Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สะเดาะเคราะห์ให้กับตัวเอง

สะเดาะเคราะห์ให้กับตัวเอง

Published by Thalanglibrary, 2020-12-20 03:03:18

Description: มีหลายคนสงสัยเรื่องการสะเดาะเคราะห์นั้น สะเดาะเคราะห์ได้จริงหรือ?
การที่เรามีเคราะห์ จนทำให้เราเกิดความทุกข์ในชีวิตได้นั้น สาเหตุมาจากอะไร?
แล้วเราจะแก้เคราะห์กรรมได้อย่างไร ?

วันนี้ จึงมีเรื่องมาเล่าให้ทุก ๆ คนได้อ่านพิจารณากัน
เผื่อจะได้แง่มุมใหม่ ๆ ในการสะเดาะเคราะห์
สำหรับคนที่เข้าใจว่าเคราะห์กรรมต้องให้คนอื่นแก้
พร้อมทั้งบทสวดมนต์สำหรับการสะเดาะเคราะห์ และบทแผ่เมตตาท้ายเล่ม
มาร่วมกันสะเดาะเคราะห์ให้กับตัวเองกันเถอะ....สาธุ

บุคคลจะได้ดีหรือชั่ว จะได้รับสุขหรือทุกข์
ก็เพราะกรรม หรือการกระทำของตนเองทั้งสิ้น
ตนต้องเป็นที่พึ่งของตน
๑. ต้องช่วยตนเองได้
๒. ต้องพึ่งตนเองได้
๓. ต้องสอนตัวเองได้
ถ้าสามหลักนี้ไม่มีกับโยมคนใด คนนั้นจะเป็นที่พึ่งไม่ได้
พระท่านจะช่วยเราได้อย่างไร ?

พระธรรมสิงหบุราจารย์
(หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม)

Search

Read the Text Version

ข อใหม สี ตสิ มั ปชญั ญะ รเู หตกุ ารณท ม่ี นั เกดิ ขน้ึ ในปจ จบุ นั ของตน ถงึ จะเปน การสรา งกศุ ลไดถ กู ตอ ง คนที่เจริญกรรมฐานมั่นคงไมเปนคนจน รับรอง ไมจนแตม มีเงินไมขาดกระเปา คนที่จนจิตจนใจ จนสตปิ ญ ญา ไมเ จรญิ พระกรรมฐาน เงนิ ขาดกระเปา ทกุ วนั และลม ละลายไปในทส่ี ดุ ขอฝากญาตโิ ยมไวค ดิ ในวนั น้ี 1

Dhammaintrend รว่ มเผ2ยแพรแ่ ละแบง่ ปันเป็ นธรรมทาน

คำขอขมาโทษ ( ตง้ั นะโมฯ ๓ จบ ) กายะกมั มงั , วจกี มั มงั , มโนกมั มงั , อะตตี งั โทสงั , อนาคะตงั โทสงั , ปจ จปุ ปน นงั โทสงั , โยโทโส, อนั วา โทษอนั ใด, กรรมอนั ใด, ทข่ี า พเจา (ทง้ั หลาย), ไดป ระมาทพลง้ั เผลอสตไิ ป, ดว ยกายกด็ ,ี ดว ยวาจากด็ ,ี ดว ยใจกด็ ,ี ตอ หนา กด็ ,ี ลบั หลงั กด็ ,ี โดยเจตนากต็ าม, ไมเ จตนากต็ าม, ตอ พระรตั นตรยั , มารดาบดิ า, ครอู ปุ ช ฌาอาจารย, เจา กรรมนายเวร, ผมู พี ระคณุ ทกุ ทา น, ขอพระรตั นตรยั , มารดาบดิ า, ครอู ปุ ช ฌาอาจารย, เจา กรรมนายเวร, ผมู พี ระคณุ ทกุ ทา น, จงไดโ ปรดงดโทษ, และอโหสกิ รรม, ใหแ กข า พเจา (ทง้ั หลาย), ตง้ั แตบ ดั นเ้ี ปน ตน ไปดว ย...เทอญ ฯ 3

๑ ( กเิ ลส กรรม วบิ าก ) 4

มี หลายคนสงสยั เรอ่ื งการสะเดาะเคราะห นนั้  สะเดาะเคราะหไดจ รงิ หรอื ? เราก็เลยตอ งมา ตง้ั คำถามกนั วา เคราะหก รรมทว่ี า นน้ั เกดิ มาจาก อะไร? ในฐานะทีเ่ ราเปนชาวพุทธ ศาสนาพทุ ธน้นั เปนศาสนาที่มงุ เนนในเร่ืองของการกระทำ โดยเฉพาะ อยา งย่ิง เราตอ งทำความเขาใจกับส่ิงเหลานเี้ สียกอ น นน่ั ก็คือ ๑.กเิ ลส ๒.กรรม ๓.วบิ าก กเิ ลส คอื ส่ิงที่แฝงติดอยใู นใจแลวทำใหใ จ เศราหมองขนุ มวั กิเลสทช่ี อบซกุ หมักหมมอยใู นใจคนมากท่ีสดุ คอื ราคะ โลภะ โทสะ โมหะ เพราะกเิ ลสชอบซกุ หมักหมมอยูในใจของคน จึงเรียกอีกอยางหนึ่งวา กิเลสาสวะ หรือ อาสวกิเลส แปลวา กิเลส ท่หี มกั ดองอยูในจิต 5

๒ ( พึ่งหมอดู ทรงเจา้ ) 6

กรรม แปลวา การกระทำ หมายถึง การทำ การพดู การคิด ทป่ี ระกอบไปดว ยเจตนา คอื ความจงใจ วบิ าก คอื ผลอนั เกดิ จากกรรม(การกระทำ) ที่เราทำไวนนั่ เอง ถา เราคิดดี พดู ดี ทำดี ผลของกรรม หรอื การกระทำ กย็ อมสง ผลใหเราไดพบกับสิ่งท่ดี ี แตถ า เราคดิ ชว่ั พดู ชว่ั ทำชว่ั ผลของการกระทำกย็ อ ม สงผลใหเราไดพ บกับสง่ิ ทไ่ี มดี การทเ่ี รามเี คราะห จนทำใหเ ราเกดิ ความทกุ ข ในชวี ติ ไดนั้น สาเหตกุ ็มาจากกิเลสตณั หา ทท่ี ำใหเกิด กรรม คอื การกระทำท่ไี มด ี สง ผลใหเ ราตองไดรบั ผล คือความทุกข อันเกิดจากการกระทำที่ไมดีของเรา น่ันเอง 7

๓ ( คดิ ดี พูดดี ทำดี ) 8

แลว เราจะแกเคราะหกรรมไดอยางไร ? หลายคน เวลามีความทุกข มีเคราะห ก็หนั ไปพึ่งพระ ใหทำพิธีสะเดาะเคราะหสวดนั่นสวดนี่ อาบนำ้ มนตใ ห พง่ึ ผี พง่ึ หมอดู ทรงเจา นน่ั กเ็ ปน เพราะ วา เราไมเ ขา ใจในเรอ่ื งของ กเิ ลส กรรม และวบิ าก เพราะสงิ่ ท่ีทำใหเ รามีเคราะหม ันติดอยใู นจติ ในใจของ เรานเ่ี อง ไมไ ดอ ยบู นฟา หรอื ใตด นิ ทไ่ี หนเลย ตอ ใหเ รา ไปใหหมอดูซักกี่รอยคน ใหพระทำพิธีรดน้ำมนตให ก่รี อ ยตมุ ทรงเจาซกั ก่รี อ ยคร้ัง ก็ไมเกดิ ประสิทธผิ ล แตป ระการใด ถาเรายังที่จะคิดอยูเดิม ๆ พูดอยูเดิม ๆ ทำอยูเดิม ๆ ไมเ ปลย่ี นแปลงการกระทำ ใหเกิดผล ในทางทด่ี ที ่ถี กู ทตี่ อ งอยูอยา งนแี้ ลว หมอดู หรือ พระ องคไ หน ภตู ผปี ศ าจตนใด เจา เขา ทรงทไ่ี หนๆกช็ ว ยเหลอื อะไรเราไมได 9

๔( สำรวจภายในจิตใจ ) 10

การท่เี ราจะแกเ คราะหก รรม ใหก ับตวั เองได นน้ั เราตอ งเรม่ิ จากการชำระลา งกเิ ลสทอ่ี ยใู นใจ ของตน หมน่ั สรา งกรรมดี รจู กั ทำจติ ใจใหส ะอาด ผองใส ดว ยการเจรญิ สติ อยเู ปน ประจำ เราถงึ จะ แกเคราะหกรรมของเราได เ บอ้ื งตน ใหเ รารูจ ักการเสียสละ ดวยการ ใหทานเสยี กอน เพราะผใู ห ยอมเปน ทีร่ ักของผูรับ และการใหท าน ยงั เปน การทำลาย โลภะ คอื ความโลภ ท่ีทำใหเราอยากได อยากมี อยากเปน จนทำใหเรา เปนคนทีเ่ ห็นแกตวั แกไ ด อยางเชนทุกวันน้ี ข้ั นตอ ไป กใ็ หเ รารจู กั ทจ่ี ะสำรวม กาย วาจา ของเรา ไมใ หเ ปน คนขโ้ี กรธ ขโ้ี มโห เปน คนเจา อารมณ ไประรานชาวบา น เบยี ดเบยี นผอู น่ื เปน คนทม่ี ใี จเมตตา อยตู ลอดเวลา ไมท ำตวั เปน อแี อบ เท่ียวแอบไปหยบิ ฉวยเอาของ ๆ คนอน่ื มาโดยทเ่ี จา ของเขาไมใ ห รวมทง้ั ชอบแอบไปตีทายครัวคนอน่ื ไมป ระพฤติผดิ ลูกผดิ ผัว ผดิ เมียเขา เวลาจะพดู อะไร จะทำอะไรก็ใหมีความ 11

จริงใจ เปนคนที่มีสัจจะ ไมเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา หาความแนนอนอะไรมิได ไมเปนคนเหลาะแหละ เหลวไหลพดู จาโกหกเพอ เจอ อยตู ลอดเวลา อกี ทั้งไม ทำตวั เปน คนข้ีเหลา เมายา ชอบเลน การพนัน ยุงเก่ยี ว กบั สง่ิ เสพตดิ ทำใหขาดสติ เกดิ ความประมาทในชีวิต เพราะส่ิงเหลาน้ีจะทำใหคนอ่ืนขาดความเชื่อถือ ในตวั เรา เวลาทีเ่ ราเดือดรอ น ก็ไมม ใี ครเขาอยากชว ย น่ี มนั เปนอยา งนี้ ถา หากไมทำตัวใหด แี ลว ชวี ิตนี้ มันจะดีไดอยางไร? เคราะหกรรมมันจะหมดไปได อยางไร ? ชัดเจนนะ สุ ดทา ย เมื่อเรา รูจ กั ท่ีจะหัดเสียสละใหทาน พูดดี ทำดีแลว กม็ าทำจติ ใจใหส ะอาดผอ งใส เวลาคิด ทจ่ี ะทำอะไร จะพดู อะไร ก็รจู กั หัดพิจารณาใหด ี เสียกอน ไมเปน คนใจรอนดวนตัดสินใจ ชา ๆ ไดพ รา เลม งาม รูจักปลอย รจู ักวาง รูจกั ปลงในชวี ติ เสียบาง เปนคนที่มีสติอยูเปนปกติ ไมเปนคนหลงตัวเอง ไมหลงในความอยากไดอยากมีอยากเปนในชีวิต รูจ กั ทจี่ ะพอเสียบาง ไมเปน คนหลงในอารมณของ 12

ความโลภ ความโกรธ ความอาฆาตพยาบาท ความ อจิ ฉารษิ ยา เปน คนทเ่ี จรญิ เมตตา คอยสำรวจดจู ติ ดใู จ แกไขตวั เองอยูต ลอดเวลา ถา เราเรม่ิ ทจ่ี ะหดั และเปลย่ี นแปลงการกระทำ ของตวั เองไปเรื่อย ๆ เชน นีแ้ ลว เคราะหกรรมของเรา ก็จะเร่มิ หา งหายออกไปจากชีวิต ความสุขกจ็ ะเขา มา แทนที่ เพราะการกระทำ คอื ความดีท่เี ราสรา งสม ไว มันก็เปน วบิ ากคอยสง ผลใหก บั เราในทางที่ดี แลวเราจะมีเคราะหก รรมมาจากท่ไี หนกันเลา การทำ อยา งนี้ เปนการสะเดาะเคราะหใ หก บั ตวั เองอยตู ลอด เวลา ไมต อ งไปใหพระสวดนั่นสวดนี่ อาบนำ้ มนตให พึง่ ผี พึง่ หมอดู ทรงเจา ใหเ สยี เวลาเปลา อยางนี้ จะไมด ีกวา หรือ เพราะฉะนัน้ ทา นท้ังหลาย ถึงเวลาหรอื ยงั ทเ่ี ราจะไดห นั กลบั เขา ไปสำรวจมองดใู นจติ ในใจของตวั เราเอง วา อะไรคือส่งิ ทสี่ ง ผลใหเ ราไดรับความทกุ ข มีเคราะหกรรมอยางที่เปนอยูเชนทุกวันนี้ และสิ่ง เหลาน้ันยังมีมากนอยเพียงใดในจิตในใจของเรา 13

๕ ( สวดมนต์ สิรมิ งคล เทวดา ) 14

จนเปน เหตทุ ำใหเ ราตอ งวง่ิ ไปหาคนนั้นคนน้ี ตอ งคอย พ่ึงพิงคนอ่ืนใหชวยสะเดาะเคราะหใหกับเราอยูตลอด เวลา แลวเม่ือไหรเ ราจะพง่ึ ตัวเอง สะเดาะเคราะหใ ห กับตวั เองไดเสยี ทีหนอ... อยูบ า นก็รูจกั ทจี่ ะไหวพ ระสวดมนต เปน การ สรา งทพี่ ึ่งทางใจ มีพระพทุ ธ พระธรรม พระสงฆ เปน ที่พ่งึ เปน สรณะ เวลาท่จี ะละชว่ั ทำความดี ก็ขอ ใหมีความต้ังใจ รูจักอด รูจกั ทน เปน การสรางพืน้ ฐาน ใหจ ติ ใจมีความเขม แขง็ ตง้ั อยูใ นกรอบของศีลธรรม สรางตนทุนคุณความดีใหกับชีวิต ทำจิตใจใหมี สมาธิ อนั เปนทต่ี ั้งของสติ หมั่นเจรญิ จิตภาวนา เปน เหตใุ หเ ราเกดิ ปญ ญา รจู กั ผดิ ชอบชว่ั ดี เรากส็ ามารถ แกไ ขปญ หาชวี ติ ของตวั เองได เปน การสะเดาะเคราะห ใหกับตวั เอง โดยที่เราไมตองหนั ไปพงึ่ พิงคนอื่นอกี ตอ ไป....สาธุ หวั ใจสีขาว 15

อตฺตา หิ อตตฺ โน นาโถ ตนแลเปนทพี่ ่ึงของตน โก หิ นาโถ ปโร สิยา คนอื่นใครเลาจะเปนทพ่ี ่งึ ใหแกเ ราได อตฺตนา หิ สทุ นเฺ ตน กบ็ ุคคลทต่ี นฝกฝนดีแลว นาถํ ลภติ ทุลฺลภํ. ยอ มไดท พ่ึ ่ึงทห่ี าไดย าก ท่ีมา : ขทุ ทกนกิ าย ธรรมบท ๒๕/๓๖ 16

๖ ( อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ ) 17

ชุมนมุ เทวดา สะรัชชัง สะเสนงั สะพันธงุ นะรินทัง ปะรติ ตานภุ าโว สะทา รกั ขะตตู ิ ผะรติ ว๎ านะ เมตตัง สะเมตตา ภะทนั ตา อะวิกขติ ตะจิตตา ปะรติ ตงั ภะณันตุ สคั เค กาเม จะ รเู ป คิรสิ ขิ ะระตะเฏ จันตะลกิ เข วิมาเน, ทเี ป รฏั เฐ จะ คาเม ตะรวุ ะนะคะหะเน เคหะวตั ถมุ หิ เขตเต, ภมุ มา จายนั ตุ เทวา ชะละถะละวสิ ะเม ยกั ขะคนั ธพั พะนาคา, ตฏิ ฐนั ตา สนั ตเิ ก ยงั มนุ วิ ะระวะจะนงั สาธะโว เม สณุ นั ตุ ฯ ธมั มสั สะวะนะกาโล อะยัมภะทนั ตา ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทนั ตา ธัมมสั สะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา ฯ 18

(นำ) นะโม ตัสสะ, ภะคะวะโต อะระหะโต, สมั มา, สมั พทุ ธัสสะ นะโม ตสั สะ, ภะคะวะโต อะระหะโต, สัมมา, สัมพทุ ธสั สะ นะโม ตสั สะ, ภะคะวะโต อะระหะโต, สมั มา, สมั พทุ ธัสสะ พุทธงั อายวุ ฒั ฑะณงั ชีวติ ัง ยาวะนพิ พานัง สะระณงั คจั ฉามิ, ธัมมงั อายุวฒั ฑะณงั ชีวติ งั ยาวะนิพพานงั สะระณัง คจั ฉาม,ิ สงั ฆงั อายุวัฒฑะณัง ชีวิตัง ยาวะนิพพานัง สะระณงั คจั ฉาม,ิ ทุตยิ ัมป พทุ ธงั อายวุ ฒั ฑะณงั ชวี ิตงั ยาวะนิพพานัง สะระณัง คัจฉาม,ิ ทุตยิ ัมป ธมั มัง อายวุ ัฒฑะณงั ชวี ิตัง ยาวะนพิ พานัง สะระณงั คจั ฉามิ, ทตุ ยิ มั ป สังฆัง อายวุ ัฒฑะณัง ชวี ติ ัง ยาวะนิพพานงั สะระณัง คัจฉาม,ิ 19

ตะตยิ ัมป พุทธัง อายุวัฒฑะณงั ชีวิตงั ยาวะนิพพานัง สะระณงั คัจฉาม,ิ ตะตยิ ัมป ธัมมัง อายวุ ฒั ฑะณงั ชวี ิตัง ยาวะนิพพานงั สะระณัง คัจฉาม,ิ ตะติยัมป สังฆัง อายุวฒั ฑะณัง ชีวติ ัง ยาวะนิพพานงั สะระณัง คัจฉามิ, 20

อติ ิป โส ภะคะวา อะระหงั สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะสมั ปน โน สคุ ะโต โลกะวทิ ู อะนุตตะโร ปุริสะทมั มะสาระถิ สัตถาเทวะมะนุสสานัง พทุ โธ ภะคะวาติ ฯ สว๎ ากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฐโิ ก อะกาลโิ ก เอหิปส สิโก โอปะนะยโิ ก ปจ จตั ตัง เวทติ พั โพ วญิ หู ีติ (อา นวา วิญ-ู-ฮี-ต)ิ สุปะฏิปน โน ภะคะวะโต สาวะกะสงั โฆ อชุ ปุ ะฏปิ น โน ภะคะวะโต สาวะกะสงั โฆ ญายะปะฏปิ น โน ภะคะวะโต สาวะกะสงั โฆ สามจี ปิ ะฏปิ น โน ภะคะวะโต สาวะกะสงั โฆ ยะททิ ัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปคุ คะลา เอสะภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อาหเุ นยโย ปาหเุ นยโย ทักขิเณยโย อญั ชะลี กะระณีโย อะนตุ ตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ ฯ 21

(นำ) พาหงุ สะหัสสะมะภนิ ิมมิตะสาวุธนั ตัง คร๎ ีเมขะลัง อทุ ิตะโฆระสะเสนะมารัง ทานาทธิ มั มะวิธินา ชติ ๎วา มุนนิ โท ตนั เตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมงั คะลานิ มาราติเรกะมะภยิ ตุ ฌิตะสัพพะรัตตงิ โฆรมั ปะนาฬะวะกะมักขะมะถัทธะยกั ขัง ขันตสี ทุ ันตะวธิ ินา ชติ ว๎ า มุนนิ โท ตนั เตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ นาฬาคิริง คะชะวะรัง อะตมิ ตั ตะภูตัง ทาวคั คิจักกะมะสะนวี ะ สทุ ารุณนั ตัง เมตตัมพุเสกะวธิ นิ า ชติ ว๎ า มนุ นิ โท ตนั เตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ อุกขติ ตะขคั คะมะตหิ ตั ถะสุทารณุ นั ตัง ธาวนั ตโิ ยชะนะปะถังคุลมิ าละวันตงั อทิ ธภี ิสังขะตะมะโน ชิต๎วา มนุ นิ โท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมงั คะลานิ กตั ๎วานะ กัฏฐะมทุ ะรัง อิวะ คพั ภนิ ียา จิญจายะ ทุฏฐะวะจะนัง ชะนะกายะมัชเฌ สนั เตนะ โสมะวิธนิ า ชติ ว๎ า มุนินโท 22

ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมงั คะลานิ สจั จงั วหิ ายะ มะตสิ ัจจะกะวาทะเกตงุ วาทาภิโรปต ะมะนัง อะตอิ นั ธะภตู ัง ปญ ญาปะทีปะชะลิโต ชิต๎วา มุนนิ โท ตนั เตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมงั คะลานิ นันโทปะนันทะภชุ ะคงั วพิ ธุ ัง มะหิทธิง ปตุ เตนะ เถระภุชะเคนะ ทะมาปะยันโต อิทธูปะเทสะวิธินา ชติ ว๎ า มุนินโท ตนั เตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ ทคุ คาหะทฏิ ฐภิ ุชะเคนะ สทุ ฏั ฐะหัตถัง พรัหมัง วสิ ุทธิชตุ มิ ิทธพิ ะกาภธิ านัง ญาณาคะเทนะ วิธินา ชติ ๎วา มนุ ินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมงั คะลานิ เอตาปพ ุทธะชะยะมงั คะละอัฏฐะคาถา โย วาจะโน ทนิ ะทเิ น สะระเต มะตนั ที หิตว๎ านะเนกะวิวิธานิ จุปททะวานิ โมกขัง สุขงั อะธคิ ะเมยยะ นะโร สะปญโญ ฯ 23

(นำ)มะหาการุณโิ ก นาโถ หิตายะ สพั พะปาณนี งั ปเู รต๎วา ปาระมี สัพพา ปต โต สมั โพธมิ ตุ ตะมงั เอเตนะ สจั จะวชั เชนะ โหตุ เต ชะยะมังคะลงั ฯ ชะยันโต โพธยิ า มูเล สกั ย๎ านงั นันทวิ ฑั ฒะโน เอวัง ตว๎ งั วิชะโย โหห ิ ชะยสั สุ ชะยะมังคะเล อะปะราชิตะปลลงั เก สีเส ปะฐะวิโปกขะเร อะภเิ สเก สัพพะพทุ ธานัง อคั คปั ปต โต ปะโมทะติ ฯ สุนกั ขตั ตงั สมุ งั คะลงั สุปะภาตงั สุหุฏฐิตงั สขุ ะโณ สมุ หุ ตุ โต จะ สุยิฏฐัง พร๎ ัห๎มะจารสิ ุ ปะทักขณิ งั กายะกัมมงั วาจากัมมัง ปะทักขณิ งั ปะทักขณิ งั มะโนกมั มงั ปะณธิ ี เต ปะทกั ขณิ า ปะทกั ขิณานิ กตั ว๎ านะ ละภันตัตเถ ปะทักขิเณ ฯ ภะวะตุ สัพพะมังคะลงั รักขันตุ สัพพะเทวะตา สพั พะพทุ ธานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต ฯ ภะวะตุ สพั พะมงั คะลงั รกั ขนั ตุ สพั พะเทวะตา สัพพะธัมมานุภาเวนะ สะทา โสตถ ภะวนั ตุ เต ฯ ภะวะตุ สพั พะมงั คะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา สัพพะสงั ฆานภุ าเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต ฯ 24

คาถาโพธิบาท แบบท่ี ๑ บรู ะพารสั ๎มิง พระพุทธะคุณัง บรู ะพารัส๎มงิ พระธัมเมตงั บรู ะพารัส๎มิง พระสังฆานัง ทุกขะโรคะภะยัง ววิ ัญชัยเย สพั พะทกุ ข สพั พะโศก สัพพะโรค สัพพะภยั สัพพะเคราะหตวั นอก สัพพะเคราะหตัวใน สัพพะเคราะห กลางวนั สพั พะเคราะหก ลางคืน สัพพะเคราะหข างข้ึน สัพพะเคราะหข างแรม เคราะหวนั เดือนป เคราะหดเี ขามา เคราะหรา ยออกไป หายทุกข หายโศก หายโรค หายภัย หายเคราะห เสนียดจัญไร หายไปทันที สัพพะธะนัง สัพพะลาภงั ภะวนั ตุ เต (เม) รักขันตุ สุรักขันตุ ฯ หมายเหตุ - เทีย่ วตอ ไปใหเปลย่ี น บรู พารสั ม๎ ิง เปน อาคะเนยร ัสม๎ ิง - ทกั ษิณรสั ๎มงิ - หรดีรัสม๎ งิ - ปจ จมิ รัสม๎ ิง - พายพั รสั ม๎ งิ -อดุ รรสั ม๎ งิ -อสิ านรสั ม๎ งิ นอกนนั้ เหมอื นกนั หมด, ๑ สวดใหคนอืน่ เปล่ยี น เม เปน เต 25

แบบที่ ๒ บูระพารัส๎มิง พระพุทธะคุณัง บูระพารัส๎มิง พระธัมเมตัง บรู ะพารัส๎มงิ พระสังฆานัง ทุกขะโรคะภะยงั วิวัญชัยเย สัพพะทุกข สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย สพั พะเคราะหต วั นอก สพั พะเคราะหต วั ใน สพั พะเคราะหใ ด ๆ ขอใหก ลายเปน ดีเคราะหป เคราะหเ ดอื น เคราะหว นั เคราะหป  ขอใหเ คลอ่ื น เคราะหเ ดอื นขอใหค ลาย เคราะหว ันขอใหหาย เหมือนน้ำดับไฟ วิวัญชัยเย สัพพะธะนัง สัพพะลาภัง ภะวันตุ เต (เม) รกั ขนั ตุ สรุ กั ขนั ตุฯ 26

คาถาสวดนพเคราะห อติ ิป โส ภะคะวาฯ ขาจะขอไหว พระอาทิตย๑ สะเทวา ขอเชิญ พระอาทิตย๑ เสด็จลงมารกั ษาอายไุ ด ๖ ป๒ มาเวยี นรอบในราศี ในเทีย่ งคนื ในราตรี ตองลัคน ตองจันทน สัพพะเคราะหตัวนอก สัพพะเคราะหตัวใน สารพัดทุกข สารพดั โศก สารพดั โรค สารพดั ภยั สารพดั เคราะหเ สนียดจัญไร ขออยา ใหม ภี ยั ใหมีแตชยั ยะมงคล คมุ โทษทโ่ี ทสาวญิ ญาณะสมั ปน โนฯ อติ ปิ  โส ภะคะวาฯ หมายเหตุ : สวดรอบตอไปใหเ ปลีย่ น ๑ และ ๒ ตามน้ี (รวมเปน ๙ รอบ) ๑ พระจนั ทร ๒ อายไุ ด ๑๕ ป, ๑ พระองั คาร ๒ อายไุ ด ๘ ป, ๑ พระพุธ ๒ อายไุ ด ๑๗ ป, ๑ พระเสาร  ๒ อายุได ๑๐ ป, ๑ พระพฤหสั ๒ อายไุ ด ๑๙ ป, ๑ พระราห ู ๒ อายุได ๑๒ ป ๑ พระศกุ ร ๒ อายุได ๒๑ ป, ๑ พระเกต ๒ อายไุ ด ๙ ป, 27

อณุ หสิ สะวชิ ะยะคาถา อตั ถิ อณุ ห๎ สิ สะ วชิ ะโย ธมั โม โลเก อะนตุ ตะโร สพั พะสตั ตะหิตัตถายะ ตัง ตว๎ ัง คณั หาหิ เทวะเต ปะรวิ ัชเช ราชะทัณเฑ อะมะนสุ เสหิ ปาวะเก พะยคั เฆ นาเค วเิ ส ภเู ต อะกาละมะระเณนะ วา สพั พสั ม๎ า มะระณา มตุ โต ฐะเปตว๎ า กาละมารติ งั ตัสเสวะ อานุภาเวนะ โหตุ เทโว สขุ ี สะทา สุทธะสลี ัง สะมาทายะ ธมั มงั สจุ ะริตตัง จะเร ตัสเสวะ อานุภาเวนะ โหตุ เทโว สขุ ี สะทา ลกิ ขติ งั จนิ ติตัง ปูชงั ธาระณัง วาจะนัง คะรงุ ปะเรสงั เทสะนงั สตุ ๎วา ตัสสะ อายุ ปะวัฑฒะตตี ิ พระคาถาบทน ี้อยใู นสมยั พทุ ธกาล ทพี่ ระพทุ ธเจา ไดทรงเมตตาใหเทวดาองคหน่ึงที่กำลังหมดอายุขัยจะตอง ลงไปเสวยกรรมในนรก  แตเ ทวดาองคน ้ี มคี วามกลัวมาก ที่จะตองลงไปเกิดในเมืองนรกจึงดิ้นรนทุกวิถีทางที่จะไมไป แตก ไ็ มม ใี ครจะชว ยเหลอื ไดแ มแ ตอ งคพ ระอนิ ทร แตย งั โชคดี 28

ท่ไี ดพ บพระพทุ ธเจา และทรงแนะ ใหภ าวนาคาถาบทนี้ จะไดม อี ายยุ นื ยาวนานตอ ไป  เพอ่ื ทจ่ี ะไดใ ชเ วลาทเ่ี หลอื อยนู ้ี บำเพ็ญภาวนา ใชหนีก้ รรมทีม่ ีอย ู ใหห มดไป พระคาถาบทนี้ จงึ มพี ทุ ธานภุ าพมาก ในเรอื่ ง ของการมอี ายยุ นื ยาวและยงั ทำใหส ขุ ภาพแขง็ แรง ไมเจบ็ ไข ไดป วยอยางงา ย ๆ อีกดว ย  ผทู ่ีมสี ขุ ภาพไมดี  หรอื ขี้โรค หรือปวยเปนโรคที่รักษายากแลว  ควรหมั่นทองภาวนา เปนประจำ  จะหายไดโดยเรว็ วัน 29

คาถาบชู าดวงชะตา นะโม เม สพั พะเทวานงั สพั พะคะระหะ จะ เทวานงั สุริยัญจะ ปะมญุ จะถะ สะสิ ภมุ โม จะ เทวานัง วโุ ธ ลาภงั ภะวสิ สะติ ชโี ว สกุ ะโร จะ มะหาลาภงั โสโร ราหเู กตุ จะ มะหาลาภงั สพั พะ ภะยงั วนิ าสสนั ติ สพั พะ ทุกขงั วนิ าสสนั ติ สพั พะ โรคัง วินาสสนั ติ ลกั ขะณา อะหงั วนั ทามิ สพั พะทา สพั เพ เทวา มงั ปาละยนั ตุ สพั พะทา เอเตนะ มงั คะละเตเชนะ สพั พะโสตถี ภะวนั ตุ เม ฯ ปจจุบันนิยมการผูกดวงชาตาของตน เอาไว สำหรบั สกั การะบชู า เรียกกันวา “ดวงพชิ ัยสงคราม” หรอื มิฉะนั้นกเ็ อาดวงชาตาบรรจไุ วใ นฐานพระ เม่อื จะบชู า ดวงชาตาพงึ วา คาถานเ้ี พอ่ื จะไดเ กดิ ลาภสกั การะ เปน สขุ สวสั ด์ิ พิพฒั น มงคลเลศิ ลนดนี ักแล ฯ 30

คาถามงคลจักรวาฬแปดทิศ อิมสั ๎มงิ มงคลจักรวาฬทัง้ แปดทิศ ประสิทธิ จงมา เปน กำแพงแกว ทง้ั เจด็ ชน้ั มาปอ งกนั หอ มลอ มรอบครอบทว่ั อนัตตาราชะเสมานาเขตเต สะมันตาสะตะโยชะนะสะตะ สะหัสสานิ พทุ ธะชาละปะรกิ เขตเต รักขันตุ สรุ ักขนั ตุ ฯ หมายเหตุ -เทยี่ วตอ ไปใหเปล่ียน พทุ ธะชาละปะริกเขตเต เปน ธมั มะชาละปะรกิ เขตเต - ปจ เจกะพทุ ธะชาละปะรกิ เขตเต - สงั ฆะชาละปะรกิ เขตเต 31

คาถาชินบัญชร ชะยาสะนากะตา พทุ ธา เชตวา มารงั สะวาหะนงั จะตสุ จั จาสะภงั ระสงั เย ปว งิ สุ นะราสะภา ตณั หงั กะราทะโย พทุ ธา อฏั ฐะวสี ะติ นายะกา สพั เพ ปะตฏิ ฐติ า มยั หงั มตั ถะเก เต มนุ สิ สะรา สเี ส ปะตฏิ ฐโิ ต มยั หงั พทุ โธ ธมั โม ทะวโิ ลจะเน สงั โฆ ปะตฏิ ฐโิ ต มยั หงั อเุ ร สพั พะคณุ ากะโร หะทะเย เม อะนรุ ทุ โธ สารปี ตุ โต จะทกั ขเิ ณ โกณฑญั โญ ปฏ ฐภิ าคสั มงิ โมคคลั ลาโน จะ วามะเก ทกั ขเิ ณ สะวะเน มยั หงั   อาสงุ อานนั ทะ ราหโุ ล กสั สะโป จะ มะหานาโม อภุ าสงุ วามะโสตะเก เกสนั โต ปฏ ฐภิ าคสั มงิ สรุ โิ ย วะ ปะภงั กะโร นสิ นิ โน สริ สิ มั ปน โน โสภโิ ต มนุ ปิ งุ คะโว กมุ าระกสั สโป เถโร มะเหสี จติ ตะ วาทะโก โส มยั หงั วะทะเน นจิ จงั ปะตฏิ ฐาสคิ ณุ ากะโร ปณุ โณ องั คลุ มิ าโล จะ อปุ าลี นนั ทะ สวี ะลี เถรา ปญ จะ อเิ ม ชาตา นะลาเต ตลิ ะกา มะมะ 32

เสสาสตี ิ มะหาเถรา วชิ ติ า ชนิ ะสาวะกา เอเตสตี ิ มะหาเถรา ชติ ะวนั โต ชโิ นระสา ชะลนั ตา สลี ะเตเชนะ องั คะมงั เคสุ สณั ฐติ า ระตะนงั ปรุ ะโต อาส ิ ทกั ขเิ ณ เมตตะ สตุ ตะกงั ธะชคั คงั ปจ ฉะโต อาส ิ วาเม องั คลุ มิ าละกงั ขนั ธะโมระปะรติ ตญั จะ อาฏานาฏยิ ะ สตุ ตะกงั อากาเส ฉะทะนงั อาส ิ เสสา ปาการะสณั ฐติ า ชนิ า นานาวะระสงั ยตุ ตา สตั ตปั ปาการะ ลงั กะตา วาตะปต ตาทสิ ญั ชาตา พาหริ ชั ฌตั ตปุ ท ทะวา อะเสสา วนิ ะยงั ยนั ต ุ อะนนั ตะชนิ ะ เตชะสา วะสะโต เม สะกจิ เจนะ สะทา สมั พทุ ธะปญ ชะเร ชนิ ะปญ ชะระมชั ฌมั ห ิ วหิ ะรนั ตงั มะฮี ตะเล สะทา ปาเลนตุ มงั สพั เพ เต มะหาปรุ สิ าสะภา อจิ เจวะมนั โต สคุ ตุ โต สรุ กั โข ชนิ านภุ าเวนะ ชติ ปู ท ทะโว ธมั มานภุ าเวนะ ชติ ารสิ งั โฆ สงั ฆานภุ าเวนะ ชติ นั ตะราโย สทั ธมั มานภุ าวะปาลโิ ต จะรามิ ชนิ ะ ปญ ชะเรต.ิ 33

เทวะตาอยุ โยชะนะคาถา ทกุ ขปั ปต ตา จะ นทิ ทกุ ขา ภะยปั ปต ตา จะ นพิ ภะยา โสกัปปตตา จะ นสิ โสกา โหนตุ สพั เพป ปาณโิ น เอตตาวะตา จะ อมั เหหิ สัมภะตงั ปญุ ญะสมั ปะทงั สัพเพ เทวานโุ มทันตุ สัพพะสัมปตติสทิ ธยิ า ทานัง ทะทันตุ สัทธายะ สลี ัง รักขนั ตุ สัพพะทา ภาวะนา ภริ ะตา โหนตุ คัจฉันตุ เทวะตาคะตา ฯ (สวดขณะที่พรมน้ำพระพทุ ธมนต) สัพเพ พทุ ธา พะลัปปต ตา ปจ เจกานัญจะ ยัง พะลงั อะระหันตานญั จะ เตเชนะ รกั ขัง พันธามิ สัพพะโสฯ ภะวะตุ สพั พะมังคะลงั รกั ขนั ตุ สพั พะเทวะตา สพั พะพุทธานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต ฯ รักขนั ตุ สพั พะเทวะตา ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง สะทา โสตถี ภะวนั ตุ เต ฯ สัพพะธัมมานุภาเวนะ รกั ขนั ตุ สพั พะเทวะตา สะทา โสตถี ภะวันตุ เต ฯ ภะวะตุ สัพพะมังคะลงั สัพพะสงั ฆานุภาเวนะ 34

อติ ปิ โส เทาอายุ อิตปิ  โส ภะคะวา อะระหัง สมั มาสมั พทุ โธ วชิ ชาจะระณะสมั ปน โน สคุ ะโต โลกะวิทู อะนตุ ตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานงั พทุ โธ ภะคะวาติ (ใหส วดเกนิ อายุ ๑ จบ เชน อายุ ๔๒ ป ตองสวด ๔๓ จบ หรือ ๑๐๘ จบ) ขอใหญาติโยมสวดพาหงุ ฯ มหากา กนั ใหท่ัวหนา นอกจากจะคุม ตวั แลว ยังคมุ ครองครอบครัว สวดมาก ๆ เขา สวดกนั ท้ังประเทศ กท็ ำใหประเทศมแี ตค วามรุงเรอื ง พวกคนพาลสนั ดานหยาบก็แพภ ัยไปอยา งถว นหนา 35

บทแผเมตตาแกตนเอง อะหงั สขุ ิโต โหมิ ขอใหข าพเจา จงเปนผมู คี วามสุขเถดิ อะหงั นทิ ทุกโข โหมิ ขอใหข าพเจา จงเปนผไู มมคี วามทกุ ข อะหัง อะเวโร โหมิ ขอใหขาพเจา จงเปนผูไมมเี วร อะหัง อพั ยาปช โฌ โหมิ ขอใหขา พเจา จงเปนผไู มมีความพยาบาทเบียดเบยี น อะหงั อะนโี ฆ โหมิ ขอใหขา พเจา จงเปน ผไู มมคี วามทุกขกายทุกขใจ สุขี อตั ตานัง ปะริหะรามฯิ ขอใหขาพเจา จงมีความสุขกายสขุ ใจ รกั ษาตนใหพ น จากทกุ ขภัยทั้งส้นิ เทอญฯ “ แผ่เมตตาหายใจยาว ๆ ต้งั กัลยาณจิตท่ลี นิ้ ปี่ ไม่ใช่พูดส่งเดช จำไวน้ ะท่ลี ้นิ ปี่ เปน็ การแผ่เมตตา...” 36

บทแผเ มตตาใหสรรพสัตว สัพเพ สัตตา สัตวท้งั หลาย,ท่ีเปนเพอ่ื นทกุ ข, เกดิ แกเจบ็ ตาย, ดวยกนั ทงั้ หมดท้งั ส้ิน อะเวรา จงเปนสขุ เปน สขุ เถิด, อยา ไดม ีเวรแกกันและกันเลย อัพยาปช ฌา จงเปนสขุ เปนสขุ เถิด, อยา ไดพยาบาทเบยี ดเบยี นซึ่งกันและกันเลย อะนีฆา จงเปนสขุ เปน สขุ เถดิ , อยา ไดม คี วามทุกขกาย ทุกขใ จเลย สุขี อัตตานงั ปะรหิ ะรันตุ จงมคี วามสขุ กาย สขุ ใจ, รักษาตนใหพนจากทกุ ขภ ยั ทงั้ สิ้น เถิด ฯ “จะอทุ ศิ สว่ นกุศล ก็ยกจติ จากลนิ้ ปี่ สูห่ น้าผาก เรยี กวา่ อณุ าโลม ปจชายเต...” 37

คำถวายกศุ ลแดพ ระธรรมสงิ หบรุ าจารย   อทิ งั ,  ฐติ ะธมั มสั สะ  โหต,ุ   สขุ โิ ต  โหต,ุ   ฐติ ะธมั โม.   ขอสว นบุญนีจ้ งสำเรจ็ , แดห ลวงพอ จรญั   ฐติ ฺธมโฺ ม,   ขอใหห ลวงพอ จรัญ  ฐิตฺธมโฺ ม,  จงมีความสขุ 38

คำถวายพระราชกุศล แดพ ระบาทสมเด็จพระเจา อยูหวั ฯ และสมเดจ็ พระนางเจา ฯ พระบรมราชนิ นี าถ   อทิ งั , มหาราชะ, ภมู พิ ะลสั สะ, สะราชินยี า โหต,ุ สุขโิ ต โหตุ, อะโรโค โหตุ, ฑฆี ายุโก โหตุ, มหาราชะ,ภมู พิ ะโล, สะราชนิ ี.   ขอสวนบุญน้จี งสำเร็จ,   แดพ ระบาทสมเดจ็ พระเจาอยูหัว ฯ, ภูมพิ ลมหาราช,   และสมเด็จพระนางเจา ฯ, พระบรมราชินนี าถ, ขอจงทรงพระเกษมสำราญ,   ปราศจากโรคาพยาธแิ ผว พาน, มพี ระชนมายุยิ่งยนื นาน, ชัว่ นิรนั ดรเ ทอญ ฯ 39

บทอทุ ิศสวนกศุ ล อทิ ัง เม, มาตาปต นู ัง โหตุ, สุขิตา โหนต,ุ มาตาปตะโร ขอสว นบุญน้จี งสำเร็จ, แกมารดาบิดาของขา พเจา , ขอใหมารดาบิดาของขา พเจา, จงม​ คี วามสุข อิทงั เม, ญาตนี ัง โหต,ุ สขุ ติ า โหนตุ, ญาตะโย ขอสว นบุญนจี้ งสำเรจ็ , แกญาติทัง้ หลายของขา พเจา, ขอใหญ าตทิ ัง้ หลายของขาพเจา , จงมคี วามสุข อิทัง เม, คุรูปช ฌายาจรยิ านงั โหตุ, สุขิตา โหนต,ุ คุรูปชฌายาจริยา ขอสวนบุญนจ้ี งสำเรจ็ แกครูอปุ ช ฌายอ าจารยข อง ขา พเจา , ขอใหค รอู ุปช ฌายอ าจารยของขาพเจา , จงมคี วามสุข 40

อทิ งั , สัพพะเทวะตานงั โหต,ุ สขุ ิตา โหนตุ, สัพเพเทวา ขอสว นบุญนจ้ี งสำเรจ็ , แกเ ทวดาท้ังหลายท้งั ปวง, ขอใหเ ทวดาทั้งหลายทัง้ ปวง, จงมีความสุข อทิ งั , สพั พะเปตานัง โหตุ, สขุ ิตา โหนต,ุ สัพเพ เปตา ขอสวนบุญน้ีจงสำเรจ็ , แกเ ปรตท้ังหลายทงั้ ปวง, ขอใหเ ปรตทั้งหลายท้งั ปวง,​ จงมีความสขุ อทิ ัง, สพั พะเวรีนงั โหตุ, สุขิตา โหนตุ, สัพเพเวรี ขอสว นบญุ น้จี งสำเร็จ, แกเจา กรรมนายเวรทงั้ หลาย ทั้งปวง, ขอใหเ จา กรรมนายเวรทั้งหลายทัง้ ปวง, จงมีความสขุ อิทงั , สพั พะสัตตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ, สัพเพ สตั ตา ขอสว นบุญนจ้ี งสำเร็จ, แกสตั วทั้งหลายทง้ั ปวง, ขอใหส ัตวทั้งหลายทงั้ ปวง, จงมคี วามสุข 41

คำตง้ั จิตอธษิ ฐาน ขาพเจาขอตั้งจิตอธิษฐาน,  ขอกุศลผลบุญ, ที่ขาพเจาไดบำเพ็ญเพียรมาแลว, ในทุกภพทุกชาติ,  ตลอดจนปจ จุบนั ชาติน้,ี   และทจี่ ะบำเพญ็ เพยี รตอไป,  ในอนาคต ขอผลบุญทง้ั หลายเหลา น,้ี  จงเปนพะละวะ ปจจัย, ใหเปน ผทู ี่สมบรู ณ, ดวยสตสิ ัมปะชัญญะ, มคี วามเจรญิ , ทง้ั ทางโลกและทางธรรม, เปน ผถู งึ พรอ ม ไปดว ยศีล, สมาธิ ปญญา, ไดด วงตาเหน็ ธรรม, เขาถึง กฏแหง กรรม, รแู จง ซง่ึ พระไตรลกั ษณ,  ถงึ ซง่ึ พระนพิ พาน, หากขาพเจา,  ไมสามารถเขาถึง,  ซึ่งพระนิพพาน, ในปจจุบันชาตินีเ้ พียงใด,เกดิ ภพใดชาตใิ ด,  ขอความ ไมม ี,  ไมส ามารถ,  ไมสำเรจ็ , ไมส มหวงั , ความไมร ู,   ความไมเขาใจ,  ในธรรมคำสอนขององคสมเด็จ พระสมั มาสมั พทุ ธเจา ,จงอยา ไดม แี กข า พเจา , ในทกุ ภพ ทุกชาต,ิ   ทข่ี า พเจา ไดเกดิ ,จนกวา จะไดถึง,  ทส่ี ดุ แหง กองทุกข,  คือพระนพิ พาน, ในอนาคตกาล,  เบอื้ งหนา โนน...เทอญ ฯ 42

บนั ทกึ ​ธรรม 43

หนงั สอื แ​นะนำ บทสวดมนตพ าหุงฯแปลฉบับพกพา ทัง้ เลมเปนโทนสชี มพู  ทม่ี ีท้ังภาษาไทย  และ องั กฤษ ภาษาองั กฤษแปลโดย ดร.สุจิตรา ออ นคอม พรอมภาพศิลปะลายเสนดินสอสวยงามประกอบ บทสวดมนต ทายเลม มีบทแผเมตตาอุทิศสวนกุศล ภาคภาษาไทย - อังกฤษ   ขอเชิญทุกทานรวมสวดมนต กบั เราทกุ วนั 44

หนังสือ​แนะนำ สมาธิเพอ่ื ชีวิต สมาธิเพ่ือชีวิตเป็นหนังสือท่ีรวบรวมคำสอนของ ครูบา-อาจารย์ กว่า ๓๕ รูป มหี ัวข้อธรรมกวา่ ๘๐ เรื่อง ทา้ ยเลม่ มบี ทสวดมนต์ พาหงุ - มหากาาฯ พรอ้ มบทแผเ่ มตตา อุทศิ สว่ นกุศล 45

หนงั สือ​แนะนำ ทำบญุ งา่ ยๆ ตามประสาคนไมค่ อ่ ยมเี วลา สวดมนต์ตอ้ งมีศรัทธา มคี วามเชือ่ มคี วามเลื่อมใส ศาสนาน่.ี .ต้องการใหม้ ีความศรทั ธาและความมั่นใจ ถ้าม่ันใจตวั เอง ใหอ้ ่านไปกอ่ น อย่าข้เี กยี จท่อง ใหอ้ า่ นทกุ วนั อ่านใหถ้ ึง ๆ ใหค้ ลอ่ งปาก พอคลอ่ งปากแลว้ จะคลอ่ งใจ พอคลอ่ งใจแลว้ จะตดิ ใจ แลว้ มันจะเกดิ “ สมาธ”ิ พอเกดิ สมาธิ จติ ก็จะถึง พอเข้าถึงแล้ว จะซึง้ ใจ พอซึ้งใจแลว้ จะซึ้งธรรมะ พอซึ้งธรรมะมันจะใฝ่ดี รู้ไหม 46

“ บุคคลจะได้ดีหรอื ชัว่ จะไดร้ บั สขุ หรือทุกข์ ก็เพราะกรรม หรอื การกระทำของตนเองทัง้ สิน้ ตนต้องเปน็ ที่พึง่ ของตน ๑.ต้องชว่ ยตนเองได้ ๒. ตอ้ งพึ่งตนเองได้ ๓.ต้องสอนตัวเองได้ ถา้ สามหลักน้ีไมม่ ีกบั โยมคนใด คนนนั้ จะเปน็ ที่พึง่ ไม่ได้ พระท่านจะช่วยเราได้อย่างไร? ” 47 หลวงพอ ​จรัญ ​ฐติ ธมั โม

สะเดาะเคราะห ใหก บั ตัวเอง ISBN : 978-974-7622-86-7     พิมพ​ครัง้ ​ท่ี ๑ : มกราคม พ.ศ.๒๕๕๕ จำนวนพ​ มิ พ  : ๑๐,๐๐๐  เลม ผเู รียบเรยี ง : พระสายณั ห  ติกขฺ ปฺโญ ภาพประกอบ : พีระ ธรนิตยกลุ ออกแบบ​จดั เ​ลม : ธน​พร ปตว​ งษ จดั พมิ พเ พอื่ การเผยแผโ ดย เครือขายธรรมะศรทั ธาเพือ่ การพฒั นาคณุ ภาพชีวติ http://www.dhammasatta.org ตองการพิมพหนงั สือเพอื่ แจกเปนธรรมทาน ติดตอ... คณุ ภารดี โทร. ๐๘๘-๒๙๕-๑๑๔๖,๐๘๙-๖๘๓-๒๔๔๒ พมิ พท​ ่ี : อษุ าการพมิ พ โทร.๐๒ – ๖๕๖ - ๓๔๗๐ Dhammaintrend รว่ มเผ4ย8แพรแ่ ละแบง่ ปันเป็ นธรรมทาน

ÍµÚµÒ ËÔ ÍµÚµâ¹ ¹Òⶠµ¹áÅ໚¹·è¾Õ Ö觢ͧµ¹ â¡ ËÔ ¹Òⶠ»âà ÊÔÂÒ ¤¹Í×è¹ã¤ÃàÅ‹Ò¨Ð໚¹·è¾Õ Öè§ãˌᡋàÃÒä´Œ ͵µÚ ¹Ò ËÔ ÊØ·¹Ú൹ º¤Ø ¤Å·èµÕ ¹½ƒ¡½¹´áÕ ÅŒÇ ¹Ò¶í ÅÀµÔ ·ØÅÚÅÀ.í ÂÍ‹ Áä´Œ·Öè¾Ö§è ·ËÕè Òä´ŒÂÒ¡ ·èÕÁÒ : ¢·Ø ·¡¹Ô¡Ò  ¸ÃÃÁº·  òõ/óö


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook