51 รายละเอียด คาํ อธบิ ายรายวชิ า อาเซยี นศกึ ษา รหสั สค02015 สาระการพฒั นาสังคม มัธยมศึกษาตอนต้น จํานวน 3 หนว่ ยกติ (120 ชว่ั โมง) มาตรฐานที่ 5.1 มีความรคู้ วามเขา้ ใจ และตระหนกถงึ ความสําคัญเกย่ี วกบภูมิศาสตร์ ประวตั ศิ าสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมือง การปกครอง สามารถนํามาปรับใชใ้ นการดาํ รงชวี ิต ท่ี หวั เรื่อง ตัวชวี้ ัด เนอื้ หา เวลา (ชั่วโมง) 1 พฒั นาการ 1.1 บอกประวัตคิ วามเปน็ มา 1.1 ความเป็นมาของอาเซยี น 15 อาเซียน ของ อาเซยี น (ASEAN) ได้ 1.2 วัตถุประสงค์ในการก่อตงั้ 1.2 เข้าใจวตั ถุประสงคใ์ นการ และ ประเทศสมาชิกอาเซียน กอ่ ตัง้ ประเทศสมาชกิ อาเซยี น 1.3 ความหมาย ความสำคัญ (ASEAN) ของ ประชาคมอาเซียนและกฎบตั ร 1.3 บอกความหมายและความ อาเซียน (ASEAN Charter) สําคัญของประชาคมอาเซียน และกฎบัตรอาเซยี น ด้ 2 ผลงานของ 2.1 บอกโครงสรา้ งและกลไก 2.1 โครงสร้างและกลไกการ 30 กลมอาเซียน การ ดาํ เนินงานของอาเซยี นได้ ดาํ เนินงานของอาเซยี น - ทป่ี ระชุมสุดยอดอาเซียน (ASEAN Summit) - คณะมนตรปี ระสานงาน อาเซียน (ASEAN Coordinating Councils : ACCs) - คณะมนตรปี ระชาคมอาเซยี น (ASEAN Community Councils) - องคก์ รระดบั รัฐมนตรอี าเซียนเฉพาะ สาขา (ASEAN Sectoral Ministerials Bodies) - เลขาธกิ ารอาเซียนและสาํ นัก เลขาธกิ ารอาเซยี น (Secretary- General of ASEAN and ASEAN Secretariat)
52 ท่ี หวั เรื่อง ตัวชีว้ ัด เนื้อหา เวลา (ช่วั โมง) 2.2 บอกความสำคัญในการ - คณะกรรมการผ้แู ทนถาวร ร่วมมอื ของอาเซียน ทั้ง 3 ดา้ น ประจาํ อาเซียน (Committee of Permanent Representatives ได้ - ด้านการเมอื งและความมั่นคง of ASEAN) - สาํ นกั งานอาเซยี นแห่งชาติ - ด้านเศรษฐกจิ - ดา้ นสงั คมและวฒั นธรรม หรือกรมอาเซยี น (ASEAN National Secretariat) - องค์กรสิทธมิ นุษยชนอาเซียน (ASEAN Human Rights Body) - มูลนธิ ิอาเซียน (ASEAN Foundation) 2.2 ความสาคัญในการร่วมมือ ของอาเซียน ทั้ง 3 ดา้ น - ด้านการเมืองและความมน่ั คง - ดา้ นเศรษฐกจิ - ดา้ นสังคมและวฒั นธรรม 2.3 สรปุ ผลจากการประชมกลมุ่ 2.3 ผลจากการประชมอาเซยี น อาเซียนในรอบปที ี่ผา่ นมา ใน รอบปที ผี่ ่านมา 2.4 อธิบาย สรุปปัญหา 2.4 ปัญหาและอปสรรค์ทส่ี าํ คัญ และอปุ สรรคที่สาํ คญั ของ ของอาเซยี น อาเซยี นได้ 3 ประชาคมเศรษฐกจิ 3.1 บอกความหมายและ 3.1 ความหมายและวตั ถปุ ระสงค์ 20 อาเซยี น (ASEAN วตั ถุประสงคข์ องประชาคม ของประชาคมเศรษฐกิจอาเซยี น Economic เศรษฐกจิ อาเซยี น (AEC) ได้ 3.2 (AEC) Community) อธบิ ายเปา้ หมายของ 3.2 เป้าหมายของประชาคม : AEC ประชาคมเศรษฐกจิ อาเซียน เศรษฐกิจอาเซยี น (AEC) (AEC) ได้ 3.3 แนวทางการดาํ เนินงานเพือ่ 3.3 อธบิ ายแนวทางการ นาํ ไปสูก่ ารเปน็ AEC ดําเนินงาน เพ่ือนาํ ไปส่กู ารเปน็ 3.4 ประโยชน์ท่ีประเทศไทยไดร้ บั AEC ได้ จากการเข้าร่วมประชาคม 3.4 บอกประโยชน์ท่ปี ระเทศ เศรษฐกจิ อาเซยี น (AEC) ไทย ไดร้ ับจากการเข้าร่วม AEC
53 ท่ี หัวเรือ่ ง ตวั ช้วี ัด เนื้อหา เวลา (ชว่ั โมง) 4 การกาํ เนดิ การ 4.1 บอกประวตั คิ วามเป็นมา 4.1 ความหมาย ความสำคญั และ 20 วตั ถปุ ระสงคข์ อง AFTA จดั ตงั้ เขตการค้าเสรี ความสำคญั และ วัตถุประสงค์ 4.2 ประโยชนท์ ป่ี ระเทศไทยไดร้ ับ อาเซียน ของ AFTA ได้ จากการเข้าร่วมเขตการค้าเสรี อาเซียน (AFTA) (ASEAN Free 4.2 เหน็ คุณค่าและประโยชน์ท่ี Trade Area) ประเทศไทยเข้ารว่ มเขต : AFTA การคา้ เสรอี าเซยี น (AFTA) 5 ประโยชนท์ ี่ 5.1 มคี วามรคู้ วามเข้าใจใน 5.1 ทศิ ทางสงั คมไทยตอ่ การ 35 ประเทศไทย ทศิ ทางสงั คมไทยต่อการ เปล่ยี นแปลงสู่สังคมอาเซียนใน ไดร้ ับในการ เปลย่ี นแปลงสู่สังคมอาเซยี น ด้าน เป็นสมาชิก ในดา้ นตางๆ - ความร่วมมือทางการเมอื ง ของกล่มุ 5.2 เห็นคุณค่าและประโยชนท่ี - ความร่วมมอื ทางเศรษฐกิจ อาเซียน ประเทศไทยไดร้ บั ในการเป็น - ความร่วมมือเฉพาะด้าน สมาชกิ ของกลมอาเซยี น 5.2 ประโยชน์ทไี่ ทยไดร้ บั ในการ รวมกล่มุ อาเซยี น - การแก้ปญั หาความยากจน - การสงเสรมิ การท่องเท่ยี ว - การอนรุ กั ษ์ส่ิงแวดลอ้ ม - การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ ตอ่ - การแก้ปัญหาการค้ายาเสพติด - การจัดการการเกิดภัยพบิ ัติ - การปกปอ้ งสทิ ธิสตรี - การแกป้ ญั หาการกอ่ การรา้ ย ขา้ มชาติ
54 รายละเอียดคำอธิบายรายวชิ า ทช 2102 สุขศึกษา พลศกึ ษา จำนวน 2 หนว่ ยกิต ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น มาตรฐานการเรยี นรู้ระดบั รู้ เข้าใจ มีคุณธรรม จริยธรรมและเจตคติที่ดี มีทักษะในการดูแล และสร้างเสริมการมีพฤติกรรมสุขภาพท่ีดี ปฏิบัติจนเป็นกิจนิสัย หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ ตลอดจนส่งเสริมสุขภาพพลานามัยและสภาพ แวดลอ้ มที่ดีในชุมชน ท่ี หัวเร่ือง ตวั ชีว้ ัด จำนวน เนือ้ หา (ชัว่ โมง) 1 พัฒนาการของ 1.อธบิ ายโครงสร้าง หน้าท่ี 1.โครงสร้าง หน้าที่ การทำงาน 10 รา่ งกาย และการทำงานของระบบ และการดแู ลรกั ษาระบบตา่ งๆท่ี อวัยวะสำคัญของรา่ งกาย 5 สำคัญของรา่ งกาย 5 ระบบ ระบบไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง -ระบบผิวหนัง 2.ปฏิบตั ติ นในการดแู ลรกั ษา -ระบบกล้ามเนื้อ และปอ้ งกันอาการผดิ ปกติของ ระบบอวยั วะสำคัญ 5 ระบบได้ -ระบบกระดกู อย่างถูกตอ้ ง -ระบบไหลเวียนโลหิต -ระบบหายใจ 2. พฒั นาการและการเปลีย่ น 3. อธิบายพฒั นาการและการ แปลงตามวัยด้านร่างกาย จิตใจ เปลี่ยนแปลงตามวยั ของมนุษย์ อารมณ์ สงั คม สติปัญญา - วยั ทารก ด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ - วยั เดก็ สงั คม สติปัญญาไดอ้ ยา่ ง - วยั รนุ่ ถกู ตอ้ ง - วยั ผใู้ หญ่ - วยั ชรา 2 การดูแลรักษา 1. อธบิ ายประโยชน์ของการ 1. หลักการดแู ลสขุ ภาพเบ้ืองตน้ 20 สุขภาพ ออกกำลงั กายและโทษของการ การดูแลสุขภาพตามหลัก 5 อ ขาดการออกกำลงั กาย ได้แก่ อาหาร อากาศ อารมณ์ อจุ จาระ อนามัย 2. อธบิ ายรปู แบบและวธิ กี าร 2. การออกกำลงั กาย รปู แบบ และ ออกกำลังกายเพื่อสขุ ภาพ วธิ กี ารออกกำลงั กายเพื่อสุขภาพ - ประโยชนแ์ ละโทษของ
55 ท่ี หวั เรือ่ ง ตัวชีว้ ัด จำนวน 3 สารอาหาร เนอื้ หา (ชวั่ โมง) 3. ระบุการเปลี่ยนแปลงเม่ือ การออกกำลังกาย 10 เขา้ วยั หน่มุ สาว - รูปแบบและวธิ กี ารออก 4. อธบิ ายวธิ กี ารหลีกเลยี่ ง กำลังกายเพอื่ สุขภาพ พฤตกิ รรมท่นี ำไปสู่การมี - การเดนิ เรว็ เพศสมั พันธ์ การล่วงละเมดิ - การว่งิ เหยาะ ทางเพศและการต้งั ครรภ์ท่ไี ม่ พงึ ประสงค์ - การขจี่ กั รยาน 5. อธบิ ายวธิ ีการดแู ลสุขภาพ - การเลน่ โยคะ ทางเพศที่เหมาะสมและไม่ทำ ให้เกิดปัญหาทางเพศ - เตน้ แอโรบิค - ว่ายน้ำ 1. วิเคราะห์ปัญหาสุขภาพท่ี ฯลฯ เกดิ จากการบริโภคอาหารที่ไม่ 3. สุขภาพทางเพศ ถูกหลกั โภชนาการ - การคมุ กำเนดิ - การท้องไม่พร้อม 2. บอกปรมิ าณสารอาหารท่ี - การทำแท้ง ร่างกายต้องการตามเพศ วัย - การตดิ เชอื้ HIVS และสภาพรา่ งกาย 3. อธิบายวิธกี ารประกอบ 4. พฤติกรรมท่ีนำไปสูก่ ารลว่ ง อาหารเพ่ือรักษาคณุ ค่าของ ละเมิดทางเพศ การมี สารอาหาร เพศสัมพนั ธ์ และการตัง้ ครรภท์ ี่ ไม่พงึ ประสงค์ - การเปลี่ยนแปลงเมือ่ เขา้ สู่ วยั หนมุ่ สาว - การป้องกันและหลีกเลี่ยง พฤติกรรมเสย่ี งตอ่ การล่วง ละเมิดทางเพศและการตัง้ ครรภ์ ท่ีไม่พึงประสงค์ 1. ปัญหาสขุ ภาพทเ่ี กิดจากการ บริโภคอาหารไมถ่ ูกหลัก โภชนาการ - ภาวะทพุ โภชนาการ - ภาวะโภชนาการเกิน อาหาร 2. ปริมาณความตอ้ งการ สาร อาหารตาม เพศ วยั และ สภาพร่างกาย 3. วธิ กี ารประกอบอาหารเพ่อื คงคุณค่าของสารอาหาร
56 ท่ี หัวเรอ่ื ง ตัวช้ีวัด จำนวน เนือ้ หา (ชว่ั โมง) 4 โรคระบาด อธิบายสาเหตุ อาการ การ สาเหตุ อาการ การปอ้ งกันและ 6 6 ปอ้ งกนั และการรักษา โรคท่ี การรักษาโรคท่เี ปน็ ปัญหา 6 12 เปน็ ปญั หาตอ่ สุขภาพได้อยา่ ง สาธารณสขุ ถูกตอ้ ง - โรคไข้เลือดออก - โรคมาลาเรีย - โรคไขห้ วัดนก โรคซาร์ - โรคอหวิ าตกโรค ฯลฯ 5 ยาแผนโบราณและ 1. บอกหลกั และวิธีการใชย้ าได้ 1. หลกั และวธิ ีการใชย้ า สมุนไพร อย่างถูกต้อง - ยาแผนโบราณ - ยาสมนุ ไพร 2. อธิบายอนั ตรายจากการใช้ 2. อนั ตรายจากการใชย้ า ยาประเภทต่างๆได้อยา่ ง ถกู ตอ้ ง 6 การป้องกันสาร 1.อธิบายปัญหา สาเหตุ 1. ปัญหา สาเหตุ ประเภท และ เสพติด ประเภทและชนดิ ของสารเสพ ชนดิ ของสารเสพติด และการ ติด และการปอ้ งกนั แกไ้ ข ป้องกันแกไ้ ข 2. บอกลักษณะอาการของ 2. ลกั ษณะอาการของผ้ตู ิด ผู้ติดสารเสพติด สารเสพติด 3. อธิบายอันตราย วธิ กี าร 3. อันตราย การป้องกนั และ ปอ้ งกนั และหลกี เลย่ี ง การหลีกเล่ียงพฤตกิ รรมเสย่ี งตอ่ พฤตกิ รรมเสยี่ งตอ่ สารเสพติด สารเสพติด 7 อบุ ัตเิ หตุ อุบตั ิภยั 1. อธิบายปัญหา สาเหตุของ 1. ปัญหา สาเหตุของการเกิด การเกดิ อบุ ัตเิ หตุ อบุ ัตภิ ัย และ อบุ ัตเิ หตุ อุบตั ภิ ัย และภยั ภยั ธรรมชาติ ธรรมชาติ 2. วิเคราะหพ์ ฤตกิ รรมเสย่ี งที่ 2. การป้องกันอันตรายและ จะนำไปสคู่ วามไม่ปลอดภยั ใน หลีกเล่ยี งพฤติกรรมเสี่ยงที่ ชวี ติ และทรพั ยส์ ิน จะนำไปสู่ความไม่ปลอดภัยจาก อบุ ัตเิ หตุ อุบัติภัย และภยั ธรรมชาติ 3. บอกเทคนคิ วิธกี ารขอความ 3. เทคนคิ วิธีการขอความ ช่วยเหลือและการเอาชีวิตรอด ชว่ ยเหลอื และการเอาชีวิตรอด เมือ่ เผชญิ อันตรายและสถาน เม่อื เผชิญอนั ตรายและ การณค์ บั ขนั ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม สถานการณ์คับขนั 4. อธบิ ายวิธีการปฐมพยาบาล 4. การปฐมพยาบาลเมอื่ ไดร้ บั เมอื่ ไดร้ ับอันตรายจากอบุ ตั ิเหตุ อนั ตรายจากอบุ ตั ิเหตุ อุบัติภัย
ท่ี หัวเร่อื ง ตวั ช้วี ัด เนอ้ื หา 57 และภัยธรรมชาติ จำนวน (ชัว่ โมง) อบุ ัตภิ ยั ได้อย่างถกู ต้อง 8 ทักษะชีวติ เพ่ือการ 1. บอกความหมายและ 1. ความหมาย ความสำคญั สือ่ สาร ความสำคัญของทกั ษะชวี ติ ของทกั ษะชีวติ 10 ประการ (Life Skill) ได้ท้งั 10 ประการ 2. บอกทกั ษะชีวิตทีจ่ ำเป็นได้ 2.ทกั ษะชีวติ ท่จี ำเปน็ 3ประการ อย่างนอ้ ย 3 ประการ - ทักษะการสอื่ สารอยา่ งมี ประสิทธิภาพ - ทักษะการสรา้ งสมั พนั ธภาพ ระหวา่ งบุคคล - ทกั ษะในการเข้าใจและเห็น ใจผู้อืน่ 3. ประยุกตใ์ ชก้ ระบวนการ ทกั ษะชีวติ ในการดำเนนิ ชวี ติ ได้ อย่างเหมาะสม 4. แนะนำผู้อืน่ ในการนำทกั ษะ การแกป้ ญั หาในครอบครวั และ การทำงาน
58 ตารางผลการวิเคราะหร์ ายละเอยี ดคำอธิบายรายวชิ า ทช21002 สุขศึกษา พลศึกษา ท่ี ตัวช้วี ัด ออกแบบแผนการ จัดการเรยี นรู้ จำนวน เน้อื หา พบกลมุ่ เรียนรู้ (ชัว่ โมง) ด้วย ตนเอง 1 1.อธิบายโครงสร้าง หนา้ ท่ี 1.โครงสร้าง หน้าที่ การ 10 6 และการทำงานของระบบ ทำงาน และการดูแลรักษา อวยั วะสำคัญของร่างกาย ระบบตา่ งๆที่สำคัญของ 5 ระบบไดอ้ ย่างถกู ต้อง ร่างกาย 5 ระบบ -ระบบผวิ หนัง -ระบบกลา้ มเนื้อ -ระบบกระดกู -ระบบไหลเวยี นโลหติ -ระบบหายใจ 2.ปฏิบัตติ นในการดูแลรักษา 2. พฒั นาการและการ และปอ้ งกนั อาการผิดปกติ เปล่ยี นแปลงตามวัยด้าน ของระบบอวยั วะสำคญั 5 ร่างกาย จติ ใจ อารมณ์ ระบบได้อยา่ งถกู ต้อง สงั คม สติปญั ญา - วัยทารก 3. อธบิ ายพัฒนาการและการ - วยั เดก็ เปลี่ยนแปลงตามวัยของ - วยั รุ่น มนุษย์ด้านรา่ งกาย จติ ใจ - วยั ผใู้ หญ่ อารมณส์ ังคม สตปิ ัญญาได้ อยา่ งถูกตอ้ ง - วยั ชรา 2 1. อธิบายประโยชน์ของการ 1. หลกั การดูแลสุขภาพ ออกกำลงั กายและโทษของ เบ้ืองต้นการดูแลสขุ ภาพ การขาดการออกกำลังกาย ตามหลกั 5 อ ไดแ้ ก่ อาหาร อากาศ อารมณ์ อจุ จาระ อนามัย
59 ตารางผลการวิเคราะห์รายละเอียดคำอธบิ ายรายวิชา ทช21002 สุขศึกษา พลศึกษา ออกแบบแผนการ ท่ี ตวั ชี้วัด เนอ้ื หา จำนวน จัดการเรียนรู้ (ช่ัวโมง) พบกลมุ่ เรียนรู้ ดว้ ย ตนเอง 2. อธิบายรปู แบบและวิธีการ 2. การออกกำลังกาย ออกกำลงั กายเพือ่ สุขภาพ รูปแบบ และวธิ กี ารออก กำลงั กายเพื่อสุขภาพ - ประโยชนแ์ ละโทษ ของการออกกำลังกาย - รปู แบบและวธิ ีการ ออกกำลงั กายเพ่ือสขุ ภาพ - การเดนิ เร็ว - การว่งิ เหยาะ - การข่ีจกั รยาน - การเล่นโยคะ - เต้นแอโรบิค - ว่ายน้ำ ฯลฯ 3. ระบุการเปลีย่ นแปลงเม่ือ 3. สุขภาพทางเพศ 14 เขา้ วัยหนุ่มสาว - การคุมกำเนดิ - การทอ้ งไม่พร้อม - การทำแทง้ - การติดเชอ้ื HIVS 4. อธิบายวิธีการหลีกเลยี่ ง 4. พฤติกรรมทนี่ ำไปสู่การ พฤตกิ รรมทนี่ ำไปสกู่ ารมี ล่วงละเมิดทางเพศ การมี เพศสมั พันธ์ การลว่ งละเมดิ เพศสมั พันธ์ และการตง้ั ทางเพศและการตงั้ ครรภ์ท่ีไม่ ครรภท์ ี่ไมพ่ ึงประสงค์ พงึ ประสงค์ 5. อธิบายวิธีการดแู ลสุขภาพ - การเปลย่ี นแปลงเมอื่ ทางเพศที่เหมาะสมและไม่ทำ เขา้ ส่วู ัยหนุม่ สาว ให้เกดิ ปญั หาทางเพศ - การปอ้ งกนั และ หลีกเล่ยี งพฤติกรรมเสีย่ งตอ่ การลว่ งละเมดิ ทางเพศและ การต้ังครรภท์ ่ไี มพ่ งึ ประสงค์
60 ออกแบบแผนการ ท่ี ตวั ชวี้ ัด เน้ือหา จำนวน จดั การเรียนรู้ (ช่ัวโมง) พบกลมุ่ เรยี นรู้ ด้วย ตนเอง 3 1. วเิ คราะห์ปัญหาสขุ ภาพที่ 1. ปญั หาสขุ ภาพทีเ่ กิดจาก 10 เกดิ จากการบริโภคอาหารที่ไม่ การบริโภคอาหารไม่ถกู หลัก ถูกหลักโภชนาการ โภชนาการ - ภาวะทุพโภชนาการ - ภาวะโภชนาการเกิดอาหาร 2. บอกปรมิ าณสารอาหารท่ี 2. ปรมิ าณความต้องการ รา่ งกายต้องการตามเพศ วยั สารอาหารตาม เพศ วยั และสภาพร่างการ และสภาพร่างกาย 3. อธิบายวิธกี ารประกอบ 3. วิธีการประกอบอาหาร อาหารเพอื่ รักษาคณุ คา่ ของ เพื่อคงคุณค่าของสารอาหาร สารอาหาร 4 อธบิ ายสาเหตุ อาการ การ สาเหตุ อาการ การปอ้ งกนั 6 ป้องกันและการรักษา โรคที่ และการรกั ษาโรคทเี่ ป็น เป็นปัญหาต่อสุขภาพไดอ้ ยา่ ง ปัญหาสาธารณสขุ ถูกตอ้ ง - โรคไข้เลอื ดออก - โรคมาลาเรยี - โรคไข้หวดั นก โรคซาร์ - โรคอหวิ าตกโรค ฯลฯ 5 1. บอกหลักและวธิ กี ารใช้ยา 1. หลกั และวิธกี ารใช้ยา 6 ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง - ยาแผนโบราณ - ยาสมนุ ไพร 2. อธบิ ายอันตรายจากการใชย้ า 2. อนั ตรายจากการใช้ยา ประเภทตา่ งๆได้อยา่ งถูกต้อง 6 1. อธบิ ายปญั หา สาเหตุ 1. ปญั หา สาเหตุ ประเภท 6 ประเภทและชนดิ ของสารเสพ และชนิดของสารเสพติด ตดิ และการปอ้ งกันแกไ้ ข และการป้องกันแก้ไข 2. บอกลกั ษณะอาการของผู้ 2. ลักษณะอาการของผ้ตู ิด ติดสารเสพตดิ สารเสพติด 3. อธิบายอันตราย วธิ ีการ 3. อนั ตราย การปอ้ งกนั และ ป้องกันและหลีกเลย่ี ง การหลกี เลี่ยงพฤตกิ รรม พฤติกรรมเส่ียงต่อสาร เสีย่ ง เสพติด
61 ออกแบบแผนการ ท่ี ตัวชี้วัด เนอื้ หา จำนวน จดั การเรียนรู้ (ช่ัวโมง) พบกลมุ่ เรียนรู้ ด้วย ตนเอง 7 1. อธิบายปญั หา สาเหตุของ 1. ปญั หา สาเหตุของการ 6 การเกดิ อุบัติเหตุ อุบัติภัย เกดิ อุบตั เิ หตุ อบุ ตั ิภยั และ และภยั ธรรมชาติ ภยั ธรรมชาติ 2. วิเคราะหพ์ ฤตกิ รรมเสีย่ งท่ี 2. การป้องกนั อนั ตรายและ จะนำไปสคู่ วามไมป่ ลอดภยั ใน หลีกเลี่ยงพฤตกิ รรมเสยี่ งที่ ชวี ติ และทรัพย์สนิ จะนำไปสคู่ วามไม่ปลอดภยั จากอบุ ัติเหตุ อบุ ัตภิ ัย และ ภัยธรรมชาติ 3. บอกเทคนิค วิธีการขอ 3. เทคนิค วธิ ีการขอความ 6 ความช่วยเหลอื และการเอา ช่วยเหลือและการเอาชีวติ ชีวิตรอดเมอ่ื เผชิญอนั ตราย รอดเมอ่ื เผชญิ อนั ตรายและ และสถานการณ์คับขันได้ สถานการณค์ ับขัน อยา่ งเหมาะสม 4. อธิบายวธิ กี ารปฐมพยาบาล 4. การปฐมพยาบาลเมือ่ เมื่อได้รับอันตรายจาก ไดร้ บั อนั ตรายจากอบุ ัตเิ หตุ อบุ ัติเหตุ อุบัตภิ ยั ไดอ้ ย่าง อบุ ัตภิ ยั และภยั ธรรมชาติ ถูกตอ้ ง 8 1. บอกความหมายและ 1. ความหมาย ความสำคัญ 10 ความสำคัญของทักษะชีวติ ของทักษะชีวิต 10 ประการ (Life Skill) ไดท้ ัง้ 10 ประการ 2.ทกั ษะชีวติ ท่จี ำเป็น 3 2. บอกทกั ษะชีวติ ทจี่ ำเปน็ ได้ ประการ อย่างนอ้ ย 3 ประการ - ทักษะการสือ่ สารอย่างมี 3. ประยกุ ต์ใช้กระบวนการ ประสิทธภิ าพ ทักษะชีวติ ในการดำเนินชวี ติ - ทกั ษะการสรา้ ง ได้อย่างเหมาะสม สมั พันธภาพระหว่างบคุ คล 4. แนะนำผู้อื่นในการนำ - ทักษะในการเข้าใจและ ทกั ษะการแก้ปญั หาใน เหน็ ใจผ้อู ่นื ครอบครัวและการทำงาน
62 ตารางผลการวิเคราะห์รายละเอยี ดคำอธบิ ายรายวิชา ทช21002 สุขศึกษา พลศึกษา คำอธิบายรายวิชา และรายละเอยี ดคำอธบิ ายรายวชิ า สาระสำคญั มีความรคู้ วามเข้าใจ มีคณุ ธรรม จริยธรรม ช่นื ชม เหน็ คณุ ค่าความงาม ความไพเราะ ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ทางทศั นศิลป์ไทย ดนตรีไทย นาฏศิลป์ไทย และวิเคราะหไ์ ดอ้ ย่างเหมาะสม ผลการเรยี นรทู้ ่คี าดหวัง 1. อธบิ ายความหมายของธรรมชาติ ความงามความ ไพเราะของทัศนศลิ ปไ์ ทย ดนตรไี ทย และ นาฏศลิ ปไ์ ทย 2. อธบิ ายความรูพ้ ้ืนฐานของ ทัศนศิลป์ไทย ดนตรีไทย และนาฏศลิ ป์ไทย 3. สร้างสรรคผ์ ลงานโดยใชค้ วามรู้พ้นื ฐาน ดา้ น ทัศนศลิ ป์ไทย คนตรไี ทย และนาฏศิลป์ไทย 4. ชน่ื ชม เหน็ คุณค่าของ ทัศนศิลป์ไทย ดนตรไี ทย และนาฏศลิ ป์ไทย 5. วเิ คราะห์ วิพากย์ วิจารณ์ งานดา้ นทศั นศิลปไ์ ทย คนตรไี ทย และนาฏศิลปไ์ ทย 6. อนุรักษ์สืบทอดภมู ิปญั ญาด้านทัศนศิลปไ์ ทย คนตรีไทย และนาฏศิลปไ์ ทย ขอบข่ายเนอ้ื หา บทที่ 1 ทศั นศิลปไ์ ทย บทท่ี 2 ดนตรีไทย บทที่ 3 นาฏศลิ ป์ไทย บทที่ 4 นาฏศิลปไ์ ทยกบั การประกอบอาชพี สื่อการเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรยี น 2. กิจกรรม
63 ผลการวเิ คราะห์รายละเอยี ดคำอธบิ ายรายวชิ า สาระทกั ษะการดำเนนิ ชีวติ วชิ าศลิ ปศกึ ษา รหัสวิชา ทช21003 จำนวน 2 หน่วยกิต ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2554 รวม วิธกี ารจดั การเรยี นรู้ ท่ี ตัวชว้ี ัด เนือ้ หารายวชิ า เวลา พบกลุม่ ตนเอง ชว่ั โมง 1 ทัศนศิลป์ไทย 1. อธิบายความสำคญั ของงาน 1.ความสำคัญของทศั นศลิ ป์ 6 ทัศนศิลปท์ ีใ่ ช้ของจดุ เส้น สี แสง- ท่ีใชข้ องจุด เสน้ สี แสง – เงา เงา รูปรา่ ง ในการสรา้ งงาน รปู ร่างและรปู ทรง เพือ่ ความ ทศั นศลิ ปไ์ ทยได้อย่างเหมาะสม ซาบซง้ึ ในงานทศั นศิลปข์ องไทย 2.อธิบายความเปน็ มาของงาน 2. ความหมาย ความเปน็ มาของ ทัศนศลิ ป์ไทยในด้านต่างๆ ทัศนศลิ ป์ไทยด้าน 2.1 จิตรกรรม 2.2 ประติมากรรม 2.3 สถาปัตยกรรม 2.4 ภาพพมิ พ์ 3. อธิบาย วเิ คราะห์ วิพากษ์ 3. ความงามของทัศนศิลป์ไทยที่ วจิ ารณ์ ความหมาย และความงาม เกดิ จากความงามตามธรรมชาติ ของทัศนศิลปไ์ ทยทเี่ กิดจากความ เช่น ตน้ ไม้ ทะเล แม่นำ้ ลำธาร งามตามธรรมชาติ ภูเขา และสตั ว์ประเภทต่าง 4. อธิบาย วเิ คราะห์ วิพากษ์ 4. วธิ กี ารนำความงามของ วิจารณ์ วิธีการนำความงามจาก ธรรมชาตมิ าสร้างสรรค์งาน ธรรมชาติมาสร้างสรรคจ์ ินตนาการ ใหอ้ อกมาเป็น ความงามทางทัศนศิลป์ไทย 5. อธิบายวเิ คราะห์ วพิ ากษ์ วิจารณ์ 5. ความคิดสรา้ งสรรคเ์ หมาะสม คณุ ค่าของงานทศั นศิลปไ์ ทย เร่อื ง และความพอดขี องการนำวัตถุหรือ ของความงามท่ีเกิดจากความคิด วัสดุสิ่งของต่าง ๆ มาประดับ สร้างสรรคข์ องมนษุ ย์ ตกแต่งร่างกายและท่อี ยอู่ าศยั หรอื ตกแต่งสถานท่ี สงิ่ แวดล้อมทวั่ ๆไป 6. อธิบาย วิเคราะห์ วพิ ากษ์ 6. คุณคา่ ของความซาบซึง้ ความดี วจิ ารณ์ คุณค่าของความซาบซ้ึง งามของวัฒนธรรม ประเพณี และ ความรกั และความหวงแหน ความสวยงามของวดั โบสถ์ วหิ าร วัฒนธรรม ประเพณี โบราณวัตถุ ยคุ ตา่ งๆของชาติ และโบราณสถานของชาติ
64 รวม วิธีการจัดการเรยี นรู้ ที่ ตัวชวี้ ดั เนอ้ื หารายวิชา เวลา พบกลุม่ ตนเอง ช่ัวโมง 2 1. อธิบายความสำคญั ความเป็นมา ดนตรีไทย 40 และววิ ัฒนาการของเคร่อื งดนตรไี ทย 1.ประวัตคิ วามเป็นมาและ ชนดิ ตา่ งๆ วิวัฒนาการของเครอ่ื งดนตรีไทย 2. อธบิ ายประเภทของดนตรี และ 2. เทคนคิ วธิ กี ารเลน่ ของเครือ่ ง เทคนคิ วธิ กี ารเล่นเครื่องดนตรไี ทย ดนตรไี ทยแต่ละประเภท 3. อธบิ ายวิเคราะห์ วพิ ากษ์ วิจารณ์ 3. คุณค่าของความงามและไพเราะ คณุ ค่าของความงามและความไพเราะของเพลงและเครอ่ื งดนตรีไทย ของเพลง และเครอ่ื งดนตรไี ทย 4. อธิบายประวตั ิ ของคุณค่าความรัก 4. ประวัติของคุณคา่ ความรกั และ และความหวงแหน ตลอดจนรว่ มสบื หวงแหน ของภูมปิ ญั ญา ตลอดจน สานกระบวนการถา่ ยทอดของ กจิ กรรมกระบวนการถา่ ยทอดของ ภูมปิ ญั ญา ทางดา้ นเพลงและดนตรี ภูมปิ ัญญาทางดา้ นเพลงและดนตรี ไทย ไทย
65 รวม วิธกี ารจดั การเรยี นรู้ ที่ ตวั ชว้ี ัด เนอ้ื หารายวิชา เวลา พบกลุ่ม ตนเอง ชัว่ โมง 3 1. อธิบายประวตั ิ ความเปน็ นาฏศลิ ปไ์ ทย มา และวิวฒั นาการในการแสดง 1. ประวตั ิ ความเปน็ มา และ 6 นาฏศิลปไ์ ทยในแต่ ววิ ฒั นาการของการแสดงนาฏศลิ ป์ ละภาคต่าง ๆ ไทยประเภทตา่ ง ๆ 2. บอกรปู แบบ องค์ประกอบ และ วธิ กี ารแสดงนาฏศิลป์ 2. รูปแบบ/องค์ประกอบและ ไทยประเภทต่าง ๆ วิธกี ารแสดงนาฏศิลปไ์ ทยในแต่ละ 3.แสดงความคิดเห็นและความรู้สึก ภาคประเภทตา่ ง ๆ ต่อการแสดงประเภทตา่ ง ๆ 3. การแสดงความคดิ เหน็ และ 4. บอกประโยชนแ์ ละเลือกชมการ ความรู้สึกตอ่ การแสดงนาฏศลิ ป์ แสดงนาฏศิลป์ไทยทต่ี นสนใจ เพ่อื ไทยประเภทตา่ ง ๆ สรา้ งความสขุ และประโยชน์ตอ่ 4. ประโยชนแ์ ละวิธเี ลอื กชมการ ตนเอง แสดงนาฏศลิ ปไ์ ทย 5. อธบิ ายท่ารำและสือ่ ความหมายของ นาฏศิลป์ไทย 5. ท่ารำ และการสือ่ ความหมายใน 6. บอกหลักและวธิ ีการฝกึ การใช้ นาฏศลิ ป์ไทย ทา่ ทางสอื่ ความหมาย 6. การใช้ท่าทางสื่อความหมาย 7. บอกประโยชนแ์ ละคณุ ค่า รวมท้งั โอกาสท่ีใช้แสดง ของนาฏศิลป์และภาษาท่า เพ่ือการ 7.ประโยชนแ์ ละคุณค่าของ อนุรกั ษด์ ้านนาฏศิลป์ นาฏศลิ ปไ์ ทยและภาษาท่าที่ เกีย่ วข้องกับการอนุรักษ์มรดกทาง 8. อธบิ ายความสัมพนั ธข์ องประวตั ิ วฒั นธรรม ความเปน็ มาวฒั นธรรม ประเพณที ่ี 8.ประวตั ิ ความเปน็ มา วฒั นาการ เก่ยี วข้องกับววิ ฒั นาการของรำวง ความหมายของเนือ้ เพลงทีใ่ ช้และ มาตรฐาน การแต่งกายประกอบการแสดงรำ วงมาตรฐาน 9. อธิบายการประยุกต์ท่ารำวง 9. การนำท่ารำวงมาตรฐานไป มาตรฐานไปใชก้ ับเพลงอ่นื ๆ ใน ประยกุ ตใ์ ชป้ ระกอบกับเพลงอ่นื ๆ โอกาสตา่ ง ๆ เพอ่ื นำไปใชใ้ นชีวติ ประจำวันโดยให้สอดคล้องกับ วัฒนธรรม 10. บอกแนวทางอนรุ ักษ์ 10. การอนรุ กั ษ์ การละเลน่ ตาม การละเล่น ตามวัฒนธรรม วฒั นธรรมประเพณี ของภมู ิปัญญา ประเพณี ภมู ิปญั ญาตามแนวทาง ทางนาฏศิลปไ์ ทยของภาคต่างๆ นาฏศิลปไ์ ทยของภาคตา่ งๆ
ที่ ตวั ชีว้ ัด 66 เนอ้ื หารายวิชา รวม วิธีการจัดการเรยี นรู้ เวลา พบกลุม่ ตนเอง 4 1. บอกลักษณะอาชพี นาฏศิลปไ์ ทย นาฏศิลป์ไทยกับการประกอบ ชว่ั โมง 28 ประเภทตา่ งๆ อาชีพ 1. อาชีพของนาฏศลิ ป์ไทย 2. บอกขน้ั ตอนละแนวทางในการ 1.1 หนงั ตะลุง ประกอบอาชีพนาฏศลิ ป์ไทย 1.2 ลิเก 1.3 หมอลำ
67 ผลการวิเคราะห์รายละเอยี ดคำอธิบายรายวชิ า ออกแบบแผนการ ท่ี ตัวช้ีวัด เน้อื หา จำนวน จดั การเรียนรู้ (ชัว่ โมง) พบกลุ่ม เรยี นรดู้ ว้ ย ตนเอง 1 1. บอกความหมาย ตระหนกั 1. ความหมาย ความสำคญั 4 ⁄ และเห็นความสำคัญของการ ของการเรียนรูด้ ว้ ยตนเอง เรียนรู้ดว้ ยตนเอง 2. การกำหนดเป้าหมายและ 6 ⁄ 2. มีทกั ษะพื้นฐานทาง การวางแผนการเรยี นรู้ด้วย การศึกษาหาความรู้ ทกั ษะการ ตนเอง แกป้ ัญหา และเทคนิคในการ 3. ทักษะพนื้ ฐานทางการศกึ ษา 6 ⁄ ⁄ เรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง หาความรู้ ทักษะการแก้ปญั หา 3. อธบิ ายปจั จัยทที่ ำให้การ และเทคนิคในการเรยี นรดู้ ว้ ย เรียนรดู้ ว้ ยตนเองประสบ ตนเอง ความสำเรจ็ 4. ปัจจัยท่ีทำให้การเรยี นรดู้ ้วย 6 ⁄ ⁄ 4. สามารถวางแผนการเรยี นรู้ ตนเองประสบความสำเร็จ และการประเมนิ ผลการเรียนรู้ 5. การวางแผนการเรยี นรู้ และ ด้วยตนเองได้ การประเมนิ ผลการเรียนรู้ดว้ ย 6 ⁄ ตนเอง 6. การฝกึ ทกั ษะวางแผนการ เรียนร้แู ละการประเมินผลการ 6 ⁄ เรียนร้ดู ว้ ยตนเอง การวิจารณ์ 2 1. อธิบายความหมาย 1. ความหมาย ความสำคัญ 3 ⁄ ความสำคญั ของการใช้ ของการใชห้ อ้ งสมุดอำเภอ ห้องสมุดอำเภอ 2. การเขา้ ถงึ สารสนเทศของ 3 ⁄ 14 ⁄ 2. อธบิ ายการเขา้ ถึงสารสนเทศ ห้องสมุดประชาชน ของห้องสมุดประชาชน 3. แหล่งเรียนรู้ หอสมดุ 3. อธิบายแหล่งเรียนรู้ หอสมดุ แหง่ ชาติ หอสมดุ วทิ ยาลัย/ ⁄ แหง่ ชาติ หอสมุดวิทยาลยั / มหาวทิ ยาลยั ห้องสมุดเฉพาะ มหาวิทยาลัย หอ้ งสมุดเฉพาะ ห้องสมุดโรงเรียน พิพิธภณั ฑ์ หอ้ งสมุดโรงเรียน พพิ ธิ ภณั ฑ์ อทุ ยานแหง่ ชาติ แหล่งเรยี นรู้ อทุ ยานแหง่ ชาติ แหลง่ เรยี นรู้ สำคัญอืน่ ๆ ในประเทศ สำคญั อนื่ ๆ ในประเทศ 4. การใช้อนิ เทอร์เน็ต การ 14 ⁄ 4. อธิบายและปฏบิ ตั ิการใช้ เขา้ ถงึ ขอ้ มลู สารสนเทศท่ี อินเทอรเ์ นต็ และการเข้าถงึ ต้องการและสนใจ ขอ้ มูลสารสนเทศทต่ี ้องการและ ⁄ สนใจ
68 ออกแบบแผนการ ท่ี ตัวช้ีวัด เนือ้ หา จำนวน จดั การเรยี นรู้ (ชวั่ โมง) พบกล่มุ เรยี นรู้ดว้ ย ตนเอง 3 1. อธบิ ายความหมาย 1. ความหมาย ความสำคญั 6 ⁄ ⁄ ความสำคญั หลักการ หลักการ กระบวนการจดั การ 18 ⁄ ⁄ 10 ⁄ ⁄ กระบวนการจัดการความรู้ ความรู้ การรวมกลุม่ เพื่อต่อ 3 ⁄ ⁄ 3 ⁄ ⁄ การรวมกลุ่มเพอื่ ตอ่ ยอดความรู้ ยอดความรู้ การพัฒนาขอบขา่ ย 10 ⁄ ⁄ การพัฒนาขอบข่ายความรู้ของ ความรู้ของกลุ่ม และการจัดทำ 10 ⁄ กลมุ่ และการจัดทำสารสนเทศ สารสนเทศเผยแพรค่ วามรู้ เผยแพร่ความรู้ 2. การฝึกทกั ษะกระบวนการ 2. ปฏิบัติการจัดการความรใู้ น จดั การความรดู้ ว้ ยตนเอง และ เนอื้ หาทสี่ อดคลอ้ งกับความ กระบวนการจดั การความรู้ดว้ ย ตอ้ งการของชมุ ชน การรวมกลุม่ ปฏิบตั กิ าร 3. จดั ทำสารสนเทศและ 3. สรปุ องค์ความรขู้ องกล่มุ เผยแพรค่ วามรู้ จดั ทำสารสนเทศองคค์ วามรู้ใน การพัฒนาตนเอง ครอบครวั 4 1. อธบิ ายได้ถงึ ความเชอ่ื 1. ความเชอ่ื พืน้ ฐานทาง พืน้ ฐานทางการศึกษาผใู้ หญ่/ การศกึ ษาผ้ใู หญ/่ การศึกษานอก กศน.และเชื่อมโยงมาสู่ ระบบ 5 ประการโดยสรปุ กระบวนการคิดเปน็ และระบบ 2. ปรัชญาคดิ เป็น คิดการแกป้ ญั หา 2.1 ความหมาย ความสำคญั 2. อธบิ ายลกั ษณะของข้อมลู 2.2 ศัพทเ์ ฉพาะ วชิ าการวชิ าการ ตนเองและ 2.3 การเช่ือมโยงความเชือ่ สงั คมสิ่งแวดลอ้ ม รวมทงั้ การ พ้ืนฐานทางการศกึ ษาผใู้ หญ่/ เปรยี บเทยี บเพอ่ื ให้เหน็ ความ กศน.สู่ปรัชญาคดิ เปน็ แตกต่างของข้อมูลทง้ั 3 3. ลักษณะขอ้ มูล 3 ดา้ นที่จะ ประการ นำไปใช้ประกอบความคิดใน 3. อธิบายถงึ การฝึกปฏิบตั กิ าร การตดั สินใจ คือ ขอ้ มูลทาง คิดเป็นจากกรณีตัวอย่างถึง วชิ าการ ตนเองและสังคม กระบวนการคิดการแกป้ ัญหา สงิ่ แวดล้อม รวมทงั้ การ อยา่ งคนคดิ เป็น เปรยี บเทียบเพือ่ ให้เหน็ ความ แตกต่างของข้อมลู ทงั้ 3 ประการ 4. กระบวนการคิดการ แกป้ ัญหาอยา่ งคนคิดเป็นใน รายละเอยี ดพร้อมตวั อย่างการ นำไปใชใ้ นวิถกี ารดำเนินชวี ติ จริง
69 ออกแบบแผนการ ท่ี ตัวชี้วัด เน้อื หา จำนวน จดั การเรยี นรู้ (ชั่วโมง) พบกล่มุ เรยี นรดู้ ว้ ย ตนเอง 5.กรณีตวั อย่างท่หี ลากหลาย 9 ⁄⁄ 8 ⁄ เพือ่ การฝึกทักษะการปฏิบตั ิ 8 ⁄⁄ 5 1. อธิบายความหมาย 1. ความหมาย ความสำคัญ 18 ⁄⁄ ความสำคญั การวิจัยอย่างง่าย การวิจัยอย่างง่าย กระบวนการ 2 ⁄ 3 กระบวนการและข้ันตอนของ และขน้ั ตอนของการดำเนินงาน 10 ⁄⁄ 15 ⁄⁄ การดำเนินงานได้ 2. ฝกึ ทักษะ สถติ งิ า่ ย ๆ เพ่ือ ⁄⁄ 2. มีทกั ษะในการใชส้ ถิติ การวจิ ยั เครอ่ื งมอื การวิจยั ง่าย ๆ เพ่อื การวจิ ัยและจดั ทำ 3. ฝกึ ทักษะในการเขียน เคร่ืองมอื ในการเกบ็ รวบรวม โครงการวจิ ยั อย่างงา่ ย ๆ ขอ้ มูล 3. มีทกั ษะในการเขียน โครงการวิจัยอยา่ งงา่ ย ๆ 6 1. บอกความหมาย ตระหนกั 1. ความหมาย ความสำคญั และความสำคญั ของการเรียนรู้ ของการเรียนร้แู ละศกั ยภาพ และศักยภาพหลกั ของพืน้ ที่ ของพ้ืนที่ 2. มที ักษะการเรียนรพู้ ้นื ฐาน 2. ทกั ษะการเรยี นรพู้ นื้ ฐาน และเทคนคิ วิธีในการแสวงหา และเทคนคิ วิถีทางศึกษาหา ความรู้ ความรู้ 3. การเข้าถึงและการเลือกใช้ 3. สามารถบอกอาชพี ในกลุม่ ศกั ยภาพหลกั ของพ้นื ท่ี อาชพี ใหม่ ได้แก่ กลมุ่ อาชพี 4. ตวั อย่างอาชีพในกล่มุ อาชพี ด้านเกษตรกรรม ดา้ น การเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม ความคดิ สรา้ งสรรค์ การบรหิ าร ความคดิ สรา้ งสรรค์ บรหิ าร จดั การและการบรกิ าร จดั การ และการบรกิ ารที่ สอดคลอ้ งกบั ศักยภาพหลักของ 4. สามารถบอกและยกตวั อยา่ ง พ้ืนที่ในการพัฒนาอาชพี ทกั ษะการเรยี นรู้เพอ่ื พฒั นา ศกั ยภาพ 5 กลมุ่ อาชพี ใหม่
70 รายละเอยี ดคาํ อธบิ ายรายวชิ า พว22002 การใชพลังงานไฟฟาในชีวิตประจําวัน 2 จาํ นวน 3 หนวยกิต ระดับมัธยมศึกษาตอนตน มาตรฐานการเรยี นรูระดับ มีความรู ความเขาใจ ทักษะ และเห็นคุณคาเกี่ยวกับกระบวนการทางวิทยาศาสตร เทคโนโลยี สิ่งมีชีวิต ระ บบนิเวศ ทรัพ ยาก รธรรมชาติและสิ่งแวดล อ มใน ท องถ่ิน และป ระเทศ สาร แรง พลังงาน กระบวนการเปลยี่ นแปลงของโลก และดาราศาสตร มีจิตวิทยาศาสตร และนําความรูไปใชประโยชน ในการ ดําเนนิ ชีวติ ท่ี หวั เรอื่ ง ตวั ชวี้ ัด เนือ้ หา จํานวน (ช่ัวโมง) 1 ก าร กํ าเนิ ดข อ ง บอกการกําเนิดของไฟฟา การกาํ เนิดของไฟฟา 2 ไฟฟา 1. ไฟฟาท่ีเกิดจากการเสียดสี ของ วัตถุ 2. ไฟฟาทเี่ กดิ จากการทํา ปฏกิ ิรยิ าทางเคมี 3. ไฟฟาทเ่ี กดิ จากความรอน 4. ไฟฟาทเ่ี กดิ จากพลงั งาน แสงอาทิตย 5. ไฟฟาที่เกดิ จากพลังงาน แมเหลก็ ไฟฟา 2 ส ถ า น ก า ร ณ 1. บอกสัดสวนเชื้อเพลิงที่ใชใน 1.สถานการณพลังงานไฟฟาของ 10 พ ลังงาน ไฟ ฟ า การผลิตไฟฟาของประเทศไทย ประเทศไทย ของประเทศ 2. ตระหนักถึงสถานการณ ของ 1.1 สัดสวนการผลิตไฟฟา ไทย และประเทศ เช้ือเพลิงที่ใชในการผลติ ไฟฟา ของ จากเชื้อเพลิงประเภทตางๆ ของ ใน อาเซยี น ประเทศไทย ประเทศไทย 3. วิเคราะหสถานการณพลังงาน 1.2 ความตองการใชไฟฟาใน แต ไฟฟาของประเทศไทย ละชวงเวลาในหนึง่ วันของ ประเทศ 4. เป รีย บ เที ย บ ส ถ าน ก า ร ณ ไทย พลงั งานไฟฟาของไทยและ 1.3 สภาพปจจบุ ันและแนวโนมการ ประเทศในอาเซียน ใชพลังงานไฟฟา 2. สถาน ก ารณ พ ลังงาน ไฟ ฟ า ของ ประเทศในอาเซยี น
71 ท่ี หัวเร่ือง ตัวชว้ี ัด เน้อื หา จาํ นวน (ชั่วโมง) 3 หนวยงานที่ 1. ระบชุ ื่อและสังกดั ของ หนวยงานที่เกีย่ วของดาน 3 เก่ียวของ หนวยงานที่เกี่ยวของดานพลงั งาน พลังงานไฟฟาในประเทศไทย ดานพลงั งาน ไฟฟาในประเทศไทย 1. คณะกรรมการกาํ กับ ไฟฟาใน ประเทศไทย 2. บอกบทบาทหนาท่ีของ กิจการพลงั งาน (กกพ.) หนวยงานทเ่ี ก่ียวของดาน 2. การไฟฟาฝายผลติ แหง พลงั งานไฟฟา ประเทศไทย (กฟผ.) 3. การไฟฟาสวนภมู ิภาค (กฟภ.) 4. การไฟฟานครหลวง (กฟน.) 4 เช้ื อ เพ ลิ งแ ล ะ 1. บอกประเภทเชื้อเพ ลิงและ 1. เชื้อเพลงิ ฟอสซลิ 10 25 พลังงาน ท่ีใชใน พลงั งานท่ใี ชในการผลติ ไฟฟา 1.1 ถานหนิ การผลิตไฟฟา 2. เปรียบเทียบขอดี ขอจาํ กัด 1.2 นา้ํ มัน ของเชื้อเพลิงและพลังงานท่ีใชใน 1.3 กาซธรรมชาติ การผลติ ไฟฟา 2. พลงั งานทดแทน 3. ยกตัวอยางพลังงานทดแทน 2.1 ค ว า ม สํ า คั ญ ข อ ง พ ลั ง ง า น ที่ มใี นชมุ ชนของตนเอง ทดแทน 2.2 ประเภทของพลังงาน ทดแทน 2.3 หลกั การทํางานของ พลงั งานทดแทน 2.3.1 พลังงานลม 2.3.2 พลงั งานน้ํา 2.3.3 พลงั งานแสงอาทิตย 2.3.4 พลังงาน ชีวมวล 2.3.5 พลังงานความรอนใตพิภพ 2.3.1 พลังงานนวิ เคลียร 2.4 ข อ ดี ขอ จํากั ด ขอ งพ ลังงาน ทดแทน
72 ท่ี หวั เรอ่ื ง ตัวช้ีวัด เน้อื หา จาํ นวน (ชั่วโมง) 5 โรงไฟฟากับการ 1. บอกผลกระทบดาน 1. ผลกระทบและการจัดการ 10 สงิ่ แวดลอมดานอากาศ จัดการ ดานส่ิง สิ่งแวดลอมทีเ่ กิดจากโรงไฟฟา 2. ผลกระทบและการจัดการ แวดลอม 2. บอกการจัดการดาน ส่ิงแวดลอมดานนำ้ ส่งิ แวดลอมของโรงไฟฟา 3. ผลกระทบและการจดั การ สิ่งแวดลอมดานเสียง 3. มีเจตคตทิ ีด่ ีตอโรงไฟฟา แตละ ประเภท 6 อปุ กรณไฟฟ้า 1. ตอวงจรไฟฟาแบบตาง ๆ 1. อุปกรณไฟฟา 30 และ 2. เลือกใชอปุ กรณไฟฟาไดถูกตอง 1. สายไฟ, 2. ฟวส วงจรไฟฟา้ 3. อุปกรณตดั ตอนหรือ เบรกเกอร, 4. สวติ ซ 5. เครือ่ งตดั ไฟฟารว่ั 6. เตารบั เตาเสียบ 2. วงจรไฟฟา 1. แบบอนุกรม 2. แบบขนาน 3. แบบผสม 3. สายดินและหลกั ดิน 1. สายดิน 2. หลกั ดิน 7 การใชและการ 1. อธบิ ายกลยุทธการประหยดั 1. กลยุทธการประหยัดพลังงาน 30 ป ร ะ ห ยั ด พลังงานไฟฟา ไฟฟา 3 อ. พลงั งานไฟฟา 2. จาํ แนกฉลากเบอร 5 ของแท 1.1 กลยทุ ธ อ. 1 อุปกรณ กับของลอกเลยี นแบบ ประหยดั ไฟฟา 3. เลอื กใชเครอื่ งใชไฟฟาได 1.2 กลยุทธ อ. 2 อาคาร เหมาะสมกับสถานการณที่ ประหยัดไฟฟา กําหนดให 1.3 กลยทุ ธ อ. 3 อุปนสิ ยั 4. ปฏบิ ัตติ นเปนผูประหยัด ประหยัดไฟฟา พลังงานไฟฟาในครัวเรอื น 2. การเลอื กซื้อ เลอื กใช และดแู ล
73 ท่ี หัวเรอื่ ง ตวั ชีว้ ัด เนื้อหา จํานวน (ชั่วโมง) 5. อธบิ ายวธิ ีการดูแลรกั ษา รกั ษาเครอ่ื งไฟฟาในครวั เรอื น เครือ่ งใชไฟฟาในครัวเรอื น 2.1 เครอื่ งทํานาํ้ อุนไฟฟา 6. บอกองคประกอบของ คาไฟฟา 2.2 กระตกิ นาํ้ รอนไฟฟา 7. คาํ นวณคาไฟฟาในครัวเรอื น 2.3 พัดลม 2.4 โทรทศั น 2.5 เตารดี ไฟฟา 2.6 ตูเย็น 3. การคาํ นวณคาไฟฟาใน ครวั เรอื น 3.1 องคประกอบของคาไฟ 3.2 อตั ราคาไฟฟา 3.3 การคํานวณการใชไฟฟา
74 มาตรฐานการเรียนรู้ระดับ รู้ เข้าใจ ยอมรับ เห็นคุณค่า ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและสามารถ ประยุกต์ใช้ในการประกอบอาชีพและมีภูมิคุ้มกันในการดำเนินชีวิตของตนเอง ครอบครวั และชุมชนอย่างมี ความสุข ท่ี หัวเร่อื ง ตวั ช้ีวัด เน้อื หา จำนวน 1. ความพอเพยี ง (ช่วั โมง) อธิบายความเป็นมา ความหมาย 1. ความเป็นมาความหมาย 2. ประกอบอาชีพ 4 อย่างพอเพียง หลกั การของปรชั ญาของเศรษฐกิจ หลกั การแนวคดิ ของปรัชญาของ 6 3. การวางแผน พอเพยี ง เศรษฐกจิ พอเพียง ประกอบอาชีพ 6 แบบพอเพียง 2. การแสวงหาความรู้ 1. นำหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง 1. หลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง ไปใช้ในการจดั การทรพั ยากรทม่ี อี ยู่ กบั การจัดการทรพั ยากรทม่ี อี ยูข่ อง ของตนเอง ครอบครัว ชุมชน ตนเอง ครอบครัว ชมุ ชน 2. กำหนดแนวทางและปฏิบตั ิตนใน 2. หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจ การนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียงกบั การประกอบอาชีพ พอเพียงไปประยกุ ต์ใชใ้ นการ ประกอบอาชีพ 1. ประยุกต์หลักปรัชญาของ 1. การประยกุ ตห์ ลักปรชั ญาของ เศรษฐกจิ พอเพยี งและขอ้ มูลจาก เศรษฐกิจพอเพียงท่ใี ช้ในการ การศึกษาวิเคราะห์นำมาวางแผนใน ประกอบอาชพี การประกอบอาชีพได้ 2. ความหมาย ความสำคญั 2. วางแผนในการเรียนรู้ ประกอบ ประเภทกระบวนการวางแผน อาชีพโดยการประยุกตห์ ลักปรชั ญา 3. การวางแผนการเรียนร้/ู การ ของเศรษฐกิจพอเพียงและจาก ประกอบอาชีพ โดยใช้กระบวนการ การศึกษาวิเคราะหข์ อ้ มลู จดั ทำ 3 ห่วง 2 เง่อื นไข โครงงานตามแผนงานท่ีวางไวไ้ ด้ อย่างเหมาะสม
75 ท่ี หัวเรือ่ ง ตวั ชวี้ ัด เน้อื หา จำนวน (ช่วั โมง) 4. สรา้ งเครอื ขา่ ย ปฏบิ ัตติ นเป็นแบบอย่างของชุมชน 1. การส่งเสริม เผยแพร่ ขยาย ผลงานการปฏบิ ตั ติ ามหลักปรัชญา 6 ของเศรษฐกิจพอเพียงของบุคคล ดำเนินชีวติ แบบ ในการประกอบอาชีพและการ ชมุ ชน ทป่ี ระสบผลสำเร็จ 2. การสร้างเครือข่ายการประกอบ พอเพยี ง ดำเนนิ ชีวิตตามหลักปรชั ญาของ อาชพี และการดำเนนิ ชีวติ ตามหลัก ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง เศรษฐกิจพอเพยี ง 3. กระบวนการขบั เคล่อื นเศรษฐกิจ พอเพยี ง
76 ผลการวเิ คราะหร์ ายละเอียดคำอธิบายรายวชิ า ท่ี ตัวช้วี ัด เนอ้ื หา จำนวน ออกแบบแผนการ (ชั่วโมง) จดั การเรียนรู้ 1. อธิบายความเปน็ มา ความหมาย 1. ความเปน็ มา พบกล่มุ เรียนรดู้ ว้ ย ตนเอง หลักการของปรัชญาของ ความหมาย หลักการ 4 6 ✓ เศรษฐกจิ พอเพียง แนวคดิ ของปรัชญาของ 6 ✓ เศรษฐกจิ พอเพยี ง ✓ 2. การแสวงหาความรู้ 2. 1. นำหลักปรัชญาเศรษฐกจิ 1. หลกั ปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียงไปใชใ้ นการจดั การ พอเพียงกบั การจัดการ ทรัพยากรท่มี อี ยขู่ องตนเอง ทรัพยากรทมี่ อี ยขู่ อง ครอบครัว ชุมชน ตนเอง ครอบครัว ชมุ ชน 2. กำหนดแนวทางและปฏิบตั ิตน 2. หลกั ปรัชญาของ ในการนำหลกั ปรัชญาของ เศรษฐกจิ พอเพียงกบั การ เศรษฐกิจพอเพยี งไปประยุกตใ์ ช้ ประกอบอาชีพ ในการประกอบอาชพี 3. 1. ประยุกต์หลกั ปรัชญาของ 1. การประยกุ ต์หลกั เศรษฐกจิ พอเพยี งและข้อมลู จาก ปรชั ญาของเศรษฐกิจ การศกึ ษาวิเคราะห์นำมาวางแผน พอเพยี งทีใ่ ช้ในการ ในการประกอบอาชีพได้ ประกอบอาชีพ 2. วางแผนในการเรยี นรู้ 2. ความหมาย ประกอบอาชพี โดยการประยกุ ต์ ความสำคัญ ประเภท หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจ กระบวนการวางแผน พอเพยี งและจากการศกึ ษา 3. การวางแผนการเรยี นรู้ วิเคราะห์ขอ้ มลู จัดทำโครงงาน /การประกอบอาชพี โดย ตามแผนงานท่ีวางไว้ได้อย่าง ใชก้ ระบวนการ 3 ห่วง 2 เหมาะสม เงือ่ นไข
77 ผลการวเิ คราะห์รายละเอยี ดคำอธบิ ายรายวชิ า ท่ี ตวั ชี้วัด เนื้อหา จำนวน ออกแบบแผนการ (ช่วั โมง) จดั การเรยี นรู้ 4. ปฏบิ ตั ิตนเปน็ แบบอย่างของ 1. การสง่ เสรมิ เผยแพร่ ชุมชนในการประกอบอาชพี และ ขยายผลงานการปฏิบัติ พบกลุ่ม เรยี นรู้ดว้ ย การดำเนินชีวติ ตามหลกั ปรัชญา ตามหลักปรชั ญาของ ตนเอง ของเศรษฐกิจพอเพียง เศรษฐกิจพอเพียงของ บคุ คล ชุมชน ทป่ี ระสบ 6✓ ผลสำเร็จ 2. การสรา้ งเครอื ขา่ ยการ ประกอบอาชีพและการ ดำเนนิ ชวี ติ ตามหลัก ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง 3. กระบวนการขบั เคลอื่ น เศรษฐกจิ พอเพยี ง
78
79 ภาคผนวก
80 บันทึกข้อความ ส่วนราชการ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อำเภอถลาง ท่ี ถล 0563/0813 วนั ที่ 14 เดอื น มิถุนายน พ.ศ. 2564 เรื่อง ขออนุมตั ิแผนการจดั กระบวนการเรียนรู้ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2564 เรียน ผู้อำนวยการ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอำเภอถลาง ตามที่ประกาศแต่งตั้งให้ข้าพเจ้า นายไตรทศ มะโนสด เป็นครูผู้สอนนักศึกษา หลักสูตรการศึกษา นอกระบบระดบั การศกึ ษาข้นั พื้นฐาน ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ประจำภาคเรียน 1 ปีการศกึ ษา 2564 จำนวน 27 คน นัน้ ข้าพเจ้า ได้ดำเนินการจัดทำแผนการจัดกระบวนการเรียนรู้ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เรียบร้อย แลว้ เพ่ือเสนอตอ่ ผ้บู ริหารแลว้ ตามเอกสารดังแนบ จึงเรียนมาเพ่อื โปรดทราบและดำเนนิ การต่อไป ( นายไตรทศ มะโนสด ) ตำแหนง่ ครูผู้ชว่ ย ความเห็นของผู้บริหารสถานศกึ ษา ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ลงชื่อ........................................................................ผ้อู นมุ ัติ (นางศริ ิรตั น์ อนิ ทรนิมิตร) ผูอ้ ำนวยการ กศน.อำเภอถลาง
81 ท่ีปรึกษา คณะผจู้ ดั ทำ นางศริ ิรตั น์ อนิ ทรนมิ ิตร ผอู้ ำนวยการ กศน.อำเภอถลาง ครผู ชู้ ่วย ผู้จัดทำ /ออกแบบ /จัดทำรปู เลม่ นายไตรทศ มะโนสด
82
83
Search