พระปรมาภิไธยพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลท่ี ๑๐ พระปรมาภิไธย “พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธบิ ดีศรสี นิ ทรมหาวชริ าลงกรณ มหิศรภมู ิ พลราชวรางกูร กติ ิสิริสมบรู ณอดลุ ยเดช สยามนิ ทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถ บพิตร พระวชริ เกลา้ เจา้ อย่หู วั ” การอา่ นออกเสียง พระ-บาด-สม-เดด็ -พระ-ปะ-ระ-เมน-ทะ-ระ-รา-มา-ทบิ -บอ-ด-ี ส-ี สนิ -มะ-หา-วะ- ช-ิ รา-ลง-กอน-มะ-หิ-สอน-ภ-ู มิ-พน-ราด-ชะ-วะ-ราง-กนู -ก-ิ ต-ิ ส-ิ ริ-สม-บูน-อะ- ดนุ -ยะ-เดด-สะ-หยาม-มนิ -ทรา-ท-ิ เบด-ราด-วะ-โร-ดม-บอ-รม-มะ-นาด-ถะ-บอ- พิด-พระ-วะ-ชิ-ระ-เกลา้ -เจา้ -อย-ู่ หวั
พระราชประวตั ิ สมเด็จพระเจา้ อยู่หวั มหาวชริ าลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกรู มพี ระนาม เมอ่ื แรกประสูตวิ ่า “สมเดจ็ พระเจา้ ลูกยาเธอ เจา้ ฟ้าวชริ าลงกรณ บรมจกั ร ยาดิศรสันตติวงศ เทเวศรธารงสุบรบิ าล อภคิ ุณปู ระการมหิตลาดุลเดช ภูมพิ ล นเรศวรางกรู กติ ตสิ ริ สิ มบรู ณส์ วางควฒั น์ บรมขตั ตยิ ราชกมุ าร” เป็นพระราช โอรสพระองคเ์ ดียวในพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช (รชั กาลท่ี 9) และสมเด็จพระนางเจ้าสริ ิกิต์ิ พระบรมราชนิ นี าถ เสดจ็ พระราช สมภพ ณ พระท่ีน่ังอัมพรสถาน พระราชวังดสุ ิต เม่อื วนั จนั ทร์ท่ี 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2495 เวลา 17:45 น. ซ่งึ พระนาม “วชริ าลงกรณ” นัน้ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิ รญาณวงศท์ รงตั้งถวาย มาจาก “วชิรญาณ” พระนามฉายาขณะผนวชใน พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหามงกฎุ พระจอมเกลา้ เจ้าอยู่หัว (รัชกาลท่ี 6) ผนวกกบั “อลงกรณ์” จากพระนามในพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหา จุฬาลงกรณ์ พระจลุ จอมเกล้าเจา้ อยหู่ ัว (รชั กาลท่ี 5)
ขณะเม่ือทรงพระราชสมภพน้ัน ประชาชนชาวไทยท้ังประเทศทีเ่ ฝา้ รอ คอยพระประสตู กิ าลตา่ งปลาบปล้มื ปติ ิ ชื่นชมโสมนัส แซซ่ ้องในพระบญุ ญาธิ การ ดังท่ศี าสตราจารย์ หม่อมราชวงศส์ มุ นชาติ สวสั ดกิ ุล ได้บรรยายถงึ บรรยากาศก่อนเวลาพระราชสมภพ ตราบจนถึงนาทอี นั เป็นมงคลฤกษเ์ สดจ็ พระราชสมภพว่า “... วันน้ี ครึ้มฟา้ คร้มึ ฝนตัง้ แตเ่ ชา้ ฝนไมไ่ ด้ตกมานาน นายแพทยผ์ ้ถู วาย การประสูติเขา้ ประจาทสี่ กั ครู่ กป็ ระสูตพิ ระราชกมุ าร เวลา ๑๗ นาฬิกา กับ ๔๕ นาที ในนาทเี ดียวกนั นัน้ เอง ฝนทีแ่ ล้งมาตลอดฤดูกเ็ ร่มิ โปรยปรายละออง ลงมา ดคู ลา้ ย ๆ ฟ้ากร็ ู้เห็นเป็นใจกับการประสตู ิครง้ั น้ี อารมดใี จสมประสงค์ ของดวงใจทุก ๆ ดวง นายแพทยท์ ี่ถวายการประสูติ ซึ่งพร้อมทจ่ี ะบอกแก่ที่ ประชมุ ณ พระทน่ี งั่ อมั พรสถานวา่ พระราชโอรสหรอื พระราชธดิ า กล่าว ออกมาด้วยเสยี งอันตนื่ เตน้ กังวานวา่ ผู้ชาย แทนท่ีจะวา่ พระราชโอรส ฝน โปรยอยูต่ ลอดเวลา แตรสงั ข์ดรุ ยิ างคเ์ ริ่มประโคม ทหารบรรเลงเพลงสรรเสริญ พระบารมี ปนื ใหญท่ งั้ บกและเรอื ยงิ สะเทือนเลือ่ นล่นั เสยี งไชโยโฮ่ร้องกด็ ังอยู่ สน่ันหวั่นไหว สมใจประชาชนแล้ว ... ดวงใจทกุ ดวงมคี วามสุข...” นบั แตน่ ้ันมา ประชาชนชาวไทยตา่ งเฝ้าติดตามข่าวเกย่ี วกบั สมเดจ็ พระเจ้าลกู ยาเธอ เจา้ ฟ้าวชริ าลงกรณ ดว้ ยความจงรกั ภักดี และตา่ งปลาบ ปลืม้ ปติ ิช่นื ชมโสมนสั ยงิ่ ข้ึน เม่อื พระองคท์ รงเจรญิ วัย มพี ระสุขภาพ พลานามยั แขง็ แรง เพียบพรอ้ มด้วยพระราชจริยวัตรและพระปรชี าสามารถ เปน็ ท่ีประจักษ์ตลอดมา
พ่ีน้อง มีพระเชษฐภคนิ ี 1 พระองค์ คือ สมเด็จพระเจา้ ลูกเธอ เจ้าฟ้าอบุ ลรัตนราช กญั ญา สริ ิวัฒนาพรรณวดี และพระขนษิ ฐภคนิ ี 2 พระองค์ คือ สมเดจ็ พระเทพ รตั นราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสริ ินธร รฐั สีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราช กมุ ารี และสมเดจ็ พระเจ้าลกู เธอ เจา้ ฟา้ จฬุ าภรณวลยั ลกั ษณ์ อัครราชกมุ ารี
ระดบั อนุบาล รร.จติ รลดา ในปี พ.ศ. 2499 สมเดจ็ พระบรมโอรสาธิราชฯ ทรงสาเรจ็ การศกึ ษา ขนั้ ต้นในระดบั อนุบาล รุ่นท่ี 2 จากโรงเรยี นจติ รลดา แลว้ จงึ เสดจ็ ฯ ไปทรง ศกึ ษาตอ่ ในระดับประถมศึกษาที่โรงเรยี นคิงสม์ ดี แควน้ ซัสเซกส์ และศกึ ษา ระดับมธั ยมศึกษาทโ่ี รงเรียนมลิ ฟิลด์ แควน้ ซอมเมอร์เซทประเทศองั กฤษ หลังจากนัน้ ทรงศึกษาต่อวิชาทหารทีโ่ รงเรยี นคิงส์สกูล ซิดนีย์ ประเทศ ออสเตรเลีย เสรจ็ แล้ว ทรงการศกึ ษาตอ่ ในระดบั ปรญิ ญาตรีสาขาอกั ษร ศาสตร์ (ดา้ นการทหาร) จากมหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย เม่อื พ.ศ. 2519
โรงเรยี นเสนาธิการทหารบก รุน่ ที่ 46 นอกจากนี้ ยังทรงศกึ ษาตอ่ ทโ่ี รงเรียนเสนาธิการทหารบก ร่นุ ที่ 46 เมื่อปี พ.ศ. 2520 ทรงเขา้ ศกึ ษาในสาขาวชิ านติ ศิ าสตร์ รนุ่ ที่ 2มหาวิทยาลยั สุโขทยั ธรรมาธริ าช เม่อื พ.ศ.2525 ทรงสาเร็จการศกึ ษานิติศาสตรบัณฑติ (เกียรตินยิ มอนั ดับ 2) และปี พ.ศ. 2533 ทรงไดร้ บั การศึกษา ณ วทิ ยาลัยป้องกันราชอาณาจกั รแหง่ สหราช อาณาจักร
สมเด็จพระยุพราช เม่ือวนั ท่ี 28 ธันวาคม พ.ศ. 2515 พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทร มหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช (รชั กาลที่ 9) ไดท้ รงพระกรณุ าโปรดเกลา้ โปรด กระหม่อมให้ต้ังการพระราชพธิ สี ถาปนาเฉลมิ พระนามาภิไธย สมเดจ็ พระเจ้า ลกู ยาเธอ เจ้าฟ้าวชริ าลงกรณ ให้ดารงพระอสิ รยิ ยศ สมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั มหา วชิราลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกรู ตามโบราณขัตตยิ ราชประเพณี เพื่อรบั ราชสมบตั ิปกครองราชอาณาจักรสืบสนองพระองค์ โดยมพี ระนามตามจารกึ ในพระสุพรรณบฏั ว่า... สมเดจ็ พระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชริ าลงกรณ บดนิ ทรเทพ ยวรางกูร สริ กิ ติ ยิ สมบรู ณสวางควัฒน์ วรขตั ตยิ ราชสันตตวิ งศ์ มหติ ลพงศอ ดลุ ยเดช จักรีนเรศยพุ ราชวิสทุ ธ สยามมกุฎราชกุมาร
พระราชกรณียกิจ 1. ด้านการบนิ เมือ่ วนั ท่ี 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2537 ทรงปฏบิ ตั ิหนา้ ทค่ี รูการบนิ เครื่องบนิ ขบั ไลแ่ บบเอฟ-5 อ/ี เอฟ และพ.ศ. 2552 ทรงปฏิบตั หิ นา้ ทีน่ ักบนิ ท่ี 1 เครื่องบนิ โบองิ้ 737 – 400 ในเท่ียวบนิ สายใยรกั แหง่ ครอบครวั ช่วยเหลอื ผูป้ ระสบอทุ กภัย และจดั หาอปุ กรณด์ า้ นการแพทย์ สาหรบั โรงพยาบาลใน 3 จงั หวัดชายแดนภาคใต้ (เท่ยี วบินท่ี ทีจี 8870 กรุงเทพมหานครถึงจงั หวัดเชยี งใหม่ และเที่ยวบินที่ ทีจี 8871 จังหวัด เชียงใหมถ่ ึงกรงุ เทพมหานคร)
2. ด้านการทหาร สมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั มหาวชริ าลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกรู เสด็จ พระราชดาเนนิ ไปเย่ยี มทต่ี ้งั กองทหารหน่วยตา่ งๆ อยู่เสมอ จากการท่ีไดท้ รง ศกึ ษาดา้ นวิชาทหารมานาน ทรงมีความรู้เชี่ยวชาญอย่างมาก และได้ พระราชทานความรู้เหล่าน้ันใหแ้ ก่ทหาร 3 เหลา่ ทัพ ทรงปฏิบตั พิ ระองคเ์ ปน็ แบบอยา่ งแก่นายทหาร เอาพระทัยใสใ่ นความเปน็ อยูท่ ุกขส์ ุขของทหารผ้อู ยู่ ใต้บงั คบั บญั ชาอย่างทวั่ ถงึ รวมทัง้ พระราชทานพระราชทรพั ย์ส่วนพระองค์ เป็นทนุ การศกึ ษาแกบ่ ตุ รของทหาร สงิ่ เหล่านี้ล้วนก่อให้เกิดความเทิดทนู และ ความจงรกั ภักดแี กเ่ หล่าทหารเป็นอยา่ งยง่ิ ซึ่งในปัจจบุ นั ทรงดารงพระยศทางทหารของ 3 เหลา่ ทัพ ไดแ้ ก่ พล เอก พลเรอื เอก และพลอากาศเอก ทรงปฏบิ ตั พิ ระราชกรณียกิจด้านการทหาร และทรงเข้าร่วมปฏบิ ตั ิการรบในการต่อตา้ นการกอ่ การร้ายในภาคเหนือและ ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื ของประเทศไทย รวมทั้งการคมุ้ กนั พนื้ ท่ีในบริเวณ รอบคา่ ยผ้อู พยพชาวกมั พชู า ที่เขาล้าน จังหวัดตราด อีกดว้ ย
3. ดา้ นการศกึ ษา พระองคพ์ ระราชทานพระราชานุญาตให้ใชอ้ าคารของกรมทหารมหาดเล็กราช วลั ลภรกั ษาพระองค์ เป็นทตี่ ัง้ ของโรงเรยี นอนบุ าลช่อื ว่า โรงเรยี นอนบุ าล ทหารมหาดเลก็ ราชวัลลภ โดยในระยะแรกไดจ้ ัดการเรียนการสอนเฉพาะช้นั อนบุ าล ต่อมาโรงเรียนได้ยา้ ยไปท่ีจงั หวดั นนทบุรี และไดร้ บั พระราชทานช่ือ ใหม่วา่ “โรงเรียนอนุราชประสิทธ์ิ”
นอกจากนี้ ยังพระราชทานพระราชทรัพยส์ ่วนพระองคส์ มทบเปน็ คา่ ก่อสร้างโรงเรยี นมธั ยมศึกษาทต่ี ้ังอยูใ่ นชนบทหา่ งไกลคมนาคมไมส่ ะดวก กระทรวงศึกษาธิการไดส้ นองพระราชประสงคด์ ้วยการน้อมเกลา้ ฯ ถวาย โรงเรียนในระดบั มัธยมศึกษาจานวน 6 โรงเรยี น เป็นโรงเรยี นในพระ ราชปู ถัมภ์ ได้แก่ 1.โรงเรียนมัธยมพชั รกติ ยิ าภา อ.ปลาปาก จ.นครพนม (ปัจจุบันเปล่ียนชอ่ื เปน็ โรงเรยี นมัธยมพัชรกติ ิยาภา 1) 2.โรงเรียนมธั ยมจุฑาวชั ร อ.ลานกระลอื จ.กาแพงเพชร (ปัจจุบันเปลีย่ นชือ่ เป็น โรงเรยี นมธั ยมพชั รกติ ยิ าภา 2) 3.โรงเรียนมธั ยมวชั เรศร อ.เมือง จ.สรุ าษฎรธ์ านี (ปจั จบุ ันเปลย่ี นชือ่ เปน็ โรงเรียนมธั ยมพัชรกติ ิยาภา 3) 4.โรงเรียนมัธยมจกั รวี ชั ร อ.รตั นภมู ิ จ.สงขลา (ปัจจุบนั เปลย่ี นช่อื เป็น โรงเรียนมัธยมสิริวัณวรี 2) 5.โรงเรยี นมัธยมวชั รวีร์ อ.ทา่ ตะเกยี บ จ.ฉะเชงิ เทรา (ปัจจบุ นั เปลยี่ นชอื่ เป็น โรงเรียนมัธยมสิริวณั วรี 3) 6.โรงเรียนมัธยมบษุ ยน์ ้าเพชร อ.เมอื ง จ.อดุ รธานี (ปจั จุบันเปลี่ยนชอ่ื เป็น โรงเรยี นมธั ยมสิรวิ ณั วรี 1)
สมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั มหาวชิราลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกรู เสดจ็ พระราชดาเนนิ ไปทรงเยี่ยมเยาวชนในตาบลตา่ งๆ ทรงสนบั สนนุ การจดั ต้ัง ศูนย์เยาวชนตาบล รวมทง้ั ไดท้ รงเปน็ ประธานงานวันเยาวชนแหง่ ชาติ วนั ที่ 20 กันยายน ของทกุ ปี และทรงเป็นประธานในพธิ ีปฏญิ าณตนและสวนสนาม ของลูกเสอื และเนตรนารี และสมาชกิ ผู้ทาประโยชน์ ทงั้ นี้ สมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกรู ได้อปุ การะเดก็ กาพรา้ คอื จักรกฤษณ์ และอนุเดช ชูศรี ท่ีครอบครัวเสยี ชวี ติ จากภเู ขาถลม่ เม่อื ปี พ.ศ. 2554 รวมทงั้ ครอบครวั ของบูรฮาน และบุศรินทร์ หร่ายมณี ซ่ึงบิดาถูกลอบสังหารจากเหตุความไม่สงบในสามจงั หวดั ชายแดน ภาคใต้ โดยจะทรงอปุ การะจนกวา่ จะสาเร็จการศึกษาปริญญาตรีหรอื จนกวา่ จะมีอาชพี สามารถเลี้ยงครอบครัวได้ เป็นต้น
4. ดา้ นการแพทยแ์ ละสาธารณสขุ สมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกรู ทรง พระกรุณาโปรดฯ ใหส้ รา้ งโรงพยาบาลสมเดจ็ พระยพุ ราชขนึ้ เพ่อื ให้การ รักษาพยาบาลผเู้ จบ็ ป่วยในถิ่นทุรกนั ดาร พระองคท์ รงเป็นองค์นายก กติ ติมศักด์ขิ องมูลนิธิโรงพยาบาลสมเดจ็ พระยพุ ราช พระองค์มีพระราช ปณธิ านใหเ้ อาใจใสร่ ักษาพยาบาลพสกนกิ รของพระองคใ์ ห้ปลอดภัยจากความ เจ็บไขโ้ ดยท่วั หน้าเสมอกนั
5. ดา้ นศาสนา สมเด็จพระเจ้าอยูห่ ัวมหาวชิราลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกรู ทรง ปฏบิ ตั ิพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ทรงประเคนผา้ ไตร ประกาศนียบตั ร และพดั ยศ ในการตั้งภกิ ษุ และ สามเณรเปรียญ เนอ่ื งในการพระราชพิธที รง บาเพ็ญพระราชกุศล วิสาขบชู า ณ พระอุโบสถวดั พระศรรี ัตนศาสดาราม ใน พระบรม มหาราชวงั พ.ศ. 2551 สมเดจ็ พระเจา้ อยู่หัวมหาวชริ าลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกรู ทรง แสดงพระองค์เป็นพุทธมามกะทีว่ ัดพระศรรี ตั นศาสดาราม เมอื่ วันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2509 กอ่ นเสด็จพระราชดาเนินไปทรงศึกษาตอ่ ทป่ี ระเทศ อังกฤษ นอกจากน้ี สมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพ ยวรางกรู มพี ระราชศรทั ธาทรงผนวชในพระพทุ ธศาสนา โดยพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภมู พิ ลอดุลยเดชโปรดฯ ใหจ้ ัดการพระราชพธิ ผี นวช ณ พทั ธ สีมาวัดพระศรรี ตั นศาสดาราม ในวันท่ี 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2521 โดยมี สมเดจ็ พระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (วาสน์ วาสโน) เป็นพระ อุปัชฌาย์ สมเดจ็ พระญาณสังวร (เจรญิ สุวฑฺฒโน) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ สมเด็จพระธรี ญาณมนุ ี (ธีร์ ปณุ ณฺ โก) ถวายอนุศาสน์ ไดร้ บั ถวายพระสมณ นามว่า “วชริ าลงกฺ รโณ” และได้ประทบั อยู่ ณ วัดบวรนเิ วศวหิ าร ตลอดจน ทรงลาสกิ ขาในวันท่ี 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2521
สมเดจ็ พระเจา้ อยูห่ ัวมหาวชริ าลงกรณ บดินทรเทพยวรางกรู เสดจ็ พระราชดาเนินแทนพระองค์ไปปฏบิ ตั ิพระราชกิจทางพระพุทธศาสนาอยา่ ง สม่าเสมอ เช่น เสดจ็ พระราชดาเนนิ แทนพระองคไ์ ปทรงเปลีย่ นเครื่องทรงพระ พทุ ธมหามณรี ตั นปฏิมากร ณ วดั พระศรรี ัตนศาสดาราม ตามฤดูกาล เสดจ็ พระราชดาเนนิ แทนพระองค์ไปทรงบาเพญ็ พระราชกศุ ลในวนั สาคัญทาง พระพทุ ธศาสนา อาทิ วันวสิ าขบูชา วนั อาสาฬหบูชา วันเขา้ พรรษา และการ ถวายผ้าพระกฐินหลวงตามวดั ต่างๆ เปน็ ต้น
6. ดา้ นการเกษตร สมเด็จพระเจา้ อยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกูร เสด็จ พระราชดาเนนิ ไปทรงทาปุย๋ หมักจากผกั ตบชวาและวชั พืชอน่ื ๆ เปน็ ปฐมฤกษ์ เพ่ือพระราชทานแก่เกษตรกร สาหรบั นาไปใชใ้ นการเพาะปลกู เปน็ การเพ่ิม ผลผลิต ท่ีบ้านแหลมสะแก ต.เดมิ บาง อ.เดมิ บางนางบวช จ.สุพรรณบรุ ี เมอ่ื วันท่ี 23 มนี าคม พ.ศ. 2528
7. ด้านการตา่ งประเทศ วนั ท่ี 16 มีนาคม พ.ศ. 2554 สมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ ัวมหาวชิราลง กรณ บดนิ ทรเทพยวรางกูร และพระเจ้าวรวงศเ์ ธอ พระองคเ์ จ้าศรีรัศม์ิ พระ วรชายาฯ โปรดให้ พล.อ.ท.ภกั ดี แสงชโู ต นาผา้ หม่ กันหนาว 20,000 ผนื ไปชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั ในเหตุการณ์แผ่นดนิ ไหวและคลน่ื สึนามใิ นโทโฮะกุ พ.ศ. 2554 ที่ประเทศญปี่ ่นุ โดยมนี ายกษติ ภริ มย์ เปน็ ผูร้ บั มอบ
ทรงครองราชย์ เมอื่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช สมเด็จพระ บรมชนกนาถเสด็จสวรรคตในวนั ท่ี ๑๓ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๕๙ เป็นทค่ี าดหมาย วา่ พระองค์จะสืบราชสมบัติต่อ ท้งั พลเอกประยทุ ธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กย็ นื ยันวา่ จะเปน็ พระมหากษัตริยพ์ ระองคใ์ หม่ แตท่ รงขอผอ่ นผนั พลเอก เปรม ตณิ สลู านนท์ ประธานองคมนตรี จึงเปน็ ผสู้ าเร็จราชการแทนพระองค์ โดยตาแหนง่ ไปพลางกอ่ นจนกระทง่ั วนั ท่ี ๒๘ พฤศจิกายน สภานิติบญั ญัติ แหง่ ชาตไิ ด้จดั ประชมุ วาระพเิ ศษ โดยนายพรเพชร วิชิตชลชยั ประธานสภา นติ บิ ัญญตั แิ ห่งชาติ ไดแ้ จง้ หนงั สือหนังสือด่วนท่ีสดุ ท่ไี ด้รบั จากพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้แก่ทป่ี ระชุมเพ่ือรับทราบ กอ่ นอัญเชิญ พระองคเ์ สด็จข้นึ ทรงราชย์ และพระองคไ์ ดท้ รงรับเปน็ พระมหากษตั ริย์
จากนั้นวนั ท่ี ๑ ธันวาคม จึงพระราชทานพระราชวโรกาสให้ พลเอก เปรม ติณสลู านนท์ ผูส้ าเรจ็ ราชการแทนพระองค์ พรเพชร วชิ ติ ชลชัย ประธานสภานิตบิ ญั ญตั ิแห่งชาติ ปฏิบัตหิ น้าท่ีประธานรฐั สภา ประมขุ ฝ่ายนติ ิ บญั ญตั ิ พลเอกประยทุ ธ์ จนั ทรโ์ อชา นายกรัฐมนตรี ประมขุ ฝา่ ยบรหิ าร และวี ระพล ตั้งสวุ รรณ ประธานศาลฎกี า ประมขุ ฝ่ายตลุ าการ เข้าเฝา้ ฯ ณ พระท่นี ่ัง อมั พรสถาน พระราชวงั ดุสติ โดยนายพรเพชร วชิ ิตชลชยั ไดก้ ราบบังคมทลู เชญิ ข้ึนสบื ราชสมบตั ิ จากนัน้ พระองค์มพี ระราชดารสั ตอบรบั การขึ้นทรง ราชย์ ความวา่ ... “ตามที่ประธานสภานิตบิ ัญญัติแห่งชาติ ปฏิบัติหนา้ ท่ปี ระธานรฐั สภา ไดก้ ลา่ วในนามของปวงชนชาวไทย เชิญข้าพเจ้าขึ้นครองราชย์เปน็ พระมหากษัตริย์ วา่ เป็นไปตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเดจ็ พระ ปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพติ ร และเปน็ ไปตามบทบญั ญัตขิ อง กฎมณเฑียรบาล ว่าดว้ ยการสบื ราชสันตตวิ งศ์กบั รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทยนัน้ ข้าพเจ้าขอตอบรบั เพื่อสนองพระราชปณธิ าน และเพ่ือ ประโยชน์ของประชาชนชาวไทยทง้ั ปวง”
ทัง้ นี้ ในทางนติ นิ ยั ถอื ว่าไดข้ น้ึ ทรงราชย์เปน็ พระมหากษัตริย์ต้งั แตว่ นั ท่ี ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ เพื่อใหเ้ ป็นไปตามโบราณราชประเพณีโดยไมข่ ัดตอ่ กฎหมาย ทง้ั ยงั สอดคล้องกบั คตนิ ยิ มในนานาประเทศทีร่ าชอาณาจักรย่อมไม่ ว่างเว้นขาดตอนจากการมีพระมหากษัตรยิ ์ และโปรดเกล้าฯ ใหเ้ ฉลิมพระ ปรมาภิไธยวา่ \"สมเดจ็ พระเจา้ อยูห่ วั มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร\"
พระราชดารัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอย่หู วั ในการออกมหาสมาคม พระราชพิธบี รมราชาภิเษก พุทธศกั ราช 2562 วนั ที่ 4 พฤษภาคม 2562 ณ พระทีน่ ั่งอมรนิ ทรวินิจฉยั มไหยศรู ยพิมาน พระราชดารัสพระบาทสมเด็จ พระเจา้ อยหู่ วั ในการออกมหาสมาคม พระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก พุทธศักราช 2562 วันที่ 4 พฤษภาคม 2562 ณ พระทีน่ ั่งอมรนิ ทรวนิ ิจ ฉยั มไหยศรู ยพมิ าน ขา้ พเจา้ มคี วามยนิ ดีเปน็ อย่างย่ิง ที่ได้มาอยู่ในท่ามกลางมหาสมาคม พรง่ั พรอ้ มดว้ ยทกุ ท่านจากทกุ สถาบันสาคญั ของชาติ และไดร้ บั คาอวยพรอัน เป่ียมไปด้วยความปรารถนาดี และไมตรจี ติ ขอขอบพระทยั และขอบใจในคา อานวยพรและน้าใจไมตรีของทกุ ท่านเปน็ อย่างมาก ในโอกาสน้ี ขา้ พเจา้ ขอเชญิ ชวนทกุ ทา่ นทุกฝา่ ยในมหาสมาคมน้ี และ ประชาชนชาวไทยทกุ คน ได้ต้งั ความปรารถนาร่วมกันกบั ข้าพเจา้ ในอันท่ีจะ ร่วมกนั ปฏิบัตงิ านตามฐานะและหน้าทีข่ องตน โดยยึดเอาประโยชน์ คอื ความ เจริญมัน่ คงของประเทศชาติ และความผาสกุ รม่ เยน็ ของประชาชน เปน็ เป้าหมายสูงสดุ ขอคุณพระรตั นตรัยและสงิ่ ศกั ด์ิสทิ ธจ์ิ งคุ้มครองรกั ษาทุกท่าน ให้ ประสบความสขุ ความเจรญิ พรอ้ มดว้ ยพรอนั เป็นมงคลทุกประการ
ตราสญั ลักษณพ์ ระราชพิธี บรมราชาภิเษก พุทธศักราช ๒๕๖๒
ตราสญั ลกั ษณพ์ ระราชพธิ บี รมราชาภิเษก พทุ ธศักราช ๒๕๖๒ ประกอบดว้ ย อักษรพระปรมาภไิ ธย วปร อย่ตู รงกลาง พ้ืนอักษรสีขาวขอบเดินทอง อัน เปน็ สขี องวนั จันทร์ซึง่ เป็นวันพระบรมราชสมภพ ภายในอกั ษรประดับเพชร ตาม ความหมายแหง่ พระนามมหาวชิราลงกรณ อักษร วปร อยู่บนพ้นื สขี าบ (นา้ เงนิ เขม้ ) อนั เป็นสขี องขตั ติยกษัตรยิ ์ ภายในกรอบพมุ่ ขา้ วบิณฑส์ ที องสอดสีเขียว อนั เป็นสีซึ่ง เป็นเดชแห่งวันพระบรมราชสมภพ กรอบทรงพุม่ ขา้ วบณิ ฑ์อญั เชิญมาจากกรอบที่ ประดษิ ฐานพระมหาอณุ าโลม อนั เปน็ พระราชลญั จกรประจาพระองค์ พระบาทสมเดจ็ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ปฐมกษตั รยิ ์แห่งพระบรมราชจกั รี วงศ์ แวดล้อมด้วยเครื่องเบญจราชกกธุ ภัณฑ์ อนั เป็นเครื่องประกอบพระบรมราช อสิ ริยยศของพระมหากษตั ริย์และเป็นเครอ่ื งหมายแหง่ ความเป็นสมเด็จพระบรม ราชาธิราช ไดแ้ ก่ -พระมหาพิชัยมงกุฎพร้อมอณุ าโลมประกอบเลขมหามงคลประจารัชกาล อยเู่ บอ้ื ง บนพระแสงขรรคช์ ัยศรีกบั พระแส้จามรี ทอดไขว้อยู่เบ้ืองขวา -ธารพระกรกบั พดั วาลวิชนี ทอดไขวอ้ ยเู่ บื้องซ้าย และฉลองพระบาทเชิงงอน อยู่ เบ้ืองล่าง -พระมหาพชิ ัยมงกฎุ หมายถึงทรงรับพระราชภาระอนั หนักย่งิ ของแผ่นดินเพอื่ ประโยชน์สขุ ของประชาชน -พระแสงขรรค์ชัยศรหี มายถึงทรงรบั พระราชภาระปกป้องแผ่นดินให้พน้ จาก ภยนั ตราย -ธารพระกรหมายถงึ ทรงดารงราชธรรมเพอ่ื คา้ จนุ บ้านเมอื งให้ผาสกุ ม่นั คง -พระแสจ้ ามรี กับพดั วาลวชิ นหี มายถึงทรงขจัดปัดเป่าความทกุ ข์ยากเดือดรอ้ นของ อาณาประชาราษฎร์ -ฉลองพระบาทเชงิ งอนหมายถงึ ทรงทานุบารงุ ปวงประชาท่ัวรัฐสมี าอาณาจักร เบอ้ื งหลังพระมหาพชิ ัยมงกฎุ ประดษิ ฐาน พระมหาเศวตฉัตรอนั มีระบายขลิบทอง จงกลยอดฉตั รประกอบรูปพรหมพกั ตรอ์ ันวิเศษสุด -ระบายชน้ั ลา่ งสุดหอ้ ยอุบะจาปาทอง แสดงถึงพระบารมแี ละพระบรมเดชานภุ าพท่ี ปกแผไ่ ปท่ัวทศิ านุทิศ เบอ้ื งล่างกรอบอักษรพระปรมาภไิ ธยมีแถบแพรพ้ืนสเี ขยี วถนิม ทอง ขอบขลิบทอง มอี ักษรสีทองความวา่ “พระราชพธิ ีบรมราชาภิเษก พุทธศกั ราช ๒๕๖๒” ปลายแถบแพรเบอ้ื งขวามรี ูปคช สหี ์กายม่วงอ่อนประคองฉตั ร ๗ ช้นั หมายถึงข้าราชการฝา่ ยทหาร เบอ้ื งซ้ายมรี ูป ราชสหี ์กายขาวประคองฉัตร ๗ ชั้น หมายถงึ ขา้ ราชการฝา่ ยพลเรอื น ผปู้ ฏิบัติ ราชการสนองงานแผน่ ดินอยู่ด้วยกัน ขา้ งคนั ฉัตรดา้ นในทั้งสองข้างมดี อกลอยกนก นาค แสดงถึงปีมะโรงนักษัตรอันเป็นปีพระบรมราชสมภพ สที องหมายถึงความ เจรญิ รุง่ เรืองยงิ่ ของประเทศชาติและประชาชน
ข้อมูลอา้ งองิ กรมศิลปากร. (2559). ๗๐ สมั พัจฉร์ฉลองรชั ธรรมราชา กวีนพิ นธ์เฉลิมพระ เกียรตพิ ระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภูมพิ ลอดลุ ยเดช เน่อื งในโอกาสการจดั งานฉลองสิรริ าชสมบัตคิ รบ ๗๐ ปี. กรงุ เทพมหานคร: พิมพค์ ร้ังที่ 1. มลู นธิ ิ 5 ธนั วามหาราช. (2555). 60 พรรษามหาวชริ าลงกรณ. กรงุ เทพมหานคร. ISBN: 978-616-7732-00-8. คณะกรรมการฝา่ ยประชาสัมพนั ธ์งานพระราชพิธบี รมราชาภเิ ษก. (2562). พระ ราชดารัสพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อย่หู ัว ในการออกมหาสมาคม พระราชพิธบี รม ราชาภเิ ษก พุทธศักราช ๒๕๖๒ วันที่ ๔ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ณ พระทีน่ ่งั อมรนิ ท รวนิ จิ ฉัยมไหยศูรยพิมาน. สืบค้นเม่อื 5 พฤษภาคม 2562, จาก https://phralan.in.th/coronation/hilightdetail.php?id=723 ศาลยตุ ิธรรม. พระราชประวตั ิ สมเดจ็ พระบรมโอรสาธิราช เจา้ ฟ้ามหาวชริ าลง กรณ สยามมกุฎราชกมุ าร. สบื ค้นเมอื่ 21 กรกฎาคม 2561, จาก https://www.coj.go.th/day/pbr/pbr.html สมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั มหาวชริ าลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกรู . (2 ธนั วาคม 2559). ใน วิกิพเี ดีย สารานุกรมเสรี. สืบคน้ เมอื่ 20 กรกฎาคม 2561, จาก https://th.wikipedia.org/wiki/สมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั มหาวชิราลงกรณ_ บดินทรเทพยวรางกรู . สานกั งานศลิ ปวฒั นธรรม. (2555). พระราชกรณยี กิจ รชั กาลท่ี 10. จดหมาย เหตุเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมโอรสาธริ าช เจ้าฟ้ามหาวชริ าลงกรณ สยาม กฎุ ราชกุมาร เนื่องในโอกาสพระราชพธิ ีมหามงคลเฉลมิ พระชนมพรรษา 5 รอบ 28 กรกฎาคม 2555.
Search
Read the Text Version
- 1 - 29
Pages: