Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รูปแบบการจัดการเรียนรู้ สาระที่ 3 เศรษฐศาสตร์

รูปแบบการจัดการเรียนรู้ สาระที่ 3 เศรษฐศาสตร์

Published by kunchira_2542, 2021-11-17 08:20:00

Description: รูปเล่ม-ปรับแก้

Search

Read the Text Version

47 • นักเรียนจะนาความรู้ที่ได้น้ีไปใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ตนเอง ครอบครัว และสังคมทั่วไปได้ อย่างไร จากน้นั แลกเปลยี่ นตรวจสอบข้นั ตอนการทางานทกุ ขน้ั ตอนวา่ จะเพิ่มคุณค่าไปส่สู งั คม เกิดประโยชน์ต่อสงั คมให้มากข้ึนกว่าเดิมในขน้ั ตอนใดบา้ ง สาหรับการทางานในครั้งตอ่ ไป สื่อการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียน รายวิชาพ้นื ฐาน สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 5 ของสถาบันพฒั นาคุณภาพวชิ าการ (พว.) 2. ตวั อย่างภาพสนิ ค้าและบริการ 3. บตั รคาเกยี่ วกับปจั จัยการผลิตสนิ คา้ และบริการ 4. แหลง่ การเรยี นรูท้ งั้ ภายในและภายนอกโรงเรยี น การประเมนิ การเรียนรู้ 1. ประเมนิ ความรู้ เร่ือง ปจั จยั การผลติ สนิ ค้าและบริการ (K) ดว้ ยแบบทดสอบ 2. ประเมนิ กระบวนการทางานกลุ่ม (P) ด้วยแบบประเมิน 3. ประเมนิ ชน้ิ งาน เร่อื ง ปัจจัยการผลติ สินคา้ และบรกิ าร (P) ด้วยแบบประเมิน 4. ประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ดา้ นใฝ่เรียนรู้ มงุ่ มน่ั ในการทางาน (A) ดว้ ยแบบประเมิน

48 แบบประเมนิ ตามสภาพจริง (Rubrics) แบบประเมนิ กระบวนการทางานกลุ่ม รายการการ ระดับคณุ ภาพ ประเมนิ กระบวนการ 4321 ทางานกลมุ่ มกี ารกาหนดบทบาท มกี ารกาหนดบทบาท มกี ารกาหนดบทบาท ไมม่ ีการกาหนด สมาชกิ ชดั เจน สมาชิกชดั เจน เฉพาะหวั หน้า บทบาทสมาชิก และมกี ารช้แี จง มกี ารช้ีแจงเปา้ หมาย ไมม่ ีการชแ้ี จง และไม่มกี ารชี้แจง เปา้ หมาย อย่างชดั เจนและ เปา้ หมาย เป้าหมาย สมาชกิ การทางาน ปฏิบัตงิ านร่วมกนั อยา่ งชัดเจน ตา่ งคนตา่ งทางาน มกี ารปฏบิ ัตงิ าน แต่ไม่มกี ารประเมิน ปฏิบัตงิ านรว่ มกนั รว่ มกนั เป็นระยะ ๆ ไม่ครบทกุ คน อยา่ งร่วมมือรว่ มใจ พรอ้ มกบั การประเมิน เปน็ ระยะ ๆ

49 กำรจัดกำรเรยี นรู้เชิงรกุ (Active learning) ควำมหมำยของกำรจดั กำรเรียนรูเ้ ชิงรุก (Active Learning) คือ การเรียนท่ีเน้นให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์กับการเรียนการสอน กระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดกระบวนการคิด ข้ันสูง (Higher-Order Thinking) ดว้ ยการวิเคราะห์ สังเคราะห์และประเมนิ คา่ ไม่เพยี งแตเ่ ป็นผฟู้ งั ผ้เู รยี นตอ้ ง อ่าน เขยี น ต้งั คาถาม และถาม อภิปรายรว่ มกัน ผู้เรยี นลงมอื ปฏิบัตจิ ริง โดยตอ้ งคานึงถึงความรเู้ ดิมและความ ต้องการของผู้เรียนเป็นสาคัญ ทั้งน้ี ผู้เรียนจะถูกเปลี่ยนบทบาทจากผู้รับความรู้ไปสู่การมีส่วนร่วมในการสร้าง ความรู้ ทฤษฎี/แนวคิด การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active learning) เป็นกระบวนการเรียนการสอนที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีส่วน ร่วมในชั้นเรียน สร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างครูผู้สอนกับผู้เรียน มุ่งให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติ โดยมีครูเป็นผู้อานวย ความสะดวก (Facilitator) สร้างแรงบันดาลใจ ให้คาปรึกษา ดูแล แนะนา ทาหน้าที่เป็นโค้ชและพ่ีเล้ียง (Coach & Mentor) แสวงหาเทคนิควิธีการจัดการเรียนรู้ และแหล่งเรียนรู้ท่ีหลากหลาย ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ อยา่ งมคี วามหมาย (Meaningful learning) ผ้เู รยี นสรา้ งองค์ความรู้ได้ มีความขา้ ใจในตนเอง ใช้สตปิ ัญญา คิด วิเคราะห์ สรา้ งสรรค์ผลงานนวตั กรรมท่ีบง่ บอกถึงการมีสมรรถะสาคญั ในศตวรรษที่ 21 มที ักษะวชิ าการ ทกั ษะ ชวี ติ และทกั ษะวิชาชีพ บรรลเุ ปา้ หมายการเรยี นรู้ตามระดับช่วงวยั ลกั ษณะของกำรจดั กำรเรียนรเู้ ชิงรุก (Active Learning) 1. เป็นการพัฒนาศักยภาพการคิด การแก้ปัญหา และการนาความร้ไู ปประยกุ ตใ์ ช้ 2. ผู้เรียนมสี ่วนร่วมในการจัดระบบการเรยี นรู้ และสรา้ งองค์ความรู้โดยมปี ฏสิ มั พนั ธ์รว่ มกนั ในรูปแบบ ของความรว่ มมือมากกวา่ การแขง่ ขนั 3. เปดิ โอกาสให้ผู้เรยี นมสี ่วนรว่ มในกระบวนการเรียนรูส้ งู สดุ 4. เปน็ กิจกรรมที่ใหผ้ ู้เรยี นบรู ณาการขอ้ มลู ขา่ วสารสารสนเทศสู่ทักษะการคิดวิเคราะห์และประเมินค่า 5. ผู้เรยี นไดเ้ รยี นรูค้ วามมวี ินยั ในการทางานรว่ มกับผืู้อน่ 6. ความรูเ้ กิดจากประสบการณ์ และการสรุปของผู้เรียน 7. ผู้สอนเปน็ ผู้อานวยความสะดวกในการจดั การเรยี นรู้ เพ่อื ใหผ้ ูเ้ รยี นเปน็ ผปู้ ฏิบัติดว้ ยตนเอง

50 ลกั ษณะกิจกรรมท่ีเปน็ กำรเรยี นรู้เชงิ รกุ (Active Learning) 1. กระบวนการเรยี นรทู้ ่ลี ดบทบาทการสอนและการใหค้ วามร้โู ดยตรงของครู แต่เปดิ โอกาสให้ผู้เรยี นมี สว่ นรว่ มสรา้ งองค์ความรู้ และจดั ระบบการเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง 2. กิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนให้นาความรู้ ความเข้าใจไปประยุกต์ใช้ สามารถวิเคราะห์ สงั เคราะห์ ประเมนิ ค่า คดิ สรา้ งสรรค์สิง่ ตา่ ง ๆ พัฒนาทักษะกระบวนการคดิ ไปสรู่ ะดบั ท่สี ูงขน้ึ 3. กิจกรรมเช่ือมโยงกบั นกั เรียน กับสภาพแวดลอ้ มใกล้ตวั ปัญหาของชุมชน สงั คม หรอื ประเทศชาติ 4. กจิ กรรมเป็นการนาความรู้ทีไ่ ดไ้ ปใช้แกป้ ัญหาใหม่ หรอื ใชใ้ นสถานการณใ์ หม่ 5. กิจกรรมเน้นให้ผู้เรียนได้ใช้ความคิดของตนเองอย่างมีเหตุมีผล มีโอกาสร่วมอภิปรายและนาเสนอ ผลงาน 6. กิจกรรมเนน้ การมีปฏิสัมพนั ธ์กันระหวา่ งผเู้ รียนกับผู้สอน และปฏสิ ัมพนั ธก์ ันระหว่างผเู้ รียนดว้ ยกัน • รูปแบบวิธีการจัดกิจกรรมการเรยี นรูเ้ ชิงรุก (Active Learning) การจัดการเรียนรู้ทื่เน้นบทบาทและการมีส่วนร่วมของผู้เรียน ในลักษณะการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) มวี ิธกี ารจดั การเรียนรหู้ ลากหลายวธิ ี เช่น - การเรียนรโู้ ดยใช้กจิ กรรมเป็นฐาน (Activity-Based Learning) - การเรียนรู้เชงิ ประสบการณ์ (Experiential Learning) - การเรยี นรโู้ ดยใช้ปญั หาเปน็ ฐาน (Problem-Based Learning) ฯลฯ อย่างไรก็ตามรูปแบบวิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เหล่านี้มีพื้นฐานมาจากแนวคิดเดียวกัน คือ ให้ ผูเ้ รียนเปน็ ผ้มู บี ทบาทหลกั ในการเรยี นรู้ของตนเอง จุดม่งุ หมำย 1. Active Learning ส่งเสริมการมีอิสระทางด้านความคิดและการกระทาของผู้เรียน การมี วิจารณญาณ และการคิดสร้างสรรค์ ผู้เรียนจะมีโอกาส มีส่วนร่วมในการปฏิบัติจริงและมีการใช้ วิจารณญาณ ในการคิดและตัดสินใจในการปฏิบัติกิจกรรมนั้น มุ่งสร้างให้ผู้เรียนเป็นผู้กากับทิศทางการเรียนรู้ ค้นหาสไตล์ การเรยี นรขู้ องตนเอง สูก่ ารเปน็ ผู้รู้คดิ รู้ตัดสินใจดว้ ยตนเอง (Metacognition) เพราะฉะนัน้ Active Learning จึงเป็นแนวทางการจัดการเรียนรู้ทมี่ ุ่งใหผ้ ู้เรยี นสามารถพัฒนาความคิดช้นั สูง (Higher order thinking) ในการ มีวจิ ารณญาณ การวเิ คราะห์ การคิดแก้ปัญหา การประเมนิ ตดั สินใจ และการสร้างสรรค์ 2. Active Leaning สนับสนุนส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือกันอย่างมีประสิทธิภาพ ซ่ึงความร่วมมือใน การปฏบิ ัติงานกล่มุ จะนาไปสคู่ วามสาเร็จในภาพรวม

51 3. Active Learning ทาให้ผู้เรียนทุ่มเทในการเรียน จูงใจในการเรียน และทาให้ผู้เรียนแสดงออกถึง ความรู้ความสามารถ เม่ือผู้เรียนได้มีส่วนร่วมในการปฏิบัติกิจกรรมอย่างกระตือรือร้นในสภาพแวดล้อม ที่ เอ้ืออานวย ผ่านการใช้กิจกรรมที่ครูจัดเตรียมไว้ให้อย่างหลากหลาย ผู้เรียนเลือกเรียนรู้กิจกรรมต่าง ๆ ตาม ความสนใจและความถนดั ของตนเอง เกดิ ความรบั ผิดชอบและทุม่ เทเพอ่ื มุ่งสู่ความสาเรจ็ 4. Active Learning ส่งเสริมกระบวนการเรยี นรู้ทีก่ ่อให้เกิดการพัฒนาเชิงบวกทั้งตัวผู้เรียนและตวั ครู เป็นการปรับการเรยี นเปลยี่ นการสอน ผูเ้ รยี นจะมีโอกาสได้เลือกใช้ความถนัด ความสนใจ ความสามารถที่เป็น ความแตกต่างระหว่างบุคคล (Individual Different) สอดรับกับแนวคิดพหุปัญญา (Multiple Intelligence) เพื่อแสดงออกถึงตัวตนและศักยภาพของตัวเอง ส่วนครูผู้สอนต้องมีความตระหนักท่ีจะปรับเปลี่ยนบทบาท แสวงหาวิธีการ กิจกรรมท่ีหลากหลาย เพ่ือช่วยเสริมสร้างศักยภาพของผู้เรียนแต่ละคน สิ่งเหล่าน้ีจะทาให้ครู เกิดทักษะในการสอนและมีความเช่ียวชาญในบทบาทหน้าืท่ที่รับผิดชอบ เป็นการพัฒนาตน พัฒนางาน และ พัฒนาผเู้ รยี นไปพรอ้ มกนั ลำดบั กำรสอน/กระบวนกำรเรียนกำรสอน 1. จดั การเรยี นรู้ท่ีพัฒนาศกั ยภาพทางสมอง ได้แก่ การคิด การแกป้ ัญหาและการนา 2. จดั การเรียนรทู้ เ่ี ปดิ โอกาสให้ผเู้ รียนมีส่วนรว่ มในกระบวนการเรยี นรสู้ ูงสดุ 3. จัดให้ผเู้ รียนสรา้ งองคค์ วามรู้และจัดกระบวนการเรียนรูด้ ้วยตนเอง 4. จัดให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ ท้ังในด้านการสร้างองค์ความรู้ การสร้างปฏิสัมพันธ์ร่วมกัน สร้างร่วมมือกนั มากกว่าการแขง่ ขนั 5. จัดให้ผู้เรียนเรียนรู้เร่ืองความรับผิดชอบร่วมกัน การมีวินัยในการทางานและการแบ่งหน้าที่ ความ รบั ผิดชอบในภารกิจตา่ ง ๆ 6. จัดกระบวนการเรียนท่ีสร้างสถานการณ์ให้ผู้เรียนอ่าน พูด ฟัง คิดอย่างลุ่มลึก ผู้เรียนจะเป็นผู้ จดั ระบบการเรยี นรู้ด้วยตนเอง 7. จดั กจิ กรรมการจดั การเรยี นรทู้ เ่ี น้นทกั ษะการคิดขน้ั สูง 8. จัดกิจกรรมที่เปิดโอกาสใหผ้ ู้เรียนบูรณาการข้อมูล ข่าวสาร หรือสารสนเทศและหลกั การ 9. ผสู้ อนจะเปน็ ผู้อานวยความสะดวกในการจดั การเรยี นรู้ เพ่ือใหผ้ เู้ รียนเป็นผู้ปฏบิ ัตดิ ว้ ย 10. จดั กระบวนการสรา้ งความรทู้ ีเ่ กิดจากประสบการณ์ การสรา้ งองค์ความรแู้ ละการสรปุ ทบทวนของ ผเู้ รยี น

52 ตัวอย่ำงแผนกำรจดั กำรเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 ธนาคาร แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 เร่ือง การฝากเงินและการถอนเงิน ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 5 เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วดั มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ส 3.2 เขา้ ใจระบบและสถาบนั ทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ความสมั พนั ธ์ทางเศรษฐกิจ และความจาเป็นของการร่วมมือกนั ทางเศรษฐกิจในสังคมโลก ตวั ชี้วดั ส 3.2 ป.5/1 อธิบายบทบาทหนา้ ที่เบ้ืองตน้ ของธนาคาร จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายความแตกตา่ งของการฝากเงินและการถอนเงิน (K) 2. จาแนกธุรกรรมของธนาคารการฝากเงินและการถอนเงิน (P) 3. เห็นความสาคญั ของการศึกษาเรียนรู้การทาธุรกรรมของธนาคาร (A) สาระสาคญั การฝากเงินและถอนเงิน เป็ นบทบาทหนา้ ที่ของธนาคารท่ีใหบ้ ริการแก่ประชาชน สาระการเรียนรู้ การฝากเงินและการถอนเงิน

53 สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ใฝ่ เรียนรู้ 2. มุ่งมนั่ ในการทางาน คาถามสาคญั นกั เรียนตอ้ งการเป็นพนกั งานธนาคารหรือไม่ เพราะเหตุใด การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. •นข้•นักั เสร•ังียเ•นกสต•งั รเ•กวบต•ภร•วาพม•ตข้ว•อั อม•ยูลา่ •ง(Gใ•บaฝt•hาeก•rเiง•nินg•แ) ละใบถอนเงิน แลว้ ร่วมกนั สนทนา โดยใชค้ าถาม ดงั น้ี • ส่ิงท่ีเห็นคืออะไร (ใบฝากเงิน ใบถอนเงิน) • นกั เรียนหรือผปู้ กครองเคยเขา้ ไปฝากเงินและถอนเงินหรือไม่ (ตวั อยา่ งคาตอบ เคย/ไม่เคย) 2. ตวั แทนนกั เรียนออกมาเล่าเก่ียวกบั วธิ ีการฝากเงิน การถอนเงินใหเ้ พื่อนฟังหนา้ ช้นั เรียน 3. นกั เรียนร่วมกนั ศึกษาและรวบรวมขอ้ มูลเกี่ยวกบั เรื่อง การฝากเงิน การถอนเงิน ดอกเบ้ียเงินฝาก และดอกเบ้ียเงินกู้ จากหนงั สือเรียนและแหล่งการเรียนรู้อ่ืนเพิม่ เติม

54 • (ขนG•้นักั aคเ•รtิดhีย•eวนrเิ •รคin่วรg•มา)ะก•หนั ์•แแลส•ะดส•งรคุป•วคา•มวาค•มิด•รเหู้ •(็นPเ•rกoี่ย•cวeกs•sบั inก•gา)•รฝากเงิน แลว้ สรุปเป็นความคิดรวบยอด 4. โดยใชค้ าถาม ดงั น้ี • การฝากเงินกบั ธนาคารมีกี่ประเภท อะไรบา้ ง (มี 2 ประเภท คือ เงินฝากออมทรัพย์ และเงินฝากประจา) • เงินฝากออมทรัพยแ์ ละเงินฝากประจามีลกั ษณะสาคญั อยา่ งไร ตวั แทนนกั เรียนออกมา เขียนคาตอบเป็นแผนภาพความคิดบนกระดาน ดงั ตวั อยา่ ง ฝากข้นั ต่า 100 บาท สามารถถอนตา่ งสาขาได้ บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ สามารถทาเป็นบตั ร ATM และบตั รเครดิตเบิกถอนต่างธนาคารได้

55 เร่ิม • บญั ชีฝากประจา 3 เดือน 6 เดือน • มีบญั ชีฝากประจา และ 12 เดือน ฝากข้นั ต่า 1,000 บาท 3, 6, 12, 24, 36 เดือน บัญชีเงินฝากประจา จบ • บญั ชีฝากประจา 24 และ 36 เดือน • บญั ชีฝากประจา 3 เดือน หากถอน • ฝากข้นั ต่า 10,000 บาท ก่อนกาหนดจะไมไ่ ดร้ ับดอกเบ้ีย • ฝากไมถ่ ึง 3 เดือนไมจ่ า่ ยดอกเบ้ีย • ถอนหลงั จาก 3 เดือน ก่อนครบ กาหนดปรับเป็ นดอกเบ้ียออมทรัพย์ • บญั ชีฝากประจา 6 เดือน และ 12 เดือน ท่ีฝากไม่นอ้ ยกวา่ 3 เดือน หากถอนก่อนกาหนด จะปรับดอกเบ้ียเป็ นแบบออมทรัพย์

56 5. นกั เรียนร่วมกนั วเิ คราะห์เปรียบเทียบความเหมือนและความแตกตา่ งระหวา่ งการฝากเงิน ประเภทออมทรัพยแ์ ละฝากประจา โดยใชแ้ ผนภาพความคิด แลว้ สรุปเป็นความคิดรวบยอด ดงั ตวั อยา่ ง ฝากออมทรัพย์ ฝากประจา ความเหมือน สามารถถอนไดท้ ุกวนั ไดด้ อกเบ้ีย ไมส่ ามารถถอนเงินได้ ตามความตอ้ งการ เงินฝาก จนกวา่ จะครบกาหนด เวลา 6. นกั เรียนร่วมกนั วิเคราะห์ประโยชนข์ องการฝากเงินไวก้ บั ธนาคาร โดยใชแ้ ผนภาพความคิด แลว้ สรุปเป็นความคิดรวบยอด ดงั ตวั อยา่ ง ไดร้ ับดอกเบ้ียเงินฝาก เงินไม่สูญหาย ประโยชน์ของการฝากเงนิ ไว้กบั ธนาคาร ปลูกฝังนิสยั และความมีวนิ ยั เกี่ยวกบั การออม

57 7. นกั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั การถอนเงิน แลว้ สรุปเป็นความคิดรวบยอด โดยใชค้ าถาม ดงั น้ี • การถอนเงินมีลกั ษณะสาคญั อยา่ งไร (เป็นการนาเงินที่ไดฝ้ ากไวก้ บั ธนาคารออกมาใชจ้ า่ ยตามความจาเป็นของตนเอง) • ถา้ นกั เรียนหรือผปู้ กครองจาเป็นตอ้ งถอนเงินจากธนาคาร จะนามาใชป้ ระโยชน์อยา่ งไร (ตวั อยา่ งคาตอบ นามาใชจ้ ่าย ซ้ือของที่จาเป็นต่อการดาเนินชีวติ และใชจ้ ่ายเป็นทุนการศึกษา) 8. นกั เรียนคิดประเมินเพ่ือเพ่มิ คุณคา่ แลว้ สรุปเป็นความคิดรวบยอด โดยใชค้ าถาม ดงั น้ี • นกั เรียนตอ้ งการเป็นพนกั งานธนาคารหรือไม่ เพราะเหตุใด (ตวั อยา่ งคาตอบ ตอ้ งการ เพราะวา่ จะไดท้ าหนา้ ท่ีอานวยความสะดวกในการฝากเงิน ถอนเงิน และใหค้ าปรึกษาดา้ นการเงินและการลงทุนแก่ประชาชน) • •ข้ัน•ป•ฏบิ• ัต•แิ ล•ะส• ร•ุปค•ว•าม•รู้ห•ล•งั ก•าร•ปฏ• ิบ•ตั •ิ (A•p•ply•in•g a•nd• C•o•ns•tru•ct•in•g t•he• K•no•w•le•dg•e)• •9.• นกั เรียนแบง่ กลุ่ม 2 กลุ่ม แสดงบทบาทสมมุติการฝากเงินและถอนเงินจากธนาคาร โดยนกั เรียนที่มีประสบการณ์ในการฝากเงินและถอนเงินใหแ้ สดงบทบาทสมมุติเป็นพนกั งานธนาคาร นกั เรียนท่ีเหลือเป็นลูกคา้ ของธนาคาร โดยครูจดั เตรียมแบบฟอร์มการฝากเงิน และถอนเงินใหน้ กั เรียน ไดเ้ ขียน และนาไปฝากและถอน 10. นกั เรียนตรวจสอบความถูกตอ้ งเรียบร้อยของผลงาน หากพบขอ้ ผดิ พลาดใหป้ รับปรุงแกไ้ ข ใหด้ ียงิ่ ข้ึน 11. นกั เรียนสรุปส่ิงที่เขา้ ใจเป็นความรู้ร่วมกนั ดงั น้ี การฝากเงินและถอนเงิน เป็ นบทบาทหนา้ ท่ีของธนาคารท่ีใหบ้ ริการแก่ประชาชน • ข•้นั •สื่อ•ส•าร•แล•ะน•า•เสน• อ•(A• p•pl•yin•g•th•e •Co•m•m•uni•ca•tio•n•Sk•ill•) 1•1. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มออกมาแสดงบทบาทสมมุติการฝากเงินและถอนเงินหนา้ ช้นั เรียน กิจกรรมน้ีสร้างเสริมทกั ษะศตวรรษท่ี 21 ดา้ นการสื่อสาร

58 12. นกั เรียนร่วมกนั อภิปรายสรุปเก่ียวกบั วธิ ีการทางานใหเ้ ห็นการคิดเชิงระบบและวธิ ีการทางาน ที่มีแบบแผน •ข้ัน• ป•ระ•เม•ิน•เพ•่ือเ•พม่ิ• ค•ุณ•ค่า•บร•ิก•าร•สัง•คม•แ•ละ•จิต• ส•าธ•าร•ณะ• (•Se•lf-•Re•gu•la•tin•g•) 13. นกั เรียนนาความรู้เกี่ยวกบั การฝากเงิน การถอนเงินไปเล่าใหส้ มาชิกในครอบครัวฟัง เพ่อื ใหท้ ุกคนปฏิบตั ิตนไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง เมื่อตอ้ งฝากเงินและถอนเงิน 14. นกั เรียนประเมินตนเอง โดยเขียนแสดงความรู้สึกหลงั การเรียนและหลงั การทากิจกรรม ในประเด็นต่อไปน้ี • สิ่งท่ีนกั เรียนไดเ้ รียนรู้ในวนั น้ีคืออะไร • นกั เรียนมีส่วนร่วมกิจกรรมในกลุ่มมากนอ้ ยเพียงใด • เพือ่ นนกั เรียนในกลุ่มมีส่วนร่วมกิจกรรมในกลุ่มมากนอ้ ยเพียงใด • นกั เรียนพอใจกบั การเรียนในวนั น้ีหรือไม่ เพยี งใด • นกั เรียนจะนาความรู้ที่ไดน้ ้ีไปใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์แก่ตนเอง ครอบครัว และสังคมทว่ั ไป ไดอ้ ยา่ งไร จากน้นั แลกเปลี่ยนตรวจสอบข้นั ตอนการทางานทุกข้นั ตอนวา่ จะเพมิ่ คุณค่าไปสู่สงั คม เกิดประโยชนต์ ่อสงั คมใหม้ ากข้ึนกวา่ เดิมในข้นั ตอนใดบา้ ง สาหรับการทางานในคร้ังต่อไป

59 ส่ือการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้ืนฐาน สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 5 ของสถาบนั พฒั นาคุณภาพวิชาการ (พว.) 2. ตวั อยา่ งใบฝากเงินและใบถอนเงิน 3. แบบฟอร์มการฝากเงินและการถอนเงิน 4. แหล่งการเรียนรู้ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรียน การประเมนิ การเรียนรู้ 1. ประเมินความรู้ เร่ือง การฝากเงินและการถอนเงิน (K) ดว้ ยแบบทดสอบ 2. ประเมินกระบวนการทางานกลุ่ม (P) ดว้ ยแบบประเมิน 3. ประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นใฝ่ เรียนรู้ มุง่ มนั่ ในการทางาน (A) ดว้ ยแบบประเมิน

60 แบบประเมนิ ตามสภาพจริง (Rubrics) แบบประเมนิ กระบวนการทางานกลุ่ม รายการการประเมนิ 4 ระดบั คุณภาพ 1 32 กระบวนการ มีการกาหนดบทบาท มีการกาหนดบทบาท มีการกาหนดบทบาท ไม่มีการกาหนด ทางานกลมุ่ สมาชิกชดั เจน สมาชิกชดั เจน เฉพาะหวั หนา้ บทบาทสมาชิก และมีการช้ีแจงเป้าหมาย มีการช้ีแจงเป้าหมาย ไม่มีการช้ีแจงเป้าหมาย และไม่มีการช้ีแจง อยา่ งชดั เจน เป้าหมาย สมาชิก การทางาน อยา่ งชดั เจนและ ปฏิบตั ิงานร่วมกนั มีการปฏิบตั ิงานร่วมกนั ปฏิบตั ิงานร่วมกนั ตา่ งคนตา่ งทางาน อยา่ งร่วมมือร่วมใจ แต่ไม่มีการประเมิน ไม่ครบทุกคน พร้อมกบั การประเมิน เป็ นระยะ ๆ เป็ นระยะ ๆ

61 บรรณำนุกรม ข่าวสารวชิ าการคณะเภสชั ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชยี งใหม่. (2551). กำรจดั กำรเรยี นรแู้ บบบรู ณำกำร. สบื คน้ เมื่อวนั ท่ี 5 พฤศจิกายน 2564. จาก https://www.pharmacy.cmu.ac.th/unit/unit_files/files_download/.doc นรรัชต์ ฝันเชยี ร. (2563). กำรเรียนแบบสืบเสำะหำควำมรู้ 5 ขนั้ ตอน (The 5 E’s of Inquiry-Based Learning). สบื คน้ เม่ือ 5 พฤศจกิ ายน 2564, จาก https://www.trueplookpanya.com/blog/content/82385/-blog-teamet- วิทวัส แก้วสม. (2562). ผลกำรจดั กำรเรียนรูแ้ บบร่วมมือด้วยเทคนิคจกิ๊ ซอวป์ ระกอบหนังสือ อิเลก็ ทรอนิกส์ที่มีต่อผลสัมฤทธ์ิทำงกำรเรยี น และควำมพงึ พอใจต่อกำรจัดกำรเรียนรวู้ ชิ ำ คอมพิวเตอรข์ องนกั เรยี นชัน้ ประถมศกึ ษำปีที่ 6. วิทยานิพนธ์ คบ. (หลกั สตู รและการสอน). นครสวรรค:์ มหาวิทยาลยั ราชภัฏนครสวรรค์. สืบคน้ เม่ือ 5 พฤศจิกายน 2564, จาก http://ns.nsru.ac.th/bitstream/nsru/340/1/Wittawas%20Kaewsom.pdf วิชยั วงษ์ใหญ่ (2552). กำรออกแบบกำรเรยี นร้ยู ้อนกลบั สบื คน้ เม่ือ 5 พฤศจกิ ายน 2564, จาก http://www.curriculumandlearning.com/upload/Academicpapers/6_1435646581.%20 %20%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%81% E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9 %80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B9% E0%B9%89%E0%B8%A2%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8 %A5%E0%B8%B1%E0%B8%9A.pdf สิริพัชร์ เจษฎาวิโรจน.์ (2564). กำรจัดกำรเรยี นรู้แบบบรู ณำกำร. สืบคน้ เมือ่ วนั ท่ี 5 พฤศจิกายน 2564. จาก http://www.edu.ru.ac.th/images/edu_files/Integrated_Instruction.pdf สาขาชวี วิทยา สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.). 2550. รปู แบบกำรเรียน กำร สอนท่ีพัฒนำกระบวนกำรคดิ ระดบั สงู วชิ ำชีววิทยำ ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษำตอนปลำย สืบคน้ เมอ่ื 5 พฤศจิกายน 2564, จาก http://www.ipst.ac.th/biology/Bio-Articles/mag-content10.html สุกัญญา แสงสุโพธ์ิ. (2561). กำรสอนแบบเน้นกระบวนกำรคิดด้วยเทคนิค 5E และ 7E. สืบค้นเม่ือ 5 พฤศจกิ ายน 2564, จาก http://sukanyasansupo.blogspot.com/2018/03/5e-7e.html

62 สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน. (2562). แนวทำงกำรนเิ ทศเพ่อื พัฒนำและสง่ เสริมกำรจดั กำร เรยี นรู้เชิงรกุ (Active Learning) ตำมนโยบำยลดเวลำเรยี นเพ่ิมเวลำร้.ู กรงุ เทพฯ: หนว่ ย ศกึ ษานเิ ทศก์ สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน. เอกสารหมายเลข 1/2562. อารี สัณหฉวี และอษุ ณยี ์ อนุรทุ ธ์วงศ.์ (2548). พหุปัญญำ. สืบค้นเม่ือวันที่ 5 พฤศจกิ ายน 2564. จาก https://www.babybestbuy.in.th/shop/theory_of_multiple_intelligences อนุพงษ์ ชุมแวงวาปี และ อังคณา ตงุ คะสมิต (2554). ผลกำรใช้หนว่ ยกำรเรยี นรแู้ บบยอ้ นกลับ (Backward Design) โดยใช้กำรสอนด้วยวธิ ีกำรทำงประวตั ศิ ำสตร์ต่อกำรคิดอยำ่ งมีวจิ ำรณญำณ สบื ค้นเมอ่ื 5 พฤศจกิ ายน 2564, จาก file:///C:/Users/Admin/Downloads/50535- Article%20Text-117223-1-10-20160308.pdf Jigsaw. (2021). สืบคน้ เมือ่ 5 พฤศจิกายน 2564 จาก, http://innovationforeducation.weebly.com/- jigsaw.html?fbclid=IwAR3ZIQqkwdRb9ZoUgmn8fY_ylAZBnUI8PVDu9TtMUwRoMDOJVk C6f5RuYHI Pralong Krutnoi. (2012). วิธสี อนแบบจิก๊ ซอร์ (Jigsaw). สืบคน้ เม่ือ 5 พฤศจิกายน 2564 จาก, https://www.gotoknow.org/posts/455903?fbclid=IwAR2zbFuco6XwZ6mP2zElA3sqwX_ _7SnebEKaC9taO0Qx7YCyqH84ZeK-4MY 026Phatthamaaorn. (2015). กระบวนกำรเรยี นกำรสอนของรปู แบบจ๊กิ ซอร์ (Jigsaw). สบื ค้นเม่ือ 5 พฤศจิกายน 2564 จาก, https://phatthamaaorn.blogspot.com/2015/08/jigsaw.html?fbclid=IwAR13nifro9uJKCHk _mTVsJ7zql591HOLUGpDwFQwNNe5lh98zrP26R2Hxxw

63


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook