วิ ธี คิ ด แ บ บ โ ย นิ โ ส ม น สิ ก า ร
ความหมาย การทำในใจโดยแยบคาย การคิดพิจารณาอย่างละเอียด ถี่ถ้วนและลึกซึ้ง หรือการคิดที่ถูกวิธี มีระเบียบ มีเหตุผล และสร้างสรรค์
1 . วิ ธี คิ ด แ บ บ สื บ ส า ว เ ห ตุ ปั จ จั ย • เป็นการพิจารณาปรากฏการณ์ ที่เป็น ผล ที่เกิดขึ้นตามสภาวะที่เกิด ขึ้นจริง • หาสาเหตุปัจจัยที่สัมพันธ์ ส่งผลสืบทอดมา • คิดแบบปัจจัยสัมพันธ์: แนวทางปฏิบัติ • สิ่งทั้งหลายอาศัยซึ่งกันและกัน • คิดแบบสอบสวนหรือตั้งคำถาม • ตั้งคำถาม ค้นหาสาเหตุที่เกี่ยวข้อง
1 . วิ ธี คิ ด แ บ บ สื บ ส า ว เ ห ตุ ปั จ จั ย รับรู้ ผล เหตุ ผล ว่าอะไรเกิดขึ้นตาม (คิดแบบปัจจัยสัมพันธ์) ความเป็นจริง เกี่ยวข้องกับสิ่งใดบ้าง เกิดสิ่งนี้ ทำให้เกิดสิ่งนั้น ไม่เกิดสิ่งนี้ ทำให้สิ่งนั้นไม่เกิด ตั้งคำถาม ทำไมจึงเกิดสิ่งนี้ อะไรเป็นสาเหตุ เกิดสิ่งนี้ แล้วมีผลอย่างไร (คิดแบบสืบสาว/ตั้งคำถาม)
2 . ก า ร คิ ด แ บ บ แ ย ก แ ย ะ อ ง ค์ ป ร ะ ก อ บ
2 . วิ ธี คิ ด แ บ บ แ ย ก แ ย ะ อ ง ค์ ป ร ะ ก อ บ • คิดแบบวิเคราะห์ แยกองค์ประกอบย่อย แต่ละสิ่ง เพื่อให้สามารถจับจุดของปัญหาได้ เ ห ตุ แก้ปัญหาได้ตรงจุด เ ห ตุ ผล เ ห ตุ เ ห ตุ
2 . วิ ธี คิ ด แ บ บ แ ย ก แ ย ะ อ ง ค์ ป ร ะ ก อ บ รับรู้ ค้นหาว่า มีองค์ประกอบ เกี่ยวข้องกับอะไรบ้าง สิ่งที่เกิดขึ้นตาม ความเป็นจริง - แยกออกเป็นส่วนๆ อะไรบ้าง - แยกวิเคราะห์/ตรวจสอบ ทีละส่วนประกอบ - ค้นหาปัญหา เพื่อแก้ไขตรงจุด
ปั ญ ห า คื อ • ทำไม จึงไม่มีใครยอมคบกับหญิงมุก ทั้งๆที่หญิงมุกเป็นไฮโซ ร่ำรวย
จ า ก ก า ร คิ ด แ บ บ สื บ ส า ว เ ห ตุ ปั จ จั ย พบว่า สาเหตุ คือ หญิงมุกไม่มีใครยอมรับ เนื่องจาก หญิงมุกเป็นคนโกหก หลอกลวง จนไม่มีคนเชื่อถือ
ค ว า ม ผิ ด เ รื่ อ ง ลั ก ข โ ม ย จ า ก เ รื่ อ ง มี อ ะ ไ ร บ้ า ง
1.ทำลายของสาธารณะ โทษจำคุกมืดอย่างน้อย 7 วัน 2.ทำลายของทางวังหลวง โทษจำคุกมืดอย่างน้อย 30 วัน 3.ถ้าใครริอาจมาขโมยของถึงบ้านท่านขุน จะจ่ายโทษ โบยอีก 100 ที
ก ร ณี . ที่ นำ ก ล่ อ ง ข อ ง อ ง ค์ ห ญิ ง ม า ใ ช้ โ ด ย ไ ม่ ไ ด้ รั บ อ นุ ญ า ต ม ะ ลิ จ ะ ถู ก ล ง โ ท ษ อ ะ ไ ร บ้ า ง
เฉลย 1.ทำลายของทางวังหลวง โทษจำคุกมืดอย่างน้อย 30 วัน 2.ถ้าใครริอาจมาขโมยของถึงบ้านท่านขุน จะจ่ายโทษ โบยอีก 100 ที
ทำ ไ ม . . . ก ร ณี ม ะ ลิ จึ ง ไ ม่ ถู ก ลงโทษ??? เพราะ.กระทำโดยไม่ได้เจตนา และเจ้าทุกข์ไม่เอาความ
3 . วิ ธี คิ ด แ บ บ อ ริ ย สั จ / คิ ด แ ก้ ปั ญ ห า
วิ ธี คิ ด แ บ บ อ ริ ย สั จ / คิ ด แ ก้ ปั ญ ห า :เป็นวิธีการดับทุกข์ (แก้ปัญหา) ลักษณะทั่วไปมี 2 ประการ ผล เหตุ *คิดตามเหตุและผล *คิดแก้ปัญหาได้ตรงจุด ตรงเรื่อง ทุกข์ สมุทัย ผล เหตุ นิโรธ มรรค
จ ง ต อ บ คำ ถ า ม ? ? ? ? ? ? ? จาก VDO เจ้ไฝคิดแก้ปัญหาโดยสอดคล้องกับการคิดแบบ อริยสัจอย่างไร????? -ทุกข์ :........................................ -สมุทัย :..................................... -นิโรธ :...................................... -มรรค :......................................
4 . วิ ธี คิ ด แ บ บ อ ร ร ถ ธ ร ร ม สั ม พั น ธ์
วิธีคิดแบบอรรถธรรมสัมพันธ์ คือ การคิดตามหลักการและจุดมุ่งหมาย ธรรม คือ หลักการ อรรถ คือ จุดมุ่งหมาย, เป้าหมาย ปฏิบัติ (ตามหลักการ) เป็นไปตามจุดมุ่งหมาย เป้าหมายที่ดีงาม
ผู้หวังความสำเร็จในสิ่งใดต้องมี...อ.ิ.ท...ธ.ิ.บ..า..ท.......คือ บาทฐานแห่งความสำเร็จทั้ง 4 ได้แก่ ฉันทะ (ความพอใจ) วิริยะ (ความเพียร) จิตตะ (ความเอาใจใส่) วิมังสา (การใช้ปัญญาพิจารณาใคร่ครวญ)
แ บ บ ฝึ ก หั ด
1.จุดมุ่งหมายของมะลิ คือ...???????
2 . ห ลั ก ก า ร อ ะ ไ ร ที่ ทำ ใ ห้ ค น ส า ม า ร ถ ห า จุ ด มุ่ ง ห ม า ย ข อ ง ต น เ อ ง ไ ด้ ? ? ? ? ?
3.เพราะอะไร??? มะลิจึงไม่ประ สบควาสำเร็จ เมื่อฝึกเป็น พยาบาลหรือนักแสดง 4.มะลิขาดอิทธิบาทในข้อ ใด...????
5 . วิ ธี คิ ด แ บ บ ส า มั ญ ลั ก ษ ณ์
วิ ธี คิ ด แ บ บ ส า มั ญ ลั ก ษ ณ์ : รู้เท่าทันธรรมชาติที่เกิดขึ้น รู้ว่าต้องเป็นอย่างนั้นๆ เป็นธรรมดา วิธีคิดแบบนี้ต้องดำเนินครบ 2 ขั้นตอน 1.รู้เท่าทัน และยอมรับตามความเป็นจริง 2.แก้ไขตามเหตุปัจจัย ให้สอดคล้องกับความเป็นจริง
รับรู้ ตามจริง : รู้เท่าทัน ธรรมดา ธรรมชาติ เช่น คนเราเกิดมาต้องตาย เป็นเรื่องปกติธรรมดา เมื่อรู้แล้วต้องแก้ไข ให้สอดคล้องตามความเป็นจริง
คำถาม????? ใ น เ รื่ อ ง . . ใ ค ร ? ? ? ที่ ใ ช้ ค ว า ม คิ ด แ บ บ ส า มั ญ ลั ก ษ ณ์ เพราะเหตุใดพระพอเพียงจคงถามโยมไฝว่า แน่ใจแล้วหรือ ที่จะบวชชี????? เพราะเหตุใดพระพอเพียง จึงพาโยมไฝไปหาของดีในชุมชน
ข้ อ ส อ บ O - N E T ปี ก า ร ศึ ก ษ า 2 5 5 8 1.ในสังคมชมพูทวีป วรรณะใดเป็นคนพื้นถิ่นดั้งเดิมไม่ใช่ชาวอารยัน 1) ศูทร 2) แพศย์ 3) กษัตริย์ 4) จัณฑาล 5) พราหมณ์ 2. นายสมศักดิ์มีความประพฤติถูกต้องตามหลักกายสุจริต 3 ส่วนนางดวง กมลมีความที่ยึดถือความถูกต้องตามหลักมโนสุจริต 3 แบบอย่างของคนทั้ง สองสอดคล้องกับหลักธรรมใดในมรรคมีองค์แปด 1) สัมมากัมมันตะ กับ สัมมาสังกัปปะ 2) สัมมาวายามะ กับ สัมมาสังกัปปะ 3) สัมมาอาชีวะ กับ สัมมากัมมันตะ 4) สัมมาทิฏฐิ กับ สัมมากัมมันตะ 5) สัมมาสังกัปปะ กับ สัมมาทิฏฐิ
แนวคำตอบ โกเฮง: เมื่อรู่ว่าเศรษฐกิจไม่ดี กลัวขายของไม่ได้ ของใกล้หมด อายุ เลยลดราคา คนก็เลยซื้อเยอะ แจค: รู้ว่าแม่ขายส้มตำไม่ดี จคงคิดหาวิธีใหม่ โดยการขายส้ม ตำเดลิเวอรี่ คือเมื่อมีคนสั่งส้มตำ ก็จะจัดส่งให้ถึงที่
เพราะต้องการให้โยมไฝคิดทบทวนให้ได้ว่า การบวชชีที่ต้องการ นั้นเป็นการบวชชีหนีปัญหา หรือต้องการบวชชีเพื่อหลุดพ้น ทำใจ สบายคลายทุกข์ เพราะต้องการให้โยมไฝได้เรียนรู้ว่า ธรรมชาติของคนจะต้องมี ทั้งสุขทั้งทุกข์ปะปนกัน ทุกคนต้องพยายามเรียนรู้และค้นหา แนวทางแก้ปัญหาของตนเอง หรือตั้งรับความทุกข์ให้เป็น เพื่อ สร้างภูมิคุ้มกันให้กับตนเอง
6. วิธีคิดแบบเห็นคุณ โทษและทางออก
6 . วิ ธี คิ ด แ บ บ เ ห็ น คุ ณ โ ท ษ แ ล ะ ท า ง อ อ ก : มองสิ่งทั้งหลายตามความเป็นจริงทั้งด้านดีและด้านเสีย มีลักษณะเน้น 2 ประการ 1. มองตามความเป็นจริง : ด้านดี ด้านเสีย 2. แก้ปัญหา ปฏิบัติ ไปในแนวทางพึงประสงค์ ด้านดี จุดมุ่งหมาย รับรู้ คิดพิจารณา เลือกตัดสินใจ ด้านเสีย
เช่น สะดวก คุณ ซื้อง่าย ไม่ต้องทำ คุณ-โทษ โทษ โรคอ้วน จะมองว่าขณะนี้มีความจำเป็น ไขมันอุดตัน คอเลสเตอรอลสูง เร่งด่วนไม่สามารถซื้ออาหารมา ทำรับประทานเอง ก็ยอมรับประทาน เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อนและ ไม่คิดรับประทานบ่อยๆ
7 . คิ ด แ บ บ ป ลุ ก เ ร้ า คุ ณ ธ ร ร ม : เป็นการทำใจตั้งต้น ชักนำความคิดของตนเองให้ เดินไปในทางที่ดีงาม - เป็นวิธีคิดแบบอุบายปลุกเร้าคุณธรรมหรือคิดแบบเร้ากุศล Positive thinking *กิริยาอย่างเดียวกัน คน 2 คนรับรู้ต่างกัน ของสิ่ง เดียวกัน คนเดียวกัน รับรู้ต่างกัน (ต่างสิ่งปรุงแต่ง) วัตถุประสงค์: แก้ไขความเคยชินร้ายๆ สร้างความเคยชินที่ดีกว่า
เช่น คิดแบบปลุกเร้าคุณธรรม ความตาย เป็นเหตุแห่งการทำความดี ✓คือ คิดว่าไม่นานเราก็ต้องตาย ควรหมั่นทำความดีไว้มากๆ แต่บางคนคิดถึงความตายแล้วจิตใจสลด ห่อเหี่ยว ✘ไม่มีกำลังใจทำงาน ไม่อยากทำอะไร คิดว่าอย่างไรก็ต้องตาย ตายไปก็ไม่สามารถนำอะไรไปได้ ก็จะเกิดความเกียจคร้าน
8 . วิ ธี คิ ด แ บ บ วิ ภั ช ช ว า ท : การพูดแยกแยะ จำแนกแจกแจง แถลงความแบบวิเคราะห์ เป็นการมองและแสดงความจริงโดยแยกแยะให้เห็นแต่ละแง่ แต่ละด้าน จนครบทุกด้าน วิภัชช คือ แยกแยะ จำแนก แจกแจง วาท คือ การพูด การแสดงคำสอน การคิดแบบวิเคราะห์
คิ ด จำ แ น ก ต า ม ค ว า ม เ ป็ น จ ริ ง แ บ่ ง เ ป็ น 2 วิ ธี 1. จำแนกตามความเป็นจริงทีละด้าน เช่น นพดล เป็นคนเรียนเก่ง แต่ติดการพนัน ถ้าจะรับนพ ดลเข้าทำงาน ก็ควรพิจารณาทีละด้าน ตาม อัตราส่วนที่เหมาะสมว่าสมควรรับเข้าทำงานหรือไม่ 2. จำแนกโดยมองให้ครบทุกด้าน เช่น มองว่าคนๆหนึ่งดีในด้านนั้น แต่ไม่ดีในด้านนี้ พิจารณาไตร่ตรองแล้วชั่งน้ำหนักด้านดีและไม่ดี
9 . วิ ธี คิ ด แ บ บ เ ป็ น อ ยู่ ใ น ข ณ ะ ปั จ จุ บั น : รับรู้สิ่งที่เป็นปัจจุบัน ที่เกี่ยวข้องต้องรู้ ครอบคลุมเรื่องทั้งหลายที่เชื่อมโยงสิ่งที่เกี่ยวข้อง คิดเป็นงานเป็นการ (สิ่งที่เกี่ยวข้อง ต้องทำ ต้องรู้) (ไม่อยู่ในอารมณ์ ไม่ฟุ้งซ่านไร้จุดหมาย ไม่มีอดีตตกค้าง)
1 0 . คิ ด แ บ บ คุ ณ ค่ า แ ท้ - คุ ณ ค่ า เ ที ย ม : เป็นวิธีคิดแบบสกัดหรือบรรเทาตัณหา ตัดทางไม่ให้เกิด กิเลสเข้ามาครอบงำจิตใจ จำแนกได้ 2 ประเภท คือ 1. คุณค่าแท้ : ให้คุณค่าหรือประโยชน์โดยตรง 2. คุณค่าเทียม : ให้คุณค่าหรือประโยชน์ทางอ้อม เพื่อปรน เปรอ สนองความต้องการของมนุษย์
เช่น การเลือกซื้อเสื้อผ้า ยี่ห้อดี คุณค่าเทียม แพง ยี่ห้อธรรมดา คุณค่าแท้ ราคาไม่แพง
Search
Read the Text Version
- 1 - 49
Pages: