Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สาระน่ารู้-15 ไม้ร่ม

สาระน่ารู้-15 ไม้ร่ม

Published by Thalanglibrary, 2020-05-08 01:21:00

Description: สาระน่ารู้-15 ไม้ร่ม

Search

Read the Text Version

หอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอถลาง จังหวัดภูเกต็

1. ตน้ หูกระจง ลกั ษณะทัว่ ไป ต้นหูกระจง หรือ แผ่บารมี เปน็ ต้นไม้ท่มี ี การเจรญิ เตบิ โตเรว็ อายุยนื และมที รงพุม่ สวยงาม แตกก่งิ เป็นชั้น ๆ แต่ละชั้นจะห่างกัน ประมาณ 50-100 เซนติเมตร โดยจะมกี ารผลดั ใบ และออกดอกสีขาวคล้ายกระถินณรงค์ ส่วนเมลด็ จะคลา้ ยกับเมล็ดพุทรา ส่วนใหญ่นิยมปลกู ต้นหู กระจงเพ่ือตกแตง่ สวน เปน็ ต้นไมใ้ หร้ ม่ เงาในบา้ น เนอื่ งจากลาต้นสงู ใหญ่ อายยุ ืน และช่วยบงั แดดได้ ดี อกี ทั้งยังเปน็ ตน้ ไมม้ งคลทเ่ี ชื่อกันวา่ ปลกู แล้วจะ มคี วามสขุ ความเจรญิ มากข้ึนดว้ ย วธิ ปี ลูกและดแู ลรักษา ตน้ หกู ระจง เป็นต้นไมใ้ หญ่ทมี่ รี าก แข็งแรง ดังน้ันจึงควรปลูกให้ห่างจากตัวบา้ น พอสมควร เพ่อื ไม่ให้รากของต้นหกู ระจงสรา้ ง ความเสียหายกบั ตวั บา้ นได้ ส่วนการดแู ลรักษาก็ เพียงแคห่ มัน่ รดน้าใหช้ ุ่ม อย่างสม่าเสมอ หากไม่ ม่นั ใจว่าลาตน้ จะทรงตวั ไดด้ ี อาจจะทาไม้ค้าไว้สัก ระยะหนึง่ จนแน่ใจก็ได้

2. ตน้ ประดู่ ลักษณะทวั่ ไป ต้นประดู่ เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ สูง ประมาณ 10 เมตรขึน้ ไป ใบจะออกรวมกนั เปน็ ชอ่ โดยมีใบรปู มนรี ปลายใบแหลม และออกดอกเปน็ สี เหลืองสด หากดอกใกล้โรยจะเปลยี่ นเป็นสีนา้ ตาล มักจะเหน็ ดอกบานสวยในชว่ งพฤษภาคม-สิงหาคม ซ่งึ ตน้ ประดูเ่ ปน็ ต้นไมม้ งคลท่ีหมายถงึ ความสามคั คี และเป็นอันหนึง่ อนั เดยี วกัน จึงทาให้ถกู นามาเปน็ สญั ลกั ษณข์ องกองทัพเรือไทยดว้ ย วิธปี ลูกและดูแลรักษา ควรปลกู ต้นประด่เู อาไว้กลางแจง้ เพราะ เป็นตน้ ไมท้ ช่ี อบแดดจัด ความชนื้ สูง สามารถขน้ึ ได้ ในดินทกุ ชนดิ แต่ถ้าปลูกในดนิ ร่วนซุยจะดีท่ีสุด โดยต้องการนา้ ปานกลาง จึงควรรดน้าแบบพอดี ๆ

3. ตน้ สารภี ลกั ษณะทว่ั ไป ตน้ สารภี เป็นไมด้ อกยนื ตน้ ซึง่ ไดร้ ับ พระราชทานให้ปลกู เป็นไมม้ งคลจังหวดั พะเยา ลาต้น สูงประมาณ 10-15 เมตร เปน็ ไมไ้ มผ่ ลดั ใบ ลาต้นตรง ขรขุ ระเล็กนอ้ ย ปลายก่ิงมกั จะหอ้ ยลงสูล่ าต้น ใบเปน็ รูปไข่ ปลายมนกวา้ ง โดยจะแตกออกเปน็ คูต่ รงขา้ มกัน ออกดอกเป็นชอ่ เด่ียวตามกิง่ มกี ลีบดอก 5 กลีบ มี ความเช่อื ว่าบา้ นไหนปลกู ต้นสารภจี ะทาใหม้ ีอายุยืน นาน และดอกสารภยี ังเปน็ ยาบารุงหัวใจไดด้ ว้ ย วธิ ปี ลกู และดูแลรักษา เพอ่ื ความเป็นสิริมงคลทส่ี ดุ ควรปลกู ต้น สารภีไวใ้ นทศิ ตะวนั ออกเฉยี งใต้ และควรลงปลกู ในวนั เสาร์ อีกท้งั ยงั ควรใหส้ ภุ าพสตรีเป็นคนปลกู โดยปลกู ดว้ ยดินรว่ น และมรี ะยะหา่ งท่ีเหมาะสม เพราะเป็น ต้นไมท้ ่มี ีพุ่มใหญ่ ท้งั นีต้ ้นสารภชี อบแดดอ่อน ๆ ถึง ปานกลาง ควรรดนา้ 5-7 วนั ตอ่ ครง้ั และควรใส่ปุ๋ย คอกหรอื ปุ๋ยหมกั ปลี ะ 3-4 คร้งั

4. ตน้ จาปี ลักษณะทว่ั ไป ต้นจาปี เปน็ ไม้ยนื ต้นขนาดกลาง มีอายุ ประมาณ 10-20 ปี ลาตน้ สนี ้าตาลแตกเป็นร่องถ่ี กิง่ เปราะ หักงา่ ย เวลาออกดอกจะออกเปน็ เด่ยี วท่ี ซอกใบ ดอกยาวเรียว กลบี ดอกสีเหลืองครมี ประมาณ 8-12 กลีบ ยาว 4-6 เซนติเมตร มกี ลนิ่ หอมฟุ้ง นยิ มนามารอ้ ยมาลยั โดยมปี ระโยชน์ใช้ เปน็ ยารักษาอาการวงิ เวยี น แก้ไอ บารุงหวั ใจได้ นอกจากน้ียงั สามารถใหร้ ่มเงาได้ดี และเมื่อลมพดั โชยมากจ็ ะสง่ กล่นิ หอมไปทว่ั วิธปี ลูกและดูแลรกั ษา ต้นจาปนี ยิ มปลกู ในช่วงปลายฤดฝู น เพราะจะทาใหเ้ ติบโตไดง้ ่าย ตน้ จาปีท่ีมอี ายุ 1 ปขี น้ึ ไป จะเร่มิ ออกดอก โดยออกตามก้านหรือโคนใบ และจะออกดอกมากที่สดุ ในช่วง 3-5 ปี โดยควรใส่ ปยุ๋ คอกและรดน้าวันละคร้งั หากเป็นหน้าแลง้ ควร รดนา้ วันละ 2 คร้ัง เชา้ -เย็น

5. ต้นจาปา ลักษณะท่วั ไป ตน้ จาปา เปน็ ไมย้ ืนตน้ ขนาดกลางทรงพมุ่ เต้ยี สูงประมาณ 20 ฟตุ โดยต้นจาปาจะมลี กั ษณะ แตกตา่ งจากต้นจาปี โดยมีใบเล็กกว่า และมดี อก เปน็ สีเหลืองส้ม ทัง้ นี้ต้นจาปาจะออกดอกเดยี่ ว รวมกนั เป็นช่อ โดยจะออกดอกตั้งแตอ่ ายุ 1 ปี และ ออกดอกมากทส่ี ุดตอนอายุ 3-5 ปี โดยจะออกดอก ตลอดทง้ั ปี โดยหากปลูกไว้ในบา้ นจะช่วยบังแดดได้ วิธปี ลูกและดูแลรักษา ถ้าปลกู หลายต้นควรเวน้ ระยะห่าง ประมาณ 4-6 เมตร ชว่ งเวลาทคี่ วรปลูกต้นจาปา คือ ตุลาคม–ธันวาคม และ เดือนมีนาคม–เดือน พฤษภาคม จากน้นั ควรให้นา้ วนั ละครั้ง พร้อมกับใส่ ป๋ยุ คอกหรือปุ๋ยวิทยาศาสตรส์ ูตร 15-15-15 โดย หยอดเป็นหลุมรอบทรงพ่มุ แลว้ กลบดินและรดน้า ให้ช่มุ

6. ต้นเหลืองปรดี ยี าธร ลักษณะท่วั ไป เป็นไมย้ นื ตน้ สูงไมเ่ กนิ 8 เมตร ลาต้นเป็นไม้ เน้ือออ่ น แตกก่ิงก้านเป็นชั้น ใบมลี กั ษณะเป็นใบยอ่ ย 5 ใบ มสี ีเขียวอมขาว ลกั ษณะใบแขง็ และมขี นนุ่ม นอกจากนี้ยงั มดี อกสีเหลอื งสด ออกดอกเป็นช่อ ๆ สวยงาม และออกดอกมากในชว่ งกุมภาพันธ์–มนี าคม มีผลเป็นฝักยาว 10 เซนตเิ มตร คนส่วนใหญ่นิยม ปลูกไว้เปน็ ตน้ ไมใ้ หร้ ่มเงา เนือ่ งจากลาต้นสงู และสสี ัน สวยงามสะดุดตา วธิ ปี ลูกและดูแลรกั ษา เหลืองปรีดยี าธร เป็นตน้ ไม้ที่เลีย้ งง่าย เตบิ โตเร็ว ควรปลูกในดนิ ร่วน ท่ีระบายน้าได้ดี และ ชอบแดดจดั ขยายพันธุ์ได้ดว้ ยการเพาะเมลด็ ทั้งน้ี ดอกสีเหลือง ๆ ของต้นเหลอื งปรดี ียาธรมกั จะรว่ งลง บนพ้นื ค่อนขา้ งเยอะ ดังนนั้ จึงควรพิจารณาก่อนซอื้ มาปลกู ด้วย เนอื่ งจากต้องคอยหม่นั เกบ็ กวาดใบและ ดอกท่รี ่วงหลน่ อยู่เรือ่ ย ๆ

7. ต้นลีลาวดี ลกั ษณะทว่ั ไป ต้นลลี าวดี มหี ลากหลายสายพนั ธแุ์ ละ ออกดอกตา่ งสีสนั กนั ไป มีตง้ั แตส่ ขี าว, สีเหลอื ง, สชี มพ,ู แต่ท่ีนยิ มปลกู กันมากในประเทศไทยคอื ต้นลลี าวดีพนั ธ์ุขาวพวง ซึง่ จะออกดอกสขี าว สวยงาม โดยสง่ กลน่ิ หอมเย็น ๆ ใหฟ้ ้งุ กระจายไป ท่วั บรเิ วณ และจะออกดอกดกเปน็ ชอ่ ใหญ่ ประมาณ 10-15 ดอก โดยนอกจากจะมกี ลิ่นหอม แลว้ ยังนยิ มปลกู ไว้เปน็ ตน้ ไมใ้ หร้ ม่ เงาด้วย วธิ ีปลกู และดูแลรักษา การปลกู ตน้ ลีลาวดี ควรปลกู ในดินร่วน ปนทราย เพราะตน้ ลีลาวดเี ปน็ ไม้กลางแจง้ ที่ชอบ แสงแดด และทนตอ่ ความแห้งแลง้ ไดด้ ี อกี ทัง้ ยงั ไมช่ อบนา้ มาก หากไดร้ บั แสงแดดจะทาให้ออก ดอกไดด้ ขี ึน้ บางตน้ ถา้ ไมไ่ ด้รับแสงแดดเลยก็จะไม่ ออกดอก การรดนา้ ควรรดน้าสปั ดาห์ละ 2 คร้งั ซ่ึงต้นลีลาวดีพันธุข์ าวพวงจะมดี อกสวย ๆ ให้เห็น ไดต้ ลอดท้งั ปี

8. ตน้ ปีบ ลักษณะทั่วไป ไม้ยนื ตน้ ผลดั ใบขนาดกลางถึงใหญ่ เรอื นยอด เปน็ พุ่มทรงกระบอก มกี ่ิงก้านท่ยี อ้ ยลง ออกดอกเปน็ สี ขาวหรอื ชมพู มีกลนิ่ หอม โดยจะออกดอกเป็นชอ่ กระจุก ซ้อนกนั ตามปลายกงิ่ และจะออกดอกในช่วงเดือน กนั ยายน–พฤศจิกายน ซึง่ ดอกปีบจะบานในช่วงเยน็ นิยมปลูกใหร้ ม่ เงาในสวนหรือลานจอดรถ เชื่อว่าปลูก แลว้ จะมชี ือ่ เสียงโด่งดงั เกบ็ เงินเกบ็ ทองไดม้ าก วิธีปลกู และดแู ลรกั ษา ตามความเชอื่ มกั ปลกู ตน้ ปบี ไวใ้ นทางทศิ ตะวนั ตก และลงมอื ปลูกในวนั เสาร์ อีกท้งั หากอยากให้ เปน็ มงคลมากข้ึนควรใหค้ นทเี่ กิดวันจนั ทร์เปน็ ผปู้ ลูก ควร ปลกู ให้มีระยะห่างจากตัวบา้ น เนอ่ื งจากมีพุม่ ใหญ่ และ เน้นปลูกกลางแจง้ เน่ืองจากต้นปบี ชอบแดดจดั และใหน้ ้า 5-7 วันตอ่ ครงั้ โดยใชป้ ุย๋ คอกหรือป๋ยุ หมัก และดินร่วน ในอตั ราส่วน 1:3 กโิ ลกรมั ต่อต้น

9. ต้นทองกวาว ลกั ษณะทว่ั ไป ต้นทองกวาว เป็นไม้ยืนตน้ ขนาดกลางแบบ ผลัดใบ กิ่งก้านแตกไมเ่ ปน็ ระเบยี บ ออกดอกเปน็ ชอ่ คลา้ ยกบั ตน้ ทองหลาง โดยดอกทองกวาวจะมีสีแดง ส้มหรอื สแี สด เมอ่ื บานออกจะมี 5 กลบี โดยออกดอก เรียงกนั เป็นกล่มุ ๆ และจะออกดอกมาในช่วงเดือน ธนั วาคม–กุมภาพันธ์ และเม่ือออกดอกหมดใบใหมก่ ็ จะเริ่มร่วงโรยผลดั ใบ เชื่อกันวา่ หากปลูกไวใ้ นบา้ นจะมี เงินเยอะ วธิ ปี ลกู และดแู ลรกั ษา ทองกวาว ตอ้ งการแสงแดดจดั จึงนยิ มปลกู กลางแจง้ โดยเว้นระยะใหห้ า่ งจากตวั บา้ นพอสมควร เพอ่ื รองรับการเจริญเตบิ โตและพมุ่ ท่ีคอ่ นข้างใหญ่ ควรให้น้า 7-10 วนั ต่อครัง้ ใชด้ ินร่วนซุยผสมปุย๋ หมกั หรือปุ๋ยคอก อตั ราส่วน 2:3 กโิ ลกรมั ต่อต้น โดยใหใ้ ส่ ปลี ะ 3-5 คร้งั

10. ตน้ มะม่วง ลักษณะทวั่ ไป เปน็ ตน้ ไม้ยนื ตน้ ขนาดกลางที่นยิ ม ปลูกเอาไวใ้ นบ้าน เพราะมผี ลให้รบั ประทานได้ ด้วย ซ่งึ พันธมุ์ ะม่วงทนี่ ยิ มปลูกกนั ก็คือ เขียวเสวย, โชคอนันต์, มนั ทวาย ฟา้ ลนั่ ฯลฯ ทงั้ นต้ี ้นมะม่วงเปน็ ไมม้ งคลทม่ี ีมาตง้ั แต่ พุทธกาล จงึ เช่ือกันวา่ หากปลกู มะมว่ งเอาไว้ใน บ้านจะทาให้คนในบา้ นมีความรา่ รวยมากข้ึน วิธปี ลูกและดูแลรักษา ตามความเช่อื ควรปลกู ตน้ มะมว่ งไว้ ทางทศิ ใตเ้ พือ่ ความเปน็ สิริมงคล และควรปลกู ในหน้าฝนเนื่องจากจะเจริญเตบิ โตได้ดี ควร ปลูกกลางแจง้ ในดนิ ท่ีอดุ มสมบรู ณ์ หาก ตอ้ งการขยายพันธสุ์ ามารถทาได้โดยการเพาะ เมล็ดหรือการตอนกิง่ และจะออกผลในช่วงฤดู รอ้ น แต่ควรปลูกใหห้ ่างจากร้วั บ้านและตวั บา้ น เนอื่ งจากการเจรญิ เติบโตของตน้ มะม่วงอาจทา ให้เกดิ รอยแตกรา้ วได้

11. ต้นฝรัง่ ลกั ษณะทัว่ ไป ฝรัง่ เปน็ ไมข้ นาดเลก็ ถงึ ขนาดกลาง ท่นี ิยมปลกู กันในบ้าน ซงึ่ นอกจากจะให้ร่มเงา บงั แดดได้แลว้ ยงั เป็นต้นไม้ทน่ี ิยมนาผลมา รบั ประทานอกี ดว้ ย ดังน้ันหลายบ้านจึงเลือก ปลกู ฝรัง่ เอาไว้แทนตน้ ไมใ้ หญ่อน่ื ๆ โดยฝรั่ง จะมีลาต้นเกลี้ยงมนั เปลอื กเรยี บ นิยมปลูก กันหลายพันธุ์ เชน่ ฝร่ังกิมจ,ู ฝร่ังกลมสาล่ี, ฝรง่ั แป้นสีทอง เป็นต้น วิธปี ลูกและดแู ลรกั ษา เตรียมหลมุ ปลกู กวา้ งและลึก ประมาณ 0.5 เมตร ตากดนิ ท่ีขดุ ข้นึ มา ประมาณ 15-20 วัน แลว้ ผสมปยุ๋ อนิ ทรีย์ หรือป๋ยุ หมกั รองก้นหลมุ จากนน้ั นาดนิ ใส่ลง ไปและนาฝรั่งลงปลูก โดยต้องหมัน่ รดนา้ ใน ระยะแรกและอยา่ ปลอ่ ยใหด้ ินแห้งมาก ถ้า ฝนตกหนกั ควรระบายนา้ ออก ไม่ควรพรวน ดนิ ลกึ อาจต้องทาไม้ค้ากนั ตน้ ล้ม โดยฝร่งั จะ ออกผลครัง้ แรกตอนอายุประมาณ 1 ปี และ จะออกได้ดีหากมีการตอนก่ิง

12. ต้นชมพู่ ลกั ษณะทั่วไป อีกหน่งึ ตน้ ไม้ทีห่ ลายบา้ นนยิ มปลูกเปน็ ตน้ ไมใ้ หร้ ม่ เงา โดยต้นชมพู่เป็นไม้ยนื ต้นขนาดกลาง ทรงพุ่มเตีย้ มดี อกบานเป็นฝอยคล้ายดอกกระถิน มีผลรบั ประทานได้ แต่มขี ้อเสียคอื ดอกจะรว่ งเยอะ ทาให้ตอ้ งหมั่นเก็บกวาด ท่ีนยิ มปลูกกันคือ ชมพู่ มะเหม่ยี ว ซึง่ มีเกสรสแี ดงชมพดู ูสวยงาม และผล หอมหวานอมเปรย้ี ว วิธปี ลูกและดูแลรกั ษา ตน้ ชมพูเ่ ป็นไมท้ ่ชี อบน้า จงึ สามารถใหน้ ้า บ่อยได้ ยงิ่ โดยเฉพาะช่วงทอี่ อกดอกยิง่ ตอ้ งหมนั่ ให้ น้าอยา่ งสม่าเสมอ และงดใหน้ ้า 7 วนั กอ่ นเกบ็ ผล ทัง้ นีค้ วรใสป่ ๋ยุ สตู ร 15-15-15 หรอื ปยุ๋ เคมไี ด้ บางครัง้ แตก่ อ่ นใส่ปุ๋ยควรรดนา้ กอ่ นเพือ่ ใหร้ ากดดู ซึมได้ดีขึ้น ขยายพนั ธ์ไุ ดด้ ว้ ยการเพาะเมล็ด

13. ต้นสายหยดุ ลกั ษณะทั่วไป ตน้ สายหยดุ เปน็ ไม้เล้ือยกง่ึ ๆ ไมย้ นื ต้น โดยมีเถาใหญ่แขง็ แรงสามารถพนั ตน้ ไมห้ รือกง่ิ ไมอ้ นื่ ๆ ได้ โดยจะแผส่ าขาออกไปเป็นบรเิ วณกวา้ ง ช่วยให้ เกิดรม่ เงาปกคลมุ โดยทวั่ ใบสายหยดุ จะเป็นใบเดย่ี ว ปลายใบแหลม ออกดอกตามโคนกา้ นใบ ตอนดอก ตมู จะเปน็ สีเขียว แต่เมอ่ื บานแล้วจะมสี เี หลอื ง ดอก ห้อยลงคล้ายดอกกระดังงา มีกลีบดอก 5-6 กลบี สง่ กลน่ิ หอมฟุ้งในชว่ งเช้า วิธีปลกู และดแู ลรักษา ปลกู ด้วยต้นกล้าจากการเพาะเมล็ด หรอื ก่งิ ตอน โดยควรปลกู กลางแจ้งเนือ่ งจากตอ้ งการ แดดพอสมควร แต่ท้งั น้ีกส็ ามารถเตบิ โตได้ดีในท่ีร่ม ราไรดว้ ย การรดน้าควรรดให้ชุ่มวนั ละ 1 ครง้ั หลกี เลี่ยงน้าท่วมขัง ใชด้ นิ รว่ นซุยมาก ใส่ปุย๋ ไนโตรเจนหรือปยุ๋ หมกั บ้างในช่วงแรก

14. ตน้ อโศกอินเดีย ลกั ษณะทว่ั ไป เป็นไม้ยนื ตน้ ทรงสูงแบบผลัดใบ มี ลกั ษณะเป็นพุ่มพรี ะมิดแคบ ๆ ก่งิ โนม้ ลู่ลงทง้ั ต้น ใบเดีย่ วรปู หอกปลายแหลม มีสเี ขยี วเปน็ มันเงา งาม ขอบใบเป็นคลื่น มักออกดอกในช่วงเดอื น มนี าคม-เมษายน ใช้เป็นไม้ประดบั และคอยบงั แสงแดดได้ นิยมปลกู รมิ ร้ัวเพ่ือบงั สายตาด้วย เชอ่ื กนั ว่าเปน็ อีกหนึง่ ต้นไมม้ งคลท่ีปลกู แลว้ จะหมด ทกุ ข์หมดโศก วิธปี ลูกและดแู ลรกั ษา ตน้ อโศกอินเดยี ปลกู กลางแดดจัดได้ ชอบความชนื้ ปานกลาง โดยควรปลกู หา่ งจากริม ร้วั อยา่ งน้อยประมาณ 30 เซนตเิ มตร ท้งั นห้ี าก เป็นชว่ งหน้าแลง้ ใบจะรว่ งเยอะ ทาใหต้ ้องหม่นั รด นา้ บ่อย ๆ หากตอ้ งการควบคุมความสงู ควรหม่ัน ตดั ยอด

15. ตน้ ไทรย้อย ลักษณะทั่วไป ไทรย้อย เปน็ ไม้ยนื ตน้ ขนาดกลางถงึ ใหญ่ มี ความสูงประมาณ 10-20 เมตร ลาตน้ ตรงแตกก้านเปน็ พุ่ม มรี ากอากาศหอ้ ยลงมาตามกิง่ กา้ นและลาต้น ทาให้ดู สวยงามและสามารถบังแดดไดด้ ี โบราณเช่ือวา่ หากปลูก ไว้ในบ้านจะทาใหร้ ่มเย็นเปน็ สุข ป้องกนั อนั ตรายทัง้ ปวง เนือ่ งจากเชอ่ื กนั ว่าเป็นทีอ่ าศยั ของเทพารกั ษ์ อกี ทง้ั ยัง ชว่ ยดูดสารพิษไดด้ ดี ว้ ย วิธีปลูกและดแู ลรักษา ควรปลูกตน้ ไทรไว้ทางทศิ ตะวนั ตก เพ่ือความ เปน็ สริ ิมงคลกับบา้ น และควรปลูกในวันอังคาร โดยใช้ปุ๋ย คอกหรือปยุ๋ หมัก และดินร่วน ในอตั ราส่วน 1:2 ต้องการ ความชน้ื สงู ปลกู กลางแดดหรอื แสงแดดสอ่ งราไรได้ ขยายพันธุ์ดว้ ยการปกั ชาหรอื ตอนก่ิง

ขอขอบคุณขอ้ มูลจาก ศนู ยค์ วามรูด้ า้ นการเกษตร มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร,์ maipradabonline/ สารภี, panmai/จาปี, maipradabonline/ลีลาวดี , maipradabonline/ปีบ, panmai/มะมว่ ง, maipradabonline/ สายหยดุ และ panmai/ไทรยอ้ ยใบแหลม


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook