5เรื่องที่คุณอาจใช้ยา “พาราเซตามอล” แบบผิดๆ โดยไม่รู้ตัว โดย ห้องสมุดประชาชนอำเภอถลาง ห้อ ง ส มุ ด ป ร ะ ช า ช น อำ เ ภ อ ถ ล า ง จัง ห วัด ภูเ ก็ ต
ยาพาราเซตามอลมีข้อบ่งชี้ในการช่วยบรรเทาอาการปวด ลดไข้ สำหรับเด็กและผู้ใหญ่ จัดเป็นยาสามัญประจำบ้านที่ทุกคนสามารถ เข้าถึงได้ง่าย หลักการใช้ที่ปลอดภัยควรเป็นอย่างไร? วันนี้ห้องสมุดประชาชนอำเภอถลางมีข้อมูลจาก คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มาฝากเพื่อนๆทุกคนกันครับ :-) ห้องสมุดประชาชนอำเภอถลาง ห้อ ง ส มุ ด ป ร ะ ช า ช น อำ เ ภ อ ถ ล า ง จัง ห วัด ภูเ ก็ ต
ห้อ ง ส มุ ด ป ร ะ ช า ช น อำ เ ภ อ ถ ล า ง จัง ห วัด ภูเ ก็ ต 1. กินยาพาราเซตามอลมากเกินความจำเป็น การจะกินยาพาราเซตามอลกี่เม็ด ไม่ได้อยู่ที่ “วัย” แต่เพียงอย่างเดียว แต่อยู่ที่ “น้ำหนักตัว” ขนาดยาพาราเซตามอลที่เหมาะสมกับร่างกายของเราอยู่ที่ 10-15 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ยาเม็ดขนาด 325 มิลลิกรัม น้ำหนักตัว 22-33 กิโลกรัม รับประทานยาพาราเซตามอล 1 เม็ด น้ำหนักตัว 33-44 กิโลกรัม รับประทานยาพาราเซตามอล 1 เม็ดครึ่ง น้ำหนักตัวมากกว่า 44 กิโลกรัม รับประทานยาพาราเซตามอล 2 เม็ด ยาเม็ดขนาด 500 มิลลิกรัม น้ำหนักตัว 34-50 กิโลกรัม รับประทานยาพาราเซตามอล 1 เม็ด น้ำหนักตัว 50-67 กิโลกรัม รับประทานยาพาราเซตามอล 1 เม็ดครึ่ง (ไม่เกินวันละ 5 ครั้ง) น้ำหนักตัวมากกว่า 67 กิโลกรัม รับประทานยาพาราเซตามอล 2 เม็ด (ไม่เกินวันละ 4 ครั้ง) โดยรวม 1 วัน ไม่ควรกินเกิน 4,000 มิลลิกรัมต่อวัน การกินยาพาราซตามอลเกินความ จำเป็น อาจส่งผลให้ดื้อยาในภายหลังได้
ห้อ ง ส มุ ด ป ร ะ ช า ช น อำ เ ภ อ ถ ล า ง จัง ห วัด ภูเ ก็ ต 2.กินยาพาราเซตามอลในระยะเวลาใกล้กันเกินไป ยาพาราเซตามอล ควรกินห่างกัน 4-6 ชั่วโมง ดังนั้นหากระยะเวลาผ่านไปเพียง 2-3 ชั่วโมง อย่าเพิ่งหยิบมากินอีก และไม่จำเป็นต้องกินหลังอาหาร เมื่อไรก็ตามที่มี อาการปวด มีไข้ สามารถกินได้เลย
ห้อ ง ส มุ ด ป ร ะ ช า ช น อำ เ ภ อ ถ ล า ง จัง ห วัด ภูเ ก็ ต 3.กินยาพาราเซตามอล ติดต่อกันนานเกินไป หลายคนอาจรักษาอาการไข้หวัดด้วยตนเองอยู่ที่บ้าน จึงกินยาพาราเซตามอลเพื่อ ลดอาการปวดศีรษะ ลดไข้เอง แต่ไม่ควรกินยาพาราเซตามอลติดต่อกันเกิน 5 วัน หาก 5 วันผ่านไปแล้วอาการไข้ยังไม่ดีขึ้น ยังมีไข้หลังยาหมดฤทธิ์ตลอดทุกวัน ควรไปพบ แพทย์เพื่อเข้ารับการวินิจฉัยโรคอย่างละเอียดจะดีกว่า
ห้อ ง ส มุ ด ป ร ะ ช า ช น อำ เ ภ อ ถ ล า ง จัง ห วัด ภูเ ก็ ต 4.ผู้ป่วยโรคตับ โรคไต ควรปรึกษาแพทย์ ก่อนกินยาพาราเซตามอล แม้ว่ายาพาราเซตามอลจะเป็นหนึ่งในยาแก้ปวดลดไข้ที่ปลอดภัยที่สุดตัวหนึ่ง แต่ยาพาราเซตามอลอาจมีผลข้างเคียงต่อผู้ป่วยโรคตับ โรคไตได้ โดยการรับประทานยา พาราเซตามอลอาจยิ่งเพิ่มโอกาสอาการเกิดภาวะตับเป็นพิษ และอาการตับวายเฉียบพลัน ได้ ดังนั้นผู้ป่วยโรคไต และโรคตับ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนกิน โดยแพทย์อาจพิจารณา ความเสี่ยง หรือพิจารณาให้ยาแก้ปวดชนิดอื่นแทน
ห้อ ง ส มุ ด ป ร ะ ช า ช น อำ เ ภ อ ถ ล า ง จัง ห วัด ภูเ ก็ ต 5.ห้ามกินยาพาราเซตามอล “ดัก” ไว้ก่อน ยาพาราเซตามอล เป็นยาที่กินเมื่อมีอาการเท่านั้น หากไม่มีอาการไม่ควรกิน เช่น ความเชื่อในเรื่องของการกินยาพาราเซตามอลดักเอาไว้ก่อนที่จะออกไปโดนฝน หรือทำ กิจกรรมที่เสี่ยงต่อการเป็นไข้หวัด ซึ่งเป็นความผิดที่ผิด เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงในการ ดื้อยาได้
ข้อควรระวัง หากใช้ยาแล้วไข้ไม่ลดภายใน 3 วัน ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ หรืออาการปวดในเด็ก ในการรับประทานยา ไม่บรรเทาภายใน 5 วัน หรืออาการปวดของผู้ใหญ่ไม่บรรเทาใน 10 วันให้ไปพบ พาราเซตามอล แพทย์ เนื่องจากอาจเป็นอาการของโรคร้ายแรงได้ ระมัดระวังการใช้พาราเซตามอลร่วมกับยาชนิดอื่ นที่มียาพาราเซตามอลเป็นส่วน ประกอบ เช่น ยาคลายกล้ามเนื้อที่มีส่วนผสมระหว่างยาพาราเซตามอลและออร์เฟ นาดรีน (orphenadrine) เก็บยาในที่แห้ง พ้นจากแสง ความร้อน และเก็บยาให้พ้นจากมือเด็ก ห้อ ง ส มุ ด ป ร ะ ช า ช น อำ เ ภ อ ถ ล า ง จัง ห วัด ภูเ ก็ ต
ขอขอบคุณข้อมูลจาก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล , โรงพยาบาลราชวิถี , https://www.sanook.com/health/30205/ ห้ อ ง ส มุ ด ป ร ะ ช า ช น อำ เ ภ อ ถ ล า ง จ ง ห วัด ภูเ ก็ ต
ห้องสมุดประชาชน Phone Number อำเภอถลาง 076-311273 78 ม.1 ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง จ.ภูเก็ต 83110 Facebook ห้องสมุดประชาชนอำเภอถลาง Website http://phuket.nfe.go.th/thalanglib ห้อ ง ส มุ ด ป ร ะ ช า ช น อำ เ ภ อ ถ ล า ง จัง ห วัด ภูเ ก็ ต
Search
Read the Text Version
- 1 - 10
Pages: