ให้นักเรียนนำหลกั ธรรมจดั กล่มุ ดงั นี้ หลกั ธรรมทอ่ี ย่ใู นกลุ่มทุก์ หลกั ธรรมทอ่ี ยู่ในกลุ่มสมุทยั ● ประกอบดว้ ย ● ประกอบดว้ ย ขนั ธ์ 5 ● หลกั กรรม ประกอบดว้ ย โลกธรรม 8 จิต เจตสิก นิยาม 5 ปฏิจสมุปบาท ● วิตก 3 ● มิจฉาวณิชชา 5 ● นิวรณ์ 5 ● อุปาทาน 4
ให้นักเรียนนำหลกั ธรรมจัดกลุ่มดงั นี้ หลกั ธรรมทอี่ ยู่ในกลุ่มนโรรธ หลกั ธรรมทอี่ ยู่ในกล่มุ มรร ● ประกอบดว้ ย • ประกอบดว้ ย ● ภาวนา 4 • พระสทั ธรรม 3 ● วมิ ุตติ 5 • วฒุ ิธรรม 4 ● นิพพาน • พละ 5 • อุบาสกธรรม 5 • อปริหานิยธรรม 7
หลกั ธรรมทอ่ี ย่ใู นกลุ่มมรร ● วปิ ัสสนาญาณ 9 ● มงคล 38 ● โภคอาทิยะ 5 ● อริยวฑั ฒิ 5 ● อธิปไตย 3 ● สาราณียธรรม 6 ● ทศพธิ ราชธรรม 10
ขนั ธฺ์ 5 กอง แห่งร่างกาย รูป = กาย มหาภูตรูป ดิน น้า ลม ไฟ อุปทายรูป รูปอาศยั คือส่วนประกอบจากมหาภูติรูป นาม = จิต =คิด เวทนา ความรู้สึก สญั ญา ความจา ไดห้ มายรู้
ให้นักเรียนเชื่อมรยงหลกั กำรทำงำน์อง์ันธห้ำ อำยตนะภำยใน(รูป) อำยตนะภำยนอก ● ตา ● รูป ● หู ● เสียง ● จมูก ● กลิ่น ● ลิ้น ● รส ● กาย ● สัมผสั ● ใจ ● ธรรมารมณ์
การทางานของรูปนาม รูป นำม ● ตา รูป วิญญาณ คือ การรับรู้ สญั ญา ความจา จาแนก เวทนา ความรู้สึก สงั ขาร คือการ ปรุงแต่ง จิต (ความคิด)
การทางานของรูปนาม รูป นำม ● หู เสียง วญิ ญาณ คือ การรับรู้ สญั ญา ความจา จาแนก เวทนา ความรู้สึก สงั ขาร คือการ ปรุงแต่ง จิต (ความคิด)
การทางานของรูปนาม รูป นำม ● จมูก กล่ิน วิญญาณ คือ การรับรู้ สญั ญา ความจา จาแนก เวทนา ความรู้สึก สงั ขาร คือการ ปรุงแต่ง จิต (ความคิด)
การทางานของรูปนาม รูป นำม ● ลิ้น รส วญิ ญาณ คือ การรับรู้ สญั ญา ความจา จาแนก เวทนา ความรู้สึก สงั ขาร คือการ ปรุงแต่ง จิต (ความคิด)
การทางานของรูปนาม รูป นำม ● กาย สมั ผสั วิญญาณ คือ การรับรู้ สญั ญา ความจา จาแนก เวทนา ความรู้สึก สงั ขาร คือการ ปรุงแต่ง จิต (ความคิด)
การทางานของรูปนาม รูป นำม ● ใจ ธมั มารมณ์ วญิ ญาณ คือ การรับรู้ สญั ญา ความจา จาแนก เวทนา ความรู้สึก สงั ขาร คือการปรุงแต่ง จิต (ความคิด)
ธรรมกล่มุ ทุก์ รลกธรรม 8 ือ ธรรมท่ี รอบงำสัตวรลก ไม่มีใ รเลยี่ งได้ กล่มุ เป็ นทป่ี รำรถนำ อฎโ ฐำรมณ กลุ่มไม่เป็ นทปี่ รำรถนำ อนโษฐำรมณ ได้ลำภ เสื่อมลำภ ได้ยศ เสื่อมยศ สรรเสรโญ นโนทำ สุ์ ทุก์
จโต + เจตสโก จตโ เจตสโก ● ธรรมชาติที่รู้อารมณ์ ทา ● อาการหรือคุณสมบตั ิต่างๆ หนา้ ท่ี ท่ีเกิดประกอบพร้อมกบั จิต ดบั พร้อมกบั จิต ● เห็น ไดย้ นิ รู้กล่ิน รู้รส
หลกั ธรรมกล่มุ สมุทยั หลกั ธรรมนโยม = ือ วำมเป็ นจรโงธรรมชำตโ ไม่สำมำรถเปลย่ี นแปลงได้ ● อุตุนิยาม ● กฎธรรมชาติท่ีเกี่ยวกบั ลม ● พีชนิยาม ฟ้า อากาศ ● จิตนิยาม ● กรรมนิยาม ● กฎธรรมชาติเกี่ยวกบั การ ● ธรรมนิยาม สืบพนั ธุ์ ● การทางานของจิต ● กฎธรรมชาติเก่ียวกบั พฤติกรรมของมนุษย์
หลกั กรรม จำกกรรมนโยำม กรรม 12 แบ่งตำมให้ผลตำมกำล แบ่งตำมหน้ำที่ ● ทิฎฐธรรมเวทนียกรรม ● ชนกกรรม กรรมแต่งใหไ้ ป ใหผ้ ลปัจจุบนั เกิด ● อุปปัชชเวทนียกรรม ใหผ้ ล ● อุปัตถมั ภกรรม กรรม ในอนาคต สนบั สนุนซ้าเติมชนกกรรม ● อปราปริยเวทนียกรรม ● อุปปี ฬกกรรม กรรมบีบค้นั ใหผ้ ลต่อเนื่อง ใหเ้ บาบางลง ● อโหสิกรรม กรรมที่เลิก ● อุปฆาตกกรรม กรรมตดั
กรรม กรรมที่ให้ผลตำม วำมหนกั เบำ วำมหมำย ● ครุกรรม ● กรรมหนกั ● พหุลกรรม ● กรรมท่ีใหผ้ ลบ่อยๆ จนเคย ● อาสนั นกรรม ● กตตั ตากรรม ชิน ● กรรมจวนเจียน หรือกรรม ใกลต้ าย ● กรรมสกั วา่ ทา จะใหผ้ ล ต่อเม่ือกรรมอ่ืนไม่ใหผ้ ล
กำรทำงำนำ์องปฏจโ จสมุปบำท • อวชโ ชำ • สัง์ำร • วญโ ญำณ • นำมรูป •สฬำยตนะ •ผสั สะ •เวทนำ •ตณั หำ •อุปทำน •ภพ •ชำตโ •ชรำมรณะ
มโจฉำวณโชชำ 5 สตั ถวณิชา คา้ อาวธุ สตั ตวณิชชา คา้ มนุษย์ มงั สวณิชชา การคา้ สตั ว์ มชั ชวณิชชา คา้ ของ มึนเมา วสิ วณิชชา คา้ ยาพิษ
นโวรณ 5 เ ร่ืองปโ ดก้นั ไม่ให้บรรลุ วำมดี กามฉนั ทะ ยนิ ใน กามคุณ พยาปาทะ ความ โกรธ ถีนมิทธะ หดหู่ ทอ้ ถอย อุทธจั จกกุ กจุ จะ
อุปทำน 4 วำมยดึ มั่น กามุปาทาน ยดึ มน่ั ในกาม ทิฎฐุปาทาน ยดึ มนั่ ในทิฎฐิ สีลพั พตุปาทาน ยดึ มนั่ ในศีล อตั ตวาทุปาทาน ยดึ
หลกั ธรรมกลุ่มนโรรธ ภำวนำ 4 กำรเจรโญ 1. กำยภำวนำ ือกำรพฒั นำทำงกำย 2. สีลภำวนำ กำรพฒั นำศีล 3. จตโ ตภำวนำ กำรพฒั นำจโต 4. ปัญญำภำวนำ กำรพฒั นำปัญญำ
วมโ ุตโ 5 หรือนโรรธ 5 ือ ธรรมเ รื่องให้หลุดพ้น ตทงั ควิมุตติ หลดุ ดว้ ย ธรรมตรงกนั ขา้ ม วกิ ขมั ภนวมิ ตุ ติ ดบั ดว้ ยการข่มไว้ เขา้ ฌาน สมาบตั ิ สมจุ เฉทวมิ ุติ ดบั ตดั ขาด ปฏิปัสสทั ธิวิมุตติ ดบั ดว้ ยสงบระงบั
นโพพำน สภำพทดี่ บั กโ เลศ สอุปาทิเสส นิพพาน ดบั กิเลส ยงั มีเบญจ ขนั ธ์เหลือ อนุปาทิเสสนิ พพาน ดบั กิเลส ไม่มีเบญจขนั ธ์ เหลือ
กลุ่มธรรมในหมวดมรร สัมมำทฎโ ฐโ สัมมำสังกัปปะ สัมมำกมั มันตะ สัมมำอำชีวะ สัมมำวำจำ สัมมำวำยำมะ สัมมำสตโ สัมมำสมำธโ
พระสัทธรรม 3 ือ ธรรมอนั ดี ปริยตั ติสทั ธรรม คาสง่ั สอนที่เล่า เรียน ปฏิปัตติ สทั ธรรม คือส่ิง ท่ีปฏิบตั ิ ปฏิเวธสทั ธรรม
วุฒโธรรม 4 ือธรรม เป็ นเ ร่ืองเจรโญ สปั ปุริสสงั เสวะ คือการเสวนา สตั บุรุษ สทั ธมั มสั สวนะ คือ สดบั สทั ธรรม ใส่ใจเล่าเรียน โยนิโสมนสิการ คือทาในใจแยบ
พละ 5 ือธรรมทเ่ี ป็ นกำลงั ให้เกโด วำมสำเร็จ สทั ธา คือ ความเช่ือมน่ั อยา่ งมีเหตุผล วริ ิยะ คือ ความเพยี รพยายาม สติ คือ การระลึก ย้าเตือนตนเอง สมาธิ คือ การต้งั ใจมนั่ มีความมุ่งมนั่ ปัญญา คือ ความรู้ทวั่ ชดั
อบุ ำสกธรรม 5 ือ ธรรมสำหรับอุบำสกที่ ดี มีศรัทธา คือเชื่อใน หลกั ธรรมศาสนา มีศีล คือ รักษาศีล เคร่งครัด ไม่ถือมงคลตื่นข่าว ไม่แสดงหาบุญนอก ศาสนา บารุงพระพทุ ธศาสนา
อปรโหำนียธรรม 7 ือ ธรรม ไม่เป็ นที่ต้งั แห่ง วำมเสื่อม หมน่ั ประชุมเนืองนโตย พร้อมเพรียงกนั ประชุม ไม่บญั ญตั โสโ่งทมี่ ไโ ด้บัญญตั โ ไว้ เ ำรพท่ำนเป็ นผู้เป็ นใหญ่ ไม่์่มเหงหรือล่วงเกนโ สตรี เ ำรพปูชนียสถำน ปกป้องพระอรหันต
ปำปณกโ ธรรม 3 ือธรรม ์องนักธุรกจโ พ่อ ้ำ จกั ขมุ า วธูโร จดั เจน ธุรกิจนฃ นิสสยสัมปัน โน พร้อมดว้ ย แหล่งทุน
ทโฎฐธัมมกโ ตั ถสังวตั ตนโก ธรรม ธรรมประรยชน ปัจจุบนั อฎุ ฐานสมั ปทา ถึง พร้อมดว้ ยความ หมน่ั อารักขสมั ปทาน ถึง พร้อมดว้ ยการ เกบ็ รักษา กลั ป์ ยาณมิตตา คบ คนดีเป็ นมิตร
รภ อำทยโ ะ 5 ือประรยชน 1.ญาตพลี สงเคราะห์ญาติ จำกกำรใช้ทรัพย 2.อติพลี คือ ตอ้ นรับแขก คนท่ีไป มาหาสู่กนั 1. 1. เล้ียงดูบิดา 3. ปุพพเปตพลี ทาบุญอทุ ิศใหผ้ ู้ มารดา บุตร ล่วงลบั ภรรยา 4. ราชพลี บารุงราชการ เสียภาษี 5. เทวตาพลี ถวายเทวดา 2. 2. บารุงมิตร สหายผรู้ ่วมงาน 3. 3. เกบ็ ไวใ้ ชย้ าม จาเป็ น 4. 4. ทาพลี 5. 5. อปุ ถมั ภบ์ ารุง
อรโยวฑั ฒโ 5 ธรรมเป็ นที่ต้งั ์อง วำมเจรโญ ศรัทธา เช่ือ อยา่ งมีเหตุผ ศีล การ ประพฤกติอยู่ กรอบวินยั สุตะ หมนั่ ศึกษาเล่าเรียน
อธโปไตย 3 วำมเป็ นใหญ่ อตั ตาธิปไตย ความมีตนเป็ น ใหญ่ โลกาธฺปไตย เสียงส่วนมาก เป็ นใหญ่
สำรำณยี ธรรม 6 ธรรมทีท่ ำ ให้ระลกึ ถงึ งกนั เมตตากายกรรม ช่วยกิจการงาน เมตาตาวจีกรรม กล่าววาจสุภาพ เมตตามโนรรม มี จิตปรารถดี สาธารณโภคิตา แบ่งปันสิ่งของ
ทศพธโ รทำำชนธกรำรรมให1้ 0 ศีล ต้งั อยุ่ในศโล ปรโจำ ะ บรโจำ อำชชวะ ซ่ือตรง มัททวะ อ่อนรยน ตปะ มตี บะ อกั รกธะ ไม่รกรธ อวหโ งโ สำ ไม่เบยี ดเบยี น ์นั ตโ วำมอดทน อวรโ รธนะ วำมไม่ ลำดธรรม
วปโ ัสสนำญำณ 9 อทุ ยพั พยำนุปัสสนำญำณ ภงั ำนุปัสสนำญำณ ภยตูปัฎฐำนญำณ อำทนี วำนุปัสสนำญำณ นโพททำนุปัสสนำ มุญจตโ ุกมั ยตำญำณ มุญจตโ ุกมั ยตำญำณ ปฏสโ ัง์ำนุปัสสนำญำณ สัง์ำรุเปก์ำญำณ สัจจำนุรลมโกญำณ
ปุตฺตสงฺ รห สงเ รำะหบุตร มงคล 38 ● อภิชาตบุตร ทำรสงฺ รห สงเ รำะหภรรยำ ● อนุชาตบุตร ● อวชาตบุตร ● วธภสั ดา ภริยา เพชฌฆาต ● โจภสั ดา ภริยา เโจร ● อยั ยภสั ดา ภริยา เนาย ● ปิ ตาภสั ดา ภริยา เพอ่ ● ภาตาภสั ดา ภริยา เพช่ี าย ● สขาภสั ดา ภริยา เเพื่อน ● ทาสาภสั ดา ภริยา เคนใช้
มงคล 38 สนฺตฎุ ฐี สันรดษ เ์ม จโตเกษม จโตหมดกเโ ลศ ● ยถาลาภสนั โดษ ยนิ ดีตามที่ ● กามโยคะ ได้ ● ภวโยคะ ● ทิฎฐิโยคะ ● ยถาพลสนั โดษ ยนิ ดีตาม ● อวชิ ชาโยคะ กาลงั ● ยถาสารูปสนั โดษ ยนิ ดีตาม สมควร
แบบทดสอบจบั คู่ธรมสมั พนั ธ์กนั ดา้ นซา้ ยและขวามือ หลกั ธรรม หลกั ธรรม ● A.พชี นิยาม ● 1.อวชิ า ● B. อุตุนิยาม ● C. โลกธรรม ● 2.การจาไดห้ มายรู้ จาแนกสิ่งต่างๆ ● D.จิต ● 3.การรับรู้ ● E.เจตสิก ● F.วิญญาณ ● 4.ธรรมชาติท่ีรับรู้อารมณ์ ● G.สญั ญา ● 5.สิ่งเกิดดบั พร้อมจิต ● 6.นินทา สรรเสริญ สุข ทุกข์ ลาภ เส่ือ ลาภ ● 7.กฎหมายธรรมชาติของดินฟ้า อากาศ ● 8.กฎหมายธรรมชาติการสืบพนั ธุส์ ัตว์ พืช
แบบทดสอบจบั คู่ธรมสมั พนั ธ์กนั ดา้ นซา้ ยและขวามือ หลกั ธรรม หลกั ธรรม ● i. อุปปัชชาเวทนียกรรม ● 9. เปรียบเหมือนใชห้ ินกดหญา้ ไว้ ● j. อาสนั นกรรม ● 10. ความง่วง หดหู่ ● l. วติ ก ● 11. กรรมใกลต้ าย ● m.มงั สวณิชชา ● 12. การพฒั นาจิตใจ ● n. ถีนมิทธะ ● 13. หา้ มประกอบอาชีพคา้ สตั ว์ ● o.สีลพั พตุปาทาน ● 14. การตรึกตรอง ● p. จิตภาวนา ● 15. กรรมที่ใหผ้ ลในอนาคต หรือชาติ หนา้ ● 16. การยดึ มนั่ ่ในศีลพรตหรือพิธีกรรม
Search
Read the Text Version
- 1 - 41
Pages: