Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แรงงานบนเส้นทางรัฐสวัสดิการ

แรงงานบนเส้นทางรัฐสวัสดิการ

Published by Thalanglibrary, 2020-11-09 04:06:51

Description: แรงงานบนเส้นทางรัฐสวัสดิการ

Search

Read the Text Version

แรงงานบนเส้นทางรัฐสวสั ดกิ าร [หน้า 51] ในโรงงานก็ตาม เนืองเพราะแรงงานเหลา่ นีไม่ได้รับการค้มุ ครองจาก พ.ร.บ.คุ้มครอง แรงงาน พ.ศ. 2541 และขาดการรวมกลมุ่ เพอื ตอ่ รองคา่ แรงของตน 4. งานไม่ต่อเนือง ไม่สมําเสมอ ขึนอยู่กับภาวะการขาย การตลาดของสินค้า หรือ สถานการณ์ของสงั คม ทําให้ไม่มีความมนั คงในการทํางาน ไมส่ ามารถวางแผนการผลิต และแผนการทาํ งานได้ 5. เข้าไมถ่ งึ ทรัพยากรและการสนบั สนนุ จากรัฐ จงึ เป็ นเหตใุ ห้ขาดโอกาสในการพฒั นาทกั ษะ ฝี มือ การใช้กองทนุ หมนุ เวียน รวมทงั การได้รับบริการด้านสาธารณสขุ ทีเหมาะสม 6. ไมม่ ีองค์กร ไมม่ ีตวั แทน ไมม่ ีอาํ นาจตอ่ รอง เนอื งจากลกั ษณะการทํางานของแรงงานนอก ระบบ มกั จะกระจดั กระจายอย่ทู วั ไปจึงขาดการรวมกลมุ่ หรือแม้จะมีการรวมกลมุ่ ก็เป็ น กลมุ่ ขนาดเล็ก ประกอบกบั การไมเ่ ข้าใจในเรืองสิทธิของตนเองในฐานะแรงงาน จึงไมม่ ี อํานาจในการตอ่ รองทงั กบั นายจ้าง หรือหนว่ ยงานของรัฐทเี กียวข้อง 7. มีปัญหาสขุ ภาพและสภาพการทํางานทีไม่ปลอดภยั เนืองจากขาดความรู้ความเข้าใจ เรืองอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทํางาน รวมทังมีความเสียงจาก สภาพแวดล้อมการทาํ งานทีไมป่ ลอดภยั จึงทําให้ แรงงานนอกระบบสว่ นใหญ่ต้องเผชิญ กบั ปัญหาด้านสขุ ภาพ และความเสยี งจากอบุ ตั ิเหตใุ นการทาํ งาน จากปัญหาทีแรงงานนอกระบบเหลา่ นีต้องเผชิญอยตู่ ลอดเวลา จึงได้มีความพยายามในการ แก้ไขปัญหาโดยมีข้อเสนอในเชิงนโยบายเพือแก้ไขปัญหาตา่ ง ๆ ของแรงงานนอกระบบ ดงั นี 1. สนับสนุนให้ท้องถนิ มนี โยบายการจดั การสุขภาวะของแรงงานนอกระบบ • ให้หนว่ ยงานทีเกียวข้องรวบรวมและสงั เคราะห์ประสบการณ์ความสําเร็จ ในงานสร้าง เสริมสขุ ภาวะของแรงงานนอกระบบขององค์กรปกครองสว่ นท้องถิน เพือเป็ นต้นแบบใน การเรียนรู้และเป็ นแนวทางการทํางานขององค์กรปกครองสว่ นท้องถินอนื ๆ

แรงงานบนเส้นทางรัฐสวสั ดิการ [หน้า 52] • สร้างความรู้ ความเข้าใจ ขององค์กรปกครองสว่ นท้องถินต่อประเด็นแรงงานนอกระบบ ในทกุ มิติ เช่น จดั ทําและพฒั นาระบบฐานข้อมลู และการลงทะเบียนแรงงานนอกระบบ เพือให้ อปท. เห็นความสําคญั และมีข้อมลู เพียงพอในการออกเทศบญั ญตั ิ และมีแผน งบประมาณในการดแู ลแรงงานนอกระบบในพืนที • ให้ อปท. ร่วมกบั ผ้นู ําแรงงานนอกระบบ ผ้นู ําชุมชน จดั ตงั ศนู ย์รับเรืองราวร้องทกุ ข์ ดแู ล ป้ องกนั แก้ไขปัญหา และให้ความช่วยเหลอื ด้านกฎหมายแกก่ ลมุ่ แรงงานนอกระบบ • การพฒั นาศกั ยภาพและการสร้ างความเข้มแข็ง เพือสร้ างพืนทีของแรงงานนอกระบบ ผา่ นกระบวนการแผนชมุ ชน เวทปี ระชาคม หรือช่องทางอนื ๆ ทีมี • ผลกั ดนั ให้แก้ไขประกาศคณะกรรมการหลกั ประกันสขุ ภาพแห่งชาติ เรือง การกําหนด หลกั เกณฑ์ เพือให้ อปท. ดําเนินการระบบหลกั ประกนั สขุ ภาพในระดบั ท้องถิน โดยให้ องค์ประกอบของคณะกรรมการฯ มีผ้แู ทนของกลมุ่ เป้ าหมาย ได้แก่ กลมุ่ แมแ่ ละเด็ก กลมุ่ ผ้สู งู อายุ กลมุ่ ผ้พู ิการ กลมุ่ ผ้ปู ระกอบอาชีพทีมีความเสยี ง กลมุ่ ละ 1 คน • ให้หนว่ ยงานทเี กียวข้อง โดยเฉพาะกรมสง่ เสริมการปกครองสว่ นท้องถิน ทบทวนนโยบาย และกฎหมาย เพือเพิมอํานาจองค์กรปกครองท้องถินให้มีบทบาทในการคุ้มครอง และ สร้างหลกั ประกนั ทางสงั คมได้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ • ให้จัดตังกองทุนประกันความเสียงจากการประกอบอาชีพในชุมชน ซึงทุกฝ่ าย คือ แรงงานนอกระบบ ผ้วู า่ จ้าง กองทนุ หมบู่ ้าน และองค์กรปกครองสว่ นท้องถิน ร่วมกนั จ่าย สมทบและบริหารจดั การกองทนุ ซึงจะดูแลแรงงานนอกระบบในทุกด้าน อาทิ สขุ ภาพ ความปลอดภยั ในการทํางาน สภาพแวดล้อมในการทํางาน ประกนั ราคาผลผลติ การก้ยู ืม เป็ นต้น 2. ผลักดันนโยบายและกฎหมาย เพือคุ้มครองและสร้างหลักประกันทางสังคมแก่ แรงงานนอกระบบ

แรงงานบนเส้นทางรัฐสวสั ดิการ [หน้า 53] • เร่งกระบวนการออกกฎหมายและมาตรการค้มุ ครองแรงงานนอกระบบกลมุ่ อืนๆ เช่น การ ค้มุ ครองการทําสญั ญาทีไมเ่ ป็ นธรรม เพอื ค้มุ ครองเกษตรกรในระบบพนั ธะสญั ญา • ให้มีนโยบายและกฎหมายทีครอบคลมุ ทกุ กลมุ่ โดยเสมอภาคและเท่าเทียมกนั ไม่มีการ เลอื กปฏิบตั ิ และคํานงึ ถึงรายละเอียดทีแตกต่างกันในลกั ษณะงาน สภาพการจ้างงาน ของแรงงานนอกระบบ • ให้การค้มุ ครองสทิ ธิขนั พืนฐานต่างๆ เช่น ค่าตอบแทนทีเป็ นธรรม สภาพการทํางานและ สภาพแวดล้อมการทํางานทีปลอดภยั สิทธิการรวมตวั เจรจาตอ่ รอง สิทธิทีจะได้รับการ ชดเชยความสญู เสียใดๆ เนืองมาจากการทํางาน และสิทธิทีจะได้รับหลกั ประกนั ทาง สงั คมในฐานะทีเป็ นแรงงาน • สง่ เสริมและพฒั นาทกั ษะฝี มือ คณุ ภาพการผลิต และข้อมูลข่าวสารเกียวกบั แหลง่ งาน การตลาด และข้อมูลอืนๆ ทีจําเป็ น และมีกองทุนหมุนเวียนเพือพัฒนาอาชีพ และ แก้ปัญหาทีแรงงานนอกระบบเผชิญอยู่ • มีกลไกการบงั คบั ใช้กฎหมายและไกลเ่ กลยี ข้อพิพาททีเกียวข้องกบั การคุ้มครองแรงงาน เพือการประสานประโยชน์และหลีกเลียงการเผชิญหน้า อนั นํามาซึงความขดั แย้งและ ทําลายความสมั พนั ธ์ในการจ้างงานระหวา่ งนายจ้างกบั กลมุ่ แรงงานนอกระบบ • คงสิทธิการดแู ลสขุ ภาพในโครงการหลกั ประกนั สขุ ภาพถ้วนหน้า ไว้เป็ นหลกั ประกนั ขนั พืนฐานสาํ หรับแรงงานนอกระบบ ในกรณีเจ็บป่ วย คลอดบตุ ร และออกแบบรายละเอียด ของสทิ ธิประโยชน์ค้มุ ครองของกองทนุ ประกนั สงั คมสาํ หรับแรงงานนอกระบบ ให้เติมเต็ม จากการรักษาพยาบาลและบริการทางการแพทย์ เช่น การทดแทนการขาดรายได้ใน ระหวา่ งเจ็บป่ วย และระหวา่ งคลอดบตุ ร • ผลกั ดนั ให้มีการจัดหลกั ประกันทางสงั คมสําหรับแรงงานนอกระบบ โดยยึดหลกั เฉลีย ทกุ ข์เฉลยี สขุ ทีแรงงานทกุ คนจ่ายสมทบตามความสามารถและได้รับการค้มุ ครองเท่า เทียมกนั โดยไม่ถกู เลอื กปฏิบตั ิ ทงั ในระหว่างแรงงานนอกระบบด้วยกนั เองและระหวา่ ง

แรงงานบนเส้นทางรัฐสวสั ดกิ าร [หน้า 54] แรงงานในระบบ โดยรัฐต้องร่วมจ่ายสมทบกองทนุ ประกนั สงั คม เช่นเดยี วกบั ทจี า่ ยสมทบ ในกองทุนประกนั สงั คมของแรงงานในระบบ และการกําหนดอตั ราสมทบ ต้องคํานึง ความสามารถในการจ่ายและฐานรายได้ทีแท้จริงของแรงงานนอกระบบแต่ละกล่มุ มี มาตรการในการเก็บเงินสมทบทียืดหยุ่นและสอดคล้องกับสภาพทีเป็ นจริง และมี มาตรการรองรับในกรณีทีแรงงานนอกระบบไม่สามารถรับภาระจ่ายเงินสมทบ อย่าง ต่อเนือง เพราะรายได้ไม่สมําเสมอ ไม่พอเพียง เช่น มีกองทนุ ให้ยืมโดยไม่มีดอกเบีย รวมทงั สร้ างความเป็ นเจ้าของ และการมีส่วนร่วมในการบริหารจดั การกองทนุ เพือให้ กองทนุ ประกนั สงั คมของแรงงานนอกระบบมคี วามยงั ยนื • ระยะยาวควรมีนโยบายสร้ างหลักประกันทางสังคมในรูปสวัสดิการของรัฐสําหรับ ประชาชนคนไทย ทกุ คน ในเรืองการศกึ ษา การบริหารสาธารณสขุ การว่างงาน ทพุ พล ภาพ ชราภาพ และการเสยี ชีวติ โดยคาํ นงึ ถงึ การแบง่ บทบาทและการร่วมกนั บรรลภุ ารกิจ ระหว่างหน่วยงานทีเกียวข้อง เช่น สํานกั งานหลกั ประกันสขุ ภาพแห่งชาติ สํานักงาน ประกนั สงั คม องค์กรปกครองสว่ นท้องถิน ชมุ ชน และองค์กรภาคประชาชน 3. พิจารณาสนับสนุนนโยบายพัฒนาระบบบริการสาธารณสุขทีเหมาะสมสําหรับ แรงงานนอกระบบ • กําหนดให้แรงงานนอกระบบเป็ นกลมุ่ เป้ าหมายในการบริหารด้านสขุ ภาพ สร้างแผนงาน จดั สรรงบประมาณ และการมีสว่ นร่วมในการบริหารจดั การในกองทนุ สขุ ภาพต่างๆ เช่น กองทนุ หลกั ประกนั สขุ ภาพในระดบั ท้องถินหรือพืนที • พฒั นาระบบบริหารสาธารณสขุ ให้มมี ิติด้านอาชีวอนามยั คํานงึ ถึงปัจจยั เสยี งต่อสขุ ภาพ จากการทํางาน บรู ณาการงานอาชีวอนามยั เข้ากบั งานสาธารณสขุ อืนๆ ทงั ในการสง่ เสริม สุขภาพ คัดกรองและเฝ้ าระวังโรคจากการประกอบอาชีพ และการให้บริการ รักษาพยาบาล โดยเฉพาะในหนว่ ยบริการปฐมภมู ิ

แรงงานบนเส้นทางรัฐสวสั ดกิ าร [หน้า 55] • พฒั นาบุคลากรด้านสาธารณสขุ ทกุ ระดบั ให้มีความรู้ความเข้าใจเรืองอาชีวอนามยั สามารถให้บริการแกแ่ รงงานนอกระบบ ตงั แตบ่ ริการในระดบั ปฐมภมู แิ ละระบบการสง่ ตอ่ • พฒั นาและเสริมสร้างศกั ยภาพของเครือข่ายและหน่วยงานทางวิชาการ เช่น สาํ นกั งาน ป้ องกันและควบคุมโรค (สคร.) ฯลฯ ให้สามารถสนบั สนุนทางวิชาการแก่บุคลากร สาธารณสขุ องค์กรปกครองสว่ นท้องถิน และกลมุ่ แรงงานนอกระบบ • เสริมสร้ างความรู้ ความเข้าใจให้กับกล่มุ อาชีพต่างๆ ให้มีความรู้ความเข้าใจในเรือง สขุ ภาพความปลอดภยั ในการทํางาน สามารถประเมนิ สขุ ภาพตนเอง เป็ นอาสาสมคั รเฝ้ า ระวงั สุขภาพและความเสียงอันตรายอันเนืองมาจากการทํางาน สามารถปรับปรุง กระบวนการผลติ และสภาพแวดล้อมในการทาํ งานให้มีความปลอดภยั • บูรณาการการทํางานระหว่างหน่วยบริการสาธารณสขุ ปฐมภูมิ องค์กรปกครองส่วน ท้องถิน ในการดูแลและจัดบริหารสุขภาพสําหรับแรงงานนอกระบบ และสร้ าง กระบวนการมสี ว่ นร่วมของกลมุ่ แรงงานนอกระบบชุมชน ให้เข้ามามีบทบาทในการสร้าง สขุ ภาวะของแรงงานนอกระบบ. ขอขอบคุณข้อมูล เครือขา่ ยก๊ดู อเิ ลค็ ทรอนิคส์ ประเทศไทย “สถานการณ์ปัญหาการละเมิดสิทธิ ในอตุ สาหกรรม อิเลค็ ทรอนคิ ส์” ข้อมลู จากมลู นธิ ิเพอื การพฒั นาแรงงานและอาชีพ เอกสารนโยบายสาธารณะเพือสขุ ภาวะแรงงานนอกระบบ เสนอต่อทีประชมุ สมชั ชาสขุ ภาพ แหง่ ชาติ ปี 2551

แรงงานบนเส้นทางรัฐสวสั ดิการ [หน้า 56] เมื อก ฎหมายขาด สภ าพบังคั บ สิท ธิ แรงงานกถ็ ูกละเมดิ พชั ณีย์ คาํ หนกั โครงการรณรงคเ์ พือแรงงานไทย บทความนีผู้เขียนปรับปรุงมาจากบทวิเคราะห์ปั ญหาการค้ าแรงงานไทยไปทํางาน ตา่ งประเทศ1 ทีจัดทําขึนเมือเดือนพฤศจิกายน 2555 โดยในฉบบั นีจะเน้นนําเสนอประเด็น สําคัญทีสรุปมาจากการศึกษาปัญหาการจัดส่งแรงงานไทยไปทํางานต่างประเทศ ตาม นโยบายของรัฐบาลแนวเสรีนิยม/ทนุ นยิ ม เพือให้ตระหนกั ถงึ บทเรียนทีได้รับจากนโยบายนี คือ แรงงานไทยแม้จะมรี ายได้จากการทํางาน แตก่ ็สญู เสยี สทิ ธิผลประโยชน์อย่างมากทงั ทีเป็ นตวั เงินและไม่เป็ นตวั เงิน ในขณะทีนายจ้างในต่างประเทศ ในประเทศและบริษัทจัดหางานได้ กําไรเป็ นจํานวนมหาศาลในการสง่ ออกและจ้างแรงงานไทย ประเด็นปัญหาทีพบเห็น เมอื มองในกรอบของสทิ ธิเสรีภาพของแรงงาน ซึงเป็ นคนสว่ นใหญ่ใน สงั คม พบวา่ แรงงานไทยขาดการปกป้ อง ค้มุ ครองสทิ ธิประโยชน์ตามกฎหมายอยา่ งเต็มที ทํา ให้สญู เสียผลประโยชน์และผลประโยชน์นนั ตกอยกู่ บั คนสว่ นน้อยทีเป็ นนายทุน ทงั นีมาจาก การทเี จ้าหน้าทรี ัฐไมบ่ งั คบั ใช้กฎหมายนนั ให้เป็ นจริง แตใ่ ช้กฎหมายในฐานะรูปแบบ เนอื งจาก เมือเข้าไปศึกษาความสมั พนั ธ์ของการจ้างงาน กลบั พบว่า นายจ้างและคนกลางจดั หางาน ปฏิบตั ิต่อคนงานผิดแผกแตกต่างไปจากทีกฎหมายและสญั ญาจ้างงานกําหนดไว้ พดู ง่ายๆ คือ หลีกเลียงทีจะไม่ทําตามกฎหมาย เพือเอารัดเอาเปรียบแรงงานทีสามารถเข้าข่ายค้า แรงงานหรือค้ามนษุ ย์ 1 โครงการรณรงค์เพือแรงงานไทย. บทวเิ คราะห์ปัญหาการค้าแรงงานไทยไปทํางานตา่ งประเทศ. พฤศจิกายน 2555. ทมี า : เว็บไซด์โครงการ https://docs.google.com/file/d/0B97eeQltIv8ZRjFhdzNQVV9ueVE/edit?pli=1

แรงงานบนเส้นทางรัฐสวสั ดิการ [หน้า 57] ประเด็นทีวเิ คราะห์นีมาจากการเข้าไปศกึ ษาสถานการณ์การจดั สง่ แรงงานไทยไปตา่ งประเทศ วธิ ีการจดั สง่ ในต้นทาง ระบบการจ้างงาน สญั ญาจ้างงาน สภาพการทํางาน ความสาํ เร็จและ ล้มเหลวของการไปทํางานตา่ งประเทศ โดยยกตวั อยา่ งกรณีคนงานไทยไปทํางานในประเทศ อิสราเอล สวีเดน และลเิ บีย 1.การสร้ างมูลค่ าเศรษฐกิจจากนโยบายจัดส่ งแรงงานไทยไปทํางาน ต่างประเทศ การศึกษาโครงสร้างตลาดแรงงานไทยในตา่ งประเทศ ทําให้เห็นถึงความสําคญั ของแรงงาน ไทยทไี ปทํางานสร้างมลู ค่าเศรษฐกิจให้แก่ประเทศอืน และนํารายได้กลบั เข้าประเทศไทย ซงึ พวกเขาจงึ ควรได้รับการค้มุ ครองสทิ ธิเสรีภาพ และมีสว่ นร่วมในการกําหนดนโยบายเพือแก้ไข ปัญหาการถูกเอารัดเอาเปรียบจากการทีเขาเป็ นกลุ่มคนด้อยการศึกษา ด้อยโอกาสทีจะ ทํางานมีรายได้ดีทดั เทียบกบั คนทีมีการศึกษาสงู ต้องดินรนและแบกรับความเสียงในการไป ทาํ งาน และเพือสร้างมาตรฐานการจ้างงานทีเป็ นธรรม ปัจจยั สําคญั ปัจจยั หนึงในการเดินทางไปทํางานยงั ต่างประเทศ คือ นโยบายสนบั สนนุ ของ รัฐบาล โดยประเทศไทยเริมมีนโยบายดังกล่าวตังแต่แผนพฒั นาการเศรษฐกิจและสงั คม แหง่ ชาติ (ฉบบั ที 5) พ.ศ.2525 - 2529 โดยสง่ เสริมและสนบั สนนุ การฝึ กอบรมพฒั นาทกั ษะ ฝี มอื เพอื ยกระดบั มาตรฐานฝี มือของแรงงานไทยให้ได้มาตรฐานตามทีตลาดแรงงานต้องการ ในปี 2525 มีแรงงานไทยไปทํางานในแถบภมู ิภาคตะวนั ออกกลางมากทีสดุ ถึง 105,313 คน แผนพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมแหง่ ชาติ (ฉบบั ที 9) พ.ศ.2545–2549 รัฐบาลกําหนดนโยบาย สง่ เสริมการจ้างงานและขยายตลาดแรงงานในตา่ งประเทศให้มีสว่ นแบง่ การตลาดเพิมขึน อนั จะเป็ นการนําเข้าเงินตราตา่ งประเทศ สง่ เสริมศกั ยภาพ พฒั นาขีดความสามารถ และฝึ ก ทกั ษะฝี มอื ทไี ด้มาตรฐานสากล เป็ นทียอมรับจากตา่ งประเทศ2 2 โครงการรณรงค์เพอื แรงงานไทย. รายงานสํารวจปัญหาแรงงานไทยทีเดินทางไปทาํ งานตา่ งประเทศ. มีนาคม 2554, น.11. ทีมา เวบ็ ไซด์โครงการ http://www.thailabour.org/autopagev4/show_all.php?auto_id=3&TopicPk=

แรงงานบนเส้นทางรัฐสวสั ดิการ [หน้า 58] นโยบายของรัฐบาลดงั กลา่ วเป็ นตวั ชีสาํ คญั ทีสะท้อนว่า แรงงานไทยทีทํางานตา่ งประเทศ คือ ส่วนหนึงของการสร้ างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ แก่ประเทศ การขยายตลาดแรงงานใน ต่างประเทศ เห็นได้ทังแง่การเพิมจํานวนคน จํานวนรายได้ส่งกลบั ความหลากหลายของ ประเทศปลายทาง ดงั หวั ข้อด้านลา่ งนี 1.1 จํานวนผูไ้ ปทํางานและสง่ รายไดก้ ลบั จากสถิติของกระทรวงแรงงานนบั ตงั แต่ปี 2518 เป็ นต้นมา มีคนไทยเดินทางไปหางานทําใน ตา่ งประเทศผา่ นกระทรวงแรงงานทงั สนิ 3.8 ล้านคน ในจํานวนนีร้อยละ 70 เป็ นคนอีสาน ร้อย ละ 60 จบการศกึ ษาในระดบั ประถมศกึ ษา ทงั นี 18 จงั หวดั ในภาคอสี านมีประชากรทงั สิน 5.4 ล้านครอบครัว คิดเป็ นประชากร 20 ล้านคน แต่มีครอบครัวทีสมาชิกเดินทางไปทํางาน ต่างประเทศถึง 2.5 ล้านครอบครัว คิดเป็ นร้ อยละ 45 ของจํานวนครัวเรือนทีมีอยู่ในภาค ข้อมลู นีไมไ่ ด้รวมถงึ ผ้ทู ีเดินทางไปตา่ งประเทศโดยไมผ่ า่ นกระทรวงแรงงาน หรือคนทีถกู หลอก ให้จา่ ยค่านายหน้าก้อนโตแตไ่ ม่ได้ไปทํางาน ซึงทงั สองกลมุ่ นีรวมกนั น่าจะมีจํานวนมากพอๆ กบั กลมุ่ ทีเดินทางไปทํางานอยา่ งเป็ นทางการ จํานวนคนทาํ งานตา่ งประเทศทไี ด้รับอนญุ าตจากกระทรวงแรงงานในช่วงปี พ.ศ. 2550-2555 3 จําแนกเป็ นรายปี และตามประเภทการจดั สง่ เห็นได้จากตารางที 1 และ 2 และรายได้สง่ กลบั มาประเทศไทยในตารางที 3 ดงั นี 3 แรงงานไทยนําเงินเข้าประเทศ 3.5 หมืนล. หนงั สอื พิมพ์ออนไลน์โพสต์ทเู ดย์. 18 ก.ค.56. ทีมา : เว็บไซด์ http://www.posttoday.com/สงั คม/สงั คมทวั ไป/235183/แรงงานไทยนําเงินเข้าประเทศ3-5หมนื ล

แรงงานบนเส้นทางรัฐสวสั ดกิ าร [หน้า 59] ตารางที 1 จํานวนคนไทยทีได้รับอนุญาตให้เดินทางไปทาํ งานต่างประเทศ ปี พ.ศ. 2550 – 2555 2550 2551 2552 2553 2554 2555 161,917 161,852 126,937 116,192 142,533 134,101 ทีมา : สาํ นกั บริหารแรงงานไทยไปทาํ งานตา่ งประเทศ ฝ่ ายทะเบียนคนงานและสารสนเทศ ตารางที 2 จํานวนคนงานไทยทีเดินทางไปทํางานต่างประเทศ จําแนกตามประเภท การจัดส่ง และเพศ พ.ศ. 2555 ประเภทการจดั ส่ง รวม ชาย หญิง รวม 134,101 108,892 25,209 เดนิ ทางด้วยตนเอง เดินทางครังแรก 12,916 9,164 3,752 เดินทางมากกวา่ 1 ครัง 54,473 44,288 10,185 กรมการจดั หางานจดั สง่ 9,708 8,234 1,474 บริษทั จดั หางานจดั สง่ 38,827 33,584 5,243 นายจ้างพาไปทํางาน 13,099 10,441 2,658 นายจ้ างพาไปฝึ กงาน 5,078 3,181 1,897 ทีมา: กรมการจดั หางาน กระทรวงแรงงาน4 4 ทมี า : http://service.nso.go.th/nso/nso_center/project/search/result_by_department-th.jsp

แรงงานบนเส้นทางรัฐสวสั ดิการ [หน้า 60] ตารางที 3 รายได้ส่งกลับของแรงงานไทยทีไปทาํ งานต่างประเทศ โดยผ่านธนาคาร ปี พ.ศ. 2550 – 2555 (หน่วย : ล้านบาท) 2550 2551 2552 2553 2554 2555 2556 (ม.ค.-พ.ค.) 56,273 63,111 56,067 55,150 85,843 88,164 35,700 ทมี า : ธนาคารแหง่ ประเทศไทย5 รายได้หลกั ของการส่งคนไปทํางานต่างประเทศนันส่วนใหญ่มาจากอาชีพผู้ปฏิบัติงานใน โรงงาน ผู้ปฏิบตั ิงานฝี มือ พนกั งานบริการ และพนกั งานขาย อาชีพงานพืนฐาน ช่างเทคนิค ทํางานในภาคเกษตร 1.2 ประเทศทีแรงงานไทยไปทํางาน ตามทีกลา่ วข้างต้น กลมุ่ ประเทศแถบเอเชียเป็ นตลาดแรงงานไทยทีไปทํางานเป็ นสว่ นใหญ่ใน ปี 2555 โดยประเทศทไี ปมากทีสดุ คือ ไต้หวนั จํานวน 32,021 คน รองลงมาคือ ญีป่ นุ 10,979 คน (เช่นเดยี วกบั ปี 54) กลมุ่ ประเทศตะวนั ออกกลาง ประเทศทีไปมากทีสดุ คือ สหรัฐอาหรับเอ มิเรตส์ จํานวน 4,426 คน รองลงมาคือ อิสราเอล 3,194 (ปี 54 ลําดบั ที 1 คืออิสราเอล รองลงมาคอื สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) และกลมุ่ ประเทศยโุ รป ประเทศทีไปมากทีสดุ คือ สวีเดน 5,530 คน รองลงมาคือ ฟิ นแลนด์ 2,963 คน (ปี 54 อนั ดบั 1 คือฟิ นแลนด์ รองลงมาคือ สวีเดน) 5 ทีมา : http://social.nesdb.go.th/SocialStat/StatReport_FullScreen.aspx?reportid=131&template=1R1C&ye artype=M&subcatid=13

แรงงานบนเส้นทางรัฐสวสั ดิการ [หน้า 61] ยกตวั อย่างในพืนทีระดบั จงั หวดั ในปี 2553 จํานวนคนทีได้รับอนญุ าตให้ไปทํางานในกลมุ่ ประเทศตะวนั ออกลาง จํานวน 13,636 คน คดิ เป็ นร้อยละ 17 ของจํานวนแรงงานไทยทงั หมด 79,792 คน และประเทศทีไปมากทีสดุ คืออิสราเอล 4,499 คน รองลงมาคือ สหรัฐอําหรับเอ มิเรตส์ 4,216 คน และพบว่าส่วนใหญ่เป็ นคนทํางานจากภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือเข้าไป ทํางานในอิสราเอล 4,140 คน และจงั หวดั อดุ รธานีเป็ นจงั หวดั ทีมีคนหางานได้รับอนญุ าตให้ เดินทางไปทํางานมากทีสดุ 1,336 คน รองลงมาคือนครราชสมี า 742 คน อาชีพทีทํางานมาก ทีสดุ คอื ผ้ปู ฏิบตั งิ านฝี มือด้านการเกษตรและประมง รองลงมาคือ พนกั งานบริการ โดยสรุป ความหลากหลายของตลาดแรงงานไทยในตา่ งประเทศปี 2555 แบง่ เป็ นกลมุ่ ประเทศ ได้จํานวน 6 กลมุ่ ได้แก่ 1) กลมุ่ ประเทศตะวนั ออกกลาง จํานวน 13 ประเทศ 2) กลมุ่ ประเทศ แอฟริกา จํานวน 23 ประเทศ 3) กลมุ่ ประเทศเอเชีย จํานวน 26 ประเทศ 4) กลมุ่ ประเทศยโุ รป จํานวน 35 ประเทศ 5) กลมุ่ ประเทศอเมริกาเหนือ จํานวน 7 ประเทศ และ 6) กลมุ่ ประเทศ ออสเตรเลยี และโอเชียเนีย จํานวน 5 ประเทศ รัฐบาลยงั คงผลกั ดนั ให้คนงานไทยไปทํางานต่างประเทศ ทํางานทีคนสญั ชาตินนั ไมต่ ้องการ จะทํา ด้วยเหตผุ ลต่างๆได้แก่ งานหนกั เกินไป เช่น เก็บผลไม้ป่ า งานโรงงาน แบกหาม ไม่ แตกตา่ งจากการทีนายจ้างในประเทศไทยนําแรงงานข้ามชาติจากประเทศเพือนบ้านเข้ามา ทํางาน ซงึ รัฐจะต้องกําหนดมาตรฐานการจ้างงานชวั คราวสาํ หรับคนงานย้ายถินให้เป็ นธรรม ตามกฎหมาย และตรวจสอบนายจ้างอยา่ งจริงจงั เพือป้ องกนั ปัญหาการละเมดิ สทิ ธิมนษุ ยชน โดยเฉพาะในขนั ตอนการจดั สง่ แรงงานไทยทีถกู ต้องตามกฎหมาย 2.การคุ้มครองสิทธิแรงงานเริมจากขันตอนการจัดส่งและเดนิ ทาง วิธีการเดินทางไปทํางานต่างประเทศ แรงงานจํานวนมากไม่รู้หรือไม่ใส่ใจเรืองวิธีการไป ต่างประเทศว่ามีกีวิธี เพราะสงิ ทีปฏิบตั ิกันจนเคยชินคือ ต้องจ่ายค่าบริการหรือค่าหวั เทา่ นนั ไม่ว่าจะวิธีการไหนก็ต้องจ่ายค่าหวั การบอกถึง “วิธี” สําคญั เพราะแต่ละวิธีนนั มีข้อปฏิบตั ิ แตกตา่ งกนั เช่น การขออนญุ าต การเสยี ค่าใช้จ่ายของแรงงาน การค้มุ ครองสทิ ธิ ทีกระทรวง แรงงานจดั ทําเป็ นคมู่ ือการไปทํางานตา่ งประเทศ ได้แก่

แรงงานบนเส้นทางรัฐสวสั ดิการ [หน้า 62] วธิ ีการที 1 บริษัทจดั หางานจดั สง่ วิธีการที 2 กรมการจดั หางานจดั สง่ วธิ ีการที 3 การเดนิ ทางไปทาํ งานด้วยตนเอง วธิ ีการที 4 นายจ้างในประเทศไทยสง่ ลกู จ้างของตนไปทาํ งานตา่ งประเทศ วธิ ีการที 5 นายจ้างในประเทศพาลกู จ้างของตนไปฝึกงาน จากสถานการณ์ปัญหาการเอารัดเอาเปรียบแรงงานในปัจจบุ นั (2555-2556) ยงั เรือรังเพราะ เป็ นปัญหาเดิม ทไี มไ่ ด้รับการแก้ไขอยา่ งจริงจงั มคี วามพยายามใช้ประโยชน์จากการไม่บงั คบั ใช้กฎหมายอย่างตรงไปตรงมาของเจ้าหน้าทีรัฐ การไม่ปรับปรุงกฎหมายให้คุ้มครองสิทธิ แรงงานมากขึน ทําให้เกิดความเสียหายตอ่ แรงงานไทยและชือเสียงของประเทศ ผ้เู ขียนขอ ยกตวั อยา่ งวธิ ีการไปทํางานในประเทศ 3 ประเทศ ได้แก่ 1) อสิ ราเอล 2) สวเี ดน และ 3) ลเิ บีย 2.1 กรณีประเทศอิสราเอล ปัญหาอนั ดบั แรกทีกระทรวงแรงงานสามารถแก้ไขได้คือ การเปลียนวิธีการทํางานจากการ สง่ ผา่ นบริษัทจดั หางาน ทเี รียกเก็บคา่ บริการ หรือคา่ หวั คิว เพราะมีการเก็บค่าบริการแพงเกิน กวา่ ทีกฎหมายกําหนด ด้วยการเปลียนไปเป็ นวิธีการจดั สง่ โดยรัฐ หรือแบบ G to G และยงั มี การตรวจสอบและลงโทษบริษัทเอกชนจํานวนหนึงทีทําผิดกฎหมายในจังหวัดอุดรธานี ใน ข้อหาเก็บเงินจากแรงงานโดยไม่ออกใบเสร็จรับเงิน และเก็บเงินคา่ บริการเกินกว่ากฎหมาย กําหนด การจดั สง่ แรงงานไปประเทศอสิ ราเอลแบบรัฐตอ่ รัฐ สง่ ไปเฉพาะแรงงานด้านการเกษตร โดยมี องค์การระหวา่ งประเทศเพอื การโยกย้ายถินฐาน หรือ IOM เข้ามาดําเนินการคดั เลอื กแรงงาน ซงึ เริมในเดือนเมษายน 2555 โดยแรงงานจะเสียคา่ ใช้จ่ายรวมไมเ่ กิน 80,000 บาท แบ่งเป็ น คา่ เครืองบิน 39,000 บาท คา่ ใช้จ่ายทอี ิสราเอล 30,000 บาท และคา่ ใช้จ่ายตา่ งๆ ในประเทศ

แรงงานบนเส้นทางรัฐสวสั ดิการ [หน้า 63] ไทยอีกราว 10,000 บาท ทงั นีเพือแก้ไขปัญหากระบวนการจดั สง่ แรงงานให้เป็ นธรรมยิงขึน และช่วยลดปัญหาหนีสนิ ของแรงงาน ปัญหานีสาํ คญั เพราะมแี รงงานไปทํางานทปี ระเทศอิสราเอลจํานวนมาก โดยขณะนีมีแรงงาน ไทยอยรู่ าว 25,000 คน จ.อดุ รธานีมีแรงงานเดินทางไปทํางานมากทีสดุ และในปี 2554 ได้สง่ เงินกลบั ประเทศถึง 7,000 ล้านบาท 2.2 กรณีประเทศสวีเดน ในบางกรณี นายจ้างไทยไปรับเหมางานอยทู่ ีต่างประเทศ เช่น ประมลู งานก่อสร้างทีประเทศ ซาอดุ ิอาระเบยี กรณีสวีเดน นายจ้างไทยรับเหมาเก็บผลไม้ป่ าทสี วีเดน โดยได้รับการสมั ปทาน จากสมาคมผลไม้ป่ าของสวีเดนและขออนญุ าตจากกรมการจดั หางานให้พาลกู จ้างไปทํางาน เก็บผลไม้ป่ า และดําเนินการหาคนทํางาน ทําสญั ญาจ้างกับคนงาน ซึงนันคือการไปแบบ นายจ้าง-ลกู จ้าง นายจ้างจึงต้องออกคา่ ใช้จา่ ยให้คนงานทงั หมด เช่น คา่ ตวั เครืองบิน ค่าทีพกั คา่ อาหาร สวสั ดิการประกนั อบุ ตั ิเหตุ อปุ กรณ์การเก็บผลไม้ คา่ นํามนั เป็ นต้น ผลงานทีได้ก็ตก เป็ นของนายจ้างทงั หมดตามกฎหมาย ส่วนคนงานรับเงินเดือนตามอตั ราค่าจ้างขนั ตําของ ประเทศปลายทาง รวมคา่ ทาํ งานลว่ งเวลา และเบียเลยี งตามกฎหมายด้วย อย่างไรก็ตาม ในความเป็ นจริง นายจ้างไทยซึงเป็ นบริษัททีจดทะเบียนเป็ นผู้ประกอบการ ดาํ เนินการจดั หางานและเก็บค่าบริการ โดยอ้างวา่ เป็ นการอํานวยความสะดวกให้แก่คนงาน และเจ้าหน้าทีรัฐก็อ้างวา่ คนงานไทยอย่างไรเสียต้องออกค่าใช้จ่ายเอง เช่นเดียวกับการไป ทํางานด้วยตัวเองอยู่แล้ว และเพือช่วยให้คนงานไม่ต้องเสียภาษีให้แก่สวีเดน การจ่าย คา่ บริการทรี วมคา่ ตวั เครืองบิน และคา่ ใช้จ่ายในระหวา่ งทํางานจึงเป็ นวถิ ีปฏิบตั ทิ ที ําให้คนงาน เสยี ประโยชน์และสญู เสยี กําไรทีควรได้ จํานวนคนงานทีไปทํางานประมาณ 6,000 คน เสีย คา่ บริการและคา่ ใช้จ่ายเบ็ดเสร็จแล้วทงั สนิ ประมาณคนละ 100,000 บาทในเวลา 2 เดือนเศษ ซึงถือว่าเป็ นการหลอกลวงแรงงาน ไม่ใช่ประเด็นการจ่ายค่าหัวแพง การโกงค่าจ้างตาม กฎหมายสวีเดน หรือปัญหาผลไม้น้อย หรือถกู กดราคาให้ตํา 2.3 กรณีประเทศลิเบีย

แรงงานบนเส้นทางรัฐสวสั ดิการ [หน้า 64] การไปทํางานทีลิเบียไปผ่านบริษัทจัดหางาน ซึงบริษัทจัดหางานจะเรียกเก็บค่าบริการจาก คนงานได้ แต่คา่ บริการอาจสงู ถึง 3 เท่าของค่าจ้าง ซึงเงินเดือนของแตล่ ะบริษัทก็ไม่เท่ากนั เมือบริษัทจดั หางานเรียกเก็บคา่ บริการก็จะรวมคา่ ตวั เครืองบนิ คา่ เดนิ ทาง และคา่ บริการอืนๆ ทีเขาอํานวยความสะดวกให้แก่คนงาน เช่น การติดต่อขออนุญาตต่างๆ ให้แก่คนงาน การ จดั หาลา่ มแปล ซงึ คนงานควรตรวจสอบวา่ บริษัทมีตําแหนง่ งานจริงหรือไม่ บริษัทจดั หางาน และนายหน้าจดทะเบียนตามกฎหมายหรือไม่ ก่อนทีจะจ่ายเงินคา่ บริการประมาณเกือบแสน บาท ปัญหากรณีคนงานไทยไปทํางานทีประเทศลิเบีย คือ การจ่ายคา่ บริการแพง และการละเมิด สญั ญาจ้าง เช่น การถูกหลอกให้เซ็นสญั ญาฉบบั ที 2 ซึงเป็ นภาษาอาหรับ ถูกบงั คับให้รับ ผลประโยชน์ทตี าํ กวา่ สญั ญาจ้างฉบบั ที 1 ทเี ซน็ กบั บริษัทจดั หางานทีเมอื งไทย และปัญหาการ ถกู โกงคา่ จ้างค้างจ่าย การชดเชยไมเ่ ป็ นธรรมจากการถกู ยกเลกิ สญั ญาในช่วงเกิดภยั สงคราม กลางเมือง การบงั คบั ให้ทํางานในตําแหน่งทีไม่ตรงกับสญั ญาจ้างซึงจะขยายความในหวั ข้อ ตอ่ ไป ค่าบริการแพงครอบคลุม 3 ช่องทางของการจดั ส่ง วธิ ีการจดั สง่ แรงงานแบบ ไปดว้ ยตวั เอง (เช่นกรณีไปทํางานเก็บผลไม้ป่ าทีฟิ นแลนด์) ไปแบบ นายจ้าง-ลูกจ้าง และผ่านบริษัทจดั หางาน คนงานจะจ่ายค่าบริการผา่ นนายหน้าหรือสายใน หมบู่ ้าน หรือผา่ นบริษัทจดั หางานโดยตรง ทงั ทีมีใบเสร็จครบ ไมค่ รบตามจํานวนเงินทีจา่ ยจริง ในกรณีผา่ นบริษัทจดั หางาน จํานวนบริษัททีขนึ ทะเบยี นกบั กระทรวงแรงงานมรี าว 200 บริษัท ทจี ะต้องปฏบิ ตั ิตามกฎหมายจดั หางานและค้มุ ครองคนหางาน ได้แก่ จดทะเบียนลกู จ้างหรือ ตวั แทนของบริษัท เรียกเก็บคา่ บริการตามกฎหมายและออกใบเสร็จรับเงินให้คนหางานไว้เป็ น หลกั ฐาน และเก็บลว่ งหน้าไมเ่ กิน 30 วนั เป็ นต้น การทบี ริษัทจดั หางานสามารถเรียกเก็บคา่ บริการจากคนหางานได้ ทําให้มีบริษัทหลายแหง่ ใช้ เป็ นช่องทางในการแสวงหาผลประโยชน์จากแรงงาน กระนนั ก็ไมส่ ามารถประกนั ความสาํ เร็จ ได้ ดังกรณีปัญหาการจัดส่งแรงงานไทยไปทํางานภาคเกษตรในประเทศสเปนเมือปี 2552

แรงงานบนเส้นทางรัฐสวสั ดิการ [หน้า 65] จํานวน 19 คน เสียคา่ นายหน้าคนละประมาณ 580,000 บาท บริษัทเอกชนได้เงินไปจํานวน ทงั สินราว 11,020,000 บาท แต่ชดเชยค่าเสียหายคนละ 370,000 บาท คนไทยไปทํางาน ประเทศสวีเดน ปี 2552 จํานวนร้ อยละ 80 ของทงั หมด (ราว 6,000 คน) ล้มเหลวในการไป ทํางานเก็บผลไม้ป่ า ได้จ่ายค่าบริการไปคนละประมาณ 90,000-120,000 บาท (รวมค่า นายหน้า 600 ล้านบาท) ในการแก้ไขปัญหาด้วยการยกเลิกการจดั สง่ แรงงานผา่ นบริษัทจดั หางานในกรณีไปทํางานที อิสราเอล มาจากการร้องทกุ ข์ของคนงานจํานวนมาก เช่น กรณีของนายดํารงศกั ดิ ชินเป จาก ต.นาทราย อ.พบิ ลู ย์รักษ์ จ.อดุ รธานี กลา่ ววา่ ได้ไปลงทะเบียนกบั สาํ นกั งานจดั หางานจงั หวดั อุดรธานีเพือไปทํางานด้านการเกษตรทีประเทศอิสราเอล เสียค่าใช้จ่ายทังหมดประมาณ 70,000 บาท โดยก้เู งินจากคนในหมบู่ ้านเสียดอกเบียร้อยละ 20 ต่อเดือน สว่ นสาเหตทุ ีอยาก ไปเพราะทราบวา่ รายได้ดี ขณะทีการทํานา 20 ไร่มีรายได้เพียงปี ละไมเ่ กิน 20,000 บาท ทงั นี มีคนในหมบู่ ้านเดนิ ทางไปทํางานทีประเทศอิสราเอลแล้วประมาณ 10 คน ซึงบางคนต้องเสยี คา่ ใช้จ่ายถึง 300,000 บาท นอกจากนีบางรายจากจงั หวดั นครราชสมี าได้ก้เู งินนอกระบบจาก นายทนุ มาเป็ นค่าวิงเต้น จนมีหนีสะสมกวา่ 5 แสนบาท ทกุ วนั นีจึงต้องเช่าบ้านของตวั เองอยู่ เดือนละ 500 บาท เนืองจากนายทนุ เงินก้เู ข้ายดึ ครองบ้านตามสญั ญา6 ดงั นนั การเรียกเก็บค่าบริการแพงจึงเป็ นปัจจยั ทีทําให้คนงานต้องดินรนหามาด้วยการกู้เงิน จํานองทรัพย์สิน แต่ถ้าทํางานขาดทุน ก็จะก่อให้เกิดปัญหาหนีสินกับธนาคาร เช่น ธ.เพือ การเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และหนีบคุ คล เช่น นายหน้าของบริษัทจดั หางาน นายหน้า ในหมบู่ ้าน และกลายเป็ นแรงผลกั ดนั ให้ต้องไปทาํ งานตา่ งประเทศอีกครัง เมือเกิดปัญหาการละเมิดสิทธิแรงงานตงั แต่ขนั ตอนการจัดสง่ และเดินทาง ขนั ตอนตอ่ ไปคือ การทํางานตามสญั ญาจ้าง ก็ไร้ หลกั ประกันว่า คนงานจะได้กําไรกลบั มาอย่างเต็มเม็ดเต็ม หนว่ ยหรือไม่ ดงั หวั ข้อตอ่ ไป 6 มติชนรายวนั . เผดมิ ชยั บกุ ปลอบเหยอื เลิกไปเสยี นามาเสยี เมีย ปลดั ตงั กก.สอบรองอธิบดี. วนั ที 28 มีนาคม พ.ศ. 2555 ปี ที 35 ฉบบั ที 12436

แรงงานบนเส้นทางรัฐสวสั ดิการ [หน้า 66] 3.การจ้างงานไม่เป็ นธรรม เมือคนงานไทยเดนิ ทางไปทํางาน พบวา่ คนงานไทยได้รับคา่ จ้างตาํ กวา่ อตั ราคา่ จ้างขนั ตําของ กฎหมาย และรายได้ตาํ กวา่ ทีระบไุ ว้ในสญั ญาจ้างงาน แม้จะมีการแก้ไขปัญหาวธิ ีการจดั สง่ ให้ จดั สง่ แบบรัฐตอ่ รัฐในกรณีอิสราเอล หรือมกี ารประกนั รายได้ขนั ตําให้แก่คนงานในกรณีสวีเดน อนั เนืองจากคนงานต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายและความเสียงต่างๆ แต่ยงั มีการร้ องทุกข์ของ คนงานจํานวนมาก และการฟ้ องร้องนายจ้างตอ่ ศาลแรงงานเพือเรียกเงินค่าเสยี หายทงั หมด เช่นกรณีอิสราเอล โดยต้องวา่ จ้างทนายความเอกชน7 เป็ นต้น การเอารัดเอาเปรียบแรงงานไทยไปทํางานอาจเข้าข่ายการค้าแรงงานได้ หากพิจารณาจาก ความหมายของการค้าแรงงาน และการค้าแรงงานก็สามารถเข้าขา่ ยการค้ามนษุ ย์ได้ในบาง กรณี คือ “การค้าแรงงาน” หมายถึง การนําเอาแรงงานไปทํางาน แล้วมีการหลอกลวงเพือ แสวงหาผลประโยชน์จากแรงงาน ซงึ เป็ นเรืองทผี ิดกฎหมายและผิดหลกั สทิ ธิมนษุ ยชนสากล การค้าแรงงานจึงเกียวข้องกบั การเอารัดเอาเปรียบแรงงาน การทํางานเยียงทาส อย่ใู นสภาพ การทาํ งานและความเป็ นอยทู่ เี ลวร้ายจนนาํ ไปสกู่ ารเสยี ชีวิตของแรงงาน ทงั เกียวข้องกบั ภาวะ จํายอม คือ แรงงานจ่ายเงินค่าบริการสงู รวมทงั คา่ ใช้จ่ายต่างๆอีกจํานวนมาก มีหนีสินรุงรัง จากการขาดทนุ ไปทํางานต่างประเทศ ซึงหากไม่มีการแก้ไขปัญหาดงั กลา่ วสามารถนําไปสู่ การค้ามนษุ ย์ได้ การค้าแรงงานสามารถนําไปสหู่ รือเข้าข่ายรูปแบบหนึงของการค้ามนษุ ย์ หากมีการบงั คบั ใช้ แรงงาน หรือขเู่ ข็ญ ซงึ นยิ ามของการค้ามนษุ ย์นนั ตามกฎหมายป้ องกนั และปราบปรามการค้า มนษุ ย์ พ.ศ.2551 หมายถึง “ผูใ้ ดกระทําการเพือแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ ไดแ้ ก่ เป็นธุระ จดั หา ซือ ขาย จําหน่าย พามาจากหรือส่งไปยงั ทีใด หน่วงเหนียวกกั ขงั จดั ให้อยู่อาศยั หรือ รับไว้ซึงบคุ คลใด โดยข่มขู่ ใช้กําลงั บงั คบั ลกั พาตวั ฉอ้ ฉล หลอกลวง ใช้อํานาจโดยมิชอบ หรือโดยให้เงินหรือผลประโยชน์อย่างอืนแก่ผูป้ กครองหรือผู้ดูแลบคุ คลนนั เพือให้ผู้ปกครอง 7 นายอิสราเอล (ขอสงวนนามสกลุ ). ตวั แทนบริษัททนายความรัมย์. ประชมุ ร่วมกบั โครงการรณรงค์เพอื แรงงานไทย 19 ตลุ าคม 2555.

แรงงานบนเส้นทางรัฐสวสั ดกิ าร [หน้า 67] หรือผูด้ ูแลใหค้ วามยินยอมแก่ผูก้ ระทําความผิดในการแสวงหาประโยชน์จากบคุ คลทีตนดูแล” หรือ “การบงั คบั ใช้แรงงานหรือบริการ” ซงึ หมายความวา่ การขม่ ขืนใจให้ทํางานหรือให้บริการ โดยทําให้กลวั ว่าจะเกิดอนั ตรายตอ่ ชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชือเสียง หรือทรัพย์สินของบคุ คล นนั เองหรือของผ้อู ืน โดยขเู่ ข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กําลงั ประทษุ ร้าย หรือโดยทําให้บคุ คล นนั อยใู่ นภาวะทไี มส่ ามารถขดั ขนื ได้ ซงึ ผิดตามกฎหมายต้องถกู ลงโทษ การละเมิดสญั ญาจ้างงาน/จดั หางาน กรณีอิสราเอล จากการสมั ภาษณ์คนงานไทยกิงอําเภอประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี ทีเคยไปทํางานที อิสราเอลเป็ นเวลา 4 ปี (2545-2549) เมือกลบั มา รัฐบาลอิสราเอลประกาศให้คนงานไทย สามารถยืนเรืองขอรับเงินชดเชย 2 ปี ซงึ คนงานเข้าใจว่าเป็ นเงินคืนภาษีและเงินชดเชยจาก ค่าจ้างขันตําและสวัสดิการทีนายจ้างไม่ได้จ่ายตามกฎหมาย โดยฟ้ องร้ องนายจ้างทีศาล แรงงานของประเทศอิสราเอลและมอบอํานาจให้แก่ทนายความดําเนินการให้ ซึงเขาต้องได้ เงินคืนภาษีจํานวน 40,000 บาท เงินสวัสดิการ 100,600 บาท จากการทํางานตามอตั รา คา่ จ้างขนั ตาํ วนั ละ 96 เชคเกล8 คา่ ลว่ งเวลาชวั โมงละ 13 เชคเกล เป็ นเวลา 5 ช.ม. ทาํ งานโดย ไม่มีวันหยุด เริมงานเวลา 6.00 น.-14.00 น. และล่วงเวลา 14.00-19.00 น. หยุดพัก รับประทานอาหาร 30 นาที สาํ หรับวนั หยดุ จะต้องได้รับคา่ จ้าง 2 เทา่ ของคา่ จ้างปกติ และวนั ที เจ็บป่ วยก็จะได้รับเช่นกนั 9 8 1 เชคเกลอิสราเอล (New Israeli Shekel-ILS) = 9 บาท (THB) ณ เดอื นมถิ นุ ายน 2554 จากเว็บไซด์กรม เอเชียใต้ ตะวนั ออกกลางและแอฟริกา กระทรวงการตา่ งประเทศ. Source: http://sameaf.mfa.go.th/th/country/middle-east/detail.php?ID=37 9 สมั ภาษณ์นายสมร (สงวนนามสกลุ ). กรกฎาคม 2555. บ้านหนองขาม อ.หนองหาน จ.อดุ รธานี โดยพชั ณีย์ คาํ หนกั โครงการรณรงค์เพอื แรงงานไทย

แรงงานบนเส้นทางรัฐสวสั ดกิ าร [หน้า 68] ทนายความคนหนึงจากประเทศอิสราเอลเล่าว่า ในช่วงไม่กีปี ทีผ่านมา คําตัดสินของศาล แรงงานอสิ ราเอลได้ชว่ ยปกป้ องแรงงานไทย โดยตดั สินให้ได้เงินชดเชยเป็ นจํานวนเงินรายละ 45,000 -130,000 เชคเกล ทงั นี ประมาณปี 2553 สํานกั งานทนายความคนดงั กล่าวได้กระทําการแทนลกู จ้างเรียกร้อง สิทธิตามกฎหมาย เป็ นเวลา 10 ปี และมีคนมาสมคั รยืนเรืองจํานวนหลายพันคน โดยเป็ น คนงานทียงั มีโอกาสทจี ะได้รับคืนเงินตามระยะเวลาของการจ้างงานของพวกเขา ซงึ ควรได้รับ สทิ ธิตามกฎหมาย ดงั ตอ่ ไปนี 1) คา่ แรงขนั ตํา 2) คา่ พกั ฟืนในกรณีทเี จ็บป่ วย 3) คา่ ลว่ งเวลา ที คนงานไทยทํางานในวนั หยดุ โดยไม่มีวนั หยดุ สดุ สปั ดาห์วนั อืนชดเชยให้ และ 4) การชดเชย การเลกิ จ้างตามกฎหมายแรงงานอิสราเอล10 อยา่ งไรก็ตาม คนงานไทยนบั หมืนคนทเี คยทาํ งานในอิสราเอลไม่ทราบสทิ ธิของตวั เอง มีเพียง ไม่กีรายทีได้รับเงินชดเชยดงั กลา่ ว ซึงจะต้องมาจากการร้ องเรียนของคนงานเท่านนั แต่ใน ความเป็ นจริงคนงานไทยไม่กล้าร้องเรียนนายจ้างทีจ่ายค่าจ้างตํากวา่ กฎหมาย เพราะจะถกู สง่ กลบั ทนั ที และเคยมีกรณีนีมาแล้ว หากมีการฟ้ องร้ องเรียกคา่ เสียหายก็จะประสบปัญหา ตา่ งๆ นานา คือ ขาดการติดตอ่ สือสารกบั ทนายความ มีการลอ็ บบีของนายจ้างให้ยอมความ ก่อนขึนศาลโดยรับเงินชดเชยไป 50,000-60,000 บาท ทําให้คดีความขาดไป นอกจากนี ใน การดําเนินคดีมกั ใช้เวลานาน จึงมีการไกล่เกลียกนั ระหว่างทนายความกบั นายจ้าง ทําให้ คนงานไทยไมส่ ามารถรับเงินชดเชยได้เตม็ จํานวนคือ 180,000-250,000 บาท ไกลเ่ กลียเหลอื เพยี ง 120,000-130,000 บาท ทงั นีนายจ้างมกั อ้างวา่ ตนอาจจะล้มละลายได้ ทําให้ศาลเห็น ใจ11 กรณีสวีเดน 10 นายโยซี (สงวนนามสกลุ ) (ทนายความชาวอสิ ราเอล). จดหมายถึงผ้อู ํานวยการโครงการรณรงค์เพือแรงงาน ไทย. กรกฎาคม 2555 11 อ้างแล้ว (นายอิสราเอล)

แรงงานบนเส้นทางรัฐสวสั ดกิ าร [หน้า 69] ได้มีการเปลียนแปลงสญั ญาจ้างจากค่าจ้างรายเดือนเป็ นการประกันรายได้ให้ได้ตามอตั รา คา่ จ้างขนั ตํา โดยสภาแรงงานทีสวีเดน และสหภาพแรงงานคอมมนู อล และสาธารณชนได้ กดดนั ให้รัฐบาลสวีเดนใช้ระบบสญั ญาจ้างงานทีมีฐานค่าจ้างขนั ตํา และเงือนไขการทํางาน สปั ดาห์ละ 40 ชวั โมง ระบบสญั ญาจ้างงานนีเปิ ดให้ทงั นายจ้างทีเป็ นบริษัทสวีเดน (คนเก็บ ต้องถกู หกั ภาษีเงินได้ 25%) และบริษัททปี ระเทศไทยจดั สง่ มา (ได้รับการยกเว้นภาษี) สาํ หรับ เงินเดือนขันตําอยู่ที 18,495 โครน หรือเดือนละ 80,000 บาท บังคับใช้ตงั แต่ 1 สิงหาคม 255412 อย่างไรก็ตาม สญั ญาการจ้างงานมีลกั ษณะไม่เป็ นธรรมต่อคนงาน เพราะมีการเรียกเก็บ บริการ และค่าใช้จ่ายในระหวา่ งการทํางานเช่นเคย ทําให้คนงานเสยี ประโยชน์ ทงั มีการโกง เงินค่าจ้างของคนงานและหอบเงินหนีออกนอกประเทศ นอกจากนีคนงานมีความเป็ นอยู่ที ลาํ บาก ขาดการดแู ลสวสั ดิการตามสญั ญาจ้างและจากเจ้าหน้าทีกระทรวงการตา่ งประเทศ ดงั เช่น ในปี 2555 คนงานจํานวน 70 คนร้ องเรียนปัญหาตอ่ กระทรวงแรงงานและสหภาพ แรงงานคอมมูนลั ให้รีบดําเนินการกบั นายจ้างและบริษัทจดั หางานไทยทีไม่จ่ายเงินค่าเก็บ ผลไม้งวดสดุ ท้ายให้แก่คนงาน ซึงบริษัทตกลงว่าจะจ่ายค่าจ้างงวดสุดท้ายภายในวนั ที 5 ตุลาคม จึงเป็ นกงั วลว่าจะถูกบริษัทและนายจ้างชาวสวีเดนเอาเปรียบ นอกจากนี ได้มีการ ร้องเรียนเพิมเติมจากคนงานวา่ มีปัญหาเรืองได้ค่าจ้างน้อย เนืองจากรถทีใช้ไปเก็บผลไม้เสีย จึงขาดรายได้ชว่ งนนั ไป จากการสมั ภาษณ์คนงานรายหนึง13 จากกลมุ่ ทีร้องเรียนข้างต้นวา่ ได้รับการโอนเงินแล้วจาก บริษัท โดยบริษัทได้หกั ค่ารถ คา่ ข้าว ค่าทีพกั ผลคือ ไมไ่ ด้กําไรตามทีรัฐบาลโฆษณาวา่ จะได้ 12 สหภาพแรงงานคอมมนู ลั (Kommunal). การทาํ งานในประเทศสวเี ดน ข้อมลู สําหรบั คณุ ทีทาํ งานชวั คราวอยู่ ในประเทศสวีเดน. (แผ่นพบั ฉบบั ภาษาไทย 2554) ทมี า : http://www.kommunal.se/PageFiles/7551/KAF%20Arbeta%20i%20Sv_thai_ny.pdf 13 พชั ณีย์ คําหนกั . สมั ภาษณ์นายพิรมณ์ (สงวนนามสกลุ ). ตลุ าคม 2555

แรงงานบนเส้นทางรัฐสวสั ดิการ [หน้า 70] 50,000 บาทกลบั มา ทงั ต้องนําเงินไปใช้หนีแก่ธนาคารเพือการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จนหมด อีกกรณีหนึง ในปี 2552 บริษัทจัดหางานสองแห่งถูกคนงานจํานวนหนึงฟ้ องศาลข้อหา หลอกลวงแรงงานและหลกี เลยี งกฎหมายจดั หางานฯ เพราะคนงานขาดทนุ กลบั มาเป็ นจํานวน หลายร้อยคน ทงั นี บริษัทให้คนงานลงชือในเอกสารอกี ฉบบั วา่ สญั ญาจ้างจดั ทาํ เพือชว่ ยเหลอื แรงงานไม่ต้องเสียภาษีและแรงงานจะไม่เรียกร้องค่าจ้างในภายหลงั และในกรณีนี ศาลได้ ตดั สนิ พพิ ากษาเมือเดอื นมนี าคม 2555 ให้ฝ่ ายจําเลยบริษัทเป็ นฝ่ ายชนะ ทีซึงฝ่ ายจําเลยต่อสู้ เรืองการทําสญั ญาจ้างงานกบั คนงานไทยวา่ เป็นนิติกรรมอําพราง ไมเ่ ป็ นผลใดๆในทางปฏิบตั ิ แตใ่ ช้สาํ หรับให้กรมการจดั หางานรับรองผ่านตามระเบียบเทา่ นนั ซึงศาลมองว่าทําได้ พดู อีก ครังคือ ศาลมองว่า สญั ญาจ้างทําขึนหลอกๆ นนั ช่วยคนงานหลีกเลียงภาษีทีสวีเดน แต่ไม่ สามารถบงั คบั ใช้ได้จริง กรณีลเิ บยี คนงานไทยทีไปทํางานก่อสร้ างทีพักอาศยั คอนโดมิเนียมทีกรุงตริโปลี ประเทศลิเบียเมือปี 2553 ไมไ่ ด้รับคา่ จ้างค้างจ่าย คา่ ลว่ งเวลาประมาณ 2-3 เดือน จากบริษัทจดั หางานต่างๆ จึง เข้าร้ องทุกข์ต่อหน่วยงานสํานกั งานจัดหางานตามจังหวัดต่างๆ และฟ้ องร้ องต่อศาลเรียก ค่าเสยี หายทงั หมด เช่น ขอเงินค่าบริการคืน อนั เนืองจากถูกสง่ กลบั มาก่อนทีจะทํางานครบ สญั ญาจ้าง เพราะเกิดสงครามกลางเมือง แม้จะได้รับเงินชดเชยจากกองทุนช่วยเหลือ คนทํางานตา่ งประเทศ กระทรวงแรงงานแล้ว คนละ 10,000-15,000 บาท แตย่ งั ไม่เป็ นธรรม เพราะคนงานยงั สญู เสียโอกาสในการทํางาน และหนีสินจากการกู้เพือนํามาจ่ายค่าบริการ พร้อมดอกเบียอกี ด้วย ข้อเรียกร้องของคนงานไทยทกี ลบั มาก่อนเกิดสงครามและช่วงเกิดสงครามมี.ค.54 คล้ายคลงึ กนั คือ ขอให้บริษัทจดั หางานจ่ายเงินคา่ จ้างค้างจ่ายตามสญั ญา บางรายเน้นวา่ ต้องจ่ายให้ ครบตามสญั ญาจ้างทตี กลงกนั ไว้ทเี มอื งไทย ไมใ่ ชฉ่ บบั ทีเซ็นกนั ทีประเทศลเิ บีย คา่ ลว่ งเวลาที เกินมา 2 ช.ม.ตามระยะเวลาทีทํางานจริง คา่ เสียโอกาสจากการไมไ่ ด้ทํางานครบตามสญั ญา

แรงงานบนเส้นทางรัฐสวสั ดิการ [หน้า 71] เพราะเกิดสงครามซึงไม่ใช่ความผิดของคนงาน และค่าบริการทีเรียกเก็บเกินทีกฎหมาย กําหนด ดงั ตวั อยา่ งของนายหสั ดี (สงวนนามสกลุ ) ไปกบั บริษัทจดั หางานแหง่ หนึง ตําแหน่งงานขบั รถ เกดปรับหน้าดิน เสียค่าบริการ 46,000 บาท ประสบปัญหาคือ ค่าจ้างค้างจ่ายยังไม่ได้รับ จํานวน 2 เดือน 13 วนั เงินเดือน 700 ดอลล่าร์สหรัฐฯ (USD) และต้องการคา่ บริการคืน จํานวน 41,000 บาท เคยได้ติดตามขอเงินคืนจากบริษัทจัดหางานแล้ว แต่ได้รับการตอบ กลบั มาวา่ จะจา่ ย แตไ่ มจ่ ่าย และขอเลอื นมา 3-4 ครัง เคยได้รับเงินช่วยเหลือมาเพียง 10,000 บาทจากรัฐบาลหลงั จากกลบั จากลเิ บีย นอกจากนี มีกรณีทีคนงานบางรายถกู บงั คบั ให้ทํางานตามสญั ญาจ้างฉบบั ที 2 ในตําแหนง่ ที ผิดแผกไปจากสญั ญาจ้างฉบบั แรก และรายได้ตําลง แจ้งความประสงค์ต่อนายจ้างขอกลบั บ้านเพราะไมค่ ้มุ คา่ ทีจะทํางาน แตถ่ กู ปฏิเสธอยา่ งสนิ เชิง จึงจํายอมต้องทํางานตอ่ ไป กรณีตา่ งๆ ข้างต้นเข้ากรอบได้รับความค้มุ ครองตามมาตรา 46 ของกฎหมายจดั หางานและ ค้มุ ครองคนหางาน พ.ศ.2528 ทีระบวุ า่ ........ในกรณีทีคนหางานไม่ได้งานตามทีกําหนดไวใ้ น สญั ญาจดั หางานหรือไดค้ ่าจ้างตํากว่าหรือไดต้ ําแหนง่ งาน หรือสิทธิประโยชน์อืนไม่ตรงตามที กําหนดไวใ้ นสญั ญาจดั หางาน และคนหางานไม่ประสงค์ทีจะทํางานนนั ผู้รบั อนญุ าตจดั หา งานเพือไปทํางานในต่างประเทศต้องคืนค่าบริ การและค่าใช้จ่ายต่างๆ ทีเรียกเก็บจาก คนหางานไปแล้วทงั หมดให้แก่คนหางานภายในสามสิบวนั นบั แต่วนั ทีครบกําหนดเวลาตาม มาตรา 38 หรือนบั แต่วนั ทีคนหางานเดินทางกลบั ถึงประเทศไทย แลว้ แต่กรณี ในกรณีคนหางานไม่สามารถทํางานได้จนสินสดุ ระยะเวลาตามทีกําหนดไว้ในสญั ญาจดั หา งาน เพราะถูกเลิกจ้างโดยมิใช่สาเหตจุ ากคนหางาน ผูร้ บั อนญุ าตตอ้ งคืนค่าบริการค่าใช้จ่ายที เรียกเก็บจากคนหางานไปแล้วเป็ นอัตราส่วนกบั ระยะเวลาทีคนหางานได้ทํางานภายใน สามสิบวนั นบั แต่วนั ทีคนหางานขอรบั คืน

แรงงานบนเส้นทางรัฐสวสั ดกิ าร [หน้า 72] ในกรณีทีคนหางานไดค้ ่าจ้างตํากว่าทีกําหนดไวใ้ นสญั ญาจดั หางานแต่คนหางานยงั ประสงค์ จะทํางานนนั ผูร้ บั อนญุ าตตอ้ งคืนค่าบริการทีเรียกเก็บจากคนหางานไปแลว้ เป็นอตั ราส่วนกบั ค่าจ้างทีคนหางานไดร้ บั จริงภายในสามสิบวนั นบั แต่วนั ทีคนหางานขอรบั คืน.......... เมอื เกิดสงคราม ปัญหาการจ้างงานไม่เป็ นธรรมก็ถกู เพิกเฉยโดยปริยาย อยา่ งไรก็ตามลา่ สดุ ศาลแรงงานกลางพิพากษาเมอื วนั ที 4 ก.ค.55 ให้คนงานรายหนงึ (โจทก์) เป็ นฝ่ ายชนะและให้ บริษัทจดั หางาน(จําเลย) จา่ ยตามทคี นงานเรียกร้อง แตย่ งั มีคดขี องคนงานค้างอกี จํานวนหนงึ สรุปปัญหาการบังคับใช้กฎหมาย เมือสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายเป็นเพียงรูปแบบทีขาดสภาพบงั คบั และสวนทางกบั วิถีปฏิบตั ิ จริง ทีคนงานไทยตกอยู่ในภาวะจํายอม ไร้อํานาจต่อรอง ทําให้คนงานไมไ่ ด้รับสิทธิประโยชน์ และความเป็ นธรรม และปัญหานีมาจากการทํางานของกลไกคุ้มครองสิทธิของรัฐ ได้แก่ สาํ นกั งานจดั หางานจังหวดั กองตรวจและค้มุ ครองคนหางาน กรมการจัดหางาน กระทรวง แรงงาน กระทรวงการต่างประเทศ ทําเนียบรัฐบาล รัฐสภา สภาผ้แู ทนราษฎร คณะกรรมการ สทิ ธิมนษุ ยชน กองปราบฯ และศาลแรงงานกลาง ดงั นี • ขาดการตรวจสอบการไปทาํ งานตา่ งประเทศอยา่ งถกู วธิ ี • ขาดการตรวจสอบสญั ญาจ้างงาน/จดั หางานก่อนไปทํางาน • ขาดการตรวจสอบการจดั เก็บคา่ บริการให้ถกู ต้องตามกฎหมาย • ขาดการให้ความค้มุ ครอง ดแู ลทกุ ข์สขุ และให้ความช่วยเหลอื ทางกฎหมายแก่คนงาน ในระดับมหภาค รัฐบาลขาดการแก้ ไขปรับปรุงนโยบายและกฎหมายจัดหางานให้เอือ ประโยชน์แก่แรงงานมากกว่านายทนุ เช่น ปรับปรุงสภาพการจ้างงาน สภาพการทํางานให้ดี ขนึ สง่ เสริมการเจรจาตอ่ รองของแรงงาน และพิจารณาข้อเรียกร้องของฝ่ ายแรงงาน ดงั ตอ่ ไปนี 1) ควรให้ยกเลกิ บริษัทจดั หางานเอกชนและให้รัฐจดั สง่ แทน

แรงงานบนเส้นทางรัฐสวสั ดิการ [หน้า 73] 2) ตงั หนว่ ยงานด้านการจดั สง่ คนงานไปทํางานตา่ งประเทศ จดั เก็บค่าธรรมเนียมในอตั ราที ตํา (หรือไมเ่ ก็บเลย) 3) กระจายโอกาสคนงานไทยไปทาํ งานตา่ งประเทศอยา่ งเป็ นธรรม 4) รัฐจดั หางานทีดีและเหมาะสมในตา่ งประเทศ 5) ปฏิรูปกองทนุ เงินทดแทน เพิมระยะเวลาให้ครอบคลมุ เมือคนงานกลบั มายงั ประเทศไทย แล้วเกิดอาการเจ็บป่ วย มกี ารจา่ ยเงินให้กบั คนงานอยา่ งเหมาะสม รวมถึงการขยายสทิ ธิ ประโยชน์ให้มากกวา่ เดิม 6) ปฏิรูปกระบวนการทางกฎหมาย ปรับปรุงเรืองระยะเวลาของกระบวนการทางกฎหมาย คนงานมีสทิ ธิยืนคดั ค้านการอทุ ธรณ์ของบริษัทจัดหางานได้ และเสนอให้คดีหลอกลวง แรงงานเป็ นคดีพิเศษทีมีการสืบสวนสอบสวนในระยะเวลาทีเป็ นธรรมแก่คนงาน และ บทลงโทษแก่บริษัทจดั หางานทีหลอกลวงคนงาน หากพิสจู น์ตามกระบวนการยตุ ิธรรม แล้วมีความผิดจริงควรเป็ นบทลงโทษทหี นกั ขนึ 7) ตรวจสอบข้าราชการของกระทรวงแรงงาน ในเรืองของความสมั พนั ธ์กบั บริษัทจดั หางาน ไมว่ า่ จะเป็ นเครือญาติ ตวั แทน และเส้นทางการเงินตา่ งๆ โดยคนงานเสนอว่าข้าราชการ กระทรวงแรงงานจะต้องไมม่ คี วามสมั พนั ธ์กบั ธรุ กิจจดั หางานโดยเดด็ ขาด 8) ดแู ลค้มุ ครองคณุ ภาพชีวิตในการทํางานของคนงานไทยในตา่ งประเทศ คนงานต้องได้รับ สิทธิประโยชน์เต็มทีตามกฎหมายในประเทศต้นทางและปลายทาง ทีเจ้าหน้าทีรัฐต้อง เพิมงบประมาณและบคุ ลากรดแู ลสทิ ธิของประชาชนให้ทวั ถงึ ยิงขนึ 9) จดั เก็บภาษีรายได้นิติบคุ คลจากบริษัทมากขึน เพือคืนความเป็ นธรรมแก่สงั คม โดยนํา ภาษีมาจดั สรรเป็ นสวสั ดิการให้แก่ครอบครัวของแรงงานไทยไปทํางานตา่ งประเทศ ทียงั ขาดการดแู ลด้านความเป็ นอยู่

แรงงานบนเส้นทางรัฐสวสั ดิการ [หน้า 74] แนวนโยบายของรัฐทผี า่ นมา หนว่ ยงานรัฐมบี ทบาทอยา่ งมากในการสง่ เสริมให้ภาคเอกชนเข้า มาทําธุรกิจจดั สง่ แรงงานไทยไปทาํ งานตา่ งประเทศ เช่นสง่ ไปยงั ประเทศทกี ําลงั พฒั นา เพอื เร่ง สร้ างความเจริญ ประเทศทีเจริญแล้วแต่พลเมืองภายในไม่ต้องการทํางานบางชนิด ใน ขณะเดียวกัน รัฐกลับลดบทบาทในการดูแลประชาชนในเรืองการกระจายรายได้และ หลกั ประกนั ตา่ งๆ ให้คณุ ภาพชีวติ แรงงานเทยี บเทา่ กบั คนชนั กลางมฐี านะในเมือง ลดช่องวา่ ง ความเหลอื มลาํ ระหวา่ งคนรวยกบั คนจน ด้วยเหตนุ ี นกั รณรงค์เพือสทิ ธิแรงงานตามมาตรฐาน แรงงานสากลควรกระต้นุ รัฐให้แก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้าง ไมใ่ ช่เป็ นรายกรณี อีกทงั ต้องโปร่งใส ในการบริหารจดั การผลประโยชน์ของประชาชนคนสว่ นใหญ่ และให้แรงงานมีสว่ นร่วมในการ ปรับปรุงนโยบายและกฎหมายจัดหางานให้แก่แรงงานไทย และผลกั ดันการบงั คับใช้ให้ ตรงไปตรงมา.

แรงงานบนเส้นทางรัฐสวสั ดิการ [หน้า 75] 20 ปี ของโศกนาฏกรรมเคเดอร์: ความ รุนแรงเชงิ โครงสร้าง ปัญหาและทางออก รศ.ดร.วรวทิ ย์ เจริญเลศิ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลยั เชียงใหม่ วนั ที 10 พฤษภาคม 2536 เป็ นวนั ทีสาํ คญั หนงึ ในประวตั ศิ าสตร์ของขบวนการแรงงาน เป็ นวนั ครบรอบ 20 ปี ของโศกนาฏกรรมเคเดอร์ ในวนั นนั ได้เกิดเพลิงไหม้ขึนในโรงงานผลิตต๊กุ ตา ของเด็กเลน่ โครงสร้ างของโรงงานเป็ นเหล็กเปลือยทีถกู นํามาประกอบเป็ นอาคาร 4 ชัน ได้ พงั ทลายลงอย่างรวดเร็วหลงั เกิดเหตเุ พลิงไหม้จากชนั ลา่ ง ทําให้คนงานสว่ นใหญ่เป็ นผ้หู ญิง เสียชีวิตทนั ที 188 คน บาดเจ็บกว่า 350 คนและพิการถาวรอีกจํานวนหนึง นบั ได้ว่าเป็ น โศกนาฏกรรมทีร้ายแรงในประวตั ิศาสตร์ของการพฒั นาอตุ สาหกรรม บริษัทเคเดอร์อินดสั เต รีลย์ (ประเทศไทย) ได้รับการสง่ เสริมการลงทนุ จากรัฐบาล เป็ นการร่วมลงทนุ ระหว่างกลมุ่ ทนุ ในฮ่องกงกบั กลมุ่ ทนุ ใหญ่ในประเทศไทย เพือเข้ามาใช้ไทยเป็ นฐานการผลิต ใช้แรงงานราคา ถกู เพือผลติ สนิ ค้าตามใบสงั ซือสนิ ค้าจากบรรษัทข้ามชาตใิ นสหรัฐฯ คณะกรรมการรณรงค์เพอื ช่วยเหลือคนงานเคเดอร์ได้ถูกจัดตังขึน 2 วนั หลงั เหตุการณ์เพลิงไหม้ ซึงเป็ นการทํางาน ร่วมกันระหว่างนักสหภาพแรงงาน องค์กรพฒั นาเอกชนและนักวิชาการเพือให้คนงานที บาดเจ็บและครอบครัวของผ้ทู เี สยี ชีวิตได้เข้าถึงการเยียวยา เข้าถึงสทิ ธิ เพือนํานายจ้างมารับ ผิดตามกฎหมาย และการชดเชยการสญู เสียชีวิตคนงานอย่างเป็ นธรรม 20 ปี นบั ตงั แต่โศก นาฎกรรมเคเดอร์ มีคําถามใหญ่ๆอยู่ 3 คําถาม เราได้เรียนรู้อะไรจากโศกนาฏกรรมเคเดอร์ ซึงเป็ นความหายนะแห่งมนษุ ยชาติ? 20 ปี ทีผ่าน มา ขบวนการแรงงานได้ประสบความสําเร็จอย่างไรบ้างในการต่อสู้ด้านอาชีวอนามยั และ ความปลอดภยั ในการทาํ งาน และ มีอะไรบ้างทยี งั ไมไ่ ด้ทาํ และจะต้องทําในอนาคตเพือไมเ่ กิด โศกนาฎกรรมฯ เช่นนีอกี

แรงงานบนเส้นทางรัฐสวสั ดิการ [หน้า 76] สังคมได้เรียนรู้อะไรจากโศกนาฏกรรมเคเดอร์ ? โศกนาฏกรรมเคเดอร์ ไม่ได้เป็ นกรณีหรือ เหตุการณ์เดียวทีไฟไหม้โรงงาน ทําให้เกิดการ สญู เสยี ชีวิตของคนงานจํานวนมากและก็ไมใ่ ช่ครังสดุ ท้ายเมือคาํ นงึ ถึงสถานการณ์ด้านอาชีวอ นามยั และความปลอดภยั ในการทาํ งานในประเทศไทย และในหลายๆ ประเทศในภมู ิภาคแถบ นี 6 เดือนหลงั เคเดอร์ เกิดไฟไหม้ทีโรงงานผลิตของเด็กเลน่ ในเขตเศรษฐกิจพิเศษของจีน ทํา ให้คนงานเสยี ชีวิต 62 คน (The Zhili Fire) โรงงานอบแห้งลาํ ไยระเบดิ ทสี นั ป่ าตอง จ.เชียงใหม่ คนงานเสยี ชีวติ 36 คน ฯลฯ ในวนั ที 24 เมษายนทผี า่ นมา ในบงั คลาเทศ ตกึ ทเี ป็ นทสี ถานทีตงั ของโรงงานทอผ้า 5 บริษัทได้พงั ถลม่ ลงมา ทําให้คนงานเสยี ชีวิตกวา่ 900 คนทา่ มกลางกอง อิฐและฝ่ ุน เรากําลังเผชิญกับ “ความเสียง” ทีนํามาสู่โศกนาฏกรรมของคนงาน เป็ น ปรากฏการณ์ทีเกิดขึนแบบซําซากในสงั คมปัจจุบนั มนั เป็ นความหายนะทีถกู สร้างขึนมาโดย มนษุ ย์ด้วยกนั และไมใ่ ช่ธรรมชาติ ดงั นนั จึงสามารถป้ องกนั และหลกี เลยี งได้ แตม่ นั ก็ไมเ่ กิดขนึ เพราะอะไร ? แต่ผู้ทีรับเคราะห์และผู้ถูกกระทบสว่ นใหญ่คือ คนงาน ครอบครัวของเขาและ ชุมชนทีอาศยั อยู่รอบๆ โรงงาน (working poor) เรากําลงั เผชิญกบั โครงสร้ าง ระบบทีมี ลกั ษณะเฉพาะทกี ําเนิดขนึ มาพร้อมๆกบั การพฒั นาอตุ สาหกรรม ทาํ การผกู ขาดทงั อาํ นาจทาง การเมืองและผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ บางคนอาจนิยามระบบใหม่นีว่า “สงั คมสมยั ใหม่” (สงั คมอตุ สาหกรรม) บ้างก็วา่ เป็ น “ปาฎิหารย์แหง่ เอเชีย” (เร่งรัดการเติบโต สง่ ออก) แตส่ ว่ น สาํ คญั ของปรากฏการณ์นีคอื ทนุ นยิ มและโลกาภิวตั นิ ์ ทนุ นิยมเป็ นระบบเศรษฐกิจทขี บั เคลอื น บนตรรกะของการแสวงหากําไรสงู สดุ จากการผลิตสนิ ค้า ภายใต้ความสมั พนั ธ์ทีไม่เทา่ เทียม กันระหว่างนายทนุ ผู้เป็ นเจ้าของทุนกับแรงงานรับจ้างทีไร้ กรรมสิทธิและถกู ขดู รีด ซึงนิยาม ความเป็ นชนชนั (social classes) นบั ตงั แตร่ ะบบทนุ นิยมอบุ ตั ิขึนมาในโลก ก็มีขอบเขตของ ความเป็ นสากล เป็ นระบบเศรษฐกิจของการแขง่ ขนั เติบโตและขยายตวั ในปัจจบุ นั ก็ข้ามชาติ หรือ โลกาภิวตั นิ ์ ในความหมายทีวา่ ทกุ ภาคสว่ นของโลกถกู ผนวกเข้ากบั กระบวนการสะสมทนุ ในลกั ษณะ “การเป็ นห้นุ สว่ น” หรือ ผ้ผู ลติ หนงึ ในการเพิมมลู ค่าในระบบ “หว่ งโซส่ ินค้า” และ ผ้บู ริโภคในสงั คมบริโภคนิยม ภายใต้โลกาภวิ ตั ิน์ของทนุ ทกุ ประเทศจึงมีโครงสร้าง ระบบและ วิธีคิดแบบเดียวกนั แม้ในระบบทนุ นิยม เศรษฐกิจจะถกู แยกจากการเมือง เศรษฐกิจเป็ นเรือง

แรงงานบนเส้นทางรัฐสวสั ดิการ [หน้า 77] ของกลไกตลาดแตใ่ นหลายๆกรณีรัฐกบั ทนุ ตา่ งก็มผี ลประโยชน์เดยี วกนั ดงั นนั กรณีเคเดอร์ใน ไทย โรงงาน Zhili ในจีนและโรงงานทอผ้าในบงั คลาเทศ ก็เป็ นโรงงานผลติ และสง่ ออกโดยรับ ใบสงั ซือสนิ ค้ามาจากบรรษัทข้ามชาติ ภายใต้ “ระบบหว่ งโซส่ นิ ค้า” บรรษัทข้ามชาติได้แปลง ตวั เองมาเป็ น “ผ้ซู ือสนิ ค้า” (buyer) และไมใ่ ช่ “นายทนุ ” (capitalist) ดงั นนั เมอื เกิดปัญหา จึง ไมส่ ามารถโยงหาความรับผดิ ชอบหรือความสมั พนั ธ์เชิงกฎหมายไปสตู่ ้นทางของหว่ งโซ่สนิ ค้า หรือบรรษัทข้ามชาติได้ อาจจะเอาผิดได้กบั “ผ้รู ับจ้างผลติ ” หรือ นายทนุ ทีย้ายฐานการผลิต เข้ามาตงั โรงงาน แตเ่ มือเกิดปัญหาขึน นายทุนต่างชาติเหลา่ นี “จะเก็บกระเป๋ าแล้วหนีกลบั บ้าน” แม้วา่ การตอ่ ส้ขู องผ้ใู ช้แรงงานและญาติคนงานทีเสียชีวิตจะสามารถสร้างเครือข่ายใน ระดบั ภมู ิภาคและสากล และกดดนั ให้บริษัทฯยอมรับทีจะดําเนินการตามข้อเรียกร้ องทีได้มี การเจรจากัน เช่น ค่าชดเชยนอกเหนือกฎหมาย ค่าเล่าเรียนและค่าเลียงดูบุตรระหว่าง การศึกษา ฯลฯ ดงั เช่น กรณีของเคเดอร์ ซึงก็ได้กลายมาเป็ นมาตรฐานการชดเชยให้กบั กรณี อืนๆ เช่นกรณีโรงแรมถล่มทีโคราช โรงแรมรอยัลพล่าซ่าไฟไหม้ทีหาดจอมเทียน และกรณี โรงงานลาํ ไยระเบิดทีสนั ป่ าตอง จ.เชียงใหม่ แตส่ ิงทียงั ขาดหายไปคือ “กฎหมายอาชญากร ทางเศรษฐกิจ” ระหวา่ งประเทศ ทจี ะสามารถนาํ ตวั นายทนุ ทีกระทําผิดมารับโทษในประเทศได้ เพราะการทําให้คนงานต้ องเสียชีวิตด้ วยความประมาทสามารถถือได้ ว่าเป็ นการก่อ อาชญากรรม สําหรับกองทนุ เงินทดแทน จะต้องมีการแก้กฎหมายเพิมบทลงโทษนายจ้างที กระทําการละเมิด เช่น ไม่ทําการจดทะเบียนหรือจ่ายเงินสมทบรวมทงั การละเลยกฎหมาย ทางด้านความปลอดภยั ให้มีโทษหนกั ขึน เพิมสิทธิประโยชน์การชดเชยการสญู เสียรายได้ให้ เป็ นตลอดชีวิตเพือความมันคงของครอบครัวคนงานทีเสียชีวิตและขยายเพดานการ รักษาพยาบาล ให้คณะกรรมการแพทย์ของกองทุนเงินทดแทนมาจากกระบวนการสรรหา ขณะเดียวกนั กองทนุ เงินทดแทนจะต้องมีบทบาทมากขึนในการสง่ เสริมการทํางานเชิงการ ป้ องกนั โดยเฉพาะการจดั สรรเงิน ร้อยละ 30 ของดอกผลทีได้รับจากเงินฝากเป็ นรายปี ให้กบั สถาบันความปลอดภยั ฯทีจะมีการจัดตงั ขึนตาม พ.ร.บ. ความปลอดภยั อาชีวอนามยั และ สภาพแวดล้อมในการทํางานเพือให้ทํางานได้อย่างมีประสิทธิภาพและบรรลเุ ป้ าหมายการ ทํางานเชิงการป้ องกัน รวมทังรัฐบาลต้องมีนโยบายระยะยาวในการจดั สวสั ดิการเพือฟื นฟู คนงานและครอบครัวผ้ถู กู กระทบให้มีความมนั คงในชีวิต

แรงงานบนเส้นทางรัฐสวสั ดิการ [หน้า 78] ขบวนการแรงงานได้ประสบความสาํ เร็จอย่างไรบ้างในช่วง 20 ปี หลังโศก นาฎกรรมเคเดอร์ ? 2 วันหลงั จากเหตกุ ารณ์เพลิงไหม้โรงงานเคเดอร์ ได้มีการจัดตังคณะกรรมการช่วยเหลือ คนงานเคเดอร์ ประกอบด้วยผ้นู ําแรงงาน องค์กรพฒั นาเอกชนและนกั วิชาการ มีการผลกั ดนั ให้รัฐบาลจดั ตงั ศนู ย์ชว่ ยเหลอื คนงานเคเดอร์ขนึ ในพืนที และแตง่ ตงั คณะกรรมการเจรจาสทิ ธิ ประโยชน์นอกเหนือกฎหมาย ขณะเดียวกนั ก็มีการรวมกลมุ่ ญาติคนงานทีเสียชีวิตเพือทําข้อ เรียกร้ องในการเจรจากบั บริษัทฯ ในเวลาตอ่ มา ได้มีการจดั ตงั คณะกรรมการรณรงค์สขุ ภาพ ความปลอดภยั ในการทํางาน ให้รัฐบาลประกาศวนั ที 10 พฤษภาคม เป็ นวนั ความปลอดภยั แหง่ ชาติ และให้มีการจดั ตงั คณะกรรมการความปลอดภยั แหง่ ชาติ ฯลฯ แต่กรณีเคเดอร์ ไมไ่ ด้ นํามาสกู่ ารจดั ตงั “องค์กรของผ้ถู กู กระทบ” (victim group) ดงั เช่น กรณีของโรงงานไฟไหม้ที ประเทศจีน (Zhili Fire) ทีคนงานหญิงทีพิการได้ลกุ ขนึ มารวมกลมุ่ ตงั เป็ น “องค์กรผ้ถู กู กระทบ” เรียกร้องความเป็ นธรรมเพือให้มีการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า การแก้กฎหมายเงินทดแทน การ ฟื นฟูและเยียวยา ฯลฯ แต่ภายหลังเคเดอร์ ในประเทศไทย มีการรวมกลุ่มของคนงานที เจ็บป่ วยด้วยโรคฝ่ ุนฝ้ ายจดั ตงั เป็ น “องค์กรกลมุ่ ผู้ป่ วย” ภายใต้ชือ “สภาเครือข่ายกล่มุ ผ้ปู ่ วย จากการทํางาน อาชีวอนามยั และสิงแวดล้อมแหง่ ประทศไทย ซงึ ทํางานในเชิงการรวมกล่มุ ผู้ป่ วยและชุมชนผู้ถูกกระทบจากการพฒั นาเพือให้เข้าถึงสิทธิและการวินิจฉัยจากแพทย์ ผู้เชียวชาญ การสร้ างจิตสํานึกด้านความปลอดภยั ในการทํางาน การสร้ างเครือข่ายด้าน สขุ ภาพ และการผลกั ดนั ผา่ นสมชั ชาคนให้รัฐบาลตงั คณะกรรมการเพือยกร่างกฎหมายทีจะ นํามาสกู่ ารจดั ตงั มสี ถาบนั ความปลอดภยั ฯ ทเี ป็ นองค์กรอิสระและการมีสว่ นร่วม ทํางานทงั ใน เชิงการรณรงค์ การรับเรืองราวร้องทกุ ข์ การพฒั นาทางด้านบคุ ลากรด้านความปลอดภยั การ สร้างฐานข้อมลู จดั อบรมและการวิจยั ฯลฯ กลา่ วได้ว่า โศกนาฎกรรมเคเดอร์ได้เป็ นแรงดลใจ ให้เกิดขบวนการเคลอื นไหวของผ้ใู ช้แรงงานโดยเฉพาะความร่วมมือกนั ระหว่างสภาเครือข่าย กลมุ่ ผ้ปู ่ วยฯกบั คณะกรรมการสมานฉนั ท์แรงงานไทยเพือผลกั ดนั ให้มีการปฏิรูประบบสขุ ภาพ และความปลอดภยั ในการทํางานโดยเฉพาะการจดั ตงั สถาบนั ความปลอดภยั ทีเป็ นอิสระและ มสี ว่ นร่วมของผ้ใู ช้แรงงาน

แรงงานบนเส้นทางรัฐสวสั ดิการ [หน้า 79] ถ้าจะกลา่ วถึงความสาํ เร็จในการเรียกร้องให้มีการชดเชยความเสยี หายตอ่ ครอบครัวคนงานเค เดอร์ทสี ญู เสยี ชีวิตจากบริษัทฯ ในสว่ นหนงึ ก็เป็ นความสาํ เร็จทีเกิดจากการสร้างเครือขา่ ยการ ต่อสู้ภายใน เช่น การทีคนงานไปประท้ วงทีหน้ าตึกซีพีทีถนนสีลม การเคลือนไหวใน ตา่ งประเทศ โดยเฉพาะการสง่ คนงานเคเดอร์ไปประท้วงทีสํานกั งานใหญ่ของบริษัทเคเดอร์ที ฮ่องกง ซึงก็ได้รับความร่วมมือจากองค์กรพฒั นาเอกชน (Asia Monitor Resource Center) และสหภาพแรงงานในฮ่องกง การทํางานเชิงเครือข่ายและประสบการณ์ในระดับภูมิภาค เอเซียด้านสขุ ภาพและความปลอดภยั ในการทํางานก็ได้พฒั นามาเป็ น “องค์กรเครือขา่ ยเพือ สทิ ธิผ้ถู กู กกระทบทางด้านอาชีวอนามยั และสงิ แวดล้อมในระดบั ภมู ิภาคเอเซีย” - The Asian Network for Rights Of Occupational and Environmental Victims (ANROEV) ในปี 2539 ซงึ ในปัจจบุ นั ประกอบด้วยองค์กรสมาชิกใน 14 ประเทศทีทํางานสนบั สนนุ ด้านสทิ ธิผ้ปู ่ วย มี การจดั เวทปี ระจําปี เพอื ให้มีการแลกเปลยี นข้อมลู ด้านอาชีวอนามยั และความปลอดภยั ในการ ทํางาน การพฒั นาให้เกิดเครือข่ายผ้เู ชียวชาญ เช่น แพทย์ด้านอาชีวอนามยั และนกั กฎหมาย และการรวบรวมสถิตกิ ารประสบอนั ตรายจากการทาํ งานในภมู ภิ าคเอเซยี เพอื นํามาสงั เคราะห์ และรณรงค์ ภารกจิ ในอนาคต 20 ปี ภายหลงั โศกนาฎกรรมเคเดอร์ ประเทศไทยได้มีการตรากฎหมายต่างๆเกียวกบั ความ ปลอดภัยในการทํางาน เช่น ให้มีการจดั ตงั เจ้าหน้าทีและคณะกรรมการความปลอดภยั ใน สถานประกอบการ การจัดอบรม การออก พ.ร.บ.ความปลอดภยั เพือเป็ นกฎหมายแม่บท รวมทงั ให้มีการจดั ตงั สถาบนั ความปลอดภยั ทีมีความเป็ นอิสระ ซึงก็เป็ นความก้าวหน้าในเชิง กฎหมายและการพฒั นาทางสถาบนั แตก่ ็ยงั คงมชี ่องวา่ งระหวา่ งกฎหมายกบั ความเป็ นจริงใน สงั คม ในทนี ี จะขอกลา่ วถึงในบางประเดน็ ประการแรก ถ้าพิจารณาสถิติการประสบอนั ตรายจากการทํางานภายใต้กองทนุ เงินทดแทน พบวา่ จํานวนผ้ปู ระสบอนั ตรายจากการทํางานได้ลดลงจาก 245,616 รายในปี 2539 หรือ ร้อย ละ 4.5 ของลกู จ้างทงั หมด(ช่วงการเร่งรัดการเตบิ โตเศรษฐกิจ การสง่ ออก) มาเหลือ 146,511

แรงงานบนเส้นทางรัฐสวสั ดกิ าร [หน้า 80] รายในปี 2553 หรือ ร้ อยละ1.79 ของลูกจ้างทังหมด แต่ผ้ปู ่ วยด้วยโรคจากการทํางาน โดยเฉพาะการทํางานทีสมั ผสั กบั สารเคมี ฝ่ นุ ฝ้ าย ฝ่ นุ หิน ฯลฯในแต่ละปี มีผ้ปู ่ วยจํานวนน้อย มากทีได้รับการวินิจฉัยเจ็บป่ วยด้วยโรคจากการทํางานและทดแทน ทงั นี อาจเป็ นเพราะว่า คนงานเองไม่ทราบวา่ ตวั เองป่ วย หรือ คนงานมีอาการเจ็บป่ วยแตไ่ ม่ได้รับการวินิจฉยั ว่าเป็ น โรคจากการทํางาน และถูกส่งไปใช้สิทธิประกันสงั คม หรือ ถ้าโรงงานไม่ขึนทะเบียนไว้กับ ประกนั สงั คม ก็ถกู สง่ ไปใช้การรักษาภายใต้โครงการ 30 บาท หรือ กรณีทีคนงานได้รับการ วินิจฉัยจากแพทย์ว่าเป็ นโรคจากการทํางานแต่กลบั ไม่ได้รับการรับรองการเจ็บป่ วยจาก คณะกรรมการแพทย์ของกองทุนเงินทดแทน ฯลฯ อาจเป็ นได้ว่า กฎหมายและสถาบนั ทีถูก สร้างขนึ มากลบั มาสร้างอปุ สรรคให้กบั คนงานและคนป่ วยในการเข้าถงึ สทิ ธิ ในปัจจบุ นั แม้จะมคี วามพยายามในสว่ นของภาคราชการเพือให้เกิดโครงสร้างของการทํางาน ในเชิงการป้ องกนั เช่น ให้มี จป. และ คปอ. ในโรงงาน แตก่ ็ไมไ่ ด้ให้อํานาจทีจะเข้าไปจดั การ กบั ความไมป่ ลอดภยั ในโรงงานอย่างแท้จริง ในสว่ นของคณะกรรมการความปลอดภยั ยงั คง เปิ ดโอกาสให้ นายจ้ างเข้ าไปมีบทบาทและอิทธิพลสูงในการกําหนดการทํางานของ คณะกรรมการความปลอดภยั โดยเฉพาะในโรงงานทีไมม่ สี หภาพแรงงาน การจดั ตงั สถาบนั ความปลอดภยั ได้มีการกําหนดไว้ในมาตรา 52 ของ พ.ร.บ.ความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทํางานและจะมีผลบังคบั ใช้ภายใน 2 ปี ซึงในร่าง กฎหมายของสถาบนั ฯ ทีถูกยกร่างภายใต้การดําเนินการของกระทรวงแรงงานยงั คงถูกตัง คําถามจากผู้ใช้แรงงานเรืองของความเป็ นอิสระในการทํางาน โดยเฉพาะคณะกรรมการ บริหารสถาบนั ทีไมไ่ ด้มาจากระบวนการสรรหา การไม่เขียนให้อํานาจกบั สถาบนั ในการเข้าไป ในโรงงานเพือทําการศึกษา หาข้อมลู ความไม่ปลอดภยั ในการทํางานโดยเฉพาะผ่านการรับ เรืองราวร้ องทุกข์ และการจัดสรรงบประมาณโดยตรงจากรัฐบาล และกองทุนเงินทดแทน เพือให้สถาบนั ฯสามารถบรรลภุ ารกิจในการทํางานเชิงการป้ องกนั แตส่ ถาบนั ความปลอดภยั ฯ กลบั ถกู คาดหวงั โดยรัฐบาลให้ทาํ งานวิจยั และวชิ าการ ในปัจจบุ นั เราอยใู่ นสงั คมอตุ สาหกรรม หรือทนุ ในยคุ โลกาภวิ ตั ิน์ ในสงั คมสมยั ใหม่ การจดั องค์ความรู้ได้ถกู ดึงออกไปจากบริบทและ ความสมั พนั ธ์ทางสงั คมเพือไปอยใู่ นมือของผ้เู ชียวชาญ (experts) เพือสร้างระบบ มาตรฐาน

แรงงานบนเส้นทางรัฐสวสั ดกิ าร [หน้า 81] และกฎเกณฑ์เพือให้ทกุ คนปฏิบตั ติ ามและก็กลายเป็ นอปุ สรรคในการเข้าถึงสทิ ธิ ขณะทีระบบ เศรษฐกิจก็วางอยบู่ นการแข่งขนั การลดต้นทนุ เพือแสวงหากําไรสงู สดุ ทําให้เกิดความเสียง และโศกนาฏกรรมแหง่ มนุษยชาติ (human disaster) ซึงมนษุ ย์เองเป็ นผู้สร้ าง จึงสามารถ ป้ องกนั หรือ หลกี เลยี งได้แตก่ ็ไมไ่ ด้ทาํ กนั ขบวนการแรงงานจะฝากความหวงั ความไว้เนือเชือ ใจกบั ระบบและ “ผู้เชียวชาญ” หรือ รัฐทีล้มเหลว (State failure) ภายใต้กระแสโลกาภิวตั ิน์ หรือ ขบวนการแรงงาน และองค์กรผู้ป่ วยและผู้ถูกกระทบ จะต้องลกุ ขึนมาจับมือกันและ ผลกั ดนั ให้เกิดมิตติ า่ งๆของการมีสว่ นร่วมในการจดั การเรืองสขุ ภาพและความปลอดภยั ในการ ทํางาน รวมทงั การสร้างความเขม็ แขง็ การทํางานร่วมกบั องค์กรและเครือขา่ ยในระดบั ภมู ิภาค เพอื สร้างความมนั คงในชีวิตของทกุ คน.

แรงงานบนเส้นทางรัฐสวสั ดิการ [หน้า 82] ทุนข้ามชาติและยุทธศาสตร์ การรณรงค์: ก ร ณี ศึ ก ษ า ค น ง า น อุ ต ส า ห ก ร ร ม เ ห ล็ ก อเมริกัน เกรียงศกั ดิ ธีระโกวทิ ขจร กลมุ่ ทนุ นิยาม ทกุ วนั นี เมือพูดถึง “โลกาภิวฒั น์” เรามกั นึกถึงการติดต่อสือสารสมยั ใหม่ ทีทําให้รัฐชาติมี ลกั ษณะ “ไร้พรมแดน” มากยงิ ขนึ ถึงแม้ความไร้พรมแดนนีจะไมไ่ ด้หมายถึงการสินสดุ ลงโดย สนิ เชิงของพรมแดนทีมอี ยู่ แตเ่ ทคโนโลยีใหม่ อยา่ งเช่นอินเตอร์เน็ตและอปุ กรณ์สอื สารไร้สาย ขนาดเล็กก็มีสว่ นทําให้การติดต่อสือสารระหว่างผู้คนบนจุดต่างๆ ของโลก สามารถเกิดขึน อยา่ งสะดวก ประหยดั และบอ่ ยเทา่ ทีต้องการ ในแง่ของการลงทนุ และการผลติ ความรุดหน้าทางเทคโนโลยีด้านการสอื สารและคมนาคมทํา ให้ต้นทนุ ในการทาํ ธุรกรรมและขนสง่ สนิ ค้าลดลงไปเป็ นอยา่ งมาก โลกาภิวฒั น์ในความหมาย นี จึงเอือประโยชน์ให้กับทุน เพราะอํานวยให้ทุนสามารถเคลือนย้ายข้ามชาติหรือข้าม พรมแดนได้อย่างสะดวกมากยิงขึน ขณะทีคนงานหรือแรงงานทีไมใ่ ช่แรงงานมีทกั ษะเอง มกั ถกู ตรึงให้ตดิ อยกู่ บั พืนที ไมส่ ามารถเคลอื นย้ายอยา่ งเสรีเช่นเดียวกบั ทนุ หรือแรงงานมอื อาชีพ (เช่นในกรณีของประชาคมเศรษฐกิจอาเซยี นทกี ําลงั จะเกิดขนึ ) คนงานจึงต้องเผชิญกบั ปัญหา การย้ายฐานการผลติ (หรือขวู่ า่ จะย้ายฐานการผลติ ) ของทนุ ข้ามชาตทิ ีเข้ามาลงทนุ และทําการ ผลิตภายในประเทศ เสมือนกบั เป็ นฝ่ ายตงั รับอยเู่ พียงฝ่ ายเดียว อย่างเช่นทีปรากฏให้เห็นอยู่ เป็ นประจํา

แรงงานบนเส้นทางรัฐสวสั ดิการ [หน้า 83] อย่างไรก็ตาม โลกาภิวฒั น์ทางเทคโนโลยี นนั ไมไ่ ด้ก่อให้เกิดประโยชน์กบั นายทนุ เพียงฝ่ าย เดียว “การย่นย่อของเวลาและสถานที” อนั เกิดจากเทคโนโลยีนนั ก็เอือประโยชน์ให้กบั การ ทํางานของขบวนการแรงงานในลกั ษณะทีเราเองมองข้ามไป กลา่ วคอื เทคโนโลยีการสอื สารที ทนั สมยั ทําให้คนงานสามารถตดิ ตอ่ สอื สารถงึ กนั ได้รวดเร็วและราคาถกู ลง ดงั นนั การเปิ ดโปง กรณีการละเมดิ สทิ ธิแรงงานและการรณรงค์เพอื กดดนั บรรษัทข้ามชาติ ผ่านช่องทางตา่ งๆ ตอ่ สาธารณะก็สามารถเกิดขนึ ได้ทนั ทว่ งทีและแผข่ ยายในวงกว้างมากกวา่ ในอดีต ดังนัน ถงึ แม้ โลกาภวิ ฒั น์ทางเทคโนโลยจี ะเอือประโยชน์ต่อฝ่ ายทุน แต่โลกาภิวัฒน์ทางเทคโนโลยี กเ็ อือประโยชน์ให้กับฝ่ ายแรงงาน (ในลักษณะทีอาจช่วยจาํ กัดอํานาจต่อรองของทุน) เช่นเดยี วกัน ทงั นี ปัจจยั ทเี อืออํานวยให้บรรษัทข้ามชาติสามารถเคลอื นย้ายทนุ ข้ามชาตหิ รือพรมแดนอยา่ ง เสรีมากขึน ไม่ได้มีเพียงโลกาภิวัฒน์ทางเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว ปั จจัยอืนทีช่วย สนับสนุนให้ทุนถูกเคลือนย้ายได้คล่องตัวมากขึนคือ กฎหมายและนโยบายของรัฐ เชน่ นโยบายสง่ เสริมการลงทนุ และสทิ ธิพิเศษทางด้านภาษีศลุ กากร เป็ นต้น การเปลียนแปลง ของเทคโนโลยี กฎหมายและนโยบายรัฐจึงล้วนสง่ ผลกระทบตอ่ กระแสการหมนุ เวียนของทนุ ซึงส่งผลสืบเนืองมายังคนงานผ่านภูมิศาสตร์ของทุนนิยมและห่วงโซ่อุปทานการผลิตทีมี ลกั ษณะเชือมโยงต่อกันในระดบั ของโลก จึงเป็ นเรืองสําคญั อย่างยิงทีขบวนการแรงงาน ทงั ฝ่ ายคนงาน สหภาพแรงงานหรือองค์กรทีทํางานด้านสิทธิแรงงานจะต้องทําความเข้าใจ ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งกฎหมายและนโยบายของรัฐ กบั กระแสการเคลอื นย้ายทนุ ในบทความสนั ๆ ชินนี ผ้เู ขียนจึงต้องการนําเสนอแนวคิดพืนฐานทางภูมิศาสตร์ทีอาจช่วยให้ ขบวนการแรงงานได้เข้าใจความสมั พนั ธ์ชุดดงั กลา่ วชดั เจนขึน เพือให้ได้เข้าใจธรรมชาติของ ทนุ กระแสการเคลือนย้ายทุนและนโยบายรัฐ รวมถึงผลกระทบทีจะเกิดขึนกบั ฝ่ ายแรงงาน ทงั นี ประโยชน์ทจี ะตามมาในขนั ตอ่ ไปคอื ความตระหนกั รู้เทา่ ทนั และความเข้าใจเรืองดงั กลา่ ว จะช่วยให้ขบวนการแรงงานได้ออกแบบยทุ ธศาสตร์การรณรงค์และการจดั ตงั ทีเหมาะสม มี ประสทิ ธิภาพและสอดคล้องกบั รูปแบบหว่ งโซอ่ ปุ ทานการผลติ ทเี ป็ นอยใู่ นปัจจบุ นั นโยบายรัฐ รูปแบบของทุนและภูมศิ าสตร์ของการต่อสู้

แรงงานบนเส้นทางรัฐสวสั ดกิ าร [หน้า 84] ในอนั ดบั แรก เป็ นเรืองจําเป็ นอยา่ งยิงทีจะต้องทาํ ความเข้าใจคาํ วา่ “ทนุ ” ให้สอดคล้องต้องกนั ก่อน ในบทความนี ผ้เู ขยี นขอยมื คําอธิบายทนุ จากแนวคดิ เกียวกบั “กระแสการหมนุ เวียนของ ทนุ ” ทงั สามประเภทจากคาร์ล มาร์กซ์ ได้แก่ กระแสการหมุนเวียนของเงิน กระแสการ หมุนเวียนของสนิ ค้า และกระแสการหมุนเวียนของสนิ ค้าทุน ดงั นนั ทนุ ในทีนี จึงมีความ หมายถึงเงิน สินค้าทุนและสินค้าขันสุดท้าย ทีต่างสมั พันธ์กับกระบวนการผลิตและการ แลกเปลยี นซือขายสนิ ค้าในระบบตลาดอยา่ งแนบแนน่ นกั ภมู ศิ าสตร์อยา่ งเดวิด ฮาร์วีย์ ได้กลา่ ววา่ กระแสการเคลอื นย้ายทนุ อาจวางอย่บู นหลกั การ เชิงภมู ิศาสตร์สองประการ ประการแรก ประวตั ิศาสตร์ได้แสดงให้เห็นถึงความพยายามอย่าง ต่อเนืองของมนุษย์ทีจะเอาชนะเวลาและสถานที เพืออํานวยให้เกิดการเคลือนย้ายทุนที คลอ่ งตวั ขนึ ดงั นนั อปุ สรรคเชิงภมู ิศาสตร์หรืออะไรก็ตามทีจะเป็ นอปุ สรรคต่อการเคลอื นย้าย ทนุ จงึ จําเป็ นจะต้องถกู ขจดั ออกไป ประการทีสอง การผลิตสามารถเกิดขึน ณ ทีใดก็ตามซึงปัจจัยการผลิต กําลังแรงงาน และตลาดถูกนํามาประกอบกัน การกระจุกตัวและการหมุนเวียนของทุนจึงไม่ได้ เกิดขึนด้วยตัวของมันเองโดยปราศจากการแทรกแซง แต่เกิดขึนจากเศรษฐศาสตร์ กา รเ มื อง แ ละ กา ร จัด ห าส า ธา รณู ป โภ ค ด้ า น กา รติ ด ต่ อ สื อส า รแ ละ ค มน า คม ที มี ประสทิ ธิภาพ ในความเป็ นจริง พืนทตี า่ งๆ ไมไ่ ด้มสี ถานะทีเทา่ เทียมกนั หรือไม่ได้มีความเป็ น กลางในแงข่ องมลู คา่ ทางเศรษฐกิจเชน่ เดยี วกนั ไปหมดทกุ พืนที สาํ หรับนายทนุ ทําเลบางแหง่ ได้รับการพิจารณาวา่ สร้างผลกําไรให้มากกว่าหรือน่าพอใจมากกว่าในแง่ของการแข่งขนั เมือ เปรียบเทยี บกบั ทําเลอนื เมือพิจารณาหลกั การทงั สองนีควบคู่กบั มมุ มองเรืองรัฐชาติแล้ว จะพบว่าอุปสรรคทางเชิง กายภาพและอปุ สรรคเชิงกฎระเบียบเช่น กําแพงภาษีนนั เป็ นปัจจยั หลกั ทีทําให้เกิดลกั ษณะ การผูกขาดในสถานทีหรือพืนทีใดพืนทีหนึง ในทางกลบั กัน การเชือมโยงเชิงพืนที (spatial integration) หรือการเชือมตอ่ พืนทีตา่ งๆ ทถี กู ตดั ขาดออกจากกนั ทงั ในเชิงกายภาพและในแง่ สงั คมและวฒั นธรรมจงึ กลายเป็ นเงือนไขสาํ คญั ในการทาํ ให้กระบวนการแลกเปลียนสินค้าใน ระบบทนุ นิยมเกิดขึนได้สะดวกขึน ดงั นนั ฝ่ ายนายทุนทีรวมตวั กันเป็ นกล่มุ ผลประโยชน์เช่น

แรงงานบนเส้นทางรัฐสวสั ดกิ าร [หน้า 85] สภาอตุ สาหกรรมหรือสภาหอการค้า จึงมกั นิยมผลกั ดนั นโยบายหรือแผนพฒั นาเศรษฐกิจ ที เอืออํานวยให้เกิด “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” หรือ นิคมอุตสาหกรรมทีมีลกั ษณะของการผูกขาด ควบคกู่ บั นโยบายด้านการขนสง่ หรือโลจิสติกส์ทชี ว่ ยลดอปุ สรรคในเชิงกายภาพ ความสามารถในการควบคมุ กระแสการหมนุ เวียนของทนุ ทงั สามประเภท ผ่านอํานาจทาง เศรษฐกิจ (เชน่ ความสามารถในการก้ยู ืมเงินในอตั ราดอกเบียตาํ หรือระดมทนุ ขนาดใหญ่ผา่ น ตลาดทนุ ) และอํานาจการเมอื ง (เชน่ ลอ็ บบีและผลกั ดนั นโยบายเพือลดการกํากบั ควบคมุ และ จดั หาสาธารณปู โภคในพืนทที ีต้องการ) จึงเป็ นปัจจยั เด็ดขาดทีสง่ ให้นายทนุ เป็ นฝ่ ายทีควบคมุ ผลผลติ สว่ นเกินหรือกําไร และมีอํานาจต่อรองเหนือฝ่ ายคนงาน ทีกลายเป็ นเพียงปัจจยั การ ผลติ ประเภทหนงึ ในสมการการทํากําไรของนายทนุ สาํ หรับประเทศไทย นกั ภมู ิศาสตร์ทศี กึ ษานโยบายรัฐไทยกบั การสะสมทนุ อยา่ งจิม กลาสแมน ได้อธิบายว่าเหตผุ ลทีรัฐจําเป็ นต้องออกนโยบายเอือประโยชน์ให้กบั ทนุ ข้ามชาติ หรือบรรษัท ข้ามชาติ เนืองจากรัฐของประเทศโลกทีสาม เช่น รัฐไทย จําเป็ นจะต้องสร้างพันธมิตรกับ บรรษัทข้ามชาติหรือรัฐจักรวรรดิ เพราะบรรษัทข้ามชาติหรือรัฐจักรวรรดิเป็ นเจ้าของ ทุนทีพัฒนาแล้ว ทังนี ในทางทฤษฎี การสะสมทุนจะประสบความสําเร็จได้ ต้องอาศัย องค์ประกอบทีสาํ คญั คือ การพฒั นาถึงขดี สดุ ของกระแสการหมนุ เวยี นของทนุ ทงั สามประเภท อยา่ งไรก็ดี กลาสแมน14ได้ชีให้เหน็ กระแสการหมนุ เวยี นของทนุ ทงั สามประเภทอาจถกู จําแนก ออกเป็ นทนุ ระดบั ตา่ งๆ ตามมมุ มองเรืองขอบเขตของการหมนุ เวยี นของทนุ ดงั นี 1. ทุนชาติ (national fraction) คอื ทนุ ประเภททีลงทนุ เพอื ผลติ สนิ ค้าภายในขอบเขตของรัฐ ชาติหนึง และถูกนําออกขายหรือแลกเปลียนและทําการลงทนุ ใหม่เพือการผลิตภายใน ขอบเขตรัฐชาติเดยี วกนั 2. ทุนระดับโลก (global capital) คอื เงินทนุ ทีลงทนุ ผลิตสินค้าภายในขอบเขตของรัฐชาติ แต่เมือกลายเป็ นสินค้ าแล้ วสามารถแลกเปลียนในตลาดโลก และลงทุนเพิม นอกเหนอื จากขอบเขตของรัฐชาตเิ ดิม 14 กลาสแมนยืมคาํ อธิบายนีมาจาก ริชาร์ด ไบรอนั (Richard Bryan)

แรงงานบนเส้นทางรัฐสวสั ดิการ [หน้า 86] นอกจากนี ยงั มีทนุ อีกสองประเภท คือ ทุนทีถูกจํากัดโดยการลงทุน เป็ นเงินลงทนุ เพือผลิต ข้ามชาติแตไ่ มไ่ ด้อยใู่ นสเกลขนาดใหญ่พอจะเรียกวา่ เป็ นทนุ ระดบั โลก (เรียกวา่ investment- constrained) และทุนทีถกู จาํ กดั โดยตลาด คือ เงินลงทนุ ข้ามชาตเิ ชน่ กนั แตส่ นิ ค้าทีผลติ ได้ ถกู จํากดั ให้ขายในขอบเขตตลาดของรัฐชาติใดรัฐชาติหนงึ (market-constrained) เมือทุนทีทําการผลิตสินค้าในประเทศไทย (และคนงานต้องต่อสู้ด้วย) โดยเฉพาะในนิคม อตุ สาหกรรมหลายแหง่ มลี กั ษณะเป็ นทนุ ข้ามชาตมิ ากยิงขนึ จึงเป็ นเรืองจําเป็ นทีจะต้องเข้าใจ ลกั ษณะของทนุ วา่ เป็ นทนุ ระดบั โลก ทนุ ทีถกู จํากดั โดยการลงทนุ หรือทนุ ทีถกู จํากดั โดยตลาด เ พ ร า ะ ทุน แ ต่ ล ะ ปร ะ เ ภ ท นัน ก็ มี ข อบ เ ข ต ห รื อ พื น ที ก า ร ทํ า ง า น ใ น ส เ ก ล ที ต่ า ง กัน อ อ ก ไ ป นอกจากนี ทนุ แตล่ ะประเภทก็ได้รับประโยชน์ (และถกู จํากดั ) จากนโยบายการสง่ เสริม (และ การกํากับ) ของรัฐในลกั ษณะทีแตกต่างกนั ออกไปด้วย ทีสําคญั ไปกว่านนั ความเข้าใจนีจะ ช่วยให้ฝ่ ายแรงงานได้วางยทุ ธศาสตร์และยทุ ธวิธีในการรวมตวั เพือจดั ตงั ขบวนการทีมีสเกล ระดบั เดยี วกบั การทํางานของทนุ ประเภททตี นกําลงั ตอ่ สู้ อนั ทีจริงแล้ว ใช่ว่าฝ่ ายแรงงานจะไร้ ซึงความสามารถในการต่อรองกับฝ่ ายทนุ อย่างสินเชิง และทําได้เพียงการตงั รับเพียงอย่างเดียว เพราะฝ่ ายทนุ เองก็ประสบกบั ข้อจํากดั หรือปัจจยั ที ตนเองไม่สามารถควบคุมได้เช่นเดียวกัน เช่น ข้อจํากัดประการสําคญั คือ เมือนายทุนได้ ตดั สินใจลงทนุ เพือทําการผลิตในพืนทีใดพืนทีหนึงแล้ว เงินทนุ จะถกู แปรสภาพเป็ นสนิ ค้าทนุ เช่น อาคารสถานที เครืองจักรเครืองมือ และสินค้าขันสุดท้าย ทุนเหล่านีไม่สามารถถูก เคลือนย้ายได้อย่างคล่องตวั เหมือนเช่นทีเคยเป็ น นอกจากนี การเคลือนย้ายทนุ ไมว่ ่าในรูป ของเงินทนุ สินค้าทนุ และสินค้าขนั สดุ ท้าย ถกู กํากับโดยชดุ ของกฎระเบียบของสถาบนั หรือ องค์กรทีแตกต่างกันไป ดังนัน หากฝ่ ายแรงงานเข้าใจกลไกการทํางานของทุนในเชิง ภมู ิศาสตร์ รวมถึงธรรมชาติของสถาบนั หรือองค์กรทีเกียวข้อง ฝ่ ายแรงงานเองจะสามารถจดั ขบวนและออกแบบยทุ ธศาสตร์เชิงรุกทีมีพลงั ในการสกดั กนั การเคลือนย้ายทนุ ประเภทต่างๆ ตรงจดุ ออ่ นของระบบทนุ ได้ ตวั อยา่ งของความขดั แย้งระหว่างคนงานเหลก็ ยไู นเต็ด สตีลเวิร์ค เกอร์ ออฟอเมริกา (United Steelworkers of America - USWA) กบั บริษัท เรฟเวนว้ดู อลู มินมั คอร์ปอเรชนั (Ravenswood Aluminum Corporation - RAC) ในระหว่างปี 1990-1992

แรงงานบนเส้นทางรัฐสวสั ดกิ าร [หน้า 87] (พ.ศ. 2547- 2549) และแผนการรณรงค์กดดนั ให้บริษัทรับคนงานทถี กู เลกิ จ้างกลบั เข้าทํางาน นนั เป็ นกรณีศึกษาทีสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการจดั ตงั แบบข้ามชาติของคนงาน อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ กรณีศึกษา: การรณรงค์ระหว่างประเทศของคนงานเหล็กยูไนเต็ด สตีล เวิร์คเกอร์ออฟอเมริกา (United Steelworkers of America - USWA) กับเรฟ เวนวู้ด อลูมินัม คอร์ปอเรชัน (Ravenswood Aluminum Corporation - RAC)15 ในปี 1990 (พ.ศ. 2547) หลงั จากเรฟเวนว้ดู อลมู นิ มั คอร์ปอเรชนั (ตอ่ ไปนีจะขอเรียกวา่ RAC) ซือโรงถลงุ แร่อลมู ิเนียมในเมืองเรฟเวนว้ดู รัฐเวสต์เวอร์จิเนีย ได้ประมาณ 18 เดือน สหภาพ แรงงานยไู นเตด็ สตีลเวิร์คเกอร์ (ตอ่ ไปจะขอเรียกวา่ USWA) ในพืนทีเริมจดั ตงั คนงานใน RAC เพือรณรงค์เกียวกบั สขุ ภาพและความปลอดภยั ในการทํางาน เมือปรากฏว่าคนงานจํานวน หนงึ เสยี ชีวติ ขณะทอี กี หลายคนได้รับบาดเจ็บจากการทํางานในโรงงาน ประจวบเหมาะกบั ที ข้อตกลงสภาพการทํางานของสหภาพแรงงานได้สินสดุ ลงพอดี ฝ่ ายนายจ้างกลบั เลิกจ้าง คนงานทเี ป็ นสมาชิกสหภาพแรงงานกลมุ่ หนึงโดยเชิญตวั ออกจากโรงงานและนําคนงานทีไม่ เป็ นสมาชิกสหภาพมาสวมแทน การกระทําดงั กล่าวของบริษัท ทําให้เกิดเป็ นกรณีพิพาท แรงงานทเี ข้มข้นทสี ดุ กรณีหนงึ ในชว่ งทศวรรษ 1990s ของสหรัฐฯ หลงั จากกรณีพพิ าทแรงงานทีเริมต้นขนึ ในลกั ษณะของความขดั แย้งในระดบั ท้องถิน ดาํ เนนิ ไป ประมาณ 2 เดือน เจ้าหน้าทีของสหภาพ USWA ได้รับเอกสารการตรวจสอบบญั ชีของ RAC โดยบริษัทตรวจสอบบญั ชีทมี ชี ือเสยี ง (ทถี กู สง่ มาทางไปรษณีย์โดยไม่ระบแุ หลง่ ทีมา ) ซงึ ระบุ วา่ โรงงาน RAC นนั เป็ นสว่ นหนงึ ของกลมุ่ ทนุ ข้ามชาติสญั ชาติสวสิ เซอร์แลนด์ทมี นี ายมาร์ค ริช 15 เนือหาในสว่ นนี แปลและเรียบเรียงจากบางสว่ นของบทความ Labor Internationalism and the Contradiction of Globalization: Or, Why the Local is Sometimes important in a Global Economy (2001) โดย Andrew Herod ใน Antipode

แรงงานบนเส้นทางรัฐสวสั ดิการ [หน้า 88] (Marc Rich) มหาเศรษฐีทีเป็ นเจ้าของกิจการหลายแห่งทวั โลก จากการค้นคว้าเพิมเติม ปรากฎวา่ นายริชเองมปี ระวตั กิ ารกระทาํ ผดิ ยาวเหยียด ตงั แตก่ ารหลกี เลยี งภาษี การฉ้อโกง ไป จนถึงละเมิดข้อห้ามทางการค้าระหวา่ งประเทศ นอกจากนี นายริชยงั มีสถานะเป็ นผ้หู ลบหนี คดีทีทางการสหรัฐฯ ต้องการตวั เมือสหภาพแรงงาน USWA ได้ตรวจสอบพบความเชือมโยงระหวา่ ง RAC และกล่มุ ทนุ ของ นายมาร์ค ริช ตัวแทนของสหภาพในพืนทีจึงได้วางแผนการรณรงค์ร่วมกับเจ้าหน้าทีฝ่ าย ตา่ งประเทศของ USWA เพือเรียกร้องให้บริษัทรับคนงานทงั หมดทีถกู เลกิ จ้างกลบั เข้าทํางาน โดยสว่ นประกอบของแผนดงั กลา่ ว ประกอบด้วย 1. ดําเนินการตามกรอบของกฎหมายแรงาน เพือพิสจู น์ว่าการเลิกจ้างดงั กลา่ วขดั ต่อ กฎหมายแรงงาน 2. ประสานกับเจ้าหน้าทีจากส่วนกลางเพือให้สอบสวนโรงงาน ในเรืองการละเมิด ข้อกําหนดด้านสขุ ภาพ ความปลอดภยั และสงิ แวดล้อม 3. สหภาพแรงงาน USWA และผู้สนบั สนนุ ร่วมกนั จัดกิจกรรมให้กําลงั ใจคนงาน เช่น แจกใบปลวิ ทีตลาดห้นุ นวิ ยอร์ค มหาวิทยาลยั และ มหาวิทยาลยั และศาลากลางของเมืองหลายแห่ง กิจกรรมอืนๆ รวมถึงการจัด “คาราวานสมานฉนั ท์แรงงาน” ทีประกอบด้วยนกั สหภาพจากทวั ประเทศ 4. ฝ่ ายต่างประเทศของ USWA ร่วมกบั กรรมการยทุ ธศาสตร์ของสหพนั ธ์แรงงานแหง่ อเมริกาฯ (AFL-CIO) รณรงค์ให้ลกู ค้าของ RAC กวา่ 300 รายควาํ บาตรสนิ ค้าเหล็ก จากโรงงาน ซงึ ถือว่าการรณรงค์ดงั กลา่ วประสบผล ในแง่ทีทําให้ลกู ค้าทงั รายใหญ่ และรายเลก็ หลายรายลดยอดการสงั สนิ ค้าจาก RAC ลง 5. สหภาพ USWA รณรงค์ในระดบั นานาชาตเิ พือกดดนั ตวั นายริช เป็ นการสว่ นตวั ฝ่ ายแรงงานได้ตระหนกั ว่า RAC เป็ นเพียงโรงงานหนึงในอาณาจกั รธุรกิจของนายริช การ รณรงค์ทนี ําโดยสหภาพแรงงาน USWA และ AFL-CIO จึงถกู ออกแบบขึนบนหลกั การว่า การ รณรงค์กดดนั ครังนีจะประสบความสําเร็จไม่ได้ หากไม่มีการเชือมโยงฝ่ ายแรงงานใน ประเทศต่างๆ ทีนายริชได้เข้าไปทาํ ธุรกิจ นอกจากนี จากการวิเคราะห์ว่านายริชเองคงไม่

แรงงานบนเส้นทางรัฐสวสั ดิการ [หน้า 89] ต้องการให้การรณรงค์ขยายวงกว้างขนึ ทงั ด้วยเหตผุ ลสว่ นตวั เกียวกบั คดีความทียงั ค้างคาอยู่ กับทางการสหรัฐฯ และเหตุผลว่านายริชยงั มีแผนธุรกิจทีจะเข้าไปลงทุนในยุโรปตะวนั ออก อเมริกาใต้และคาบสมทุ รแคริเบียน ดงั นนั การเปิ ดโปงประวตั ิทีด่างพร้อยของนายริช รวมทงั การรณรงค์เรืองการละเมิดสิทธิแรงงานในโรงงาน RAC ย่อมสง่ ผลสะเทือนต่อแผนธุรกิจใน อนาคตของนายริชโดยตรง ในการรณรงค์ครังนี ฝ่ ายแรงงานได้ใช้จดุ แข็งทีตนเองมีอยู่ คือ ใช้ ประโยชน์จากเครือขา่ ยของสหภาพแรงงานทงั สองทีเป็ นสหภาพขนาดใหญ่ และเป็ นสมาชิก ขององค์กรด้านแรงงานนานาชาติ เช่น สหพันธ์แรงงานอุตสาหกรรมเหล็กโลหะระหว่าง ประเทศ (IMF) สหพนั ธ์แรงงานนานาชาติในกิจการเคมี พลงั งานและคนงานทวั ไป (ICEF) และสหพนั ธ์แรงงานเสรีระหว่างประเทศ (ICFTU) โดยเดินเกมส์รุกในการติดตอ่ นกั สหภาพ แรงงานและนกั การเมืองทเี ป็ นพนั ธมติ รในประเทศตา่ งๆ ทีมกี ิจการของนายริชอยู่ เมอื คนงานได้ศกึ ษาข้อมลู เกียวกบั เครือขา่ ยธุรกิจข้ามชาติของนายริช รวมทงั ความเชือมโยง กบั โรงงาน RAC อย่างถีถ้วนแล้ว พวกเขาจึงเดินหน้าเคลือนไหวโดยใช้ยุทธศาสตร์ในการ รณรงค์แบบข้ามชาตเิ พือสร้างการรณรงค์ทีมีภมู ศิ าสตร์แบบเดียวกบั ภมู ศิ าสตร์ของทนุ ในทาง ปฏบิ ตั ิ พวกเขาสร้างแรงกดดนั ตอ่ ธุรกิจของนายริช โดยพงุ่ เป้ าไปทีจดุ ยทุ ธศาสตร์สาํ คญั เชน่ • สหภาพแรงงาน USWA ร่วมกับ AFL-CIO ได้สง่ ตวั แทนไปพบนกั สหภาพแรงงาน และสมาชิกรัฐสภาของสวิสเซอร์แลนด์ รวมทังโน้มน้าวให้องค์กรพันธมิตรทีเป็ น สมาชิกของ IMF และ ICEF ช่วยเหลือตนในการจดั งานแถลงข่าวต่อสาธารณะ เกียวกบั สถานการณ์ปัญหาในโรงงาน RAC สหรัฐอเมริกา • กดดนั RAC ผา่ นกลมุ่ ทนุ ธนาคารในยโุ รปทีให้การสนบั สนนุ ด้านเงินกู้สําหรับการตงั โรงงาน RAC ตงั แต่แรก โดยพวกเขาเปิ ดเผยข้อมลู วา่ กระบวนการผลิตของ RAC มี การละเมิดกฎหมายด้านแรงงาน สขุ ภาพและความปลอดภยั ในการทํางาน รวมทงั สิงแวดล้อมอย่างไร เป็ นผลให้ธนาคาร Nederlandsche Middenstandsbank ตดั สินใจถอนตวั ออกจากการสนบั สนุนเงินกู้ทีฝ่ ายบริหารของ RAC ต้องการระดม ทนุ เพมิ

แรงงานบนเส้นทางรัฐสวสั ดกิ าร [หน้า 90] • ตดิ ตามตรวจสอบแผนการลงทนุ ซือโรงถลงุ แร่ในประเทศเช็คโกสโลวาเกีย จนกระทงั สามารถเชือมโยงกับสหพนั ธ์คนงานเหล็กในเช็คโกสโลวาเกีย เพือร่วมกันรณรงค์ กดดนั ให้รัฐบาลเข้าแทรกแซงแผนธุรกิจดงั กลา่ วจนประสบความสาํ เร็จ • ร่วมกบั สมาคมแรงงานสมั พนั ธ์และสหภาพแรงงานอาหารนานาชาติ (IUF) จดั การ เดินขบวนในนามของคนงาน RAC เพือประท้วงแผนธุรกิจทีนายริชต้องการซือ โรงแรมอเธเนพ่ าเลซ ในเมืองบคู าเรส ประเทศโรมาเนีย จนทําให้แผนดงั กลา่ งต้องถกู ยกเลกิ ไป • และอนื ๆ ในเดือนเมษายนของปี 1992 (2549) การรณรงค์เพือต่อต้านเครือข่ายธุรกิจของนายริช แผ่ ขยายไปจนกระทงั ครอบคลมุ กิจกรรมใน 28 ประเทศทวั โลก ถึงแม้นายริชจะไม่เคยยอมรับ ความเกียวโยงกบั RAC แตใ่ นทสี ดุ ตวั แทนของผ้ถู ือห้นุ ใหญ่ของ RAC ซึงเป็ นทีทราบดีวา่ เป็ น ห้นุ สว่ นธุรกิจของนายริช ได้เข้ายดึ การบริหารและไลฝ่ ่ ายบริหารในท้องถิน กอ่ นทีสญั ญาสภาพ การจ้างงานฉบับใหม่ทีดีกว่าฉบับเก่าจะถูกร่างขึน พร้ อมกับการรับคนงานกลบั เข้าทํางาน ภายหลงั จากการรณรงค์อยา่ งตอ่ เนอื งยาวนานเป็ นเวลาถึง 20 เดอื น บทสรุป เราอาจมองเหน็ วา่ การรณรงค์เพือกดดนั ทนุ ข้ามชาตขิ องสหภาพแรงงาน USWA ร่วมกบั AFL- CIO นนั ถือเป็ นกรณีพิเศษทีแตกตา่ งจากบริบทของขบวนการแรงงานไทยอย่มู าก ทงั นี เป็ น เรืองจริงทีจะยอมรับวา่ สหพนั ธ์แรงงานแหง่ อเมริกาฯ นนั เป็ นองค์กรกลมุ่ ผลประโยชน์แรงงานที มีอิทธิพลสงู ยงิ และมีประวตั ศิ าสตร์ของพฒั นาการทยี าวนานตอ่ เนือง ไมอ่ าจนํามาเปรียบกบั องค์กรแรงงานในประเทศกําลงั พฒั นาอย่างในประเทศไทยได้เลย โดยเฉพาะในบริบทของ ความขดั แย้งทางความคิดทีแบง่ แยกให้ขบวนการแรงงานไทยแตกแยกและแบง่ เป็ นหม่เู ป็ น เหลา่ อยา่ งเชน่ ทเี ป็ นอยู่ อยา่ งไรก็ตาม ผ้เู ขียนเชือวา่ ขบวนการแรงงานไทยสามารถเรียนรู้จาก กรณีศกึ ษาทปี ระสบความสาํ เร็จเชน่ นีในหลายเรือง โดยเฉพาะอยา่ งยิง การให้ความสาํ คญั กบั ข้อมูลธุรกิจด้านความเป็ นเจ้าของ (ownership) และความเชือมโยงระหว่างโรงงานกับ

แรงงานบนเส้นทางรัฐสวสั ดิการ [หน้า 91] เครือข่ายธุรกิจทีใหญ่ขึนไป ในกรณีของ RAC นัน ฝ่ ายแรงงานในอเมริกาได้เล็งเห็นจุด ยทุ ธศาสตร์ทีซ่อนอยู่ในเครือข่ายธุรกิจของนกั ธุรกิจรายใหญ่ สําหรับในกรณีอืนนนั คนงาน อาจมองไปถึงจดุ ยทุ ธศาสตร์ภายในห่วงโซ่อปุ ทานเดียวกนั เช่น ซพั พลายเออร์หรือผ้บู ริโภค ทงั นีก็ขนึ อยกู่ บั ลกั ษณะของกิจการแตล่ ะกิจการ อย่างไรก็ดี ข้อท้าทายประการสําคญั สําหรับสหภาพแรงงานหรือองค์กรเพือสิทธิแรงงานใน ประเทศไทยคอื การแสวงหาองค์ความรู้และความเชียวชาญชํานาญในแง่ของการค้นหาและ วเิ คราะห์ข้อมลู ธรุ กิจ ซงึ โดยปกติ บคุ ลากรทีมีความรู้แบบนมี กั ทํางานให้กบั ภาคธุรกิจหรือฝ่ าย บริหาร แทนทีจะเป็ นฝ่ ายแรงงาน ขณะทีในบริบทของสหรัฐฯ ขบวนการแรงงานได้พฒั นาไป จนถึงจุดทีกลายเป็ นองค์กรผลประโยชน์ระดับชาติ และมีความสามารถในการจ้างงาน บคุ ลากรทีมีความเชียวชาญในการวจิ ยั ด้านบรรษัทอยา่ งเป็ นเรืองเป็ นราว ในประเทศไทย ฝ่ าย แรงงานอาจจะต้องพิจารณาถึงแนวทางการทํางานร่วมกบั สถาบนั วิจัยทีพร้ อมจะสนบั สนุน ประเด็นของคนงาน รวมทงั แนวทางในการผลกั ดนั ให้องค์กรเพือสทิ ธิแรงงานภายในประเทศ ร่วมกบั ผลติ บคุ ลากรทมี คี วามชํานาญด้านนีให้มากขนึ สุดท้าย คุณูปการสําคัญของกรณีศึกษาทีประสบความสําเร็จนีคือ ได้แสดงให้เห็นถึง ความสาํ คญั ของการพฒั นาสหภาพแรงงานในรายอตุ สาหกรรม เช่น สหภาพแรงงานคนงาน เหล็กระดบั ชาติ เหมือนเช่นในกรณีของ USWA เพือเกือหนุนการทํางานของสหภาพแรงงาน ภายในโรงงานตา่ งๆ จะเหน็ วา่ ที USWA มลี กั ษณะเป็ นสหภาพแรงงานของอตุ สาหกรรมเหลก็ ระดบั ชาติ ได้มีสว่ นช่วยให้สมาชิกของสหภาพในระดบั ท้องถินได้พงึ พาทรัพยากรและความ เชียวชาญทีสหภาพแรงงานระดบั ชาติมีอยู่ รวมถึงได้รับประโยชน์จากเครือข่ายของสหภาพ แรงงานในระดบั นานาชาติด้วย.

แรงงานบนเส้นทางรัฐสวสั ดกิ าร [หน้า 92] การจัดตังแรงงานนอกระบบ: บทเรียนจาก ต่างประเทศ วิทยากร บญุ เรือง วารสารคนทํางาน 1. เกร็ดเบอื งต้นเกียวกบั ‘SEWA’ การรวมตวั ของคนงานหญิงในอนิ เดยี เช่นเดยี วกบั ในหลายภมู ิภาคของโลก “แรงงานนอกระบบ” ในอินเดียต้องเผชิญกบั ปัญหาค่าจ้าง ตํา ไม่มีสญั ญาจ้าง ไร้สวสั ดิการ และไม่มีนายจ้างชดั เจนทีจะเรียกร้องให้ปรับปรุงสิงเหล่านีให้ดี ขนึ โดยเฉพาะแรงงานหญิงทียากจน ถกู กดี กนั จากการบริการทางสงั คม และด้วยสถานะแรงงาน นอกระบบในฐานะคนทาํ งาน “รับเหมา” ทมี กั จะถกู เรียกอย่างสวยหรูวา่ การเป็น “นายของตวั เอง” แต่กลบั ไร้ตวั ตนในกฎหมายแรงงาน ซงึ แรงงานหญิงเหล่านีถือว่าเป็ นแรงงานทีอ่อนแอทีสดุ (เมือ อยอู่ ยา่ งปัจเจก) ไม่มศี กั ยภาพตอ่ รองกบั พ่อค้าคนกลาง นายหน้ารับเหมา หรือรัฐได้ ปัญหาเหลา่ นีเป็นแรงกระต้นุ ให้ เอลา ภทั ร (Ela Bhatt) นกั กฎหมายประจําสมาคมแรงงานสิงทอ อินเดีย (Textile Labour Association - TLA) ได้เชิญชวนคนงานและผ้ปู ระกอบการขนาดเล็กที เป็ นผู้หญิงมารวมกลุ่มกันจัดตังสมาคมคนงานหญิงทีทํางานแบบเหมาช่วง (Self-Employed Women's Association of India - SEWA) ขนึ มา SEWA เปิ ดตวั อย่างเป็ นทางการเมือปี ค.ศ. 1972 มีสํานกั งานใหญ่อย่ทู ีเมือง Ahmedabad รัฐ Gujarat ถงึ แม้จะมีลกั ษณะการจดั การองค์กรแบบสหภาพแรงงาน แต่ก็ยงั มกี ารปฏิบตั ิหน้าทีอืนๆ ควบค่ไู ปด้วย เช่น สหกรณ์คนงาน ธนาคารสาํ หรับคนงาน (จากนนั จงึ แตกตวั ออกมาเป็ นองค์กรพี น้องในภายหลงั ) ซงึ ถือว่าเป็ นภารกิจยกระดบั มาตรฐานชีวิตของคนงาน โดย SEWA ได้พฒั นา มาถงึ จดุ ทีมีสมาชิกทีจา่ ยคา่ บาํ รุงสมาคมถงึ 966,139 คน เลยทเี ดยี ว (ในปี ค.ศ. 2008)

แรงงานบนเส้นทางรัฐสวสั ดิการ [หน้า 93] นอกจากนี SEWA ยงั มีกิจกรรมการสอนหนังสือให้กับสมาชิก ฝึ กอบรมทกั ษะในด้านต่างๆ หา ช่องทางทําการตลาด การให้บริการด้านอืนๆ รวมทังเป็ นองค์กรทีเป็ นปากเป็ นเสียงให้กบั การ ผลกั ดนั นโยบายค้มุ ครองคนงานทงั ในระดบั ประเทศและในระดบั นานาชาตอิ ีกด้วย เป้ าหมายของ SEWA ไปไกลกว่าการส่งเสริม “การจ้างงานเต็มที” และการ “พงึ พาตนเอง” ของ คนงาน แต่ยงั ครอบคลมุ ไปถงึ เรืองสวสั ดกิ ารตา่ งๆ ไม่วา่ จะเป็นเรืองอาหาร, ทีพกั อาศยั , การเลียง ดบู ตุ ร, สวสั ดิการด้านสุขภาพ, การประกนั สงั คม และทีสําคญั ทีสดุ ที SEWA เล็งเห็นก็คือการ “เพมิ อํานาจตอ่ รอง” ให้กบั คนงานหญิง ดงั คํากล่าวของเอลา ภทั ร ทีว่า“สหภาพแรงงานคือการมารวมตัวกัน ผู้หญิงไม่จําเป็ นต้องมา รวมตวั กนั เพือต่อต้านใคร เพียงแค่มารวมตวั กนั เพือตวั เองเท่านัน” โดยปัญหาสําคญั ของการ รวมตัวแบบ “สหภาพแรงงาน” เพือบรรลเุ ป้ าหมายนนั จะต้องมีคู่เจรจา แต่สําหรับคนงานเหมา ช่วงก็มกั จะมคี าํ ถามวา่ ต้องเจรจากบั ใคร เพราะส่วนใหญ่มกั จะต้องทํางานภายใต้ลกั ษณะทีไม่มี นายจ้างอยา่ งชดั เจน ดงั นนั การมารวมตวั กนั เฉยๆ ก็ยงั ไม่อาจจะทําให้คา่ แรงและสวสั ดกิ ารของคนงานเพิมขึน ด้วยเหตุ นี SEWA จึงต้องหาทางเจรจากบั ใครสกั คนหรือมากกว่านนั โดยในช่องทางกรอบกฎหมายนัน SEWA พยายามชีให้เห็นถงึ ประเด็น “การอย่ใู ต้บงั คับ” (subordination) ให้คนงานพยายาม พสิ จู น์ต่อความเชอื มโยงในการทํางานของตนกบั นายหน้าและนายจ้างเจ้าของสินค้าทีจ้างคนงาน ผลติ รวมทังการสร้างความสัมพนั ธ์กบั หน่วยงานต่างๆ ทีเกียวข้องทีมีหน้าทีให้ความสะดวกและเป็ น ธรรมแก่คนงานทงั ในและต่างประเทศ (SEWA ยงั ได้รับการสนบั สนนุ จากธนาคารโลก) นอกจากนี SEWA ยังได้ส่งตวั แทนเข้าไปเป็ นคณะกรรมการไตรภาคีในการปฏิรูปกฎหมายแรงงานเพือให้ ความค้มุ ครองแกแ่ รงงานนอกระบบอีกด้วย SEWA ยงั ได้ใช้ช่องทางมากกว่ากรอบกฎหมาย (ทีไม่เอือแรงงานนอกระบบเปิดโต๊ะเจรจาต่อรอง) ควบคู่กันไปด้วย ในการสร้ างช่องทางเจรจาต่อรองโดยมุ่งเป้ าไปทีฐานอํานาจการเมืองและ

แรงงานบนเส้นทางรัฐสวสั ดิการ [หน้า 94] เศรษฐกิจ เช่น การกดดนั ให้นักการเมืองท้องถินใช้ระบบไตรภาคีเปิ ดโต๊ะเจรจาเพือต่อรองกับ รัฐบาลและนายจ้าง (ผ้จู ้างผลติ สินค้า) ทงั นีในการรณรงค์ของ SEWA นอกจากจะเพิมความตระหนกั รู้ให้มวลสมาชิกแล้ว ยงั มีเป้ าหมาย ในการหาสมาชิกใหม่ๆ รวมทังกดดนั ให้นกั การเมืองรัฐบาลและนายจ้างมาเจรจาต่อรอง เพือ กาํ หนดในเรืองค่าจ้าง สวสั ดกิ าร และการเข้าถงึ บริการตา่ งๆ ของรัฐ ตัวอย่างของการขยายงานแตกตัวออกมาเป็ นองค์กรพีน้องของ SEWA (SEWA’s Sister Organizations) เพือสนบั สนนุ การรวมตัวของคนงานและผู้ประกอบการรายย่อย ก็มีอาทิเช่น ธนาคาร SEWA (SEWA Bank) แหล่ง \"ออมเงนิ และเงินทนุ \" สาํ หรับสมาชกิ เพอื แก้ปัญหาหนีนอก ระบบทมี ีดอกเบยี แพง ก่อตงั เริมแรกจากการเก็บเงินสมาชิกคนละ 10 รูปี ปัจจบุ นั มีเงินหมนุ เวียน ในธนาคารมากกว่า 350 ล้านรูปี สถาบนั ฝึ กฝน SEWA (SEWA Academy) แหล่งบม่ เพาะให้ สมาชิกกลายเป็ น “นกั กิจกรรม” ให้ทังการศกึ ษาและฝึ กฝนความเป็ นผู้นําในชมุ ชนหน่วยวิจยั SEWA (SEWA Research) ผลิตงานวิจยั เพอื สนบั สนนุ การทาํ งานให้กบั SEWA เป็นต้น SEWA กลายเป็ นแรงบนั ดาลให้กับองค์กรทีทํางานกบั แรงงานนอกระบบอีกหลายองค์กร อาทิ เครือข่ายจดั ตงั ผ้หู ญิงในเศรษฐกิจนอกระบบ (Women in Informal Employment: Globalizing and Organizing - WIEGO) ซงึ SEWA เองก็มีส่วนในการก่อตงั WIEGO ด้วย ทงั นีองค์กรที ทํางานใกล้ชิดกบั WIEGO ได้แก่ Home Net อนั เป็ นการรวมตวั กนั ของแรงงานทีรับงานไปทําที บ้าน และ Street Net อนั เป็ นองค์กรทีคนค้าขายหาบเร่แผงลอยและอาชีพอิสระอืนๆ มารวมตวั กนั สรุปประเด็นสาํ คญั ในการจดั ตงั ของ SEWA - มีการเกบ็ คา่ สมาชิกอยา่ งจริงจงั - ดําเนินกิจกรรมในหลายมิติ โดยสร้างองค์กรพีน้องรับผิดชอบเกียวกบั ประเด็นเฉพาะในแต่ละ เรือง

แรงงานบนเส้นทางรัฐสวสั ดกิ าร [หน้า 95] - เชือมโยงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างคนงานเหมาช่วงกบั ผู้ว่าจ้างผลิต เพือนําไปสู่การหาคู่ เจรจาต่อรอง - ใช้ช่องทางการเรียกร้องทงั ตามกรอบกฎหมาย และนอกกรอบทีระบไุ ว้ตามกฎหมาย - สร้างโอกาสเจรจาต่อรองกบั ผ้มู ีอํานาจทางการเมือง 2. ดูการเคลือนไหวเพอื นิยาม ‘นายจ้าง’ และให้ ‘กฎหมาย’ คุ้มครอง ทําไมแรงงานนอกระบบต้องพยายามพิสูจน์ความเชือมโยงในการทํางานของตนกับ “นายจ้าง” และการเรียกร้ องความคุ้มครองทาง “กฎหมาย” นันสําคัญต่อการจดั ขบวนอย่างไร ลองมาดู ตวั อยา่ งจากแอฟริกาใต้, กานา และอินเดียกนั อปุ สรรคของการทํางานร่วมระหว่างองค์กรสหภาพแรงงานและแรงงานนอกระบบ “แรงงานทงั ผองคือพีน้องกนั ” เป็ นวลีทีเหมือนเป็ นพนั ธะกิจให้องค์กรแรงงานตระหนกั ถึงปัญหา ของแรงงานทกุ กล่มุ และตอ่ จากความตระหนกั แล้ว การลงมือปฏบิ ตั จิ งึ เป็นสงิ ทีสาํ คญั ตามมา แต่ เมอื มองในความเป็นจริงแล้ว การร่วมมอื ร่วมใจกนั ระหว่างองค์กรสหภาพแรงงานกบั กล่มุ แรงงาน นอกระบบก็ยงั คงมปี ัญหาหลายสิงหลายอยา่ งอยู่ และบ่อยครังสหภาพแรงงานในอุตสาหกรรมหรือกิจการขนาดเล็กอาจจะมีแนวคิดทีเป็ น “ปฏิปักษ์” กบั แรงงานนอกระบบด้วยซํา (เช่นเดียวกบั แรงงานข้ามชาติและแรงงานชวั คราว) เพราะมมุ มองทมี องวา่ แรงงานนอกระบบคือ “ค่แู ข่ง” หรือแรงงานนอกระบบเองก็มีความแคลงใจ ตอ่ การใกล้ชิดกบั ผ้วู ่าจ้างผลติ ของสหภาพแรงงานเอง หน้าทีทีสําคญั ขององค์กรสหภาพแรงงานคือการทํางานร่วมกนั และต้องมองว่าการจ้างงานทีไม่ มนั คงนันเป็ นรูปแบบทีเป็ นอันตรายสําหรับแรงงานทกุ คน ไม่ใช่ผลกั แรงงานด้วยกันหนงึ ออกไป เป็นฝ่ ายตรงข้าม ทงั นีความนิยมในการจ้างแรงงานนอกระบบของภาคธุรกิจ ทําให้ยากต่อการจดั ตงั สหภาพในรูป แบบเดิม เพราะว่าแรงงานทํางานแบบชัวคราว หรือตามฤดกู าล มีสญั ญาระยะสันหรือไม่มีเลย

แรงงานบนเส้นทางรัฐสวสั ดิการ [หน้า 96] นกั สหภาพจงึ ต้องมองออกนอกกรอบความสมั พนั ธ์ของนายจ้างกบั คนทํางานให้แบบเดมิ หรือตาม กรอบกฎหมาย โดยจะต้องคํานงึ ถงึ ความจําเป็นของการรวมกลมุ่ กนั ต่อรองของแรงงานเป็ นตวั ตงั ไม่วา่ เขาเหลา่ นนั จะอย่ใู นลกั ษณะการจ้างงานแบบใดก็ตาม ทาํ ไม “นายทุน” จงึ ไม่อยากเป็ น “นายจ้าง” ปัญหาอีกอย่างหนงึ ทีสําคญั ของการรวมตวั ขบั เคลือนเรืองการคุ้มครองสิทธิของ “แรงงานนอก ระบบ” เมือนาํ กรอบสหภาพแรงงานมาใช้นนั นนั กค็ อื การโต้แย้งในทางกฎหมาย ทีเหมือนๆ กนั ใน หลายภมู ิภาคของโลก ทีคําวา่ “นายจ้าง” ในกฎหมายแรงงานมกั จะไมค่ รอบคลมุ ถึงการจ้างงานที ใช้แรงงานนอกระบบ ทงั นี “ความไม่เป็นทางการ (informality)” ของเศรษฐกจิ นอกระบบเกิดจากแรงงานจํานวนมากไม่ มนี ายจ้างทชี ดั เจน แรงงานเหลา่ นีต้องเสยี สทิ ธิทคี วรได้รับ ถกู กีดกนั ออกจากสวสั ดิการต่างๆ และ การจ้างงานลักษณะทีไม่มีนายจ้างชดั เจนก็ถือว่าเป็ นการลดต้นทนุ และหลีกเลียงกฎหมายของ นายทนุ วิธีหนงึ การลดต้นทนุ ทีชดั เจนอีกแบบของนายทนุ ก็คือการขายวตั ถดุ ิบให้กบั แรงงานทีทํางานทีบ้าน หรือ แม้แต่แรงงานในโรงงานเองให้ไปทําทีบ้าน แรงงานเหล่านีซงึ ดเู หมือนเป็ น “นายตวั เอง” หรือ “ผู้ประกอบการ” แต่เมือทํางานเสร็จก็ต้องขายคืนให้กบั นายทุนผู้จ้าง นายทนุ ไม่ต้องคํานึงถึง ต้นทุนเรืองการทํางานล่วงเวลา และสวัสดิการต่างๆ ทีแรงงานต้องได้รับ ต้นทุนการจ้างงาน รูปแบบนีจงึ มรี าคาถกู กวา่ การจ้างงานประจํา รวมทังการนํากฎหมายส่งเสริมวิสาหกิจขนาดเล็กพลิกแพลงไปใช้ลดต้นทนุ เช่น กรณีหนึงใน โคลมั เบีย แรงงานประจําทีเป็ นสมาชิกสหภาพถกู โยกย้ายไปยงั หน่วยธุรกิจใหม่ของบริษัททีให้ แรงงานร่วมกนั เป็ นเจ้าของ แต่แรงงานกลบั พบว่าตนเองไม่มี “อํานาจ” ใดๆ ในหน่วยธุรกิจใหม่ที บริษัทอยเู่ บอื งหลงั และความสมั พนั ธ์ในการจ้างงานกย็ งั คงเป็นเช่นเดิม กรณีศึกษาการเคลือนไหวของขบวนการแรงงานนอกระบบต่อประเด็นการนิยามนายจ้าง และ และใหก้ ฎหมายคมุ้ ครอง

แรงงานบนเส้นทางรัฐสวสั ดิการ [หน้า 97] ในรายงาน \"ความยุติธรรมถ้วนหน้า แนวปฏิบตั ิเพือสิทธิแรงงานยคุ เศรษฐกิจโลกาภิวตั น์\" (โซลิ แดริตี เซน็ เตอร์, 2006) ได้ระบถุ งึ กรณีศึกษาทีน่าสนใจของการเคลือนไหวเพือการกําหนดนิยาม สําหรับนายจ้างไว้คอื กรณีศกึ ษาของ StreetNet และ SEWU ในแอฟริกาใต้, การปฏิรูปกฎหมาย แรงงานแหง่ ชาตใิ นกานา รวมทงั การขยายความค้มุ ครองกฎหมายแรงงานแห่งชาติส่แู รงงานนอก ระบบหญิงในอนิ เดีย ในปี ค.ศ. 2000 Street Net ซงึ เป็นเครือขา่ ยของผ้คู ้าแผงลอยในแอฟริกาใต้ ได้ร่วมมือกบั สหภาพ แรงงานนอกระบบหญิงแห่งแอฟริกาใต้ SEWU (Self-Employed Womens' Union) ผลกั ดนั ให้ เทศบาลท้องถนิ ของเมือง Durban เปิ ดเวทีสาธารณะให้พ่อค้าแม่ค้าได้แสดงความเห็นและเสนอ นโยบายต่อเทศบาล ซงึ ผลปรากฏว่าเทศบาล Durban ได้ยอมรับว่าเทศบาลเป็ น “นายจ้าง” ของ กลุ่มผู้ค้าแผงลอยในเขตเทศบาล ส่งผลให้เทศบาล Durban ต้องกําหนดนโยบายขยายความ ค้มุ ครองและการบริการให้กบั แรงงานนอกระบบ (โดยเฉพาะกล่มุ หาบเร่แผงลอย) นีเป็ นตวั อย่าง ผลสําเร็จของการเจรจาต่อรองระหว่างแรงงานนอกระบบระบบ (กลุ่มหาบเร่แผงลอย) กับ หน่วยงานรัฐบาลท้องถิน ความเคลือนไหวนีสะเทือนไปถึงระดับจังหวัด โดยผู้ว่าการจังหวัด KwaZulu-Natal ได้ริเริม นโยบายส่งเสริมคุ้มครองผู้ทีอยู่ในเศรษฐกิจนอกระบบขึนมาต่อยอดอีก โดยได้เปลียนแปลง มมุ มองทีเคยมองว่าผู้ค้าหาบเร่แผงลอยเป็ นปัญหาต่ออตุ สาหกรรมท่องเทียว มาเป็ นผ้รู ่วมร่วม สร้ างสรรค์เศรษฐกิจให้กับเมือง การเปลียนมมุ มองเช่นนีได้สร้างภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจใหม่ที สามารถดงึ ดดู ได้ทงั นกั ทอ่ งเทียว นกั ลงทนุ และยกระดบั ชีวติ ของแรงงานนอกระบบขนึ มาอกี ด้วย ผลการรณรงค์ทีขับเคลือนโดยกลุ่มแรงงานนอกระบบเหล่านี ยังได้ทําให้แรงงานหญิงในภาค แมบ่ ้านและแรงงานในภาคการเกษตรซงึ ส่วนใหญ่เป็ นแรงงานนอกระบบ ได้รับการค้มุ ครองสิทธิ ทางกฎหมาย รวมทงั สทิ ธิการจดั ตงั สหภาพแรงงานอนั นาํ ไปส่กู ารเจรจาต่อรอง ยกระดบั คณุ ภาพ ชีวิตและการทํางาน (สวัสดิการต่างๆ เพิมขึนรวมทังการพัฒนาฝี มือแรงงาน) และการมี บทบญั ญตั ิกาํ หนดค่าจ้างขนั ตําสาํ หรับคนทํางานบ้านและภาคเกษตร ในรายของของแรงงานทีไม่ มกี ารรวมตวั กนั ต่อรอง ซงึ ปรากฏการณ์นีไมเ่ คยเกดิ ขนึ มาก่อนหน้านี

แรงงานบนเส้นทางรัฐสวสั ดกิ าร [หน้า 98] ทปี ระเทศกานา เมอื สภาสหภาพแรงงานแห่งกานา (Trades Union Congress of Ghana - TUC) พิจารณาวา่ กฎหมายแรงงานฉบบั เกา่ ของประเทศ ไมส่ ามารถค้มุ ครองแรงงานได้ตามสถานการณ์ ทีเปลียนไป โดยเฉพาะการจ้างงานแบบไม่มนั คงและการจ้างงานแรงงานนอกระบบเพิมมากขึน จึงได้เรียกร้องให้มีการพูดคยุ กนั ไตรภาคีระดับประเทศ ด้วยการนําภาคธุรกิจ รัฐ และสหภาพ แรงงานมาหารือร่วมกนั การหารือครังนันส่งผลให้กานามีกฎหมายแรงงานฉบบั ใหม่ในปี ค.ศ. 2003 ซงึ ได้ขยายความ ค้มุ ครองให้กบั แรงงานนอกระบบ โดยมีบทบญั ญัติสําหรับแรงงานชวั คราวและแรงงานทีไม่มีงาน ประจํา เพือให้แรงงานกลุ่มดังกล่าวได้รับค่าจ้างทีเท่าเทียมกัน สําหรับงานทีเหมือนกัน (เมือ เปรียบเทียบกบั แรงงานประจํา) อีกทงั ยงั ได้สิทธิประโยชน์ด้านการรักษาพยาบาลและสวสั ดิการ อืนๆ เช่นเดียวกบั แรงงานประจํา รวมทงั หากแรงงานได้รับการจ้างงานต่อเนืองกนั ไปถงึ หกเดือน หรือมากกวา่ แรงงานเหลา่ นนั กจ็ ะได้รับการบรรจเุ ป็นแรงงานประจําทนั ที ทีอนิ เดยี ในปี ค.ศ. 1999 คณะกรรมการแรงงานแห่งชาติของอินเดีย ได้เสนอแนวคิดบางประการ เพือให้ครอบคลุมด้านสิทธิประโยชน์ต่างๆ แก่แรงงานนอกระบบ เช่น ขยายคํานิยามคนงาน ภายใต้กฎหมายคา่ จ้างขนั ตํา เพอื ให้ครอบคลมุ แรงงานนอกระบบ, การจ่ายค่าจ้างรายชิน เพือให้ สอดคล้องกบั ค่าจ้างทีจ่ายตามเวลาทํางานตามการคํานวณค่าจ้างขนั ตํา, มีการเสนอแนวคิดให้ แก้ไขกฎหมายการจ่ายค่าตอบแทนทีเท่าเทียมกนั เพือใช้บงั คับกับทุกกิจการ ทุกอตุ สาหกรรม และทุกภมู ิภาค, การให้ความค้มุ ครองแก่แรงงานหญิงโดยทวั ถึง ตามโครงการประกนั สขุ ภาพ รวมทงั ขยายสิทธิประโยชน์เรืองการเลียงดลู กู และแรงงานนอกระบบผ้มู ีรายได้น้อยกว่า 300 รูปี (ประมาณ 75 ดอลลาร์ในขณะนนั ) ตอ่ เดือน คณะกรรมการแรงงานแห่งชาติของอินเดียได้ ดําเนินการเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 2002 ข้อเสนอแนะของคณะกรรมการแรงงานแห่งชาติของอินเดียหลายข้อทีได้กล่าวไป ได้ถกู บรรจอุ ยู่ ในร่างกฎหมายประกนั สงั คมของแรงงานทีไม่มกี ารจดั ตงั สหภาพแรงงาน ร่างกฎหมายนีได้รับการ สนบั สนนุ โดย SEWA และองค์กรแรงงานตา่ งๆ ในประเทศอินเดยี อย่างกว้างขวาง 3. การหนุนช่วยจากสหภาพแรงงานและมาตรฐานแรงงานหลกั สาํ หรับแรงงานนอกระบบ

แรงงานบนเส้นทางรัฐสวสั ดกิ าร [หน้า 99] สําหรับขบวนการเรียกร้ องสิทธิแรงงานนอกระบบทีเป็ นการรวมตัวของแรงงานนอกระบบ โดยเฉพาะ และมเี ครือข่ายในหลายประเทศทวั โลกทีสําคญั ๆ มีอาทิ Home Net, Street Net และ เครือข่ายจดั ตงั ผ้หู ญิงในเศรษฐกิจนอกระบบ (Women in Informal Employment: Globalizing and Organizing - WIEGO) เป็นต้น นอกจากนีก็ยงั มีกลุ่มสหภาพแรงงาน (ในระบบ) ระดับโลก และกล่มุ NGO ต่างๆ ทีได้ช่วยกัน พยายามประสานความร่วมมือเพอื แก้ไขปัญหาและเรียกร้องสทิ ธิต่างๆ ให้แรงงานนอกระบบ เช่น สหพนั ธ์แรงงานโลก (Global union federation - GUF) ก็เคยมีโครงการนําร่องในการขยายการ เคลือนไหวเพือค้มุ ครองแรงงานนอกระบบ ด้วยเชน่ กนั เมือมาดูตัวอย่างการปฏิบตั ิทีจริงจังและต่อเนืองของขบวนการแรงงานโลกในการเคลือนไหว ประเด็นแรงงานนอกระบบนี ก็ต้องพูดถึงการทํางานอย่างจริงจังของสมาพันธ์สหภาพแรงงาน สากล (International Trade Union Confederation – ITUC) ทีได้ดําเนินการจดั ตงั แรงงานนอก ระบบอย่างจริงจังในทวีปแอฟริกาตงั แต่ปี ค.ศ. 2000 โดยโครงการที ITUC ได้ริเริมก็มีอาทิเช่น การส่งเสริมดาํ เนนิ การให้มกี ารประกนั สขุ ภาพแกแ่ รงงานนอกระบบในเบนนิ ส่วนในมอริเตเนียนนั มีกองทนุ ดแู ลและเลียงดบู ตุ รของแรงงานนอกระบบหญิง และการจดั ตงั แรงงานนอกระบบหญิงให้ เป็นนกั สหภาพแรงงานอกี ด้วย ในปี ค.ศ. 2002 ITUC ได้ร่วมมือกับพนั ธมิตรสหกรณ์ระหว่างประเทศ (International Co- operative Alliance - ICA) และองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (International Labour Organization - ILO) จดั ตงั โครงการ SYNDI – COOP ทีมีการฝึ กอบรมและให้ทนุ สนบั สนนุ สหกรณ์คนงานหลายแห่งในแอฟริกา เช่น สหกรณ์ออมทรัพย์ของสมาคมคนซ่อมและช่างขัด รองเท้าแห่ง Kampala ในประเทศอูกานดา, ให้ความช่วยเหลือสหกรณ์คนงาน Kagera ใน ประเทศแทนซาเนีย (สหกรณ์คนงานแห่งนีมีความเชือมโยงกบั ชาวไร่กาแฟกว่า 90,000 คน) รวมทงั ให้ความช่วยเหลือสหกรณ์คนงานขนาดเล็ก Wamumo ประเทศเคนยา่ และในปี ค.ศ. 2007 ITUC กไ็ ด้รณรงค์ขยายสทิ ธิทางสงั คมและกฎหมายให้กบั แรงงานนอกระบบ ในบรู ์กนิ า ฟาโซ อีกด้วย

แรงงานบนเส้นทางรัฐสวสั ดิการ [หน้า 100] มาตรฐานสากลดา้ นแรงงานของแรงงานนอกระบบ ตามคําประกาศของ ILO เมือปี ค.ศ. 1998 ว่าด้วยหลกั การพืนฐานและสิทธิในทีทํางานนนั ถือว่า เป็นจดุ เริมต้นของการอภิปรายเรืองสิทธิแรงงานนอกระบบ นอกเหนือกรอบความสมั พนั ธ์แบบมี นายจ้างชดั เจนเพยี งอย่างเดยี วเชน่ เมอื กอ่ น แม้วา่ อนสุ ญั ญา ILO ฉบบั ที 87 และฉบบั ที 98 ทถี ือว่าเป็นมาตรฐานแรงงานขนั พืนฐานทนี ่าจะให้ การครอบคลมุ ประเด็นเรืองสิทธิแรงงานทีสําคัญ แต่ก็มกั จะเกิดช่องว่างด้านสิทธิทีเห็นได้ชัด ระหว่างแรงงานในสถานประกอบการ กับแรงงานทีอยู่ข้างนอก ซึงรัฐบาลและนายจ้างมักจะ ปฏิเสธการรวมตัวเพือเจรจาต่อรองของกลุ่มคนงานนอกระบบ เหมือนกับกรณีของกฎหมาย แรงงานในหลายๆ ประเทศทีมกั จะไมค่ ้มุ ครองแรงงานทไี มม่ ีนายจ้างอยา่ งชดั เจน นอกจากนีอนสุ ญั ญา ILO ฉบบั ที 29, 105, 138, และ 182 กม็ ีเป้ าหมายทจี ะขจดั แรงงานเด็กและ แรงงานบงั คับ ซึงส่วนใหญ่แรงงานทังสองประเภทนี หากยังจะมีอยู่พวกเขาก็มักจะอยู่ในภาค เศรษฐกจิ นอกระบบ และการจ้างแรงงานเด็กและแรงงานบงั คบั ก็เกิดมาจากสภาพความยากจน เกือบทงั สิน สว่ นแรงงานข้ามชาติก็มีความเสียงทีจะถกู กดขีและส่วู งจรธุรกจิ ค้ามนษุ ย์ด้วยเชน่ กนั อนสุ ญั ญา ILO ฉบบั ที 100 และ 111 ทีส่งเสริม “การขจดั การเลือกปฏิบตั ิทกุ รูปแบบในการจ้าง งานและการประกอบอาชีพ” โดยอนสุ ญั ญา ILO ฉบบั ที 100 นนั กาํ หนดให้รัฐทใี ห้สตั ยาบนั ปฏิบตั ิ ตามนโยบายค่าตอบแทนในการทํางานทีเท่ากันของชายและหญิง ซงึ มีงานทีมีค่าเท่าเทียมกัน และมีผลต่อแรงงานทงั หมด รวมถงึ แรงงานนอกระบบด้วย ส่วนอนสุ ญั ญา ILO ฉบบั ที 177 ว่า ด้วยการรับงานไปทําทีบ้าน นบั เป็นอนสุ ญั ญาฉบบั แรกของ ILO ทกี าํ หนดขนึ เพือค้มุ ครองแรงงาน “ผ้รู ับงานไปทําทบี ้าน” สําหรับมาตรฐานแรงงานของ ILO ฉบบั ใหม่เอียม ทีดจู ะเจาะจงครอบคลมุ แรงงานนอกระบบที สําคญั ก็คือ อนสุ ญั ญา ILO ฉบบั ที 189 ว่าด้วยแรงงานทํางานบ้าน (Convention on Domestic Workers, 2011) และข้อเสนอแนะ (Recommendation) ฉบบั ที 201 โดยมาตรฐานแรงงานของ ILO ฉบับใหม่นีจะช่วยให้แรงงานทํางานบ้านทัวโลกทีช่วยดูแล ครอบครัวและครัวเรือน ได้รับสทิ ธิขนั พืนฐานทแี รงงานอืนๆ ได้รับ อาทิ มชี วั โมงการทํางานอนั ควร


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook