Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึ

การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึ

Published by ชัยสิทธิ์ ชาพา, 2021-12-08 15:08:18

Description: การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึ

Search

Read the Text Version

การประยุกต์ใช้ นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ กบั การจดั การศึกษา EA 103 นวัตกรรมและเทคโนโลยสี ารสนเทศทางการศกึ ษา

คอมพิวเตอรช์ ่วยสอน Computer-Assisted Instruction (CAI) ใช้เพ่อื การทดสอบ ใชเ้ พอ่ื การฝึก สร้างสถานการณ์จาลอง เกมในการเรยี นการสอน แบบทดสอบแบบ แบบฝึกหดั การแข่งขัน การจาลองสถานการณ์ จาลองสถานการณโ์ ดยมี สุ่มขอ้ ตรวจสอบ จบั เวลา สร้างรปู แบบที่ การเคล่อื นทขี่ องลูกปืน การแขง่ ขันเปน็ หลัก เลน่ การเดนิ ทางของแสง ได้คนเดียวหรือหลายคน วเิ คราะหค์ ะแนน ท้ายทายในการแกไ้ ข การทาปฏกิ ริ ยิ าทางเคมี ก่อนให้เกดิ การแขง่ ขัน ประเมนิ ผลให้ทราบ ปญั หา และรว่ มมอื กัน ในทันที

คอมพิวเตอร์ชว่ ยสอน Computer-Assisted Instruction (CAI) ใชเ้ พ่ือการสอน ใช้สอบถามข้อมูล บทนา คาบรรยาย ค้นหาข้อเทจ็ จรงิ ท่เี ป็น หลกั การ แนวคิด ประโยชน์ ทฤษฎี มีแบบทดสอบ

ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์ชว่ ยสอน Computer-Assisted Instruction (CAI) ทาให้นกั เรียนได้มี ทาใหใ้ ช้สมองใน ส่วนร่วมใน การคิดวิเคราะห์ และตัดสินใจ กระบวนการเรยี นการ สอนมากข้นึ 3 12 ทาใหน้ ักเรียน สามารถเลือกเรียน ไดห้ ลายแบบตาม ความถนดั ของ แต่ละบคุ คล

ประโยชนข์ องคอมพวิ เตอรช์ ว่ ยสอน Computer-Assisted Instruction (CAI) ทาใหส้ ามารถปรบั ปรุง ทาให้ผเู้ รียน เปล่ยี นแปลงการเรยี น สามารถสรุป การสอนไดเ้ หมาะสม หลกั การ เน้ือหา กับแต่ละบุคคล 6 สาระของบทเรยี น แต่ละบทเรียนได้ 45 ทาใหผ้ เู้ รียนมี อิสระภาพในการ เรียนสามารถ เรียนรูไ้ ดท้ กุ เวลาที่ ตอ้ งการ

การสอนโดยใช้เว็บเป็นหลัก ความหมาย World Wide Web, E-mail, Chat, Webbord, ICQ, Conference ประโยชน์ ประเภท การเรียนการสอนท่ีอาศยั เครอื ขา่ ยอนิ เตอร์เนต็ โดยนาเอา เปดิ โลกกว้างทางการศึกษา แหลง่ เรยี นรู้วทิ ยาการ เทคโนโลยีเขา้ มาสนับสนนุ การเรยี น โดยการสบื คน้ และ ฝกึ การคิดเปน็ ระบบ การคิดวเิ คราะห์ สังเคราะห์ คดิ แกป้ ญั หา ผเู้ รียนสารมารถสารวจขอ้ มูลตามความสนใจ เชื่อมโยงเครอื ขา่ ย สามารถเรยี นได้ทกุ ทีท่ ุกเวลา ศึกษาโปรแกรมตา่ ง ๆในคอมพิวเตอรแ์ ละบนเครือขา่ ยได้

02 ประโยชน์ มลั ติมีเดีย ส่งเสรมิ การเรียนรูด้ ว้ ยตนเองจาลองแบบการนาเสนอ 03 การใช้มัลตมิ ีเดยี เพ่อื การเรยี นการสอน มปี ฏิสัมพันธก์ ับผู้เรยี น ฝึกการตดั สินใจและการแกไ้ ข ปญั หา ผใู้ ชค้ วบคมุ ได้ด้วยตนเอง ระบบการเข้าถึงขอ้ มูล จาลองสภาพการณข์ องวิชาตา่ ง ๆ ผู้เรียนไดร้ บั หลากหลายแนวทาง สรา้ งแรงจงู ใจ มีรูปแบบการเรยี น ประสบการณต์ รงก่อนการลงมือปฏิบัติจรงิ ท่ีหลากหลาย จดั การเวลาไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ ทบทวนข้ันตอน ฝึกซ้า ใช้ฝกึ ภาษาตา่ งประเทศ เน้นการออกเสยี ง ฝึกพดู ใช้ฝกึ ทวนเน้อื หาจาก ที่เรยี นในห้องเรียน 01 04 องคป์ ระกอบ มลั ตมิ เี ดยี คอื มัลติมีเดียสามารถสรา้ งขนึ้ จากโปรแกรมประยุกตห์ ลาย ๆ โปรแกรมแตอ่ ยา่ งใดกต็ าม จะต้องประกอบดว้ ย 2 ส่ือ การใชค้ อมพวิ เตอรร์ ่วมกับซอฟต์แวร์ในการส่ือ หรือมากกว่าตามองค์ประกอบดังนี้ คือ ขอ้ ความ ภาพนงิ่ ความหมายโดยผสมผสานสอื่ หลายชนดิ เช่น ขอ้ ความ เสียง ภาพเคล่อื นไหวการเช่อื มโยงแบบปฏิสมั พนั ธ์ และ สีสนั ภาพกราฟิก ภาพเคล่ือนไหว เสยี ง และวดี ิทศั น์ ภาพยนตร์ วีดิทัศน์

อเิ ล็กทรอนกิ สบ์ ๊คุ (E-Book) ขอ้ ดี ขอ้ จากดั ลักษณะเดน่ ของ E-Book E-book คอื สามารถเชอื่ มไปยงั จดุ ต่าง ๆ ของหนงั สือ ขอ้ ดี ปรับปรงุ เนอื้ หาไดต้ ลอดเวลา หรอื เวบ็ ไซตภ์ ายนอกมีปฏสิ มั พันธ์ ตอบโต้ ประหยัดตน้ ทุน คงอยูไ่ ดน้ าน กับผ้เู รยี น สามารถแทรกภาพ เสียง ภาพเคล่ือนไหว หนังสือทส่ี รา้ งขน้ึ ดว้ ยโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ มลี ักษณะเป็นแบบทดสอบ ปรับปรุงเนือ้ หาได้ ข้อจากัด ต้องใชพ้ ลงั งานในการ อ่าน เสยี สขุ ภาพตา อา่ นจาก เอกสารอิเลก็ ทรอนกิ ส์ โดยปกตมิ กั จะเปน็ แฟม้ ข้อมูลทีส่ ามารถ อา่ นเอกสารผา่ นทางหน้าจอคอมพิวเตอร์ ท้ังในระบบออฟไลน์ เครอื่ งคอมพวิ เตอร์ ละเมิดลขิ สิท์์ และออนไลนผ์ อู้ า่ นสามารถอ่านผา่ นทางอนิ เทอรเ์ นต็ หรือ อปุ กรณอ์ เิ ลก็ ทรอนิกสพ์ กพาอน่ื ๆได้

การเรียนการสอนทางไกล ผ้สู อนและผู้เรียนกำหนดเวลำ สถำนท่ี เน้นกำรสอ่ื สำรทำงไกลแบบ 2 ทำง อำศัยสื่อ หลำกหลำยชนดิ กำรจดั ศนู ย์วทิ ยบริกำร จดั สง่ ส่ือให้ผเู้ รยี น ควบคุมคุณภำพในดำ้ น องค์ประกอบกำรสอน กำรตดิ ตอ่ สอ่ื สำรระหวำ่ งผูส้ อนกับผเู้ รียน 2 ทำงโดยอำศัยส่ือประสม ความหมาย ขอ้ ดี องค์ประกอบ การเรียนการสอนทีผ่ ้เู รียนและผู้สอนอยู่ไกลกัน ใช้วธิ กี ารถ่ายทอด ผู้เรยี นได้เรียนกบั ผเู้ ชีย่ วชาญในเนอ้ื หานน้ั บนั ทึกคา เน้ือหาสาระ และประสบการณ์โดยอาศยั สือ่ ประสมในหลายรูปแบบ บรรยายหรอื การสอน ไมต่ อ้ งเดนิ ทางมายงั สถานศึกษา ได้แก่ สื่อทีเ่ ป็นหนังสอื สอื่ ทางไปรษณีย์ ไปรษณียอ์ เิ ล็กทรอนิกส์ วทิ ยุกระจายเสียง โทรทัศน์ การประชุมทางไกลดว้ ยภาพและเสยี ง สามารถเรยี นไดจ้ ากท่บี ้านหรือท่ที างาน (Video Conference) อินเตอร์เน็ต

วีดิโอเทเลคอนเฟอเรนท์ หมายถงึ องค์ประกอบ การประชุมทางจอภาพโดยใช้เทคโนโลยีการส่อื สารที่ เครือข่ายโทรคมนาคม ทันสมยั เป็นการประชมุ รว่ มกนั ระหวา่ งบุคคลหรือคณะ อุปกรณ์เชื่อมตอ่ จอโทรทศั น์ เครือ่ งฉาย บุคคลทีอ่ ยู่ตา่ งสถานทีแ่ ละห่างไกลคนละซกี โลก ดว้ ยส่ือ ทางด้านมัลติมเี ดียท่ใี ห้ทง้ั ภาพเคลอื่ นไหว ภาพน่งิ เสียง ภาพนิ่ง กลอ้ งวดี ิทัศน์ ไมโครโฟน และขอ้ มลู ตวั อกั ษรในการประชุมเวลาเดยี วกัน และเป็นการสอ่ื สาร 2 ทาง

วีดโิ อออนดมี านด์ (Video on Demand) platform ปจั จุบนั ลกั ษณะเด่นของ Video on Demand Video on Demand คือ วีดโิ อออนดีมานด์เป็นระบบที่มีศนู ยก์ ลางการเก็บขอ้ มูล วีดทิ ัศน์ไว้จานวนมาก โดยจัดเก็บในรปู แหลง่ ข้อมูลขนาด Netflix,iflix, Line TV, ใหญ่ (Video Server) เม่ือผ้ใู ชต้ ้องการเลอื กชมรายการใด MONO max เครือขา่ ยคอมพิวเตอร์ความเรว็ สงู ทาใหผ้ ชู้ ม ก็เลือกไดจ้ ากฐานขอ้ มูลทีต่ อ้ งการ ระบบวีดิโอออนดีมานด์ ตามบา้ นเรือนต่าง ๆ สามารถเลือกรายการ จึงเป็นระบบทีจ่ ะนามาใช้ในเรื่องการเรยี นการสอน วดี ิทัศนท์ ีต่ นเองต้องการชมไดโ้ ดยเลือกตาม รายการ (Menu) และเลือกชมได้ตลอดเวลา ทางไกลไดโ้ ดยไม่มขี อ้ จากัดด้านเวลา ผูเ้ รยี นสามารถเลือก เรยี นในสิง่ ทต่ี นเองตอ้ งการเรยี นหรอื สนใจได้

อินเตอร์เน็ต internet แหลง่ ขา่ วสาร แหล่งสืบคน้ การพดู คุยแบบโต้ตอบ แบบกล่มุ ขอ้ มูลขา่ วสารมีอยหู่ ลากหลาย ทกุ คนสามารถ การสอื่ สารทางไกล แบบคอนเฟอเรนซ์ เลอื กข้อมลู คามความสนใจ สืบค้นแหล่งขอ้ มลู ได้ ทุกภาษาใช้ระยะเวลาส้ัน หอ้ งสมุดขนาดใหญ่ แบบรายบคุ คล แบบกลุ่มใหญ่ 2 4 1 3 5 ระบบสือ่ สารสว่ นบุคคล ฐานข้อมูลบนเครอื ข่าย การถา่ ยขอ้ มลู ระหวา่ งกนั แบบ FTP การสง่ ข้อมูลสือ่ สารระหว่าง ฐานข้อมลู ขนาดใหญ่ ทม่ี ีท้ัง การสง่ ข้อมูลจานวนมาก ๆ ผา่ น ข้อความ ภาพ และเสียง บคุ คล หรอื E mail เครือข่ายทส่ี ืบคน้ ไดท้ วั่ โลก ระบบเครือข่ายอินเตอรเ์ นต็

การออกแบบนวตั กรรมเพ่อื การเรียนการสอน

การออกแบบนวตั กรรมเพอื่ การเรียนการสอน กรอบแนวคดิ การ การใช้สือ่ การสอน ออกแบบการ เรยี นการสอน 123 ออกแบบพฒั นา นวัตกรรมทาง การศึกษา

การออกแบบการเรียนการสอน การเรียนรู้ กระบวนการคิด กระบวนการทางสติปัญญา Input Sort term memory / Long term memory Encode working memory ให้นักศึกษาลองยกตวั อยา่ งข้นั ตอนการเกิดการเรยี นรู้กบั กระบวนการดังกลา่ วให้เช่อื มโยงกับสถานการณจ์ รงิ

การออกแบบการเรยี นการสอน Nine events of instruction (Gagne,Briggs&Wager,1992) 1 การสร้างความสนใจ/เรา้ ความสนใจ 2 การบอกวตั ถปุ ระสงค์ 3 การกระตนุ้ ใหร้ ะลึกถงึ การเรยี นรู้ที่มีมาก่อน

การออกแบบการเรียนการสอน Nine events of instruction (Gagne,Briggs&Wager,1992) 4 การนาเสนอความรแู้ ละสอื่ การเรยี นรู้ 5 การช้ีแนะแนวทางการเรยี นรู้ 6 การใหป้ ฏบิ ตั ิและฝกึ ฝน

การออกแบบการเรียนการสอน Nine events of instruction (Gagne,Briggs&Wager,1992) 7 การใหข้ ้อมูลป้อนกลับ 8 การประเมินผลการปฏิบตั ิ การสง่ เสริมให้จดจา 9 ความรูแ้ ละถา่ ยโยง ความรู้ ในกระบวนการจัดการเรียนการสอนของนกั ศึกษาในปัจจบุ นั สอดคล้องกบั กระบวนการดงั กลา่ วกี่ข้อ อะไรบา้ ง

กำรออกแบบและพัฒนำ นวัตกรรมทำงกำรศึกษำ

ประเภทของนวัตกรรมทำงกำรศกึ ษำ • นวัตกรรมทำงดำ้ นหลกั สูตร • นวตั กรรมกำรเรียนกำรสอน • นวัตกรรมสือ่ กำรสอน • นวตั กรรมทำงด้ำนกำรประเมนิ ผล • นวตั กรรมบริหำรจดั กำร

แนวคิดทฤษฎกี ำรเรยี นร้เู พื่อออกแบบนวัตกรรม • 1. พฤตกิ รรมนยิ ม (กำรเรยี นรู้จำกกำรกำรเปล่ียนแปลงพฤติกรรม โดย อำศัยสิง่ เรำ้ กำรตอบสนอง กำรเสรมิ แรง) • 2. ปญั ญำนยิ ม (กำรเรยี นรู้คอื กำรเพ่มิ ขึ้นของขอ้ มลู ตำ่ ง ๆ มีกำรเรยี บเรยี ง จัดหมวดหมู่ และนำกลับมำใชไ้ ด้เมอื่ ตอ้ งกำร) • 3. กำรสร้ำงกำรองคค์ วำมรูด้ ว้ ยปญั ญำ(กำรเรียนร้เู กดิ จำกประสบกำรณ์ ใหม/่ ควำมรู้ใหม่ + ประสบกำรณ์เดิม/ควำมรเู้ ดิม จะสร้ำงองค์ควำมรใู้ หม)่

กระบวนการออกแบบนวัตกรรมทางการศกึ ษา 1. กาหนดจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้เพอ่ื ต้งั เป้าหมายในการพัฒนาคุณลกั ษณะท่ี พึงประสงค์ (เพ่อื แกไ้ ปปัญหาทีเกีย่ วขอ้ งกับการเรียนการสอน เพื่อศึกษาผลสมั ฤท์ิ์ ทางการเรยี น เพอื่ พัฒนาผลสัมฤท์ิ์ทางการเรียน เพือ่ ส่งเสริมพฤตกิ รรมท่พี งึ ประสงค)์ 2. กาหนดกรอบแนวคดิ กระบวนการเรยี นรู้ พัฒนาคณุ ลักษณะของผเู้ รยี น (เรยี นรู้ด้วยตนเอง เรยี นรูผ้ า่ นการลงมอื ปฏบิ ตั ิ เรียนรผู้ า่ นการทดลอง ) 3. สรา้ งตน้ แบบนวตั กรรม (กาหนดต้นแบบของนวัตกรรม สอื่ 2 มิติ ส่อื มลั ติมีเดยี เรยี นรผู้ ่านสื่อ วสั ดุ อุปกรณ์ เทคนคิ ว์ิ ีการ)

สิ่งทีต่ ้องคานงึ ถงึ เมื่อต้องออกแบบนวัตกรรมประเภทส่อื การสอน • วตั ถปุ ระสงคก์ ารเรียนรู้ (เพอ่ื พัฒนา เพือ่ สง่ เสรมิ เพอ่ื แกไ้ ขปัญหา หรือ หลังจากผ้เู รียนเรยี นผา่ นสื่อ นวัตกรรมน้ีแลว้ ผูเ้ รยี นสามารถ.........(รายละเอียดตอ้ งสมั พนั ์ก์ บั เนอื้ หาทจี่ ะนามาสร้างนวัตกรรมการ สอน) • ลักษณะผเู้ รยี น ความเหมาะสมกบั วยั ความสนใจ ระดับ ความรู้ ทักษะ (ผเู้ รียนท่ีจะใช้ส่ือที่จะพัฒนาขึน้ อยู่ ระดบั ช้ันใด อายุเท่าไหร่ มคี วามสนใจในเรื่องใดบา้ ง ความรทู้ จี่ าเปน็ ท่ตี ้องมีเมอ่ื ใช้นวัตกรรม ทกั ษะท่ี จาเป็นทจี่ ะตอ้ งมใี นการใช้นวตั กรรม) • รูปแบบการเรยี นการสอน (สถานการณ์จาลอง การทดลอง การทดสอบ) • ธรรมชาตเิ นอื้ หาสาระการเรียนรู้ วธิ กี ารนาเสนอท่ีเหมาะสม • สภาพการเรียน • ทรพั ยากรต่าง ๆ เช่น วัสดุอุปกรณ์ ครุภณั ฑ์ งบประมาณ • ราคานวตั กรรมที่เหมาะสม

โครงสรา้ งการออกแบบนวัตกรรม • ชอ่ื นวัตกรรม ผพู้ ัฒนาควรตั้งชอ่ื นวัตกรรมใหส้ อดคลอ้ งกับวตั ถปุ ระสงค์ (บทเรียน คอมพิวเตอร์ช่วยสอน, กิจกรรมการเรยี น,รปู แบบการจัดกิจกรรม,กระดานสองภาษา) • วัตถุประสงคข์ องนวตั กรรม (เพ่อื พัฒนาบทเรยี น....ให้มีประสิท์ิภาพตามเกณฑ์,เพ่ือ ศกึ ษาผลสมฤท์ห์ิ ลังจากได้รบั การจัดกจิ กรรม...,เพ่อื พฒั นาทักษาการอา่ นคาศัพท์ ภาษาองั กฤษโดยการใชก้ ระดานสองภาษา) • ทฤษฎี หลกั การออกแบบนวัตกรรม (ทฤษฎีการเรียนรู้อาศยั หลกั การเรียนรจู้ ากกลุ่ม พฤตกิ รรมนยิ ม การวางเงอื่ นไข เพือ่ ใหม้ ีการตอบสนอง สง่ิ เรา้ มกี ารเสรมิ แรง) • ส่วนประกอบของนวัตกรรม (วสั ดุ อปุ กรณ์ ส่ือมัลติมเี ดีย ภาพน่งิ ภาพเคลือ่ นไหว เสียง วีดทิ ัศน์ กระบวนการ เทคนิค ขน้ั ตอนการดาเนินกิจกรรม) • การนานวตั กรรมไปใช้และประเมนิ ผล (นาการนาเสนอดว้ ยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ นาเสนอผ่านระบบออนไลน์)

การคิดเชิงนวตั กรรม 5. การ 1. การ ทดสอบ สังเกตและ นวัตกรรม รับรู้ปัญหา 4. การสร้าง 2. การระบุ ตน้ แบบ จุดเนน้ ของ นวัตกรรม นวัตกรรมท่ี ต้องการ 3. การกอ่ ร่าง แนวความคดิ

ลักษณะและวธิ กี ารคดิ เชงิ นวัตกรรม 1. รเิ ริม่ สิ่งใหม่ ๆ 2. คาดการณ์จากการสังเกต 3. ต้ังคาถามว่า “จะเกดิ อะไรขน้ึ ....ถ้า...” 4. ลบเงอ่ื นไขและขอ้ จากัดในอดตี 5. หาทางเลอื กทีห่ ลากหลาย 6. หาวิ์ีการทีด่ ีกวา่ เสมอ 7. ตงั้ คาถามหรอื ขอ้ สงสัยอยู่เสมอ 8.ให้ความสาคญั กบั วิ์กี ารมากกว่าคาตอบที่ถกู ตอ้ งเพยี งคาตอบเดยี ว


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook