Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงานการพัฒนาและผลการใช้ชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดิทัศน์เพื่อการฝึก โดย นายรณชัย บุญลือ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนบางขุนเทียนศึกษา กรุงเทพมหานคร

รายงานการพัฒนาและผลการใช้ชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดิทัศน์เพื่อการฝึก โดย นายรณชัย บุญลือ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนบางขุนเทียนศึกษา กรุงเทพมหานคร

Published by รณชัย บุญลือ, 2022-07-19 23:59:42

Description: รายงานการพัฒนาและผลการใช้ชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดิทัศน์เพื่อการฝึก กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (สาระดนตรี) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จัดทำโดย นายรณชัย บุญลือ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนบางขุนเทียนศึกษา สำนักงานเขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร

Keywords: ผลการใช้ชุดฝึกทักษะ

Search

Read the Text Version

ชอื่ สอื่ นวตั กรรมทางการศกึ ษา ชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดิทัศน์เพื่อการฝึก กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (สาระดนตร)ี ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 6 ผูจ้ ัดทำ นายรณชยั บญุ ลอื ตำแหน่ง ครู วทิ ยฐานะครชู ำนาญการพิเศษ หนว่ ยงาน โรงเรยี นบางขุนเทียนศึกษา สำนักงานเขตบางขนุ เทยี น กรงุ เทพมหานคร วตั ถปุ ระสงค์ของการศกึ ษา 1. เพื่อพัฒนาชุดฝึกทกั ษะการบรรเลงระนาดเอกและวดี ิทัศนเ์ พ่อื การฝกึ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ศลิ ปะ (สาระดนตรี) ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 6 ทีม่ ีคณุ ภาพและประสทิ ธิภาพ 2. เพอ่ื ศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เร่ือง พนื้ ฐานการบรรเลงระนาดเอก ของนกั เรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ก่อนและหลังเรียนโดยใช้ชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดิทัศน์ เพอ่ื การฝึก กลุ่มสาระการเรียนรูศ้ ิลปะ (สาระดนตร)ี ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 3. เพ่ือเปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน เรื่อง พื้นฐานการบรรเลงระนาดเอก ของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ 6 ก่อนและหลังเรียนโดยใช้ชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอก และวดี ิทัศน์เพ่ือการฝึก กลุ่มสาระการเรยี นร้ศู ลิ ปะ (สาระดนตร)ี ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 6 4. เพ่ือศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ 6 ท่ีมีต่อการใช้ชุดฝึกทักษะ การบรรเลงระนาดเอกและวีดิทัศน์เพื่อการฝึก กล่มุ สาระการเรียนรู้ศลิ ปะ (สาระดนตรี) ชั้นประถมศึกษา ปที ี่ 6 วสั ดุอปุ กรณท์ ่ใี ชใ้ นการสร้างส่ือนวตั กรรมทางการศึกษา 1. ขอ้ มลู เนอ้ื หาสาระจากหนังสอื ตำรา แบบเรียน และเว็บไซต์ 2. กระดาษขนาด A4 3. เคร่อื งคอมพิวเตอร์ พรอ้ มเครื่องพิมพ์ 4. กลอ้ งถ่ายภาพนิง่ และกลอ้ งถา่ ยภาพเคลือ่ นไหว

2 การสร้างและหาคุณภาพเครือ่ งมอื ที่ใชใ้ นการศกึ ษา 1. การสร้างและตรวจสอบคุณภาพของชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดิทัศน์ เพอื่ การฝึก กลุ่มสาระการเรียนรศู้ ิลปะ (สาระดนตร)ี ช้ันประถมศึกษาปีที่ 6 1.1 ขั้นตอนการสรา้ งและตรวจสอบคุณภาพ มดี ังนี้ 1) ศึกษาปัญหาในการเรียนและผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (สาระดนตรี) ของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปที ่ี 6 โรงเรยี นบางขุนเทยี นศกึ ษา 2) ศึกษาหลกั สตู รกลุ่มสาระการเรียนรศู้ ิลปะ (สาระดนตรี) ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 6 ของโรงเรียนบางขุนเทียนศึกษา นอกจากนี้ ผู้รายงานได้ศึกษาคู่มือการจัดการเรียนรู้ แบบเรียน และสาระสำคัญในกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (สาระดนตรี) ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6 เพื่อเป็นข้อมูล ในการกำหนดขอบเขตเน้ือหาสาระในการสร้างชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดทิ ศั นเ์ พ่อื การฝึก 3) ศกึ ษาเทคนิควธิ กี ารสร้างส่ือการเรียนรู้ และการหาประสิทธิภาพของส่ือการเรียนรู้ จากแนวคดิ ทฤษฎี และผลงานวิจัยทเี่ ก่ียวขอ้ ง 4) ศึกษารายละเอียดเก่ียวกับหลักการและวิธีการสร้างชุดฝึกทักษะและวีดิทัศน์ จากแนวคิดทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง เพ่ือเป็นแนวทางในการสร้างชุดฝึกทักษะและวีดิทัศน์ เพื่อการฝึก 5) วิเคราะหห์ ลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรศู้ ิลปะ (สาระดนตร)ี มาตรฐานการเรยี นรู้ ตัวช้ีวัด ผลการเรยี นรู้ และสาระการเรียนรู้ รวมท้ังคู่มือการจัดการเรียนรู้ และแบบเรียน เพ่ือหา ความสัมพันธ์ของเน้ือหาสาระเพื่อกำหนดจุดประสงค์การเรียนรู้ และเพื่อเป็นแนวทางในการเลือก เน้ือหาสาระสำหรบั นำมาสร้างและพัฒนาเป็นชดุ ฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวดี ิทศั น์เพ่อื การฝึก 6) วิเคราะห์เนื้อหาสาระสำหรับสร้างเป็นชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและ วีดิทัศน์เพ่ือการฝึก กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (สาระดนตรี) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 4 เรื่อง ดงั นี้ เร่ืองที่ 1 ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกบั ระนาดเอก เรื่องที่ 2 โนต้ ไทยสำหรับระนาดเอก เร่อื งที่ 3 แบบฝกึ ทกั ษะพ้ืนฐานการบรรเลงระนาดเอก เร่อื งท่ี 4 เพลงไทยพน้ื ฐานสำหรับบรรเลงระนาดเอก ขอบข่ายเนื้อหาสาระภายในชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดิทัศน์ เพ่ือการฝึก กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (สาระดนตรี) ช้ันประถมศึกษาปีที่ 6 ประกอบด้วยสาระ การเรียนรดู้ า้ นความรแู้ ละดา้ นทักษะ/กระบวนการ ดงั น้ี (1) ดา้ นความรู้ (1.1) ประวัตคิ วามเป็นมาของระนาดเอก (1.2) ลักษณะของระนาดเอก (1.3) ลักษณะการนั่งบรรเลงระนาดเอก (1.4) วธิ ีการจับไมต้ ีระนาดเอก

3 (1.4.1) วิธีการจับไม้ตีระนาดเอกแบบปากกา (1.4.2) วธิ กี ารจับไมต้ ีระนาดเอกแบบปากนกแกว้ (1.5) วิธกี ารดแู ลเก็บรักษาระนาดเอกและไม้ตี (1.6) เสยี งระนาดเอกเปรยี บเทยี บกับเสยี งแบบสากล (1.7) องคป์ ระกอบของโนต้ ไทยสำหรบั ระนาดเอก (1.7.1) ห้องเพลง (1.7.2) การจัดเรยี งโนต้ (1.8) ลกั ษณะพเิ ศษของโน้ตไทยสำหรับระนาดเอก (1.8.1) สัญลักษณท์ ี่ใช้แทนช่วงทบเสียง (Octave Sign) (1.8.2) สัญลกั ษณท์ ีใ่ ชแ้ ทนมอื (2) ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (2.1) หลกั วิธกี ารแบ่งมอื ฆ้องวงใหญร่ ะนาดเอก (2.2) ลักษณะการตแี ละวธิ กี ารบรรเลงระนาดเอก (2.3) ข้ันตอนการฝกึ ทักษะพนื้ ฐานการบรรเลงระนาดเอก (2.4) การฝึกบรรเลงเพลงไทยพ้ืนฐานสำหรับระนาดเอก ได้แก่ บรรเลงระนาดเอก เพลงแขกบรเทศ สองชนั้ 7) ดำเนินการสร้างชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดิทัศน์เพ่ือการฝึก ด้วยการเขียนโครงเรื่องตามลำดับโครงสร้างเนื้อหาสาระของชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและ วดี ิทัศน์เพ่อื การฝึก 8) ยกร่างต้นฉบับชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดิทัศน์เพื่อการฝึก ตามโครงเรื่องที่กำหนดไว้ เม่อื ยกรา่ งต้นฉบบั เสร็จแลว้ ผ้รู ายงานอ่านทบทวนตรวจสอบเนอ้ื หาสาระ ของชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดิทัศน์เพ่ือการฝึก ตามแผนงาน แล้วปรับปรุงอีกครั้ง ก่อนนำต้นฉบับชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดิทัศน์เพ่ือการฝึก ไปทดสอบและนำมา ปรบั ปรุงเป็นครงั้ สุดทา้ ย 9) ทดสอบต้นฉบับชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดิทัศน์เพื่อการฝึก เป็นการทดสอบอย่างไม่เป็นทางการ โดยสุ่มเลือกตัวแทนผู้อ่านเป้าหมาย คือ นักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีท่ี 6 โรงเรียนบางขุนเทียนศึกษา มาทดสอบความเข้าใจ เพ่ือรวบรวมข้อเสนอแนะ ต่าง ๆ นำมาประกอบปรับปรุงแก้ไขต้นฉบับชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดิทัศน์เพ่ือการฝึก ในขัน้ สดุ ทา้ ย 10) ปรับปรุงต้นฉบับชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดิทัศน์เพ่ือการฝึก ผูร้ ายงานปรบั ปรงุ ตน้ ฉบบั โดยนำข้อมลู ทีไ่ ด้จากการทดสอบและขอ้ เสนอแนะตา่ ง ๆ มาพิจารณาปรบั ปรุง เป็นครั้งสุดท้ายก่อนนำไปให้ผู้เช่ียวชาญตรวจสอบคุณภาพชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและ วีดิทศั น์เพอ่ื การฝึกตอ่ ไป

4 11) นำชดุ ฝกึ ทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดิทัศนเ์ พอ่ื การฝกึ ไปใหผ้ ู้เชี่ยวชาญ ด้านดนตรีไทย ด้านดนตรีศกึ ษา และด้านการสร้างส่ือนวตั กรรมการเรียนการสอน ท่ีมีความเช่ียวชาญ ด้านเน้ือหาดนตรีและการสร้างสื่อนวัตกรรมการเรียนการสอน จำนวน 5 คน และผู้เช่ียวชาญ ด้านการวัดผล วิจัยการศึกษา ท่ีจบการศึกษาระดับปริญญาโท มีความเช่ียวชาญในด้านการสร้าง และพฒั นาเคร่ืองมอื ทีใ่ ช้ในการวจิ ัยเพ่ือพัฒนาคุณภาพผเู้ รียน จำนวน 2 คน รวมผู้เช่ียวชาญจำนวน 7 คน ประเมินตรวจสอบคุณภาพของชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดิทัศน์เพื่อการฝึก เพื่อตรวจสอบความเท่ียงตรงตามเนอื้ หาและโครงสร้างของสื่อนวตั กรรมการเรียนการสอน ว่าเน้ือหา ในชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดิทัศน์เพ่ือการฝึก ท่ีใช้ในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทาง การเรียน เร่ือง พ้นื ฐานการบรรเลงระนาดเอก กลมุ่ สาระการเรียนรู้ศลิ ปะ (สาระดนตรี) ของนกั เรยี น ช้ันประถมศึกษาปีที่ 6 ถูกต้อง สอดคล้อง และครอบคลุมตามหลักวิชาการหรือไม่ แล้วคำนวณ หาคา่ ดชั นคี วามสอดคล้อง (IOC : Index of Item Object Congruence) 12) นำคะแนนที่ได้จากการประเมินตรวจสอบความเที่ยงตรงตามเนื้อหาและ โครงสร้างของชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดิทัศน์เพื่อการฝึก มาคำนวณหาค่าดัชนี ความสอดคลอ้ ง (IOC) แลว้ คดั เลือกประเด็นขอ้ คำถามทีม่ ีค่า IOC มากกวา่ 0.5 ข้นึ ไป สามารถใช้ได้ โดยผลการประเมินค่าดัชนีความสอดคล้องพิจารณาของผู้เชี่ยวชาญ พบว่า ประเด็นข้อรายการ ประเมิน จำนวน 55 ข้อ โดยรวมมีคา่ IOC เท่ากับ 0.97 สามารถใช้ได้ และเม่ือพจิ ารณาเปน็ ราย ข้อรายการประเมิน พบว่า มีค่า IOC อยู่ระหว่าง 0.71-1 ผู้รายงานนำข้อท่ีผู้เช่ียวชาญเสนอแนะ ไปปรับปรุงในชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดิทัศน์เพ่ือการฝึกใหม่ โดยปรับปรุงแก้ไข เน้ือหาให้มีความรู้ใหม่เพิ่มเติมข้ึน โดยให้ครอบคลุมหลักสูตรและสอดคล้องกันทุกขั้นตอน ให้มี เน้ือหายากง่ายเหมาะสมกับวัยและระดับความรู้ของนักเรียน แกไ้ ขกิจกรรมการเรียนรู้ใหถ้ ูกต้องและ เหมาะสมยิ่งข้ึน สอดคล้องกับเนื้อหาตลอดท้ังเล่ม รวมทั้งปรับภาษาที่ใชใ้ ห้มีความถูกต้องตามหลักเกณฑ์ การใช้ภาษายง่ิ ขน้ึ 1.2 ขั้นตอนการหาประสิทธิภาพของชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดิทัศน์ เพื่อการฝึก กลมุ่ สาระการเรยี นร้ศู ิลปะ (สาระดนตรี) ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ผู้รายงานดำเนินการหาประสิทธิภาพของชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและ วีดทิ ัศน์เพ่อื การฝึก โดยนำไปทดลองกบั นักเรยี นช้ันประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2562 โรงเรียน บางขุนเทียนศึกษา ตามลำดับข้ันตอนดังนี้ 1) การทดลองคร้ังที่ 1 เป็นการหาประสิทธิภาพเป็นรายบุคคลกับนักเรียน 3 คน เพื่อเป็นการตรวจสอบข้อบกพร่องของชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดิทัศน์ เพื่อการฝึกในด้านต่าง ๆ โดยผู้รายงานนำชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดิทัศน์เพ่ือการฝึก ไปทดลองเป็นรายบุคคลกับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/5 โรงเรียนบางขุนเทียนศึกษา ที่มี ความสามารถแตกต่างกัน เพ่ือพิจารณาเก่ียวกับเน้ือหา ภาษาท่ีใช้ กิจกรรมการเรียนรู้ แบบฝึกทักษะ และรูปแบบของการจดั ทำชุดฝึกทักษะและวดี ิทัศน์ โดยเก็บรวบรวมข้อมลู ต่าง ๆ ดว้ ยการสังเกตและ ประเมินพฤติกรรม สัมภาษณ์นักเรียน ตลอดจนตรวจดูผลงานจากการปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ ระหว่างเรียน จดบันทึกไว้ แล้วนำไปปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องท่ีพบในชุดฝึกทักษะและวีดิทัศน์

5 เพ่ือการฝึกให้มีความถูกต้องและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ซึ่งผลการทดลองพบว่า ข้อควรแก้ไขและปรับปรุง ได้แก่ ตัวอักษรมีขนาดเล็กไป บางแห่งพิมพ์ผิด และเนื้อหาสาระบางตอนไม่ชัดเจน ภาพประกอบ ไม่ถูกต้องและไม่ชัดเจน ผู้รายงานไดน้ ำมาปรับปรุงแกไ้ ขให้ถกู ต้องและเหมาะสม โดยแกไ้ ขตัวอักษร ที่มีขนาดเล็กปรับให้มีขนาดใหญ่ข้ึน อักษรที่พิมพ์ผิดแก้ไขให้ถูกต้อง และแก้ไขเนื้อหาสาระต่าง ๆ ในชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดิทัศน์เพ่ือการฝึก ปรับปรุงภาพประกอบใหถ้ ูกต้อง ชัดเจน มีสีสันสวยงาม และปรับรปู แบบใหม้ ีความนา่ สนใจ ถกู ต้อง สมบูรณ์ เหมาะสม และชดั เจน 2) การทดลองครั้งท่ี 2 เป็นการหาประสิทธิภาพเปน็ กลมุ่ เล็กกบั นักเรียน 9 คน ผู้รายงานนำชดุ ฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดทิ ัศนเ์ พ่ือการฝกึ ทีไ่ ดร้ ับการปรบั ปรงุ แก้ไขจาก การทดลองหาประสิทธิภาพเป็นรายบุคคลในคร้ังท่ี 1 ไปทำการทดลองกับนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6/5 โรงเรียนบางขุนเทียนศึกษา ท่ีมีความสามารถแตกต่างกัน โดยให้นักเรียนเริ่มทำแบบทดสอบ วัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน แล้วจึงเริ่มศึกษาเรียนรู้และปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ตาม เนื้อหาของชุดฝกึ ทักษะและวีดิทัศน์ ในขณะที่ศกึ ษาเรยี นรู้เน้ือหาสาระและปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้ นกั เรยี นปฏิบตั ิกิจกรรมการเรยี นรู้ฝกึ ทักษะการบรรเลงระนาดเอกควบคู่ไปด้วย เมื่อนักเรียนศึกษาเรยี นรู้ และปฏิบัติกจิ กรรมการเรียนรู้จบเนอ้ื หาแลว้ นกั เรียนทำแบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นหลังเรยี น เสร็จแล้วนำคะแนนเฉล่ียร้อยละของนักเรียนทั้งหมดที่ได้จากการประเมินทักษะการบรรเลงระนาดเอก และคะแนนเฉล่ียร้อยละของนักเรียนท้ังหมดที่ได้จากการทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นหลังเรยี น มาหาประสิทธิภาพของชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดิทัศน์เพื่อการฝึก โดยใช้เกณฑ์ ประสิทธิภาพ E1 / E2 ซึ่งผลการทดลองแสดงดงั ตารางท่ี 1 ตารางที่ 1 ผลการหาแนวโนม้ ประสิทธิภาพของชดุ ฝกึ ทักษะการบรรเลงระนาดเอกและ วดี ิทัศน์เพ่อื การฝกึ ในการทดลองคร้ังที่ 2 คะแนนการประเมนิ คะแนนการทดสอบ ชุดฝกึ ทกั ษะ ทักษะการบรรเลงระนาดเอก วัดผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นหลงั เรียน ประสทิ ธิภาพ การบรรเลงระนาดเอก คะแนนเต็ม คะแนนเฉล่ยี E1 คะแนนเตม็ คะแนนเฉลยี่ E2 E1 / E2 และวีดทิ ศั น์เพอื่ การฝึก (M) ( Y ) (A) ( X 2) 328 251.77 76.76 30 22.66 75.53 76.76/75.53 จากตารางที่ 1 ผลการหาแนวโนม้ ประสทิ ธิภาพของชุดฝึกทักษะการบรรเลง ระนาดเอกและวีดิทัศน์เพ่ือการฝึก ในการทดลองคร้ังที่ 2 พบว่า โดยรวมชุดฝึกทักษะการบรรเลง ระนาดเอกและวีดิทัศน์เพื่อการฝึกมีค่าประสิทธิภาพ E1 / E2 เท่ากับ 76.76/75.53 สำหรับปัญหาท่ีพบ และสิง่ ท่ีต้องปรับปรุง ได้แก่ มีคำที่พิมพ์ผิดบ้างเล็กน้อย และข้อความในเน้ือหาบางประเด็นไม่ชัดเจน ภาพประกอบกับเนือ้ หาไมส่ ัมพนั ธ์กนั ผูร้ ายงานไดร้ วบรวมขอ้ บกพรอ่ งต่าง ๆ ทีพ่ บ แล้วนำมาปรับปรุง แก้ไขให้ถูกต้องสมบูรณ์ เหมาะสม และชัดเจน โดยการแก้ไขคำที่พิมพ์ผิด และแก้ไขเพ่ิมเติม ขอ้ ความในชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดิทัศน์เพื่อการฝึกให้สมบูรณ์และถูกต้อง เพ่ือให้ เหมาะสมกับระดับความสามารถในการเรียนรู้ของนักเรียน และเพ่ือให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ ประสิทธภิ าพ 80/80 หลงั จากแก้ไขปรับปรุงเรียบรอ้ ยแลว้ จงึ นำไปทดลองในการทดลองครง้ั ที่ 3

6 3) การทดลองคร้ังที่ 3 เปน็ การหาประสทิ ธิภาพภาคสนามกับนกั เรยี น 18 คน ผู้รายงานนำชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดิทัศน์เพื่อการฝึก ท่ีได้ปรับปรุงแก้ไขตาม ขั้นตอนการหาประสิทธิภาพเป็นรายบุคคลและการหาประสิทธิภาพเป็นกลุ่มเล็กแล้ว ไปทดลองกับ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6/3 โรงเรียนบางขุนเทียนศึกษา โดยให้นักเรียนเร่ิมทำแบบทดสอบ วัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน แล้วจึงเริ่มศึกษาเรียนรู้และปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ตาม เนื้อหาของชดุ ฝึกทักษะและวีดทิ ัศน์ ในขณะที่ศึกษาเรียนรู้เนื้อหาสาระและปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้ นกั เรียนปฏิบัติกจิ กรรมการเรยี นรู้ฝกึ ทักษะการบรรเลงระนาดเอกควบคู่ไปด้วย เมื่อนักเรยี นศึกษาเรียนรู้ และปฏิบัตกิ ิจกรรมการเรยี นรู้จบเนอ้ื หาแลว้ นักเรยี นทำแบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี นหลังเรยี น เสร็จแล้วนำคะแนนเฉลี่ยร้อยละของนักเรียนทั้งหมดท่ีได้จากการประเมินทักษะการบรรเลงระนาดเอก และคะแนนเฉลี่ยร้อยละของนักเรยี นท้งั หมดท่ีไดจ้ ากการทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นหลังเรียน มาหาประสิทธิภาพของชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดิทัศน์เพ่ือการฝึก โดยใช้เกณฑ์ ประสทิ ธภิ าพ E1 / E2 ซึ่งผลการทดลองแสดงดงั ตารางท่ี 2 ตารางท่ี 2 ผลการหาแนวโนม้ ประสทิ ธภิ าพของชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและ วดี ิทัศน์เพ่ือการฝึก ในการทดลองครั้งท่ี 3 คะแนนการประเมิน คะแนนการทดสอบ ท่ี พืน้ ฐานการบรรเลง ทกั ษะการบรรเลงระนาดเอก วดั ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี นหลังเรียน ประสทิ ธิภาพ ระนาดเอก คะแนนเตม็ คะแนนเฉลีย่ E1 คะแนนเต็ม คะแนนเฉล่ยี E2 E1 / E2 (M) ( Y ) (A) ( X 2) 1 ทกั ษะการเตรยี ม 72 58.89 81.79 ความพรอ้ มกอ่ น การบรรเลงระนาดเอก 2 ทกั ษะพ้ืนฐาน 200 161.06 80.53 30 24.14 80.47 80.92/80.47 การบรรเลงระนาดเอก 3 ทักษะการบรรเลง 56 45.05 80.45 ระนาดเอก โดยรวม 328 265.42 80.92 30 24.14 80.47 80.92/80.47 จากตารางที่ 2 ผลการหาแนวโน้มประสิทธิภาพของชุดฝึกทักษะ การบรรเลงระนาดเอกและวีดิทัศน์เพ่ือการฝึก ในการทดลองคร้ังท่ี 3 พบว่า โดยรวมชุดฝึกทักษะ การบรรเลงระนาดเอกและวีดิทัศน์เพื่อการฝึก มีค่าประสิทธิภาพ E1 / E2 เท่ากับ 80.92/80.47 ซ่ึงค่าประสิทธิภาพท่ีวิเคราะห์ได้มีค่าตามเกณฑ์ประสิทธิภาพท่ีกำหนดไว้ คือ 80 / 80 แสดงว่า การพัฒนาความร้คู วามสามารถและทักษะการบรรเลงระนาดเอก ของนกั เรยี นชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 6 โดยใช้ชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดิทัศน์เพื่อการฝึก มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ ประสิทธิภาพ 80 / 80 และสามารถนำไปใช้กับกลมุ่ ตัวอย่างตอ่ ไป

7 2. การสร้างและตรวจสอบคุณภาพของแผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง พนื้ ฐานการบรรเลง ระนาดเอก กลมุ่ สาระการเรียนร้ศู ลิ ปะ (สาระดนตร)ี ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 6 2.1 ศึกษาหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ โรงเรียนบางขุนเทียนศึกษา พุทธศักราช 2563 ความรู้เก่ียวกับการจัดการเรียนรู้ดนตรี เน้ือหาสาระของชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอก และวดี ทิ ศั นเ์ พ่อื การฝกึ และเอกสารเสริมความร้ตู ่าง ๆ ที่เก่ียวข้อง 2.2 ศึกษาทฤษฎี หลกั การ และวธิ ีการเขยี นแผนการจัดการเรยี นรู้ 2.3 ศึกษาคำอธิบายรายวิชาของหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (สาระดนตรี) โรงเรียนบางขนุ เทียนศึกษา พุทธศกั ราช 2563 2.4 วเิ คราะหม์ าตรฐานการเรียนรู้ และตวั ชี้วัด แล้วกำหนดจุดประสงค์การเรียนรู้และ สาระการเรียนรู้ 2.5 กำหนดโครงสรา้ งและเน้ือหาของแผนการจัดการเรยี นรู้ เพ่ือนำมาจดั ทำแผนการจัด การเรยี นรู้ เรื่อง พ้นื ฐานการบรรเลงระนาดเอก กลุ่มสาระการเรียนรู้ศลิ ปะ (สาระดนตร)ี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยเรยี งหัวขอ้ ดังต่อไปนี้ 1) มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชี้วัด 2) สาระสำคัญ 3) จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 4) สาระการเรียนรู้ 5) คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์และคุณธรรมจรยิ ธรรม 6) กิจกรรมการเรยี นการสอน 7) สื่อการเรยี นการสอน 8) กระบวนการวดั และประเมินผล 9) บนั ทกึ หลังการจัดการเรยี นรู้ 10) ผลการตรวจแผนการจดั การเรียนรู้ 11) ขอ้ เสนอแนะของผบู้ รหิ ารสถานศึกษา 12) ภาคผนวก 2.6 เขียนแผนการจดั การเรยี นรู้ จำนวน 10 แผน 2.7 นำแผนการจัดการเรียนรู้ไปให้ผู้เช่ียวชาญด้านดนตรีและด้านการเขียน แผนการจัดการเรียนรู้ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านเนื้อหาดนตรีและการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 5 คน และผู้เช่ียวชาญด้านการวัดผล วิจัยการศึกษา ที่จบการศึกษาระดับปริญญาโท มีความเช่ียวชาญในด้านการสร้างและพัฒนาเคร่ืองมือที่ใช้ในการวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน จำนวน 2 คน รวมผู้เช่ียวชาญจำนวน 7 คน ประเมินตรวจสอบคุณภาพของแผนการจัดการเรียนรู้ เพื่อตรวจสอบความเที่ยงตรงตามเนื้อหาและโครงสร้างของแผนการจัดการเรียนรู้ ว่าเนื้อหา ในแผนการจัดการเรียนรู้ท่ีใช้ในการพัฒนาผลสัมฤทธิท์ างการเรยี น เร่อื ง พ้ืนฐานการบรรเลงระนาดเอก ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ถูกต้อง สอดคล้อง และครอบคลุมตามหลักวิชาการหรือไม่ แลว้ คำนวณหาค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC : Index of Item Object Congruence)

8 2.8 นำคะแนนท่ีได้จากการประเมินตรวจสอบความเที่ยงตรงตามเน้ือหาและโครงสร้าง ของแผนการจัดการเรียนรู้ มาคำนวณหาค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) แล้วคัดเลือกประเด็น ข้อคำถามท่ีมีค่า IOC มากกว่า 0.5 ขึ้นไป สามารถใช้ได้ โดยผลการประเมินค่าดัชนีความสอดคล้อง พิจารณาของผู้เช่ียวชาญ พบว่า ประเด็นข้อคำถาม จำนวน 44 ข้อ โดยรวมมีค่า IOC เท่ากับ 0.98 สามารถใช้ได้ และเมื่อพิจารณารายข้อคำถาม พบว่า มีค่า IOC อยู่ระหว่าง 0.86-1 ผู้รายงานนำ ข้อที่ผู้เช่ียวชาญเสนอแนะไปปรับปรุงแผนการจัดการเรียนรู้ใหม่ โดยปรับปรงุ แก้ไขเน้ือหาให้ถูกต้อง และชัดเจนข้ึน โดยให้ครอบคลุมหลักสูตรและสอดคล้องกันทุกข้ันตอน ให้มีเน้ือหาและกิจกรรมท่ี หลากหลายเหมาะสมกับวัยและระดับความรู้ของนักเรียน แก้ไขเนื้อหาให้ถูกต้องและเหมาะสม ยิ่งขึ้น รวมท้ังปรับภาษาทใ่ี ช้ใหม้ ีความถกู ตอ้ งตามหลกั เกณฑ์การใชภ้ าษาย่ิงขึ้น 2.9 นำแผนการจัดการเรียนรู้ไปทดลองสอนกับนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรยี นบางขุนเทียนศกึ ษา จำนวน 30 คน พบว่า กจิ กรรมการเรียนการสอนสนุก นกั เรยี นมีสว่ นร่วม ในการศึกษาเรียนรู้และปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรรู้ ่วมกับเพ่ือน แต่เวลาในการทำกิจกรรมการเรียนรู้ น้อยเกินไป กิจกรรมท่ีให้นักเรียนปฏิบัติในช่ัวโมงเรียนมีมาก นักเรียนปฏิบัติไม่ทัน ต้องให้นักเรียน มาศึกษาเรียนรู้และปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้นอกเวลาเรียน เนื้อหาที่นำมาสอนในหนึ่งชั่วโมงมาก ผรู้ ายงานนำข้อบกพร่องจากการทดลองสอนมาปรับปรุงแก้ไขจนเปน็ แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่เหมาะสม ยงิ่ ขน้ึ ก่อนนำไปทดลองสอนจริงกบั กล่มุ ตวั อย่างตอ่ ไป 3. การสร้างและตรวจสอบคุณภาพของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน เรื่อง พนื้ ฐานการบรรเลงระนาดเอก กลมุ่ สาระการเรียนรศู้ ิลปะ (สาระดนตร)ี ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน เรื่อง พ้ืนฐานการบรรเลง ระนาดเอก กลุ่มสาระการเรียนร้ศู ิลปะ (สาระดนตรี) ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 6 จำนวน 1 ฉบบั ที่ผรู้ ายงาน สร้างขน้ึ มขี อ้ สอบจำนวน 30 ข้อ โดยมีขน้ั ตอนการดำเนินการดงั น้ี 3.1 ศึกษาหลักสูตร คู่มือการจัดการเรียนรู้ คู่มือการวัดและประเมินผล แบบเรียนสาระการเรียนรู้ดนตรี ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6 ตามหลักสูตรสถานศึกษาและหลักสูตร กลุ่มสาระการเรยี นรศู้ ิลปะ โรงเรียนบางขนุ เทียนศกึ ษา พุทธศกั ราช 2563 3.2 ศกึ ษาทฤษฎี หลกั การ และวิธีการสร้างแบบทดสอบ 3.3 วิเคราะห์หลักสูตร มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด และสาระการเรียนรู้ดนตรี กลมุ่ สาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 3.4 สรา้ งแบบทดสอบให้ครอบคลุมเนอื้ หาสาระการเรียนรู้ 3.5 นำแบบทดสอบที่ผรู้ ายงานสร้างและตรวจสอบแก้ไขข้อบกพร่องเบือ้ งต้นแล้ว ไปให้ผู้เช่ียวชาญจำนวน 7 คน ตรวจสอบความเที่ยงตรงตามเน้ือหาและโครงสร้าง เพ่ือตัดสินว่า แบบทดสอบที่สร้างขึ้นน้ัน วัดได้ตรงตามจุดประสงค์การเรียนรู้หรือไม่ ซึ่งผู้เช่ียวชาญจำนวน 7 คน เป็นผู้ที่มีความรู้ในเนื้อหาดนตรี จำนวน 5 คน และเป็นผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับการวัดผล วิจัยการศึกษา ที่จบการศึกษาระดับปริญญาโท จำนวน 2 คน รวมผู้เชี่ยวชาญจำนวน 7 คน แล้วคำนวณหาค่า ดัชนคี วามสอดคลอ้ ง (IOC : Index of Item Object Congruence)

9 3.6 ผู้รายงานคัดเลือกข้อสอบที่มีความเท่ียงตรงตามเน้ือหาและโครงสร้างผ่าน เกณฑ์ ซ่ึงในการพิจารณาค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC : Index of Item Object Congruence) ของข้อสอบกับจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ มีเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดังน้ี ให้ +1 คะแนน เมือ่ แนใ่ จวา่ ขอ้ สอบนนั้ วดั ได้ตรงตามจุดประสงค์การเรียนรู้ ให้ 0 คะแนน เมอ่ื ไม่แน่ใจว่าขอ้ สอบนน้ั วดั ได้ตรงตามจุดประสงค์การเรียนรู้ ให้ -1 คะแนน เม่ือแนใ่ จว่าขอ้ สอบนน้ั วดั ไม่ตรงตามจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ โดยนำคะแนนทีไ่ ดจ้ ากการตรวจสอบความเท่ียงตรงตามเน้ือหาและโครงสรา้ ง มาคำนวณหาค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่างจุดประสงค์การเรียนรู้กับข้อสอบ (IOC) แล้วคัดเลือก ข้อสอบท่ีมีค่า IOC มากกว่า 0.5 ข้ึนไป และนำข้อเสนอแนะมาปรับปรุงแก้ไข โดยผลการพิจารณา ตรวจสอบของผู้เชี่ยวชาญ พบว่า แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน เร่อื ง พ้นื ฐานการบรรเลงระนาดเอก มีขอ้ สอบจำนวน 30 ขอ้ มคี ่า IOC มากกว่า 0.5 ทกุ ข้อ 3.7 นำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนท่ีปรับปรุงแก้ไขแล้วไปทดลองใช้ กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/3 จำนวน 40 คน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียน บางขนุ เทียนศึกษา 3.8 นำผลการทดสอบมาวิเคราะห์หาค่าความยากง่ายและค่าอำนาจจำแนก ของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเป็นรายข้อ โดยใช้เทคนิคตัดกลุ่ม 27% ในการแบ่ง กลุ่มสูง กลุ่มต่ำ แล้วเปิดตารางสำเร็จของจุงเตฟาน เลือกข้อสอบที่มีค่าความยากง่าย (p) อยู่ระหว่าง 0.20-0.80 และมีค่าอำนาจจำแนก (r) ต้ังแต่ 0.20 ขึ้นไป แล้วนำมาหาค่าความเช่ือม่ัน ของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยวิธีของคูเดอร์-ริชาร์ดสัน โดยใช้สูตร KR-20 ซ่ึงผลการวิเคราะห์ พบว่า แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน เรื่อง พนื้ ฐานการบรรเลงระนาดเอก มีขอ้ สอบท่ีคัดเลือกไว้ จำนวน 30 ขอ้ มคี ่าความยากง่าย (p) อยู่ระหว่าง 0.32-0.75 มีค่าอำนาจจำแนก (r) อยู่ระหวา่ ง 0.36-0.64 และมคี ่าความเช่ือมน่ั เทา่ กบั 0.85 4. การสรา้ งและตรวจสอบคุณภาพของเคร่ืองมือประเมินทกั ษะการบรรเลงระนาดเอก ผู้รายงานดำเนนิ การสร้างเครือ่ งมอื ประเมนิ ทักษะการบรรเลงระนาดเอก สำหรับใช้สงั เกต และประเมินทักษะการบรรเลงระนาดเอกของนักเรียนในแต่ละทักษะการบรรเลงระนาดเอกของชุดฝึก ทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวดี ิทศั น์เพ่ือการฝกึ โดยมีขนั้ ตอนการดำเนินการดังน้ี 4.1 ศึกษาเอกสาร ตำรา และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องการสร้างเครื่องมือประเมิน ทักษะการบรรเลงระนาดเอก 4.2 ศกึ ษาขอบเขตของเน้อื หา เพื่อกำหนดส่ิงท่ีต้องการประเมนิ 4.3 สร้างเคร่ืองมือประเมินทกั ษะการบรรเลงระนาดเอก ดงั น้ี 1) แบบประเมินทกั ษะการเตรยี มความพรอ้ มก่อนการบรรเลงระนาดเอก 2) แบบประเมินทกั ษะพน้ื ฐานการบรรเลงระนาดเอก 3) แบบประเมินทักษะการบรรเลงระนาดเอก เพลงแขกบรเทศ สองชน้ั 4) คู่มือดำเนนิ การประเมินและการใช้แบบประเมนิ ทักษะการบรรเลงระนาดเอก 5) เกณฑ์การให้คะแนนทักษะการบรรเลงระนาดเอก

10 4.4 นำเคร่ืองมือประเมินทักษะการบรรเลงระนาดเอกท่ีสร้างขึ้นเสนอผู้เช่ียวชาญ จำนวน 7 คน ตรวจสอบความเท่ยี งตรงตามเนื้อหา 4.5 ปรับปรุงแก้ไขเคร่ืองมือประเมินทักษะการบรรเลงระนาดเอกตามคำแนะนำ ของผู้เชี่ยวชาญ แล้วนำไปทดลองใช้ (Try out) กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/3 โรงเรียน บางขุนเทียนศึกษา จำนวน 40 คน โดยครูผู้สอนดนตรีไทย จำนวน 1 คน และผู้รายงานร่วมกัน ประเมินนักเรียนคนเดียวกัน แล้วนำมาหาค่าความเชื่อมั่น โดยใช้สูตรสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ แบบเพียร์สัน (Pearson Product Moment Correlation Coefficient) ซ่ึงผลการวิเคราะห์พบว่า มีค่าความเชื่อมน่ั เท่ากบั 0.81 5. การสร้างและตรวจสอบคณุ ภาพของแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนท่ีมีต่อ การใช้ชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดิทัศน์เพื่อการฝึก กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (สาระดนตรี) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ขน้ั ตอนการดำเนินการสร้างมีดงั น้ี 5.1 พิจารณาโครงสรา้ งของรายการที่ต้องการสอบถามความพงึ พอใจที่มีตอ่ การใช้ ชดุ ฝกึ ทกั ษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดิทัศนเ์ พอ่ื การฝกึ 5.2 ดำเนินการสร้างแบบสอบถามความพึงพอใจทมี่ ีต่อการใช้ชดุ ฝกึ ทักษะการบรรเลง ระนาดเอกและวีดทิ ัศนเ์ พ่ือการฝกึ 5.3 นำแบบสอบถามความพึงพอใจท่ีมีต่อการใช้ชดุ ฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอก และวีดิทัศนเ์ พื่อการฝกึ ไปใหผ้ เู้ ชีย่ วชาญจำนวน 7 คน ตรวจสอบความเที่ยงตรงเชิงพนิ ิจ เพือ่ ตดั สินวา่ ข้อคำถามแต่ละข้อวัดได้ตรงและสอดคล้องกับความพึงพอใจที่มีต่อการใช้ชุดฝึกทักษะการบรรเลง ระนาดเอกและวีดิทัศน์เพื่อการฝึกหรือไม่ ซึ่งผู้เช่ียวชาญจำนวน 7 คน เป็นผู้ท่ีมีความรู้ในเนื้อหา ดนตรี จำนวน 5 คน และเป็นผู้ที่มีความรู้เก่ียวกับการวัดผล วิจัยการศึกษา จบการศึกษาระดับ ปริญญาโท จำนวน 2 คน รวมผู้เช่ียวชาญจำนวน 7 คน แล้วคำนวณหาค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC : Index of Item Object Congruence) 5.4 ผู้รายงานคัดเลือกและปรับปรุงแบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อการใช้ ชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดิทัศน์เพื่อการฝึก โดยนำคะแนนที่ได้จากการตรวจสอบ ความเท่ียงตรงเชิงพินิจ มาคำนวณหาค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) แล้วคัดเลือกข้อคำถามท่ีมี ค่า IOC มากกว่า 0.5 ขนึ้ ไป 5.5 นำแบบสอบถามความพงึ พอใจท่ีมตี ่อการใช้ชดุ ฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอก และวีดิทศั น์เพ่อื การฝึก ท่แี ก้ไขปรบั ปรุงตามคำแนะนำของผู้เช่ียวชาญแลว้ ไปทดลองใช้ (Try out) กบั นกั เรยี นช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6/3 และ 6/5 โรงเรียนบางขุนเทียนศกึ ษา ท่ีผา่ นการใช้ชดุ ฝึกทักษะ การบรรเลงระนาดเอกและวีดิทัศน์เพ่ือการฝึก แล้ว จากนั้นนำมาตรวจให้คะแนน เพื่อวิเคราะห์หา ค่าอำนาจจำแนกรายข้อ โดยใช้สูตรสัมประสิทธ์ิสหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน (Pearson Product Moment Correlation Coefficient) และคัดเลือกข้อคำถามท่ีมีค่าอำนาจจำแนกต้ังแต่ 0.20 ข้ึนไป และ นำคะแนนมาวิเคราะห์เพื่อหาค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามทั้งฉบับ โดยใช้สูตรสัมประสิทธ์ิแอลฟา ( - Coefficient) ของ ครอนบัค (Cronbach) โดยรายละเอียดผลการหาคุณภาพแบบสอบถาม

11 พบว่า แบบสอบถามความพึงพอใจท่ีมีต่อการใช้ชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดิทัศน์ เพือ่ การฝกึ จำนวน 21 ข้อ มคี า่ อำนาจจำแนก (r) ตง้ั แต่ 0.49-0.72 และมคี า่ ความเชือ่ ม่ันเทา่ กบั 0.88 วธิ ีใช้ส่ือนวัตกรรมทางการศกึ ษา 1. คำแนะนำการใชส้ ำหรบั ครู 1.1 กอ่ นการใชช้ ุดฝกึ ทกั ษะการบรรเลงระนาดเอกและวดี ิทัศน์เพื่อการฝกึ กลุ่มสาระ การเรียนรู้ศิลปะ (สาระดนตรี) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ควรศึกษารายละเอียดของส่วนประกอบ ภายในชุดฝกึ ทักษะจากคู่มือการผลิตใหเ้ ข้าใจ 1.2 ศกึ ษาแนวทางการจดั กิจกรรมการเรยี นการสอน มาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ช้ีวดั ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ คุณลักษณะอันพึงประสงค์และ คุณธรรมจริยธรรม กิจกรรมการเรยี นการสอน ส่ือการเรียนการสอน กระบวนการวดั และประเมินผล ใหเ้ ข้าใจอยา่ งชัดเจน 1.3 ตรวจสอบและจัดเตรียมระนาดเอกและเคร่ืองดนตรีไทยประเภทเครื่องตี วัสดุ อุปกรณ์ สื่อการเรียนการสอน เคร่ืองมือการวัดและประเมินผล ท่ีกำหนดไว้ให้อยู่ในสภาพที่พร้อม ใชง้ านได้ 1.4 ก่อนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ครูชี้แจงบทบาทและหน้าท่ีของนักเรียน และกำหนดข้อตกลงการเรียนการสอนรว่ มกัน 1.5 นักเรียนทำแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธิท์ างการเรยี นกอ่ นเรียน เรื่อง พ้ืนฐานการบรรเลง ระนาดเอก เพอ่ื วัดความรูพ้ นื้ ฐาน จำนวน 30 ข้อ ลงในกระดาษคำตอบกอ่ นเรยี น 1.6 ขณะปฏบิ ตั ิกิจกรรมการเรียนรู้ ครูเปน็ ทป่ี รึกษาใหค้ ำแนะนำนักเรียนท่ีมีปญั หา 1.7 ครูสังเกตและประเมินผลการเรียนรู้ของนักเรียนอย่างใกล้ชิดในขณะนักเรียน ศกึ ษาเรียนรูแ้ ละปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อประเมินผลการใช้ชุดฝกึ ทักษะการบรรเลงระนาดเอก และวดี ิทัศนเ์ พ่อื การฝกึ 1.8 หลังจากเสร็จสิ้นการศึกษาเรียนรู้เนื้อหาสาระและปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ ในแต่ละเร่ืองแล้ว นักเรียนทบทวนเนื้อหาและฝึกบรรเลงระนาดเอกซ้ำ ๆ ในแบบฝึกทักษะพ้ืนฐาน การบรรเลงระนาดเอกแต่ละกิจกรรมการเรียนรู้หลาย ๆ ครัง้ 1.9 ถ้านักเรียนคนใดสามารถเรียนชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดิทัศน์ เพอ่ื การฝึกจบเร็วกวา่ นักเรยี นคนอน่ื ๆ ใหค้ รสู งั เกตและประเมินผลเป็นราย ๆ ไป 1.10 เมื่อเรียนจบชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดิทัศน์เพ่ือการฝึก แล้ว นักเรียนทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนหลังเรียน เร่ือง พื้นฐานการบรรเลงระนาดเอก จำนวน 30 ข้อ เพ่ือวัดความรู้ความสามารถ แล้วนำผลการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนมา เปรียบเทียบความแตกตา่ งของค่าคะแนนเฉล่ียก่อนเรยี นและหลังเรียน เพ่ือทราบผลการพฒั นา

12 2. คำแนะนำการใชส้ ำหรับนักเรียน ในการศึกษาชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวดี ิทัศน์เพื่อการฝกึ ชุดนี้ อย่างมี ประสิทธิภาพ นักเรียนปฏบิ ัตดิ ังนี้ 2.1 ศึกษาวัตถุประสงค์การใช้ คำแนะนำการใช้ รายละเอียดของชุดฝึกทักษะและ วดี ิทัศน์เพ่ือการฝกึ มาตรฐานการเรยี นรู้ ตัวชว้ี ัด และผลการเรยี นรู้ สาระสำคญั จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ และสาระการเรยี นรู้ เพ่อื ใหร้ แู้ ละเขา้ ใจการศกึ ษาเรยี นรแู้ ละปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้อยา่ งชดั เจน 2.2 ตรวจสอบและจัดเตรียมระนาดเอกและเคร่ืองดนตรีไทยประเภทเครื่องตี วัสดุ อปุ กรณ์ สอ่ื การเรยี นการสอนใหอ้ ยู่ในสภาพท่ีพร้อมใช้งานได้ 2.3 ทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนก่อนเรียน เรื่อง พื้นฐานการบรรเลง ระนาดเอก เพอื่ วัดความรพู้ ื้นฐาน จำนวน 30 ข้อ ลงในกระดาษคำตอบก่อนเรยี น 2.4 ตรวจคำตอบแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน เร่ือง พื้นฐาน การบรรเลงระนาดเอก จากเฉลยในภาคผนวก เพอื่ ตรวจสอบและทราบความรพู้ นื้ ฐานกอ่ นเรียนของ ตนเอง 2.5 ศกึ ษารายละเอยี ดของชุดฝกึ ทกั ษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดิทศั น์เพ่ือการฝกึ 2.6 ศึกษาวิธีการและข้ันตอนการปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ให้เข้าใจ ถ้าไม่เข้าใจ ใหป้ รึกษาครูหรือเพ่ือนที่ปฏบิ ตั กิ ิจกรรมการเรียนรู้ได้แลว้ 2.7 ศึกษาเรียนรู้เน้ือหาสาระและฝึกกิจกรรมฝึกบรรเลงระนาดเอกจากชุดฝึกทักษะ และวีดิทัศน์เพอ่ื การฝกึ เรือ่ ง พ้ืนฐานการบรรเลงระนาดเอก เรื่องท่ี 1 – 4 2.8 ดูวีดิทัศน์เพื่อการฝึก และฝึกบรรเลงระนาดเอกในเรื่องแบบฝึกทักษะพื้นฐาน การบรรเลงระนาดเอก และเพลงพนื้ ฐานสำหรบั บรรเลงระนาดเอก แล้วปฏบิ ตั ติ าม 2.9 อ่านเนื้อหาสาระและโน้ตไทยสำหรับระนาดเอก พร้อมกับดูภาพและฟังเสียง ประกอบคำบรรยายจากวีดิทัศนเ์ พื่อการฝกึ 2.10 ฝึกทักษะพื้นฐานการบรรเลงระนาดเอกและฝึกบรรเลงระนาดเอกเพลงแขกบรเทศ สองช้ัน และเพลงแขกบรเทศ สองช้ัน และเพลงคลื่นกระทบฝ่ัง สองชั้น ตามขั้นตอนกิจกรรม การเรยี นรู้ท่กี ำหนดไว้ 2.11 แต่ละแบบฝึกทักษะพ้ืนฐานการบรรเลงระนาดเอก เพลงแขกบรเทศ สองช้ัน และเพลงคลื่นกระทบฝ่ัง สองช้ัน แต่ละวรรค จะมีเนื้อหาสาระและโน้ตไทยสำหรับระนาดเอก ตามภาพและเสยี งประกอบคำบรรยายในวีดิทัศน์เพอ่ื การฝกึ 2.12 ฝึกทักษะพ้ืนฐานการบรรเลงระนาดเอกตามแบบฝกึ ทักษะและฝึกบรรเลงระนาดเอก เพลงแขกบรเทศ สองชั้น และเพลงคลืน่ กระทบฝัง่ สองช้ัน ตามเพลงในวีดทิ ัศน์เพอ่ื การฝกึ 2.13 ฝึกทักษะพ้ืนฐานการบรรเลงระนาดเอกและฝึกบรรเลงระนาดเอกเพลงแขกบรเทศ สองช้นั และเพลงคลืน่ กระทบฝ่ัง สองชนั้ ด้วยตนเอง โดยไม่ใช้วดี ิทศั น์เพือ่ การฝกึ 2.14 ถ้ายังฝึกบรรเลงระนาดเอกตามแบบฝึกทักษะและฝึกบรรเลงระนาดเอกเพลง แขกบรเทศ สองช้ัน และเพลงคล่ืนกระทบฝั่ง สองชั้น ไม่ได้ อย่าข้ามไปศึกษาเรียนรู้และปฏิบัติ กจิ กรรมการเรียนรู้อื่น ให้ฝึกปฏบิ ตั ิจนเกดิ เปน็ ทกั ษะพ้ืนฐานการบรรเลงระนาดเอกตามคำบรรยาย 2.15 รกั ษาเวลาในการปฏบิ ัติกจิ กรรมการเรยี นรู้ และปฏิบตั กิ ิจกรรมตามทค่ี รูกำกับดแู ล

13 2.16 เมื่อศึกษาเรียนรู้และปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้เสร็จส้ินเรียบร้อยแล้ว นักเรียน ทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนหลังเรียน เร่ือง พื้นฐานการบรรเลงระนาดเอก จำนวน 30 ขอ้ ลงในกระดาษคำตอบ 2.17 ตรวจคำตอบแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน เร่ือง พื้นฐาน การบรรเลงระนาดเอก จากเฉลยในภาคผนวก เพอ่ื ตรวจสอบความกา้ วหน้าของตนเอง 2.18 หลังจากศึกษาเรียนรู้และปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้เสร็จส้ินเรียบร้อยแล้ว ต้อง ดูแลเก็บรักษาและทำความสะอาดระนาดเอก เคร่ืองดนตรีไทยประเภทเคร่ืองตีอื่น ๆ และวัสดุ อุปกรณ์การเรียน รวมทัง้ ดูแลรักษาความสะอาดหอ้ งดนตรีไทยให้สะอาดเรียบร้อยทุกครง้ั 2.19 นกั เรยี นทด่ี ี จะตอ้ งซ่ือสัตยต์ ่อตนเองเสมอ โดยไม่ดคู ำตอบล่วงหน้า การดำเนินการทดลอง ผู้รายงานดำเนินการทดลองใช้ชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดิทัศน์เพื่อการฝึก กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (สาระดนตรี) ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6 ในภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 10 ชัว่ โมง ระหวา่ งวันท่ี 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 ถึงวันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2563 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1 เร่ือง ความรู้พ้ืนฐานเก่ียวกับระนาดเอก (1) ดำเนินการ วนั ท่ี 13 - 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 จำนวน 1 ช่วั โมง แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2 เร่ือง ความรู้พ้ืนฐานเกี่ยวกับระนาดเอก (2) ดำเนินการ วันที่ 20 - 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 จำนวน 1 ชว่ั โมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 เร่ือง โน้ตไทยสำหรับระนาดเอก ดำเนินการวันที่ 29 - 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 จำนวน 1 ชวั่ โมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง แบบฝึกทักษะพ้ืนฐานการบรรเลงระนาดเอก (1) ดำเนนิ การวันที่ 2 - 7 สงิ หาคม พ.ศ. 2563 จำนวน 1 ช่ัวโมง แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 5 เร่ือง แบบฝึกทักษะพ้ืนฐานการบรรเลงระนาดเอก (2) ดำเนินการวันที่ 10 - 14 สงิ หาคม พ.ศ. 2563 จำนวน 1 ช่ัวโมง แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 6 เร่ือง แบบฝึกทักษะพ้ืนฐานการบรรเลงระนาดเอก (3) ดำเนินการวนั ท่ี 17 - 21 สิงหาคม พ.ศ. 2563 จำนวน 1 ชว่ั โมง แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 7 เร่ือง บรรเลงระนาดเอก เพลงแขกบรเทศ สองชั้น (1) ดำเนินการวนั ท่ี 24 - 28 สงิ หาคม พ.ศ. 2563 จำนวน 1 ชัว่ โมง แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 8 เรื่อง บรรเลงระนาดเอก เพลงแขกบรเทศ สองชั้น (2) ดำเนนิ การวนั ที่ 31 สงิ หาคม - 4 กนั ยายน พ.ศ. 2563 จำนวน 1 ช่วั โมง แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 9 เรื่อง บรรเลงระนาดเอก เพลงแขกบรเทศ สองช้ัน (3) ดำเนินการวนั ท่ี 7 - 11 กนั ยายน พ.ศ. 2563 จำนวน 1 ชัว่ โมง

14 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10 เรื่อง การประเมินทักษะการบรรเลงระนาดเอก ดำเนนิ การวันท่ี 14 - 18 กันยายน พ.ศ. 2563 จำนวน 1 ชัว่ โมง การเก็บรวบรวมขอ้ มูล 1. ดำเนินการสอนตามแผนการจัดการเรียนรู้ เร่ือง พื้นฐานการบรรเลงระนาดเอก กลุม่ สาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ (สาระดนตรี) ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 6 2. ก่อนเริ่มดำเนนิ การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้ชดุ ฝึกทกั ษะการบรรเลงระนาดเอก และวีดิทศั น์เพือ่ การฝกึ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (สาระดนตรี) ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 6 ผู้รายงาน นำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน เร่ือง พ้ืนฐานการบรรเลงระนาดเอก ไปทดสอบ นกั เรียนทเี่ ป็นกล่มุ ตัวอย่าง 3. ดำเนินการทดสอบพื้นฐานความรู้ก่อนเรียนชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและ วีดทิ ศั นเ์ พอื่ การฝึก พรอ้ มทง้ั ดำเนินการตรวจให้คะแนนและบนั ทึกคะแนนเกบ็ ไวเ้ ป็นหลักฐาน 4. ดำเนินการทดลองใช้ชดุ ฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดิทัศน์เพ่ือการฝึกกับนกั เรยี น ช้ันประถมศึกษาปีที่ 6 ที่เป็นกลุ่มตัวอย่าง โดยผู้รายงานเป็นผู้ดำเนินการด้วยตนเอง ใช้ระยะเวลา ท้งั สิ้นจำนวน 10 ชัว่ โมง 5. ขณะดำเนนิ การจัดกิจกรรมการเรยี นการสอนโดยใช้ชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอก และวีดิทัศน์เพื่อการฝึก นั้น ผู้รายงานให้นักเรียนปฏิบัติกิจกรรม พร้อมทั้งตรวจให้คะแนนและ บันทึกคะแนนเกบ็ ไว้เปน็ หลกั ฐาน 6. หลังจากเสร็จส้ินการดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้ชุดฝึกทักษะ การบรรเลงระนาดเอกและวีดิทัศน์เพื่อการฝึก แล้ว ผู้รายงานนำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนหลังเรียนไปทดสอบนักเรียน เพ่ือวัดผลการเรียนรู้ของนักเรียน พร้อมทั้งตรวจให้คะแนน และบนั ทึกคะแนนเกบ็ ไวเ้ ป็นหลักฐาน 7. เม่ือดำเนนิ การสอนเสรจ็ สิน้ แลว้ ผู้รายงานให้นกั เรียนตอบแบบสอบถามความพึงพอใจ ท่มี ตี อ่ การใช้ชดุ ฝึกทกั ษะการบรรเลงระนาดเอกและวดี ิทัศน์เพ่อื การฝึก 8. นำคะแนนที่ได้จากการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน มาเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างคะแนนการทดสอบก่อนเรียนกับหลังเรียน โดยใช้สถิติ การทดสอบ t-test

15 การวิเคราะห์ข้อมลู หลังจากดำเนินการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลเสรจ็ สิ้นแล้ว ผรู้ ายงานนำขอ้ มูลมาวิเคราะห์ดังนี้ 1. วิเคราะห์หาค่าประสิทธิภาพของชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดิทัศน์ เพ่ือการฝึก ตามเกณฑ์ประสิทธิภาพท่ีกำหนดไว้ คือ 80/80 โดยนำคะแนนท่ีได้จากการประเมิน ทักษะการบรรเลงระนาดเอกและจากการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน มาวิเคราะห์ หาค่าประสทิ ธิภาพโดยใชส้ ูตร E1 / E2 2. วิเคราะห์หาค่าสถิติพ้ืนฐานของคะแนนการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้ สถิติพื้นฐาน ได้แก่ คา่ เฉล่ยี และคา่ ความเบี่ยงเบนมาตรฐาน 3. วิเคราะห์เพ่ือเสนอผลการพัฒนา โดยเปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนก่อนเรียน และหลังเรียน โดยใช้สถิติการทดสอบ t-test แบบ Dependent และกำหนดระดับนัยสำคัญทางสถติ ิ ท่ีระดบั .05 เพอื่ ทดสอบสมมติฐาน 4. วิเคราะห์หาค่าสถิตพิ ้ืนฐานของขอ้ มูลจากแบบสอบถามความพงึ พอใจของนักเรียน ท่ีมีต่อการใช้ชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดิทัศน์เพื่อการฝึก โดยใช้สถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าเฉลี่ยและค่าความเบ่ยี งเบนมาตรฐาน คา่ เฉลี่ยท่ีไดจ้ ากการวเิ คราะห์ขอ้ มลู นำมาแปลความหมายตามเกณฑ์การประมาณคา่ แปลความหมายเปน็ 5 ระดบั ดังน้ี ค่าเฉลี่ยตง้ั แต่ 4.50-5.00 หมายถึง มคี วามพึงพอใจในระดับมากท่ีสดุ คา่ เฉล่ียตัง้ แต่ 3.50-4.49 หมายถึง มีความพงึ พอใจในระดับมาก ค่าเฉลยี่ ตง้ั แต่ 2.50-3.49 หมายถงึ มคี วามพงึ พอใจในระดบั ปานกลาง คา่ เฉล่ยี ต้งั แต่ 1.50-2.49 หมายถงึ มคี วามพึงพอใจในระดับน้อย คา่ เฉลี่ยตงั้ แต่ 1.00-1.49 หมายถึง มคี วามพึงพอใจในระดบั น้อยท่ีสุด เกณฑ์การแปลความหมายค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน คือ ค่าอยู่ระหว่าง 0-0.99 หมายถึง มคี วามพงึ พอใจในระดับใกล้เคียงกนั

16 ผลการพัฒนาและการใชส้ อื่ นวตั กรรมทางการศึกษา 1. สญั ลักษณ์ที่ใช้ในการนำเสนอผลการวิเคราะหข์ อ้ มลู เพ่ือความสะดวกและเหมาะสมในการนำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูล รวมทั้งการแปล ความหมายผลการวิเคราะหข์ ้อมูล ผู้รายงานขอกำหนดสัญลักษณ์ที่ใช้ในการนำเสนอผลการวิเคราะห์ ข้อมลู ดังต่อไปน้ี X แทน คา่ เฉล่ยี S.D. แทน คา่ ความเบยี่ งเบนมาตรฐาน X 1 แทน คะแนนเฉลีย่ จากการทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียน X 2 แทน ก่อนเรียน Y แทน คะแนนเฉลีย่ จากการทดสอบวัดผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี น M แทน หลังเรยี น G แทน คะแนนเฉลย่ี จากการประเมนิ ทักษะการบรรเลงระนาดเอก A แทน คะแนนเต็มของการประเมนิ ทกั ษะการบรรเลงระนาดเอก คะแนนเต็มของการทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียน E1 แทน กอ่ นเรยี นและหลงั เรยี น คะแนนเต็มของการทดสอบวดั ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี น E2 แทน หลงั เรียน คะแนนเฉลยี่ รอ้ ยละของนักเรียนทุกคนระหว่าง t แทน กระบวนการจดั การเรยี นรทู้ ่ีได้จากการประเมนิ ทกั ษะ p แทน พ้ืนฐานการบรรเลงระนาดเอก * แทน คะแนนเฉลย่ี รอ้ ยละของนกั เรียนทกุ คนหลงั กระบวนการ จัดการเรยี นรู้ท่ีได้จากการทดสอบวดั ผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี น หลงั เรียน สถิติทดสอบคา่ เฉลีย่ t-test คา่ ความน่าจะเป็น (Probability) นยั สำคัญทางสถิตทิ ี่ระดบั .05 2. การนำเสนอผลการวิเคราะห์ขอ้ มูล ตอนที่ 1 ผลการพัฒนาชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดิทัศน์เพื่อการฝึก กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (สาระดนตรี) ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ ประสิทธิภาพ 80/80 ตอนท่ี 2 ผลการศึกษาผลสัมฤทธิท์ างการเรียน เร่อื ง พ้นื ฐานการบรรเลงระนาดเอก ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ก่อนและหลังเรียนโดยใช้ชุดฝึกทกั ษะการบรรเลงระนาดเอกและ วดี ทิ ัศน์เพอื่ การฝกึ

17 ตอนที่ 3 ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เร่ือง พื้นฐานการบรรเลง ระนาดเอก ของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6 ก่อนและหลังเรียนโดยใช้ชุดฝึกทักษะการบรรเลง ระนาดเอกและวดี ทิ ศั น์เพ่ือการฝึก ตอนท่ี 4 ผลการศึกษาความพงึ พอใจของนักเรียนชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 6 ทม่ี ตี ่อการใช้ ชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดทิ ัศน์เพ่ือการฝกึ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศิลปะ (สาระดนตรี) ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 6 3. ผลการวเิ คราะหข์ อ้ มูล ตอนท่ี 1 ผลการพัฒนาชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดิทัศน์เพ่ือการฝึก กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (สาระดนตรี) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ ประสทิ ธิภาพ 80/80 ผรู้ ายงานนำชดุ ฝึกทกั ษะการบรรเลงระนาดเอกและวดี ิทศั นเ์ พื่อการฝึก กลมุ่ สาระ การเรียนรู้ศิลปะ (สาระดนตรี) ช้ันประถมศึกษาปีที่ 6 ท่ีได้ปรับปรุงแก้ไขตามขั้นตอนการหา ประสิทธิภาพเป็นรายบุคคล หาประสิทธิภาพเป็นกลุ่มเล็ก และหาประสิทธิภาพภาคสนามกับ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบางขุนเทียนศึกษา ในปีการศึกษา 2563 แล้ว ไปใช้จริง กับนักเรียนชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 6/3 โรงเรียนบางขุนเทียนศึกษา ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2563 จำนวนนักเรียน 40 คน ซ่ึงเป็นกลุ่มตัวอย่าง เพื่อหาประสิทธิภาพของชุดฝึกทักษะการบรรเลง ระนาดเอกและวีดิทัศน์เพ่ือการฝึก โดยนักเรียนทำกิจกรรมตามที่กำหนดไว้ คือ ทำแบบทดสอบ วัดความรู้ก่อนเรียนปฏิบัติกิจกรรม ประเมินทักษะการบรรเลงระนาดเอก และทำแบบทดสอบ วัดความรู้หลังเรียน ซึ่งผลการวิเคราะห์หาค่าประสิทธิภาพของชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอก และวดี ิทัศน์เพอ่ื การฝึก แสดงได้ดงั ตารางที่ 3

18 ตารางที่ 3 ผลการหาคา่ ประสทิ ธิภาพของชุดฝกึ ทกั ษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดิทศั นเ์ พอื่ การฝกึ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศิลปะ (ดนตร)ี ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 6 คะแนนการประเมิน คะแนนการทดสอบ ค่าประสิทธภิ าพ ทักษะการบรรเลงระนาดเอก ทักษะการบรรเลงระนาดเอก วัดผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี น E1 / E2 หลังเรียน คะแนนเต็ม ค่าเฉล่ยี ค่า E1 คะแนนเต็ม ค่าเฉล่ีย ค่า E2 1. ทกั ษะการเตรยี ม 72 58.92 81.83 ความพร้อมกอ่ น การบรรเลงระนาดเอก 2. ทกั ษะพืน้ ฐาน 200 163.21 81.61 30 25.67 85.57 83.00/85.57 การบรรเลงระนาดเอก 3. ทักษะการบรรเลง 56 50.11 89.48 ระนาดเอก โดยรวม 328 272.24 83.00 30 25.67 85.57 83.00/85.57 จากตารางท่ี 3 ผลการหาประสิทธิภาพของชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอก และวีดิทัศน์เพื่อการฝึก กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (สาระดนตรี) ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6 พบว่า ชุด ฝึก ทัก ษ ะก า ร บ ร ร เล ง ร ะน า ด เอ ก แ ล ะ วี ดิทัศ น์เพื่อ ก า ร ฝึก มีค่า ป ร ะ สิท ธิ ภ า พ โ ด ย ร ว ม เท่า กั บ 83.00/85.57 ซึ่งค่าประสิทธิภาพที่วิเคราะห์ได้มีค่าตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ 80 / 80 แสดงว่า การพัฒนาความรู้และทักษะการบรรเลงระนาดเอกสำหรับนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้ ชุดฝกึ ทกั ษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดทิ ศั น์เพ่อื การฝกึ มีประสทิ ธิภาพสูงกวา่ เกณฑ์

19 ตอนท่ี 2 ผลการศกึ ษาผลสมั ฤทธิท์ างการเรียน เรื่อง พ้นื ฐานการบรรเลงระนาดเอก ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6 ก่อนและหลังเรียนโดยใช้ชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอก และวดี ทิ ัศนเ์ พอ่ื การฝกึ 2.1 ผลการวิเคราะห์ค่าสถิติพ้ืนฐานของคะแนนการทดสอบผลสัมฤทธิ์ ทางการเรยี น ก่อนเรยี นและหลงั เรียน เร่ือง พน้ื ฐานการบรรเลงระนาดเอก ผู้รายงานนำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน เร่ือง พ้ืนฐานการบรรเลงระนาดเอก ไปทดสอบนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และนำคะแนน ท่ีได้มาวิเคราะห์หาค่าสถิติพ้ืนฐานของคะแนนการทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนก่อนเรียน และหลงั เรียน เรือ่ ง พื้นฐานการบรรเลงระนาดเอก ผลการวิเคราะห์แสดงดงั ตารางที่ 4 ตารางท่ี 4 คะแนนการทดสอบวัดผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนก่อนเรยี นและหลังเรียน เรื่อง พ้ืนฐานการบรรเลงระนาดเอก คะแนนการทดสอบวัดผลสัมฤทธิท์ างการเรยี น G X 1 S.D. X 2 S.D. 1.53 เร่ือง พ้ืนฐานการบรรเลงระนาดเอก 30 12.19 1.83 25.67 จากตารางที่ 4 พบวา่ คะแนนการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นก่อนเรยี น เรื่อง พ้ืนฐานการบรรเลงระนาดเอก ของนักเรยี นช้ันประถมศึกษาปที ี่ 6 ท่ีเรียนโดยใช้ชุดฝึกทักษะ การบรรเลงระนาดเอกและวีดิทัศน์เพื่อการฝึก มีคะแนนเฉล่ียเท่ากับ 12.19 และค่าความเบ่ียงเบน มาตรฐานเทา่ กบั 1.83 จากคะแนนเต็ม 30 คะแนน ส่วนคะแนนการทดสอบวัดผลสัมฤทธทิ์ างการเรียน หลังเรียน มีคะแนนเฉลีย่ เท่ากบั 25.67 และค่าความเบีย่ งเบนมาตรฐานเทา่ กบั 1.53 2.2 ผลการวิเคราะห์ค่าสถติ ิพ้ืนฐานของคะแนนการประเมินทักษะการบรรเลง ระนาดเอกก่อนเรยี นและหลงั เรียน ผู้รายงานนำเครื่องมือประเมินทักษะการบรรเลงระนาดเอก ก่อนเรียนและ หลังเรียน ไปสังเกตและประเมินนักเรียนในแต่ละทักษะ จำนวน 3 ทักษะ ได้แก่ ทักษะการเตรียม ความพรอ้ มก่อนการบรรเลงระนาดเอก ทักษะพ้นื ฐานการบรรเลงระนาดเอก และทักษะการบรรเลง ระนาดเอก เพลงแขกบรเทศ สองชั้น และนำคะแนนท่ีได้มาวิเคราะห์หาค่าสถติ ิพ้ืนฐานของคะแนน การประเมินทักษะการบรรเลงระนาดเอกก่อนเรียนและหลังเรียน ซ่ึงผลการวิเคราะห์แสดงได้ดัง ตารางที่ 5

20 ตารางที่ 5 คะแนนการประเมินทกั ษะการบรรเลงระนาดเอกก่อนเรยี นและหลังเรียน ลำดบั ท่ี พ้ืนฐานการบรรเลง M X1 S.D. X2 S.D. ระนาดเอก 0.65 1 ทักษะการเตรยี มความพรอ้ ม 72 46.91 1.41 58.92 0.69 กอ่ นการบรรเลงระนาดเอก 0.61 0.65 2 ทกั ษะพ้ืนฐานการบรรเลง 200 120.74 1.69 163.21 ระนาดเอก 3 ทักษะการบรรเลงระนาดเอก 56 31.05 1.55 50.11 โดยรวม 328 198.70 1.51 272.24 จากตารางท่ี 5 พบวา่ คะแนนการประเมนิ ทักษะการบรรเลงระนาดเอกกอ่ นเรียน ของนักเรียนท่ีผ่านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนพัฒนาความรู้ความสามารถและทักษะการบรรเลง ระนาดเอก ท่ีเรียนโดยใช้ชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดิทัศน์เพ่ือการฝึก โดยรวมมี คะแนนเฉล่ียเท่ากับ 198.70 และค่าความเบ่ียงเบนมาตรฐานเท่ากับ 1.51 จากคะแนนเต็ม 328 คะแนน ส่วนคะแนนการประเมินทักษะการบรรเลงระนาดเอกหลังเรียน โดยรวมมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 272.24 และค่าความเบ่ียงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.65 และเมื่อพิจารณารายทักษะ ทั้ง 3 ทักษะ ได้แก่ ทกั ษะการเตรียมความพร้อมกอ่ นการบรรเลงระนาดเอก ทักษะพื้นฐานการบรรเลงระนาดเอก และทักษะการบรรเลงระนาดเอก พบว่า คะแนนการประเมินก่อนเรียน มีคะแนนเฉล่ียเท่ากับ 46.91, 120.74, 31.05 ตามลำดับ จากคะแนนเต็ม 72, 200, 56 คะแนน ตามลำดับ สำหรับ คะแนนการประเมนิ ลงั เรยี น มีคะแนนเฉลย่ี เท่ากับ 58.92, 163.21, 50.11 ตามลำดับ ตอนท่ี 3 ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน เรื่อง พื้นฐานการบรรเลง ระนาดเอก ของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปที ี่ 6 ก่อนและหลังเรยี นโดยใช้ชุดฝึกทักษะการบรรเลง ระนาดเอกและวีดทิ ศั นเ์ พ่ือการฝึก 3.1 ผลการเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างคะแนนการทดสอบวัด ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนก่อนเรยี นและหลังเรยี น เร่ือง พ้นื ฐานการบรรเลงระนาดเอก ผู้รายงานนำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน เร่ือง พ้ืนฐานการบรรเลงระนาดเอก ไปทดสอบนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และนำคะแนน ที่ได้มาเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างคะแนนการทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนก่อนเรียน และหลังเรียน เร่ือง พ้ืนฐานการบรรเลงระนาดเอก โดยใช้สถิติการทดสอบ t-test แบบ Dependent ผลการวิเคราะหแ์ สดงดังตารางที่ 6

21 ตารางที่ 6 ผลการเปรยี บเทียบความแตกต่างระหวา่ งคะแนนการทดสอบวดั ผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี น ก่อนเรยี นและหลงั เรียน เรอื่ ง พน้ื ฐานการบรรเลงระนาดเอก คะแนนการทดสอบ การทดสอบ A X S.D. t วดั ผลสัมฤทธิท์ างการเรยี น เรื่อง ก่อนเรียน 30 12.19 1.83 62.15* พื้นฐานการบรรเลงระนาดเอก หลงั เรียน 30 25.67 1.53 *p < .05 จากตารางท่ี 6 พบว่า คะแนนการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อน เรยี นและหลงั เรยี น เรอื่ ง พ้ืนฐานการบรรเลงระนาดเอก ของนักเรียนชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 6 ที่ผ่าน การจัดกิจกรรมพัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน เร่ือง พื้นฐานการบรรเลงระนาดเอก โดยใช้ชุดฝึก ทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดิทัศน์เพ่ือการฝึก แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยคะแนนการทดสอบวดั ผลสัมฤทธิท์ างการเรยี นหลงั เรยี นสูงกว่าก่อนเรียน 3.2 ผลการเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างคะแนนการประเมินทักษะ การบรรเลงระนาดเอกก่อนเรยี นและหลงั เรยี น ผู้รายงานนำเครื่องมือประเมินทักษะการบรรเลงระนาดเอก ก่อนเรียนและ หลังเรียน ไปสังเกตและประเมินนักเรียนในแต่ละทักษะ จำนวน 3 ทักษะ และนำคะแนนท่ีได้มา เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างคะแนนการประเมินก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้สถิติการทดสอบ t-test แบบ Dependent ผลการวเิ คราะห์แสดงได้ดังตารางท่ี 7 ตารางที่ 7 ผลการเปรยี บเทียบความแตกต่างระหว่างคะแนนการประเมินทกั ษะการบรรเลง ระนาดเอกกอ่ นเรยี นและหลังเรยี น ลำดบั ท่ี พน้ื ฐานการบรรเลงระนาดเอก การประเมนิ A X 2 S.D. t 1 ทักษะการเตรียมความพร้อม กอ่ นเรียน 72 46.91 1.41 2759* กอ่ นการบรรเลงระนาดเอก หลงั เรยี น 72 58.92 0.65 2 ทกั ษะพ้นื ฐานการบรรเลง กอ่ นเรยี น 200 120.74 1.69 39.58* ระนาดเอก หลังเรยี น 200 163.21 0.69 3 ทกั ษะการบรรเลงระนาดเอก กอ่ นเรยี น 56 31.05 1.55 35.64* หลงั เรยี น 56 50.11 0.61 โดยรวม กอ่ นเรียน 328 198.70 1.51 28.95* หลงั เรยี น 328 272.24 0.65 *p < .05

22 จากตารางที่ 7 พบว่า คะแนนการประเมินทักษะการบรรเลงระนาดเอก ก่อนเรียนกับหลังเรียนของนักเรียนที่ผ่านการจัดกิจกรรมพัฒนาความรู้ความสามารถและทักษะ การบรรเลงระนาดเอกโดยใช้ชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดิทัศน์เพ่ือการฝึก โดยรวม แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติท่ีระดับ .05 และเม่ือพิจารณารายทักษะ ท้ัง 3 ทักษะ ได้แก่ ทักษะการเตรียมความพร้อมก่อนการบรรเลงระนาดเอก ทักษะพื้นฐานการบรรเลงระนาดเอก และ ทักษะการบรรเลงระนาดเอก พบว่า คะแนนการประเมินก่อนเรียนกับหลังเรยี นของนกั เรียนในทกุ ทักษะ แตกต่างกันอยา่ งมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยคะแนนการประเมินหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน ทง้ั โดยรวมและรายทักษะ ตอนท่ี 4 ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6 ท่ีมีต่อ การใช้ชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดิทัศน์เพ่ือการฝึก กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (สาระดนตร)ี ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 6 ผู้รายงานนำแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนท่ีมีต่อการใช้ชุดฝึกทักษะ การบรรเลงระนาดเอกและวีดิทศั นเ์ พอ่ื การฝึก ไปใหน้ ักเรียนช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 6/3 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนบางขุนเทียนศึกษา ท่ีเป็นกลุ่มตัวอย่าง แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ ความพึงพอใจท่ีมีต่อการใช้ชุดฝึกทกั ษะการบรรเลงระนาดเอกและวดี ิทัศน์เพ่ือการฝึก หลังจากเรียน จบแล้ว และนำคะแนนท่ีได้มาวิเคราะห์หาค่าสถิติพ้ืนฐานของคะแนนความพึงพอใจของนักเรียน ซ่งึ ผลการวิเคราะหแ์ สดงได้ดงั ตารางท่ี 8 ตารางที่ 8 ผลการศกึ ษาความพึงพอใจของนกั เรยี นท่มี ตี อ่ การใช้ชดุ ฝกึ ทกั ษะการบรรเลงระนาดเอก และวดี ทิ ศั นเ์ พ่ือการฝกึ ขอ้ ที่ ข้อคำถาม X S.D. ระดับ ความพึงพอใจ 1 คำช้ีแจงการใชช้ ุดฝกึ ทกั ษะการบรรเลงระนาดเอกและ 4.74 0.46 มากที่สุด วีดิทศั นเ์ พอ่ื การฝกึ ชดั เจน สามารถปฏิบัติได้ 2 คำแนะนำกจิ กรรมการเรยี นรูอ้ ธบิ ายขัน้ ตอนการฝกึ บรรเลง 4.57 0.52 มากที่สุด ระนาดเอกได้เหมาะสมและชัดเจน 3 ชดุ ฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวดี ทิ ศั น์เพ่อื การฝกึ 4.76 0.45 มากที่สดุ จัดเนื้อหาสาระและกจิ กรรมการเรียนร้ไู ด้เหมาะสม 4 การจดั เรยี งลำดบั เนอื้ หาสาระและกจิ กรรมการเรยี นรู้ 4.51 0.52 มากท่ีสดุ เหมาะสม สอดคลอ้ งกบั วธิ กี ารจดั การเรยี นการสอน 5 เน้อื หาสาระและกจิ กรรมการเรียนรพู้ ัฒนาทกั ษะ 4.75 0.50 มากทีส่ ดุ การบรรเลงระนาดเอก สามารถนำไปใชใ้ นการศกึ ษาและ ปฏบิ ตั จิ รงิ ได้

23 ตารางที่ 8 (ต่อ) ข้อท่ี รายการประเมิน X S.D. ระดับ 4.60 ความพึงพอใจ 6 เนื้อหาสาระและกจิ กรรมการเรียนรนู้ า่ สนใจ 4.72 ชวนให้ตดิ ตาม 4.68 0.50 มากที่สดุ 4.53 7 ภาษาทใ่ี ชเ้ ข้าใจงา่ ย รายละเอยี ดกระชับและชัดเจน 4.54 0.46 มากที่สดุ 8 ภาพประกอบเนือ้ หาสาระและกิจกรรมการเรยี นรู้ 4.61 0.47 มากที่สุด 4.71 ชว่ ยสรา้ งความรคู้ วามเขา้ ใจให้ชดั เจนขึ้น 469 0.54 มากที่สดุ 9 ภาพประกอบเนื้อหาสาระและกจิ กรรมการเรยี นรู้ ชดั เจน 4.59 4.66 0.61 มากที่สดุ สวยงาม สามารถสรา้ งความสนใจในการเรยี นรู้ได้ 10 ชุดฝกึ ทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดทิ ัศน์เพอ่ื การฝกึ 4.62 0.46 มากที่สดุ 0.53 มากที่สุด มคี วามยากงา่ ยเหมาะสมกบั วัยของนักเรยี น 4.60 11 นกั เรยี นมีความรู้ความเขา้ ใจในเน้อื หาสาระดีขึ้น 4.65 0.56 มากทส่ี ุด 12 นักเรยี นมคี วามร้คู วามสามารถและทักษะการบรรเลง 4.73 4.78 0.58 มากทส่ี ุด ระนาดเอกดขี ้ึน 13 เนอ้ื หาใช้ในการวดั และประเมนิ ผลความร้คู วามสามารถ 0.47 มากทส่ี ุด และทักษะการบรรเลงระนาดเอกได้ 0.59 มากทส่ี ุด 14 เนอ้ื หาสาระและกิจกรรมการเรียนรู้ฝกึ บรรเลงระนาดเอก 0.50 มากทส่ี ุด ชว่ ยพฒั นาทกั ษะการบรรเลงระนาดเอกไดด้ ขี น้ึ 0.48 มากที่สุด 15 ชุดฝกึ ทกั ษะการบรรเลงระนาดเอกและวดี ทิ ศั น์เพอ่ื การฝกึ 0.46 มากที่สุด 0.45 มากทส่ี ุด ช่วยให้การศกึ ษาเรยี นรู้ เร่ือง พื้นฐานการบรรเลง ระนาดเอก นา่ สนใจยิ่งขน้ึ 16 ชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวดี ทิ ศั น์เพื่อการฝึก ชว่ ยแกป้ ัญหาการเรียนรแู้ ละปฏบิ ัตกิ ิจกรรมไมท่ นั เพื่อน ร่วมชน้ั เรียนได้ 17 ชดุ ฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดทิ ัศน์เพอื่ การฝกึ ให้ท้ังความรู้ ความสนกุ สนาน และความเพลดิ เพลินได้ 18 ชดุ ฝึกทกั ษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดทิ ัศน์เพื่อการฝึก ช่วยสอนแทนครูได้ 19 ควรส่งเสรมิ ให้จดั การเรยี นการสอนในสาระดนตรี โดยใช้ ชุดฝึกทกั ษะการบรรเลงระนาดเอกและวดี ทิ ศั น์เพื่อการฝึก 20 ชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดทิ ัศน์เพื่อการฝกึ เปน็ สอ่ื นวตั กรรมการเรียนการสอนที่มคี ุณคา่ และ ประโยชน์ต่อการนำไปใชป้ ฏบิ ัติจรงิ

24 ตารางที่ 8 (ต่อ) ข้อท่ี รายการประเมิน X S.D. ระดับ ความพงึ พอใจ 21 ชดุ ฝกึ ทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวดี ทิ ศั น์เพื่อการฝกึ 4.89 0.44 มากท่ีสดุ เหมาะสำหรับใชใ้ นการพฒั นาความรู้ความสามารถและ ทักษะการบรรเลงระนาดเอกของนักเรยี นได้อยา่ งมคี ุณภาพ และประสิทธภิ าพยงิ่ ข้ึน โดยรวม 4.66 0.50 มากทส่ี ดุ จากตารางที่ 8 ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ท่ีมี ต่อการใช้ชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดิทัศน์เพ่ือการฝึก กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (สาระดนตรี) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบวา่ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุดและใกล้เคยี งกัน (X = 4.66 , S.D. = 0.50) และเมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการใช้ชุดฝึกทักษะ การบรรเลงระนาดเอกและวีดิทัศน์เพ่ือการฝึกอยู่ในระดับมากที่สุดทุกข้อ โดยชุดฝึกทักษะการบรรเลง ระนาดเอกและวีดิทัศน์เพื่อการฝึก เหมาะสำหรับใช้ในการพัฒนาความรู้ความสามารถและทักษะ การบรรเลงระนาดเอกของนักเรียนได้อย่างมีคุณภาพและประสิทธิภาพย่ิงข้ึน อยู่ในระดับมากท่ีสุด เป็นอันดับแรก ( X = 4.89 , S.D. = 0.44) รองลงมา 3 อันดับแรก ได้แก่ ชุดฝึกทักษะการบรรเลง ระนาดเอกและวีดิทัศน์เพ่ือการฝึก เป็นสื่อนวัตกรรมการเรียนการสอนที่มีคุณค่าและประโยชน์ต่อ การนำไปใช้ปฏิบัติจริง ( X = 4.78 , S.D. = 0.45) ชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดิทัศน์ เพ่ือการฝึก จัดเนื้อหาสาระและกิจกรรมการเรียนรู้ได้เหมาะสม ( X = 4.76 , S.D. = 0.45) และ เน้ือหาสาระและกิจกรรมการเรียนรู้พัฒนาทักษะการบรรเลงระนาดเอก สามารถนำไปใช้ใน การศึกษาและปฏิบัติจริงได้ ( X = 4.75 , S.D. = 0.50) และข้อคำถามท่ีอยู่ในระดับมากที่สุดเป็น อนั ดับสุดท้าย ได้แก่ การจัดเรียงลำดบั เน้ือหาสาระและกิจกรรมการเรียนรู้เหมาะสม สอดคล้องกับ วิธกี ารจดั การเรียนการสอน ( X = 4.51 , S.D. = 0.50)

25 การประเมนิ การใช้ส่ือนวตั กรรมทางการศึกษา กิจกรรมหลัก เป้าหมาย ผลงาน ผลงานตามกิจกรรม (รอ้ ยละ) สูง ตามแผน ตำ่ 1. กำหนดวตั ถุประสงคใ์ นการสรา้ ง มวี ตั ถปุ ระสงค์การสรา้ งและพัฒนา 100   และพัฒนาชดุ ฝกึ ทกั ษะการบรรเลง ชดุ ฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอก  ระนาดเอกและวดี ทิ ัศน์เพื่อการฝึก และวีดทิ ศั นเ์ พ่อื การฝกึ ทกั ษะ  ทักษะการบรรเลงระนาดเอก การบรรเลงระนาดเอกถูกต้อง  เพลงแขกบรเทศ สองชัน้ ครบถ้วน และชดั เจน  2. ศึกษาแนวคิดทฤษฎีท่ีใช้ใน รูแ้ ละเขา้ ใจแนวคดิ ทฤษฎที ีใ่ ช้ใน 100 การสร้างชุดฝึกทักษะและวีดิทัศน์ การสร้างวีดิทัศน์ และกำหนด เพอื่ การฝกึ และศกึ ษาขน้ั ตอน ขัน้ ตอนการสรา้ งวีดิทัศน์ การสร้างชดุ ฝกึ ทกั ษะและวีดิทัศน์ เพอื่ การศกึ ษาได้ครบถว้ น ชัดเจน เพอื่ การฝกึ และเหมาะสมตามหลกั การสร้าง สอื่ การเรยี นการสอนประเภท วดี ทิ ศั น์ 3. เขียนนยิ ามเชิงปฏิบตั ิการ กำหนดและเขยี นนยิ ามเชิง 100 เกย่ี วกับการสรา้ งและพัฒนาชดุ ฝกึ ปฏบิ ัตกิ ารเกีย่ วกบั การสรา้ งและ ทักษะการบรรเลงระนาดเอกและ พัฒนาชุดฝึกทกั ษะการบรรเลง วดี ทิ ัศน์เพื่อการฝกึ ทกั ษะ ระนาดเอกและวดี ิทัศน์เพ่อื การฝกึ การบรรเลงระนาดเอก ทกั ษะการบรรเลงระนาดเอก ครบถว้ น ชดั เจน และถูกต้องตาม หลกั วิชาการสร้างและพฒั นา 4. สรา้ งชดุ ฝกึ ทกั ษะการบรรเลง ดำเนินการสร้างและพฒั นา 100 ระนาดเอกและวีดิทัศน์เพื่อการฝกึ ชดุ ฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอก ทกั ษะการบรรเลงระนาดเอก และวีดิทัศน์เพ่ือการฝกึ ทกั ษะ การบรรเลงระนาดเอก 5. นำชดุ ฝกึ ทักษะและวีดิทัศน์ ชดุ ฝึกทกั ษะและวดี ิทศั น์เพอ่ื การฝึก 100 เพ่ือการฝึก ไปใหผ้ เู้ ชย่ี วชาญ บรรเลงระนาดเอก ด้านการบรรเลงดนตรีไทยตรวจสอบ เพลงแขกบรเทศ สองช้ัน คณุ ภาพเบือ้ งต้น เพือ่ ปรบั ปรงุ ไดร้ บั การตรวจสอบคณุ ภาพจาก แก้ไขให้ถูกตอ้ งตามแบบแผน ผเู้ ชยี่ วชาญด้านการบรรเลงดนตรี มาตรฐานหลักวิชาการดนตรไี ทย ไทย โดยปรบั ปรงุ แก้ไขให้ถกู ต้อง รวมทัง้ ปรบั ปรงุ ตามข้อสังเกตของ ตามแบบแผนมาตรฐาน ผเู้ ชี่ยวชาญ หลกั วิชาการดนตรีไทย 6. กำหนดแนวทางการนำ สรา้ งและกำหนดรูปแบบของ 100 ชดุ ฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอก แนวทางการนำชุดฝึกทกั ษะ และวีดิทัศน์เพอ่ื การฝึกทกั ษะ การบรรเลงระนาดเอกและวีดทิ ศั น์ การบรรเลงระนาดเอกไปใช้ เพ่อื การฝึกทักษะการบรรเลง ระนาดเอกไปใช้

26 กจิ กรรมหลกั เป้าหมาย ผลงาน ผลงานตามกิจกรรม (รอ้ ยละ) สงู ตามแผน ตำ่ 7. นำชุดฝึกทักษะการบรรเลง นำชดุ ฝึกทกั ษะการบรรเลง 100  ระนาดเอกและวดี ิทัศน์เพอื่ การฝกึ ระนาดเอกและวีดทิ ัศนเ์ พอ่ื การฝึก  ทักษะการบรรเลงระนาดเอก ทกั ษะการบรรเลงระนาดเอกท่ี  ท่แี กไ้ ขปรบั ปรงุ ตามคำแนะนำของ แก้ไขปรับปรงุ ตามคำแนะนำของ ผู้เชี่ยวชาญไปใช้จริงในการจัด ผู้เชี่ยวชาญไปใช้จริงในการจัด การเรียนการสอน เพอื่ ศึกษา การเรียนการสอน พร้อมทั้งวิเคราะห์ ผลการใช้ หาประสิทธิภาพและผลการใช้ 8. นำชุดฝกึ ทักษะการบรรเลง ดำเนนิ การชุดฝกึ ทกั ษะการบรรเลง 100 ระนาดเอกและวดี ิทศั น์เพอ่ื การฝกึ ระนาดเอกและวดี ิทศั น์เพ่ือการฝึก ทกั ษะการบรรเลงระนาดเอก ทักษะการบรรเลงระนาดเอก ท่ีนำไปใช้จริง มาแก้ไขปรับปรงุ ทน่ี ำไปใชจ้ ริง มาแก้ไขปรับปรุงให้ ให้สมบูรณ์ยิ่งขน้ึ เสร็จสน้ิ สมบูรณ์ 9. จดั ทำชดุ ฝึกทักษะการบรรเลง ดำเนินการจดั ทำชุดฝกึ ทักษะ 100 ระนาดเอกและวดี ิทศั น์เพอื่ การฝึก การบรรเลงระนาดเอกและวีดิทศั น์ ทกั ษะการบรรเลงระนาดเอก เพื่อการฝกึ ทกั ษะการบรรเลง ชดุ สมบูรณ์ เพ่ือนำไปเผยแพร่ ระนาดเอก สู่สาธารณชน เพื่อประโยชนท์ าง การศกึ ษาตอ่ ไป รายงานการแสดงวัดประเมนิ ผลการใชส้ ือ่ นวัตกรรมทางการศึกษา 1. นักเรียนมผี ลสัมฤทธท์ิ างการเรยี น เรื่อง พนื้ ฐานการบรรเลงระนาดเอก ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง ตามหลกั วิชาการมากย่งิ ข้ึน 2. นักเรียนมีความรู้ความสามารถและทักษะการบรรเลงระนาดเอกได้อย่างถูกต้อง ตามแบบแผนมาตรฐานมากยิง่ ขึน้ 3. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการใช้ชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดิทัศน์ เพื่อการฝึก อยู่ในระดับมากทสี่ ุด

27 ข้อเสนอแนะ การวิเคราะห์ผลลพั ธแ์ ละกำหนดแนวทางในการปรบั ปรงุ 1. ผลปรากฏแก่นักเรียน 1.1 นักเรียนสามารถเรียนรู้และปฏิบัติทักษะพ้ืนฐานการบรรเลงระนาดเอกได้อย่างมี ประสทิ ธิภาพสูงข้นึ และสามารถนำทกั ษะการบรรเลงเครื่องดนตรไี ทยขั้นพ้ืนฐานไปใช้ในการบรรเลง ระนาดเอกและเครอื่ งดนตรีไทยอ่ืน ๆ ขั้นสงู และประกอบอาชีพได้ 1.2 นักเรียนมีสื่อนวัตกรรมการเรียนการสอนประเภทชุดฝึกทักษะและวีดิทัศน์ เพอ่ื การฝกึ ท่นี า่ สนใจ และนำมาศกึ ษาเรยี นรู้ ปฏิบัตไิ ดจ้ รงิ 1.3 นักเรียนเรียนรู้และบรรเลงระนาดเอกและเคร่ืองดนตรีไทยอื่น ๆ ได้อย่างมี ความสุข และมีพฤติกรรมการแสดงออกในทักษะการบรรเลงระนาดเอกตามสภาพจริง จากการศึกษา เนอ้ื หาภายในชุดฝกึ ทักษะและวีดิทัศน์เพอ่ื การฝึก 1.4 นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อการใช้ชุดฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดิทัศน์ เพ่ือการฝกึ 1.5 นักเรียนเห็นคุณค่าและความสำคัญของการเรียนรู้และปฏิบัติพื้นฐานการบรรเลง ระนาดเอก ท่ีเป็นเอกลักษณ์ไทย บอกคุณค่าของงานดนตรีไทยที่เป็นศิลปวัฒนธรรม และเอกลักษณ์ ประจำชาติไทย 2. ผลปรากฏแก่ครูผูส้ อน 2.1 ได้สื่อนวัตกรรมทางการศกึ ษาประเภทสอื่ สง่ิ พิมพ์และสอ่ื เทคโนโลยีทางการศึกษา “ชุดฝกึ ทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดทิ ศั น์เพอ่ื การฝึก” ทมี่ ีคุณภาพและประสิทธิภาพ สำหรับ ครูผู้สอนสามารถนำไปใช้ในการจัดการเรยี นการสอนพัฒนาทักษะการบรรเลงระนาดเอก กลุ่มสาระ การเรียนรู้ศิลปะ (สาระดนตรี) ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6 ได้ และช่วยเสริมสมรรถภาพในการพัฒนา ความรู้ความสามารถและทักษะการบรรเลงระนาดเอกและเคร่ืองดนตรีไทยชนิดอื่น ๆ ของนักเรียน ให้มีคุณภาพและประสทิ ธิภาพในการปฏบิ ตั จิ ริงยงิ่ ขน้ึ 2.2 เป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ จากการจัดการเรียนการสอน โดยนำ ชดุ ฝึกทักษะการบรรเลงระนาดเอกและวีดทิ ัศน์เพื่อการฝกึ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (สาระดนตรี) ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ไปใช้ในการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนให้กับนักเรียนชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 6 เพื่อแกป้ ญั หาการขาดแคลนสื่อนวัตกรรมด้านการเรียนการสอนและขาดแคลนครผู ู้สอน 2.3 ครูผู้สอนมีแนวทางในการสร้างและพัฒนาสื่อนวัตกรรมทางการศึกษาเพิ่มมากข้ึน เพื่อนำไปใช้ในการจัดการเรยี นการสอนในกล่มุ สาระการเรยี นรู้ต่าง ๆ ให้มีปรมิ าณและคุณภาพเพ่มิ มากขึน้ 2.4 ทราบทักษะการบรรเลงระนาดเอกของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้ ชดุ ฝึกทกั ษะการบรรเลงระนาดเอกและวดี ทิ ัศน์เพือ่ การฝึก