Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 27509

27509

Published by Thalanglibrary, 2020-04-19 00:52:18

Description: 27509

Search

Read the Text Version

“ ได้ใจแล้วคือได้ธรรม เห็นใจแล้วคอื เห็นธรรม รู้ใจแล้วคือรู้ธรรมท้งั มวล ภาพอนุปาทเิ สสนิพพาน (ขันธ์ห้าดับ จากน้ันบรมสุขทป่ี ราศจาก ถึงใจตนแล้วคอื ถึงพระนิพพาน ” (หลวงป่ ูมัน่ ) สติปัฏฐาน ๔ มสี ติกาํ หนดพจิ ารณา สมมุติใดๆเข้ามาเกย่ี วข้องกเ็ ป็ นทไี่ ป = วสิ ุทธิธรรม) กายเวทนาจิตธรรม เลอื กพิจารณา ๑ อย่าง ตามความเหมาะสมในจริตของตนเอง เพอ่ื ความชํานาญ (วสี) ในทน่ี ีจ้ ะยกเอาสตกิ าํ หนดพจิ ารณาจิต นํามาแสดงเพอ่ื ให้ ๓ ประวตั พิ ระสุปัญญา ธนปัญโญ (๖๐) เป็ นท่เี ข้าใจ (หน้า ๙) เมอื่ กเิ ลสตัวหนักๆหมดไป (บรรลุอนาคามี มี ๕ ช้ัน ช้ันแรก ราคะขาด ๕๐ %) กาํ หนดกายจะหายไปเกดิ ความว่างและมีสติทฐ่ี าน แต่กเิ ลสส่วน พระสุปัญญา ธนปัญโญ (ผู้เขยี น) โทร ๐๘๕ – ๗๕๑๐๗๖๕ ละเอยี ดยงั ไม่หมดไป ทส่ี ุดจึงต้องพจิ ารณาแบบเดียวกนั คือพจิ ารณาจิตเพอ่ื ทาํ กเิ ลส hotmail.com อเี มล์ [email protected] รหสั supanya6 ให้หมดไป (กิเลสละเอยี ดทส่ี ุดคืออวชิ ชา) fb – supanya tanapanyo , e – book พมิ พ์ supanya ตรงมืดๆและความว่างทฐ่ี านเช่นหน้าผาก จิตสงบเพ่งเบาๆนึกให้สลายแยก line – supanya (id – supanya7773) ออกตามเข้าไปเรื่อยๆ ไม่ต้องละเอยี ดโดยอนุโลมปฏโิ ลม เม่อื พอเพยี งงานรื้อวฏั ฏะก็ เสร็จสิ้น สังเกตการเบาบางและหมดไปของกเิ ลสทภ่ี ายในจิต แล้วเทยี บกบั สังโยชน์ และอริยบุคคล สมถะจะข่มกเิ ลสช่ัวคราว แต่ถ้าพจิ ารณาถูกต้องเม่อื พอเพยี งมรรค ผลกเ็ กดิ แต่ละช้ันของอริยบุคคลกเิ ลสจะขาดแล้วขาดเลยได้แล้วไม่เส่ือม

๑ ประวตั ิ พระ สุปัญญา ๓ สายตรงพ้นทกุ ข์ ๕ เจริญใจ ๒ Phra Supanya history. ๔ The direct way to , ++ , ๖ บุคคลาธิษฐาน ๗ ธรรมกถึก ๘ จิตอสิ ระ หนังสือ ๓๕ เล่ม และซีดีสายตรงพ้นทุกข์ (ปกหน้าปกหลงั ข้างใน) ๑๗ องค์แทนศาสดา ๑๘ นานาสาระธรรม ๑๙ ธรรมทาน ๒๐ ทพ่ี ง่ึ ๒๑ ปัจจัตตงั ๑๐ D๙haธrรmรaมโmอeสdถicine. ๑๑ เคร่ืองหมายคนดี ๑๒ วสิ ุทธิธรรม ๒๒ ธัมมวจิ ยะ ๒๓ สายกลาง ๒๔ ธรรมเหนือโลก ๒๕ พจิ ารณา ๒๖ โทษวฏั ฏะ ๒๗ พอเพยี ง ๒๘ ละพทุ ธภูมิ ๒๙ วจิ ารณญาณ ๓๐ ของเก่าเล่าใหม่ ๓๑ มหาฯ ๓๒ เมอื งพอ ๓๓ หลกั ใจ ๓๔ อยู่ยอด ๓๕ เกดิ ขึน้ ต้ังอย่ดู ับไป พมิ พ์แจกเป็ นธรรมทานได้โดยไม่ต้องขอ อนุญาต ยกเว้นเพอื่ จําหน่าย yt พมิ พ์ พระสุปัญญา ธนปัญโญ หรือ สายตรงพ้นทุกข์ hotmail.com อเี มล์ [email protected] , [email protected] , ya3330@ windowslive.com รหสั supanya6 , fb – supanya tanapanyo , skype – supanya3336 ๑๓ พุทธจิต ๑๕ T๑๔heพpุทreธdทicาํ tนoาfย, ++ ๑๖ ทางลดั (พ้นทกุ ข์)

คาํ นํา สารบญั เจตนาช่วยงานพระศาสนาสนองคุณพ่อแม่ครูอาจารย์และผู้มีพระคุณ เป็ น หน้า ประสบการณ์ทไี่ ด้มาอย่างล้มลกุ คลุกคลานถึงข้ันราบร่ืนมาเป็ นลาํ ดับ (หลายสํานัก คัดมาแล้วสรุปให้คอื ดีทสี่ ุด) เพอ่ื ให้เกดิ สัมโมทนียกถา (ความรื่นเริงในธรรม) จะ ๑ ประวตั พิ ระสุปัญญา ธนปัญโญ (ผู้เขียน) ๑ เป็ นประโยชน์สําหรับผ้ตู ้องการปฏบิ ัติแบบง่ายสะดวกรวดเร็วปลอดภยั ได้ผลคุ้มค่า ธรรมะความสงสัยไม่มีสิ้นสุดยตุ ิด้วยการปฏบิ ัติ ง่ายๆต้งั ใจฟังหรืออ่านแล้วทาํ ตาม ๒ เริ่มแรกปฏบิ ตั ิล้มลกุ คลกุ คลาน ๓ (หน้า ๙) ภาวนา ๒๐ – ๓๐ นาทหี รือมากกว่านีต้ ่อวนั เมอ่ื พอเพยี ง (ภายใน ๑๐ วนั ) กเิ ลสจะเบาบางทส่ี ุดกห็ มดไป มีข้อมูลหลายท่านทไี่ ด้มรรคผลอย่ใู นอเี มล์หน้าปก ๓ การเปลี่ยนแปลงคร้ังสําคัญ สะเปะสะปะแต่ได้บ้าง ฌาน – สมาธิ ประมาณ ๔๑๙ ท่าน (มีอกี มาก) ๑๑ พ.ย. พ.ศ. ๒๕๖๒ ท่ตี รวจสอบ เริ่มโปรดสอน มาต้งั แต่ พ.ศ. ๒๕๕๑ ในพระพุทธศาสนา ๕ บางท่านน้อยหรือมากกท็ าํ แต่ถูกทางจึงได้มรรคผล เพยี งแต่อาจจะได้ช้า ๔ สายตรงพ้นทุกข์ จับจุดได้ ๗ หรือเร็วราบร่ืนหรือลาํ บาก เพราะ “ อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ = ตนแลเป็ นทพ่ี งึ่ แห่ง ตน ” (ธมฺมปทคาถา) ขณะผ้เู ขียนยังมชี ีวติ ผ้ใู ดต้องการพ้นทกุ ข์แบบง่ายๆให้รีบโทร ๕ เปรียบเทยี บระยะเวลาปฏบิ ตั ิ ๘ มาถามหรือมาหา เพราะจะได้ความรู้ในแบบทไี่ ม่มกี ารปิ ดบังใดๆ ในอนั ทจี่ ะเป็ นคุณ ประโยชน์ (คุณธรรมพระธรรมกถกึ ) เรียกเทศน์แกงหม้อจ๋ิว (ธรรมะสุดยอด) ทาํ ๖ ภาวนา (ออกทางปัญญา สายตรงพ้นทุกข์ จุดพลงั อาํ นาจ) ๙ แจกเป็ นธรรมทานได้โดยไม่ต้องขออนุญาต นอกจากเพอ่ื จําหน่ายจึงขอสงวนสิทธ์ิ ๗ นิมติ เห็นเจดีย์ใหญ่ พระธาตุสีเขียว ๑๑ ขอให้โชคดมี คี วามสุขราบร่ืนสมหวงั ปราศโรคภัยไข้เจ็บไม่มหี นีส้ ิน บรรลุ พระนิพพานทกุ ท่านเทอญ ๘ เกดิ ในพนื้ ทสี่ ีแดง (๔ มิ.ย. พ.ศ. ๒๕๐๙) ๑๒ พระสุปัญญา ธนปัญโญ (ผู้เขียน) พรรษา ๑๖ อายุ ๕๓ ปี / ๒๕๖๒ ๙ ผู้เขยี นกบั เลข ๗ (วนั เดอื นปี เกดิ ๔ มิ.ย. พ.ศ. ๒๕๐๙) ๑๓ ๑๔๗ ม.๕ บ.คลองน้อย อ.นาแก จ.นครพนม ๔๘๑๓๐ ๑๐ ชอบเล่นบาสเกตบอล มูลเหตุของการปฏบิ ัติ (เห็นไตรลกั ษณ์) ๑๔ ๒๒ ก.ย. พ.ศ. ๒๕๕๓ ต้นฉบับ ๑๔ พ.ย. พ.ศ. ๒๕๖๒ ปรับปรุง ๑๑ เข้ากรุงเทพฯ (วธิ ีฝึ กเปี ยโนคีย์บอร์ดง่ายๆ) ๑๖ ๑๒ พ่อป่ วยหนัก (มะเร็งช่องท้อง) พระอรหนั ต์ไปอยู่ ณ สถานทใ่ี ด สถานทน่ี ้ัน จะเป็ นที่รื่นรมย์ (๑๗) นานาสาระธรรม ๑๙ ๑๓ ไถ่นาซื้อคยี ์บอร์ด ๑๔ เป็ นตัวแทน บ.เอไอเอ (พ.ศ. ๒๕๓๓ – ๒๕๔๑) ๒๔ ๑๕ อศั จรรย์เด็กในท้องดิน้ (นึกถงึ บุญคุณพ่อแม่) ๒๕ ๑๖ พบหลวงพ่อวริ ิยงั ค์คร้ังแรก (พบพ่อแม่ครูอาจารย์ พ.ศ. ๒๕๔๐) อรุณทอแสง (The shining sun). ๒๖ ๑๗ ทางโลกขดั ข้อง ทางธรรมราบร่ืน (วาสนาทางโลก วาสนาทางธรรม) ๒๘

๑๘ นิมิตเห็นหลวงป่ มู ั่น ๓๐ ๑๙ นิมติ เหน็ หลวงตามหาบวั (๒๕๔๕) ๒๙ ก.ค. ๒๕๕๓ เร่ิมเขียนหนังสือ ๓๒ ๒๐ การอยู่กบั พ่อแม่ครูอาจารย์ (พ.ศ. ๒๕๔๖) ๓๓ ๒๑ แก้ไขตนเอง ๓๔ ๑ พระพุทธรูปของโยมแม่ ๒ พระสุปัญญา ๓ ไตรจวี ร บาตร ๒๒ สิ่งขวางก้นั มรรคผล ๓๕ ๑ ประวตั พิ ระสุปัญญา ธนปัญโญ (ผู้เขยี น) ๒๓ การละการปรารถนาพุทธภูมิ ๓๕ นามเดิม สุปัญญา ปัญญาดิลกพงษ์ เป็ นบุตรคนที่ ๗ มีพ่ีน้องท้ังหมด ๘ คน ของนายสุภาพ นางสุภาพร เกิดวันเสาร์ท่ี ๔ มิ.ย. พ.ศ. ๒๕๐๙ แรม ๑ ค่ํา ปี ๒๔ หลกั การดําเนินวิปัสสนา (ออกทางปัญญา การพจิ ารณาจิต) ๓๖ มะเมีย ณ บ้านเลขที่ ๑๖๗ หมู่ ๔ อ.นาแก จ.นครพนม ๔๘๑๓๐ สูง ๑๗๔ ซ.ม. นํา้ หนัก ๖๙ ก.ก. สัณฐานสันทดั สีเนือ้ ขาวเหลอื ง ๒๕ ระยะเวลาภาวนา ๓๖ การศึกษา เรียนช้ันประถม ร.ร. นาแกผดุงราชกจิ เจริญ ร.ร. บ้านแพง ร.ร. ๒๖ พฒั นาวดั ร้าง ๒๗ ช่างจําเป็ น ๓๗ บ้านแพงวทิ ยา จบ ป.6 ร.ร. บ้านนาแกน้อย (พ.ศ. ๒๕๒๒) จบ ม. ๖ ร.ร. นาแกสามัคควี ทิ ยา (๒๕๒๘) กฬี าหลกั บาสเกตบอล ๒๘ สิ่งทไ่ี ด้จากความมืด ๓๘ นอกน้ันวอลเล่ย์บอล แฮนด์บอล ปิ งปอง หมากรุก จบวชิ าเรียบ เรียงดนตรี จาก ร.ร. ดนตรีสยามกลการปทมุ วนั ครูสมาธิรุ่น ๓ ๒๙ เคร่ืองรับเคร่ืองส่งมันตรงกนั ๓๘ ครูสมาธิช้ันสูง สถาบันพลงั จิตตานุภาพ วดั ธรรมมงคล ก.ท.ม. พ.ศ. ๒๕๔๒ ๓๐ เทย่ี วธุดงค์วเิ วก (โปรดสัตว์) ๓๙ การทาํ งาน ครูดนตรี นักดนตรีอาชีพทก่ี ทม. (เปี ยโน คยี ์บอร์ด) ๑๕ ปี ตวั แทน บ. เอ.ไอ.เอ. ๘ ปี ๓๑ ข้อวตั รประจําวนั ๓๙ ครอบครัว เคยมีครอบครัว (แยกทาง) มีบุตร ๑ คน ชื่อนายสุพพัฒวงศ์ ปัญญาดลิ กพงษ์ เสียชีวติ ๗ ต.ค. ๒๕๕๖ (อุบตั ิเหตุจักรยานยนต์) ๓๒ วนั อุโบสถ (วสิ ุทธิอโุ บสถ) ๔๐ อุปสมบท ก่อนบวชพระคร้ังล่าสุด (๒๒ พ.ค. ๒๕๔๗) เคยพกั ภาวนากบั ๓๓ พระมหากจั จายนเถระ พระปุณณมันตานีบุตรเถระ (ปาฏิหาริย์ ๓) ๔๐ ๑ ๓๔ บทสวดมนต์ ๔๑ ๓๕ การแก้กรรม ๔๒ ๓๖ การต่อสู้กบั มาร ๔๓ ๓๗ โปรดพระจะสึก ๔๓ ๓๘ เทวดามาด้วยเยอะๆ (รอดตาย) ๔๕ ๓๙ ตกนํา้ ไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ ๔๗ ๔๐ เปรียบเทยี บการพจิ ารณากายและจิต ๔๙

ครูอาจารย์หลายสํานักต้งั แต่ พ.ศ. ๒๕๔๐ จึงมีพนื้ ฐานมาเป็ นอย่างดี อุปสมบทเมอ่ื พรรษา ๖ / ๒๕๕๒ ทพ่ี กั สงฆ์ขนั ไทย บ. ดานสาวคอย อ. นาแก จ. นพ. (อยู่ ๑ รูป) อายุ ๓๘ ปี เม่ือ ๒๒ พ.ค. ๒๕๔๗ เวลา ๑๒.๓๓ น. ณ วัดป่ าศิริวนั บรรพต ต. โนน พรรษา ๗ – ๑๒ / ๒๕๕๓ – ๕๘ เรือนว่าง สถานทบี่ รรลุธรรม (มหามงคล) ทเ่ี กดิ สมบูรณ์ อ. เสิงสาง จ. นครราชสีมา โดยพระครูอรุณคุณาทร (หลวงพ่อสุเมธ) เป็ น พระอุปัชฌาย์ พระเจริญ โรจนธัมโม เป็ นพระกรรมวาจาจารย์ พระสมปอง อริยจิต ทดี่ นิ ของพ่อแม่ เลขท่ี ๑๖๗ ม. ๔ อ. นาแก จ. นครพนม (อยู่ ๑ รูป) โต เป็ นพระอนุสาวนาจารย์ มีโอกาสศึกษาปฏิบัติภาวนากับหลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธ พรรษา ๑๓ – ๑๔ / ๒๕๕๙ – ๖๑ สํานักสงฆ์พระสุปัญญา อ.นาแก จ.นพ (อยู่ ๑ รูป) โร (เจ้าอาวาสวดั ธรรมมงคล ก.ท.ม.) อยู่อบรมกับหลวงป่ ูอว้าน เขมโก (วัดป่ านาค นิมิต บ.นามน จ.สกลนคร) ระยะหนึ่งและครูอาจารย์หลายท่าน รักสันโดษอยากพ้นทกุ ข์โดยเร็ว การปฏิบตั ิจะไม่คลุกคลกี บั หมู่คณะ ส่วน มากอยู่คนเดยี วไปคนเดียว กินง่ายอยู่ง่าย ชอบความเป็ นระเบียบ สะอาดแบ่งปันทาํ เนื่องจากอายุเร่ิมมาก การศึกษาปฏิบัติจะเรียนรู้ด้วยตนเองเป็ นส่วนใหญ่ ทานเออื้ เฟื้ อเป็ นนิสัยปกติ หลวงตามหาบัว ท่านเทศน์ว่า “ อย่าหวงของอร่อยไว้กนิ บางคร้ังก็หาโอกาสศึกษากับครูอาจารย์บางท่านเป็ นระยะ (รีบเรียนให้จบแล้วอย่า คนเดยี ว อย่ไู หนกไ็ ด้ขอให้อย่คู นเดียวไปคนเดียวเพราะไม่กงั วลพระอรหนั ต์ตาย ไปเข้าโรงเรียนอกี เพราะจะวนไปวนมาเปรียบเขยใหม่) ช่วง ๔ – ๕ ปี หลงั มีโอกาส ง่าย (รู้ทางแล้วรีบแก้ไขจะเกดิ ความราบร่ืน) ลกู ศิษย์จะเก่งขนาดไหนกอ็ ยู่ใต้ฝ่ าเท้า ฟังธรรมะจากพ่อแม่ครูอาจารย์หลายท่าน จากวิทยุเสียงธรรมเพอื่ ประชาชน วดั ป่ า ครูอาจารย์ อย่าไปตําหนิท่านเพราะท่านเป็ นพ่อแม่เรา เราบอกท่านไม่ฟังให้น่ิงเฉย บ้านตาด จ. อุดรฯ หลักๆคือหลวงตามหาบัว เกิดความอัศจรรย์ (ธรรมเหนือโลก หากไปทะเลาะกบั ท่านเราจะเป็ นฝ่ ายผดิ ” ธรรมธาตุครอบไตรโลกธาตุ) การศึกษาปฏิบัติส่วนมากจะภาวนาและเปิ ดวิทยุฟัง เทศน์ธรรมะกาํ หนดจิตไปด้วยวนั ละหลายชั่วโมงอย่างต่อเน่ือง ทาํ ให้ได้รับรู้ธรรมะ ๒ เร่ิมแรกปฏบิ ตั ิล้มลกุ คลกุ คลาน ๒๕๔๐ ซึมซาบอย่างหลากหลาย ยงั จับทางวปิ ัสสนาไม่ได้ แม้จะเพยี รปฏบิ ัติขนาดไหนกเ็ ป็ นแค่เพยี งสมถะ ประวตั ิการจําพรรษา (ความสงบข่มกเิ ลสชั่วคราว) เม่ือหมดกาํ ลงั สมาธิกเิ ลสกเ็ กดิ ขึน้ มาเหมอื นเดมิ (สมาธิหัวตอสงบอย่างเดียวไม่ออกทางปัญญา) จึงเป็ นช่วงทล่ี ้มลุกคลกุ คลาน จะ พรรษา ๑ / ๒๕๔๗ ทพี่ กั สงฆ์ บ.คาํ แคน ต.หนองสรวง อ.หนองกรุงศรี จ. กส. ตายกไ็ ม่ตาย จะบ้ากไ็ ม่บ้า จะเพยี้ นกไ็ ม่เพยี้ น เกดิ ความสงสัยท้อแท้ บางคร้ังจิต พรรษา ๒ / ๒๕๔๘ วดั ธาตุศรีคุณ อ. นาแก จ. นครพนม หลอนสะดุ้งต่ืนคิดจะเลกิ ปฏบิ ตั ิ จึงโทรหาหลวงพ่อวริ ิยังค์ (ผ้เู ขยี นอยู่ต่างจังหวดั ) พรรษา ๓ / ๒๕๔๙ สํานักสงฆ์ บ้านชาตพิ ฒั นา ต. อุ่มเม่า อ. ธาตุพนม จ. นครพนม ท่านตอบว่า “ แกกร็ ู้จักปล่อยวางบ้างซี หยุดไม่ได้สมาธิต้องทาํ สมา่ํ เสมอ ๑๐ นาที พรรษา ๔ / ๒๕๕๐ ป่ าช้า บ. จําปาศรี อ. นาแก จ. นครพนม สร้างวดั (อยู่ ๑ รูป) ต่อวนั เป็ นอย่างต่ํามเี วลาก็ทาํ ให้มากกว่านี้ การทาํ สมาธิแต่ละคร้ังจะได้พลงั จิต จะ พรรษา ๕ / ๒๕๕๑ ทพี่ กั สงฆ์ป่ าช้า บ.นาสีนวล อ.สหสั ขันธ์ จ.กาฬสินธ์ุ (อยู่ ๑ รูป) เข้าไปช่วยรักษาใจให้เป็ นปกติ เทวทตั ต์กท็ าํ สมาธิได้ ” แม้จับจุดการพจิ ารณาไม่ได้ แต่กท็ าํ สมาธิมาสมา่ํ เสมอหลายปี “ สอนได้แล้ว ” หลวงพ่อบอกตรงๆกบั ผ้เู ขียน ๒ ๓

พธิ ีมอบประกาศนียบัตร ครูสมาธิ รุ่น ๓ (๒๕๔๒) ๓ การเปลยี่ นแปลงคร้ังสําคญั สะเปะสะปะแต่ได้บ้าง สถาบันพลงั จิตตานุภาพ วดั ธรรมมงคล กรุงเทพฯ ๘ ม.ค. พ.ศ. ๒๕๕๑ ไปเทย่ี วธุดงค์ทางจังหวดั เลย พกั ภาวนาทวี่ ดั อมั พวนั ๔ บ.ไร่ม่วง ขณะน่ังสมาธิช่วงหวั คาํ่ ได้ยนิ หลวงตามหาบวั เทศน์สดทางวิทยุ ณ สวน แสงธรรม สรุปย่อๆว่า “ นั่นแหละตรงน้ันแหละยาํ้ เข้าไป (เพ่งเบาๆท่ีฐานจุดเดยี ว แล้วพจิ ารณา) ถ้าหลวงป่ มู ั่นท่านสั่งให้เรายาํ้ ลงไปทต่ี รงน้ันจุดเดียว เราสําเร็จไป นานแล้ว ” ต้งั แต่น้ันมาเม่อื จิตสงบเพ่งเบาๆทฐี่ านในกาย จากน้ันนึกให้สลายแยก ออก บางคร้ังพจิ ารณา บางคร้ังไม่พจิ ารณา เดือนมีนาคมกามราคะเร่ิมเบาบางยบิ๊ ๆ แย๊บๆ ศีลบริสุทธ์ิตลอด (บรรลสุ กทิ าคามี) เสียงจากหลวงตามหาบัว “ สะเปะสะปะ แต่พอได้บ้าง ” เร่ิมมัน่ ใจในทางทดี่ าํ เนิน จิตดูดด่ืมเร่ิมปล่อยวางแต่ยงั ไม่ออกทาง ปัญญาเต็มท่ี หลวงป่ เู จี๊ยะ จุนฺโทท่านเทศน์ว่า “ เพ่งอย่างเดยี วข่มกเิ ลสช่ัวคราว ” สังเกตเพ่งสมํ่าเสมอประมาณ ๔ เดอื นความง่วงหมดไปเยอะ (ถีนมิทธะคือ ความง่วงเหงาหาวนอน ความขาดสตปิ ัญญาของจิต) ฉันอาหารมากๆแล้วน่ังสมาธิ จิตจะไม่ง่วง การเพ่งกระแสจิตจะแรงจะลงไปตดั ตัวถนี มทิ ธะ สตจิ ะตามตลอดไม่ ว่าจิตจะลงลกึ ขนาดไหน เรียกว่าสัมมาสมาธิคอื การเพ่งฌาน (สมถะ + วปิ ัสสนา = ปัญญา) “ นตฺถิ ฌานํ อปญญสฺส นตฺถิ ปํญฺ า อฌายิโน ฌานํฺจ ปํญฺ ํจฺ นิพพาน สฺสสนฺติเก = ฌานไม่มีแก่ผู้ไม่มีปัญญา ปัญญาไม่มแี ก่ผู้ไม่มฌี าน ฌานและปัญญา ท้งั สองนีม้ ีอยู่ในผ้ใู ด ผู้น้ันอยู่ใกล้พระนิพพานนัก ” “ ปัญญาอ่อนท่านกล็ ะสังโยชน์ อย่างหยาบได้ ปัญญาอย่างกลางท่านกล็ ะสังโยชน์อย่างกลางได้ ถ้าปัญญาแก่กล้า ท่านกล็ ะสังโยชน์อย่างละเอียดได้ ” (หลวงป่ ูจวน) “ อย่าแบกอย่าหามกเ็ ป็ นปัญญาอกี แบบหนึ่ง ” (หลวงตามหาบวั ) ๕

หลวงป่ จู วน กุลเชฏฺ โฐ (ภูทอก) พระราชสังวรญาณ (หลวงพ่อพธุ ฐานิโย) ฌาน – สมาธใิ นพระพทุ ธศาสนา ๔ สายตรงพ้นทกุ ข์ ออกทางปัญญา จับจุดได้ ฌานหมายถึงการเพ่ง (เพ่งรูปฌาน ๔ อรูปฌาน ๔) เพ่งอย่างเดียวหาก ๓ ธ.ค. พ.ศ. ๒๕๕๑ สนทนาธรรมกบั สหธรรมมิก (โยมผ่องศรี บุญวฒั น์) ไม่ได้เจริญวิปัสสนาจะข่มกิเลสชั่วคราว (ศิลาทับหญ้า) ดั่งนิทานหรือประวัติท่าน ได้ยินว่าตัดพิจารณาอนัตตา สักระยะวันเดียวกันได้ยินหลวงพ่อพุธ ฐานิโย ท่าน ฤาษีได้สําเร็จฌานอภิญญา ผลท่ีสุดเหาะเหินเดินอากาศได้ด้วยอํานาจฤทธ์ิฌาน เทศน์ทางวทิ ยเุ สียงธรรมฯว่า “ การดําเนินวิปัสสนา ให้มโนภาพขึน้ มาในจิต จิตจะ ที่สุดเมื่อฌานเส่ือมแล้วก็เป็ นคนธรรมดาฯ พระพุทธเจ้าก่อนที่ท่านจะได้ตรัสรู้ เป็ นวปิ ัสสนาโดยอตั โนมัติ อนัตตาแปลว่าสลายไป ” (พจิ ารณาไตรลกั ษณ์) ท่านก็ไปทดสอบดูแล้วว่าไม่ใช่ทางพ้นทุกข์ เป็ นเพยี งแต่ข่มกิเลสไว้ช่ัวคราว จึงว่า ในสมัยนี้การเจริญฌานภายนอกไม่มีแล้วมีแต่เจริญภายใน การเพ่งฌานให้เดิน เมอื่ จิตสงบเพ่งเบาๆทฐี่ านแล้วนึกให้สลายแยกออก ไม่ต้องละเอยี ดตามเข้า วปิ ัสสนาไปพร้อม (สมถะ + วปิ ัสสนา = ปัญญา) ท่านจึงหาอุบายให้เพ่ง + พิจารณา ไปเร่ือยๆโดยอนุโลมปฏิโลม เม่ือจิตสงบจะมืดสว่างหรือเกดิ กระแสกไ็ ม่เป็ นไร ให้ ไตรลกั ษณ์เข้ามาภายใน (กายใจ) จุดเดียวเพอ่ื ให้เกิดความชํานาญ (วสี) การเพ่ง (ใน ทาํ ตามข้ันตอนดงั กล่าวจิตจะเป็ นวปิ ัสสนาโดยอตั โนมัติ จิตจะละเอยี ดเข้าไปเร่ือยๆ กายใจ) ด้วยความมีสติด้วยความมปี ัญญา (นึกให้สลายแยกออกดูหน้า ๙ เพ่ิม) อย่าง เมอื่ พอเพยี งกเิ ลสจะเบาบางทส่ี ุดกห็ มดไป นีแ้ หละ ! เรียกฌาน – สมาธิในทางพระพุทธศาสนา ถงึ จะจับได้ตรงจุดแต่ยงั สงสัยเพราะยงั มอี วชิ ชา สักระยะวนั เดียวกนั ช่วง อธิบายเพม่ิ จากเทศน์หลวงป่ ูจวน ศึกษาเป็ นแนวทางอย่าเรียนมากเพราะ หวั ค่าํ ได้ยนิ หลวงตามหาบวั ท่านเทศน์ทางวทิ ยวุ ่า “ เราล้มลกุ คลุกคลานมาสารพดั จะเกดิ การถือว่าได้ช้ันน้ันช้ันนีแ้ ละจะเกดิ ความล่าช้า เมอ่ื กเิ ลสหมดความรู้เหล่าน้ัน แบบเพราะฉะน้ันสอนได้ทกุ รูปแบบ นั่นแหละยาํ้ เข้าไปตรงน้ันแหละจุดเดียวได้ผล จะถูกนํามาใช้ให้เกดิ ประโยชน์อย่างมีคุณค่าด้วยความไม่สงสัย เพราะอวชิ ชาทเี่ ป็ น เยอะทส่ี ุด (พจิ ารณาทฐ่ี านจุดเดียว) ต้งั แต่น้ันมาจิตสงบเพ่งทห่ี น้าผากเบาๆ จากน้ัน ความรู้จอมปลอมถูกทาํ ลายลงและหมดไป นึกให้สลายแยกออกไม่ต้องละเอยี ดตามเข้าไปเร่ือยๆโดยอนุโลมปฏิโลมเมอื่ พอเพยี ง กเิ ลสจึงหมดไปแบบไม่มีขณะ (สุกขวปิ ัสสโก) ในวนั ท่ี ๒๐ ก.ค. ๒๕๕๓ พรรษา ๖ ๖ เวลา ๑๘.๐๐ – ๒๐.๐๐ น. ณ ทดี่ นิ ของพ่อแม่ เลขท่ี ๑๖๗ ม.๔ อ.นาแก จ.นครพนม ๗

การบรรลุเป็ นไปตามลาํ ดับ (โสดาบัน สกทิ าคามี อนาคามี อรหันต์) รู้ละเอยี ดเข้าไป เจ้าชายสิทธัตถะทรงบรรลปุ ฐมฌาน (ท่าน่งั สมาธิมาตรฐาน) เร่ือยๆ และรู้แบบเงียบๆคนเดียว ๖ ภาวนา (ออกทางปัญญา สายตรงพ้นทกุ ข์) ๒๑ ก.ค. พ.ศ. ๒๕๕๓ มีเสียงรบกวนเข้ามาทดสอบแต่ไม่รําคาญ (เวทนา เข้าไม่ถึงจิต) “ เริ่มรู้ ” ๒๗ ก.ค. พ.ศ. ๒๕๕๓ ได้ยนิ หลวงตามหาบัวท่านเทศน์สด สัมมาวายาโม (เพยี รชอบ) สัมมาสติ (สติชอบ) สัมมาสมาธิ (สมาธิชอบ) = ทางวทิ ยวุ ่า “ หมดแล้ว ” (งานรื้อวฏั ฏะเสร็จสิ้น) เพราะเป็ นธรรมอนั เหนือโลกและ จิตตสิกขา สติปัฏฐาน ๔ สติกําหนดพิจารณากายเวทนาจิตธรรม เลือกพิจารณา เป็ นธรรมจัดสรร จากน้ันออกอุทานว่า “ หาแทบตายอยู่ใกล้ๆง่ายนิดเดียว ” หน่ึงอย่างเพื่อความชํานาญ (วสี) ในที่นี้จะยกเอาสติกําหนดพิจารณาจิตนํามา อธิบายเพอ่ื ให้เป็ นทเ่ี ข้าใจ ก่อนภาวนาระลกึ ถึงพทุ โธธัมโมสังโฆ กลางคนื นอนในป่ าช้าเปลยี่ วคนเดียวรู้สึกเฉยๆ อาการจิตหลอนสะดุ้งตื่น หายขาด อะไรกส็ ักแต่ว่ารู้ๆไม่เป็ นกเิ ลส จิตไม่สุขไม่ทกุ ข์เฉยๆไม่ยนิ ดียนิ ร้าย ไม่มี ๑ นั่งหลบั ตานึกพทุ โธที่หน้าผากมากๆ (ไม่ช้าไม่เร็วคือปานกลาง) เกดิ ดบั ไม่ถอยหลงั ไม่เดนิ หน้าเทย่ี งตรงตลอดจิตเป็ นกลางๆ (สอุปาทเิ สสนิพพาน ๒ เม่ือจิตสงบ (ปัจจุบัน) จิตจะอม่ิ อารมณ์ = จิตสงบคอื จิตเข้าภวงั ค์ (ตนื้ = บรรลุนิพพานขณะมีชีวติ ) แค่นีเ้ พยี งพอกิเลสหมดใช้ได้เพราะรสชาตเิ หมือนกนั กลางลกึ มอี าการเบากายสบายหรือมีอาการอย่างอน่ื มากมายนั่นคอื กริ ิยาจิต = เข้า เมอ่ื รู้จักประมาณตนเองจึงพ้นทกุ ข์แบบพอเพยี ง ภวงั ค์คอื ภพ = รังอวชิ ชา) อย่าสนใจว่าเป็ นสมาธิฌานระดับใดเพราะจะสงสัย จิต สงบน่ิงแล้วเพ่ง + พจิ ารณาได้ไม่เป็ นปัญหา เพ่งเบาๆทฐี่ านอย่าเพ่งแรงแล้วนึกให้ ๕ เปรียบเทยี บระยะเวลาปฏบิ ตั ิ (ดูภาวนาประกอบ) สลายแยกออกตามเข้าไปเรื่อยๆไม่ต้องละเอยี ด ประมาณ ๑ – ๒ นาที หยุดพกั ทีฐ่ าน เช่นหน้าผากประมาณ ๑ นาที ทาํ เหมอื นเดมิ สลบั ไปมาด้วยความมีสติ (สัมมาสติ) ๑ (๒) เร่ิมแรกปฏบิ ัติ พ.ศ. ๒๕๔๐ ถึงพ้นทกุ ข์ ๒๐ ก.ค. ๒๕๕๓ (๑๓ ปี ) โดยอนุโลมปฏโิ ลม (พจิ ารณาแล้วพกั สลบั ไปมา) รวมเรียกว่าสติกาํ หนดพจิ ารณา ๒ (๓) การเปลยี่ นแปลงฯ ๘ ม.ค. ๕๑ ถึงพ้นทุกข์ ๒๐ ก.ค. ๕๓ (๒ ปี กว่า) จิต ออกทางปัญญา พจิ ารณาไตรลกั ษณ์ สัมมาสมาธิ ๓ (๔) สายตรงพ้นทุกข์ ๓ ธ.ค. ๕๑ ถงึ พ้นทกุ ข์ ๒๐ ก.ค. ๕๓ (๑ ปี กว่า) สังเกตจะไม่นานหากจับจุดได้อาจใช้เวลา ๑ ปี หรือน้อยกว่านี้ เขียนเป็ น ๙ แนวทางให้กาํ ลงั ใจผู้ทาํ ความเพยี รอย่าคิดว่าตนบุญวาสนาน้อยหรือไม่มเี วลา เพราะ หากภาวนาแม่นๆมรรคผลกอ็ ย่แู ค่เออื้ ม การเดนิ จงกรม (สมาธิตนื้ ) เป็ นการเปลยี่ น อริ ิยาบถ อย่ใู นท่าสํารวมนึกพทุ โธไปเร่ือยๆ เสร็จแล้วแผ่เมตตา ดูเพมิ่ เตมิ ทอ่ี เี มล์ปก หน้า (หนังสือสายตรงพ้นทุกข์) ๘

๓ การนึกวาดภาพภายในจิต กาํ หนดให้สลายแยกออกตามเข้าไปเร่ือยๆไม่ ๗ นิมติ เหน็ เจดยี ์ใหญ่ พระธาตุสีเขยี ว ต้องละเอียดโดยอนุโลมปฏิโลม จิตจะเป็ นวปิ ัสสนาญาณโดยอตั โนมัติ (เป็ นไปเอง) เพ่งเบาๆ นึกให้สลายแยกออกตามเข้าไปเร่ือยๆ ๙ พ.ศ. ๒๕๕๐ (มรรคผลยงั ไม่เกดิ ) นิมิต (ฝัน) เห็นเจดีย์ใหญ่ในสถานทเ่ี กดิ เสียงจากหลวงตามหาบวั “ เจดีย์ใหญ่ ” (เจดยี ์พระอรหนั ต์) นิมิตบอกล่วงหน้าว่า ๔ ปฏิบตั ิให้สมา่ํ เสมอแล้วจะเกดิ ความชํานาญ จิตจะละเอยี ดเข้าไปเรื่อยๆ งานรื้อวฏั ฏะจะจบสิ้น ท่านบอกให้ทาํ เจดีย์แบบแก้วครอบตะเกยี งนํา้ มันขนาดเลก็ ภายใน ๑๐ วนั สังเกตราคะปฏฆิ ะจะเริ่มเบาบาง (ลกั ษณะของสกทิ าคามี) จาก ๑๐๐ คล้ายดอกบัวตูม “ ๘๐ ปี ” คือให้อย่ถู งึ อายุ ๘๐ ปี มีชีวติ อย่ทู าํ ประโยชน์เต็มท่ี เดอื น % ขาดเบาบางเหลอื ๙๙ – ๕๑ % ทสี่ ุดหมดไป แต่ละช้ันของอริยบุคคลกเิ ลสจะขาด ม.ี ค. ๒๕๕๒ (ภูมธิ รรมอนาคาม)ี ถวายหนังสือธรรมะเป็ นธรรมทานหลายเล่ม แล้วขาดเลยไม่เกดิ ขึน้ มาอกี (สมุจเฉทปหาน) ได้แล้วไม่เส่ือม จิตดูดด่ืมเร่ิมปล่อย ใกล้สว่างฝันเหน็ พระธาตุของตนเองสีเขียวใสสวยงามมาก นิมิตบอกล่วงหน้าว่าจะ วางเป็ นไปตามลาํ ดบั ท้งั นีส้ ุดแล้วแต่ความเพยี รทาํ มากหรือทาํ น้อย เมื่อหยดุ ภาวนา บรรลุธรรมข้นั สุดยอด ทาํ ให้เกดิ ปี ติศรัทธาปสาทะม่นั ใจในการทาํ ความเพยี รย่งิ ขนึ้ ให้แผ่เมตตา ๑๗ ก.ย. ๒๕๕๕ ไปผ่าฟันคุดทรี่ พ.อ.นาแก จ.นครพนม แพทย์ผ่าแยกฟันออกเป็ น ห้าเสี่ยงเพราะถอนไม่ได้ สองเสี่ยงโยมขอไปบูชา เกบ็ ไว้สามเสี่ยงขนาดข้าวปลาย อนัตตา = สลายไป สลาย เม็ดใหญ่ (หนังสือโทษของวัฏฏะ hotmail.com อเี มล์ [email protected] รหัส ทาํ ลายกเิ ลส ในทน่ี ีจ้ ิตสงบ supanya6) ๒๑ ส.ค. ๒๕๕๘ พบเป็ นพระธาตุ (ภาพบน) นึกให้สลายแยกออกฯ จะ “ ถูปารหบุคคลคือบุคคลผู้ควรทาํ เจดยี ์ให้ บุคคลทค่ี วรนํากระดูก (พระ ราบร่ืนกว่าและไม่สับสน ดู บรมสารีริกธาตุ พระธาตุ) บรรจุสถูปไว้บูชา มี ๑ พระพทุ ธเจ้า ๒ พระปัจเจกพุทธ ภาพประกอบ เจ้า ๓ สาวกอรหันต์ ๓ พระเจ้าจักรพรรดิ ชนเป็ นอนั มากยงั จิตให้เลอื่ มใสว่านี้เป็ น ภาพอนัตตา (ไตรลกั ษณ์) ๑๑ ** สรุปภาวนา (เขียนซะยาวเด๋ียวจะสับสนสงสัย) จิตสงบนึกให้สลาย เติม ตัวสลายเข้าไปเรื่อยๆ เมอื่ พอเพยี งกต็ กหนองอ้อคืออ๋อ ! หมดกเิ ลสแล้วหายสงสัย (ดูรายละเอยี ดที่ youtube พมิ พ์ สายตรงพ้นทกุ ข์ ๐๒.๔ แผนผงั ภาวนา) ๑๐

สถูปของพระพทุ ธเจ้า พระปัจเจกพทุ ธเจ้า สาวกอรหันต์ พระเจ้าจักรพรรดิ พวก ซื้อของได้เงินเดือน ๑๑ บาท ร่างกายแข็งแรงเพราะถูกทาํ โทษเลยวดิ พนื้ ประจํา ทจ่ี ํา เขายงั จิตให้เลอื่ มใสในสถูปน้ันแล้ว เบือ้ งหน้าแต่ตายเพราะกายแตกย่อมเข้าถึงสุคติ โลกสวรรค์ เพราะอาศัยอาํ นาจประโยชน์นี้แล ท่านเหล่าน้ันจึงเป็ นถูปารหบุคคล ” ได้มีพโี่ ต้ง พโ่ี สภณ พย่ี า พนี่ รา พที่ องดี พกี่ ล้าฯ ร.ต.ท.มนต์ชัย ผ่องพฒั น์ เป็ น (พระไตรปิ ฎก เล่มท่ี ๑๐ พระสุตตนั ตปิ ฎก เล่มที่ ๒ ทีฆนิกาย มหาวรรค หน้า ๑๓๗ – ๑๓๘ พจนานุกรมพทุ ธศาสตร์ buddict_beta) หวั หน้าตร.พลร่ม ร.ต.อ.เสรี เตมยี เวส เป็ นหวั หน้า ส.ภ.นาแก พระบรมสารีริกธาตุ พระบรมธาตุ ใช้เรียกสําหรับพระพทุ ธเจ้าและพระ ตอนเป็ นเด็กกลวั ผมี ากชอบเล่นหมากรุกเล่นกบั ผู้ใหญ่ได้สบาย น่าแปลก ปัจเจกพทุ ธเจ้า พระธาตุ อฐั ิธาตุ ใช้เรียกสําหรับสาวกอรหนั ต์ สังเกตบางแห่งลกู ศิษย์อยากสร้างเจดยี ์ของครูอาจารย์ทปี่ ฏิบัติดชี อบ แต่เพราะไม่แน่ใจว่าท่านเป็ น เราอยู่ด้วยหน่ึงปี ต.ร.พลร่มย้ายกลบั หมด จึงกลบั มาอยู่กบั พ่อแม่ ๒๕๒๔ พส่ี าว พระอรหันต์หรือเปล่า อกี อย่างต้องขออนุญาตทางบ้านเมืองก่อน การแก้ไขจึงนํา พระบรมสารีริกธาตุมาบรรจุไว้ด้วย (นางพรรณงาม รับราชการครู) ปกติสอนทบ่ี .หนองหนาว เขตดงหลวง อย่ใู นพนื้ ที่ ๘ เกดิ ในพนื้ ทส่ี ีแดง (๔ ม.ิ ย. พ.ศ. ๒๕๐๙) อนั ตราย แต่สอนหนังสือลกู ชาวบ้านเขาจึงเกรงใจ ทางราชการเชิญไปเป็ นวทิ ยากร ขณะผู้เขียนอยู่ในท้องแม่ (นางสุภาพร ช่ือเล่นประทีป) ท่านเล่าว่าเคยฝัน อบรมชาวบ้านกโ็ ดนกบั ระเบดิ ขาเกอื บขาดรอดตายมาได้ ๒๕๒๗ บ้านเมืองกส็ งบ เห็นพระยานาคมาขออยู่ด้วย เกิดมาช่ วงบ้านเมืองแตกแยก (ส่ วนหนึ่งมาจาก ผลกระทบของสงครามเวยี ดนาม เพราะอเมริกามาต้ังฐานทัพในไทย) เป็ นสงคราม เพราะให้อภัยไม่เอาผดิ แล้วช่วยกนั พฒั นาบ้านเมอื ง (แผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง) กองโจรเพราะส่ วนมากทางราชการเป็ นเป้ านิ่ง ตํารวจทหารมากคนตายเยอะ ส่วนมากจะเป็ นตาํ รวจ เสียงเพลงประจําอ.นาแกช่วงน้ันคือธรณกี รรแสง บ้านเมือง เพราะทาํ ร้ายกนั เองประเทศไทยจึงบอบซํ้าหลายปี ปัจจุบันน่าอยู่มีความปลอดภัย บอบซํ้าหลายปี หนําซํ้าพ่ีชายคือนายพิทยา (รับราชการครู) ก็เป็ นโรคประสาท รุนแรงหลายปี ต้องลาออกจากราชการรักษาหลายท่ี พ่อแม่เคยให้ผู้เขียนพาไปส่งท่ี อดุ มสมบูรณ์นํา้ ท่ามากเพราะมีเข่ือนนํา้ กา่ํ เร่ืองเลวร้ายผ่านไปให้ระวงั อย่าให้สิ่ง ร.พ.หลายท่ี สุดท้ายเสียชีวติ เมื่อพ.ศ. ๒๕๔๘ เลวร้ายเกดิ ขึน้ มาอกี พ.ศ. ๒๕๒๒ – ๒๓ ผู้เขยี นเคยรับใช้ต.ร.พลร่มค่ายนเรศวรหัวหนิ ทบี่ .ก. ยทุ ธวธิ ี ส.ภ.นาแก จ.นครพนม เขาใช้ล้างจานหุงข้าวหม้อใหญ่ ทาํ อาหารช่วยงาน ๙ ผู้เขยี นกบั เลข ๗ (วนั เดอื นปี เกดิ ๔ ม.ิ ย. พ.ศ. ๒๕๐๙) ๑๒ เกดิ วนั เสาร์ ๔ ม.ิ ย. ๒๕๐๙ = ๗ (อาทติ ย์ = ๑) เดอื น (๔ มิ.ย. ๒๕๐๙) ดูปฏิทนิ ๑๐๐ ปี = ๗ (เดอื น ๗ แรม ๑ ค่ํา) ปี มะเมีย = ๗ (ชวด = ๑) ๒๕๐๙ (๒ + ๕ + ๐ + ๙ = ๑๖) ๑ + ๖ = ๗ (สีผวิ ขาวเหลอื ง) เป็ นบุตรคนท่ี ๗ = ๗ (สัณฐานสันทดั ) ๒๐ ก.ค. ๒๕๕๓ อกี ๗ วนั เข้าพรรษา = ๗ (กเิ ลสหมด พรรษา ๖) พรรษา ๗ (เขียนหนังสือธรรมะ ๒ เล่ม ) = ๗ (ธรรมทาน) ลกู ชายเสียชีวติ ๗ ต.ค. พ.ศ. ๒๕๕๖ = ๗ (นาย สุพพฒั วงศ์) ๑๓

พยากรณ์เลข ๗ หลกั อย่างย่อ จากวนั เดอื นปี เกดิ ของ มูลเหตุของการปฏบิ ตั ิ (เห็นไตรลกั ษณ์) ผู้เขยี น เพอ่ื ให้เกดิ สัมโมทนียกถา (ความร่ืนเริงในธรรม) เหน็ ทกุ ข์และความไม่แน่นอน สมัยเป็ นนักดนตรีอาชีพ (เปี ยโน คีย์บอร์ด) วนั เสาร์ = ๗ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕๖ เปลย่ี นวงสถานทเ่ี กดิ การกระทบกระท่ังบ่อยทาํ ให้เห็นความไม่เทย่ี ง เกดิ คําถาม ขนึ้ มาในใจว่าอะไรทเี่ ทยี่ ง คําตอบพระนิพพานสิ่งเดียวทเ่ี ทย่ี งตลอด พ.ศ. ๒๕๓๘ เดอื นป(๔ากม.ิ ย.) = ๗ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕๖ แฟนเก่าต้งั ท้อง ๗ – ๘ เดอื น เดก็ ในท้องดิน้ เกดิ ความอศั จรรย์ทาํ ให้นึกถงึ บุญคุณ ๗ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕๖ พ่อแม่ เม่ือคลอดลกู ร้องให้หลายวนั ความรับผดิ ชอบเลยี้ งลกู เองทาํ ให้เห็นทุกข์ ปี มะเมยี = สารพดั สักระยะอยากบวช ชอบสนทนาธรรม อ่านหนังสือธรรมะ เริ่มแสวงหาครู ป๒าก๑ คือ ๓๓, ใจ คือ๖ ๓, ฐา๙น คือ ๓๑๒(ดูเป็น๑๕แนวท๑๘าง) อาจารย์และปฏบิ ัติกรรมฐาน ช่วงแรกการปฏิบัติสําคัญมาก หากได้ครูอาจารย์สอน แนวทางทถี่ ูกต้องนั่นคอื โชคของชีวติ เริ่มต้นดีจะดีไปเรื่อยๆ หากผดิ ทางให้รีบแก้ไข ปาก ใจ ฐาน เพราะนานไปจะแก้ไขยากดือ้ ร้ันหลงเข้าข้างตัวเองเสียเวลา (มูลเหตุแห่งความเส่ือม ของศาสนา) ให้รีบแสวงหาครูอาจารย์ทปี่ ฏิบัติดชี อบ ๑ = อาทติ ย์ = พระเจ้าแผ่นดนิ (ใหญ่) ๒ = จันทร์ = พระราชินี (รอง) ๓ = เม่อื ทาํ งานกต็ ้องอยู่ในสังคมจึงมีการคลกุ คลกี ระทบกระทง่ั (โลกธรรม ๘) องั คาร = นักรบ (แกร่ง กล้าหาญ) ๔ = พุธ = พ่อค้า (ขยนั ) ๕ = พฤหัส = ครู (สอน ซึ่งเป็ นส่ิงทดสอบกระตุ้นเตือนใจให้อยากพ้นทุกข์โดยเร็ว พ.ศ. ๒๕๔๐ เริ่มภาวนา ทส่ี ุด ๒๐ ก.ค. พ.ศ. ๒๕๕๓ กเิ ลสจึงหมดไปแบบโล่งอกไปที จิตทเี่ ข้าถึงนิพพานจะ ความรู้) ๖ = ศุกร์ = ศิลปิ น (ความสุข สวยงาม ศิลปะ) ๗ = เสาร์ = นักบิน นักกฬี า มคี วามเทยี่ งตรงไปตลอด (เหนือไตรลกั ษณ์ กฎอนิจจังทกุ ขงั อนัตตาเข้าไม่ถงึ จิต) สังเกตง่ายๆ เวทนาเข้าไม่ถงึ จิต ต่อมาจึงสอนได้ท้งั พระและฆราวาส สอนปฏิบัติ (ความเร็ว ความคล่องแคล่ว เคร่ืองบนิ ) ง่ายๆ แต่ได้ผลมาก เปรียบการค้าขายทไี่ ด้กาํ ไรมากมาย ๑๐ ชอบเล่นบาสเกตบอล ๑๕ เคยอย่กู บั ต.ร.พลร่มมรี ะเบยี บวนิ ัยและฝึ กฝนร่างกายจึงแขง็ แรง เห็นเพอื่ น เลยี้ งลกู บาสเกตบอลผ่านหน้าบ้านเลยอยากเล่นบ้าง ช่ือนายสุขสวสั ด์ิ ทมิ มณี เป็ น หลานศึกษาธิการสุวรรณ ต่อมาทาํ งานท่ีร.พ.อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ตอนแรกหัด เล่นไม่เอาไหน อาศัยความขยนั มคี รูคอื เพอื่ นคอยแนะนํา เอาไปเอามาเล่นเก่งติดทมี โรงเรียนได้แชมป์ ม.ต้นทโี่ รงเรียนอ.เรณูนคร จากม.ต้นสู่ม.ปลาย ตดิ ทมี โรงเรียน ความสามารถเฉพาะตวั โดดเด่น เล่นกฬี าอย่างอนื่ ด้วยเช่นวอลเลย์บอล แฮนด์บอล ปิ งปอง กฬี าเป็ นเกมการแข่งขันจึงแพ้บ้างชนะบ้าง ๑๔

จบวชิ าเรียบเรียงดนตรี พ.ศ. ๒๕๓๒ – ๒๕๓๔ เอาโน้ตมาซ้อม (ไม่มเี สียง) ฝึ กนิว้ ไปพลางๆก่อน วธิ ีฝึ กเปี ยโนคีย์บอร์ดแบบง่ายๆ ๑ จาก ร.ร. ดนตรีสยามกลการปทมุ วนั กทม. หัดจับคอร์ ดสองมือให้ชํานาญ ๒ มือซ้ ายจับคอร์ดมือขวาโซโล่เมโลดี้ ๓ ฝึ ก โน้ตเพลงง่ายๆก่อน ๔ อาจจะเปิ ดจังหวะ (กลองไฟฟ้ า) ไปด้วยช้าๆ ๕ เวลาซ้อม ๑๑ เข้ากรุงเทพฯ (วธิ ฝี ึ กเปี ยโนคยี ์บอร์ดง่ายๆ) อย่าเสียงดัง (รบกวนคนอน่ื ) ๖ ฟังเพลงเยอะๆ ๗ ฝึ กบ่อยๆจะชํานาญไปเองและผ่อน คลายความเครียด ๘ อย่าดื่มสุราอย่าเสพยาเสพติด ชมรมขับร้องประสานเสียง ๒๕๒๘ เรียนจบม. ๖ จะไปสอบตํารวจแต่พ่อแม่ไม่ให้ไป (กลัวจะมาฆ่า (อาร์ยูคอรัส) ตกึ กจิ กรรมมีเปี ยโนสองหลงั จึงได้ซ้อมกบั ของจริง กันเอง) ไปสอบ ร.ร. นายเรืออากาศติดรอบแรกรอบสุดท้ายไม่ผ่าน จึงไปเรียนม. รามคําแหง (หัวหมาก) คณะนิติศาสตร์ พ.ศ. ๒๕๒๘ ช่วงแรกพักกับพ่ีชายท่ีรับ ๑๒ พ่อป่ วยหนัก (มะเร็งช่องท้อง) ราชการครูทีม่ .นักกฬี าแหลมทอง ชอบไปเล่นดนตรีไทย (ซอด้วง ออร์แกนไฟฟ้ า) ทช่ี มรมดนตรีไทยตึกกิจกรรม เป็ นนักกีฬาชมรมได้แชมป์ บาสเกตบอล (กีฬาตึก เป็ นโอกาสทดแทนบุญคุณท่าน ญาติพี่น้องมอบหมายให้ดูแลพ่อท่ีบ้าน กจิ กรรม) เรียนร.ด.ปี ๓ จนจบเลยได้สิทธ์ิไม่ต้องเกณฑ์ทหาร ไปฝึ กภาคสนามที่ และทร่ี .พ.อ. นาแก เนื่องจากว่างและสุขภาพแข็งแรง จึงพยายามดูแลท่านให้ดีทีส่ ุด เขาชนไก่ พช่ี าย (ชื่อป๊ื ด) เป็ นนักเปี ยโนอาชีพช่วยดูแลอกี แรง มะเร็งช่องท้องระยะสุดท้ายทรมานมาก (ข้าวโพดหวานต้มมีสารฆ่ามะเร็ง) ก่อนจะ เสีย ๒ – ๓ วัน ผู้เขียนไม่ได้นอนเอาลุกเอานอนนับไม่ถ้วน ฉีดมอร์ฟี น ๓ – ๔ เข็ม สงสารพ่อเลยพยายามหางานทํา เร่ิมมีแฟนพี่ชายท่ีเป็ นนักดนตรีอาชีพ ยงั เอาไม่อยู่ (ปกติฉีดแล้วหลบั ) เลยพูดขึน้ มาว่า “ หากผมมีบุญผมยกให้พ่อหมด ” แนะนําให้เล่นเปี ยโนคีย์บอร์ด ฝึ กช่ วงแรกล้มลุกคลุกคลานเพราะไม่มีเงินซื้อ ท่านน่ิงจากปกติปวดมาก เลยนึกว่าบุญหมด แต่ทจ่ี ริงเป็ นการแผ่เมตตาโดยไม่รู้ตัว เครื่องมือ เอาพลาสตกิ มาทาํ เป็ นแป้ นคยี ์บอร์ด หัดจับคอร์ดสองมอื ให้ชํานาญและ เลยได้บุญมากมาย กลับมาพักที่บ้านสักครู่พี่สาวมาตามบอกว่าพ่อกาํ ลังจะตายให้ รีบกลบั ไปดูพ่อ สังเกตท่านอยู่ในอาการสงบมญี าตผิ ู้ใหญ่หลายคน ผู้เขยี นนํ้าตาไหล ๑๖ ไปโดนมือพ่อ พ่อกํามือแล้วหมดลมหายใจสุดท้ายให้ได้เห็น (คนใกล้ตายให้อยู่ใน ความสงบ ลมหายใจสุดท้ายสําคัญเพราะยงั เป็ นปุถุชนไม่ใช่อริยบุคคลอบายภูมิยัง ไม่ปิ ด อย่าให้คนใกล้ตายมหี ่วงจิตจะไปสู่ภพภูมไิ ม่ดี) งานศพคนมามากแต่เหมือนท่านตายไม่สงบ (ห่วง) เหมือนมีอะไรแปลกๆ ก่อนจะทําการฌาปนกิจได้อธิษฐานว่า “ ขอให้เกิดมาเป็ นพ่อลูกกันอีก ” ต่อมา ผ้เู ขียนได้ลูกชายฝันไปว่าพ่อมาเกดิ ด้วย ต่ืนมานํา้ ตาไหลเพราะซาบซึ้งมาก (ปี ต)ิ ๑๗

พระอรหันต์ไปอยู่ ณ สถานทใ่ี ด สถานทนี่ ้ันจะเป็ นทร่ี ่ืนรมย์ หลวงป่ ขู าว อนาลโย หลวงตามหาบวั ท่านเทศน์ว่า “ พ่อแม่เราลาํ บากมาก เลยี้ งลกู เผอื่ จะโตขนึ้ นานาสาระธรรม มาได้ ” (คือให้กลบั บ้านเกดิ ) ๒๐ ต.ค. ๒๕๕๒ เวลา ๑๙.๓๐ น. พรรษา ๖ ภูมิธรรม ตอนน้ันคอื พระอนาคามี เข้ามาอย่ใู นสถานทเี่ กดิ ณ ทดี่ ินของพ่อแม่ บรรลุธรรมทน่ี ่ี “ ภาวนาต่อเน่ืองเมื่อพอเพยี งสติจะมีความแก่กล้าเกดิ สัมปชัญญะ พ่อแม่พช่ี ายพสี่ าวเสียชีวติ ตรงนี้ น้องสาวเป็ นพยาบาลเปิ ดคลนิ ิกรักษาคนป่ วย ๓ ความรู้ตัวพร้อมกห็ มายความว่าดวงปัญญานั่นแหละ ญาณกว็ ่าปัญญากว็ ่า ทุ่มฝนตกชุ่มเยน็ เหมือนนํา้ มนต์บ่งบอกถงึ ความเป็ นสิริมงคล ด้านข้างเป็ นโรงเรียน สติกบั ความรู้ถึงพร้อมธรรมสองอย่างนี้เป็ นของคู่กนั พอเราระลกึ ขนึ้ แล้ว เซนต์ยอแซฟมีอาคารหลงั ใหญ่ เกดิ มากเ็ ห็นเป็ นโบสถ์ไม้หลงั เก่า วนั อาทติ ย์คุณพ่อ สัมปชัญญะรู้ว่าถูกหรือผิด รู้พร้อมๆ จิตรู้พร้อมนี่แหละอบรมดีแล้ว ” จะเอาขนมมาแจก เคยไปรับขนมซุกซนตามประสาเดก็ (หลวงป่ ูขาว อนาลโย / อธบิ ายเพมิ่ ) หลงั จากงานฆ่ากิเลสสิ้นสุดการภาวนาข้อวตั รปฏิบตั ิเป็ นปกติ ๒๙ ก.ค. หลวงตามหาบัวท่านเทศน์ว่า “ พระอรหนั ต์เท่าน้ันทสี่ ามารถทาํ ๒๕๕๓ เริ่มเขียนหนังสือสายตรงพ้นทุกข์ ต่อมามีหนังสือธรรมะ ๓๐ กว่าเล่ม การ ประวตั ิพระอรหันต์ กเิ ลสไม่หมดกอ็ ย่ามาคุย (ปถุ ุชนไม่สามารถแก้ปัญหา เผยแพร่ธรรมะค่อยๆพฒั นาดีขนึ้ เร่ือยๆ สังเกตบริเวณทอี่ ยู่จะมีความราบร่ืน พเี่ ขย ในวสิ ัยอริยบุคคลฯ) ” อธิบายวสิ ัยของพระอรหันต์ผู้มกี เิ ลสสําคญั อย่างไร เป็ นนายทหารยศนายพลเดี๋ยวนีจ้ ิตใจเปลยี่ นไปมาก (ผลจากการภาวนา) แต่ละวนั กเ็ ป็ นสัญญาอยู่ดี ดงั่ สํานวนตาบอดคลาํ ช้าง คอื ไม่รู้ไม่เห็นอะไรจริงแต่ ผู้เขยี นจะให้อาหารสัตว์เช่นไก่นกเป็ นประจําเช่นเศษอาหาร หลกั ๆคือข้าวปลายเม็ด สําคญั ไปเร่ือย สําคญั อย่างไรกเ็ ป็ นสัญญาอยู่ดี อวชิ ชายงั ไม่หมดกพ็ ก ใหญ่ โยมเคยนิมนต์ให้ไปอยู่ทอี่ นื่ หลวงตามหาบัวท่านเทศน์ว่า “ อย่าไปจะไปเป็ น ความสงสัยต่อไป บางอย่างคยุ กนั ไม่รู้เร่ืองเสียเวลาปรามาสกนั ซะเปล่า เขยใหม่เร๊อะ ? โน่น ! อปุ ัชฌาย์กเ็ ป็ นได้ ” แล้วกโ็ สเหล่กนั ไป โสเหล่คอื วพิ ากษ์วจิ ารณ์ พูดคุยสารพดั เร่ือง “ การอยู่ในอาํ นาจของคนอนื่ ทกุ อย่างเป็ นทุกข์ การมีอสิ ระทกุ อย่างเป็ นสุข ภาวนาเปิ ดเทศน์กาํ หนดจติ ไปด้วยจิตจะขยบั ตาม (ฝึ กสติปัญญา คนท้งั หลายย่อมเดอื ดร้อนในเรื่องทกุ ข์สุขทวั่ ไป เพราะกเิ ลสเป็ นเคร่ืองมดั สัตว์ เป็ น ได้ความรู้ไปในตัว) เกดิ ความราบรื่นอปุ มาเดนิ ทางด้วยรถเรือ หากภาวนา ของก้าวล่วงได้ยาก ” (อทุ าน ๒๕ / ๙๘ / โปรดนางวสิ าขา) อย่วู ดั กเ็ ป็ นลกู วดั อย่ใู ต้ อาํ นาจคนอนื่ เช่นเจ้าอาวาส จึงเร่ิมต้นใหม่การเกดิ เป็ นทุกข์ กนิ แค่อม่ิ ตายแล้วเอา ๑๙ อะไรไปไม่ได้ อย่าดีดดนิ้ ประครองชีวติ ให้เป็ นไปโดยราบร่ืน ประโยชน์ตนเสร็จ สมบูรณ์ การทาํ ประโยชน์ต่อส่วนรวมจึงจะเป็ นไปได้ดี ๑๘

ไม่เปิ ดเทศน์กไ็ ด้แต่ความราบรื่นจะน้อยกว่า เปรียบเดนิ ทางด้วยเท้าเปล่า หลวงป่ ู เจี๊ยะ จุนฺโท หรือว่ายนํา้ ปฏบิ ตั ติ ามอธั ยาศัยถนัดแบบใดได้เลยใช้วจิ ารณญาณ “ จิตสงบจะบริกรรมพทุ โธยาํ้ เข้าไปอกี กไ็ ด้ สมาธิจะมคี วามมน่ั คง ทาํ ไมไม่สว่างไม่เหน็ ? เพราะเป็ นความแตกต่างทางวาสนา ฐาน เพ่งอย่างเดยี วข่มกเิ ลสชั่วคราว ” (หลวงป่ ูเจยี๊ ะ จุนฺโท) เลก็ ฐานใหญ่ เป็ นไปในทางสุกขวปิ ัสสโก – จตุปฏสิ ัมภทิ ปั ปัตโต บางท่าน จิตสงบแล้วไม่สว่างไม่เหน็ จริง อย่าฝื นอย่าดือ้ ให้ใช้การพจิ ารณาจิต ทส่ี ุด “ บ้านร้าง (อปุ มาร่างกาย) แต่มคี นอยู่เปรียบคนดี (อปุ มาจติ ที่ เมอ่ื บรรลุขนึ้ มาความหยาบละเอยี ดจึงไม่เหมอื นกนั (วาสนา) ทเี่ หมอื นกนั บริสุทธ์)ิ จติ ปรุงแต่ไม่เป็ นกเิ ลสเพราะหมดชาตหิ มดเชื้อ (เชื้อเกดิ ) อยู่ท่ี คอื หมดกเิ ลส พระพทุ ธเจ้าและสาวกในเรื่องความบริสุทธ์ทิ ใ่ี นจติ มคี วาม จิตผู้บริสุทธ์ิ จติ บริสุทธ์ิวิมตุ ิพระนิพพาน ” (หลวงตามหาบวั ) เสมอกนั ไม่ยง่ิ หย่อนไปกว่ากนั ดังน้ันทาํ กเิ ลสให้หมดไปแล้วจบท่านเรียก เมอื งพอทใี่ จ ในสิ่งทยี่ ากจะมจี ุดทงี่ ่าย อาศัยเวลาและบุญวาสนา อปุ มาจะ พระพทุ ธเจ้าทรงออกเผยแพร่พทุ ธศาสนาตามทต่ี ่างๆ พระองค์ไม่ ผลกั ประตูทแี่ ขง็ แรงด้วยมอื เปล่าน้ันเป็ นเร่ืองยาก จึงต้องอาศัยลูกกญุ แจ หวนั่ ไหวต่อสิ่งใด อปุ มาช้างศึกทอ่ี อกสู่สงครามไม่หวน่ั ไหวต่อลูกศรของ (เปรียบออกทางปัญญา) ศัตรู “ อานนท์อย่าหนีเพราะไปทไี่ หนกเ็ จอ ” ร่างกายแตกดับเอาอะไรไปด้วยไม่ได้ซักอย่าง แม้กระทง่ั คางกะไต ภูมสิ อนมหี ลายอย่างแต่แบบถึงใจหายาก เพราะเป็ นความแตกต่าง เกดิ มาตวั เปล่า ตายไปตัวเปล่า บุญกบั บาปเท่าน้ันทต่ี ิดตัวไปได้ ตวั กขู องกู ทางวาสนา ผู้เผยแพร่ศาสนาต้องมคี วามอดทน มอี บุ ายฝึ กทรมานตนเอง จริงๆคอื จิต สังเกตง่ายๆคอื ตวั ทเ่ี ราฝันเรียกว่ากายละเอยี ด ไม่แตกดับเวยี น ทส่ี ําคญั ภาวนาแม่นๆ เมอื่ งานรื้อวฏั ฏะเสร็จสิ้นการทาํ ประโยชน์ใหญ่จะ ว่ายตายเกดิ นับชาตไิ ม่ถ้วน ผู้ทก่ี ลวั ตายคอื จติ น้ันไม่ตาย แต่ผู้ไม่กลวั ตาย เป็ นไปได้ดี หากผดิ แผกไปจากดังทกี่ ล่าวมาจะเกดิ ความเสียหายเสียเวลา คอื ธาตุขนั ธ์น้ันต้องตายอย่างแน่นอนแล้วกต็ ายแบบไม่รู้เรื่อง ทสี่ ุดเมอ่ื และเป็ นมูลเหตุแห่งความเสื่อมของศาสนา เพราะเป็ นโทษทไี่ ม่ทาํ ตาม กเิ ลสหมดไปจงึ เหลอื จิตดวงเดยี วคอื จิตทไ่ี ม่มกี เิ ลส ท่านเรียกพระนิพพาน หรือธรรมธาตุกใ็ ช่ ๒๑ ๒๐

พระศาสดาและพระอริยสงฆ์สาวกเจ้า โปรดชาวไร่ชาวสวนสะดวกแต่คนรวยผู้ดีกพ็ อมี เน้นฆราวาส มากกว่าพระเพราะบางรูปถอื ตวั แต่ไม่เสมอไป อย่าเหมาโหลว่าดหี รือช่ัว ไปท้งั หมด “ พจิ ารณาก่อนให้พระพทุ ธเจ้าทรงสรรเสริญ ” “ ชก (สู้) เลยลูกนํา้ หนักไม่เกย่ี ง ทาํ ดีไม่ได้ดไี ด้ยงั ไง ทาํ ดีต้องได้ดี สิ ! ทาํ อะไรไม่หวงั ไม่มหี รอก แต่หวงั ในทางทด่ี หี น่อย มาด้วยบุญกศุ ล อยู่ ด้วยบุญกศุ ล ทส่ี ุดกจ็ ากไปด้วยบุญกศุ ล ” (หลวงพ่อถาวร จติ ฺตถาวโร) ครูดนตรี นักดนตรีอาชีพ ๑๕ ปี ตวั แทน บ. เอ ไอ เอ ๘ ปี ๒๒ ๒๓

๑๓ ไถ่นาซื้อคยี ์บอร์ด (ภาพหน้า ๒๓) พ.ศ. ๒๕๒๕ (อายุ ๑๖ ปี ) พ.ศ. ๒๕๒๘ (อายุ ๑๙ ปี ) พ.ศ. ๒๕๔๐ (อายุ ๓๑ ปี ) พ.ศ. ๒๕๓๑ เนื่องจากพ่อรับราชการครูจึงได้เงินชพค.ส่วนหน่ึง (อายุ ๒๑ ๑๕ อศั จรรย์เดก็ ในท้องดิน้ (นึกถึงบุญคุณพ่อแม่) ปี แต่ใช้สิทธ์ิจากการเรียน ม.รามฯ) เอาไปไถ่นาที่จํานองไว้หลายปี ๑๘,๐๐๐ ++ บ. เหลอื บางส่วนนําไปซื้อคยี ์บอร์ดยามาฮ่า รุ่นดีเอ๊กซ์ ๑๑ ราคา ๒๓,๐๐๐ ++ บ. เอาไว้ ๒๕๓๘ แฟนเก่ามที ้อง ๗ – ๘ เดอื น เดก็ ในท้องดิน้ เป็ นความรู้สึกอัศจรรย์ เป็ นเคร่ืองมือทํางานหากิน ๒๕๓๑ ทํางานเป็ นนักดนตรีอาชีพคร้ังแรกแถว นึกถึงบุญคุณพ่อแม่ท่ีเราเคยอยู่ในท้องแบบนี้มาก่อน ท่านคงลําบากไม่น้อยท่ีเลีย้ ง ประตูนํา้ เงินเดอื น ๕,๐๐๐ บ. เช่าห้องอย่หู ลงั การเคหะแห่งชาติ บางกะปิ เราเผื่อจะเติบโต ลูก ๘ คน ชาย ๕ หญิง ๓ ผู้ชายยังไม่มีใครบวชสักคน (๒๕๕๗ พีช่ ายคืออ.ปรเมษฐ์ ไปบวชพระที่อินเดีย ๑ พรรษา) หากคลอดเราก็จะเลีย้ งลูกยิ่ง เมื่อทาํ งานจึงเกดิ ความชํานาญ ฝี มอื พฒั นาขึน้ เรื่อยๆ เปลยี่ นงานบ่อยทําให้ ไม่มเี วลา เร่ิมเห็นบทบาทและความสําคัญของเพศแม่มากขนึ้ เห็นความไม่เที่ยง เกดิ คําถามขึน้ มาว่า “ อะไรที่มันเที่ยงตลอด ? ” คําตอบคือพระ นิพพาน เงินเดือนเพิ่มขึน้ เร่ือยๆ สูงสุด ๑๗,๕๐๐ บาท / ด. บางเดือนทํางาน ๒ ท่ีก็ จะบวชพระ ๗ วนั ในขณะลูกอยู่ในท้อง จึงบอกทางบ้านให้รีบจัดงานบวช ได้มากกว่าน้ัน ไปเรียนเรียบเรียงดนตรีเพิ่มเติมท่ีร.ร.ดนตรีสยามกลการปทุมวัน ให้ ๑๗ ก.พ. พ.ศ. ๒๕๓๘ บวชคร้ังแรกศรัทธามากมาย จัดงานใหญ่เพราะเป็ นคน (๒๕๓๒ – ๒๕๓๔) อ.ตรอง อ.วริ ัช อยู่ถาวร เป็ นผู้สอน หลายท่านเชิญผู้เขียนให้ไป แรกของครอบครัวท่ีบวชพระ ต้ังใจบวชทดแทนบุญคุณพ่อแม่แล้วลาสิกขา เมื่อ สอนเปี ยโนคยี ์บอร์ดทบี่ ้าน สอนเด็กและผู้ใหญ่ ฝึ กให้เล่นเป็ นเร็ว (ทางลัด) หาเพลง คลอดลูกความรับผดิ ชอบมาก เป็ นเพราะบุญกุศลท่ีให้ชีวติ คน ดูแลด้วยความต้ังใจ ง่ายให้เล่นก่อนเช่นเพลงสายทพิ ย์ เมื่อชํานาญจึงค่อยเพ่ิมเติมทีหลัง (ผู้เรียนพอใจ) และเป็ นความพอเพียงของบุญกุศล ในวันครบรอบวันเกิดที่ ๔ มิ.ย. ๒๕๓๘ จึง คร้ังละประมาณ ๑ ช.ม. ได้ค่าครูประมาณ ๕๐๐ บาท เขาให้เอง (ครูดนตรี ปฏบิ ัติศีลห้าตอบแทนพระคุณพ่อแม่ ต้งั แต่น้ันมากไ็ ม่เคยด่มื สุรามาถึงบัดนี้ กิตติมศักด์ิ) ภายหลังก่อนบวชพระนําคีย์บอร์ด YAMAHA DX 11 ไปมอบให้ร.ร. นาแกสามคั คีวทิ ยา อ.นาแก จ. นครพนม (เป็ นศิษย์เก่า จบ ม.๖ พ.ศ. ๒๕๒๘) ด.ช. , นาย สุพพฒั วงศ์ (นาค) เสียชีวติ ๗ ต.ค ๕๖ ลกู ชายของพระสุปัญญา ๑๔ เป็ นตัวแทน บ. เอ ไอ เอ (พ.ศ. ๒๕๓๓ – ๒๕๔๑) ๒๕ คุณนพรัตน์ พรหมสาขา ณ สกลนคร (ป้ อม) ผ.จ.ก.ภาคเพชรสันติสุข ๑๔ เป็ นหวั หน้า เริ่มเปลีย่ นแปลงตวั เอง ผมยาวมัดจุกกต็ ้องตัดให้เรียบร้อย มีการอบรม พบลกู ค้าบ่อยขายประกนั ได้เรื่อยๆ งานมีความราบร่ืนเพอ่ื นเยอะเงินพอมีเกบ็ ได้ ประสบการณ์พบคนทส่ี ําคัญอกี แบบ (ได้เทคนิคการขาย เปิ ดใจ เอาใจเขามาใส่ใจเรา ลดตวั อ่อนน้อม มคี วามรับผิดชอบ เป็ นต้น) ๒๔

พระธรรมมงคลญาณ (หลวงพ่อวริ ิยงั ค์ สิรินธโร) คลุกคลีให้สันโดษ) เรายังไม่บรรลุแต่สอนคนอ่ืนให้บรรลุก่อนไม่มีปัญหา (ได้ อานิสงส์ใหญ่) เข้ามาบวชกันหมดแล้วใครจะใส่บาตรวะ ! (วาสนาทางโลก วาสนา ๑๖ พบหลวงพ่อวริ ิยงั ค์คร้ังแรก (พบพ่อแม่ครูอาจารย์ พ.ศ. ๒๕๔๐) ทางธรรมของแต่ละคน เพราะเป็ นความแตกต่างทางวาสนา) ๑ ทานเยอะๆ (จิตรวม ง่ายอ่อนน้อมสอนง่ายทานให้พอเพียง) ๒ นอนเยอะๆ (นอนแบบมีสติ รักษาธาตุ พบท่านกําลงั สอนครูสมาธิรุ่น ๑ เข้าไปนมัสการ ท่านถามว่ามาจากไหน ? ขันธ์ เมื่อถึงเวลาเป็ นไปตามจริตอยู่ท่ีการฝึ กตน เมื่อพอเพียงจิตจึงมีความแก่กล้า ตอบว่ามาจากนาแก ท่านว่านาแกคอมมิวนิสต์ ผู้เขียนอมยิ้ม ถามว่ามีลูกมี กเิ ลสหมดสติปัญญาอตั โนมัติถูกวางลง สติวนิ ัยเข้ามาแทนที่ อุปมาเข้ามาคุมเชิง) ๓ ครอบครัวบวชได้ไหมครับ ? ท่านตอบ ต้องได้รับอนุญาตจากครอบครัวก่อน ใส่รองเท้าด้วย (เดนิ มากเท้าจะแตก รักษาความสะอาดดูบ้านเมอื งบ้าง) ๔ เผ่อื หน่อย นะ ! (ทาํ อะไรให้เผือ่ มีความรอบคอบจะม่ันใจ) แกไปเล่นดนตรีต้ังแต่เมื่อไหร่ ? ” ขณะท่านสอนครูสมาธิรุ่น ๑ , ๒ ผู้เขียนจะถือโอกาสเข้าไปเรียนด้วยเสมอ (ผ้เู ขยี นถูกดุ) หลวงพ่อท่านนิมติ เหน็ คนถูกเฆยี่ นด้วยแส้ เสียงจากผู้เฆย่ี น “ แกต้อง แม้ไม่ได้สมัครเรียน รุ่น ๓ จึงสมัครเรียนเป็ นเรื่องเป็ นราว ประมาณ ๕๐๐ ++ คน เข้ามาบวชช่วยงานพระพทุ ธศาสนา ไม่ง้นั หนัก ” ตอนน้ันมากทสี่ ุด ขณะปฏิบัติที่วัดธรรมมงคลหลายปี เกิดส่ิงอัศจรรย์มากมาย เกิด ศรัทธาในการปฏิบัติเพื่อหาทางพ้นทุกข์อย่างเต็มเปี่ ยม สังเกตหลักสูตรครูสมาธิ อรุณทอแสง (The shining sun) ประพนั ธ์โดยหลวงพ่อวริ ิยงั ค์ พนื้ ฐานจะแน่น เพราะหลวงพ่อท่านวางพืน้ ฐานมาทางผู้รู้ (จิต) ปฏิบัติไปสักระยะ เมื่อพลังจิตพอเพียง เวลาพจิ ารณา (สติกําหนดพิจารณาจิต) จะง่าย หลวงพ่อท่าน หลวงพ่อไปสอนสมาธิที่แคนาดา ต้ องการเพลงอรุณทอแสงแบบ เทศน์ว่า “ สมาธิทาํ ให้คนโง่เป็ นคนฉลาด ไม่มาอกี แล้วๆ น่ันแหละ ! เป็ นสมาธิ (อย่า ภาษาอังกฤษ (เดิมเป็ นภาษาไทย) เป็ นอุปกรณ์ส่งเสริมการเผยแพร่สมาธิ แต่ไม่มี ใครทําให้ หมู่คณะจึงยกหน้าที่ให้ผู้เขียน (นักดนตรีจําเป็ น) ช่วงน้ันเป็ นนักดนตรี ๒๖ อาชีพ ทาํ งานทโี่ รงแรมแม็กซ์ ถ.พระราม ๙ ท่านเรียกเข้าไปพบ บอกว่า “ ทําดีๆนะ หลวงพ่อจะเผยแพร่ช่ือเสียงของประเทศไทย (ดอยอนิ ทนนท์ จ.เชียงใหม่) ” ผู้เขียนเป็ นผู้ประสานงาน โชคดีมีเพ่ือนร่วมอาชีพรุ่นพ่ี คุณวรวทิ ย์ แสงสี ดา (แบน) นักดนตรีอาชีพ โปรดิวเซอร์จากอาร์เอส มีห้องบันทกึ เสียง คุณใหญ่ (มือ เบส) นักดนตรีจากโรงแรมตะวันนา (กทม) นักร้อง คุณวิน วีระชัย คุณสายสุนีย์ สุ กติ (แป๋ ว) ช่วยกนั ทาํ ทบ่ี ้านคุณแบน ณ สนามบินนํา้ แล้วถวายหลวงพ่อ ท่านเทศน์ ว่า “ เผอ่ื จะเป็ นหลอดไฟขนึ้ มาได้ ” (ให้เห็นใจคนทาํ งานอย่าปรามาสชุบมอื เปิ บ) ๒๗

๑๗ ทางโลกขดั ข้อง ทางธรรมราบรื่น เมื่อพอเพียงจึงเกิดผล คือผลงานความสุขความสําเร็จ “ คนหว่านพืชเช่นไรย่อม ได้ผลเช่นน้ัน (สคาถวคฺค) ทาํ ดีได้ดี ทําชั่วได้ชั่ว (สมเด็จพระสังฆราช / สา) ” “ ลูก การปฏิบัติจับทางวิปัสสนาจริงๆไม่ได้ประมาณ ๑๑ ปี บางคร้ังตะครุบเงา เมียคอื กเิ ลส ชีวติ นักบวชประเสริฐสุด พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญการอยู่ป่ า อย่าว่า คือพจิ ารณากายแบบไม่เห็นชัดจริง จึงข่มกเิ ลสช่ัวคราวไม่หมดไปแม้นิดเดียว (จะ สมัยน้ันไม่มี ต้องบอกว่ามัชฌิมา ไม่ปรารถนาแต่การกระทํามันฟ้ อง ” (หลวงป่ ู เกดิ วปิ ัสสนาจริงต้องเพ่งกายส่วนหนึ่งให้เห็นจริงก่อนแล้วพิจารณา) เม่ือมีอะไรมา แบน) อธิบายคอื ปรารถนาพทุ ธภูมิ (ปรารถนาเป็ นพระพทุ ธเจ้า สร้างบารมใี หญ่) กระทบจิตจะหว่ันไหวไปตาม ดังน้ันการเปลี่ยนแปลงต่างๆจึงเกดิ ขึน้ เช่นการงาน เพ่ือนคนรอบข้าง ครอบครัวขาดความมั่นคง เกิดความไม่แน่นอน คือเขาคิดว่าเรา สังเกตจะเป็ นนักเสียสละชอบให้ทานตะพดึ ตะพอื ชอบสร้างบารมี กิเลสมี จะไปไม่รอด (ธรรมจัดสรร วบิ ากกรรม) อย่างไรกต็ าม “ คนล้มอย่าข้าม ” เตม็ ร้อยซ่ือบริสุทธ์ิแต่น่ารัก ไม่มีเล่ห์เหลย่ี มมารยาจึงถูกเอาเปรียบเป็ นประจํา (ใคร เอาเปรียบก็บาปกินหัว) ทางการสร้างบารมีน้ันยาวนานทุกข์เหน่ือย ทําท่ีสุดแห่ง พ.ศ. ๒๕๔๖ ผู้เขียนแยกทางกับครอบครัวเพราะอิ่มตัว แต่มีพืน้ ฐานทาง ทุกข์ไม่ได้ เพราะยังไม่ได้รับพุทธพยากรณ์ การแก้ไขต้องอธิษฐานละพุทธภูมิแล้ว สมาธิดี จิตไม่ค่อยถูกกระทบการรักษาจิตจึงเป็ นไปได้ดี ต่อมาออกบวชเพ่ือหาทาง พิจารณา (สายกลาง) เม่ือละจึงเป็ นเรื่อง เพราะบารมีที่สร้างมายาวนานน้ันได้นํา พ้นทุกข์ ดังน้ันจากประสบการณ์ท่ีผ่านมาจึงเห็นประโยชน์อันมหาศาลของการ ออกมาใช้อย่างมคี ุณภาพจึงเหลอื กนิ เหลอื ใช้ อปุ มาฝากเงนิ กบั ธนาคารมานานและมี ดําเนินวปิ ัสสนาอย่างถูกต้อง เพราะเม่ือถึงที่สุดไม่ว่ามีอะไรเข้ามากระทบจิตจะไม่ เงินเยอะ เพราะฝากอย่างเดียวแต่ไม่รู้จักนํามาใช้ เมื่อรู้จักนํามาใช้เปรียบเดินสาย หวั่นไหวไปตาม การดําเนินชีวิตจะรู้เท่าทันและจะประคับประครองไปได้อย่าง กลางจึงมีคุณภาพ ผู้เขียนเคยปรารถนาพุทธภูมิแบบไม่รู้มาก่อน ปล่อยวางไม่ได้ พอเพียงตามอัตภาพของแต่ละคนอย่างแน่นอน น่ันคือเป็ นสุดยอดของวิชาทม่ี วล เพราะอวชิ ชา เมือ่ บุญกศุ ลเกดิ ความพอเพยี งจึงละและออกทางปัญญาทส่ี ุดกผ็ ่าน มนุษยชาติต้องการ (หากเข้าถงึ จริง) เพราะนําพาให้พ้นไปจากการเวียนว่ายตายเกิด ท่ีสุ ดบรมสุ ขท่ีปราศจากสมมุติใดๆเข้ ามาเก่ียวข้องก็เป็ นท่ีไป มีเฉพาะใน “ ทางโลกขดั ข้องทางธรรมราบร่ืน อย่าสึกไปมคี รอบครัวเดี๋ยวเขาจะฆ่าเอา พระพุทธศาสนาเท่าน้ัน ธรรมะความสงสัยไม่มีสิ้นสุด ยุติด้วยการปฏิบัติ เม่ือ เพราะเธอถูกเขาฆ่ามาหลายร้อยชาติแล้ว ” (หลวงตามหาบัว) ความหมาย โดนเขา พอเพยี งกร็ ู้เห็นเอง (สันทฏิ ฐิโก) หลอกใช้ เม่อื ได้สมใจเขากห็ ักหลงั เพราะเป็ นเรื่องกรรมและโทษวฏั ฏะ การแก้ไขอยู่ คนเดียวไปคนเดียวเพราะไม่กงั วลทาํ ให้เกดิ ความอสิ ระ อดีตผ่านไปแล้วอนาคตยงั “ อย่ายนิ ดียนิ ร้าย อย่าจงเกยี จจงชัง มันคอื อทิ ธิบาทสี่ ” (หลวงป่ แู บน) มาไม่ถึง สองส่ิงนีแ้ ก้ไขให้เลวหรือดไี ม่ได้ อย่าสนใจอดีตอนาคต อย่าคิดอย่าทาํ ใน ส่ิงทเ่ี ป็ นกเิ ลสเพราะมนั จะเผาตัวเรา ทาํ ปัจจุบันให้ดีทส่ี ุด คิดทาํ ในสิ่งทเี่ ป็ นกศุ ล ๒๘ ภาวนาแม่นๆ ระวงั ตะครุบเงา เม่ือพอเพยี งอนาคตกด็ ีเอง ทส่ี ุดบรมสุขกเ็ ป็ นทไี่ ป ๒๙

๑๘ นิมติ เหน็ หลวงป่ ูมนั่ ภูริทตั โต อนื่ กม็ หี ลายแบบ ราคากแ็ ตกต่างกนั ไป ในการใช้สอยกอ็ ย่ทู ค่ี วามพอเพียงของแต่ละ คน ได้มาแล้วกส็ ะดวกสบายเช่นกนั น่ันคือเคร่ืองอาศัย ทางสายกลางคือความพอดี ในช่วงแรกขณะทเี่ ร่ิมภาวนา วนั หนึ่งขณะนอนหลับได้ฝันเห็นตนเองเหาะ เปรียบทานอาหาร บางคนทาน ๑ จาน บางคน ๒ จาน ผู้เขียนจิตรวมง่าย การ ขึน้ เหาะลงด้วยความคล่องแคล่วและมีความราบรื่น สักระยะ มองเห็นหลวงป่ ูมั่น ปฏิบัติเป็ นไปแบบเรียบง่าย ต้องฉันอาหารให้พอเพียง ไม่จําเป็ นต้องดัดให้มาก ท่านนั่งมองอยู่ ในชุดครองจีวรเปิ ดบ่ามีสังฆาฏิพาด สังเกตผ้าเก่าซีดแต่สะอาดดูน่า เกนิ ไป ความเพียรถ้ามีความแม่นยาํ เดินสายกลางและ ต่อเนื่องมีหวังได้ถึงซ่ึงพระ เคารพเกรงขาม ผู้เขียนจึงเข้าไปหาแล้วพยายามอุ้มท่านพาเหาะไปด้วย แต่ยก นิพพานสมความมุ่งมาดปรารถนา คอื สิ้นกเิ ลสในชาตินี้อย่างแน่นอน เท่าไหร่กย็ กไม่ขนึ้ ท่านนั่งเฉยไม่สะเทอื นเหมอื นไม่มอี ะไรเกดิ ขนึ้ ในสติปัฏฐานสี่ จริตของผู้เขียนเหมาะในการใช้สติกําหนดพิจารณาจิต ความหมาย หลวงป่ ูมั่นท่านใช้อุบายวธิ ีฝึ กหัดดัดตนเองด้วยประการต่างๆ เพราะออกทางปัญญาและลดั ตัดตรงจึงดูจะราบรื่นกว่า เปรียบกบั การเหาะขึน้ เหาะ ซ่ึงออกไปในทางเคร่งครัดและอดทนเป็ นเยี่ยม การฝึ กทรมานตนยากจะหาใคร ลงดั่งในนิมติ การอยู่คนเดียวไปคนเดียวกนิ ง่ายอยู่ง่ายตายง่ายไม่กงั วลกบั หมู่คณะ เหมือน เช่น ธุดงควัตรและลดอดอาหาร การทีอ่ ุ้มท่านไม่ขึน้ น้ัน คือจะทําตามท่าน และมีความอสิ ระ จึงทาํ ให้เกดิ ความราบร่ืนตามมา ทกุ อย่าง เอาทกุ อย่างเป็ นไปไม่ได้เลย เพราะของบางอย่างดีกบั คนๆหน่ึง แต่ไม่ดีกับ ทุกคนเสมอไป แต่สําหรับวมิ ุติพระนิพพานน้ัน เมื่อกเิ ลสหมดจึงต้องดีทสี่ ุดกบั ทุก ๓๑ คนอย่างแน่นอน เพราะสิ้นเวรสิ้นกรรมท่ีใจ ในสติปัฏฐานส่ี จริตของผู้เขียนไม่ เหมาะในการใช้สติกาํ หนดพจิ ารณากาย คือพจิ ารณาเพยี งแค่เป็ นบาทของวิปัสสนา เรียกอุบาย ถ้าไม่เปลยี่ นวธิ ีปฏิบตั ิเดีย๋ วจะลาํ บากเปล่าตายทงิ้ ซะเปล่า เรียกอตั ตกิลม ถานุโยค คอื ทาํ ตนให้ลาํ บากเปล่าน่ันคือตึงเกนิ ไป เปรียบกว่าจะเป็ นหลอดไฟกต็ ้องพฒั นามาเป็ นข้นั ตอน หรือแม้เครื่องใช้ ๓๐

พระธรรมวสิ ุทธิมงคล (หลวงตามหาบวั ญาณสัมปันโน) หลวงป่ อู ว้าน เขมโก ๑๙ นิมติ เหน็ หลวงตามหาบวั (๒๕๔๕) เริ่มเขยี นหนังสือ พ.ศ. ๒๕๕๓ ๒๐ การอยู่กบั พ่อแม่ครูอาจารย์ (พ.ศ. ๒๕๔๖) ฝันเห็นหลวงตามหาบัวชัดมาก ท่านบอก “ บวช ” คือให้ผู้เขียนบวชพระ บ้านเราพ่อแม่ครูอาจารย์ทป่ี ฏิบัติดีชอบมีมาก ผู้เขียนมีโอกาสศึกษาอบรม (หากไม่บวชจะขดั ข้องวนไปวนมา) เป็ นช่วงทเ่ี ข้าไปช่วยงานวดั ธรรมมงคล เป็ นครู อยู่กับหลายท่าน ไม่สะดวกที่จะนํามาเขียนท้ังหมด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ แต่จะ พี่เลี้ยงให้กับผู้มาอบรมสมาธิ งงเหมือนกันเพราะขณะน้ันยังดูแลครอบครัวอยู่ เขียนจากประสบการณ์บางช่วงทเ่ี คยพกั ศึกษาอย่กู บั หลวงป่ ูอว้าน เขมโก เจ้าอาวาส มาถึงบัดนีจ้ ึงพอเข้าใจว่า การปฏิบตั ิธรรมต่อเนื่องเม่ือพอเพียงจะยกฐานะให้สูงขึน้ วัดป่ านาคนิมิต บ.นามน อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร ท่านเป็ นลูกศิษย์หลวงป่ ู นั่นคือทางโลกขัดข้องทางธรรมราบร่ืนชีวติ นักบวชประเสริฐที่สุด การเป็ นพระถ้า อ่อน ญาณสิริ เป็ นพระผู้ปฏิบัติดีชอบรูปหน่ึงในสายหลวงป่ ูม่ัน ภูริทตฺโต วัดนี้เป็ น ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบจะทําประโยชน์ตนและท่านได้มากมาย ดั่งพ่อแม่ครูอาจารย์ที่ วดั ปฏบิ ัตเิ คร่งครัด ปฏิบตั ิดีชอบท้งั หลาย การได้ใกล้ชิดครูอาจารย์จึงนับเป็ นประโยชน์อย่างยง่ิ เนื่องจากการซึมซาบ ๒๙ ก.ค. พ.ศ. ๒๕๕๓ เร่ิมเขียนหนังสือ (หาอุปกรณ์ส่งเสริมการเผยแพร่ วิชาความรู้ จะเป็ นไปได้ดี มีโอกาสถามได้อย่างละเอียด หลวงป่ ูบอกว่าบุพพสิกขา ธรรมะ) หลังจากงานฆ่ากิเลสสิ้นสุด ๙ วัน ๐๒.๐๐ น. ได้ยินหลวงตามหาบัวท่าน วรรณนา (หนังสือวินัยพระ) เล่มนี้หลวงป่ ูมั่นรับรอง เนื่องจากมีความละเอียด เทศน์ทางวทิ ยุว่า “ โรคมันกม็ ีหลายโรคฯ ” (คนมีหลากหลาย) ปกติ ใช้การสนทนา ชัดเจนอยู่มากเล่มหนึ่ง ผู้เขียนช่วงเป็ นพระใหม่พยายามอ่านศึกษาปฏิบัติได้ขึน้ ใจ ธรรม เทศน์แกงหม้อจิ๋ว (ธรรมสุดยอด) แบบปากเปล่ามาหลายปี บรรลุอนาคามี อ่านจบหลายเทยี่ ว (อย่ใู นหัว) (อรหตั ตมรรค = กาํ ลังเข้าสู่อรหันต์) ปี กว่าๆ แต่ไม่กล้าเขียนหนังสือเพราะกเิ ลสตัว สุดท้ายคอื อวชิ ชายงั ไม่หมดไป (ยงั ไงๆ กส็ งสัย) ๓๓ ๓๒

ท่านเคร่งครัดในการปฏิบัติ ขยันเดินจงกรมปฏิปทางดงามสํารวมพูด ๒๒ ส่ิงขวางก้นั มรรคผล เพราะสะอาด ศึกษาอบรมอยู่กับท่านระยะหนึ่งไม่นาน แต่ได้ข้อวัตรปฏิบัติเป็ น แนวทางการปฏิบตั มิ าถึงทุกวนั นี้ หลวงป่ ูม่ันท่านเคยมาพกั ทวี่ ดั นี้ ภายในวดั สงบร่ม ๑ อนันตริยกรรม มีฆ่าพ่อ ฆ่าแม่ ฆ่าพระอรหันต์ ทําร้ายพระพุทธเจ้าถึง ร่ืน มีกุฏิหลวงป่ ูมั่น กุฏิหลวงพ่อวริ ิยงั ค์ (อนุรักษ์ไว้) เป็ นสถานท่ีสัปปายะ (เหมาะ ห้อเลอื ดแม้ไม่ตาย ยยุ งสงฆ์ให้แตกแยก มีเพ่มิ เติมคือถือศาสดาอื่น (อัญญสัตถุเทศ) แก่การปฏิบัติ) ๒๗ พ.ย. พ.ศ.๒๕๔๖ เป็ นวันสุดท้ายท่ีอยู่วัดนี้ เน่ืองจากโยมแม่ ทกี่ ล่าวมาถ้ามีสติดีอย่าทาํ เพราะกรรมหนักต้องแล้วแก้ไม่ได้ (๑ – ๘ เกยี่ วกบั พระ) เสียชีวิต กราบลาหลวงป่ ูไปช่วยงานศพท่ีอ.นาแก จ.นครพนม ต้ังแต่น้ันมาก็ไม่ ได้มาอยู่วัดนี้อีก เป็ นเพียงมากราบท่านบางโอกาส พิจารณาเป็ นไปตามนิสัยและ ๒ ปาราชิก ๔ มีฆ่ามนุษย์ ลักทรัพย์ เสพเมถุน อวดอุตริมนุสธรรมที่ไม่มี วาสนาทชี่ อบความอสิ ระและสันโดษ “ ตุฏฐี สุขา ยา อติ รีตเรน = ความสันโดษด้วย ในตน ทกี่ ล่าวมาเมื่อต้องแล้วขาดจากการเป็ นภกิ ษุต้องสึกอย่างเดยี ว (หนักเป็ นเบา) ของ อะไรๆ (ตามมตี ามได้) ทาํ ให้เกดิ สุข ” (ธมฺมปทคาถา) ๓ สังฆาทเิ สส ภกิ ษุต้องแล้วแก้โดยเข้าอบรมปริวาสกรรม ๒๑ แก้ไขตนเอง ๔ นิสสัคคิยปาจิตตีย์ ต้องสละส่ิงของแล้วแสดงอาบัติ ๕ อาบตั ิอน่ื แสดงอาบตั เิ ป็ นใช้ได้แล้วให้สํารวม พระผ้ตู ิดอาบัตสิ ังฆาทเิ สส การปฏบิ ตั ิจะไม่สามารถบรรลุมรรคผลได้ ต้อง ๖ การปรารถนาต่างๆ เช่น ปรารถนาพุทธภูมิ (ดูละพทุ ธภูมิหน้า ๓๕) แก้ไขโดยอบรมปริวาสกรรมก่อน ผู้เขียนเมื่อคร้ังปฏิบัติใหม่ ลงั เลสงสัยลูบคลาํ ศีล ๗ พิจารณาผิดทาง เช่น ตะครุบเงา วิปัสสนาตกนํา้ (ต้องให้จิตอ่ิมอารมณ์ วตั ร (สีลพั พตปรมาส) เคยเข้าอบรม ๕ คร้ัง ผ่านมาอย่างโชกโชน ล้มลุกคลุกคลาน ก่อน คอื จิตสงบแล้วพจิ ารณาแม่นๆ) (ข้อ ๑ , ๖ – ๘ เกยี่ วกบั ฆราวาส) ปัจจุบันไม่เคยเข้าปริวาสกรรมอกี เลยเพราะมรรคผลเกดิ ศีลจึงบริสุทธ์ิตลอดชีวิต ๘ ลงั เลสงสัย (ลูบคลาํ ) ในพระรัตนตรัย วธิ ีแก้ ต้องถือไตรสรณคมน์ รักษา จิตปล่อยวางมาเป็ นลําดับ กิเลสหมดจึงปล่อยวางข้างนอก ปล่อยวางข้างในและ ศีลให้บริสุทธ์ิ ภาวนาแม่นๆ (ยุติด้วยการปฏบิ ตั ิ ระลกึ ถงึ พ่อแม่ครูอาจารย์) ปล่อยวางด้วยประการท้ังปวง ปริวาสกรรมเป็ นทางเดิน เม่ือได้มรรคผลก็ไม่ จําเป็ นต้องเข้าอบรมอีก มีโอกาสก็เป็ นอาจารย์กรรมดูแลหมู่คณะ บ้านเราจัดอยู่ ๒๓ การละการปรารถนาพทุ ธภูมิ หลายท่ี (จัดท้งั ปี ) ดูรายละเอยี ดได้จากหนังสือปริวาสกรรมและทางอนิ เตอร์เน็ต ขอ อนุโมทนาสําหรับผู้ต้องการแก้ไขในส่ิงทบี่ กพร่องเพ่อื ชําระศีลให้บริสุทธ์ิ และเป็ น การปรารถนามีหลายอย่าง เช่น ปรารถนาเป็ นพระพุทธเจ้าหรือพระปัจเจก พนื้ ฐานในการพ้นทุกข์ต่อไป พุทธเจ้า อปุ ัฎฐากพระพุทธเจ้าฯ แต่ละอย่างต้องสร้างบารมี ทางการสร้างบารมีน้ัน ยาวนานมาก (ทุกข์เหน่ือยสุดๆ) ผู้ยงั ไม่ละการปรารถนา แม้บาํ เพญ็ เพยี รขนาดไหน ๓๔ กไ็ ม่สามารถทาํ ทส่ี ุดแห่งทกุ ข์ ตวั อย่างการละการปรารถนาพุทธภูมิ ต้งั นะโม ๓ จบ ๓๕

แล้วอธิษฐานขอละการปรารถนาพุทธภูมิ ขอละสิ่งขวางก้ันมรรคผล ขอบรรลุ ๒๖ พฒั นาวดั ร้าง ธรรมชาตินี้ (ทาํ ๑ – ๒ คร้ัง) สังเกตการปฏิบัติจะเกดิ ความราบร่ืน (รีบละเต็มภูมิ แล้วละไม่ได้) อย่าสร้างอะไรให้มาก ถึงเวลาก็สร้างเท่าทจ่ี ําเป็ น สํารวมอย่าคลุกคลี พกั ภาวนาอยู่วดั ร้างหลายแห่ง แรกๆเข้าไปดูไม่ได้ญาติโยมขาดท่พี ึ่ง อยู่สัก เพราะการรักษาจิตจะเป็ นไปได้ดี แต่ถ้าพระพุทธองค์ทรงพยากรณ์ว่าใครจะได้เป็ น ระยะจะดีขึ้นเพราะจะหาโอกาสตรวจดูตามจุดต่างๆ แล้วพยายามหาทางแก้ไข พระพทุ ธเจ้าแล้ว ผ้นู ้ันจะต้องได้เป็ นพระพุทธเจ้าอย่างแน่นอน รักษาทาํ ความสะอาดจนดูดีจึงได้อานิสงส์ใหญ่ ขณะท่ีพักอยู่ก็พยายามทําให้ดีทีส่ ุด แต่ความไม่เทีย่ งแท้เป็ นของธรรมดา (อาํ นาจของกฎไตรลักษณ์) ถึงเวลาก็ต้องแยก ๒๔ หลกั การดาํ เนินวปิ ัสสนา (ออกทางปัญญา พจิ ารณาจิต) ย้าย ไปพักอยู่หลายที่ ส่วนมากจะอยู่รูปเดียว หลวงตามหาบัวท่านเทศน์ว่า “ อยู่ ไหนกไ็ ด้ขอให้อยู่คนเดยี วไปคนเดียวเพราะไม่กงั วลพระอรหันต์ตายง่ายฯ ” เมื่อจิตสงบจิตจะอิ่มอารมณ์ (มีอาการเบาสบายหรือมีอาการอย่างอื่น มากมาย) ไม่ต้องคํานึงว่าเป็ นสมาธิฌานระดับใด จิตสงบมีสติใช้ได้ เพ่งจดจ่อเบาๆ ๒๗ ช่างจาํ เป็ น ท่ีฐานแล้วพิจารณาจุดเดียว (การพิจารณาจิต เช่น นึกให้สลายแยกออก ไม่ต้อง ละเอียด ตามเข้าไปเร่ือยๆ โดยอนุโลมปฏิโลม) จิตจะละเอียดเข้าไปเรื่อยๆ เมื่อ ที่ผ่านมาส่วนมากอยู่รูปเดียวย้ายสถานท่ีบ่อย แต่ก่อนประปาไฟฟ้ าเสียจะ พอเพยี งมรรคผลกเ็ กดิ หากจิตไม่สงบแล้วพิจารณาเรียกตะครุบเงา วปิ ัสสนาตกนํ้า วานญาติโยมซ่อมให้ แต่พอบ่อยเข้ารู้สึกเกรงใจเพราะบางคร้ังเขาก็มีธุระไม่สะดวก สมาธิหัวตอ ทาํ ให้หลง วปิ ัสสนาจริงไม่เกดิ เสียเวลา (ตายทงิ้ ) จะมาจัดการให้ ความจําเป็ นในการเป็ นช่างจึงเกดิ ขึน้ เม่อื มเี หตุไฟฟ้ าขัดข้อง อนั ดับ แรกเอาคัทเอาท์ลง (ตัดไฟ) เช็คตามจุดต่างๆ ทําบ่อยก็ชํานาญ เปล่ียนหลอดไฟต่อ ๒๕ ระยะเวลาภาวนา สายไฟพอทาํ ได้ แต่ถ้าไม่แน่ใจควรให้ช่างไฟทาํ ดีกว่าเพราะอันตราย ประปาเม่ือจะ ซ่อมปิ ดประตูนํา้ ก่อน เช็คตามจุดต่างๆ ตดั ต่ออปุ กรณ์มีเล่อื ยตัดท่อ (เลือ่ ยตัดเหลก็ ) ๒๐ – ๓๐ นาทตี ่อคร้ัง ใช้ได้ หรือมากกว่านี้ตามสมควร (ช่วงที่สมาธิให้ผล กาวประปา ข้อต่อ เทปพันเกลียว ก๊อกและอุปกรณ์อ่ืนๆ ตามแต่จะหาได้ ทําบ่อยก็ หรือการกาํ หนดสมาธิอยู่เป็ นวิหารธรรม = เคร่ืองอยู่) วันหนึ่งอาจภาวนา ๒ – ๓ ชํานาญ พยายามทําด้วยตนเองให้มากแล้วจะได้ความรู้ ทํางานใช้เวลาว่างให้เป็ น คร้ัง (แบ่งเวลา) เปลยี่ นอริ ิยาบถด้วย เช่น เดินจงกรม สวดมนต์ ปัดกวาด ทําข้อวัตร ประโยชน์เกิดความภูมิใจ เปล่ียนอิริยาบถเปล่ียนอารมณ์ไปในตัว แต่ถ้าสุดวสิ ัยจึง ทาํ ความสะอาดเสนาสนะหรือทํางานสลับ บางคร้ังภาวนา ๒๐ – ๓๐ นาที สมาธิ ค่อยอาศัยชาวบ้าน อ่ิมตัว ฝื นทําต่อก็เมื่อยล้า ลําบากเปล่าโดยไม่จําเป็ น เปรียบนํ้าล้นแก้วหกทิง้ เปล่า เร่งมากระวงั “ ความโลภเป็ นอนั ตรายต่อสมาธิ ” ทาํ พอดีสมาํ่ เสมอผลออกมาดกี ว่า ๓๗ หากมเี วลาน้อยควรทาํ ๑๐ นาทตี ่อวนั จะได้ไม่ขาดช่วง หากขาดช่วงนานหลายวนั เมอื่ กลบั มาภาวนาใหม่จิตจะสงบยากและใช้เวลานานกว่าเดิม ๓๖

๒๘ ส่ิงทไ่ี ด้จากความมดื (๒๕๕๐ ป่ าช้าบ.จาํ ปาศรี อ.นาแก จ.นครพนม) ๓๐ เทย่ี วธุดงค์วเิ วก พกั จําพรรษาในป่ าช้า ปกติเวลาออกมาเดินผ่อนคลายตอนกลางคืนจะเอา ไปเท่ียววิเวกหลายที่ เป็ นธุดงค์ยุคไฮเทค (พุทธศาสนาเจริญ) ไปโดย ไฟฉายเปิ ดส่องทางด้วย (วดั ป่ าปกติจะไม่เปิ ดไฟ) สักระยะได้ยนิ หลวงตามหาบัว รถยนต์โดยสารประจําทางหรือรถเทวดาบ้าง (คนใจบุญ) แล้วแต่โอกาส ไปมากก็ ท่านเทศน์ทางวิทยุว่า “ เราเดินกลางคืนเราไม่เปิ ดไฟ พวกสัตว์ร้ายมันไม่ทําอะไร เหนื่อย แต่ถ้าอยู่กับท่ีนานก็ติดที่ (น่าเบื่อ) จึงอยู่บ้างไปบ้าง (ผ่อนส้ันผ่อนยาว) ไป พระกรรมฐานหรอก ! จิตของพระกรรมฐานอ่อนนิ่ม ไม่ใช่คําส่ังไม่ใช่คําสอนเป็ น แต่ละทเ่ี มือ่ มีโอกาส (อย่าปล่อยโอกาสให้ผ่านไป) กส็ นทนาธรรม คารวะครูอาจารย์ คําบอกเล่า ” ต้ังแต่น้ันมา เม่ือเดินกลางคืนก็พยายามปฏิบัติตาม สังเกตจิตจะเร่ิม เยย่ี มเยอื นสหธรรมิกและโปรดสัตว์ (เทศน์ตามอธั ยาศัย ตามความพอใจ เรียกเทศน์ ปล่อยวางและชินกับความมืด บ่อยเข้าก็เป็ นปกติเป็ นธรรมชาติสงบวิเวก เป็ นการ แกงหม้อจ๋ิว = ธรรมะสุดยอด) นําหนังสือซีดีธรรมะไปแจกผู้สนใจ (หลักๆจะเป็ น ฝึ กจิตให้มีความเข้มแข็ง คืออุบายวิธีการเรียนรู้ที่ได้ผลอีกแบบหนึ่ง เน่ืองจากปกติ หนังสือซีดีสายตรงพ้นทุกข์ แจกไปปรับปรุงเพ่ิมเติมเร่ือยๆ) ยิ่งไปย่ิงให้ย่ิงเกิด จิตของคนเรามักจะกลัวอะไรไปท่ัว (เกินไป) เป็ นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงจําเป็ นต้องหา ประโยชน์ การโปรดสอนจะมีความชํานาญ ผลคือมีผู้นําไปปฏิบัติและได้มรรคผล อะไรมาดดั ให้พอเข้าทเี่ ข้าทางบ้าง อย่างรวดเร็ว (ภายใน ๑๐ วัน) กิเลสหมดก็เยอะ กัลยาณมิตรมีมากขึ้น เกิดความ ราบรื่น หลวงตามหาบวั ท่านเทศน์ว่า “ ไปหลายๆจังหวดั ไปทัศนศึกษาดูงานที่เป็ น ๒๙ เครื่องรับเคร่ืองส่งมนั ตรงกนั ประโยชน์แล้วนํามาประยุกต์ใช้ ไปได้ไปตายแล้วไปไม่ได้ ” พ.ศ. ๒๕๔๘ พกั ภาวนาอยู่สํานักสงฆ์ บ.ชาติพฒั นา ต.อุ่มเม่า อ.ธาตุพนม ๓๑ ข้อวตั รประจาํ วนั จ.นครพนม ขณะกําลังนึกในใจว่า “ เวลานึกหรือทําอะไร ทําไมหลวงตามหาบัว ท่านรู้ไปหมด ” (ปกติจะฟังธรรมะจากวิทยุเสียงธรรมเพ่ือประชาชนฯ โดยหลักๆ ๐๕.๐๐ ตน่ื แล้วภาวนา (เปิ ดเทศน์กาํ หนดจิตไปด้วย ทาํ วตั รเช้าย่อ แผ่เมตตา) จะเทศน์โดยหลวงตามหาบัว) สักระยะได้ยนิ เสียงท่านเทศน์ทางวิทยุว่า “ เครื่องรับ ๐๖.๐๐ เตรียมบริขาร ล้างบาตรและฝาบาตรด้วยนํา้ กรอง เมอ่ื เทนํา้ ออกอย่าใช้ผ้า เคร่ืองส่ งมันตรงกัน มันเกิดการยอมรับกันแล้ว ธรรมเหนือโลกฯ ” เปรียบ ดาวเทียมคือเคร่ืองส่ง จานดาวเทียวคือเคร่ืองรับ ทําให้เกิดปี ติและศรัทธาปสาทะ เช็ดเพราะในผ้าจะมีฝ่ ุน จากน้ันจัดศาลาโรงฉันปัดกวาด ใช้วิทยุหลายแบบ แต่ทีร่ ับคลื่นชัดเป็ นยีห่ ้อธานินทร์และบางย่ีห้อ ย่หี ้อธานินทร์ใช้ ๐๖.๓๐ บณิ ฑบาต (ครองผ้าสังฆาฏิซ้อนกบั จีวร ๒ ช้ัน) หลวงตามหาบัวท่านเทศน์ ถ่านไฟฉายขนาดใหญ่ ๓ ก้อน ราคาเคร่ืองละ ๓๕๐ บาท ไม่ได้โฆษณาให้เขาแต่ รู้สึกชัดสะดวกดี สามารถนําไปไหนมาไหนด้วยก็ได้ ต่อมามีปัญหาเร่ืองการเมือง ว่า “ ใครไม่ซ้อนสังฆาฏิกับจีวรไล่ออกจากวัดไปเลย ” เดินสํารวมจงกรม จึงทาํ ให้การรับฟังมีปัญหา ไปในตวั มาถึงคลผ่ี ้าออกตากไว้สักครู่ ๐๗.๓๐ ครองจีวร จัดอาหาร ให้พรก่อนฉัน สวดปฏิสังขาโยในใจ (พจิ ารณาก่อน ๓๘ ฉัน ๑ นาท)ี ฉันในบาตรด้วยความสํารวมอย่าคุยกัน เสร็จแล้วล้างบาตรสาม ๓๙

นํา้ เช็ดบาตรตากแดดสักครู่อย่าตากนาน (การเกบ็ บาตรให้เปิ ดช่องระบาย ข้อ ๑ , ๒ พระพทุ ธเจ้าไม่ทรงยกย่องเพราะทาํ ให้หลงเกดิ กเิ ลส ข้อ ๑ – ๓ มสี ักแต่ว่า อากาศทขี่ อบบาตรพอควรเพอ่ื ป้ องกนั กลน่ิ อบั ) เกบ็ กวาดทาํ ความสะอาด เว้นแต่เป็ นไปเพ่ือข้อ ๓ เพอื่ อนุเคราะห์ชาวโลกฯ ปฏิบัติสักระยะเมื่อพลังจิตและ ศาลาโรงฉัน หลงั จากน้ันเดินจงกรมสักครู่แล้วพกั ผ่อน สติแก่กล้ามองอะไรจะเป็ นธรรมไปหมด จึงมีเสียงธรรมแสดงออกมาว่า “ พระ ๑๔.๐๐ ฉันนํา้ ปานะระวงั อย่าฉันกาแฟมากเด๋ียวนอนไม่หลับใจสั่น (๑ – ๒ แก้วต่อ ธรรมกถึก (นักเทศน์) พระสังกจั จายน์ ” พระปุณณมันตานีบุตรเถระ เป็ นเลศิ กว่า วนั กาํ ลงั ดี) ทวนปาฏโิ มกข์ บทสวดมนต์ ทบทวนความรู้ ภาวนาสักระยะ ภิกษุท้ังหลาย คือท่านดํารงตนอยู่ในคุณเช่นใด ก็สอนผู้อ่ืนให้ต้ังอยู่ในคุณเช่นน้ัน ๑๖.๐๐ ปัดกวาด สรงนํา้ ปกตจิ ะซักผ้าช่วงสรงนํา้ (ล้างห้องนํา้ ไปในตวั ) (พระธรรมกถึก) พระมหากัจจายน์เถระ เป็ นผู้เลศิ กว่าภิกษุท้งั หลาย ในการอธิบาย ๑๘.๐๐ ทาํ วตั รเยน็ ย่อแล้วแผ่เมตตาภาวนา เนือ้ ความย่อให้พสิ ดาร (อนุสาสนีปาฏหิ าริย์) ๑๙.๐๐ พกั ผ่อนเปลยี่ นอริ ิยาบถ (เลอื กเวลาเดนิ จงกรมตามความเหมาะสม) ๑๙.๓๐ ภาวนาเสร็จแล้วเปลยี่ นอริ ิยาบถตามอธั ยาศัย น้อมพจิ ารณาเข้ามาถึงผู้เขยี นจากเสียงธรรมะดังกล่าว ไม่ใช่วดั รอยแต่ได้ ๒๓.๐๐ จําวตั ร (พกั ผ่อน) เพยี งบางส่วนของท่าน บางคร้ังโปรดญาติโยมเพลดิ เพลนิ ราบร่ืนหลายช่ัวโมง เป็ น ลกั ษณะสัมโมทนียกถา (ความร่ืนเริงในธรรม) ทาํ ให้เกิดศรัทธาปสาทะแล้วนําไป ๓๒ วนั อโุ บสถ ปฏบิ ัติ มีผู้ได้มรรคผลเยอะ ปัจจุบนั ๔๑๙ ท่าน ๑๑ พ.ย. ๒๕๖๒ ทตี่ รวจสอบ (มอี กี มาก) อนาคตจะเพมิ่ ขนึ้ เรื่อยๆ เริ่มโปรดสอนมาต้งั แต่ พ.ศ. ๒๕๕๑ เทศน์ตาม บางคร้ังไปลงอุโบสถกบั ครูอาจารย์และหมู่คณะ เน่ืองจากส่วนมากอยู่รูป อธั ยาศัยเป็ นกนั เองไม่มีรูปแบบพธิ ีรีตองมาก ไม่มีการหวงวชิ าบอกหมด จังหวะปิ ด เดียว วนั อุโบสถ (๑) อุโบสถรูปเดียว (วสิ ุทธิอุโบสถ = เป็ นอุโบสถทาํ วินัยกรรมของ กต็ ้องปิ ด จังหวะเปิ ดกต็ ้องเปิ ดสบายๆเต็มเปี่ ยมด้วยเมตตาเรียกเทศน์แกงหม้อจิ๋ว = ผู้ไม่มีกิเลส) โดยทําวัตรย่อแล้วกล่าวคําว่า “ อัชชเมอุโปสโถ ” (๓ คร้ัง) แล้วแผ่ ธรรมะสุดยอด นั่นคอื ธรรมกถกึ + อนุสาสนีปาฏิหาริย์ = อริยบุคคล (ทาํ ด้วยใจรัก เมตตาเป็ นอนั เสร็จพธิ ี (๒) ภิกษุอยู่ ๒ รูป ให้บอกปาริสุทธิแก่กนั (๓) ภิกษุอยู่ ๓ รูป + ความรับผดิ ชอบสูง) ให้สวดประกาศญตั ติ จากน้ันบอกปาริสุทธิแก่กนั (๔) ภิกษุอยู่ ๔ รูปขึน้ ไปต้องสวด ปาฏโิ มกข์ (พระวนิ ัยว่าไว้) ๓๔ บทสวดมนต์ ๓๓ พระมหากจั จายนเถระ พระปุณณมนั ตานีบุตรเถระ ปกติทวนปาฏโิ มกข์ ๗ และ ๑๒ ตํานาน ธัมมจักกปั ปวตั ตนสุตตัง อนัตต ลกั ขณสุตตัง อาทติ ตปริยายสุตตงั มะหาสะมะยะสูตร ชัยมงั คะละคาถา และบทอน่ื ปาฏิหาริย์ ๓ (๑) อิทธิปาฏิหาริย์ คือการแสดงฤทธ์ิได้เป็ นอัศจรรย์ (๒) อา ตามโอกาส ทใ่ี ช้ประจําวนั นอกจากทาํ วตั รย่อจะเป็ นบทถวายพรพระ (พาหุง) คาถา เทสนาปาฏิหาริย์ คอื การรู้วาระจิตผู้อ่นื ได้เป็ นอัศจรรย์ (๓) อนุสาสนีปาฏิหาริย์ คือ กาํ แพงแก้ว ๗ ช้ัน คาถาพระพทุ ธเจ้าชนะมาร อภยปริตร (ยนั ทุน) องั คุลมิ าละ คาํ สอนทม่ี คี วามลกึ ซึ้ง นําไปปฏบิ ัตแิ ล้วเกดิ มรรคผลเป็ นอศั จรรย์ ๔๑ ๔๐

ปะริตตงั (เกดิ วนั เสาร์) คาํ ขอขมาพระรัตนตรัยฯ สวดมนต์สมํ่าเสมอจิตผ่องใสแก้ ๓๖ การต่อสู้กบั มาร ฟ้ ุงซ่านเทวดาอนุโมทนาดนิ ฟ้ าอากาศจะเป็ นปกติเกดิ ความร่มเยน็ นอกจากจะระวงั รักษาตัวเราด้วยอบุ ายวธิ ีต่างๆแล้ว การสวดมนต์ยังมอี านิสงส์มากมายทจ่ี ะรักษาเรา ศีล ๕ , ๘ , ๑๐ , ๒๒๗ , ๓๑๑ ตามฐานะแต่ละคน มีเพม่ิ เตมิ ปฏบิ ัติตามมงคล ให้รอดพ้นจากอนั ตรายได้ สวดมนต์แล้วอบอ่นุ อย่าประมาททาํ ให้สม่ําเสมอ เมอ่ื มี ชีวติ ๓๘ ประการ เช่น การไม่คบคนพาล คบกบั บัณฑติ บูชาคนทคี่ วรบูชา พอใจใน โอกาสไปสวดมนต์กบั คณะจะองอาจมั่นใจไม่เก้อเขิน ส่ิงทตี่ นมี (สันโดษ) อยู่ในถนิ่ ทเี่ หมาะสม มคี วามปลอดภยั ฯ การสวดมนต์ภาวนา แผ่เมตตามคี วามสํารวมเป็ นอุบายทเี่ ป็ นมงคลหลายๆแบบ (มชั ฌมิ าปฏิปทา = ทาง ๓๕ การแก้กรรม สายกลาง) ทาํ ให้ชีวติ สงบสุขและราบร่ืน สังขารท้งั หลายมีความเส่ือมสิ้นไปเป็ นธรรมดา พระนิพพานสิ่งเดียวเทย่ี ง โลกธรรม ๘ มลี าภเสื่อมลาภ มียศเสื่อมยศ มีสุขมีทุกข์ มีสรรเสริญมนี ินทา ตรงตลอดอนันตกาลเหนือไตรลกั ษณ์ ผู้มีปัญญาเหน็ ทุกข์ท่านจึงหาข้อยุติน่ันคือ (มคี ู่โลกมาชั่วกปั ชั่วกลั ป์ แล้ว) มขี ันตนิ ่ิงเฉยไม่ตอบโต้เมื่อมสี ิ่งมากระทบ หลกี ได้ พระนิพพาน อดีตผ่านไปแล้วอนาคตยงั มาไม่ถงึ ๒ สิ่งนีแ้ ก้ไขให้เลวหรือดไี ม่ได้ หลกี เพราะเป็ นการรักษาจิต ใช้การเคลอื่ นทใ่ี ห้เป็ นประโยชน์เพอื่ ความพอดี อย่กู บั อย่ากงั วลอย่าคิดอย่าทาํ ในส่ิงทเ่ี ป็ นกิเลสเพราะจะเผาตัวเราเอง การแก้กรรมคอื ทาํ ทนี่ านจะติดท่ี อย่นู านเบ่ือกนั เอง ไปบ้างจะทาํ ให้คดิ ถึงกนั การกระทบกระทงั่ กนั มี ปัจจุบนั ให้ดที สี่ ุด “ ละชั่วสร้างบุญกุศลทาํ จิตให้ผ่องใส (ภาวนาแม่นๆ) ” (โอวาท แต่จะเป็ นเวร มีเมตตาให้อภัยวบิ ากกรรมดํากจ็ ะเบาบางลงไป เม่ือภาวนาจิตจะรวม ปาฏิโมกข์) เม่ือพอเพยี งอนาคตกด็ เี อง ทส่ี ุดบรมสุขกเ็ ป็ นทไี่ ป ง่าย การประคับประครองชีวิตจะเป็ นไปได้ดี ธรรมทานเป็ นเลิศ อย่างอื่นช่วยคาํ้ จุนชีวติ ทาํ ให้คนมีทพี่ งึ่ ในชาตนิ ี้ แต่ ๓๗ โปรดพระจะสึก ธรรมทานช่วยให้คนรู้จักพง่ึ ตนเองได้ต่อไปท้งั ชาตินีช้ าติหน้า ทส่ี ุดกพ็ ้นทุกข์ไปได้ เลย แต่ทานเลก็ ทานน้อยกใ็ ห้หม่ันทาํ การให้ชีวติ เป็ นทานมอี านิสงส์ใหญ่ พ.ศ. ๑๓ – ๑๕ ธ.ค. ๒๕๕๒ พรรษา ๖ ภูมิธรรมขณะน้ันคืออนาคามี ยงั ไม่เขียน ๒๕๔๐ ผู้เขยี นเคยปล่อยสุนัข ๓๐ ตัว ภายหลงั ได้ยนิ ครูอาจารย์เทศน์ในงานปริวาส หนังสือธรรมะ ไปร่วมงานพธิ ีพระราชทานเพลงิ ศพหลวงป่ ูเหรียญ วรลาโภ ทวี่ ดั กรรมว่า “ เขามแี ต่ปล่อยนกปล่อยปลานี่ปล่อยหมา ” (หมู่คณะหวั เราะชอบใจ) การ อรัญญบรรพต อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย พบสหธรรมิก (พระเหวอ พรรษา ๙) สวดมนต์ภาวนาแผ่เมตตา ทาํ ให้ต่อเนื่องเมอ่ื พอเพียงบาปจะตามไม่ทนั ทสี่ ุดกเิ ลส สนิทสนมคุ้นเคยถูกอธั ยาศัยกนั ดี ท่านไปเจริญสมณธรรมในป่ าคนเดียวหลายปี จะหมดไป แล้วสิ้นเวรสิ้นกรรมทใี่ จอย่างสมบูรณ์ “ ดูกรอทุ ายี เพราะสิ้นตณั หาจึง สนทนาธรรมเป็ นกนั เอง (แกงหม้อจ๋ิวธรรมะเดด็ ถึงใจ) ท่านบอกก่อนหน้านีค้ ดิ จะ สิ้นกรรม เพราะสิ้นกรรม จึงสิ้นทุกข์ด้วยประการฉะนีแ้ ล ” (ขยสูตร ปฏปิ ทาท่ี สึกเพราะบวชหลายปี จําเจซํ้าซากเบ่ือมรรคผลไม่เกดิ พอได้แนวทางย่อๆ กลางคนื เป็ นไปเพอ่ื สิ้นตัณหาคือโพชฌงค์ / พระไตรปิ ฎก เล่มท่ี ๑๙ พระสุตตนั ตปิ ฎก เล่มที่ ฝันว่าเหาออกจากหัว ผู้เขียนแปลให้ฟังว่าเป็ นนิมติ ดคี ือมรรคผลจะเกดิ ท่านบอกว่า ๑๑ สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค) ได้ทางแล้วต่อไปไม่สึกจะบวชตลอดชีวติ ขอบคุณทบี่ อกทางให้ ๔๒ ๔๓

ท่านให้กาํ ลงั ใจว่าอย่าท้อขอให้โปรดสัตว์ต่อไป อกี ยส่ี ิบวนั ต่อมากไ็ ด้มรรคผล ๓๘ เทวดามาด้วยเยอะๆ รอดตาย ก.พ. ๒๕๕๔ เดนิ ทางด้วยรถโดยสารสหมติ ร ไปร่วมงานฉลองโบสถ์ทอี่ . ๗ ม.ค. ๒๕๕๔ ไปร่วมงานครบรอบวนั เกดิ หลวงพ่อวริ ิยงั ค์ สิรินฺธโร ทว่ี ดั สว่างแดนดนิ จ.สกลนคร พบพระนิรันดร์ (๑๑ พรรษา) โดยบงั เอญิ ถวายหนังสือ ธรรมมงคล สุขุมวทิ ๑๐๑ กรุงเทพฯ ๙ ม.ค. โยมพนู พันธ์ หิรัญวานิชกุล (เดียว) สายตรงพ้นทุกข์สนทนาธรรมอย่างรื่นเริง ก่อนลงรถท่านบอกกาํ ลงั เตรียมตวั จะไป พร้อมครอบครัวและคณะนิมนต์ฉันเพลแถวๆถ.ศรีนครินทร์ สังเกตหญงิ สาวอายุ สึกเอาชุดมาด้วย ฟังธรรมแล้วได้แนวทางเกดิ กาํ ลงั ใจเรื่องสึกหยุดไว้ก่อน ภายหลงั ๒๑ ปี ช่ือจําปูนลกู สาวของโยมภาษิณี โกศลสิทธ์ิ (ก้งุ ) มองผู้เขยี นแบบตลงึ ฉันเพล ท่านหลกี ไปทาํ ความเพยี รไม่นานกไ็ ด้มรรคผล เสร็จไปพกั ทบ่ี ้านโยมเดยี วแล้วสนทนาธรรมด้วยความร่ืนเริง อริยบุคคลจะเหน็ กรรม ทาํ อะไรกรรมจะแสดงออกมาให้เห็นหลายลกั ษณะ ผ้เู ขียนถามจําปนู ว่า “ หนูมองอะไรดูแปลกๆ ? ” จําปนู “ ไม่กล้าพดู ” สตจิ ะรวดเร็วถึงข้นั อตั โนมตั ิ เรียกมหาสติมหาปัญญามีในอนาคามี ทสี่ ุดคอื สติวนิ ัย ผู้เขียน “ พดู มาได้บุญ ” จําปูน “ เทวดามาด้วยเยอะๆ พญานาคตัวใหญ๊ใหญ่ ” ใคร มใี นพระอรหันต์ คอื ฉลาดรอบคอบรอบตวั รอบกบั ทุกสิ่งที่เกยี่ วข้อง ฆราวาสทไี่ ด้ ปรามาสผู้เขียนฉิบหายไม่รู้ด้วย จึงต้องเตอื นก่อนล่วงหน้าเพราะอนั ตราย มรรคผล เพราะคลกุ คลกี บั คนทว่ั ไปจึงมีโอกาสกระทบกระทง่ั สูง การรักษาจิตจึงไม่ เป็ นไปได้ดดี งั่ เช่นในเพศนักบวชจึงเป็ นเหตุให้อายสุ ้ัน แต่หากบรรลุอรหนั ต์แล้วไม่ ๔๕ บวชจะไม่ตายภายใน ๗ วนั ตายเป็ นบางคนไม่เสมอไป เปรียบสระมนี ํา้ ใสแต่มจี อก แหนปกคลุมอยู่ นํา้ ใสเปรียบจิตอริยบุคคล จอกแหนเปรียบเพศฆราวาส เพราะเป็ น ความแตกต่างทางวาสนาและบุญทาํ กรรมแต่ง “ แข่งเรือแข่งแพพอแข่งได้ แข่งบุญ แข่งวาสนาแข่งกนั ไม่ได้ ” อย่ากงั วลทาํ ปัจจุบนั ให้ดีทส่ี ุด แล้วอะไรๆกจ็ ะดีเอง อริยบุคคลทเ่ี ป็ นนักบวช เช่น พระมีผ้าสีกลกั แก่นขนุน (ธงชัยพระอรหนั ต์) เป็ นตวั แทนของพระพทุ ธเจ้า ผู้คนให้ความเคารพ ปกตเิ ป็ นไปทางสันโดษ (สมณะ คอื ผู้สงบ) พระวนิ ัยสอนไม่ให้คลุกคลี ไม่ให้สะสมบริขารเกนิ ความพอดี แต่ให้มีใช้ เท่าทจ่ี ําเป็ น การรักษาจิตจึงเป็ นไปได้ดี อริยะภายในคือจิต อริยะภายนอกคอื เพศ พระ ดงั น้ันพระพุทธองค์จึงทรงตรัสว่า “ อริยบุคคลไม่เหมาะจะเป็ นฆราวาส ” “ ยํ ลทฺธํ เตน ตุฏฺ ฐพพฺ ํ = ได้ส่ิงใดพงึ พอใจในสิ่งน้ัน (เอกนิปาต) ตุฏฐี สุขา ยา อติ รีตเรน = ความสันโดษด้วยของอะไรๆ (คือตามมตี ามได้) ทาํ ให้เกิดสุข (ธมฺมปทคาถา) ” ๔๔

อธิบายให้โยมกุ้งฟังว่ากเิ ลสหมดสังเกตง่ายๆเวทนาเข้าไม่ถึงจิต ไม่ต่ืนเฉยๆ บ้าง) บรรลอุ นาคามีช้ันใดช้ันหน่ึง (มี ๕ ช้ัน) ผู้เขียนแนะนําว่าจะเข้าสู่อรหันต์การ อะไรกส็ ักแต่ว่า คุณก้งุ ออกอุทานว่าตนเองเป็ นแบบนีน้ านแล้วเพราะได้ครูอาจารย์ดี พจิ ารณาต้องแม่นยาํ อย่าให้จิตส่งออกมากความเพยี รสมา่ํ เสมอ หากกเิ ลสยังไม่หมด สอนให้ภาวนากท็ าํ ตาม เมื่อพอเพยี งความจริงจึงปรากฏ ปริยตั ิไม่รู้ไม่เป็ นไรกเิ ลส ตายแล้วต้องไปเกดิ ทส่ี ุทธาวาส ๕ เสียเวลา รีบทาํ ความเพยี รทาํ ลายกิเลสให้หมด ถงึ หมดใช้ได้ แต่รู้ได้กด็ ีเพราะจะได้อธิบายให้คนอนื่ เข้าใจ (งานรื้อวฏั ฏะ) ตอนน้ันตาทพิ ย์ญาณฤทธ์ิอะไรๆคอื สมมุติเป็ นเรื่องจิ๊บๆธรรมดา มีกส็ ักแต่ว่าเพราะ งานรื้อวฏั ฏะเสร็จสิ้นจึงไม่ดีดดนิ้ “ อาจารย์อริยสัจสี่แปลว่าอะไรครับ ? ” โยมเดียวถาม ทมี่ าของการเขียน อริยสัจส่ี (หนังสือสายตรงพ้นทกุ ข์) อนุโมทนาบุญกบั โยมเดียวทจี่ ัดส่งภาพพทุ ธ กลางคืนโยมฝันไปว่าผู้เขียนมาสอนธรรมะให้ (ธรรมะจัดสรร) ทาํ ให้เกดิ ประวตั ิสวยๆมาให้ ทาํ ให้หนังสือมสี ีสันและมีคุณภาพมากขนึ้ (สายบุญ) ปี ติและศรัทธาปสาทะ “ พ่อแม่ให้ชีวติ บางคนสอนให้พ้นทุกข์ไม่ได้ แต่ครูอาจารย์ บางท่านสอนให้พ้นทุกข์ได้ ดงั น้ันหนีบ้ ุญคุณใช้ยงั ไงกใ็ ช้ไม่หมด จึงควรเคารพท้งั ต้นพ.ศ. ๒๕๕๔ ผู้เขยี นเดินทางโดยรถกระบะความเร็ว ๙๐ ก.ม. / ชม. จาก พ่อแม่และครูอาจารย์ ช่วงแรกของการปฏิบัติแสวงหาครูอาจารย์ด้วยความดดี ดนิ้ อ.นาแก จ.นครพนม ไป จ.อุดรฯ เวลา ๐๒.๐๐ น. มีรถกระบะอกี ฝั่งวงิ่ เสียหลกั สวน เม่อื เรียนและนําไปปฏบิ ัตแิ ล้วได้มรรคผล จิตจะเกดิ การปล่อยวางไม่ดดี ดิน้ เหมอื น ทางข้ามฝั่งเข้ามาแล้วหักหลบไปทางซ้าย รถผู้เขยี นนั่งหักหลบไปทางขวา ต่างคน แต่ก่อนคือเฉยๆสักแต่ว่าเหมือนไม่มอี ะไร (กนิ ไปเตม็ ท้องแล้ว) อย่าลมื บุญคุณครู ต่างไปด้วยความปลอดภัยเหมอื นไม่มอี ะไรเกดิ ขนึ้ (ธรรมะจัดสรร) อาจารย์ อย่าปรามาสเพราะจะเป็ นบาปกรรมอนั หนัก ” เตือนเพอ่ื ให้เกดิ ความเจริญ เพราะหากพลาดพล้งั มาจะเจ็บตวั ซะเปล่า จิตผ้เู ขยี นนิ่งเฉย (เวทนาเข้าไม่ถงึ จิต) ส่วนคนขบั บอกว่า “ อาจารย์ผมยงั ทาํ ใจไม่ได้ ” (เวทนาเข้าสู่จิตเต็มร้อย) จิตทฝี่ ึ กดีแล้วนําสุขมาให้ พจิ ารณามองอย่าง ๓๙ ตกนํา้ ไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ เป็ นกลางๆ ระหว่างผู้ไม่มีกเิ ลสกบั ปุถุชนคนธรรมดา ถึงเวลาจะมสี ิ่งทดสอบ เช่น ความตายมดี ปื นและการถูกข่มข่ดู ้วยประการต่างๆ ๙ มิ.ย. พ.ศ. ๒๕๕๖ ด้วยความรีบร้อนจึงลมื กระเป๋ าปัจจัยและโทรศัพท์ มือถอื ในป๊ัมนํา้ มันป.ต.ท. ท่ี ต.ดอนเขือง อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร (ขณะน่ังรถ “ เมอื่ ไรจะสึก ? ” ถามแบบปรามาสเพราะอวชิ ชาเป็ นปัจจัย ตอบ “ มาถงึ โดยสารใกล้จะถึงบ.บงึ่ โน อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร ได้หยบิ กระเป๋ าจะจ่ายเงินค่า ขนาดนีล้ ูกศิษย์เยอะแยะทาํ ประโยชน์มากมายจะสึกได้อย่างไร ” ทนั ตาเห็นเจ้าของ โดยสารแต่ไม่เหน็ จึงรู้ว่าลมื ทงิ้ ไว้ คนขับรถไม่ว่าอะไร) จากน้ันจึงลงรถทต่ี รงน้ัน คําถามปวดท้องแล้วตายอย่างกะทนั หัน (เขยี นเป็ นอุทาหรณ์สอนใจ อโหสิกรรมให้ แล้วเข้าไปทรี่ ้านผ้าม่านของหลานสาวหลวงป่ ลู ี เพราะเวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร) การแก้ไขต้องวานโยมให้โทรไปทโ่ี ทรศัพท์ของตนเองทล่ี ืมไว้ โชคดีมโี ยม ๖ ก.ย. ๒๕๕๔ สนทนาธรรมกบั อ.วลยั รัตน์ แนวบุตร (แอ๋ว) ข้าราชการครู เกบ็ ได้ (คนขับรถส่งของ) จากน้ันโยมเจ้าของร้านผ้าม่านกข็ บั รถพาไปรับกระเป๋ า และสอนนักศึกษาครูสมาธิอย่างรื่นเริงและมีรสชาติ ปกติไม่ค่อยคุยกนั เนื่องจาก ธรรมจัดสรรบุญพาวาสนาส่ง โยมทาํ ความเพยี รพอสมควร (สะเปะสะปะแต่พอได้ ๔๗ ๔๖

และโทรศัพท์มือถือทห่ี น้าโลตัส อ.สว่างแดนดิน แล้วพาไปส่งวดั เหวลกึ (วดั ฐิติธรร [๑๐๕] มนต์ไม่ท่องบ่นเป็ นมลทนิ ๑ เรือนมีความไม่หมั่นเป็ นมลทนิ ๑ มาราม) บ.บ่งึ โน ต.โคกศรี อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร (ไปร่วมงานทาํ บุญครบรอบ ความเกยี จคร้านเป็ นมลทนิ ของผวิ พรรณ ๑ ความประมาทเป็ นมลทนิ ของผู้รักษา ๑ วนั มรณภาพหลวงป่ ลู ี ฐิตธมฺโม) ไปคราวนีไ้ ม่เสียโอกาส (นานๆไป คือ ๑ ปี ไปคร้ัง) ความประพฤตชิ ่ัวเป็ นมลทนิ ของหญงิ ๑ ความตระหนี่เป็ นมลทนิ ของผู้ให้ ๑ อกุศล เพราะนําซีดีสายตรงพ้นทุกข์ไปแจกและโปรดสอนได้หลายคน ธรรมทล่ี ามกเป็ นมลทินแท้ท้งั โลกนีโ้ ลกหน้า ๑ มลทนิ ทย่ี ่ิงกว่ามลทนิ คืออวชิ ชาเป็ น มลทนิ อย่างยงิ่ ดูกรภกิ ษุท้งั หลาย มลทนิ ๘ ประการนีแ้ ล (พระไตรปิ ฎก เล่มท่ี ๒๓ เพราะสร้างบุญกุศลไว้มาก หลกั ๆ คอื ธรรมทาน “ สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชิ พระสุตตนั ตปิ ฎก เล่ม ๑๕ องั คุตตรนิกาย สัตตก – อฏั ฐก – นวกนิบาต) นาติ = ธรรมทานชนะการให้ท้งั ปวง ” (ธมฺมปทคา) เมื่อพอเพยี งธรรมะจึงจัดสรร ให้ดี (ของหายแล้วได้คืน เปรียบตกนํา้ ไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ ตกไปอยู่ในมอื ของคนดี ๔๐ เปรียบเทยี บการพจิ ารณากายและจติ แล้วตามกลบั มาได้) ของหายเป็ นลกั ษณะแรงของกรรมชั่ว แต่กาํ ลงั กรรมช่ัวมีน้อย เม่อื บุญมีกาํ ลงั มากกว่า กาํ ลงั กรรมช่ัวจึงตามไม่ทนั ถงึ ตวั “ สุโข ปุํฺญสฺส อจุ ฺจโย = ๑ การพจิ ารณากายจะเป็ นวปิ ัสสนาจริง ต้องปฏบิ ัติสมถะให้สมบูรณ์โดย การสะสมบุญนํามาซึ่งความสุข (ธมฺมปทคาถา) ปํุ ญฺ าณิ ปรโลกสฺมึ ปตฏิ ฺ ฐา โหนฺติ การน่ังสมาธิเดนิ จงกรมหรือใช้อุบายการสะสมพลงั จิตในรูปแบบต่างๆ กระทงั่ พลงั ปาณนี ํ = บุญเป็ นทพี่ ง่ึ ของสัตว์ในโลกหน้า (ปํจฺ กนิปาต) ” จิตพอเพยี ง จากน้ันกาํ หนดเป็ นกายให้เห็นจริง แล้วเพ่งกาํ หนดให้สลายแยกออก ตามเข้าไปเรื่อยๆ โดยอนุโลมปฏิโลม เม่ือพอเพยี งกเิ ลสจะเบาบางทส่ี ุดกห็ มดสิ้นไป รักษาความสะอาดเป็ นการรักษาจิต อย่ามองข้ามแม้ในเกร็ดเลก็ เกร็ดน้อย หากไม่เหน็ จริงแล้วพจิ ารณาเรียกตะครุบเงาวปิ ัสสนาตกนํา้ ทาํ ให้หลงและเสียเวลา พยายามเกบ็ ให้เรียบร้อย เช่น ทพี่ กั ทนี่ อน ภาชนะ ทาํ ให้ดที ส่ี ุดแล้วปล่อยวาง (ทาํ ให้บรรลเุ ร็ว) ของเหม็นน้อยมากกค็ อื เหม็นไม่เป็ นทป่ี รารถนาของผ้ใู ด ส่วนของ ๒ การพจิ ารณาจิตจะเป็ นวปิ ัสสนาจริงต้องทาํ จิตให้สงบ จากน้ันเพ่งเบาๆที่ หอมน้อยหรือมากกค็ ือหอมจึงเป็ นทตี่ ้องการของทุกคนอย่างแน่นอน ขนึ้ ชื่อว่า ฐาน แล้วนึกให้สลายแยกออก ไม่ต้องละเอยี ดตามเข้าไปเรื่อยๆ โดยอนุโลมปฏโิ ลม กเิ ลส น้อยหรือมากกค็ อื กิเลสทาํ ให้เกดิ ทุกข์อุปมาความเหม็น กเิ ลสหมดอปุ มาพบ เมือ่ พอเพยี งกเิ ลสจะเบาบางทสี่ ุดกห็ มดไป สงบสว่างเห็นจริงกก็ าํ หนดให้สลายแยก ความหอมแล้วหอมไปตลอด เพราะพระนิพพานเที่ยงตรงตลอด ออก สงบมดื ไม่เห็นจริงกน็ ึกให้สลายแยกออก ทาํ ความสะอาดใจโดยภาวนาแม่นๆระวงั ตะครุบเงา ทนถอนหนามออกจาก ผลการปฏบิ ตั ิข้อ ๑ , ๒ หากถูกทางสังเกตการเบาบางและหมดไปของกเิ ลส หวั อปุ มาเพยี รภาวนา กเิ ลสหมดอย่ไู หนกอ็ ย่เู ถดิ คืออยู่แบบประครองชีวติ แล้วยัง ภายในจิตแล้วเทยี บกบั สังโยชน์อริยบุคคลซ่ึงมใี นปริยตั ิ ดาํ เนินสมถะจะข่มกเิ ลส ประโยชน์ตนและประโยชน์ท่านให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาท ก่อนจะตายจาก ชั่วคราว แต่ถ้าพจิ ารณาถูกต้องเมือ่ พอเพยี งมรรคผลกเ็ กดิ แต่ละช้ันของอริยบุคคล กนั ไปเสียก่อน กเิ ลสจะขาดแล้วขาดเลยได้แล้วไม่เสื่อมเรียกสมุจเฉทปหาน คือละกเิ ลสโดยการตดั ขาด ถอนรากไม่เสื่อมไม่ถอยหลงั ๔๘ ๔๙


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook