กจิ กรรมอบรมปฐมพยาบาลเบอื้ งตน้ และให้ความรเู้ ก่ียวกับการเกิดโรคระบาด หรือโรคตดิ ต่อแกบ่ ุคคลากร พอ่ แมผ่ ปู้ กครองเดก็ พกิ ารท่ีรบั บริการทีบ่ า้ นและชุมชน ประจาปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ วันท่ี ๒๙ กันยายน ๒๕๖๓ หน่วยบรกิ ารอาเภอเสรมิ งาม อาเภอเสริมงาม จังหวัดลาปาง
การปฐมพยาบาลเบ้ืองตน้ การใชย้ า โรคระบาด โรคติดตอ่ โรคไม่ตดิ ตอ่
การปฐมพยาบาลเบอ้ื งตน้ (Basic Principle of First Aid)
ความหมายของการปฐมพยาบาลเบอ้ื งตน้ การปฐมพยาบาล หมายถงึ การให้ความช่วยเหลือตอ่ ผู้บาดเจ็บ หรือผเู้ จ็บป่วย ณ สถานท่เี กิดเหตุ การ ชว่ ยเหลือเบือ้ งต้นโดยรีบด่วนแกผ่ ไู้ ด้รบั บาดเจบ็ หรอื เจบ็ ปว่ ยอยา่ งกะทนั หัน เพอื่ ชว่ ยบรรเทาความเจบ็ ปวด และ ทาใหไ้ ดร้ ับอนั ตรายนอ้ ยทส่ี ุด กอ่ นทีจ่ ะนาสง่ โรงพยาบาล ให้แพทย์รกั ษาต่อไป สาหรับผู้ให้การชว่ ยเหลอื จะต้องมี ความร้ใู นการปฐมพยาบาลช่วยเหลอื อย่างรวดเรว็ และถกู วธิ ี โดยใชอ้ ปุ กรณ์เท่าที่หาไดใ้ นขณะนนั้ กอ่ นทผี่ บู้ าดเจ็บ จะได้รับการดูแลจากบุคลากรทางการแพทยห์ รอื สง่ ต่อไปยังโรงพยาบาลใหแ้ พทยร์ กั ษาตอ่ ไป สาหรบั ผใู้ ห้การ ช่วยเหลอื จะต้องมคี วามรใู้ นการปฐมพยาบาลชว่ ยเหลอื อย่างรวดเรว็ และถกู วิธี วัตถปุ ระสงคข์ องการปฐมพยาบาล • เพอ่ื ช่วยชีวติ • ลดความรนุ แรงภาวะไมพ่ ึงประสงคเ์ พือ่ ปอ้ งกันความพกิ าร • บรรเทาความเจ็บปวดทรมานและชว่ ยใหก้ ลบั ส่สู ภาพเดิม
วธิ กี ารปฐมพยาบาลผู้ปว่ ยอยา่ งปลอดภยั
การปฐมพยาบาลกระดูกหัก (1) ซักประวตั ิ (2) ตรวจร่างกาย (3) เข้าเฝื อกชั่วคราว (4) เคลื่อนย้ายออกจากบริเวณอนั ตรายและนาส่ง รพ.
ข้อเคลด็ หรือขอ้ แพลง (Sprain) การเคลอ่ื นไหวที่มากเกินไป หรือผิดจากลักษณะปกติ อาจทาให้กลา้ มเนื้อมีการฟกช้า ฉีกขาด หรอื ยึดตงึ ได้ อาการ เจ็บปวดมาก ทดสอบโดยการกดบวมและรอ้ น อาจจะมีเลอื ดออกบรเิ วณข้อเคลอื่ นไหวไม่ถนัด รู้สกึ เจบ็ มอี าการชาบริเวณขอ้ ทเี่ คลด็ สนั นษิ ฐานไดว้ า่ เสน้ ประสาทบรเิ วณดังกล่าวอาจฉกี ขาด
การปฐมพยาบาลข้อเคลด็ หรอื ขอ้ แพลง พกั ให้ข้อพกั นิ่งๆยกมอื หรอื เท้าข้างทเ่ี จ็บใหส้ ูงขึน้ กว่าปกตภิ ายใน 24 ชั่วโมงแรกให้ประคบด้วยความเยน็ ให้เลอื ดใต้ ผวิ หนงั หยุดไหล หลังจากนั้นให้ประคบดว้ ยความรอ้ น พนั ด้วยผา้ ยดื ไม่ควรแน่นเกนิ ไปภายใน 7 วัน หากอาการไมด่ ีขนึ้ ควรพบแพทย์ เพอื่ ตรวจอยา่ งละเอียดเพราะอาจมีการ หักของกระดกู หรอื การอักเสบอยา่ งรุนแรง
ขอ้ เคลอื่ นและการปฐมพยาบาล เกิดไดจ้ ากการถูกกระชากอยา่ งแรงทาให้ขอ้ ตอ่ ปลายกระดูกเคลอื่ นหรอื หลุดจากที่ อาการ ปวด บวม เคลื่อนไหวข้อปกตไิ ม่ได้อาจคลาพบปลายกระดูกทีห่ ลดุ ปูดออกมา การปฐมพยาบาล ให้ข้อพกั นง่ิ อย่าพยายามดงึ กลบั เข้าท่ปี ระคบดว้ ยความเย็นเขา้ เฝอื กช่ัวคราวโดยใชผ้ ้าสามเหลี่ยมประคองเพอ่ื ไม่ให้เกิดความเคลือ่ นไหว หรือใช้ผา้ พนั รบี นาสง่ โรงพยาบาล
การบาดเจ็บของกลา้ มเน้อื แบง่ เป็น 2 ชนิด 1. กล้ามเนอ้ื ช้า (Contustion) การท่กี ลา้ มเนอื้ ไดร้ ับแรงกระแทกจากวตั ถุไมม่ คี มจนเสน้ เลอื ดฝอย ฉีกขาด ทาให้มอี าการเจ็บปวด ฟกช้า 2. กล้ามเนื้อฉกี ขาด (Muscle Strain) กล้ามเน้ือหรือเอ็นถกู ยดื หรือใชง้ านมากเกนิ ไป การปฐมพยาบาล • ใหอ้ วัยวะน้ันๆ พกั น่ิงๆ • ยกส่วนที่เจบ็ หรือฟกชา้ ให้สงู ขน้ึ กวา่ ปกติ • ภายใน 24 ชัว่ โมงแรกใหป้ ระคบดว้ ยความเยน็ ให้เลอื ดใต้ผิวหนังหยดุ ไหล หลงั จากนั้นให้ประคบ ดว้ ยความรอ้ น • ใชผ้ ้ายืดพนั ให้ กระชบั แน่นพอควร • ลดการใชอ้ วยั วะสว่ นท่ีบาดเจ็บ
กระดกู หัก หมายถงึ ภาวะที่ส่วนประกอบของกระดกู แตกจากกนั แบง่ ออกเป็น 2 ชนิด 1. กระดกู หกั แบบปิด คือกระดูกท่หี กั แล้วไมแ่ ทงทะลผุ ิวหนังออกมา และไมม่ ีแผลบริเวณทห่ี ัก 2. กระดกู หักชนิดเปิด คือกระดูกหักแลว้ แทงทะลผุ วิ หนงั และมแี ผลบรเิ วณที่หัก การปฐมพยาบาล • ลดการเคลอ่ื นไหวใหน้ อ้ ยทส่ี ดุ ไมใ่ หก้ ระดกู ท่หี ักออกทาอันตรายอวยั วะข้างเคียง • ตรึงกระดกู สว่ นทีห่ กั ใหอ้ ยู่กบั ท่ี สามารถใชข้ องใกลต้ วั เชน่ ไม้ กระดาษหนงั สือพิมพ์พบั หนา ผา้ เชือก • หา้ มดนั กระดูกทห่ี กั โผล่นอกแผลกลบั เข้าท่ีหากมีเลอื ดออก ใหท้ าการหา้ มเลอื ด ปิดแผลกอ่ นเข้าเฝอื กช่วั คราว
การเข้าเฝอื กชว่ั คราว เฝือกท่ีหาไดโ้ ดยการใชว้ สั ดุทีห่ างา่ ยในบริเวณที่เกิด อบุ ตั ิเหตุ เชน่ กระดาษแข็ง แผน่ กระดาน ไมบ้ รรทดั กิ่งไม้ การเข้าเฝือกชัว่ คราว กระดกู ปลายแขนหกั กระดูกขอ้ ศอกหกั งอไม่ได้
การพันผ้ารูปแบบต่างๆ ผา้ พันชนดิ ตา่ งๆ
บาดแผล หมายถงึ รอยฉีกขาดหรือรอยแตกแยกของผวิ หนัง หรือเยื่อบุส่วนทล่ี กึ กว่าช้ันผวิ หนังถูกทาลาย บาดแผลแบ่งออกเป็ น 2 ชนิด
บาดแผลปิ ด เกดิ จากการการได้รับอนั ตรายจากวตั ถุไม่มคี มทาให้เกดิ ฟกช้า ผวิ หนงั ไม่ฉีกขาด ลกั ษณะของบาดแผลปิ ดจะแดง กดเจ็บ บวม กรณบี าดแผลปิ ดอวยั วะภายในได้รับการบาดเจบ็ รุนแรงมอี าการดงั นี้ อวยั วะ อาการและอาการตรวจพบ สมอง การเปลย่ี นแปลงของความรู้สึกตวั ปวดศีรษะ อาเจยี น ประสาทไขสันหลงั แขนขาอ่อนแรงถึงอมั พาต ช่องอก หายใจไม่สะดวก เจ็บแน่นหน้าอก มอี าการของการตกเลือด ช่องท้อง ปวดแน่นท้อง ท้องแขง็ มอี าการของการตกเลือด
บาดแผลเปิ ด เป็ นบาดแผลที่ทาให้เกดิ รอยแยกของผวิ หนัง แบ่งเป็ น แผลถลอก แผลฉีกขาด แผลตัด แผลถูกแทง แผลถูกยงิ
การประเมนิ ภาวะเลือดออกของบาดแผล มี 3 ลกั ษณะ (1) เลือดออกซึมๆ ไหลช้า มักเกดิ จากเส้นเลือดฝอย ได้รับอนั ตราย มีความรุนแรงน้อย ห้ามเลือดง่าย (2) เลือดออกมีสีแดงคลา้ ไหลช้า ไม่พ่งุ แรง ไม่เป็ นจังหวะ มกั เกดิ จากเส้นเลือดดาได้รับอนั ตราย อนั ตรายขนึ้ อย่กู บั จานวนเลือดทเี่ สียไป (3) เลือดออกสีแดงสด พ่งุ แรง เป็ นจังหวะการเต้นของหัวใจ มักเกดิ จากเส้นเลือดแดงใหญ่ได้รับอนั ตราย อาจช็อคและเสียชีวติ ได้
การปฐมพยาบาลบาดแผลปิ ด แผลช้า ห้อเลือด ประคบด้วยความเยน็ 24 ชั่วโมงแรก และหลงั 24 ช่ัวโมงประคบด้วยความร้อน และทายา ทท่ี าให้เกดิ ความร้อนเพ่ือช่วยละลายลมิ่ เลือด ถ้าอวยั วะภายในได้รับบาดเจบ็ รุนแรง ควรสังเกตอาการช็อค แล้วรีบแก้ไขและนาส่ง รพ.ทนั ที
การปฐมพยาบาลบาดแผลเปิ ด (1) ให้ผู้ป่ วยน่ังหรือนอนในท่าทสี่ ะดวกต่อการให้ความช่วยเหลือ (2) ประเมนิ ภาวะการเสียเลือดโดย จับชีพจร ตรวจการหายใจ สังเกตการเสียเลือดจากบาดแผล แผลถลอก ถ้าเลือดออกไม่มาก ปิ ดบาดแผล แผลฉีกขาด แผลตดั แผลถูกแทง แผลถูกยงิ ให้ปิ ดบาดแผลและห้ามเลือด แต่ห้ามขนั ชะเนาะ แล้วนาส่ง รพ.
หลกั การห้ามเลือด เพื่อลดการสูญเสียเลือดไปจากร่างกายทางบาดแผล มดี งั นี้ (1) การกดบนบาดแผลโดยตรง (2) ยกส่วนทไี่ ด้รับบาดเจบ็ ให้สูง แต่ถ้ามกี ารหกั ร่วมด้วย ห้ามยก (3) กดเส้นเลือดแดงใหญ่เหนือบาดแผล
แผลวสั ดหุ ักคา หา้ มดึงออก ยึดวสั ดุน้นั ใหน้ ิ่งๆ และรีบนาส่ง รพ. แผลเปิ ดทห่ี น้าอก รีบปิ ดบาดแผลโดยเร็ว และรีบนาส่ง รพ. แผลทห่ี น้าท้อง แผลท่ีลึกลงไปในช่องทอ้ ง อาจทาใหเ้ จบ็ ปวดอยา่ ง รุนแรง คล่ืนไสอ้ าเจียน ถา้ มีลาไสโ้ ผล่ออกมา ไมต่ อ้ งดนั กลบั เขา้ ไป ใหใ้ ชผ้ า้ สะอาดคลุมไว้ แลว้ รีบนาส่ง รพ.ด่วน
แผลทหี่ น้า ถา้ มีกระดูกขากรรไกรล่างหกั อาจทาใหล้ ิน้ อดุ ในลาคอ ตอ้ งดึงลิ้นออกมาขา้ งหนา้ แลว้ จบั นอนหวั ต่าตะแคงหนา้ ไปดา้ นใดดา้ นหน่ึงและยดึ ขากรรไกรใหอ้ ยนู่ ิ่งๆ แผลทศี่ ีรษะ จดั ผปู้ ่ วยฉุกเฉินใหอ้ ยนู่ ิ่งๆ จบั หนา้ หนั ไปดา้ นใดดา้ นหน่ึง เพื่อใหเ้ ลือดหรืออาเจียนไหลออกมาไดส้ ะดวก สงั เกตอาการ ผดิ ปกติทางสมอง และรีบนาส่ง รพ. พร้อมบนั ทึกส่ิงท่ีพบ อยา่ งละเอียด
แผลทม่ี กี ารขาดของอวยั วะ เช่น นิ้วขาด มือขาด ให้ใชผ้ า้ ปิ ดบาดแผล และ หา้ มเลือดส่วนอวยั วะท่ีขาดให้ใส่ถุงพลาสติก ที่สะอาด ปิ ดปากถุงและนาไปแช่ในกระติกน้าแขง็ แลว้ นาส่ง รพ. แผลไฟไหม้ แผลนา้ ร้อนลวก รีบดบั ไฟทนั ที ใชผ้ า้ หนาๆหรือผา้ สะอาดชุบน้าและคลมุ ตวั ผเู้ จบ็ ป่ วยไว้ ใชน้ ้าเยน็ ราด หรือวนุ้ ของวา่ นหางจระเขว้ างประคบจนกวา่ อาการปวดแสบ ปวดร้อนจะหายไป ถอดเคร่ืองประดบั ออก ก่อนท่ีแผลจะบวม
ไฟฟ้าดูด รีบนาผปู้ ่ วยออกจากบริเวณน้นั โดยเร็ว และปิ ดสวิทซ์ หรือคทั เอา้ ท์ ถา้ ผปู้ ่ วยมีอาการช็อค หรือหยดุ หายใจ ตอ้ งช่วยหายใจและรีบนาส่งรพ. แผลนา้ ร้อนลวก ควรตดั เส้ือผา้ บริเวณที่ถูกน้าร้อนลวกออก และถา้ เส้ือผา้ ติดอยกู่ บั แผล ไม่ตอ้ งดึงออก ถอดเคร่ืองประดบั ออกและ ใชผ้ า้ สะอาดปิ ดบาดแผลไว้
การตกเลือดและช็อค คือ การมีเลอื ดออกจากบาดแผล ถ้ามองเห็นได้ เรียกว่า ตกเลือดภายนอก ถา้ เลือดออก ภายในรา่ งกาย เรยี กว่า ตกเลือดภายใน อาการของการตกเลือดขน้ึ อยู่กบั ปริมาณเลือดท่ีเสยี ไป เมือ่ เกดิ ภาวะช็อค การทางานของอวยั วะจะผดิ ปกตไิ ป อวยั วะ การตรวจพบ ผิวหนงั เยน็ ช้ ืน เหงื่อออก สมอง ความรูส้ กึ ตวั เปล่ียนแปลง หวั ใจ ปอด หวั ใจเตน้ เบาเร็ว ไต หอบเหน่ือย ปัสสาวะนอ้ ยลง
การเคลื่อนย้าย (1) กรณีทต่ี ้องเคล่ือนย้ายทนั ที 1.1 เมื่อจะเกดิ อนั ตรายกบั ผู้ป่ วยถ้าไม่ทาการเคลื่อย้าย เช่น ไฟไหม้ ระเบดิ 1.2 เม่ือไม่สามารถให้การรักษาได้ เน่ืองจากท่าหรือตาแหน่งผ้ปู ่ วย เช่น หวั ใจ หยดุ เต้นบนเตยี งนอนหรือเก้าอี้ (2) ถ้ามอี นั ตรายต่อผู้ป่ วย ควรเป็ นหน้าทข่ี องเจ้าหน้าทด่ี ้านการแพทย์มาเคลื่อนย้าย
ข้อควรระวงั ในการเคลื่อนย้าย (1) ไม่ควรรีบร้อนจนเกนิ ไป (2) อย่าเคลื่อนย้ายโดยไม่จาเป็ น (3) ปฐมพยาบาลก่อนการเคลื่อนย้าย (4) บาดเจบ็ ทศ่ี ีรษะ ขาหกั เชิงกรานหัก กระดูกสันหลงั หกั ตกทสี่ ูง อบุ ัตเิ หตุ ห้ามเคลื่อนย้ายโดยวธิ ีน่ัง ควรใช้ท่านอนเสมอ (5) ไม่ทงิ้ ผู้ป่ วยหมดสตอิ ยู่ตามลาพงั และควรสังเกตการหายใจตลอดเวลา (6) ขอความช่วยเหลือจากผู้รู้ , 1669 หรือ 191
หลกั ทวั่ ไปในการเคล่ือนย้ายโดยใช้คนหรือเปลหาม (1) ต้องทาด้วยความพร้อมเพรียง (2) ควรให้ปลายเท้าไปก่อนเสมอ ยกเว้นกรณีขนึ้ เขา ขนึ้ บันได ต้องให้ด้านศีรษะไปก่อน (3) เคล่ือนย้ายด้วยความนุ่มนวล ตรวจสอบบริเวณบาดเจบ็ ก่อนการเคล่ือนย้ายเสมอ
การจดั ท่าผู้ป่ วย (1) ผ้ปู ่ วยหมดสติ ไม่มกี ารบาดเจบ็ ทไ่ี ขสันหลงั ให้จบั พลกิ นอนตะแคง โดยอย่าให้ลาตวั งอ (2) ผ้ปู ่ วยทไ่ี ด้รับบาดเจบ็ ไม่ควรทาการเคลื่อนย้ายจนกว่าแพทย์จะมา (3) ผ้ปู ่ วยฉุกเฉินทเี่ จบ็ หน้าอกหรือหายใจไม่สะดวก ควรจดั ให้อยู่ในท่านัง่ สบาย (4) ผู้ป่ วยมอี าการคล่ืนไส้อาเจยี น จดั ท่าสะดวกกบั การดูแลเร่ืองการหายใจ
กฎในการยกและการเคล่ือนย้าย (1) บอกเล่าแผนการ (2) ประมาณกาลงั (3) หา้ มทาหลังงอ (4) ยอ่ ขา หนบี แขน (5) ตวั เราอยใู่ นทา่ สมดุล (6) ละมนุ ละมอ่ ม การเคล่ือนย้ายแบบฉกุ เฉิน (1) ดึงเส้ือที่อยู่บรเิ วณคอกบั ไหล่ (2) การลากโดยวิธี ของผูเ้ จ็บปว่ ยฉกุ เฉนิ การสอดแขน ใตร้ กั แร้ (4) การลากโดยใชผ้ า้ ห่ม (3) การลากทางปลายเท้า
การเคล่ือนย้ายแบบฉุกเฉิน (1) ดงึ เสื้อทอ่ี ยู่บริเวณคอกบั ไหล่ (2) การลากโดยวธิ ี ของผู้เจบ็ ป่ วยฉุกเฉิน การสอดแขน ใต้รักแร้ (4) การลากโดยใช้ผ้าห่ม (3) การลากทางปลายเท้า
การเคล่ือนย้ายแบบไม่ฉุกเฉิน (1) การช่วยเหลือใช้ 1 คน การอ้มุ ใชก้ บั ผปู้ ่ วยฉุกเฉินน้าหนกั ตวั นอ้ ย ไมม่ ีบาดแผลรุนแรงหรือกระดูกหกั การพยุงเดนิ
(2) การช่วยเหลือใช้ 2 คน การน่ังเก้าอี้ เหมาะกบั การขนึ้ ลงบันได ไม่เหมาะกบั รายทไี่ ด้รับบาดเจบ็ ส่วนคอ หลงั และขา การอ้มุ และการยก เหมาะกบั รายทห่ี มดสตแิ ต่ไม่ใช่รายท่ี บาดเจบ็ ทลี่ าตวั หรือกระดูกหกั
การทาเปลมือ เหมาะกบั รายทบ่ี าดเจบ็ ไม่รุนแรง (1) (1) (2) (2) การพยงุ เดนิ
(3) การช่วยเหลือโดยใช้ 3 คน ผู้เจ็บป่ วยฉุกเฉินอย่ใู นท่านอนหงาย (1) (2) (3) (4)
(4) ผ้ชู ่วยเหลือมากกว่า 3 คน ในกรณผี ู้ช่วยเหลือตัวเลก็ กว่าผ้เู จ็บป่ วยฉุกเฉิน (1) (2) (3)
(5) การใช้ผ้าห่มแทนเปล วธิ ีนีใ้ ช้ในการเคล่ือนย้ายในระยะส้ันๆ ไม่ใช้ ในรายทสี่ งสัยกระดูกคอและกระดูกสันหลงั หัก
(6) การใช้เปลหาม
การทาเปลหามแบบผ้าห่มและไม้พลอง (2) (1) (3) ในกรณีสงสัยว่ามกี ารบาดเจบ็ ทก่ี ระดูกคอและกระดูกสันหลงั จะไม่ให้เคล่ือนยา้ ย ต้องใช้คนทฝ่ี ึ กทกั ษะมาโดยเฉพาะ
THE THE END END
การใชย้ า
Search