่างชัน้ กนั 2.บดิ ามารดา คู่สมรส 1 ส่วน (20,000) บตุ ร บตุ ร(ตาย) บตุ ร มารดา 20,00 (20,000) (20,000) (20,000) 0 หลาน บดิ า หลาน(10, หลาน(10, (20,000) 000)รบั มรดก000) หลาน ไมส่ ามารถรบั มรดกแทนทไี่ ด้ ถา้ ชน้ั สนิทยงั มชี วี ติ อยู่ แทนที่

มรดก (มว.3) (การแบ่งส่วนมรดกของทายาทโดยธรรมในลาดบั และ มำตรำ 1635 ชลนั้ำดตบั า่แลงะๆส่วสนว่ แนบง่ ทขอี่ 2งคคู่สมูส่ รมสทรี่ยสัง)มีชีวิตอยู่ ในกำร รับมรดกของผตู้ ำยนนั้ ให้เปน็ ไปด่ังต่อไปนี้ (1) ถ้ามีผสู้ ืบสันดาน(ม.1629(1)) ซง่ึ ยังมชี ีวิตอยู่หรือมีผรู้ ับมรดกแทนที่ แลว้ แตก่ รณี ค่สู มรสท่ียงั มีชีวิตอยูน่ ้ันไดร้ บั ส่วนแบ่งเสมือนหน่ึงวา่ ตนเป็นทายาทช้นั บตุ ร (2) ถ้ามีพีน่ ้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน(ม.1629(3)) และยังมีชีวิตอยู่ หรือมีผ้รู ับมรดกแทนที่ หรือถา้ ไม่มีผูส้ ืบสนั ดาน แตม่ ีบิดามารดา (ม.1629(2))แล้วแตก่ รณี คู่สมรส ทีย่ ังมีชีวิตอยนู่ ั้น มีสิทธิไดร้ บั มรดก ก่ึงหนึ่ง (มีตอ่ ...)

มาตรา 1635(๑) “คสู่ มรสเปน็ ทายาทโดยธรรม” (การแบ่งสว่ นมรดกของทายาทโดยธรรมในลาดบั และชน้ั ตา่ งๆ) มรดก 1. มีชวี ติ 2. มีชีวิต 5. ไมม่ สี ิทธิ 3.ไมม่ สี ทิ ธิ 6. ไม่มสี ิทธิ 1.1 บตุ ร 1.2 หลาน 4. ไม่มสี ทิ ธิ 1.3 เหลน 1.4 ลือ้ คู่สมรส ทยี่ งั มีชีวิตอยมู่ สี ิทธิเชน่ เดียวกนั และได้เทา่ กับ ลาดบั ท่ี 1 และ 2 (1 ส่วนยอ่ ย) (ม.1635(1)) (ถา้ ญาติ 6 ลาดบั ไม่มี) คู่สมรสได้รับมรดกทงั้ หมด (ม.1635(4))

มาตรา 1635(๒) “คู่สมรสเปน็ ทายาทโดยธรรม” (การแบง่ ส่วนมรดกของทายาทโดยธรรมในลาดบั และชนั้ ตา่ งๆ) ลาดบั กอ่ นยงั มี ชวี ติ อยู่ มรดก(๑๒๐,๐๐๐) 1. ไมม่ ี 2. มีชีวติ 5. ไม่มสี ทิ ธิ (๖๐,๐๐๐) 6. ไม่มีสทิ ธิ 1.1 บตุ ร 1.2 หลาน 3.มีชวี ิต แต่ไมม่ สี ทิ ธิ คูส่ มรส 1.3 เหลน (๖๐,๐๐๐) 1.4 ล้ือ 4. ไมม่ ีสิทธิ ถ้าทายาทลาดบั ท่ี ๒ หรอื ๓ ยังมชี ีวิตอยแู่ ลว้ แต่กรณี คู่สมรสทย่ี ังมีชวี ติ อย่มู สี ิทธิได้รับมรดกกง่ึ หน่งึ

มรดก (มว.3) (การแบ่งสว่ นมรดกของทายาทโดยธรรมในลาดบั และ มาตรา 1635 (ตช่อ)น้ั ตา่ งๆ ส่วนที่ 2 คูส่ มรส) (3) ถา้ มีพี่นอ้ งร่วมบิดาหรือรว่ มมารดาเดียวกัน(ม.1629(4))หรือ ลงุ ป้า น้า อา (6) และยงั มีชีวิตอยู่ หรือมีผรู้ ับมรดกแทนที่ หรือมี ปู่ ยา่ ตา ยาย (1629(5))แล้วแตก่ รณี คสู่ มรสทีย่ งั มีชีวิตอยู่ มีสิทธิได้มรดก 2 ใน 3 สว่ น (4) ถำ้ ไมม่ ีทำยำทตำมมำตรำ 1629 ค่สู มรสท่ยี งั มีชวี ิตอยนู่ ้นั มสี ทิ ธิไดร้ บั มรดกทั้งหมด

มาตรา 1635(๓) “คู่สมรสเป็นทายาทโดยธรรม” (การแบ่งสว่ นมรดกของทายาทโดยธรรมในลาดบั และชน้ั ตา่ งๆ) ลาดบั กอ่ นยงั มี ชวี ติ อยู่ มรดก(๑๒๐,๐๐๐) 1. ไมม่ ชี วี ติ ๒ไมม่ ชี ีวิต 5.มีชวี ติ แตไ่ มม่ ีสทิ ธิ 3.ไมม่ ชี ีวติ 6.มีชวี ิต แต่ไม่มีสทิ ธิ 1.1 บุตร 1.2 หลาน 4.มชี วี ิต คูส่ มรส 1.3 เหลน (๔๐,๐๐๐) (๘๐,๐๐๐) 1.4 ล้ือ ถ้าทายาทลาดบั ท่ี ๔ หรอื ๕ หรอื ๖ ยงั มีชวี ิตอย่แู ล้วแต่ กรณี คสู่ มรสทยี่ งั มีชีวติ อยมู่ ีสทิ ธิไดร้ ับมรดก ๒ ใน ๓

ลกั ษณะ 2 สทิ ธโิ ดยธรรมในการรบั มรดก (มว.3) (การแบง่ ส่วนมรดกของทายาทโดยธรรมในลาดบั และ มำตรชำ น้ั16ต36า่ งๆถสำ้ เ่วจนำ้ มทรดี่ 2กมคีภรูส่ ิยมำทร่ชี สอ)บดว้ ยกฎหมำย ก่อนใชป้ ระมวลกฎหมำยแพง่ และพำณิชย์ บรรพ 5 (ได้มกี ำร แก้ไขเพิ่มเตมิ โดย พรบ. ให้ใช้ บรรพ 5 แห่งประมวลกฎหมำยแพง่ และ พำณิชย์ทไ่ี ด้ตรวจชำระใหม่ พ.ศ.2519) หลำยคนยังมชี ีวติ อยู่ ภริยาเหล่านนั้ ทั้งหมดรวมกนั มีสิทธิไดร้ บั มรดก ตามลาดบั ชน้ั และสว่ นแบง่ ดงั ระบไุ วใ้ นมาตรา 1635 แตใ่ นระหว่างกนั เองให้ภริยานอ้ ยแต่ละคน มีสิทธิไดร้ บั มรดก กึง่ สว่ นที่ภริยาหลวงจะพึงได้รับ

ลกั ษณะ 2 สทิ ธโิ ดยธรรมในการรบั มรดก (มว.4) กำรรับมรดกแทนท่ีกนั มาตรา 1639 ถา้ บคุ คลใดซึ่งเปน็ ทายาทตามมาตรา 1629(1)(3)(4) หรือ(6) ถึงแกค่ วามตาย หรือถกู กาจดั มิใหร้ บั มรดกก่อนเจ้ามรดกตาย ถา้ บุคคลน้นั มีผู้สืบสันดาน ก็ใหผ้ ู้สืบสนั ดานรับมรดกแทนที่ ถ้าผ้สู ืบสันดานคนใดของบุคคลนั้นถึงแกค่ วามตาย หรือถูกกาจดั มิใหร้ ับมรดกเช่นเดียวกันน้ัน ก็ให้ผูส้ ืบสันดานของ ผู้สืบสนั ดานนัน้ รับมรดกแทนที่ และใหม้ ีการรับมรดกแทนที่กันเฉพาะส่วนแบง่ ของ บุคคลเป็นรายๆ สืบต่อกันเชน่ นี้ไปจนหมดสาย

มาตรา 1639 “การรับมรดกแทนทก่ี นั ” มรดก 1.ผู้สบื สันดาน 2.บิดามารดา 5.ปู่ ยา่ ตา ยาย 1.1 บุตร 3.พน่ี ้องร่วมบดิ ามารดาเดยี วกัน 6.ลงุ ป้า นา้ อา 1.2 หลาน 1.3 เหลน 4.พีน่ อ้ งรว่ มบดิ าหรือร่วมมารดาเดียวกัน 1.4 ล้ือ ผสู้ ืบสันดานของลาดบั 1,3,4 และ 6 สามารถรบั มรดกแทนท่ีได้ (ม.1639)

มาตรา 1639 “การรบั มรดกแทนทีก่ ัน” มรดก (12๐,000) 1.ผู้สบื สนั ดาน มหี ลายคน และตา่ งช้ันกนั 2.บดิ ามารดา คสู่ มรส 1 สว่ น (20,000) บตุ ร บตุ ร(ตาย) บตุ ร มารดา 20,000 (20,000) (20,000) (20,000) หลาน(10,000) หลาน(10,000) หลาน บดิ า (20,000) รบั มรดกแทนที่ หลาน ไม่สามารถรบั มรดกแทนทไี่ ด้ ถา้ ชน้ั บุตรยงั มชี วี ติ อยู่

มาตรา 1639 “การรบั มรดกแทนทก่ี นั ” มรดก 1.ผู้สืบสันดาน มีหลายคน และตา่ งชนั้ กัน 2.บดิ ามารดา คสู่ มรส 1 สว่ น บตุ บุตร(ตายกอ่ น บุตร(ตายกอ่ น ร เจา้ มรดก) เจา้ มรดก) หลา หลาน(ตายกอ่ น น รบั มรดก หลาน(ตาย เจา้ มรดก) แทนที่ กอ่ นเจา้ มรดก) เหล รบั มรดก น แทนที่ เหล เหล นน

มาตรา 1639 “การรบั มรดกแทนทก่ี นั ” มรดก (120,000) 1.ผูส้ บื สนั ดาน มีหลายคน และตา่ งชัน้ กัน 2.บิดามารดา คสู่ มรส 1 สว่ น (20,000) บตุ ร บตุ ร(ตาย) บตุ ร(ตาย) 20,000 (20,000) (20,000) มารดา หลาน (ตาย) (20,000) หลาน(10,000 ) หลานตาย(10,000) เหลน (20,000) บดิ า รบั มรดกแทนที่ (20,000) เหลน รบั มรดกแทนที่ เหลน (5,000) (5,000)

ลกั ษณะ 2 สทิ ธโิ ดยธรรมในการรบั มรดก (มว.4) กำรรับมรดกแทนท่ีกนั มาตรา 1640 เมอ่ื บคุ คลใดต้องถอื ว่าถึงแก่ความตายตาม ความในมาตรา 62 แห่งประมวลกฎหมายนี้ ใหม้ ีการรับมรดกแทนที่กนั ได้ (ม.62 บุคคลซงึ่ ศาลไดม้ คี าสง่ั ใหเ้ ป็ นคนสาบสูญ ใหถ้ อื วา่ ถงึ แกค่ วามตายเมอื่ ครบกาหนดระยะเวลาดง่ั ทรี่ ะบไุ วใ้ น ม.61) (ม.61 ถา้ บุคคลใดไดไ้ ปจากภูมลิ าเนาหรอื ถนิ่ ทอี่ ยู่ และไม่มใี ครรูแ้ น่วา่ บุคคลนนั้ ยงั มชี วี ติ อยู่หรอื ไม่ตลอด ระยะเวลา 5ปี เมอื่ ผูม้ สี ว่ นไดเ้ สยี รอ้ งขอ ศาลจะสง่ั ให้ เป็ นคนสาบสูญกไ็ ด้ ใหล้ ดเวลาเหลอื 2 ปี ถา้ จากไปดว้ ยเหตุ 1.นบั

ลกั ษณะ 2 สทิ ธโิ ดยธรรมในการรบั มรดก (มว.4) กำรรบั มรดกแทนทก่ี นั มาตรา 1641 ถ้าบุคคลใดซึ่งเปน็ ทายาทตามมาตรา1629(2)หรือ(5) ถึงแกค่ วามตาย หรือถกู กาจดั มิใหร้ บั มรดกกอ่ นเจ้ามรดกตาย ถ้ามีทายาทในลาดบั เดียวกันยงั มีชีวิตอยู่ กใ็ ห้สว่ นแบ่งทั้งหมด ตกไดแ้ กท่ ายาทน้ันเท่าน้ัน หา้ มมิใหม้ ีการรบั มรดกแทนทีก่ นั ต่อไป มาตรา 1642 การรับมรดกแทนทีก่ ันนัน้ ให้ใชบ้ งั คบั แตใ่ น ระหว่างทายาทโดยธรรม

มาตรา 1641 “การรบั มรดกแทนทีก่ ัน” มรดก 1.ผู้สบื สนั ดาน 2.บดิ ามารดา 5.ปู่ ยา่ ตา ยาย 3.พ่ีนอ้ งร่วมบดิ ามารดาเดียวกัน 6.ลุง ปา้ น้า อา 1.1 บุตร 4.พ่นี ้องรว่ มบิดาหรือรว่ มมารดาเดยี วกัน 1.2 หลาน 1.3 เหลน ถา้ ทายาทในลาดบั เดยี วกัน(๒และ๕)ยังมีชีวติ อยู่ กใ็ หส้ ว่ นแบง่ ทั้งหมด 1.4 ลอ้ื ตกแก่ทายาทนั้นเท่าน้นั หา้ มมิให้มีการรบั มรดกแทนท่ี (ม.1641)

ลกั ษณะ 2 สทิ ธโิ ดยธรรมในการรบั มรดก (มว.4) กำรรบั มรดกแทนทก่ี ัน มำตรำ 1643 สทิ ธทิ จี่ ะรบั มรดกแทนท่กี ันนั้นได้แก่เฉพำะ ผู้สบื สันดำนโดยตรง ผ้บู พุ กำรีหำมสี ิทธิดง่ั นัน้ ไม่ มาตรา 1644 ผสู้ ืบสันดานจะรบั มรดกแทนทไ่ี ด้ ต่อเมอื่ มีสทิ ธิ บรบิ รู ณ์ในการรบั มรดก มาตรา 1645 การที่บุคคลใดสละมรดกของบคุ คลอีกคน หนึ่งนัน้ ไมต่ ดั สิทธิของผู้สละทีจ่ ะรบั มรดกแทนที่บุคคลอีกคนหนึ่ง น้ัน ในการสืบมรดกบุคคลอืน่




Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook