Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ลักษณะภูมิประเทศ

ลักษณะภูมิประเทศ

Published by ชัยสิทธิ์ ชาพา, 2022-01-03 04:58:18

Description: ลักษณะภูมิประเทศ

Search

Read the Text Version

ลกั ษณะภูมปิ ระเทศ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลักษณะภูมปิ ระเทศภาคตะวันออกเฉียงเหนอื ส่วนใหญ่เปน็ ทีร่ าบสงู ในระดับความสงู ระหวา่ ง 120-400 เมตรจากระดับนำ้ ทะเลลักษณะพืน้ ทเี่ ปน็ แอง่ จานลาดเอยี งไปทางตะวนั ออกเฉียงใตโ้ ดยมี สนั เขาเป็นขอบสูงทางทศิ ตะวันตกโดยเทอื กเขาเพชรบรู ณ์ และเทอื กเขาดงพญาเย็น ทศิ ใตข้ อบสูง โดยเทอื กเขาสันกำแพงและเทือกเขาพนมดงรกั แล้วลาดลงสแู่ มน่ ้ำโขงทางทิศตะวันออก ทิวเขาท่ี สำคญํ ไดแ้ ก่ ทวิ เขาเพชรบูรณ์ ทิวเขาดงพญาเยน็ ทิวเขาสันกำแพงและทิวเขาพนมดงรกั พน้ื ทีท่ างด้าน ตะวันตกเป็นท่รี าบสงู เรียกว่าทร่ี าบสงู โคราชและมที วิ เขาทีพ่ าดผ่านทสี่ ำคัญคอื ทวิ เขาภพู าน ๑.ภูเขา ๑.๑ ภูเขารปู โต๊ะเปน็ ภูเขายอดราบ เปน็ ลกั ษณะเฉพาะของภูเขาโดดทเี่ กิดจากหินช้นั ประกอบดว้ ยหินชั้นหลายชนดิ ทม่ี คี วามคงทนตอ่ การกัดเซาะผุพังไม่เท่ากัน เรยี งตัวซอ้ นกันในแนวราบ การสึกกรอ่ นของหินทำให้ไหล่เขาชนั ขน้ึ ไปตามความสงู แตย่ อดเขาจะมีลักษณะแนวราบคลา้ ยโตะ๊ สว่ นมากเปน็ ภูเขาในภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือ เชน่ ภูกระดึง ภูหลวงและภเู วียง ๑.๒ ภูเขารูปอีโต้ มีลักษณะภูเขาสงู ชนั สนั ด้านหนึ่งลาดเอยี งและยาว โดยมขี อบผาชันมาก ทางทศิ ใต้และค่อยๆ ลาดเอียงลงไปทางดา้ นทิศเหนือซึ่งเกิดจากการเคล่ือนตัวของเปลือกโลกมีพลาญ หินซึง่ ประกอบด้วยหนิ ทรายกระจดั กระจายอยทู่ ว่ั ไป ๒.พื้นท่ีดอน ภูมปิ ระเทสท่ตี อ่ จากภเู ขาภาคตะวันออกเฉียงเหนอื มีลักษณะเปน็ โคก โนน เนนิ ครอบคลมุ พน้ื ที่มากท่สี ุด ภมู ปิ ระเทศเหลา่ น้ีมคี วามตา่ งระดบั และมีความลาดชันไม่มาก ดั้งเดมิ จะปกคลมุ ด้วยป่าเต็งรัง ปัจจบุ นั ใช้เป็นพื้นทเี่ พาะปลูก ทำไร่ ทำสวน ทำนาดอน เลย้ี งสัตว์ และ ตงั้ บา้ นเรอื น ๓.พน้ื ทีร่ าบ ภาคตะวันออกเฉยี งเหนือมีพ้ืนที่ราบขนาดเลก็ แทรกสลับอยู่ระหว่างโคกโนนสว่ นทร่ี าบขนาด ใหญ่จะเปน็ ท่รี าบแมน่ ้ำสำคัญ

๔.พื้นทร่ี าบลุม่ มีความสมั พันธ์กบั ลำนำ้ ขนาดใหญท่ งั้ 2 ฝงั่ โดยเฉพาะบรเิ วณคงุ้ นำ้ หรือที่คดเคย้ี วของร่องนำ้ จะมีบงึ หรือกุด ซงึ่ ใช้ประโยชนใื นการหาปลาและเป็นแหลง่ น้ำใชใ้ นครัวเรอื น แม่นำ้ ๑. แม่น้ำมูล มีความยาวประมาณ 641 กโิ ลเมตร เป็นแม่น้ำสายสำคญั ของอีสานตอนล่าง ตน้ นำ้ อยู่ท่ที วิ เขาสนั กำแพง แลว้ ไหลลงสแู่ มน่ ำ้ โขงทีจ่ ังหวัดอุบลราชธานี ๒. แม่นำ้ ชี มคี วามยาวประมาณ 765 กิโลเมตร ***เปน็ แม่น้ำสายทยี่ าวทสี่ ดุ ในประเทศไทย **มีตน้ กำเนดิ ท่ีทิวเขาเพชรบรู ณ์ และไหลไปรวมกบั แม่น้ำมูลที่จังหวัดอบุ ลราชธานี ลักษณะภมู ิอากาศของภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือ ลักษณะภมู อิ ากาศในภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื มีลกั ษณะแบบทงุ่ หญ้าสะวนั นา (Aw) คอื มีอากาศรอ้ นชนื้ สลับกับฤดูแลง้ มีฝนตกปานกลาง - ฤดหู นาว ช่วงเดอื นตุลาคม - กุมภาพันธ์ อากาศหนาวเย็นเนือ่ งจากได้รบั อิทธิพลจากลม มรสมุ ตะวนั ออกเฉยี งเหนือ จังหวัดท่มี อี ณุ หภูมิตำ่ สุด ไดแ้ ก่จงั หวัดเลย - ฤดฝู น ช่วงเดอื นพฤษภาคม - ตลุ าคม เน่อื งจากไดร้ บั อิทธิพลจากจากพายุดีเปรสชนั จังหวดั ท่มี ปี ริมาณน้ำฝนมากท่ีสดุ คือ นครพนม และจังหวดั ท่มี ีฝนตกน้อยทสี่ ุดคือ นครราชสีมา - ฤดูรอ้ น ช่วงเดอื นกุมภาพันธ์ - พฤษภาคม อากาศจะร้อนและแหง้ แลง้ มาก เพราะอยู่ไกล จากทะเล จงั หวดั ท่ี มอี ุณหภูมสิ งู สุดคอื อุดรธานี ทรัพยากรธรรมชาติในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ๑. ทรัพยากรดิน ดินในภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื เป็นดนิ ทรายและขาดธาตอุ าหาร ใตด้ ินมี เกลอื หินทำให้ดินเค็มและแห้ง ไมเ่ หมาะในการเพาะปลกู พืช และทำนา ๒. ทรพั ยากรน้ำ เนื่องจากภาคตะวันออกเฉยี งเหนือเป็นดนิ ปนทรายไมส่ ามารถอุม้ นำ้ ได้ จึงทำ ให้ขาดแคลนน้ำเป็นสำคัญ จงึ ตอ้ งอาศยั การชลประทานเขา้ มาช่วยมกี ารสรา้ งเขื่อนหรอื อ่างเก็บน้ำ ขนาดใหญ่เพอื่ เกบ็ กักน้ำ

เข่ือนสำคัญในภาคตะวันออกเฉียงเหนอื ไดแ้ ก่ - เขือ่ นสริ ินธร อยู่ในจงั หวัดอบุ ลราชธานี - เขอื่ นจุฬาภรณ์ อยู่ในจังหวดั ชยั ภมู ิ - เข่อื นอุบลรตั น์ อยู่ในจังหวัดขอนแกน่ - เข่ือนลำปาว อยู่ในจังหวัดกาฬสินธุ์ - เข่อื นลำตะคอง อยู่ในจังหวัดนครราชสมี า - เขอ่ื นลำพระเพลงิ อยู่ในจงั หวัดนครราชสมี า

ลักษณะภมู ิศาสตรภ์ าคตะวันออก ภาคตะวนั ออกมเี น้อื ท่ปี ระมาณ 34,380 ตารางกิโลเมตร ประกอบดว้ ย 7 จังหวดั ได้แก่ ปราจีนบุรี สระแกว้ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จนั ทบุรี ตราด ที่ตงั้ และขอบเขตภาคตะวนั ออก ทิศเหนอื ติดต่อกบั ภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ ดนิ แดนท่อี ยูเ่ หนอื สดุ คือ อำเภอประจนั ต คาม จังหวัดปราจีนบุรี ทศิ ตะวันออก ติดต่อกับกมั พูชา ดนิ แดนทอ่ี ยตู่ ะวนั ออกสุดคือ อำเภอคลองใหญ่ จงั หวัด ตราด ทิศตะวันตก ติดตอ่ กบั กรุงเทพฯ สมทุ รปราการ อ่าวไทย ดนิ แดนทอี่ ยู่ตะวนั ตกสุดคือ อำเภอสัตหบี จังหวดั ชลบุรี ทศิ ใต้ ตดิ ตอ่ กบั อา่ วไทย ดนิ แดนใตส้ ุดคือ อำเภอคลองใหญ่ จงั หวดั ตราด ลกั ษณะภมู ิประเทศภาคตะวนั ออก ลักษณะภูมปิ ระเทศโดยทัว่ ไปจะเปน็ ทวิ เขา ทรี่ าบล่มุ แมน่ ำ้ ท่รี าบชายฝัง่ ทะเล - เขตภูเขา ไดแ้ ก่ ทวิ เขาจันทบรุ ี ตง้ั อยตู่ อนกลางของภาค วางตวั ในแนวตะวนั ออก- ตะวนั ตก มียอดเขาสูงสุดคอื ยอดเขาสอยดาวใต้ และทวิ เขาบรรทดั วางตัวใน แนวเหนอื -ใต้ มียอดเขาสงู สุดคอื เขาตะแบงใหญ่ เป็นภเู ขาทกี่ นั้ พรมแดนไทยกับกมั พูชา - เขตทรี่ าบล่มุ แม่น้ำ เป็นที่ราบล่มุ แม่นำ้ อย่ทู างตอนเหนอื ของภาค อยู่ระหว่าง เทือกเขาสันกำแพง และเทอื กเขาจันทบรุ ี - เขตท่รี าบชายฝ่ังทะเล ตั้งแต่เทือกเขาจันทบุรีไปจนถึงอา่ วไทยเป็นท่ีราบชายฝ่ังแคบ ๆ ท่ีมภี ูมิประเทศสวยงาม และมแี มน่ ้ำหลายสายไหลผา่ น ภาคตะวันออกมพี รมแดนตดิ ต่อกับกมั พชู าที่จังหวดั สระแกว้ จนั ทบรุ ี และตราด มสี ันปนั นำ้ ของเทือกเขาบรรทดั ท่ีจังหวัดจนั ทบรุ ี และตราดเปน็ พรมแดนธรรมชาติ และมีพรมแดนเรขาคณติ คือ พรมแดนที่กำหนดขนึ้ เปน็ เสน้ ตรงลากเชอื่ มจุดตา่ ง ๆ เรยี กพน้ื ที่น้ีว่าฉนวนไทย คือ พรมแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นที่ราบลมุ่ แมน่ ้ำปราจีนบรุ ีตอ่ กับทร่ี าบตำ่ เขมร มักจะมีปัญหา เรอ่ื งการลว่ งล้ำดนิ แดนอย่เู สมอ ตัง้ อยทู่ จี่ งั หวัดสระแก้วในปจั จบุ นั

แมน่ ำ้ สายสำคัญของภาคตะวันออก 1. แมน่ ำ้ บางปะกง หรือแม่น้ำปราจนี บรุ ี เปน็ แม่นำ้ สายท่ยี าวที่สดุ ในภาคตะวันออก มตี น้ กำเนิดอยทู่ ่ีเทือกเขาสันกำแพง และเทือกเขาจนั ทบรุ ี และไหลลงทะเลทีอ่ ำเภอบางปะกงจังหวดั ฉะเชิงเทรา 2. แม่น้ำระยอง มตี ้นกำเนิดที่จังหวัดชลบุรี ไหลลงทะเลที่จังหวดั ระยอง 3. แมน่ ำ้ เวฬุ มีต้นกำเนดิ ท่เี ทอื กเขาจันทบุรี และไหลลงทะเลท่ีจงั หวดั จันทบรุ ี 4. แม่นำ้ จนั ทบรุ ี ชายฝงั่ ทะเลภาคตะวันออก ภาคตะวนั ออกมีชายฝั่งทะเลยาวประมาณ 515 กโิ ลเมตร มลี กั ษณะภมู ปิ ระเทศท่สี วยงาม เชน่ - อ่าว ไดแ้ ก่ อา่ วอุดม อา่ วสตั หีบ อ่าวระยอง -แหลม ไดแ้ ก่ แหลมฉบงั จงั หวัดชลบรุ ี แหลมสารพดั พษิ จงั หวัดตราด - เกาะ ได้แก่ เกาะชา้ งท่จี ังหวัดตราด เกาะกดู ทจี่ งั หวดั ตราด เกาะสชี ังท่ีจังหวดั ชลบรุ ี เกาะเสม็ดท่ีจงั หวดั ระยอง ทรพั ยากรธรรมชาติของภาคตะวันออก 1. ทรพั ยากรดนิ ดินส่วนใหญ่ของภาคตะวนั ออกเปน็ ดินปนทราย ระบายน้ำไดด้ ี ไมอ่ ดุ มสมบรู ณ์ บริเวณท่ีมีน้ำ ทะเลทว่ มถึงจะเป็นดินโคลนหรอื ดินเหนียว ส่วนดินท่ีเกดิ จากการสลายตัวของหินบะซอลต์ หนิ ปูนใน บริเวณทส่ี งู เหมาะแก่การปลกู พืชสวน เช่น เงาะ ทุเรียน มงั คดุ เป็นต้น ส่วนบริเวณท่ีราบลุ่มแม่น้ำมี ดนิ อัลลเู วยี นท่ีเหมาะใช้ทำนา 2. ทรพั ยากรน้ำ ภาคตะวนั ออกมีฝนตกชุกยาวนานและมีแม่นำ้ สายสั้น ๆ หลายสายคอ่ นขา้ งอดุ มสมบูรณ์ แต่ ยงั มกี ารขาดแคลนนำ้ จืดในเขตอุตสาหกรรมและแหล่งทอ่ งเท่ียว เช่น จังหวัดชลบรุ ี 3. ทรพั ยากรปา่ ไม้

พ้นื ท่ีป่าไม้สว่ นใหญ่ของภาคตะวันออกจะเปน็ ปา่ ดงดิบ ป่าดิบเขา ป่าสนเขา ปา่ ชายเลน และ ป่าเบญจพรรณ จังหวัดทีม่ พี ื้นทปี่ ่าไม้มากท่ีสุดคือ จงั หวัดปราจนี บรุ ี สว่ นจังหวัดทม่ี ีป่าไมน้ ้อยทีส่ ดุ คอื จังหวัดชลบรุ ี 4. ทรพั ยากรแร่ธาตุ ภาคตะวันออกมแี รห่ ลายชนิด ได้แก่ - เหล็ก พบทีจ่ งั หวัดปราจีนบรุ ี ชลบุรี ฉะเชิงเทรา - พลวง พบท่ีจังหวัดชลบรุ ี ระยอง จันทบุรี - แรร่ ัตนชาติ เช่น คอรนั ตัม(พลอยสีน้ำเงิน,ไพลนิ ) บุษราคัม พบมากทจ่ี ังหวดั จนั ทบุรี และตราด ,ทับทิม พบที่จงั หวัดตราด - แรเ่ ชอ้ื เพลงิ พบท่ีบรเิ วณอ่าวไทย บริเวณมาบตาพุดจงั หวดั ระยอง ประชากรในภาคตะวันออก ประชากรในภาคตะวนั ออกมีจำนวนประชากรนอ้ ยรองจากภาคตะวนั ตก จังหวัดท่ีมีประชากร มากท่ีสุด และมีความหนาแนน่ ของประชากรมากทสี่ ุดคอื จงั หวัดชลบรุ ี จังหวัดที่มีประชากรน้อยทส่ี ดุ คือ ตราด และจังหวัดที่มคี วามหนาแนน่ ประชากรเบาบางทสี่ ดุ คอื จังหวัดสระแกว้ ลักษณะภูมิศาสตรภ์ าคใต้ ภาคใตม้ ีพน้ื ที่ประมาณ 70,715 ตารางกโิ ลเมตร ประกอบด้วย 14 จังหวดั แบ่ง ออกเป็น - ภาคใตฝ้ ั่งตะวันออก ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรธี รรมราช สงขลา พทั ลุง ปตั ตานี ยะลา นราธวิ าส - ภาคใตฝ้ ั่งตะวนั ตก ได้แก่ ระนอง พังงา ภเู กต็ กระบี่ ตรัง สตลู

ขอบเขตและที่ต้ัง ทศิ เหนอื มพี ้ืนทต่ี ิดต่อกบั จังหวัดประจวบครี ขี นั ธ์ ดินแดนทอี่ ยู่เหนือสุดของภาคคอื อำเภอ ประทิว จงั หวดั ชุมพร ทศิ ตะวันออก มีพนื้ ทีต่ ดิ ต่อกบั อา่ วไทย ดนิ แดนทอ่ี ยตู่ ะวนั ออกสดุ ของภาคคอื อำเภอตาก ใบ จังหวัดนราธิวาส ทิศตะวนั ตก มพี นื้ ท่ีตดิ ตอ่ กับมหาสมุทรอนิ เดยี ดินแดนท่ีอย่ตู ะวนั ตกสดุ ของภาคคือ อำเภอท้ายเหมอื ง จังหวดั พงั งา ทศิ ใต้ มพี ้ืนทีต่ ดิ กบั ประเทศมาเลเซียที่อำเภอเบตง จงั หวัดยะลา

ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศของภาคใต้ ภาคใตม้ ลี ักษณะภูมิประเทศเปน็ คาบสมุทรท่ีมีทะเลขนาบอยู่ 2 ด้าน คือ ตะวันออกด้าน อา่ วไทย และตะวันตกดา้ นทะเลอนั ดามัน จังหวดั ยะลาเป็นจงั หวัดทีไ่ ม่มพี นื้ ท่ตี ดิ ต่อกบั ทะเล ลกั ษณะ ภูมิประเทศแบ่งได้ 2 เขต คือ 1. เขตเทอื กเขา มลี กั ษณะการวางตัวในแนวเหนือ-ใต้ เช่น - เทือกเขาตะนาวศรี เป็นพรมแดนก้นั เขตแดนไทยกบั พม่า - เทือกเขาสันกาลาครี ี เปน็ พรมแดนกั้นเขตแดนไทยกับมาเลเซยี - เทือกเขาภเู กต็ อยู่ทางตะวันตกของภาค - เทือกเขานครศรีธรรมราช เป็นแกนกลางของภาค 2. เขตทีร่ าบ ท่ีราบในภาคใตม้ ลี ักษณะยาวขนานระหวา่ งภูเขาและชายฝัง่ ทะเลแคบ ๆ ซึ่ง ทางตะวันออกเปน็ ชายฝ่งั แบบยกตัว ส่วนชายฝัง่ ตะวนั ตกเป็นแบบยบุ ตัว แม่นำ้ ทสี่ ำคญั ของภาค แม่นำ้ ของภาคใตเ้ ป็นสายส้นั ๆ เนื่องจากมีพืน้ ท่นี อ้ ย และไหลลงสอู่ า่ วไทย เชน่ แม่น้ำ ชุมพร แมน่ ้ำปัตตานี แม่น้ำตาปี แมน่ ้ำสายบุรี ส่วนแมน่ ำ้ โกลก เปน็ พรมแดนธรรมชาตทิ ก่ี น้ั เขตแดน ระหว่างประเทศไทยกบั มาเลเซยี ส่วนแมน่ ำ้ ปากจัน่ ก้นั พรมแดนระหวา่ งประเทศไทยกับพม่า และ แมน่ ำ้ ตรงั ไหลลงสู่ทะเลอันดามัน ลกั ษณะของชายฝั่งทะเลภาคใต้ ภาคใตม้ ชี ายฝั่งทะเลยาวประมาณ 1,825 กโิ ลเมตร แบง่ เปน็ ชายฝงั่ ทะเลดา้ นตะวันออก ตง้ั แตช่ ุมพรถงึ นราธิวาส ยาว 960 กิโลเมตร และชายฝงั่ ทะเลดา้ นตะวนั ตกยาว 865 กโิ ลเมตร ซ่ึงมี ลักษณะดงั น้ี - ชายฝง่ั ด้านตะวนั ออก (ฝง่ั อา่ วไทย) เปน็ หาดทรายกว้าง เปน็ ฝง่ั ทะเลทม่ี ีการยกตวั ของพนื้ ท่ี มสี นั ทรายจงอย มี ลากนู ท่เี กิดจากสนั ดอนท่ีปิดกนั้ ทะเลสาบสงขลาจากทะเลภายนอก มี อ่าวขนาดใหญ่ เชน่ อ่าวบ้านดอน อา่ วชุมพร อา่ วสวี เปน็ ตน้ - ชายฝัง่ ดา้ นตะวันตก (ฝ่งั ทะเลอนั ดามนั ) เป็นฝง่ั ทะเลจมตวั มชี ายหาดเว้าแหว่งและ เปน็ หาดนำ้ ลกึ มปี ่าชายเลนขนึ้ ตามชายฝ่ัง

และมี ชวากทะเล คอื การยบุ จมบริเวณปากแม่นำ้ ขนาดกว้าง อ่าวที่สำคัญของฝัง่ ทะเล ตะวนั ตก ไดแ้ ก่ อ่าวระนอง อา่ วพงั งา อ่าวกระบ่ี อ่าวกันตงั เป็นตน้ ลกั ษณะภูมอิ ากาศของภาคใต้ ลักษณะภูมอิ ากาศเป็นแบบรอ้ นช้ืนแถบมรสุม (Am) คอื มีฝนตกชุกสลับกบั ฤดแู ล้งส้นั ๆ ภาคใตไ้ มม่ ฤี ดูหนาว เน่อื งจากอยู่ใกล้เสน้ ศูนยส์ ตู ร และไดร้ บั อิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงใต้ และลมมรสมุ ตะวนั ออกเฉยี งเหนือทำให้ฝนตกชุกตลอดทง้ั ปี จังหวดั ท่ีมีฝนตกชกุ ทีส่ ดุ คือ ระนอง และ จงั หวัดท่มี ีฝนตกนอ้ ยคือ สุราษฎร์ธานี ปัจจยั ควบคุมอุณหภมู ิของภาคใต้ 1. ลม เป็นปัจจัยสำคัญท่คี วบคุมลกั ษณะภูมิอากาศของภาคใต้มากทสี่ ุด เน่อื งจากภาคใต้มี ลักษณะเปน็ คาบสมทุ ร ทำใหต้ กอย่ภู ายใตอ้ ิทธพิ ลของลมมรสุมตะวนั ตกเฉยี งใต้ และลมมรสมุ ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื อยา่ งเตม็ ที่ 2. การวางตัวของภเู ขา เม่ือลมมรสมุ ตะวันตกเฉียงใต้พัดเข้าสู่ฝัง่ ทะเลด้านตะวันตกทำใหป้ ะทะกับเทือกเขา ตะนาวศรี ทำให้มีฝนตกหนักโดยเฉพาะจงั หวดั ระนอง ส่วนด้านหลังเขาเป็นเขตอบั ฝนจะอย่ทู ่ีจังหวดั สุ ราษฎรธ์ านี สาเหตุของการเกิดฝนตกชุกในภาคใต้ 1. เกดิ จากรอ่ งลมมรสมุ ที่เคลือ่ นจากทางเหนือเขา้ สู่เส้นศูนย์สตู ร ทำใหฝ้ นตกชุก 2. เกิดจากลมมรสมุ ตะวันออกเฉยี งเหนอื พดั ผา่ นอ่าวไทยและทะเลจีนใต้ นำฝนมาตกทาง ทะเลด้านตะวนั ออกของภาคใต้ 3. เกดิ จากพายดุ เี ปรสชันทีก่ อ่ ตวั อย่ใู นทะเลจีนใต้ ทำใหฝ้ นตกหนักและนำ้ ท่วม ทรัพยากรธรรมชาติของภาคใต้ 1. ทรพั ยากรดิน ภาคใต้สว่ นใหญเ่ ป็นดนิ ปนทราย มคี วามอดุ มสมบรู ณ์ตำ่ ไม่เหมาะสำหรับการเพาะปลกู สว่ น บรเิ วณที่ราบลมุ่ ต่ำ (พรุ) มีนำ้ ทว่ มขงั ไมส่ ามารถใช้ประโยชน์ได้ สว่ นทร่ี าบลุม่ แมน่ ้ำใช้ปลกู ขา้ ว และ สวนผลไม้ สว่ นดินบริเวณทีส่ ูงเปน็ ดนิ เหนยี วหรือดินลูกรัง เหมาะในการปลกู ยางพาราและปาล์มน้ำมัน 2. ทรัพยากรนำ้

ภาคใตม้ ีฝนตกชกุ ตลอดทงั้ ปี แตม่ ปี ญั หาในการขาดแคลนน้ำเนอื่ งจากมีแมน่ ำ้ สายสนั้ ๆ ไม่ สามารถเก็บกักน้ำได้ ส่วนใหญ่จะใช้นำ้ จากการขดุ เจาะบ่อบาดาลและได้จากเขือ่ นต่าง ๆ ได้แก่ เขอ่ื น คลองหลา จงั หวดั สงขลา เขือ่ นปตั ตานี จังหวัดปัตตานี เขือ่ นรัชชประภา จังหวัดสรุ าษฎรธ์ านี 3. ทรพั ยากรปา่ ไม้ พื้นท่ปี า่ ไมส้ ่วนใหญ่ในภาคใต้เปน็ ปา่ ดิบช้ืนตามเทอื กเขา และปา่ ชายเลน จงั หวัดที่ปา่ ไม้มาก สุดคอื สุราษฎร์ธานี ซงึ่ เป็นปา่ แพะ ปา่ โคก ขึน้ ปะปนกบั ทุง่ หญ้าสะวันนา ไมท้ ี่สำคัญของภาคใต้ คือ ไมเ้ บญจพรรณและไม้จากป่าชายเลน 4. ทรพั ยากรแร่ธาตุ ภาคใตม้ แี รธ่ าตหุ ลายชนดิ ดงั น้ี - แร่ดีบุก พบมากที่สุดในภาคใตแ้ ละของประเทศไทย ซงึ่ ถอื ว่าเป็นแรท่ ท่ี ำรายไดใ้ ห้กับ ประเทศมากทสี่ ุด - แร่พลวงพบทีจ่ ังหวดั สุราษฎร์ธานี , นครศรีธรรมราช - แรท่ ังสเตน พบท่จี ังหวัดนครศรธี รรมราช - ทองคำ พบท่อี ำเภอโม๊ะโตะ๊ จังหวดั นราธวิ าสและทชี่ มุ พร - แรฟ่ ลอู อไรด์ , ยปิ ซัม , ดินขาว พบที่จงั หวัดสุราษฎร์ธานี - ถ่านหิน พบทก่ี ระบแ่ี ละสุราษฎร์ธานี - นำ้ มันปโิ ตรเลยี มและก๊าซธรรมชาติ พบท่อี ่าวไทย

ประชากรในภาคใต้ ภาคใต้มปี ระชากรมากเป็นอันดับ 3 ของประเทศ จังหวดั ทีม่ จี ำนวนประชากรมากท่สี ดุ คอื นครศรธี รรมราช จงั หวัดท่มี ีจำนวนประชากรนอ้ ยท่ีสดุ และมคี วามหนาแนน่ เบาบางที่สดุ คอื ระนอง สว่ นจังหวัดทมี่ ีความหนาแนน่ ของประชากรมากทีส่ ุดคอื ภเู กต็

ลักษณะภูมศิ าสตรภ์ าคเหนอื ภาคเหนือมีเนอื้ ทปี่ ระมาณ 93,691 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วยพ้ืนท่ี 9 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย เชยี งใหม่ ลำพนู ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน และอุตรดติ ถ์ ท่ตี งั้ และขอบเขตภาคเหนือ ทิศเหนือ ดินแดนที่อย่เู หนอื สดุ ของภาคคอื อำเภอแมส่ าย จังหวดั เชียงราย มอี าณาเขต ตดิ ตอ่ กับประเทศพมา่ และลาว มีเทอื กเขาแดนลาว แม่นำ้ สายและแมน่ ำ้ รวกกั้นเขตแดน ทศิ ตะวันออก ดินแดนทอี่ ยทู่ างตะวนั ออกสุดของภาคคอื อำเภอปัว จงั หวัดน่าน มีอาณา เขตติดต่อกับประเทศลาว มีเทือกเขาหลวงพระบางก้ันเขตแดน ทิศตะวันตก ดนิ แดนท่อี ยทู่ างตะวันตกสุดของภาคคอื อำเภอแม่สะเรียง จงั หวัด แมฮ่ อ่ งสอน มอี าณาเขตตดิ ตอ่ กับประเทศพมา่ มีแมน่ ำ้ เมยและแมน่ ้ำสาละวินก้ันเขตแดน ทิศใต้ ดนิ แดนทอ่ี ย่ทู างตอนใต้สุดของภาคคือ อำเภอพิชัย จงั หวดั อุตรดิตถ์ ลักษณะภูมปิ ระเทศของภาคเหนือ 1. เขตทวิ เขา ประกอบดว้ ย - ทวิ เขาแดนลาว เป็นพรมแดนกนั้ ระหว่างไทยกับพมา่ - ทิวเขาถนนธงชัย เปน็ พรมแดนกัน้ ระหว่างไทยกบั พมา่ มียอดเขาทสี่ ูงสดุ ของประเทศไทยคือ ดอยอนิ ทนนท์สูง 2,565 เมตร - ทวิ เขาผีปนั น้ำ ประกอบด้วยทิวเขาจอมทอง ขนุ ตาล ท่ปี นั น้ำลง 2 ทาง คอื แมน่ ำ้ โขงและ แมน่ ำ้ เจ้าพระยาโดยวางตวั ในแนวเหนือ-ใต้ - ทิวเขาหลวงพระบาง เป็นพรมแดนกน้ั ระหวา่ งไทยกบั ลาว 2. เขตทร่ี าบหบุ เขา มีลักษณะเป็นทร่ี าบแคบ ๆ อย่รู ะหวา่ งแนวเทอื กเขาและหุบเขา มี แมน่ ้ำไหลผ่านมดี ินอุดมสมบูรณ์ 3. เขตแอง่ ที่ราบ เป็นทีต่ ้ังถ่ินฐานสำคญั ของชมุ ชนทางภาคเหนือ

แม่น้ำสำคัญของภาคเหนอื 1. กล่มุ แม่นำ้ ทไี่ หลลงส่แู ม่น้ำโขง ไดแ้ ก่ แมน่ ้ำรวก แมน่ ำ้ กก แม่นำ้ สาย แม่นำ้ อิง 2. กลุม่ แมน่ ้ำทีไ่ หลลงสู่แม่นำ้ เจา้ พระ ยา ไดแ้ ก่ แมน่ ำ้ ปิง แม่นำ้ วัง แมน่ ำ้ ยม แม่นำ้ น่าน 3. กลมุ่ แมน่ ้ำที่ไหลลงสแู่ ม่น้ำสาละวิน ได้แก่ แมน่ ้ำเมย แม่นำ้ ยวม แม่นำ้ ปาย ลักษณะภูมิอากาศของภาคเหนอื ภูมิอากาศของภาคเหนือสว่ นใหญ่เปน็ แบบสะวันนา (Aw) คือ อากาศร้อนช้ืนสลับกับฤดู แลง้ อุณหภมู เิ ฉล่ียประจำปีอยรู่ ะหวา่ ง 24 -27 องศาเซลเซยี ส มฤี ดู 3 ฤดู คือ ฤดูฝน (พ.ค.- ต.ค.) ฤดู หนาว (ต.ค. - ก.พ.)ฤดรู ้อน (ก.พ. - พ.ค.) จงั หวัดทีม่ ีอุณหภมู ติ ่ำสุด คอื เชียงราย จังหวัดทีม่ ีอณุ หภูมิ สูงสดุ คือ อตุ รดติ ถ์จังหวัดทีม่ สี ถติ ฝิ นตกหนักคือ เชยี งราย และมสี ถติ ิฝนตกน้อยท่ีสุดคือ ลำปาง ปัจจัยควบคุมอณุ หภูมใิ นภาคเหนือ 1. ละติจูด ต้งั อยูใ่ นละตจิ ดู สูง สภาพอากาศหนาวเย็นกว่าภาคอ่ืน 2. ความสูงของพืน้ ที่ สว่ นใหญ่จะมเี ทือกเขาสูง มอี ากาศหนาวเย็นมากโดยเฉพาะใน ฤดหู นาว 3. ระยะไกลจากทะเล ต้งั อยู่ไกลจากทะเล ทำใหร้ ้อนอบอา้ วและมีฝนตกน้อยในฤดู รอ้ น 4. ทศิ ทางลมประจำ ได้รบั อิทธพิ ลจากลมมรสุมตะวันตกเฉยี งใตแ้ ละดีเปรสชันจาก ทะเลจนี ใต้ ทำให้ฝนตกมากและรบั อิทธิพลลมมรสมุ ตะวันออกเฉียงเหนอื จากประเทศจีนทำให้มี อากาศหนาวเยน็ ทรพั ยากรธรรมชาตใิ นภาคเหนือ 1. ทรัพยากรดนิ จะมีความอุดมสมบูรณ์ปานกลางถึงตำ่ เน่อื งจากพืน้ ทส่ี ว่ นใหญเ่ ปน็ ทส่ี ูง มี ความลาดชันมากและมีการตดั ไม้ทำลายปา่ จงึ ก่อให้เกิดการชะล้างและพังทลายหนา้ ดนิ ได้งา่ ย ดินท่ี พบตามล่มุ แม่น้ำต่าง ๆ คือ ดนิ อัลลูเวียนเหมาะในการทำนา และดนิ ลานตะพกั ลำน้ำ เหมาะในการ ปลกู พชื ไร่ 2. ทรพั ยากรนำ้ แมน่ ำ้ ในภาคเหนอื เป็นแม่นำ้ สายส้ัน ๆ ประกอบด้วยหลายสาย และมี ทะเลสาบนำ้ จดื ที่ใหญท่ ่ีสุดของภาคคอื กว๊านพะเยา และมีการสร้างเขอ่ื นเพ่ือการชลประทานขนาด เลก็ จำนวนมากและใช้ผลติ กระแสไฟฟ้า เช่น

เข่อื นสริ กิ ิตต์ กน้ั แม่นำ้ น่าน อย่ใู นจังหวดั อุตรดติ ถ์ เขอ่ื นกวิ่ ลม ก้ันแมน่ ้ำวงั อยใู่ นจังหวดั ลำปาง เข่ือนแก่งเสอื เตน้ อยู่จังหวัดแพร่ และ เขอ่ื นแมง่ ดั สมบรู ณช์ ล อยู่จงั หวัด เชียงใหม่ 3. ทรัพยากรป่าไม้ ภาคเหนอื เปน็ ภาคท่ีมปี ่าไมอ้ ุดมสมบูรณ์มากทส่ี ุด สว่ นใหญเ่ ปน็ ปา่ ดิบ เขา ป่าสนเขาและป่าเบญจพรรณ จังหวัดที่มเี นอ้ื ทีป่ า่ ไมม้ ากท่สี ดุ คือ เชียงใหม่ สว่ นจังหวัดท่มี เี น้อื ที่ ปา่ ไมน้ อ้ ยทสี่ ุดคือ ลำพูน 4. ทรัพยากรแรธ่ าตุ แรธ่ าตทุ สี่ ำคัญของภาคเหนอื มีหลายชนิด เนอื่ งจากโครงสรา้ งของ หนิ เป็นหนิ ยคุ เก่า แรธ่ าตุทส่ี ำคัญ ได้แก่ - แรด่ บี กุ พบมากทจ่ี ังหวัดเชียงใหม่ - แร่ทังสเตนหรอื วลุ แฟรม พบมากทจี่ ังหวดั เชยี งราย - แร่แมงกานสี พบมากท่ีจังหวดั ลำพนู เชียงราย เชยี งใหม่ - แร่ฟลูออไรต์ พบมากทีล่ ำพูน - ดินขาว พบมากทจ่ี งั หวัดลำปาง - แรร่ ตั นชาติ พบมากที่จังหวดั แพร่ - ปิโตรเลยี ม พบมากทีเ่ ชียงใหม่ - หนิ น้ำมัน พบมากที่ลำพูน - ถ่านหิน พบมากท่ลี ำปาง ลำพนู

ประชากรในภาคเหนอื ประชากรในภาคเหนือมีมากเปน็ อนั ดับ 4 รองจากภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ภาคกลาง และ ภาคใต้ จังหวดั ทม่ี ีประชากรมากที่สุดคอื เชยี งใหม่ จังหวัดที่มปี ระชากรนอ้ ยท่สี ดุ ได้แก่ จังหวดั แมฮ่ ่องสอน ความหนาแน่นของประชากรมากทีส่ ดุ คือ จังหวดั ลำพนู และมปี ระชากรเบาบางทีส่ ดุ คือ จงั หวัดแม่ฮอ่ งสอนชาวไทยภูเขาในภาคเหนือประกอบด้วยเผ่าต่าง ๆ ได้แก่ กระเหรยี ง ซงึ่ มมี ากที่สุด ม้ง ลซี อ มูเซอร์ และเยา้ กจิ กรรมทางเศรษฐกิจท่ีสำคัญในภาคเหนือ 1. เกษตรกรรม กจิ กรรมท่ีทำรายไดต้ อ่ ประชากรในภาคเหนอื ได้แก่ การทำสวน ทำไร่ ทำนา และเลยี้ งสัตว์ พืชผลทสี่ ำคัญไดแ้ ก่ ขา้ ว ยาสบู กระเทยี ม ถ่ัวเหลอื ง เปน็ ต้น 2. อุตสาหกรรม อุตสาหกรรมในครวั เรอื นนยิ มทำกันมากสดุ เช่น ทำรม่ กระดาษ แกะสลักไม้ จักสาน เคร่ืองปั้นดินเผา เคร่อื งเคลือบ ทอผา้ 3. อตุ สาหกรรมโรงงาน เป็นโรงงานทีผ่ ลติ สนิ คา้ โดยใชว้ ตั ถดุ ิบทางการเกษตรภายในทอ้ งถนิ่ เช่น โรงงานยาสูบโรงงานอาหารสำเร็จรูป 4. อุตสาหกรรมการท่องเทีย่ ว มีการส่งเสริมการทอ่ งเทย่ี วเนอ่ื งจากมีภมู ปิ ระเทศสวยงาม อากาศดี มีวัฒนธรรมและประเพณีท่ดี แี ละอนุรักษไ์ ว้

ลักษณะภมู ปิ ระเทศภาคกลาง ภาคกลางมีพ้นื ท่ปี ระมาณ 92,795 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วย 22 จงั หวัด ได้แก่ นครสวรรค์ กำแพงเพชร พิจติ ร พิษณุโลก สโุ ขทยั เพชรบรู ณ์ และอุทยั ธานี สระบุรี ลพบรุ ี สพุ รรณบุรี ชยั นาท สงิ หบ์ ุรีอ่างทอง พระนครศรอี ยุธยา นครนายก ปทุมธานี นนทบรุ ี นครปฐม สมทุ รสงคราม สมทุ รสาคร สมุทรปราการ และกรงุ เทพฯ ทต่ี ั้งและขอบเขตภาคกลาง ทิศเหนือ ดนิ แดนทอี่ ย่เู หนือสดุ ของภาคคอื จงั หวัดสโุ ขทัย ทิศตะวันออก ดนิ แดนท่อี ยู่ตะวนั ออกสดุ ของภาค คอื จงั หวดั เพชรบรู ณ์ ทศิ ตะวันตก ดินแดนทอ่ี ยู่ตะวันตกสุดของภาคคือ จงั หวดั กำแพงเพชร ทศิ ใต้ ดินแดนที่อย่ใู ตส้ ดุ ของภาค คือ จงั หวดั สมุทรสงคราม ลักษณะภูมปิ ระเทศภาคกลาง เขตทรี่ าบ - เขตท่ีราบภาคกลางตอนบน เปน็ ทรี่ าบลุ่มแม่นำ้ และท่รี าบลูกฟูก (เนนิ เขาสลับกบั ทร่ี าบ) - เขตที่ราบภาคกลางตอนลา่ ง เป็นทร่ี าบกว้างที่เกดิ จากการทบั ถมของตะกอน และเกดิ เปน็ ดินดอนสามเหลย่ี มปากแม่น้ำเจา้ พระยา - เขตทรี่ าบทางตะวนั ออกและตะวนั ตก เปน็ ท่ีราบลุ่มแม่นำ้ สลับกับลูกฟกู มีภเู ขาทีไ่ ม่สงู กระจายอยู่ทวั่ ไป แม่นำ้ สายสำคัญของภาคกลาง 1. แมน่ ้ำเจ้าพระยา เริม่ จากจังหวดั นครสวรรคไ์ หลลงสทู่ ะเลทีจ่ งั หวดั สมุทรปราการ และมี แมน่ ้ำสายเล็ก ๆ ทเ่ี ป็นสาขาคอื แม่น้ำมะขามเฒ่า(แมน่ ้ำลพบรุ )ี แมน่ ้ำน้อย(สุพรรณบุรี) และ แมน่ ำ้ นครชัยศรี(ทา่ จีน) 2. แมน่ ้ำป่าสัก เร่ิมจากจังหวดั เลย ไหลมาบรรจบกบั แมน่ ำ้ เจา้ พระยาทจี่ งั หวดั พระนครศรอี ยุธยา 3. แมน่ ้ำสะแกกรงั เรม่ิ ต้นจากนครสวรรคแ์ ละกำแพงเพชร ไหลมาบรวมกบั แม่น้ำเจ้าพระยาที่ จังหวัดอทุ ยั ธานี

คลองท่สี ำคญั ในภาคกลาง 1. คลองรังสิต เปน็ คลองที่เช่ือมระหวา่ งแมน่ ้ำเจ้าพระยากับแมน่ ำ้ นครนายก 2. คลองบางบวั ทอง เปน็ คลองที่เชอ่ื มระหวา่ งแมน่ ้ำเจา้ พระยากับแม่นำ้ นครชัยศรี 3. คลองภาษีเจริญ เปน็ คลองทีเ่ ชื่อมระหว่างแม่นำ้ ทา่ จีนกับคลองบางกอกน้อย 4. คลองแสนแสบ,คลองพระโขนง และคลองสำโรง เป็นคลองที่เช่อื มระหวา่ งแม่น้ำเจา้ พระยา กบั แมน่ ้ำบางปะกง 5. คลองดำเนนิ สะดวก เป็นคลองท่ีเชอื่ มระหวา่ งแม่นำ้ ท่าจีนกบั แมน่ ำ้ แม่กลอง ลกั ษณะภมู ิอากาศของภาคกลาง ภาคกลางมลี ักษณะภมู ิอากาศเปน็ แบบทุง่ หญา้ เมืองรอ้ น (Aw) คือมีฝนตกปานกลาง และสลบั กับฤดแู ลง้ บรเิ วณภาคกลางตอนล่างจะมอี ากาศช่มุ ชนื้ มากว่าเนื่องจากอยู่ใกล้ทะเลมากกวา่ ภาคกลาง ตอนบน ทรพั ยากรธรรมชาตใิ นภาคกลาง 1. ทรพั ยากรดิน ภาคกลางตอนบนเป็นดินตะกอนเก่าไมเ่ หมาะสมในการเพาะปลูกเนอ่ื งจากเกดิ การจับตัวแขง็ ในชว่ งฤดูแล้ง ดินทีเ่ หมาะในการเพาะปลูกควรเป็นดินเหนยี วท่าจีน ดนิ เหนียวลพบรุ ี ดินเหนียว องครักษ์ ดนิ ร่วนกำแพงแสน และดนิ เหนียวดำกรงุ เทพฯ ซึ่งเป็นดินทีเ่ กิดจากการทบั ถมของตะกอนท่ี น้ำพัดพามารวมกนั เปน็ ทีร่ าบขนาดใหญ่ของภาคกลาง ส่วนดินบริเวณท่รี าบเนินภูเขาจะ เกิดจากการ สลายตวั ของหินปนู และหินอัคนี เหมาะแกก่ ารปลูกพืชไร่ เช่น ขา้ วโพด ขา้ วฟ่าง มะมว่ ง ขนุน เปน็ ตน้ 2. ทรพั ยากรนำ้ ประกอบแมน่ ำ้ และลำคลองมากมากจงึ เปน็ ภาคท่ีอุดมสมบูรณท์ ส่ี ดุ ของประเทศ ประกอบดว้ ย แมน่ ำ้ เจ้าพระยา แมน่ ำ้ ท่าจนี และมีการสร้างเขอื่ นต่าง ๆ เช่น เขื่อนเจา้ พระยา จังหวัดชยั นาท เข่ือน กระเสียว จังหวดั สพุ รรณบรุ ี เข่ือนป่าสัก จังหวัดลพบรุ ี 3. ทรัพยากรปา่ ไม้ ภาคกลางมพี ื้นทีข่ องปา่ ไม้น้อยมาก ส่วนใหญ่พบในภาคกลางตอนบนเปน็ ป่าเบญจพรรณและ ป่าดงดบิ จงั หวดั อุทัยธานีจะมีปา่ ไมเ้ หลอื อยมู่ ากทีส่ ุด ประมาณ 2,620 ตารางกโิ ลเมตร ซึง่ เปน็ ทตี่ ้ัง ของอุทยานแห่งชาตหิ ้วยขาแขง้

4. ทรพั ยากรแรธ่ าตุ ภาคกลางมีแรธ่ าตุไมม่ ากนัก เน่อื งจากภมู ิประเทศส่วนใหญเ่ ปน็ ที่ราบ แร่ทส่ี ำคัญคอื แรโ่ ลหะ ได้แก่ ดีบกุ เหลก็ แมงกานีส ตะกั่ว ทองคำ แร่อโลหะ ได้แก่ ยิปซัม หินอ่อน ดนิ มาร์ล หนิ ปนู แรเ่ ชื่อ เพลงิ พบ**นำ้ มันดบิ ทีล่ านกระบือ จังหวัดกำแพงเพชร

ลักษณะภมู ศิ าสตร์ภาคตะวันตก ภาคตะวันตกของประเทศไทยมีพืน้ ที่ประมาณ 53,679 ตารางกิโลเมตร ประกอบดว้ ย 5 จังหวดั คอื ตาก กาญจนบุรี ราชบรุ ี เพชรบุรี ประจวบครี ขี ันธ์ ท่ตี ั้งและขอบเขตของภาค ทศิ เหนอื มดี นิ แดนเหนอื สดุ ของภาคอยูท่ ีอ่ ำเภอทา่ สองยาง จังหวัดตาก ทศิ ตะวันออก มีดนิ แดนติดตอ่ กับสุพรรณบุรี อุทยั ธานี กำแพงเพชร สโุ ขทัย นครสวรรค์ สมุทรสาคร สมทุ รสงคราม อ่าวไทยดินแดนที่อยทู่ างตะวันออกสดุ ของภาคคอื อำเภอบ้านแหลม จังหวดั เพชรบรุ ี ทิศตะวันตก มีดินแดนติดกับประเทศพมา่ มีเทอื กเขาถนนธงชัยและเทอื กเขาตะนาวศรีเป็น พรมแดนธรรมชาติ ทศิ ใต้ ดนิ แดนทีอ่ ยใู่ ตส้ ดุ ของภาคอยทู่ อี่ ำเภอบางสะพานน้อย จังหวัดประจวบครี ขี นั ธ์ ลักษณะภมู ิประเทศภาคตะวนั ตก ลักษณะภมู ิประเทศส่วนใหญ่เปน็ ภเู ขาสลบั กบั หุบเขาทีค่ อ่ นข้างชนั และแคบกว่าหบุ เขาของ ภาคเหนือ เนอ่ื งจากการกัดเซาะของแมน่ ้ำลำธาร มีภูมิประเทศคล้ายภาคเหนือ แบ่งไดด้ ังน้ี 1. เขตเทือกเขา ได้แก่ - เทือกเขาถนนธงชยั เป็นแนวแบ่งเขตระหวา่ งไทยกบั พมา่ จากจังหวัดแมฮ่ ่องสอนถงึ ตาก - เทอื กเขาตะนาวศรี เปน็ แนวแบง่ เขตไทยกบั พมา่ มีช่องทางตดิ ตอ่ ทดี่ ่านสิงขร จงั หวัด ประจวบคีรขี นั ธ์ และดา่ นบอ้ งต้ี จังหวัดกาญจนบรุ ี - เทอื กเขาหนิ ปนู อยู่ระหว่างแม่น้ำแควใหญแ่ ละแมน่ ำ้ แควนอ้ ย สว่ นใหญ่เป็นภูเขาหินปูน มี ถำ้ หนิ งอกหนิ ย้อย 2. เขตทร่ี าบ อย่รู ะหว่างเขตเทอื กเขากับที่ราบต่ำภาคกลางจนถึงอ่าวไทย เปน็ ท่ีราบลมุ่ แม่นำ้ ไดแ้ ก่ ท่ีราบลุ่มแม่นำ้ ปิง แมน่ ำ้ แมก่ ลอง ทร่ี าบแม่นำ้ เพชรบุรี และทรี่ าบชายฝัง่ ทะเลท่เี ปน็ หาดทราย สวยงาม เชน่ หาดชะอำ หาดหังหินและอ่าวมะนาว

แม่น้ำทส่ี ำคัญของภาคตะวนั ตก - แม่น้ำแมก่ ลอง เกิดจากการรวมตวั ของแมน่ ้ำแควใหญ่กับแควนอ้ ย ตน้ นำ้ อยู่ในเขตจงั หวัด กาญจนบุรี ไหลลงทะเลท่จี งั หวดั สมทุ รสงคราม - แมน่ ้ำแควใหญ่ หรือแม่นำ้ ศรสี วสั ดิ์ มตี น้ นำ้ อยู่ทจ่ี งั หวดั กาญจนบรุ ี ไหลไปรวมกบั แมน่ ำ้ แคว นอ้ ย - แมน่ ำ้ แควนอ้ ย หรือแมน่ ้ำไทรโยค มตี ้นนำ้ อย่ทู จี่ งั หวดั กาญจนบรุ ี ไหลไปรวมกับแมน่ ้ำแคว ใหญ่ - แมน่ ำ้ เมย เปน็ พรมแดนกัน้ เขตแดนไทย-พม่า ตน้ น้ำอยทู่ ป่ี ระเทศพมา่ ไหลลงสูแ่ ม่น้ำสาละวิน ท่ีแม่ฮ่องสอน - แมน่ ้ำเพชรบรุ ี เกิดจากเทือกเขาตะนาวศรไี หลผ่านจงั หวดั เพชรบุรี - แม่นำ้ ปราณบรุ ี ต้นนำ้ เกดิ ท่จี งั หวดั ประจวบครี ขี นั ธ์ ลักษณะภูมอิ ากาศของภาคตะวนั ตก ภาคตะวนั ตกมอี ากาศแบบทงุ่ หญา้ สะวนั นา (Aw) คือมีอากาศรอ้ นช้นื สลับกับฤดแู ลง้ มฝี นตก นอ้ ยกว่าภาคอ่ืน เน่ืองจากมีภเู ขาสูงกนั้ จงึ เปน็ พนื้ ท่อี ับฝน และอณุ หภมู ิในฤดรู อ้ นจะรอ้ นจดั ถ้าฤดู หนาวจะหนาวจดั กลางวันอณุ หภมู สิ ูงและกลางคนื อณุ หภูมจิ ะต่ำมาก ทำให้เกดิ ความแตกต่างกันมาก เนอ่ื งจากอยู่ในหุบเขา จงั หวดั ท่ีมีฝนตกนอ้ ยทส่ี ุดคือ จังหวัดตาก และจงั หวัดท่มี ฝี นตกมากที่สุดคอื จงั หวดั ประจวบครี ขี นั ธ์ ปัจจยั ควบคุมอณุ หภมู ภิ าคตะวันตก 1. ได้รับอิทธพิ ลลมมรสมุ ตะวนั ตกเฉยี งใตแ้ ละลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ทำใหม้ ฝี นตกและ อากาศหนาวเยน็ 2. การวางตัวของเทอื กเขาถนนธงชัยและเทือกเขาตะนาวศรใี นแนวเหนอื -ใต้ ทำให้มอี ทิ ธพิ ลต่อ สภาพอากาศของภาคตะวันตก คอื อากาศร้อนอบอ้าว และจงั หวัดกาญจนบุรี และราชบรุ เี ปน็ เขตที่ อับลมฝน 3. ได้รับอิทธพิ ลจากลมพายุดเี ปรสชนั ทะเลจีนใต้ ทำให้ฝนตกหนักและนำ้ ท่วมในเขตจงั หวัด ประจวบครี ีขันธ์ และเพชรบุรี

4. ลมพายดุ ีเปรสชนั จากอา่ วเบงกอล ทพี่ ัดผ่านเขา้ สู่ประเทศพมา่ และภาคตะวนั ตกของไทย เมื่อ ปะทะกับแนวเทอื กเขาแตไ่ มม่ บี อ่ ยครงั้ ทรพั ยากรธรรมชาติในภาคตะวันตก 1. ทรพั ยากรดนิ ภาคตะวนั ตกพ้ืนท่สี ว่ นใหญ่เป็นเขตภูเขาสงู และมีความลาดชนั ดนิ จึงมีความอุดมสมบรู ณต์ ่ำไม่เหมาะ ในการเพาะปลกู หรอื มีสภาพเป็นดนิ ทราย หรอื ดินท่ีเกิดจากการสลายตัวของหินทเี่ ปน็ กรด 2. ทรพั ยากรน้ำ ภาคตะวันตกมีน้ำน้อย เพราะอยใู่ นเขตอบั ฝน แม่น้ำเป็นสายสั้น ๆ และมีเข่ือนเก็บกกั นำ้ ขนาดใหญ่ เช่น เขื่อนภูมพิ ล จังหวดั ตาก , เขอ่ื นแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี , เข่ือนปราณบุรี จังหวัด ประจวบคีรีขนั ธ์ , เขือ่ นศรีนครนิ ทร์ จงั หวดั กาญจนบุรี , เขื่อนเขาแหลม จังหวดั กาญจนบุรี , เขอ่ื นวชิ ราลงกรณ์ จงั หวดั กาญจนบุรี 3. ทรัพยากรปา่ ไม้ ภาคตะวันตกมีพืน้ ทีป่ ่าไมม้ ากเป็นอันดับ 2 รองจากภาคเหนอื พน้ื ท่ีป่าไมส้ ่วนใหญ่เปน็ ปา่ ดงดิบ และ ปา่ เบญจพรรณ จงั หวัดทม่ี ปี ่าไมม้ ากทส่ี ดุ คือ กาญจนบรุ ีและตาก 4. ทรพั ยากรแร่ธาตุ ภาคตะวนั ตกมีแร่ธาตุหลายชนิด ท่ีสำคญั ไดแ้ ก่ ดีบุก ทงั สเตน เหล็ก ฟลูออไรด์ ฟอสเฟต หนิ อ่อน แร่ รตั นชาตมิ พี ลอย ไพลนิ ทก่ี าญจนบุรี หินน้ำมัน อยู่บริเวณอำเภอแมส่ อด จังหวดั ตาก

ประชากรในภาคตะวนั ตก ภาคตะวนั ตกเปน็ ภาคทีม่ ีจำนวนประชากรน้อยทีส่ ุด และเบาบางทส่ี ดุ มชี นกล่มุ น้อยพวกมอญ กะเหร่ยี ง พม่าอาศยั อยู่ทุกพืน้ ที่เนือ่ งจากมอี าณาเขตตดิ ตอ่ กบั ประเทศพม่า จังหวดั ทีม่ ีประชากรมาก ทส่ี ุด และมีความหนาแนน่ มากทสี่ ุดคือ ราชบุรี สว่ นจังหวดั ทีม่ ีประชากรต่ำทีส่ ุดและมีความหนาแนน่ เบาบางทีส่ ุดคอื จังหวัดตาก


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook