GTscale_Guitar

บันไดเสยี งกตี าร์ สมนึก อุ่นแกว้ ISBN 974-91930-2-4 © สงวนลิขสทิ ธิ์ พ.ศ. 2539 โดย นายสมนึก อุน่ แกว้ ตามพระราชบญั ญตั ลิ ิขสทิ ธิ์ 2537 ราคา 85 บาท พิมพค์ รง้ั ที่ 1 มีนาคม 2539 พมิ พค์ รั้งท่ี 2 ตลุ าคม 2539 พมิ พค์ รง้ั ที่ 3 มิถนุ ายน 2540 พมิ พ์ครงั้ ท่ี 4 พฤศจกิ ายน 2546 พิมพ์ครั้งท่ี 5 กมุ ภาพันธ์ 2547 พมิ พค์ รง้ั ท่ี 6 พฤศจิกายน 2547 พมิ พ์ครัง้ ท่ี 7 มีนาคม 2549 พมิ พ์ครั้งที่ 8 กรกฎาคม 2557 (ปรับปรุงเปน็ e-book) จดั พิมพ์ : มิวสิคโก อดุ รธานี โทรศพั ท์ 0-8672-3908-5 อเี มล [email protected] พมิ พ์ที่ : ส.เอเซยี เพรส (1989) กรงุ เทพมหานคร โทรศัพท์ 0-2732-3101-6 จัดจำ�หนา่ ยโดย : บรษิ ัท ดวงกมลสมัย จ�ำ กดั 15/234 ซอยเสอื ใหญอ่ ทุ ศิ ถนนรชั ดาภเิ ษก แขวงจนั ทรเกษม เขตจตจุ ักร กรงุ เทพมหานคร 10900 โทรศพั ท์ 0-2541-7375-6, 0-2930-6215-18 โทรสาร 0-2541-7377, 0-2930-7733 อีเมล [email protected], [email protected] เว็บไซต์ www.dktoday.net

สารบญั อธิบายสญั ลักษณ์ 24147728215124117712498765983407658182009243416 Sign Explanation กีตาร์โปร่ง Acoustic Guitar กีตารไ์ ฟฟา Electric Guitar Guitar Tuning การต้งั สายกตี าร์ Scale Knowledge ความรเู้ รื่องบันไดเสยี ง Right Hand Left Hand มือขวา Exercise 1 มอื ซา้ ย Exercise 2 แบบฝก ท่ี 1 Exercise 3 แบบฝกท่ี 2 Exercise 4 แบบฝก ท่ี 3 Exercise 5 แบบฝก ท่ี 4 Exercise 6 แบบฝก ท่ี 5 Exercise 7 แบบฝก ที่ 6 Exercise 8 แบบฝกที่ 7 Major Scale แบบฝก ท่ี 8 Minor Scale บนั ไดเสียงเมเจอร์ Natural Minor Scale บันไดเสียงไมเนอร์ Melodic Minor Scale บันไดเสยี งเนเชอรลั ไมเนอร์ Harmonic Minor Scale บันไดเสยี งเมโลดิกไมเนอร์ Mode บนั ไดเสียงฮาร์โมนกิ ไมเนอร์ Pentatonic Scale Blues Scale โมด Whole Tone Scale บนั ไดเสียงเพนตาโทนิก Diminished Scale Note on the Guitar บันไดเสียงบลูส์ บนั ไดเสียงโฮลโทน บนั ไดเสียงดมิ นิ ิชท์ โน้ตบนคอกีตาร์

คํานํา ถ้าพูดถึงบันไดเสียงกีตาร์ บางคนอาจจะไม่รู้จักหรือคุ้นหูเหมือนกับคอร์ดกีตาร์ เพราะคนที่เล่นกีตาร์ส่วนมากแล้วจะจับคอร์ดเป็นหรือตีคอร์ดประกอบการร้องเพลงได้ ก่อนท่ี จะเลน่ โซโลกตี าร์ คอร์ดกีตาร์นั้นใช้เล่นประกอบการร้องเพลง ส่วนบันไดเสยี งกีตาร์ จะใช้เล่น โซโล ดงั น้นั ถ้ามคี วามรูเ้ รอื่ งบนั ไดเสยี งกจ็ ะทําใหร้ เู้ สียงหรือโน้ตบนคอกตี าร์ รจู้ กั การวางนว้ิ ท่ี ถกู ตอ้ งชว่ ยใหม้ คี วามแมน่ ยาํ ในการเลน่ และทสี่ าํ คญั เปน็ การฝก ประสาทหู ชว่ ยใหจ้ าํ ระดบั เสยี ง ต่าง ๆ สามารถเลน่ โซโลได้โดยเสยี งไมผ่ ิดเพ้ยี น และชว่ ยให้การเลน่ กตี ารม์ ีการพัฒนาทดี่ ขี นึ้ การเรียนรู้เร่ืองบันไดเสียงที่ได้ผลและสามารถนําไปใช้งานได้จริงนั้นต้องเรียนรู้ จากการปฏิบัติจริง โดยการฝกบันไดเสียงให้เป็นนิสัยทุก ๆ วัน จนจําทางน้ิวและเสียงของ บันไดเสียงแต่ละชนิดได้ อย่าลืมว่าความชํานาญนั้นเกิดจากการฝกฝนซํ้า ๆ ซาก ๆ อย่าง สม่ําเสมอและอดทน เมื่อเกิดความชํานาญแล้วก็สามารถนําบันไดเสียงไปใช้ในการโซโลกีตาร์ ได้ด่ังใจไม่ติดขัด สําหรับการฝกควรเริ่มต้นจากจังหวะช้า ๆ ก่อน เมื่อจําทางนิ้วได้แล้วจึงฝก เรว็ ข้ึนและตอ้ งใช้เครื่องเคาะจังหวะ หรือเปดจังหวะกลองของคยี บ์ อรด์ ประกอบการฝก ดว้ ย หนงั สือ บนั ไดเสยี งกตี าร์ ฉบับปรับปรงุ ใหม่น้ไี ด้เพ่มิ เตมิ และปรับปรุงแก้ไขเนอ้ื หา ให้สมบูรณ์ย่ิงข้ึน และพิมพ์เป็น 2 สีเพ่ือให้สามารถดูได้ท้ังจุดตําแหน่งโน้ตของบันไดเสียง โน้ตของอาร์เปโจ และโน้ตของคอร์ดได้ด้วย ทําให้เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างบันไดเสียง กับคอร์ดได้ดีข้ึน เพราะแต่ละสีจะบอกถึงความสําคัญของโน้ตในบันไดเสียงท่ีประกอบกัน เป็นคอร์ดต่าง ๆ นอกจากนี้ยังได้แก้ไขทางนิ้วให้เหมาะกับการนําไปใช้ และสมบูรณ์ยิ่งข้ึน มี แบบฝกบันไดเสียง ตลอดจนคําแนะนําในการฝกของแต่ละแบบฝกด้วย เมื่อฝกบันไดเสียง จนเกิดความชํานาญแล้ว ต้องสามารถนําไปใช้ในบทเพลงได้ด้วยจึงจะถือว่าได้ใช้ประโยชน์จาก บันไดเสียงอยา่ งสมบูรณ์ สมนึก อนุ่ แกว้ [email protected]

อธบิ าSยigสn ัญExpลlaกั nษatiณon เมเจอร์ โครงสรา้ ง 1 2 3 4 ระยะหา่ งของเสยี งท่บี อกชนดิ ของบันไดเสียง โน้ต C D E F โน้ตท่ใี ชใ้ นบันไดเสียง คอรด์ C Dm Em F คอรด์ ทใ่ี ชก้ บั บันไดเสียง 1 3 4 1 บนั ไดเสียงแบบพืน้ ฐาน 1 1 2 4 4 1 1 1 = นิ้วทกี่ ดสายชว่ งขาข้ึน 2 2 1 2 4 12 1 = นิว้ ทก่ี ดสายชว่ งขาลง 1 2 4 1 2,1 2,1 = น้วิ ที่กดสายขาขึน้ , ขาลง 3fr. 5fr. 7fr. ห1ร,อื1 9fr. 2,1 1 = ช,ี้ 2 = กลาง, 3 = นาง, 4 = กอ้ ย, 0 = สายเปด, ตําแหนง่ น้ิวสดี าํ = โทนิก โน้ตสากล 1 3 12 4 โน้ต TAB 1 34 2 4 เสน้ นอน = สายกตี าร์ (เสน้ บนคือสาย 1) 1 34 1 34 ตวั เลข = ตําแหน่งเฟรต็ ท่ีกด 12 4 1 34 ทางนิ้ว 12 4 12 4 เส้นนอน = สายกตี าร์ (เสน้ บนคือสาย 1) 2fr. 2 4 4 7f1r. 2 1 4 เส้นตั้ง = เฟรต็ กตี าร์ F G A BC D ตัวเลข = น้ิวมือซา้ ย C D EF G A A BC D EF โนต้ ทั้งหมดของบนั ไดเสียงบนคอกีตาร์ EF G A BC G = โนต้ ขัน้ ที่ 1, 3, 5 A = โน้ตอน่ื ๆ BC D EF G C = โทนกิ เมเจอร์ F 3Gfr. 5Afr. 57Bfr. C 9fr. D A = โทนกิ ไมเนอร์ 3fr. 5fr. 7fr. 9fr. 12fr. = ตาํ แหน่งเฟร็ตกีตาร์ 1 34 12 4 = โทนกิ เมเจอร์ = โน้ตอื่น ๆ 13 = โทนิกไมเนอร์ 124 = โนต้ ข้นั ที่ 1, 3, 5 1 34 4 = รปู แบบทางนิ้ว 1 34 5fr. Guitar Scales 5

กAcตี oาusรtiโ cปGรuงitar ส่วน ัหว หัว ่สวนคอ ลกู บดิ ส่วน ำลาตัว นทั สายที่ 1 สายท่ี 2 สายท่ี 3 สายที่ 4 สายท่ี 5 สายที่ 6 คอ เฟรต็ จดุ แสดงตําแหนง่ ลาํ ตวั ช่องขยายเสยี ง ทีร่ องปค หย่อง สะพานสาย ทีค่ ล้องสายสะพาย 6 บันไดเสียงกตี าร

ส่วน ัหว กElีตecาtrรicไฟGuฟitaาr ่สวนคอ หวั ลกู บิด ส่วน ำลาตัว นัท สายท่ี 1 สายที่ 2 สายท่ี 3 สายท่ี 4 สายท่ี 5 สายท่ี 6 คอ เฟร็ต จุดแสดงตาํ แหน่ง ลาํ ตวั สวิทซเ์ ลือกการปรบั เสยี ง ปค อพั ขยายเสยี ง ท่ีรองปค หยอ่ ง ปุมปรับเสยี งชดุ ที่ 1 สะพานสาย รเู สยี บแจ็ค ปุมปรับเสยี งชดุ ท่ี 2 ทค่ี ล้องสายสะพาย Guitar Scales 7

Gกuาitรaตr Tง้ั uสniาngยกตี าร Middle C 1. ต้ังสายกับเปย โน หรอื คยี ์บอรด์ สายเปด ท้ัง 6 เสน้ ของกีตาร์มเี สยี งตรงกนั กับเสียงเปย โน ดงั แสดงในรูป E A D GB E สายท่ี 6 5 4 3 2 1 โน้ตกีตาร์ (สงู กวาโนต เปยโน 1 คแู ปด) 2. ตั้งสายโดยใช้ความสมั พนั ธ์ของเสียง EADGBE 1. ตัง้ สาย 1 ให้ตรงเสยี ง E ของเปยโน ชองที่ 1 หรอื ข้ึนสายให้ตงึ พอประมาณ 2. กดช่องที่ 5 สาย 2 แลว้ ดดี 2 และต้งั เสยี งใหต้ รงกบั สาย 1 3 3. กดชอ่ งท่ี 4 สาย 3 แลว้ ดดี 4B และตงั้ เสยี งให้ตรงกบั สาย 2 5ADG E 4. กดชอ่ งที่ 5 สาย 4 แล้วดีด สายที่ 6 5 4 3 2 1 และตั้งเสียงให้ตรงกับสาย 3 5. กดช่องท่ี 5 สาย 5 แลว้ ดดี และตง้ั เสยี งให้ตรงกับสาย 4 6. กดช่องที่ 5 สาย 6 แล้วดดี และตง้ั เสยี งใหต้ รงกบั สาย 5 8 บันไดเสียงกตี าร

ความรเู รอื่ ScงaบleันKไnดowเสledยี gงe บันไดเสียง หมายถึง กลุ่มของระดับเสียงหรือโน้ตท่ีนํามาจัดเรียงตามลําดับขั้น ซึ่ง โนต้ แตล่ ะขน้ั มรี ะยะหา่ งของเสยี งตามโครงสรา้ งของบนั ไดเสยี งชนดิ นน้ั ๆ ถา้ เรยี งลาํ ดบั จากเสยี ง ตํา่ ขน้ึ ไปเสยี งสูง เรยี กวา่ ขาข้นึ (Ascending) ถา้ เรียงลาํ ดับจากเสียงสูงลงมาเสียงตา่ํ เรียกว่า ขาลง (Descending) โดยไมม่ ีการข้ามขั้นและครอบคลุมโน้ตทัง้ หมดใน หน่งึ คู่แปด (Octave) ขัน้ ที่ 1 2 3 4 5 6 7 8 8 7 6 5 4 3 2 1 โน้ต C D E F G A B C C B A G F E D C บันไดเสียงมีหลายชนิด แต่ละชนิดจะมีเสียงโดยรวมท่ีแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับ โครงสร้างของบันไดเสียงชนิดนั้น ๆ ว่ามีระยะห่างของเสียงจัดเรียงกันอย่างไร ซึ่งระยะห่าง ของเสยี งมอี ยู่ 2 ระยะคือ ระยะหน่ึงเสยี ง ได้แก่ระยะหา่ งของโน้ต C - D, D - E, F - G, G - A และ A - B และ ระยะครึง่ เสียง ได้แกร่ ะยะห่างของโนต้ E - F และ B - C โดยระยะหน่ึงเสียง เทา่ กบั 2 เฟร็ตกตี าร์ และระยะครงึ่ เสียง เทา่ กบั 1 เฟรต็ กีตาร์ ระยะห่างของเสยี งสามารถเปลย่ี นแปลงได้ โดยใช้ เคร่อื งหมายแปลงเสยี ง ได้แก่ 1. เครื่องหมายชารป์ (#) ยกเสียงสูงข้ึนคร่งึ เสยี ง 2. เครอ่ื งหมายแฟล็ต (b) ลดเสียงตํ่าลงคร่งึ เสยี ง 3. เครอ่ื งหมายดบั เบลิ ชาร์ป (X) ยกเสยี งสูงข้นึ หนงึ่ เสียง 4. เครื่องหมายดับเบิลแฟล็ต (º) ลดเสียงต่าํ ลงหนงึ่ เสยี ง 5. เคร่อื งหมายเนเจอรัล (§) ทําใหเ้ สียงกลับเปน็ เสยี งปกติ โนต้ บนคอกีตาร์ F F#Gb G G#Ab A A#Bb B C C#Db D D#Eb E F F#Gb G G#Ab A A#Bb B C C#Db C C#Db D D#Eb E F F#Gb G G#Ab A A#Bb B C C#Db D D#Eb E F F#Gb G G#Ab G#Ab A A#Bb B C C#Db D D#Eb E F F#Gb G G#Ab A A#Bb B C C#Db D D#Eb E D#Eb E F F#Gb G G#Ab A A#Bb B C C#Db D D#Eb E F F#Gb G G#Ab A A#Bb B A#Bb B C C#Db D D#Eb E F F#Gb G G#Ab A A#Bb B C C#Db D D#Eb E F F#Gb F F#Gb 3Gfr. G#Ab 5Afr. A#Bb 7Bfr. C C9#fDr.b D D#Eb 12Efr. F F#Gb 15Gfr.G#Ab17Afr. A#Bb 19Bfr. C 2C1#Dfrb. Guitar Scales 9

ความรเู รอื่ งบันไดเสยี ง โครงสรางของบนั ไดเสียง และโมดตา ง ๆ โครงสรา้ ง ชนิดของบนั ไดเสยี ง 1. บนั ไดเสยี งเมเจอร์ 12345678 Major Scale CDEFGABC 2. บันไดเสยี งเนเชอรัลไมเนอร์ 1 2 3 4 5 6 7 8 Natural Minor Scale ABCDEFGA 3. บันไดเสียงเมโลดิกไมเนอร์ 1 2 3 4 5 #6 #7 8 Melodic Minor Scale A B C D E F# G# A 4. บนั ไดเสียงฮารโ์ มนิกไมเนอร์ 1 2 3 4 5 6 #7 8 Harmonic Minor Scale A B C D E F G# A 5. โมดไอโอเนียน 12345678 Ionian Mode CDEFGABC 6. โมดโดเรียน 12345678 Dorian Mode DEFGABCD 7. โมดฟริเจยี น 12345678 Phrygian Mode E F GA B CD E 8. โมดลเิ ดยี น 12345678 Lydian Mode FGABCDE F 9. โมดมกิ โซลิเดยี น 12345678 Mixolydian Mode GABCDEFG 10. โมดเอโอเลยี น 12345678 Aeolian Mode ABCDEFGA 11. โมดโลเครียน 12345678 Locrian Mode B CDE F GA B 12. บันไดเสียงเมเจอรเ์ พนตาโทนกิ 1 2 3 (4) 5 6 (7) 8 Major Pentatonic Scale C D E GA C 13. บันไดเสยี งไมเนอรเ์ พนตาโทนิก 1 (2) 3 4 5 (6) 7 8 Minor Pentatonic Scale A CDE GA 14. บันไดเสยี งเมเจอรบ์ ลูส์ 1 2 b3 3 (4) 5 6 (7) 8 Major Blues Scale C D Eb E GA C 15. บนั ไดเสียงไมเนอรบ์ ลูส์ 1 (2) 3 4 #4 5 (6) 7 8 Minor Blues Scale A C D D# E G A 16. บันไดเสียงโฮลโทน 1 2 3 #4 #5 b7 8 Whole Tone Scale C D E F# G# Bb C 17. บันไดเสยี งดมิ ินชิ ท์ 1 2 b3 4 b5 b6 §6 7 8 Diminished Scale C D Eb F Gb Ab A§ B C เคร่อื งหมาย = ครึ่งเสียง, = หนงึ่ เสียงครงึ่ , ไม่มีเครือ่ งหมาย = หนึ่งเสยี ง 10 บันไดเสยี งกีตาร

Scale Knowledge บันไดเสยี งเมเจอร และบันไดเสยี งไมเนอร บันไดเสยี งเมเจอร์ เป็นบนั ไดเสียงท่ีใช้เปน็ พื้นฐานของบันไดเสยี งอนื่ ๆ ประกอบด้วย โน้ต 7 ตัว มรี ะยะครึ่งเสียงระหว่างโน้ตขั้นท่ี 3 - 4 และ 7 - 8 นอกน้ันเป็นระยะเตม็ เสียง หรอื หน่ึงเสียง บันไดเสียงไมเนอร์ได้จากการนําโน้ตขั้นท่ี 6 ของบันไดเสียงเมเจอร์ มาต้ังเป็น โน้ตขน้ั ที่ 1 มรี ะยะครึ่งเสยี งระหวา่ งโน้ตขน้ั ที่ 2 - 3 และ 5 - 6 นอกนัน้ เป็นระยะเต็มเสยี ง ระยะหา่ งระหวา่ งโนต้ ในบันไดเสียงเป็นโครงสรา้ งทีบ่ ่งบอกชนดิ ของบนั ไดเสยี ง บันไดเสยี ง C เมเจอร บันไดเสียง A ไมเนอร โครงสร้าง 1 2 3 4 5 6 7 8 12345678 โนต้ C D E F G A B C ABCDEFGA จะสงั เกตเหน็ วา่ ทง้ั บนั ไดเสียงเมเจอรแ์ ละบันไดเสียงไมเนอรม์ ีโนต้ เหมอื นกัน ตา่ งกนั ทโ่ี น้ตเริ่มตน้ ดงั น้ันจงึ ทําให้ระยะห่างของเสียงในโครงสร้างบันไดเสยี งแตกต่างกนั ดว้ ย บนั ไดเสียง C เมเจอร์ เปน็ ตน้ แบบของบันไดเสยี งเมเจอร์ และบนั ไดเสียง A ไมเนอร์ เป็นต้นแบบของบันไดเสียงไมเนอร์ เพราะเป็นบันไดเสียงที่ไม่ติดเคร่ืองหมายแปลงเสียง เน่ืองจากระยะห่างระหว่างโน้ต E - F และ B - C มีระยะห่างคร่ึงเสียงโดยปกติอยู่แล้ว ซึ่ง สามารถสร้างบันไดเสียงเมเจอร์ หรือบันไดเสียงไมเนอร์อ่ืน ๆ ได้โดยการปรับระยะห่างของ โน้ตดว้ ยเครื่องหมายแปลงเสียง เพอื่ ใหม้ โี ครงสร้างตามชนิดของบนั ไดเสยี งนนั้ ๆ ดังนนั้ จงึ เกดิ บันไดเสียง 2 กลมุ่ คอื กลมุ่ ทส่ี รา้ งโดยใช้เครือ่ งหมายชาร์ป เรยี กวา่ บนั ไดเสยี งทางชารป และ กลุ่มทส่ี รา้ งโดยใชเ้ ครอ่ื งหมายแฟล็ต เรยี กว่า บันไดเสยี งทางแฟล็ต ดงั นี้ 1. บนั ไดเสยี งทางชาร์ป จะเรม่ิ ต้นโนต้ ขนั้ ที่ 5 ของบันไดเสยี งกอ่ นหน้าเปน็ วงจรไปเรอื่ ย ๆ บันไดเสียงเมเจอร์ บันไดเสียงไมเนอร์ โครงสรา ง 1 2345 67 8 โครงสรา ง 1 2 3 4 5 6 7 8 G เมเจอร์ G A B C D E F# G E ไมเนอร์ E F# G A B C D E D เมเจอร์ D E F# G A B C# D B ไมเนอร์ B C# D E F# G A B A เมเจอร์ A B C# D E F# G# A F# ไมเนอร์ F# G# A B C# D E F# E เมเจอร์ E F# G# A B C# D# E C# ไมเนอร์ C# D# E F# G# A B C# B เมเจอร์ B C# D# E F# G# A# B G# ไมเนอร์ G# A# B C# D# E F# G# F# เมเจอร์ F# G# A# B C# D# E# F# D# ไมเนอร์ D# E# F# G# A# B C# D# C# เมเจอร์ C# D# E# F# G# A# B# C# A# ไมเนอร์ A# B# C# D# E# F# G# A# Guitar Scales 11

ความรเู รอื่ งบนั ไดเสยี ง 2. บนั ไดเสยี งทางแฟลต็ จะเรมิ่ ตน้ โนต้ ข้นั ท่ี 4 ของบนั ไดเสียงกอ่ นหน้าเปน็ วงจรไปเรื่อยๆ บันไดเสียงเมเจอร์ บันไดเสยี งไมเนอร์ โครงสราง 1 2 3 4 5 6 7 8 โครงสราง 1 2 3 4 5 6 7 8 F เมเจอร์ F G A Bb C D E F D ไมเนอร์ D E F G A Bb C D Bb เมเจอร์ Bb C D Eb F G A Bb G ไมเนอร์ G A Bb C D Eb F G Eb เมเจอร์ Eb F G Ab Bb C D Eb C ไมเนอร์ C D Eb F G Ab Bb C Ab เมเจอร์ Ab Bb C Db Eb F G Ab F ไมเนอร์ F G Ab Bb C Db Eb F Db เมเจอร์ Db Eb F Gb Ab Bb C Db Bb ไมเนอร์ Bb C Db Eb F Gb Ab Bb Gb เมเจอร์ Gb Ab Bb Cb Db Eb F Gb Eb ไมเนอร์ Eb F Gb Ab Bb Cb Db Eb Cb เมเจอร์ Cb Db Eb Fb Gb Ab Bb Cb Ab ไมเนอร์ Ab Bb Cb Db Eb Fb Gb Ab เครือ่ งหมายประจาํ กุญแจเสียง เครื่องหมายประจํากุญแจเสียง คือ จํานวนของชาร์ปหรือแฟล็ตท่ีใช้ในบันไดเสียง ถ้าตอ้ งการบอกให้รู้วา่ เพลงน้ันใชบ้ ันไดเสยี งใด มโี นต้ ตวั ใดบา้ งทต่ี ดิ ชารป์ ติดแฟล็ต หรือมคี อร์ด อะไรบ้าง ให้เรียกเป็นช่ือ กุญแจเสียง (Key) เช่น เพลงท่ีนําโน้ตของบันไดเสียง G เมเจอร์ ไปใช้เรยี กว่า เพลงในกุญแจเสียง G เมเจอร มโี นต้ ติดชาร์ป 1 ตัว คอื F# หรือ เพลงที่นําโนต้ ของบันไดเสียง G ไมเนอร์ ไปใช้เรียกว่า เพลงในกุญแจเสียง G ไมเนอร มีโน้ตติดแฟล็ต 2 ตวั คอื Bb Eb เปน็ ต้น กุญแจเสยี งใช้ชอื่ เรียกเหมือนกับบันไดเสียง กุญแจเสียงทางแฟล็ต โนต้ ทต่ี ิดแฟล็ต กญุ แจเสยี งทางชาร์ป โน้ตทต่ี ิดชารป์ F เมเจอร์ G เมเจอร์ D ไมเนอร์ Bb E ไมเนอร์ F# Bb เมเจอร์ Bb Eb D เมเจอร์ F# C# G ไมเนอร์ B ไมเนอร์ Eb เมเจอร์ A เมเจอร์ C ไมเนอร์ Bb Eb Ab F# ไมเนอร์ F# C# G# Ab เมเจอร์ Bb Eb Ab Db E เมเจอร์ F# C# G# D# F ไมเนอร์ C# ไมเนอร์ Db เมเจอร์ B เมเจอร์ Bb ไมเนอร์ Bb Eb Ab Db Gb G# ไมเนอร์ F# C# G# D# A# Gb เมเจอร์ Bb Eb Ab Db Gb Cb F# เมเจอร์ F# C# G# D# A# E# Eb ไมเนอร์ D# ไมเนอร์ Cb เมเจอร์ C# เมเจอร์ Ab ไมเนอร์ Bb Eb Ab Db Gb Cb Fb A# ไมเนอร์ F# C# G# D# A# E# B# 12 บันไดเสยี งกตี าร

Scale Knowledge คอรด ในกุญแจเสยี งเมเจอร และกุญแจเสียงไมเนอร เมเจอร์ ไมเนอร์ กุญแจเสียงเนเชอรัล (§) ไม่มี b ไม่มี # C Dm Em F G Am Bdim กญุ แจเสียงทางแฟล็ต กญุ แจเสียงทางชาร์ป เมเจอร์ ไมเนอร์ เมเจอร์ ไมเนอร์ 1b F Gm Am Bb C Dm Edim 1# G Am Bm C D Em F#dim 2b Bb Cm Dm Eb F Gm Adim 2# D Em F#m G A Bm C#dim 3b Eb Fm Gm Ab Bb Cm Ddim 3# A Bm C#m D E F#m G#dim 4b Ab Bbm Cm Db Eb Fm Gdim 4# E F#m G#m A B C#m D#dim 5b Db Ebm Fm Gb Ab Bbm Cdim 5# B C#m D#m E F# G#m A#dim 6b Gb Abm Bbm Cb Db Ebm Fdim 6# F# G#m A#m B C# D#m E#dim 7b Cb Dbm Ebm Fb Gb Abm Bbdim 7# C# D#m E#m F# G# A#m B#dim บันไดเสียงเมเจอร์และบันไดเสียงไมเนอร์ มีอยู่ 15 กุญแจเสียง ได้แก่ กุญแจเสียง เนเชอรัล 1 กุญแจเสียง ทางแฟล็ต 7 กุญแจเสียง และทางชาร์ป 7 กุญแจเสียง มีเสียงที่ แตกต่างกันจริง ๆ 12 กุญแจเสียง และมีเสียงเหมือนกัน 3 กุญแจเสียง คือ Db (หรือ Bbm) เหมือนกับ C# (หรอื A#m) Gb (หรือ Ebm) เหมอื นกบั F# (หรือ D#m) และ Cb (หรือ Abm) เหมือนกบั B (หรือ G#m) ท้ังกญุ แจเสียงเมเจอรแ์ ละกุญแจเสยี งไมเนอรใ์ ชก้ ลมุ่ คอร์ดเดียวกนั กุญแจเสียงเมเจอร์และกุญแจเสียงไมเนอร์ท่ีมีจํานวนชาร์ป หรือแฟล็ตเท่ากัน เรียกวา่ กญุ แจเสยี งรว ม (Relative key) เช่น C เปน็ กุญแจเสยี งรว่ มกับ Am หรอื Am เป็นกุญแจเสียงรว่ มกบั C F เปน็ กญุ แจเสยี งรว่ มกับ Dm หรอื Dm เป็นกญุ แจเสียงร่วมกบั F G เปน็ กุญแจเสยี งร่วมกบั Em หรอื Em เปน็ กญุ แจเสยี งรว่ มกบั G Bb เป็นกญุ แจเสยี งรว่ มกับ Gm หรอื Gm เปน็ กญุ แจเสยี งร่วมกบั Bb D เปน็ กุญแจเสียงรว่ มกับ Bm หรือ Bm เปน็ กญุ แจเสยี งรว่ มกับ D เปน็ ต้น หนังสือเล่มน้ีได้จัดเรียงบันไดเสียงตามกุญแจเสียง โดยหน้ากระดาษด้านซ้ายมือ เปน็ กญุ แจเสียงทางแฟล็ต เริม่ ตงั้ แต่ 1 แฟล็ต จนถึง 7 แฟล็ต และหน้ากระดาษดา้ นขวามือ เป็นกุญแจเสียงทางชาร์ป เริ่มต้ังแต่ 1 ชารป์ จนถงึ 7 ชาร์ป สว่ นโมดจะแสดงการนาํ โมด ไปใชก้ บั คอรด์ ในกญุ แจเสยี งเมเจอร์และไมเนอรท์ กุ กุญแจเสียง สว่ นบนั ไดเสียงอน่ื ๆ จะแสดง รปู แบบการไล่น้วิ เฉพาะกญุ แจเสียงท่ีเปน็ ตน้ แบบเทา่ น้ัน Guitar Scales 13

มRigือhขt วHaาnd i ma p มือขวาใช้สําหรับดีดสายกีตาร์ ซึ่งมีวิธีการดีดอยู่ 2 แบบ คือ มอื ขวา 1. การใชน้ ิว้ ดดี ให้ใชน้ ้ิวหัวแมม่ อื นว้ิ ช้ี นว้ิ กลาง ดดี พกั และนิ้วนาง (ยกเว้นนิ้วก้อย) ดีดสายกีตาร์ ซึ่งมีลักษณะ การดดี อยู่ 2 ลกั ษณะคอื ดีดพัก จะใชน้ ว้ิ กดลงบนสายกตี าร์ ดีดผาน แล้วดีด และพักนิ้วบนสายที่อยู่ถัดขึ้นมา นิยมนําไปใช้ใน การจับปค การเล่นบันไดเสียงหรือโซโลกีตาร์ และการดีดอีกลักษณะ หน่ึงคือ ดีดผาน จะใช้น้ิวเก่ียวสายกีตาร์แล้วดีด โดยไม่มี การพกั นวิ้ บนสายทอ่ี ยถู่ ดั ขน้ึ มา นยิ มนาํ ไปใชใ้ นการเกากตี าร์ อักษรย่อ แทนนวิ้ มอื ขวา p = นว้ิ หวั แมม่ ือ i = นวิ้ ชี้ m = นิว้ กลาง a = นวิ้ นาง 2. การใช้ปคดีด การเล่นกีตาร์ไฟฟานิยมใช้ ปคดีดโดยจับปคด้วยนิ้วหัวแม่มือกับน้ิวชี้ วางปลายแหลม ของปคอยู่ใกล้กับปลายน้ิวช้ี และควรให้ปคทํามุมกับสาย กีตาร์เล็กน้อย เวลาดีดให้ดีดลงดีดขึ้นสลับกันไปลักษณะ เหมือนกับวาดวงกลม โดยเคลื่อนไหวข้อมือกับน้ิวหัวแม่มือ พร้อมกันไปด้วยเพื่อเพ่ิมความเร็ว ไม่ควรเคล่ือนไหวทั้งแขน ส่วนปลายของปคไม่ควรตํ่ากว่าระดับสายและให้ปคกับสาย กระทบกันน้อยท่ีสุดเท่าที่จะทําได้ เพ่ือไม่ให้เกิดเสียงแตก และทําให้เสียงชดั เจนน่าฟง สญั ลกั ษณ์แทนการใช้ปคดีด  = ดดี ลง  = ดีดขึ้น 14 บนั ไดเสียงกีตาร

32 1 Lมeอืft ซHaา nยd 4 มือซ้ายใช้สําหรับกดสายกีตาร์ ในช่องเฟร็ตแต่ละ มอื ซาย ช่องเพื่อเปลี่ยนเสียงหรือโน้ต ถ้าเล่ือนมือเข้าหาตัวกีตาร์ จะได้โน้ตเสียงสูง ถ้าเล่ือนออกจะได้โน้ตเสียงตํ่า สายกีตาร์ นิว้ และมอื โคง เปน ธรรมชาติ แตล่ ะเส้นหรอื เฟรต็ กีตาร์แตล่ ะช่องจะมีโนต้ กาํ กบั อยู่ นิ้วอยูในลกั ษณะเตรียมพรอม ลักษณะการจับของมือซ้ายจะมีผลสะท้อนไปถึง ความยากง่ายในการเล่นด้วย ดังนั้นควรจับกีตาร์ให้ถูกต้อง กดน้วิ ไลก นั ไปไมยกนิ้ว โดยปลอ่ ยมือให้เปน็ ธรรมชาติ ไม่เกร็งหรอื ฝนธรรมชาติ นิ้วหัวแม่มือจับตําแหน่งก่ึงกลางของคอกีตาร์ เยื้อง ๆ กับเฟร็ตแรก นิ้วชี้กดลงบนช่องแรกใกล้กับเฟร็ต ให้น้ิวโค้งเป็นธรรมชาติ ส่วนนิ้วท่ีเหลือให้กางนิ้วอยู่เหนือ เฟร็ตนิ้วละเฟร็ตในลักษณะเตรียมพร้อมสามารถกดได้ทันที การกดน้ิวแต่ละครั้งให้ใช้แรงกดเพียงเล็กน้อย ไม่ควรกด แรงมากเกนิ ไปเพราะจะทําใหเ้ กดิ อาการเกร็ง เล่นไม่คล่อง ถ้ากดน้ิวช้ีบนช่องที่ 1 แล้วเม่ือกดนิ้วกลางบน ช่องที่ 2 ให้กดน้ิวช้ีค้างไว้ที่เดิมไม่ต้องยกออก หรือถ้ากด น้ิวนางบนช่องท่ี 3 น้ิวชี้กับนิ้วกลางไม่ต้องยกออก หรือถ้า กดนิ้วก้อยบนช่องท่ี 4 นิ้วชี้ น้ิวกลาง และนิ้วนางก็ไม่ต้อง ยกออกเช่นกัน แต่ถ้ากดสายต่างกันให้ยกนิ้วได้เพื่อไม่ให้ นว้ิ ไปติดสายท่กี าํ ลังดดี อยู่ การเล่นบันไดเสียงบางคร้ังจะมีเฟร็ตเกิน 4 ช่อง ทําให้ไม่สามารถใช้นิ้วทั้ง 4 กดได้ครบ ก็ให้ยืดนิ้วชี้ หรือ น้วิ กอ้ ยกด 2 ช่องได้ แล้วแตก่ รณี ตวั เลข แทนน้ิวมือซา้ ย 1 = น้ิวชี้ 2 = นิ้วกลาง 3 = นิ้วนาง 4 = นว้ิ กอ้ ย Guitar Scales 15

แExบerบcisฝeก 1ที่ 1 แบบฝกท่ี 1 ฝก ความพร้อมของมอื ซ้ายและมอื ขวา นว้ิ ดีด i m i m i m i m i m i m i m i m ปคดีด                 น้วิ กด 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 etc. มือขวา (ใชน้วิ ดีด) imim imim imim imim imim มือขวา (ใชปคดีด) มอื ซา ย (นิว้ กด)      1234 4321 4231 1342 2431 2341 3214 2314 3421 4312 3412 2143 3142 4213 3124 4123 1432 1423 2134 1243 แบบฝกท่ี 1 เป็นแบบฝกเตรียมความพร้อมของน้ิวมือซ้ายและมือขวา การดีด ด้วยนิ้วมือขวาให้ใช้แค่น้ิวชี้ (i) กับน้ิวกลาง (m) ดีดแบบพักสายสลับกันไปด้วยจังหวะคงที่ สม่ําเสมอตามเครื่องเคาะจังหวะ โดยเริ่มเล่นในจังหวะช้า ๆ ก่อนจนเกิดความคล่องตัวแล้วจึง ฝกดว้ ยจังหวะท่ีเรว็ ขึ้น ถ้าใชป้ ค ดีดใหด้ ีดลง () และดีดขึ้น () สลบั กันไปไม่มีการดีดซา้ํ ลง ลง ข้นึ หรอื ขึ้น ข้ึน ลง และให้ระวังในช่วงทีม่ กี ารเปลยี่ นสายควรดีดสลับลงข้นึ ให้ต่อเนอื่ งกนั ไป ตลอดอย่าให้ผิดพลาด ส่วนมือซ้ายให้ใช้นิ้วกดสายลงบนช่องเฟร็ตนิ้วละช่องเรียงตามลําดับจากนิ้วชี้ (1) น้ิวกลาง (2) นิ้วนาง (3) และน้ิวก้อย (4) ตรงตําแหน่งช่อง 1 2 3 4 ตามลําดับบนสาย เดยี วกนั ซ่งึ นวิ้ มอื ซ้ายมีแบบการฝก น้ิวอยู่ 20 แบบ แตล่ ะแบบให้เริ่มต้นบนสายที่ 6 โดย ฝกดีด (ใหเ้ ลอื กใช้นิ้วดดี หรือปคดีดกไ็ ด้อยา่ งใดอยา่ งหนง่ึ ) พร้อมกับกดนว้ิ 1 2 3 4 บนชอ่ งที่ 1 2 3 4 แล้วเปลย่ี นไปสายท่ี 5 สายที่ 4 สายที่ 3 สายท่ี 2 และสายที่ 1 ตามลาํ ดบั แล้วกลับ มาสายท่ี 2 สายที่ 3 สายที่ 4 สายที่ 5 และมาจบท่สี ายที่ 6 ให้ฝก จนคล่องแล้วจึงเปลยี่ น เปน็ แบบ 2 คอื 2 3 4 1 (มอื ดีดเหมือนเดมิ ) แบบ 3 และแบบ 4 สาํ หรับนักกตี าร์มือใหม่ ถา้ นิ้วมือซา้ ยและมอื ขวาประสานสมั พันธ์กนั อยา่ งดแี ล้วกใ็ หฝ้ กจนครบทงั้ 20 แบบ 16 บนั ไดเสียงกตี าร

แบบExฝerก cทise่ี 22 แบบฝก ท่ี 2 ฝกเล่นบันไดเสียงพ้ืนฐาน 1. ฝก บนั ไดเสียง C เมเจอร์ ทงั้ ขาขน้ึ และขาลง (เฟร็ตท่ี 3) 1 34 1 31 3 1,1 3,3 4,4 12 4 1 34 12 4 12 4 12 4 1 2 4 12 4 12 4 1 2 4 1 2,1 4,2 124 3fr. 5fr. 7fr. ห1ร,ือ1 9fr. 2,1 142,f3r. 4 41 2 4 15fr. 17fr. 19fr. 21fr. นิ้วดดี i m i m ปค ดดี     2. ฝก บนั ไดเสยี ง C เมเจอร์ ท้งั ขาขึน้ และขาลง (เฟร็ตท่ี 8) นิ้วดดี i m i m ปคดีด     เมอื่ ฝก บันไดเสยี ง C เมเจอร์ ในแบบฝกที่ 2 ได้แล้วกใ็ หฝ้ กบันไดเสยี งอ่ืน ๆ อีก ตาม หนงั สือเลม่ นี้ ซง่ึ ไดจ้ ัดเรยี งลําดบั บนั ไดเสียงไว้จากงา่ ยไปหายาก เมอ่ื ฝก บนั ไดเสยี ง C เมเจอร์ ได้แล้วก็สามารถฝกบันไดเสียงเมเจอร์ในกุญแจเสียงอ่ืน ๆ ได้โดยไม่ยากนัก เพราะลักษณะ การใช้ทางนวิ้ จะเหมือนกัน ตา่ งกันเฉพาะตาํ แหน่งโน้ตเร่มิ ต้นเทา่ น้นั Guitar Scales 17

แExบerบcisฝeก3ที่ 3 แบบฝก ท่ี 3 ฝกบันไดเสยี งท้ัง 5 ทางนวิ้ ใหฝ้ กไล่เสยี งขึ้น - ลง ฝก ไลอ่ าร์เปโจ (Arpeggio) และตามด้วยคอรด์ จนครบทัง้ 5 ทางน้วิ ตามตัวอยา่ งบนั ไดเสยี ง C เมเจอร์ บนั ไดเสยี ง C เมเจอร อารเ ปโจ C คอรด C 12 4 1 1 24 1 1 1 34 ทางนว้ิ 1 1 34 2 2 12 4 3 4 7f1r. 2 4 3 13 7fr. 2 7fr. 1 ทางนว้ิ 2 1 34 3 3 1 34 4 4 13 124 3 3 11 32 4 4 14 1 10fr. 13 1 10fr. 10fr. ทางนิ้ว 3 12 4 14 1 12 4 2 2 13 1 34 1 1 1 34 3 3 12 4 4 4 12fr. 121fr. 4 12fr. 13 2 1 1 34 1 4 1 4 1 34 4 2fr. 1 3 ทางนว้ิ 4 12 4 2 4 2 12 4 2fr. 2 2fr. 2 4 ทางนว้ิ 5 1 34 4 4 12 4 14 1 13 1 1 124 1 1 1 34 5f1r. 3 4 3 3 5fr. 4 5fr. 4 18 บันไดเสยี งกีตาร

แบบExฝerกcทiseี่ 44 แบบฝก ท่ี 4 ฝกเลน่ เชอ่ื มทางน้วิ เมื่อฝกบันไดเสียงในแบบฝกท่ี 3 จนครบท้ัง 5 ทางน้ิวแล้ว ต่อไปให้ฝกเล่นเช่ือม ทางนิ้วให้ต่อเน่ืองกัน โดยการไล่เสียงขึ้นตามทางน้ิวแรกต้ังแต่สายท่ี 6 จนถึงสายท่ี 1 แล้ว เล่ือนตําแหน่งทางนิ้วขึ้นเป็นทางนิ้วถัดไปและไล่เสียงลงจากสายท่ี 1 จนถึงสายท่ี 6 จากนั้น เปลี่ยนเป็นทางนิ้วถัดไปอีกไล่เสียงข้ึน แล้วเลื่อนตําแหน่งทางนิ้วขึ้นเป็นทางนิ้วถัดไป และไล่ เสียงลง ฝกไปจนครบทกุ ทางนิ้วและควรฝก เช่นน้ใี นทกุ ๆ บนั ไดเสยี งและครบทุกกญุ แจเสียง ฝก ซาํ้ ๆ หลาย ๆ ครง้ั เพ่อื ใหเ้ กิดทักษะความชํานาญ ตวั อยา่ งข้างลา่ งนเ้ี ป็นการฝกเชอื่ มทางน้วิ บันไดเสียงเมเจอร์ ในกุญแจเสียง C จะเร่มิ ตน้ ไลเ่ สยี งขึน้ ด้วยทางนิว้ 4 ก่อน (เพราะเปน็ ทางน้ิวทอี่ ยู่ดา้ นนอกสุด ดังน้ันแต่ละกุญแจเสียง จะใช้ทางนิ้วเร่ิมต้นไม่เหมือนกัน) แล้วเลื่อนตําแหน่งเป็นทางน้ิว 5 และไล่เสียงลง จากนั้นให้ เปลี่ยนเป็นทางนิ้ว 1 และไล่เสยี งข้นึ แล้วเล่อื นตาํ แหนง่ เปน็ ทางน้ิว 2 และไลเ่ สียงลง แลว้ เลือ่ น ตาํ แหน่งอกี เปน็ ทางนิ้ว 3 และไล่เสียงขึน้ imim  ทางนิ้ว 4 ทางนว้ิ 5 ทางน้วิ 1 ทางน้วิ 2 ทางนวิ้ 3 Guitar Scales 19

แExบerบcisฝeก 5ที่ 5 แบบฝกท่ี 5 ฝกเล่นบันไดเสยี งแบบซํ้า 4 โนต้ 1. ฝกบนั ไดเสียง C เมเจอร์ (เฟร็ตที่ 3) ในช่วงขาขนึ้ เป็นรปู แบบไลเ่ สียงข้นึ ไป 4 โน้ต แล้วกลับลงมา 3 โน้ตวนซํ้าไปเร่ือย ๆ โดยโน้ตตัวแรกของแต่ละกลุ่มจะไล่เรียงลําดับตามโน้ต ของบันไดเสยี ง ในช่วงขาลงเปน็ รปู แบบไลเ่ สียงลงมา 4 โนต้ แลว้ กลับขน้ึ ไป 3 โนต้ 2. ฝกบันไดเสียง C ไมเนอร์ (เฟร็ตที่ 3) มีโน้ตติดแฟล็ต 3 ตัว คือ Bb Eb Ab รูปแบบการเล่นเหมือนกับบันไดเสียงเมเจอร์ ติดแฟล็ตโน้ตเพียง 2 ตัว คือ Eb Ab ส่วนโน้ต Bb ถูกยกเสียงขึ้นครึง่ เสียงใหเ้ ปน็ โน้ตปกติ ซง่ึ เป็นโครงสรา้ งของบันไดเสยี งฮาร์โมนกิ ไมเนอร์ 20 บันไดเสยี งกตี าร

แบบExฝerก cทiseี่ 66 แบบฝก ที่ 6 ฝก เลน่ บนั ไดเสยี งแบบซา้ํ 3 โน้ต 1. ฝก บนั ไดเสยี ง C เมเจอร์ (เฟร็ตท่ี 3) ในช่วงขาข้ึนเปน็ รปู แบบไลเ่ สยี งขึน้ ไป 3 โนต้ แล้วกลับลงมา 2 โน้ตวนซ้ําไปเร่ือย ๆ โดยโน้ตตัวแรกของแต่ละกลุ่มจะไล่เรียงลําดับตามโน้ต ของบันไดเสยี ง ในช่วงขาลงเปน็ รปู แบบไลเ่ สียงลงมา 3 โน้ต แลว้ กลับขน้ึ ไป 2 โนต้ 3 5 7 5 7 3 7 3 5 3 5 7 57 4 7 4 5 45 7 5 7 5 7 5 6 5 6 8 6 8 5 8 5 7 5 7 8 7 5 8 5 8 6 8 6 565 7 57 5 7 5 45 4 7 4 757 5 3 5 3 73 75 7 5 35 3 2 3 2. ฝกบันไดเสียง C ไมเนอร์ (เฟร็ตท่ี 3) มีโน้ตติดแฟล็ต 3 ตัว คือ Bb Eb Ab รูปแบบการเล่นเหมือนกับบันไดเสียงเมเจอร์ ติดแฟล็ตโน้ตเพียง 2 ตัว คือ Eb Ab ส่วนโน้ต Bb ถกู ยกเสียงขน้ึ ครึ่งเสียงให้เป็นโน้ตปกติ ซ่งึ เปน็ โครงสร้างของบันไดเสยี งฮาร์โมนกิ ไมเนอร์ 3 5 65 6 36 3 5 3 5 65 64 6 4 5 4 5 7 5 7 4 7 4 6 4 6 8 6 84 8 4 7 47 8 7 4 84 8 6 86 46 4 74 757 5 45 4 6 4 6 5 6535 3 63 6 5 65 35 3 2 3 Guitar Scales 21

แExบerบcisฝeก 7ที่ 7 แบบฝก ที่ 7 ฝกเลน่ โน้ตขนั้ คสู่ ามในบันไดเสียง 1. ฝก เล่นโนต้ ขนั้ คสู่ ามในบนั ไดเสยี ง C เมเจอร์ (เฟร็ตท่ี 3) โดยปกตแิ ลว้ โนต้ ของ บันไดเสียงแต่ละขั้นจัดเรียงกันเป็นขั้นคู่สองตลอด ถ้าเล่นโน้ตขั้นที่ 1 แล้วข้ามไปโน้ตข้ันที่ 3 เรียกวา่ โน้ตข้นั คูส่ าม เชน่ C - E, D - F, E - G, F - A เปน็ ต้น รปู แบบการฝกจะเปน็ การเล่น ขา้ มโน้ตเปน็ ขน้ั คสู่ ามแล้ววกกลบั มาเล่นโนต้ ทตี่ ํ่าลงมาหนง่ึ ขั้นสลับกนั ไปเรอ่ื ย ๆ 2. ฝกเล่นโนต้ ขัน้ คสู่ ามในบันไดเสยี ง C ไมเนอร์ (เฟรต็ ที่ 3) มโี น้ตตดิ แฟลต็ 3 ตัว คอื Bb Eb Ab ใชร้ ปู แบบการเลน่ เหมือนกับบนั ไดเสยี งเมเจอร์ แตม่ โี นต้ ติดแฟล็ตเพยี ง 2 ตวั คือ Eb Ab สว่ นโนต้ Bb ถูกยกเสียงข้นึ ครึ่งเสยี งให้เปน็ โนต้ B§ หรอื โน้ตปกติ 22 บนั ไดเสียงกตี าร

แบบExฝerกcทise่ี 88 แบบฝก ที่ 8 ฝกเล่นอารเ์ ปโจ และบนั ไดเสียงตามคอร์ด 1. แบบฝก นใี้ ช้ทางนิ้วของบนั ไดเสียง C เมเจอร์ (เฟร็ตที่ 3) เลน่ รูปแบบผสมระหวา่ ง อาร์เปโจ ซ่ึงเป็นเทคนิคการเล่นคอร์ดทีละโน้ต กับบันไดเสียงโดยฝกไล่เสียงขึ้นเป็นแบบ อาร์เปโจตามคอร์ด และไลเ่ สียงลงเปน็ แบบบันไดเสียง Cmaj7 Dm7 Em7 Fmaj7 G7 Am7 Bm7b5 C 2. ฝก รปู แบบผสมระหว่างอารเ์ ปโจ กบั บันไดเสยี ง ในบนั ไดเสยี ง G เมเจอร์ ทางน้ิว จะเปลย่ี นไปตามคอร์ดในบันไดเสียง Gmaj7 Am7 Bm7 Cmaj7 D7 Em7 F#m7b5 G Guitar Scales 23

ISบBNนั ไ9ด7เ4ส-ยี91ง9ก3ีต0า-ร2์-4 ราคา 85 บาท