ระดบั ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4บทเรียนสาเร็จรปู เลw่มทwกี่ ฎ1wหคมว.kาามrยรoใูท้ นoัว่ ชไbปีวิตaเกปnย่ี รวnะกจoับากkวฎ.นั หcมoาmย พิมวดี มว่ งแกว้ ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูชานาญการ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม โรงเรียนปากช่อง อาเภอปากชอ่ ง จังหวดั นครราชสีมา สานกั งานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษามัธยมศึกษา เขต 31
คานา บทเรียนสาเรจ็ รูปเลม่ นี้ จัดทาขน้ึ เพื่อพฒั นากระบวนการเรยี นรู้ทีม่ ีคณุ ภาพให้กับ นักเรียนตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 โดยมเี ป้าหมาย สาหรบั นกั เรียนช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 ซึ่งเป็นกระบวนการจัดการเรียนรู้ทย่ี ึดผูเ้ รียนเปน็ สาคญั ในบทเรยี นสาเร็จรปู เลม่ นม้ี กี ิจกรรมปฏบิ ตั ิเปน็ ขัน้ ตอน มวี ิธวี ัดผลประเมนิ ผลที่ mสอดคลอ้ งกบั หลกั การของหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 oและหลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นปากชอ่ ง นกั เรยี นสามารถศกึ ษาดว้ ยตนเองและ มกี ระบวนการเรยี นรใู้ หเ้ ขา้ ใจง่ายไดร้ บั ประสบการณแ์ ละมปี ระโยชนต์ อ่ การดารงชีวติ .cผู้จัดทาหวงั เป็นอย่างย่งิ วา่ บทเรียนสาเร็จรูปเลม่ นี้ ซึง่ มีเนอ้ื หาเก่ียวกับกฎหมาย kในชวี ิตประจาวัน จะมปี ระโยชน์เสมือนคู่มอื ของการศกึ ษา สามารถพัฒนาบคุ คล พัฒนาสงั คม พฒั นาชมุ ชน ให้บรรลผุ ลสาเรจ็ ตามเป้าหมายและวัตถุประสงค์ต่อไป www.kroobannoพิมวดี มว่ งแกว้
สารบญั เร่ือง หนา้ คานา ก สารบัญ แผนภมู ิแสดงลาดบั ขน้ั ตอนของการเรียนรู้ ข 1 mคาแนะนาการใชบ้ ทเรียนสาเรจ็ รูป สาหรับครู 2 oคาแนะนาการใชบ้ ทเรียนสาเร็จรูป สาหรับนักเรยี น3 .cสาระสาคญั 4 kผลการเรยี นรทู้ ีค่ าดหวงั 4 oจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 4 5 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น 7 8 nเฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น 9 nบทนา ความรทู้ ว่ั ไปเกย่ี วกบั กฎหมาย 13 aกรอบท่ี 1 ความหมายของกฎหมาย 17 bกรอบท่ี 2 ความสาคญั ของกฎหมาย 21 oกรอบท่ี 3 ทม่ี าของกฎหมาย 24 roกรอบท่ี 4 ระบบกฎหมายปัจจุบัน 28 33 กรอบท่ี 5 ลกั ษณะของกฎหมาย 36 37 .kกรอบท่ี 6 ประเภทของกฎหมาย 39 กรอบท่ี 7 ศักด์ขิ องกฎหมายไทย 40 wบทสรปุ ความรทู้ ว่ั ไปเกย่ี วกบั กฎหมาย wแบบทดสอบหลังเรียน wเฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน บรรณานุกรม
แผนภูมแิ สดงลาดบั ขั้นตอนของการเรียนรู้ อ่านคาชี้แจง omนกั เรียนอย่าข้าม .cขั้นตอนนะครับ ทดสอบก่อนเรียน bannokไมผ่ ่านการทดสอบ ศึกษาบทเรยี น ทดสอบหลงั เรยี น .kroo ผ่านการทดสอบ www ศึกษาเรื่องใหม่
คาแนะนาการใช้บทเรยี นสาเรจ็ รูป สาหรบั ครู 1. บทเรยี นสาเร็จรูปนี้ใช้ในการเสริมบทเรยี น หรือเพอ่ื สอนซ่อมเสริม ตามสภาพของนกั เรยี น m2. ใหน้ กั เรียนศึกษาบทเรยี นนีด้ ้วยตนเอง โดยกาหนดเวลาให้ oเหมาะสมตามความสามารถของนักเรียน .c3. แนะนาวิธกี ารใชบ้ ทเรียนให้นกั เรียนเข้าใจกอ่ นนาไปใช้ k4. คอยให้คาปรกึ ษาแกน่ ักเรยี นเมอื่ มปี ญั หา nnoไปดูคาแนะนาสาหรับ www.kroobaนกั เรยี นกันต่อเลยครบั
คาแนะนาการใชบ้ ทเรยี นสาเร็จรปู สาหรับนกั เรยี น 1. บทเรยี นสาเรจ็ รูปเลม่ นี้ เปน็ เล่มท่ี 1 เรอื่ ง ความรทู้ ่วั ไปเก่ียวกบั กฎหมาย มคี วามยาวทงั้ หมด 7 กรอบ ประกอบด้วยเนอ้ื หาและ mแบบฝึกหดั o2. นกั เรียนศึกษาสาระสาคญั และจุดประสงค์การเรียนรใู้ หเ้ ขา้ ใจ .c3. นกั เรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรยี นดว้ ยตนเอง จานวน 10 ขอ้ kแล้วตรวจคาตอบจากเฉลย o4. นักเรยี นทากิจกรรมในแตล่ ะกรอบให้ครบทุกขอ้ ถา้ ตอบไม่ได้ nอย่าเพ่ิงดเู ฉลย ใหศ้ ึกษาเน้อื หาใหมอ่ ีกคร้งั n5. นักเรียนตรวจคาตอบจากเฉลย ถ้าตอบไม่ตรงกบั เฉลยให้ทบทวน aเนอื้ หาเดิมอีกคร้งั ถา้ ไมเ่ ข้าใจให้ถามครู b6. นักเรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียน นกั เรียนตรวจคาตอบจากเฉลย oเพอ่ื เปรยี บเทียบความก้าวหน้าของการเรยี น ro ไปทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน www.k กันต่อเลยค่ะ
บทเรยี นสาเรจ็ รูป เร่อื ง ความรูท้ ัว่ ไปเกยี่ วกบั กฎหมาย สาระสาคญั กฎหมาย คือ “กฎระเบยี บ ข้อบังคบั ทสี่ ถาบนั ผมู้ ีอานาจสงู สดุ ของประเทศตราข้นึ ใช้ บังคบั รวมท้ังกฎระเบียบขอ้ บงั คับท่เี กิดจากจารีตประเพณที ไ่ี ดร้ ับการยอมรบั นบั ถือจากสังคม mหรือจากบุคคลทวั่ ไปท่ีอยรู่ วมกันในสังคมเพอ่ื ใช้กบั บุคคลทกุ คนในการบรหิ ารประเทศหากไม่ oปฏบิ ตั ิตามอาจไดร้ บั โทษฐานตามฐานความผดิ นนั้ ” จึงจาเป็นตอ้ งมกี ารวางกฎเกณฑข์ ึ้นใช้ .cบงั คับในสงั คม เพือ่ ควบคมุ ความประพฤติของบุคคลในสังคมใหอ้ ย่ใู นกรอบแห่งความสงบ เรียบร้อย แนวทางปฏบิ ตั ิหรอื กรอบแหง่ ความสงบเรยี บร้อยนต้ี อ่ มาเราเรยี กกนั ว่า กฎเกณฑ์ kขอ้ บังคับและกฎหมายตอ่ มาดังคาสุภาษิตทวี่ า่ “ทีใ่ ดมสี ังคม ท่นี ัน้ ต้องมกี ฎหมาย” oผลการเรียนรู้ทคี่ าดหวัง nมีความรู้ความเขา้ ใจในความรทู้ ัว่ ไปเกีย่ วกับกฎหมาย และสามารถนาความรไู้ ปใช้ใน nชวี ิตประจาวันได้ aจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ b1. มีความรคู้ วามเข้าใจ และอธบิ ายความหมายของกฎหมายได้ o2. มีความรคู้ วามเข้าใจ และอธิบายความสาคัญของกฎหมายได้ ro3. มีความรคู้ วามเข้าใจ และอธิบายทมี่ าของกฎหมายได้ 4. มีความรคู้ วามเข้าใจ และอธิบายระบบกฎหมายได้ .k5. มีความร้คู วามเข้าใจ และอธิบายลกั ษณะของกฎหมายได้ 6. มคี วามรคู้ วามเข้าใจ และอธบิ ายประเภทของกฎหมายได้ www7. มคี วามรู้ความเข้าใจ และอธบิ ายศกั ด์ิของกฎหมายได้
แบบทดสอบก่อนเรียน ความรู้ทัว่ ไปเกย่ี วกับกฎหมาย คาชีแ้ จง : ใหน้ กั เรียนเลอื กคาตอบทถี่ กู ตอ้ งทสี่ ดุ เพียงคาตอบเดยี ว mวฒั นธรรมของสงั คมและให้บุคคล 1. เราอาศยั กฎหมายเพอื่ เปน็ เครือ่ งมืออย่างไร ? 4. ทมี่ าของกฎหมายขอ้ ใดมิใชเ่ ป็นท่มี าของ oระมดั ระวงั ไมก่ ระทาความผดิ กฎระเบยี บ ก. รกั ษาความสงบสุขของสังคมรกั ษาประเพณี กฎหมายไทย ? ก. กฎหมายลายลกั ษณ์อักษรที่รัฐ .cข. รักษาประเพณีวัฒนธรรมของสังคมและ ตราออกใช้บงั คับ kบคุ คลระมัดระวงั ไมก่ ระทาความผิด ของสงั คม ข. คาพพิ ากษาของศาลท่ผี ่านมา ค. จารีตประเพณีแห่งทอ้ งถิน่ oค. รกั ษาความเปน็ ระเบยี บเรียบรอ้ ยของสงั คม อกั ษร ? ง. หลกั กฎหมายทว่ั ไป nและรักษาประเพณแี ละวัฒนธรรมของสงั คม ก. Civil Law กฎระเบยี บของสงั คม 5. คาใดไมเ่ ก่ียวขอ้ งกับระบบกฎหมายลายลักษณ์ n2. แนวคดิ ของนักปรชั ญาชาวตะวนั ตกคนใดที่ aกลา่ วว่า “มนุษยใ์ นสภาพสว่ นใหญแ่ ลว้ เปน็ คนดี ง. Common Law ง. รักษาความเปน็ ระเบียบเรยี บร้อยของสงั คม ข. Code Law bมอี สิ รเสรสี ะอาด เหมือนผา้ ขาวแต่ถูกอารยธรรม 6. ขอ้ ใดมีลักษณะเป็นกฎหมาย ? ค. Written Law oก. Jean – Jacques Rousseau roข. Thomas Hobbes และสงั คมทาใหเ้ ปล่ียนแปลงไป” ? ก. ประกาศหา้ มสบู บุหร่ใี นทีส่ าธารณะ .kง. John Locke ฝา่ ฝืนปรบั 2,000 บาท ข. ประกาศใหพ้ นกั งานบริษทั ทุกคนตอ้ ง ค. Lee Don Huk แสดงบตั รประจาตวั ทกุ คร้งั ท่เี ข้า – ออก wกฎหมายไทย ? บริษทั 3. บุคคลใดได้รับการยกย่องว่าเปน็ บิดาของ ค. ประกาศห้ามผ้ทู ไี่ ม่เกยี่ วขอ้ งกับการแสดง ก. กรมหมน่ื พทิ ยาลงกรณ์ เข้าไปในห้องประชมุ wข. หม่อมราชวงศเ์ สนยี ์ ปราโมช ง. ประกาศของอาจารยใ์ หญ่ใหน้ กั เรยี นทุกคน ค. สมเด็จกรมพระยาดารงราชานภุ าพ ไปเขา้ แถวเคารพธงชาติมฉิ ะนน้ั จะถกู wง. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบรุ ี ทาโทษหน้าเสาธง ดิเรกฤทธ์ิ
7. กฎหมายในขอ้ ใดมีศกั ดิส์ ูงกวา่ พระบรม 9. ขอ้ ใดเป็นหนา้ ท่ตี ามกฎหมายของชาวไทย ราชโองการของพระมหากษัตรยิ ์ ? เม่ือมอี ายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ? ก. พระราชกาหนด ก. สอบเข้ามหาวิทยาลยั ข. พระราชบัญญตั ิ ข. บวชทดแทนคณุ บดิ ามารดา ค. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ค. ทาบัตรประจาตวั ประชาชนทอี่ าเภอ ง. ไม่มขี ้อใดถกู ตอ้ ง ง. ไปแสดงตนเพ่ือลงบญั ชีเป็นทหารกองเกนิ 8. กฎหมายขอ้ ใดเปน็ ความสมั พันธร์ ะหวา่ ง ทอ่ี าเภอ mประชาชนกับรฐั ? 10. เหตุใดขอ้ บญั ญตั ิจงึ มลี าดบั ศกั ด์ขิ องกฎหมาย oก. กฎหมายระหวา่ งประเทศ ตา่ กว่ากฎหมายอ่นื ? ข. กฎหมายมหาชน ก. ออกโดยคณะรฐั มนตรีและอาศัยตาม .cค. กฎหมายเอกชน ความในพระราชกาหนด nnokง. กฎหมายอาญา ข. ออกโดยฝ่ายนิตบิ ญั ญตั ิและอาศัยอานาจ ตามความในพระราชบญั ญตั ิ ค. ออกโดยฝา่ ยนิติบัญญตั แิ ละอาศยั อานาจ ตามความในพระราชกฤษฎกี า ง. ออกโดยองค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ และ อาศยั อานาจตามความในพระราชบญั ญตั ิ obaทาแบบทดสอบเรียบร้อย ro ตรวจคาตอบหนา้ ตอ่ ไป www.k เชญิ ครับ
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น ความรูท้ วั่ ไปเกีย่ วกบั กฎหมาย 1. ก 2. ก 3. ง m4. ข .co5. ง 6. ก k7. ค o8. ข n9. ง n10. ง baพร้อมแลว้ o ศึกษาบทเรียนไดเ้ ลยครับ www.kro ไปกันเลย
บทนา ความร้ทู ่ัวไปเกย่ี วกบั กฎหมาย ธรรมชาติและสิง่ แวดล้อม คือ ปจั จัยสาคญั ในการดารงชวี ติ ความเป็นอยู่ของมนุษยม์ นุษยจ์ ะตอ้ ง ตอ่ ส้แู ละปรับตวั ให้เข้ากบั ธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ มรอบตัวเอง มนษุ ย์จงึ ไม่อาจแยกไปอยู่โดดเด่ยี วหรือ อยู่โดยลาพังได้ ตอ้ งอยรู่ วมกัน พึง่ พาซงึ่ กนั และกันและต่อสกู่ บั ธรรมชาติเพอื่ ความอยู่รอดปลอดภยั ใน ชีวิตและทรพั ยส์ นิ เม่ืออยู่รวมกันเราเรียนว่า เป็นสงั คม เป็นครอบครวั เปน็ ชมุ ชนใหญข่ ึ้นต่างกใ็ ช้สทิ ธแิ ละ mการกระทาการตา่ งๆ ตามความตอ้ งการของตนการกระทาดงั กล่าวอาจล่วงเกนิ หรอื ละเมดิ สทิ ธิของบคุ คล oอ่นื ทีอ่ ยู่รวมกันในสังคมและชมุ ชนได้ ถา้ เปน็ สงั คมชุมชนใหญค่ วามขดั แยง้ จะสูงขน้ึ เช่น เสยี งอกึ ทกึ ครึกโครม ปล่อยปละละทงิ้ สง่ิ ของและสัตว์เลย้ี ง รบกวนกอ่ ความเดอื นรอ้ นราคาญแก่เพือ่ นบ้าน เป็นต้น .cยงิ่ เป็นสังคมหนาแน่น สถาบันทางสังคมจะตามมา ได้แก่ สถาบันสถานศึกษา สถาบันศาสนา สถาบัน เศรษฐกจิ สถาบันทางการเมือง การปกครอง มกี ารกระทบเร่ืองสิทธิ เสรภี าพ ผลกระทบเรอ่ื งอานาจ kเร่อื งผลประโยชน์และความไมเ่ ป็นธรรมตลอดจนเรือ่ งคณุ ธรรมจริยธรรมตามมา อาจถึงข้ันมกี ารใชก้ าลัง oประทุษร้าย ข่มเหง รงั แกผ้ทู อี่ อ่ นแอกวา่ หรือเอาทรัพย์สินของบคุ คลอื่นไปโดยมิชอบ จึงจาเป็นตอ้ งมี nการวางกฎเกณฑข์ ้นึ ใชบ้ งั คับในสงั คม เพือ่ ควบคุมความประพฤติของบุคคลในสงั คมใหอ้ ยใู่ นกรอบแห่ง ความสงบเรยี บร้อย nแนวทางปฏบิ ตั หิ รือกรอบแหง่ ความสงบเรยี บร้อยนี้ตอ่ มาเราเรียกกนั วา่ กฎเกณฑ์ข้อบงั คบั และ aกฎหมายตอ่ มาดงั คาสภุ าษติ ท่ีวา่ “ท่ใี ดมสี งั คม ทีน่ ้นั ตอ้ งมกี ฎหมาย” ob ท่ใี ดมสี ังคม www.kro ที่นนั้ ต้องมีกฎหมาย
กรอบที่ 1 ความหมายของกฎหมาย ความหมายของคาว่า กฎหมาย มาจากทฤษฎขี องนักปรัชญาทางตะวนั ตกหรอื ชาวยโุ รปในอดีต ได้วา่ แนวความคดิ ไวส้ าหรบั สรรพสิง่ ทเ่ี กดิ ขึ้นในยคุ ตอ่ ๆ มา ทเี่ กยี่ วกบั ธรรมชาติของมนษุ ยว์ า่ มีหลาย mมาแล้ว ดงั นี้ ระดับ คือ ต้งั แต่มคี วามเพ้อฝันถึงความดงี ามของมนษุ ยไ์ ปจนถงึ มคี วามเชื่อวา่ มนษุ ย์เป็นผทู้ เ่ี หน็ แกต่ วั oJean-Jacques Rousseau ( ซอง-ซาก รุสโซ : เหน็ แกป่ ระโยชน์สว่ นตนมาตงั้ แต่กาเนดิ ดงั ที่ปรากฏแนวคดิ นักปรัชญาชาวตะวนั ตกเม่ือ 300 ปกี วา่ .cและเปน็ คนดีมอี ิสรเสรี สะอาดเหมอื นผ้าขาว แตถ่ กู อารย ค.ศ. 1712-1778 ) มแี นวคดิ วา่ “มนุษยใ์ นสภาพสว่ นใหญ่ kThomas Hobbes (โทมสั ฮอบส์ : ค.ศ. 1588- noJean-Jacques Rousseau ธรรมและสังคมไทยเปลี่ยนแปลงไป ” 1679) มีแนวคดิ “มนุษยโ์ ดยธรรมชาติเป็นคนโหดรา้ ยเห็น แกต่ ัวและประโยชน์ส่วนตน จาเปน็ ตอ้ งมีองค์กรหรือรฐั ที่ nเขม็ แขง็ เขา้ มาควบคุม” aแนวคิด “มนุษย์เม่อื เกิดมาแลว้ ไมด่ ีไมเ่ ลวแต่เปน็ ตู้ทีว่ ่าง bเปล่าประสบการณ์ทาให้มนุษยเ์ ป็นอย่างทเ่ี ขาเปน็ (เป็น John Locke (จอหน์ ลอ็ ก : ค.ศ. 1632-17404)มี oThomas Hobbes ro ก่อให้เกิดแนวคดิ การควบคมุ พฤติกรรมของมนษุ ย์ ตงั้ แต่ อยา่ งทเี่ หน็ )” จากแนวคิดของนกั ปรัชญาชาวตะวันตกในอดีต .k บญั ญตั ิศัพท์คาวา่ กฎหมายไวด้ ังนี้ อดตี จนถงึ ปัจจุบันและไดม้ ีการกาหนดความหมายและ w กฎทีส่ ถาบนั หรอื ผู้ท่ีมีอานาจสงู สุดในรัฐตราขึ้น หรือท่ี wJohn Locke พจนานกุ รมฉบบั ราชบณั ฑิตยสถาน “กฎหมาย คอื เกิดข้ึนจากจารีตประเพณีอนั เปน็ ที่ยอมรับนับถือเพ่ือใช้ใน wภาพที่ 1 : นักปรชั ญาชาวตะวนั ตก ระหว่างบุคคลกับรัฐ” การบรหิ ารประเทศ เพ่ือใชบ้ ังคับบุคคลให้ปฏบิ ตั ิตามหรอื เพื่อกาหนดระเบยี บแห่งความสัมพนั ธ์ระหวา่ งบุคคลหรือ ทีม่ า : http://th.wikipedia.org/
พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมหลวงราชบุรีดเิ รกฤทธ์ิ ได้รบั การยกยอ่ งวา่ เปน็ พระบิดาแห่งกฎหมาย ไทยทรงอธิบาย “กฎหมาย คือ คาสัง่ ท้ังหลายของผ้ปู กครองว่าการแผน่ ดินตอ่ ราษฎรทง้ั หลายเมอ่ื ไมท่ า ตามแล้วตามธรรมดาต้องรับโทษ” ศาสตราจารย์หลวงจารูญเนตศิ าสตร์ (จารูญ โปษยานนท์) อธบิ ายว่า “กฎหมายได้แก่กฎข้อบังคบั วา่ ด้วยการปฏบิ ัติ ซึ่งผู้มีอานาจของประเทศได้บัญญัตขิ นึ้ และบังคบั ใหผ้ ู้ทอี่ ยใู่ นสังกัดของประเทศนั้นถือ ปฏบิ ตั ิตาม” จากแนวคดิ และเหตุผลตามความหมายท่ีบคุ คลสาคญั เปน็ ที่เคารพนับถือในทางปรชั ญาและ กฎหมายใหไ้ ว้จงึ สรุปไดด้ ังนี้ mสรุปความหมายของกฎหมาย คือ “กฎระเบียบ ขอ้ บังคบั ทส่ี ถาบันผูม้ อี านาจสูงสุดของประเทศ oตราข้นึ ใช้บงั คบั รวมท้ังกฎระเบียบขอ้ บังคบั ที่เกดิ จากจารตี ประเพณีท่ไี ดร้ บั การยอมรบั นับถือจากสังคม .cหรอื จากบุคคลทัว่ ไปที่อยูร่ วมกนั ในสังคมเพ่ือใช้กับบคุ คลทกุ คนในการบรหิ ารประเทศหากไม่ปฏบิ ัตติ าม อาจไดร้ บั โทษฐานตามฐานความผดิ น้ัน” w.kroobannokภาพท่ี 2 : พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมหลวงราชบรุ ดี ิเรกฤทธิ์ ww ทีม่ า : krumontree.com
แบบฝึกหัดกรอบท่ี 1 ความหมายของกฎหมาย คาชีแ้ จง : จงจบั คู่ขอ้ ทม่ี คี วามสัมพันธ์กัน (จานวน 5 ข้อ 5 คะแนน) ก. กรมพระยาดารงราชานภุ าพ mข. ศาสตราจารยห์ ลวงจารญู เนตศิ าสตร์ oค. ชอง-ชาก รสุ โซ ง. โทมัส ออบส์ .cจ. จอห์น ลอ็ ก ฉ. พจนานกุ รมฉบบั ราชบัณฑติ สถาน kช. พระเจา้ บรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรดี ิเรกฤทธ์ิ no............ 1. มนษุ ยใ์ นสภาพส่วนใหญ่แล้วเปน็ คนดมี ีอสิ รเสรี สะอาดเหมือนผา้ ขาว แตถ่ กู อารยธรรมและ สังคมทาใหเ้ ปล่ียนแปลงไป n............ 2. มนุษยโ์ ดยธรรมชาตเิ ป็นคนโหดร้าย เห็นแกต่ วั และประโยชนส์ ่วนตน จาเป็นต้องมอี งค์กรหรือ aรฐั ทเี่ ข้มแขง็ เข้ามาควบคมุ ............ 3. มนุษย์เมอ่ื เกดิ มาแลว้ ไม่ดีไมเ่ ลว แตเ่ ปน็ ต้ทู ี่วา่ งเปลา่ ประสบการณ์ทาใหม้ นุษยเ์ ป็นอยา่ งท่เี ขาเป็น b............ 4. กฎหมาย คือ กฎทส่ี ถาบันหรอื ผ้ทู ม่ี ีอานาจสูงสุดในรฐั ตราขน้ึ หรือท่เี กิดขนึ้ จากจารตี ประเพณี oอันเปน็ ทย่ี อมรับนบั ถอื เพ่อื ใชใ้ นการบริหารประเทศ เพ่อื ใชบ้ งั คับบคุ คลใหป้ ฏบิ ตั ิตาม หรอื roเพอ่ื กาหนดระเบยี บแหง่ ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งบคุ คลหรือระหวา่ งบคุ คลกบั รัฐ ............ 5. กฎหมาย คือ คาส่งั ทัง้ หลายของผู้ปกครองว่าการแผ่นดนิ ต่อราษฎรทั้งหลาย เมอื่ ไมท่ าตามแลว้ ตามธรรมดาตอ้ งรบั โทษ .k พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ w กรมหลวงราชบรุ ีดเิ รกฤทธ์ิ ได้รบั การยกย่องวา่ เปน็ ww พระบิดาแห่งกฎหมายไทย
เฉลยแบบฝึกหดั กรอบท่ี 1 ความหมายของกฎหมาย คาช้ีแจง : จงจับค่ขู ้อท่มี ีความสมั พนั ธก์ ัน (จานวน 5 ขอ้ 5 คะแนน) ก. กรมพระยาดารงราชานภุ าพ mข. ศาสตราจารย์หลวงจารญู เนตศิ าสตร์ oค. ชอง-ชาก รสุ โซ ง. โทมสั ออบส์ .cจ. จอหน์ ลอ็ ก ฉ. พจนานุกรมฉบบั ราชบณั ฑติ สถาน kช. พระเจ้าบรมวงศเ์ ธอ กรมหลวงราชบุรดี เิ รกฤทธิ์ no...ค... 1. มนษุ ยใ์ นสภาพส่วนใหญแ่ ล้วเปน็ คนดีมอี สิ รเสรี สะอาดเหมือนผ้าขาว แต่ถกู อารยธรรมและ สงั คมทาให้เปล่ยี นแปลงไป n...ง... 2. มนษุ ย์โดยธรรมชาตเิ ปน็ คนโหดร้าย เห็นแกต่ ัวและประโยชน์ส่วนตน จาเปน็ ตอ้ งมีองคก์ รหรือ aรัฐทเี่ ข้มแขง็ เขา้ มาควบคมุ ...จ... 3. มนษุ ย์เมอื่ เกดิ มาแล้วไม่ดีไม่เลว แตเ่ ป็นตทู้ วี่ ่างเปล่า ประสบการณท์ าให้มนษุ ยเ์ ปน็ อยา่ งทเี่ ขาเป็น b...ฉ... 4. กฎหมาย คือ กฎที่สถาบนั หรือผ้ทู ี่มีอานาจสูงสดุ ในรัฐตราขึน้ หรือท่ีเกดิ ข้ึนจากจารตี ประเพณี oอนั เปน็ ทย่ี อมรบั นับถือ เพ่ือใช้ในการบรหิ ารประเทศ เพ่ือใชบ้ ังคับบุคคลใหป้ ฏบิ ัติตาม หรือ roเพ่ือกาหนดระเบยี บแหง่ ความสัมพนั ธร์ ะหว่างบุคคลหรอื ระหว่างบคุ คลกับรัฐ ...ช... 5. กฎหมาย คือ คาส่งั ทัง้ หลายของผู้ปกครองวา่ การแผ่นดินต่อราษฎรทงั้ หลาย เมอ่ื ไม่ทาตามแล้ว ตามธรรมดาตอ้ งรบั โทษ .k ต่อไปเราไปเรียนความสาคัญ www ของกฎหมายกันเลยนะครบั
กรอบท่ี 2 ความสาคัญของกฎหมาย กฎหมายเป็นเครอ่ื งมอื ให้เกดิ ความเป็นระเบียบเรยี บร้อยและรกั ษาไว้ซ่งึ ประเพณวี ฒั นธรรมของ สงั คมเป็นเคร่อื งมือให้บคุ คลระมดั ระวงั ไม่กระทาผิดกฎระเบียบของสงั คมนอกจากน้ยี ังเปน็ ความรู้และ mตามสิทธติ นอยา่ งถูกตอ้ ง ดังนั้น กฎหมายจึงมีความสาคัญตอ่ ชีวติ มนุษย์หรอื ของบุคคลในสังคม สรุปได้ เครอื่ งมอื ของบุคคลอนื่ มใิ หถ้ ูกเอารดั เอาเปรียบเพราะความไม่ร้กู ฎหมายจากบคุ คลอื่นเป็นประโยชนใ์ น o4 ประการ คอื การตัดสินใจและการประกอบอาชพี รวมทงั้ เป็นประโยชนต์ อ่ การเมืองการปกครองรู้สทิ ธิ รู้หนา้ ท่ี ปฏิบัติ .cประเทศชาตทิ าใหบ้ ุคคลรถู้ งึ สิทธแิ ละหน้าทีส่ ามารถใชส้ ทิ ธิและทาหน้าทีโ่ ดยไม่ทาให้บุคคลอื่นในสังคม 1. เปน็ กฎเกณฑ์ควบคุมความประพฤตขิ องบุคคล กอ่ ใหเ้ กดิ ความสงบเรียบร้อยกับสงั คมและ kเดอื ดร้อนใหก้ บั เพ่อื นบ้านขา้ งเคยี งกรณเี ชน่ กฎหมายย่อมเข้ามาควบคมุ กระทานนั้ หรอื ควบคุมความ oประพฤติของบคุ คลมิให้กระทาความผดิ เชน่ ลักทรัพย์ ปล้นทรพั ย์ ฉ้อโกง ทาร้ายผู้อ่นื หรือฆ่าผู้อ่ืนโดย ต้องเดือดร้อน ไดแ้ ก่ บุคคลยอ่ มมีสทิ ธใิ นการประกอบอาชพี แต่อาชีพท่ีประกอบน้นั กอ่ ใหเ้ กิดความ nเจตนา เป็นตน้ เหลา่ น้ีเป็นความผิดกฎหมายอาญาผกู้ ระทาความผิดจะตอ้ งได้รับโทษ nคนเมื่อเกดิ มาและดารงชีวติ อยู่จนกระทั่งถงึ แกค่ วามตาย aยอ่ มเกยี่ วขอ้ งกบั กฎหมายท้ังสินนบั ตงั้ แตเ่ รมิ่ เป็นบคุ คลจน 2. เป็นกฎในการดาเนนิ ชวี ติ ของบคุ คล บคุ คลทุก bกลา่ วคือ เมอื่ คลอดออกจากครรภ์มารดาอยู่รอดเปน็ สภาพ oบุคคลแลว้ ก็จะตอ้ งมกี ารแจง้ เกดิ เมอ่ื มีอายเุ ข้าเกณฑ์จะตอ้ ง กระทงั้ ส้นิ สภาพกลายเป็นบคุ คล คือ ถงึ แกค่ วามตาย ro รับการศกึ ษาก็ตอ้ งเข้ารับการศึกษาตามภาคบังคบั ของ ภาพท่ี 3 : การดาเนินชวี ติ ของ กฎหมายและเมอื่ มอี ายคุ รบตามกาหนดจะตอ้ งทาบัตร ประจาตัวประชาชนหากเป็นชายจะต้องไปแสดงตนเพื่อ .kบุคคล ยอ่ มเก่ียวขอ้ งกับกฎหมาย ลงบญั ชีเป็นทหารกองเกนิ ณ อาเภอหรอื เขตในทอ้ งที่ ภมู ลิ าเนาของตน นอกจากน้ี หากมอี ายไุ มถ่ ึงเกณฑ์ยีส่ บิ ปีก็ ทม่ี า : krumontree.com w ยังมฐี านะเป็นผเู้ ยาว์ตอ้ งอยใู่ นความปกครองของผูป้ กครอง wกฎหมายการสรา้ งอาคารบ้านเรือนการเข้าอยแู่ ละยา้ ยออกจากภูมลิ าเนาตอ้ งมีการแจง้ ย้ายเขา้ และย้าย และถกู จากดั ในเร่อื งความสามารถในการทานติ ิกรรมตามกฎหมายการจะหมั้นหรือสมรสท่ีชอบดว้ ย wออกรวมทง้ั การประกอบอาชีพและทานิตกิ รรมจะต้องปฏิบัตติ ามแบบแห่งนิตกิ รรมหรอื ตามที่กฎหมาย กาหนดไว้ มฉิ ะนั้นจะทาใหน้ ิติกรรมน้ันตกเปน็ โมฆกรรมหรอื โมฆยี กรรมและสุดท้ายแห่งชีวิตเมอื่ บคุ คล ถงึ แกค่ วามตายกจ็ ะต้องใหญ้ าตหิ รอื บคุ คลท่ีมีชวี ิตอยู่แจง้ การตายต่อพนักงานเจ้าหนา้ ที่ตามท่กี ฎหมาย กาหนดไวด้ ว้ ยนคี่ อื กฎหมายทีม่ คี วามสาคญั ในการดาเนนิ ชีวติ ของบุคคล
3. แก้ปัญหาและสร้างความเป็นระเบยี บเรียบร้อยในสงั คม การเปน็ สงั คมและชมุ ชนหนาแนน่ ยอ่ มมปี ญั หาเกดิ ขนึ้ ตามมาอยา่ งหลีกเลีย่ งไม่ไดก้ ารแกป้ ัญหาและสร้างความเปน็ ระเบียบเรียบรอ้ ยใหก้ บั ชุมชนและสงั คมนับว่ามคี วามจาเปน็ อย่างยง่ิ สง่ิ ทจี่ ะกาหนดและแกไ้ ขไดค้ ือ กฎระเบยี บ ขอ้ บงั คับท่ีวาง และตกลงกนั ไว้ นนั้ คอื กฎหมายจะเป็นผแู้ กป้ ญั หาได้อยา่ งดีโดยปฏบิ ตั ิตามกฎหมายปญั หา คือ ใคร หนว่ ยงานใดเปน็ ผมู้ สี ทิ ธใิ นการชขี้ าด เม่ือชี้ขาดแล้วจะมกี ารบงั คบั หรลื งโทษผ้ฝู า่ ฝืนอย่างไร ระบบ ดงั กลา่ วจะดาเนินเขา้ มาสู่กระบวนการยตุ ิธรรม คือกฎหมายได้มอบอานาจใหแ้ ก่พนักงานเจา้ หน้าท่ที ี่เปน็ ผู้ช้ีขาดและบงั คบั ให้เป็นไปตามกฎหมายเพ่ือแก่ปัญหาขอ้ พพิ าทนาไปส่คู วามเป็นระเบยี บเรยี บร้อยและ ความสงบของสังคมองค์กรหรือสถาบันท่ีนาเข้าสกู่ ระบวนการยุตธิ รรมจะเร่ิมตั้งแตพ่ นักงานเจ้าหน้าที่ mฝ่ายตารวจพนักงานอยั การทนายความ ศาล ซ่งึ อาจเปน็ ศาลยุตธิ รรม ศาลปกครอง ศาลทหาร และ oสดุ ท้าย คือ เจา้ พนกั งานบังคบั คดแี ละพนกั งานเจา้ หนา้ ทข่ี องเรอื นจาส่งิ น้คี ือบทบาทหรอื ความสาคญั ของ กฎหมายในการแก้ปัญหาให้เกดิ ความสงบเรียบรอ้ ย .c4. เป็นหลกั ในการพัฒนาคุณภาพชวี ติ ของบคุ คลและสงั คม คาว่าเป็นหลักในการพัฒนา คุณภาพชวี ิตของบุคคลและสังคม หมายถงึ กฎหมายมบี ทบญั ญัตทิ ีเ่ ป็นหลกั และเปน็ แนวทางการให้ kบุคคล ประชาชนหรือสังคมเดินตามน้ันเพราะมั่นใจว่านั่นเปน็ การกระทาทถี่ กู ต้องและไดร้ ับการรองรบั oจากรัฐทกุ คนและสังคมยอมรบั เป็นหนทางในการพัฒนาคณุ ภาพชีวติ ท่ีมองเห็นอนาคตหลักของกฎหมาย nในการพัฒนาคณุ ภาพชวี ิต คอื อานาจอธิปไตย ได้แก่ อานาจนิตบิ ัญญัติ อานาจบริหารและอานาจตลุ า การ ไดบ้ ัญญัติไวช้ ดั แจง้ ว่ากิจกรรมใดเป็นอานาจของฝา่ ยใด องค์กรและสถาบนั ต่างๆ ก็จะเดินตามหลัก nของกฎหมายนน้ั ไมว่ า่ จะเปน็ สถาบนั ทางการเมอื ง สถาบนั ทางเศรษฐกิจ สถาบันทางสังคมหรือสถาบัน aศาสนา อาทิ กฎหมายวางหลกั เกณฑ์ว่าให้บุคคลมสี ทิ ธิได้รับการศึกษาอบรมข้ันพ้นื ฐานไมน่ อ้ ยกว่า 12 bปี โดยรัฐเปน็ ผูจ้ ดั การศกึ ษาให้แก่ประชาชนอยา่ งทัว่ ถึกหลักเกณฑน์ ีเ้ ป็นหลกั ประกนั วา่ ประชาชนชาว ไทยทุกคนมสี ทิ ธิเขา้ รบั การศึกษาอบรมขั้นพ้ืนฐานไมน่ อ้ ยกวา่ 12 ปี คือถึงช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 6 หรือ oบุคคลผ้มู อี ายุตง้ั แต่ 60 ปี บริบูรณ์ขึ้นไปและไม่มีรายได้พอเพียงต่อการเลีย้ งชีพ รัฐจะตอ้ งให้การ roช่วยเหลือเหลา่ นค้ี อื หลกั ประกันคณุ ภาพชวี ิตหรอื หลักในการพฒั นาคุณภาพชวี ิตบคุ คลในสังคมตาม www.kกฎหมาย ภาพท่ี 4 : ทกุ คนมีสิทธิเข้ารับการศึกษาอบรมข้ันพนื้ ฐานไม่นอ้ ย กว่า 12 ปี ทีม่ า : krumontree.com
แบบฝกึ หดั กรอบท่ี 2 ความสาคัญของกฎหมาย คาชีแ้ จง : จงเขียนเครอ่ื งหมาย หนา้ ข้อความที่ถกู และเครอ่ื งหมาย หน้าข้อความทผ่ี ิด (จานวน 5 ข้อ 5 คะแนน) ............ 1. กฎหมายเปน็ เครือ่ งมอื ให้เกดิ ความเป็นระเบยี บเรียบร้อย และรักษาไวซ้ ง่ึ ประเพณี mวัฒนธรรมของสงั คม เปน็ เคร่ืองมือให้บคุ คลระมัดระวงั ไมก่ ระทาผดิ กฎระเบยี บของ oสังคม .c............ 2. กฎหมายเป็นกฎเกณฑ์ควบคุมความประพฤติของบคุ คล อาทเิ ช่น บคุ คลสามารถที่ จะประกอบอาชีพได้เฉพาะอาชีพทบี่ รรพบรุ ษุ ได้ทาสบื ตอ่ กนั มา k............ 3. กฎหมายเปน็ กฎในการดาเนนิ ชวี ิตของบคุ คล อาทเิ ชน่ เมอ่ื คลอดออกจากครรภ์ มารดาอย่รู อดเปน็ สภาพบคุ คลแลว้ กจ็ ะตอ้ งมีการแจง้ เกิด เมอื่ มีอายุเข้าเกณฑจ์ ะตอ้ ง oรบั การศกึ ษา n............ 4. กฎหมายเป็นหลกั ในการพฒั นาคุณภาพชวี ติ ของบุคคลและสงั คม โดยผา่ นทาง nหลักการอานาจอธปิ ไตย อนั ไดแ้ ก่ อานาจนิติบญั ญัติ อานาจบรหิ าร อานาจเอกชน ............ 5. กฎหมายเปน็ หลกั ในการแก้ปัญหาและสร้างความเป็นระเบยี บเรียบรอ้ ยให้สังคม roobaอยา่ แอบดเู ฉลยนะคะ่ www.k ตอ้ งซอ่ื สตั ยต์ อ่ ตนเอง
เฉลยแบบฝึกหดั กรอบท่ี 2 ความสาคญั ของกฎหมาย คาช้แี จง : จงเขยี นเคร่ืองหมาย หนา้ ขอ้ ความท่ถี กู และเครื่องหมาย หน้าข้อความท่ผี ดิ (จานวน 5 ข้อ 5 คะแนน) 1. กฎหมายเป็นเครื่องมือให้เกิดความเปน็ ระเบียบเรียบรอ้ ย และรักษาไว้ซงึ่ ประเพณี mวัฒนธรรมของสงั คม เปน็ เครื่องมอื ใหบ้ คุ คลระมดั ระวงั ไม่กระทาผดิ กฎระเบียบของ oสงั คม .c 2. กฎหมายเปน็ กฎเกณฑ์ควบคุมความประพฤตขิ องบุคคล อาทิเช่น บุคคลสามารถท่ี จะประกอบอาชีพได้เฉพาะอาชีพท่ีบรรพบุรุษได้ทาสบื ตอ่ กันมา k 3. กฎหมายเปน็ กฎในการดาเนนิ ชีวติ ของบคุ คล อาทเิ ชน่ เมอ่ื คลอดออกจากครรภ์ มารดาอยู่รอดเป็นสภาพบุคคลแล้ว กจ็ ะตอ้ งมีการแจง้ เกิด เมอื่ มอี ายเุ ขา้ เกณฑจ์ ะตอ้ ง oรบั การศกึ ษา n 4. กฎหมายเป็นหลักในการพฒั นาคณุ ภาพชีวิตของบุคคลและสังคม โดยผ่านทาง nหลักการอานาจอธปิ ไตย อนั ได้แก่ อานาจนติ ิบัญญตั ิ อานาจบริหาร อานาจเอกชน 5. กฎหมายเป็นหลกั ในการแกป้ ัญหาและสรา้ งความเป็นระเบยี บเรยี บร้อยใหส้ งั คม obaกฎหมายเป็นหลกั ro ในการแกป้ ัญหาและ สร้างความเปน็ ระเบียบ www.k เรียบร้อยให้สังคม
กรอบท่ี 3 ทีม่ าของกฎหมาย คาวา่ ท่มี าของกฎหมาย ย่อมหมายถึงคาวา่ กฎหมายทเี่ กดิ ข้ึนได้อยา่ งไรนกั ปรัชญาทาง พฤตกิ รรมของมนุษย์ได้ศึกษาธรรมชาติของมนษุ ยร์ วมทง้ั นักกฎหมายในอดตี และปจั จบุ นั พยายามหา เหตผุ ลอธบิ ายให้เข้าใจว่า มนุษย์เราเริ่มเรยี นร้กู ฎหมายตัง้ แตเ่ มื่อใดและมีววิ ฒั นาการมาอย่างไรความคดิ น้ีต่างก็แปลกแยกกันออกไป mกลมุ่ ท่ีมีแนวคิดสรา้ งกฎหมายในอดตี o1. เกดิ จากกลุ่มท่มี ีแนวคดิ แบบธรรมชาติ กล่มุ น้ีมแี นวคิดว่า กฎหมายที่แทจ้ รงิ มีท่มี าจาก ธรรมชาติ คาว่าธรรมชาติ หมายถึง มาจากศาสนา ศลี ธรรม ขนบธรรมเนยี มประเพณแี ละวฒั นธรรม .cสงั คมเปน็ จุดเร่มิ ตน้ ของกฎหมายกลุม่ น้มี ีความคดิ แบบธรรมชาติมีความเช่ือว่ากฎระเบียบข้อบังคบั ใดขดั ตอ่ เหตผุ ลและศีลธรรมย่อมไมม่ ผี ลบงั คับทางกฎหมาย กฎหมายจงึ เปน็ สิง่ ที่ควรคูอ่ ยูก่ ับสงั คม นัน่ คอื kสงั คมเปน็ ผู้สรา้ งกฎหมายและกฎหมายจะเปน็ ผ้สู ร้างสังคมต่อไป จงึ อาจพดู ไดว้ ่ามสี ังคมทไ่ี หนมี oกฎหมายท่ีนนั่ สมาชกิ ของสงั คมต้องปฏบิ ัติตามกฎเกณฑท์ ีก่ าหนดและเปน็ ธรรมเนยี มปฏิบัตทิ ีส่ ังคมต้อง nยึดถอื แนวคดิ นเ้ี ป็นแนวคดิ ของรสุ โซและจอห์น ลอ็ ก 2. เกดิ จากกลมุ่ ทีม่ ีแนวคิดแบบฝา่ ยบา้ นเมือง กลุ่มนี้มีแนวคดิ วา่ ท่ีมาหรือบอ่ เกิดของกฎหมาย nต้องเกิดจากอานาจบา้ นเมืองและมองเห็นว่าอานาจทางการเมืองเทา่ นั้นทที่ าให้เกดิ กฎหมายไดอ้ านาจ aฝ่ายบา้ นเมอื งหรอื ทางการเมืองนีไ้ ดแ้ ก่ รฏั ฐาธปิ ตั ย์ ซ่ึงเดมิ คอื พระมหากษัตรยิ ์ต่อมากลายเป็นรูปของ รัฐสภาแนวคดิ แบบฝา่ ยบา้ นเมืองนถ้ี อื ว่าอานาจน่ันแหละเปน็ ธรรม (Might is right) แนวคิดน้ี เช่น โทมัส bฮอบส์ o3. เกิดจากกลุ่มผูร้ ู้หรือเมธี หมายถงึ ผู้มีศลิ ปวทิ ยาต่าง ๆ อาจเปน็ ผู้ใหก้ าเนิดได้ท้งั ทไี่ ม่ได้ roปกครองบ้านเมอื งหรอื เป็นรัฏฐาธปิ ัตย์ เชน่ สมณะ พราหมณ์นักนติ ศิ าสตร์และคาพพิ ากษาของศาลย่อม จดั อยใู่ นกลุม่ ของผรู้ ูห้ รอื เมธีไดใ้ หแ้ นวคดิ และทัศนคติวางไวเ้ ป็นบรรทดั ฐานทาใหเ้ กดิ เป็นกฎหมายขนึ้ .kและปฏิบตั ติ อ่ กนั มา 4. เกดิ จากกลมุ่ ทมี่ ีความคดิ ทางกฎหมายสังคมนยิ ม ความคิดน้ียึดเอาเศรษฐกิจสังคมและ การเมอื งเป็นจักรกลสาคญั ท่ีทาใหเ้ กิดกฎหมาย ฉะน้นั ถ้าเศรษฐกจิ และการเมอื งเปลยี่ นแปลงหรอื รวม wศูนย์กฎหมายยอ่ มเปล่ยี นแปลงตามไปด้วย w สงั คมเปน็ ผู้สรา้ งกฎหมาย w และกฎหมายจะเป็นผูส้ รา้ ง สงั คมต่อไป
ท่มี าของกฎหมายไทย ประเทศไทยโดยเช้อื พระวงศ์และเจา้ นายชั้นสงู ได้ศึกษากฎหมายจากต่างประเทศทง้ั ที่เปน็ ลาย ลกั ษณ์อกั ษรและไมเ่ ป็นลายลกั ษณอ์ กั ษร ปจั จุบนั ประเทศไทยใชก้ ฎหมายลายลักษณ์อกั ษร (Civil Law) คือ ใช้ประมวลกฎหมายเป็นหลกั เช่น ประมวลกฎหมายอาญา ประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชย์ ประมวลกฎหมายวิธพี จิ ารณาความแพง่ ประมวลกฎหมายท่ีดิน ประมวลกฎหมายรัษฎากร เปน็ ตน้ อยา่ งไรก็ตามกฎหมายไทยนอกจากยึดกฎหมายทเ่ี ปน็ ลายลักษณอ์ ักษรแล้ว ทางดา้ นกฎหมายแพง่ และ พาณิชย์ อนั เปน็ กฎหมายเอกชนยงั บัญญัติให้กฎหมายไทยนาหลัก จารีตประเพณีแหง่ ทอ้ งถิ่นของคน ไทย รวมทง้ั หลกั กฎหมายทั่วไปมาใชไ้ ด้ดว้ ยซงึ่ บัญญัติไว้ดั้งน้ี “กฎหมายน้ันตอ้ งใชใ้ นบรรดากรณีซ่ึง mตอ้ งดว้ ยบทบัญญตั ใิ ด ๆ แหง่ กฎหมายตามตัวอกั ษรหรอื ตามความมุ่งหมายของบทบัญญัตินนั้ ๆ เมื่อไม่ oมีบทกฎหมายท่จี ะยกมาปรับคดีได้ ให้ วินิจฉยั คดี น้นั ตามจารีตประเพณแี หง่ ท้องถ่นิ ถ้าไมม่ ีจารีต .cประเพณีเชน่ ว่านัน้ ใหว้ ินิจฉัยคดอี าศยั เปรียบเทยี บบทกฎหมายทใ่ี กลเ้ คยี งอย่างยง่ิ และถา้ กฎหมาย เช่นนัน้ กไ็ มม่ ดี ว้ ย ใหว้ ินจิ ฉยั ตามหลกั กฎหมายทั่วไป” roobannokภาพที่ 5 : พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หัวภูมพิ ลอดลุ ยเดช ทรงลงพระปรมาภิไธยใน รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศกั ราช 2550 เมือ่ วนั ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2550 www.kที่มา : http://th.wikipedia.org
แบบฝกึ หดั กรอบที่ 3 ทีม่ าของกฎหมาย คาชแ้ี จง : จงเติมคาลงในช่องว่างต่อไปนใ้ี หถ้ ูกตอ้ ง (จานวน 5 ข้อ 5 คะแนน) ประเทศไทยโดยเชอื้ พระวงศแ์ ละเจา้ นายชัน้ สูงไดศ้ กึ ษากฎหมายจากต่างประเทศทง้ั ที่เป็นลาย mลักษณ์อกั ษรและไม่เป็นลายลกั ษณ์อักษร ปัจจุบันประเทศไทยใช้กฎหมาย .......................................... o(Civil Law) คือ ใช้ ................................ เป็นหลัก เช่น ประมวลกฎหมายอาญา ประมวลกฎหมายแพง่ และพาณชิ ย์ ประมวลกฎหมายวธิ ีพิจารณาความแพ่ง ประมวลกฎหมายทด่ี นิ ประมวลกฎหมายรัษฎากร .cเปน็ ต้นอย่างไรก็ตามกฎหมายไทยนอกจากยึดกฎหมายท่เี ป็นลายลกั ษณ์อักษรแลว้ ทางด้านกฎหมาย .......................... อันเป็นกฎหมายเอกชนยังบญั ญัติใหก้ ฎหมายไทยนาหลัก ........................................ kของคนไทย รวมท้งั หลักกฎหมายท่วั ไปมาใช้ได้ดว้ ยซึ่งบัญญัตไิ ว้ดงั้ น้ี “กฎหมายนั้นต้องใชใ้ นบรรดา oกรณซี ่งึ ต้องด้วยบทบญั ญตั ใิ ด ๆ แห่งกฎหมายตามตัวอักษรหรอื ตามความมุ่งหมายของบทบญั ญัตนิ นั้ ๆ nเมือ่ ไมม่ บี ทกฎหมายท่ีจะยกมาปรับคดีได้ ให้ ....................... นั้นตามจารีตประเพณีแห่งท้องถิ่นถ้าไม่มี จารีตประเพณีเชน่ วา่ นน้ั ใหว้ ินจิ ฉยั คดอี าศยั เปรยี บเทยี บบทกฎหมายทีใ่ กลเ้ คยี งอยา่ งย่งิ และถา้ กฎหมาย nเชน่ น้ันกไ็ มม่ ดี ว้ ย ใหว้ นิ จิ ฉัยตามหลกั กฎหมายทว่ั ไป” baสมาชกิ ของสงั คมต้องปฏบิ ัติ o ตามกฎเกณฑท์ ่ีกาหนดและ เป็นธรรมเนยี มปฏิบัติท่ีสงั คม www.kro ตอ้ งยดึ ถือ
เฉลยแบบฝึกหัดกรอบท่ี 3 ทมี่ าของกฎหมาย คาชแ้ี จง : จงเตมิ คาลงในช่องว่างตอ่ ไปน้ใี หถ้ ูกต้อง (จานวน 5 ข้อ 5 คะแนน) ประเทศไทยโดยเช้ือพระวงศแ์ ละเจา้ นายช้ันสงู ได้ศึกษากฎหมายจากต่างประเทศทั้งท่ีเปน็ ลาย mลกั ษณอ์ ักษรและไม่เป็นลายลกั ษณอ์ กั ษร ปจั จบุ ันประเทศไทยใชก้ ฎหมาย ลายลกั ษณอ์ ักษร o(Civil Law) คือ ใช้ ประมวลกฎหมาย เปน็ หลัก เชน่ ประมวลกฎหมายอาญา ประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณชิ ย์ ประมวลกฎหมายวธิ พี จิ ารณาความแพง่ ประมวลกฎหมายทด่ี ิน ประมวลกฎหมายรษั ฎากร .cเป็นต้นอยา่ งไรก็ตามกฎหมายไทยนอกจากยึดกฎหมายท่เี ปน็ ลายลกั ษณ์อกั ษรแลว้ ทางดา้ นกฎหมาย แพง่ และพาณชิ ย์ อันเปน็ กฎหมายเอกชนยังบญั ญัตใิ หก้ ฎหมายไทยนาหลกั จารตี ประเพณแี หง่ ท้องถิ่น kของคนไทย รวมทงั้ หลักกฎหมายทั่วไปมาใชไ้ ดด้ ้วยซงึ่ บัญญัติไวด้ งั้ น้ี “กฎหมายนั้นต้องใช้ในบรรดา oกรณีซงึ่ ตอ้ งดว้ ยบทบญั ญัติใด ๆ แหง่ กฎหมายตามตัวอักษรหรอื ตามความมุ่งหมายของบทบญั ญัตนิ ั้น ๆ nเมื่อไม่มบี ทกฎหมายท่จี ะยกมาปรับคดไี ด้ ให้ วินจิ ฉัยคดี นน้ั ตามจารีตประเพณแี หง่ ท้องถนิ่ ถา้ ไมม่ ี จารีตประเพณีเช่นว่านนั้ ให้วนิ จิ ฉยั คดอี าศยั เปรียบเทยี บบทกฎหมายท่ีใกล้เคียงอย่างย่ิงและถ้ากฎหมาย nเชน่ นน้ั ก็ไม่มีด้วย ใหว้ นิ ิจฉัยตามหลกั กฎหมายท่วั ไป” baปจั จุบันประเทศไทยใช้ o กฎหมายลายลกั ษณ์อักษร (Civil Law) คือ ใชป้ ระมวล www.kro กฎหมายเปน็ หลัก
กรอบท่ี 4 ระบบกฎหมายปจั จุบนั จากแนวคดิ นักกฎหมาย 4 กลมุ่ ในอดีต ทาใหเ้ กิดระบบกฎหมายขึน้ เป็น 2 ระบบใหญ่ คอื ระบบ กฎหมายไม่เป็นลายลกั ษณ์อักษรและระบบกฎหมายลายลกั ษณอ์ ักษร 1. ระบบกฎหมายไมเ่ ปน็ ลายลกั ษณอ์ ักษร ภาษาองั กฤษเรียกวา่ คอมมอนลอร์ (Common Law) เป็นกฎหมายทย่ี ึดถือเอาจารตี ประเพณีและคาพิพากษาของศาลท่ผี ่านมาเป็นทีม่ าของกฎหมาย mบางครัง้ เรียกวา่ กฎหมายจารีตประเพณี โดยไมไ่ ดจ้ ดั ทาหรอื บนั ทึกเป็นตวั บทกฎหมายประเทศทใ่ี ช้ oกฎหมายไมเ่ ป็นลายลกั ษณ์อักษร คือ ประเทศอังกฤษ ออสเตรเลยี นิวซีแลนดแ์ ละประเทศท่เี คยอยู่ใน เครือจักรภพขององั กฤษ .c2. ระบบกฎหมายเปน็ ลายลกั ษณ์อักษร ภาษาอังกฤษเรยี กว่า ซวี ิลลอว์ (Civil Law) เป็น kกฎหมายท่มี ขี ัน้ ตอนในการจัดทาและมกี ารบันทึกไว้เปน็ ลายลกั ษณ์อกั ษรเป็นหมวดหมกู่ ฎหมายนพ้ี ฒั นา มาจากกฎหมายชาวโรมันท่ีอาศยั อยูใ่ นกรุงโรม กฎหมายจะบญั ญตั ไิ ว้เปน็ ลายลกั ษณ์อกั ษรในลกั ษณะตวั oบท ผูพ้ พิ ากษาเป็นเพยี งผูใ้ ช้กฎหมายนาเอาตวั กฎหมายมาปรบั กบั ความผิดแลว้ ตัดสนิ ความ พิพากษา nความผดิ ไปตามตัวบทกฎหมายที่กาหนดและบญั ญัตไิ วเ้ ปน็ ลายลักษณอ์ ักษร กฎหมายซีวิลลอวจ์ ึงร้จู กั กันในอกี ช่อื หน่งึ ว่า กฎหมายประมวล (Code Law) คอื นามารวมประมวลกันไวเ้ ป็นหมวดหม่บู างทีก็ nเรียกว่า กฎหมายลายลกั ษณอ์ กั ษร (Written Law) ประเทศทีใ่ ชก้ ฎหมายลายลกั ษณ์อักษรหรอื ซวี ลิ ลอว์ aเช่น ประเทศฝรั่งเศส เยอรมนี ญป่ี นุ่ สวติ เซอร์แลนด์ อิตาลี สเปนและประเทศไทย เปน็ ต้น www.kroobภาพที่ 6 : แผนทีแ่ สดงประเทศทีใ่ ช้กฎหมายแบบ Civil Law ทมี่ า : http://th.wikipedia.org
แบบฝึกหดั กรอบท่ี 4 ระบบกฎหมายปจั จุบนั คาชแี้ จง : จงตอบคาถามต่อไปนี้ (จานวน 5 ขอ้ 5 คะแนน) 1. ปัจจุบันระบบกฎหมายทใี่ ชอ้ ยมู่ ี .............. ระบบ คอื m1.1 ........................................................................................................................................ o1.2 ........................................................................................................................................ .c2. ระบบกฎหมายไม่เปน็ ลายลักษณ์อกั ษร (Common Law) เป็นกฎหมายทม่ี ีลักษณะเป็น..................... ....................................................................................................................................................... k3. ระบบกฎหมายเป็นลายลักษณอ์ ักษร (Civil Law) เปน็ กฎหมายทม่ี ลี กั ษณะเป็น ................................. o....................................................................................................................................................... 4. ประเทศทใ่ี ช้ระบบกฎหมายไม่เป็นลายลกั ษณอ์ กั ษร (Common Law) คอื ......................................... n....................................................................................................................................................... n5. ประเทศทใี่ ช้ระบบกฎหมายเปน็ ลายลกั ษณ์อกั ษร (Civil Law) คอื ...................................................... ....................................................................................................................................................... obaแบบฝกึ หดั แค่นงี้ ่าย ro นดิ เดยี ว เพราะฉะนนั้ www.k อย่าลอกกันนะครับ
เฉลยแบบฝกึ หดั กรอบท่ี 4 ระบบกฎหมายปจั จุบนั คาช้แี จง : จงตอบคาถามต่อไปนี้ (จานวน 5 ข้อ 5 คะแนน) 1. ปัจจุบันระบบกฎหมายที่ใชอ้ ย่มู ี 2 ระบบ คือ m1.1 ระบบกฎหมายไมเ่ ปน็ ลายลกั ษณอ์ ักษร (Common Law) o1.2 ระบบกฎหมายเปน็ ลายลักษณอ์ ักษร (Civil Law) .c2. ระบบกฎหมายไม่เปน็ ลายลกั ษณอ์ กั ษร (Common Law) เปน็ กฎหมายท่ีมีลกั ษณะเปน็ กฎหมายที่ ยึดถอื เอาจารตี ประเพณีและคาพพิ ากษาของศาลท่ีผ่านมามาเป็นทีม่ าของกฎหมาย k3. ระบบกฎหมายเป็นลายลกั ษณ์อกั ษร (Civil Law) เป็นกฎหมายทม่ี ีลักษณะเป็น กฎหมายทีม่ ขี ั้นตอน oในการจดั ทาและมีการบนั ทึกไว้เปน็ ลายลักษณเ์ ปน็ หมวดหมู่ 4. ประเทศทใ่ี ช้ระบบกฎหมายไม่เป็นลายลักษณ์อกั ษร (Common Law) คือ ประเทศองั กฤษ nออสเตรเลยี นวิ ซีแลนด์ และประเทศทเ่ี คยอยู่ในเครือจักรภพของอังกฤษ n5. ประเทศทใ่ี ช้ระบบกฎหมายเป็นลายลักษณอ์ ักษร (Civil Law) คอื ประเทศฝรง่ั เศส เยอรมนี ญปี่ ่นุ aสวิตเซอร์แลนด์ อิตาลี สเปน และไทย เป็นตน้ ob ต่อไปเราไปศกึ ษา ro เรอื่ ง ลักษณะของกฎหมาย www.k กนั ตอ่ เลยนะครับ
กรอบที่ 5 ลักษณะของกฎหมาย คาว่าลักษณะของกฎหมาย หมายถึง บรรดากฎหมาย ระเบยี บ ขอ้ บังคบั ซ่งึ ออกมาหรือกาหนด เปน็ แนวทางใหบ้ คุ คลในสังคม ชมุ ชนและประชาชนของประเทศปฏิบตั ิ โดยจะตอ้ งมีลักษณะอย่างไร กฎหมายท่ีมคี วามสาคญั และศกั ดส์ิ ทิ ธิ์ทาใหบ้ ุคคลทุกคนยอมรบั และปฏิบัติตามนนั้ ควรจะมาจากท่ีใด เมอ่ื บญั ญัติออกใช้บังคับและไมป่ ฏบิ ตั ติ ามผลจะเปน็ อย่างไร น่ีคอื ลักษณะสาคัญท่ีจะตอ้ งนามาพจิ ารณาใน mการตรากฎหมายออกใชบ้ งั คบั oกฎหมายตอ้ งมาจากรฏั ฐาธปิ ัตย์ กฎหมายต้องมาจากรัฏฐาธิปตั ย์ หมายความวา่ ผู้ตราหรือออกกฎหมายมาใช้บังคบั ต่อบุคคล .cของรฐั ตอ้ งเปน็ รัฏฐาธิปตั ย์ คอื เป็นประเทศหรอื เป็นรฐั ทม่ี ีเอกราชมีอานาจรัฐในอดีตผูม้ ีอานาจอธิปไตย ของตนเอง ไม่เป็นอาณานคิ มหรอื เมืองข้ึนของประเทศใดคอื ต้องเปน็ ผมู้ อี านาจรฐั ในอดตี ผมู้ ีอานาจรัฐ kอาจเป็นบคุ คล คือ องค์พระมหากษัตรยิ ห์ รอื เปน็ คณะบคุ คล เช่น คณะปฏวิ ตั ิ คณะปฏริ ูปการปกครอง oหรอื รฐั ประหารหรอื ในฐานะรัฐสภาโดยฝ่ายนติ ิบัญญตั ขิ องรฐั เปน็ ฝ่ายบัญญัตกิ ฎหมายออกมาใชบ้ งั คับ nผ่านขนั้ ตอนการพิจารณากฎหมายตามรูปแบบของรับสภาผ้ทู ี่ออกกฎหมายหรือตรากฎหมายออกใช้ บงั คบั ถอื ว่าเปน็ อานาจมาจากรัฏฐาธิปัตย์ nเป็นคาสง่ั หรอื ข้อบังคับที่ใช้ไดท้ ว่ั ไป aหมายความว่า กฎหมายเปน็ ข้อบัญญตั ทิ บี่ งั คับให้ทกุ คนโดยทว่ั ไปต้องปฏิบัติจามหากฝ่าฝืน อาจไดร้ บั โทษ คาสัง่ หรอื ข้อบงั คบั ตอ้ งใชบ้ งั คับทกุ สถานท่ีและแกบ่ คุ คลทุกคนโดยเสมอภาคลักษณะหรอื bประเภทของกฎหมายนน้ั มีหลายรปู แบบหรอื หลายประเภท กฎหมายางประเภทเป็นการใหส้ ิทธิ เช่น oกฎหมายแพ่งและพาณชิ ย์มาตรา 1308 บัญญตั วิ ่า “ทีด่ ินแปลงใดเกดิ ท่งี อก ริมตล่ิงทีง่ อกย่อมเป็น roทรัพยส์ ินของเจา้ ของที่ดินแปลงนั้น” หรอื กฎหมายบางประเภทเป็นข้อกาหนดหรอื ขอ้ ห้ามว่า การกระทา ใดเปน็ ความผดิ จะตอ้ งไดร้ ับโทษ เชน่ กฎหมายอาญามาตรา 295 บัญญตั วิ า่ “ผู้ใดทาร้ายผอู้ ื่นจนเปน็ .kเหตใุ หเ้ กิดอนั ตรายแก่กายและจติ ใจของผ้อู ื่นนัน้ ผนู้ ้ันกระทาผดิ ฐานทารา้ ยรา่ งกาย ตอ้ งระวางโทษจาคกุ ไม่เกินสองปหี รอื ปรับไมเ่ กิน 4,000 บาท หรือท้งั จาทัง้ ปรบั ” คาส่ังหรือข้อห้ามหรือสิทธิของบคุ คลตามที่ กฎหมายบัญญตั ิไว้ สามารถบังคบั ใช้กบั บุคคลทุกคนโดยท่วั ไป wเปน็ ขอ้ บงั คบั ทใี่ ชไ้ ดเ้ สมอไปจนกวา่ จะยกเลกิ หรอื แก้ไขเปลยี่ นแปลง หมายความว่า เมือ่ มกี ารประกาศใช้กฎหมายฉบับใดฉบบั หน่ึงออกมากฎหมายฉบับนน้ั ย่อมมี wผลใชบ้ ังคับตลอดไปจนกว่าจะกฎหมายฉบับใหมซ่ ึง่ มีศกั ดเ์ิ ทา่ เทียมกนั หรือสงู กว่าใหย้ กเลิกหรอื แก้ไข wฉบบั นน้ั หากไมม่ ีกฎหมายฉบบั ดายกเลิกหรือแก้ไขก็จะมผี ลให้กฎหมายฉบับนน้ั มผี ลใช้บงั คบั เสมอไป หรือตลอดไป
กฎหมายเปน็ ข้อบังคับทต่ี อ้ งปฏิบัตติ าม หมายความว่า กฎหมายทกุ ฉบบั ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายในทางแพง่ หรือทางอาญาเปน็ ข้อบงั คับ ใหต้ อ้ งปฏิบตั ติ ามหากไม่ปฏิบัติตามจะมีผลกระทบในเรื่องของส่วนตนในทางแพง่ และอาจจะมผี ลกระทบ ทัง้ สว่ นตนและส่วนรวมหากเป็นกรณีทางอาญาแมบ้ างกรณที ผี่ ู้ปฎิบตั อิ าจไมเ่ หน็ ดว้ ยก็จะปฏเิ สธไม่ได้ เชน่ กาหนดใหผ้ ูม้ รี ายไดต้ ้องชาระภาษีบคุ คลธรรมดาทุกปหี รือกาหนดวา่ บคุ คลจะอา้ งว่าไมร่ ู้กฎหมาย มไิ ด้ทง้ั ๆ ท่ีตนเองไมเ่ คยไดศ้ กึ ษาหรือไมไ่ ดร้ ับทราบประกาศของทางราชการ คอื พระราชกฤษฎีกาแต่ อยา่ งใด เป็นต้น กฎหมายต้องมสี ภาพบังคับ mขอ้ ความน้ตี ่อเนอ่ื งจากขอ้ ทวี่ า่ กฎหมายเป็นข้อบงั คบที่ต้องปฏิบัติตามหากบุคคลนน้ั รแู้ ละว่ามี oข้อบังคบั ตามกฎหมายให้ปฏิบตั แิ ต่ไมย่ อมปฏิบตั ิหรอื ปฏิบตั ไิ มถ่ ูกตอ้ งหรืองดเว้นการปฏิบัติจนกอ่ ใหเ้ กิด ความเสยี หายแก่บคุ คลอน่ื บคุ คลผู้น้นั ยอ่ มไดร้ ับผลจากการท่ีไมป่ ฏิบัตนิ นั้ ผลตอบแทนท่ีเปน็ สภาพบงั คบั .cนี้ คอื ต้องรบั โทษน่นั เอง เช่น กรณตี อ้ งชาระภาษีเงนิ ได้บคุ คลธรรมดาแต่ไมย่ อมชาระหรือชาระเพยี ง บางสว่ นทคี่ วรจะตอ้ งชาระผนู้ น่ั ตอ้ งรบั โทษปรบั หรอื ถกู ยดึ ทรพั ย์สนิ ขายทอดตลาดเพ่ือชาระภาษีหรือเม่ือ kมกี ระทาผิดแลว้ อา้ งวา่ ไมร่ กู้ ฎหมายบุคคลนั้นจะตอ้ งรับผลจากสภาพบังคับของกฎหมาย คอื อาจมีโทษ oปรบั หรือจาคุกหรทื ัง้ จาคกุ และปรับ เปน็ ต้น nอยา่ งไรกต็ าม คาว่ามีสภาพบังคบั มิไดห้ มายถึงว่าบังคบั ใหต้ ้องรับโทษอยา่ งเดยี ว แตย่ งั หมายถงึ บังคับเพ่ือปอ้ งกนั มิใหก้ ระทาในสง่ิ ที่ไมถ่ กู ตอ้ งและบงั คับในลักษณะสง่ เสรมิ ใหบ้ คุ คลกระทาแต่ในส่ิงท่ี nถูกตอ้ งและดีงามตอ่ สังคมดว้ ย w.kroobaภาพที่ 7 : ผ้ทู ่ีไมป่ ฏิบตั ติ ามกฎหมายย่อมไดร้ บั โทษตามที่กฎหมายระบุ wwที่มา : komchadluek.net
แบบฝึกหดั กรอบที่ 5 ลักษณะของกฎหมาย คาช้ีแจง : จงเขียนเครอ่ื งหมาย หนา้ ขอ้ ความทีถ่ กู และเคร่อื งหมาย หน้าขอ้ ความทผ่ี ิด (จานวน 5 ข้อ 5 คะแนน) ............ 1. กฎหมายตอ้ งมาจากรัฏฐาธิปตั ย์ หมายความว่า ผูต้ ราหรอื อกกฎหมายมาใชบ้ งั คบั ตอ่ mบุคคลของรฐั ตอ้ งเปน็ รัฏฐาธปิ ตั ย์ คือ เปน็ ประเทศหรือเป็นรัฐทีม่ เี อกราช มีอานาจ oอธิปไตยของตนเอง ............ 2. กฎหมายเปน็ ขอ้ บญั ญตั ทิ บ่ี งั คบั ใหท้ กุ คนโดยทวั่ ไปต้องปฏบิ ตั ติ ามหากฝ่าฝืนอาจ .cได้รับโทษ แตม่ ีข้อยกเว้นสาหรบั ผ้ทู ีด่ ารงตาแหน่งทางการเมอื ง ............ 3. กฎหมายเปน็ ข้อบังคบั ทใี่ ช้ได้เสมอไปจนกว่าจะยกเลิกหรือแก้ไขเปล่ียนแปลง k............ 4. กฎหมายทุกฉบับ ไม่วา่ จะเปน็ กฎหมายในทางแพ่ง หรอื ทางอาญา เปน็ ขอ้ บังคบั ให้ oต้องปฏบิ ัตติ าม หากไมป่ ฏิบตั ิตามจะมีผลกระทบในเรื่องของส่วนตนในทางแพ่ง และ nอาจจะมีผลทง้ั สว่ นตวั และสว่ นรวมหาเปน็ กรณีทางอาญา แต่มีข้อยกเว้นสาหรบั ผ้ทู ี่ ดารงตาแหน่งทางการเมอื ง n............ 5. กฎหมายตอ้ งมีสภาพบงั คับ เปน็ ขอ้ บังคับท่ีต้องปฏบิ ัติตาม หากบุคคลนั้นรูแ้ ต่ไมย่ อม aปฏบิ ัติหรืองดเวน้ การปฏบิ ัติกจ็ ะเกิดผลเสียตอ่ บุคคลอ่ืนและบุคคลผู้นนั้ obพลเมืองทด่ี ตี ้องปฏบิ ตั ติ าม ro กฎหมายอยา่ งเคร่งครัด ห้ามฝ่าฝืน www.k กฎหมายมิเชน่ นน้ั จะมคี วามผิด
เฉลยแบบฝึกหัดกรอบที่ 5 ลักษณะของกฎหมาย คาชี้แจง : จงเขียนเครื่องหมาย หนา้ ขอ้ ความทถี่ กู และเครอื่ งหมาย หนา้ ขอ้ ความท่ผี ดิ (จานวน 5 ข้อ 5 คะแนน) 1. กฎหมายตอ้ งมาจากรฏั ฐาธปิ ตั ย์ หมายความว่า ผ้ตู ราหรืออกกฎหมายมาใช้บงั คบั ต่อ mบุคคลของรัฐ ต้องเปน็ รัฏฐาธิปัตย์ คอื เป็นประเทศหรอื เป็นรัฐทม่ี ีเอกราช มอี านาจ oอธปิ ไตยของตนเอง 2. กฎหมายเปน็ ขอ้ บญั ญัติท่บี งั คบั ใหท้ กุ คนโดยทั่วไปต้องปฏิบตั ติ ามหากฝา่ ฝืนอาจ .cไดร้ บั โทษ แตม่ ขี ้อยกเวน้ สาหรับผู้ที่ดารงตาแหน่งทางการเมอื ง 3. กฎหมายเป็นข้อบงั คับที่ใช้ได้เสมอไปจนกว่าจะยกเลิกหรอื แกไ้ ขเปลี่ยนแปลง k 4. กฎหมายทุกฉบบั ไม่ว่าจะเปน็ กฎหมายในทางแพง่ หรอื ทางอาญา เป็นขอ้ บังคบั ให้ oต้องปฏบิ ัตติ าม หากไม่ปฏบิ ัติตามจะมีผลกระทบในเรื่องของส่วนตนในทางแพ่ง และ nอาจจะมีผลทัง้ ส่วนตัวและสว่ นรวมหาเปน็ กรณีทางอาญา แตม่ ขี อ้ ยกเว้นสาหรับผ้ทู ี่ ดารงตาแหน่งทางการเมอื ง n 5. กฎหมายตอ้ งมสี ภาพบงั คบั เปน็ ขอ้ บงั คับทต่ี อ้ งปฏิบัติตาม หากบุคคลน้นั รแู้ ตไ่ ม่ยอม aปฏบิ ัติหรืองดเวน้ การปฏิบตั ิก็จะเกดิ ผลเสียต่อบคุ คลอ่นื และบคุ คลผู้น้นั bกฎหมายเปน็ ข้อบัญญตั ิทบ่ี ังคบั oให้ทุกคนโดยทัว่ ไปตอ้ งปฏิบัติ www.kroตามหากฝา่ ฝนื อาจได้รับโทษ
กรอบที่ 6 ประเภทของกฎหมาย ประเภทของกฎหมาย หมายถึง กฎหมายของไทยทใี่ ชอ้ ยขู่ ณะนแ้ี บ่งออกเป็นกปี่ ระเภทหรือก่ีกลุ่ม กฎหมายไทยอาจแบ่งไดห้ ลายลักษณะขึน้ อยกู่ ับลกั ษณะหรือประเภททีแ่ ยกไว้ ประเภทแบง่ ตามระบบหรือทม่ี าของกฎหมาย จากที่ศึกษามาแล้วเก่ียวกบั แนวคิดกลมุ่ ของกฎหมายว่ามีหลายกลุ่มและไดส้ รปุ ท่มี าของ mกฎหมายอยูท่ ่ี 2 ระบบ คอื ระบบกฎหมายลายลกั ษณอ์ ักษร และระบบท่ไี มเ่ ปน็ ลายลกั ษณ์อักษรหรอื oเรยี กอกี อย่างวา่ ระบบจารตี ประเพณี 1. ระบบลายลักษณอ์ ักษร ภาษาอังกฤษใช้คาว่า Civil Law System ประเทศไทยใช้ระบบน้ี .cเปน็ หลกั คือ ลายลกั ษณก์ ระบวนการจัดทากฎหมายหมายมีขั้นตอนทเ่ี ปน็ ระบบมกี ารจดบนั ทึกมีการ กลัน่ กรองของฝ่ายนิติบัญญัตคิ ือ รัฐสภามกี ารจดั หมวดหมูก่ ฎหมายของตวั บทและแยกเปน็ มาตราเม่อื kผ่านการกล่นั กรองจากรัฐสภาแล้วจะประกาศใชเ้ ป็นกฎหมายโดยราชกจิ จานุเบกษา oเหตผุ ลท่ีประเทศไทยใช้กฎหมายลายลกั ษณอ์ ักษรเพราะเหน็ ว่ากฎหมายลายลักษณ์ nอกั ษรเป็นกฎหมายท่ีมหี ลกั ฐานและผา่ นการกลัน่ กรองมาอย่างเป็นระบบเปน็ ประโยชน์ต่อผใู้ ชแ้ ละ ก่อให้เกิดความยตุ ิธรรมแก่คกู่ รณีสามารถอา่ นสามารถอธบิ ายให้เข้าใจไดแ้ ละสามารถตีความได้ถกู ตอ้ ง nตรงตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย กฎหมายลายลกั ษณอ์ ักษรน้ี ได้แก่ กฎหมายรฐั ธรรมนูญ aพระราชบัญญัติ พระราชกาหนด พระราชกฤษฎกี า กฎกระทรวง 2. ระบบไม่เปน็ ลายลกั ษณ์อักษรหรือจารตี ประเพณี ภาษาองั กฤษใชค้ าว่า Common Law bSystem เปน็ กฎหมายทีม่ ไิ ด้มีการจัดทาเป็นลายลกั ษณ์อักษรไมม่ กี ารจัดเป็นหมวดหม่แู ละไมม่ ีมาตรา oหากแตเ่ ป็นบันทกึ ความจาตามขนบธรรมเนียมประเพณที ใ่ี ช้กนั ต่อ ๆ มาต้งั แต่บรรพบรุ ุษรวมท้งั บนั ทึก roคาพิพากษาของศาสนาทพี่ ิพากษาคดีมาต้ังแต่เดมิ ประเทศที่นยิ มระบบจารีตประเพณีหรือระบบไม่เป็น ลายลกั ษณอ์ ักษรน้นั สว่ นใหญ่จะเป็นประเทศศกั ดินาและใช้ระบบของสังคมเป็นผสู้ รา้ งกฎหมายและ .kกฎหมายจะเปน็ ผู้สร้างสังคมต่อไปประเทศทีใ่ ช้กฎหมายจารีตประเพณีหรอื ไมเ่ ปน็ ลายลกั ษณอ์ กั ษร ได้แก่ ประเทศอังกฤษและประเทศทงั้ หลายในเครือจักรภพของอังกฤษ w ประเทศไทยใช้กฎหมายลายลักษณ์ อักษรเพราะเหน็ ว่ากฎหมายลายลักษณ์ w อกั ษรเปน็ กฎหมายทมี่ หี ลักฐานและ w ผ่านการกล่ันกรองมาอยา่ งเป็นระบบ
ประเภทแบง่ ตามลักษณะการใชก้ ฎหมาย การแบ่งประเภทกฎหมายตามลกั ษณะการใช้กฎหมายตอ้ งคานงึ ถงึ บทบาทและหนา้ ที่การ นาเอากฎหมายไปใชเ้ ป็นหลกั ซ่งึ แบ่งไดเ้ ป็น 2 ประเภท คอื กฎหมายสารบญั ญัตแิ ละกฎหมาย วธิ ีสบัญญตั ิ 1. กฎหมายสารบญั ญตั ิ คือ กฎหมายทบี่ ัญญตั ิถงึ สทิ ธิและหน้าทข่ี องบคุ คลกาหนดข้อบังคับ ความประพฤติของบคุ คลทง้ั ในทางแพง่ และในทางอาญาโดยเฉพาะในทางอาญา คอื ประมวลกฎหมาย อาญาจะบัญญัติลกั ษณะการกระทาอยา่ งใดเป็นความผิดระบุองคป์ ระกอบความผิดและกาหนดโทษไว้วา่ จะต้องรับโทษอยา่ งไรและในทางแพ่ง คือ ประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชยจ์ ะกาหนดสาระสาคญั ของ mบทบัญญตั ิว่าดว้ ยนติ ิสมั พันธ์ระหวา่ งบคุ คลในฐานะต่าง ๆ ตามกฎหมาย เชน่ นติ กิ รรม หนี้ สญั ญา oเอกเทศสัญญา เป็นต้น ตัวอยา่ งกฎหมายสารบญั ญตั ิ .cคดอี าญา ผู้ใดทอดท้งิ เดก็ อายุยงั ไมเ่ กินเก้าปไี ว้ ณ ที่ใดเพอื่ ใหเ้ ด็กน้ันไปเสียจากตนโดย ประการท่ีทาให้เดก็ นั้นปราศจากผู้ดแู ลต้องระวางโทษจาคุกไม่เกนิ สามปหี รือปรบั ไมเ่ กิน 6,000 บาทหรอื kทง้ั จาทง้ั ปรับ oคดีแพง่ คา้ ประกันคอื สญั ญาซึง่ บุคคลภายนอกคนหนง่ึ เรียกวา่ ผู้คา้ ประกนั ผูกพนั ตน nต่อเจา้ หน้าหน้ีคนหน่ึงเพื่อชาระหนีใ้ นเม่ือลกู หน้ีไม่ชาระหนนี้ นั้ 2. กฎหมายวธิ สี บญั ญติ คือ กฎหมายท่ีบัญญตั ิวิธีการปฏบิ ัติดว้ ยกานนาเอากฎหมายสาร nบัญญัตไิ ปใช้ปฏบิ ัตินนั่ เอง เช่น ไปดาเนนิ คดีในศาลหรอื เรียกว่ากฎหมายวธิ ีพิจารณาความก็ได้ กฎหมาย aวิธสี บญั ญัตจิ ะกาหนดระเบียบระบบขัน้ ตอนในการใช้ เช่น กาหนดอานาจเจ้าหน้าทีข่ องรัฐในการ bดาเนนิ คดีอาญาตอ่ ผตู้ อ้ งหาวิธีการรอ้ งทุกข์ วธิ กี ารสอบสวน วิธีการนาคดที ่ีปญั หาฟอ้ งตอ่ ศาล วิธีการ พิจารณาคดตี ่อสู้คดีในศาลรวมท้ังการบังคบั คดตี ามคาสง่ั หรอื คาพิพากษาของศาลเปน็ ต้น oกฎหมายวิธีสบญั ญตั ิจะกาหนดไวใ้ นประมวลกฎหมายวธิ ีพจิ ารณาความอาญาประมวล roกฎหมายวิธีพจิ ารณาความแพง่ เป็นหลัก ประเภทแบ่งตามบทบญั ญตั ใิ นกฎหมายทม่ี ีความสมั พนั ธก์ บั ประชาชน .kคอื กฎหมายที่บญั ญัตถิ ึงความสัมพนั ธ์ระหวา่ งผู้ปฏิบัตดิ ้วยกนั เชน่ ความสมั พันธร์ ะหว่าง เอกชนกบั เอกชนด้วยกนั เอง หรอื ความสมั พันธ์ระหวา่ งรฐั กับเอกชน คอื เจา้ หนา้ ท่ีรัฐกบั เอกชน ซ่งึ ก็คอื ประชาชนนั่นเอง หรอื ความสัมพันธร์ ะหว่างคนไทยกับคนตา่ งประเทศ จงึ แยกไดเ้ ปน็ 3 ประเภท คือ wกฎหมายมหาชน กฎหมายเอกชน และกฎหมายระหวา่ งประเทศ 1. กฎหมายมหาชน เปน็ กฎหมายท่รี ฐั ตราออกใช้กาหนดความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งรฐั กบั wประชาชน การบรหิ ารประเทศ รัฐมฐี านะเป็นผปู้ กครองประชาชนด้วยการออกกฎหมายและใหป้ ระชาชน wปฏิบัติตามกฎหมาย เพอ่ื ใหเ้ กิดความสงบเรียบรอ้ ยแกส่ งั คม จึงตรากฎหมายประเภทมหาชนซง่ึ เก่ียวขอ้ งกบั ประชาชนเป็นส่วนรวมท้งั ประเทศ และทกุ คนต้องปฏบิ ตั ติ ามกฎหมายการไม่ปฏิบตั ติ าม กฎหมายจะมีผลกระทบตอ่ บุคคลของประเทศเปน็ ส่วนรวม จึงเรียกวา่ กฎหมายมหาชน กฎหมาย ประเภทนี้ ได้แก่ กฎหมายรัฐธรรมนูญ กฎหมายปกครอง เชน่ พระราชบญั ญตั ริ ะเบยี บบริหารราชการ แผน่ ดิน กฎหมายอาญา เปน็ ตน้
2. กฎหมายเอกชน เป็นกฎหมายท่กี าหนดความสัมพนั ธ์ระหวา่ งเอกชนกับเอกชนด้วยกัน เอง เป็นความสมั พันธ์ในเรื่องสทิ ธิและหน้าท่ีระหวา่ งคสู่ ญั ญา คือ เอกชนด้วยกนั เอง รัฐไม่ไดเ้ ขา้ ไปยุ่ง เกยี่ วด้วย เพราะไมม่ ีผลกระทบต่อสังคมสว่ นรวม จงึ ใหป้ ระชาชนมีอิสระกาหนดความสมั พนั ธร์ ะหว่างกนั ภายในกรอบของกฎหมายเพอ่ื คุ้มครองความเสมอภาคมใิ ห้เอาเปรยี บต่อกนั จนเกิดความไมเ่ ป็นธรรมข้ึน ต่อการดารงชีวิตประจาวนั กฎหมายเอกชน ไดแ้ ก่ กฎหมายแพ่งท้ังหลายตามประมวลกฎหมายแพ่งและ พาณิชย์ เปน็ ตน้ จึงเหน็ ว่าสญั ญาจานาเป็นความสาพันธร์ ะหวา่ งเอกชนกบั เอกชน คือ ผจู้ านากบั ผ้รู ับ จานา รฐั จะไม่เข้ามายุ่งเกยี่ ว หรือเปน็ คสู่ ญั ญาดว้ ย เพยี งแต่ออกกฎหมายให้เปน็ แนวทางปฏบิ ตั ติ ่อกันไว้ เทา่ น้ัน m3. กฎหมายระหว่างประเทศ คอื กฎหมายทีม่ ีกฎเกณฑข์ ้อบังคับเกิดจากความตกลงกัน oระหว่างประเทศ กฎหมายระหวา่ งประเทศแยกตามลักษณะความเกยี่ วพนั ประเภทใหญ่ ๆ ได้ 3 ประเภท คอื กฎหมายระหวา่ งประเทศแผนกคดีเมือง กฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีบุคคล และกฎหมาย .cระหวา่ งประเทศแปนกคดอี าญา 3.1 กฎหมายระหวา่ งประเทศแผนกคดเี มือง เกิดข้ึนไดโ้ ดยขอ้ ตกลงที่ทาขน้ึ ระหวา่ ง kประเทศตอ่ ประเทศ หรอื อาจมปี ระเทศอ่นื เขา้ มารว่ มเปน็ สมาชกิ หรือเป็นภาคดี ว้ ย o3.2 กฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดบี ุคคล เปน็ กฎเกณฑ์ขอ้ บังคับว่าดว้ ย nความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งเอกชนต่อเอกชน หรือระหว่างบุคคลท่อี ยูต่ ่างรฐั หรอื ตา่ งประเทศ 3.3 กฎหมายระหวา่ งประเทศแผนกคดอี าญา เปน็ กฎหมายเกี่ยวกบั การกระทา nความผดิ ทางอาญาที่เกยี่ วข้องกนั ระหวา่ งสองประเทศ และประเทศนัน้ มีข้อตกลงรบั รองให้ศาลแตล่ ะ aประเทศพจิ ารณาคดี หรือรว่ มมือกันสง่ ผู้ร้ายขา้ มแดนจากประเทศหนงึ่ ไปยงั อีกประเทศหนึง่ ได้ ww.kroobภาพท่ี 8 : ปัญหาผลู้ ภี้ ยั เปน็ ประเด็นทางมนษุ ยธรรมที่มกี ฎหมายระหวา่ งประเทศเข้ามา เกีย่ วข้อง wท่มี า : chaoprayanews.com
แบบฝึกหัดกรอบท่ี 6 ประเภทของกฎหมาย คาช้แี จง : จงจบั คูข่ อ้ ทมี่ ีความสมั พนั ธ์กนั (จานวน 5 ข้อ 5 คะแนน) ก. กฎหมายระบบลายลกั ษณอ์ ักษร mข. กฎหมายระบบไมเ่ ปน็ ลายลักษณอ์ กั ษร oค. กฎหมายสารบัญญตั ิ ง. กฎหมายวิธีสบัญญตั ิ .cจ. กฎหมายมหาชน ฉ. กฎหมายเอกชน kช. กฎหมายระหว่างประเทศ no............ 1. กฎหมายทบ่ี ัญญัติถึงสทิ ธแิ ละหนา้ ทข่ี องบุคคล กาหนดข้อบงั คบั ความประพฤติของบคุ คล ทงั้ ในทางแพง่ และในทางอาญา n............ 2. กฎหมายท่ีบัญญตั ิถึงวิธีการปฏบิ ตั ิดว้ ยการนาเอากฎหมายสารบญั ญตั ิไปใช้ไปปฏบิ ัตนิ นั่ เอง a............ 3. เป็นกฎหมายที่รฐั ตราออกใชก้ าหนดความสมั พนั ธ์ระหวา่ งรัฐกับประชาชน ............ 4. เปน็ กฎหมายทกี่ าหนดความสมั พนั ธร์ ะหว่างเอกชนกับเอกชน b............ 5. กฎหมายท่ีมีกฎเกณฑข์ อ้ บังคบั เกิดจากความตกลงกันระหวา่ งประเทศ rooทาแบบฝกึ หัดด้วยตนเอง www.k อยา่ ลอกเพอ่ื นนะคะ่
เฉลยแบบฝึกหดั กรอบท่ี 6 ประเภทของกฎหมาย คาชีแ้ จง : จงจับคู่ขอ้ ทมี่ คี วามสมั พนั ธ์กนั (จานวน 5 ขอ้ 5 คะแนน) ก. กฎหมายระบบลายลักษณ์อักษร mข. กฎหมายระบบไม่เปน็ ลายลกั ษณ์อกั ษร oค. กฎหมายสารบัญญัติ ง. กฎหมายวิธสี บัญญตั ิ .cจ. กฎหมายมหาชน ฉ. กฎหมายเอกชน kช. กฎหมายระหว่างประเทศ no...ค... 1. กฎหมายทีบ่ ญั ญัตถิ งึ สิทธแิ ละหน้าที่ของบุคคล กาหนดขอ้ บังคับความประพฤตขิ องบุคคล ท้งั ในทางแพง่ และในทางอาญา n...ง... 2. กฎหมายทบี่ ัญญตั ถิ ึงวิธกี ารปฏบิ ัตดิ ้วยการนาเอากฎหมายสารบัญญัตไิ ปใช้ไปปฏบิ ัติน่นั เอง a...จ... 3. เป็นกฎหมายทร่ี ฐั ตราออกใชก้ าหนดความสัมพันธร์ ะหว่างรฐั กบั ประชาชน ...ฉ... 4. เป็นกฎหมายทกี่ าหนดความสัมพนั ธร์ ะหว่างเอกชนกับเอกชน b...ช... 5. กฎหมายที่มกี ฎเกณฑข์ ้อบังคับเกิดจากความตกลงกันระหวา่ งประเทศ roo ต่อไปเราจะไปศึกษา .k เรอ่ื งศักดขิ์ องกฎหมาย www กนั นะค่ะ
กรอบที่ 7 ศกั ดิข์ องกฎหมายไทย ศกั ด์ขิ องกฎหมาย หมายถึง ลาดับ ฐานะ หรือความสงู ต่า ของกฎหมายที่มคี วามสาคญั ลดหล่นั ลง มาตามลาดับ เรม่ิ จากสูงสดุ คอื รฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย ซงึ่ เปน็ กฎหมายสงู สดุ ของประเทศ ตามท่ีศกึ ษามาแล้ว ลาดบั ศักดข์ิ องกฎหมายไทย mกฎหมายไทยเป็นกฎหมายลายลักษณอ์ กั ษร ส่วนจารีตประเพณีและหลกั กฎหมายทว่ั ไปเป็น oสว่ นหนงึ่ ของกฎหมายและชว่ ยในการอุดชอ่ งว่างของกฎหมาย การจัดลาดบั ฐานะหรือความสงู ตา่ ของ กฎหมาย ให้ดูทีม่ ีการจัดทา หรอื การตรากฎหมายออกใชบ้ ังคับ โดยมหี ลกั ในการตคี วามว่ากฎหมายที่มี .cศกั ดิ์ต่ากว่า คอื มลี าดบั ชั้นต่ากว่าจะขดั หรือแยง้ ต่อกฎหมายท่ีมศี ักดิ์สูงกวา่ หรอื มลี าดบั ช้ันสงู กวา่ มไิ ด้ ดงั นั้นกฎหมายทีม่ ีศักด์ิหรือลาดบั ช้นั ต่ากวา่ หรืออาจเรียกอีกอยา่ งวา่ กฎหมายลกู จะต้องออกหรอื ตรา kออกมาให้มขี ้อความสอดคล้องกบั กฎหมายทม่ี ีลาดบั ศักดิส์ งู กวา่ ซง่ึ เป็นกฎหมายแมใ่ ห้อานาจกฎหมายลูก oไว้ หากบญั ญตั อิ อกมามขี อ้ ความขดั แยง้ หรอื ฝา่ ฝืนบทบญั ญตั ิของกฎหมายแม่แลว้ จะมีผลให้กฎหมาย nลูกท่มี ศี กั ดต์ิ อ่ กวา่ ใชบ้ ังคบั มไิ ด้ ดังน้ัน ศักดิ์ของกฎหมายจึงหมายถึง ลาดบั ฐานะหรือความสูงตา่ ของ กฎหมายทมี่ คี วามสาคัญสูงกว่าหรอื ต่ากว่ากนั nการตรากฎหมาย หรือออกกฎหมายใช้บังคับจะมีอยู่ 3 ระดับ คอื ฝ่ายนติ ิบญั ญัติ โดยรัฐสภา aรองลงมาเป็นกฎหมายท่ีตราโดยฝา่ ยบริหารของรัฐ คอื คณะรฐั มนตรี และตา่ สุด คือ กฎหมายท่ีออกโดย องคก์ รปกครองส่วนท้องถิ่นตามทมี่ ีพระราชบญั ญัตใิ หอ้ านาจไว้ bลาดับศักดิ์ของกฎหมาย เรียงตามความสาคัญมี 5 ลาดับ ดงั นี้ oลาดบั ท่ี 1 รัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย roลาดับที่ 2 พระราชบัญญัตปิ ระกอบรฐั ธรรมนญู พระราชบัญญตั ิ พระราชกาหนด ประมวลกฎหมาย และประกาศพระบรมราชโองการ .kลาดบั ท่ี 3 พระราชกฤษฎีกา ลาดบั ที่ 4 กฎกระทรวง ลาดับที่ 5 กฎหมายการปกครองระดับท้องถน่ิ ได้แก่ ขอ้ บัญญัตกิ รงุ เทพมหานคร w ข้อบัญญัติจังหวัด ขอ้ บัญญตั เิ มืองพทั ยา เทศบญั ญัติ และขอ้ บัญญัติตาบล ประโยชน์ของการจดั ลาดับศกั ดิข์ องกฎหมาย wการจัดลาดบั ศกั ดขิ์ องกฎหมายก็เพื่อประโยชน์ในการเรม่ิ ต้นจดั ทารา่ งกฎหมายว่า กฎหมาย wประเภทน้รี ะดับใดเปน็ ผ้จู ัดทารา่ งเพื่อตราและประกาศใชบ้ งั คับ นอกจากนีย้ ังทาใหผ้ ู้ใชก้ ฎหมายทราบ ลาดบั ชั้นของกฎหมายทใ่ี ช้อยู่วา่ ประเภทใด หรอื ฉบับใดมีศักดแ์ิ ละความสาคัญสูงกว่ากนั สามารถ พิจารณาตรากฎหมายฉบบั ใหมเ่ พื่อแก้ไข เพม่ิ เติม หรือยกเลกิ ฉบบั เดิมได้ตามศกั ดิ์ของกฎหมาย รวมทงั้ กรณมี ปี ัญหาในการวนิ จิ ฉัยและตีความกฎหมาย โดยยึดหลักวา่ กฎหมายท่ีใช้บังคบั อย่ขู ณะน้นั ต้องให้ กฎหมายทมี่ ศี ักดิ์ระดับเดียวกันหรือสงู กวา่ มาแกไ้ ขเพ่มิ เติมหรือยกเลกิ จงึ จะมีผลบังคบั ได้ตามกฎหมาย
แบบฝกึ หดั กรอบที่ 7 ศักดขิ์ องกฎหมายไทย คาชแ้ี จง : จงเขยี นลาดับศักดิข์ องกฎหมายไทยใหถ้ กู ตอ้ ง (จานวน 5 ขอ้ 5 คะแนน) ลาดับที่ 1 ............................................................................................................................... mลาดบั ที่ 2 ............................................................................................................................... o.............................................................................................................................. .cลาดบั ที่ 3 ............................................................................................................................... ลาดบั ที่ 4 ............................................................................................................................... kลาดับที่ 5 ............................................................................................................................... .............................................................................................................................. annoการจดั ลาดบั ศักดข์ิ องกฎหมาย bกเ็ พื่อประโยชนใ์ นการเรม่ิ ต้น www.kroo จัดทาร่างกฎหมาย
เฉลยแบบฝกึ หัดกรอบท่ี 7 ศักดิข์ องกฎหมายไทย คาชแ้ี จง : จงเขียนลาดับศกั ด์ขิ องกฎหมายไทยใหถ้ กู ต้อง (จานวน 5 ขอ้ 5 คะแนน) ลาดับที่ 1 รฐั ธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทย mลาดบั ที่ 2 พระราชบญั ญตั ปิ ระกอบรฐั ธรรมนูญ พระราชบัญญตั ิ พระราชกาหนด oประมวลกฎหมาย และประกาศพระบรมราชโองการ .cลาดับท่ี 3 พระราชกฤษฎกี า ลาดบั ท่ี 4 กฎกระทรวง kลาดบั ที่ 5 กฎหมายการปกครองระดบั ท้องถ่ิน ได้แก่ ข้อบัญญัตกิ รุงเทพมหานคร ข้อบญั ญัติจังหวดั ขอ้ บัญญัตเิ มืองพัทยา เทศบัญญตั ิ และข้อบัญญัตติ าบล annoพรอ้ มแลว้ เราไปทา แบบทดสอบหลงั เรยี น www.kroobกนั เลยค่ะ
บทสรุป ความรทู้ ั่วไปเกีย่ วกบั กฎหมาย กฎหมาย คอื “กฎระเบยี บ ข้อบังคับที่สถาบันผมู้ ีอานาจสูงสุดของประเทศตราขนึ้ ใช้บังคบั รวมท้งั กฎระเบียบข้อบงั คบั ที่เกดิ จากจารตี ประเพณที ่ีไดร้ ับการยอมรับนับถอื จากสงั คมหรือจากบุคคลทว่ั ไปท่ี อยู่รวมกันในสังคมเพ่อื ใช้กับบุคคลทุกคนในการบริหารประเทศหากไม่ปฏิบตั ิตามอาจได้รับโทษฐานตาม ฐานความผิดนน้ั ” กฎหมายจึงเปน็ เคร่อื งมอื ใหเ้ กดิ ความเปน็ ระเบยี บเรยี บร้อยและรักษาไวซ้ ึ่งประเพณี mวัฒนธรรมของสงั คมเป็นเคร่ืองมอื ให้บคุ คลระมดั ระวงั ไม่กระทาผิดกฎระเบยี บของสังคมนอกจากนี้ยงั เป็น oความรแู้ ละเคร่ืองมือของบุคคลอ่ืนมิให้ถกู เอารัดเอาเปรียบเพราะความไม่รกู้ ฎหมายจากบคุ คลอน่ื เป็น ประโยชนใ์ นการตดั สินใจและการประกอบอาชพี รวมท้ังเป็นประโยชนต์ อ่ การเมอื งการปกครองรู้สิทธิ รู้ .cหนา้ ที่ ปฏิบัติตามสทิ ธิตนอยา่ งถกู ตอ้ ง ดงั นนั้ กฎหมายจึงมีความสาคญั ต่อชวี ติ มนุษยห์ รือของบุคคลใน สงั คม nokกฎหมายจึงเป็นเคร่ืองมือ nให้เกิดความเป็นระเบียบ aเรียบรอ้ ยและรกั ษาไว้ซง่ึ ob ประเพณวี ัฒนธรรมของ www.kro สังคม
แบบทดสอบหลังเรียน ความร้ทู ัว่ ไปเกี่ยวกบั กฎหมาย คาชแี้ จง : ใหน้ ักเรียนเลอื กคาตอบทถี่ กู ต้องที่สดุ เพยี งคาตอบเดียว mมอี สิ รเสรสี ะอาด เหมอื นผ้าขาวแตถ่ กู อารยธรรม ก. Civil Law 1. แนวคดิ ของนกั ปรชั ญาชาวตะวนั ตกคนใดที่ 4. คาใดไมเ่ กี่ยวข้องกบั ระบบกฎหมายลายลกั ษณ์ oและสงั คมทาใหเ้ ปลยี่ นแปลงไป” ? กล่าววา่ “มนษุ ย์ในสภาพส่วนใหญ่แลว้ เป็นคนดี อกั ษร ? .cก. Jean – Jacques Rousseau ข. Code Law kค. Lee Don Huk ค. Written Law ข. Thomas Hobbes ง. Common Law o2. บคุ คลใดได้รับการยกยอ่ งวา่ เป็นบดิ าของ nกฎหมายไทย ? nก. กรมหม่ืนพิทยาลงกรณ์ 5. ข้อใดมีลกั ษณะเปน็ กฎหมาย ? ง. John Locke ก. ประกาศห้ามสูบบุหร่ีในทส่ี าธารณะ aค. สมเดจ็ กรมพระยาดารงราชานุภาพ ฝา่ ฝนื ปรบั 2,000 บาท bง. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรี ข. ประกาศใหพ้ นักงานบริษทั ทุกคนตอ้ ง แสดงบตั รประจาตวั ทกุ ครงั้ ท่ีเข้า – ออก ข. หมอ่ มราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช บรษิ ทั oดเิ รกฤทธิ์ ค. ประกาศหา้ มผู้ทไี่ มเ่ กยี่ วข้องกับการแสดง roก. รกั ษาความสงบสุขของสังคมรกั ษาประเพณี เขา้ ไปในหอ้ งประชมุ ง. ประกาศของอาจารยใ์ หญใ่ หน้ ักเรยี นทกุ คน 3. เราอาศัยกฎหมายเพือ่ เปน็ เครอ่ื งมอื อย่างไร ? ไปเข้าแถวเคารพธงชาตมิ ฉิ ะนั้นจะถกู .kระมัดระวังไม่กระทาความผิดกฎระเบียบ ทาโทษหนา้ เสาธง วฒั นธรรมของสงั คมและให้บคุ คล 6. ทม่ี าของกฎหมายขอ้ ใดมิใชเ่ ป็นท่มี าของ wข. รกั ษาประเพณีวัฒนธรรมของสังคมและ กฎหมายไทย ? ของสังคม ก. กฎหมายลายลักษณ์อักษรทร่ี ฐั บคุ คลระมดั ระวังไมก่ ระทาความผิด ตราออกใช้บงั คับ wกฎระเบยี บของสงั คม ข. คาพิพากษาของศาลทีผ่ ่านมา ค. รกั ษาความเปน็ ระเบยี บเรยี บรอ้ ยของสงั คม ค. จารีตประเพณีแห่งทอ้ งถน่ิ w และรักษาประเพณแี ละวัฒนธรรมของสงั คม ง. หลกั กฎหมายทัว่ ไป ง. รักษาความเปน็ ระเบียบเรียบร้อยของสงั คม
7. กฎหมายขอ้ ใดเป็นความสัมพันธร์ ะหวา่ ง 9. เหตุใดขอ้ บัญญตั ิจงึ มีลาดบั ศกั ด์ิของกฎหมาย ประชาชนกับรฐั ? ต่ากว่ากฎหมายอน่ื ? ก. กฎหมายระหว่างประเทศ ก. ออกโดยคณะรฐั มนตรีและอาศยั ตาม ข. กฎหมายมหาชน ความในพระราชกาหนด ค. กฎหมายเอกชน ข. ออกโดยฝา่ ยนิตบิ ญั ญัตแิ ละอาศยั อานาจ ง. กฎหมายอาญา ตามความในพระราชบญั ญตั ิ 8. กฎหมายในขอ้ ใดมศี ักดส์ิ ูงกว่าพระบรม ค. ออกโดยฝ่ายนิติบญั ญัติและอาศัยอานาจ mราชโองการของพระมหากษตั รยิ ์ ? ตามความในพระราชกฤษฎกี า oก. พระราชกาหนด ง. ออกโดยองค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ินและ ข. พระราชบัญญตั ิ อาศยั อานาจตามความในพระราชบญั ญตั ิ .cค. รฐั ธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย 10. ข้อใดเป็นหน้าทต่ี ามกฎหมายของชาวไทย nnokง. ไม่มขี ้อใดถกู ต้อง เมอื่ มอี ายุครบ 20 ปบี รบิ ูรณ์ ? ก. สอบเขา้ มหาวิทยาลัย ข. บวชทดแทนคณุ บดิ ามารดา ค. ทาบตั รประจาตวั ประชาชนทอ่ี าเภอ ง. ไปแสดงตนเพอ่ื ลงบญั ชีเป็นทหารกองเกนิ ทอ่ี าเภอ obaทาเสร็จเรยี บร้อยแลว้ ro เชิญตรวจคาตอบ www.k ได้เลยนะครับ
เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน ความร้ทู ว่ั ไปเกี่ยวกบั กฎหมาย 1. ก 2. ง 3. ก m4. ง .co5. ก 6. ข k7. ข o8. ค n9. ง n10. ง baเชญิ ศกึ ษาบทเรียน o เล่มต่อไปได้เลยค่ะ www.kro เชญิ คะ่
บรรณานกุ รม กรมวชิ าการ กระทรวงศึกษาธิการ. หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551. กรงุ เทพฯ : กระทรวงศึกษาธิการ, 2551. กลุ พล พลวนั . สทิ ธมิ นษุ ยชนกับสหประชาชาติ. พมิ พค์ ร้งั ที่ 2. ม.ป.ท. : กองวิชาการ กรมอัยการ, 2527. ณชั ชาภทั ร อุ่นตรงจิตร. รัฐศาสตร.์ พมิ พค์ รั้งท่ี 3. กรงุ เทพฯ : สานักพิมพ์แห่งจฬุ าลงกรณ์ mมหาวิทยาลัย, 2548. oเดชชาติ วงศโ์ กมลเชษฐ์. หลักรัฐศาสตร.์ กรุงเทพฯ : ม.ป.พ., 2508. .cนพนธิ ิ สุริยะ. สรุปคาบรรยายวชิ าสทิ ธมิ นษุ ยชน. กรุงเทพฯ : โรงพมิ พม์ หาวทิ ยาลยั รามคาแหง, 2520. kศูนยพ์ ัฒนาหนงั สือ, กรมวิชาการ. คู่มอื การเรยี นการสอนรฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย ระดบั ประถมศกึ ษาและมธั ยมศกึ ษา. กรงุ เทพฯ : ศูนยพ์ ัฒนาหนังสอื กรมวิชาการ, 2541. oสนธิ เตชานนั ท์. พ้ืนฐานรฐั ศาสตร.์ พิมพค์ ร้ังท่ี 3. กรงุ เทพฯ : สานกั พิมพ์ nมหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์, 2548. nสภาทนายความ. กฎหมายเบ้ืองต้นสาหรบั ประชาชน. กรุงเทพฯ : สภาทนายความ, 2543. สานักงานเลขาธิการสภาผูแ้ ทนราษฎร. รฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550. aพิมพค์ รง้ั ที่ 2. กรุงเทพฯ : สานกั การพมิ พ์ สานักงานเลขาธิการสภาผแู้ ทนราษฎร, 2551. bสานักงานศาลรฐั ธรรมนูญ. รัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550. ฉะเชงิ เทรา : oบรษิ ัท 99 กร๊ปุ เทรดด้งิ เซน็ เตอร์ จากัด, 2550. สานักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน roกระทรวงศกึ ษาธกิ าร. ตวั ชว้ี ัดและสาระการเรยี นรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน .kพุทธศกั ราช 2551. กรงุ เทพฯ : ชุมนุมสหกรณก์ ารเกษตรแห่งประเทศไทย จากัด, 2551. http://th.wikipedia.org whttp://krumontree.com http://komchadluek.net wwhttp://chaoprayanews.com
Search
Read the Text Version
- 1 - 43
Pages: