Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการเรียนภาษาไทย ม3

แผนการเรียนภาษาไทย ม3

Published by มนัสวี ฟองตา, 2021-03-12 08:55:30

Description: แผนการเรียนภาษาไทย ม3

Search

Read the Text Version

ใบงานที่ การเขียนชี้แจง และเขยี นแสดงความคิดเห็น ตอนที่ 1 คาชี้แจง ให้นักเรยี นอา่ นเรื่องทก่ี าหนด แลว้ เขียนชแี้ จงให้ถกู ต้องตามหลกั การเขียน อนาคตอาชีพใดมีแววสดใสหรอื ดับวูบ ส่ิงท่ีผู้ปกครองสมัยน้ีมักวิตกกังวลเกี่ยวกับอนาคตของลูกๆ ได้แก่ เม่ือพวกเขาโตไปแล้วจะสามารถหางานทาได้ไหม เพราะอยา่ งทีร่ ูๆ้ เดี๋ยวนี้ปริมาณงานเรม่ิ หายากข้ึนเร่ือยๆ ขณะท่จี านวนประชากรมีแตเ่ พิ่มข้ึน ทกุ วัน สงั เกตดเู ถอะทไ่ี หนเปิดรบั สมัครงานเมอ่ื ไหร่ ถ้าเป็นหน่วยงานทม่ี ีชอ่ื เสียงละ่ ก็ ไมว่ า่ จะเป็นภาครฐั หรือภาคเอกชน อ้หู .ู .. จะมีคนแหไ่ ปสมคั รงานกันเปน็ พันเป็นหมน่ื แต่มตี าแหน่งงานท่ีเปิดรับเพียง 1-2 คน เท่านั้น หรือต่อให้เป็นหน่วยงานท่ี ไม่มีช่ือเสียงโด่งดัง บางทียังมีคนแห่ไปสมัครเพียบเช่นกัน เหตุนี้การสมัครงานจึงต้องใช้วิธีดาวกระจาย คือสมัครไปหลายๆ แห่ง เผือ่ เอาไว้ ถา้ หน่วยงานนไี้ ม่ได้ อาจมหี น่วยงานอื่นที่เลง็ เหน็ ในความอุตสาหะและคุณสมบัติท่ีโดดเด่นเกิดรับข้ึนมาก็แจ๋ว ไปเลย คาถามก็คือ แล้วบุตรหลานของเรามีความสามารถอะไรเจ๋งเป้งนอกเหนือไปจากคนอื่นไหม ซ่ึงถ้ามีอย่างเช่นมีแวว ที่จะเรียนรู้ส่ิงต่างๆ ได้เร็ว หรือที่เรียกส้ันๆ ว่า หัวไว สามารถเข้าใจอะไรได้ง่าย (แต่ควรหัวไวในส่ิงที่ถูกท่ีควรด้วยนะ) ก็มกั จะได้เปรียบผู้สมคั รคนอน่ื ๆ แต่อยากชี้ให้เห็นลึกลงไปว่า ในบางอาชีพที่ต้องการความเช่ียวชาญพิเศษหรือวิชาชีพบางอย่างนั้นต้องการผู้ที่จบ การศึกษาทางดา้ นน้นั ๆ มาโดยตรง ไมใ่ ช่แคต่ อ้ งการคนหัวไวอย่างเดยี วเทา่ น้ัน เช่น งานทางด้านสถิติ ทนายความ แพทย์ หรือ พยาบาล ฯลฯ ใครจะทางานเหล่าน้ีได้ ก็ต้องเรียนให้จบจากคณะท่ีสอนในสายงานน้ันจริงๆ ดังน้ัน จึงมีผู้วิเคราะห์ ให้ฟังว่า คนเราจะประหยัดอะไรก็ประหยัดมัธยัสถ์ไปเถอะ แต่สาหรับการวางรากฐานอนาคตของลูกด้านการศึกษานี่ หา้ มประหยัดเด็ดขาด ทว่าก็ขึน้ อย่กู บั มนั สมองของเดก็ ด้วยนะ เพราะมีเหมอื นกนั ทพ่ี อ่ แม่ท่มุ เทให้ลูกดา้ นการศึกษามากมาย แต่ ลูกดั นไป เลื อกเรียน อะ ไรก็ ไม่รู้ ท่ีมี แววว่าจ บม าแล้ วจะ หางาน ยาก หรือตลาดแรงงานไม่ ได้ ต้องการผู้จ บ ทางด้านน้ีเท่าไร อย่างน้ีลงทุนไปก็เท่าน้ัน ฉะนั้น ผู้ปกครองควรทาหน้าที่เป็นโค้ชคอยแนะแนวทางอนาคตให้ลูกๆ ด้วย จะเลิศมาก ถามว่า อาชีพอะไรล่ะ ท่ีมีอนาคตสดใส แน่ๆ ก็อาชีพในด้านของการรักษาพยาบาลไงล่ะ ต่อให้สารวจก่ีคร้ังก่ีหน ก็ยังเป็นอาชีพที่ไม่ตกเทรนด์ เพราะคนเรายังไงก็ต้องมีวันเจ็บป่วย ดังน้ัน หมอหรือพยาบาลน่ี ถ้าเรียนจบก็รับรองได้ว่า มีงานใหท้ าแน่ๆ แต่เปน็ อาชพี ที่ตอ้ งการความรบั ผดิ ชอบสูงเอาการ อาชพี ผูจ้ ัดการด้านโซเชยี ลมีเดยี ขององค์กรต่างๆ น่ีกาลังรุ่ง เน่ืองจากหลายหน่วยงานใช้โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือทา การตลาด ตดิ ต่อสือ่ สารกบั ลูกค้ามากขน้ึ ไม่วา่ จะผา่ นทางเฟซบ๊กุ หรือทวิตเตอร์ งานในสายของเทคโนโลยีชีวภาพ เป็นวิทยาการทางดา้ นวิทยาศาสตร์ที่นาส่งิ มีชวี ิต หรือผลผลิตของส่ิงมชี ีวิต ไปแปรรูปเปน็ อาหารหรือยา แต่ถา้ อยากเรยี นรเู้ รอ่ื งนาโนเทคโนโลยีกแ็ จว๋ ด้านนติ ยสารฟอรบ์ ส์ท่ชี อบรายงานอนั ดับของเศรษฐีนน้ั ได้ทานายวา่ อาชีพท่ีจะยังคงมีอยูไ่ ปเร่อื ยๆ นับจากน้ไี ปอีกหลายปี ได้แก่ นักการเมือง สัปเหรอ่ งานจดั เกบ็ ภาษี ชา่ งทาผม ศิลปนิ ผูใ้ หค้ วามบันเทงิ ทหาร ส่วนอาชีพท่วี ่ากนั วา่ จะหมดไปในอนาคต เช่น พนักงานเกบ็ เงนิ หรอื แคชเชียร์ คนงานเหมอื ง คนงานกอ่ สรา้ ง เพราะจะมีเทคโนโลยีใหมๆ่ และหนุ่ ยนตม์ าทาแทนไงล่ะ ท่มี า : หนงั สือพิมพไ์ ทยรัฐ ฉบบั วนั ท่ี 11 ธันวาคม 2554.



ตอนท่ี 2 คาชี้แจง ใหน้ ักเรียนอ่านขา่ วที่กาหนด แล้วเขียนแสดงความคิดเหน็ มหาภัยเฟซบกุ๊ รวบบ้ากาม ลวงขยี้ นกั เรยี นสาวไปขนื ใจถา่ ยคลปิ ชีต้ ัวจงิ้ จอกสงั คม หนุ่มจ้ิงจอกสังคมเล่นเฟซบุ๊กลวงเด็กนักเรียนหญิงไปขย้ีกามแล้วถ่ายคลิปวีดิโอไว้แบล็กเมล อีกหลายครั้งจน เหย่ือสาวซึมเศร้าไม่กล้าไปโรงเรียน ผู้ปกครองและครูทราบแจ้งตารวจช่วยสืบ ก่อนลากคอได้หน้าโรงแรมกลางเมืองโคราช สารภาพไมม่ ีอาชีพเป็นหลกั แหลง่ อาศัยลักเล็กขโมยน้อยไปเรื่อยๆ พบประวตั ิเคยติดคกุ คดีลักทรพั ย์ กอ่ นหันมาใชส้ อื่ ออนไลน์ ยอดฮิตลวงเด็กสาว ม.1 และ ม.2 ไปเสพสขุ ล่าสุดมีผ้เู สยี หาย 3 คน รอ้ งทุกข์ดูโฉมหน้าคนร้าย ตารวจคาดยังมีอีกหลายราย ทยี่ งั ไม่กล้าแจ้งความ ภัยร้ายจากการเล่นเฟซบุ๊ก นักเรียนหญิงถูกหนุ่มภัยสังคมล่อลวงไปข่มขืน ก่อนถ่ายรูปไว้แบล็กเมลรายน้ีเปิดเผยเมื่อ เวลา 10.00 น. วันท่ี 15 ธ.ค. 54 ท่ีห้องประชุมสานักตารวจภูธรภาค 3 (บช.ภ.3) อ.เมืองนครราชสีมา พล.ต.ท.ภาณุ เกิด ลาภผล ผบช.ภ.3 นายชวน ศิรินันท์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พล.ต.ต.กรกต สาริยา พล.ต.ต.เดชา ชวยบุญชุม รองผบช.ภ.3 พ.ต.อ.ผดุงเกียรติ ศิริพรวิวัฒน์ ผกก.สภ.เมืองนครราชสีมา พ.ต.ท.ภูมิทองโพธ์ิ สว.สส.สภ.เมือง รว่ มกนั แถลงจับกมุ นายวมิ ล ศรดี า อายุ 37 ปี อย่บู า้ นเลขท่ี 257/32 ถนนระนอง ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จ.ภเู กต็ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครราชสีมาท่ี จ.358/2554 ลงวันที่ 14 ธ.ค.54 ในข้อหากระทาชาเราเด็กอายุ ไมเ่ กนิ 15 ปี ซงึ่ ไม่ใช่ภรรยา โดยเด็กน้ันยนิ ยอมหรือไม่ก็ตาม พาบุคคลอายุยังไมเกนิ 15 ปี เพือ่ อนาจารและโดยปราศจากเหตุ อันควร พรากเด็กยังไม่เกินอายุ 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครองหรือผู้ดูแล โดยสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ท่ี หน้ าโ รง แร ม ศ รี รั ตน์ ถ น น สุ ร น า รี เ ข ต เท ศบ าล น ค รร าช สี ม า พร้ อ ม ยึ ดข อ ง ก ล าง คอ ม พิ วเ ตอ ร์ โ น้ ต บุ๊ ก 1 เคร่ือง และโทรศัพท์มือถอื 1 เครื่อง สบื เนื่องจากพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา ได้รบั การร้องเรียนจากครูอาจารยแ์ ละผู้ปกครองเด็กนักเรียนหญิง อายุระหว่าง 12-15 ปี หลายรายว่า บุตรสาวได้เล่นเฟซบุ๊กทางอินเตอร์เน็ต และถูกผู้ชายล่อลวงไปข่มขืน ก่อนถ่ายวิดีโอไว้ แบล็กเมลขู่บังคับให้ไปหลับนอนด้วยอีกหลายครั้ง ทาให้เหยื่อนักเรียนสาวไม่อยากไปโรงเรียนจนมีอาการซึมเศร้า หลังรับ เร่ืองเจ้าหน้าที่ตารวจได้ตรวจสอบพบว่า คนร้ายได้ใช้ช่ือในเฟซบุ๊กว่า “แคน สีดา” และ “นักรบแดนใต้” ก่อนทราบช่ือว่า นายวิมล ศรีดา ซ่ึงเคยมีประวัติจาคุกในคดีเกี่ยวกับทรัพย์ที่ศาลจังหวัดพิจิตร และมีหมายจับของศาลจังหวัดมีนบุรีในข้อหา ลกั ทรพั ย์ พนักงานสอบสวนจงึ รวบรวมพยานหลักฐานขออนมุ ตั ิหมายจับและรวบตัวได้ดงั กล่าว สอบสวนนายวิมลให้การรับสารภาพว่า ไม่มีอาชีพอะไรเป็นหลักแหล่ง ลักเล็กขโมยน้อยไปเร่ือย ก่อนอาศัยช่องทางเฟ ซบุ๊กติดต่อส่ือสารกับเด็กสาววัยรุ่น แล้วโทรศัพท์นัดพบตามสถานที่ต่างๆ พร้อมกับกระทาการล่วงละเมิดทางเพศ แล้วถ่ายคลิปวิดีโอไว้แบล็กเมล หากเด็กไม่ยอมมาพบก็จะขู่เอาคลิปดังกล่าวไปเผยแพร่ประจานโดยทามาแล้วหลายราย อย่างไรกต็ ามในชัน้ สอบสวนของตารวจมเี ด็กนักเรยี นหญิงผเู้ สียหายมาชต้ี วั ผู้ต้องหาแลว้ 3 ราย ท้งั หมดเรียนอยู่ชั้น ม.1 และ ม.2 และหนง่ึ ในผูเ้ สยี หายถกู นายวิมลถ่ายคลิปไวข้ ่มขู่ดว้ ย ด้านนายชวน ศิรินันท์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า คดีน้ีถือว่าเป็นเร่ืองสาคัญท่ีเกิดจากอันตราย การใช้อินเทอร์เน็ตติดต่อสื่อสาร โดยเฉพาะเฟซบุ๊กที่กาลังเป็นท่ีนิยมอย่างมากบนโลกออนไลน์ แต่กลับมีคนนามาใช้ล่อลวง เด็กหญิงไปทามิดีมิร้าย บางรายถูกเรียกเอาทรัพย์สินด้วย เท่ าท่ีทราบเบื้องต้นมีผู้เสียหายมาแจ้งไว้ 3 ราย แต่ตารวจเชือ่ วา่ ยังมีเดก็ ตกเปน็ เหยอ่ื อกี หลายรายทย่ี ังไม่กล้ามาแจ้งความ ขณะนีอ้ ยูร่ ะหวา่ งสอบสวนขยายผลต่อไป ท่มี า : หนงั สอื พิมพไ์ ทยรฐั ฉบบั วนั ท่ี 11 ธนั วาคม 2554.



ใบงานที่ การเขียนช้แี จง และเขียนแสดงความคิดเหน็ ตอนที่ 1 คาชแี้ จง ให้นักเรียนอา่ นเรื่องทกี่ าหนด แล้วเขียนชแี้ จงใหถ้ กู ตอ้ งตามหลกั การเขยี น อนาคตอาชีพใดมีแววสดใสหรอื ดบั วูบ สงิ่ ทผี่ ปู้ กครองสมัยนมี้ ักวติ กกงั วลเกย่ี วกบั อนาคตของลกู ๆ ได้แก่ เมื่อพวกเขาโตไปแลว้ จะสามารถหางานทาไดไ้ หม เพราะอย่างท่ีรๆู้ เด๋ยี วนี้ปริมาณงานเร่ิมหายากขนึ้ เร่ือยๆ ขณะท่จี านวนประชากรมีแต่เพมิ่ ข้นึ ทกุ วนั สงั เกตดูเถอะท่ไี หนเปิดรับสมัครงานเม่ือไหร่ ถ้าเปน็ หน่วยงานท่มี ีชอื่ เสยี งละ่ ก็ ไม่วา่ จะเปน็ ภาครัฐหรือภาคเอกชน อหู้ ู... จะมีคนแห่ไปสมัครงานกนั เปน็ พันเป็นหมนื่ แต่มีตาแหน่งงานทเ่ี ปดิ รบั เพียง 1-2 คน เท่านั้น หรือต่อให้เปน็ หน่วยงานท่ี ไม่มชี อ่ื เสียงโด่งดงั บางทียังมีคนแห่ไปสมัครเพยี บเชน่ กัน เหตุน้กี ารสมคั รงานจงึ ตอ้ งใชว้ ิธีดาวกระจาย คอื สมคั รไปหลายๆ แห่ง เผือ่ เอาไว้ ถา้ หน่วยงานน้ไี ม่ได้ อาจมหี นว่ ยงานอน่ื ท่เี ลง็ เห็นในความอุตสาหะและคณุ สมบัติท่โี ดดเดน่ เกดิ รบั ขึ้นมาก็แจว๋ ไปเลย คาถามกค็ อื แล้วบุตรหลานของเรามีความสามารถอะไรเจ๋งเปง้ นอกเหนือไปจากคนอนื่ ไหม ซง่ึ ถ้ามอี ย่างเชน่ มแี วว ท่จี ะเรียนรสู้ ่ิงตา่ งๆ ไดเ้ รว็ หรือท่ีเรียกสน้ั ๆ วา่ หัวไว สามารถเขา้ ใจอะไรได้งา่ ย (แตค่ วรหัวไวในสิ่งทถี่ ูกท่ีควรด้วยนะ) ก็มักจะไดเ้ ปรียบผสู้ มัครคนอ่นื ๆ แต่อยากชใี้ หเ้ หน็ ลกึ ลงไปว่า ในบางอาชพี ท่ีตอ้ งการความเชยี่ วชาญพเิ ศษหรือวิชาชพี บางอย่างน้ันต้องการผู้ทจ่ี บ การศกึ ษาทางด้านนน้ั ๆ มาโดยตรง ไม่ใชแ่ คต่ ้องการคนหัวไวอย่างเดียวเท่านั้น เช่น งานทางด้านสถติ ิ ทนายความ แพทย์ หรอื พยาบาล ฯลฯ ใครจะทางานเหล่านีไ้ ด้ ก็ต้องเรียนให้จบจากคณะทสี่ อนในสายงานนนั้ จรงิ ๆ ดังนน้ั จงึ มผี ู้วเิ คราะห์ ให้ฟังวา่ คนเราจะประหยัดอะไรกป็ ระหยดั มัธยสั ถ์ไปเถอะ แตส่ าหรบั การวางรากฐานอนาคตของลูกด้านการศึกษานี่ ห้ามประหยัดเด็ดขาด ทวา่ ก็ขึ้นอยกู่ บั มนั สมองของเดก็ ดว้ ยนะ เพราะมีเหมอื นกนั ทพี่ ่อแมท่ มุ่ เทใหล้ ูกด้านการศึกษามากมาย แต่ ลกู ดนั ไปเลอื กเรยี นอะไรก็ไม่รู้ทม่ี แี วววา่ จบมาแลว้ จะหางานยาก หรอื ตลาดแรงงานไม่ได้ตอ้ งการผู้จบ ทางดา้ นน้ีเทา่ ไร อยา่ งนล้ี งทุนไปก็เทา่ นนั้ ฉะน้ัน ผู้ปกครองควรทาหนา้ ท่ีเปน็ โค้ชคอยแนะแนวทางอนาคตใหล้ ูกๆ ด้วย จะเลศิ มาก ถามวา่ อาชีพอะไรละ่ ทีม่ อี นาคตสดใส แนๆ่ ก็อาชพี ในด้านของการรักษาพยาบาลไงล่ะ ตอ่ ให้สารวจก่คี รง้ั กหี่ น ก็ยังเปน็ อาชีพที่ไม่ตกเทรนด์ เพราะคนเรายังไงกต็ ้องมวี ันเจ็บปว่ ย ดงั น้ัน หมอหรอื พยาบาลนี่ ถา้ เรียนจบกร็ บั รองได้ว่า มงี านให้ทาแนๆ่ แต่เปน็ อาชพี ท่ีต้องการความรบั ผดิ ชอบสงู เอาการ อาชพี ผจู้ ดั การด้านโซเชียลมเี ดียขององค์กรตา่ งๆ น่ีกาลังรงุ่ เนอ่ื งจากหลายหนว่ ยงานใช้โซเชียลมเี ดียเป็นเคร่ืองมือทา การตลาด ตดิ ต่อสื่อสารกบั ลูกค้ามากขน้ึ ไม่ว่าจะผ่านทางเฟซบ๊กุ หรอื ทวิตเตอร์ งานในสายของเทคโนโลยชี วี ภาพ เป็นวิทยาการทางดา้ นวิทยาศาสตร์ท่นี าสง่ิ มชี ีวติ หรอื ผลผลิตของสงิ่ มชี วี ิต ไปแปรรปู เป็นอาหารหรือยา แต่ถา้ อยากเรียนร้เู ร่ืองนาโนเทคโนโลยีก็แจว๋

ด้านนติ ยสารฟอร์บส์ท่ีชอบรายงานอันดับของเศรษฐนี ั้น ได้ทานายวา่ อาชพี ทจ่ี ะยงั คงมอี ย่ไู ปเร่ือยๆ นับจากนไ้ี ปอกี หลายปี ได้แก่ นักการเมือง สัปเหร่อ งานจดั เกบ็ ภาษี ชา่ งทาผม ศลิ ปนิ ผูใ้ ห้ความบนั เทิง ทหาร สว่ นอาชีพทว่ี า่ กนั ว่าจะหมด ไปในอนาคต เชน่ พนักงานเก็บเงนิ หรอื แคชเชียร์ คนงานเหมอื ง คนงานก่อสรา้ ง เพราะจะมีเทคโนโลยีใหมๆ่ และหุ่นยนตม์ า ทาแทนไงละ่ ทีม่ า : หนงั สอื พมิ พไ์ ทยรัฐ ฉบบั วันที่ 11 ธันวาคม 2554. (พิจารณาตามคา่ ตอบของนักเรยี น โดยให้อยใู่ นดุลยพินิจของครูผสู้ อน)

ตอนที่ 2 คาชี้แจง ให้นักเรยี นอ่านขา่ วทก่ี าหนด แล้วเขียนแสดงความคิดเห็น มหาภยั เฟซบุ๊ก รวบบา้ กาม ลวงขย้ี นกั เรียนสาวไปขนื ใจถ่ายคลปิ ชีต้ วั จิง้ จอกสงั คม หนมุ่ จงิ้ จอกสังคมเลน่ เฟซบุก๊ ลวงเด็กนกั เรยี นหญงิ ไปขยก้ี ามแล้วถ่ายคลิปวีดิโอไวแ้ บลก็ เมล อกี หลายครั้งจน เหยื่อสาวซมึ เศรา้ ไมก่ ล้าไปโรงเรียน ผปู้ กครองและครทู ราบแจ้งตารวจชว่ ยสบื ก่อนลากคอไดห้ นา้ โรงแรมกลางเมอื งโคราช สารภาพไมม่ อี าชพี เป็นหลกั แหลง่ อาศยั ลักเลก็ ขโมยนอ้ ยไปเรื่อยๆ พบประวัตเิ คยติดคุกคดีลกั ทรพั ย์ กอ่ นหันมาใช้สือ่ ออนไลน์ ยอดฮิตลวงเดก็ สาว ม.1 และ ม.2 ไปเสพสขุ ล่าสุดมผี ้เู สียหาย 3 คน ร้องทกุ ขด์ ูโฉมหน้าคนร้าย ตารวจคาดยงั มีอีกหลายราย ท่ียงั ไม่กล้าแจง้ ความ ภัยรา้ ยจากการเล่นเฟซบกุ๊ นกั เรียนหญงิ ถกู หนมุ่ ภยั สงั คมลอ่ ลวงไปขม่ ขนื กอ่ นถ่ายรปู ไว้แบล็กเมลรายนเี้ ปดิ เผยเมอ่ื เวลา 10.00 น. วนั ที่ 15 ธ.ค. 54 ท่ีหอ้ งประชมุ สานักตารวจภธู รภาค 3 (บช.ภ.3) อ.เมอื งนครราชสีมา พล.ต.ท.ภาณุ เกิด ลาภผล ผบช.ภ.3 นายชวน ศิรนิ นั ทพ์ ร ผู้วา่ ราชการจังหวดั นครราชสีมา พล.ต.ต.กรกต สาริยา พล.ต.ต.เดชา ชวยบุญชมุ รองผบช.ภ.3 พ.ต.อ.ผดงุ เกียรติ ศิรพิ รววิ ฒั น์ ผกก.สภ.เมืองนครราชสมี า พ.ต.ท.ภมู ิทองโพธ์ิ สว.สส.สภ.เมือง รว่ มกนั แถลงจบั กมุ นายวมิ ล ศรดี า อายุ 37 ปี อยบู่ า้ นเลขท่ี 257/32 ถนนระนอง ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ผู้ตอ้ งหาตามหมายจับศาลจงั หวดั นครราชสีมาที่ จ.358/2554 ลงวนั ท่ี 14 ธ.ค.54 ในข้อหากระทาชาเราเดก็ อายุ ไม่เกนิ 15 ปี ซ่งึ ไม่ใช่ภรรยา โดยเดก็ นนั้ ยินยอมหรือไมก่ ็ตาม พาบุคคลอายยุ งั ไมเกนิ 15 ปี เพ่อื อนาจารและโดยปราศจากเหตุ อนั ควร พรากเดก็ ยังไมเ่ กนิ อายุ 15 ปี ไปเสียจากบดิ ามารดา ผปู้ กครองหรอื ผดู้ ูแล โดยสามารถติดตามจับกมุ ผู้ตอ้ งหาได้ที่ หน้าโรงแรมศรีรัตน์ ถนนสรุ นารี เขตเทศบาลนครราชสีมา พร้อมยึดของกลางคอมพวิ เตอร์โนต้ บกุ๊ 1 เครื่อง และโทรศัพท์มือถือ 1 เครอ่ื ง สบื เนอื่ งจากพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสมี า ไดร้ ับการร้องเรียนจากครูอาจารยแ์ ละผปู้ กครองเด็กนกั เรยี นหญิง อายรุ ะหวา่ ง 12-15 ปี หลายรายว่า บตุ รสาวไดเ้ ล่นเฟซบุ๊กทางอินเตอร์เนต็ และถูกผูช้ ายลอ่ ลวงไปข่มขืน ก่อนถ่ายวิดโี อไว้ แบลก็ เมลข่บู ังคบั ใหไ้ ปหลบั นอนด้วยอีกหลายคร้งั ทาให้เหยอ่ื นักเรียนสาวไม่อยากไปโรงเรยี นจนมีอาการซึมเศร้า หลงั รับ เร่อื งเจ้าหนา้ ทีต่ ารวจไดต้ รวจสอบพบวา่ คนรา้ ยได้ใชช้ อื่ ในเฟซบุก๊ ว่า “แคน สดี า” และ “นกั รบแดนใต้” ก่อนทราบชื่อวา่ นายวมิ ล ศรดี า ซงึ่ เคยมปี ระวัตจิ าคกุ ในคดีเกย่ี วกบั ทรัพย์ทศี่ าลจังหวัดพจิ ติ ร และมหี มายจับของศาลจังหวดั มนี บุรีในข้อหา ลกั ทรัพย์ พนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลกั ฐานขออนมุ ัตหิ มายจบั และรวบตัวได้ดังกลา่ ว สอบสวนนายวมิ ลให้การรบั สารภาพวา่ ไมม่ ีอาชีพอะไรเป็นหลักแหล่ง ลกั เลก็ ขโมยนอ้ ยไปเรือ่ ย กอ่ นอาศยั ชอ่ งทางเฟ ซบุ๊กติดตอ่ ส่อื สารกบั เดก็ สาววยั รนุ่ แล้วโทรศัพท์นดั พบตามสถานทต่ี ่างๆ พรอ้ มกับกระทาการล่วงละเมิดทางเพศ แล้วถา่ ยคลปิ วดิ ีโอไวแ้ บล็กเมล หากเดก็ ไม่ยอมมาพบก็จะขู่เอาคลปิ ดังกลา่ วไปเผยแพร่ประจานโดยทามาแล้วหลายราย อยา่ งไรกต็ ามในช้ันสอบสวนของตารวจมีเด็กนักเรยี นหญิงผเู้ สียหายมาช้ีตัวผตู้ อ้ งหาแล้ว 3 ราย ทั้งหมดเรยี นอยชู่ นั้ ม.1 และ ม.2 และหนึ่งในผเู้ สียหายถูกนายวิมลถ่ายคลิปไว้ขม่ ขู่ด้วย ดา้ นนายชวน ศริ ินนั ท์พร ผวู้ า่ ราชการจงั หวัดนครราชสมี า กลา่ ววา่ คดนี ้ีถอื วา่ เป็นเรื่องสาคญั ทเี่ กิดจากอนั ตราย การใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ ติดตอ่ สอื่ สาร โดยเฉพาะเฟซบกุ๊ ท่กี าลังเปน็ ท่ีนยิ มอยา่ งมากบนโลกออนไลน์ แต่กลับมีคนนามาใชล้ ่อลวง เดก็ หญงิ ไปทามดิ มี ิร้าย บางรายถกู เรียกเอาทรัพยส์ นิ ดว้ ย เท่าที่ทราบเบื้องต้นมผี ้เู สียหายมาแจง้ ไว้ 3 ราย แตต่ ารวจเชอ่ื ว่ายังมีเดก็ ตกเปน็ เหย่ืออีกหลายรายทีย่ งั ไม่กลา้ มาแจง้ ความ ขณะน้อี ยรู่ ะหวา่ งสอบสวนขยายผลตอ่ ไป ทมี่ า : หนังสอื พิมพ์ไทยรัฐ ฉบบั วนั ท่ี 11 ธันวาคม 2554.

(พจิ ารณาตามคา่ ตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ย่ใู นดลุ ยพนิ ิจของครูผ้สู อน)

แผนการจัดการเรยี นรู้ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 เรือ่ ง การเขียนเพ่อื การส่อื สาร 2 แผนจัดการเรียนรทู้ ี่ 2 เรอ่ื ง การเขียนรายงานโครงงาน รายวิชา ภาษาไทย รหสั วิชา ท23101 ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2563 น้าหนกั เวลาเรยี น 1.5 (นน./นก.) เวลาเรียน 60 ชั่วโมง/สปั ดาห์ เวลาท่ีใช้ในการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ 3 ชวั่ โมง .......................................................................................................................................................... 1. สาระสาคญั (ความเขา้ ใจทคี่ งทน) การเขยี นรายงานโครงงาน ตอ้ งมีความรูเ้ รือ่ ง หลักการเขียน และองค์ประกอบของรายงานโครงงาน 2. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ช้ีวดั ช้นั ป/ี ผลการเรียนร้/ู เปา้ หมายการเรยี นรู้ มาตรฐาน ท 2.1 ใช้กระบวนการเขียนเขยี นสอื่ สาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรอ่ื งราวในรปู แบบ ต่างๆ เขยี นรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นควา้ อย่างมปี ระสิทธิภาพ ตัวชวี้ ดั /ผลการเรยี นรู้ ม. 3/9 เขยี นรายงานการศึกษาค้นคว้าและโครงงาน 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 เนอ้ื หาสาระหลกั : Knowledge นกั เรยี นสามารถเขยี นรายงานโครงงานได้ 3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process นักเรยี นบอกหลกั และวธิ ีการเขียนรายงานโครงงานได้ 3.3 คณุ ลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ : Attitude นักเรยี นบอกวิธกี ารเขยี นรายงานโครงงานได้ 4. สมรรถนะสาคญั ของนกั เรยี น 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 4.2 ความสามารถในการคดิ 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ 5. คุณลกั ษณะของวชิ า - การเขยี นรายงานโครงงาน 6. คุณลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ 6.1. มีวนิ ยั 6.2. ใฝ่เรยี นรู้ 6.3. มงุ่ มนั่ ในการทางาน 6.4. รกั ความเปน็ ไทย 7. ชิน้ งาน/ภาระงาน : (ใหส้ อดคลอ้ งกบั ตัวชี้วัด/ผลการเรยี นรู้ ในแผนการเรยี นรู้นี)้ - เขยี นรายงาน 8. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. นักเรียนรวมกล่มุ เดมิ (จากแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1) แล้วใหน้ ักเรียนแตล่ ะกลุ่มยกตวั อย่างเรื่องท่เี ปน็ ปญั หาในสงั คมซ่ึงกลุ่มสนใจ

2. ครกู ระตนุ้ ใหน้ กั เรยี นหาวิธีการแก้ปัญหา 3. นกั เรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิด • นกั เรียนคดิ วา่ ปญั หาทเี่ กิดขึ้นในสงั คมควรใหใ้ ครเปน็ ผู้แก้ไข (พิจารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยู่ในดลุ ยพินจิ ของครผู สู้ อน) 4. นักเรียนแต่ละกลมุ่ ร่วมกนั ศึกษาความร้เู รอ่ื ง การเขยี นโครงงาน จากหนังสอื เรียน 5. นักเรียนแต่ละกลุ่มกาหนดจุดมุ่งหมายให้ชัดเจนว่าจะศึกษาเรื่องท่ีนักเรียนสนใจนั้นเพ่ืออะไร จะทา โครงงานเพอื่ แกป้ ญั หาอะไร 6. นกั เรยี นตอบคาถามกระต้นุ ความคดิ • รายงานโครงงานมคี วามเหมือนและความแตกต่างจากรายงานการศกึ ษาค้นควา้ อยา่ งไร (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรียน โดยให้อยใู่ นดลุ ยพนิ จิ ของครูผู้สอน) 7. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ วางแผนแก้ปัญหา แล้วนาเสนอแผนการดาเนินงาน 8. ครพู ิจารณาและใหค้ าแนะนาการวางแผนดาเนนิ งานโครงงานของนกั เรยี น 9. นกั เรียนเขียนโครงงานตามองคป์ ระกอบของโครงงานและตามแผนการดาเนนิ งาน 10. นกั เรยี นตอบคาถามกระต้นุ ความคิด • การวางแผนปฏิบัตงิ านเป็นผลดีต่อผปู้ ฏิบัติอยา่ งไร (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรียน โดยให้อยใู่ นดุลยพนิ จิ ของครผู ู้สอน) 11. นกั เรยี นลงมอื ปฏิบัติหรอื แกป้ ัญหาตามแผนการทกี่ าหนดไว้ 12. ครใู ห้คาแนะนาใหน้ กั เรียนรจู้ ักสงั เกต เก็บรวบรวมขอ้ มูล บันทึกผลดาเนินการดว้ ยความรับผดิ ชอบ 13. นักเรยี นประชมุ อภิปราย ปรึกษาหารือกนั เปน็ ระยะๆ วางแผนและตัดสินใจทาด้วยตนเอง 14. นกั เรียนตอบคาถามกระตุ้นความคดิ • นกั เรยี นคดิ ว่า ข้อมลู ท่ไี ดจ้ ากแหลง่ ใดมคี วามถกู ตอ้ งมากทสี่ ุด เพราะเหตุใด (พิจารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยให้อยใู่ นดลุ ยพินิจของครูผู้สอน) 9. สอ่ื การเรียนการสอน / แหลง่ เรยี นรู้ รายการสื่อ จานวน สภาพการใช้สื่อ 1. หนงั สือเรยี น ภาษาไทย : หลักภาษาและการใช้ภาษา 1 ชดุ ข้นั สรา้ งความรู้ ม.3 10. การวดั ผลและประเมนิ ผล เปา้ หมาย หลกั ฐานการเรยี นรู้ วิธีวดั เคร่อื งมอื วัดฯ ประเด็น/ การเขียนรายงาน เกณฑก์ ารให้คะแนน การเรียนรู้ ชิ้นงาน/ภาระงาน ตรวจการเขยี น (ประเมินตามสภาพจริง) รายงาน - เขยี นรายงาน การเขียนรายงาน โครงงานได้

ผังมโนทศั น์ รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วิชา ท 23101 ระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 3 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 6 เร่ือง บทละครพูดเห็นแก่ลูก จานวน 10 ช่ัวโมง : 10 คะแนน ชอ่ื เรือ่ ง การวิเคราะห์วถิ ีไทย และคณุ คา่ จานวน 5 ช่วั โมง : 5 คะแนน หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 6 เรอ่ื ง บทละครพูดเหน็ แก่ลกู จานวน 10 ชว่ั โมง ชื่อเร่ือง การสรุปความรู้ และขอ้ คดิ จานวน 5 ชัว่ โมง : 5 คะแนน

แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 6 เร่อื ง บทละครพดู เหน็ แกล่ ูก แผนจัดการเรียนรทู้ ี่ 1 เร่อื ง การวิเคราะห์วถิ ไี ทย และคุณคา่ รายวิชา ภาษาไทย รหสั วิชา ท23101 ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2563 น้าหนักเวลาเรยี น 1.5 (นน./นก.) เวลาเรยี น 60 ชั่วโมง/สปั ดาห์ เวลาท่ใี ชใ้ นการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 5 ชว่ั โมง .......................................................................................................................................................... 1. สาระสาคญั (ความเข้าใจที่คงทน) การศกึ ษาวรรณคดแี ละวรรณกรรม จะต้องวิเคราะห์วถิ ีไทยและคณุ ค่าจากวรรณคดแี ละวรรณกรรมทอ่ี า่ น 2. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้ีวดั ช้ันป/ี ผลการเรยี นรู้/เปา้ หมายการเรยี นรู้ มาตรฐาน ท 5.1 เข้าใจและแสดงความคดิ เห็น วิจารณว์ รรณคดีและวรรณกรรมไทยอยา่ งเหน็ คณุ ค่าและ นามาประยกุ ต์ใชใ้ นชีวิตจริง ตวั ชีว้ ัด/ผลการเรยี นรู้ ม. 3/2 วิเคราะหว์ ิถไี ทยและคุณค่าจากวรรณคดีและวรรณกรรมที่อา่ น 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 เนอ้ื หาสาระหลกั : Knowledge นักเรยี นสามารถวิเคราะหว์ ิถไี ทยและคุณค่าจากบทละครพดู เรอ่ื งเห็น แก่ลูกได้ 3.2 ทกั ษะ/กระบวนการ : Process นักเรยี นบอกหลักและวธิ กี ารวเิ คราะห์วิถีไทยและคณุ คา่ จากบทละคร พูด เรื่องเหน็ แก่ลกู ได้ 3.3 คณุ ลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ : Attitude นักเรียนบอกวิธกี ารวิเคราะหว์ ถิ ีไทยและคุณค่าจากบทละครพดู เร่ืองเหน็ แกล่ ูกได้ 4. สมรรถนะสาคัญของนักเรยี น 4.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร 4.2 ความสามารถในการคดิ 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต 5. คณุ ลกั ษณะของวิชา - การวิเคราะห์วถิ ีไทยและคุณค่าจากวรรณคดีและวรรณกรรม 6. คุณลักษณะที่พงึ ประสงค์ 6.1. มวี นิ ัย 6.2. ใฝเ่ รียนรู้ 6.3. มุ่งม่ันในการทางาน 6.4. รกั ความเปน็ ไทย 7. ชน้ิ งาน/ภาระงาน : (ใหส้ อดคล้องกบั ตวั ชีว้ ดั /ผลการเรยี นรู้ ในแผนการเรียนรนู้ ี้) - ใบงาน เรื่อง การวิเคราะห์วิถไี ทยและคณุ คา่ เรื่องเห็นแกล่ กู

8. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. ครูให้นกั เรียนรว่ มกันแสดงความคดิ เห็นเก่ยี วกับความแตกตา่ งในการดาเนนิ ชีวติ ในปจั จุบนั และอดีต 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มสรุปผลการวิเคราะห์วิถีไทยและคุณค่าจากบทละครพูด เรื่องเห็นแก่ลูก จากน้ันส่ง ตวั แทนกลมุ่ นาเสนอผลงานทีห่ นา้ ชน้ั เรียน 3. สมาชิกในแต่ละกล่มุ ทาใบงาน เร่ือง การวเิ คราะหว์ ถิ ไี ทยและคณุ คา่ เร่ืองเหน็ แก่ลกู เปน็ รายบุคคล 4. ครูตรวจใบงาน แล้วนาคะแนนของสมาชิกทุกคนมารวมกันเป็นคะแนนของกลุ่ม จากนั้นประกาศชมเชย กลุ่มทีม่ ีคะแนนสูงสดุ และรองลงมา เรียงตามลาดับ ติดประกาศคะแนนไวท้ ป่ี า้ ยนิเทศ เพอ่ื เสริมกาลงั ใจ 5. ครสู ัมภาษณ์กลุม่ ท่ีไดค้ ะแนนสงู สุด เพือ่ เป็นตัวอย่างการทางาน 6. นักเรยี นรว่ มกันสรปุ คณุ ค่าของบทละครพดู เรอื่ งเห็นแกล่ กู 7. นกั เรียนตอบคาถามกระตนุ้ ความคิด นักเรียนคิดวา่ วถิ ไี ทยเปน็ เอกลกั ษณท์ ่ีมีความงดงามอยา่ งไร (พิจารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยให้อยูใ่ นดลุ ยพนิ ิจของครูผ้สู อน) 9. ส่ือการเรยี นการสอน / แหลง่ เรยี นรู้ รายการสื่อ จานวน สภาพการใชส้ ่ือ 1. หนงั สือเรียน ภาษาไทย : หลักภาษาและการใชภ้ าษา 1 ชดุ ขัน้ สรา้ งความรู้ ม.3 10. การวดั ผลและประเมินผล เปา้ หมาย หลกั ฐานการเรยี นรู้ วธิ วี ดั เคร่ืองมอื วดั ฯ ประเดน็ / การเรยี นรู้ ช้ินงาน/ภาระงาน เกณฑ์การให้คะแนน ใบงาน เร่ือง การ (ประเมินตามสภาพจรงิ ) - วเิ คราะหว์ ถิ ไี ทย ใบงาน เรื่อง การ ตรวจใบงาน เรอ่ื ง วิเคราะห์วิถีไทยและ คุณคา่ เรอ่ื งเห็นแกล่ กู และคุณค่าจากบท วิเคราะหว์ ถิ ไี ทยและ การวเิ คราะหว์ ถิ ี ละครพดู เรอื่ งเหน็ คุณค่าเร่ืองเหน็ แก่ลกู ไทยและคณุ ค่า แกล่ ูกได้ เรอื่ งเห็นแกล่ กู

ใบงานที่ การวเิ คราะหว์ ถิ ีไทยและคุณคา่ เรอ่ื งเห็นแก่ลกู คาช้แี จง ใหน้ กั เรียนวิเคราะห์วถิ ีไทยและคณุ ค่าจากการอ่านบทละครพดู เรือ่ งเหน็ แก่ลูก 1. นายล้า. : แหม! วนั น้ีรอ้ นจงั ทาใหก้ ระหายนา้ พลิ ึก. พระยาภักด.ี : (เรยี ก) อา้ ยคา! ไปหาโซดามาดว้ ยเถอะ. นายลา้ . : โซดาเปล่าหรือครับ? พระยาภักด.ี : จะเอาครมี โซดากไ็ ด้ หรอื น้าแดง. ใหน้ กั เรยี นอธบิ ายธรรมเนียมในการรบั แขกว่า มลี กั ษณะทเ่ี ปลยี่ นไปจากวิถไี ทยเดิมอย่างไร 2. พระยาภักดี. : ออ๋ ! นีน่ ะ่ แกต้องการเงินยงั งนั้ หรือ? นายลา้ . : กแ็ นล่ ่ะ ไมม่ ีเงนิ ก็อดตายเทา่ นน้ั เอง. พระยาภักด.ี : กจ็ ะพูดกันเสยี ตรงๆ เท่าน้นั ก็จะแลว้ กัน เอาเถอะฉันใหแ้ กเด๋ียวนีก้ ไ็ ด้ เทา่ ไหรถ่ งึ จะพอ เอาไปสิบชัง่ ก่อนพอไหม? ในอดตี มกี ารกาหนดคา่ เงินโบราณอยา่ งไร 3. นายลา้ . : แล้วผมจะขออะไรอกี อย่าง. พระยาภักด.ี : อะไร? ว่ามาเถอะ ฉนั ไม่ขัดเลย.อะไร? นายลา้ . : อย่าไดบ้ อกความจริงแกแ่ ม่ลออเลย ให้เขาคงนบั ถือรปู ผมอันเก่าน้นั วา่ เปน็ พ่อเขา และให้นับถอื ตวั ผมเป็นเหมอื นอา. จากบทสนทนาดงั กลา่ ว สะท้อนให้เห็นถึงสจั ธรรมของมนษุ ยไ์ ด้อยา่ งไร

ใบงานทีก่ ารวิเคราะหว์ ถิ ไี ทยและคุณคา่ เรือ่ งเหน็ แก่ลูก คาชแ้ี จง ให้นักเรียนวิเคราะห์วิถไี ทยและคณุ ค่าจากการอา่ นบทละครพูด เรอ่ื งเห็นแกล่ กู 1. นายลา้ . : แหม! วนั นีร้ อ้ นจงั ทาให้กระหายน้าพลิ กึ . พระยาภกั ด.ี : (เรียก) อ้ายคา! ไปหาโซดามาด้วยเถอะ. นายล้า. : โซดาเปลา่ หรอื ครับ? พระยาภักด.ี : จะเอาครมี โซดากไ็ ด้ หรือน้าแดง. ใหน้ กั เรยี นอธบิ ายธรรมเนียมในการรับแขกว่า มลี กั ษณะทเี่ ปลย่ี นไปจากวิถไี ทยเดิมอย่างไร 2. พระยาภักดี. : อ๋อ! นี่นะ่ แกตอ้ งการเงนิ ยงั งน้ั หรือ? นายลา้ . : ก็แน่ละ่ ไมม่ เี งนิ กอ็ ดตายเท่านัน้ เอง. พระยาภักด.ี : กจ็ ะพูดกันเสียตรงๆ เท่าน้ันก็จะแลว้ กัน เอาเถอะฉนั ใหแ้ กเดี๋ยวน้ีกไ็ ด้ เทา่ ไหรถ่ งึ จะพอ เอาไปสิบชั่งก่อนพอไหม? ในอดตี มกี ารกาหนดคา่ เงินโบราณอยา่ งไร (พิจารณาตามคาตอบของนักเรียน โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ จิ ของครูผสู้ อน) 3. นายล้า. : แล้วผมจะขออะไรอกี อย่าง. พระยาภกั ด.ี : อะไร? วา่ มาเถอะ ฉันไม่ขดั เลย.อะไร? นายลา้ . : อย่าไดบ้ อกความจรงิ แก่แม่ลออเลย ให้เขาคงนบั ถือรปู ผมอนั เกา่ นั้น ว่าเปน็ พ่อเขา และให้นบั ถือตวั ผมเปน็ เหมือนอา. จากบทสนทนาดงั กลา่ ว สะท้อนใหเ้ ห็นถึงสจั ธรรมของมนษุ ย์ได้อยา่ งไร (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยู่ในดุลยพินิจของครูผู้สอน)

แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 6 เรือ่ ง บทละครพูดเหน็ แก่ลูก แผนจัดการเรยี นรูท้ ่ี 2 เร่อื ง การสรุปความรแู้ ละข้อคดิ รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วิชา ท23101 ระดับชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 3 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2563 น้าหนักเวลาเรยี น 1.5 (นน./นก.) เวลาเรยี น 60 ช่ัวโมง/สัปดาห์ เวลาทีใ่ ชใ้ นการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ 5 ชว่ั โมง .......................................................................................................................................................... 1. สาระสาคญั (ความเขา้ ใจที่คงทน) การวิเคราะห์คุณคา่ วรรณคดแี ละวรรณกรรม โดยสรปุ ความรแู้ ละขอ้ คิดจากการอา่ นเพ่อื นาไปประยุกตใ์ ช้ ใน ชวี ติ จริง 2. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วัดชนั้ ป/ี ผลการเรียนรู้/เป้าหมายการเรียนรู้ มาตรฐาน ท 5.1 เขา้ ใจและแสดงความคิดเห็น วจิ ารณ์วรรณคดแี ละวรรณกรรมไทยอยา่ งเห็นคุณค่าและ นามาประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จรงิ ตัวช้ีวัด/ผลการเรยี นรู้ ม. 3/3 สรุปความร้แู ละข้อคดิ จากการอา่ นเพอื่ นาไปประยุกตใ์ ชใ้ นชีวติ จรงิ 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 เน้ือหาสาระหลัก : Knowledge นักเรยี นสามารถสรปุ ความรแู้ ละข้อคดิ จากการอ่านบทละครพดู เรอ่ื ง เหน็ แกต่ วั เพอื่ นาไปประยุกต์ใชใ้ นชีวติ จริงได้ 3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process นักเรียนบอกหลักและวธิ กี ารสรปุ ความรแู้ ละขอ้ คิดจากการอ่านบท ละครพดู เรอื่ งเหน็ แกต่ วั เพื่อนาไปประยกุ ต์ใช้ในชีวติ จริงได้ 3.3 คณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ : Attitude นกั เรยี นบอกสรปุ ความรู้และขอ้ คดิ จากการอา่ นบทละครพดู เร่ือง เห็นแก่ตวั เพื่อนาไปประยุกต์ใชใ้ นชีวติ จรงิ ได้ 4. สมรรถนะสาคัญของนกั เรยี น 4.1 ความสามารถในการส่อื สาร 4.2 ความสามารถในการคดิ 4.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต 5. คุณลักษณะของวิชา - การวิเคราะห์วิถไี ทยและคุณค่าจากวรรณคดีและวรรณกรรม 6. คณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ 6.1. มีวินัย 6.2. ใฝ่เรียนรู้ 6.3. ม่งุ ม่นั ในการทางาน 6.4. รักความเป็นไทย 7. ช้ินงาน/ภาระงาน : (ให้สอดคลอ้ งกบั ตวั ชวี้ ดั /ผลการเรยี นรู้ ในแผนการเรยี นรนู้ ้ี)

- ใบงาน เรื่อง การสรปุ ความรูแ้ ละข้อคดิ เรื่องเห็นแกล่ ูก 8. กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ครูใหน้ ักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกับลกั ษณะนสิ ัยของตวั ละครสาคัญแต่ละตัวจากบทละครพูด เรอื่ งเห็นแก่ลูก 2. นักเรยี นแต่ละกลมุ่ ทาใบงาน เรื่อง การสรปุ ความรแู้ ละข้อคิดเร่อื งเห็นแก่ลูก โดยใหส้ มาชิกใน แตล่ ะกลุ่มจับคู่ กนั เป็น 2 คู่ แลว้ ให้แตล่ ะคปู่ ฏบิ ัติกิจกรรม ดงั น้ี - สมาชิกคนท่ี 1 อา่ นโจทยค์ าถาม และเขียนคาตอบ - สมาชกิ คนที่ 2 เปน็ ฝ่ายสังเกต ตรวจสอบคาตอบ 3. นักเรยี นรวมกลุ่มเดมิ (4 คน) ใหแ้ ต่ละค่นู าคาตอบของคู่ตนเองมานาเสนอให้เพื่อนอีกค่หู นึ่งฟงั เพ่ือช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง เสรจ็ แล้วนาใบงานที่ 1.5 สง่ ครู 4. ครูตรวจคาตอบในใบงาน ของนักเรียน  ครมู อบหมายใหน้ กั เรยี นเขียนบทความเกย่ี วกบั ผลการศึกษาบทละครพูด เร่ืองเห็นแกล่ กู โดยให้ครอบคลุม ประเดน็ ตามท่ีกา่ หนด ดงั นี้ 1) การสรุปเนือ้ หา 2) การวิจารณค์ วามสมเหตสุ มผล การล่าดบั ความและความเป็นไปได้ 3) การวิเคราะหว์ ถิ ีไทยและคณุ คา่ 4) การสรุปความรู้และข้อคดิ เพ่ือนา่ ไปประยุกตใ์ ชใ้ นชีวติ จริง 5) การใช้ภาษาในการเขยี น 9. สอ่ื การเรียนการสอน / แหล่งเรยี นรู้ รายการสือ่ จานวน สภาพการใช้ส่ือ 1. ใบงาน เรอื่ ง การสรปุ ความรู้และข้อคดิ เรอื่ งเห็นแก่ลกู 1 ชดุ ขน้ั สร้างความรู้ 10. การวดั ผลและประเมินผล เป้าหมาย หลักฐานการเรยี นรู้ วิธีวดั เครื่องมือวดั ฯ ประเดน็ / การเรยี นรู้ ช้นิ งาน/ภาระงาน เกณฑ์การใหค้ ะแนน - สรปุ ความรูแ้ ละ ใบงาน เรือ่ ง การ ตรวจใบงาน เร่อื ง ใบงาน เรอื่ ง การสรปุ (ประเมนิ ตามสภาพจรงิ ) ขอ้ คดิ จากการอ่าน สรปุ ความรู้และ การสรปุ ความรู้ ความรู้และข้อคิดเรอ่ื ง บทละครพูด เรอื่ ง ขอ้ คดิ เรอ่ื งเห็นแกล่ ูก และข้อคดิ เรอื่ งเห็น เห็นแก่ลูก เหน็ แก่ตวั เพื่อ แกล่ กู นาไปประยุกต์ใชใ้ น ชวี ิตจริงได้

ใบงานที่ การสรุปความรู้และขอ้ คิดเรอ่ื งเห็นแก่ลูก คาช้ีแจง ให้นกั เรียนอา่ นบทละครพูด เรอ่ื งเห็นแก่ลกู แล้วตอบคาถามต่อไปน้ี 1. เรื่องเห็นแก่ลูกใหค้ วามร้ใู นเรื่องใดแกผ่ ู้อา่ น 2. ใหน้ ักเรียนบอกข้อคิดท่ไี ด้จากการศกึ ษาเรอื่ งเหน็ แกล่ ูก มาอย่างนอ้ ย 3 ข้อ 3. ขอ้ คดิ ใดทสี่ ามารถนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวันของนักเรยี นได้ 4. ถา้ นกั เรียนประกอบอาชีพรับราชการ นกั เรยี นจะนาข้อคิดในเร่ืองเห็นแก่ลกู ไปใชไ้ ดอ้ ย่างไร

ใบงานท่ี การสรุปความรู้และข้อคดิ เร่ืองเหน็ แกล่ ูก คาชแี้ จง ให้นักเรียนอ่านบทละครพูด เรือ่ งเหน็ แก่ลกู แลว้ ตอบคาถามต่อไปน้ี 1. เรอ่ื งเหน็ แกล่ ูกใหค้ วามรูใ้ นเร่ืองใดแกผ่ ู้อา่ น 1) สภาพชีวิตความเปน็ อยู่ของขุนนางในสมัยรชั กาลที่ 6 2) ความแตกตา่ งเร่ืองภาษาทใ่ี ชใ้ นสมยั รัชกาลที่ 6 กบั สมัยปจั จุบัน 3) การจัดพธิ แี ต่งงาน 4) สภาพสังคมไทยในสมัยรชั กาลท่ี 6 2. ใหน้ ักเรยี นบอกข้อคิดทไ่ี ดจ้ ากการศึกษาเรอื่ งเห็นแก่ลกู มาอยา่ งนอ้ ย 3 ข้อ สะท้อนใหเ้ หน็ ภาพประวตั ิศาสตรไ์ ทยในรัชสมัยพระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยู่หวั (รชั กาลที่ 6) แหง่ กรุง 1) เปน็ ข้าราชการต้องมคี วามซื่อสตั ย์ 2) เป็นผนู้ ้อยต้องเคารพผู้ใหญ่ 3) เพ่ือนตอ้ งช่วยเหลือเพือ่ นในยามที่ตกทุกขไ์ ด้ยาก 4) ไม่มีใครให้อภัยแก่คนที่ท่าความผิดซา่้ ซาก 3. บทละครพูดคาฉนั ท์ เรอื่ ง มัทนะพาธา สะท้อนภาพชีวิตของสังคมไทยในอดีตอย่างไร ข้อคดิ ท่สี ามารถน่าไปใชใ้ นชวี ติ ประจ่าวนั ของนกั เรยี นได้ คอื เปน็ ผ้นู ้อยต้องเคารพผ้ใู หญ่ 4. ถา้ นักเรยี นประกอบอาชพี รับราชการ นกั เรียนจะนาข้อคิดในเร่อื งเหน็ แกล่ ูกไปใช้ได้อย่างไร การเปน็ ข้าราชการทีด่ ีต้องมีความซ่ือสตั วส์ จุ ริต ไม่ทุจรติ ตอ่ หน้าท่ี

ผังมโนทศั น์ รายวชิ า ภาษาไทย รหัสวชิ า ท 23101 ระดบั ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 7 เร่ือง พระอภยั มณี ตอน พระอภัยมณีหนีนางผเี สื้อ จานวน 10 ช่วั โมง : 10 คะแนน ชือ่ เรอ่ื ง การอา่ นออกเสยี งบทร้อยกรอง จานวน 5 ช่ัวโมง : 5 คะแนน หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 7 เรอ่ื ง พระอภยั มณี ตอน พระอภยั มณหี นีนางผเี สือ้ จานวน 10 ชว่ั โมง ชือ่ เรือ่ ง การวเิ คราะหว์ ถิ ไี ทยและคณุ ค่า จานวน 5 ชั่วโมง : 5 คะแนน

แผนการจดั การเรยี นรู้ หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 7 เรอื่ ง พระอภัยมณี ตอน พระอภยั มณีหนนี างผีเสอื้ แผนจดั การเรยี นรู้ท่ี 1 เร่ือง การอา่ นออก เสียงบทร้อยกรอง รายวชิ า ภาษาไทย รหัสวิชา ท23101 ระดับชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2563 น้าหนกั เวลาเรยี น 1.5 (นน./นก.) เวลาเรียน 60 ช่ัวโมง/สัปดาห์ เวลาท่ใี ชใ้ นการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ 5 ชั่วโมง .......................................................................................................................................................... 1. สาระสาคัญ (ความเขา้ ใจที่คงทน) การอ่านบทร้อยกรองต้องออกเสียงให้ถกู ต้องเหมาะสมกับเรอ่ื งท่ีอ่าน 2. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชี้วดั ช้ันป/ี ผลการเรยี นรู้/เปา้ หมายการเรียนรู้ มาตรฐาน ท 1.1 ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิด เพื่อนาไปใช้ตัดสินใจ แกป้ ัญหาในการ ดาเนนิ ชีวิตและมีนสิ ยั รักการอา่ น ตัวชวี้ ดั /ผลการเรยี นรู้ ม. 3/1 อา่ นออกเสียงบทร้อยแก้วและบทรอ้ ยกรองได้ถูกตอ้ งและเหมาะสมกับเร่อื งท่ี อ่าน 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 เน้อื หาสาระหลกั : Knowledge นกั เรยี นสามารถอา่ นออกเสียงบทร้อยกรองเรื่อง พระอภยั มณี ตอน พระอภยั มณหี นนี างผีเสื้อได้ถกู ต้อง 3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process นกั เรียนบอกหลกั และวิธีการอา่ นออกเสยี งบทร้อยกรองเรื่อง พระอภัย มณี ตอน พระอภัยมณหี นีนางผเี สอื้ ได้ถูกต้อง 3.3 คุณลกั ษณะที่พึงประสงค์ : Attitude นักเรียนบอกสรุปความรู้การอา่ นออกเสยี งบทร้อยกรองเร่ือง พระ อภัยมณี ตอน พระอภยั มณีหนีนางผเี สื้อไดถ้ กู ต้อง 4. สมรรถนะสาคญั ของนักเรียน 4.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร 4.2 ความสามารถในการคดิ 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ 5. คุณลักษณะของวชิ า - อา่ นออกเสยี งบทร้อยกรอง 6. คุณลกั ษณะที่พึงประสงค์ 6.1. มวี นิ ัย 6.2. ใฝเ่ รียนรู้ 6.3. มงุ่ มัน่ ในการทางาน 6.4. รักความเป็นไทย

7. ชนิ้ งาน/ภาระงาน : (ใหส้ อดคล้องกับตวั ชี้วัด/ผลการเรยี นรู้ ในแผนการเรียนรู้น)ี้ - สลาก 8. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั ทบทวนการฝึกอา่ นเร่ือง พระอภัยมณี ตอน พระอภยั มณีหนีนางผีเส้อื 2. นักเรียนจับสลากเลือกบทอ่านเร่อื ง พระอภัยมณี ตอน พระอภัยมณีหนีนางผเี ส้อื คนละ 2 บท แล้วให้นกั เรยี น แตล่ ะคนฝึกอ่านดว้ ยตนเอง 3. เม่ือนักเรียนอา่ นบทท่ตี นเองตอ้ งรับผิดชอบไดแ้ ล้ว ให้จบั คูก่ ับเพ่ือนผลดั กนั อ่านและผลดั กันวิจารณ์ แสดง ความคดิ เห็น ใหค้ าแนะนาแก้ไขในกรณีที่ยงั อา่ นไม่ถกู ต้อง 4.นักเรยี นตอบคาถามกระตุ้นความคิด ถา้ นกั เรยี นต้องการอ่านข้อความต่อไปนีใ้ ห้ผู้ฟังเกดิ อารมณร์ ว่ มไปกับเนือ้ เรอ่ื ง ควรทาอยา่ งไร (อสุรผี ีเสื้อเหลือจะอด แคน้ โอรสราวกบั ไฟไหม้มังสา ช่างหลอกหลอนผอ่ นผันจานรรจา แมน้ จะว่าโดยดเี หน็ มิฟัง จะจบั ไวใ้ หพ้ าไปหาพ่อ แล้วหักคอเสียให้ตายเมื่อภายหลัง โกรธตวาดผาดเสียงสาเนียงดงั นอ้ ยหรือยงั โหยกเหยกเดก็ เกเร (พิจารณาตามคาตอบของนักเรียน โดยใหอ้ ยูใ่ นดลุ ยพนิ ิจของครผู ู้สอน) 5. นกั เรยี นแตล่ ะค่ฝู กึ อ่านจนเกิดความชานาญแล้ว ให้แตล่ ะคนอ่านใหค้ รูฟังเพ่ือทดสอบการอ่าน 6. ครสู ุ่มนักเรียนอ่านเรื่อง พระอภัยมณี เปน็ ทานองเพลงพน้ื บ้านในท้องถิ่นของตน 7. นักเรียนตอบคาถามกระตุ้นความคดิ ถา้ นักเรยี นมีข้อบกพรอ่ งในการอา่ นทานองเสนาะ นักเรยี นจะปรบั ปรงุ อยา่ งไร (พิจารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยู่ในดุลยพินิจของครูผสู้ อน) 9. ส่ือการเรยี นการสอน / แหลง่ เรียนรู้ รายการส่อื จานวน สภาพการใชส้ ่อื 1. หนงั สือเรยี น ภาษาไทย : หลกั ภาษาและการใช้ภาษา 1 ชุด ข้นั สรา้ งความรู้ ม.3 10. การวัดผลและประเมินผล เปา้ หมาย หลกั ฐานการเรียนรู้ วิธีวดั เครอ่ื งมือวัดฯ ประเดน็ / การเรียนรู้ ชิ้นงาน/ภาระงาน เกณฑ์การให้คะแนน - อา่ นออกเสียงบท อ่านออกเสียงบทรอ้ ย ตรวจสอบอ่านออก การอ่านออกเสียงบท (ประเมนิ ตามสภาพจรงิ ) รอ้ ยกรองเรือ่ ง พระ กรอง เสยี งบทรอ้ ยกรอง รอ้ ยกรอง อภัยมณี ตอน พระ อภัยมณหี นีนาง ผีเส้อื ได้ถกู ต้อง

แผนการจดั การเรียนรู้ หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 7 เร่อื ง พระอภัยมณี ตอน พระอภยั มณีหนีนางผเี สอ้ื แผนจัดการเรยี นรทู้ ี่ 2 เรอื่ ง การวิเคราะหว์ ถิ ี ไทยและคุณคา่ รายวิชา ภาษาไทย รหัสวชิ า ท23101 ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2563 น้าหนกั เวลาเรยี น 1.5 (นน./นก.) เวลาเรยี น 60 ช่ัวโมง/สัปดาห์ เวลาที่ใชใ้ นการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ 5 ช่ัวโมง .......................................................................................................................................................... 1. สาระสาคัญ (ความเขา้ ใจท่คี งทน) การศึกษาวรรณคดเี กีย่ วกับบันเทงิ คดีจะต้องวเิ คราะห์วิถไี ทยและคุณค่าจากวรรณคดีที่อ่าน 2. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวช้ีวดั ชั้นป/ี ผลการเรียนรู/้ เปา้ หมายการเรียนรู้ มาตรฐาน ท 5.1 เข้าใจและแสดงความคดิ เห็น วจิ ารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณคา่ และ นามาประยกุ ตใ์ ช้ในชีวิตจรงิ ตวั ช้ีวดั /ผลการเรยี นรู้ ม. 3/2 วิเคราะหว์ ิถีไทยและคณุ ค่าจากวรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอ่าน 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 เนอ้ื หาสาระหลกั : Knowledge นักเรียนสามารถวเิ คราะห์วถิ ไี ทยและคุณค่าจากเร่ือง พระอภยั มณี ตอน พระอภัยมณีหนีนางผเี สื้อได้ 3.2 ทกั ษะ/กระบวนการ : Process นกั เรียนบอกหลักและวธิ กี ารวิเคราะห์วิถไี ทยและคุณคา่ จากเรื่อง พระ อภัยมณี ตอน พระอภัยมณีหนีนางผเี สื้อได้ 3.3 คุณลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ : Attitude นักเรยี นบอกสรปุ วิเคราะห์วิถีไทยและคุณคา่ จากเรื่อง พระอภัย มณี ตอน พระอภยั มณหี นนี างผเี สอ้ื ได้ 4. สมรรถนะสาคญั ของนักเรียน 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 4.2 ความสามารถในการคิด 4.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ 5. คุณลักษณะของวชิ า - วิเคราะห์วิถไี ทยและคุณคา่ จากวรรณคดแี ละวรรณกรรม 6. คุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ 6.1. มวี นิ ัย 6.2. ใฝ่เรียนรู้ 6.3. มุง่ ม่นั ในการทางาน 6.4. รักความเปน็ ไทย 7. ช้นิ งาน/ภาระงาน : (ใหส้ อดคล้องกับตัวชวี้ ดั /ผลการเรยี นรู้ ในแผนการเรียนรนู้ ้)ี - ใบงาน เรอื่ ง วเิ คราะห์วถิ ไี ทยและคุณคา่ ตอน พระอภยั มณหี นนี างผีเสื้อ

8. กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครซู ักถามนักเรยี นเกีย่ วกับความรู้ทีไ่ ดจ้ ากการศกึ ษาความรเู้ รื่อง พระอภยั มณี ตอน พระอภยั มณหี นี นางผเี สื้อ : คณุ คา่ ดา้ นสงั คมและสะท้อนวถิ ไี ทย 2. นกั เรียนแตล่ ะกล่มุ ร่วมกันทาใบงาน เรื่อง วเิ คราะหว์ ิถีไทยและคุณค่า ตอน พระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อ โดยให้ นกั เรียนจบั คกู่ นั แล้วใหส้ มาชกิ คนหนึ่งคดิ หาคาตอบ และเขียนคาตอบ และสมาชิกอีกคนหน่ึงเป็นฝา่ ยสังเกต (นกั เรียนอกี คู่หนงึ่ ท่อี ย่ใู นกลุ่มเดยี วกนั ปฏิบตั ิในทานองเดียวกนั ) 3. นกั เรียนทที่ าหน้าทเ่ี ปน็ ฝ่ายสงั เกตจะทาหนา้ ทตี่ รวจสอบและแสดงความคดิ เหน็ ด้วย เมื่อตรวจสอบว่าเป็น คาตอบที่ ถูก พร้อมแสดงความยนิ ดี 4. นักเรียนแตล่ ะคเู่ ปลีย่ นบทบาทกันในคาถามข้อต่อไป เมอื่ จบการตอบคาถาม 2 ข้อแลว้ ใหน้ กั เรยี นแต่ละคู่ใน กลมุ่ เดียวกนั (กลุ่ม 4 คน) เปรียบเทยี บคาตอบกัน และช่วยกันอธบิ ายแสดงความคดิ เห็นเพมิ่ เติมเพอื่ ความ กระจ่าง ชดั เจน 5. นกั เรยี นเปลี่ยนกันทาหน้าทีใ่ นข้อตอ่ ไปจนครบคาถามในใบงาน 6. นกั เรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิด ครอบครวั ของพระอภยั มณีกับนางผีเสอ้ื มีลักษณะอย่างไร มีความเหมือนหรือแตกตา่ งจาก ครอบครวั ไทย ท่ัวไปอย่างไร (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรียน โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ ิจของครูผสู้ อน) 7. นักเรียนแต่ละกลุ่มสรุปการทาใบงาน ของกลุ่มตนเองว่า ข้อมูลที่ไดศ้ ึกษาค้นควา้ มคี วามถกู ต้องเหมาะสม เพียงใด โดยการตรวจสอบแนวคิดภายในกล่มุ ของตนเองอย่างอสิ ระ 8. นกั เรยี นทกุ กลุ่มร่วมกนั สรุปองคค์ วามรใู้ นภาพรวมของปัญหาอีกคร้งั แลว้ นาข้อมูลท่ีไดจ้ ากการทาใบงาน มา จดั ระบบองค์ความรู้และนาเสนอผลการวิเคราะห์ในรปู แบบของการจัดทาสอื่ อิเล็กทรอนิกส์ แล้วนาเสนอ ผลงาน หน้าชั้นเรียน 9. ส่อื การเรยี นการสอน / แหลง่ เรียนรู้ รายการสือ่ จานวน สภาพการใช้สอื่ 1. ใบงาน เรือ่ ง วิเคราะห์วิถีไทยและคณุ คา่ ตอน พระอภัย 1 ชดุ ขัน้ สร้างความรู้ มณหี นนี างผเี สอื้

10. การวัดผลและประเมินผล เปา้ หมาย หลกั ฐานการเรยี นรู้ วธิ วี ัด เครอื่ งมือวัดฯ ประเดน็ / การเรยี นรู้ ชน้ิ งาน/ภาระงาน เกณฑ์การใหค้ ะแนน การใบงาน เร่อื ง (ประเมนิ ตามสภาพจรงิ ) - วเิ คราะหว์ ิถีไทย ใบงาน เรือ่ ง ตรวจใบงาน เรอ่ื ง วเิ คราะหว์ ถิ ไี ทยและ คณุ คา่ ตอน พระอภยั และคุณคา่ จากเรอ่ื ง วิเคราะห์วถิ ีไทยและ วเิ คราะหว์ ถิ ีไทย มณหี นีนางผเี สอ้ื พระอภัยมณี ตอน คุณค่า ตอน พระ และคณุ คา่ ตอน พระอภัยมณหี นีนาง อภยั มณีหนนี างผีเสื้อ พระอภยั มณีหนี ผเี สื้อได้ นางผีเสอ้ื

วเิ คราะห์วิถีไทยและคุณค่า ตอน พระอภัยมณหี นีนางผเี สือ้ คาชแ้ี จง ให้นกั เรยี นยกข้อความในเร่ือง พระอภัยมณี ตอน พระอภัยมณีหนีนางผเี ส้ือ ตามประเดน็ ท่กี าหนด 1. ให้นักเรยี นยกขอ้ ความในเรอ่ื งตอนที่แสดงถึง วฒั นธรรมไทย 2. ให้นกั เรียนยกข้อความในเรื่องตอนทแี่ สดงถึง ประเพณี 3. ใหน้ กั เรยี นยกข้อความในเรอ่ื งตอนที่แสดงถึง วถิ ชี ีวติ 4. ให้นักเรียนยกขอ้ ความในเร่ืองตอนทีแ่ สดงถึง ความเชื่อ

5. ให้นกั เรยี นยกขอ้ ความในเรือ่ งตอนทแ่ี สดงถึง คา่ นิยม 6. ใหน้ ักเรียนวเิ คราะห์คณุ คา่ ของเร่อื ง พระอภัยมณี ตอน พระอภัยมณหี นนี างผีเส้อื

วิเคราะห์วิถไี ทยและคณุ คา่ ตอน พระอภัยมณีหนนี างผีเส้อื คาชี้แจง ใหน้ ักเรยี นยกข้อความในเรอื่ ง พระอภัยมณี ตอน พระอภัยมณีหนีนางผีเสอ้ื ตามประเด็นทก่ี าหนด 1. ให้นักเรยี นยกข้อความในเรื่องตอนท่แี สดงถึง วัฒนธรรมไทย การสอนให้เคารพผูใ้ หญ่ และรู้จกั ขอโทษเม่อื ตอ้ งใชแ้ รงกายผ้ใู หญ่ พงศ์กษัตรยิ ต์ รัสชวนสนิ สมทุ ร สอนให้บุตรขอสมาอัชฌาสยั พระทรงบ่าเงือกน่้างามวิไล พระหนอ่ ไทขอสมาขึน้ บา่ นาง 2. ใหน้ กั เรยี นยกข้อความในเรื่องตอนท่ีแสดงถึง ประเพณี การชว่ ยเหลอื ผ้ทู ่ีตกทกุ ขไ์ ดย้ าก การต้อนรบั ผูท้ ี่มาเยอื น วนั น้ีชายมีศกั ดิ์จักมาหา แลว้ บอกศษิ ย์ซ่ึงนั่งอย่ทู ั้งหลาย เสยี งชลาเล่อื นลั่นสนั่นดัง ผเี สอื้ น้่าทา่ ฤทธต์ิ ามตดิ มา จ่าจะไปคอยดูอยูท่ หี่ าด ชว่ ยตวาดข่ขู บั ใหก้ ลบั หลัง ฉวยไมเ้ ท้ากา้ วย่างจากบัลลังก์ แขกฝร่ังพรัง่ พรอ้ มล้อมลีลา 3. ให้นักเรียนยกขอ้ ความในเร่อื งตอนทแ่ี สดงถงึ วิถีชีวติ การเล้ยี งดูบุตร คนไทยสมัยกอ่ นนิยมใหล้ ูกนอนเปลและมกี ารร้องเพลงกล่อมเดก็ เฝ้าเลย้ี งลกู ผกู เปลแล้วเหช่ า จนใหญก่ ล้าอายไุ ดแ้ ปดปี จึงใหน้ ามตามอย่างขา้ งมนษุ ย์ ชื่อสนิ สมทุ รกุมารชาญชัยศรี 4. ใหน้ กั เรยี นยกข้อความในเรอื่ งตอนที่แสดงถงึ ความเช่อื จงคิดหักความสวาทใหข้ าดสญู ความเชื่อเร่อื งบาปบุญ และตายแลว้ เกดิ ใหม่ จงเพม่ิ พูนภาวนารกั ษาธรรม์ พ่เี ปน็ มนษุ ย์สดุ สวาทเปน็ ชาติยกั ษ์ กลับไปอยคู่ ูหาอย่าอาดูร

อย่าฆ่าสตั วต์ ัดชวี ติ พษิ ฐาน หมายวมิ านเมอื งแมนแดนสวรรค์ จะเกดิ ไหนขอใหไ้ ดพ้ บประสบกนั อย่าโศกศลั ย์แคลว้ คลาดเหมอื นชาตนิ ี้ 5. ใหน้ ักเรยี นยกขอ้ ความในเรื่องตอนท่แี สดงถึง คา่ นิยม การรบั ผดิ ชอบตนเอง ไมท่ า่ ให้คนอื่นต้องเดอื ดร้อนเพราะการช่วยเหลอื ตน พระอภัยใจหายไม่วายเหลียว ใหเ้ ปลา่ เปล่ยี วนยั นาเพียงอาสัญ แตม่ านะกษตั ริยส์ ู้กดั ฟนั อุตสา่ หก์ ล้ันกลนื นา่้ ตาแล้วพาที จะไปไหนไม่พน้ ผเี สือ้ น้า่ วบิ ากกรรมจะสู้อยู่เป็นผี ทา่ นส่งเราเข้าที่เกาะละเมาะน้ี แลว้ รบี หนไี ปในน่้าแตล่ า่ พงั แล้ววา่ แกส่ ินสมุทรสุดที่รกั แมน้ นางยกั ษม์ ารับจงกลบั หลงั อนั ตวั พ่อขอตายวายชีวงั กนั แสงสั่งลูกยาด้วยอาลยั 6. ให้นกั เรียนวิเคราะห์คุณคา่ ของเร่ือง พระอภยั มณี ตอน พระอภัยมณหี นีนางผีเสื้อ คุณคา่ ของเร่ืองพระอภยั มณี ตอน พระอภัยมณีหนนี างผีเสอ้ื เนื้อเรือ่ งตอนนีเ้ ป็นตอนที่สนกุ ต่นื เตน้ เร้าใจ มีครบทุกรส เน้ือเรื่องน่าติดตาม นางผีเสื้อเป็นตัวละครเอกแสดงอารมณ์ทุกด้านท้ังโศกเศร้า คร่าครวญ โกรธ รกั เกร้ยี วกราด และสะทอ้ นใหเ้ หน็ วถิ ีไทยปรากฏอยา่ งชดั เจน มีค่าสอนทส่ี ามารถน่าไปใชใ้ นชีวติ ประจา่ วันได้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook