Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือการคัดกรอง​การมองเห็น​ของเด็ก​นักเรียน​

คู่มือการคัดกรอง​การมองเห็น​ของเด็ก​นักเรียน​

Published by Plaifa Amornrattakun, 2019-06-24 11:46:55

Description: คัดกรองสายตาระดับการมองเห็น​ระดับอนุบาล​-ประถมศึกษา​

Search

Read the Text Version

คู่มือการตรวจคดั กรองระดบั การเหน็ ในเด็กระดับช้ันอนบุ าลและชัน้ ประถมศกึ ษา ส�ำหรบั การด�ำเนนิ งานโครงการเด็กไทยสายตาดี เพอ่ื เพิ่มโอกาสการเรยี นรู้ ตามนโยบาย “ลดเวลาเรยี น เพิ่มเวลาร้”ู โดยอ้างองิ เนื้อหาวชิ าการจากค่มู ือการตรวจคดั กรองระดบั การมองเห็น ในเด็กระดบั ชน้ั อนบุ าลและชั้นประถมศึกษา โครงการพัฒนาระบบการคดั กรองภาวะสายตาผดิ ปกตแิ ละประกอบแวน่ สายตา ส�ำหรับเดก็ วัยกอ่ นประถมศึกษาและประถมศกึ ษาในประเทศไทย โดย สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชนิ ี และ โครงการประเมินเทคโนโลยีและนโยบายดา้ นสขุ ภาพ

สารบญั กติ ตกิกตรตริกมรปรมระปกราะศก าศ บทบนทำา นำา อธบิอาธยิบคาาำยศคพัาำ ศทัพ์เฉทพเ์ ฉาะพ าะ การกสาังรเสกงัตเพกตฤพติกฤรตรกิ มรแรลมะแอลาะกอารกขาอรงขเอดงก็ เ ดก็ การกเาลรอื เกลหือก้อหงต้อรงวตจรแวลจะแเลตะรเยีตมรสยี ถมาสนถทาน่ี ที่ อุปอกปุรณกร ์ ณ์ วิธีกวาิธรกี ตารวตจรวัดจกวาดั รกเาหร็นเหในน็ เใดนก็ เ ด็ก การตรวจระดบั การเห็นในเดก็ นักเรียนอนุบาล กท ห าี่สรรอืาตมเดราว็กรจทถรอีไ่ ะม่าด่สนบัาตมกวั าาเลรรถเขหอไน็ด่าโ้ในดนตยเัวดใเชก็ล ้นขSักไnดเeร ้ lียโlดeนยnชใ ั้นชCป้ hLรaeะratถ มCศhึกarษtา ตวั อตยัว่าองยกา่ างรกจาดรบจดนั บทนักึ ทระึกดรบัะดกับารกเาหร็นเห ็น การกบาันรบทันกึ ทขอ้ึกมขลูอ้ แมลู ะแสลง่ะตสอ่ ่งต่อ แแบลว้แแบพบลฟบ้วบอพวฟรา่บม์อผวสรดิ่าง่์มปผตสิดก่อ่งปตเตดเิกอ่ พ็กตเนดือ่ เิ พก็ั นเื่อบรพกัแยี เบพนรแียททพนี่ไยดททผ์ ้รูเ้่ไียชับดผ์ ่ยีกร้ ้เู วชับาชรี่ยกาตวาญรชวาตจญรควัดจกครดั อกงรสอางยสตาาย ตา ผแบลกผแบาบลฟรกบอตาฟรรม์อวตจจรรดม์ควหจัดจดมกคหราดั ยอมกแงราสจยอาง้แงยผสจตปู้าง้ ายผกเตู้ปคดารกก็ เอคนดงร็กั อ-นเ รง กัยี -เน ร ยี น บทบสทรุปสกรุปารกศากึรษศกึาภษาวภะาสวาะยสตาายผตดิาปผิดกปติใกนตเิใดนก็ เนดก็ั นเรักยี เนรีย 1น7 1โร7ง โเรงียเนรียนนำารนอ่ าำ งร อ่ ง

11 22 33 55 77 88 88 8 12 12 15 15 15 1 6 16 1 8 18 1 9 19

ด�ำเนนิ การผลิตโดย สำ� นักส่งเสรมิ สขุ ภาพ กรมอนามยั กระทรวงสาธารณสุข อาคาร 7 ชน้ั 4 กรมอนามยั กระทรวงสาธารณสขุ ถนนตวิ านนท์ อ�ำเภอเมอื ง นนทบรุ ี 11000 พิมพค์ รั้งท่ี 3 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ.2557) ได้รับการอนุญาตจัดพิมพ์คู่มือการตรวจคัดกรองระดับ จำ� นวน 35,500 เลม่ การมองเห็นในเด็กระดับช้ันอนุบาลและชั้นประถมศึกษา จากโครงการประเมินเทคโนโลยีและนโยบายด้านสุขภาพ พมิ พท์ ่ี : โรงพิมพ์สำ� นักงานพระพทุ ธศาสนาแหง่ ชาติ 314-316 ถนนบ�ำรุงเมือง ปอ้ มปราบฯ กทม. 10100 โทรศัพท์ 0 2223 3351 , 0 2223 5548 โทรสาร 0 2621 2910, 0 2621 2911

1 กิตติกรรมประก�ศ การ พัฒนา คู่มือ การ คัด กรองระดับการ เห็น ใน ระดับ ชั้น อนุบาล และ ชั้น ประถม เล่ม นี้ ไม่ อาจ สำาเร็จ ลุล่วง ลง ได้ หาก ปราศจาก การ สนับสนุน งบ ประมาณ จากส ำานักงานห ลัก ประกันส ุขภาพแ ห่ง ชาติ (สปสช.) นอกจากน ี้คณะผ ู้จ ัด ทำาขอ ขอบพระคุณ นาย แพทย์พ ัฒพ งษ์ กุล ยา นนท์ กลมุ่ ง านจ กั ษว ุ ทิ ยา โรงพ ยาบาลศ นู ยย ์ ะลา และ นายแ พทยว์ ร าก ร เทยี มท ดั โรง พยาบาล เลิดสิน ที่ สนับสนุน ข้อมูล การ คัด กรอง สายตา เด็ก นักเรียน อัน เป็น ประโยชน์ต ่อก าร พัฒนาค ู่มือใ น ครั้งน ี้ Copy right คณะ​ผู้​จัด​ทำา​ขอ​สงวน​สิทธ์ิ​ใน​การ​ใช้​งาน​เน้ือหา​และ​ข้อความ​ของ​คู่มือ​น้ี​ ห้าม​มิ​ให้​ทำาการ​ คัด​ลอก​ ทำา​ซำ้า​ แก้ไข​ เปล่ียนแปลง​ เผย​แพร่​เน้ือหา​และ​ข้อความ​ ส่วน​หน่ึง​ส่วน​ใด​ ห​ รือท​ ั้งหมดโดยไ​ม่ไ​ด้ร​ ับอ​ นุญาตจ​ ากค​ ณะผ​ ู้จ​ ัดท​ ำาผู้ใ​ดล​ ะเมิดถ​ ือเ​ป็นค​ วามผ​ ิดตาม​ กฏห​ มาย

2 บทนาำ ระบบ การ เห็น ใน มนุษย์ เป็น ระบบ ท่ี มี ความซับซ้อน และ มี การ พัฒนาการ อย่าง ต่อ เนื่อง ซ่ึง หาก มี ความ ผิด ปกติ ใด มาร บก วน พัฒนาการ ของร ะบบ การ เห็น โดย เฉพาะ ในช ว่ งอ ายต ุ ัง้ แต ่แรกเ กดิ ถ งึ 9 ป ี และ ไมไ ่ ด้ รับ การ แก้ไข อย่าง ถูก ต้อง เหมาะส ม​และ​รวดเร็ว​ อาจ​ส่ง​ผลก​ระ​ทบ​ต่อ​การ​เห็น​ ในระยะย​ าวห​ รอื ​แม​้กระทัง่ ​ทาำ ใหเ้​กิดค​ วาม​พกิ ารด​ ้านก​ าร​เห็น​ได้ใ​นท​ สี่ ดุ คู่มือ​การ​ตรวจ​คัด​กรอง​ระดับ​การ​เห็น​ใน​เด็ก​ จัด​ทำา​ขึ้น​สำาหรับ​ครู​ใน​ ระดับ​ช้ัน​อนุบาล​และ​ประถม​ศึกษา​เพ่ือ​เป็น​แนวทาง​การ​ตรวจ​คัด​กรอง​ เด็ก​นักเรียน​ท่ี​มี​ภาวะ​สายตา​ผิด​ปกติ​ และ​ส่ง​ต่อ​ไป​ตรวจ​รักษา​กับ​แพทย์​ ผเ​ู้ ชยี่ วชาญ​แมว้ า่ ก​ ารต​ รวจค​ ดั ก​ รองน​ จ​้ี ะไ​มส​่ ามารถท​ ดแทนก​ ารต​ รวจว​ นิ จิ ฉยั ​ โดยจ​ กั ษแ​ุ พทยไ​์ ด​้ แตส​่ ามารถช​ว่ ยต​ รวจค​ วามผ​ ดิ ป​ กตข​ิ องก​ ารเ​หน็ เ​บอ้ื งต​ น้ ไ​ด้ การต​ รวจค​ ดั ก​ รองน​ จ​้ี าำ เปน็ ต​ อ้ งอ​ าศยั ก​ ารท​ าำ งานแ​ละก​ ารป​ ระสานร​ว่ มม​ อื ​ ​กันอย่าง​ใกล้​ชิด​จาก​ครู​ประจำา​ชั้น​ ครู​พยาบาล​ ผู้รับ​ผิด​ชอบ​งาน​อนามัย​ โรงเรยี น​กลมุ่ ง​านเวชกรรมส​ งั คมแ​ ละก​ ลมุ่ ง​านจ​ กั ษว​ุ ทิ ยาจ​ ากโ​รงพ​ ยาบาล วตั ถปุ ระสงค์ เพื่อ​ให้​ผู้​ปฏิบัติ​งาน​สามารถ​ตรวจ​วัด​และ​คัด​กรอง​ความ​ผิด​ปกติ​​​ ด้าน​การ​เห็นของ​เด็ก​นักเรียน​ใน​ระดับ​ช้ัน​อนุบาล​และ​ประถม​ศึกษา​ได้​ อย่าง​ถูกต​ ้อง​เปน็ ร​ะบบ​และต​ รง​ตาม​เกณฑม​์ าตรฐาน​ กลมุ่ เปา้ หมาย นกั เรยี นช​ นั้ อ​ นบุ าลแ​ ละช​ นั้ ป​ ระถมศ​ กึ ษาท​ กุ ค​ นในโ​รงเรยี นท​ เ​ี่ ขา้ ร​ว่ ม​ โครงการ

3 อธบิ ายคำาศพั ทเ์ ฉพาะ ความหมาย คำาศัพท์ สายตาผดิ ปกติ ความ ผดิ ปกติ ที่ เกิด จาก แสง ท ่ีตกกระ ทบ ผา่ น กระจกตา และ (Refractive Error) แกว้ ตา โดยก ารร วมแ สงไ ม่พ อดี กบั ค วาม ยาว ของล ูก ตา ทาำ ให้ แสง ทต ่ี กกระท บไ ม โ่ ฟกสั ทจ ่ี อ ประสาท ตา จงึ มอง เหน็ ภาพ หรอื วัตถุ ไม่ ชัดเจน ลักษณะ ของ สายตา ผดิ ปกต ิ ไดแ้ ก ่ สายตา สน้ั สายตาย าว และส ายตาเ อียง ระดับ ความ สามารถ ใน การ เห็น โดย ทั่วไป หมาย ถึง การ อ่าน ตัวเลข รูปภาพ หรือ สัญลักษณ์ มี การ วัดผล เป็น ตัวเลข ใน ลักษณะ เศษส่วน โดย ตัวเลข เศษ หมาย ถึง ระยะ ห่าง ใน การ เห็น ของ ผู้รับ การ ตรวจ และ ตัวเลข ส่วน หมาย ถึง ระยะ ห่าง ใน การ เห็น ของ คน ปกติ ระดบั สายตา สามารถ บันทึกระยะ ห่าง โดย มี หน่วย เป็น เมตร หรือ ฟุต (VA: Visual Acuity) เช่น VA = 20/20 หรือ VA = 6/6 หมาย ถึง ผู้รับ การ ตรวจ สามารถ เห็น ตัว อักษร ใน แถว น้ัน ได้ เมื่อ ยืน อยู่ ท่ี ระยะ 20 ฟุต หรือ 6 เมตร เช่น เดียว กับ คน ปกติ และ VA = 20/200 หรือ VA = 6/60 หมาย ถึง ผู้รับ การ ตรวจ สามารถ เห็น ตัว อักษร แถว นั้น ได้ ก็ ต่อ เม่ือ ยืน ที่ ระยะ 20 ฟุต หรือ 6 เมตร ใน ขณะ ที่ คนปกติยนื ที่ระยะ 200 ฟตุ หรอื 60 เมตร ก็สามารถเห็น ตวั อกั ษรแถวเดียวกันนไี้ ด้

4 คาำ ศพั ท์ ความหมาย Snellen Chart แผ่น ทดสอบ ระดับ สายตา เป็น ตัวเลข สี ดำา อยู่ บน พื้นสีขาว ขนาด ของ ตัวเลข แตก ต่าง กัน ใน แต่ละ แถว โดย แถว บน สุด ตัวเลข จะ มี ขนาด ใหญ่ ที่สุด และ ขนาด จะ ค่อยๆ ลด ลง ใน แถว ถัด ไป บน แผ่น ทดสอบ ระดับ สายตา Snellen Chart จะม ต ี วั เลขก าำ กบั ร ะดบั ส ายตา (VA) ในแ ตล่ ะ แถว ทง้ั หมด 7 แถว ตง้ั แตแ ่ ถว ใหญ ส่ ดุ ไ ป จนถงึ แ ถว เลก็ สดุ ใ น ระยะเ ปน็ ฟ ตุ ไ ดแ้ ก ่ 20/200, 20/100, 20/70, 20/50, 20/40, 20/30 และ 20/20 ตามล าำ ดบั หรอื ร ะยะเ ปน็ เ มตรต ามต าราง ตารางแ​ สดงก​ าร​อา่ น​ระดบั ​การ​เหน็ ​ หนว่ ยเ​ปน็ ​ฟตุ ​เทยี บ​กบั ​เมตรโ​ดยป​ ระมาณ แถวท่ี ระยะเปน็ ฟุต ระยะเปน็ เมตร 1 20/200 6/60 2 20/100 6/30 3 20/70 6/21 4 20/50 6/15 5 20/40 6/12 6 20/30 6/9 7 20/20 6/6 Lea Chart แผ่น ทดสอบ ระดับ สายตา เป็น รูปภาพ ส่ีเหล่ียม วงกลม บ้าน และ แอปเป้ิล โดย มี จำานวน 5 ภาพ ใน แต่ละ แถว แถว บน สุด ภาพ จะ มี ขนาด ใหญ่ ท่ีสุด และข นาด คอ่ ยๆ ลดล งใ นแ ถวถ ัดไปเหมอื น Snellen Chart แผน่ ทดสอบ Lea Chart ใชส้ าำ หรบั วดั สายตาในเดก็ เลก็

คาำ ศัพท์ ความหมาย 5 การวัดระดับ การ วัด ระดับ สายตา โดย ให้ ผู้ รับ การ ตรวจ อ่าน จาก สายตาแบบ ล่าง ข้ึน บน (เล็ก ไป ใหญ่) ใช้ สำาหรับ การ วัด สายตา Bottom up ใน เด็ก เล็ก เพื่อ ดึง ความ สนใจ ทำาให้ ไม่ เบื่อ หรือ ป้องกัน Technique การ ท่องจำาภ าพห รือต ัวอ ักษร การวัดระดับ การว ดั ร ะดบั ส ายตาโ ดยใ หผ ้ ร ู้ บั ก ารต รวจจ บั ค ร ู่ ปู ภาพโ ดย สายตาแบบ หยบิ ร ปู ห รอื ว ตั ถท ุ ม ่ี ร ี ปู ร า่ งเ หมอื นก บั ภ าพท เ ี่ หน็ ใหเ ้ หมอื น Matching เปน็ การ เลน่ เกม วธิ ก ี ารว ัดร ะดบั ส ายตา ลักษณะ นเี ้ หมาะ Technique สาำ หรบั เ ดก็ เล็ก การวดั ระดบั การ วัด ระดับ สายตา โดย ให้ ผู้ รับ การ ตรวจ อ่าน ตัว อักษร สายตาแบบ หรือ ภาพ แบบ สุ่ม โดย ไม่ เรียง ตาม ลำาดับ เพื่อ ป้องกัน การ Random ท่องจำาแ ละ ดงึ ค วามส นใจ Technique การสงั เกตพฤตกิ รรมและอาการของเด็ก คุณครู ควร สังเกต ความ ผิด ปกติ ของ อวัยวะ ตา อาการ และ การ แสดงออก ของ เด็ก ขณะ ทำา กิจกรรม ท่ี ต้อง ใช้ สายตา หาก พบ อาการ ผิด สังเกต ให้ จด บันทึก ลง ใน แฟ้ม ประวัติ ของ เด็ก แต่ละ คน และ ส่ง มอบ ให้ พยาบาล และ แพทย์ ร่วม กับ ขอ้ มลู การต รวจ คดั ก รอง สายตา พฤตกิ รรมการแสดงออก • อา่ นห นังสือ ชดิ ตา มากผ ิดป กติ • ชอบ ขอ นงั่ ข้าง หน้า หรือช ิด กระดาน ดาำ • พยายาม โน้ม ตัว หรือ ยื่น ศีรษะ มา ข้าง หน้า ให้ มาก ท่ีสุด เม่ือ ให้ อ่าน ตวั ห นงั สือบ นก ระดาน • เกร็งห รอื ใชค้ วาม พยายาม มากเ มอ่ื ใ หอ ้ ่านต ัว หนังสือบ นก ระดาน • หร่ี ตา หรอื ทำาตาห ยี เม่อื เ พ่ง มอง • ขมวด คิว้ เม่อื อ ่าน หนังสอื • ขยต้ ี าบ อ่ ยๆ เมื่อเ พง่ มอง

6 • กะพริบต าถ ก่ ี วา่ ปกตเิ มื่อ ให้อ า่ นต วั หนงั สอื บ นก ระดาน • นำาตาไ หล เมอื่ ให อ้ ่าน หนังสอื เ ปน็ ร ะยะเ วลา นาน • ใชม ้ ือ ปิด ตาห นึ่งข า้ ง เม่อื ตงั้ ใจอ ่าน หนังสือ • เอียงหรือตะแคงศีรษะเพ่อื ให้เห็นชัดเจน คาำ บอกเล่าปัญหาการเหน็ จากเด็ก • สายตา สู้ แสง ไมไ่ ด้ • มอี าการ เจ็บ คัน ร้อนห รือ แสบต า • มองไ ม่ ชดั หรอื เ หน็ เ ป็นส องภ าพ • เหน็ ต วั ห นังสอื ตดิ ก ัน เปน็ เสน้ • ปวด ศรี ษะ และ รอบต า ส่ิงผดิ ปกตทิ ี่ปรากฏ • ม ีคราบ เปน็ แ ผ่นท ขี่ อบต า ขอบต าแดง บวม มข ี ้ีตาม ากผ ิด ปกติ • มฝ ี า้ ขาว ท่ี ตา ดาำ • นำาตา ไหล มาก ตาแดง กาำ • ตาเข ตาเหล่ พฤติกรรมการเรยี น • อ่านห นงั สอื ช ้า เรยี นรชู้ า้ ส่งงานไม่ทันและไมถ่ กู ตอ้ ง • ไมม่ ี สมาธ ิในก าร เรยี น การเลน่ กฬี า • เล่นกีฬาไม่ทันเพ่ือน • ตา กบั ม ือ ทาำ งานป ระสาน กนั ไ ดไ้ ม่ดี • สะดดุ ส ่งิ ของล ้ม บอ่ ยๆ ขอ้ มูลจากแหล่งอื่น • เดก็ ​มีป​ ระวัต​ิความผ​ ดิ ป​ กต​ติ อนค​ ลอด • เด็ก​มีป​ ระวตั ิ​ดา้ น​การต​ รวจ​รักษา​กบั ​จักษแ​ุ พทย์​เคยตัดแวน่ สายตา • เดก็ ม​ ​ปี ระวัตกิ าร​ใช้ย​ าร​ักษาต​ า​เป็นประจำา • เดก็ ม​ ​ีประวัต​ิเคยผ​ ่าตัด​ตา • บคุ คล​ในค​ รอบครัวม​ ป​ี ระวัต​เิ ป็นโ​รค​ทางส​ ายตา

7 การเลือกหอ้ งตรวจและเตรยี มสถานท่ี 1. ห้อง สำาหรับ ใช้ ตรวจ คัด กรอง ควร เป็น ห้อง ท่ี มี ขนาด กว้าง และ ยาว อยา่ ง น้อย 6 เมตร หรอื 20 ฟตุ 2. เลอื กผ นงั ด ้านท ไ่ ี ม่มรี ูปภาพ เกะกะ มี แสงส วา่ งส อ่ ง ถึง เพียง พอ 3. ติด แผน่ ‘Snellen Chart’ หรือ ‘Lea Chart’ บน ผนงั โดยใ ห ้ตัวเลข แถวท ่ ี 5 หรอื แ ถว 40 ฟุต (20/40) อย่ ูในร ะดับ เดยี ว กับ ตาข อง เด็ก ทม่ ี ี ระดบั ค วาม สูงเ ฉล่ยี (ขณะ อย่ ูใน ท่า ทดสอบ) 4. วางโ ตะ๊ 1 ตวั แ ละเ กา้ อ ้ี2 ตวั ไวข ้ า้ งๆ ตาำ แหนง่ เ ดก็ ท จ ่ี ะเ ขา้ ร บั ก ารต รวจค ดั ก รอง 5. ติด เทป กาว บน พ้นื ระยะ ห่าง จาก แผ่น ทดสอบ ระดับ สายตา ประมาณ 6 เมตร (20 ฟตุ ) สาำ หรบั Snellen Chart หรอื ป ระมาณ 3 เมตร (10 ฟตุ ) สาำ หรบั Lea Chart 6. ผู้ ทดสอบ ไม่ ควร ยืน บัง เด็ก แต่ หัน หลัง ให้ ผนัง และ เห็น หน้า เด็ก ตลอด เวลาท ต่ ี รวจ 7. แยก พ้ืนท่ี สำาหรับก ลุ่ม เด็ก ที่ กำาลัง รอ เข้า รับ การ ตรวจ แยก อยู่ ห่าง จาก บริเวณ ห้องต รวจ 8. ไมท่ าำ กิจกรรมอนื่ ๆ ภายในห้องขณะตรวจ เพือ่ ไมใ่ ห้เดก็ เสยี สมาธิ แล6ะ​​เ3ม​ตเรม​ต(2ร​0(1​ฟ0ตุ​ฟ)​ุตส)าำ ​หสำารับห​รSับn​Leellean​C​Chhaartrt​​ รปู ท่ ี 1: ตัวอยา่ งการวัดสายตา รูปท่ี 1 : การเตรยี มสถานทแ่ี ละระยะทางในการทดสอบสายตา

8 อปุ กรณ์ 1. แผน่ ทดสอบ ‘Snellen chart’ หรือ ‘Lea chart’ 2. ไมบ้ งั ตา 3. ไมส้ าำ หรบั ช้ีตัวเลข ไมบ้ ังตา วธิ กี ารตรวจวดั การเหน็ ในเด็ก จะตรวจแยกตามระดับชน้ั เรยี นดังน้ี 1. ก�รตรวจระดับก�รเห็นในเด็กนกั เรยี นอนุบ�ล หรอื เดก็ ท่ีไม่ส�ม�รถอ่�นตวั เลขได้ โดยใช้ Lea Chart รปู ทที่ ่​ี 22:​Lea​CChhaarrtt

9 ขั้นตอน 1. ให้เ ดก็ ยนื หรือ นั่ง ห่าง จากแ ผ่น ทดสอบ เปน็ ร ะยะ 10 ฟุต หรือ 3 เมตร (ดร ู ปู ท ่ี 1 ประกอบ) 2. เริ่มก ารท ดสอบท ลี ะ ตา เริม่ จาก ตาขวา ใช้ไ มป้ ิด ตาข า้ ง ซ้ายใ หม ้ ดิ โดย ไม่ต ้อง หลับตาห รือ หร่ี ตาข า้ ง ซา้ ย 3. ใหเ ้ ดก็ อ า่ นภ าพจ ากแ ถวต วั บ นส ดุ ก อ่ น จากน น้ั ค อ่ ยๆ อา่ นภ าพแ ถวถ ดั ม า จ น กระทั่ง ไม ่สามารถอ ่านภ าพ ได้ หรอื ใชว้ ธิ ี Matching​Technique 4. หากอ า่ นภ าพต งั้ แตแ ่ ถวท ่ี 1 ไมไ ่ ด ้ ใหจ ้ ดบ นั ทกึ ว า่ “<20/200” หมายถ งึ เหน็ น อ้ ย กวา่ 20/200 5. Lea Chart ในแ ต่ละ แถว มี จาำ นวน ภาพ เท่าก ันค อื 5 ภาพ (หรอื อักษร) ดัง นัน้ ต้องอ า่ นภ าพ ได้ อย่างน ้อย เทา่ กบั 3 ภาพ จงึ ถือว่าอ า่ นภ าพ แถว นัน้ ไ ด้ โดยแ ถวใ หญส่ ดุ ค อื 20/200, 20/100, 20/70, 20/50, 20/40, 20/30 และ 20/20 ตาม ลำาดบั 6. วิธ ีบันทึก ระดบั การเ ห็น​

10 กรณที ่ี 1​หากสามารถอ่านภาพไดน้ ้อยกวา่ กึง่ หน่ึง เชน่ 2 ใน 5 ภาพ หรือ 1 ใน 5 ภาพ ให้จดบันทึกจำานวนภาพที่อ่านได้เป็นค่าบวกของ​ ระยะที่ปรากฏ​ในแถวกอ่ นหน้าทอี่ ่านภาพได้​ ตัวอยา่ งการอา่ น Lea Chart กรณีท​ี่ 1​ การจดบันทกึ ผล (ระยะที่ปรากฏท้ายแถว) 20/40 20/40 1.1 (ระยะที่ปรากฏท้ายแถว) 20/30 20/40+1 1.2 (ระยะที่ปรากฏทา้ ยแถว) 20/30 20/40+2 หมายเหตุ: แทน ภาพ ที่ อ่าน ได ้ แทน ภาพ ที่ อา่ นไ ม่ ได้ กรณที ี่ 2​หากสามารถอ่านภาพได้มากกวา่ ก่งึ หน่ึง เชน่ 3 ใน 5 ภาพ หรือ 4 ใน 5 ภาพ ใหจ้ ดบันทึกจำานวนภาพทอี่ ่านไมไ่ ดเ้ ปน็ ค่าลบของระยะ​ ทป่ี รากฏในแถวทอ่ี ่านได้ ตวั อย่างการอา่ น Lea Chart กรณที ่​ี 2​ การจดบันทึกผล (ระยะที่ปรากฏท้ายแถว) 20/40 20/40 2.1 (ระยะที่ปรากฏท้ายแถว) 20/30 20/30-1 2.2 (ระยะทป่ี รากฏทา้ ยแถว) 20/30 20/30-2 หมายเหตุ: แทน ภาพ ทอ ่ี า่ น ได ้ แทน ภาพ ที ่อ่านไ ม่ ได้

11 7. สลบั ม า ทดสอบต า ซา้ ย เกณฑก์ ารตดั สนิ วา่ ผดิ ปกต​ิ คอื เหน็ น อ้ ยก วา่ 5 แถว (< 20/40) ในต าขา้ งใ ด ขา้ งห นงึ่ หรอื ตาส อง ข้าง เหน็ ต่างก นั ตั้งแต ่สองแ ถว ขน้ึ ไป คาำ แนะนำาเพิ่มเติม 1. เด็ก วัย น้ี สามารถ จดจำา ได้ รวดเร็ว ควร ตรวจ เด็ก ที ละ คนใน ห้อง แยก ไม ่ใหเ ้ ดก็ ที่ย งั ไ ม่ต รวจ ทราบ และ แยก เด็ก ทตี ่ รวจ แลว้ ออกต ่างห าก 2. อธบิ าย ให้ เดก็ ฟ ัง ถึง ขนั้ ตอน การต รวจกอ่ น เข้า ห้องต รวจ 3. ระหวา่ งก ารต รวจใ หส ้ มมตุ ส ิ ถานก ารณท ์ น ่ี า่ ต นื่ เ ตน้ มก ี ารใ หข ้ องร างวลั เล็กน อ้ ย ในเ ดก็ ท ี เ่ รม่ิ หมด ความส นใจ 4. หากเ ดก็ เ รมิ่ เ บอื่ ไ มใ ่ หค ้ วามร ว่ มม อื ใ นก ารต รวจ ลองอ า่ นภ าพจากแ ถวท ่ี เล็ก สุด ท่ี เด็ก อ่าน ภาพได้ ไล่ ข้ึน มา แถว ใหญ่ มาก ขึ้น เรียก เทคนิค น้ี ว่า การว ดั ร ะดบั ส ายตาแ บบ Bottom​up หรอื ถ า้ ต อ้ งการใ หส ้ นกุ ม ากข น้ึ อาจ สร้าง สถานการณ์ เหมือน การ เล่น เกม โดย การ สุ่ม เลือก ภาพ สลับ แถวไ ป เร่ือยๆ เรยี ก เทคนิค นวี ้ ่า การว ัด ระดบั ส ายตาแ บบ Random หรือ ให้ เด็ก เล่น จับ คู่ กับ วัตถุ ที่ มี ลักษณะ คล้าย ภาพ ท่ี เห็น แทน การ อ่าน เรยี กเ ทคนิคน ี้ว่า การ วัด ระดบั สายตาแ บบ Matching ส่งิ เหล่านี้เปน็ ตวั ชว่ ยสาำ คัญที่ช่วยให้การตรวจระดบั การเห็นสนุกมากยง่ิ ข้ึน

12 2. ก�รตรวจระดับก�รเหน็ ในเด็กนักเรียนช้ันประถมศึกษ� ทส่ี �ม�รถอ�่ นตวั เลขได้ โดยใช้ Snellen Chart รปู ท ี่ 34: Snellen Chart ขนั้ ตอน 1. ใหเ ้ ดก็ ย นื ห รอื น ั่ง ห่าง จาก แผ่นท ดสอบ เป็น ระยะ 20 ฟตุ หรอื 6 เมตร (ดรู ปู ท ี ่ 1 ประกอบ) 2. เร่มิ ก าร ทดสอบท ลี ะ ตา เริ่มจ ากต าขวา ใช้ไ ม ้ปิด ตา ขา้ ง ซา้ ยใ ห้ มดิ โดย ไม ่ตอ้ งห ลบั ตาห รอื หร ่ีตาข า้ งซ า้ ย

13 3. ใหเ ้ ดก็ อ า่ นต วั เลขจ ากแ ถวต วั บ นส ดุ ก อ่ น จากน น้ั ค อ่ ยๆ อา่ นแ ถวถ ดั ม า จนก ระทัง่ ไม่ สามารถ อ่าน ตวั เลข ได้ 4. หาก อ่าน ตัวเลข ต้ังแต่ แถว ท่ี 1 ไม่ ได้ ให้ จด บันทึก ว่า “<20/200” หมาย ถึง เหน็ นอ้ ย กวา่ 20/200 5. ให้ เด็ก อ่าน ตัวเลข ใน แผ่น ทดสอบ เรียง ลำาดับ ที ละ ตัว จาก ซ้าย ไป ขวา และ เรียง จาก แถว บน สุด ลง มา ที ละ แถว จน อ่านตัวเลข ต่อ ไป อีก ไม่ ได้ เมอ่ื ส น้ิ ส ดุ ท แ ี่ ถวใ ด ใหด ้ ต ู วั เลขแ สดงร ะดบั ก ารเ หน็ ท ก ่ี าำ กบั อ ยท ู่ า้ ยแ ถว จากน ้นั ใ ห ้จดบ นั ทึก เชน่ ถา้ อา่ น ตัวเลขได้ ถงึ แ ถว ที่ 7 ระดับก าร เหน็ คือ 20/20 หรือ 6/6 6. แถว สุดท้าย ท่ี อ่านตัวเลข ได้ คือ แถวตัวเลข ท่ี อ่าน แล้ว ถูก ต้อง เท่ากับ หรือ มากกวา่ ค ร่ึง ของ จาำ นวน ตัวเลข ใน แถว นั้น 7. วิธี บันทกึ ระดบั การเ ห็น กรณีท่ี 1​ หาก สามารถ อ่านตัวเลข ได้ น้อย​กว่า​กึ่ง​หน่ึง เช่น 2 ใน 5 ตัวเลข หรือ 1 ใน 5 ตวั เลข ให้ ลงจ ำานวนตวั เลข ท ี่อ่านไ ด้ เป็น คา่ ​บวก​ของ​ ระยะ​ทปี​่ รากฏใ​นแ​ ถว​ก่อน​หน้าที่​อา่ นตัวเลขไ​ด้​ ตัวอยา่ งการอา่ น Snellen Chart กรณที ​ี่ 1​ การจดบันทกึ ผล (ระยะท่ีปรากฏทา้ ยแถว) 20/70 20/70 1.1 (ระยะท่ีปรากฏท้ายแถว) 20/50 20/70+1 1.2 (ระยะทป่ี รากฏทา้ ยแถว) 20/50 20/70+2 หมายเหต:ุ แทน ตวั เลข ทีอ ่ ่านไ ด ้ แทน ตวั เลข ทอ ่ี ่านไ มไ ่ ด้

14 กรณีท่ี 2​หากสามารถอา่ นตวั เลขไดม้ ากกวา่ กง่ึ หนง่ึ เชน่ 3 ใน 5 ตัวเลข หรอื 4 ใน 5 ตัวเลข ใหล้ งจาำ นวนตัวเลขทอี่ า่ นไม่ได้เป็นคา่ ลบของ ระยะท่ปี รากฏในแถวที่อา่ นตัวเลขได้ ตัวอยา่ งการอา่ น Snellen Chart กรณีที่​2​ การอา่ นผล (ระยะท่ีปรากฏทา้ ยแถว) 20/70 20/70 2.1 (ระยะทป่ี รากฏทา้ ยแถว) 20/50 20/50-1 2.2 (ระยะทป่ี รากฏทา้ ยแถว) 20/50 20/50-2 หมายเหตุ: แทน ตัวเลข ที่อ ่านไ ด้ แทนต ัวเลข ท ีอ่ ่าน ไมไ่ ด้ 8. กรณท ี เ ี่ ดก็ ม แ ี วน่ ส ายตาอ ยแ ู่ ลว้ ขน้ั แ รกใ หอ ้ า่ นด ว้ ยต าเ ปลา่ ก อ่ น จากน น้ั ให้ อา่ น ซำา อกี ครัง้ โดย สวม แวน่ แลว้ จด บนั ทกึ ผ ลก าร อา่ น ด้วย แว่น วา่ “VA with gl =……..” (gl ย่อ มาจ าก glasses) 9.​สลบั มาทดสอบตาซา้ ย เกณฑก์ ารตดั สนิ วา่ ผดิ ปกต​ิ คอื ​เหน็ น้อยกวา่ ​6​แถว​(<20/30)​ ในตาขา้ งใดขา้ งหนึง่ ​หรอื ​ตาสองขา้ งเห็นต่างกันต้ังแต่สองแถวขนึ้ ไป

15 หมายเหตุ 1. สำาหรับเด็กช้ันประถมศึกษา ถ้าไม่แน่ใจว่าเด็กสามารถอ่านตัวเลขได้ ใหใ้ ช้แผ่นทดสอบ Lea​Chart 2. ขณะต รวจ ผท ู้ ดสอบค วรส งั เกตพ ฤตกิ รรมก ารอ า่ นข องเ ดก็ ว า่ ม ท ี า่ ทาง ผดิ ป กตหิ รือ ไม่ เช่น หร่ต ี า ตะแคง เอยี ง คอ ขมวด ควิ้ หรือ มน ี าำ ตา ไหล หาก มี ให้ สงสยั วา่ เด็ก ม ีความ ผดิ ปกต ิทาง สายตา และ ให้ จด บันทกึ ลง ใน แฟ้มป ระวัต ิของ เดก็ เพื่อ ส่งต อ่ ใ ห ้แพทย์ผ ้ ูเช่ียวชาญ ตัวอยา่ งการจดบันทกึ ระดบั การเหน็ ตาซ้าย ส�ำ หรับเดก็ ท่ไี มม่ ีแวน่ ส�ยต� 20/50 ตาขวา VA 20/100 ส�ำ หรับเดก็ ทีม่ แี ว่นส�ยต� ตาขวา ตาซ้าย VA VA with gl 20/100 20/50 20/50 20/20 การบนั ทึกขอ้ มลู และสง่ ตอ่ 1. บันทึก ขอ้ มูลก าร ตรวจ คัด กรองล ง ใน แบบฟ อร์ม 2. ทาำ ห นังสอื แ จ้ง ผล การ ตรวจ คดั ก รองส ายตา ให้ กับผ ู้ ปกครอง 3. ส่ง ต่อ เด็ก ท่ี ตรวจ พบ ความ ผิด ปกติ หรือ เด็ก ที่ มี อาการ ผิด ปกติ แตร่ ะดบั ก าร เห็น ปกติใ ห้ แกแ่ พทย์ผ ู้ เช่ียวชาญ 4. ในเด็กท่ีมีผลการตรวจคัดกรองปกติ ควรได้รับการตรวจคัดกรอง เปน็ ประจำาทุก 1-2 ปี

16 แบบ​ฟอรม์ ​สง่ ​ตอ่ ​เดก็ ​นกั เรยี น​ท​ไ่ี ด​ร้ บั ​การ​ตรวจ​คดั ​กรอง​สายตา​แลว้ ​พบ​วา่ ​ ผดิ ป​ กต​ิ เพือ่ พ​ บแ​ พทยผ์​ เ​ู้ ชย่ี วชาญ NO.…………...​ ชอื่ นกั เรยี น..........................................................................​อาย.ุ ..................​เพศ.......................... ท่ีอยู่................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... โรงเรียน............................................................................................................................................. ชนั้ ....................หอ้ ง.........................​​ชอื่ ครปู ระจาำ ชนั้ .................................................................. เอกสารทแ่ี นบมาดว้ ย​ ​แฟม้ ประวตั ิของเดก็ เรียนแพทย์ผเู้ กยี่ วขอ้ ง ​ ทางโรงเรียนได้ทำาการตรวจคัดกรองสายตาเด็กนักเรียนในโรงเรียน​ เสรจ็ สน้ิ เปน็ ทเ่ี รยี บรอ้ ย​จากผลการตรวจพบความผดิ ปกต​ิดงั รายละเอยี ดการตรวจ​ ตอ่ ไปน้ี

ผลตรวจคดั กรอง 17 วันท่ีตรวจ........................... 1. ระดบั การเห็น (VA) ตาซ้าย สาำ หรับเดก็ ที่ไม่มีแวน่ สายตา ตาขวา ตาซา้ ย VA VA with PH สาำ หรบั เด็กท่ีมแี ว่น ตาขวา VA VA with gl ​แปลผลการทดสอบเบอ้ื งตน้ ​O​ปกติ​​​​​O​ผิดปกต​ิ ​​​​O​ไม่ไดท้ ดสอบ 2.​ความผดิ ปกตอิ นื่ ๆ​ระบุ ..................................................................................... โทร.​.............................................. ขอแสดงความนบั ถอื ครูประจาำ ชนั้ /ครพู ยาบาล

แบบฟอร์มจดหมายแจ้งผู้ปกครอง​ -​ ผลการตรวจคัดกรองสายตา​ เดก็ นกั เรยี น วนั ท.่ี.............................................. โรงเรยี น.................................................... เรยี น​ทา่ น​ผป​ู้ กครอง​ท​น่ี บั ถอื ​ ทาง โรงเรียน ได้ ตระหนัก ถึง ความ สำาคัญ ของ สุขภาพ ตา ของ นักเรียน ใน ปกครอง ของ ทา่ น โดย จดั ให ้ม ีการ ตรวจ คดั กรอง สายตา แก ่เดก็ นกั เรยี น ใน โรงเรยี น ขณะ น ้กี าร ตรวจ คดั กรอง สายตา นกั เรยี น ได ้ดาำ เนนิ การ เสรจ็ สน้ิ เปน็ ท่ ี เรยี บรอ้ ยแ ลว้ ทางโ รงเรยี น ใครข ่ อ แจง้ ผ ล การต รวจใ ห ผ้ ป ู้ กครอง ทราบ วา่ ด.ช./ด.ญ. .................................................มร ี ะดบั การ เหน็ อ ยใ ู่ นเ กณฑ ์ .................... จงึ เรยี น มา เพอ่ื ท ราบ อนง่ึ การ ตรวจ คดั กรอง เบอ้ื ง ตน้ ใน ครง้ั น ้ี ไม ่สามารถ ทดแทน การ ตรวจ วนิ จิ ฉยั โรค โดย แพทย ไ์ ด ้ กลา่ ว คอื หาก ม โี รค ใด ท ย่ี งั ไม ป่ รากฏอาการ ชดั แจง้ หรอื ม ผี ล เสยี ตอ่ การ เหน็ แลว้ การ คดั กรอง ครง้ั น อ้ี าจ ไม ส่ ามารถ ตรวจ พบ โร คนน้ั ๆได้ อย่างไร ก็ตาม หาก ตรวจ พบ ความ ผิด ปกติ ทาง โรงเรียน จะ ประสาน งาน กับ โรงพ ยาบาลเ พอ่ื ส ง่ ต อ่ ใ หไ ้ ดร ้ บั ก ารต รวจ วนิ จิ ฉยั โ ดยล ะเอยี ดจ ากแ พทยผ ์ เ ู้ ชย่ี วชาญ ตอ่ ไ ป หากท า่ นผ ป ู้ กครองม ข ี อ้ ส งสยั ป ระการใ ด กรณุ าต ดิ ตอ่ ส อบถามค รพ ู ยาบาล และค ร ปู ระจาำ ช น้ั ขอแสดงความนบั ถอื ครปู ระจาำ ชน้ั /ครพู ยาบาล โทร. ................................................

19 บทสรปุ การศกึ ษาภาวะสายตาผิดปกติ ในเด็กนกั เรยี น 17 โรงเรียนนาำ ร่อง “เด็กท่เี กิดมาพร้อมภาวะสายตาผดิ ปกต​ิ (สายตาส้นั ,​ยาว​หรอื เอยี ง)​ จะไมร่ ู้ว่าตนเองตามวั เพราะเหน็ อยา่ งน้ีมาต้ังแตเ่ กดิ ​ผปู้ กครองก็ไม่ทราบ​ จนกระท่ังโตข้ึนมีปัญหาในการใช้ชีวิตประจาำ วนั ​หรอื การเรยี น​จงึ คอ่ ยเรียน รถู้วงึ า่เวตลนาเนอนั้งเ.ห...็นอไามจ่เสหามยือเนกินคไนปอ​น่ืแ​ลแะลอว้ าพจยจาะยมาอมงหไมาช่ทดัาองแีกกเลไ้ ขย​ตแลตอห่ ดาชรูไ้วี มิต่ว”่าเมอื่ สายตาผิดปกติ (Refractive errors) หมายถึง ความผิดปกติที่เกิด จากการท่ีแสงตกกระทบผ่านกระจกตาและเลนส์แก้วตา โดยท่ีการรวมแสง ไมพ่ อดกี ับความยาวของลกู ตา ทาำ ให้แสงทต่ี กกระทบไม่โฟกัสท่จี อประสาทตา จงึ มองเหน็ ไมช่ ดั เจน ไดแ้ ก ่ สายตาสน้ั สายตายาว สายตาเอยี ง และสายตายาว ตามอาย ุ ภาวะสายตาผดิ ปกตเิ ปน็ สาเหตสุ าำ คญั ของความผดิ ปกตใิ นการมองเหน็ และเปน็ สาเหตทุ ่พี บมากเป็นอนั ดบั สองของภาวะตาบอดทวั่ โลก การวินิจฉัยและรักษาภาวะสายตาผิดปกติไม่ยุ่งยาก แต่การเข้าถึง กลุ่มเด็กยังเป็นปัญหาเน่ืองจากการขาดความกระตือรือร้น ความไม่พร้อม หรือ การบริการท่ีไม่เพียงพอของหน่วยงานด้านสาธารณสุข เด็กที่มีภาวะ สายตาผิดปกติและไม่ได้รับการแก้ไขอาจจะเกิดภาวะตาข้ีเกียจ (lazy eye) ซ่ึงไมส่ ามารถรกั ษาหรอื แกไ้ ขไดเ้ มอ่ื โตเปน็ ผใู้ หญ ่ ดงั นน้ั จะมผี ลกระทบในเชงิ ลบ ต่อการศึกษา และโอกาสในการทาำ งานในอนาคต ซ่งึ อาจส่งผลต่อคณุ ภาพชวี ติ ของตนเอง ครอบครวั และคนในสงั คมดว้ ยเช่นกนั ภาวะสายตาผิดปกติสามารถแก้ไขได้โดยการสวมแว่นสายตา การใส่คอนแทคเลนส ์ หรอื การผา่ ตัดโดยใช้เลเซอร์ การสวมแว่นสายตาเป็นวธิ ี ทส่ี ะดวกและมคี า่ ใชจ้ า่ ยตาำ ทสี่ ดุ การศกึ ษาในหลายประเทศเสนอแนะใหท้ าำ การ ตรวจคดั กรองเดก็ ที่มีภาวะสายตาผิดปกตแิ ละจดั หาแว่นสายตาทีเ่ หมาะสมให้

20 อยา่ งไรกด็ ยี งั ไมม่ ขี อ้ ตกลงทช่ี ดั เจนวา่ วธิ กี ารคดั กรองแบบใดเปน็ วธิ ี ทด่ี ที ส่ี ดุ ​เนอ่ื งจากในปจั จบุ นั ยงั ไมม่ นี โยบายระดบั ชาตใิ นเรอ่ื งการคดั กรอง และรกั ษาภาวะสายตาผดิ ปกตใิ นเดก็ ไทย​การวจิ ยั ในครง้ั นม้ี วี ตั ถปุ ระสงค์ เพอ่ื พฒั นาระบบการคดั กรองภาวะสายตาผดิ ปกตแิ ละจดั หาแวน่ สายตา ใหก้ บั เดก็ นกั เรยี นในเดก็ วยั กอ่ นประถมศกึ ษาและเดก็ วยั ประถมศกึ ษาใน ประเทศไทย เดก็ นักเรียนระดับอนบุ าลและประถมในโรงเรยี นกลมุ่ ตวั อยา่ ง จาำ นวน​5,303​คน​17​โรงเรยี น​ใน​4​จงั หวดั ​ได้แก่​สมทุ รปราการ​ นครพนม​ลาำ พนู ​และสรุ าษฎธ์ าน​ี ไดร้ บั การตรวจคดั กรองการเหน็ โดยคณุ ครู ประจาำ ชน้ั ทผ่ี า่ นการอบรมจากจกั ษแุ พทย​์ จาำ นวน​226​คน​หลงั จากนน้ั จะมกี ารตรวจคดั กรองซาำ้ ในเดก็ กลมุ่ เดมิ โดยจกั ษแุ พทยแ์ ละพยาบาลเวช ปฏบิ ตั ทิ างตา​เพอ่ื ตรวจสอบความถกู ตอ้ งของคณุ คร​ู เดก็ ทค่ี ดั กรองวา่ ผดิ ปกติจะถูกส่งต่อไปพบจักษุแพทย์เด็ก​ ซ่งึ จะเป็นผ้ตู รวจวัดประเภทของ ความผิดปกติทางสายตา​ และส่งั ตัดแว่นให้กับเด็กท่จี ำาเป็นต้องใส่แว่น สายตา​ หลังจากน้ันจะมีการจัดการสนทนากลุ่มคุณครูและผู้ปกครอง ของเดก็ ทม่ี สี ายตาผดิ ปกตแิ ละสายตาปกต​ิ เพอ่ื หาอปุ สรรคในการเขา้ ถงึ แวน่ สายตาและเพอื่ ประเมนิ ความเปน็ ไปไดข้ องโครงการในพน้ื ทต่ี วั อยา่ ง ในอนาคต

21 การศกึ ษานพ้ี บว่ามเี ด็กทีไ่ ด้รบั การวนิ จิ ฉยั วา่ มภี าวะสายตาผดิ ปกติ จาำ นวน 6.6% และจาำ เปน็ ตอ้ งใสแ่ วน่ สายตาจาำ นวน 4.1% นอกจากนต้ี รวจ พบเด็กทม่ี ภี าวะตาขีเ้ กยี จจาำ นวน 0.7% และยงั ตรวจพบโรคตาอ่นื ๆ เชน่ ตาเข ตาซอ่ นเร้น หนงั ตาตกตัง้ แต่กำาเนดิ เด็กทม่ี ีสายตาผิดปกตแิ ละจาำ เปน็ ตอ้ งใสแ่ วน่ มเี พียง 26% ทมี่ ีแว่น สายตาใส่อยู่แล้วก่อนได้รับการตรวจคัดกรอง ในจำานวนน้ีมีเด็กเพียง 6% เทา่ นัน้ ทแ่ี วน่ มีความถูกต้องตรงตามสายตาของเดก็ การศกึ ษาเปรยี บเทยี บความไวและความจาำ เพาะของการคดั กรอง กบั การคดั กรองโดยผเู้ ชย่ี วชาญ พบวา่ ความไวของการคดั กรองโดยคณุ ครู อนุบาลเท่ากับ 25% (95% confidence interval 23% to 27%) ในขณะที่ความไวของการคัดกรองโดยคุณครูประถมเท่ากับ 60% (95% confidence interval 57% to 61%) คา่ ความจาำ เพาะของการ คัดกรอง โดยคุณครูอนุบาลและประถมค่อนข้างสูงประมาณ 98% ในทุกกลุ่ม การศึกษานี้เป็นการศึกษาแรกที่ประเมินความเป็นไปได้และความ ถูกต้อง ของการตรวจคัดกรองภาวะสายตาผิดปกติในเด็กอนุบาลโดย คณุ คร ู ซึง่ พบว่า คณุ ครตู รวจคดั กรองพบเดก็ ทีอ่ ยูใ่ นเกณฑผ์ ดิ ปกตจิ ำานวน นอ้ ยกวา่ การตรวจคดั กรองโดยผเู้ ชยี่ วชาญ แตเ่ ดก็ ผดิ ปกตสิ ว่ นใหญท่ คี่ ณุ ครู คัดกรองไม่พบความผิดปกตินั้น เป็นเด็กที่มีภาวะสายตาผิดปกติเล็กน้อย ซึ่งไม่มีปัญหาทางสุขภาพที่ร้ายแรงหากตรวจวินิจฉัยไม่พบ ผลการตรวจคดั กรองภาวะสายตาผดิ ปกติ

การสนทนากลมุ่ คุณครูและผปู้ กครองพบว่า คณุ ครสู ว่ นใหญม่ ีความเห็น วา่ การคดั กรองทต่ี อ้ งดาำ เนนิ การปลี ะครง้ั ไมเ่ ปน็ ภาระงานมาก และรสู้ กึ ภมู ใิ จท่ี ไดช้ ว่ ยเหลอื ลกู ศษิ ย ์ และยงั เหน็ วา่ ควรเพม่ิ ระยะเวลาการฝกึ อบรมในสว่ นของ ฝกึ ปฏบิ ตั ใิ หม้ ากขน้ึ ในสว่ นของคมู่ อื การคดั กรองนน้ั มปี ระโยชน ์ แตไ่ มส่ ามารถ ทดแทนการฝกึ อบรมได้ ผปู้ กครองสว่ นใหญค่ ดิ วา่ ภาวะสายตาผดิ ปกตจิ ะเกดิ ขน้ึ เมอ่ื เปน็ วยั รนุ่ หรอื วยั ผใู้ หญ ่ และไมต่ ระหนกั ถงึ ภาวะนเ้ี มอ่ื พบวา่ บตุ รหลานมพี ฤตกิ รรมการเหน็ ท่ี ผดิ ปกต ิ แตค่ ดิ วา่ บตุ รหลานดอ้ื รน้ั เกยี จครา้ น ซมุ่ ซา่ มหรอื โง ่ ผปู้ กครองมคี วาม พงึ พอใจและยอมรบั ในผลการตรวจคดั กรองในโรงเรยี นโดยคณุ ครทู ผ่ี า่ นการฝกึ อบรมจากจกั ษแุ พทย ์ ทง้ั สองกลมุ่ คดิ วา่ เปน็ โครงการทด่ี ี และควรมกี ารใหค้ วาม รแู้ กผ่ ปู้ กครอง รวมทง้ั ควรมกี ารประสานงาน สง่ ตอ่ เดก็ ผดิ ปกตทิ เ่ี ปน็ ระบบและ ตอ่ เนอ่ื ง จงึ ควรเปน็ นโยบายระดบั ประเทศ การสนทนากลมุ่ คณุ ครแู ละผปู้ กครอง

ขอ้ เสนอแนะเชงิ นโยบ�ย 1. มีความเป็นไปไดใ้ นการคดั กรองความผดิ ปกติทางสายตาใน เด็กโดยครูในโรงเรยี น 2. ควรมีวิธีการบริหารจดั การและประสานงานระหวา่ งกระทรวง ศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสขุ และสภาการพยาบาล 3. ควรมกี ารอบรมจกั ษแุ พทยท์ ว่ั ไปเพอ่ื เพม่ิ ศกั ยภาพในการวนิ จิ ฉยั และรกั ษาภาวะสายตาผิดปกต ิ ในเดก็ 4. มคี วามจาำ เปน็ ตอ้ งจดั การรองรบั เดก็ ทส่ี ง่ ตอ่ จากคณุ ครอู ยา่ งเปน็ ระบบ เข้าถึงได้ และต่อเน่ืองทวั่ ประเทศ





MEMO

MEMO

MEMO


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook