Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิทยาการคำนวณ

วิทยาการคำนวณ

Published by aschariya.game, 2021-01-04 15:24:32

Description: วิทยาการคำนวณ

Search

Read the Text Version

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 วิทยาการคานวณSlide PPT61-NEW ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 1 กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 4 Slide PowerPoint_สือ่ ประกอบการสอน บริษัท อักษรเจรญิ ทศั น์ อจท. จำกัด : 142 ถนนตะนำว เขตพระนคร กรงุ เทพฯ 10200 Aksorn CharoenTat ACT.Co.,Ltd : 142 Tanao Rd. Pranakorn Bangkok 10200 Thailand โทรศัพท์ : 02 622 2999 โทรสำร : 02 622 1311-8 [email protected] / www.aksorn.com

1หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี การออกแบบและการเขียนอลั กอรทิ มึ ตัวช้วี ดั • ออกแบบอัลกอรทิ มึ ทใ่ี ช้แนวคิดนำมธรรมเพ่ือแกป้ ัญหำหรอื อธบิ ำยกำรทำงำนทพ่ี บในชีวิตจริง • ออกแบบและเขยี นโปรแกรมอยำ่ งงำ่ ยเพอื่ แก้ปญั หำทำงคณติ ศำสตร์ หรือวทิ ยำศำสตร์

แนวคดิ เชงิ นามธรรม แนวคดิ เชิงนามธรรม (abstraction) : เปน็ เครอ่ื งมอื ในกำรแก้ปัญหำซ่งึ เปน็ องค์ประกอบของแนวคดิ เชงิ คำนวณ โดยมแี นวคดิ ในกำรแก้ไขปญั หำ อยำ่ งเป็นระบบ เพือ่ ย่อยสถำนกำรณ์และสำมำรถกำหนดข้ันตอนกำรแกป้ ญั หำไดอ้ ย่ำงชัดเจน พจิ ารณาเฉพาะส่วนท่เี ปน็ สาระสาคัญ โดยแยกสว่ นท่ไี มใ่ ช่สาระสาคญั ออกไป ส่วนที่เปน็ สาระสาคัญ

ใชแ้ นวคิดเชงิ นามธรรมในการแก้ปญั หาทางคณิตศาสตร์ หำกต้องกำรหำแนวคิดเชิงนำมธรรมของสเ่ี หลี่ยมมมุ ฉาก สำมำรถกระทำได้ โดยพจิ ำรณำเฉพำะสาระสาคัญ และจุดร่วมของส่เี หล่ยี มของมมุ ฉำก ส่ีเหลีย่ มจตั รุ สั สีเ่ หล่ยี มผนื ผ้า • ประกอบดว้ ยด้ำน 4 ดำ้ น • ประกอบดว้ ยด้ำน 4 ด้ำน • ทกุ มมุ เป็นมมุ ฉำก • ทุกมุมเปน็ มุมฉำก จำกขอ้ มลู ขำ้ งตน้ เมอื่ ไมพ่ จิ ำรณำสิง่ ทีไ่ มจ่ าเป็น เช่น ควำมยำวของแต่ละด้ำน เป็นต้น ดงั นั้น แนวคดิ เชงิ นามธรรมของสเี่ หลยี่ มมมุ ฉำก คอื สีเ่ หลี่ยมใด ๆ ท่ปี ระกอบดว้ ยด้าน 4 ด้าน และทกุ มมุ ของสเี่ หลย่ี มเป็นมุมฉาก

ใชแ้ นวคิดเชิงนามธรรมในการแก้ปัญหาทางวทิ ยาศาสตร์ เมื่อแสงอำทติ ย์ส่องมำยังพนื้ โลก จะทำใหน้ ำ้ จำกแหล่งต่ำง ๆ ระเหยกลำยเปน็ ไอลอยตวั สูงข้ึนสบู่ รรยำกำศและควบแน่นกลำยเปน็ หยดนำ้ ขนำดเลก็ ลอยอยใู่ นอำกำศในรปู ของเมฆ ถำ้ หยดน้ำมีขนำดใหญ่จนอำกำศรับนำ้ หนักไมไ่ ด้ ก็จะตกลงมำเปน็ ฝนและถกู กกั เกบ็ ไว้ตำมแหลง่ นำ้ ตำ่ ง ๆ เมอื่ ตอ้ งกำรหำแนวคดิ เชิงนามธรรมของวัฏจักรนำ้ จำกขอ้ มูลข้ำงตน้ โดยพิจำรณำเฉพำะสาระสาคัญจะได้องคป์ ระกอบสำคัญ ดงั น้ี หยาดน้าฟ้า ไอนำ้ บำงส่วนจะควบแน่นกลำยเป็นหยดนำ้ ลอยอยูใ่ นอำกำศในรูปของเมฆ และตกลงมำเปน็ ฝน การซึม การระเหยเปน็ ไอ นำ้ จำกแหลง่ ต่ำง ๆ ระเหยกลำยเป็นไอน้ำลอยตวั สงู ขน้ึ น้ำซึมผำ่ นพื้นผวิ ดนิ ไหลลงส่ชู น้ั ใต้ดิน และไหลไปรวมกันในแหล่งนำ้ และเกิดกำรหมนุ เวียนเป็นวฏั จกั รน้ำ

อลั กอรทิ มึ เบอื้ งตน้ อลั กอรทิ มึ (algorithm) : ระเบยี บวธิ ีหรอื ข้ันตอนวิธีท่ดี าเนินการได้ด้วยคอมพวิ เตอร์เพือ่ ใชใ้ นการแกไ้ ขปัญหา โดยเป็นกระบวนกำรแก้ไขปญั หำที่สำมำรถอธิบำยเป็นข้นั ตอนที่ชดั เจน ซ่งึ สำมำรถแบ่งได้ 3 รปู แบบ ดงั นี้ รูปแบบการเขยี นอลั กอริทมึ การเขียนอลั กอรทิ ึม การเขยี นอัลกอรทิ ึม การเขยี นอลั กอรทิ ึม ดว้ ยภาษาธรรมชาติ ด้วยรหัสจาลอง ดว้ ยผงั งาน (Natural Language) (Pseudo Code) (Flowchart)

การเขียนอัลกอริทมึ ด้วยภาษาธรรมชาติ กำรบรรยายข้ันตอนการทางานของอัลกอริทึมใดๆ โดยใชภ้ าษามนุษย์เพอื่ อธบิ ำยถึงลำดับขนั้ ตอนกำรทำงำน ตามลาดับการทางานกอ่ นหลงั ตวั อยา่ ง กำรอธิบำยกำรกำรคำนวณหำพนื้ ท่สี เ่ี หลี่ยม และแสดงผลลัพธก์ ำรคำนวณ ดว้ ยกำรใชภ้ ำษำธรรมชำติ สตู รการคานวณหาพืน้ ที่ส่เี หลี่ยม พน้ื ที่สีเ่ หลย่ี ม = ควำมกวำ้ ง x ควำมยำว เร่มิ ต้นกำรทำงำน นำเขำ้ ขอ้ มูล นำเข้ำขอ้ มลู ควำมกว้ำงของส่ีเหลี่ยม ควำมยำวของสเ่ี หลยี่ ม จบกำรทำงำน แสดงผลพืน้ ทสี่ เี่ หลีย่ ม คำนวณพื้นที่ส่เี หล่ียม ควำมกวำ้ ง x ควำมยำว

การเขียนอลั กอริทมึ ด้วยรหัสจาลอง เปน็ คาสง่ั ทจี่ าลองความคิดเปน็ ลำดบั ขน้ั ตอนโดยใชส้ ัญลกั ษณ์เป็นประโยคภาษาอังกฤษ ตัวอยา่ งประโยคภำษำอังกฤษเขยี นจำลองคำสั่ง เชน่ Input a number : ใส่ข้อมูลนำเขำ้ เป็นคำ่ ตวั เลข Find the sum of the number : คำนวณรวมคำ่ ตวั เลขท่ีนำเข้ำ ตัวอย่าง กำรอธิบำยกำรกำรคำนวณหำพืน้ ทสี่ ีเ่ หลี่ยม และแสดงผลลพั ธ์กำรคำนวณ ด้วยกำรใชร้ หัสจำลอง สตู รการคานวณหาพ้นื ที่ส่ีเหลีย่ ม พืน้ ทส่ี ี่เหล่ยี ม = ควำมกวำ้ ง x ควำมยำว รหัสจาลอง INPUT width INPUT length COMPLETE area OUTPUT area STOP = width x length START คำนวณพื้นทสี่ ่เี หล่ียม ภาษาธรรมชาติ นำเข้ำข้อมลู นำเขำ้ ข้อมลู ควำมกวำ้ ง x ควำมยำว แสดงผล จบกำรทำงำน ควำมกวำ้ งของสเี่ หลี่ยม ควำมยำวของสีเ่ หล่ยี ม พน้ื ท่ีสเี่ หล่ยี ม เร่ิมต้น กำรทำงำน

การเขียนอลั กอรทิ มึ ด้วยผงั งาน หลกั กำรเขียนอัลกอริทึมด้วยผังงานจะอำ้ งองิ จำกกระบวนการทางคอมพวิ เตอร์ 3 กระบวนกำร ไดแ้ ก่ การรับขอ้ มลู การประมวลผล การแสดงผลลพั ธ์ (input) (process) (output)

โดยการการเขยี นอัลกอริทมึ ด้วยผงั งาน จะนิยมใชส้ ญั ลกั ษณ์ในการเขียนผงั งาน ซ่งึ แตล่ ะสญั ลกั ษณจ์ ะมีความหมายดงั น้ี ภาพสญั ลกั ษณ์ ความหมาย ภาพสญั ลกั ษณ์ ความหมาย เรม่ิ ตน้ /สน้ิ สดุ การทางาน แสดงผลทางหนา้ จอ รบั ขอ้ มลู / การกาหนดคา่ แสดงผลโดยไมก่ าหนดอุปกรณ์ หรอื การประมวลผล รบั ข้อมูลทางแปน้ พมิ พ์ predefined process หรือโปรแกรมยอ่ ย ทางเลือก เงื่อนไข ทศิ ทางการทางาน แสดงผลทาง เคร่อื งพิมพ์

2หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ การออกแบบและการเขียนโปรแกรมเบอ้ื งตน้ ตวั ชี้วัด • ออกแบบและเขยี นโปรแกรมอยำ่ งงำ่ ยเพ่อื แกป้ ญั หำทำงคณติ ศำสตร์ หรอื วทิ ยำศำสตร์

หลักการเขียนโปรแกรม การกาหนดและวิเคราะหป์ ญั หา กาหนดวัตถุประสงค์ กาหนดลักษณะ กาหนดลักษณะ กาหนดวธิ ีการประมวลผล (analysis the problem) ของโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ ข้อมูลนาเข้า ข้อมลู นาออก หรือวิธกี ารคานวณ การออกแบบโปรแกรม การออกแบบอัลกอรทึ ึม การออกแบบสว่ นตดิ ต่อผใู้ ช้ (design a program) (algorithm) (user interface) การเขยี นโปรแกรม เขียนคาสั่ง แปลภาษา ส่ังให้ไฟลโ์ ปรแกรมทางาน (coding) (coding) (compile) (run)

โปรแกรมภาษา C ภาษา C พัฒนำขึน้ ในชว่ งระหว่ำงปี ค.ศ. 1969-1973 โดย เดนนิส ริตชี (Dennis Ritchie) แห่ง Bell Lab และไดร้ ับกำรรบั รองเป็นมาตรฐานโดย ANSI ซ่งึ ภำษำ C เป็นภำษำโปรแกรมหนงึ่ ท่ีได้รบั ควำมนิยมอยำ่ งแพร่หลำยมำจนถงึ ปจั จบุ นั • จบคาสั่งด้วยเคร่ืองหมาย ; เสมอ คาสง่ั และไวยกรณ์ โครงสรา้ ง preprocessor directives พื้นฐาน ของภาษา C ใช้สาหรบั เรยี กใชค้ าสัง่ มาตรฐาน • คาสงั่ การประกาศตวั แปร global declaration รูปแบบ : ชนิดข้อมูล ตัวแปร ; เชน่ int width; ใชส้ าหรับประกาศตวั แปร ตวั แปร width เป็นตวั แปรประเภทเลขจานวนเตม็ main function เป็นสว่ นการทางานหลกั • คาสั่งการรับข้อมูล รปู แบบ : scanf (ชนดิ ตวั แปร, &ช่อื ตัวแปร); เชน่ user-defined function scanf (\"%d\", &width); โดย %d หมำยถึง เปน็ ส่วนของการเขยี นคาส่งั ชนิดเลขจานวนเตม็ • คาสั่งการแสดงผลขอ้ มูลออกมาทางหน้าจอ รปู แบบ : printf (“ข้อความ”) เช่น printf (\"Square area is : %d\\n\", area);

โปรแกรมภาษา Scratch Scratch เป็นเครอื่ งมอื และโปรแกรมภาษาท่ถี กู พัฒนำขึน้ มำ เพือ่ กำรเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ ในรูปแบบของกราฟิก โดยมีโครงสร้าง ดังนี้ เวที สครปิ ต์ เป็นสถำนทใ่ี หต้ วั ละครแสดง ชุดคำสงั่ เพอ่ื สง่ั ใหต้ วั ละครหรอื เวที มีภำพฉำกหลงั เปล่ียนแปลงได้ ทำงำนตำมวัตถปุ ระสงค์ท่ตี ้องกำร เชน่ มีขนำดควำมกวำ้ ง 480 pixels สูง 360 pixels กำรเคลอื่ นไหว, กำรแสดงเสยี ง, กำรรบั รู้ เป็นต้น ตัวละคร ตวั ละครแต่ละตัวจะมขี ้อมลู แตกต่ำงกัน เช่น ช่ือตวั ละคร, ตำแหนง่ บนเวที เป็นตน้

โปรแกรมภาษาไพทอน ไพทอน (python) ถกู พัฒนาครง้ั แรกเมื่อปี 1989 โดย กิโด ฟาน รอสซัม (Guido van Rossum) โดยโครงสรำ้ งของภำษำนั้นจะไมม่ ีกำรยึดติดกับแพลตฟอร์มทใ่ี ช้ ทำให้ python เปน็ Open Source เตม็ รูปแบบที่ใชพ้ ัฒนาได้อย่ำงอสิ ระ โครงสรา้ งของ คอมเมนตห์ รือการประกาศตัวแปรภาษา ภาษา ไฟทอนเบ้อื งต้น การนาเข้าไลบราร่ี หรือคลาสของไพทอนมาใช้ ประกาศตัวแปร ฟังก์ชนั และคาส่ังควบคมุ การทางาน

โปรแกรมภาษาจาวา ภาษาจาวา (Java) เป็นภำษำท่ีถูกพฒั นาขึน้ ในปี ค.ศ. 1991 เป็นภำษำท่ีพฒั นำข้นึ มำโดย เจมส์ กอสลงิ (James Gosling) ภำษำจำวำได้รบั กำรออกแบบใหม้ ีรูปแบบทำงภำษำเหมอื นภาษา C โดยมีคำกลำ่ วว่ำเป็น “Write Once, Run Anywhere” เขียนเพียงครัง้ เดยี วและสำมำรถนำไปรนั ไดบ้ นทุกแพลตฟอร์ม โครงสร้างของ ขอ้ ดีของภาษาจาวา ภาษา จาวาเบ้อื งต้น • เหมำะสำหรบั พฒั นำระบบทมี่ ีควำมซบั ซอ้ น Import ส่วนของกำรเรยี กใช้งำนคลำสท่ีอยู่ต่ำงแพก็ เกจ • สำมำรถทำงำนได้ในระบบปฏบิ ตั กิ ำรที่แตกตำ่ ง • ใชง้ ำนไดง้ ่ำยกว่ำและลดควำมผดิ พลำดไดม้ ำกขึน้ • มคี วำมปลอดภัยสงู ในกำรเขยี นโปรแกรม Package สว่ นกำรกำรระบตุ ำแหนง่ หรอื ท่ีอยู่ของคลำส ข้อเสยี ของภาษาจาวา Class สว่ นของกำรเขยี นคำสงั่ กำรทำงำนของโปรแกรม • โปรแกรมท่สี รำ้ งดว้ ยภำษำจำวำจะทำงำนชำ้ กว่ำ native code • tool ท่มี ใี นกำรใชพ้ ัฒนำโปรแกรมจำวำไม่ทันสมยั

รปู แบบการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ F F T T โครงสร้างการทางานแบบเรยี งลาดับ โครงสรา้ งการทางานแบบมีเงอ่ื นไข โครงสรา้ งการทางานแบบทาซ้า (sequence structure) (condition structure) (iteration structure)

3หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ การจัดการข้อมลู สารสนเทศ ตวั ชี้วดั • รวบรวมขอ้ มลู ปฐมภมู ิ ประมวลผล ประเมินผล นำเสนอขอ้ มูลและสำรสนเทศตำมวตั ถุประสงคโ์ ดยใชซ้ อฟตแ์ วร์หรอื บรกิ ำรบนอนิ เทอรเ์ น็ตท่หี ลำกหลำย

ขอ้ มลู ขอ้ มูล (data) ข้อเท็จจริง หรือเหตกุ ำรณ์ทเี่ กยี่ วข้องกับสง่ิ ตำ่ ง ๆ และมกี ำรเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู เหล่ำน้ันมำใช้ใหเ้ กดิ ประโยชนไ์ ด้ในภำยหลัง ขอ้ มลู ปฐมภูมิ ขอ้ มูลทตุ ิยภูมิ (primary data) (secondary data) ข้อมลู ท่เี กบ็ รวบรวมมำจำกแหล่งขอ้ มลู ทีไ่ ดม้ ำจำกแหลง่ ข้อมลู โดยตรง ขอ้ มูลทไี่ ด้จำกแหลง่ ที่รวบรวมข้อมูลไว้แล้วโดยมผี หู้ นึง่ ผใู้ ด สำมำรถเก็บรวบรวมข้อมลู ไดโ้ ดย ไดท้ ำกำรเกบ็ รวบรวมไว้ ซง่ึ มีหลักพจิ ำรณำในกำรเลอื กข้อมลู ดังนี้ การสงั เกตการณ์ การสัมภาษณ์ การทดลอง • พิจำรณำตวั บคุ คลผ้เู ขยี นเอกสำรเหล่ำน้ันว่ำเป็นผมู้ คี วำมรู้และมคี วำม (observation) (interview) (experiment) เชีย่ วชำญในเรือ่ งท่เี ขียนมีควำมนำ่ เชือ่ ถอื • พิจำรณำจำกลักษณะของข้อมูลท่ีเก็บรวบรวมว่ำเป็นขอ้ มลู ทีถ่ กู ตอ้ ง ครบถว้ น และสมบรู ณ์ • ควรเกบ็ รวบรวมมำจำกหลำย ๆ แหล่งเพ่อื ใชใ้ นกำรเปรยี บเทยี บและ หำขอ้ ผดิ พลำด

สารสนเทศ สารสนเทศ (information) กำรนำข้อมูลมำผ่ำนระบบกำรประมวลผล คำนวณ วเิ ครำะห์ และแปลควำมหมำยออกมำเป็นข้อควำมทส่ี ำมำรถนำไปใชป้ ระโยชนใ์ นดำ้ นตำ่ งๆ ไดม้ ำกมำย กำรได้มำซึง่ สำรสนเทศที่ดี ถูกตอ้ ง และเปน็ ไปตำมวัตถปุ ระสงค์ ข้อมลู ทีน่ ำมำเพื่อให้ได้สำรสนเทศนน้ั ควรมีคุณลกั ษณะ ดงั นี้ มคี วามถกู ตอ้ ง แมน่ ยา ทนั ต่อเวลา มีความสมบรู ณ์ครบถ้วน มีความสอดคล้อง สามารถพิสูจน์ได้ (accuracy) (timeline) (complete) กบั ความต้องการของผใู้ ช้ (verifiable) (relevancy)

ระบบสารสนเทศ ระบบสารสนเทศ (Information System : IS) ระบบท่ีสำมำรถจัดกำรข้อมูลต้งั แตก่ ำรรวบรวมและตรวจสอบขอ้ มูล กำรประมวลผลขอ้ มลู รวมถงึ กำรดูแลรกั ษำข้อมูล เพอ่ื ให้ได้สำรสนเทศทถ่ี ูกต้องและทันตอ่ ควำมต้องกำรใช้งำนของผ้ใู ช้ สำหรับองค์ประกอบของระบบสำรสนเทศที่สำคัญ มี 5 องค์ประกอบ ดงั นี้ ฮาร์ดแวร์ ซอฟตแ์ วร์ บคุ ลากร ข้อมลู กระบวนการ (hardware) (software) (peopleware) (data) (process)

การจัดการขอ้ มูลและสารสนเทศ การจัดการข้อมลู และสารสนเทศ ประกอบดว้ ยขน้ั ตอนหลกั ในกำรทำงำนหลำยส่วน เปน็ ไปตำมวฏั จกั รกำรประมวลผลสำรสนเทศ (information processing cycle) โดยมกี ำรใช้เทคโนโลยที ำงคอมพิวเตอรเ์ ข้ำมำดว้ ย แบ่งออกเป็นขน้ั ตอน ดงั นี้ การนาเข้าข้อมลู กระบวนการ การแสดงผล (input) (process) (output) การเก็บรักษาขอ้ มูล (storage)

การประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ การประมวลผลข้อมูลใหเ้ ป็นสารสนเทศ (information processing) กำรกระทำของเคร่อื งคอมพวิ เตอรก์ ับขอ้ มลู เช่น กำรรวบรวมขอ้ มลู เป็นแฟ้มข้อมลู กำรคำนวณ กำรเปรยี บเทียบ กำรเรยี งลำดบั กำรจัดกลุ่มข้อมลู กำรทำรำยงำน เปน็ ต้น ข้อมูลเขา้ การประมวลผล ขอ้ มลู ออก กำรรวบรวมขอ้ มลู ตำ่ ง ๆ ประมวลผลโดยกำรเรียงขอ้ มลู จดั ทำรำยงำน, ขอ้ มูลสำรสนเทศ และกำรจัดกล่มุ ขอ้ มูล หรือ กรำฟแสดงขอ้ มูล การรวบรวม กำรพมิ พข์ ้อมูลและบนั ทึกไว้เปน็ การเปรียบเทยี บ กำรดำเนนิ กำรเปรยี บเทยี บทำงตรรกะ การจดั กลมุ่ ขอ้ มูล กำรจัดกล่มุ ข้อมูลตำมกลุ่มต่ำง ๆ เปน็ แฟ้มขอ้ มูล แฟม้ ข้อมลู (file) ในเครื่องคอมพวิ เตอร์ เชน่ มำกกว่ำ นอ้ ยกว่ำ เชน่ เพศ, ปเี กดิ การคานวณ กำรนำขอ้ มูลที่เปน็ ตัวเลขคำนวณดว้ ยกำร การเรียงลาดับ กำรเรยี งขอ้ มลู ตำมลำดบั ตวั เลข การทารายงาน กำรสรปุ ผลและสรำ้ งรำยงำน ดำเนนิ กำรทำงคณติ ศำสตร์ หรอื ตวั อกั ษร

ซอฟตแ์ วร์ ซอฟตแ์ วร์ (software) ชุดคำสง่ั หรอื โปรแกรมท่ีใชส้ ง่ั เครอื่ งคอมพิวเตอร์ใหท้ ำงำนไดต้ รงตำมควำมต้องกำรและถูกต้อง รวมถงึ กำรควบคุมกำรทำงำนของอุปกรณ์ต่ำง ๆ ซอฟตแ์ วรส์ ำมำรถแบ่งไดเ้ ป็น 2 ประเภท ไดแ้ ก่ ซอฟต์แวรร์ ะบบ ซอฟต์แวรป์ ระยุกต์ (system software) (application software) ซอฟต์แวร์ทถ่ี ูกสรำ้ งข้ึนเพอื่ ใช้บรหิ ำรจัดกำรระบบ กำรจดั สรรทรัพยำกร ซอฟต์แวร์ทีใ่ ชก้ บั งำนดำ้ นต่ำง ๆ ตำมควำมต้องกำรของผู้ใช้ และดำเนนิ งำนพ้ืนฐำนตำ่ ง ๆ ในระบบ สำมำรถแบ่งได้ 3 ประเภท ทส่ี ำมำรถนำมำใช้ประโยชนไ์ ด้โดยตรง สำมำรถแบ่งได้ 2 ประเภท ระบบปฏิบตั ิการ โปรแกรมอรรถประโยชน์ ตัวแปลภาษา ซอฟต์แวรป์ ระยกุ ตท์ วั่ ไป ซอฟต์แวรป์ ระยกุ ต์เฉพาะงาน (Operating System : OS) (utilities program) (translator) (general purpose software) เปน็ โปรแกรมที่ได้รบั กำรออกแบบ เปน็ ซอฟต์แวร์ท่ใี ชค้ วบคมุ เปน็ โปรแกรมประเภทหน่ึง เป็นโปรแกรมทท่ี ำหนำ้ ที่ในกำร เปน็ ซอฟตแ์ วร์ทพ่ี ฒั นำขึ้นเพ่อื ไปประยุกต์ และพฒั นำสำหรบั นำไปใชง้ ำนเฉพำะด้ำน อุปกรณภ์ ำยในคอมพิวเตอร์ ที่อำนวยควำมสะดวกให้ แปลภำษำที่ไมใ่ ช่ภำษำเคร่ือง ใช้กับงำนทว่ั ไป เช่น กำรพมิ พร์ ำยงำน ผู้ใชเ้ คร่ืองคอมพวิ เตอร์ กำรสรำ้ งตำรำงทำงำน กำรนำเสนอผลงำน ตำมควำมต้องกำรของผใู้ ช้

4หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั ตัวชี้วัด • ใชเ้ ทคโนโลยีสำรสนเทศอยำ่ งปลอดภยั ใชส้ ่อื และแหลง่ ข้อมูลตำมข้อกำหนดและขอ้ ตกลง

ความปลอดภัยของระบบสารสนเทศ ความปลอดภยั ของระบบสารสนเทศ นโยบำย ขัน้ ตอนกำรปฏิบัติ และมำตรกำรทำงเทคนคิ ทน่ี ำมำใชป้ ้องกันกำรใช้งำนจำกบคุ คลภำยนอก มำทำกำรขโมย หรือกำรทำควำมเสียหำยตอ่ เทคโนโลยีสำรสนเทศ ภยั คุกคำมตอ่ เทคโนโลยสี ำรสนเทศ แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้ ภยั คุกคามตอ่ ฮารด์ แวร์ ภัยคกุ คามต่อซอฟต์แวร์ ภัยคุกคามต่อระบบ ภัยคุกคามต่อขอ้ มลู เครือข่ายและการส่ือสาร

รปู แบบของภัยคุกคาม รปู แบบภยั คกุ คามต่อระบบ รูปแบบภัยคุกคาม รักษาความปลอดภัยทางคอมพวิ เตอร์ ด้านข้อมลู ในคอมพิวเตอร์ ภยั คุกคามแกร่ ะบบ เป็นภัยคกุ คำมจำกผมู้ ีเจตนำร้ำยเข้ำมำทำกำรปรบั เปลี่ยน มลั แวร์ โปรแกรมทถ่ี กู สร้ำงขึน้ มำเพ่อื ขโมยขอ้ มลู แกไ้ ข หรอื ลบไฟลข์ อ้ มลู สำคญั ภำยในระบบคอมพิวเตอร์ (malware) ภยั คกุ คาม เป็นภัยคุกคำมทแี่ ครกเกอร์ (cracker) เขำ้ มำทำกำรเจำะข้อมูล ไวรสั คอมพิวเตอร์ โปรแกรมชนิดหนึง่ ท่ีมคี วำมสำมำรถ ความเป็นส่วนตัว สว่ นบคุ คล หรอื ติดตำมรอ่ งรอยพฤตกิ รรมของผใู้ ชง้ ำน (computer virus) ในกำรสำเนำตัวเองเพือ่ ทำลำยขอ้ มลู ภัยคุกคาม เป็นภัยคกุ คำมทส่ี ง่ ผลเสยี ใหแ้ ก่ผูใ้ ช้งำนและเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ หนอนคอมพิวเตอร์ โปรแกรมท่ีแพรก่ ระจำยผ่ำนอนิ เทอรเ์ นต็ ต่อผ้ใู ชแ้ ละระบบ เปน็ อยำ่ งมำก เช่น กำรลอ็ คเครื่องคอมพิวเตอร์ (computer worm) เพอื่ สรำ้ งควำมเสียหำย หรือขโมยขอ้ มลู ภัยคกุ คาม เปน็ ภัยคกุ คำมที่ไม่มเี ปำ้ หมำยแนน่ อน เพียงแค่ต้องกำรสรำ้ งจดุ ม้าโทรจัน โปรแกรมคอมพิวเตอรท์ ีถ่ กู บรรจเุ ขำ้ ไป ทไ่ี มม่ เี ป้าหมาย สนใจ โดยไม่กอ่ ใหเ้ กดิ ควำมเสียหำยขน้ึ (trojan horse) เพอ่ื เกบ็ ข้อมูลหรือทำลำยขอ้ มลู ภัยคุกคาม เป็นภยั คกุ คำมที่ไม่กอ่ ใหเ้ กิดควำมเสยี หำยเชน่ เปลย่ี นกำรต้ังค่ำ สปายแวร์ โปรแกรมที่ฝังตวั อย่ใู นคอมพวิ เตอร์ทำให้ (spyware) ทรำบขอ้ มลู ประวัติกำรใชข้ องผู้ใช้งำน ทสี่ ร้างความราคาญ กำรทำงำนของเครื่องคอมพิวเตอร์ใหต้ ่ำงไปจำกทเ่ี คยกำหนดไว้

การป้องกนั และการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั หมัน่ ตรวจสอบและอัปเดตระบบปฏบิ ัตกิ ำรใหเ้ ปน็ เวอร์ชนั ปัจจุบนั ตดิ ตงั้ ไฟรว์ อลล์ เพ่ือป้องกนั คนท่ไี ม่ได้รบั อนุญำตไมใ่ ห้เขำ้ มำใชง้ ำน และควรใชร้ ะบบปฏิบัตกิ ำรและซอฟตแ์ วรท์ ีถ่ กู ลขิ สิทธิ์ เครือ่ งคอมพิวเตอร์ซึง่ ชว่ ยปอ้ งกันกำรบุกรกุ ของแฮกเกอร์ สงั เกตขณะเปดิ เครอ่ื งวำ่ มีโปรแกรมไมพ่ ึงประสงคท์ ำงำนขน้ึ มำ ไมค่ วรเข้าเวบ็ ไซตเ์ ส่ยี งภยั เช่น เวบ็ ไซต์ลำมกอนำจำร เวบ็ ไซตก์ ำรพนัน พร้อมกับกำรเปดิ เครื่องหรอื ไม่ เว็บไซตแ์ บบแนบไฟล์ .exe เวบ็ ไซต์ทีม่ ี pop-up หลำยเพจ ติดตง้ั โปรแกรมปอ้ งกนั ไวรัส และมีกำรอปั เดตโปรแกรมป้องกันไวรสั ควรแบค็ อปั ขอ้ มูลไว้ในอปุ กรณห์ นว่ ยความจาอื่นนอกเหนือจำก และฐำนข้อมูลไวรัสสมำ่ เสมอ ฮำร์ดดสิ ก์ เชน่ flash drive, DVD เป็นต้น ตอ้ ง login เข้าใชง้ านทุกคร้งั และเมือ่ ไมไ่ ด้อยหู่ น้ำจอคอมพวิ เตอร์ ไมเ่ ปดิ เผยข้อมูลส่วนตัวผ่ำนสอื่ สงั คมออนไลน์ เช่น เลขทบี่ ตั รประชำชน ควรลอ็ กหน้ำจอให้อยู่ในสถำนะทตี่ อ้ งใส่คำ่ login ใช้งำน ประวัตกิ ำรทำงำน เบอร์โทรศพั ท์ หมำยเลขบตั รเครดติ

จริยธรรมในการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ หลกั ศลี ธรรมจรรยำทีก่ ำหนดขึ้นเพื่อใช้เปน็ แนวทำงปฏิบัติ หรือควบคมุ กำรใชร้ ะบบคอมพวิ เตอร์และสำรสนเทศ จรยิ ธรรมเก่ยี วกบั กำรใช้เทคโนโลยสี ำรสนเทศจะแบ่งออกเปน็ 4 ประเดน็ ดงั นี้ ความเป็นสว่ นตัว ความถูกตอ้ ง ความเปน็ เจา้ ของ การเขา้ ถงึ ข้อมลู สทิ ธทิ เ่ี จำ้ ของสำมำรถทีจ่ ะควบคุมข้อมูล ขอ้ มูลควรได้รับการตรวจสอบควำมถูกตอ้ ง เปน็ กรรมสทิ ธิ์ในกำรถือครองทรพั ย์สนิ การกาหนดสทิ ธิของผู้ใชง้ ำน ของตนเองในกำรเปิดเผยให้กบั ผู้อน่ื รวมถงึ กำรปรบั ปรุงขอ้ มูลใหท้ ันสมัยอยู่เสมอ ซึง่ อำจเป็นทรัพยส์ ินทว่ั ไปท่ีจับตอ้ งได้ เพือ่ เป็นการปอ้ งกนั กำรเขำ้ ถึงข้อมูลลับ

จรรยาบรรณในการใช้งานเทคโนโลยสี ารสนเทศ ไม่ใชค้ อมพิวเตอรใ์ นกำรโจรกรรมข้อมูลข่ำวสำร ไมใ่ ชค้ อมพิวเตอรส์ ร้างหลักฐานเท็จ ไม่ใชค้ อมพวิ เตอรเ์ พอ่ื กอ่ อาชญากรรม ไมใ่ ชค้ อมพวิ เตอรค์ ัดลอกโปรแกรมที่มีลขิ สิทธิ์ ไมใ่ ช้คอมพวิ เตอรร์ บกวนผูอ้ น่ื ไมท่ ำกำรสอดแนม แกไ้ ข เอกสารของผู้อืน่

ขอ้ กาหนด ขอ้ ตกลงในการใชแ้ หลง่ ข้อมูล ไมด่ ัดแปลง (No Derivative Works : ND) แสดงทมี่ า (Attribution : BY) ไม่แก้ไขเปล่ียนแปลงหรือสรา้ งงานจำกงำนน้ี ตอ้ งแสดงท่ีมาของชนิ้ งำนตำมรูปแบบทผ่ี ู้สรำ้ งกำหนด อนุญาตแบบเดยี วกนั (Share Alike : SA) ไม่ใชเ้ พื่อการค้า (Noncommercial : NC) ถำ้ หากดัดแปลงชน้ิ งานน้ี ต้องใชส้ ญั ญาอนุญาต แบบเดียวกันกับสัญญำอนุญำตทใี่ ช้กับงำนน้ีเทำ่ นน้ั ไม่ใหน้ ำข้อมลู นีไ้ ปใช้เพื่อวตั ถปุ ระสงคท์ างการค้า

CC-BY CC-BY-NC ให้เผยแพร่ ดัดแปลง โดยตอ้ งระบทุ ่ีมำ ใหเ้ ผยแพร่ ดัดแปลง โดยต้องระบุที่มำ แตห่ ำ้ มใชเ้ พอื่ กำรค้ำ CC-BY-SA CC-BY-NC-SA ใหเ้ ผยแพร่ ดัดแปลง โดยต้องระบทุ ี่มำ และต้องเผยแพร่งำนดดั แปลง ใหเ้ ผยแพร่ ดัดแปลง โดยต้องระบุท่ีมำ โดยใชส้ ัญญำอนุญำตเดยี วกนั แตห่ ำ้ มใช้เพือ่ กำรคำ้ และต้องเผยแพร่งำน ดัดแปลงโดยใช้สัญญำอนญุ ำตเดยี วกัน CC-BY-ND CC-BY-NC-ND ให้เผยแพร่ โดยต้องระบุทีม่ ำ แตห่ ำ้ มดัดแปลง ให้เผยแพร่ โดยต้องระบทุ ่มี ำ แตห่ ำ้ มดัดแปลง และห้ำมใช้เพ่อื กำรคำ้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook