คู่มือ RoV: สอนทุกเรื่อง เกี่ยวกับเกมแบบโคตร ละเอียด (2019) ผู้จัดทำ นายกิตติพันธ์ุ สืบศิริ
นี่คือสุดยอดคู่มือ RoV หรือ RoV Guide ที่จะทำให้คุณ เข้าใจและเล่นเกม RoV เก่ง มากขึ้นแบบก้าวกระโดด
ผู้เขียนนั้นมีประสบการณ์เล่นเกม Moba มายาวนานกว่า 10 ปี และเล่น RoV มาตั้งแต่ซีซันแรก ๆ เคยไต่ไป แรงค์สูงสุดที่ Conqueror ซึ่งใน ขณะที่เขียนบทความนี้ (ซีซัน 11) อยู่ แรงค์ Commander เพราะงั้นสิ่งที่จะอธิบายต่อจากนี้ไม่ได้ มาจากการหาข้อมูลตามอินเทอร์เน็ต ทั่วไป แต่มาจากประสบการณ์การ ลองผิดลองถูกจนเห็นผล เพื่อ เป็นการไม่เสียเวลาไปดูกันเลยดีกว่า
เกม RoV คืออะไร? ก่อนอื่นขอเกริ่นก่อนว่าเกม อาโอวีคือเกมอะไร? ทำไมมัน ถึงได้รับความนิยม จริง ๆ เราเขียนบทความลงลึก อธิบายเกี่ยวกับหัวข้อนี้โดย ละเอียดแล้ว แนะนำให้ไป อ่านก่อนจะได้เข้าใจเนื้อหา และการเล่น RoV เบื้องต้น ใครยังไม่เคยอ่าน แนะนำให้ อ่านบทความนี้ก่อนจะได้ เข้าใจแบบกระจ่าง
RoV คืออะไร ? ทำไมมันถึง กลายเป็นเกมมือถือระดับ ประเทศที่ทำให้คนไทยนับ ล้านคลั่งไคล้ได้ ? ถ้าให้สรุปสั้น ๆ เกมอาโอวีคือ เกมแนว Moba ที่เล่นบนมือถือ เท่านั้น มันมีรูปแบบการเล่นแบบ 5 ต่อ 5 ในแต่ละแมทช์ ผู้เล่นแต่ คนจะเลือกฮีโร่มา 1 ตัว และช่วย กันเพื่อทำลายฐานศัตรู ทีมไหน ทำลายฐานหลักอีกฝ่ายได้ก่อน ชนะ
ทำไมต้องอ่านคู่มือ RoV?
ถึงแม้ในตัวเกมจะมีการสอนเล่น ก่อนเริ่มเล่นกับคนจริง ๆ แต่ส่วน ที่เกมสอนตอนเริ่มนั้นเป็นเพียง พื้นฐานส่วนที่เล็กมาก ๆ ซึ่งยัง ขาดรายละเอียดต่าง ๆ ไปพอ สมควร และด้วยความรู้เท่านั้น รับรองว่า ไปลงแรงค์โดนด่าเหมือนรูปด้าน บนแน่นอนครับ ฮ่า ๆ
เหตุผลที่เขียนคู่มือเกม RoV อันนี้ขึ้นมาก็เพราะบทความหรือ คลิปอื่น ๆ ที่มีอยู่ในอินเทอร์เน็ต นั้นก็ยังไม่ได้ครอบคลุมถึง เนื้อหาล่าสุด และทาง RoV เองก็ไม่ได้มี หนังสือคู่มือตีพิมพ์ออกมาอย่าง จริงจัง ทำให้ไม่ตอบโจทย์ของผู้ เล่น RoV ครั้งแรกเท่าไรนัก เนื่องจากข้อมูลมันเก่าเกินไป แล้ว ผมเลยตัดสินใจเขียนคู่มือนี้ขึ้น มา โดยจะทำการอัปเดตให้ ข้อมูลล่าสุดเรื่อย ๆ ให้ผู้เล่นใหม่ ๆ ได้อ่านกัน
ส่วนใหญ่แล้วผู้เล่นหน้าใหม่ที่เข้ามาเล่น เกม RoV นั้นไม่เคยเล่นเกมแนว Moba มา ก่อนเลยอาจทำให้มีคำถามในใจมากมาย โดยหลังจากที่อ่านคู่มือ RoV ฉบับสมบูรณ์ นี้แล้วคุณจะรู้ว่า เกม RoV คืออะไร? เกมส์ RoV เล่นยังไง วิธีเล่นเกม RoV ยังไงให้ชนะ? วิธีเล่น RoV ยังไงให้เทพ? หลักการเล่น RoV เบื้องต้น การจัดรูน RoV การออก Item RoV เลนต่าง ๆ ใน RoV การเลือกตัวละคร RoV ยังไงให้เกมได้ เปรียบ วิธีการพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นเรือย ๆ ในฐานะผู้เล่น RoV วิธีการไต่แรงค์ RoV และเทคนิคหรือทริคอื่น ๆ อีกมากมาย
พื้นฐาน RoV เบื้องต้น ก่อนที่จะเล่นเกมอะไร ก็ตามไม่ใช่แค่ RoV เรา ก็จำเป็นที่จะต้องรู้พื้น ฐานซะก่อน ไม่งั้นจะต่อย อดได้ยากมาก ซึ่งในเกม RoV นั้นไม่ได้มีสูตร ตายตัว แต่มีพื้นฐานหลัก ๆ อยู่ทั้งหมด 8 เรื่องคือ:
ในเกมมีตำแหน่งอะไรบ้าง? เกม RoV เป็นเกมต่อสู้ แบบ 5v5 ซึ่งแต่ละคนใน ทีมก็จะมีตำแหน่งกันออก ไป เพื่อการสร้างกลยุทธ์ที่ แข็งแกร่งมาสนับสนุนกัน และกัน โดยมีตำแหน่งหลัก ๆ
แครี่: เป็นตัวละครมีดาเมจที่ รุนแรงแต่จำเป็นต้องใช้ไอเทม หลายชิ้น โดยส่วนมากโจมตีเป็น กายภาพ และมีพลังชีวิตไม่ค่อย มากนัก ถูกสังหารได้ง่าย มักตก เป็นเป้าของแอสซาซิน หน้าที่ หลักของแครี่คือการทำดาเมจให้ เยอะและไวที่สุด โดยส่วนมากจะ เป็นตัวละครประเภทโจมตีไกล
แทงค์: เป็นตัวละครที่มีดาเมจน้อย แต่มีความโดดเด่นในความอึด รวม ทั้งมี CC ในการทำจังหวะให้เพื่อน แทงค์มีความสามารถในการทำดาเม จทั้งกายภาพและเวทมนต์ หน้าที่หลัก ของเขาคือสร้างเพื้นที่ให้กับเพื่อน ร่วมทีมสามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้ง่าย ขึ้น โดยส่วนมากเป็นตัวละครประเภท โจมตีใกล้
ไฟท์เตอร์: เป็นตัวละครที่มีทั้งความอึดและ ความสามารถในการทำดาเมจระดับหนึ่ง รวมทั้งมี CC ติดตัวด้วย ถึงแม้จะดูทำได้ ทุกอย่าง แต่ตัวละครประเภทนี้มักจะอยู่ ตรงกลางไปไม่สุดซักทาง หน้าที่หลักของ ไฟท์เตอร์คือการเติมเต็มทีม เช่น ถ้าทีมขาดดาเมจเขาก็จะเข้าไปช่วยทำ ดาเมจ หรือถ้าแทงค์รับดาเมจไม่ไหว ก็จะ ช่วยเข้าไปแบ่งรับภาระ และในบางครั้งก็ ทำหน้าที่แยกดันป้อมดึงความสนใจด้วย โดยส่วนมากมักเป็นตัวละครประเภทโจมตี ใกล้
เมจ: เป็นตัวละครที่มีดาเมจสูง เหมือนแครี่ แต่จุดเด่นที่แบ่งแยก จากแครี่คือทำดาเมจเป็นเวทมนต์ และส่วนมากจะทำดาเมจหมู่ด้วย ใน ขณะที่แครี่ทำดาเมจใส่เป้าหมายเดีว เมจมีพลังชีวิตที่ต่ำ ถูกตกเป็นเป้า เสมอ หน้าที่หลักของเมจคือการทำ ดาเมจใส่เป้าหมายให้เยอะและมาก ที่สุด โดยส่วนมากมักเป็นตัวละคร ประเภทโจมตีไกล
แอสซาซิน: เป็นตัวละครที่มีดาเมจสูง เน้นการทำดาเมจแบบ Burst (ทำดาเมจ เยอะ ๆ ในระยะเวลาสั้น ๆ ) และมีความ สามารถในการเคลื่อนที่สูง หรือเป็นตัว ละครที่พริ้วที่สุดนั่นเอง หน้าที่หลักของ แอสซาซินคือเข้าไปลอบสังหารแครี่และ เมจของศัตรู และหลบหนีออกมา โดย ส่วนมากมักจะตัวละครประเภทโจมตีใกล้
ซัพพอร์ท: เป็นตัวละครที่มีดาเมจต่ำ แต่มี จุดเด่นคือความสามารถต่าง ๆ ในการช่วย เหลือเพื่อน เช่นการสร้างโล่, การบัฟเพิ่ม ความเร็วในการเคลื่อนที่, การชุบชีวิต และ อื่น ๆ อีกมากมายที่ต่ำแหน่งอื่นไม่มี หน้าที่หลักคล้าย ๆ แทงค์คือทำให้เพื่อนร่วม ทีมทำหน้าที่ของตัวเองได้ง่ายขึ้น จะไม่เน้น การรับดาเมจ แต่จะช่วยเหลือเพื่อนด้วยสกิล สนับสนุนของพวกเขาแทน เช่นป้องกันแครี่ หรือเมจเป็นหลัก
คำศัพท์ที่มักจะใช้และเจอในเกม
คำศัพท์ในเกม RoV เป็นสิ่ง ที่ควรรู้มาก ๆ ก่อนเล่น เพราะไม่งั้นจะสื่อสารกับ เพื่อนร่วมทีมไม่รู้เรื่อง นอกจากนี้การรู้คำศัพท์ยัง ทำให้เราสามารถเข้าใจตัว เกมมากขึ้น ทำให้เรา วิเคราะห์และต่อยอดความรู้ ของเราได้ สำคัญสุด ๆ สำหรับผู้เล่น RoV ทุกคน จะพยายามไล่เท่าที่จำเป็น
บัฟ: สิ่งที่ช่วยเพิ่มค่าสถานะนั้น ๆ เช่น บัฟ ความเร็วในการโจมตีคือสกิลหรือความ สามารถที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการโจมตี หรืออีกบริบทหนึ่งที่ใช้กันคือ เอาไว้เรียกตัว ละครที่ได้รับการอัปเดตมาให้แข็งแกร่งขึ้น เช่น ในแพตช์นี้ Valhein ถูกบัฟ แปลว่า ใน แพตช์นี้ Valhein ถูกปรับให้แข็งแกร่งขึ้น เนิฟ: การปรับให้ตัวละครนั้นอ่อนแอลง เช่น ในแพตช์นี้ Valhein ถูกเนิฟ แปลว่า ใน แพตช์นี้ Valhein อ่อนแอลง แพตช์: เวอร์ชันของเกม โดยปกติ RoV จะ ทำการอัปเดตเรื่อย ๆ อยู่แล้ว ทำให้มีการ อัปเดตแพตช์เรื่อย ๆ เพื่อทำให้ตัวเกมทัน สมัยและน่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ รวมทั้ง ปรับแก้สมดุลให้ฮีโร่ที่แข็งแกร่งเกินไป อ่อนแอลง และฮีโร่ที่อ่อนแอเกินไป แข็งแกร่งมากขึ้นด้วย CC (Crowd Control): แปลว่าความสามารถ ในการทำให้ศัตรูผิดปกตินั่ นเอง เช่น การ ทำให้หยุดนิ่ง, การทำให้เคลื่อนที่ช้าลง, การ ทำให้ศัตรูร่ายสกิลไม่ได้ และอื่น ๆ
สตั๊น (Stun): สถานะที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย ไม่ว่าจะเป็ นการเคลื่อนที่, การโจมตีปกติ, การ ใช้สกิล, การใช้ชาเลนเจอร์สกิล หนึ่งใน CC ที่ เจอบ่อยมาก สโลว์ (Slow): สถานะที่ทำให้ช้าลง ซึ่งมี 2 รูป แบบคือ เคลื่อนที่ช้าลง และโจมตีปกติช้าลง ดูดเลือด: เอฟเฟคการฟื้ นฟูพลังชีวิตจากการ โจมตีปกติ เช่น ใส่ไอเทมดูดเลือด 10% และ โจมตีปกติทำความเสียหายใส่ครีป 100 เลือด ของเราก็จะเพิ่ม 10 นั่ นเอง (10% ของ 100) เวทแวมไพร์: เอฟเฟคการฟื้ นฟูพลังชีวิตจากการ ใช้สกิล เช่น ใส่ไอเทมเวทแวมไพร์ 10% และใช้ สกิลทำความเสียหายใส่ครีป 100 เลือดของเรา ก็จะเพิ่ม 10 นั่ นเอง (10% ของ 100) ดาเมจ (Damage): ความเสียหายที่ได้รับ หรือ พลังโจมตีของเรา (การโจมตีปกติ หรือสกิล) ใช้ได้หลากหลายบริบท เช่น ตัวละครนี้ทำดา เมจได้เยอะมาก แปลว่า ตัวละครนี้สร้างความ เสียหายให้กับคนอื่นได้มาก หรือเราโดนดาเมจ เยอะ แปลว่า ตัวละครของเราได้รับความเสีย หายมาก
เกราะ: ค่าที่ช่วยลดความเสียหายทางกายภาพ ยิ่งมีเยอะยิ่งโดนดาเมจกายภาพน้ อย ต้านเวท: ค่าที่ช่วยลดความเสียหายทางเวท ยิ่ง มีเยอะยิ่งโดนดาเมจเวทน้ อย พลังโจมตี (AD): ค่าที่บ่งบอกว่า การโจมตีปกติ เรารุนแรงขนาดไหน ยิ่งมีเยอะยิ่งโจมตีปกติ แรง (และสกิลประเภทกายภาพส่วนใหญ่ก็มัก จะแรงขึ้นตามพลังโจมตี) พลังเวท (AP): ค่าที่บ่งบอกว่า สกิลประเภท เวทของเรารุนแรงขนาดไหน ยิ่งมีเยอะยิ่งใช้ สกิลประเภทเวทแรง พลังชีวิต/เลือด (HP): หลอดสีเขียว ยิ่งมีเยอะ ยิ่งรับดาเมจได้เยอะ ถ้าเกิดพลังชีวิตเหลือ 0 จะตาย เช่น มีพลังชีวิต 1,000 และโดนดาเมจ 300 ก็จะเหลือพลังชีวิต 700 แต่ไม่ตาย แต่ ถ้าโดนดาเมจ 1,000 ก็จะตายทันที มานา (MP): หลอดสีฟ้ าข้างใต้หลอดสีเขียว เป็ นค่าที่เอาไว้ใช้ในการใช้สกิล ถ้ามานาไม่พอ ก็จะไม่สามารถใช้สกิลนั้น ๆ ได้ เช่น สกิล 1 ใช้มานา 300 และเรามีมานา 600 ก็จะเท่ากับ ว่าใช้สกิล 1 ได้ 2 รอบนั่ นเอง
ดันป้ อม: การทำลายป้ อมของศัตรู ฟาร์ม: การเก็บเงินและเลเวลให้เร็วที่สุด เพื่ อที่จะแข็งแกร่งกว่าคนอื่ น ครีป: ตัวที่เดินไปยังเลนต่าง ๆ เกิด: การที่แข็งแกร่งนำไปไกลกว่าคนอื่น ๆ แบก: การที่คน ๆ เดียวทำให้เกมขึ้นนำหรือ ชนะ ไก่: การที่ฝี มือต่ำกว่ามาตรฐาน แจก: การไปให้ศัตรูสังหารบ่อย ๆ GG (Good Game): เป็ นคำที่พิมพ์ช่วงจบเกม เพื่อเป็ นมารยาทว่า ‘เกมนี้เป็ นเกมที่สนุกนะ’ แต่หลัง ๆ มาถูกเอามาใช้เป็ นคำประชดแทน เช่น ในช่วงเริ่มเกมมีการพิมพ์ GG เกิดขึ้น เป็ นการสื่อนัย ๆ ว่า ‘เกมนี้แพ้แล้ว’ เมต้า (Meta): ย่อมาจาก Most Effective Tactics Available หรือกลยุทธ์ที่ดีที่สุดใน เวลานั้น เป็ นคำที่มักจะใช้เรียกกลยุทธ์, ตัว ละคร หรือวิธีการเล่นที่มีทำให้มีโอากสชนะ เยอะที่สุดในตอนนั้น
คูลดาวน์ (CD): ระยะเวลาก่อนที่จะใช้สกิ ลนั้น ๆ ครั้งต่อไปได้ เช่น สกิล 1 คูลดาวน์ 10 วินาที แปลว่า เมื่อใช้สกิล 1 เสร็จ จะไม่ สามารถใช้สกิลนั้นได้อีก 10 วินาทีถึงแม้จะ มีมานาพอก็ตาม อันติ (Ultimate): คือสกิลที่ 3 ของตัวละคร นั้น ๆ แก็งค์: การไปเลนอื่น ๆ ที่ไม่ใช่เลนของเรา เพื่ อทำการช่วยเพื่ อนสังหารศัตรู ออกของ: ซื้อไอเทมในเกม เช่น เมื่อมีคน ถามว่า ออกของ RoV ยังไงให้โหด ก็แปลว่า การซื้อไอเทม RoV ยังไงให้โหด ไฟท์/ทีมไฟท์: การปะทะกันของผู้เล่นหลาย ๆ คนทั้ง 2 ทีม Dive: การเข้าไปสังหารศัตรูในป้ อมของศัตรู หัวร้อน: อาการหงุดหงิดหรือโมโห เมื่อตัว เกมไม่เป็ นไปตามที่เราคิดไว้ ตัดเลือด: ไอเทมประเภทที่ทำให้สดอัตรา การฟื้ นฟูเลือดของศัตรู ในเกม RoV มี 2 ชิ้นได้แก่ Curse of Death และ Soul Scroll
ไปเลนไหนดี?
สิ่งแรก ๆ ที่ผู้เล่นมือใหม่ควรตัดสินใจ คือ การเลือกเลนที่ตัวเองจะเล่น เพราะ การเล่นในเลนที่ตัวเองไม่ถนัดนั้นทำให้ ดึงฝีมือของตัวเราออกมาได้ไม่เต็มที่ แนะนำว่าในช่วงแรกให้ลองเล่นทุก ๆ เลนเลย เพราะจะได้รู้ว่า เราถนัดหรือ ชอบเลนไหนที่สุด โดยแบ่งเป็นทั้งหมด หลัก ๆ 5 เลน เลน Dark Slaye r หรือเลนมังกร เล็ก:ส่วนใหญ่เป็นเลนที่ไฟท์เตอร์หรือ แทงค์มักจะไป และเป็นเลนที่ต้องเล่นคน เดียว หน้าที่หลัก ๆ ของเลนนี้คือกันป้อม ไม่ให้แตก และคอยไปช่วยเลนกลางให้ บ่อยที่สุด เลน Abyssal Dragon หรือเลนมังกร ใหญ่: เป็นเลนที่แครี่อยู่ประจำ เลนนี้มักจะ มีโรมมาช่วยบ่อย หน้าที่หลัก ๆ ของเลนนี้ คือกันป้อมไม่ให้แตกเหมือนกัน แต่จะ ต้องคอยไปช่วยทั้งเลนกลาง และสังหาร Abyssal Dragon ด้วย ทำให้เกิดการ ปะทะบ่อย
ป่า: ตรงตัวเลยคือ บริเวณป่าในฝั่ งของ เรา เป็นเลนที่ได้เงินและค่าประสบการณ์ เยอะที่สุด (ไม่รู้เรียกว่าเลนได้มั้ย แต่เพื่อ ความเรียบง่ายจะเรียกว่าเลนนะครับ ฮ่า ๆ ) มีความสำคัญอันดับต้น ๆ ในเกม ต้องคอยไปช่วยเหลือเพื่อนในเลนต่าง ๆ และสังหาร Objective อย่าง Abyssal Dragon และ Dark Slayer ส่วนใหญ่ แอสซาซินหรือแครี่มักจะไปเลนนี้ เนื่อง จากเป้นตำแหน่งที่ต้องใช้ไอเทมและค่า ประสบการณ์เยอะ เลนกลาง: ส่วนใหญ่มักเป็นเลนที่เมจไป แต่บางครั้งแครี่หรือไฟท์เตอร์ก็มาเลนนี้ หน้าที่หลัก ๆ ก็คือการป้องกันไม่ให้ป้อม แตก และไปช่วยเลนอื่นให้มากที่สุด รวม ทั้งป่าด้วย เนื่องจากเลนกลางอยู่ตรง กลางแผนที่ ทำให้ไปช่วยเลนอื่นได้ง่าย โรม: ส่วนใหญ่มักจะเป็นเลนที่แทงค์และ ซัพพอร์ทไป หน้าที่หลัก ๆ คือทำให้แครี่ และเพื่อนร่วมทีมเล่นง่ายที่สุด เช่น การ เดินไปเปิดแผนที่ตามพุ่มไม้ต่าง ๆ
ตัวละครเยอะมาก เลือก ไม่ถูก เลือกตัวไหนดี?
RoV (RoV Character) ทั้งหมด หรือชื่อ RoV ทั้งหมดให้ดู แต่จะ เป็นการแนะนำแนวทางว่าควร เลือก Hero ใน RoV ตัวไหนเพื่อ ทำให้ชนะเยอะที่สุด ผู้เล่นควรเลือกตัวละครหรือ เลือก Hero ในเกม RoV ตามเลน ที่ตัวเองเล่นเป็นหลัก โดยฮีโร่ แต่ละตัวนั้นจะเล่นได้หลัก ๆ ประมาณ 1-2 เลนอยู่แล้ว ถ้าเป็นไปได้ให้เล่นตัวละครที่ กำลัง Meta อยู่เป็นหลัก และ พยายามเล่นตัวละครนั้นไปเรื่อย ๆ ก่อนอย่าเพิ่งรีบเปลี่ยนตัว จนกว่าจะถนัดมือ
การเล่นตัวละครที่กำลังเป็น Meta อยู่นั้นมีข้อดี หลายอย่าง เช่น สามารถศึกษาได้จากคนอื่น ๆ อย่างโปรเพลย์ เยอร์หรือ Youtuber อย่าง DoySer ได้ว่าควร เล่นตัวละครนี้ยังไง เป็นตัวละครที่แข็งแกร่งในแพตช์นั้นทำให้มี โอกาสชนะเยอะ เพื่อนร่วมทีมจะรู้สึกอุ่นใจเพราะรู้ว่า ทีมมีตัวละคร ที่แข็งแกร่งอยู่ อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นควรจะศึกษาด้วยว่า ตัวละครที่ เราเล่นอยู่นั้นมีข้อดี/ข้อเสียยังไง และชนะทาง/แพ้ ทางตัวละครไหนบ้าง เพราะการที่เล่นแบบหลับหูหลับตาเล่นไปเรื่อย ๆ ถึง แม้จะเป็นตัวละคร Meta ก็ตาม มันก็มีตัวที่แพ้ทาง จนทำให้โอกาสชนะเราน้อยมากได้เช่นกัน และแน่นอนว่า ตัวละครไหนที่เราเล่นแล้วคิดว่าเข้า มือเราที่สุดก็สามารถเล่นได้เช่นกัน ไม่จำเป็นต้อง เป็นตัว Meta เสมอไป เพราะถ้าเกิดเลือกตัว Meta มาแล้วเล่นไม่เป็น ไปเล่น ตัวธรรมดาที่เราถนัดแล้วดึงประสิทธิภาพออกมาได้ เยอะดีกว่า ในทางกลับกัน ถึงแม้จะไม่เล่นตัว Meta ก็สามารถ เล่นตัวฟรีที่เกมให้มาได้ เช่น Valhein, Zanis และ อื่น ๆ ก็สามารถเอาชนะรัว ๆ ได้เหมือนกัน
แล้วรูนจะใช้อะไรยังไงดี?
รูนคือสิ่งที่ใส่เพื่อเพิ่มค่าสถานะของตัว ละครเราก่อนเริ่มเกม ซึ่งรูนนั้นก็มีหลาก หลายสาย เพื่อส่งเสริมค่าสถานะที่เหมาะ กับสายต่าง ๆ แนะนำว่า เป็นสิ่งแรกที่ควรเก็บเงินซื้อก่อน ตัวละคร อย่างน้อย ๆ ควรซื้อรูนเลเวล 2 มาใช้ก่อนค่อยเริ่มเก็บเงินไปซื้อตัวละครที่ ชอบ การไม่มีรูนหรือใช้รูนที่ผิดถือเป็นเรื่อง ใหญ่มาก ๆ เพราะถ้าคำนวณรวม ๆ กัน แล้ว การใส่รูนเลเวล 3 ครบทำให้เราได้ เปรียบเหมือนได้ค่าสถานะไอเทมมากกว่า คนอื่น 1 ชิ้นเลยทีเดียว แต่แน่นอนว่าการที่จะซื้อรูนเลเวล 3 ครบ ได้ทั้งหน้านั้นต้องใช้เวลา เพราะใช้เงินใน การซื้อพอสมควรเกือบ 3 หมื่น ผู้เล่นใหม่ ควรอดทนนิดนึง และนี่เป็นอีกเหตุผลว่า ทำไมเราควรหาตำแหน่งหรือเลนที่เราถนัด ให้ได้เป็นอันดับแรก เพราะถ้าเกิดเปลี่ยนใจทีหลัง ต้องซื้อรูน ใหม่ทั้งเซ็ท เนื่องจากแต่ละเลนใช้รูนไม่ เหมือนกันนั่นเอง (โดนมาแล้วหลายหมื่น ตอนแรกกะจะเล่นแครี่สุดท้ายรู้ตัวว่าถนัด โรม)
วิธีการจัดรูน RoV นั้นก็จะมีวิธี ง่าย ๆ คือการจัดตามโปรเพลย์ เยอร์หรือ Youtuber นั่นเอง เพราะพวกนี้จะพิสูจน์มาแล้วว่ารู นเหล่านั้นดีกับตัวละครนั้นจริง วิธีการก็ง่าย ๆ สมมุติอยากจัดรู นของ Yorn ก็พิมพ์ใน Youtube ว่า ‘yorn rov’ จากนั้นเลือกตัว กรองเป็นซักสัปดาห์หรือเดือนนี้ ก็ได้เพื่อให้ได้ข้อมูลที่สดใหม่ และให้ดูวิดีโอว่าเจ้าของช่องนั้น แรงค์อะไร (ปกติจะมีบอกในช่วง ต้นหรือท้ายคลิป) ถ้าเกิดระดับ Commander หรือ Conqueror ก็ไว้ใจจัดรูนตามที่ บอกในคลิปได้เลย
ช่วงต้นท้ายจะมีบอกคะแนนเเรงค์
แต่เอาจริง ๆ ถ้าเรามีรูนของสาย นั้น ๆ อยู่แล้วก็ใช้แทนกันได้ เช่น มีรูนของ Valhein ที่เป็นสายแครี่ ก็พอจะนำไปใช้กับ Violet ที่เป็น แครี่เหมือนกันได้เช่นกันไม่ต้อง ซื้อรูนใหม่สำหรับทุก ๆ ตัว
พลังแฝงคืออะไร และ ใช้แบบไหนดี?
พลังแฝงเป็นระบบใหม่ที่ เพิ่งถูกเพิ่มเข้ามาในเกมใน RoV 3.0 มันเหมือนรูนแต่มี เอฟเฟคมากกว่าการเพิ่มค่า สถานะ พลังแฝงไม่จำเป็น ต้องซื้อ มีให้ครบสำหรับทุก คนตั้งแต่เริ่มเลย โดยจะ แบ่งเป็นทั้งหมด 4 สาย:
Lokheim เหมาะสำหรับไฟท์ เตอร์ และแอสซาซิน Veda เหมาะสำหรับเมจและ แครี่ Afata เหมาะสำหรับแทงค์และ ซัพพอร์ท Human สายเฉพาะทาง สำหรับกลยุทธ์แปลก ๆ
ระดับ I เน้น Burst ดาเมจ Raging Inferno: การโจมตีปกติ/สกิลใส่ฮีโร่ศัตรูจะทำความเสียหายเพิ่ม อีก 50 (+5 ต่อเลเวล)(0.25AP)(0.35 โบนัส AD) มีคูลดาวน์ 8 วินาที เหมาะสำหรับตัวที่สกิลพุ่งเยอะ ๆ Shadow Blade: หลังจากที่ใช้สกิลในการเคลื่อนที่ทุกชนิด จะได้รับบัฟ 1 ครั้งเป็นเวลา 2 วินาที (เก็บบัฟได้สูงสุด 3 ครั้ง) บัฟนี้จะทำให้การโจมตีปกติ ครั้งต่อไปสร้างโบนัสความเสียหายกายภาพเพิ่มเติม 30 (+5 ต่อเลเวล) ต่อ 1 บัฟ และการโจมตีปกติจะใช้งานบัฟนั้นทีเดียวเลย ทำให้เอฟเฟคซ้อนทับกัน ได้ เช่น มีบัฟ 2 ครั้งสะสมไว้ การโจมตีปกติครั้งต่อไปก็จะโบนัสความเสีย หายกายภาพเพิ่มเติม (30 (+5 ต่อเลเวล))*2 นั่นเอง ไม่ต้องฆ่าก็ได้เอฟเฟคนี้ แค่สนับสนุนพอ Devourer: หลังจากที่ทำการสังหาร (Kill) หรือสนับสนุน (Assit) จะฟื้ นฟู พลังชีวิตที่หายไป 9% และมานาที่หายไป 15% ระดับ II สายแทงค์ควรเอามา Bone Cutter: ต้านสถานะมากขึ้น 10% บวกดาเมจเยอะมาก ๆ Deadly Claw: ได้รับพลังโจมตี 12-40 (ตามเลเวลที่เพิ่มขึ้น) และพลังเวท 18-60 (ตามเลเวลที่เพิ่มขึ้น)
ระดับ III เหมาะกับตัวแบบ Kil’Groth Desperate Duel: การโจมตีปกติหรือสกิลใส่ฮีโร่ศัตรูจะ ทำการสะสมบัฟ 2 ครั้ง (ถ้าเป็นสายโจมตีไกลจะได้ทีละ 1 ครั้ง) เป็นเวลา 3 วินาที โดยจะเพิ่มความเร็วในการ เคลื่อนที่ 2 ถ้าเกิดสะสมครบ 10 ครั้งจะฟื้ นฟูเลือดที่หาย ไป 15% พร้อมทั้งได้รับโบนัสการเจาะเกราะและเจาะเวท 15% (5% สำหรับสายโจมตีไกล) เหมาะกับแอสซาซินมาก Curse of Death: การโจมตีปกติหรือสกิลใส่ศัตรูจะ ทำการสร้างสัญลักษณ์ไว้ 1 ครั้งเป็นเวลา 1.5 วินาที ถ้า เป้าหมายนั้นมี 3 สัญลักษณ์ จะได้รับความเสียหาย 50 (+5 ต่อเลเวล)(+0.25 โบนัสพลังโจมตี)(0.2 พลังเวท) เป็นระยะ 2.5 เมตรรอบ ๆ และ 1 วินาทีหลังจากนั้น เป้า หมายจะได้รับความเสียหายอีก 100 (+10 ต่อเลเวล) (+0.5 โบนัสพลังโจมตี)(0.4พลังเวท) เป็นะระยะ 2.5 เมตรรอบ ๆ นั้นเช่นกัน, มีคูลดาวน์ 15 วินาที เหมาะกับพวกตัวที่ใช้ Ultimate ในคอมโบ Devil’s Awakening: เมื่อใช้ Ultimate จะลดคูลดา วน์สกิล 1 และ 2 ลง 50% ทันที และได้รับบัฟลดคูลดา วน์ 20% และลดดาเมจที่ได้รับ 10% เป็นเวลา 6 วินาที ถ้าเกิดทำการสังหารหรือสนับสนุนในะระยะเวลาที่มีบัฟนี้ จะยืดระยะเวลาบัฟออกไปอีก 3 วินาที, มีคูลดาวน์ 30 วินาที
ระดับ I แต่คูลดาวน์ยังสุดที่ 40% เหมือนเดิมนะ Sacred Bead: ลดคูลดาวน์ Ultimate 10% (นับรวม กับผลการลดคูลดาวน์ปกติ) ตัวไหนมานาหมดบ่อย เอามาเลย Mana Refill: ฟื้ นฟูมานา 8% เมื่อทำการโจมตีปกติ หรือสกิลใส่ฮีโร่ศัตรู, มีคูลดาวน์ 5 วินาที คุ้มมาก ใช้ได้เกือบทุกตัว Axe of Sacrifice: ทำดาเมจมากขึ้น 3% แต่ได้รับดา เมจมากขึ้น 2% (ถ้าเป็นฮีโร่โจมตีใกล้จะได้รับดาเม จมากขึ้นแค่ 1%) ระดับ II พวกที่ทำดาเมจสองประเภทควรเอามา Holy Verdict: ได้รับเจาะเกราะ/เจาะเกราะเวท 18 (+3 ต่อเลเวล)
Blessing: ได้รับอัตราการคริติดคอลจากไอเทม 16% และโบนัสพลังเวทจากไอเทม 8% ระดับ III ไม่รู้จะเอาอะไรมา เลือกอันนี้ Sacred Protection: ถ้าได้รับความเสียหาย เกิน 30% ของ HP สูงสุดภายใน 3 วินาที และจะ สร้างโล่ขึ้นมารับความเสียหายได้ 550 (+60 ต่อ เลเวล) และได้รับบัฟเวทแวมไพร์ 20% ซึ่งทั้ง สองอย่างจะอยู่เป็นเวลา 6 วินาที แต่ถ้าได้ฆ่า หรือสนับสนุนจะยืดระยะเวลาของบัฟออกไปอีก 3 วินาที, มีคูลดาวน์ 30 วินาที ช่วย Burst เพิ่มได้ดี Holy Thunder: การโจมตีปกติหรือการใช้สกิล ใส่ศัตรูครั้งแรกจะมีโบนัสความเสียหาย 100 (+10 ต่อเลเวล)(0.4 โบนัสพลังโจมตี)(0.3 พลัง เวท) การโจมตีปกติหรือใช้สกิลจะลดคูลดาวน์ สกิลนี้ลง 1 วินาที, มีคูลดาวน์ 15 วินาที แครี่ตีไว ๆ เอามาดีมาก Holy Summoner: เมื่อโจมตีปกติใส่ศัตรู 3 ครั้งแบบต่อเนื่องจะเรียกแฟรี่ออกมาช่วยโจมตี 5 วินาที แฟรี่จะโจมตีเป้าหมายเดียวกับเรา ด้วย พลังโจมตี 0.4 พลังโจมตี และมีเจาะเกราะ 15%, คูลดาวน์ 10 วินาที
ระดับ I รู้ว่าต้องเกาะป้อมเอามาเลย Tower Blessing: เมื่ออยู่ในระยะป้อม (ทั้งฝั่ งเราและศัตรู) จะได้รับการ ต้านสถานะเพิ่มขึ้น 15% และลดความเสียหายที่ได้รับลง 10% เหมาะกับ Riktor, Y’bneth Backstabbing: หลังจากเข้าพุ่มไม้ การโจมตีปกติครั้งต่อไปจะสร้าง โบนัสความเสียหายจริง 4% ของ HP ที่เหลืออยู่ของเป้าหมาย เอฟเฟคนี้ มีผล 4 วินาทีหลังออกจากพุ่มไม้ แต่ถ้าอยู่ในพุ่มไม้เอฟเฟคนี้จะอยู่เรื่อย ๆ, มีคูลดาวน์ 20 วินาที โรมควรเอามา River Treader: เมื่ออยู่บริเวณแม่น้ำจะได้รับความเร็วในการเคลื่อนที่ 10 หน่วยและโบนัสฟื้ นฟูพลังชีวิต 20 และมานา 10 หน่วยทุก ๆ 5 วินาที ระดับ II เลือกออันี้ถ้าไม่ได้ดูดเลือดหนัก ๆ Nature’s Gift: เมื่อมีครีปหรือมอนสเตอร์ป่าตายใกล้ ๆ (ไม่ว่าเราจะฆ่า เองหรือใครฆ่าก็ตาม) จะได้รับบัฟ 1 ครั้ง, ถ้าเป็นมอนสเตอร์ป่าจะได้รับ บัฟ 2 ครั้ง และถ้าเป็นมอนสเตอร์ระดับ Epic (Dark Slayer, Abyssal Dragon, Spirit Sentinel) จะได้รับบัฟ 3 ครั้ง โดยการบัฟแต่ละครั้งจะ ทำให้เราเพิ่มพลังชีวิตแบบถาวร 8 หน่วยตลอดทั้งเกม สามารถทับซ้อน กันได้สูงสุด 100 ครั้ง เหมาะกับ Taara Regrowth: เอฟเฟคของการฟื้ นฟูและโล่ทุกชนิดจะเพิ่มขึ้น 10% และถ้า พลังชีวิตของเป้าหมายต่ำกว่า 50% จะทำให้เอฟเฟคนี้เพิ่มขึ้นอีก 10% รวมเป็นทั้งหมด 20%
Forest Wanderer: เมื่อไม่ได้ทำการต่อสู้เป็นระยะเวลา หนึ่ง จะได้รับบัฟฟื้ นฟูพลังชีวิต 20 และมานา 10 หน่วย ทุก ๆ 5 วินาที รวมทั้งจะทำให้การโจมตีครั้งต่อไปลด ความเร็วการเคลื่อนที่ของเป้าหมายลง 30% เป็นเวลา 1 วินาที และลดดาเมจที่เป้าหมายนั้นทำได้ลง 30% เป็น ระยะเวลา 2 วินาที เหมาะกับแทงค์ที่รับดาเมจหนัก ๆ Explosive Shield: เมื่อถูกโจมตีจะสะสมบัฟ 1 ครั้ง และถ้าครบ 20 ครั้ง จะลบล้างสถานะควบคุมทั้งหมด และระเบิดทำความเสียหายรอบ ๆ ทำความเสียหาย 10% ของพลังชีวิตสูงสุดเป้าหมายที่โดน และเป้าหมายนั้นจะ ติดสตั๊น 0.75 วินาที นอกจากนี้จะได้รับผลของการฟื้ นฟู พลังชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 30% เป็นเวลา 3 วินาทีด้วย เหมาะกับ Baldum, Tee Mee Nature’s Rage: เมื่อเราทำการควบคุมศัตรู (สตั๊น, ยั่ว ยุ, ผลัก, ทำให้ลอย, แช่แข็ง และอื่น ๆ) จะสร้างการเผา ไหม้รอบตัวทำดาเมจ 1% ของพลังชีวิตสูงสุดของเป้า หมายที่โดนทุก ๆ 0.5 วินาที เป็นเวลา 5 วินาที เป้าหมาย ที่โดนการเผาไหม้นี้จะถูกลดต้านเวทลง 30 หน่วย (+3 ต่อเลเวล) อีกด้วย, มีคูลดาวน์ 25 วินาที
Arcane Whisper: ลดคูลดาวน์สกิลชาเลนเจอร์ลง 15% แครี่ควรเอามา Reaper’s Blessing: หลังจากที่เกมเริ่มไป 3 นาที จะได้รับ เอฟเฟค Death Sickle ที่เป็นบัฟที่จะป้องกันความเสียที่ทำให้ ตายได้ 1 ครั้ง และเมื่อทำงานจะทำให้เราเคลื่อนที่ไวขึ้น 20% เป็นเวลา 1 วินาที, เอฟเฟคนี้ใช้งานได้ 1 ครั้งต่อเกมเท่านั้น เมจควรเอามา Mark of Frost: หลังจากเริ่มเกมไป 3 นาที จะได้รับเอฟเฟกต์ Freeze ที่เมื่อกดใช้จะทำให้เป็นอมตะแต่จะไม่สามารถทำอะไร ได้เลย (เคลื่อนที่, โจมตี, ใช้สกิล), เอฟเฟคนี้ใช้งานได้ 1 ครั้ง ต่อเกมเท่านั้น ระดับ II ป่าควรเอามา Gunslinger: ได้รับบัฟ Gunslinger 1 ครั้ง โดยจะได้รับบัฟนี้ เพิ่ม 1 ครั้งถ้าทำการฆ่าหรือสนับสนุน บัฟนี้จะเพิ่มพลังโจมตี 10 และพลังเวท 15 ตลอดทั้งเกม สามารถเก็บสะสมได้มาก ที่สุด 6 รอบ ไม่ค่อยมีประโยชน์มาก Minion Kill: การโจมตีปกติหรือใช้สกิลจะสังหารครีปที่เหลือ พลังชีวิตต่ำกว่า 200 ทันที
ระดับ III เหมาะกับ Tee Mee, Cresht Visceral Boost: จะเริ่มเก มดว้ ยเลเวล 2 ทันที และได้ รับค่าประสบการณ์ (XP) เพิ่มขึ้น 50% จนถึงเลเวล 12 แต่ระหว่างนั้นจะได้รับ ค่าประสบการณ์และโกลด์ จากครีปและมอนสเตอร์ป่า น้อยลง 50% เหมาะกับ Xeniel Endless Cycle: เมื่อตาย จะได้รับสกิล Resurrection โดยเมื่อกด ใช้จะเกิดใหม่ทันทีที่บ่อน้ำพุ และสกิลนี้มีคูลดาวน์ที่ 160-300 วินาที ขึ้นอยู่กับ เวลาในเกม
Flicker: วาร์ประยะสั้น ๆ ไปยังจุดหมายที่เลือก, มีคูลดาวน์ 120 วินาที Heal: ฟื้ นฟู HP 15% และเพิ่มความเร็วเคลื่อนที่ 15% ให้กับเพื่อน ร่วมทีมรอบ ๆ เป็นเวลา 2 วินาที, มีคูลดาวน์ 120 วินาที Sprint: ลบสถานะลดความเร็วและได้รับความเร็วเคลื่อนที่เพิ่มขึ้น 70% (จะลดลงเรื่อยๆ ถึง 30%) เป็นเวลา 10 วินาที, มีคูลดาวน์ 100 วินาที Punish: สร้าง 800 ความเสียหายจริง แก่ครีป หรือมอนสเตอร์ป่า ที่เลือกจากนั้นส่งผลให้ติดสถานะ สตั๊นเป็นเวลา 1 วินาที, มีคูลดา วน์ 30 วิ Execute: สร้างความเสียหายจริงใส่ฮีโร่ศัตรูรอบ ๆ เป็นจำนวน 16% จากชีวิตของฮีโร่ฝ่ายตรงข้ามที่หายไป (ยิ่งศัตรูเลือดน้อยยิ่ง แรง), มีคูลดาวน์ 90 วินาที Roar: ฮีโร่จะได้รับความเร็วโจมตีเพิ่มขึ้น 60% และพลังโจมตีเพิ่ม ขึ้น 10% เป็นเวลา 5 วินาที, มีคูลดาวน์ 60 วินาที Disturb: ทำให้ป้อมของศัตรูในบริเวณหยุดทำงานเป็นเวลา 5 วินาที, มีคูลดาวน์ 60 วินาที Dazed: สตั๊นศัตรูรอบๆ 0.5 วินาที พร้อมกับลดพลังโจมตีของศัตรู ที่โดนลง 40% เป็นเวลา 2 วินาที, มีคูลดาวน์ 90 วินาที Purify: ล้างสถานะผิดปกติที่ส่งผลกับฮีโร่ของเราทันที และ ต้านทานสถานะเหล่านั้นเป็นเวลา 1.5 วินาที, มีคูลดาวน์ 120 วินาที
ไอเทมในเกมนั้นเป็นอีกปัจจัยที่กำหนดได้เลยว่า จะแพ้หรือชนะ ในหัวข้อนี้จะไม่ ได้ไล่รายละเอียดไอเทมทั้งหมดแต่จะบอกแทนว่า ควรออกไอเทมอย่างไรถึงจะ ชนะอีกฝ่ายได้ โดยผู้เขียนจะแบ่งเกณฑ์ไอเทมเป็นประมาณ 2 ชนิดหลัก ๆ ไอเทมหลัก: ไอเทมหลักคือไอเทมที่ทำให้ตัวละครนั้นดึงศักยภาพออกมาได้ เต็มที่ และเป็นไอเทมที่จำเป็นต่อฮีโร่ตัวนั้น ๆ มาก ถ้าไม่มีไอเทมชนิดนี้ จะ แทบทำเกมไม่ได้เลย ไอเทมแก้ทาง: ไอเทมแก้ทางคือไอเทมที่ฮีโร่ตัวนั้นไม่ต้องออกก็ได้ แต่จะ ออกตามสถานการณ์ ทำให้อีกฝ่ายเสียเปรียบเรามากที่สุด โดยปกติแล้ว สามารถออกเป็นไอเทมชิ้นนี้ก่อนเสมอ เนื่องจากจะทำให้ได้เปรียบคู่ต่อสู้ แบบสุด ๆ ในการที่จะเอาชนะเกมได้อย่างต่อเนื่อง เราต้องรู้ก่อนว่า ตัวละคนของเรานั้นใช้ ของอะไรบ้างถึงจะสามารถดึงประสิทธิภาพออกมาสูงที่สุด โดยส่วนมากจะเป็น ไอเทมประมาณ 1-3 ชิ้น (ไม่รวมรองเท้า) ขึ้นอยู่กับตัวละครนั้น ๆ แครี่ส่วนใหญ่ใช้ประมาณ 2 ชิ้น ตัวอย่างของไอเทมหลักของ Tel’Annas ได้แก่ไอเทมอย่าง Claves Sancti กับ Slikk’’s Sting ถึงจะเริ่มทำดาเมจได้รุนแรงอย่างต่อเนื่อง ถ้าเจอ Taara ควรออกมาต่อจากรองเท้าเลย ตัวอย่างของไอเทมแก้ทางที่ Kil’Groth สามารถออกเมื่อเจอกับ Taara ได้แก่ Curse of Death เนื่องจาก Ultimate และสกิลติดตัวของ Taara นั้นจะทำให้ ฟื้ นฟูเลือดได้เยอะมาก ๆ แต่ไอเทม Curse of Death จะทำให้ศัตรูที่ถูกโจมตีลดอัตราการฟื้ นฟูพลัง ชีวิตลง 50% นั่นเอง ด้วยเหตุนี้เอง ผู้เล่นจำเป็นต้องศึกษาให้ละเอียดว่าศัตรูตัวไหนแพ้ทางอะไร บ้าง ซึ่งความรู้นี้ก็เกิดจากการสะสมผ่านประสบการณ์นั่นเอง
Search
Read the Text Version
- 1 - 50
Pages: