Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือความปลอดภัย

คู่มือความปลอดภัย

Published by Donrudee Chooklin, 2021-10-21 01:50:08

Description: คู่มือความปลอดภัย

Search

Read the Text Version

คู่มือความปลอดภัยในการทางาน 20 ต.ค. 2564

คานา คู่มือน้ีกล่าวถึงขอ้ ควรระวงั ทที่ ุกคนควรปฏิบตั ิ เม่ืออยใู่ นบริเวณหน่วยงาน เพอื่ ป้องกนั การบาดเจบ็ หรืออุบตั เิ หตุ คูม่ ือความปลอดภยั ในการทางานฉบบั น้ียงั ไดอ้ ธิบาย หรือช้ีแจงถึงมาตรฐาน ของการ ปฏบิ ตั งิ านเพอ่ื ความปลอดภยั ตามจุดตา่ งๆ ที่หนา้ งาน ซ่ึงสอดคลอ้ งกบั ขอ้ กาหนด WI (Work Instruction ) ดงั น้นั เน้ือหาในคูม่ ือ จึงเป็นส่วนหน่ึงในข้นั ตอนการปฏบิ ตั งิ านและ ดา้ นความปลอดภยั และอาชีวอนามยั ใน การทางาน ท่ีทกุ คนจะตอ้ งถือปฏบิ ตั โิ ดยหนา้ ที่และความรับผดิ ชอบอยแู่ ลว้ พนกั งานจึงควรติดคูม่ ือใน กระเป๋ าหรือท่ีทจ่ี ะหยบิ อ่านไดส้ ะดวก หมน่ั อ่านและศกึ ษา และปฏบิ ตั ติ าม เมื่อกาลงั ทางานอยา่ งหน่ึงอยา่ งใด หรือก่อนเร่ิมทางานของแต่ละวนั ทกุ คนควรต้งั ปณิธานทจี่ ะทางานโดยไม่มอี ุบตั ิเหตุ เพราะการบาดเจบ็ หรือ เกิดอุบตั ิเหตุ อาจนาความเสียหายและความเศร้าโศกมาสู่ครอบครัวและเพอ่ื นร่วมงานได้ ขอให้ตระหนักและคดิ คานึงถึงเรื่องนี้อยู่เสมอ คณะกรรมการความปลอดภัย 20 ต.ค. 2564

สารบญั หน้า 1. ความรูเ้ บ้อื งตน้ เกี่ยวอุบตั เิ หตแุ ละความปลอดภยั 1 2. กฎทพี่ นกั งานใหม่ควรจดจา 2 3. อุปกรณ์ป้องกนั อนั ตรายส่วนบุคคล 3 4. กฎความปลอดภยั ในการทางาน 4 5. การจดั รักษาสถานทที่ างานใหเ้ ป็นระเบียบ 4 6. การใชเ้ ครื่องมือไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าใหป้ ลอดภยั 5 7. ความปลอดภยั ในการใชต้ ะเกียงแอลกอฮอล์ 5 8. ความปลอดภยั ในการทางานกบั การใชห้ วั เป่ าไฟ 5 9. ความปลอดภยั ในการใชเ้ คร่ืองเจียร 6 10. ความปลอดภยั ในการทางานกบั มอเตอร์ขดั 6 11. ความปลอดภยั ในการทางานกบั เคร่ืองเชื่อมไฟฟ้า 6 12. ความปลอดภยั เกี่ยวกบั เคร่ืองเชื่อมแก๊ส 7 13. ขอ้ พงึ ระวงั ในแต่ละข้นั ตอนกระบวนการผลิต 7 14. องคป์ ระกอบของไฟ 8 15. ประเภทของไฟ 9 16. วธิ ีการดบั ไฟ 10 17. ข้นั ตอนการปฏิบตั ติ นเม่ือพบเหตเุ พลิงไหม้ 10 18. ข้นั ตอนการปฏิบตั เิ มื่อบาดเจบ็ จากการทางาน 11 19. โรคจากการทางาน 12 20. การปฐมพยาบาลเบ้อื งตน้ 12 21. การบริหารร่างกายเพอื่ ลดความเมื่อยลา้ เบ้ืองตน้ 13

นโยบายความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน ดว้ ยบริษทั ชุน้ จวิ เวลร่ี จากดั มีความห่วงใยต่อชีวติ และสุขภาพของพนกั งานทกุ คน ดงั น้นั จงึ เห็นสมควรให้ มีการดาเนินงานดา้ นความปลอดภยั อาชีว อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน ควบคูไ่ ปกบั หนา้ ท่ปี ระจาของ พนกั งาน จึงไดก้ าหนดนโยบายดงั น้ี 1. ความปลอดภยั ในการทางานถอื เป็นหนา้ ทรี่ บั ผดิ ชอบอนั ดบั แรกในการปฏิบตั ิงานของพนกั งานทกุ คน 2. บริษทั ฯ จะสนบั สนุนใหม้ ีการปรบั ปรุงสภาพการทางานและสภาพแวดลอ้ มใหป้ ลอดภยั 3. บริษทั ฯ จะสนบั สนุน ส่งเสริมใหม้ ีกิจกรรมความปลอดภยั ตา่ งๆท่ีช่วยกระตุน้ จติ สานึกของพนกั งาน เช่น การอบรม จูงใจ ประชาสมั พนั ธ์ การแขง่ ขนั ดา้ นความปลอดภยั เป็ นตน้ 4. ผบู้ งั คบั บญั ชาทุกระดบั จะตอ้ งกระทาตนใหเ้ ป็ นแบบอยา่ งทดี่ ี เป็ นผนู้ า อบรม ฝึกสอน จงู ใจ ใหพ้ นกั งานปฏิบตั งิ านดว้ ยวธิ ีท่ปี ลอดภยั 5. พนกั งานทุกคนตอ้ งคานึงถึงความปลอดภยั ของตนเอง เพอ่ื นร่วมงาน ตลอดจนทรัพยส์ ินของบริษทั ฯ เป็นสาคญั ตลอดเวลาทีท่ างาน 6. พนกั งานทกุ คนตอ้ งดูแลความสะอาดและความเป็ นระเบยี บเรียบรอ้ ยในพ้นื ทท่ี ี่ปฏบิ ตั ิงาน 7. พนกั งานทกุ คนตอ้ งใหค้ วามร่วมมือในโครงการความปลอดภยั อาชีวอนามยั ของบริษทั ฯและมีสิทธิเสนอ ความคดิ เห็นในการปรบั ปรุงสภาพการทางานและวธิ ีการทางานใหป้ ลอดภยั 8. บริษทั ฯจะจดั ใหม้ ีการประเมินผลการปฏบิ ตั ิตามนโยบายทก่ี าหนดไวข้ า้ งตน้ เป็ นประจา

1 1. ความรู้เบือ้ งต้นเกี่ยวกบั อุบัติเหตแุ ละความปลอดภัย อบุ ัตเิ หตุ ( Accident ) หมายถึงเหตุการณท์ ่ีเกิดข้ึนโดยมไิ ดม้ ีการวางแผนไวล้ ่วงหนา้ ซ่ึงก่อใหเ้ กิดการบาดเจบ็ พกิ าร หรือ เสียชีวติ และทาใหท้ รัพยส์ ินเสียหาย ( มีผลกระทบกระเทือนต่อกระบวนการทางาน ทาให้งานล่าชา้ เสียเวลา ) สาเหตุทอ่ี าจก่อให้เกดิ อุบตั เิ หตุ คือ 1. อุบตั ิเหตุท่มี ีสาเหตุมาจากบุคคล 2. อุบตั ิเหตุทีม่ ีสาเหตุจากสภาพเครื่องจกั รกลและอุปกรณ์ 3. อุบตั ิเหตุทีม่ ีสาเหตุจากสภาพแวดลอ้ มในการทางาน 1. อุบตั เิ หตทุ มี่ าจากบุคคล การเกิดอุบตั ิเหตุจากผปู้ ฏิบตั ิงานอาจเกิดจากสาเหตุดงั น้ี 1. การแต่งกายไม่เหมาะสม เช่น บุคคลที่ทางานกับเครื่องจกั ร แต่ชอบไวผ้ มยาวโดย ไม่รวบผมหรือสวมหมวกคลุมผมให้ เรียบร้อย การสวมเคร่ืองประดบั สร้อยคอ แหวน นาฬิกาในขณะปฏิบตั ิงานเป็นตน้ อาจจะเป็นสาเหตุของการเกิดอุบตั ิเหตุ ท้งั ส้ิน 2. บคุ คลท่ีมีเจตคติไม่ถูกตอ้ งต่อความปลอดภยั เช่น บางคนเห็นวา่ การป้องกนั อุบตั ิเหตุไม่มคี วามจาเป็น ไม่ใชห้ นา้ กากป้องกนั แสงขณะเชื่อมโลหะ ไมใ่ ชเ้ ขม็ ขดั นิรภยั ขณะปฏิบตั ิงานในทสี่ ูง เพราะจะทาใหด้ ูเหมือนว่าเป็นคนไม่เก่ง เป็นตน้ 3. การใชเ้ ครื่องมอื ผดิ ประเภท 4. สภาพร่างกายไม่พร้อมทจี่ ะทางาน เช่น ง่วงนอน เจบ็ ป่ วย ร่างกายอ่อนเพลีย ไม่มีความรู้และขาดประสบการณ์ 5. บุคคลมอี ุปนิสัยการทางาน ไม่ดี เช่น เป็นคนไม่มีระเบยี บ วางเครื่องมือเกะกะ ไมต่ ดั กระแสไฟฟ้าก่อนท่ีจะทางานซ่อมระบบ ไฟฟา้ 2. อุบตั เิ หตทุ ม่ี สี าเหตจุ ากสภาพเคร่ืองจกั รกลและอปุ กรณ์ การเกิดอุบตั ิเหตุท่ีมีสาเหตุจากสภาพเคร่ืองจกั รกลและอุปกรณ์ ขณะปฏิบตั ิงานอาจเกิดจากสาเหตุ ดงั น้ี 1. การใชเ้ ครื่องจกั ร ทีไ่ มม่ รี ะบบป้องกนั อนั ตราย เช่นใชห้ ินเจียระไนลบั เครื่องมอื มีคมโดยไม่มี อุปกรณ์ป้องกนั หรือฝาครอบ ป้องกนั เศษวสั ดุ 2. เคร่ืองมอื อยใู่ นสภาพทีไ่ ม่พร้อมในการใชง้ านหรือชารุด 3. อุบัตเิ หตทุ ม่ี สี าเหตจุ ากสภาพแวดล้อมในการทางาน การเกิดอุบตั ิเหตุท่ีมีสาเหตุจากสภาพแวดลอ้ มในการทางานอาจเกิดจากสาเหตุ ดงั น้ี 1. บริเวณทวั่ ไปของโรงงาน โรงงานที่ดีควรมีการวางแผนที่ดีเกี่ยวกบั ระบบต่างๆภายในโรงงาน เช่น ระบบไฟฟ้า ประปา การ ระบายน้า การป้องกนั อคั คีภยั สถานท่จี อดรถ การขนส่งวสั ดุ เป็นตน้ 2. สภาพภายในโรงงานท่ีไม่เป็นระเบียบ มีการวางวสั ดุสิ่งของเกะกะ บริเวณปฏิบตั ิงานไม่เหมาะสม การวางเครื่องจกั รกลไม่ ถูกตอ้ งเหมาะสม 3. การจราจรภายในโรงงาน การขนถ่ายวสั ดุสินคา้ มกี ารจดั ระบบที่ไม่ดี

2 4. การระบายอากาศ ภายในโรงงานมีการระบายอากาศไมด่ ี ทาให้อากาศร้อนอบอา้ ว มีกล่ิน มีฝ่นุ ละออง ความช้ืนจะไม่มีการ ระบายออกไปทาให้มผี ลต่อสุขภาพของพนกั งาน 5. แสงสวา่ ง ในโรงงานมแี สงสว่างไมเ่ พยี งพอหรือมีแสงสว่างมากเกินไปทาใหเ้ กิดปัญหาการทางานและสายตา 6. เสียง ในโรงงานบางประเภทมีเสียงดงั จากการทางานของเคร่ืองจกั ร ในขณะทางาน ไม่มีระบบป้องกนั เสียงให้กบั พนักงาน จะทาให้พนกั งานมปี ัญหากบั การรับฟังและโสตประสาท 2. กฎท่ีพนักงานใหม่ควรจดจา กฎข้อท่ี 1 จงกระตือรือร้นและเอาใจใส่ต่อส่ิงท่ีคุณควรเรียนรู้ ถา้ คุณสนใจแต่สิ่งอื่นหรือไม่เต็มใจท่ีจะเรียนรู้ คุณยอ่ มเรียนรู้อย่างผดิ พลาด ดงั น้นั จงสร้างความกระตือรือร้นและความอยากท่จี ะเรียนรู้ กฎข้อท่ี 2 จงถามสิ่งท่ีไม่เขา้ ใจจนเขา้ ใจอย่างชดั เจนอย่าอายที่จะทวนถามในส่ิงท่ีคุณไม่เขา้ ใจจนกว่าคุณจะเขา้ ใจอาจจะขอให้ผูอ้ ธิบายดว้ ยรูป ตวั อยา่ ง หรือ ของจริง เพื่อใหเ้ ขา้ ใจอยา่ งถูกตอ้ งและหลีกเลี่ยงการเขา้ ใจผดิ กฎข้อท3ี่ จงเรียนรู้ให้ถ่องแทใ้ นงานท่ีทาคุณตอ้ งเรียนรู้ในทุกเร่ืองที่เก่ียวขอ้ งกบั การทางาน การจาข้นั ตอนการทางานได้ อย่างแม่นยาและ ปฏิบตั ิอย่างเคร่งคัดเป็ นเรื่องที่สาคัญอยา่ งยิง่ เมื่อใดที่คุณมีปญหาเกี่ยวกับเรื่องการทางานให้ถามเร่ืองที่ไม่ชดั เจนน้ัน กับเพื่อน ร่วมงานหรือหวั หนา้ งานและจงมนั่ ใจว่าคุณไดเ้ รียนรู้ในสิ่งทีถ่ ูกตอ้ งและทาในส่ิงทเี่ รียนรู้น้นั เป็นส่วนหน่ึงของความสามารถของคุณ กฎข้อท4ี่ จงปฏิบตั ิซ้าๆ เป็นเรื่องปกติท่ีคุณจะรู้สึกว่าเป็นการยาก ท่ีจะทางานให้ถูกตอ้ งตามที่ไดเ้ รียนมาในกรณีเช่นน้ี คุณควรฝึกซอ้ มหรือ ฝึกทาซ้าๆหลายๆคร้ังจนกวา่ คุณจะทางาน ไดส้ ะดวกราบรื่นความพยายามเช่นน้ี จะนาคุณไปสู่ความปลอดภยั และความสาเร็จ

3 1. การป้องกนั ตา 3. อุปกรณ์ป้องกนั อนั ตรายส่วนบคุ คล แว่นตาเพอื่ ป้องกนั เศษฝ่นุ และสารเคมที ี่ อาจจะกระเดน็ เขา้ ตา 2. การป้องกนั ระบบทางเดินหายใจและปอด การปฏิบตั ิงานในสถานท่ที ่ีมฝี ่ นุ ไอระเหยของสารเคมี ตอ้ งสวมหนา้ กากที่เหมาะสมเพื่อป้อง กนั มใิ ห้ฝ่นุ และไอระเหยเขา้ สู่ปอด 3. การป้องกนั มือ ตอ้ งสวมถุงมอื ทเ่ี หมาะสมทกุ คร้ังเม่อื ปฏิบตั ิงานกบั สารเคมี ของมคี ม หรือความร้อน 4. หมวก หมวกสวมใส่เพ่อื ป้องกนั เศษฝ่นุ และอุปกรณ์ทีม่ ีจุดหมุนป้องกนั เสน้ ผมพนั กบั เคร่ืองมอื 5. ปลก๊ั อุดหู ปลก๊ั อุดหู เพ่อื ลดเสียง

4 4. กฎความปลอดภัยในการทางาน 1. พนกั งานตอ้ งแต่งกายดว้ ยชุดปฏิบตั ิงานทีเ่ รียบร้อย 2. สวมใส่อุปกรณป์ ้องกนั อนั ตรายส่วนบุคคลท่เี หมาะสม ตลอดเวลาที่ปฏิบตั ิงานทุกคร้ังท่ีมีการผสมสารเคมอี นั ตราย 3. พนกั งานตอ้ งตรวจสภาพและความพร้อม ของเครื่องจกั รอุปกรณ์ก่อนลงมือปฏิบตั ิงานทกุ คร้ัง 4. ตอ้ งยดึ หลกั 5ส.ในการปฏิบตั ิงานอยเู่ สมอ (สะสาง สะดวก สะอาด สุขลกั ษณะ สร้างนิสัย) 5. ห้ามปฏิบตั ิงานหรือเดินเคร่ืองจกั ร โดยไม่มหี นา้ ที่เก่ียวขอ้ ง 6. ห้ามถอดอุปกรณ์ความปลอดภยั ออกจากเคร่ืองจกั ร 7. ไมส่ วมเคร่ืองประดบั ที่จะก่อใหเ้ กิดอนั ตราย เช่น สร้อยคอ สร้อยขอ้ มอื แหวน นาฬิกา 8. ในการทางานจะตอ้ งวางเคร่ืองมือ วสั ดุ อุปกรณ์ ให้เป็นระเบียบ ไมว่ างระเกะระกะและตอ้ งรักษาความสะอาดพ้ืนท่ที ี่ทางาน 9. ไมห่ ยอกลอ้ หรือทะเลาะวิวาทในขณะทางาน 10. ห้ามนาเคร่ืองมอื ท่มี ีคมหรือแหลมใส่ในกระเป๋ าเส้ือหรือกระเป๋ า กางเกง 11. เศษโลหะ เศษขยะ ควรเก็บใส่ภาชนะทจ่ี ดั ไว้ 12. เมื่อพบเห็นส่ิงที่จะก่อให้เกิดอนั ตรายอยบู่ นพ้ืน เช่น น้ามนั หล่อล่ืนจาระบี หกอย่บู นพ้ืนจะตอ้ งเก็บทาความสะอาดทนั ที รวมท้งั ท่อนเหล็กกลม 13. ปฏิบตั ิตามป้ายความปลอดภยั โดยเคร่งครัด 14. เม่ือพบสภาพผิดปกติให้หยุดเคร่ืองจักร เรียกหัวหน้างาน หรือ พนักงานซ่อมบารุงมาทาการแกไ้ ข และคอย จนกว่า ผรู้ ับผดิ ชอบจะมาถึง ห้ามทาการแกไ้ ขโดยลาพงั 15. ห้ามสูบบุหรี่ในทีป่ ฏิบตั ิงานภายในโรงงาน ยกเวน้ บริเวณท่กี าหนด 16. หวั หนา้ งานควบคุมดูแลการปฏิบตั ิงานให้เป็นไปตามกฎ ความ ปลอดภยั 5. การจัดรักษาสถานทที่ างานให้เป็ นระเบียบ 1. สถานท่ีปฏิบตั ิงานตอ้ งปราศจากส่ิงทจ่ี ะก่อใหเ้ กิดอนั ตรายทอ่ี าจจะเป็นอุปสรรคต่อการทางาน และตอ้ งไม่มเี ศษขยะน้ามนั และ น้าบนพ้นื 2. จดั ทางเดินให้โล่งเพอื่ ให้สามารถเขา้ ไปยงั ที่ทางานไดอ้ ยา่ งปลอดภยั 3. ห้องน้าตลอดจนอ่างลา้ งมอื ตอ้ งอยใู่ นสภาพ ทส่ี ะอาดและถูกสุขลกั ษณะ 4. อาหารตอ้ งไมจ่ ดั เก็บไวใ้ นสถานที่ปฏิบตั ิงาน 5. ขยะและของเหลือใชต้ อ้ งนาออกไปนอกเขตปฏิบตั ิงานทกุ วนั 6. ห้ามจดั วางวสั ดุที่ง่ายต่อการลุกไหมใ้ กลก้ บั จุดติดต้งั หลอดไฟหรือวสั ดุ ทม่ี ีความร้อน/มีประกายไฟ 7. ทินเนอร์ แอลกอฮอร์ ทหี่ กเรี่ยราดบนพ้นื ตอ้ งรีบทาความสะอาดให้เรียบร้อย 8. จดั เก็บวสั ดุบนพ้นื ทีไ่ ดร้ ะดบั และอยใู่ นสภาพเรียบร้อยและมนั่ คง 9. จดั ทาลิ่มไมห้ มอน สาหรับรองวสั ดุทเ่ี ป็นรูปวงกลมเพือ่ ป้องกนั การเคล่ือนตวั 10. การจดั รักษาใหเ้ ป็นระเบียบท่ีดี จะช่วยป้องกนั อุบตั ิเหตุได้

5 6. การใช้เคร่ืองมือไฟฟ้าและอปุ กรณ์ไฟฟ้าให้ปลอดภยั 1. ติดต้งั อุปกรณ์ป้องกนั การใชก้ ระแสไฟฟ้าเกินพกิ ดั 2. ส่วนที่เป็นโลหะของแผงสวิทซต์ อ้ งต่อสายดิน 3. เครื่องมือท่ีใชป้ ฏิบตั ิงานเกี่ยวกบั ไฟฟา้ ตอ้ งมฉี นวนหุ้ม 4. อุปกรณ์ไฟฟ้าทมี่ ีเปลือกนอกเป็นโลหะตอ้ งต่อสายดิน 5. มีการตรวจสอบสภาพสายไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าเป็ นประจาเมื่อพบการชารุด หรือมีกระแสไฟฟ้าร่ัวตอ้ งรีบแจง้ เพื่อแกไ้ ข ปรับปรุง 6. อยา่ ใชเ้ คร่ืองมือหรืออุปกรณ์ไฟฟา้ ขณะมอื เปี ยกน้า 7. ตรวจสอบสภาพเคร่ืองมอื ก่อนปฏิบตั ิงาน 7. ความปลอดภยั ในการใช้ตะเกยี งแอลกอฮอล์ 1. ตรวจเชค็ ตะเกียง ดูวา่ มีรอยรั่ว และ มีฝาปิ ดหรือไม่ 2. ควรเติมแอลกอฮอลค์ ร่ึงหน่ึงของตะเกียง 3. ไสต้ ะเกียงไมค่ วรยาวเกิน 1 ซ.ม. เพราะไฟจะลุกมากเกินไปไม่เหมาะกบั การใชง้ าน 4. จุดตะเกียงทกุ คร้ังตอ้ งจุดดว้ ย ไฟแช็ค ห้ามนาตะเกียงมาต่อไฟกนั 5. เวลารนคงั่ ให้เวน้ ระยะห่างให้พอดี ไมค่ วร รนใหต้ ิดกบั ไสต้ ะเกียงมากเกินไป เพราะช้ินงานหรือคงั่ ที่ถูกเปลวไฟจะละลายและ ไหลไปติดกบั ไส้ตะเกียงเวลายกไมข้ ้ึนคงั่ ข้ึน ไส้ตะเกียงจะติดไมข้ ้ึนคงั่ ข้ึนมาดว้ ย ทาให้เกิดไฟลุกไหม้ หรือถา้ พนักงาน สะบดั มอื ให้ไสต้ ะเกียงหลุดตะเกียงกจ็ ะลม้ ทาให้เกิดอนั ตรายได้ 6. หา้ มหยอกลอ้ กนั ขณะปฏิบตั ิงาน 7. ดบั ตะเกียงทุกคร้ังตอ้ ง ใชฝ้ าตะเกียงครอบดบั ไดท้ นั ที หา้ ม ใชป้ าก มือโบก เพราะดบั ยาก และอาจทาใหต้ ะเกียงลม้ 8. ทาความสะอาดทกุ คร้ังหลงั เลิกงาน 8. ความปลอดภยั ในการทางานกบั หัวเป่ าไฟ 1. ทุกคร้ังทีใ่ ชง้ าน ให้ตรวจสอบความเรียบร้อยก่อน 2. ห้ามทาน้ามนั หรือจาระบี ทห่ี วั เป่ าไฟ 3. เมื่อจุดไฟทีห่ ัวเป่ าไฟ ใหเ้ ปิดท่อแกส็ ก่อน จึงเปิดท่ออ๊อกซิเจนตาม 4. เมอื่ หยดุ ใชง้ านให้ปิดท่ออ๊อกซิเจน ก่อน แลว้ ปิดทอ่ แกส๊ ตาม

6 9. ความปลอดภยั ในการใช้เครื่องเจียร 1. ผปู้ ฏิบตั ิงานตอ้ งแต่งกายใหเ้ รียบร้อย 2. สวมผา้ ปิดจมูก และ แว่นตาป้องกนั เศษเหลก็ กระเดน็ เขา้ ตา ทุกคร้ัง 3. ก่อนใชเ้ คร่ืองเจียรทุกคร้ังตอ้ งตรวจดูความพร้อมทุกคร้ังเสมอ 4. เริ่มลบั งานตามแบบ ในขณะลบั งานหากช้ินงานยงั ร้อน ให้จุ่มน้าหล่อเยน็ แลว้ 5. จึงลบั ต่อไปทาเช่นน้ีไปเรื่อยๆ จนกว่าการลบั ช้ินงานจะแลว้ เสร็จ 6. หลงั ใชง้ านทาความสะอาดเคร่ืองเจียรทุกคร้ัง 7. ถา้ ชิ้นงานมขี นาดเล็กควรใชค้ ีมจบั แทนใชม้ ือ ไมค่ วรป้อนชิ้นงานเขา้ ดา้ นขา้ งของหินเจียร เพราะจะทาให้หินเจียรแตกง่าย 8. อยา่ กดชิ้นงานกบั หินเจียรแรงมากไป เพราะจะทาให้หินเจียรชารุดหรือช้ินงานสะบดั ออก 9. หลงั เลิกใชเ้ คร่ืองเจียรใหป้ ิ ดสวิตซ์มอเตอร์ทกุ คร้ัง 10. ความปลอดภยั ในการทางานกบั มอเตอร์ขัด 1. พนกั งานตอ้ งระมดั ระวงั หา้ มหยอกลอ้ กนั ในขณะปฏิบตั ิงาน 2. ตรวจสอบสภาพ ความพร้อมของถุงมือท่ีใชใ้ ห้เรียบร้อยก่อนเริ่มงาน ตอ้ งไม่มีเศษดา้ ยโผล่ออกมา เพราะอาจเก่ียวกบั แกน มอเตอร์ 3. ทุกคร้ังทีเ่ ปลี่ยนผา้ ขดั หรือลูกขดั ตอ้ ง ปิ ดสวติ ท์มอเตอร์ ทกุ คร้ังเพ่ือความปลอดภยั ต่อตวั พนงั งานและเพ่อื นร่วมงานดว้ ย 4. สวมผา้ ปิดจมูก และ หมวก ทุกคร้ังในขณะปฏิบตั ิงาน 11. ความปลอดภยั ในการทางานกับเคร่ืองเชื่อมไฟฟ้า 1. ห้ามเชื่อมในบริเวณทม่ี สี ารไวไฟหรือเช้ือเพลิงอาจลุกไหมไ้ ด้ 2. ห้ามเช่ือมภาชนะบรรจุ หรือเคยบรรจุน้ามนั เช้ือเพลิง หรือสารไวไฟ 3. ห้ามเช่ือมในทอี่ บั อากาศ เวน้ แต่ไดจ้ ดั ใหม้ ีการระบายอากาศทเ่ี หมาะสม 4. รักษาความสะอาดบริเวณท่ีทาการเช่ือม 5. ตรวจสภาพสายไฟบ่อยๆ หากสายร้อนแสดงว่ามีกระแสไฟฟ้าไหลผา่ นเกินอตั รา หรือสายชารุด ควรเปลี่ยนสายใหม่ 6. สวมอุปกรณ์คุม้ ครองความปลอดภยั ส่วนบุคคลตามสภาพงานเพ่ือป้องกนั เศษวสั ดุกระเด็นเขา้ ตาและป้องกนั ประกายไฟจาก การเชื่อม 7. ระวงั อยา่ ใหเ้ ส้ือผา้ ทส่ี วมใส่เป้ือนน้ามนั เพราะทาใหต้ ิดไฟง่าย 8. รักษาเคร่ืองเชื่อมอยา่ ใหช้ ้ืน 9. อยา่ ปรับกระแสไฟฟา้ ของเคร่ืองเชื่อมขณะทีก่ าลงั เชื่อมอยู่ 10. ในกรณีเคร่ืองชารุด อยา่ พยายามซ่อมเอง ควรให้ช่างท่รี ับผดิ ชอบโดยตรงทาการตรวจเชค็ และซ่อม 11. หัวหนา้ งานมหี นา้ ทีต่ อ้ งควบคุมพนกั งานปฏิบตั ิตามกฎดงั กล่าว

7 12. ความปลอดภยั เกี่ยวกับเคร่ืองเช่ือมแก๊ส 1. หา้ มเชื่อมแก๊สในบริเวณที่มีสารไวไฟ และเช้ือเพลิงที่อาจลุกไหมไ้ ดง้ ่าย ในกรณีท่ีจาเป็น ตอ้ งมีมาตรการป้องกนั อคั คีภยั ท่ี เหมาะสม 2. หา้ มนาอุปกรณท์ ่ีรั่วหรือชารุดมาใชง้ าน 3. ระวงั อยา่ ให้สายแกส๊ พนั เป็นปมหรือเกลียว 4. หา้ มเช่ือมโดยไม่ใส่แวน่ สาหรับงานเช่ือม 5. ห้ามแขวนหวั เชื่อมบนอุปกรณป์ รับความดนั 6. ห้ามเชื่อมภาชนะบรรจุ หรือท่ีเคยบรรจุ น้ามนั เช้ือเพลิงสารไวไฟ 7. หา้ มซ่อมวาลว์ หรือปรับความดนั ให้เปล่ียนอุปกรณ์ทีช่ ารุดทนั ที 8. ตอ้ งระมดั ระวงั การขนยา้ ยถงั แกส๊ 9. หา้ มยกถงั แก๊สโดยการผกู ท่อี ุปกรณป์ รับความดนั หรือวาลว์ ปิดเปิด 10. หา้ มเชื่อมในบริเวณที่อบั อากาศ เวน้ แต่ไดจ้ ดั ให้มกี ารระบายอากาศทเ่ี หมาะสม 11. หากไมแ่ น่ใจว่าปลอดภยั ควรปรึกษาหวั หนา้ งานก่อน 12. หัวหนา้ งานมหี นา้ ที่ตอ้ งควบคุมพนกั งานปฏิบตั ิตามกฎดงั กล่าว 13. ข้อพึงระวังในแต่ละข้นั ตอนกระบวนการผลติ 1. การเตรียมงานตวั อย่าง(ออกแบบ) 2. การทาแม่พิมพ์ยาง - ระมดั ระวงั อุปกรณ์ทีม่ คี วามแหลมคม 3. การฉีดเทยี น - ระมดั ระวงั ความร้อนจากเทียน 4. การทาต้นเทยี นชิน้ งาน - สวมผา้ ปิ ดจมกู เน่ืองจากมีกลิ่นและควนั จากการติดเทยี น 5. การทาแม่พิมพ์ปูน(การผสมปนู ) - สวมผา้ ปิดจมูกเน่ืองจากมฝี ่นุ ละอองจากปนู ปลาสเตอร์ 6. การหล่อตวั เรือนโลหะ - สวมหนา้ กากชนิดป้องกนั ฟมู จากโลหะ - สวมถุงมือกนั ความร้อน 7. การอบแม่พมิ พ์ปูน/ล้างงาน - ใส่ผา้ ปิดจมกู - ใส่ถุงมอื ป้องกนั สารเคมี จากการชะลา้ งปูนพลาสเตอร์ - ใส่แวน่ ตากนั สารเคมีกระเด็นเมื่อผสมสารและลา้ งงานดว้ ยสารเคมี 8. การตดั ชิน้ งาน - ระมดั ระวงั ความคมจากกรรไกร

8 9. การตกแต่งตวั เรือน - ใส่ผา้ ปิดจมูกเพื่อป้องกนั ฝ่นุ - ระมดั ระวงั ความร้อนจากเปลวไฟ - ระมดั ระวงั เคร่ืองมือท่ีมีความแหลมคม 10. การฝังอญั มณี - ระมดั ระวงั เคร่ืองมือที่มีความแหลมคม 11. การขัดตวั เรือน - ระมดั ระวงั ถุงมือและปลอกน้ิวอาจเกี่ยวกบั มอเตอร์ขดั - สวมใส่ผา้ ปิ ดจมูกทุกคร้ังป้องกนั ฝ่นุ 12. การชุบ - ระมดั ระวงั สารเคมีกระเดน็ เขา้ ตา - สวมผา้ ปิ ดจมูกทุกคร้ังเพอื่ ป้องกนั ไอระเหยจากเคมี 14. องค์ประกอบของไฟ องค์ประกอบของไฟมี 3 อย่างคือ 1. ออกซิเจน ( Oxygen ) ไมต่ ่ากว่า 16 % (ในบรรยากาศ ปกติจะมอี อกซิเจนอยู่ ประมาณ 21 %) 2. เช้ือเพลิง ( Fuel ) ส่วนที่เป็นไอ (เช้ือเพลิงไม่มไี อ ไฟไม่ติด) 3. ความร้อน ( Heat ) เพียงพอทาให้เกิดการลุกไหม้ ไฟจะติดเมือ่ องคป์ ระกอบครบ 3 อยา่ ง ทาปฏิกิริยาทางเคมีต่อเนื่องเป็นลูกโซ่( Chain Reaction ) ระยะการเกดิ ไฟไหม้ 3 ระยะ ดังนี้ 1. ไฟไหมข้ ้นั ตน้ คือ ต้งั แต่เห็นเปลวไฟจนถึง 4 นาที สามารถดบั ไดโ้ ดยใชเ้ ครื่องดบั เพลิงเบ้ืองตน้ แต่ผใู้ ชจ้ ะตอ้ งเคย ฝึกอบรมการใชเ้ ครื่องดบั เพลิงมาก่อน จึงจะมีโอกาสระงบั ไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธิภาพ

9 2. ไฟไหมข้ ้นั ปานกลางถึงรุนแรง คือ ระยะเวลาไฟไหมไ้ ปแล้ว 4 นาที ถึง 8 นาที อุณหภูมิจะสูงมากเกินกว่า 400 องศาเซลเซียส หากจะใชเ้ ครื่องดบั เพลิง เบ้ืองตน้ ตอ้ งมคี วามชานาญ และตอ้ งมอี ุปกรณ์ จานวนมากเพยี งพอจึงควร ใช้ ระบบดบั เพลิงข้นั สูง จึงจะมีความปลอดภยั และมปี ระสิทธิภาพมากกว่า 3. ไฟไหมข้ ้นั รุนแรง คือ ระยะเวลาไฟไหมต้ ่อเนื่องไปแลว้ เกิน 8 นาที และยงั มีเช้ือเพลิงอีกมากมายอุณหภูมิจะสูง มากกวา่ 600 องศาเซลเซียส ไฟจะลุกลามขยายตวั ไปทุกทศิ ทางอยา่ งรุนแรง 15. ประเภทของไฟ ไฟมี 4 ประเภท คือ A B C D ซึ่งเป็ นข้อกาหนดมาตรฐานสากล ไฟประเภท A คือ ไฟท่ีเกิดจากเช้ือเพลิงที่มีลกั ษณะเป็ นของแขง็ เช้ือเพลิงธรรมดา เช่น ฟืน ฟาง ยาง ไม้ ผา้ กระดาษ พลาสติก หนงั สติ๊ก หนงั สัตว์ ปอ นุ่น ดา้ ย รวมท้งั ตวั เราเอง วธิ ีดบั ไฟประเภท A ท่ดี ีท่สี ุด คือ การลดความร้อนโดยใชน้ ้า ไฟประเภท B คือ ไฟทเี่ กิดจากเช้ือเพลิงท่ีมีลกั ษณะเป็นของเหลวและก๊าซ เช่น น้ามนั ทกุ ชนิด แอลกอฮอล์ ไฟประเภท C ทนิ เนอร์ ยางมะตอยจาระบี และกา๊ ซติดไฟทุกชนิด ไฟประเภท D ไฟประเภท K วธิ ดี ับไฟประเภท B ที่ดีที่สุด คือ กาจดั ออกซิเจน ทาใหอ้ บั อากาศ โดยคลุมดบั ใชผ้ งเคมีแห้ง ใชฟ้ องโฟม คลุม คือ ไฟทีเ่ กิดจากเช้ือเพลิงที่มีลกั ษณะเป็นของแข็งท่ีมกี ระแสไฟฟา้ ไหลอยู่ เช่น อุปกรณ์ไฟฟ้า ทกุ ชนิด การอาร์คการสปาร์ค วธิ ดี บั ไฟประเภท C ท่ดี ีที่สุด คือ ตดั กระแสไฟฟ้าแลว้ จงึ ใชก้ า๊ ซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ น้ายาเหลวระเหยท่ีไม่มีCFCไล่ออกซิเจนออกไป คือไฟที่เกิดจากเช้ือเพลิงท่ีมีลกั ษณะเป็ นโลหะและสารเคมีติดไฟ เช่น วตั ถุระเบิด, ป๋ ุยยเู รีย (แอมโมเนียมไนเตรต) , ผงแมกนีเซียม ฯลฯ วธิ ีดบั ไฟประเภท D ทีด่ ีที่สุด คือ การทาให้อบั อากาศ หรือใชส้ ารเคมีเฉพาะ (หา้ มใชน้ ้า) คือไฟท่เี กิดจากเช้ือเพลิงประกอบอาหาร เช่น น้ามนั พืช น้ามนั เตา วธิ ดี บั ไฟประเภท K การทาใหอ้ บั อากาศ หรือใชส้ ารเคมีเฉพาะ (หา้ มใชน้ ้า)

10 16. วิธีการดบั ไฟ จึงมีอยา่ งนอ้ ย 3 วธิ ี คือ 1. ทาให้อบั อากาศ ขาดออกซิเจน 2. ตดั เช้ือเพลิง กาจดั เช้ือเพลิงให้หมดไป 3. ลดความร้อนทาใหเ้ ยน็ ตวั ลง ป้ายทาง อพย หนีไฟ พ ช่วยเหลือ จุดรวม ชีวติ พล ภาพแสดงการฝึ กซ้อมอพยพหนไี ฟ 17. ข้นั ตอนการปฏิบัตติ นเมื่อพบเหตุเพลงิ ไหม้ ถ้าดบั เองได้ แจ้งหวั หน้างาน ให้ใช้ถงั ดับเพลงิ ทอี่ ย่ใู กล้สุด รอฟังสัญญาณให้อพยพ ดบั ไฟได้ทนั ที คือ ประกาศเสียงตามสาย หรือ สัญญาณแจ้งเหตทุ ดี่ งั ถ้าดับเองไม่ได้ ตดิ ต่อกนั ยาวกว่า 10 วนิ าที ให้แจ้งหัวหน้างาน จากน้ันให้ไปรวมกันทจ่ี ดุ รวมพล

11 อปุ กรณ์ฉุกเฉิน สัญญาณแจ้งเหตเุ พลงิ ไหม้ ใช้ในกรณแี จ้ง เพื่ออพยพหนไี ฟไปยงั ทจี่ ุดรวมพล ดึง ปลด กด ส่าย ถงั ดับเพลงิ 18. ข้นั ตอนการปฏบิ ตั ิเมื่อบาดเจ็บจากการทางาน แจ้งหัวหน้างาน บาดเจ็บเลก็ น้อย บาดเจ็บรุนแรง บาดเจบ็ แต่สามารถ รุนแรงและ ตดิ ต่อที่ เคลื่อน ย้าย ไม่สามารถ กระเป๋ ายาใน ผ้ปู ่ วยได้ เคลื่อน ย้าย ผู้ป่ วยได้ พื้นที่ โทรศัพท์แจ้ง พยาบาล ตดิ ต่อห้อง วชิ าชีพ ที่ พยาลของ จุดปฐมพยาบาล และกระเป๋ ายา หมายเลข บริษัทฯ ภายใน 5503

12 19. โรคจากการทางาน โรคจากการทางาน หมายถึง โรคหรือความเจ็บป่ วยท่ีเกิดข้ึนกบั ผูป้ ฏิบตั ิงานในระหวา่ งปฏิบตั ิงานหรือนอกเวลาปฏิบตั ิงาน โดยมีสาเหตุมาจาก สภาวะแวดล้อมในการทางานท่ีไม่เหมาะสม หรือสภาพของงาน ตลอดจนการทางานท่ีใชแ้ รงงานหนักเกิน ความสามารถของร่างกาย การทจี่ ะตดั สินใจไดว้ า่ เป็น “โรคจากการทางาน” หรือไมน่ ้นั โดยสรุปจะตอ้ งประกอบดว้ ยสาเหตุหลกั ๆ ดงั ต่อไปน้ี 1. ตอ้ งมอี าการของโรคหรือความเจบ็ ป่ วยเกิดข้ึน ซ่ึงเป็นผลโดยตรงจากการทางาน 2. การทางานน้นั เป็นการทางานให้นายจา้ ง 3. อาการของโรคหรือความเจ็บป่ วยเกิดข้ึนในขณะปฏิบตั ิงานหรือเม่ือไดท้ างานน้นั มาเป็นระยะเวลาท่ีก่อให้เกิดโรคได้ หรือแมก้ ระทง่ั ลาออกจากงานน้นั แลว้ จึงเกิดอาการโรคข้ึนภายหลงั 4. ตอ้ งมีสาเหตุมาจากการทางาน - สภาวะแวดลอ้ มในการทางานท่ีไม่เหมาะสม เช่น มีฝ่นุ ละออง ไอระเหย เขมา่ ควนั เสียงดงั แสงจา้ เช้ือโรคต่างๆ ทม่ี ีอยใู่ นบรรยากาศของการทางานเป็นจานวนมาก เป็นตน้ - สภาพของงานทป่ี ฏิบตั ิไม่เหมาะสม เช่น สภาพการนง่ั ทางานบนเกา้ อ้ีทอ่ี อกแบบไม่เหมาะสม สภาพเครื่องจกั รไม่ มีความสมดุลกบั โครงสร้างร่างกายของผปู้ ฏิบตั ิ สภาพการทางานทซ่ี ้าๆ ซากๆ ไม่เหมาะสมกบั สรีระของร่างกาย 20. การปฐมพยาบาลเบื้องต้น การปฐมพยาบาล หมายถึง การให้การรักษาพยาบาล หรือการช่วยเหลือแก่ผบู้ าดเจ็บหรือผปู้ ่ วยโรคกะทนั หัน เพื่อเป็นการ ช่วยชีวิตในข้นั ตน้ และเป็ นการป้องกนั ไม่ให้อาการของผูบ้ าดเจ็บเลวร้ายลงไปกวา่ เดิม ก่อนท่ีจะนาส่งโรงพยาบาล หรือส่งให้แพทย์ รักษาต่อไป การปฐมพยาบาลเมื่อสารเคมถี ูกผวิ หนัง 1. ลา้ งดว้ ยน้าสะอาดนาน ๆ อยา่ งนอ้ ย 15 นาที 2. อยา่ ใชย้ าแกพ้ ษิ ทางเคมี เพราะความร้อนทีเ่ กิดจากปฏิกิริยาอาจทาให้เกิดอนั ตรายมากข้ึน 3. บรรเทาอาการปวดและรักษาอาการช็อค 4. ปิดแผล แลว้ นาส่งโรงพยาบาล การปฐมพยาบาลเม่ือสารเคมเี ข้าตา 1. หา้ มขย้ตี าเดด็ ขาดเพราะการขย้ตี าจะเป็นการเร่งปฏิกิริยาของสารเคมี 2. ถา้ สารเคมีเขา้ ตาซา้ ยก็เอียงหนา้ ดา้ นซา้ ยลงและเทน้าสะอาดไหลผา่ นตาปริมาณมากๆหรืออยา่ งน้อย 15 นาที โดยการ เปิดน้ากอ๊ กไหลรินค่อย ๆ 2. รีบไปพบจกั ษุแพทยท์ นั ที

13 การปฐมพยาบาล แผลไฟไหม้ นา้ ร้อนลวก 1. แช่บริเวณที่ถูกลวกในน้าเยน็ ที่สะอาด หรือใชผ้ า้ ชุบน้าเยบ็ ประคบ 2. ถา้ ผวิ หนงั ไม่พองหรือหลุดออก ให้ลา้ งแผลใหส้ ะอาด 3. ถา้ เป็นตุ่มพองไมค่ วรเจาะ ปล่อยใหแ้ ห้งและหลุดร่อนไปเอง 4. ถา้ เป็นตุ่มพองใหญ่ใหเ้ จาะเอาน้าออกและทาแผลใหส้ ะอาด การปฐมพยาบาลผู้ถูกกระแสไฟฟ้าซ๊อต 1. รีบช่วยผบู้ าดเจบ็ ออกจากกระแสไฟฟ้าใหเ้ ร็วทส่ี ุด ดว้ ยวสั ดุท่แี ห้ง ไม่เป็นส่ือทางไฟฟ้า 2. ใหผ้ บู้ าดเจบ็ นอนหงาย ถา้ ไม่หายใจใหร้ ีบผายปอด และรีบส่งโรงพยาบาลทนั ที 3. ถา้ ผบู้ าดเจ็บหายเป็นปกติกต็ อ้ งนาผบู้ าดเจ็บส่งโรงพยาบาล เพราะอาจเกิดอาการช็อคข้ึนได้ การปฐมพยาบาลผ้ปู ่ วยทเ่ี ป็ นลม 1. ห้ามคนมุงดู พาเขา้ ในทีร่ ่มให้อากาศถ่ายเทไดส้ ะดวก 2. คลายเส้ือผา้ ออกใหห้ ลวม 3. จดั ใหน้ อนตะแคงหนา้ ไปขา้ งใดขา้ งหน่ึง เพื่อป้องกนั ในเรื่องของทางเดิน หายใจอุดตนั 4. ใชผ้ า้ ชุบน้าเช็ดหนา้ ผาก มือและเทา้ ถา้ อาการไมด่ ีข้ึน รีบนาส่งโรงพยาบาล 21. การบริหารร่างกายเพื่อลดความเม่ือยล้าเบื้องต้น 1. ตา การดูแลสุขภาพตา 1. จดั สถานท่ีทางานให้มีแสงสวา่ งเพยี งพอ และสบายตา 2. ไมม่ องของสีขาวกลางแดด หรือมองแสงสว่างจา้ นานๆ 3. ไมเ่ อามือหรือผา้ สกปรกเช็ดหรือขย้ตี า 4. ไม่ไวผ้ มยาวปรกหนา้ เพราะจะทาใหม้ องไมถ่ นดั และเป็นช่องทางให้ความสกปรกเขา้ ตาได้ 5. เมือ่ ทางานท่ีตอ้ งใชส้ ายตาติดต่อกนั นานๆ ควรมกี ารพกั สายตาเป็นระยะ ๆ โดยการ - หลบั ตาท้งั สองขา้ งเป็นแบบหลบั ตาน่ิง - มองเหม่อโดยการมองไปขา้ งหนา้ ให้สุดสายตา ไม่มองจุดใดจุดหน่ึง เพื่อให้กลา้ มเน้ือรูม่านตาไดพ้ กั และไดข้ ยาย เต็มที่ - มองไกลเกิน 6 เมตร โดยมองผา่ นทางหน้าต่าง ดูภาพทไ่ี กลสุดสายตา แมจ้ ะต้งั ใจหรือไมก่ ็ตามกลา้ มเน้ือตาจะได้ พกั

14 6. รับประทานอาหารท่ีมีประโยชน์ บารุงสายตา เช่น ผกั ใบเขียว และผลไมท้ ่ีมีสีเหลือง จะเป็ นแหล่งของวิตามินเอ และเบตา้ แคโรทีน ทบี่ ารุงสายตาไดด้ ี 7. หลงั จากเลิกงานในแต่ละวนั ไม่ควรมีกิจกรรมท่ีต้องใชส้ ายตามาก ๆ และควรมีเวลาพกั ผ่อนนอนหลบั ให้เต็มท่ี เพราะตาจะไดพ้ กั แบบผอ่ นคลายมากท่สี ุด 2. คอ และ ไหล่ อาการปวดคอ และไหล่ เกิดจากหลายสาเหตุ ท้งั จากการท่กี ลา้ มเน้ือคอทางานมากเกินไป ดงั น้นั จึงมี ท่าบริหารคอและไหล่ เพื่อท่ีจะไดบ้ รรเทาจากการเจบ็ ปวด ท่าบริหารคอและไหล่ ท่าที่ 1 1. หมุนศีรษะไปทางขวาชา้ ๆคา้ งไว้ 3 วนิ าที 2. หมุนกลบั มาหนา้ ตรงหยดุ 3. หมนุ ศีรษะไปทางซา้ ยชา้ ๆ คา้ งไว้ 3 วินาที ท่าที่ 2 1. กม้ ศรี ษะพยายามใหค้ างสัมผสั อกหยดุ คา้ งไวส้ กั ครู่ 3 วินาที 2. เงยหนา้ ข้ึนชา้ ๆ ไปดา้ นหลงั เทา่ ที่จะทาได้ ท่าท่ี 3 1. วางมือบนหนา้ ผาก ผลกั ศรี ษะตา้ นกบั มอื โดยศรี ษะ ไม่เคลื่อนไหว คา้ งไว้ 10 วินาที 2. ทาซ้ากนั 3 คร้ัง ท่าท่ี 4 1. ประสานมอื บริเวณทา้ ยทอยผลกั ศรี ษะตา้ นกบั มือ โดยศีรษะไม่เคล่ือนไหวคา้ งไว้ 10 วินาที ท่าที่ 5 1. วางมอื ขวาท่ดี า้ นขวาของใบหนา้ ผลกั ศีรษะตา้ นกบั มือ โดยศรี ษะไมเ่ คล่ือน คา้ งไว้ 10 วนิ าที 2. พกั แลว้ เร่ิมทาใหม่ ในดา้ นซา้ ย 3. ทาซ้ากนั 2-3 รอบ

15 ท่าท่ี 6 1. เอียงคอไปดา้ นขวา พยายามใหห้ ูเขา้ ใกลไ้ หล่ หยดุ พกั สักครู่ เอียงคอกลบั ศีรษะตรง 2. เอียงคอไปดา้ นซา้ ย เช่นกนั คิดเป็น 1 รอบ 3. ทาซ้า ขอ้ 1-2 ครบ 5 รอบ ท่าที่ 7 1. หมุนคอเป็นรูปวงกลมไปดา้ นขวา 3 รอบ 2. หมนุ คอรูปวงกลมไปดา้ ยซา้ ย 3 รอบ หยดุ พกั คิดเป็น 1 คร้ัง 3. ทาซ้าขอ้ 1-2 3 คร้ัง ท่าที่ 8 1. ยกแขน 2 ขา้ ง ออกนอกลาตวั งอขอ้ ศอกขนานกบั พ้นื น้ิวมือเก่ียวกนั ดึงตา้ นกนั นบั 1-10 2. ทาซ้า 3 คร้ัง ท่าท่ี 9 1. ยกแขน 2 ขา้ ง ออกนอกลาตวั งอขอ้ ศอกขนานกบั พ้ืน ฝ่ามือเสมอกนั ออกแรงตา้ นกนั นบั 1-7 3. ทาซ้า 3 คร้ัง ท่าท่ี 10 1. ยนื ตรง หายใจเขา้ ลึกๆ พร้อมกบั ยกไหล่ข้ึนสูงเท่าท่ี จะทาได้ 2. หายใจออกพร้อมกบั ลดไหล่ลง 3. ทาซ้า ขอ้ 1-2 20 คร้ัง

16 อบุ ัตภิ ยั ไม่ใช่เคราะห์กรรม เกดิ จากการกระทาโดยประมาท จติ ใจท่วี ติ กกงั วล ความเจบ็ ป่ วย การนอนหลับพกั ผ่อนทไี่ ม่เพยี งพอ อาจก่อให้เกิดอุบตั เิ หตุกับท่านได้ การไม่ฝึ กปฏิบตั ติ ามกฎ และระเบยี บในเรื่องความปลอดภยั อาจจะเป็ นอันตรายต่อตวั ท่านและผู้อื่น การกระทาทไ่ี ม่ปลอดภยั เป็ นสาเหตุหลกั ของอบุ ตั เิ หตุทง้ั ปวง ป้องกนั ดีกว่าการแก้ไข คดิ ก่อนทา จาใส่ใจ ปลอดภยั ไว้ก่อน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook