Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore นิตยสารสาระวิทย์ โดย สวทช. ฉบับที่ 123 เดือนมิถุนายน 2566

นิตยสารสาระวิทย์ โดย สวทช. ฉบับที่ 123 เดือนมิถุนายน 2566

Published by Thalanglibrary, 2023-07-03 02:45:07

Description: นิตยสารสาระวิทย์ โดย สวทช. ฉบับที่ 123 เดือนมิถุนายน 2566

Search

Read the Text Version

สาระวทิ ย์ ในศลิ ป์ ภาพเคลื่อนไหวที่เห็นคือแบบจำ�ลองของการโคจรรอบ โดยระยะการเคลื่อนของเส้นสเปกตรัม จะสัมพันธ์กับความเร็ว จดุ ศนู ยก์ ลางมวลของทง้ั โลกและดวงอาทติ ย์ และเพอ่ื ใหเ้ หน็ การ เชงิ รศั มีดว้ ยสมการ เคลอื่ นไหวเลก็ ๆ ของดวงอาทติ ย์ แบบจ�ำ ลองนฉี้ นั ไดเ้ พมิ่ ขนาดและ จะเห็นได้ว่า การจะตรวจจับการเคล่ือนไปของสเปกตรัม มวลของดาวเคราะหม์ ากกวา่ คา่ ความเปน็ จรงิ ของโลกไปเสยี เยอะ เนื่องจากความสัมพันธ์เชิงแรงโน้มถ่วงของดาวเคราะห์โลกที่มี แตเ่ รายงั แทบไม่เห็นดวงอาทิตย์เคลอ่ื นท่ี แน่นอนวา่ ระบบสุรยิ ะ ต่อดวงอาทิตย์ จะต้องใช้อุปกรณ์วัดท่ีมีความละเอียดสูงระดับ ยังมีดาวเคราะห์อื่นนอกจากโลกอีก ถ้าอยากทดลองดูผลของ เศษเส้ยี วของนาโนเมตรเลยทีเดียว ดาวเคราะห์อ่ืนต่อการเคลื่อนท่ีของดวงอาทิตย์ว่าเป็นอย่างไร ไม่เพียงแค่เอเล่ียนที่ต้องการตรวจจับโลก ถ้ามนุษย์เรา ลองเข้าไปเล่นกันได้ท่ี https://astro.unl.edu/classaction/ani- ต้องการหาดาวเคราะห์คล้ายโลกก็ต้องเจออุปสรรคน้ีเช่น mations/extrasolarplanets/ca_extrasolarplanets_starwobble. เดียวกัน และทางออกก็คือสร้างอุปกรณ์ที่มีความละเอียดสูง html จะสังเกตเห็นไดว้ า่ เมื่อเพม่ิ ดาวเคราะหด์ วงใหญ่ ๆ หนกั ๆ มาก ๆ หรอื เลอื กเปา้ หมายเปน็ ดาวเคราะหท์ ม่ี วลมากขนึ้ มาหนอ่ ย อย่างพวกดาวพฤหัสบดีหรือดาวเสาร์เข้าไป การเคลื่อนที่ของ เพ่ือตรวจวัดผลที่แสดงชัดมากขึ้น แต่นั่นก็หมายถึงดาวเคราะห์ ดวงอาทิตย์ปรากฏเห็นได้เด่นชัด แต่...อย่าลืมภารกิจหลัก ท่ีเราตรวจวัดได้จะต้องมีขนาดค่อนข้างใหญ่และไม่เข้าเกณฑ์ ของเราล่ะ ส่ิงท่ีเราต้องการคือดาวเคราะห์หินขนาดกะทัดรัด ดาวเคราะห์คล้ายโลกอย่างที่ต้องการ หรือเราอาจเลือกดูระบบ ไมใ่ กล้ไมไ่ กลจากดาวฤกษ์ ให้พออุ่น ๆ คล้ายโลกของเรา เพ่อื จะ ท่ีมีดาวฤกษ์ขนาดเล็กลงมาหน่อย ข้ันที่ว่าดาวเคราะห์มวลน้อย ไดม้ โี อกาสเจอสง่ิ มชี วี ิต แล้วมนั จะเปน็ ไปได้ไหมนะ ?! กแ็ สดงผลให้เห็นชัดเจนได้ นั่นไม่ใช่ปัญหาเดียว ข้ันต่อมาคือ แล้วจะวัดความเร็วน้ี อยา่ งไรกต็ ามวธิ ี radial velocity นมี้ ปี ระโยชนอ์ ยา่ งมากในการ อย่างไรดี นาฬิกาจับเวลากับการนับปากเปล่าคงไม่แม่นยำ�พอ เก็บข้อมูลสำ�คัญอย่างมวลขั้นตำ่� คาบการโคจรของดาวเคราะห์ เราต้องมีตัวช่วย ถ้ายังจำ�กันได้เรื่องปรากฏการณ์ดอปเพลอร์ ไปจนถึงความเบ้ียวของวงโคจร (eccentricity) นักดาราศาสตร์ หรือปรากฏการณ์ท่ีแหล่งกำ�เนิดคล่ืนมีการเคล่ือนท่ีสัมพัทธ์กับ ใช้วิธีนี้เก็บรวบรวมข้อมูลระบบดาวนอกระบบสุริยะมาแล้วเป็น ผู้สังเกต แล้วส่งผลให้ความถ่ีหรือความยาวคลื่นที่ถูกส่งออกมา จ�ำ นวนมาก จงึ นบั เปน็ วธิ กี ารส�ำ คญั ในการส�ำ รวจดาวเคราะหน์ อก จากแหล่งกำ�เนิดน้ัน ๆ เปลี่ยนแปลงไปเม่อื วดั จากผสู้ งั เกต (หาก ระบบที่ใชก้ ันมาจนถึงปจั จุบนั สงสยั เปดิ อา่ นสาระวทิ ย์ในศิลป์ ในฉบับท่ี 112 เดือนกรกฎาคม แล้วฉบับหนา้ ฉนั จะมาเลา่ ให้ฟงั ว่าอีก 2 วิธที ี่เหลือจะเหมือน พ.ศ. 2565 กันไดน้ ะ) หรือแตกต่างกันอย่างไร ฉบับน้ีขอลาไปพักร้อนต่อก่อนนะ เราอาจใช้เส้นสเปกตรัมของไฮโดรเจนแอลฟามาเป็น บ๊ายบาย ตวั อย่างการค�ำ นวณได้ โดยเจา้ เส้นสเปกตรมั นี้เปน็ เส้นทเี่ กดิ ขึ้น เมื่ออิเล็กตรอนของไฮโดรเจนดูดหรือคายพลังงานแล้วมีการ เคลอ่ื นทร่ี ะหวา่ งชัน้ พลังงานท่ี 2 กบั 3 ทำ�ให้เกดิ เสน้ สเปกตรัม ท่ีมีความยาวคล่ืนเท่ากับ 656 นาโนเมตร เส้นเหล่านี้ช่วยให้ นักดาราศาสตร์วิเคราะห์องค์ประกอบของดาวฤกษ์และจัด ประเภทออกมาได้ตามอณุ หภูมิ เสน้ เหลา่ นม้ี ปี ระโยชนก์ เ็ พราะเมอ่ื เกดิ ปรากฏการณด์ อปเพลอร์ มันจะทำ�หน้าท่ีคล้ายตำ�แหน่งอ้างอิง เม่ือความยาวคลื่นถูกยืด ออกหรอื หดลง เรากใ็ ชว้ ดั เปรยี บเทยี บไดว้ า่ เคลอื่ นไปมากแคไ่ หน ปรากฏการณน์ ท้ี �ำ ใหน้ กั ดาราศาสตรห์ าความเรว็ การเคลอื่ นที่ ของดาวฤกษ์ผ่านการตรวจวัดสเปกตรัมของดาว แล้วคำ�นวณ ปริมาณการเคลื่อนไป (Doppler shift) ของเส้นสเปกตรัม มถิ นุ ายน 2566 51

by อาจารย์เจษฎ์ อยมา่ นังอนเอ๋ปน้ี น็ เ่ี อง https://www.facebook.com/OhISeebyAjarnJess/ “ไทยโทคาแมก-1” เครื่�่องจำำ�ลองนิิวเคลีียร์์ฟิวิ ชััน ระดัับงานวิิจััย ยัังไม่่ไช่่ระดัับโรงไฟฟ้า้ พลัังนิิวเคลีียร์์ฟิวิ ชััน เปน็ อีกหนึ่งเร่ืองท่ีมีคนส่งมาถามเยอะในช่วงนี้ อยากให้อธิบายเกี่ยวกับข่าวที่ว่า ไทยกำ�ลังสรา้ ง “ดวงอาทิตย์ดวงใหม”่ เปน็ ดวงอาทิตย์ประดษิ ฐ์ทจ่ี ะเป็นแหลง่ พลังงานสะอาดเพื่ออนาคตสำ�หรับคนไทย จากปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชันเหมือนท่ีเกิดบน ดวงอาทติ ย์ สามารถน�ำ ไปใชก้ บั อตุ สาหกรรมได้มากมาย เปน็ พลังงานสะอาด ลดโลกร้อน นำ�ไป ทดแทนโรงไฟฟา้ นิวเคลยี รร์ ปู แบบเดมิ ฯลฯ !? มิถนุ ายน 2566 52

อยมา่ นังอนเอ๋ปน้ี น็ เ่ี อง ถา้ พดู แบบเขา้ ใจงา่ ยใหค้ นทวั่ ไปฟงั กป็ ระมาณนน้ั ครบั แตถ่ า้ มากกว่า 84 ตัน ติดตั้งในอาคารปฏิบัติการเครื่องโทคาแมค ให้ชัดเจนขึ้นก็คือ เรากำ�ลังได้รับความช่วยเหลือจากจีนในการ ณ ส�ำ นักงานใหญ่ของ สทน. อำ�เภอองครักษ์ จังหวดั นครนายก ลองสรา้ ง “เครอื่ งโทคาแมก (tokamak)” ขนาดเลก็ ขนึ้ เปน็ ครงั้ แรก ติดต้ังเสร็จเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2566 ที่ผ่านมา ด้วยความ ในประเทศไทย เพ่ือใช้ในการเรยี นร้แู ละท�ำ วิจัยเกย่ี วกบั ปฏิกิรยิ า ร่วมมือระหว่าง สทน., ASIPP และการไฟฟ้าฝ่ายผลิต แล้ว นิวเคลียร์ฟิวชัน (nuclear fusion) และตอนน้ีก็ได้ทดลองเดิน ได้ดำ�เนินการเกี่ยวกับระบบแหล่งจ่ายกำ�ลัง (power supply) เครือ่ งสรา้ งกระแสพลาสมาได้สำ�เร็จเปน็ คร้ังแรกแล้ว จนเสรจ็ เมอ่ื เดอื นกมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2566 ซึ่งเครื่องโทคาแมกน่้ียังต้องพัฒนาอีกเพ่ือการนำ�ไปใช้ หลังจากน้ันได้ปรบั แต่งและทดสอบการเดินเครอ่ื ง และเม่ือ ประโยชนเ์ ชงิ วจิ ยั ดา้ นตา่ ง ๆ และยงั อกี ไกลมากทจี่ ะพฒั นาใหเ้ ปน็ วันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2566 ได้ทดลองเดินเครื่องกระตุ้นให้ เครือ่ งขนาดใหญท่ ีจ่ ะเปน็ แหลง่ ผลิตพลังงานไฟฟ้าจรงิ ๆ ไดค้ รับ ก๊าซไฮโดรเจนแตกตัว กระทัง่ เข้าส่สู ถานะพลาสมาได้ส�ำ เรจ็ เปน็ เม่อื เทยี บกบั เครื่องอน่ื ๆ อยา่ งเคร่ือง SPARC ของสถาบนั MIT ครั้งแรก ซึ่งการเดินเคร่ืองคร้ังแรกน้ีสร้างกระแสพลาสมาได้ แต่ก็เป็นเร่ืองน่ายินดีอย่างยิ่งที่วิทยาศาสตร์ไทยเราจะมี 2,200 แอมแปร์ เปน็ เวลานาน 5 มลิ ลวิ นิ าที อุปกรณ์ไฮเทคมาติดต้ังและนำ�ไปใช้กับงานวิจัยอ่ืน ๆ ต่อไป ขั้นต่อไปจะทดลองเพิ่มกำ�ลังการเดินเครื่องให้เข้าสู่ระดับ เหมอื นอยา่ งทเ่ี รามเี ครอ่ื งก�ำ เนดิ แสงซนิ โครตรอน (synchrotron) ปกตทิ คี่ วรท�ำ ได้ คอื สรา้ งกระแสพลาสมาระดบั 50,000 แอมแปร์ ทีจ่ งั หวัดนครราชสมี า ซ่ึงแม้จะมขี นาดเล็กกวา่ เครอ่ื งอน่ื ๆ ของ ใหน้ าน 100 มลิ ลวิ ินาที ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2566 นี้ สถาบันวิจัยระดับโลก แต่เราก็นำ�มาใช้ประโยชน์ด้านการทำ�วิจัย ในอนาคต สทน. จะออกแบบสรา้ งเครอ่ื งโทคาแมกขนึ้ มาเอง กันหลากหลายเร่อื งเลยทเี ดียว โดยใช้เทคโนโลยีแม่เหล็กตัวนำ�ย่ิงยวด (superconducting เครื่องไทยโทคาแมก-1 (TT-1) น้ันดำ�เนินการสร้างและ magnet) เพ่ือสร้างสนามแม่เหล็กที่มีความเข้มสูงข้ึนสำ�หรับ พัฒนาโดยสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (สทน.) โดย กักเก็บพลาสมา คาดว่าจะสร้างพลาสมาระดับ 10 ล้านองศา- ได้รับมอบตัวเคร่ืองโทคาแมกมาจากสถาบันพลาสมาฟิสิกส์ เซลเซยี สได้ (ASIPP) สาธารณรฐั ประชาชนจนี เพอื่ ใชว้ จิ ยั การใชป้ ระโยชนจ์ าก นวิ เคลยี รฟ์ วิ ชนั เปน็ หนงึ่ ในเทคโนโลยที สี่ �ำ คญั ตอ่ มนษุ ยชาติ การจ�ำ ลองปฏกิ ริ ยิ านวิ เคลยี รฟ์ วิ ชนั สรา้ งพลาสมาขน้ึ มาในเครอ่ื ง และจะน�ำ ไปสยู่ คุ ใหมข่ องการผลติ พลงั งานของชาวโลกตอ่ ไป คล้ายกับปฏิกิริยาท่ีเกิดตามธรรมชาติบนดวงอาทิตย์ มีน้ำ�หนัก นิิตยสารสาระวิิทย์์ @SarawitNSTDA • บริิษััทด้้านสื่่�อ/ข่่าวสาร มถิ ุนายน 2566 53

ปน้ั น�ำ้ เปน็ ปลา ดร.ชวลิต วิทยานนท์ ปลาแมงป่่อง วงศ์์ปลาแมงป่อ่ งครีีบยาว ปลาสิิงโต (Family Apistidae) ปลาในอัันดัับย่่อยปลาแมงป่่อง สิิงโต (suborder Scor- แมงป่่องครีบี ยาว Apistus carinatus paenoidei) เป็็นปลาทะเลขนาดเล็็กถึึงกลางที่่�มีีความ ใต้คางมหี นวดยาว 2 คู่ ครบี อกยาวถงึ คอดหาง มีสีด�ำ ใกล้ช้ ิดิ กับั วงศ์ป์ ลาเก๋า๋ กะรังั (familySerranidae)มีหี ัวั โตและบริเิ วณ ขนาดโตสดุ มีความยาว 10 เซนตเิ มตร ส่ว่ นหัวั และกระดูกู แก้ม้ มีหี นาม ปากกว้า้ ง ลำ�ำ ตัวั ป้อ้ ม ครีบี แผ่ก่ ว้า้ ง บางชนิิดมีีพััฒนาการของผิิวหนัังให้้เป็็นเส้้นหรืือแผ่่นยื่ �นยาว วงศ์ป์ ลาหััวโขนกำำ�มะหยี่่� ออกมา ครีีบหลัังและครีีบก้้นมีีก้้านครีีบแข็็งแหลมคมและมัักมีี (Family Aploactinidae) ต่อ่ มพิิษ หลายชนิดิ มีพี ิิษแรง อาจบาดเจ็บ็ สาหัสั ได้้ เช่น่ ปลาหินิ ปลาสิงิ โต ครีีบท้้องอยู่�บริิเวณอกหรืือใกล้้คอ เกล็ด็ เล็ก็ เป็็นขอบ เป็นปลาทะเลขนาดเล็ก หวั โต ลำ�ตวั แบนขา้ ง ครีบหลงั หยัักละเอีียดหรืือเรีียบผสมกััน ว่่ายน้ำ�ำ� ช้้า ๆ และมัักนอนนิ่�ง ๆ แบ่งเปน็ 3 ตอน ตอนหนา้ สุดมีกา้ นครีบยกสูง ครบี ท้องเลก็ บนหน้า้ ดินิ หรือื ฝังั ตัวั เพื่�อรอเหยื่�อ พบมากในเขตร้อ้ น หลายชนิดิ เป็น็ ปลาสวยงาม ในประเทศไทยพบ 5 วงศ์์ได้้แก่่ เปน็ เส้นสน้ั ผวิ เรียบไม่มีเกลด็ แตด่ คู ล้ายเปน็ ขยุ เปน็ ปลาอย่หู น้าดนิ พบ 6 ชนิดในไทย เช่น วงศ์์ปลาหินิ (Family Synanceiidae) หััวโขนกำ�ำ มะหยี่่� Acanthosphex leurynnis มีลักษณะหัวใหญ่ มีหนาม ตาเล็กโปนและมักหน้าหัก ช่องเหงือกแคบ ผิวหนังหนาและเป็นปุ่ม ไม่มีเกล็ด ครีบหลังมี ใตค้ างมีหนวดส้ัน 1 อนั ก้านแข็งแหลมและมักมีต่อมพิษ ครีบอกใหญ่กว้าง สีลำ�ตัวคลำ้� ขนาดโตสดุ มีความยาว 4 เซนตเิ มตร มลี ายเลอะ ท�ำ ใหแ้ ลดคู ลา้ ยกอ้ นหนิ อาศัยตามชายฝง่ั และแนว ปะการังในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก พบน่านน้ำ�ไทยราว 12 ชนิด ตัวอยา่ งเช่น ปลาหิินแนวปะการััง Synancea verrucosa แมงป่่องเทา นับเป็นปลาทม่ี ีพษิ แรงทสี่ ดุ ของโลกชนิดหนงึ่ Minous monodactylus ก้้านครีบี ท้อ้ งอัันแรกเป็็นเส้้นยาว ขนาดโตสุุดมีคี วามยาว 10 เซนติิเมตร มิถุนายน 2566 54

วงศ์์ปลาหัวั โขนเล็็ก ปน้ั น�ำ้ (Family Tetrarogidae) เปน็ ปลา เปน็ ปลาทะเลขนาดเลก็ หัวโต ลำ�ตวั แบนขา้ ง ปลาในสกุลอื่น ๆ นอกจากสกลุ Platycephalus มักมีขนาดเลก็ ครบี หลังตอนหน้ามกี ้านครีบใหญก่ ว่าตอนหลงั ชัด มคี รีบอก พบปนมากับกองปลาเป็ด เชน่ ขนาดใหญ่ บางชนิดมลี ักษณะทีก่ ลมกลนื ไปกบั สภาพแวดลอ้ ม ส่วนมากมกั จะอาศยั และหากนิ บรเิ วณพ้ืนทอ้ งนำ�้ พบ 8 ชนดิ ในไทย เชน่ หัวั โขนเล็็ก ผีเี ข้า้ ผีีออก ช้้างเหยียี บครีีบดวง Vespicula trachynoides Rogadius asper ครบี หลงั แยกเป็นสองตอน มีก้านครีบแข็งหลายอนั ครบี ท้องมดี วงดำ�กระจาย ครีบหลงั ตอนหน้ามีปนื้ สคี ลำ้� ครบี ท้องใหญ่ ขนาดโตสดุ มคี วามยาว 4 เซนติเมตร ขนาดโตสุดมคี วามยาว 10 เซนตเิ มตร วงศ์ป์ ลาช้า้ งเหยียี บ ช้้างเหยียี บด่่าง Rogadius pristiger (Family Platycephalidae) ครบี ทอ้ งมีขีดประสคี ลำ้�เลก็ น้อย เปน็ ปลาทะเลขนาดกลาง ล�ำ ตวั ยาวและแบนลง สว่ นหวั แบนราบ ขนาดโตสุดมีความยาว 8 เซนตเิ มตร จะงอยปากแหลม มสี ันแขง็ ทีข่ อบของกระดกู สว่ นหวั เป็นหนาม เรียงเป็นแถว ลำ�ตัวเพรียวไปทางหาง ครีบอกใหญ่ เกล็ดแบน ช้้างเหยียี บครีีบใส ขอบสาก มเี สน้ ขา้ งล�ำ ตวั สมบรู ณ์ ครบี หลงั แยกออกเปน็ สองตอน Suggrundus macracanthus โดยครีบหลังตอนสองยาวกว่าตอนแรก ครีบทอ้ งอย่ตู �ำ แหน่งอก ลำ�ตัวด้านบนมีสีนำ้�ตาลเข้มจนถึงน้ำ�ตาลดำ� ด้านท้องเป็นสีอ่อน ครีบหลังใส มจี ดุ จางเลก็ นอ้ ย มจี ดุ และลวดลายแตกตา่ งกนั ในไทยพบ 18 ชนดิ เช่น ขนาดโตสุดมีความยาว 10 เซนตเิ มตร หางควาย Platycephalus cultellatus ช้า้ งเหยีียบหางเรียี ว หางมลี ายเป็นเส้นหนาสีดำ�ขนานกัน ขนาดโตสดุ Grammoplites scaber ครบี หลังมีจดุ สีคล้ำ�กระจาย คอดหางเรียว มีความยาว 36 เซนติเมตร เปน็ ปลานา่ หม่�ำ พบในท้องตลาด ขนาดโตสดุ มคี วามยาว 8 เซนตเิ มตร มถิ นุ ายน 2566 55

QSucizi บ้านนกั คิด หน้า้ ฝนวนมา ปััญหาจากการบริิโภคเห็ด็ พิิษก็ก็ ลัับมาระบาดอีกี ครั้้ง� ฮะ เพราะว่่า เจ้า้ เห็ด็ กินิ ได้ก้ ับั เห็ด็ พิิษหลายชนิดิ นี่่ห� น้า้ ตาคล้า้ ยกันั มาก ๆ บางชนิดิ กินิ แล้ว้ ถึงึ ตาย หลายชนิดิ ก็็ทำ�ำ ให้ป้ ่ว่ ยหนักั ถึงึ เข้า้ โรงพยาบาลได้้ ถ้้าเราไม่่ชัวั ร์์ ไม่่เชี่่�ยวชาญ ก็็ต้้องไม่่หาชิิมนะฮะ ฉบัับนี้้�คุุณผู้้�อ่่านช่่วยบอกเหมีียวหน่่อยว่่าเห็็ดต่่าง ๆ เหล่่านี้้� ชนิดิ ไหนกิินได้้ ชนิดิ ไหนเป็็นเห็ด็ พิิ ษฮะ เห็็ดหัวั กรวด เห็ด็ ถ่่าน เห็ด็ ถ่่าน เห็ด็ หมวกจีนี ครีีบเขีียว ครีบี เทียี น เห็ด็ นกยูงู เห็็ดระโงกขาว เห็ด็ ระโงกหิิน รางวััลประจำ�ำ ฉบัับที่�่ 123 เห็็ดโคน กิิฟต์์เซต I Love Science ขวดน้ำำ�� NSTDA (สมุุดโน้้ต+ดิินสอ+เลนส์ท์ วิิทรรศน์์) จำ�ำ นวน 1 รางวััล จำำ�นวน 1 รางวััล มิถนุ ายน 2566 56

ไปดููเฉลยของฉบับั ที่่�แล้ว้ กัันฮะ ว่า่ ถิ่�น่ ที่่�อยู่่�อาศััย ของสัตั ว์์ในคำ�ำ ถามนั้้�นอยู่่�ที่่�ใดบ้า้ ง ผู้�้ได้้รัับรางวัลั ประจำำ�ฉบัับที่�่ 122 กิิฟต์เ์ ซต World Scientists ได้แ้ ก่่ คุณุ ศศิวิ ิมิ ล เกตุุแก้ว้ กิิฟต์เ์ ซต I Love Science ได้แ้ ก่่ คุณุ สิริ ััส สุลุ ัญั ชุุปกร คุุณพิิ มพ์์ สรรค์์ เกิิดโภคา สง่ คำ�ตอบมาร่วมสนกุ ได้ที่ หมดเขตสง่ คำ�ตอบ วนั ที่ 30 มิถนุ ายน พ.ศ. 2566 กองบรรณาธิการสาระวทิ ย์ ฝา่ ยสร้างสรรค์สอ่ื และผลิตภณั ฑ์ ค�ำ ตอบจะเฉลยพร้อมประกาศรายชื่อผ้ไู ดร้ ับรางวลั ส�ำ นกั งานพฒั นาวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยแี ห่งชาติ ในสาระวิทย์ ฉบับที่ 124 สำ�หรับของรางวัล 111 อุทยานวิทยาศาสตรป์ ระเทศไทย ถ.พหลโยธนิ ต.คลองหน่งึ อ.คลองหลวง จ.ปทมุ ธานี 12120 เราจะจดั สง่ ไปใหท้ างไปรษณยี ์ หรอื สง่ ทางโทรสารหมายเลข 0 2564 7016 หรอื ทาง e-mail ที่ [email protected] อยา่ ลืมเขียนช่ือ ท่อี ยู่ มาดว้ ยนะฮะ มถิ นุ ายน 2566 57

Sci เข้าหู โน้ตความรู้ฉบับย่อจากการพูดคุยกับแขกรับเชิญในPodcastรายการSciเข้าหูของนิตยสารสาระวิทย์ซึ่งเป็น โนต้ ความร้ฉู บบั ย่อ รายการที่รวบรวมผู้คนในแวดวงวิทยาศาสตร์มาร่วมพูดคุยและให้ความรู้ในประเด็นที่น่าสนใจ เกาะติดกระแส วิทยาศาสตร์ไทยและวิทยาศาสตร์โลกไปพร้อมกัน ทุกวันอังคารที่ 2 และ 4 ของเดือน ทางเฟซบุ๊กเพจ ปริทัศน์ เทียนทอง นิตยสารสาระวิทย์ หรือติดตามย้อนหลังที่ https://www.nstda.or.th/sci2pub/podcast-sci-in-ear/ Q: ทำำ�ไม “เนื้้�อสััตว์์เพาะเลี้้ย� ง” จึึงมีคี วามจำ�ำ เป็็นสำ�ำ หรัับโลกในยุคุ ปััจจุบุ ัันและอนาคต เนื้้อ� สััตว์์เพาะเลี้้�ยงเกิิดขึ้้�น เพื่่� อหวัังแก้้ปััญหาความ ต้้องการเนื้้�อสััตว์์ที่่�เพิ่่� มสููงขึ้้�น รวมทั้�้ง การที่่ก� ระบวนการทำ�ำ ฟาร์์มเลี้้ย� งสััตว์์แบบ เดิิมต้้องใช้้ทั้�้งพลัังงาน น้ำ��ำ และที่่�ดิิน ซึ่่�งส่่งผลต่่อการปล่่อยก๊๊าซเรืือนกระจก นอกจากนี้้�ยัังมีีปััญหาทางจริิยธรรมใน การเลี้้ย� งสััตว์์เพื่่�อนำ�ำ เนื้้อ� มาบริโิ ภคอีกี ด้้วย ในอนาคตเราอาจไม่่มีีพื้้� นที่่�และทรััพยากร ที่่�จะผลิิตเนื้้�อสััตว์์ให้้เพีี ยงพอต่่อความ ต้้องการของมนุุษย์์ที่่�เพิ่่� มขึ้้�นอย่่างต่่อเนื่่�อง โดยมีีการคาดการณ์์ว่่าปริิมาณการบริิโภคเนื้้�อสััตว์์ของมนุุษย์์จะเพิ่่� มขึ้้�นอีีกเท่่าตััว ในปีี พ.ศ. 2593 ดัังนั้น้� เราต้้องการตััวเลืือกใหม่โ่ ดยใช้้เทคโนโลยีเี ข้้ามาช่่วย การผลิติ เนื้้อ� ให้้ห้้องแล็็บช่ว่ ยตอบโจทย์์ และเป็น็ อีีกหนึ่่ง� ทางเลืือกที่่�เป็็นไปได้้ เพราะผลิิตเนื้้�อได้้ครั้�้งละมาก ๆ โดยที่่�เราไม่่ต้้องไปฆ่่าวััวเป็็นหมื่่�น ๆ ตััว จึึงเป็็นเรื่่�องที่่�จะตอบโจทย์์ต่่อความ ต้้องการของผู้้บ� ริิโภค ประกอบกัับภาวะโลกร้้อนที่่�อาจจะร้้อนจนส่่งผลกระทบต่่อการปลููกพืืชและเลี้้�ยงสััตว์์ ภััยน้ำ�ำ� ท่่วมก็็เป็็นอีีกปััญหาสำำ�คััญ ไม่่เพีียงแต่่ พื้้�นที่่เ� พาะปลููกและเลี้้�ยงสััตว์์ พื้้�นที่่อ� ยู่อ่� าศััยของมนุุษย์์ก็็อาจจะกระทบด้้วย หรืือมีีเหตุุการณ์์ดิิสรััปต์์แรง ๆ อย่่างโควิิด 19 ส่่งผลให้้โรงงานหรืือโรงเชืือดอาจจะต้้องโดนปิิด อย่่างเช่่นกรณีีที่่�เคยเกิิดขึ้้�นใน สหรััฐอเมริกิ ามาแล้้ว โดยความคิิดเห็น็ ส่่วนตััวอยากให้้ภาคเอกชน ภาครััฐบาล และประชาชนทั่่ว� ไปได้้ทราบว่า่ หลายประเทศได้้มีีการผลิิตจนออกมาจำ�ำ หน่า่ ย แล้้ว ไม่่อยากให้้ประเทศไทยยึึดติิดอยู่่�กัับเกษตรกรรมแบบดั้้�งเดิิมเพีี ยงอย่่างเดีียว เพราะประเทศเรามีีทรััพยากรเพีี ยงพอต่่อ การบริิโภคของประชาชน อยากให้้เกิิดการพััฒนาและมีีส่่วนร่ว่ มในตรงจุุดนี้้ด� ้้วย ณภัทั ร ตัณั ฑิิกุลุ ฟังั บทสััมภาษณ์เ์ ต็ม็ ได้้ที่่� นัักวิิจััยด้้านสเต็็มเซลล์์และ NSTDA Podcast การเพาะเลี้้�ยงเนื้้อ� เยื่่�อ รายการ Sci เข้้าหูู EP7 ผู้้ช� นะ FameLab Thailand 2019 เนื้้�อสัตั ว์์เพาะเลี้้�ยง อาหารแห่ง่ อนาคต https://www.nstda.or.th/sci2pub/sci-in-ear-ep7/ มถิ นุ ายน 2566 58

ค�ำ คม นกั วทิ ย์ ดร.น�ำ ชยั ชวี วิวรรธน์ วิทยาศาสตร์หมายถึงการที่ตลอดเวลานั้น เราต้องเดินไต่ลวดที่ขึงอยู่ระหว่างศรัทธาที่มืดบอดกับความอยากรู้อยากเห็น; ระหว่างความเชี่ยวชาญกับความคิดสร้างสรรค์; ระหว่างอคติกับความเปิดกว้าง; ระหว่างประสบการณ์กับความศักดิ์สิทธิ์; ระหว่างความทะเยอทะยานกับความหลงใหล; และระหว่างความอหังการกับความเชื่อมั่น - กล่าวโดยสรุปคือ ระหว่างวันนี้ที่คร่ำ�คร่ากับพรุ่งนี้ที่เอี่ยมอ่อง - ไฮน์ริช เรอห์เรอร์ - Science means constantly walking a tightrope between blind faith and curiosity; between expertise and creativity; between bias and openness; between experience and epiphany; between ambition and passion; and between arrogance and conviction – in short, between and old today and a new tomorrow. - Heinrich Röhrer - ไฮน์ริช เรอหเ์ รอร์ (6 มิถุนายน พ.ศ. 2476 – 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2556) ไฮน์ริช เรอหเ์ รอร์ เป็นนักฟสิ ิกส์ชาวสวสิ เขาร่วมกบั แกรท์ บนิ นชิ (Gerd Binnig) นกั ฟสิ กิ ส์ชาวเยอรมนั คิดค้นกล้องจลุ ทรรศนแ์ บบหวั ส่องกราด (scanning tunneling microscope) ซ่งึ เปน็ เคร่อื งมือชนิดแรก ๆ ท่ีน�ำ มาใช้งานทางดา้ นนาโนเทคโนโลยี ผลงานน้ีท�ำ ใหท้ ้ังสองไดร้ บั รางวัลโนเบลสาขาฟสิ ิกส์ในปี ค.ศ. 1986 ทwี่่�มikาimภาeพdia: .hotrtgp/sw:/ik/ci/oFmilem:Roonhsr.er.jpg ร่วมกับ แอน็ สท์ รสู คา (Ernst Ruska) นักฟิสิกสช์ าวเยอรมนั ผู้คิดค้นกล้องจุลทรรศนอ์ ิเล็กตรอน ใบสมัครสมาชิก https://www.facebook.com/SarawitNSTDA https://www.facebook.com/SarawitNSTDA https://www.facebookน.ิcติomย/SสarาaรwiสtNาSรTDะAวิทิ ย์์ https://www.facebook.com/SarawitNSTDA สมัครผ่านชอ่ งทางออนไลนไ์ ดท้ ลี่ ิงก์ ติดตอ่ กองบรรณาธิการสาระวิทย์ https://forms.gle/jnj86w6J58Y9Nqqb8 หรือ ได้ทางอเี มล Scan QR Code [email protected] ที่อยู่ ฝา่ ยสร้างสรรค์สื่อและผลิตภณั ฑ์ (MPC) สำ�นกั งานพัฒนาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยแี ห่งชาติ 111 อทุ ยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย ถนนพหลโยธนิ ต�ำ บลคลองหนง่ึ อ�ำ เภอคลองหลวง จงั หวัดปทมุ ธานี 12120 สาระวทิ ยเ์ ป็นนิตยสารอิเล็กทรอนิกส์ (e-magazine) รายเดอื น มีจดุ ประสงค์เพ่อื เผยแพรข่ ้อมลู ข่าวสารและความรดู้ า้ นวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีทง้ั ของไทยและตา่ งประเทศ ใหแ้ กก่ ลุ่มผ้อู ่านท่ีเปน็ เยาวชนและประชาชนทว่ั ไปทส่ี นใจในเรอ่ื งดงั กล่าว โดยดาวนโ์ หลดได้ฟรีที่ www.nstda.or.th/sci2pub/ หรือบอกรับเป็นสมาชกิ ไดโ้ ดยไมเ่ สยี ค่าใชจ้ ่ายใดๆ จดั ทำ�โดย ฝา่ ยสร้างสรรคส์ ่อื และผลิตภณั ฑ์ สำ�นักงามนพิถัฒนุ นาายวนทิ ย2าศ5า6สต6รแ์ ละเทคโนโลยีแหง่ ชาติ (สวทช.) 59ขอ้ ความต่าง ๆ ทปี่ รากฏในนติ ยสารอิเล็กทรอนิกสฉ์ บบั นี้เป็นความเหน็ โดยอิสระของผ้เู ขียน สำ�นักงานพฒั นาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีแหง่ ชาตไิ มจ่ �ำ เป็นต้องเห็นพอ้ งดว้ ย ภาพประกอบทใ่ี ช้ในเล่มอยภู่ ายใต้สทิ ธใิ์ ช้งานจาก Shutterstock.com

เห็็ดพิิ ษ Sci Gallery Poisonous Mushroom เห็็ดในธรรมชาติิหลายชนิิดเป็็น เห็็ดพิิ ษที่่�หน้้าตาดููคล้้ายกัับเห็็ด กิินได้้ ระดัับความรุุนแรงของ พิิษมีตี ั้้ง� แต่่ทำ�ำ ให้ม้ ึนึ เมา เจ็บ็ ป่ว่ ย จนถึึงขั้้�นเสีียชีีวิิต หนึ่่�งในเห็็ด พิิษอันั ตรายร้า้ ยแรงที่่พ� บมากใน ประเทศไทยคืือ เห็ด็ กลุ่่ม� ระโงกหินิ หรืือเห็ด็ ระงาก สกุลุ Amanita มถิ ุนายน 2566 60


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook