Chanthaburi
สารบญั เรื่อง หนา้ 1 จันทบุรี 1 1.1 ประวตั ิศาสตร์ 2 2 ภูมศิ าสตร์ 4 2.1 ลกั ษณะภูมิประเทศ 5 2.2 ลกั ษณะภมู ิอากาศ 6 2.3 ทรัพยากรดินและน้า 7 2.4 สัตวป์ ่ าและพนั ธุ์พชื 8 3 การเมอื งการปกครอง 3.1 การปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน 9 3.2 การปกครองระดบั ชาติ 10 4 เศรษฐกจิ 10 4.1 เกษตรกรรม 11 4.2 ประมง 12 4.3 อญั มณี 13 4.4 การท่องเท่ียว 14 5 โครงสร้างพ้ืนฐาน 15 5.1 การศึกษา 5.2 การคมนาคมและการสื่อสาร 16 6 ประชากร 17 6.1 ภาษา 7 ประเพณแี ละวฒั นธรรม 18 7.1 เทศกาลและประเพณี 18 7.2 อาหาร 7.3 การแสดงพ้นื บา้ น 19 7.4 ศาสนา 20 7.4 ภมู ิปัญญาทอ้ งถ่ิน 21 8. สถานที่ทอ่ งเที่ยว 23 24 25
จังหวดั จนั ทบุรี เป็ นจงั หวดั ทางชายฝั่งทะเลภาคตะวนั ออกของประเทศไทย มีเน้ือที่ 6,388 ตารางกิโลเมตร สภาพภูมิ ประเทศประกอบไปดว้ ยป่ าไม้ ภูเขา ที่ราบสูง ท่ีราบลุ่มน้า และที่ราบชายฝ่ังทะเล ในส่วนของพ้ืนท่ีป่ าไมม้ ี ประมาณ 3 ใน 10 ของพ้ืนท่ีท้งั จงั หวดั [3] มีอาณาเขตติดต่อกบั จงั หวดั ฉะเชิงเทรา และสระแกว้ ทางทิศเหนือ ทิศตะวนั ออกติดกบั จงั หวดั ตราดและประเทศกมั พูชา ทิศใตต้ ิดกบั อ่าวไทย และทิศตะวนั ตกติดกบั จงั หวดั ระยองและชลบุรี อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 238 กิโลเมตร ประชากรส่วนใหญ่ของจงั หวดั จนั ทบุรีอาศยั อยทู่ างตอนใตข้ องจงั หวดั [4] โดยอาชีพท่ีประชากรในจงั หวดั นิยมประกอบอาชีพมากที่สุดคือ เกษตรกรรมและประมง[5] และศาสนาที่มีการนบั ถือมากท่ีสุดในจงั หวดั คือศาสนาพุทธ 1
ประวตั ศิ าสตร์ จนั ทบุรีเป็นเมืองที่มีประวตั ิความเป็นมาท่ียาวนาน ก่อต้งั โดยชนชาติชอง จงั หวดั จนั ทบุรีเป็นเมืองท่ีมี ความสาคญั ต่อประวตั ิศาสตร์ไทยอยู่ 3 คร้ัง คือ คร้ังท่ี 1 สมเดจ็ พระเจา้ กรุงธนบุรีใชจ้ งั หวดั จนั ทบุรีในการ รวบรวมไพร่พลและเสบียงอาหาร คร้ังท่ี 2 เกิดสงครามอานมั สยามยทุ ธในรัชสมยั ของพระบาทสมเดจ็ พระ นง่ั เกลา้ เจา้ อยหู่ วั และคร้ังท่ี 3 ฝร่ังเศสยดึ เมืองจนั ทบุรีเป็ นเมืองประกนั หลงั จากเกิดวกิ ฤตการณ์ปากน้าในรัช สมยั ของพระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ดว้ ยความที่จงั หวดั จนั ทบุรีมีความสาคญั ต่อเหตุการณ์ ทางประวตั ิศาสตร์หลายเหตุการณ์และมีความหลากหลายทางภมู ิประเทศ ส่งผลใหจ้ งั หวดั จนั ทบุรีเป็ น จงั หวดั ท่ีมีแหล่งทอ่ งเที่ยวท้งั ทางธรรมชาติและทางวฒั นธรรมนคือ พระเจา้ พรหมทตั (พ.ศ. 1349-1399) คร้ันถึงปี พ.ศ. 1800 ไดม้ ีการยา้ ยถิ่นฐานมาสร้างเมืองใหม่ที่บา้ นหวั วงั ตาบลพุงทลาย ซ่ึงอยใู่ กลก้ บั แม่น้า จนั ทบุรีในปัจจุบนั .ตอ่ มาปี พ.ศ. 2200 ไดย้ า้ ยมาสร้างเมืองใหม่ที่บา้ นลุ่ม อยทู่ างฝ่ังตะวนั ตกของแม่น้า จนั ทบุรี ในปี พ.ศ. 2310 หลงั จากกรุงศรีอยธุ ยา สมเด็จพระเจา้ ตากสินมหาราชไดเ้ ขา้ ยึดเมืองจนั ทบุรีเพอ่ื ใช้ เป็นแหล่งสะสมเสบียงอาหารและรวบรวมกาลงั พลในการกอบกกู้ รุงศรีอยธุ ยาคืนจากพม่า ในคราวน้นั เจา้ เมืองจนั ทบุรีนามวา่ เจ้าขรัวหลาน(ยศเจา้ เมืองจนั ทบุรีเดิม) ช่ึงราษฎรเลือกข้ึนเมื่อเสียกรุงศรีอยธุ ยา โดยหวงั วา่ พระยาจนั ทบูร จะช่วยปกป้ องรักษาเมืองจนั ทบุรีให้อยรู่ อดสืบตอ่ ไป ไดต้ ่อตา้ นกองทพั ของสมเด็จพระเจา้ ตากสินมหาราช โดยไดพ้ ยายามทาทุกวถิ ีทางเพ่อื ใหเ้ มืองจนั ทบุรีอยรู่ อดเป็นอิสระ รักษาแผน่ ดินไวใ้ หช้ น ชาติบูรพา แต่สุดทา้ ยกต็ อ้ งปราชยั พา่ ยแพแ้ ก่กองทพั ของสมเด็จพระเจา้ ตากสินมหาราช โดยพระองคท์ รงใช้ พญาชา้ งศึกบุกชนกาแพงเมืองจนสามารถเขา้ ตีเมืองเอาไวไ้ ดส้ าเร็จ เจา้ เมืองจนั ทบุรีไดห้ ลบภยั ไปอาณาจกั ร กมั พชู าจนถึงแก่อสญั กรรม เมืองจนั ทบุรีจึงตกเป็นของสยามนบั แตน่ ้นั เป็นตน้ มา ต่อมาในปี พ.ศ. 2436 ฝรั่งเศสไดเ้ ขา้ ยดึ เมืองจนั ทบุรีไวน้ านถึง 11 ปี [6] เนื่องจากสยามมีขอ้ พพิ าทเรื่อง ดินแดนฝ่ังขวาของแม่น้าโขง โดยฝร่ังเศสกล่าวหาวา่ สยามล่วงล้าดินแดนอาณานิคมของฝรั่งเศส ส่วนสยาม ไดอ้ า้ งวา่ ดินแดนดงั กล่าวเป็ นของสยาม ฝ่ ายสยามเห็นวา่ จะต่อสู้ทางทหารฝรั่งเศสไม่ไดจ้ ึงขอเปิ ดการเจรจา ทางฝร่ังเศสยน่ื คาขาด โดยฝ่ ายสยามตอ้ งยอมยกดินแดนที่เป็นขอ้ พพิ าทรวมท้งั เกาะท้งั หมดในลาน้าโขง พร้อมเงินอีกหน่ึงลา้ นฟรังกแ์ ละสามลา้ นบาท โดยจนกวา่ จะดาเนินการเสร็จฝรังเศสจะยดึ เมืองจนั ทบุรีไว้ ก่อน แต่เมื่อทางสยามดาเนินการเสร็จ ฝร่ังเศสไม่ไดถ้ อนกาลงั ออก ฝ่ ายสยามจึงตอ้ งยอมยกเมืองตราดและ เมืองประจนั ตคีรีเขตร์ (เกาะกง) เพอื่ แลกกบั เมืองจนั ทบุรี และอีกหน่ึงปี ต่อมาสยามยอมยกเมืองพระ ตะบอง เสียมราฐ และศรีโสภณ เพือ่ แลกเมืองตราดคืนมา แต่ฝรั่งเศสไมไ่ ดค้ ืนเมืองประจนั ตคีรีเขตร์แต่อยา่ ง ใด ปัจจุบนั เมืองประจนั ตคีรีเขตร์จึงอยใู่ นอาณาเขตประเทศกมั พชู า 2
3
ภูมิศาสตร์ จงั หวดั จนั ทบุรีต้งั อยทู่ างภาคตะวนั ออกของประเทศไทย โดยอยหู่ ่างกรุงเทพมหานครเมืองหลวงของ ประเทศไปทางตะวนั ออกเฉียงใตป้ ระมาณ 245 กิโลเมตร[7] จงั หวดั จนั ทบุรีมีพ้ืนที่ท้งั หมด 6,338 ตาราง กิโลเมตร คิดเป็ นร้อยละ 16.6 ของพ้ืนที่ภาคตะวนั ออก และเทา่ กบั ร้อยละ 1.8 ของพ้นื ท่ีท้งั ประเทศ โดย พ้ืนที่ของจงั หวดั เป็ นที่ราบชายฝั่งทะเล ท่ีราบสูงและภเู ขา ภูมิอากาศของจงั หวดั มีลกั ษณะแบบมรสุมเขต ร้อน[8] จุดสูงสุดของจงั หวดั อยทู่ ี่ยอดเขาสอยดาวใต้ ซ่ึงเป็ นยอดเขาท่ีมีความสูงที่สุดในภาคตะวนั ออก โดย มีความสูง 1,675 เมตร[9] 4
ลกั ษณะภูมปิ ระเทศ จงั หวดั จนั ทบุรีมีลกั ษณะภูมิประเทศอยู่ 3 ลกั ษณะ คือ 1.ภเู ขาและเนินสูง 2.ที่ราบสูงและที่ราบเชิงเขา 3.ท่ี ราบลุ่มแมน่ ้าและชายฝ่ังทะเล โดยในบริเวณทิศตะวนั ตกเฉียงเหนือ ทิศเหนือและทิศตะวนั ออกของจงั หวดั จะเป็นเขตภเู ขาสูง เช่น เทือกเขาบรรทดั เทือกเขาจนั ทบุรี เป็นตน้ บริเวณน้ีเป็ นตน้ กาเนิดของแม่น้าลาธาร หลายสาย รวมถึงเป็นแนวที่ก้นั เขตแดนระหวา่ งจงั หวดั จนั ทบุรีและจงั หวดั ระยอง จงั หวดั ฉะเชิงเทราและ จงั หวดั สระแกว้ [9][10] ในส่วนของท่ีราบสูงและที่ราบเชิงเขาน้นั จะต้งั อยใู่ นเขตอาเภอสอยดาว อาเภอโป่ ง น้าร้อน พ้ืนที่ตอนกลางของอาเภอขลุง รวมไปถึงทางตะวนั ออกของอาเภอมะขาม อาเภอแก่งหางแมว อาเภอ เขาคิชฌกฏู และทางตอนเหนือของอาเภอท่าใหม่[10] โดยบริเวณน้ีส่วนใหญ่จะมีลกั ษณะเป็นที่ราบลูกคลื่น [11] ในส่วนพ้นื ท่ีสุดทา้ ยของจงั หวดั มีลกั ษณะเป็นที่ราบลุ่มแมน่ ้าและชายฝั่งทะเล โดยพ้นื ที่เหล่าน้ีส่วน ใหญเ่ ป็นพ้ืนที่ท่ีมีแม่น้าไหลผา่ น เช่น ท่ีราบลุ่มแมน่ ้าคลองโตนด ท่ีราบลุ่มแม่น้าพงั ราด ที่ราบลุ่มแมน่ ้า จนั ทบุรีและท่ีราบลุ่มแม่น้าเวฬุ เป็นตน้ โดยส่วนใหญ่แลว้ พ้นื ที่เหล่าน้ีจะอยใู่ นเขตอาเภอนายายอาม เมือง จนั ทบุรีและขลุง รวมถึงพ้ืนที่บางส่วนของอาเภอแก่งหางแมว เขาคิชฌกฏู และอาเภอท่าใหม่[10] สาหรับ พ้ืนท่ีชายฝั่งทะเลมกั มีลกั ษณะเป็นท่ีราบชายฝ่ังทะเลแคบ ๆ มีการทบั ถมของตะกอนทราย ท่ีราบชายฝ่ังทะเล บางแห่งอยใู่ กลป้ ากแม่น้าส่งผลใหบ้ ริเวณน้นั มีดินโคลนผสมดว้ ย บริเวณท่ีพบที่ราบชายฝั่งทะเลไดแ้ ก่ พ้ืนที่ ทางตอนใตข้ องอาเภอนายายอาม อาเภอท่าใหม่ อาเภอแหลมสิงห์ และอาเภอขลุง[11] 5
ลกั ษณะภูมอิ ากาศ สภาพภูมิอากาศโดยทวั่ ไปจงั หวดั จนั ทบุรีต้งั อยใู่ นเขตมรสุมเขตร้อน[8] โดยไดร้ ับฝนจากอิทธิพลของลม มรสุมตะวนั ตกเฉียงใต[้ 12] มีฝนตกชุกติดต่อกนั ประมาณ 6 เดือนต่อปี โดยเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม เป็นเดือนท่ีมีปริมาณน้าฝนสูงท่ีสุด ซ่ึงอาจมีปริมาณน้าฝนสูงถึง 500 มิลลิเมตรตอ่ เดือน[13] จงั หวดั จนั ทบุรี มี 3 ฤดูกาลคือฤดูฝน (มิถุนายน - ตุลาคม) ฤดูหนาว (พฤศจิกายน - กุมภาพนั ธ์) และฤดรู ้อน (มีนาคม - พฤษภาคม)[14] โดยท่ีฤดูหนาวจะมีอากาศหนาวเยน็ ชา้ กวา่ ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือและภาคเหนือของ ประเทศ[15] จงั หวดั จนั ทบุรีมีอุณหภูมิเฉลี่ย 23 - 31 องศาเซลเซียสในแต่ละปี โดยท่ีอุณหภูมิในแตล่ ะฤดูของจงั หวดั จะไม่ มีความแตกต่างกนั มากนกั อนั เน่ืองมาจากการต้งั อยใู่ กลก้ บั ทะเล สาหรับอุณหภมู ิในแต่ละฤดูน้นั ฤดูฝนมี อุณหภูมิระหวา่ ง 24 - 30 องศาเซลเซียส ฤดูหนาวมีอุณหภูมิอยรู่ ะหวา่ ง 22 - 31 องศาเซลเซียส ส่วนในฤดู ร้อนมีอุณหภูมิระหวา่ ง 23 - 33 องศาเซลเซียส 6
ทรัพยากรดนิ และนา้ ทรัพยากรดินในจงั หวดั จนั ทบุรีมีความอุดมสมบูรณ์สูงมาก ซ่ึงส่วนใหญแ่ ลว้ เป็นดินที่เกิดจากการสลายตวั ของหินปูน ทาใหด้ ินมีความเป็นด่างเหมาะแก่การปลูกผลไมอ้ นั เป็นหน่ึงในพืชเศรษฐกิจของจงั หวดั จนั ทบุรี [16] ดินมีลกั ษณะเป็นดินต้ืนถึงลึกอนั เน่ืองมาจากสภาพภมู ิประเทศ โดยดินส่วนมากของจงั หวดั จนั ทบุรีเป็ น ดินที่สามารถระบายน้าออกไดด้ ีถึงดีมาก[17] อยา่ งไรกต็ ามจงั หวดั จนั ทบุรีมีพ้ืนท่ีดินท่ีไม่เหมาะสมกบั การ ทาเกษตรประมาณ 3,000 ตารางกิโลเมตร โดยปัญหาทรัพยากรดินที่พบมากท่ีสุดคือดินเคม็ ในบริเวณชายฝั่ง ทะเล ดินต้ืนและดินในพ้นื ท่ีลาดชนั เชิงซอ้ น[18] ในส่วนของทรัพยากรน้าในจงั หวดั จนั ทบุรีน้นั แมว้ า่ จงั หวดั จนั ทบุรีจะอยใู่ นพ้ืนที่ท่ึมีฝนตกชุก แต่จนั ทบุรี ยงั คงประสบกบั ปัญหาภาวะความแห้งแลง้ ในพ้ืนที่ของจงั หวดั เน่ืองจากแม่น้าท้งั หมดในจงั หวดั เป็ นเพียง แม่น้าสายส้ัน ๆ และมีขนาดเล็ก ยกตัวอย่างเช่น แม่น้าพงั ราด (30 กิโลเมตร) แม่น้าวงั โตนด (6 กิโลเมตร) แมน่ ้าเวฬุ (88 กิโลเมตร)และแมน่ ้าจนั ทบุรี (123 กิโลเมตร)[11] เป็นตน้ ส่งผลใหน้ ้าในแม่น้าไหล ลงสู่อ่าวไทยอยา่ งรวดเร็ว นอกจากน้ีหากมีปริมาณฝนในจงั หวดั จนั ทบุรีมากเกินไป ปริมาณน้าอาจจะเอ่อลน้ ตลิ่งเขา้ ท่วมพ้ืนท่ีต่าง ๆ ได้อีกด้วย จึงมีการสร้างอ่างเก็บน้าและเขื่อนเป็ นจานวนมากเพื่อแก้ไขปัญหา ดงั กล่าว โดยเข่ือนและอ่างเก็บน้าท่ีสาคญั คือ เขื่อนคีรีธาร อ่างเก็บน้าคลองศาลทราย เข่ือนพลวงและเข่ือน ทุ่งเพล[19] 7
สัตว์ป่ าและพนั ธ์ุพชื จงั หวดั จนั ทบุรีมีพ้ืนท่ีป่ าไมม้ ากท่ีสุดในภาคตะวนั ออก โดยคิดเป็ น 1 ใน 4 ของจานวนพ้ืนท่ีป่ าไมท้ ้งั ภาค อย่างไรก็ตามหากเปรียบเทียบในอดีตจะพบว่าจงั หวดั จนั ทบุรีสูญเสียพ้ืนท่ีป่ าไมไ้ ปเป็ นจานวนมาก เพราะเดิมทีจงั หวดั จนั ทบุรีมีเน้ือที่ป่ าไมม้ ากกวา่ ร้อยละ 50 ของจงั หวดั โดยสาเหตุของการสูญเสียพ้ืนที่ป่ า ไมส้ ่วนใหญ่เกิดจากการลกั ลอบตดั ไม้ การบุกรุกของราษฎรและการขาดการเขม้ งวดกวดขนั ของเจา้ หนา้ ที่ ในปัจจุบนั มีการประกาศให้พ้ืนท่ีป่ าไมข้ องจงั หวดั จนั ทบุรีข้ึนเป็ นอุทยานแห่งชาติ 3 แห่งคือ อุทยาน แห่งชาติเขาคิชฌกฏู อุทยานแห่งชาติเขาสิบหา้ ช้นั และอุทยานแห่งชาติน้าตกพลิ้ว[23] วนอุทยานแห่งชาติ 1 แห่งคือ วนอุทยานแห่งชาติแหลมสิงห์[24] และเขตรักษาพนั ธุ์สัตวป์ ่ า 3 แห่งคือ เขตรักษาพนั ธุ์สัตวป์ ่ าเขา สอยดาว เขตรักษาพนั ธุ์สตั วป์ ่ าเขาอ่างฤๅไน และเขตรักษาพนั ธุ์สัตวป์ ่ าคลองเครือหวาย[25] สาหรับพืชท่ีคน้ พบในจงั หวดั จนั ทบุรีมีอยหู่ ลายประเภท ท่ีสาคญั คือสารองและจนั ซ่ึงถือเป็ นตน้ ไมป้ ระจา จงั หวดั ของจนั ทบุรี ในส่วนของพืชชนิดอื่น ๆ ท่ีสาคญั ของจงั หวดั ไดแ้ ก่ สอยดาว ชะมวง กฤษณา กระวาน และเหลืองจนั ทบูรอนั เป็ นดอกไมป้ ระจาจงั หวดั [3][26] นอกจากน้ีแล้วในจงั หวดั จนั ทบุรียงั ค้นพบพืช เฉพาะถิ่นอีกดว้ ย ยกตวั อย่างเช่น เนตรม่วง (Microchiritapurpurea) ซ่ึงพบไดเ้ ฉพาะในเขตอาเภอแก่งหาง แมว จงั หวดั จนั ทบุรีเพียงแห่งเดียวเทา่ น้นั เป็ นตน้ สาหรับในส่วนของสัตวป์ ่ าในจงั หวดั จนั ทบุรีน้ันพบว่ามีสัตวเ์ ล้ียงลูกดว้ ยนม 122 ชนิด นก 276 ชนิด สัตวเ์ ล้ือยคลานไมน่ อ้ ยกวา่ 88 ชนิด สัตวค์ ร่ึงบกคร่ึงน้า 29 ชนิดและปลาน้าจืดอีกกวา่ 47 ชนิด[28] จึงนบั ได้ วา่ จงั หวดั จนั ทบุรีเป็ นจงั หวดั หน่ึงที่มีความหลากหลายของส่ิงมีชีวิตค่อนขา้ งมาก ในจานวนสัตวเ์ หล่าน้ีมี สัตวท์ ่ีสาคญั ยกตวั อยา่ งเช่น กบอกหนาม นกกระทาดงจนั ทบุรี นกแตว้ แลว้ ใหญ่หวั สีน้าเงินและนกสาลิกา เขียวหางส้ัน เป็ นตน้ ซ่ึงสัตวเ์ หล่าน้ีเป็ นสัตวท์ ี่สามารถพบไดใ้ นบริเวณจงั หวดั จนั ทบุรีเพียงแห่งเดียวใน ประเทศไทยเท่าน้นั [28][29] นอกจากน้ียงั มีสัตวท์ ่ีสาคญั อีกชนิด คือ ปลาบู่มหิดล ท่ีมีการคน้ พบในจงั หวดั จนั ทบุรี แต่มีกระจายตัวอยู่ในจงั หวดั ระนองและจงั หวดั ภเู กต็ ดว้ ย 8
การเมอื งการปกครอง จงั หวดั จนั ทบุรีมีรูปแบบการปกครองท้งั ในรูปแบบการแบง่ อานาจและการกระจายอานาจ โดยในปัจจุบนั จงั หวดั จนั ทบุรีมีการแบ่งอานาจออกเป็น 10 อาเภอและมีจานวนเทศบาลตามหลกั การกระจายอานาจ 45 เทศบาล 1 องคก์ ารบริหารส่วนจงั หวดั และ 34 องคก์ ารบริหารส่วนตาบล ในส่วนของการเมืองระดบั ชาติน้นั จงั หวดั จนั ทบุรีมีเขตการเลือกต้งั สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร 3 เขตและเขตการเลือกต้งั สมาชิกวฒุ ิสภา 1 เขต แผนที่จงั หวดั จนั ทบุรีจงั หวดั จนั ทบุรีแบ่งการปกครองออกเป็น 10 อาเภอ 76 ตาบล 731 หมู่บา้ นดงั น้ี 1. อาเภอเมอื งจันทบุรี 2. อาเภอขลงุ 3. อาเภอท่าใหม่ 4. อาเภอโป่ งนา้ ร้อน 5. อาเภอมะขาม 1. ตาบลตลาด 1. ตาบลขลุง 1. ตาบลทา่ ใหม่ 1. ตาบลโป่ งน้าร้อน 1. ตาบลมะขาม 2. ตาบลวดั ใหม่ 2. ตาบลบ่อ 2. ตาบลยายร้า 2. ตาบลทบั ไทร 2. ตาบลทา่ หลวง 3. ตาบลคลองนารายณ์ 3. ตาบลเกวียนหกั 3. ตาบลสีพยา 3. ตาบลหนองตาคง 3. ตาบลปัถวี 4. ตาบลเกาะขวาง 4. ตาบลตะปอน 4. ตาบลบอ่ พุ 4. ตาบลเทพนิมิต 4. ตาบลวงั แซม้ 5. ตาบลคมบาง 5. ตาบลบางชนั 5. ตาบลพลอยแหวน 5. ตาบลคลองใหญ่ 5. ตาบลฉมนั 6. ตาบลท่าชา้ ง 6. ตาบลวนั ยาว 6. ตาบลเขาววั 6. ตาบลอา่ งคีรี 7. ตาบลจนั ทนิมิต 7. ตาบลซ้ึง 7. ตาบลเขาบายศรี 8. ตาบลบางกะจะ 8. ตาบลมาบไพ 8. ตาบลสองพ่นี อ้ ง 9. ตาบลแสลง 9. ตาบลวงั สรรพรส 9. ตาบลทงุ่ เบญจา 10. ตาบลหนองบวั 10. ตาบลตรอกนอง 10. ตาบลราพนั 11. ตาบลพลบั พลา 11. ตาบลตกพรม 11. ตาบลโขมง 12. ตาบลบ่อเวฬุ 12. ตาบลตะกาดเงา้ 13. ตาบลคลองขดุ 14. ตาบลเขาแกว้ 6. อาเภอแหลมสิงห์ 7. อาเภอสอยดาว 8. อาเภอแก่งหางแมว 9. อาเภอนายายอาม 10. อาเภอเขาคชิ ฌกฏู 1. ตาบลปากน้า 1. ตาบลปะตง 1. ตาบลแก่งหาง 1. ตาบลนายายอาม 1. ตาบลชากไทย แหลมสิงห์ 2. ตาบลทุ่งขนาน แมว 2. ตาบลวงั โตนด 2. ตาบลพลวง 3. ตาบลทบั ชา้ ง 3. ตาบลกระแจะ 3. ตาบล 2. ตาบลเกาะเปริด 4. ตาบลทรายขาว 2. ตาบลขนุ ซ่อง 4. ตาบลสนามไชย 3. ตาบลหนองชิ่ม 5. ตาบลสะตอน 3. ตาบลสามพ่ีนอ้ ง 5. ตาบลชา้ งขา้ ม ตะเคียนทอง 4. ตาบลพลิ้ว 4. ตาบลพวา 6. ตาบลวงั ใหม่ 4. ตาบลคลองพลู 5. ตาบลคลอง 5. ตาบลเขาวงกต 5. ตาบลจนั ทเขลม น้าเคม็ 6. ตาบลบางสระเกา้ 7. ตาบลบางกะไชย 9
การปกครองส่ วนท้ องถนิ่ จงั หวดั จนั ทบุรีมีหน่วยการปกครองในรูปแบบกระจายอานาจท้งั สิ้น 80 แห่ง แบง่ ออกเป็น องคก์ ารบริหาร ส่วนจงั หวดั 1 แห่ง เทศบาลเมือง 5 แห่ง เทศบาลตาบล 40 แห่งและองคก์ ารบริหารส่วนตาบล 34 แห่ง [33][34] ในส่วนขององคก์ ารบริหารส่วนจงั หวดั จนั ทบุรีไดร้ ับการจดั ต้งั ตามพระราชบญั ญตั ิองคก์ ารบริหาร ส่วนจงั หวดั พ.ศ. 2540 โดยมีขอบเขตครอบคลุมพ้นื ท่ีท้งั จงั หวดั จนั ทบุรี[35] โดยมีหนา้ ที่หลกั ในการ ใหบ้ ริการสาธารณะแก่ประชาชนในพ้นื ท่ี รวมถึงประสานและร่วมมือกบั หน่วยงานต่าง ๆ ในการวางแผน พฒั นาจงั หวดั [36] ปัจจุบนั มีนายธนภณ กิจกาญจน์ เป็นนายกองคก์ ารบริหารส่วนจงั หวดั จนั ทบุรีคนปัจจุบนั [37] สาหรับหน่วยการปกครองทอ้ งถิ่นในระดบั เทศบาลน้นั เริ่มข้ึนคร้ังแรกในเขตอาเภอเมืองจนั ทบุรี โดยมี การจดั ต้งั สุขาภิบาลจนั ทบุรีข้ึนในปี พ.ศ. 2451[38] ซ่ึงต่อมาไดม้ ีการยกฐานะเป็นเทศบาลเมืองจนั ทบุรีในปี พ.ศ. 2478 การเมืองระดบั ชาติ ในส่วนที่เกี่ยวขอ้ งกบั การเมืองระดบั ชาติของจงั หวดั จนั ทบุรีน้นั คณะกรรมการการเลือกต้งั ได้ กาหนดใหจ้ งั หวดั จนั ทบุรีมีเขตเลือกต้งั สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร 3 เขตเลือกต้งั [40] โดยเขตเลือกต้งั ท่ี 1 ประกอบไปดว้ ยอาเภอเมืองจนั ทบุรีและอาเภอแหลมสิงห์ เขตเลือกต้งั ท่ี 2 ประกอบไปดว้ ยอาเภอทา่ ใหม่ อาเภอนายายอาม อาเภอแก่งหางแมวและอาเภอเขาคิชฌกูฏและเขตเลือกต้งั ที่ 3 ประกอบไปดว้ ยอาเภอขลุง อาเภอมะขาม อาเภอโป่ งน้าร้อนแลว้ ก็อาเภอสอยดาว[41] สาหรับจานวนสมาชิกวฒุ ิสภาของจงั หวดั จนั ทบุรี ในอดีตมี 2 คน อยา่ งไรก็ตามต้งั แต่ พ.ศ. 2551 เป็นตน้ มา จงั หวดั จนั ทบุรีสามารถมีสมาชิกวฒุ ิสภาได้ 1 คน เท่าน้นั 10
เศรษฐกจิ จงั หวดั จนั ทบุรีเป็นจงั หวดั ที่มีเกษตรกรรมเป็ นพ้นื ฐานของเศรษฐกิจ โดยผลิตภณั ฑม์ วลรวมภายในจงั หวดั จนั ทบุรีเกินคร่ึงหน่ึงมาจากภาคเกษตรกรรม รองลงมาเป็ นอุตสาหกรรม การก่อสร้าง การศึกษาและภาคส่วน อ่ืน ๆ ตามลาดบั ในปี พ.ศ. 2555 ผลิตภณั ฑม์ วลรวมภายในจงั หวดั จนั ทบุรีรวมมลู ค่าท้งั สิ้น 100,901 ลา้ น บาท คิดเป็นอนั ดบั ท่ี 22 ของประเทศและมีผลิตภณั ฑม์ วลรวมภายในจงั หวดั ต่อหวั 200,876 บาทต่อปี [48] ในส่วนของรายไดท้ ี่แทจ้ ริงของประชากรในจงั หวดั จนั ทบุรีน้นั ประชากรในจงั หวดั มีรายไดเ้ ฉล่ีย 7,784 บาทตอ่ เดือนและมีรายจา่ ยเฉล่ีย 6,655 บาทตอ่ เดือน สดั ส่วนของคนจนในจงั หวดั จนั ทบุรีเมื่อพจิ ารณา มิติของรายไดพ้ บวา่ มีประชากรร้อยละ 8.8 อยใู่ นสภาวะยากจน ผลติ ภณั ฑ์มวลรวมภายในจงั หวดั จนั ทบุรี ณ ราคาตลาด ผลิตภณั ฑ์ ร้อยละ เกษตรกรรม 55% อ่ืน ๆ 19% การคา้ 13% อุตสาหกรรม 6% การก่อสร้าง 4% การประมง 3% 11
เกษตรกรรม ภาคส่วนเกษตรกรรมเป็นภาคส่วนที่มีสดั ส่วนของผลิตภณั ฑม์ วลรวมสูงท่ีสุดในจงั หวดั จนั ทบุรี โดยในปี พ.ศ. 2555 ภาคส่วนเกษตรกรรมมีผลิตภณั ฑม์ วลรวมเทา่ กบั 56,262 ลา้ นบาท คิดเป็นร้อยละ 55.76 ของ ผลิตภณั ฑม์ วลรวมท้งั หมด เม่ือเปรียบเทียบยอ้ นหลงั ระหวา่ งปี พ.ศ. 2538 - 2555 จะพบวา่ ภาคส่วนทางดา้ น เกษตรกรรมในภาพรวมมีผลิตภณั ฑม์ วลรวมสูงข้ึนต่อเน่ืองทุกปี [48] สาหรับภาคส่วนเกษตรกรรมที่มี ความสาคญั ของจงั หวดั จนั ทบุรีส่วนใหญ่เป็นการเพาะปลูก โดยพืชที่นิยมปลูกมากในจงั หวดั จนั ทบุรีคือพืช ไมผ้ ล พริกไทยและยางพาราไมผ้ ลที่เกษตรกรในจงั หวดั จนั ทบุรีนิยมปลูกมากคือมงั คุด ทุเรียน สละและเงาะ [51] เน่ืองจากจนั ทบุรีมีสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศเหมาะสมสาหรับปลูกผลไมเ้ หล่าน้ีทาใหจ้ งั หวดั จนั ทบุรีมีผลไมเ้ หล่าน้ีเป็นจานวนมากและมีคุณภาพดี[52] โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ทุเรียนซ่ึงจงั หวดั จนั ทบุรีเป็น จงั หวดั ที่มีการผลิตมากที่สุดในประเทศไทย[53] ผลไมอ้ ีกชนิดหน่ึงซ่ึงมีชื่อเสียงมากของจงั หวดั จนั ทบุรีคือ สละเนินวง โดยปลูกมากในบริเวณคา่ ยเนินวง ตาบลบางกะจะ[54] ผลไมข้ องจงั หวดั จะออกสู่ตลาดในช่วง ระหวา่ งเดือนเมษายนถึงมิถุนายนของทุกปี [55] อยา่ งไรก็ตามปริมาณผลไมข้ องจงั หวดั ในแตล่ ะปี จะมาก หรือนอ้ ยน้นั ข้ึนอยกู่ บั สภาพภูมิอากาศ หากเกิดภาวะภยั แลง้ ข้ึนในจงั หวดั ปริมาณผลไมท้ ่ีจะออกสู่ตลาดใน ปี น้นั จะมีปริมาณลดลง[56]จงั หวดั จนั ทบุรีเป็ นแหล่งปลูกพริกไทยที่สาคญั มากของประเทศไทย โดยพ้ืนท่ี ปลูกพริกไทยร้อยละ 95 อยใู่ นจงั หวดั จนั ทบุรี[57] โดยพริกไทยสามารถสร้างรายไดเ้ ขา้ จงั หวดั จนั ทบุรีปี ละ ประมาณ 30 - 60 ลา้ นบาท อยา่ งไรก็ตามในช่วงหลายปี ที่ผา่ นมาพ้นื ท่ีการปลูกพริกไทยลดลงเป็นอยา่ งมาก จากการท่ีเกษตรกรเปล่ียนไปปลูกพชื ชนิดอ่ืน ปัญหาความเสื่อมโทรมของดินและปัญหาดา้ นตน้ ทุนการผลิต โดยเกษตรกรเหล่าน้ีจะเปล่ียนจากการปลูกพริกไทยเป็นแกว้ มงั กรและยางพาราในส่วนของยางพาราน้นั หลวงราชไมตรี (ปมู ปุณศรี) เป็นบุคคลแรกท่ีนายางพาราเขา้ มาปลูกในจงั หวดั จนั ทบุรีเป็นพ้นื ที่แรกของ ภาคตะวนั ออก[59] ในปี พ.ศ. 2551 เกษตรกรชาวจนั ทบุรีปลูกยางพาราในพ้นื ท่ี 463,799 ไร่ โดยปลูกมาก ที่สุดในอาเภอแก่งหางแมว คิดเป็นร้อยละ 41.60 ของพ้ืนที่ปลูกยางพาราของจงั หวดั [60] แมว้ า่ ยางพาราจะ เป็นพชื เศรษฐกิจที่สร้างรายไดใ้ หแ้ ก่เกษตรกรชาวจนั ทบุรีเป็นจานวนมาก แตใ่ นหลาย ๆ ปี มกั ประสบปัญหา ราคายางพาตกต่า 12
ประมง การประมงของจงั หวดั จนั ทบุรี แมจ้ ะมีส่วนแบง่ ในผลิตภณั ฑม์ วลรวมภายในจงั หวดั ค่อนขา้ งนอ้ ย (2,683 ลา้ นบาท) แตเ่ ป็ นภาคส่วนที่มีความสาคญั ของจงั หวดั จนั ทบุรี[48] เนื่องจากจงั หวดั จนั ทบุรีมีชายฝ่ังทะเลยาว 108 กิโลเมตรและมีแมน่ ้าหลายสาย[63] ชาวประมงในจนั ทบุรีมีท้งั ที่จบั ปลาในแหล่งน้าและเพาะพนั ธุ์สัตว์ น้า โดยสตั วน์ ้าที่นิยมเพาะพนั ธุ์มากที่สุดคือกงุ้ ซ่ึงมีผลผลิตรวมกนั ท้งั จงั หวดั ในปี พ.ศ. 2552 เท่ากบั 64,262 ตนั 13
อญั มณี จงั หวดั จนั ทบุรีไดร้ ับฉายาวา่ เป็นเมืองหลวงทางดา้ นอญั มณีแห่งหน่ึงของโลก[65] โดยกิจการเหมืองอญั มณี ของจงั หวดั จนั ทบุรีเร่ิมเม่ือใดไม่มีหลกั ฐานปรากฏแน่ชดั แตพ่ บหลกั ฐานในจดหมายเหตุคราว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั พ.ศ. 2419 ความวา่ \"ได้มีราษฎรนาเอาผลไม้และพลอย หลากสีมา ถวาย\"[66] อญั มณีที่มีชื่อเสียงมากของจงั หวดั จนั ทบุรีมีหลายชนิด เช่น ไพลิน สตาร์ บุษราคมั แตท่ ่ีมีช่ือเสียง มากที่สุดคือ ทับทิมสยาม ซ่ึงมีชื่อเสียงมากในระดบั โลก[67] อญั มณีดงั กล่าวเหล่าน้ีมกั ขดุ หาจากเหมืองใน บริเวณเขารอบ ๆ ตวั เมืองจนั ทบุรี โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ในบริเวณเขาพลอยแหวนและเขตตาบลบางกะจะ ซ่ึง คน้ พบอญั มณีเป็ นจานวนมาก[68][66] อยา่ งไรกต็ ามในปัจจุบนั ปริมาณอญั มณีท่ีคน้ พบในเขตจงั หวดั จนั ทบุรี ลดลงไปมาก ส่งผลใหต้ อ้ งนาเขา้ อญั มณีจากต่างประเทศ โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ จากประเทศมาดากสั การ์ในทวปี แอฟริกา เพอ่ื นามาเป็นวตั ถุดิบใหช้ ่างเจียระไนพลอยในจงั หวดั จนั ทบุรีเป็ นผเู้ จียระไน การซ้ือขายอญั มณีใน จงั หวดั จนั ทบุรีจะทาการซ้ือขายในตลาดพลอย ซ่ึงต้งั อยใู่ นเขตเมืองเก่าจนั ทบุรี โดยมีผซู้ ้ือท้งั ชาวไทยและ ชาวต่างประเทศ[65] มีการคาดการณ์กนั วา่ ใน 1 สปั ดาห์มีเงินสะพดั อยใู่ นตลาดพลอยประมาณ 200 - 500 ลา้ น บาท[69]10330 14
การท่องเทยี่ ว จงั หวดั จนั ทบุรีมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวฒั นธรรมเป็ นจานวนมาก ส่งผลให้การท่องเที่ยวของ จงั หวดั จนั ทบุรีสร้างรายไดใ้ หก้ บั จงั หวดั เป็ นจานวนมาก จากสถิติในแต่ละปี จะพบวา่ มีปริมาณนกั ท่องเท่ียว และรายไดจ้ ากการทอ่ งเท่ียวเพมิ่ มากข้ึน โดยในปี พ.ศ. 2555 มีนกั ท่องเท่ียวเดินทางเขา้ มาในจงั หวดั จนั ทบุรี รวมท้งั สิ้น 1,072,348 โดยเกือบท้งั หมดเป็นนกั ท่องเท่ียวชาวไทย ในส่วนของนกั ท่องเท่ียวชาวต่างชาติท่ีเดิน ทางเขา้ มาท่องเท่ียวในจงั หวดั จนั ทบุรีมีเพียง 53,443 คนเท่าน้นั นกั ท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเขา้ มาพกั ผอ่ นใน จงั หวดั จนั ทบุรีโดยเฉล่ีย 2.31 วนั นกั ท่องเที่ยวเหล่าน้ีสร้างรายไดใ้ ห้กบั จงั หวดั จนั ทบุรีกวา่ 4,214 ลา้ นบาท โดยมีคา่ เฉลี่ยการใชจ้ ่ายของนกั ท่องเที่ยวต่อวนั อยทู ่ี 1,503.07 ต่อคน โดยนกั ท่องเท่ียวชาวต่างชาติจะใชจ้ ่าย ต่อวนั อยทู่ ี่ 2,501.61 ตอ่ คน 15
โครงสร้างพนื้ ฐาน การศึกษา สถาบนั การศึกษาในจงั หวดั จนั ทบุรีมีท้งั ที่ดาเนินการโดยหน่วยงานทางภาครัฐบาลและภาคเอกชน โดยใน ส่วนภาคเอกชนมีองคก์ รทางศาสนาเป็นส่วนหน่ึงที่ร่วมจดั การศึกษาดว้ ย ภาษาที่ใชใ้ นการจดั การเรียนการ สอนใชภ้ าษาไทยและภาษาองั กฤษ เป็นหลกั และมีการสอดแทรกภาษาจีนและภาษาในทวปี ยโุ รปอ่ืน ๆ เขา้ มาใชใ้ นการจดั การเรียนการสอนอีกดว้ ย โรงเรียนประจาจงั หวดั ของจนั ทบุรีมีท้งั สิ้น 2 แห่งคือโรงเรียน เบญจมราชูทิศ จงั หวดั จนั ทบุรี (โรงเรียนประจาจงั หวดั ชาย) และโรงเรียนศรียานุสรณ์ (โรงเรียนประจา จงั หวดั หญิง)[71][72] ในส่วนของสถาบนั อุดมศึกษาในจงั หวดั จนั ทบุรีท่ีเปิ ดสอนระดบั ปริญญาบณั ฑิตมีอยหู่ ลายแห่ง เช่น มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั ราไพพรรณี มหาวทิ ยาลยั บรู พา วทิ ยาเขตจนั ทบุรี มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล ตะวนั ออก วทิ ยาเขตจนั ทบุรี สถาบนั บณั ฑิตพฒั นศิลป์ (วทิ ยาลยั นาฏศิลป์ จนั ทบุรี) มหาวทิ ยาลยั สุโขทยั ธรรมาธิราช (ศูนยว์ ทิ ยพฒั นาจนั ทบุรี) เป็ นตน้ 16
การคมนาคมและการส่ือสาร การเดินทางสู่จงั หวดั จนั ทบุรีมีเส้นทางดงั น้ี เส้นทางสายกรุงเทพฯ–ชลบุรี–พทั ยา–บา้ นฉาง–ระยอง–จนั ทบุรี โดยใชท้ างหลวงแผน่ ดินหมายเลข 3 (ถนนสุขมุ วทิ ) ระยะทางประมาณ 315 กิโลเมตร เส้นทางสายกรุงเทพฯ–ชลบุรี–ศรีราชา–บา้ นฉาง–ระยอง–จนั ทบุรี โดยใชท้ างหลวงแผน่ ดิน หมายเลข 36 (ถนนเมืองพทั ยา-ระยอง) ระยะทางประมาณ 289 กิโลเมตร เส้นทางสายกรุงเทพฯ–ชลบุรี–แกลง–จนั ทบุรี โดยใชท้ างหลวงแผน่ ดินหมายเลข 344 (ถนนชลบุรี- แกลง) ระยะทางประมาณ 249 กิโลเมตร เส้นทางยทุ ธศาสตร์เชื่อมระหวา่ งภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือผา่ นปราจีนบุรี ผา่ นทางหลวงแผน่ ดิน หมายเลข 33 (ถนนสุวรรณศร) เขา้ สู่ทางหลวงแผน่ ดินหมายเลข 317 (ถนนจนั ทบุรี-สระแกว้ ) ผา่ น อาเภอสอยดาว อาเภอโป่ งน้าร้อน และอาเภอมะขาม เขา้ สู่จงั หวดั จนั ทบุรี เส้นทางจนั ทบุรี–ตราด ระยะทาง 69.94 กิโลเมตร เส้นทางจนั ทบุรี–ระยอง ระยะทาง 111.67 กิโลเมตร เส้นทางจนั ทบุรี–สระแกว้ ระยะทาง 156.4 กิโลเมตร เส้นทางจนั ทบุรี–ชลบุรี ระยะทาง 167.03 กิโลเมตร เส้นทางจนั ทบุรี–ฉะเชิงเทรา ระยะทาง 191.09 กิโลเมตร เส้นทางจนั ทบุรี–สระบุรี ระยะทาง 327.77 กิโลเมตร เส้นทางจนั ทบุรี–นครราชสีมา ระยะทาง 338.05 กิโลเมตร เส้นทางจนั ทบุรี–บุรีรัมย์ ระยะทาง 344.32 กิโลเมตร เส้นทางจนั ทบุรี–แมส่ อด ระยะทาง 697.83 กิโลเมตร รถไฟ จงั หวดั จนั ทบุรี ไมม่ ีทางรถไฟ ท่านสามารถลงจากสถานีรถไฟบา้ นพลูตาหลวง จ.ชลบุรี และตอ่ เขา้ รถโดยสารประจาทาง สู่จงั หวดั จนั ทบุรี โทร 0-3824-5959 17
ประชากร จากประกาศสานกั ทะเบียนกลาง กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยปี พ.ศ. 2560 รายงานวา่ จงั หวดั จนั ทบุรีมีประชากร 532,466 คน คิดเป็ นอนั ดบั ที่ 46 ของประเทศ[73] มีความหนาแน่นของประชากร 82.71 คนต่อตารางกิโลเมตร โดยบริเวณที่มีความหนาแน่นของประชากรมากที่สุดในจงั หวดั อยทู่ ่ีเขตเทศบาลเมือง ขลุง ซ่ึงมีความหนาแน่นของประชากร 3,772 คนต่อตารางกิโลเมตร[33] ประชากรของจงั หวดั จนั ทบุรีส่วน ใหญ่อาศยั อยใู่ นเขตอาเภอเมืองจนั ทบุรี โดยมีประชากรอาศยั อยรู่ ้อยละ 25.03 ส่วนอาเภอท่ีมีประชากรอาศยั อยนู่ อ้ ยท่ีสุดคืออาเภอเขาคิชฌกฏู โดยมีประชากรอาศยั อยเู่ พียงร้อยละ 5.33 ของประชากรท้งั จงั หวดั [74] ประชากรจงั หวดั จนั ทบุรีบางส่วนเดินทางยา้ ยถิ่นฐานไปยงั จงั หวดั อื่น โดยส่วนใหญแ่ ลว้ เพ่ือหางานทา ในจงั หวดั น้นั ๆ[75] ประชากรชาวจนั ทบุรีส่วนมากมีสญั ชาติไทยคิดเป็นร้อยละ 94.82 รองลงมามีสัญชาติ กมั พชู าร้อยละ 2.90 สญั ชาติลาวร้อยละ 1.20 ที่เหลือเป็นประชากรสญั ชาติอื่น ๆ ในจานวนน้ีมีชาวยุโรป 397 คนและชาวแอฟริกนั 561 คนรวมอยดู่ ว้ ย[76] ภาษา ชาวจนั ทบุรีใชภ้ าษาไทยแบบภาคกลางเป็นภาษาทางราชการและใชส้ ื่อสารในชีวติ ประจาวนั อยา่ งไรกต็ าม ภาษาไทยที่ชาวจนั ทบุรีใชพ้ ดู น้นั จะมีสาเนียงและหางเสียงที่แปลกจากภาษาไทยภาคกลาง[78] มีคาบางคาที่ เป็นภาษาถ่ินเฉพาะ เช่น การใชค้ าวา่ ฮิ เป็นคาสร้อย การเรียกยายวา่ แมะ เป็นตน้ [79] นอกจากน้ีแลว้ ใน จงั หวดั จนั ทบุรียงั พบภาษาทอ้ งถิ่นในตระกลู ภาษาออสโตรเอเชียติกที่สาคญั อีก 1 ภาษา คือ ภาษาชอง ซ่ึง เป็นภาษาท่ีพดู โดยชาวชอง ส่วนใหญแ่ ลว้ ชาวชองมกั ต้งั ถิ่นฐานในอาเภอมะขาม อาเภอโป่ งน้าร้อนและ อาเภอเขาคิชฌกฎู [80] [81] ในปัจจุบนั ภาษาชองกาลงั ตกอยใู่ นภาวะสูญหาย เน่ืองจากพลเมืองชาวชองประมาณ 6,000 คน มีผทู้ ี่สามารถพดู ภาษาชองไดเ้ พียงแค่ 500 คนเท่าน้นั [82] ในส่วนของภาษาอ่ืน ๆ ที่มีประชากรใน จงั หวดั ใชส้ ื่อสารในครัวเรือนเกิน 1,000 คนข้ึนไป ไดแ้ ก่ ภาษาเขมร ภาษาลาว ภาษาพม่าและภาษาองั กฤษ 18
ประเพณแี ละวฒั นธรรม ดว้ ยความท่ีจงั หวดั จนั ทบุรีมีประวตั ิความเป็นมาที่ยาวนาน ทาใหม้ ีประเพณีและวฒั ธรรมที่หลากหลาย โดย ประเพณีและวฒั นธรรมเหล่าน้ีลว้ นแลว้ แต่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษท้งั สิ้น โดยมากแลว้ วฒั นธรรมและ ประเพณีส่วนใหญ่ของจงั หวดั น้ีจะเกิดจากวถิ ีชีวติ และความเช่ือของคนในจงั หวดั ประเพณีการนมัสการรอยพระบาทเขาคชิ ฌกูฏ จันทบุรี 19
อาหาร จงั หวดั จนั ทบุรีเป็นจงั หวดั ท่ีมีความอุดมสมบูรณ์และมีพืชพนั ธุ์หลากหลายชนิด ส่งผลใหม้ ีการนาพืชพนั ธุ์ เหล่าน้นั เขา้ มาใชเ้ ป็นส่วนหน่ึงในการประกอบอาหาร สาหรับอาหารที่ข้ึนช่ือมากที่สุดของจงั หวดั จนั ทบุรี คือ แกงหมชู ะมวง ซ่ึงใชใ้ บชะมวงเป็นวตั ถุดิบหลกั ในการปรุงข้ึน มีรสชาติท้งั สิ้น 3 รส คือ เคม็ เปร้ียวและ หวาน อาหารอีกชนิดหน่ึงท่ีไดร้ ับความนิยมและสร้างชื่อเสียงใหแ้ ก่จงั หวดั จนั ทบุรีเป็ นอยา่ งมาก คือ ก๋วยเต๋ียวเน้ือเลียงหรือหมูเลียง โดยนาก๋วยเต๋ียวเส้นจนั ท์ ซ่ึงเป็นเส้นก๋วยเตี๋ยวท่ีมีลกั ษณะเหนียวนุ่ม ไม่ เปื่ อยง่าย เขา้ มาผสมผสานกบั น้าก๋วยเตี๋ยวท่ีปรุงจากเครื่องเทศและวตั ถุดิบอื่น ๆ ในส่วนอาหารอ่ืน ๆ ท่ีมี ช่ือเสียงของจงั หวดั จนั ทบุรีไดแ้ ก่ น้าพริกปไู ข่ แกงเน้ือ แกงหมู ก๋วยเต๋ียวผดั ปู น้าพริกเกลือ น้าพริกระกา และอาหารทะเลจานต่าง ๆ เป็นตน้ [86] ในส่วนของอาหารวา่ งและเคร่ืองด่ืมของจงั หวดั จนั ทบุรีน้นั มีหลายอยา่ งท่ีไดร้ ับความนิยมเป็นอยา่ งมาก ใน ส่วนของอาหารวา่ งท่ีสาคญั คือ ขา้ วเกรียบอ่อนน้าจิม้ ซ่ึงมีลกั ษณะใหญ่กวา่ ขา้ วเกรียบปากหมอ้ โดยทว่ั ไป ทองมว้ นอ่อน ซ่ึงจะมีรสชาติแตกต่างไปตามวตั ถุดิบท่ีเขา้ มาเป็ นส่วนผสมและ ปาท่องโก๋ ซ่ึงมี ความแตกตา่ งจากปาท่องโก๋ในจงั หวดั อื่นที่น้าจิม้ โดยน้าจิ้มปาทอ่ งโก๋ของจงั หวดั จนั ทบุรีจะเป็นน้าจิ้มที่มีรส หวานออกเปร้ียว[86] ในส่วนของเคร่ืองด่ืมน้นั ท่ีสาคญั ไดแ้ ก่ น้าสารอง ซ่ึงเป็นน้าพชื สมุนไพรท่ีมีคุณค่าทาง อาหารและสรรพคุณทางยา ก๋วยเตย๋ี วผดั ปู แกงหมูชะมวง 20
การแสดงพนื้ บ้าน จงั หวดั จนั ทบุรีเป็นจงั หวดั ที่มีการแสดงพ้นื บา้ นอยา่ งหลากหลาย โดยมกั เป็นการแสดงที่บง่ บอกถึงวถิ ีชีวติ ของผคู้ นในทอ้ งถ่ิน ชาติพนั ธ์ การประกอบอาชีพ รวมไปถึงสภาพทางภมู ิศาสตร์ชองทอ้ งถ่ิน การแสดง พ้นื บา้ นของจงั หวดั จนั ทบุรีมีท้งั ที่เกิดจากการถ่ายทอดของบรรพชนภายในทอ้ งถ่ินหรือการแสดงพ้นื บา้ น บางอยา่ งอาจเกิดข้ึนจากการประดิษฐค์ ิดคน้ ของผคู้ นในปัจจุบนั โดยการแสดงพ้ืนบา้ นของจงั หวดั จนั ทบุรีที่ สาคญั มีดงั น้ี ชื่อการแสดง ลักษณะสาคญั พนื้ บ้าน ยนั แย่ ยนั แยเ่ ป็ นการแสดงของชาวชอง ในอดีตใชเ้ ป็ นเพลงกล่อมเด็ก แต่ในปัจจุบนั นาทานองเพลงยนั แยม่ าแต่งบทร้อง เพ่ือใชเ้ ป็ นบทเก้ียวพาราสี[89] อาไย ทิดฮมั และทิดบูนเป็นผนู้ ามาเผยแพร่จากประเทศกมั พชู า เป็นการแสดงท่ีใชภ้ าษาเขมรในการร้องพร้อมกบั การรา ใชซ้ ออู้ ซอดว้ ง กลอง ฉิ่ง ขมิ และโมงเซเป็นเคร่ืองดนตรีประกอบการแสดง ปัจจุบนั เป็นการละเล่นของชาวบา้ นตามูลล่าง อาเภอโป่ งนา้ ร้อน[90] ละครเท่งตกุ๊ ละครเทง่ ตุก๊ ไดร้ ับอิทธิพลจากละครชาตรีและละครโนรา โดยชื่อของการแสดงมาจากเสียงของโทนและกลองตุก๊ การแสดงจะใชท้ ้งั มือและเทา้ พร้อมท้งั การใชเ้ อวและไหล่ใหต้ รงตามจงั หวะกลอง[91] ระบาเกบ็ พริกไทย คณาจารณ์วทิ ยาลยั นาฏศิลปจนั ทบุรีเป็นผปู้ ระดิษฐท์ ่ารา โดยนาลกั ษณะของการการเก็บพริกไทยมาใชป้ ระดิษฐ์ทา่ โดยดดั แปลงเคร่ืองแต่งกาย ของผแู้ สดงเพือ่ ให้เกิดความสวยงาม ใชว้ งป่ี พาทยไ์ มน้ วมในการบรรเลง[88] ระบาทอเส่ือ คณาจารยว์ ิทยาลยั นาฏศลิ ปจนั ทบุรีเป็นผปู้ ระดิษฐท์ ่ารา โดยนาวธิ ีการทาเสื่อจนั ทบูรมาใชป้ ระดิษฐท์ ่า ผแู้ สดงเป็นผหู้ ญิงท้งั หมด[88] ระบาเริงนทีบรู พา ระบาเริงนทีบรู พาเป็นการแสดงทีน่ าวถิ ีชีวติ ของชาวประมงและพฤตกิ รรมของสัตวม์ าใชเ้ ป็นจินตนาการในการสร้างการแสดง โดยใชว้ งปี่ พาทย์ ไมน้ วมในการบรรเลง[88] ระบาควนคราบุรี วทิ ยาลยั นาฏศลิ ปจนั ทบุรีประดิษฐก์ ารแสดงชุดน้ีข้นึ เพอ่ื จาลองให้เห็นสภาพวถิ ีชีวติ ของชาวจนั ทบรุ ีในสมยั โบราณ การแตง่ กายใชร้ ูปแบบตาม ศลิ ปะลพบรุ ี ส่วนการบรรเลงใชว้ งป่ี พาทยไ์ มแ้ ขง็ [88] ระบาชอง ระบาชองเป็นระบาพ้นื บา้ นของชาวชอง จดุ มุ่งหมายของระบาน้ีคือความร่าเริงและสนุกสนา 21
22
ศาสนา จากการสามะโนประชากรของจงั หวดั จนั ทบุรีในปี พ.ศ. 2553 พบวา่ ประชากรส่วนมากในจงั หวดั จนั ทบุรี นบั ถือศาสนาพุทธคิดเป็นร้อยละ 97.95 รองลงมานบั ถือศาสนาคริสตค์ ิดเป็นร้อยละ 1.22 ศาสนาอิสลามคิด เป็นร้อยละ 0.40 ศาสนาฮินดูคิดเป็นร้อยละ 0.03 ศาสนาอ่ืน ๆ คิดเป็นร้อยละ 0.23 และมีผไู้ มน่ บั ถือศาสนา ใด ๆ คิดเป็นร้อยละ 0.17[84] ในกลุ่มศาสนิกชนที่นบั ถือศาสนาอ่ืนนอกเหนือจากศาสนาพุทธส่วนใหญ่มกั อาศยั อยใู่ นเขตเทศบาล[84] ในส่วนของคริสตศ์ าสนิกชนในจงั หวดั จนั ทบุรีพบมากท่ีสุดในเขตเทศบาลเมือง จนั ทนิมิตโดยมีผนู้ บั ถือศาสนาคริสตถ์ ึงร้อยละ 50 จากประชากรท้งั หมดในเขตเทศบาล ศาสนาอสิ ลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาฮนิ ดู ศาสนาพทุ ธ 23
ภูมปิ ัญญาท้องถนิ่ เส่ือจนั ทบูร หตั ถกรรมพ้ืนบา้ นอีกชนิดท่ีมีชื่อเสียงของจงั หวดั ผลิตจากกก ไดม้ ีการนาเอากกมาดดั แปลงเป็น เครื่องใชต้ ่าง ๆ มากมาย ก๋วยเต๋ียวเส้นจันท์ นับเป็ นสินค้าพนื้ เมืองที่เป็ นเอกลกั ษณ์อกี ส่ิงหนึ่งของจังหวดั เหมาะทจี่ ะซื้อเป็ นของท่ี ระลกึ เมื่อมาเท่ยี วจังหวดั จันทบุรี 24
สถานที่ท่องเทย่ี ว 1. ทะเลจันทบุรี หาดเจ้าหลาว 2. หาดโรแมนตคิ ที่จนั ทบุรี หาดแหลมสิงห์ 25
3. หาดคุ้งวมิ าน จนั ทบุรี 4. แหลมเสดจ็ จนั ทบุรี 26
6. ทเ่ี ทยี่ วนา้ ตกจนั ทบุรี นา้ ตกพลวิ้ 6. ลานหนิ สีชมพู จนั ทบุรี 27
7. อ่างเกบ็ นา้ ห้วยตาโบ จนั ทบุรี 8. ศูนย์ศึกษาการพฒั นาอ่าวคุ้งกระเบนอนั เนื่องมาจากพระราชดาริ 28
9. สะพานแหลมสิงห์ 10.ชุมชนริมนา้ จนั ทบูร 29
11.จุดชมววิ เนินนางพญา 12.อาสนวหิ ารพระนางมารีอาปฏิสินธินิริมล 30
Search
Read the Text Version
- 1 - 32
Pages: