พญ. ชนญั ญา ศรหี ะวรรณ์ แพทย์ผเู้ ชีย่ วชาญสาขาอายุรศาสตร์ รพ. สมิตเิ วช สขุ ุมวทิ ระบวุ ่า นอกจากการสบู บุหร่จี ะสง่ ผลกระทบต่อ สุขภาพ โดยเฉพาะโรคเกีย่ วกับระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคหอบหืด ปอดอุด ตันเรื้อรงั (COPD) ภาวะการหายใจล้มเหลวเฉียบพลนั (ARDS) โรคถุงลมโป่ง พอง รวมถึงโรคร้ายแรงอย่างมะเร็ง การสูบบหุ รี่หรือแม้แต่บุหรี่ไฟฟา้ ยังเปน็ การแพร่ระบาดของเชื้อไวรสั สู่ผู้อื่นอีกด้วย เนื่องจากควัน หรือละอองไอของ บหุ ร่ที ถ่ี ูกพ่นออกมา ประกอบด้วยสารคัดหลงั่ น้าลาย เสมหะ และแบคทเี รีย ซง่ึ สามารถกระจายไปได้ไกล หากผู้สูบบุหรี่เป็นผตู้ ิดเชื้อโรคโควดิ -19 จะท้าให้ เกิดการแพร่กระจายเชื้ออย่างรวดเรว็ องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ไดต้ อบข้อสงสยั เรือ่ งบหุ รีเ่ พิ่มความ เสี่ยงต่อการเกิดโรคโควิด-19 ไวว้ ่า ผสู้ ูบบุหรีม่ ีแนวโนม้ ที่จะเสี่ยงต่อการติดเชื้อ โควดิ -19 เพิ่มข้ึน เนื่องจากขณะสบู บหุ รม่ี ือและน้วิ อาจมีเชื้อโรคอยู่ เมื่อ สมั ผสั กบั รมิ ฝีปาก ซง่ึ เป็นช่องทางที่เชื้อโรคเข้าสู่รา่ งกายได้
นอกจากนี้การสูบบุหรีย่ ังอาจส่งผลให้ผสู้ บู มีภาวะโรคปอด หรือโรค เกีย่ วกบั ระบบทางเดินหายใจอืน่ ๆ ซง่ึ ทา้ ให้ความจุของปอดลดลง จึงเพิม่ ความ เสีย่ งต่อการเจบ็ ป่วยทร่ี ุนแรงมากกว่าผู้ที่ไมส่ บู บหุ รี่ นอกเหนือจากบุหร่แี ลว้ ผลิตภัณฑ์ยาสูบอื่นๆ เช่น บุหรี่ไฟฟ้า หรือ มอระกู่ ทน่ี ิยมสูบกันในสถานบันเทงิ ส่วนใหญ่มกี ารแบง่ ปันหรือแชร์กนั สบู แม้ จะใชอ้ ปุ กรณท์ ่สี ัมผสั ปากแยกกัน แต่ใชก้ ระบอกและสายเดียวกนั จะยิ่งเพิ่ม ความเสีย่ งต่อการแพร่กระจายของเชื้อโควิค-19 รวมถึงไวรัสทางเดินหายใจ อื่นๆ ในวงกว้างอีกด้วย
ขอ้ มูลจากวารสารทางวิทยาศาสตร์ของอเมริกา ระบวุ า่ พบผู้ปว่ ยโควิด-19 ทม่ี ี ประวตั กิ ารสูบบุหร่มี ีอาการรนุ แรงกว่าผู้ที่ไม่ไดส้ ูบบุหรีถ่ ึง 14 เท่า นอกจากนี้ ผลการวจิ ัยยัง ระบอุ กี ว่าไม่ใช่เฉพาะผู้สูบบหุ รีเ่ ทา่ น้ันท่ตี อ้ งเผชิญกับปัญหาการติดเช้ือ แต่บุคคลรอบข้างที่ ไดร้ ับควันบหุ ร่ี (Secondhand Smoke) หรือควนั ท่ตี ดิ ตามเสื้อผ้าและข้าวของเครือ่ งใช้ก็มี ความเสีย่ งที่จะตดิ โรคระบบทางเดนิ หายใจมากขึน้ อีกดว้ ย หนงั สือพมิ พ์เดอะ การ์เดยี น (The Guardian) ได้รายงานบทสัมภาษณ์ ศาสตราจารย์จอนห์ วิลซัน (John Wilson) ประธานการแพทย์วิทยาลยั แพทย์แห่ง ออสเตรเลยี และแพทย์ระบบทางเดินหายใจถึงผลกระทบร้ายแรงทั้งหมดของโรคปอดบวม ในผู้ปว่ ยด้วยโรคโควดิ -19 พบวา่ สามารถแบง่ ออกเปน็ 4 ประเภท ดังน้ี • ความรุนแรงน้อยทีส่ ุดคอื ผู้ท่มี ีไวรัส แต่ไม่มีอาการ • ผู้ทต่ี ิดเชื้อในระบบทางเดินหายใจส่วนบน มีอาการไข้และไอเล็กน้อย ส่วนใหญ่ไม่รตู้ วั ว่า ติดเชื้อไวรสั แต่สามารถแพร่เชือ้ ได้ • กลุ่มใหญ่ท่สี ดุ ทีเ่ ป็นผลตรวจเชอื้ ไวรัสเป็นบวก หรือปว่ ยเปน็ โรคโควิด-19 ตอ้ งพกั รักษา ตวั ในโรงพยาบาล • กลุ่มผู้ติดเชือ้ ทีม่ ีอาการรุนแรง มักพบในผู้มีโรคประจา้ ตวั และผู้สงู อายมุ ากกว่า 70 ปี มี ภาวะปอดอกั เสบและการพฒั นาโรคขน้ั รนุ แรง มีแนวโน้มเสียชีวิต ผู้สูบบุหรีส่ ว่ นใหญอ่ ยู่ในกลุ่มอาการรนุ แรง โดยเมื่อติดเช้ือไวรสั โคโรนา (SARS- CoV-2) มกั พบอาการไอ หายใจลา้ บากและหอบเหน่อื ย เนื่องจากการติดเช้ือในระบบเดิน หายใจส่งผลให้เกิดการอกั เสบและสญู เสียความสามารถของปอดในการนา้ ออกซิเจนเข้าสู่ ร่างกาย ซึ่งผู้ทีม่ ีภาวะออ่ นแอด้วยโรคประจ้าตวั โดยเฉพาะโรคระบบทางเดนิ หายใจ รวมถึง ผู้ที่ปอดไม่แขง็ แรงเน่อื งจากสูบบุหรีเ่ ปน็ ประจา้ การติดเช้ือจะลกุ ลามรวดเร็วและรุนแรง เนื่องจากอาการปอดอกั เสบทา้ ให้ร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ สง่ ผลถึงอวยั วะระบบ อ่นื ๆ เชน่ หวั ใจ ไต ฯลฯ และอาจเสยี ชีวติ ได้
• เตรียมอาหาร ยา และอปุ กรณ์การแพทย์ที่จ้าเปน็ เพียงพอเป็นเวลา 2-3 สัปดาห์ ในกรณีที่ไม่สบายหรือต้องการแยกตัวเอง • อยู่ห่างจากผู้ป่วยติดเชื้อ • งดเยีย่ มผู้ปว่ ยในโรงพยาบาลทกุ กรณี • หลีกเลย่ี งการออกจากบ้าน โดยเฉพาะสถานที่ท่มี ีผู้คนหนาแน่น • งดการเดินทางไปต่างประเทศเด็ดขาด • ลา้ งมือใหส้ ะอาดบ่อยๆ ดว้ ยน้าและสบคู่ รั้งละ 20 วินาที • อย่าสัมผัสปาก จมกู และดวงตา ดว้ ยมือที่ยังไม่ไดล้ า้ ง • หากเปน็ ผู้ป่วย ปรึกษาแพทย์และรับยาใหเ้ พียงพอ เพื่อหลกี เลย่ี งการไป โรงพยาบาลโดยไม่จ้าเปน็ • ดูแลสขุ ภาพใหแ้ ขง็ แรง ดว้ ยการออกกา้ ลงั กาย รบั ประทานอาหารทีป่ รุงสกุ ใหม่ และอุดมดว้ ยคณุ ค่าทางอาหาร • ติดตามข่าวสารการระบาดของโรคอย่างมีสติ และปฏิบตั ิตามคา้ แนะนา้ ของ แพทย์ • หลีกเลย่ี งการเสพข่าวมากจนเกดิ ความเครียด
• พญ. ชนญั ญา ศรีหะวรรณ์ แพทย์ผเู้ ชี่ยวชาญสาขาอายรุ ศาสตร์ รพ. สมิตเิ วช สขุ มุ วทิ • scientificamerican.com
Search
Read the Text Version
- 1 - 7
Pages: