เสขตอวั ยี องสยก่าาลงระ ปญั ญานนั ทภกิ ขุ ญาตโิ ยมพทุ ธบรษิ ัททง้ั หลาย วันนี้เป็นวันอาทิตย์แรกของเดือน เดือนเก่าได้ผ่านพ้นไปด้วย ความเรยี บรอ้ ย วนั เวลามนั กต็ อ้ งผา่ นไปตามเรอ่ื งของวนั เวลา ไมม่ ใี ครจะ ไปหยุดยั้งได้ ส่งิ ทั้งหลายยอ่ มเกิดขน้ึ ผา่ นไปๆ ตามอ�ำนาจของเวลา เวลา นี่อยเู่ หนอื สรรพส่งิ ท้ังหลาย พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า เวลานั้นมันเค้ียวกินตัวมันเองและ สรรพสงิ่ ทงั้ หลาย ทวี่ า่ เคย้ี วกนิ ตวั เองกห็ มายความวา่ มนั หมดไปๆ ทำ� ให้ สรรพสิ่งท้ังหลายพลอยชราไป แก่ไป จนกระท่ังแตกดับไปตามวันเวลา การเพ่ิมอายุของเราก็หมายความว่าเราแก่ข้ึน แก่ขึ้นรอบปีหน่ึง แก่ขึ้น เดอื นหนึ่ง แก่ขึ้นวนั หนึ่ง ชวี ิตของเรากใ็ กล้จุดจบไปทกุ วนั ทกุ เวลา พระผมู้ พี ระภาคจงึ สอนใหเ้ ราทง้ั หลายพจิ ารณาบอ่ ยๆ วา่ “เวลา ลว่ งไปๆ บดั นีเ้ ราท�ำอะไรกันอย่”ู อันน้ีเปน็ เรือ่ งควรคดิ คิดเพ่ือให้เกดิ ความสำ� นกึ ในหนา้ ทอ่ี นั เราจะพงึ ปฏบิ ตั ใิ นชวี ติ ประจำ� วนั จะไดไ้ มเ่ ปน็ คน ชกั ชา้ ไมเ่ สียเวลาในการปฏิบตั ิหนา้ ท่นี ัน้ ๆ พุทธบริษัทจะต้องอยู่ด้วยความต่ืนตัว ด้วยความว่องไว ดว้ ยความคดิ ทจี่ ะกา้ วหนา้ ไปขา้ งหนา้ ตลอดเวลา ไมห่ ยดุ นง่ิ ไมเ่ ฉอื่ ยชา ไม่ชักช้า แต่ว่าต้องคิดก้าวหน้าในเรื่องทุกเร่ือง เช่น เด็กๆ ก็ต้องคิด ก้าวหน้าในเร่ืองการศึกษาเล่าเรียน เป็นหนุ่มสาวอยู่มหาวิทยาลัยก็ *จากปาฐกถาธรรม ประจ�ำวนั อาทติ ยท์ ่ี ๖ พฤศจกิ ายน ๒๕๒๖ ณ โรงเรยี นพุทธธรรม วัดชลประทานรังสฤษฎ์ 33
ตอ้ งรบี เรียน รบี ศกึ ษาใหจ้ บไวๆ จะได้ออกไปทำ� งานเพื่อส่วนรวมต่อไป ถ้าเราเป็นผู้ใหญ่เราก็ต้องนึกถึงเวลาที่เราจะต้องประกอบกิจการงาน วา่ เรามอี ะไรทีจ่ ะต้องทำ� บา้ ง จงทำ� เสยี ทันที พระพทุ ธเจา้ ทา่ นตรสั วา่ อชั เชวะ กจิ จะมาตปั ปงั – ความเพยี รเพอื่ จะเผากเิ ลสทเ่ี รา่ รอ้ นตอ้ งทำ� ในวนั นี้ อยา่ ผดั ไวว้ า่ คอ่ ยทำ� วนั พรงุ่ น ี้ มะรนื น้ี เพราะวา่ นสิ ยั ผดั เพยี้ นนน้ั ไมใ่ ชว่ สิ ยั ของพทุ ธบรษิ ทั พทุ ธบรษิ ทั ตอ้ งทำ� สิ่งท่ีเกิดข้ึนเฉพาะหน้าให้ส�ำเร็จด้วยดี ให้ผ่านไปด้วยความเรียบร้อย ถา้ เราเปน็ ผขู้ ยนั ท�ำงานอยา่ งนน้ั กจ็ ะมชี วี ติ เพลดิ เพลนิ สนกุ สนานในการ ปฏิบตั งิ าน แตถ่ า้ เราไมท่ �ำงานก็จะมชี ีวิตหดหูเ่ ห่ียวแห้ง แก่เร็ว ตายเรว็ การท�ำงานคือการปฏิบัติธรรมนั่นเอง การปฏิบัติธรรมใน พระพุทธศาสนา กค็ อื ใช้ชีวิตใหเ้ ป็นการเปน็ งาน ให้เป็นประโยชนแ์ ก่ ตนเอง ให้ประโยชนแ์ กผ่ อู้ ื่น เทา่ ที่เราสามารถจะกระท�ำได้ ชีวติ ของเรา กจ็ ะมคี ่ามรี าคา ทกุ ครงั้ ทเ่ี ราทำ� อะไรเปน็ ประโยชนเ์ ปน็ ความสขุ แกเ่ พอื่ นมนษุ ย์ เรารู้สึกอย่างไร เราจะรู้สึกอิ่มอกอ่ิมใจ ถ้าเป็นเรื่องใหญ่เรื่องส�ำคัญน่ี อ่มิ ใจไปนานๆ ทีเดยี ว อิ่มใจตงั้ เดอื น ๒ เดอื น ตั้งปี แลว้ มานกึ ขึ้นทีไร กเ็ อบิ อาบซมึ ซาบดว้ ยความอม่ิ อกอมิ่ ใจ อนั นลี้ ะทเี่ ราเรยี กวา่ ปตี ิ เกดิ จาก การคิดดี พูดดี ทำ� ดี กระท�ำส่ิงที่เปน็ ประโยชนเ์ ปน็ ความสขุ แกเ่ พอ่ื น มนษุ ย์ คนเราถ้ามีแต่ความอ่ิมใจ อายุยืน ผิวพรรณผ่องใส มีก�ำลังกาย มีก�ำลังใจ มันสมบูรณ์ สมบูรณ์ด้วยจิตใจสบายน่ันเอง แต่ถ้าเรามีแต่ เรอื่ งขนุ่ ขอ้ งหมองใจ มองไปทศิ ไหนกม็ แี ตเ่ รอื่ งรา้ ย ไดฟ้ งั อะไรกม็ แี ตเ่ รอ่ื ง ไมด่ ี ไม่งาม เราจะรสู้ กึ หดหู่เหีย่ วแหง้ จิตใจไม่สบาย เม่ือจติ ใจไมส่ บาย ร่างกายก็ไม่สบาย กินก็ไม่ได้ นอนก็ไม่หลับ อะไรๆ ในร่างกายเรามัน เปลีย่ นแปลงไปหมด เพราะฉะนน้ั ในทางพระศาสนา ท่านสอนวา่ ใหเ้ ราอยูเ่ พือ่ ท�ำให้ คนอ่ืนสบาย ให้อยู่เพ่ือให้คนอ่ืนสบาย มีอะไรท่ีเราจะช่วยให้คนอ่ืน สบายใจได้ เราควรจะท�ำ เพราะการชว่ ยใหค้ นอนื่ สบาย กค็ อื การช่วย ตัวของเราเองใหส้ บายไปดว้ ยในตวั มันอาศยั กนั อย่างนี้ เพราะฉะนั้น คนบางคนจึงชอบบ�ำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ แกผ่ อู้ นื่ เทา่ ทเี่ ขาสามารถจะชว่ ยได้ ทเ่ี บตงน่มี เี ถ้าแกอ่ ยูค่ นหนึง่ เขาเรียกกนั วา่ เถา้ แกล่ ม้ิ แกเหมอื น กับพระเวสสันดรของเบตง ตื่นเช้ามานั่งหน้าบ้านใครผ่านมาก็เรียกมา แจกสตางคค์ นละ ๕ บาท คนละ ๑๐ บาท ถา้ แวะไปนง่ั กนิ กาแฟทร่ี า้ นไหน คนที่ไปนั่งกินอยู่ก่อนก็สบายใจเถ้าแก่ล้ิมแกจ่ายหมด กาแฟท่ีใครไปกิน 34
กคี่ นพรอ้ มกบั แกนแี่ กจา่ ยหมด แกอยอู่ ยา่ งนน้ั ตลอดเวลา เออื้ เฟอ้ื เผอื่ แผ่ แกค่ นทว่ั ไป แกมสี วนยาง มที รพั ยส์ มบตั ิ แตว่ า่ ไมม่ ใี ครรงั แก ข.จ.ก.กไ็ ม่ รงั แก พโู ลกไ็ มร่ งั แกเถา้ แกค่ นน้ี สวนของแกไมถ่ กู บบี คนั้ ไมถ่ กู ทำ� อนั ตราย อะไรเป็นเครื่องป้องกันไว้...ก็น้�ำใจท่ีมีความงดงามเอื้อเฟื้อเผ่ือแผ่ แกหวา่ นไว้เรื่อย คนทัง้ หลายก็ชมเชยวา่ เปน็ คนดี คนเรานี้ ถ้าเป็นคนดีแล้วไม่มีคนเบียดเบียน แต่ถ้าช่ัวแล้ว แมไ้ มม่ คี นอนื่ เบยี ดเบยี น ตวั กเ็ บยี ดเบยี นตวั เอง สรา้ งความทกุ ขใ์ หแ้ ก่ ตวั เองอยู่ตลอดเวลา เวลานี้เถ้าแก่นั่นยังอยู่หรือเปล่าก็ไม่ทราบ มันหลายปีแล้ว แกเปน็ คนมปี กตเิ ปน็ อยา่ งนนั้ ถา้ เราไปคยุ กบั แกนดี่ หู นา้ ตาแกผอ่ งใส ใจดี ใจงาม ไมเ่ คยพดู เรอื่ งรา้ ยของใคร ไมว่ พิ ากษว์ จิ ารณใ์ ครในทางเสยี หาย แตพ่ ดู เรอื่ งดที ง้ั นนั้ นายอำ� เภอคนนด้ี ผี กู้ ำ� กบั คนนกี้ ด็ ี ดที กุ คน ขา้ ราชการ ทอี่ ยเู่ บตงน่ี เถา้ แกล่ มิ้ แกวา่ ดที กุ คนแหละ แตว่ า่ คนอนื่ อาจจะวา่ ไมด่ กี ไ็ ด้ แตแ่ กวา่ ดีทัง้ นนั้ ใครมาแกวา่ ดีท้งั นนั้ ไมม่ ีเสยี แกมองคนในแง่ดี พดู แต่ เรอื่ งดีของเขา แกก็มีแตค่ วามสบายใจ เชา้ ๆ แกต้องออกมานง่ั หนา้ บา้ นทุกวนั ใครผา่ นไปผา่ นมากเ็ รียก มา “ไปไหน ไปตลาดหรอื เอาสตางค์ ไปซ้ือของ” แจกให้ ๓ บาท ๒ บาท แกกแ็ จกของแกเรอ่ื ยๆ ไป แกใหย้ งิ่ ให้ แกกย็ งิ่ ได้ คอื ไดค้ วามนยิ มชมชอบ ไดค้ วามสขุ ใจ วนั ไหนถา้ แกไมไ่ ดใ้ หส้ ตางคใ์ คร ดเู หมอื นแกจะไมส่ บายใจ ฉะนนั้ ตอ้ งหาเรอ่ื งใหค้ นนนั้ คนนเี้ รอ่ื ยๆ ไป ใครไปบอกใหท้ ำ� อะไรแกกท็ ำ� ไมม่ คี �ำว่า ปฏิเสธแกผ่ ูท้ ีม่ าขอร้อง นีแ้ หละพระพทุ ธเจ้าเรยี กวา่ วทญั ญู วทัญญูวตี มัจฉรา คนไมม่ ี ความตระหนใ่ี นจติ ใจ รถู้ อ้ ยคำ� ของคนอนื่ ทมี่ ากลา่ วขอในเรอ่ื งอะไรๆ แลว้ กใ็ หด้ ว้ ยความเตม็ ใจ หรอื มีคำ� พดู อกี คำ� หน่ึงวา่ เป็นคนมฝี ่ามอื เปียกอยู่ ตลอดเวลา ฝ่ามือเปียกด้วยเรื่องอะไร ด้วยการหยิบอาหารให้ทานแก่ คนน้ันคนน้ี แล้วก็ต้องล้างมือบ่อยๆ ก็เรียกว่าเป็นผู้มีฝ่ามือเปียก ไมร่ จู้ กั แหง้ เพราะมกี ารใหอ้ ยนู่ นั่ เอง เปน็ คนรจู้ กั ถอ้ ยคำ� ทค่ี นอนื่ มาขอให้ ช่วยเหลือ แลว้ ก็ใหด้ ้วยความเต็มใจไม่ปฏเิ สธ เหมอื นกับพระเวสสันดร พระเวสสันดรในเร่ืองเวสสันดรชาดกน้ัน คนสมัยใหม่บางคน ก็ไปวพิ ากษ์วิจารณ์เหมอื นกัน หาว่าพระเวสสันดรนีไ่ ม่ไหวให้ทานทรพั ย์ สมบัติ ให้ทานช้างให้ทานม้า แม้ลูกก็ให้ทาน เมียก็ให้ทาน เขาบอกว่า คนอะไรอย่างน้ัน น่ีระดับใจมันไม่ถึงกันเรียกว่าจิตใจเราในปัจจุบันนี้มัน อย่างหน่งึ แต่จติ ใจคนในสมัยโน้นมันอกี อย่างหนึ่ง คนสมัยน้ันเขาส่งเสริม ให้มีการแจก การให้ แล้วก็มีเรื่องอะไร ตา่ งๆ ท่ีเขาสอนไวม้ าก เพอ่ื ใหแ้ จก เพอ่ื ใหใ้ ห้ ท�ำไมจงึ มีเรือ่ งประเภท 35
นมี้ ากในประเทศอนิ เดยี กพ็ อจะพบสาเหตไุ ดอ้ ยเู่ หมอื นกนั คอื วา่ คนอนิ เดยี สว่ นมากเปน็ คนตระหนน่ี น่ั แหละ ไมค่ อ่ ยให ้ มแี ตจ่ ะเอาเขา้ ตลอดเวลาเปน็ พวกฝา่ ยบวก ลบไมค่ อ่ ยเปน็ บวกเลขเสยี เรอื่ ย ทนี ท้ี างศาสนาหรอื วา่ ทาง ฤๅษชี ไี พรกม็ กั จะเขยี นเรอ่ื งเพอ่ื เปน็ เครอื่ งสอนใหเ้ หน็ คณุ คา่ ของการให้ เรื่องแบบ เวสสันดร นี่ไม่ใช่เรื่องเดียว มีมากมายเรื่องสั้นบ้าง เรื่องยาวบ้าง เขาเขียนไว้ในรูปอย่างน้ัน เพ่ือให้เห็นว่าคนท่ีเป็นคนดีมี คณุ ธรรม มจี ิตใจใหญน่ ้นั คือคนทพี่ อใจในการให้ เรยี กว่าเกิดมาเพ่ือให้ แทๆ้ ทีเดยี ว ต้ังแตเ่ ดก็ มาก็ใหแ้ ล้ว ใหเ้ รื่อย ใครขออะไรก็ให้ แลว้ กต็ งั้ จิต อธิษฐานไว้ว่า ไม่ว่าใครจะขออะไรเราให้ทง้ั นน้ั ขอตาก็จะควกั ให้ ขอเนื้อ กจ็ ะตดั ให้ แมข้ อดวงใจกจ็ ะนอนใหเ้ ขาแหวะควกั เอาไปเลย ตงั้ ใจไวอ้ ยา่ งนน้ั ต้ังใจอยา่ งสงู คือใหท้ ง้ั สิง่ ภายนอกและสงิ่ ภายใน ผลที่สุดก็ไปให้ทานช้าง ซ่ึงชาวบ้านชาวเมืองเขาถือว่าเป็นช้าง มิ่งมงคลประจ�ำบ้านประจ�ำเมือง ท�ำให้มีความสุขเรียกว่าคนที่ถือนิยม ในทางวัตถุ ก็เข้าใจอย่างน้ัน แต่พระเวสสันดรเห็นว่าช้างน่ีส�ำหรับนั่งข่ ี ไปไหนมาไหน ครัน้ มคี นมาบอกวา่ ท่บี า้ นเมอื งน้ันเดอื ดร้อน ฝนฟา้ ไม่ตก ต้องตามฤดูกาล เขาเล่าลือว่าช้างปัจจัยนาคนี้ถ้าไปที่ไหนแล้วฝนจะตก อะไรอยา่ งนี้ เขาอยากจะไดข้ ้นึ มา เลยมาขอ พระเวสสนั ดรใจดี พอเขา มาขอก็บอกว่า “เอาไปเลย” จงู เอาชา้ งจงู งวงมาถงึ มอบใหเ้ ลย พวกนน้ั ก็ข้ึนขี่หลังบ้างจงู บา้ ง ห้อมล้อมพากันไป ช้าวบ้านช้าวเมืองมาเห็นเข้าก็ว่า “อ้ายน่ีไปลักช้างของพระเจ้า แผ่นดินมา ลักช้างของพระเวสสันดรมาแล้ว” เข้าไปต่อว่าต่อขาน พวกนัน้ กบ็ อกว่า “ไม่ได้ลกั เราไปขอมา ทา่ นใหม้ า” ชาวเมืองก็โพนทนา กนั ไป เปน็ ขา่ วดงั ออกไป โกรธกนั ทงั้ บา้ นทง้ั เมอื ง กลายเปน็ มตมิ หาชน ขนึ้ มา กเ็ ลยเดินขบวนกัน สมยั กอ่ นก็มีเดินขบวนเหมอื นกัน เดนิ ขบวน เข้าไปหาพระเจ้ากรงุ สญชัย เมอื่ ไปถงึ พระเจ้ากรุงสญชยั ก็บอกว่า “พระเจา้ ลูกของพระองค์ นี่ท�ำไม่ถูก ช้างน่ีเป็นสมบัติของบ้านเมือง ไม่ใช่สมบัติส่วนตัวของ พระเวสสนั ดร เป็นชา้ งมงิ่ มงคลเมือง เป็นขวัญใจของประชาชน พระเจ้า ลกู นท่ี ำ� ผดิ เอาไปใหพ้ วกพราหมณท์ มี่ าจากเมอื งกลงิ คราษฎรไ์ ปเสยี แลว้ เป็นการไม่สมควร ขอให้พระองคข์ บั พระเวสสันดรออกจากบ้านเมือง” เราจะไดเ้ หน็ ความยตุ ธิ รรมในนำ�้ พระทยั ของพระเจา้ กรงุ สญชยั ท่านเปน็ พระเจา้ แผน่ ดนิ เปน็ พระมหากษัตริย์ ถา้ ทา่ นจะล�ำเอียงเขา้ ขา้ งลกู มนั เสยี ธรรมะ เสยี ความเปน็ พระเจา้ แผน่ ดนิ เพราะวา่ ประชาชน ทง้ั บา้ นท้งั เมืองเขามมี ตวิ า่ พระเวสสนั ดรน่ีใชไ้ ม่ได้ แมว้ า่ พระองคจ์ ะเหน็ ว่าลูกนี่ยังใช้ได้ยังดีอยู่ แต่ประชาชนเขาว่าไม่ดี จะไปเข้าข้างลูกก็ไม่ได ้ 36
มนั เสยี หายแกก่ จิ การบา้ นเมอื ง เรยี กวา่ เสยี ทางฝา่ ยรฐั ศาสตร์ มนั ไมไ่ ดแ้ ลว้ พระองคก์ ต็ อ้ งตดั สนิ พระทยั เรยี กลกู มาพดู จากนั บอกวา่ “ลกู ทำ� ไมถ่ กู นะ เรอื่ งนน้ี ะ ประชาชนเขามาท�ำการประทว้ งตอ่ พอ่ พอ่ นแี้ มจ้ ะรกั ลูกสักเท่าไร แต่ว่าต้องรกั ประชาชนมากกวา่ ลกู รกั บ้านรกั เมืองมากกวา่ ลกู พ่อจะล�ำเอยี งเขา้ กับลูกให้ประชาชนเขาเขา้ ใจผิดไมไ่ ด้ เพราะฉะนน้ั พ่อจะตอ้ งให้ลกู ออกจากเมอื งไป” สัง่ ใหอ้ อกไป พระเวสสันดรก็เป็นลูกท่ีดีของพ่อ มีความเช่ือฟังพ่อส่ัง ทกุ ประการ ไมค่ ดั คา้ นอะไรทง้ั นน้ั บอกวา่ “เมอ่ื พอ่ มคี วามประสงคเ์ ปน็ เช่นนนั้ ก็ไม่ขัดข้อง ลกู จะออกเดนิ ทางไปอยู่ป่าเขาวงกต” ไปคนเดยี วนะ ความจริง นางมัทรี กัณหา ชาลี ไม่ติดอยู่ในข่ายท ่ี จะตอ้ งไปหรอก เมื่อพระเวสสนั ดรมาเลา่ ให้นางมัทรีฟงั นางมัทรีบอกวา่ “หม่อมฉนั ต้องไปดว้ ย” พระเวสสันดรบอกว่าอยา่ ไปเลยป่านมี้ ันลำ� บาก ต้องไปอยู่กินผลไม้ อาหารกไ็ ม่ดีไมส่ มบูรณ์เหมอื นอยู่ในวัง แตน่ างมัทร ี บอกว่า เป็นภรรยาของสามี เม่ือสามเี ปน็ สขุ อยู่ในวังก็อยเู่ ป็นสขุ ดว้ ย แต่พอสามีเป็นทุกข์ไปอยู่ในป่าแล้วไม่ไป น่ังลอยนวลอยู่ในวัง แต่ง หน้าแตง่ ตาอย่ใู นวงั ประชาชนก็จะแย้มจะสรวล เขาจะนินทา ไมร่ วู้ ่า จะเอาหนา้ ไปไว้ทไี่ หน จะเดนิ ก็ล�ำบาก จะน่ังกล็ �ำบาก มนั ลำ� บากทั้งน้นั นน่ั แหละ คนเขาพดู น่ี จะเดินกม้ กไ็ มส่ บาย จะเดินเงยก็ไม่สบาย จะพูด อะไรกไ็ ม่สบาย จะไม่พูดก็ไมส่ บาย มันตรมตรอมใจ เพราะ “สามีเปน็ ฉตั รแกว้ กนั้ เกศ งามหนา้ งามเนตรทกุ เวลา” เมอื่ ไมม่ ฉี ตั รแกว้ กนั้ เกศแลว้ ผู้หญงิ จะอยู่ไดอ้ ย่างไร ตอนน้ีเขาสอนผู้หญิง สอนให้รู้ว่าภรรยาจะต้องติดสอยห้อย ตามสามี เมอ่ื สามีไปไหน ภรรยากจ็ ะตอ้ งไปด้วย ไมใ่ ช่วา่ ให้ไปตามลำ� พงั ปลอ่ ยไปตามเรอื่ ง สามไี ปอยคู่ นเดยี วเกดิ เหงาขน้ึ มา กเ็ ลยไปหาใครมาอยู่ แทนภรรยาขา้ งหลงั กจ็ ะยงุ่ ใจเดอื ดรอ้ นแลว้ มนั เปน็ ความผดิ ของเราเอง ไมใ่ ชค่ วามผดิ ของพอ่ บา้ นทเี่ กดิ เหตกุ ารณเ์ ชน่ นน้ั ขน้ึ ทำ� ไมเราไมไ่ ปเฝา้ ละ่ มนั กเ็ สยี หายคนโบราณเขาสอนไว้ดแี ลว้ ฉะนน้ั พระนางมทั รจี งึ บอกวา่ ถงึ อยา่ งไรกต็ อ้ งไป ลกู กต็ อ้ งพาไป ดว้ ย จะไดช้ ่วยกันเมือ่ เวลาเจ็บไข้ไดป้ ่วย จะได้อมยาพ่นฝนยาทา ตาม ประสาจน จะทง้ิ ไวใ้ นเมอื งกด็ กู ระไรอยู่ กเ็ ลยไปทลู ลาเจา้ กรงุ สญชยั พระ เจา้ กรงุ สญชยั กบ็ อกวา่ “เธอไมต่ อ้ งไปหรอก เพราะเธอไมไ่ ดก้ ระทำ� ความ ผิดคิดร้ายใคร” พระนางก็บอกว่าไม่ได้ “หม่อมฉันเป็นภรรยา ต้องมี ความจงรักภักดี เหมือนนางสีดาจงรักภักดีต่อพระรามบัณฑิตผู้เป็น สามี” แสดงวา่ เรอ่ื งน้ีเกดิ ข้นึ ทหี ลงั เรื่องพระราม เรอ่ื งพระเวสสันดร เป็น นทิ านท่ีเกิดทีหลัง พระเจ้ากรงุ สญชยั กต็ อ้ งยอมให้ไป 37
สว่ น ชาลี กัณหา น้นั พระเจ้าปูบ่ อกวา่ “อย่าไปเลยหลานเอย๋ อยกู่ บั ปู่เถอะ” ชาลี กณั หากไ็ มย่ อม ตอ้ งไป ไปลาพระเจา้ ยา่ พระเจา้ ย่า กบ็ น่ ไปตอ่ วา่ ตอ่ ขานเจา้ กรงุ สญชยั วา่ “อะไรใจไมไ้ สร้ ะก�ำ ขบั ลกู ใหไ้ ปอยู่ ปา่ อยดู่ ง” พระเจา้ กรงุ สญชยั จะทำ� อยา่ งไร... นง่ั เฉย อเุ บกขา พดู มากกไ็ มไ่ ด้ กับพระนางผุสดีซ่ึงเป็นอัครมเหสีน่ีพูดยาก นั่งเฉย หันหลังให้เสียเลย นางกบ็ ่นๆ แล้วก็ถอยกลับไปปราสาทเทา่ นนั้ เอง พระเวสสันดร นางมทั รี ชาลี กณั หา กต็ ้องออกปา่ ไปชนั้ แรกนั่ง รถม้าไป พอนั่งรถม้าก็มคี นมาขอมา้ เหลอื แตร่ ถจะไปได้อย่างไร พอดอี กี พวกหนง่ึ มาขอรถดว้ ย ก็เลยใหร้ ถด้วย ตอ้ งเดินละทีนี้ พระเวสสันดรอุ้ม ชาลี นางมทั รอี มุ้ กณั หา เดนิ กนั ไปในปา่ อนั นเ้ี รยี กวา่ ตอ้ งเดนิ ทางกนั ดว้ ย ความลำ� บาก ทำ� ใหเ้ หน็ วา่ ชวี ติ ของผปู้ ระพฤตธิ รรม ไมย่ น่ ยอ่ ทอ้ ถอยใน การตอ่ สกู้ บั ความลำ� บากยากจน เปน็ ผปู้ ฏบิ ตั ติ ามคำ� สง่ั ของพอ่ ผซู้ ง่ึ เปน็ พระมหากษัตรยิ ์ ไม่ขัดขืน ตอ้ งไปตามค�ำส่ัง ท้ัง ๔ องค์เสด็จไปจนถึงเมืองเชตุดร กษัตริย์เมืองนั้นก็ออกมา ตอ้ นรบั ขบั สอู้ ยา่ งดี เพราะวา่ เปน็ ไมตรกี นั แลว้ กบ็ อกวา่ “พระองคจ์ ะออก ไปปา่ ท�ำไม อยู่ที่นก่ี ็ได”้ จะใหอ้ ยสู่ ะดวกสบายคล้ายกบั ว่าลี้ภัยการเมอื ง มาอยู่สบายไม่เดือดร้อนอะไร พระเวสสันดรท่านว่ายงไง... “ไม่ได้ มัน กระทบกระเทือนทางการเมือง” ถ้าพูดกันสมัยน้ีเรียกว่ามันกระทบ กระเทอื นทางการเมอื ง “ประชาชนกรุงสีพีเขาจะสงสัยพวกท่าน หาว่ารับข้าพเข้าไว้ แล้วก็อาจจะว่าพวกท่านสนับสนุน จะให้ก�ำลังส่งเสริมให้พระเวสสันดร มีก�ำลังมาก แล้วจะยกกองทัพไปตีกรุงสีพียึดบ้านยึดเมืองต่อไป มันจะ กระทบกระเทอื นกนั ทางการบา้ นการเมอื ง ขอบใจไมตรจี ติ ทที่ า่ นทงั้ หลาย มีความเอ้ือเฟื้อ แต่ว่าเรารับไม่ได้ เราจะต้องเดินทางต่อไป ถ้าหากว่า ท่านจะอนเุ คราะหก์ ช็ ่วยหาคนนำ� ทางให้สกั คนกแ็ ล้วกนั ” พวกกษัตริย์เมืองเชตุดรก็จัดพราหมณ์เจตบุตรให้น�ำทางไป แลว้ ก็บอกว่า ไปแล้วไมต่ ้องกลบั ใหเ้ ฝา้ ตน้ ทางอยา่ ให้ใครไปรบกวนขอ อะไรกบั พระเวสสนั ดรอกี ตอ่ ไปเพราะไมม่ อี ะไรจะใหข้ อแลว้ แตว่ า่ พวกขอ มนั เยอะ มนั รวู้ า่ ใครใจดกี ร็ มุ กนั มาขอแยไ่ ปเลย บอกวา่ ทนี เี้ ฝา้ ตน้ ทางไม่ ใหใ้ ครเขา้ ไป ใหพ้ ระเวสสนั ดรไดบ้ �ำเพญ็ ศลี ภาวนา อยใู่ นปา่ สะดวกสบาย ทา่ นก็ไปจนกระทั่งถงึ เขาวงกต ไปสรา้ งอาศรมอยู่ แตใ่ นหนังสอื บอกวา่ ไมต่ อ้ งสรา้ ง เทวดามาสรา้ งไวใ้ หแ้ ลว้ กห็ มายความวา่ มคี นไปสรา้ ง ไว้ล่วงหน้า ให้พระเวสสันดรไปถึงก็ได้อยู่เลย เทวดาน้ีก็ไม่ใช่ใครท่ีไหน หรอก พวกกษตั รยิ เ์ ชตดุ รนนั่ แหละ สง่ คนไปเตรยี มไว้ สรา้ งกระทอ่ มไว้ ให้พักพาอาศัย คนสมัยก่อนต้องพูดถึงเทวดาหน่อย เพราะว่าพูดถึงคน 38
น่ีมันไม่ค่อยขลัง ถ้าพูดถึงเทวดาแล้วมันใหญ่ขึ้นมาทันที เพราะฉะนั้น เขาจงึ วา่ เทวดาเตรียมไวใ้ หเ้ รยี บรอ้ ย เมอ่ื ไปถงึ แลว้ พระเวสสนั ดรอยแู่ หง่ หนง่ึ นางมทั รอี ยแู่ หง่ หนงึ่ กบั ลกู นอ้ ย มกี ตกิ าสญั ญากนั ไวว้ า่ เวลาพระอาทติ ยต์ กดนิ แลว้ หา้ มนางมทั รี เขา้ มาในเขตพระเวสสนั ดร หา้ มเขา้ ใหอ้ ยกู่ นั อยา่ งผทู้ รงพรต ประพฤติ พรหมจรรย์ นางมทั รีนน้ั ท�ำหน้าทีแ่ ม่บา้ นท่ดี ีทีส่ ดุ เลย ตื่นแต่เชา้ เขา้ ปา่ มีไม้คานหาบตะกร้าไปมีไม้สอยไปเท่ียวสอยผลหมากรากไม้ ที่กินได้ ไม่เป็นพิษเป็นภัยเอามาเลี้ยงพระเวสสันดรและลูกน้อยทั้งสอง เสวยผล ไม้เป็นอาหารเป็นพวกอยู่ในป่า มีชีวิตอยู่ในรูปอย่างนั้นจนกระทั่งว่ามี เร่อื งร้อนใจอีก พราหมณช์ ูชกแกเป็นคนทีช่ อบขอ รูปร่างก็วิกลวกิ ารแขง้ คดขา งอตะปุ่มตะป�่ำ หน้าตาก็ไม่มีละ...ท่ีเรียกว่าลักษณะสวยในตัวชูชกนั้น ไมม่ สี ักอยา่ งเดียว มีแต่เรียกว่า เหมือนงอก่องอขงิ คล้ายกับรากข้าวเยน็ เหนือข้าวเยน็ ใต้ ทเี่ ขาเอามาตม้ แก้โรคอะไรอย่างนน้ั แหละ มนั หงกุ หงกิ งอแงไปหมดทงั้ ตวั ไมไ่ ดเ้ รอ่ื ง แตว่ า่ แกเปน็ คนชอบขอ ขอจนรวย มเี งนิ มที อง จะรักษาไว้เองก็กลัวขโมยจะมาเอาไปเสีย เลยเอาไปฝากไว้กับเพื่อนอีก ครอบครัวหนึ่งบอกว่า “ฉันต้องเดินทางไปโน่นไปนี่ งานฉันมาก” งาน ขอท้ังน้ันไม่มีงานอะไร “จะเก็บเงินเก็บทองไว้กับตัว คนมันจะทุบหัว เอาเงินไปเสีย ฝากไว้ วันหลังฉนั จะมาเอา” แล้วชชู กก็ไป หายไป ๒-๓ ปไี มก่ ลับมา สองผวั เมีย ก็ว่า “เรานี่ มนั เร่อื งอะไรทีม่ าเปน็ คนเฝา้ ทรพั ย์อยู่ในหนองอยา่ งนมี้ นั ไม่ไดป้ ระโยชน์ อะไร เปน็ งูเฝา้ จอมปลวกอยู่ ชูชกน่ีมันคงจะไปตายที่ไหนแล้ว ๓ ปแี ล้ว ไมก่ ลับมา เงนิ ทองข้าวของนีเ่ อาจับจา่ ยเสียเถอะ ใช้เสียเถอะ” หาเรอื่ ง ให้ยุ่งแลว้ แกก็เอามาใชจ้ า่ ยกินไปจนหมด พอปีที่ ๔ ชูชกก็กลับมา กระยอ่ งกระแยง่ มาอีกแล้ว ถอื ไม้เท้ายกั แยย่ กั ยนั มา มาถงึ กบ็ อกวา่ “ฉนั จะมาเอาทองคนื แลว้ ” สองผวั เมยี บอกวา่ “น่ังก่อนๆ ค่อยพูดค่อยจา เรือล่มในหนองทองมันไม่ไปไหนเสียหรอก อยา่ ไปววู่ ามอะไร” ชชู กวา่ “ไมไ่ ด.้ ..ฉนั จะเอาคนื คราวนล้ี ะ” สองผวั เมยี ก็เดอื ดร้อนบอกวา่ ขอเวลานอกสัก ๒-๓ นาทีก่อน หมายความว่าจะต้อง ไปประชุมกันในห้อง ไปปรึกษากันว่าจะท�ำอย่างไร ชูชกจะเอาให้ได ้ เราไมม่ ใี ห้ เราจะทำ� อยา่ งไร เมยี บอกวา่ “ไมเ่ ปน็ ไร เรายงั มขี องใหช้ ดเชยได้ เรามีลกู สาวชอ่ื อมติ ตดา รูปรา่ งพอไปวดั ไปวากบั เขาได้ โตเปน็ สาวเป็น นางแลว้ ยังไม่มีครอบครัว ชชู กแกก็แกแ่ ลว้ เรายกอันนี้ใหแ้ กเสยี เลย” เมอ่ื ปรกึ ษาเวลานอกกนั แล้วก็ออกมาบอกว่า “เรอื่ งเงินๆ ทองๆ ของทา่ นน่ะ ฉันจำ� เป็นกเ็ ลยใชไ้ ปหมดแลว้ ” ชูชกโกรธ ดดี น้ิวเปาะแปะๆ 39
บอกว่าอะไรกัน เขาเอาของมาฝากไว้เอาไปใช้ไปสอย อย่างน้ีไม่สมควร แมก่ ็บอกวา่ “ไม่เป็นไรทา่ นอย่าววู่ ามเลย เราจะมขี องชดเชยให”้ ก็เลย เรยี กลูกสาวออกมา แล้วบอกวา่ นีแ่ หละของชดเชย ชชู กแกแกแ่ ลว้ ยงั ไมเ่ คยแตง่ งาน พอเหน็ อมติ ตดาสาวกเ็ ลยลมื เรอ่ื งเงนิ เรอื่ งทอง อยา่ งนน้ั กพ็ อใจใชไ้ ด้ เลยพานางอมติ ตดากลบั ไปอยบู่ า้ น อมิตตดาก็เปน็ หญงิ ท่ดี ีทสี่ ุดในเรอ่ื งเลย แมช้ ชู กจะแก่ชรา มสี ามีแกก่ ็ ไม่รงั เกียจ ปฏบิ ตั ทิ กุ อย่างเรยี บร้อย ทั้งการบา้ นการเรือน น้ำ� กไ็ ปตกั มาจากท่าใส่โอ่งใหช้ ูชกอาบ หงุ ขา้ วตม้ แกงเรียบรอ้ ย ทีนี้มันเกิดเรื่อง พวกพราหมณ์อื่นท่ีมีภรรยา ภรรยาไม่ค่อยเอา เรอื่ ง ชอบเทย่ี วชอบสนกุ คงจะไปเลน่ ไพบ่ า้ ง... แตส่ มยั นน้ั คงจะไมม่ ไี พ.่ .. ไปเทีย่ ว ไม่คอ่ ยอยู่บา้ น ไมห่ ุงหาอาหาร ไม่ตม้ ไม่แกง คร้นั ไปเหน็ ชูชกแก่ ไดเ้ มยี สาว ปฏบิ ัติดีก็รษิ ยา ริษยาแลว้ กม็ ามองดเู มยี ของตน “เอ.๊ . พวกนี้ น่มี นั ไม่ได้เรือ่ ง” เลยตเี มีย ทุบตภี รรยากนั ทุกคน ฉาวไปท้งั บ้าน พวกแม่บ้านท้ังหลายท่ีถูกทุบตีก็เลยยุ่ง ไปยืนคิดกันริมท่าน้�ำ สาเหตมุ ันอยทู่ ี่อะไร ทพ่ี วกเราถกู ทบุ ตนี ี่รู้ไหม คดิ ไปคดิ มา กเ็ พราะแม่ คนนั้น ท่มี าได้ผวั แกน่ ่ะ มนั ปฏบิ ตั ผิ วั ดจี นผวั เราอจิ ฉา แลว้ หาวา่ เราน่ี ไมเ่ อาการเอางาน บา้ นเรอื นไมเ่ รยี บรอ้ ย เราจงึ ถกู ตี ไมไ่ ด.้ ..ตอ้ งแกแ้ คน้ ไปแก้นอกเหตุเสียแล้ว ไม่แก้ท่ีตัว เขาเรียกว่าไม่รู้อะไรเป็นเหตุ อะไรเป็นผล แม่หญิงพวกนั้น เหตุมันอยู่ท่ีตัวบกพร่อง ไม่ได้มอง แต่ว่าไปมองว่าเหตุอยู่ท่ีแม่อมิตตดาไปแก้ที่ภายนอกก็ยุ่ง ก็เลยคอย จอ้ งท่ีทา่ นำ�้ พอนางอมิตตดาลงมาตักนำ�้ ก็เข้าไปตัดพ้อต่อว่า ดึงหน้าดึงหลัง วา่ อยา่ งนน้ั เถอะ แมอ่ มติ ตดากเ็ สยี อกเสยี ใจรอ้ งไหร้ อ้ งหม่ กลบั ไปหาชชู ก ชูชกเหน็ รอ้ งไห้กว็ ่งิ ลงมาตอ้ นรับ รับหมอ้ นำ้� แล้วก็ถามว่า “ใครท�ำให้เธอ ตอ้ งเดอื ดรอ้ นเศรา้ หมอง” นางกบ็ อกวา่ “พวกผหู้ ญงิ เหลา่ นน้ั ทำ� ใหด้ ฉิ นั เดอื ดรอ้ น ต่อไปน้ดี ฉิ ันไมก่ ล้าลงไปทา่ น�ำ้ อกี ตอ่ ไปแลว้ จะไม่ตักนำ�้ จะ ไม่ทำ� อะไร” ชชู กบอกวา่ “ไมเ่ ปน็ ไร เธอไมท่ ำ� ฉนั ทำ� กไ็ ด”้ แตน่ างอมติ ตดาวา่ “มันไม่ถกู นะ สามีทำ� งานแทนภรรยานมี่ ันไม่ถูก ภรรยาตอ้ งทำ� งานให้ สามี ต้องปฏบิ ตั สิ ามี ทา่ นจะท�ำอยา่ งน้ันมนั ไม่ถูก ผดิ ประเพณคี วาม นยิ มของสงั คมสมยั นนั้ ฉนั ท�ำไมไ่ ด้ มที างเดยี วเทา่ นน้ั ทจ่ี ะท�ำได้ คอื วา่ ทา่ นตอ้ งไปหาคนใช้มาให้ฉนั สัก ๒ คน” ชูชกตบอกผาง “แก่ป่านนแ้ี ลว้ จะไปหาท่ีไหน ใครเขาจะมาเป็น คนใช้เรา” นางอมติ ตดาบอกว่า “ม.ี ..หาได้ ไดข้ า่ ววา่ พระเวสสนั ดรนที่ า่ น ใจดีทา่ นมลี กู สองคนชอ่ื ชาลีกณั หาถา้ ทา่ นบากหนา้ ไปขอทา่ นกค็ งจะให”้ 40
พรรณนาอะไรใหฟ้ งั ชชู กเลยคิดว่าทา่ มันจะตอ้ งไปเสียแล้ว เมอื่ จะต้องเดินทาง นางอมิตตดาก็จดั อาหารเสบียงกรงั อะไรกิน ก่อนผอ่ นไว้ขา้ งบน อะไรกนิ ทหี ลงั วางไว้ขา้ งลา่ ง จดั เรยี บร้อย ใสภ่ าชนะ เอาไปใหก้ นิ กลางทาง ชชู กกไ็ ป กอ่ นไปนเ่ี ดนิ เวยี นเรอื นเสยี ๓ รอบ นกึ ในใจ วา่ ...กไู ปครง้ั นคี้ งจะไมไ่ ดก้ ลบั แลว้ ละ่ ... ลางมนั บอกเหตอุ ยู่ เลยเวยี นเรอื น เสยี ๓ รอบ แลว้ กส็ ง่ั ภรรยาวา่ “กลางคำ่� กลางคนื อยา่ เปดิ ประตลู งมาขา้ ง ลา่ งเปน็ อนั ขาด ใหอ้ ยขู่ า้ งบนบา้ น ใครมาเคาะมาเรยี กกท็ �ำเปน็ หไู มไ่ ดย้ นิ อย่าไปไหน ฉนั กจ็ ะกลบั มาอีก” ชชู กกจ็ ากไปดว้ ยความอาลยั อาวรณ์ ออกเดนิ ทางไปเรอื่ ยๆ ไปจน กระทั่งไปเจอกับนายพรานเจตบตุ รเข้า นายพรานเจตบุตรแกเล้ยี งหมา ไว้เยอะ พอชูชกไปถึง หมาก็ไล่จะงับแข้งชูชก ชูชกก็ปีนข้ึนต้นไม้ นายพรานก็จะยิงด้วยธนู ชูชกก็บอกว่า “อย่ายิงฉัน ฉันเป็นคนเชิญ สารตราของพระเจ้าแผ่นดิน รู้ไหมว่าในน้ีเป็นตราสารของพระเจ้า แผ่นดิน” แล้วชกู ลักใหด้ ู ความจริงเป็น กลักพริกกลักเกลือ ท่ีแกเอาไปกินกลางทาง แต่ วา่ เหลีย่ มแกมาก ชูชกแกหลังโกง ใจแกกโ็ กงพอสมควร เรียกว่าฉลาด แกมโกง พวกน้ัน เขาเรยี กว่าพวกเฉโก ฝร่งั เขาเรยี กว่าพวกคนั นง่ิ ฉลาด แกมโกง ชูกลักพรกิ กลกั เกลอื ว่า “น่ีสารตราราชสีห์ จะเชิญไปใหพ้ ระ เวสสันดรท่านท�ำร้ายเราแล้วท่านจะถูกลงโทษติดคุกจนตาย ถูก ประหารชวี ิต” เจตบตุ รอยู่ในปา่ ไมร่ ู้อะไร กม้ ลงกราบสารตรากลักพริก กลกั เกลอื ของชชู กประหลกๆ เลยทเี ดยี ว ชชู กกล็ งมา เจตบตุ รกพ็ าไปเลย้ี ง มีเนื้อย่างมอี ะไรก็เลี้ยงให้กนิ สบายเสร็จแลว้ กพ็ าน�ำทางไปสง่ น�ำส่งเข้าป่าเล็กป่าใหญ่... จุลพน มหาพน จุลพน – ป่าเล็ก มหาพน – ปา่ ใหญ่ เขาพรรณนาเรอ่ื งปา่ ไพเราะเพราะพรงิ้ ถา้ จะเอาภาพ ทอี่ ยใู่ นหนงั สอื นน้ั มาสรา้ งเปน็ สวนปา่ ไว้ ณ ทใ่ี ดทห่ี นงึ่ แลว้ มนั สวยงามมาก มีหินย้อย มีน�้ำตก มีพรรณไม้ มีว่านประเภทต่างๆ มากมายก่ายกอง เป็นส�ำนวนทีไ่ พเราะเพราะพริ้ง สมยั กอ่ นนเ้ี ดก็ นกั เรยี นชนั้ ม.๗ ม.๘ ตอ้ งอา่ นพระเวสสนั ดร ทเี่ ขา ใหอ้ า่ นพระเวสสนั ดร ประการหนงึ่ นน้ั ใหร้ เู้ รอ่ื งพระเวสสนั ดร ประการ ทส่ี อง ใหเ้ กง่ ภาษาไทย เพราะในนน้ั เขาแตง่ มศี พั ทม์ แี สง เรยี กวา่ รา่ ยยาว สำ� นวนไพเราะเพราะพรงิ้ เขาใหอ้ ่าน เดยี๋ วน้ีไมไ่ ด้อ่าน...ภาษาไทยอ่อน เพราะฉะนั้นมหาวิทยาลัยต่างๆ จึงมาตกลงกันใหม่ ใครจะเข้าเรียนใน มหาวิทยาลัยต้องสอบภาษาไทยด้วย เพราะเด็กเดี๋ยวนี้ภาษาไทยอ่อน มาก ไดป้ รญิ ญา เขยี นหนงั สอื ไมเ่ ปน็ ตวั เลยเวลาจะเขยี นถามวา่ พ. พ.ไหน เขยี นสะกดไมถ่ กู หลกั ภาษาออ่ น ภาษาไทยออ่ น คนสมยั กอ่ นเขาไมอ่ อ่ น 41
เขาเรยี นพระเวสสันดรชาดก เรยี นหนงั สือทมี่ สี าระ ภาษาดี เข้าใจใน เรอ่ื งภาษา เดย๋ี วนภ้ี าษาไทยออ่ น เลยคดิ กนั ใหม่ ตอ้ งสอบภาษาไทยดว้ ย เพ่อื ใหภ้ าษาดีขึน้ เรอ่ื งทเี่ ขาเขยี นไวน้ นั้ ไพเราะเพราะพรง้ิ ปา่ ใหญป่ า่ นอ้ ย ชชู กเดนิ ทางไปพบฤๅษอี กี องค์หนึ่งชอื่ อจตุ ตฤๅษี ก็เขา้ ไปประจบประแจง ชูชก พดู จาฉลาด ฤๅษใี จออ่ นกลบั เอน็ ดใู หพ้ กั ใหผ้ อ่ นสบาย แลว้ ชท้ี างไปเขาวงกต ไปถงึ กเ็ ยน็ แลว้ กค็ ดิ วา่ นอนเสยี กอ่ นถา้ จะไปตอนเยน็ นนี่ างมนั ทรอี ย่ ู เพราะว่านางมัทรีเป็นผู้หญิง ในหนังสือเขียนไว้ว่า อันธรรมชาติสตรีน้ี เป็นเกาะแก่งกีดก้ันกระแสกุศล เขาว่าได้ไพเราะ เปน็ เกาะแกง่ กดี กนั้ กระแสกศุ ล มมี จั ฉรยิ ะมดื มนเปน็ ตวั มาร เมอ่ื สามที ำ� ทานมกั จะทว้ งตงิ เขาวา่ อย่างนั้น แต่วา่ ความจริงไมไ่ ด้เป็นอย่างน้นั นี่โยมผู้หญงิ ทั้งน้นั ที่มาบรจิ าค ทรัพย์ในวัด โยมผู้ชายไม่ก่ีคนหรอก โยมผู้ชายเสียอีกจะเป็นเกาะแก่ง กดี กนั้ กระแสกศุ ล มมี จั ฉรยิ ะมดื มนเปน็ ตวั มาร เวลาภรรยาจะท�ำทานมกั ทว้ งตงิ สมยั นม้ี กั จะเปน็ อยา่ งนนั้ เสยี แลว้ เพราะวา่ ภรรยาไมค่ อ่ ยมคี วาม ตระหนบ่ี รจิ าคทานดอี ยู่ แตส่ มยั นน้ั เขาวา่ ชชู กแกวา่ อยา่ งนนั้ ไมใ่ ชใ่ ครวา่ ชชู กก็เลยพกั ผอ่ น เอาผา้ ผกู เป็นห้างบนต้นไม้นอนจนสว่าง พอสว่างนางมัทรีเข้าป่า ชูชกแกก็ไปตอนนั้น เข้าไปหา พระเวสสนั ดร พอไปถึงแกไม่ขอเฉยๆ หรอก นเ่ี ขาเรียกวา่ ตอ้ งใช้ ศิลปะ ในการพดู ชชู กชกั แมน่ ำ้� ทง้ั ๕ มาลอ่ แมน่ ำ้� ทง้ั ๕ สายคอื แมน่ ำ�้ อจริ วดี สรภู มหี ยมนา คงคา แมน่ ำ�้ ทง้ั ๕ นเี่ ปน็ แมน่ ำ�้ เลก็ ๆ ไหลลงมาเปน็ แมน่ ำ�้ สนิ ธู แม่น�้ำคงคา เม่ือน้�ำในห้วยเต็มก็เลยไหลลงมาสู่แม่น้�ำ น้�ำในแม่น้�ำเต็มแล้วก็ ไหลลงสมู่ หาสมทุ ร แตก่ วา่ จะถงึ มหาสมทุ รพวกกรงุ เทพฯ กแ็ ยไ่ ปตามๆ กนั นำ้� มนั ทว่ มเมอื งนนทน์ กี่ แ็ ยแ่ ลว้ ทา่ นผวู้ า่ กต็ อ้ งวงิ่ เทยี่ วอดุ นำ�้ กนั แยไ่ ปเลย มนั ทว่ ม นำ�้ มนั ไหลมากเกนิ ไปกท็ ว่ ม ญาตโิ ยมอยา่ ไปบน่ ตกอกตกใจ เรอื่ ง น�ำ้ มนั ธรรมดา เราอยา่ ไปบน่ กับใคร ชูชกก็ไปพูดเปรียบเทียบว่า น�้ำเป็นฉันใด น�้ำพระทัยของ พระเวสสนั ดรกเ็ หมอื นกบั แมน่ ำ�้ ทเี่ ตม็ เปย่ี มอยตู่ ลอดเวลาใครจะตกั ตวง ไปอาบ ไปกนิ น�ำ้ ก็ไมล่ ด ไม่สนิ้ ลงไป ยอน�ำ้ ใจพระเวสสนั ดร เพื่อจะขอ เรยี กว่ายอก่อน อันนี้ก็เป็นหลักธรรมดา คนเราจะไปหาใคร ต้องยอเขาก่อน แตว่ า่ ยอใหส้ มควร ถา้ ยอเกนิ ไปเขารทู้ นั ไอน้ มี่ นั ลกู ไมก้ ะกอู กี แลว้ มนั ไมไ่ ด้ เราต้องใช้ค�ำยอแต่พอดี อย่าให้มันเกินไป ยกย่อง คนเรามันชอบยก ทง้ั นน้ั เขาจงึ บอกวา่ ลูกยอใครๆ กช็ อบทัง้ นัน้ แหละ สอยๆ ไปเถอะ มนั ก็ 42
คงไดผ้ ลบา้ ง คำ� ตนิ ไี้ ม่มีใครชอบหรอก ชชู กกย็ อพระเวสสนั ดร ผลทสี่ ดุ แกบอกวา่ “ขา้ พระองคท์ อี่ ตุ สา่ ห์ เดนิ ถอ่ กายอนั ลำ� บากมาน่ี กเ็ พอื่ ประสงคจ์ ะขอพอ่ ชาลแี มก่ ณั หา เพอ่ื เอา ไปเปน็ คนใช้” พระเวสสันดรก็บอกว่า “ไม่เป็นไร ไม่ขัดข้องหรอก เราจะให้ ดว้ ยความเตม็ ใจ เมอื่ ทา่ นตอ้ งการ เรากจ็ ะให้ แตว่ า่ เดย๋ี วกอ่ น เวลานี้ นางมทั รไี ปป่า ขอให้นางมทั รกี ลบั มาก่อน แล้วนางจะได้ดอี กดีใจ จะ ได้ร่วมกนั บรจิ าค” ชชู กแกก็พดู ขนึ้ ทันที บอกว่า “เขาวา่ พระเวสสันดรใจดี น่ีไมจ่ รงิ ความจริงกลับกลอก” ต่อว่าเอาเลย “เมื่อตะก้ีบอกว่าให้ ต่อมาก็ว่าให้ นางมนั ทรกี ลบั มากอ่ น พอนางมทั รกี ลบั มาแลว้ นางกจ็ ะคดั คา้ นเลยไมใ่ ห้ แล้วกจ็ ะไดพ้ ดู บ่ายเบีย่ งวา่ ความจริงฉนั จะให้ ..แตว่ า่ มัทรเี ขาไมใ่ ห้.. ไมร่ ู้ จะวา่ อยา่ งไร เพราะฉันไม่ได้เกดิ เอง นางมทั รเี ขาเกิด นีห่ รอื น�ำ้ พระทัย ของพระเวสสนั ดร” ตัดพอ้ ต่อวา่ เอาอย่างนัน้ พระเวสสนั ดรกว็ า่ “ไมใ่ ชเ่ ชน่ นนั้ เขาเปน็ แมก่ ค็ วรจะไดด้ ใี จดว้ ย ในการทไ่ี ด้บริจาคทานดว้ ยกนั ” ชูชกแกบอกว่า “ไม่ได้..ถ้าปล่อยให้นางมา ก็จะชักช้าเสียเวลา เพราะฉะนนั้ กเ็ อาเลยเถอะ..ขอเอาไปเดีย๋ วนล้ี ะ” พระเวสสันดรก็เท่ยี ว มองหาลกู วา่ หายไปไหนแล้ว ชาลี กัณหา เหน็ ตาชูชกรปู รา่ งอัปลกั ษณก์ ห็ นีแลว้ หนไี ปอยู่ ในสระบวั เอาใบบวั ปดิ หวั ไว้ไมใ่ หเ้ ห็น พระเวสสนั ดรรวู้ า่ ลูกอย่ใู นสระ กไ็ ปพูดพรรณนาใหล้ ูกข้นึ จากสระน�ำ้ หนงั สอื ตอนนเ้ี ขาเรยี กวา่ “กณั ฑก์ มุ าร” คอื เกยี่ วกบั กมุ ารากมุ ารี ทงั้ สอง แลว้ กเ็ ปรยี บเทยี บใหล้ กู ฟงั วา่ พระองคน์ เ่ี หมอื นกบั เปน็ พอ่ คา้ เรอื สำ� เภาเตรียมของลงเรอื อะไรเรยี บรอ้ ย จะออกไปสู่ฝงั่ คืออมตะนิพพาน “ลกู จะไดช้ ว่ ยเหลอื ใหเ้ รอื ออกไปไดส้ ะดวกสบาย เพราะฉะนน้ั มาช่วยพ่อเพ่ือให้ได้ไปถึงจุดหมาย คือ การดับทุกข์เถอะลูกเอ๋ย... ขึน้ มาเถอะ” ลกู ได้ฟงั คำ� พอ่ กส็ งสารพ่อ เลยขึ้นมากราบแทบเทา้ ให้พระเจา้ พอ่ ยกใหต้ าชชู ก ชชู กพอไดแ้ ลว้ กเ็ อาเชอื กผกู มอื เลย พอผกู มอื แลว้ คดิ วา่ ไมไ่ ด.้ .จะเอาไปเปน็ คนใช้ ตอ้ งขตู่ ะคอกใหก้ ลวั เสยี หนอ่ ย เลยเอาไมห้ วาย เฆย่ี นเลย พระเวสสนั ดรคดิ วา่ “แหม! อตี านมี่ นั หยาบคายจรงิ ๆ เฆยี่ นลกู ตอ่ หนา้ เรา” แตม่ าขม่ พระทยั ไวว้ า่ “เราใหเ้ ขาแลว้ เขาเปน็ บา่ วเปน็ คนใชก้ นั ไมใ่ ช่ ลกู ของเราแลว้ ” กต็ อ้ งขม่ ไวด้ ว้ ยพระขนั ติ ไมแ่ สดงอาการอะไรใหป้ รากฏ 43
ชชู กก็พาเข้าไปในปา่ ไปจนคำ�่ มดื จะตอ้ งพัก ชูชกขน้ึ ไปนอนขา้ ง บนตน้ ไม้ เอากมุ ารท้ัง ๒ ผกู ไว้ทโี่ คนไม้ แกก็นอนกรนครอกๆ บนตน้ ไม้ แต่ว่า ๒ กุมารก็ไม่เดือดร้อนอะไรหรอก มีคนมาช่วยเหลือ เทวดาอีก แหละ คราวน้เี ทวดาก็มาชว่ ยใหส้ บาย รงุ่ ขนึ้ ชูชกก็พาเดินต่อไป ไปถงึ ทาง ๒ แพร่ง ทางหนง่ึ จะแยกไปเมอื งชูชก อกี ทางหน่งึ จะ ไปเมืองสีพี ชาลีเป็นผู้ฉลาดแหลมคม ลูกผู้ชายฉลาด ชูชกแกงงว่าจะ ไปทางไหน ชาลบี อกวา่ ทางนแ้ี หละ เลยชไี้ ปทางเมืองพระเจา้ ปู่ ชูชก หลงกลเดก็ ก็เดนิ ไป ไปออกเมืองสพี เี มืองพระเจ้าปู่ ประชาชนได้เหน็ ตาแกจ่ งู เดก็ มากว็ ่า ไอน้ ไ่ี ปลักลูกเขามา ลกั ลูก พระเวสสนั ดรมา ไมไ่ ดเ้ ราตอ้ งจบั ฐานเปน็ โจรลกั เดก็ เลยเขา้ ไปรมุ จบั ชชู ก ชชู กบอกวา่ “ไมใ่ ช.่ .ฉนั ไมไ่ ดล้ กั ฉนั ไปขอมา..พระเวสสนั ดรให”้ “ไอ้นี่พดู ไมจ่ รงิ พอ่ ท่ีไหนจะใหล้ ูกเปน็ ทานต้องพาไปหาพระเจ้า แผน่ ดิน” กพ็ าไปเฝ้าพระเจ้าแผ่นดิน ชาลี กณั หาก็ไปนง่ั พบั เพียบเรยี บร้อยอยชู่ นั้ ล่างไม่ขึ้นไป นัง่ เฉย ปกู่ ถ็ ามเรอื่ งราวตาชชู กไปอยา่ งนน้ั แลว้ กบ็ อกวา่ หลานทงั้ ๒ ทำ� ไมนงั่ อยู่ อยา่ งน้ัน ไมข่ ้นึ มาน่งั ใกลป้ ู่ ชาลเี ขาบอกวา่ อยา่ งไร... บอกว่า “เวลานี้หลานไม่ใช่หลานปแู่ ล้ว แตเ่ ปน็ คนใช้เป็นทาส ของตาแกช่ ชู กคนน้ี หลานจะตอ้ งเคารพนาย จะขน้ึ ไปนง่ั ใกลอ้ งคพ์ ระ มหากษตั ริย์ เปน็ การไม่สมควร” พระเจา้ ปู่ไดฟ้ ังเชน่ นน้ั กเ็ สียพระทยั ว่า แหม! ไอห้ ลานนอ้ ยมนั ยงั พดู กระแทกแดกดนั ปเู่ ลย ทำ� ใหป้ ไู่ มส่ บายใจกเ็ ลยบอกวา่ “เอา้ ! ไมเ่ ปน็ ไร เราจะไถช่ วี ิตของหลานไว”้ พระเวสสนั ดร ทา่ นได้ตง้ั คา่ ไวแ้ ลว้ ตัง้ คา่ ลูกทัง้ ๒ ไว้ดว้ ยราคา แพงทเี ดยี ว เผอื่ วา่ ใครจะไถ่ ตอ้ งเปน็ คนมง่ั มถี งึ จะไถไ่ ด้ คนจนไถจ่ ากชชู ก ไมไ่ ด้ ตง้ั คา่ ไว้ กณั หานแ่ี พงกวา่ ชาลี ผหู้ ญงิ นตี่ งั้ คา่ แพงมาก ชชู กแกกบ็ อกวา่ จะเอาเดก็ ๒ คนนีต่ อ้ งไถ่ พระเจา้ กรงุ สญชัยก็ยินดีไถ่ถอน เมอ่ื ไถ่ถอน แลว้ กบ็ อกวา่ “ทา่ นอยา่ ไปกอ่ นเลย ทรพั ยส์ มบตั ทิ า่ นจะพาไปกล็ ำ� บาก เราจะเลยี้ งทา่ นสกั มอื้ กอ่ น” เลยเลยี้ งอาหารอยา่ งดี ชชู กเดนิ ปา่ มานานแลว้ ไม่ไดก้ ินอาหารด ี กินมาก เลยจุกตายเลย เขาเรยี กวา่ ท้องแตกตาย ไม่ใช่ ทอ้ งระเบิด ทอ้ งแตก ไม่ใช่ระเบิดอย่างนัน้ หมายความวา่ จกุ ตาย กนิ มาก หายใจไมอ่ อก จกุ ตาย ทรพั ยส์ มบตั ิ ของตาชชู กนน้ั ประกาศหาญาติ ไมม่ ี ใครมารับ ก็เวนคนื เขา้ พระคลงั หลวงตอ่ ไป ชาลี กัณหาก็ได้เปน็ ไท ได้อยกู่ ับพระเจ้าปู่ เมื่อได้อยู่กับพระเจ้าปู่แล้ว ชาลี กัณหา นึกถึงพ่อแม่ที่ต้องตก ระกำ� ลำ� บากอยใู่ นปา่ กเ็ ลยกราบทลู พระเจา้ ปวู่ า่ พอ่ แมน่ เ่ี ดอื ดรอ้ นมาก 44
อยใู่ นป่าน่ี ปู่ควรจะไปรบั กลับมาเสยี ที พอดปี ระชาชนไดข้ ่าววา่ ชาลี กณั หา ถูกให้เป็นทานเขากน็ กึ ว่า พระเวสสนั ดรนท่ี า่ นมนั่ คงในเรอื่ งทานเหลอื เกนิ ใหม้ า้ ใหช้ า้ ง ใหท้ รพั ย์ สมบตั ิ ใหล้ กู แลว้ กย็ งั จะใหน้ างมทั รอี กี นะ พระอนิ ทรม์ าขอปลอมตวั เปน็ พราหมณแ์ กม่ าขอ ทีม่ าขอนไี่ ม่ใช่ เรอื่ งอะไร เดีย๋ วคนอน่ื มาขอแกใหเ้ สยี อกี จะลำ� บาก เลยขอไวเ้ สยี กอ่ น ขอเสยี แลว้ ไมเ่ อาไปหรอก บอกวา่ ..ขอฝาก ไว้แกท่ า่ น เพอ่ื จะได้อยปู่ ฏิบตั วิ ัตรฐากต่อไป.. ไมอ่ ย่างนั้น พระเวสสนั ดร แกใหห้ มด ใจแกดเี หลอื เกนิ เลย มาขอเสยี กอ่ น แลว้ มอบไว้ ภายหลงั ชาลี กณั หา ไปเลา่ เรอื่ งใหป้ ยู่ า่ ฟงั ปยู่ า่ กส็ งสารพอดปี ระชาชนเขาเหน็ อกเหน็ ใจ กเ็ ดอื นขบวนอกี เหมอื นกนั เดนิ ขบวนขอใหไ้ ปรบั พระเวสสนั ดรกลบั มา กจ็ ดั ขบวนแหอ่ อกไปรบั กลบั มา ตอนนเ้ี รยี กวา่ “นครกณั ฑ”์ กณั ฑส์ ดุ ทา้ ย แหก่ ลบั เขา้ บา้ นเขา้ เมอื งอยเู่ ยน็ เปน็ สขุ ตอ่ ไปคนทำ� ดแี ลว้ กไ็ มต่ กตำ�่ อะไรหรอก ตามวดั ตา่ งๆ พอออกพรรษาตอ้ งมเี ทศนม์ หาชาติ วนั หนง่ึ คนื หนง่ึ เชา้ เทศนค์ าถาพนั วา่ บาลลี ว้ น ฟงั ไมร่ เู้ รอ่ื ง แตค่ นกน็ งั่ ฟงั หลบั ไปตามๆ กนั พอพระวา่ “เอวงั กม็ ดี ว้ ยประการฉะน”ี้ เอา้ ..จบแลว้ สาธ.ุ . นคี่ ณุ ยายเขา ฟงั อยา่ งน้ี มหาชาตนิ มี่ ที วั่ ประเทศ ปกั ษใ์ ตเ้ รยี กวา่ เทศนม์ หาชาติ ภาคเหนอื เขาเรยี กวา่ เทศนพ์ ระเวส ทำ� บญุ พระเวส ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื เรยี กวา่ งานบญุ ผะเหวด ก็มีกณั ฑค์ าถาพัน ๒ ตอน พนั ต้น พนั ปลายรับไปกัณฑ์ หนง่ึ ๒ คน มที านกัณฑ์ วนประเวศน.์ ..เร่อื ยๆ ไป จนกระทั่งนครกัณฑ์ รวม ๑๓ กัณฑ์ ทกุ คนรบั กณั ฑไ์ ป ปัจจัยกเ็ อาไปบำ� รงุ วัดวาอารามต่อไป เทศน์มหาชาตจิ บแล้ว กต็ อ้ งมีเทศนอ์ รยิ สัจสี่ ๒ ธรรมาสน์ ให้คนฟงั กัน ตอ่ ไป เรอื่ งมันเปน็ อย่างนั้น เอามาเลา่ ใหโ้ ยมฟงั เพอื่ ใหร้ วู้ า่ คนโบราณเขาเขยี นเรอื่ งประเภท สอนใจคนไว้ ให้รู้จักบริจาคทาน ให้ความอดทน ให้มีความเพียร ให้มี ความตั้งใจม่ัน เรียกว่า “บารมี ๑๐” ที่พระพุทธเจ้าได้ทรงบ�ำเพ็ญใน อดีตชาติ คือในชาติท่ีเป็นพระเวสสันดร เป็นมโหสถ เป็นพระเตมีย์ใบ้ เปน็ ภรู ทิ ตั อะไรต่ออะไร ถงึ พระเวสสนั ดรเป็นชาตสิ ดุ ท้าย แล้วกไ็ ดม้ า เปน็ พระพทุ ธเจา้ เป็นเร่ืองของการให้ เป็น ตัวอย่างของการเสยี สละ เราอยดู่ ว้ ยกนั การเสยี สละแลว้ กจ็ ะสบาย พอ่ แมเ่ สยี สละเพอื่ ลกู ลกู กม็ คี วามเสยี สละเพอ่ื พอ่ แม่ ครอบครวั ทกุ ครอบครวั ทอ่ี ยใู่ นหมบู่ า้ น เดียวกนั ต�ำบลเดียวกนั เสยี สละตอ่ กัน เม่อื มกี ารเสยี สละการเห็นแก่ ตัวก็หายไป การอยู่กจ็ ะมแี ตค่ วามสุขความเจริญ เอามาเล่าสู่กันฟังเพ่ืออย่างนี้ 45
เพอ่ื ผลคือใปหรร้ะำ� โลยคึกชอกือนนั กาส์มราขุีกบกรอามา�ำนัรรเหสพไเพทาล็ญกศะศุศบคนาลลวุญม์ ทาขหคมอ่ีเาตอืเงชหคือมาน็นววตาแบลิมกมุคดต่คนที วัลษุ ย่ี ยง่ิ ชยาวตดเิ ป็นส�ำคญั บรรพชนชาวไทยผ้ชู าญฉลาดแตโ่ บราณมา จงึ ถือเปน็ เทศกาลงานบญุ ที่คนทัง้ หลายพงึ สนใจรว่ มกระทำ� บ�ำเพ็ญ และได้อนุรักษ์สืบทอดเปน็ วัฒนธรรมสืบมา เราท้งั หลายในบัดนี้ก็พงึ อนรุ กั ษส์ ืบทอดตอ่ ไป ด้วยความฉลาดเข้าใจในคณุ ค่าและความหมายอยา่ งแทจ้ ริง สมเด็จพระญาณสงั วร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรณิ ายก
Search