สารบัญ หนา้ DDC-Care ระบบตดิ ตามและประเมนิ ผู้ท่มี ีความเสี่ยงต่อการติดเช้ือก่อโรคโควดิ -19 3 Traffy Fondue 4 NIEMS-Care ระบบจดั การสถานการณ์โควิด-19 ในระดับชมุ ชน 5 Medical Devices Demand-Supply Matching 6 ระบบติดตามการกระจายหน้ากากอนามัย 7 หน้ากากอนามัย 8 Face Shield from FabLab 9 หุ่นยนตฆ์ ่าเชอ้ื โรคดว้ ยแสงยูวี : Germ Saber 10 MuTherm-FaceSense 11 การสกัด RNA โดยไมใ่ ช้ Commercial Kit 12 ชุดตรวจหาเชอ้ื ไวรัส SARS-CoV-2 ด้วยเทคนคิ แลมป์ (LAMP) 13 ชดุ ตรวจเชื้อโควิด-19 แบบรวดเรว็ ด้วยเทคนคิ LFA 14 การคดั แยกผปู้ ว่ ยดว้ ยลายพิ มพ์ เปปไทด์ (Peptide barcode) 15 วัคซีนปอ้ งกนั โรคโควิด-19 16 แบบจําลองทางคณติ ศาสตร์ เพื่ อรับมือการระบาดของโควิด-19 17 Fun Science @ Home by NSTDA 21 Research Gap Fund fights COVID-19 22 นวัตกรรมรบั มอื COVID-19 สาํ นกั งานพัฒนาวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยแี ห่งชาติ (สวทช.)
นวตั กรรมรบั มอื COVID-19 สํานกั งานพัฒนาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) DDC-Care ระบบตดิ ตามและประเมนิ ผู้ทีม่ ีความเส่ียงตอ่ การติดเช้อื ก่อโรคโควิด-19 DDC-Care คือ แอปพลิเคชันทส่ี าํ นักงานพัฒนาวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี แหง่ ชาติ ร่วมมือกับกรมควบคมุ โรคและหน่วยงานภาคใี นการพัฒนาขึ้น เพ่ือใหป้ ระชาชน กลมุ่ เส่ยี งทีอ่ ยู่ในชว่ งกักตวั 14 วัน ได้ใชแ้ อปพลเิ คชนั ในการประเมนิ อาการและความ เสี่ยงของตนเองในทุกวัน เพื่อให้เจ้าหน้าท่ีสามารถติดตามการควบคุมโรคได้โดยสะดวก และหากเกดิ เหตฉุ กุ เฉนิ ขน้ึ กจ็ ะสามารถเขา้ ชว่ ยเหลอื ไดอ้ ยา่ งทนั ทว่ งทีโดยแอปพลเิ คชนั น้มี จี ุดแข็ง คอื สามารถสอ่ื สาร 2 ทางระหว่างผปู้ ว่ ยกบั เจา้ หนา้ ท่คี วบคมุ โรคไดต้ ลอด เวลามี Dashboard รายงานผลตรงแก่เจ้าหนา้ ที่ท่ีเกี่ยวขอ้ ง และยงั ใหบ้ รกิ ารได้ถึง 3 ภาษา คือ ไทย อังกฤษ และจนี โดยผูท้ ่จี ะไดร้ ับคําแนะนําจากภาครัฐใหใ้ ช้แอปพลเิ คชนั DDC-Care แบ่งออกเปน็ 2 กรณี ได้แก่ 1) กรณีกลมุ่ เสี่ยงต่อการติดเชอ้ื โควิด-19 มาตรวจที่โรงพยาบาล แล้วโรงพยาบาลพิจารณาว่าเปน็ ผ้ทู ี่มีความเสย่ี ง แต่ผลตรวจการตดิ เชือ้ ออกมาเปน็ Negative (ยงั ตรวจไม่พบเชื้อ) เจา้ หนา้ ทจ่ี ะให้ผูน้ น้ั ติดตง้ั แอปพลิเคชันแลว้ ทําการกักตวั ทีท่ ่พี ักอาศัย (Self-quarantine) เปน็ เวลา 14 วัน 2) กรณีผ้ปู ว่ ยทีม่ าตรวจท่โี รงพยาบาลแล้วผลออกเปน็ Positive (พบเชื้อในร่างกาย) เจา้ หน้าที่ของโรงพยาบาลจะส่งขอ้ ความแจ้งเตือน (SMS) ไปยงั มือถอื ของบุคคลใกลช้ ดิ ผูป้ ว่ ยรายนัน้ เชน่ ผ้ทู ีอ่ าศยั อยู่ในบ้านเดยี วกัน เพ่ือใหก้ ักตัวเองที่ทีพ่ ักอาศัยเปน็ ระยะเวลา 14 วัน และติดตง้ั แอปพลเิ คชนั สาํ หรับติดตามการกกั ตัว การทํางานของแอปพลิเคชัน ติดตอ่ : มิติท่ี 1 สําหรบั กลมุ่ เสี่ยง : ผูใ้ ชง้ านแอปพลเิ คชนั จะไดท้ ําแบบประเมินสขุ ภาพราย ดร.ณัฐนันท์ ทัดพิทักษ์กลุ วนั โดยจะมีผลประเมนิ ตอบกลับว่ามคี วามเสย่ี งเพิ่มขน้ึ หรอื ไม่ หากพบวา่ มีความเสย่ี ง ทีมวิจยั เทคโนโลยีทีท่ ุกคนเขา้ ถึงและสิ่งอาํ นวยความสะดวก เพิ่มขึ้น เจา้ หนา้ ทจ่ี ากกรมควบคุมโรคจะโทรศัพท์ติดตอ่ มาใหค้ ําแนะนาํ ในการดูแล ศนู ย์วจิ ยั เทคโนโลยสี ง่ิ อาํ นวยความสะดวกและเครือ่ งมือแพทย์ ตนเอง หรอื หากสุขภาพอย่ใู นเกณฑท์ ี่ตอ้ งเข้ารบั การรักษาทีโ่ รงพยาบาล เจ้าหน้าทีจ่ ะ เบอร์โทรศพั ท์: 02 564 6900 ต่อ 72232 ดาํ เนินการให้ความชว่ ยเหลอื ตอ่ ไป E-mail: [email protected] โดยแอปพลิเคชันจะส่งข้อมลู พิกัด (GPS) ของกลุม่ เส่ยี งแบบเรียลไทมไ์ ปยัง กรมควบคุมโรคทุก 10 นาที หากระบบได้รบั การรายงานว่า ผูท้ ีก่ กั ตวั ออกจากพิกดั ของ สถานทีก่ กั ตัวเกนิ 50 เมตร ระบบจะแจง้ เตอื นการออกนอกพื้นที่ใหท้ งั้ กลุ่มเสยี่ งและ เจ้า หน้าทีก่ รมควบคุมโรครับทราบ เพ่ือจัดการรบั มือความเส่ยี ง มิติท่ี 2 เจ้าหนา้ ทีค่ วบคุมโรค : เจ้าหน้าทจ่ี ะใช้ระบบ DDC-Care (Dashboard) ในการตดิ ตามและตรวจสอบกลุ่มเส่ยี งที่ตอ้ งกกั ตัว เพื่อลดภาระงานและความเสี่ยงใน การติดตาม (จากเดมิ เจา้ หน้าทีจ่ ะตอ้ งตดิ ตามทีท่ ี่พักอาศยั ของกลุ่มเสย่ี งรายบคุ คล) อกี ทัง้ ยังสามารถใชใ้ นการประเมินสถานการณ์ และเตรียมความพรอ้ มรองรับผู้ปว่ ยได้ อีกด้วย ข้อมูลทั้งหมดท่ปี ระชาชนกรอกเข้าระบบ จะไดร้ บั การปกปอ้ งข้อมลู ด้วยระบบ ความปลอดภัยสงู สดุ มีการจํากัดสิทธิข์ องผูต้ รวจสอบและจัดการข้อมลู เปน็ ระดบั โรงพยาบาล ระดบั จงั หวดั ระดับเขต และระดับกรมควบคมุ โรค ปจั จบุ ันเรม่ิ มกี ารใชง้ านจริงแลว้ เมื่อวนั ท่ี 31 มนี าคม 2563 โดยกรมควบคมุ โรค นาํ มาใช้กับกลุ่มท่มี คี วามเสี่ยงตอ่ การตดิ เชือ้ ท่ีสถาบันบําราศนราดูร และในส่วนภูมิภาค สํานักงานปอ้ งกันควบคมุ โรค (สคร.) ได้ดาํ เนินการในระดบั พ้ืนทีจ่ งั หวดั ท่รี ับผดิ ชอบ ได้แก่ สคร. 2 (พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัย) และ สคร. 8 (อุดรธานี บึงกาฬ) 12 3
นวตั กรรมรับมอื COVID-19 สาํ นักงานพัฒนาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยแี ห่งชาติ (สวทช.) Traffy Fondue ทราฟฟฟี องดูว์ (Traffy Fondue) เปน็ แอปพลิเคชันสาํ หรับ รับแจ้งเมื่อประชาชนพบคนที่เส่ียงต่อการติดเชื้อก่อโรคโควิด-19 กลบั ภูมลิ ําเนา โดยผูแ้ จ้งไมจ่ าํ เปน็ ต้องรูจ้ กั กบั เจ้าหนา้ ท่ี ไม่ต้อง กงั วลว่าจะแจง้ ใคร หรือทราบว่าใครเปน็ ผรู้ ับผิดชอบ ระบบ ออกแบบมาให้งา่ ยตอ่ การใช้งาน เพียงผแู้ จง้ สแกน QR Code (หรอื เพ่ิมเพื่อน LINE ID : @traffyfondue) ก็สามารถแจ้งได้ ทนั ที ทราฟฟฟี องดวู ์ถกู พัฒนามาจากแอปพลเิ คชนั แจง้ และตดิ ตามปญั หา ซ่งึ ประชาชนในพ้ืนทต่ี ่างๆ ทัว่ ประเทศ จะเปน็ ส่วนหนึง่ ในการปอ้ งกนั เมอื ง ท่จี ดั ทําขน้ึ สาํ หรับสื่อสารเรอื่ งปญั หาของเมือง ระหว่างประชาชนกับ การระบาดด้วยการแจ้งขอ้ มลู ผ่านไลนแ์ ชตบอต เพียงเพ่ิมเพื่อน @traffy- หนว่ ยงานทีร่ บั ผิดชอบ ประชาชนสามารถแจง้ ปญั หาท่พี บ เช่น ปญั หาความ fondue หากพบคนจากพ้ืนท่เี สี่ยงกลับภมู ิลําเนา เรม่ิ แจ้งขอ้ มูลด้วยการ สะอาด ปญั หาทางเท้า และติดตามสถานะการดําเนินการแกไั ขปญั หาของ พิมพ์ #โควิด ตามด้วยชอ่ื เลน่ เพศ ส่งข้อมลู ภาพลักษณะท่อี ยู่ หมู่บา้ น หนว่ ยงานที่รับผดิ ชอบได้ โดยหน่วยงานจะไดร้ บั แจ้งรายงานปญั หาทม่ี ี ชุมชน (ไม่ตอ้ งส่งภาพคน) มายังไลนแ์ ชตบอต เพื่อใหเ้ จา้ หน้าทฝ่ี า่ ยปกครอง ขอ้ มูลเพียงพอตอ่ การดําเนินการ เชน่ ภาพถา่ ย ตําแหนง่ บนแผนที่ และ ทอ้ งถิ่นลงพ้ืนท่ี ตรวจสอบ สอบสวน และคดั กรอง เพื่อปอ้ งกันการแพร่ สามารถให้ข้อมลู สถานะการแก้ไขปญั หาแก่ประชาชนได้ ระบาดของโรคในพื้นทต่ี า่ งๆ ไดอ้ ย่างมีประสทิ ธภิ าพ อยา่ งไรกต็ าม จากการสถานการณ์โรคโควิด-19 ระบาดในเกือบทกุ ปจั จบุ นั มกี ารแจง้ เบาะแสของผเู้ ขา้ ขา่ ยเดนิ ทางจากพ้ืนทเ่ี สย่ี งท่ี กลบั พ้ืนท่ี จงึ มกี ารประยุกตใ์ ชแ้ อปพลเิ คชันทราฟฟฟี องดูว์ ในแพลตฟอร์มไลน์ มายังภมู ลิ าํ เนาเขา้ มาในระบบแล้วจาํ นวนมาก เชน่ จงั หวัดมหาสารคาม แชตบอต ใหส้ อดคลอ้ งกับสถานการณ์ เพื่อใช้รายงานขอ้ มูลบุคคลเดนิ ทาง ราชบรุ ี นครพนม ยโสธร หนองคาย และยงั มีอกี หลายภูมภิ าคท่วั ประเทศ จากพ้ืนทเ่ี สีย่ งการระบาดโรคโควิด-19 และจากพื้นที่กรุงเทพมหานครเดิน ทราฟฟฟี องดูว์นับเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาด ทางกลับภูมิลาํ เนา เนื่องจากกระทรวงมหาดไทย (มท.) ในฐานะหน่วยงาน ของโรค ผู้ใชข้ อ้ มลู ดังกลา่ ว ตอ้ งการทราบว่าคนทม่ี คี วามเสี่ยงต่อโรคโควดิ -19 กลับ มายังภมู ลิ ําเนามีอยทู่ ่ใี ดของประเทศบา้ ง เพื่อช่วยเจ้าหน้าที่ในการคัดกรอง ติดต่อ: คนทเี่ ดนิ ทางมาจากพื้นทเี่ สยี่ งใหม้ สี ว่ นรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คมและปฏบิ ตั ติ วั ตาม มาตรการของกระทรวงสาธารณสขุ ดร.วสันต์ ภัทรอธิคม ทีมวจิ ัยระบบขนสง่ และจราจรอจั ฉรยิ ะ กลุ่มวิจัยการส่อื สารและเครือข่าย ศูนยเ์ ทคโนโลยอี เิ ลก็ ทรอนกิ ส์และคอมพิวเตอรแ์ ห่งชาติ เบอร์โทรศพั ท:์ 02 564 6900 ต่อ 2528 E-mail: [email protected] 4
นวตั กรรมรับมอื COVID-19 สาํ นักงานพัฒนาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีแหง่ ชาติ (สวทช.) NIEMS-Care ระบบจดั การ สถานการณโ์ ควดิ -19 ในระดบั ชมุ ชน NIEMS-Care คือ แอปพลิเคชันท่ีใช้สาํ หรับเฝ้าระวังการระบาด ของเชอื้ กอ่ โรคโควดิ -19 ในระดบั ชมุ ชนเพื่อการตอบสนองอยา่ งรวดเรว็ โดยแตล่ ะครวั เรอื นจะมตี วั แทนทาํ หนา้ ทรี่ ายงานสถานะสขุ ภาพของสมาชกิ ในครวั เรือน เป็นประจําทุกวันผ่านแอปพลิเคชัน โดยมีผู้ใหญ่บ้านหรือ ผู้แทน และเจ้าหน้าท่ีจากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจําตําบล (รพสต.) ทําหน้าที่ติดตามและเฝ้าระวังผ่านทางหน้าสรุปข้อมูล (Dashboard) ของแอปพลเิ คชัน หากพบประชาชนทด่ี แู ลอยมู่ คี วามเสย่ี งตอ่ การตดิ เชอ้ื กอ่ โรคโควดิ -19 หรอื มอี าการปว่ ยโควดิ –19 อบต. หรอื เทศบาล จะตอ้ งรายงานศนู ยน์ เรนทร หรอื สถาบนั การแพทยฉ์ กุ เฉินแห่งชาติ (สพฉ.) เพื่อเดินเรือ่ งการดูแล ให้ความช่วยเหลอื และทําการปอ้ งกันโรคตอ่ ไดอ้ ย่างทันทว่ งที โดยในเดอื นเมษายน 2563 มกี ารนําร่องใชง้ านแอปพลิเคชนั แล้วใน 11 พื้นทีจ่ าก 11 จงั หวัด จํานวนครวั เรือนทล่ี งทะเบียน 600 ครวั เรือน และกาํ ลงั จะขยาย ผลไปใช้งานในพ้ืนที่การดูแลของ อบต. หรือเทศบาลอ่นื ๆ ท่ัวประเทศในเดือนพฤษภาคมน้ี การพัฒนาและขยายผลการใช้งานแอปพลิเคชันน้มี ีหน่วยงานพันธมิตร คอื สพฉ. และ อบต./เทศบาล 11 แห่ง ตดิ ต่อ: ดร.กิตติ วงค์ถาวราวัฒน์ ศูนยว์ จิ ัยเทคโนโลยสี ่งิ อาํ นวยความสะดวกและเครอ่ื งมอื แพทย์ (A-MED) เบอร์โทรศัพท:์ 02 564 6900 ต่อ 2522 E-mail: [email protected] 5
นวัตกรรมรบั มอื COVID-19 สํานกั งานพัฒนาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีแหง่ ชาติ (สวทช.) Medical Devices Demand-Supply Matching Medical Devices Demand-Supply Matching คอื แอปพลเิ คชนั สาํ หรบั จบั คคู่ วามตอ้ งการระหวา่ งผบู้ รจิ าค และผ้รู ับบรจิ าคอุปกรณแ์ ละเครอ่ื งมือทางการแพทย์ เพื่อ ใหเ้ กดิ การชว่ ยเหลอื ทต่ี รงความตอ้ งการอยา่ งแทจ้ รงิ และ สามารถติดตามสถานะในการจัดส่งของได้ แอปพลิเคชันนีเ้ ปน็ ความรว่ มมือในการพัฒนาระหวา่ ง NETbay, ตดิ ตอ่ : UHosNet และ สวทช. เพ่ือเชอ่ื มโยง (Matching) ความต้องการ ระหว่างผูบ้ รจิ าคและผู้รบั บริจาค โดยทัง้ สองฝา่ ยสามารถระบุความ นายวศิ ิษฎ์ วงศว์ ิไล ตอ้ งการไดท้ างออนไลน์ ปจั จบุ นั อยูใ่ นระหวา่ งการประชาสัมพันธ์ กลมุ่ วจิ ัยวทิ ยาการข้อมูลและการวิเคราะห์ แอปพลเิ คชนั ให้เปน็ ที่รูจ้ กั ในวงกว้าง รวมถงึ ได้ช่วยดําเนนิ การ ประสานงานกบั กระทรวงสาธารณสขุ และสภากาชาดไทย เพ่ือร่วม ศูนย์เทคโนโลยีอเิ ล็กทรอนิกสแ์ ละคอมพิวเตอร์แห่งชาติ บูรณาการขอ้ มลู โรงพยาบาลใหด้ ยี ง่ิ ขึน้ สามารถนําขอ้ มูลมาใช้พัฒนา การทาํ งานในอนาคตต่อไป ผูท้ ่สี นใจสามารถเข้าใช้งานได้ท่ี https:// เบอรโ์ ทรศัพท:์ 02 564 6900 ต่อ 2484 www.mds4covid19.in.th E-mail: [email protected] 6
นวัตกรรมรบั มือ COVID-19 สาํ นักงานพัฒนาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยแี หง่ ชาติ (สวทช.) ระบบติดตาม การกระจาย หน้ากากอนามัย ระบบตดิ ตามการกระจายหนา้ กากอนามยั ของกระทรวงมหาดไทย ตดิ ต่อ: เป็นระบบท่ีใช้ในการติดตามการแจกจ่ายของกระทรวงแบบรายวัน (วนั ละ 1 ล้านชิ้น) ทัว่ ประเทศ โดยจะทําการบันทกึ ตรวจรับ/แจกจ่าย ดร.กรชิ นาสิงหข์ นั ธุ์ หน้ากากอนามัยพร้อมกบั แสดงรายงานการตรวจรบั และแจกจ่ายของ งานยกระดับความพรอ้ มทางเทคโนโลยี แตล่ ะหน่วยงานแยกตามพ้ืนที่ จากระดบั จังหวัด อําเภอ ตําบล หมบู่ ้าน ฝา่ ยสนบั สนุนบริการทางวิศวกรรมและเทคโนโลยี กลมุ่ ผู้ใช้งานแบบรายวัน เพื่อเปน็ การแก้ปญั หาการบรหิ ารจดั การ ศูนยเ์ ทคโนโลยอี ิเล็กทรอนกิ สแ์ ละคอมพิวเตอรแ์ หง่ ชาติ หน้ากากอนามยั ของกระทรวงมหาดไทย เบอร์โทรศพั ท์: 02 564 6900 ต่อ 2432 E-mail: [email protected] ปจั จุบนั กาํ ลงั เตรยี มการทดสอบใชง้ านใน กทม. และนนทบรุ ี และ ขยายการใช้งานใหค้ รอบคลมุ ฝา่ ยปกครองทั่วประเทศ (77 จงั หวดั ประมาณ 1,800 คน) ต่อไป ทงั้ น้ีการพัฒนาภายใตค้ วามรว่ มมอื ของกระทรวงมหาดไทยกบั งาน ยกระดบั ความพรอ้ มทางเทคโนโลย/ี ฝา่ ยสนบั สนนุ บรกิ ารทางวศิ วกรรม และเทคโนโลยี ศูนย์เทคโนโลยีอเิ ลก็ ทรอนิกสแ์ ละคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) สวทช. 7
นวัตกรรมรับมอื COVID-19 สํานกั งานพัฒนาวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) หนา้ กากอนามัย จากปญั หาฝุ่น PM2.5 ที่มคี า่ เกินเกณฑ์มาตรฐาน อยใู่ นระดับทีม่ ี ผลกระทบตอ่ สขุ ภาพของประชาชน สวทช. มุง่ พัฒนาหนา้ กาก อนามัยที่ปอ้ งกันฝุ่นขนาดเล็ก สารพิษ และเชื้อโรค ซ่งึ เม่อื เกิด การระบาดของโรคโควดิ - 19 ยังสามารถนํามาใช้เปน็ อุปกรณ์ ปอ้ งกนั การตดิ เชื้อไวรัสโคโรนา โดยเฉพาะในกลุม่ บุคลากรทาง การแพทย์ ท้งั น้ี สวทช. ได้พั ฒนาหน้ากากอนามัยโดยใช้ 2 เทคโนโลยี ดังนี้ หนา้ กากอนามัย Safie Plus หนา้ กากอนามยั n-Breeze เซฟพี ลสั (Safie Plus) คอื หนา้ กากอนามัยประสิทธภิ าพสงู ความหนา 4 ชั้น เอน็ บรีซ (n-Breeze) คอื แผน่ กรองจากเสน้ ใยนาโน ซ่งึ พัฒนาจาก แผน่ ชน้ั กรองพัฒนาดว้ ยเทคโนโลยกี ารเคลอื บสารไฮดรอกซอี าปาไทตแ์ ละ เทคโนโลยีการข้ึนรูปเส้นใยนาโนด้วยองค์ประกอบเฉพาะร่วมกับเทคนิค ไทเทเนียมบนเส้นใยธรรมชาติ ซ่งึ มีคุณสมบัติในการดักจับฝนุ่ ละอองที่มี อเิ ลก็ โตรสปนิ น่งิ ทาํ ให้ได้เส้นใยขนาดเล็กที่มีลักษณะเปน็ รูพรุนขนาดเล็ก อนุภาคขนาดเลก็ และจลุ ินทรยี ์ จงึ ช่วยปอ้ งกันฝุ่น PM2.5 และปอ้ งกนั จาํ นวนมาก จงึ มคี ุณสมบตั ิพิเศษตา่ งจากเสน้ ใยและแผน่ กรองเสน้ ใย สารพิษ เช่น คาร์บอนมอนอกไซด์ รวมถึงกําจัดเชื้อจุลินทรีย์ได้ท้งั ไวรสั นาโนทัว่ ไป สามารถดกั จบั อนภุ าคฝนุ่ ละอองในอากาศขนาด 0.3-2.5 และแบคทเี รียเม่อื ถกู แสงแดด ทส่ี าํ คัญเซฟพี ลัสยังถูกออกแบบให้มี ไมครอน เหมาะสําหรับการกรองฝุ่น PM2.5 ป้องกันละอองของเหลวที่ ความกระชบั กบั ใบหนา้ แตย่ งั หายใจได้สะดวกไมอ่ ดึ อดั ทาํ ให้สวมใสไ่ ด้เปน็ อาจปนเป้ ือนเช้ือโรค และต้านแบคทีเรีย เวลานาน นอกจากนีต้ วั แผน่ กรองยังมคี วามแข็งแรง ยืดหยุ่น น้าํ หนักเบา ปจั จุบนั หน้ากากอนามยั เซฟพี ลัสผา่ นการทดสอบประสิทธภิ าพการ ทนต่อแรงดงึ ไดด้ ี ที่สาํ คญั สามารถทาํ ความสะอาดตัวเอง สะท้อนนํ้า และ กรองฝุน่ PM2.5 ได้ 99% ตามมาตรฐาน ASTM F2299 จาก TÜV SÜD ทนตอ่ แสงแดด จึงนําไปประยุกต์ใช้ได้ในหลากหลายอตุ สาหกรรม เชน่ ประเทศสิงคโปร์ และผ่านการทดสอบประสทิ ธิภาพการกรองไวรสั (Viral อตุ สาหกรรมการแพทย์ อตุ สาหกรรมเครือ่ งปรับอากาศ อตุ สาหกรรม filtration efficiency: VFE) ได้ 99% จาก Nelson Laboratory ยานยนต์ โดยนาํ ไปใชท้ ดแทนแผน่ กรองอากาศทม่ี รี าคาสงู ในท้องตลาด สหรัฐอเมริกา อีกท้งั ยงั ผา่ นการทดสอบประสิทธิภาพการฆา่ เช้อื ไวรสั H1N1 (Influenza A Virus) โดยมหาวิทยาลัยมหดิ ล แผน่ กรองจากเส้นใยนาโนเอ็นบรีซ ผ่านการทดสอบประสทิ ธิภาพ การกรองฝนุ่ ละอองขนาดเลก็ และละอองของเหลวทมี่ เี ชอื้ โรคตามมาตรฐาน สาํ หรับการนาํ ไปใชง้ านขณะนีไ้ ด้รบั การอนมุ ัตจิ ากกรมการค้าภายใน ทางการแพทย์ EN149 FFP1, EN149 FFP2, EN149 FFP3 และ NIOSH กระทรวงพาณชิ ย์ ให้ผลิตหนา้ กากนอกการควบคุม เพ่ือแจกจ่ายใหแ้ ก่ N95 ซ่งึ ไดจ้ ดสิทธบิ ัตรแลว้ เมือ่ วันที่ 2 กรกฎาคม 2560 บคุ ลากรทางการแพทย์ รวมทัง้ ศูนยค์ วามเปน็ เลิศด้านชีววทิ ยาศาสตรไ์ ด้ ประสานขอตวั อยา่ งหนา้ กากอนามัยเซฟพี ลสั เพื่อออกแบบหนา้ กากอนามัย ปัจจุบันมีการนําเอ็นบรีซมาประยุกต์ใช้ผลิตหน้ากากอนามัยทีมี รูปแบบใหม่ นอกจากนี้ยังมีความรว่ มมอื กบั ผู้ผลิตเอกชนท่ีได้รบั รอง รูปแบบใช้งานสะดวก โดยมกี ารออกแบบเพ่ิมพื้นทห่ี ายใจให้กว้างกว่า มาตรฐานการผลติ ตามมาตรฐาน ISO 13485 ซึง่ คาดว่าจะสามารถผลิต หน้ากากอนามัยแบบธรรมดา ทําให้หายใจสะดวกมากขน้ึ และมสี ายคล้อง ออกมาเพื่อทดลองใชง้ านไดต้ ้ังแตเ่ ดือนพฤษภาคม 2563 เปน็ ตน้ ไป หูที่มผี ิวสัมผสั น่มุ จึงรูส้ ึกเบาสบายขณะสวมใส่ สามารถนําไปใช้เปน็ อปุ กรณป์ อ้ งกนั การแพรก่ ระจายเชอื้ โรคใหแ้ กบ่ คุ ลากรทางการแพทย์ และ ประชาชนทั่วไป เช่น สถานการณก์ ารระบาดของโรคโควดิ -19 นับเปน็ เทคโนโลยสี ง่ิ ทอสมยั ใหม่ทต่ี อบโจทยเ์ รอ่ื งมลภาวะและโรคตดิ ตอ่ ในระบบทาง เดินหายใจทีท่ ่วั โลกกําลังเผชิญ ติดตอ่ : ดร.วรล อนิ ทะสันตา กลุม่ วิจยั วัสดุผสมและการเคลือบนาโน ศนู ยน์ าโนเทคโนโลยแี ห่งชาติ เบอร์โทรศัพท์: 02 564 7100 ต่อ 6580 E-mail: [email protected] 8
นวัตกรรมรบั มอื COVID-19 สาํ นักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยแี หง่ ชาติ (สวทช.) Face Shield from FabLab ท่ามกลางสถานการณก์ ารระบาดของโรคโควดิ -19 ซ่งึ ทัว่ โลก กาํ ลังเผชญิ อยใู่ นปจั จบุ ัน Face Shield หรือหน้ากากชนิดบัง ใบหน้า คอื อุปกรณ์สาํ คัญท่จี ะชว่ ยเปน็ เกราะปอ้ งกันการฟุง้ กระจาย ของสารคัดหลั่งจากผปู้ ว่ ยโควดิ -19 ไม่ให้มาสมั ผัส กบั บคุ ลการทางการแพทยแ์ ละผทู้ ่ีเกีย่ วข้อง สวทช. โดยโครงการโรงประลองต้นแบบทางวศิ วกรรม (Fabri- ปจั จุบนั FabLab ไดส้ ่งมอบ Face Shield ให้แก่บคุ ลากรทาง cation Lab) เพ่ือพัฒนาทักษะความเปน็ นวตั กรแกเ่ ดก็ และเยาวชนไทย การแพทย์ท่วั ประเทศแลว้ กวา่ 6,413 ชดุ และยงั ไดอ้ ัปโหลดไฟลต์ ้นแบบ หรอื FabLab ซ่งึ มบี ้านวทิ ยาศาสตรส์ ริ นิ ธรเปน็ สว่ นกลาง และเครือขา่ ย โมเดล 3 มิติ ไว้ที่ www.thingiverse.com/thing:4260273 เพื่อเปดิ FabLab ในภูมิภาค รว่ มกับเครอื ขา่ ยนักประดิษฐ์ (Maker) นาํ “เทคโน โอกาสใหเ้ ครือข่าย FabLab และหนว่ ยงานทส่ี นใจสามารถดาวนโ์ หลด โลยีเครื่องพิมพ์ 3 มิติ หรอื 3D Printing“ มาผลติ Face Shield โดย สําหรับร่วมผลติ ซึง่ ต้งั แต่อปั โหลดไฟลด์ งั กล่าวเมือ่ วนั ที่ 6 มนี าคม ตอ่ ยอดแบบการขน้ึ รูปจากเมกเกอร์ Prusa Protective Face Shield จนถึงปจั จบุ ันมีผูด้ าวนโ์ หลดแลว้ มากกว่า 300 ครั้ง นอกจากนีย้ ังมี Model : RC3 และพิมพ์ขน้ึ รปู ด้วยวธิ ีการฉีดเส้นพลาสตกิ ที่เรียกวา่ ภาคเอกชนรว่ มสนบั สนนุ อุปกรณใ์ นการผลติ Face Shield ไดแ้ ก่ FDM หรอื Fused Deposition Model เนอ่ื งจากมตี ้นทนุ การพิมพ์ทไี่ ม่ บริษัท เอก็ ซว์ ายแซดพริน้ ตงิ้ (ประเทศไทย) จาํ กัด มอบเครือ่ งพิมพ์สาม สงู มากนัก แตม่ ีความแข็งแรงทนทาน ใช้งานได้นาน มติ ิ บริษทั เมโทรซสิ เตม็ สค์ อรป์ อเรชั่น จาํ กดั (มหาชน) สนับสนุน โปรแกรมออกแบบ SolidWorks Education version Face Shield มีส่วนประกอบหลัก 3 สว่ น คือ กระบังดา้ นหน้า (Visor) แผ่นพลาสตกิ ใส (Clear plastic sheet) และสายรดั ศรี ษะ อย่างไรก็ดี FabLab ยงั ไดร้ ่วมกบั เครือข่ายในสถานศกึ ษา และ (Elastic head band) ซ่งึ FabLab จะเน้นการผลติ ช้นิ ส่วนกระบงั ด้าน มหาวิทยาลยั พี่เลีย้ ง ออกแบบจดั ทําอุปกรณท์ ่จี าํ เปน็ อ่นื ๆ เพ่ือสง่ มอบ หนา้ เน่อื งจากเปน็ ช้นิ สว่ นทีไ่ ม่สามารถหาซือ้ ได้ทัว่ ไป และเปน็ สว่ นท่ตี ้อง ให้แกบ่ ุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ได้แก่ กล่องปอ้ งกันการ สมั ผสั กบั ผ้ใู ช้โดยตรงเปน็ เวลานาน จึงตอ้ งมีความแขง็ แรง ยดื หย่นุ และ ฟุง้ กระจาย (Aerosol) แบบครอบเตยี ง 115 กลอ่ ง แบบตง้ั โต๊ะ 20 กลอ่ ง ปรับเข้ากับศรี ษะของผสู้ วมใส่ไดด้ ี นอกจากน้กี ระบังดา้ นหนา้ ที่ FabLab เครอื่ งกดเจลล้างมืออตั โนมัติ 55 เครอ่ื ง เครอ่ื งจ่ายเจลแอลกอฮอล์ ผลิตขน้ึ ยงั มกี ารคํานวณระยะห่างระหวา่ งแผ่นใสกบั ใบหนา้ เพ่ือให้เหมาะสม อตั โนมตั โิ ดยการเหยยี บ 10 เคร่อื ง และทค่ี ลอ้ งหน้ากากอนามยั 100 ช้นิ กับบคุ ลากรทางการแพทย์ทีต่ อ้ งสวมใสแ่ วน่ ตาทางการแพทย์ ทส่ี าํ คญั Face Shield ทีผ่ ลิตข้ึน ยังสามารถถอดเปลีย่ นแผน่ พลาสตกิ ใส เพื่อ ทาํ ความสะอาดหรอื เปล่ยี นแผน่ ใหมไ่ ด้สะดวกอีกด้วย ติดต่อ: โครงการโรงประลองต้นแบบทางวศิ วกรรม (Fabrication Lab) เบอรโ์ ทรศัพท:์ 02 564 7000 ตอ่ 77224, 77800 Website: https://FabLabthailand.com/ 9
นวตั กรรมรบั มือ COVID-19 สาํ นักงานพัฒนาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีแหง่ ชาติ (สวทช.) ผลติ ภณั ฑก์ ําจดั เชอ้ื โรค ดว้ ยวธิ กี ารฉายแสงยวู ีซี: Germ Saber UVC Sterilizer จากปญั หาการขาดแคลนอปุ กรณท์ างการแพทย์ทง้ั หนา้ กากอนามยั แอลกอฮอลฆ์ ่าเชอื้ และนาํ้ ยาฆา่ เชือ้ โรคตา่ งๆ ท่ามกลางสถานการณ์ การระบาดของโรคโควดิ -19 ศูนย์เทคโนโลยเี พื่ อความม่นั คงของ ประเทศและการประยกุ ตเ์ ชงิ พาณชิ ย์สํานกั งานพั ฒนาวทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแห่งชาติ ไดเ้ รง่ พั ฒนาผลติ ภณั ฑก์ าํ จัดเช้อื โรคด้วย วิธีการฉายแสงยูวีซ:ี Germ Saber UVC Sterilizer เพ่ื อช่วยลด การใช้น้าํ ยาพ่ นฆ่าเช้ือและไม่ทาํ ให้เกิดสารตกค้างจากการปนเป้ ือน ของสารเคมีสําหรบั ใชเ้ ปน็ เครอื่ งมอื กําจดั เชอื้ โรคในโรงพยาบาลและ สถานท่เี ส่ยี งตา่ งๆ ในเวลาทจ่ี าํ กดั ปจั จบุ นั ทมี วจิ ยั ไดพ้ ัฒนาผลติ ภณั ฑก์ าํ จดั เชอื้ โรคดว้ ยวธิ กี ารฉายแสง ติดตอ่ : ยูวีซี จาํ นวน 2 รุ่น ไดแ้ ก่ Germ Saber Station เปน็ อุปกรณ์ท่เี คล่อื นท่ี ดว้ ยการเข็นไปยงั จุดต่างๆ และ Germ Saber Robot ห่นุ ยนต์ฆา่ เช้อื โรค ดร.ศวิ รกั ษ์ ศิวโมกษธรรม ดว้ ยแสงยวู ซี ง่ึ เคลอ่ื นทไ่ี ดอ้ ตั โนมตั ดิ ว้ ยระบบมอเตอรไ์ ฟฟา้ ผา่ นการควบคมุ ศนู ยเ์ ทคโนโลยเี พ่ือความม่นั คงของประเทศและการประยกุ ตเ์ ชงิ พาณิชย์ ระยะไกลดว้ ยรีโมตคอนโทรลคลืน่ วทิ ยุ เหมาะสําหรบั ใชง้ านในพ้ืนทต่ี ่างๆ เบอร์โทรศัพท:์ 02 564 6900 ต่อ 2521 ในช่วงเวลาทีไ่ ม่มคี นอยู่ เพ่ือฆา่ เช้อื โรคตามจุดต่างๆ เฉลย่ี จดุ ละ 30 นาที E-mail: [email protected] ขึน้ ไป สําหรับจดุ เดน่ ของ Germ Saber ท้งั 2 รนุ่ คอื ฆ่าเช้อื ไวรัสกอ่ โรค โควิด-19 ดว้ ยรังสอี ลั ตราไวโอเลตทีม่ คี วามยาวคลืน่ อยู่ในยา่ นความถ่ี ประมาณ 250 นาโนเมตร เปน็ ช่วงคล่นื ทีม่ ีประสทิ ธภิ าพสูงในการกาํ จัดและ หยดุ ยง้ั การแพร่พันธุข์ องเชื้อรา แบคทเี รยี และเชื้อโรคตา่ งๆ บนพื้นผวิ เครอื่ งมอื อปุ กรณ์ เครอ่ื งมอื ทางการแพทย์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงเช้อื ไวรัสที่อยู่ในฝอยละอองทลี่ อยในอากาศได้ จงึ นํามาใช้ทดแทน หรอื เสรมิ การฉดี พ่นนํ้ายาฆา่ เชอื้ โรคไดเ้ ปน็ อยา่ งดีชว่ ยลดระยะเวลาการ ทําความสะอาด และความเส่ยี งในการไดร้ ับเช้ือโรคของผูป้ ฏบิ ตั หิ น้าที่ ทัง้ นีไ้ ด้นาํ ต้นแบบ Germ Saber ไปทดสอบการใช้งานท่โี รงพยาบาล จุฬาลงกรณ์ ซึ่งจากการทดสอบเปดิ Germ Saber ในลิฟตเ์ ปน็ เวลา 15 นาที ผลปรากฏว่า เช้อื โรคทีพ่ บบริเวณปมุ่ กดลิฟต์ถกู กาํ จดั ไดห้ มด ซึ่งจะมี การขยายผลในเชิงพาณิชย์ตอ่ ไปในอนาคต นอกจากนี้ หนว่ ยงานพันธมติ รทีร่ ่วมวิจัยพัฒนา Germ Saber UVC Sterilizer ได้แก่ สถาบันวจิ ยั เทคโนโลยีชีวภาพและวศิ วกรรมพันธุ- ศาสตร์ จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลยั ยงั ไดพ้ ัฒนารูปแบบเครอ่ื งมือ/อปุ กรณ์ ฆ่าเชอ้ื โรคให้เหมาะสมตอ่ การใช้งานดา้ นตา่ งๆ เพิ่มเตมิ ใหส้ ามารถใช้งาน ในพื้นท่แี บบเปดิ ได้ รวมทั้งการฆา่ เชื้อโรคในรถยนต์สาธารณะ 12 10
นวัตกรรมรับมอื COVID-19 สาํ นักงานพัฒนาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยแี หง่ ชาติ (สวทช.) MuTherm- FaceSense เคร่ืองตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายเป็นอุปกรณ์หนึ่งท่ีมีความจําเป็นในปัจจุบัน ติดต่อ: เนอื่ งจากการแพรร่ ะบาดของโรคโควดิ -19 ซง่ึ อณุ หภมู ริ า่ งกายทส่ี งู กวา่ ปกตนิ นั้ เปน็ หนงึ่ ใน อาการบ่งช้ีสําคัญของผู้ท่ีมีความเส่ียงต่อการติดเช้ือไวรัสสาเหตุของโรคโควิด-19 ดร.ศรณั ย์ สัมฤทธิเ์ ดชขจร ดังนั้นการตรวจวัดอุณหภูมิจึงเปรียบเสมือนด่านแรกในการคัดกรองบุคคลก่อนเข้า ศูนย์เทคโนโลยอี ิเล็กทรอนกิ ส์และคอมพิวเตอรแ์ ห่งชาติ สถานทตี่ า่ งๆ ปจั จบุ นั เครอ่ื งตรวจวดั อณุ หภมู ริ า่ งกายมดี ว้ ยกนั หลายรปู แบบ ทง้ั เครอื่ ง อนิ ฟราเรดเทอรโ์ มมเิ ตอรแ์ บบยงิ หนา้ ผากทหี่ ลายสถานทนี่ ยิ มใชก้ นั แตก่ ม็ ขี อ้ จาํ กดั ทสี่ ามารถ เบอรโ์ ทรศัพท:์ 02 564 6900 ตอ่ 2306 ตรวจวดั ไดท้ ลี ะคน และกลอ้ งถา่ ยภาพความรอ้ น (Thermal imaging camera) ทใ่ี ช้ ในทา่ อากาศยาน และหา้ งสรรพสนิ คา้ ตา่ งๆ ซงึ่ สามารถวดั ไดห้ ลายคนพรอ้ มกนั แตก่ ม็ รี าคาสงู E-mail: [email protected] ด้วยเหตุน้ี ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิ วเตอร์แห่งชาติ สํานักงานพั ฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ จึงได้พั ฒนาต่อยอด MuTherm-FaceSense หรือกล้องตรวจวัดไข้หลายคนพร้อมกันโดยไม่สัมผัส ซึ่งเป็นการผนวกเทคโนโลยีระบบคัดกรองอุณหภูมิบุคคลโดยไม่สัมผัสที่สามารถจับ ตาํ แหนง่ ของบคุ คลแบบอตั โนมตั ิ (Automatic human detection) เพ่ือตรวจจบั ใบหนา้ และอณุ หภมู สิ งู สดุ บนใบหนา้ ทาํ ใหส้ ามารถระบอุ ณุ หภมู ขิ องแตล่ ะบคุ คลไดอ้ ยา่ งแมน่ ยาํ และตรวจวัดได้หลายคนในเวลาเดียวกัน โดยรู้ผลได้ภายใน 0.1 วินาที จากระยะห่าง 0.5-1.5 เมตร ซึ่งตัวเลขอุณหภูมิจะแสดงขึ้นบนจอ หากบุคคลใดมีอุณหภูมิเกินค่า ทก่ี าํ หนดตวั เลขจะเปลย่ี นสจี ากสเี ขยี วเปน็ สแี ดง และสง่ เสยี งเตอื น สาํ หรบั การตดิ ตง้ั นน้ั มีข้ันตอนที่ไมย่ ุ่งยาก เพียงนาํ เครื่องไปต่อกับจอแสดงผลผ่านทาง HDMI นอกจากน้ี MuTherm-FaceSense ยงั มรี ะบบบนั ทกึ ขอ้ มลู วเิ คราะหแ์ ละประมวลผลภายในตวั เครอื่ ง อกี ท้งั ยงั เชื่อมตอ่ และสง่ ข้อมูลผา่ นระบบอนิ เทอรเ์ นต็ ทัง้ LAN เครอื ข่าย 3G/4G และ Wi-Fi ในอนาคตจะมีการพัฒนา MuTherm-FaceSense ให้สามารถบันทึกอุณหภูมิ และใบหนา้ แลว้ จดั เกบ็ ไวใ้ นเซริ ฟ์ เวอรข์ องเจา้ ของสถานทน่ี นั้ ๆ เพ่ือประโยชนใ์ นการตดิ ตาม ป้องกันการแพร่ระบาด และใช้เป็นฐานข้อมูลอ้างอิง เพื่อเฝ้าระวังและนําไปศึกษาวิจัย ด้านระบาดวิทยาตอ่ ไป ทั้งน้ี MuTherm-FaceSense ได้รับการสนับสนุนในการต่อยอดงานวิจัย จากกองทนุ วจิ ยั และพัฒนากจิ การกระจายเสยี ง กจิ การโทรทศั น์ และกจิ การโทรคมนาคม เพ่ื อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) ซ่ึงปัจจุบันได้ถูกนําไปใช้ทดสอบการคัดกรอง เบ้ืองต้นกับผู้มาติดต่อ ณ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติแล้ว อีกท้ังยังอยู่ในข้ันตอนการทดสอบเพิ่ มเติมตามเกณฑ์การทดสอบข้ันพื้ นฐาน ทั้งจากศูนย์ทดสอบผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และสถาบันไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ ก่อนนําไปใช้จริงกับหน่วยงานต่างๆ เช่น เรือนจํา โรงพยาบาล หน่วยบริการโลหิต และสํานักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกจิ การโทรคมนาคมแหง่ ชาติ อกี ทัง้ ยงั มผี ปู้ ระกอบการภาคเอกชนสนใจเขา้ มาลงทนุ เพ่ือตอ่ ยอดงานวจิ ยั ดงั กลา่ ว 11
นวตั กรรมรบั มอื COVID-19 สํานกั งานพัฒนาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยแี หง่ ชาติ (สวทช.) การสกัด RNA โดยไม่ใช้ Commercial Kit การตรวจผู้ป่วยโรคโควิด-19 ด้วยเทคนิค Real-time RT-PCR เป็นการตรวจ มาตรฐานสูงสุด (Gold standard test) หรือการตรวจวินิจฉัยทางการแพทย์ ท่ีดีท่ีสุดภายใต้เงื่อนไขที่เหมาะสม แต่ในการสกัดสารพั นธุกรรม หรืออาร์เอ็นเอ ( R i bo n u c l e i c ac i d , R N A ) ข อ ง ไ ว รั ส SA R S - CoV - 2 มี ข้ อ จํ า กั ด คื อ ต้องใช้เคร่ืองสกัดสารพั นธุกรรมอัตโนมัติ (Automated) และใช้น้ํายาสกัด สารพันธุกรรมที่ต้องนําเข้าจากต่างประเทศ ซ่ึงมีราคาตั้งแต่ 120-300 บาท การวิจัยและพัฒนาวิธีการสกัดอาร์เอ็นเอท่ีไม่จําเป็นต้องใช้เคร่ืองสกัดสารพันธุกรรมอัตโนมัติและน้ํายาสกัดจากต่างประเทศ นอกจากจะช่วยลดต้นทุน ในการตรวจตัวอย่างแลว้ ยงั ไมต่ ้องกงั วลเกย่ี วกบั การขาดแคลนน้าํ ยาสกัดทีต่ อ้ งสัง่ ซื้อจากตา่ งประเทศอีกด้วย ทีมวิจัยจากศูนย์โอมิกส์แห่งชาติ หรือ National Omics Center (NOC) หน่วยงานภายใต้ศูนย์พั นธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ สาํ นกั งานพัฒนาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยแี หง่ ชาติ ดาํ เนนิ การวจิ ยั และพัฒนาการสกดั อารเ์ อน็ เอดว้ ย Magnetic bead ทผ่ี ลติ ในไทย ซง่ึ มตี น้ ทนุ การสกดั ประมาณ 50 บาท/ตัวอย่าง โดยได้มอบนํ้ายาที่พั ฒนาขึ้น 20 ชุดให้คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล ได้นําไปทดสอบเปรียบเทียบในเบื้องต้น พบว่าได้ผลดแี ละมคี ณุ สมบัติใกลเ้ คียงกับชดุ นํ้ายาสกัดอารเ์ อน็ เอทีซ่ อื้ จากตา่ งประเทศ ปัจจุบันศูนย์ฯ ได้ดําเนินการขอรับทุนสนับสนุนการวิจัย โดยมีเป้าหมาย ตดิ ตอ่ : พั ฒนาวิธีการสกัดอาร์เอ็นเอโดยใช้สารเคมีในประเทศเปรียบเทียบกับชุดสกัดนําเข้า ดร.สทิ ธโิ ชค ต้งั ภัสสรเรือง และผลิตชุดสกัดที่พัฒนาขึ้น 100,000 ชุด ให้เครือข่ายโรงพยาบาลต่างๆ นําไปใช้ ศนู ยโ์ อมกิ ส์แห่งชาติ คาดวา่ ภายในเดอื นพฤษภาคม 2563 จะพัฒนากระบวนการสกดั และผลติ ได้ 200 ชดุ ศูนยพ์ ันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชวี ภาพแหง่ ชาติ เพื่อใหค้ ณะเวชศาสตรฯ์ ทดสอบเพิ่มเตมิ พรอ้ มจดั เตรยี มคมู่ อื (Procedure) ในการผลติ และใช้น้ํายากับเคร่ือง RT-PCR ตลอดจนเตรียมหารือกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เบอร์โทรศพั ท์: 02 564 6700 ต่อ 3537, 3531 และพันธมิตรเพ่ือการขยายผลภายในเดอื นกรกฎาคม 2563 น้ี E-mail: [email protected] 12
นวตั กรรมรบั มือ COVID-19 สาํ นักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ชดุ ตรวจหาเชอ้ื ไวรสั SARS-CoV-2 ดว้ ยเทคนคิ แลมป์ (LAMP) เทคนคิ แลมป์ หรอื Loop-mediated isothermal amplification (LAMP) ชุดตรวจ LAMP COVID-19 คือ เทคนิคท่สี ามารถเพ่ิมปริมาณสารพันธุกรรมทั้ง DNA และ RNA ท่อี ุณหภูมิในชว่ ง 60-65 องศาเซลเซยี ส ได้ถึง 1,000 ล้าน (10 ยกกําลงั 9) เทา่ ภายในเวลา 1 ชว่ั โมง ใช้ประโยชน์ในการตรวจหาสารพันธุกรรมของตัวเช้ือเช่นเดียวกับเทคนิค PCR และ Real time PCR แต่มจี ดุ เด่นคอื มีความไวในการตรวจวัด (Sensitivity) สงู กวา่ PCR และอาจเทียบเท่า Real time PCR มีความจําเพาะ (Specificity) กับตัวเช้ือสูง มขี ั้นตอนการตรวจไมย่ งุ่ ยาก ใช้งานง่าย และใชเ้ คร่อื งมือราคาไมแ่ พง ทีมวิจัยเทคโนโลยีวิศวกรรมชีวภาพและการตรวจวัด ภายใต้ศูนย์พั นธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ สํานักงานพั ฒนาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแห่งชาติ พั ฒนาชุดตรวจหาเช้ือไวรัส SARS-CoV-2 ที่เป็นสาเหตุของโรคโควิด-19 โดยใช้เทคนิคแลมป์เปล่ียนสีแบบง่ายในข้ันตอนเดียว (Colorimetric LAMP-XO) ให้ผลการทดสอบภายใน 1 ช่ัวโมง สามารถอ่านผลได้ด้วยตาเปล่าโดยไม่ต้องใช้ผู้เช่ียวชาญ โดยถ้าสีของสารละลาย เปลย่ี นจากสมี ว่ งเปน็ สีเหลืองแสดงว่ามกี ารติดเชือ้ ไวรัส SARS-CoV-2 แตถ่ า้ สขี องสารละลายยังคงเปน็ สีมว่ งแสดงวา่ ไมม่ กี ารตดิ เชอ้ื ปั จ จุ บั น ที ม วิ จั ย ร่ ว ม กั บ ค ณ ะ เ ว ช ศ า ส ต ร์ เ ข ต ร้ อ น การอ่านผลด้วยตาเปลา่ หากสีของสารละลายเปลีย่ นจากสมี ว่ งเป็นสเี หลือง มหาวิทยาลัยมหิดล พั ฒนาต้นแบบชุดตรวจ LAMP COVID-19 แสดงว่ามีการติดเชอื้ ไวรสั SARS-COV-2 แตห่ ากสียงั คงเป็นสีมว่ ง ระดับห้องปฏิบัติการ โดยอยู่ในขั้นตอนของการทดสอบไพรเมอร์ แสดงวา่ ไม่มกี ารติดเชือ้ (Primer) ที่ออกแบบไว้กับตัวอย่างจากผู้ป่วยในจํานวนที่มากขึ้น รวมท้ังกําลังเตรียมพั ฒนาข้อเสนอโครงการวิจัยเพ่ื อทดสอบ ความแม่นยํา (Accuracy), ความไว (Sensitivity), ความจําเพาะ (Specificity) และ Cross Reaction ของผลิตภัณฑ์ LAMP COVID-19 เพ่ื อขยายผลไปสู่การผลิตในระดับอุตสาหกรรม โดยคาดว่าจะพร้อมหารือกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และ สาํ นกั งานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ในเดอื นพฤษภาคม 2563 ทีมวจิ ัยเทคโนโลยวี ิศวกรรมชีวภาพและการตรวจวดั ติดต่อ: ไบโอเทค สวทช. ดร.วรรณสกิ า เกยี รตปิ ฐมชยั ทีมวจิ ยั เทคโนโลยวี ศิ วกรรมชวี ภาพและการตรวจวัด ศนู ย์พันธวุ ศิ วกรรมและเทคโนโลยชี ีวภาพแหง่ ชาติ E-mail: [email protected] 13
นวตั กรรมรับมอื COVID-19 สาํ นกั งานพัฒนาวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยแี หง่ ชาติ (สวทช.) ชดุ ตรวจเชอื้ ไวรสั กอ่ โรคโควดิ -19 แบบรวดเร็ว ด้วยเทคนคิ LFA โดยท่ัวไปชุดตรวจเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 แบบรวดเร็วอาศัยหลักการการจับ แบบจําเพาะของโมเลกุลชีวภาพท่ีจับได้ดีและจําเพาะกับโปรตีนเป้าหมายของเช้ือไวรัส ก่อโรคโควิด-19 สําหรับชุดตรวจนี้อาศัยหลักการการตรวจหาโมเลกุลเป้าหมาย อยา่ งจาํ เพาะและรวดเรว็ ดว้ ยเทคนคิ อมิ มโู นโครมาโตกราฟชี นดิ ไหลในแนวราบ (Lateral flow immunochromatographic assay: LFA) ซงึ่ สามารถใชต้ รวจหาแอนตเิ จนของ เชอ้ื ไวรสั กอ่ โรคโควดิ -19 ได้ จงึ นาํ มาใชต้ รวจคดั กรองการตดิ เชอ้ื ไวรสั กอ่ โรคโควดิ -19 โดยในข้ันตอนการตรวจน้ันจะต้องมีการติดฉลากโมเลกุลชีวภาพท่ีจําเพาะกับโปรตีนของไวรัสด้วยวัสดุเล็กพิ เศษระดับนาโน ซงึ่ สามารถใหส้ ญั ญาณตอบสนองไดห้ ากตรวจพบโปรตนี ของไวรสั ทัง้ นอ้ี าศยั การปรบั สภาพและคดั เลอื กองคป์ ระกอบทีเ่ หมาะสมของชดุ ตรวจ ในการทาํ ให้ชุดตรวจสามารถใหส้ ัญญาณหรอื ขยายสัญญาณได้ในเวลาอันรวดเรว็ (5-10 นาที) ปจั จบุ ันอยูร่ ะหวา่ งจัดเตรียมชดุ ตรวจตน้ แบบสําหรบั ตรวจนิวคลโี อแคปซดิ (Nucleocapsid) ท่เี ป็นโปรตีนที่หอ่ หุ้มสารพันธุกรรมของ ไวรัส โดยเลือกเฉพาะตัวอย่างท่ีให้ผลตรวจเป็นบวกแบบจางๆ โดยจะทดสอบกับตัวอย่างจริงท่ีโรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน ภายในเดือนพฤษภาคม 2563 เพ่ือนําผลการทดสอบเบ้ืองต้นมาปรับสภาวะเพ่ิมเติม และวางแผนทดสอบความจําเพาะของคู่แอนติเจน- แอนตบิ อดีเพ่ิมเตมิ เพ่ือนาํ มาประกอบในชุดตรวจตน้ แบบ นอกจากน้ี ยังอยู่ระหว่างการสร้างยีนท่ีใช้สร้างโปรตีนนิวคลีโอแคปซิดและโปรตีนสไปก์ (Spike) ซ่ึงเป็นส่วนท่ีย่ืนออกมาจากผิว ของไวรัส และใช้จับกับตัวรับของเซลล์ โดยมีการดัดแปลงโคดอน (Codon) หรือชุดรหัสพันธุกรรมให้เข้ากันได้กับแบคทีเรียท่ีจะใช้ผลิต โปรตีนท้ังสองชนิดน้ี (ซึ่งเป็นข้ันตอนท่ีจําเป็น) โดยมีพันธมิตรท่ีสําคัญคือ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และโรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน ติดตอ่ : ดร.เดือนเพ็ญ จาปรงุ และ ดร.ณฐั ปภสั ร วิรยิ ะชัยพร กลมุ่ วิจยั วัสดุตอบสนองและเซน็ เซอร์ระดบั นาโน ศูนยน์ าโนเทคโนโลยีแหง่ ชาติ เบอรโ์ ทรศพั ท:์ 02 564 7100 ตอ่ 6665, 76106 E-mail: [email protected], [email protected] 14
นวัตกรรมรับมือ COVID-19 สาํ นักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยแี ห่งชาติ (สวทช.) การคดั แยกผปู้ ว่ ย ดว้ ยลายพิ มพ์ เปปไทด์ (Peptide barcode) การคดั แยกผปู้ ว่ ยดว้ ยเทคนคิ เปปไทดบ์ ารโ์ คด้ (Peptide barcode) โดยใชเ้ ครอื่ ง MALDI-TOF (Matrix-assisted laser desorption/Ionization–time of flight) เป็นวิธีการจําแนกเชื้อจุลินทรีย์ เช่น แบคทีเรีย ยีสต์ และรา โดยอาศัยการวิเคราะห์ ชวี โมเลกลุ เชน่ โปรตนี หรอื เปปไทด์ โดยยงิ แสงเลเซอรไ์ ปยงั ตวั อยา่ งทต่ี อ้ งการตรวจสอบ จนเกดิ การแตกตวั เปน็ ไอออน (อนภุ าคทมี่ ปี ระจ)ุ กอ่ นเดนิ ทางไปยงั สว่ นตวั จบั สญั ญาณ (Detector) ผลการตรวจสอบทไ่ี ดอ้ ยใู่ นรปู แบบของสเปกตรมั ทสี่ ามารถใชต้ รวจวดั นา้ํ หนกั ของโปรตนี และจําแนกชนดิ ของแบคทเี รีย ยสี ต์ และรา นอกจากการใช้จําแนกเช้ือจุลินทรีย์แล้ว เคร่ือง MALDI-TOF น้ียังใช้จําแนก สายพันธไ์ุ วรัสไดอ้ กี ด้วย ศนู ยพ์ ันธวุ ศิ วกรรมและเทคโนโลยชี วี ภาพแหง่ ชาติ สาํ นกั งานพัฒนาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยแี หง่ ชาติ รว่ มกบั คณะเวชศาสตรเ์ ขตรอ้ น มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล นําวิธีการดังกล่าวมาทดลองจําแนกเช้ือก่อโรคโควิด-19 ด้วยลายพิมพ์เปปไทด์ เพ่ือใช้คัดแยกผู้ป่วย ซ่ึงมีจุดเด่นคือ วิธีคัดแยกผู้ป่วยโควิด-19 ด้วยแบบน้ี ไม่จําเป็นต้องสกัด RNA ที่เป็นสารพันธุกรรมของไวรัส ทําให้ทราบผลการตรวจเชื้อในผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็วและมีราคาถูก เพียงใช้ไม้พันสําลีป้าย (Swab) ตัวอย่างทดสอบจากจมูกและ/หรือปากและลําคอ แล้วนําตัวอย่างที่ได้ผสมเข้ากับสารที่ใช้เตรียมการวิเคราะห์ (Matrix) บนเพลต (จานพลาสติกสี่เหล่ียมท่ีมี ช่องใสต่ ัวอยา่ ง) แลว้ นาํ เข้าเคร่อื ง MALDI-TOF เพ่ือวเิ คราะหผ์ ล จากการทดสอบตัวอย่างพบว่า วิธีการนี้สามารถจําแนกผลบวก (Positive) คือ มีเชื้อไวรัส และผลลบ (Negative) คือ ไม่มีเชื้อไวรัส ได้อย่างถูกต้อง ในการตรวจสอบแต่ละตัวอยา่ งนัน้ ใชป้ รมิ าณตวั อยา่ งประมาณ 1–10 ไมโครลติ ร และใช้เวลา 45 นาทีต่อ 1 รอบ โดยเคร่อื ง MALDI-TOF แตล่ ะเคร่อื งทดสอบได้ ราว 1,500 ตัวอย่างต่อวัน มีต้นทุนการทดสอบราว 50–60 บาท/ตัวอย่าง เท่าน้ัน ปัจจุบันมีเคร่ือง MALDI-TOF ท่ัวประเทศรวมกันมากกว่า 50 เคร่ือง วิธีการนี้จงึ นา่ จะชว่ ยใหค้ ัดแยกผปู้ ่วยโควิด-19 ไดอ้ ย่างรวดเร็วและทวั่ ถงึ มากขึน้ อีกเป็นอย่างมาก จากผลการทดสอบเบื้องต้น (Preliminary Test) พบว่า สามารถใช้ ตดิ ตอ่ : ลายพิ มพ์ เปปไทด์จําแนกผู้ป่วยโควิด-19 ออกจากผู้มีสุขภาพดีได้ ท้ังจาก การใช้ไม้ป้ายจมูก ลําคอ และจากซีรั่ม (ส่วนที่เป็นสารละลายของเลือด) ศนู ย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยชี วี ภาพแห่งชาติ ขณะน้ีอยู่ระหว่างการทดสอบตัวอย่างเพ่ิ มเติม พร้อมขยายผลการทดสอบ ความถกู ตอ้ งของวิธวี ิเคราะห์ (Validation) และปรบั กระบวนการตรวจวัดให้แมน่ ยาํ ข้นึ เบอรโ์ ทรศพั ท์ 02 564 6700 โดยคาดว่าจะสามารถถา่ ยทอดเทคโนโลยกี ารทดสอบน้ไี ดภ้ ายในเดือนมิถนุ ายน 2563 Website: http://www.biotec.or.th 15
นวตั กรรมรบั มือ COVID-19 สํานกั งานพัฒนาวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยแี ห่งชาติ (สวทช.) วคั ซนี ปอ้ งกนั โรคโควดิ -19 นกั วทิ ยาศาสตรท์ วั่ โลกศกึ ษาคน้ ควา้ โดยการถอดลาํ ดบั จโี นม ไบโอเทค สวทช. เดนิ หนา้ วิจยั พบว่า ไวรัสโคโรนา หรือ SAR-CoV-2 ที่ทําให้เกิดโรคโควิด-19 สามารถตดิ ตอ่ จากคนสคู่ นอยา่ งรวดเรว็ เพราะไวรสั นม้ี โี ปรตนี สไปก์ ‘ต้นแบบวคั ซนี OVID-19’ (ส่วนที่ย่ืนออกมาจากอนุภาคคล้ายหนาม) อยู่บนผิว ซึ่งทําให้ ไวรสั สามารถจบั กบั ตวั รบั ทชี่ อ่ื ACE2 Receptor ในเซลลข์ องมนษุ ย์ ได้มาก ทําให้เช้ือไวรัสเข้าสู่เซลล์ได้ดีและแพร่จากคนสู่คนได้ อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ นอกจากนย้ี งั พบการกลายพันธข์ุ องตวั ไวรสั ในตาํ แหนง่ โปรตนี สไปกซ์ ง่ึ เปน็ สว่ นทจ่ี ะตอ้ งถกู เอนไซมต์ ดั กอ่ นเขา้ สเู่ ซลลม์ นษุ ย์ โดยไวรสั ตวั นม้ี กี ารกลายพันธุ์ คือมีกรดอะมิโนเพ่ิ มเข้ามาอีก 5 ตัว ทําให้โปรตีนสไปก์ของ SAR-CoV-2 ถูกตัดด้วยเอนไซม์ในร่างกายมนุษย์ได้ง่ายข้ึน จึงทําให้ไวรัสสามารถ กระจายไปในอวัยวะส่วนต่างๆ ของมนุษย์ เช่น ปอด ไต ทางเดินอาหาร สมอง ท้ังนี้ส่วนท่ีเป็นโปรตีนสไปก์ของไวรัสน้ันไม่ได้ทําให้ร่างกายป่วยไข้ ดังน้ัน นักวิจัยจึงมุ่งเป้าการหายารักษา และวัคซีนป้องกันไปที่ ACE2 Antibody โดยใช้โปรตีนสไปก์จับ ACE2 Receptor เพื่ อเข้าสู่เซลล์มนุษย์ แล้วกระตุ้น ให้ร่างกายสร้างระบบภมู คิ ้มุ กนั ซง่ึ เปน็ งานวจิ ยั ทก่ี าํ ลงั ดาํ เนนิ การอยใู่ นหลายแหง่ ทว่ั โลก ศนู ยพ์ ันธวุ ศิ วกรรมและเทคโนโลยชี วี ภาพแหง่ ชาติ และศนู ยน์ าโน Animal Testing Facility BSL2+ Facility เทคโนโลยแี หง่ ชาติ สาํ นกั งานพัฒนาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยแี หง่ ชาติ ไดท้ าํ วจิ ยั คน้ ควา้ หา ‘วคั ซนี ปอ้ งกนั โรค โควดิ -19’ โดยนาํ พันธวุ ศิ วกรรม Vaccine efficacy GMP Cleanroom หรือการตดั ตอ่ พันธุกรรม มาใชใ้ นการพัฒนาวคั ซีน 5 ประเภท ดังน้ี assessment Facility 1. วัคซีนรีคอมบิแนนต์ซับยูนิต (Recombinant subunit ปัจจุบัน สวทช. อยู่ระหว่างการนําต้นแบบวัคซีน 3 ประเภท ได้แก่ วัคซีน vaccines) เป็นการตัดส่วนที่เป็นโปรตีนสไปก์ของยีน SAR-CoV-2 รีคอมบแิ นนต์ซบั ยูนติ วคั ซีนโควิด-19 ท่ฝี ากไวก้ บั วคั ซีนไขห้ วัดใหญ่ และวัคซนี DNA ออกเป็นช้นิ ยอ่ ย แลว้ นําเขา้ สเู่ ซลล์ เพ่ือให้รา่ งกายสรา้ งภมู ติ ้านทาน ไปทดสอบภูมิคุ้มกันในหนู ซึ่งจะได้ผลกระตุ้นภูมิคุ้มกันของวัคซีน 2 ประเภทแรก ในเดอื นพฤษภาคม 2563 หากผลการทดสอบภมู คิ มุ้ กนั ในหนปู ระสบความสาํ เรจ็ สวทช. 2. วัคซนี โควดิ -19 ทฝ่ี ากไวก้ บั วัคซีนไข้หวัดใหญ่ (Influenza A จะต้องหาทุนสนับสนุนเพ่ิ มเติมและหาพั นธมิตรเพ่ื อศึกษาการนําเช้ือเข้าสู่มนุษย์ virus-based vaccines) เปน็ การนาํ โปรตนี สไปกข์ องยนี SAR-CoV-2 การทดสอบความปลอดภยั และการทดลองในมนษุ ย์ตามลาํ ดบั ไปฝากไว้กับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ เพ่ื อสร้างภูมิคุ้มกันโรคโควิด-19 ไปพรอ้ มกับไขห้ วดั ใหญ่ ตดิ ตอ่ : 3. วัคซนี DNA หรอื RNA (Nucleic acid-based vaccines) ดร.อนันต์ จงแก้ววฒั นา โดยการส่งข้อมูลของยีน SAR-CoV-2 ผ่าน mRNA เพื่อไปใช้สร้าง กลมุ่ วิจยั นวัตกรรมสุขภาพสตั วแ์ ละการจัดการ โปรตนี สไปก์ โดยทาํ เปน็ ลพิ ิดอนภุ าคนาโนนาํ สง่ เขา้ สเู่ ซลล์ เพ่ือกระตนุ้ ให้ ศนู ย์พันธุวศิ วกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแหง่ ชาติ ร่างกายสร้างภูมิคมุ้ กนั เบอรโ์ ทรศัพท์: 02 564 6700 ต่อ 3360 E-mail: [email protected] 4. วัคซีนท่ีเป็นอนุภาคเสมือนไวรัส (Virus-like particles) เป็นการสร้างโปรตีนเลียนแบบไวรัส แต่ไม่มีสารพั นธุกรรมที่ทําให้ 16 เกิดโรคโควดิ -19 เพ่ือกระต้นุ ใหร้ า่ งกายสร้างภมู คิ มุ้ กนั 5. วัคซีนไวรัลรีคอมบิแนนต์ (Recombinant viral vector vaccines) เป็นการเอายีนที่ถูกตัดต่อของไวรัส SAR-CoV-2 ไปใส่ในไวรัสตัวอ่ืนท่ีไม่เป็นอันตราย เพ่ื อให้สร้างโปรตีนสไปก์ แลว้ ฉดี เข้าสรู่ ่างกาย เพ่ือหลอกรา่ งกายว่าติดเชื้อและสรา้ งภูมติ ้านทาน เป็นภมู คิ ุ้มกนั
นวัตกรรมรับมอื COVID-19 สาํ นกั งานพัฒนาวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยแี หง่ ชาติ (สวทช.) ภาพอินโฟกราฟกิ : ไบโอเทค สวทช. เดินหนา้ วจิ ัย ‘ต้นแบบวัคซีน OVID-19’ ทมี วจิ ัยไวรัสวทิ ยาและเซลลเ์ ทคโนโลยี กลุ่มวิจยั นวตั กรรม วคั ซนี จากอนภุ าคไวรสั เสมอื น วคั ซีนจากดีเอ็นเอหรอื อาร์เอ็นเอ สุขภาพสัตว์และการจดั การ ไบโอเทค สวทช. วิจยั สังเคราะห์ DNA or RNA vaccines Virus-like particle vaccines (VLPs) ยนี ท่กี าํ หนดการสร้างโปรตีนสไปก์ (Spike) ใชย้ นี ท่สี ังเคราะหข์ ้ึนโคลนเขา้ สู่พลาสมิดดีเอ็นเอ เพ่ื อใช้พั ฒนา “5 วคั ซีนตน้ แบบ” โครงสรา้ งคล้ายคลึงกบั อนุภาคไวรสั SARS-CoV-2 เพ่ือใช้เป็นวัคซนี หรือสร้ างอารเ์ อน็ เอจากพลาสมดิ แตไ่ มม่ สี ารพันธกุ รรมอยู่ภายใน ปลอดภยั ตอ่ การใช้ เปน็ วัคซนี โดยดเี อน็ เอหรอื อาร์เอน็ เอจะสร้างแอนตเิ จน วัคซีนจากอนภุ าค ท่กี ระตนุ้ การสร้างภมู คิ ุ้มกันต่อไวรสั ก่อโรค COVID-19 ไวรัสเสมอื น เพราะเพ่ิมจาํ นวนในเซลลไ์ ม่ได้ วัคซนี จากดเี อ็นเอ ยีนท่ี พลาสมดิ หรืออารเ์ อน็ เอ สงั เคราะหข์ ้ึน ดเี อน็ เอที่ ถกู สร้างใหม่ วัคซีนแบบรีคอม- บิแนนตซ์ บั ยนู ิต อนภุ าค ไวรสั เสมือน พลาสมิด (ส่วนทย่ี ืน่ ออกมา วคั ซีนจากไวรสั ไข้หวัดใหญ่ ไวรสั จากอนภุ าคคลา้ ยหนาม) ทต่ี ดิ เซลลไ์ ดค้ ร้งั เดยี ว ทพ่ี บในธรรมชาติ วัคซนี จากไวรัสท่สี ามารถเพ่มิ ตัวเอง ไดป้ ริมาณมาก วคั ซนี แบบรคี อมบแิ นนตซ์ บั ยูนติ ไวรสั ไข้หวัดใหญ่ท่ตี ิดเซลลไ์ ด้ครั้งเดียว วัคซนี จากไวรสั ทส่ี ามารถ Recombinant subunit vaccines Influenza A virus-based vaccines เพ่ิ มตวั เองได้ในปรมิ าณมาก ยีนของสไปก์ขนาดต่างๆ จะถูกแสดงออก Recombinant viral vector vaccines เปน็ โปรตนี ในเซลล์ และโปรตนี เหลา่ นัน้ ยีนของสไปก์ในขนาดตา่ งๆ จะถกู นําไปแทนที่ ยีนสไปก์ในรูปแบบตา่ งๆ จะถกู ฝากไวก้ ับจโี นม จะนํามาใช้เปน็ วคั ซีนเพื่อกระต้นุ ภมู ิคมุ้ กัน ยีนฮแี มกกลตู ินนิ (HA) ของไวรสั ไข้หวดั ใหญ่ ของไวรัสท่เี่ จรญิ เตบิ โตได้ดี เพ่ือเพ่ิมปรมิ าณไดม้ าก และนาํ ไปใช้เปน็ วคั ซนี เชอ้ื ตาย Recsvouambccubinninietant เม่อื ได้รับไวรสั ดงั กลา่ วเข้าสู่รา่ งกาย จะสามารถมองเหน็ และสร้างภมู คิ ุ้มกันตอ่ สไปก์ได้ ยีนของสไปก์ HA Influenza A SARS-C0V-2 virus-based vaccines ไวรสั ไข้หวดั ใหญ่สายพนั ธุ์ A (Influenza A) ไวรสั ไข้หวัดใหญ่สายพนั ธุ์ A+C Rveivcraaocml cvbienicnetsaonrt (Influenza A+C) ยนี ของสไปก์ การทดสอบวคั ซีน วัคซีนต้นแบบที่พัฒนาข้นึ จะถกู ทดสอบความสามารถ ในการกระตุ้นภูมิคุ้มกนั ในสัตวท์ ดลองและอาสาสมัครต่อไป ห้อง Animal Biosafety Level 3 (ABSL3) ความร่วมมอื ระหวา่ ง สวทช. กบั คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหดิ ล 17
นวัตกรรมรบั มือ COVID-19 สํานักงานพัฒนาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยแี ห่งชาติ (สวทช.) แบบจาํ ลอง ทางคณติ ศาสตร์ เพ่ื อรบั มอื การระบาด ของโควดิ -19 สํานักงานพั ฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ร่วมกับกรมควบคุมโรค มุ่งประยุกต์ใช้งานวิจัยแบบจําลอง ทางคณิตศาสตร์ในการตอบโจทย์และเสนอแนะแนวทางในการ กาํ หนดนโยบายตา่ งๆ สาํ หรบั การเฝา้ ระวงั และควบคมุ โรคโควดิ -19 ดงั นี้ 1. ผู้ตดิ เชอ้ื ไวรสั กอ่ โรคโควิด-19 ท่แี ทจ้ รงิ มจี ํานวนเทา่ ใด (ทง้ั กล่มุ ท่แี สดงอาการรุนแรง มีอาการไม่ชดั เจน และไมแ่ สดงอาการ) ในช่วงแรกที่มกี ารระบาด ของโควิด-19 ในเมืองอู่ฮั่น ประเทศไทยได้มีการตรวจคัดกรองนักท่องเท่ียวที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮ่ัน ทําให้ประเทศไทยมีข้อมูลผู้ติดเช้ือจากอู่ฮ่ันท่ียังไม่แสดง อาการชดั เจน จงึ ไดป้ ระมาณการจาํ นวนผตู้ ดิ เชือ้ ไวรสั กอ่ โรคโควดิ -19 ทงั้ หมดในอฮู่ นั่ เพื่อวเิ คราะหจ์ าํ นวนผปู้ ว่ ยโควดิ -19 ทอี่ าจมอี าการไมร่ นุ แรงหรอื ไมแ่ สดงอาการ และมอี าการรนุ แรง/ชดั เจนดว้ ยแบบจาํ ลองทางคณติ ศาสตร์ ดว้ ยการวเิ คราะหข์ อ้ มลู นกั ทอ่ งเทีย่ วจากเมอื งอฮู่ นั่ ทเ่ี ดนิ ทางเขา้ สปู่ ระเทศไทย โดยใหจ้ าํ นวนนกั ทอ่ งเทยี่ ว ทั้งหมดจากเมืองดังกล่าวเป็นตัวแทนประชากรในเมืองอู่ฮั่น จากการวิเคราะห์อัตราส่วนนักท่องเที่ยวเมืองอู่ฮั่นท่ีติดเช้ือเทียบกับจํานวนนักท่องเที่ยวจาก เมืองอู่ฮ่ันท้ังหมด แล้วนํามาวิเคราะห์ทําแบบจําลอง (Modeling) เพ่ื อประเมินกลับไปเป็นจํานวนผู้ติดเช้ือในเมืองอู่ฮ่ันท้ังหมด ผลการวิเคราะห์พบว่า จาํ นวนผตู้ ดิ เชอ้ื ทง้ั หมด รวมทง้ั ผตู้ ดิ เชอ้ื ทมี่ อี าการนอ้ ยไมช่ ดั เจน หรอื ไมแ่ สดงอาการใดๆ มจี าํ นวนรวมแลว้ เทา่ กบั ประมาณ 20 เทา่ ของผตู้ ดิ เชอ้ื ทมี่ อี าการชดั เจน (อา้ งอิงตามรายงานโดย WHO) จึงมขี อ้ เสนอแนะใหป้ ระเทศไทยเตรยี มมาตรการต่างๆ เพื่อเฝ้าระวงั และรับมอื การตดิ เชือ้ ภายในประเทศ การวิเคราะหจ์ ํานวนผตู้ ิดเช้อื ไวรัสกอ่ โรคโควิด-19 ที่แท้จริง 18
นวตั กรรมรับมอื COVID-19 สํานกั งานพัฒนาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยแี หง่ ชาติ (สวทช.) 2. ควรมีเทศกาลสงกรานต์หรือไม่ หรือควรมีมาตรการใดรองรับการจัดเทศกาลสงกรานต์ จากการวิเคราะห์พบว่า การมีเทศกาลสงกรานต์อาจทําให้มีผู้ติดเช้ือ ณ วันท่ี 18 เมษายน 2563 เพิ่ มมากขึ้นได้ประมาณ 1.3–100 เท่า เม่ือเทียบกับจํานวนผู้ติดเช้ือในกรณีท่ีไม่มีเทศกาลสงกรานต์ ท้ังนี้ตัวเลขจํานวนผู้ติดเช้ือท่ีเพิ่ มข้ึนจะขึ้นอยู่กับอัตราการสัมผัส อัตราการแพร่เช้ือที่เพ่ิ มข้ึน และช่วงเวลาของการละเล่นต่างๆ ในเทศกาลสงกรานต์ จึงมีข้อเสนอแนะให้มีมาตรการยกเลิก เทศกาลสงกรานต์ และงานท่ีจะมีคนมารวมตัวกันเป็นจํานวนมาก รวมท้ังกิจกรรมท่ีใกล้ชิดผู้สูงอายุ แต่หากมีการจัดงานสงกรานต์ต้องพิ จารณาการเคล่ือนย้ายของประชากรท่ีจะไปยังพ้ื นที่ต่างจังหวัด รวมท้งั มาตรการในการปฏบิ ตั ิตนเพ่ือลดโอกาสสมั ผสั กนั มากข้นึ 3. ผลของการใช้มาตรการ Social distancing นาน 1 สัปดาห์ จะเป็นเช่นไร และระยะเวลา การวิเคราะห์กรณที ี่ไมเ่ ลื่อนสงกรานต์ ท่ีประกาศใช้ถึงวันท่ี 30 เมษายน เพี ยงพอหรือไม่ จากการถอดบทเรียนมาตรการในการควบคุม จะเส่ียงติดโรคโควิด-19 เพิ่มขน้ึ การระบาดของโควดิ -19 ในประเทศทค่ี วบคมุ โรคได้ พบวา่ ประเทศกลมุ่ ดงั กลา่ วมมี าตรการหลายอยา่ งรว่ มกนั เช่น การเว้นระยะห่างทางสังคม (Social distancing) การค้นหาผู้ติดเช้ือที่แท้จริงให้ได้มากท่ีสุด และการแยกโรคท่ีมีประสิทธิภาพ สําหรับประเทศไทยนั้นได้เริ่มมาตรการ Social distancing ในวันที่ 22 มนี าคม 2563 และได้ประเมนิ ประสทิ ธภิ าพของมาตรการดังกลา่ ว โดยสรุปได้ดงั น้ี ในช่วงแรก หลังการใชม้ าตรการ Social distancing การประมาณค่าอัตราการระบาดและจาํ นวนผูต้ ิดเชอ้ื ในแต่ละช่วงเวลา ได้ 5 วนั พบวา่ มาตรการดงั กลา่ ว สามารถลดอตั ราการระบาด (Rt) ลงได้ (จาก 2.0 เหลือ 1.5) แต่ยังไม่เพี ยงพอที่จะ ลดใหอ้ ยใู่ นระดบั ทค่ี วบคมุ ได้ อาจสง่ ผลใหใ้ นวนั ท่ี 30 เมษายน 2563 ยังมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ถึง 2,100 คน และต้องเข้ารับ การรกั ษาในโรงพยาบาลมากถงึ 8,000 คน ดงั นนั้ จงึ ยงั ควร คงมาตรการตอ่ ไป พร้อมท้ังเสนอแนะให้เพ่ิ มความเข้มข้นของมาตรการ Social distancing และเพ่ิ มความครอบคลุมของการ ตรวจวินิจฉัยและแยกโรค เน้นการควบคุมการระบาด ภายในประเทศให้อยู่ในระดับท่ีแพทย์สามารถรับมือได้ โดยสง่ ผลกระทบทางสงั คมและเศรษฐกจิ ในระดบั ทย่ี อมรบั ได้ 4. มาตรการ Social distancing นาน 2 สัปดาห์ มีประสิทธิภาพเพี ยงพอหรือไม่ และสามารถผ่อนปรนได้หรือไม่ หลังจากได้มีการใช้มาตรการ Social distancing มาเปน็ เวลา 2 สปั ดาห์ พบวา่ มาตรการดงั กลา่ วยงั สามารถลดอตั ราการระบาด (Rt) ลงได้ จาก 2.0 เหลือ 1.1 แตห่ ากดาํ เนนิ ต่อไปดว้ ยอตั ราน้จี นถึง สิ้นเดือนเมษายน 2563 อาจมีจํานวนผู้ติดเชื้อรายวัน 130 ราย/วัน และเมื่อสิ้นปี 2563 ผู้ติดเชื้อสะสมที่ตรวจพบได้ 150,000 ราย มีผู้ป่วยรายใหม่วันละ 1,700 ราย จากรายงานตีพิ มพ์ ของออสเตรเลียระบุว่า การท่ีจะ สามารถควบคุมการระบาดไม่ให้ขยายตัวรุนแรงได้ต้องทํา Social distancing ใหไ้ ดร้ ะดบั รอ้ ยละ 70 รว่ มกบั การตรวจหา ผู้ติดเช้ืออย่างกว้างขวาง (Active case finding) ครอบคลุมอย่างน้อยร้อยละ 70 และต้องมีวิธีการคัดแยก ผ้ตู ดิ เช้อื ที่มีประสทิ ธิภาพ โดยหากทําได้ร้อยละ 90 จะสามารถ ควบคุมการระบาดได้เตม็ ท่ี การประมาณคา่ อัตราการระบาดและจาํ นวนผู้ตดิ เชื้อในแตล่ ะชว่ งเวลา ข้อมูลในประเทศไทยซ่ึงประมวลจากแบบสอบถามของ กรมควบคมุ โรคพบวา่ การทํา Social distancing ในประเทศ ครอบคลมุ เพียงรอ้ ยละ 70-80 และจากการตดิ ตามการเคลอื่ นท่ี ผา่ นสมารต์ โฟน พบวา่ ประชากรเคลอื่ นทล่ี ดลงจากปกตริ อ้ ยละ 50-60 ซึ่งบ่งชี้ว่า การตอบสนองต่อมาตรการใประเทศไทย มีความครอบคลมุ ตํ่ากวา่ เปา้ หมาย จึงยังไม่สามารถผ่อนปรน มาตรการ Social distancing ได้ 19
นวัตกรรมรับมือ COVID-19 สํานักงานพัฒนาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) 5. ควรมีมาตรการใดที่จะช่วยเพิ่ มประสิทธิภาพในการควบคุมโรค และควรมีเป้าหมายอย่างไร ในการหาผู้ติดเช้ือให้พบได้มากท่ีสุด ต้องแยกผู้ติดเช้ือ ไม่ใหแ้ พร่เชอ้ื ได้ และมกี ารติดตามผู้สัมผัสทุกรายให้แยกตวั เพ่ือกักโรค (Quarantine) ซง่ึ เป็นกระบวนการหลักของการควบคุมการระบาด หากทาํ ไดอ้ ยา่ งสมบรู ณ์ ก็จะสามารถหยุดการระบาดได้ จากการวเิ คราะหข์ อ้ มลู รายงานจากตา่ งประเทศพบวา่ มผี ตู้ ดิ เชอ้ื ทไ่ี มแ่ สดงอาการหรอื แสดงอาการนอ้ ยคดิ เปน็ ประมาณ 10-20 เทา่ ของผทู้ ม่ี อี าการทม่ี รี ายงาน ดังน้ันจะมีผู้ติดเช้ือท่ียังไม่ถูกตรวจพบด้วยระบบในปัจจุบันอีกจํานวนมาก ข้อมูลจากการตรวจวินิจฉัยของคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีพบว่า มีผู้ติดเช้ือท่ีระบบยังไม่ทราบ และไม่อยู่ในกลุ่มเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค (Patient under investigation: PUI) ท่ีจะได้รับการตรวจ (ผู้ท่ีมีประวัติเดินทาง ต่างประเทศ/สัมผัสกับผู้ติดเช้ือ) ประมาณร้อยละ 1 ซึ่งหากกลุ่มนี้ไม่ได้รับการตรวจวินิจฉัยหรือกักโรคไม่ดีเพี ยงพอ จะทําให้การควบคุมการระบาด ไมม่ ปี ระสิทธิภาพเพียงพอ จึงมีข้อเสนอแนะว่า ควรขยายเกณฑ์การตรวจ ให้มีความครอบคลุมมากข้ึน เช่น ครอบคลุมผู้ท่ีสัมผัสกับ คนจํานวนมาก และเพิ่ มความสามารถในการตรวจวินิจฉัย โดยหากตรวจพบผู้ติดเชื้อซ่ึงเดิมตรวจไม่พบเพิ่ มขึ้น จ น ค ร อ บ ค ลุ ม ร้ อ ย ล ะ 2 0 ( จ ะ ต้ อ ง ต ร ว จ ป ร ะ ม า ณ 5,000-10,000 ตัวอย่าง/วัน) จะทําให้เมื่อสิ้นปลายเดือน พฤษภาคม 2563 จํานวนผู้ติดเช้ือใหม่รายวันจะไม่เพ่ิ มข้ึน และหากครอบคลุมได้ถึงร้อยละ 40 (จะต้องตรวจประมาณ 20,000-40,000 ตัวอย่าง/วัน) จะทําให้จํานวนผู้ป่วยใหม่ รายวันลดลงเหลือเพี ยงหลักสิบรายต่อวนั ดังน้ันเสนอให้ตรวจการติดเช้ือให้ได้ประมาณ 10,000 สัดส่วนการตรวจพบผตู้ ดิ เชอ้ื เดมิ ท่ตี รวจไม่พบและจํานวนผ้ปู ่วยรายใหม่ ตวั อยา่ ง/วนั ควบคไู่ ปกบั การแยกผตู้ ดิ เชอ้ื อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ รวมไปถงึ การสรา้ งระบบตดิ ตามผตู้ ดิ เชอ้ื ตอ่ ไป การประมาณคา่ อตั ราการระบาดและจํานวนผู้ติดเชอ้ื ในแต่ละชว่ งเวลา 6. มาตรการ Social distancing รว่ มกบั มาตรการอืน่ ๆ ในปัจจุบัน (นาน 3 สัปดาห์) มีประสิทธิภาพเพี ยงพอหรือไม่ การทําแบบจําลองทางคณิตศาสตร์ (Mathematical Modeling) และสามารถผอ่ นปรนไดห้ รอื ไม่ ซง่ึ หลงั จากไดม้ กี ารใชม้ าตรการ เพื่อรับมือการระบาดของโควิด–19 เกิดข้ึนจากการต้ังโจทย์จากคณะกรรมการ Social distancing มาเปน็ เวลา 3 สัปดาห์ พบว่า มาตรการ เทคโนโลยีเพื่ อเตรียมพร้อมป้องกันโรคติดเชื้ออุบัติใหม่อุบัติซํ้า สวทช. ดังกลา่ วยังสามารถลดอัตราการระบาด (Rt) ลงได้ (จาก 2.0 เพ่ือนาํ ข้อมูลไปหารอื กับกรมควบคมุ โรค และเสนอแนะเพ่ือเตรยี มมาตรการต่างๆ เหลือ 0.77) จึงมีข้อเสนอแนะว่าในกรณีท่ีรัฐบาลลดระดับ ซึ่งการวิเคราะห์ทําแบบจําลองทางคณิตศาสตร์ท้ังหมดน้ี ได้จัดทําขึ้นจาก มาตรการ Social distancing ลง และเปิดให้ทํากิจกรรรม ความร่วมมือของทีมวิจัยจากคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล บางประเภทเพ่ิ มเติมในบางพ้ื นที่ในระยะแรกจําเป็นต้องมีการ ทีมวิจัยจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และคณะแพทยศาสตร์ ตรวจเชิงรุกหรือตรวจหาผู้ติดเช้ืออย่างเข้มข้นมากข้ึน ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ซ่ึงได้รับงบประมาณการสนับสนุนจาก และควรคงมาตรการ Social distancing บางส่วนไว้ เช่น โ ป ร แ ก ร ม เ ท ค โ น โ ล ยี เ พ่ื อ เ ต รี ย ม พ ร้ อ ม ป้ อ ง กั น โ ร ค อุ บั ติ ใ ห ม่ อุ บั ติ ซ้ํ า , ระยะห่างในการจัดโต๊ะ การต่อแถวเข้าคิว รวมทั้งการใส่ ส า ย ง า น บ ริ ห า ร ก า ร วิ จั ย แ ล ะ พั ฒ น า สํ า นั ก ง า น พั ฒ น า วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า และพิจารณาการใช้มาตรการ และเทคโนโลยแี หง่ ชาติ (สวทช.) ให้เหมาะสมกับแต่ละพื้ นที่ โดยพิ จารณาจากความจําเป็น ทางเศรษฐกิจและสังคม ร่วมกับการประเมินศักยภาพ ทางสาธารณสุขของพ้ืนทีน่ นั้ ๆ ติดตอ่ : คุณวรรณพิ า ทองสมิ า ฝ่ายบรหิ ารวิจยั เพื่อสนบั สนุนยุทธศาสตรช์ าติ เบอร์โทรศัพท์: 02 117 6480 E-mail: [email protected] 20
นวัตกรรมรบั มือ COVID-19 สาํ นกั งานพัฒนาวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) Fun Science @ Home by NSTDA สนกุ วทิ ยฯ์ ผา่ นคลปิ การทดลอง ในยามทตี่ อ้ งรว่ มกนั ‘หยดุ เชอื้ เพ่ือชาต’ิ ลดการระบาดโควดิ -19 กไ็ มอ่ าจ ปิดกั้นการเรียนรู้ได้ เมื่อ สวทช. โดยฝ่ายวิชาการและกิจกรรมพั ฒนา เยาวชนวิทยาศาสตร์ สายงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพ่ื อสังคม ศนู ยพ์ ัฒนากาํ ลงั คน จดั ทาํ กจิ กรรมเรยี นรอู้ อนไลน์ Fun Science @ Home by NSTDA เสิร์ฟความรู้และการทดลองวิทยาศาสตร์แสนสนกุ ถึงบา้ น ผา่ นเฟซบกุ๊ https://www.facebook.com/sciencecamp.fanpage/ Fun Science @ Home by NSTDA คือ กิจกรรม การเดินทางของลกู ยาง จลุ นิ ทรยี ก์ นิ ได้ โยเกริ ต์ ทาํ เอง พื ชดูดนา้ํ ส่งเสริมความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ผ่านการ ทดลองสนุกๆ ท่ีทําได้ไม่ยาก ใช้วัสดุอุปกรณ์ท่ีมีอยู่รอบตัว หมายเหตุ : ทมี งานได้ถา่ ยทําวดิ ีโอก่อนเกิดเหตุการณ์การระบาดโควิด-19 (ปี พ.ศ. 2561-2562) หากเด็กๆ จะทาํ กจิ กรรมดังกลา่ ว ราคาไม่แพง และทําได้เองที่บ้าน เพื่อให้เด็กระดับอนุบาลถึง แนะนําใหอ้ ยู่หา่ งกนั มากกว่า 2 เมตร และหากจาํ เป็นตอ้ งใกลก้ ัน ควรสวมหนา้ กากป้องกนั ตามหลักการ Social distancing มัธยมศึกษาตอนต้นใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ในช่วงการ ระบาดของโควิด-19 และในช่วงของการปิดภาคเรียน สําหรับเนื้อหากิจกรรมได้รวบรวมการทดลองทางวิทยาศาสตร์สําหรับเยาวชน โดยเน้น (สําหรับเด็กอนุบาลต้องมีผู้ปกครองช่วยให้คําแนะนําและดูแล กิจกรรมจากโครงการมหาวิทยาลัยเด็กประเทศไทย ซ่ึงอาจารย์มหาวิทยาลัยจาก 21 สถาบัน ระหว่างทาํ กจิ กรรม) และนกั วชิ าการจากสาํ นกั งานพัฒนาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยแี หง่ ชาติ (สวทช.) และสถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ไดร้ ว่ มกนั พัฒนาขน้ึ ทงั้ น้ี สวทช. ไดเ้ รม่ิ นาํ คลปิ วดิ โี อการทดลอง ตัวอยา่ งหลกั สตู รออนไลน์ โพสต์ลงเพจเฟซบุ๊กต้ังแต่วันท่ี 1 เมษายน 2563 และทยอยนําเน้ือหาข้ึนเป็นประจําทุกวัน โดยมีการจัดทําวีดิทัศน์จํานวน 15–20 เรื่องต่อเดือน เพื่อประชาสัมพันธ์ ไปยังกลุ่มเป้าหมาย หลักสูตรจัดการเรียนการสอน หลกั สูตรเกมและกจิ กรรม หลากหลายช่องทาง พร้อมทั้งมีการจัดแคมเปญเพื่อกระตุ้นความสนใจให้แก่เด็กและผู้ปกครอง วิทยาการคํานวณระดับปฐมวัย เพ่ือเรยี นรู้วทิ ยาการคํานวณ ให้เข้ามาชมคลิปการทดลอง โดยต้ังเป้าหมายให้มีผู้เข้าชมประมาณ 10,000 คร้ัง ต่อเดือน ผา่ นเกมและกิจกรรมแสนสนุก ผ่านปรากฏการณ์โควิด-19 ซึ่งขอ้ มลู ในเดอื นเมษายน 2563 มีผูเ้ ขา้ ชมจํานวน 6,688 ครัง้ จากวดี ทิ ศั น์ ทร่ี วบรวมไวท้ ง้ั หมด ระดบั ประถมศกึ ษาและมธั ยมศึกษา 18 เรือ่ ง นอกจากน้ียังได้จัดอบรมออนไลน์ให้แก่ครูและนักเรียน ตลอดจนการนําเอาไปใช้ ในกลุ่มเป้าหมายต่างๆ เช่น ครูและนักเรียนในพ้ื นที่อําเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี วิทยากรเครือขา่ ยทอ้ งถิ่นในโครงการ ซง่ึ เป็นความร่วมมอื ของ สวทช. กับหนว่ ยงานที่เกย่ี วขอ้ ง ทั้งนี้ในการนําเสนอส่วนหน่ึงเป็นเน้ือหาที่เกิดจากโครงการท่ี สวทช. ได้ดําเนินการ ร่วมกับพันธมิตรในช่วงปี 2553 จนถึงปัจจุบัน รวมจํานวน 26 หน่วยงาน ได้แก่ เครือข่าย มหาวิทยาลัย 19 แห่ง สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน สถาบันส่งเสริมการสอน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี องค์การพิ พิ ธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ศูนย์วิทยาศาสตร์ เพ่ือการศึกษา มูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา มูลนิธิศักดิ์พรทรัพย์ สํานักงานเขตพื้นท่ี การศกึ ษาประถมศึกษาปทุมธานี หลักสูตรเลา่ นิทานผา่ นโคด้ ดิ้ง หลกั สูตรการนําเทคโนโลยี ตดิ ตอ่ : คุณฤทัย จงสฤษดิ์ ระดบั ประถมศกึ ษา ดิจทิ ัลมาปรบั ใช้กบั การสอน ฝ่ายวชิ าการ หลักสูตร และส่อื การเรยี น ออนไลน์ ระดับประถมศกึ ษา เบอรโ์ ทรศพั ท์: 02 529 7100 ตอ่ 77223 E-mail: [email protected] 21
นวัตกรรมรับมอื COVID-19 สํานักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยแี หง่ ชาติ (สวทช.) กจิ กรรมสนบั สนนุ เพื่อเรง่ การนาํ ผลงานวจิ ยั มาใช้ ในสถานการณฉ์ กุ เฉนิ ตา้ นภยั ไวรสั กอ่ โรคโควดิ -19 (Research Gap Fund fights COVID-19) สํานักงานพั ฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติสนับสนุนผู้ประกอบการ ในรปู แบบนติ บิ คุ คลเขา้ รว่ มโครงการ “กจิ กรรมสนบั สนนุ เพื่อเรง่ การนาํ ผลงานวจิ ยั มาใช้ ในสถานการณฉ์ กุ เฉนิ ตา้ นภัยไวรสั กอ่ โรคโควดิ -19 (Research Gap Fund fights COVID-19)” เปดิ รบั ขอ้ เสนอโครงการทร่ี บั ถา่ ยทอดผลงานวจิ ยั หรอื ทรพั ยส์ นิ ทางปญั ญา ของมหาวิทยาลัยของรัฐหรือสถาบันวิจัยของรัฐท่ีมีต้นแบบในระดับภาคสนามแล้วมา ต่อยอด เพ่ือพัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบสําหรับผลิตใช้ในการป้องกันหรือแก้ไขปัญหา ในสถานการณฉ์ กุ เฉินไวรสั กอ่ โรคโควิด-19 โดยผา่ นกระบวนการออกแบบและพัฒนา ตน้ แบบเพ่ือใหไ้ ดต้ ามมาตรฐานของผลติ ภณั ฑ์ ดาํ เนนิ การวเิ คราะหท์ ดสอบจากหนว่ ยงาน วิเคราะห์ทดสอบที่น่าเชื่อถือ รวมถึงสามารถดําเนินการได้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือน นับจากวันหลังลงนามในสัญญารับทุน โดยโครงการจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายไม่เกินหรือ เทา่ กับ 75% ต่อโครงการ (ไมเ่ กนิ หรือเทา่ กบั 1,000,000 บาทตอ่ โครงการ) ปัจจุบันมีโครงการท่ียื่นข้อเสนอท้ังหมด 51 โครงการ มีโครงการท่ีผ่าน 13) เครอื่ งผลติ กรดไฮโปคลอรสั สาํ หรบั ฆา่ เชอ้ื โรคแบบใชใ้ นครวั เรอื น โดย การคัดเลือก (อยู่ระหว่างดําเนินการแจ้งผล/ทําสัญญา) จํานวน 21 โครงการ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร์ ประกอบด้วย 14) การพั ฒนาระบบเฝ้าระวังผู้ป่วยระยะไกล โดยใช้อาการของโรค 1) แถบตรวจสารพันธกุ รรมแบบอา่ นผลดว้ ยตาเปลา่ อยา่ งรวดเรว็ สาํ หรบั โควิด-19 ร่วมในการประมวลแบบ Deep-learning โดย สถาบันเทคโนโลยี วินิจฉัยโรคโควิด-19 ด้วยปฏิกิริยาภายใต้อุณหภูมิเดียวแบบ Multiplex- พระจอมเกลา้ เจา้ คณุ ทหารลาดกระบัง recombinase polymerase amplification โดย จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย 15) นวัตกรรมคัดกรองบุคคลด้วย AI ป้องกันการแพร่ของโรคระบาด 2) เคร่ืองผลิตละอองไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์สําหรับฆ่าเช้ือ โดย แบบเคลือ่ นทีไ่ ด้ โดย สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกลา้ เจา้ คุณทหารลาดกระบงั จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั 16) หูฟงั ทางการแพทย์แบบชาญฉลาดชนิดไร้สายสู้ภัยโควิด 19 โดย 3) เคร่ืองพ่ นโอโซนระบบ Ozone converter แบบอัตโนมัติ โดย สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกลา้ เจ้าคณุ ทหารลาดกระบงั มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ 17) อุปกรณ์ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย พร้อมระบบบันทึกใบหน้าโดยใช้ 4) แ อ ก ที ฟ เ ฟ ซ ชิ ล ด์ ต้ า น ท า น เ ชื้ อ ไ ว รั ส โ ค โ ร น า บ น พ้ื น ผิ ว โ ด ย Machine learning โดย สถาบนั เทคโนโลยพี ระจอมเกลา้ เจา้ คณุ ทหารลาดกระบงั มหาวิทยาลยั เชยี งใหม่ 18) การพัฒนาหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ทีท่ ําจากซิลโิ คน ชนิด N99 5) การสรา้ งตน้ แบบจดุ ตรวจโรคโควดิ -19 สาํ หรบั ตดิ ตงั้ ภายนอกอาคาร (N99 respirator) เพื่อรบั มือสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชือ้ ไวรสั โคโรนา (แบบครบวงจร) โดย มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยพี ระจอมเกล้าธนบรุ ี 2019 โดย มหาวทิ ยาลยั นวมนิ ทราธริ าช 6) หุ่นยนต์เคลื่อนที่แบบหลายแกน ประยุกต์ฆ่าเชื้อด้วยแสง UVC 19) ตู้พ่ นฆ่าเชื้อสําหรับบุคลากรทางการแพทย์แบบอัตโนมัติ โดย แบบบังคับขับเคล่ือนล้อแมกคานัม โดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า มหาวทิ ยาลัยนวมนิ ทราธริ าช พระนครเหนอื 20) หมวกอัดอากาศแรงดันบวก (PAPR) ต้นทุนต่ํา โดย มหาวิทยาลัย 7) ชุดวดั สญั ญาณชีพแบบพกพา โดย มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยสี ุรนารี นวมินทราธิราช 8) การเพิ่มมูลค่าเส้นใยปอสาเพ่ือผลิตหน้ากากอนามัยชนิด 3 ช้ัน โดย 21) การพัฒนาแคปซูลแรงดันอากาศลบสําหรับป้องการการแพร่เชื้อโรค มหาวิทยาลยั แมโ่ จ้ ทต่ี ิดต่อได้ทางระบบทางเดนิ หายใจ โดย สวทช. ศนู ยว์ ิจยั เทคโนโลยีส่งิ อาํ นวย ความสะดวกและเครือ่ งมอื แพทย์ 9) ตํารับยาแผนโบราณเพื่ อสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันไวรัสก่อโรค โควดิ -19 โดย มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ตดิ ตอ่ : 10) การผลิตซีลยางรอบคอเพ่ื อใช้ในชุดป้องกันการแพร่กระจายเช้ือ คณุ ชนรรถ พุ ทธานนท์ สาํ หรบั ผู้ปว่ ยโควดิ -19 โดย มหาวทิ ยาลยั แม่โจ้ ฝ่ายบริการทางการเงนิ เพื่อนวัตกรรม งานสง่ เสริมนวัตกรรมสูเ่ ชิงพาณิชย์ สวทช. 11) การพั ฒนาและผลิตชุดตรวจเช้ือไวรัสก่อโรคโควิด-19 สําหรับ เบอรโ์ ทรศพั ท์ 02 564 7000 ต่อ 71687 การผลติ ในเชิงอตุ สาหกรรม โดย มหาวิทยาลยั ศรีนครนิ ทรวโิ รฒ E-mail: [email protected] 12) ตน้ แบบเชงิ พาณชิ ยข์ องเครอื่ งชว่ ยหายใจความดนั บวกแบบสองระดบั โดยใชอ้ ากาศบริสุทธจิ์ ากตคู้ วามดนั ลบ โดย มหาวทิ ยาลัยศรีนครินทรวโิ รฒ 22
นวตั กรรมรับมือ COVID-19 สํานักงานพัฒนาวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยแี ห่งชาติ (สวทช.) รวมงานวจิ ัย สวทช. สูภ้ ัยโควิด-19 ตดิ ตามข้อมลู งานวจิ ัย คลิปวดิ ีโอ ขา่ วประชาสัมพั นธ์ และสือ่ ความรู้สภู้ ัยโควิด-19 ของ สวทช. ไดท้ ่นี ่ี >> คลกิ (https://www.nstda.or.th/th/news/13099- ght-covid19-nstda) 23
Search
Read the Text Version
- 1 - 23
Pages: