ไวรั สโคโรนา (Coronavirus) เป็นไวรสั ท่ถี กู พบครั้งแรกในปี 1960 แตย่ งั ไม่ทราบแหลง่ ท่มี าอยา่ งชดั เจนว่ามาจากท่ีใด แตเ่ ปน็ ไวรัสทสี่ ามารถติดเชื้อไดท้ งั้ ในมนษุ ย์และสัตว์ ปจั จบุ นั มกี ารคน้ พบ ไวรัสสายพันธุ์น้แี ล้วท้ังหมด 6 สายพันธุ์ ส่วนสายพันธุ์ทีก่ าลังแพร่ ระบาดหนกั ทัว่ โลกตอนนเ้ี ป็นสายพันธ์ุท่ียังไม่เคยพบมาก่อน คอื สายพนั ธ์ุที่ 7 จงึ ถกู เรียกว่าเป็น “ไวรัสโคโรนาสายพันธใ์ุ หม่” และ ในภายหลงั ถูกตัง้ ช่ืออยา่ งเปน็ ทางการว่า “โควิด-19” (COVID-19) นัน่ เอง ดังน้ัน ไวรสั โคโรนาสายพนั ธ์ุใหม่ และไวรสั โควิด-19 จงึ หมายถึงไวรัสชนิดเดยี วกนั
“โคโรนา่ ” ในภาษาละตินมคี วามหมายวา่ มงกุฎ เนอื่ งจาก เมอื่ ส่องดดู ว้ ยกล้องจลุ ทรรศน์อิเล็กตรอนจะเห็นว่าไวรัสชนิดน้มี ี ลกั ษณะคลา้ ยมงกุฎ โดยเปลอื กหุม้ ดา้ นนอกประกอบดว้ ย โปรตีนคลมุ ด้วยกลุม่ คาร์โบไฮเดรตเป็นมลี ักษณะปุม่ ๆ ย่นื ออกไปจากอนภุ าคไวรสั ไวรัสโคโรน่าเปน็ ไวรัสทส่ี ามารถกลายพันธ์ุได้งา่ ย เนอ่ื งจากมีสารพันธกุ รรมชนิด RNA ดังนัน้ เชื้อจึงมกี ารพัฒนา ตัวเองตลอดเวลาทาใหก้ ารรบั มืออาจทาไดย้ าก ไวรสั โคโรน่ามี หลากหลายชนิด บางชนิดทาใหเ้ กดิ อาการไขห้ วัดธรรมดา แต่ บางชนดิ กม็ คี วามรนุ แรงและสามารถแพรร่ ะบาดได้อย่างรวดเร็ว เชือ้ ก่อโรค coronavirus สายพันธใุ์ หม่ เชอ้ื ไวรสั น้มี ชี ่ือ เฉพาะวา่ 2019-nCoV เป็นไวรัสในลาดับที่ 7 ของไวรสั ตระกลู coronaviruses lineage B, จนี ัส betacoronavirus, โดยมยี ีนที่ ส่วนหนึง่ ที่ตรงกบั ค้างคาว ดังนน้ั จึงมีการสันนิษฐานว่าอาจจะ เกิดมาจากพฤติกรรมการบริโภคคา้ งคาว
• CO แทน corona • VI แทน virus • D แทน disease • 19 แทน ปี 2019 (โรคตดิ เชื้อน้เี กิดข้นึ ในปี 2019)
ขณะนีย้ ังไม่มใี ครทราบชัดเจนถึงแหล่งกาเนิดของเชื้อไวรสั โคโรนา สายพนั ธ์ุใหม่ ก่อนหน้านี้มกี ารสนั นิษฐานว่า ไวรสั ชนิดนี้ อาจเริม่ ติดต่อจาก สัตว์ป่ามาสคู่ น โดยมีต้นตอของการแพร่ระบาดจากงเู ห่าจนี (Chinese cobra) และงสู ามเหลีย่ มจนี (Chinese krait) ทีน่ ามาวางจาหน่ายในตลาดสด เมืองอู่ฮ่ัน ซึง่ เป็นสถานที่พบผู้ติดเชื้อกลมุ่ แรก ๆ ทีมผู้วิจัยสันนิษฐานว่า งอู าจเป็นสตั ว์ตัวกลางทส่ี ง่ ต่อเชื้อไวรสั โคโร นาสายพนั ธุ์ใหม่จากค้างคาวมาสคู่ น เนื่องจากงพู ิษท่อี าศยั อยู่ในธรรมชาติ ลา่ ค้างคาวในถ้าเปน็ อาหาร แต่กย็ ังคงมีขอ้ สงสยั ว่า ไวรัสโคโรนาสามารถ ปรบั ตวั ให้อยอู่ าศยั และขยายพนั ธ์ุในร่างกายของทั้งสัตว์เลือดเยน็ และ สตั ว์เลือดอุ่นไดอ้ ย่างไร ลา่ สุด นกั วิทยาศาสตร์สนั นิษฐานว่า ตัวนิม่ สตั ว์เลยี้ งลูกดว้ ยนมที่ ชาวจนี เชื้อว่ามีสรรพคณุ ตามตารายาแผนโบราณน้ัน อาจเปน็ พาหนะนาเชื้อ ไวรัสโคโรนาสายพนั ธ์ุใหม่จากค้างคาวมาแพร่สู่คนทีต่ ลาดค้าสัตว์ปา่ เมืองอู่ ฮัน่ ักวิทยาศาสตร์ต้ังขอ้ สังเกตว่า ตวั นิ่มซึ่งใช้ลิน้ ตวัดกนิ มดและแมลงตาม พื้นดนิ น้ันอาจได้รบั เชื้อจากการสูดหายใจมูลค้างคาวที่ตกอยู่ตามพื้นดนิ เข้า ไป
• เชื้อสามารถติดต่อจากคนสู่คน แพร่โรคเมื่อมีอาการ และอาการ แสดงแล้ว ผ่านทางการละอองเสมหะทางการไอ จามของผู้ที่มเี ชื้อ และสัมผัสใกล้ชดิ ผู้ปว่ ย • ระยะฟักตวั 2-14 วนั
องค์การอนามัยโลก ระบวุ ่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ จะมอี าการเริ่มแรกคือ มีไข้ ตามมาด้วยอาการไอแหง้ ๆ หลงั จากน้ันราว 1 สัปดาหจ์ ะมีปัญหาหายใจติดขดั ผู้ป่วยอาการหนกั จะมีอาการปอดบวม อักเสบร่วมดว้ ย หากอาการรนุ แรงมากอาจทาใหอ้ วัยวะภายในลม้ เหลว ขณะทีก่ รมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสขุ แนะนาว่า หากผู้ท่ี เดินทางมาจากพื้นที่เสย่ี งการระบาดของโรคมีอาการไข้ ร่วมกับอาการ ทางเดนิ หายใจอยา่ งใดอยา่ งหนึ่ง เช่น ไอ เจบ็ คอ มีน้ามกู หายใจเหนื่อย หอบ ควรรีบพบแพทย์ทันที สรปุ อาการไวรสั โควิด-19 ทีส่ ังเกตไดง้ า่ ย ๆ ดว้ ยตวั เองมี 5 อาการหลัก ๆ ดว้ ยกัน ดงั นี้ • มีไข้ • เจ็บคอ • ไอแหง้ ๆ • น้ามูกไหล • หายใจเหนื่อยหอบ
สาเหตุติดเชื้อส่วนใหญ่ (78-85%) มาจาก ละออง เสมหะ (droplet) ไอ จาม ของคนในครอบครัว ไม่ใช่จากการกระจาย จากละอองลอย (aerosol) คือเชื้อในอากาศ เปน็ หลกั ผู้ที่ติดเชื้อ COVID-19 จะมอี าการเช่นเดียวกบั ผู้ป่วยทีม่ กี าร ติดเชื้อในระบบทางเดนิ หายใจ โดยจะแสดงอาการต้ังแตร่ ะดบั ความ รุนแรงน้อย ไม่วา่ จะเป็น การคดั จมูก เจบ็ คอ ไอ และมไี ข้ บางรายที่ มอี าการรุนแรงจะมีอาการปอดบวมหรือหายใจลาบากร่วมด้วย บาง รายก็รุนแรงถึงขนั้ เสียชีวติ
ปจั จุบนั นักวิจัยประเมินว่า ในจานวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพนั ธุ์ใหม่ 1,000 คน มผี ู้เสียชีวิต ราว 5-40 คน หากจะระบุ ตัวเลขคาดการณ์ทีเ่ ฉพาะเจาะจงลงไปอีกกค็ ือ 9 คน ในผู้ติดเชื้อ 1,000 คน หรือเกือบ 1% แต่กข็ ้นึ อยกู่ ับหลายปจั จยั ท้ังเรื่องของอายุ เพศ สขุ ภาพ โดยทว่ั ไป และระบบสาธารณสขุ ทีผ่ ปู้ ่วยเข้ารบั บริการ ผลการ วิเคราะห์ข้อมลู คนไข้ 56,000 คน ทีจ่ ดั ทาขึ้นโดยองคก์ ารอนามัยโลก บ่งชีว้ ่า ผู้ได้รับเชื้อ 4 ใน 5 คน จะมอี าการป่วยไมร่ ุนแรง โดย : • 80% มอี าการไมร่ ุนแรง • 14% มอี าการรุนแรง • 6% มอี าการวกิ ฤต • ส่วนอตั ราการเสียชีวติ อยู่ในระดบั ตา่ ที่ 1-2%
เพศชายเสยี ชีวิตมากกวา่ เพศหญิง อายุเยอะยิ่งเสีย่ ง สถติ ิจาก เว็บไซต์ worldometers.com ระบวุ ่า อัตราการ เสียชีวติ ในเพศน้ัน เพศชายเสยี ชวี ิตมากกว่าเพศหญิงถึงครึง่ หนึ่ง แต่ ทั้งนี้ ผู้หญิงมีโอกาสเป็นโรคเท่าๆ กับผู้ชาย มีหญิงชาวจีน เพยี ง 2.8% เทา่ นั้นที่ ติดเชื้อและเสยี ชวี ิตจากโรคนี้ ขณะทผ่ี ู้ชาย ราว 4.7% เสียชีวติ และหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อชว่ ง 3 เดือนสดุ ท้ายการ ตั้งครรภ์ เด็กทีค่ ลอดออกมาไม่ติดเชื้อ จากการตรวจสอบ 9 ราย ใน ประเทศจีน แต่ทงั้ นีย้ ังไม่มขี ้อยืนยันว่าหากเกิดการติดเชื้อในช่วง 3 หรือ 6 เดือนแรกของการต้ังครรภ์ เดก็ ในท้องจะเป็นอย่างไร เพราะเด็กเหลา่ นยี้ งั ไมถ่ ึงกาหนดคลอดในปัจจบุ ัน ท้ังนี้ในการระบาดของเชื้อไวรสั กอ่ โรคทางเดินหายใจหลายคร้ังที่ ผ่านมา ผู้ชายมอี ตั ราการเสียชีวติ สูงกว่าผู้หญิงมากเช่นกัน ทั้งจากโรค ซาร์ส (SARS) และโรคเมอร์ส (MERS) โดยวารสารการแพทย์ Annals of Internal Medicine รายงานเมือ่ ปี 2003 ว่าอตั ราการเสียชีวติ ด้วยโรคซาร์ สของผู้ชายในฮ่องกงสงู กว่าผู้หญิงถึง 50% เลยทีเดียว
มขี อ้ สันนษิ ฐานวา่ ผู้หญิงมภี มู ิคมุ้ กนั โรคสูงกวา่ ผูช้ าย เนือ่ งจากคุณสมบตั นิ จ้ี ะชว่ ยเพิม่ โอกาสรอดชีวติ ให้กับทารกแรกเกิด ซึง่ ต้องรับสารแอนติบอดีต่อต้านเช้อื โรคจากนา้ นมมารดาโดยตรง ใน ระหวา่ งทภ่ี มู ิคุ้มกนั ของทารกยงั ออ่ นแอและอยูใ่ นช่วงกา้ ลังพัฒนา ฮอร์โมนเอสโตรเจนซึ่งเปน็ ฮอร์โมนเพศหญิง ยังมบี ทบาทสาคญั ในการทางานของระบบภูมิคุ้มกนั ร่างกายดว้ ย สว่ นโครโมโซม X ซึง่ เพศ หญิงมีอยถู่ ึงสองตัว กม็ ียนี ทีเ่ กีย่ วข้องกบั ระบบภูมิคุ้มกันอยู่จานวนมาก เช่นกัน ในขณะที่เพศชายมีโครโมโซม X เพียงตวั เดียวเทา่ นั้น
ผลการวิเคราะหจ์ ากศนู ย์ปอ้ งกนั และควบคมุ โรคของจนี (CCDC) ช้วี า่ แมอ้ ตั ราการติดเชื้อโรคโควิด-19 ระหว่างชายและหญิงจะไม่ต่างกนั มากนัก แต่อัตราการเสยี ชวี ิตนั้นทิง้ ห่างกันอย่างมีนัยสาคัญ โดยมีจานวน คนไข้ชายทีเ่ สียชีวติ 2.8% ในขณะทีค่ นไข้หญิงเสยี ชวี ิต 1.7% สาเหตทุ ี่ทาใหเ้ ปน็ เช่นนี้ สืบเนือ่ งมาจากการที่ผชู้ ายเป็น \"เพศ อ่อนแอกวา่ \" ในเรือ่ งของภูมติ ้านทานโรค แต่อยา่ งไรก็ตาม นกั วิทยาศาสตร์ ยังไม่ทราบชัดว่าเหตใุ ดผู้หญิงจงึ แขง็ แกรง่ กวา่ ผู้ชายในแง่นี้ ท้ังยังสามารถ พัฒนาภมู ิคุ้มกันหลังได้รบั วัคซีนให้ทางานได้มปี ระสิทธภิ าพดกี ว่า และอยู่ คงทนนานปีกว่าอกี ดว้ ย
ดา้ นสถติ ิอายุ จากขอ้ มลู องคก์ รอนามยั โลก กลมุ่ อายุทีเ่ สยี ชวี ิตมาก ที่สุดคือ • อายุ 80 ปขี ึ้นไป 14.8% • อายุ 70-79 ปี 8.0% • อายุ 60-69 ปี 3.6% • อายุ 50-59 ปี 1.3% • อายุ 40-49 ปี 0.4% • อายุ 30-39 ปี 0.2% • อายุ 20-29 ปี 0.2% • อายุ 10-19 ปี 0.2% • 0-9 ปี ไม่มีผู้เสียชวี ิต
• เชื้อไวรสั นี้ติดต่อผ่านทางลมหายใจ สารคดั หลง่ั เช่น น้ามูก น้าลาย ควรใส่หนา้ กากอนามัยเพื่อป้องกนั • เชื้อไวรสั โคโรน่าติดต่อในสตั ว์เลี้ยงลกู ด้วยนม เนื้อสตั ว์ เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว ควรทานแบบสกุ เท่าน้ัน • ควรทานอาหารทีส่ ุกแล้ว งดอาหารดิบ และเนื้อสตั ว์ป่า • หมั่นล้างมือหรือเช็ดด้วยแอลกอฮอล์ • ไมอ่ ยู่ใกล้ชิดผู้ป่วยที่ไอ จาม • หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด และมีมลภาวะเป็นพิษ • งดเดินทางไปยงั พื้นทีเ่ สีย่ งโรคระบาด • ไมน่ ามือมาสมั ผสั ตา จมูก ปาก ถ้าไม่จาเปน็ • ไมใ่ ช้สิ่งของร่วมกบั ผู้อื่น เช่น ผ้าเชด็ หน้า แกว้ น้า ฯลฯ • ถ้ามอี าการไข้ มอี าการระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ เจบ็ คอ ปวด หัว ออ่ นเพลีย หายใจเหนื่อยหอบ ให้สวมหน้ากากอนามยั และรีบ ไปพบแพทย์ทนั ท!ี !!
• https://www.sikarin.com/content/detail/408/%E0 %B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E 0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9B% E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81 %E0%B8%B1%E0%B8%99- %E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A 1%E0%B8%B7%E0%B8%AD- %E0%B9%84%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%B 1%E0%B8%AA-covid-19 • https://www.bbc.com/thai/international- 51219048 • https://www.moph.go.th/ • กระทรวงสาธารณสขุ
Search
Read the Text Version
- 1 - 16
Pages: