หนังสืออเิ ลก็ ทรอนิกส์เรื่อง องคป์ ระกอบการแสดงละครเวที โดย พมิ ลกานต์ กาศวเิ ศษ สาขาเทคโนโลยแี ละส่อื สารการศกึ ษา คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวิทยาลยั นเรศวร
คานา หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เล่มน้ีเป็นส่วนหนึ่งของวิทยานิพนธ์หัวข้อการพัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง การจัดองค์ประกอบการแสดงละครเวที สาหรับนิสิตปริญญาตรีสาขาเทคโนโลยีและส่ือสารการศึกษา จัดทาข้ึนเพื่อหาแนวทางในพัฒนาความรู้เรื่องการจัดองค์ประกอบประกอบการแสดงละครเวทีโดยการใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เปนส่ือ นิสิตปริญญาตรีสาขาเทคโนโลยีและสื่อสารการศกึ ษา เปนอีกแนวทางในการศึกษา ความรู้เร่ืองการจัดองค์ประกอบประกอบการแสดงละครเวที ซึ่งจะกล่าวถึงความรู้เบื้องต้นขององค์ประกอบละครเวทีท่ีกล่าวถึงเร่อื งรูปแบบเวทีต่าง รูปแบบฉาก การจัดแสง เป็นต้นเพื่อความเข้าใจท่ไี ดจ้ ากหนงั สืออิเลก็ ทรอนิกส์เลม่ น้มี าปรับใชก้ บั การเรยี นวชิ าในระดับทท่ี ่านต้องการศกึ ษา รายงานฉบับนี้ ทางผจู้ ดั ทาหวงั เปน็ อย่างยิง่ ว่าผู้ศกึ ษาทุกทา่ นจะได้รบั ประโยชนจ์ ากการศกึ ษาจากหนงั สอือิเล็กทรอนกิ สเ์ ล่มนไ้ี มม่ ากกน็ อ้ ย หากมขี อ้ บกพร่องประการใด คณะผู้จดั ทาขออภยั มา ณ ท่นี ี้ดว้ ย พมิ ลกานต์ กาศวิเศษ 21 พฤศจิกายน 2561
สารบญัเรือ่ ง หนา้บทท่ี 1 ความรเู้ บ้อื งต้นของการองคป์ ระกอบการแสดงละครเวที 1ความหมายของโรงละคร………………………………………………………………………………………….1รปู แบบเวทีการแสดงละครประเภทต่างๆ……………………………………………………………………1บทท่ี 2 รูปแบบฉากและสไตลข์ องฉาก…………………………………………………………………………………7รูปแบบฉาก…………………………………………………………………………………………………………….7สไตล์ของฉาก…………………………………………………………………………………………………………12บทที่ 3 เคร่อื งประกอบฉากการแสดงและเวที…………………………………………………………………….16เครื่องประกอบฉาก………………………………………………………………………………………………….16สว่ นประกอบฉาก…………………………………………………………………………………………………….17เครอ่ื งประกอบการแสดง………………………………………………………………………………………….17สว่ นประกอบตวั ละคร……………………………………………………………………………………………..18สว่ นประกอบฉาก……………………………………………………………………………………………………18เคร่อื งประดบั เสือ้ ผา้ ตวั ละคร…………………………………………………………………………………...19โป๊ะไฟและเคร่ืองใช้ไฟฟ้า………………………………………………………………………………………….19เทคนคิ พเิ ศษตา่ งๆ…………………………………………………………………………………………………….20บทท่ี 4 แสง สี ในการทาละครเวที………………………………………………………………………………………..21ความรู้เบอ้ื งตน้ เรื่องแสง สี……………………………………………………………………………………….21แสง สี กับอารมณข์ องการแสดงละครเวที…………………………………………………………………..25ข้นั ตอนการออกแบบแสง สี……………………………………………………………………………………….28เอกสารอา้ งอิง…………………………………………………………………………………………………31
1 1.1 ความหมายของโรงละคร คือ อาคารสถานท่ีที่ใช้ประกอบกิจกรรมการแสดง ละครและการแสดงประเภทอ่นื ๆเป็นสงิ่ ท่ีก่อสร้างเป็นศนู ย์กลางในการประกอบกิจกรรมต่างๆและเปน็ สถานท่ี อันทรงคุณค่าแห่งความภาคภูมิใจของประชาชนในท้องถ่ินเพราะเป็นสถานท่ีประกอบกิจกรรมทางด้านศิลปะ แขนงต่างๆรวมท้ังด้านการแสดงซ่ึงจะมีลักษณะแบบเปิดหรือแบบเปิดก็ได้ตามวัตถุประสงค์ แต่แบบการจัดที่ นั่งมีอิทธิพลต่อแนวความคิดในการผลิตการแสดงโรงละครทุกประเภทในปัจจุบันมีด้วยกัน 4 แบบคือ 1.proscenium stage 2.proscenium stage with extended apron 4.thrust stag และ 5.arena stage โดยมสี ว่ นประกอบที่สาคัญ 2 ส่วน คือ เวทีท่ีใช้สาหรับการแสดงและทีน่ ัง่ ผชู้ ม 1.2 รปู แบบเวทีการแสดงประเภทต่างๆ การจัดแสงในทางศิลปะการแสดงยังมีปัจจัยสาคัญอีกประการหนึ่งท่ีเข้ามาเกี่ยวข้องกับการจัดแสงให้ ประสบความสาเรจ็ ได้อย่างสวยงามคือ ความเข้าใจท่ีถูกต้องเกี่ยวกับพน้ื ท่ีและลักษณะของเวทีการแสดงในแต่ ละประเภทที่มีความเหมาะสมตรงตามวตั ถุประสงค์ในการจัดการแสดงใน แต่ละรปู แบบน่นั เอง พัฒนาการของเวทีจัดการแสดงตามหลักฐานในทางสถาปัตยกรรมปรากฏเห็นเด่นชัดต้ังแต่ยุคสมัยที่ อาณาจักรกรีกโบราณมีความเจริญรุ่งเรือง ปรากฏโรงละครและเวทีการแสดงในยุคแรกที่เรียกว่า กรีก เธียร์ เตอร์ (Greek theater) ซึ่งมีลักษณะเป็นวิธีทรงกลม ตั้งอยู่กลางผู้ชมท่ีน่ังห้อมล้อมในลักษณะพัดคลี่กระจาย ออกเปน็ สามเหลีย่ มลอ้ ม รอบเวที
โดยมี ลานเวทที รงกลมในโรงละครแบบกรีกเธยี รเ์ ตอร์เรียกว่า ลานออเคสตร้า (Orkestra) เป็นลานทรงกลมที่ใช้ในการจัดกิจกรรมทางศาสนาและการแสดงละคร ซึ่งเวลาของการแสดงมักข้ึนอยู่กับแสงของดวงอาทิตย์เป็นหลัก เนอื่ งจากมนุษย์ยังไม่สามารถคิดประดิษฐ์ไฟฟา้ มาใชใ้ นกิจกรรมการแสดงได้ ดงั น้ันการแสดงละครในอดีตจงึ ต้องอาศัยเวลาการข้นึ -ลงของดวงอาทติ ย์ เปน็ แหลง่ กาเนิดแสงหลักในการจดั กจิ กรรมการแสดง ลานออเคสตรา้ (Orkestra) มติชนรายวนั . (2017) สบื คน้ จาก https://www.matichon.co.th/columnists/news_469370 รูปแบบเวทีการแสดงในแต่ละประเภทจะมีความแตกต่างกันในด้านตาแหน่งมุมมองของผู้ชม ซึ่งการติดต้ังฉากและอุปกรณ์แสงก็จะมีความแตกต่างกันออกไปด้วย ตามลักษณะพื้นท่ีของเวทีน้ันๆ ฉะนั้นเราจึงมีความจาเป็นท่ีจะต้องเข้าใจลักษณะเวทีของและส่วนประกอบต่างๆ เพื่อที่จะสามารถเข้าใจลักษณะพ้ืนที่ของการแสดงที่มคี วามสัมพันธ์กับการจัดแสงและสามารถเรียกชื่อได้ถูกต้องตามมาตรฐานสากลดงั รายละเอยี ดของเวทีหลักๆ ทสี่ าคญั ดังตอ่ ไปน้ี1.2.1 โพรซีเนียม สเตจ (Procenium Stage) โพรซีเนยี ม สเตจ (Procenium Stage) Panther Play-House. สืบค้นจากกhttps://www.pinterest.com/pin/58124651419242667/?lp=true เป็นเวทีได้รับความนิยมมากท่ีสุด โดยมีลักษณะพ้ืนที่ของเวที แบบสี่เหล่ียมจตุรัสมีกรอบ ส่ีเหล่ียมอยู่ด้านหน้าเวที เพื่อบังคับสายตาของผู้ชมได้เห็นการแสดงเฉพาะพ้ืนท่ีของเวทีท่ีต้ังอยู่เบื้องหลังกรอบส่ีเหล่ียมดา้ นหนา้ เวทีเทา่ นนั้
ส่วนประกอบของเวทีแบบโพรซีเนยี ม สเตจ แบ่งออกได้ดงั ต่อไปนี้ 1.กรอบสีเ่ หลีย่ มดา้ นหน้าเวทีกรอบส่ีเหลีย่ มด้านหน้าเวทีแบบโพรซีเนยี ม สเตจ เรยี กวา่ โพรซีเนยี ม อาร์ค (Procenium Arch) เปน็ กรอบเวทีทีแ่ บง่ พื้นทขี่ องการแสดงบนเวทีกับพน้ื ที่ของผชู้ มภายในโรงละครออกจากกนั ขนาดของโพรซีเนียมอาร์ค จะมีขนาดใหญเ่ พียงใดขึน้ อยู่กบั ขนาดของเวทีและความจุของโรงละคร 2. พื้นทเ่ี วทีพ้นื ที่เวทแี บบโพรซีเนยี ม สเตจ คือ พืน้ ท่ีส่วนทอ่ี ยดู่ ้านหลงั กรอบโพรซีเนียม อาร์ค มีลกั ษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตรุ ัส บริเวณส่วนพืน้ ทขี่ องเวทคี วรมคี วามราบเรียบไมล่ ่ืนและมีความคงทนตอ่ การขูดขีด เนือ่ งจากมกี ารเคลอื่ นย้ายฉากเข้ามาประกอบอยบู่ นเวทตี ลอดเวลาของการเตรียมงานและการแสดงบนพ้ืนทีเ่ วทแี ห่งน้ี 3. ผา้ ระบายบริเวณด้านบนเวทเี หนือศรีษะของนกั แสดง จะมีผา้ ระบายแถบยาวแขวนใกล้ กับบริเวณบาร์แขวนไฟ ทาหน้าที่เพื่อซ่อนโคมไฟทส่ี องลงมาจากดา้ นบน เวที ส่วนมากมกั จะใชส้ ดี าเพ่ือให้กลมกลืนและไม่เปน็ จุดเด่นต่อสายตาของผู้ชม ผา้ ระบายดา้ นบนน้ีเรียกวา่ บอร์ดเดอร์ (boarder) นอกจากน้ันยังมีผ้าแถบยาวทห่ี ้อยลงมาจากปกีด้านข้างของเวทีทงั้ สองขา้ ง เราเรียกผา้ ระบายบรเิ วณปีกด้านข้างน้ีว่า วงิ (wings) วงิ ในความหมายของงานด้านเวทหี มายถงึ พนื้ ที่ด้านข้างของเวทีท่ีใชส้ าหรบั การเก็บฉากอยู่ทีพ่ ักนกั แสดงเพ่ือเตรียมออกสเู่ วที และพื้นที่ควบคุมของผคู้ ุมเวทที ่ีคอยช่วยประสานงานกับเจ้าหนา้ ทฝ่ี า่ ยตา่ งๆซึง่ ส่วนใหญ่จะอยู่ขอบเวทดี ้านซา้ ยมือ ส่วนวงิ ที่เป็น ผา้ ระบายด้านขา้ งทง้ั สองฝง่ั จะเปน็ สงิ่ ท่ชี ่วยใหน้ ักแสดงมีประตทู างออกเขา้ ออกสเู่ วทีมากขึ้นโดยปกติเวทีแบบโพรซเี นยี ม สเตจ จะมผี า้ ระบายด้านข้างตัง้ แต่ 3-5 และมักจะใชส้ ีเขม้ เปน็ สีพนื้ ของผา้ ระบายบริเวณวงิเวที 4. เวทเี สรมิพื้นทเ่ี วทีสว่ นยื่นเพิ่มเติม บริเวณด้านหน้ากรอบโพรซีเนียม อาร์ค เรยี กว่า อัพรอน (APRON) เป็นที่นยิ มใชเ้ ม่ือต้องการให้นกั แสดงเข้าใกล้ผู้ชมมากข้ึน หรอื เพื่อใชส้ าหรบั การแสดงย่อยหนา้ ม่านวิธีในขณะที่มีการเปลี่ยนฉากขนาดของอัพรอน จะมคี วามกว้างมากกว่าพื้นทข่ี องเวที ส่วนของความลึกของเวทมี ีไดต้ ้ังแต่ 3-4 ฟตุ จนถึง 10-15 ฟุต
5. หลุมบรรจวุ งดนตรีหลุมบรรจวุ งดนตรี หรอื เรียกอีกอย่างหนงึ่ ว่า ออเคสตรา้ พิท (Orchestra Pit ) ตัง้ อย่สู ว่ นหนา้ สดุ ของเวทโี พรซีเนยี ม เปน็ พ้นื ทท่ี ี่ใชส้ าหรับการแสดงดนตรปี ระเภทวงออเคสตร้า มีลกั ษณะพื้นท่ีท่ีสามารถเล่ือนขนึ้ ลงได้ออเคสตรา้ พิท มีความลึกประมาณ 8-15 ฟุต หรือมากกว่า แตต่ อ้ งสามารถบรรจนุ กั ดนตรีไดป้ ระมาณ 40-60และมีระดับความลึกลงไปจากเวทโี ดยขณะท่นี ักดนตรีและผู้ควบคมุ วงยนื ขน้ึ จะไม่ยืนบดบังผชู้ มในขณะชมการแสดงละครประกอบการบรรเลงดนตรี เช่น การแสดงบลั เล่ต์ ประกอบการบรรเลงดนตรีออเคสตร้า พิท มักจะใชพ้ นื้ ลฟิ ตเ์ ลื่อนข้ึนลงได้ โดย ใชร้ ะบบไฮดรอลิกลิฟต์ เวทโ่ี พซเี นียม สเตจ มกั พบเห็นได้ท่วั ไปตามโรงละครใหญๆ่ เช่น หอประชุมใหญ่ศนู ย์วัฒนธรรมแหง่ ประเทศไทยหรอื โรงละครสยามนิรมิต เป็นตน้ สาหรับการจัดแสงเวทีประเภทน้ีสามารถติดตัง้ โคมไฟประเภทต่างๆ ได้จากหลายตาแหนง่ ไม่วา่ จะมาจากด้านบนเหนอื บนศีรษะของนักแสดง จากมุมดา้ นหน้าเวทีหรือมทุ ะแยง จากด้านข้างของเวทีทั้งสองข้าง เพ่ือช่วยใหส้ ามารถกาหนดความหลากหลายของทิศทางอันจะส่งผลต่อการจัดรปู แบบแสงการแสดงในการช่วยสร้างมิติของบรรยากาศ การแสดงไดอ้ ยา่ งสมบรู ณ์1.2.2 ธรัส สเตจ (Thrust Stage) เปน็ เวทีทมี่ ีสว่ นยนื่ ของเวทียน่ื เข้าหาผู้ชมผ้ชู มสามารถน่งั ชมการแสดงได้ 3 ดา้ นและเป็นเวทที ่ีนักแสดงสามารถเคล่ือนไหวในขณะทาการแสดงใกลช้ ดิ กับผชู้ มไดอ้ ยา่ งเป็นธรรมชาติมากกวา่ การแสดงบนเวทีแบบโพรซเี นยี มสเตจเวทแี บบธรัสสเตจ เป็นวิธที ีช่ ว่ ยให้ผูช้ มสามารถรบั ชมการแสดงในมุมท่ีตา่ งกนัทงั้ 3 ดา้ น และส่วนใหญท่ ีน่ ่ังของผชู้ มมักจะมีระยะห่างจากเวทไี ม่มากนักเนอ่ื งจากที่นง่ั ของผชู้ มจะกระจายรอบๆ เวทที ้งั สามด้าน ส่วนอีกหน่งึ ด้านซึ่งเป็นดา้ นหลังของเวทจี ะเป็นที่ติดตง้ัฉาก ละครโดยไม่กีดขวางมมุ มองของผชู้ ม การจดั แสงสาหรบั เวทปี ระเภทนี้มักจะมาจากบริเวณด้าน ข้างของเวทีทัง้ สามด้านเป็นหลัก สว่ นพ้ืนที่ท่ีไมส่ ามารถจัดต้ังโคมไฟไดค้ ือ การติดต้ังแสงส่องจากบรเิ วณเหนอื ศรีษะของ
นักแสดงในลักษณะ Down Light จึงเป็นขอ้ จากดั หน่ึงในการสร้างบรรยากาศของการจัดแสง สี โดยเฉพาะอยา่ งยิง่ การกระจายพื้นทีข่ องแสงบนเวที และการกาหนดจุดของแสงบนเวทีประเภทน้ี 1. 2. 3 อารีน่า สเตจ ( Arena Stage) เป็นเว ทีลักษณ ะ ซี เ รี ย ม ที่ตั้งวางอยู่ท่ามกลางผู้ชมน่ังล้อมรอบท้ังสีด้านโดยที่นั่ง ของผู้ชมมีความใกล้ชิดกับนักแสดงมาก การใช้จาก สาหรับการแสดงบนเวทีประเภทน้ีมีการใช้จานวนที่ ค่อนข้างน้อยมากเพื่อไม่ให้บังมุมมองของผู้ชมทั้ง 4 ด้าน และเปน็ การลดการเปลี่ยนฉากให้มากท่สี ุด สาหรับการจดั แสง ในเวทีประเภทน้ีจะมาจากการแขวนโคมไฟดา้ นบนของเวทีและ มุมของเวทที ีม่ ตี าแหนง่ การแขวนโคมไฟทง้ั 4 ดา้ นการจดั แสงสาหรับเวทปี ระเภทนี้เปน็ การจัดแสงท่มี ีระยะห่างระหวา่ งเวทแี ละตาแหน่งในระยะทางท่ีคอ่ นข้างไกล ดังน้นั การเลือกใชโ้ คมไฟในการสองพนื้ ทเ่ี วทีการแสดงในลกั ษณะน้ีจงึ ต้องใช้โคมไฟที่มกี าลังวัตตส์ งู และตดิ ต้งั กบั โครงเหล็กทสี่ ามารถชกั รอกดว้ ยรอกไฟฟ้าขนึ้ ส่ดู ้านบนของเวทีได้ นอกจากนัน้ ยังสามารถติดตั้งโคมสอ่ งระยะไกลจากมุมเวทีทง้ั 4 ด้าน เพือ่ สองแสงใหล้ งสู่พนื้ ท่ีของเวทไี ด้ครอบคลุม
เวทตี ามแนวขวาง (Traverse Stage) Q Theatre – Rangatira. สืบคน้ จาก https://touringselector.com/venue/10242/q-theatre-rangatira1.2.4 เวทีตามแนวขวาง (Traverse Stage)ซึ่งเป็นเวทีตามแนวยาวแบ่งแยกผู้ชมออกเป็นสองข้างของเวที โดยให้ผู้ชมท้ังสองด้านหันหน้าเข้าหาเวที การจัดแสงสาหรบั เวทีในลกั ษณะน้จี ะตงั้ โคมไฟสองจากบริเวณด้านนอกของที่นัง่ คนดยู กระดับสูง
2 รูปแบบฉากและสไตลข์ องฉาก หน้าทหี่ ลักสาคญั ของฉาก คือเปน็ สถานทีท่ ี่เปน็ สิ่งแวดล้อมหรือสภาพแวดลอ้ ม สาหรบั การแสดงสถานทน่ี ี้ได้รับการออกแบบเพ่ือที่จะเน้นการกระทาและความขดั แย้งของตัวละครฉากจะต้องบอกใหท้ ราบถึงสถานทใ่ี นละครในเวลาใดเวลาหนงึ่ ท่ีแนน่ นอน เช่น กลางวัน กลางคนื ปีศักราชใดยุคสมยั ใดในประวัติศาสตร์ หรือฤดูกาลของปที เ่ี กิดเหตุการณ์แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงด้านกาลเวลาในฉากต่างๆตอ้ งทาให้แลเห็นถึงสภาพแวดล้อมของตวั ละครอย่างเดน่ ชัด 2.1 รูปแบบฉาก คือ ลกั ษณะโครงสร้างดา้ นหนา้ ฉาก ซึ่งประกอบกันเขา้ หลายๆส่วนเพอ่ืสรา้ งสถานทีใ่ หแ้ ก่ตวั ละคร และเป็นแบ็กกราวนดเ์ บื้องหลังให้แก่ตวั ละครบนเวที ลกั าระโครงสรา้ งดา้ นหนา้ นี้เป้นแนวทางในการออกแบบฉากและฉาก และมีส่วนสมั พันธกื ับสไตลก์ ารแสดงแตล่ ะสไตลด์ ว้ ยการเคลอ่ื นไหวของนักแสดงและสถานการณต์ ่างๆ ของเร่ืองมีความผูกพันกับรูปแบบฉากโดยตรง เราสามารถแบ่งสถานท่ใี นฉากออกเปน็ 3 ชนิด คือ 2.1.1 ฉากภายใน คอื ฉากท่ีแสดงว่าเปน็ สถานทภ่ี ายในของสิ่งใดส่ิงหน่งึ ประกอบดว้ ยกาแพงอย่างน้อย 1 ดา้ นหรือมเี ครื่องประกอบฉากการแสดงและเวทเี ป็นสื่อความหมายตัวอยา่ งภายใน ไดแ้ ก่ในเคร่อื งบิน บนเรือ บนรถประจาทาง เป็นตน้ฉากภายใน Kroomodx สบื คน้ จาก https://www.dek- ฉากภายนอก สถาปัตยกรรมศาสตร์ ,ม.รังสติ สืบค้นจาก http://www.jr-d.com/quiz/supertest/45828/ rsu.net/article/2124
2.1.2 ฉากภายนอก คือ ฉากท่ีแสดงสถานทีท่ ่เี ป็นภายนอกอาคาร ทีอ่ ยู่อาศัย ไดแ้ ก่ ในสวน ชายคาบ้าน รว้ั หน้าบ้าน ในป่า บนเขา หรือส่วนใดก็ได้ท่สี ามารถแลเห็นทอ้ งฟ้าปกคลมุ หรือแลเห็นปรากกการณ์ทางธรรมชาติอย่างเด่นชดั อาจจะมสี ่งิ ใดสง่ิ หนึ่งเปน็ การสื่อความหมายก็ได้ เช่น เสาไฟฟา้ ม้านงั่ ในสวน ต้นไม้ใหญ่รัว้ บา้ น เปน็ ตน้ 2.1.3 ฉากแบบผสมระหว่างฉากภายในกับฉากภายนอก มลี กั ษณะการออกแบบฉากใหแ้ ลเหน็ ทง้ั ฉากภายในและฉากภายนอกไปพรอ้ มๆกนั เมอื่ งต้องการแลเห็นแต่ภายในหอ้ งก็เปดิ แสงเฉพาะสว่ นนตี่ อ้ งการให้แลเหน็ และเม่ือตอ้ งการแลเห็นภายนอก ก็เปิดแสงสว่างเฉพาะภายนอก และเมือ่ ต้องการใหแ้ ลเหน็ ฉากภายในและฉากภายนอกไปพร้อมๆกัน กเ็ ปดิ แสงข้ึนทงั้ หมดเราสามารถแบง่ รูปแบบฉากได้ 2 วธิ ี คอื 1.แบ่งออกเป็นรูปแบบฉากย่อยจานวนมากตามลักษณะรายละเอยี ดโครงสรา้ งและเทคนิคใช้ในการสอ่ื ความหมายและลาดับเหตุการณท์ ปี่ รากฏแกส่ ายตาของผูช้ ม 2.แบง่ ออกเป็นรปู แบบฉากย่อย 4 กลมุ่ โดยไม่เนน้ รายละเอยี ดโครงสร้าง 1. รปู แบบฉากอยา่ งละเอยี ด แบง่ ตามลกั ษณะรายละเอียดโครงสร้างและเทคนิคท่ใี ช้เทคนคิ ท่ใี ชใ้ นการส่ือความหมายและลาดับเหตุการณท์ ่ีปรากฏแกส่ ายตาของผูช้ มได้ดังนี้ คอื Box set หรอื box setting ได้แก่ รปู แบบฉากที่เปน็ ฉากภายในทมี่ ีฝา 3 ดา้ น ด้านหนึง่ เปดิไว้ใหผ้ ูช้ มแลเห็น เปน้ ฉากท่ีสัมพันธ์กบั สไตลข์ องฉากแบบ realism หรือ Nuturalism ฉากแบบนเ้ี ข้ามาแทนท่ีold wing and drops และต่อมากไ็ ด้รบั การแทนที่ด้วยฉากแบบอน่ื ฉากแบบน้ปี ระกอบด้วยแผงกาแพงทส่ี ร้างขึน้ มาด้วย
Drop-and-wing set หรอื wing คอื รูปแบบฉากที่มหี ลบื หรอื มา่ นระบายของโรงละครเป็นแนวทางในการสร้างฉาก มีลกั ษณะเปน็ แบบฉากในเปน็ drop หรือ cut drop หรือ backdrop ด้านข้างเปน็ หลืบแบบ wing drop มีการระบายสีเปน็ ภาพรวมของฉาก หรอื เป็นมา่ นสีทึบท้ังหมดก็ได้ Permant set หรอื architectural stage รปู แบบฉากทเี่ ป็นการใช้โครงสร้างถาวรทจี่ ะไม่มีการเปล่ียนแปลงตลอดระยะเวลาการแสดง ยกเว้นเม่ือบางขณะจะมีการนาโครงสรา้ งแบบทเี่ ปน็ ช้นิ ย่อยๆ Profile sets รปู แบบฉากที่เป็นแผงฉากหรือจอรับภาพ บางทีเรยี กว่า cut-down set ช่วยทาให่การเปล่ยี นฉากเป็นไปไดห้ ลายหลาย ประกอบด้วยแผงฉากยอ่ ย 2 หรือ 3 แผงซ่ึงตอ่ ดา้ นขา้ งเข้าด้วยกนัโดยใช้บานพบั หรือเชอื กรอ้ ยฉากทาใหส้ ามารถพับได้ Curtain set หรือ drapery set รูปแบบฉากนีเ้ ปน้ แบบแผงผา้ ม่านจับจบี สตี ่างๆตามแตโ่ รงละครแตล่ ะแหง่ เปน็ แบ็กกราวดนด์ ้านหลังของโครงสรา้ งฉากแบบอนื่ ที่สร้างขึน้ มาตั้งอยดู้ ้านหน้าระยะหา่ งไม่เกนิ 1 เมตร drapery setting คอื การจัดรูปแบบฉากในโรงละครแบบโพรซีเนียมที่มกี รอบดา้ นหน้าและผ้ามา่ นผืนใหญด่ ้านหลังเป็นส่วนชว่ ยรับโครงสร้างฉากที่ตัง้ อยู่ด้านหนา้ ละครเวที ‘เสือ่ ผืน หมอนใบเดอะมวิ สคิ ัล’โดย IMAGE MAGAZINE Syndolic set รปู แบบฉากที่ใช้สญั ลักษณต์ ่างๆมาส่ือความคดิ ท่ีบทละครต้องการนาเสนอสญั ลกั ษณ์ได้รับเลอื กและตดั สนิ ใจใช้เปน็ ต้นแบบโดยความเห็นชอบของผู้กากบั การแสดงสัญลักษณเ์ หล่าน้ีอาจมหี ลากหลายความหมายอาจมคี วามหมายถงึ ทีส่ ื่อความรู้ภายในของตัวละคร
Set pieces เป็นแผงฉากชนิ้ เดยี วจานวนหลายๆช้ินประกอบกนั และสามารถตั้งอย่ไู ด้ด้วยตัวเองหรือส่วนใดส่วนหน่ึงของเวที Partial sets เปน็ การใช้รปู แบบฉากแบบ Set pieces ท่กี ว้างขวางข้ึนเป็นฉากแบบ 3 มิติและค่อนข้งจะเปน็ แบบ realistic แตไ่ มจ่ าเปน็ ต้องดสู มจรงิ ทุกกระเบียด Unit set หรอื unit settings คอื รปู แบบฉากซ่ึงใชโ้ ครงสรา้ งฉากพื้นฐานธรรมดาหรอื เป็นกลางคือไม่แสดงว่าเปน็ ส่งิ ใดสิ่งหนึ่งสามารถสบั เปล่ยี นประกอบกนั เปน็ ฉากใหม่หรอื เปน็ รูปฉากอ่นื ๆได้ Portal set เป็นรปู แบบฉากทีม่ ีลกั ษณะเป็นสัญลกั ษณ์อกี แบบหนึ่งเหมาะสาหรบั ละครท่ีมฉี ากหลายๆฉากส่วนทเ่ี ปน็ หลักคือสว่ นท่ีเป็นเวงิ้ หรือเป็นช่องเปิดทม่ี ีเวทีอยู่ด้านใน Projected scenery เปน็ รูปแบบฉากทต่ี อ้ งใช้เครอ่ื งฉายและจอภาพขนาดตา่ งๆเปน็ พืน้ รบั แสงสจี ากอปุ กรณ์แสงชนิดตา่ งๆสาหรับการแสดงที่มหี ลายๆฉาก Carry-on props setting รูปแบบฉากอีกลกั ษณะหนงึ่ ทเ่ี ปน็ โครงสร้างเสรมิ ขึ้นในลกั ษณะของเครอื งประกอบฉากการแสดงและเวทีทีเปน็ เคร่อื งประดบั ฉากลกั ษณะต่างๆ Mobile setting คือ รปู แบบฉากท่ีมีน้าหนกั เบาเป็นพเิ ศษเป็นโครงสรา้ งทแี่ ขวนอยู่ด้านบนเหนือพ้ืนท่กี ารแสดงโครงสรา้ งฉากนจ้ี ะสร้างจากวตั ถุชนดิ ใดกไ็ ด้ท่สี ามารถแขวนไว้เหนือเวทใี นลักษณะต่างๆตามทผ่ี ู้ออกแบบฉากตอ้ งการ Multi-media setting รูปแบบฉากที่ใชเ้ ครื่องฉายชนดิ ตา่ งๆส่องไปทเี่ วทีเพอ่ื สร้างบรรยากาสและสอ่ื สารความคิดความรุส้ กึ ของตัวละคร อาจจะมีการฉายสอี ย่างกว้างขวางและหลากหลาย อาจเป้นภาพที่เก่ียวข้องกบั ตวั ละคร หือภาพท่ีสอื่ อารมณ์ของตัวละครโดยตรง Space stage setting รปู แบบฉากทเี่ ปน็ แบบโล่งๆ อาจจะมียกพ้ืน 2-3 ระดบั แต่เป็นยกพนื้ ที่โลง่และกว้าง มีเคร่ืองประดบั ฉากอย่ดู า้ นบนในรูปของผ้า หรือแผงคตั เอาต์ หรือโครงสรา้ งสามมติ ิเนน้ เร่ืองการใช้พ้ืนทใ่ี นการเคล่ือนไหวและลลี าท่าทางของตัวละคร เพอ่ื ใชใ้ นการรองรบั ตวั ละครจานวนมากๆ Valance setting รูปแบบฉากทใี่ ชผ้ า้ สีสันต่างๆ หรืออาจจะเป็นภาพวาดเป็นผ้ามา่ นตดั ฉลุออกมาตามแบบ แขวนห้อยอยู่ด้านบนเวทีเหนือเวที เป็นเคร่ืองประดับฉากที่ดหู รูหรามากกว่าอื่นใด Skeleton คือรปู แบบฉากท่เี นน้ โครงสร้างท่ีไมม่ ฝี าปิด หรอื ดา้ นในสิ่งกอ่ สร้างหรอื เปน้ รปู ทรงของสถานทีท่ ซ่ี ง่ึ รายละเอียดปลกี ยอ่ ยของพืน้ ผวิ กฉลุออกโดนสิ้นเชงิ
Simultaneous-scene setting หรอื multi sets เป้นรปู แบบฉากทสี่ รา้ งข้นึ โดยมจี ุดมงุ่ หมายให้เหตกุ ารณ์ 2 เหตุการณ์ สามารถเกิดได้อย่างตอ่ เน่ืองกันหรือเกิดขนึ้ ได้พร้อมๆกัน Formal setting เปน็ ฉาก Simultaneous-scene setting อีกแบบหนงึ่ ค่อนขา้ งอิสระกว่า คือการจัดรูปแบบฟอร์มท่เี ป็น abstract หรอื อาจเปน็ รปู ทรงดา้ นสถาปัตยกรรม Multiple setting หรือ multiple staging คือรปู แบบฉากที่เปน็ พ้ืนทีโ่ ล่งเชน่ เดียวกัน แตไ่ มม่ ีความพยายามทจ่ี ะกาหนดหรือส่ือวา่ สถานทีต่ า่ งๆนั้นเปน็ ทใ่ี ด พื้นเวทีอาจไมม่ ีฉากอยู่เลย Arena staging หรอื arena setting เป็นเวทแี บบวงกลมท่ีผูช้ มลอ้ มรอบทกุ ด้าน การจดั แบบน้ีกาหนดการใชฉ้ ากที่น้อยที่สุดไมส่ ูงเกนิ กว่า 1-2 ฟุต 2.รปู แบบฉากทแ่ี บง่ อย่างงา่ ย เปน็ การแบ่งรูปแบบฉากออกเป็นกลมุ่ ย่อยได้ 4 กลมุ่ หรอื 4 ลกั ษณะตามลกั ษระการใช้งาน ไดแ้ ก่ แบบ single set เป็นฉากท่ีมคี วามสมบูรณเ์ พยี งฉากเดียว เปน็ สถานท่ีเดยี วตลอดท้งั เรื่อง แบบ multipul sets เปน็ ฉากหลายฉากเรียงลาดบั ไว้ แตล่ ะฉากมีความสมบูรณ์ในตัวมันเอง แบบ unit sets เปน็ ฉากทส่ี ร้างขน้ึ เป็นเชิงสัญลักษณส์ ่ือสถานท่ีตา่ งๆ อาจจะทาเปน็ แผงชุดหรือแผงเดี่ยว แบบ simultaneous scene settings เปน็ หลายๆฉากที่จัดตอ่ กนั ไปในพ้นื ทเี่ ด่ียวกัน อาจเป็นสถานทีเ่ ดียวกันหรือต่างสถานท่ีกนั
2.2 สไตล์ของฉาก คอื รปู แบบหรือแนวคดิ ในการออกแบบฉากให้เข้ากับสไตล์หรือแนวในการแนะนานาเสนอบทละครซ่ึงมีอยูส่ ามแนวด้วยกนั คือ 2.2.1 Representational คือ ละครที่สมมุติว่าแสดงอยู่ในสถานท่ีใดสถานที่หนึ่งซึ่งมีกาแพงด้านที่ส่ีปิดให้แลเห็นเหตุการณ์ในเร่ืองและนักแสดงพยายามไม่เดินข้ามเส้นแนวผ้าม่านมาด้านผู้ชมนักแสดงแสดงราวกับว่าไม่มีผู้ชมอยู่ในทนี่ ัน้ และราวกับวา่ นักแสดงเองไม่ไดย้ ินเสียงเลยเสียงตบมือเปน็ การพยายามสร้างภาพลวงบนเวทใี หผ้ ู้ชมเชอ่ื ว่าละครทีแ่ สดงอยนู่ ั้นคอื ภาพของชวี ติ จริงโดยเน้นความสมจรงิ หรอื บทละครแบบrealism หรือเนน้ ความไมก่ ลมกลืนกันของชีวิตโดยการใช้สือ่ ความหมายบนเวทที ี่ขดั แย้งกัน 2.2.2presentation form คอื ละครหรือการเขียนบทละครที่ถอื เอาดูเป็นส่วนสาคัญของการแสดงผู้แสดงเลยเห็นผู้ชมคือผู้ชมและละครคือละครหรือละครจะถูกแสดงอย่างละครคือล้อเลียนแบบแต่ไม่จาลองภาพชีวิตผู้แสดงจะแสดงเป็นตัวละครนั้นน้ันแต่ไม่ได้สวมบทบาทอยู่ยังคงเป็นตัวนักแสดงท่ีแสดงตามบทแสดงออกผ่านตัวละครท่ีตนแสดงอาจมีการเต้นราร้องเพลงการใช้องค์กรเพื่อแสดงให้ผู้ชมเห็นว่า ละครท่ีกาลังเกิดข้ึนนั้นไม่ใช่ชีวิตจริงและไม่ได้เลียนแบบชีวิตละครของเชค็ สเปียรส์ ว่ นใหญเ่ ปน็ แนวน้ลี ะครยุโรปใหมห่ ลายเร่ืองก็เชน่ กัน 2.2.3.mixed form คือ การผสมผสานกันระหว่างละครสองชนดิ ที่กล่าวมาเช่น ในละครเร่ืองour townผู้แสดงเป็น stag manager จะออกมาพูดกับคนดูถึงสถานการณ์ของเรื่องซ่ึงการทาเช่นนี้เป็นการแสดงแล้วเดินกลับเข้าไปแสดงตามบทแบบ presentation form บทละครหลายเรือ่ งมีลกั ษณะคล้ายคลา้ ยกันกันเช่นเรื่องแมเ่ บ้ีย The glass managerie เปน็ ต้น สไตล์ของฉาก แบ่งออกเป็นแบบย่อยได้หลายสไตล์ตามแบบท่ีเรียกว่าMajor twentieth-century style ถือได้ว่าเป็นส่ิงจาเป็นที่ผู้เก่ียวข้องกับวงการการแสดงจะต้องทราบสไตล์ของฉากแบบต่างๆเราสามารถแบ่งสไตล์ของฉากออกเป็นยอ่ ยไดด้ งั นค้ี อื
1)Realism หรือ realistic setting คือ สไตล์ของฉากที่มีพ้ืนฐานมาจากความเป็นจริงตามธรรมชาติ 80-90%ทาให้ฉากรู้ว่าเหมือนจรงิ ทส่ี ุดตัดทอนรายละเอยี ดปลกี ย่อยท่ีมคี วามไม่จาเป็นท้ังหลายออกไปบ้างเพื่อให้แลดูกระชับมีความหมายจัดเป็นสไตล์ฉากท่ีง่ายท่ีสุดผู้นาในการเขียนบทละคร realism ซ่ึงมีอิทธิพลต่อการออกแบบฉากสไตล์น้ีสไตล์ฉากแบบน้ีสามารถสร้างภาพและบรรยากาศที่สมจริงน่าสนใจและดูหลากหลายให้แก่บทละครแบบซ่ึงเป็นตัวกาหนดรายละเอียดในการนาเสนอจึงไม่น่าแปลกมากการออกแบบฉากท่ีมีความหลากหลายการเลียนแบบธรรมชาติโดยรักษาต่างๆท่ีได้รับการเลือกสรรอย่างพิถีพิถันและจัดใหม่ให้ลงตัวตามความประสงค์ของผู้ออกแบบฉากได้เตรียมการณ์ไว้บางชิ้นส่วนจะได้รับการขยายสัดส่วนให้ใหญ่ขึ้นกว่าปกติเพ่ือผลทางด้านการแสดงและการแรเห็นรูปส่งของฉากที่ปรากฏแก่สายตาผู้ชมดูเหมือนจะสมบูรณ์โดยมีวนประกอบทางสถาปัตยกรรมครบถ้วนเช่นประตูหน้าต่างกาแพงรายละเอียดอ่ืนๆท่ีถูกต้องตามกาลสมัยและภูมิภาคที่เกิดเหตุการณ์ตามท้องเร่ืองทาให้เหตกุ ารณ์ดาเนนิ ไปอยา่ งสมเหตสุ มผลถูกตอ้ งเหมาะสม 2) Suggestive realism หรือ suggestive setting คือ สไตล์ของฉากท่ีตัดรายละเอียดท่ีสมจริงที่ไม่จาเป็นออกไปท้ังหมดแม้แต่กาแพงและฝาห้องที่ตัดทอนออกให้เหลือแต่ส่วนท่ีสามารถแทนที่ส่วนอื่นๆได้เท่านั้น เช่นต้นไม้ต้นหน่ึงสื่อความหมายว่าเป็นต้นไม้ทั้งหมดโครงสร้างบางส่วนอาจจ จะละเอาไว้ เช่น หลังคาหรือส่วนยอดของกาแพงอาจกล่าวได้ว่าเป็นการใช้องค์ประกอบของศาลเพียงส่วนหน่ึงแทนส่วนท่ีเหลือทั้งหมดเป็นการย่อยฉากให้ง่ายข้ึนโดยการละเว้นท่ีเปน็รายละเอียดที่ไม่จาเป็นออกไปโดยสิ้นเชิงระดับการละเว้นรายละเอียดพิจารณาได้จากธรรมชาติของละครเรื่องนั้นนั้นหรือจากรูปแบบของสถานที่ท่ีจะใช้ในการแสดงและความกว้างขวางของพ้ืนท่ีที่นักแสดงใช้ประกอบการกระทาเลก็ ๆน้อยๆแสดงซ่งึ เก่ียวข้องโดยตรง
3) Selective realism หรือ pictorial realism สไตล์ของฉากแบบท่ีใช้วิธีเลือกส่วนประกอบของฉากที่มีความหมายเฉพาะและมีความเหมาะสมกับละครเร่ืองนั้นนั้นบางช้ินหรือบางส่วนแล้วนามาขยายให้ได้รูปแบบสีสันท่ีเหมาะสมและประกอบเข้าตามตาแหน่งต่างๆจนได้ผ่านที่ต้องการเป็นการเน้นเรื่องจากการจัดภาพมากกว่าเรื่องไรไม่พยายามนาเสนอภาพที่เป็นจริงอย่างสมบูรณ์พยายามท่ีจะบอกสถานที่ด้วยการนาความคิดแก่ผู้ชมโดยใชเ้ ครื่องหมายหรอื สัญลักษณ์เพื่อท่ีจะช่วยให้เกิดภาพรายละเอียดท่ีเป็นจริงจงั ในความคิดและจินตนาการของผู้ชมเองเช่น ประตูแบบ gothic เพื่อแสดงว่าเป็นห้องที่อยู่ภายในปราสาทในประเทศอังกฤษสมัยโบราณอย่างสมบูรณ์เป็นการเลือกใช้โครงสร้างสถาปัตยกรรมที่เด่นเด่นมาเพียงบางส่วนเพ่ือสร้าความร้สู ึกใหเ้ กดิ ข้นึ ในจิตใจของผ้ชู ม 4) Impressionism หรือ Impressionistic Symbolism คือสไตล์ของฉากที่แสดงให้เห็นความรักท่ีซ่อนอยู่ภายในจิตใจเน้นเรื่องอารมณ์และการสื่อความคิดเห็นไม่เน้นเรื่องรูปฟอร์มภาพท่ีเกิดมักเป็นภาพเบลอๆ ฝันๆ จางๆ เป็นความพยายามท่ีจะรวมศิลปะทั้งสายเข้าด้วยกันเช่นกิจกรรมดนตรีแสงเต้นราเพ่ือที่จะแสดงถงึ เน้ือหาความคดิ อันเป็นแก่นของละครนนั้ และเพื่อต้องการให้ผชู้ มมีปฏิกิริยาโดยตอบโต้และเห็นหรือยังตวั ละครจะทาเห็นเม่ือด้วยความรสู้ ึกท่ีเข้มข้น เช่น โกรธ กลัว สยอง ประกอบดว้ ยจังหวะลีลาที่ไมป่ กติผสมกับการขยายส่วนของรายละเอียดเล็กๆน้อยๆรวมถึงการตัดกันของแสงสีของเคร่ืองประดับตกแต่งอ ย่างร้อนแรงของทางเชิงศิลปะหาดแบบน้ีจึงช่วยเพิ่มศักยภาพแก่ผู้ชมในการมองเห็นผ่านสายตาของตัวละครและช่วยให้ตระหนกั ถงึ ความประทับใจที่ไดร้ ับจากการดแู ละฟงั เน้ือหาสาระของละคร 5) Formalism หรือ plasticism คือ สไตล์ของฉากที่เร่ืองออกห่างจากความเป็นจริงออกไปอีกระดับหนึ่งผู้ออกแบบสร้างสรรค์ฉากท่ีไม่เป็นแบบหรือบ่งบอกว่าเป็นสมัยใด ประเทศใด หรือสถานท่ีใด ฉากสไตล์นี้เน้นเรื่องการทารูปฟอร์มของฉากให้เป็นธรรมเนียมนิยมท่ีเป็นพ้ืนระดับต่างๆสาหรับการแสดงซ่ึงไม่บ่งบอกธรรมชาติของวัตถุหรือสถานที่เป้าหมายของนักออกแบบน้ีเพ่ือกลับไปหาโรงละครแบบซึ่งมีโครงสร้างสถาปตั ยกรรมถาวรเปน็ เบื้องหลังแบบกลางกลางและสามารถใช้กับการแสดงละครทุกประเภทฉากสไตล์นี้เป็นแบบท่ีเน้นเร่ืองการยกพ้ืนระดับต่างๆมีทางออกสองทางมีบันไดทางลาดและเสาประดับ ด้านหลังเป็นแผงหรอืผ้าไซโคราม่าไม่เน้นรายละเอียดของฉากแต่ฉากส่วนอื่นๆสามารถนาเข้ามาติดตั้งตามลักษณะที่กาหนดไว้ไม่ในเร่ืองรายละเอยี ดของฉากหรือไม่ให้ความสาคัญแก่ส่วนประดับตกแต่งที่มรี ายละเอยี ดสีท่ีใช้มักเป็นโทนสีกลางๆเน้นความใหญ่โตมโหฬารแบบกรีกแต่ไม่มีกาหนดสถานทแ่ี ตต่ ัว่าเปน็ ทไ่ี ด้นอกจากส่วนประกอบฉากบางส่วนจะเป็นส่ือเท่านน้ั
6) Constructivism คือสไตล์ของฉากท่ีเน้นแบคกาวด้านหลังของตัวละครเป็นแบบโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมหรือกลไกต่างๆท่ีไม่มีพน้ื ผิวกรุอย่โู ครงสร้างน้ันจะมีความหมายโดยตรงต่อการแสดงและ เอื้อต่อการเคลื่อนไหวของนักแสดงบนเวทีอย่างไม่มีสะดุดแต่อาจจะมีไม่เจาะจงลงไปว่าเป็นสถานที่แห่งใดแน่นอนโครงสร้างบางส่วนถูกละไว้ให้ผู้ชมใช้จินตนาการของตนเองจุดหมายท่ีสาคัญคือการตัดทอนส่วนต่างๆเพ่ือให้การเคล่ือนไหวของตัวละครเป็นไปได้ง่ายการสร้างทาได้รวดเร็วและประหยัดค่าใช้จ่ายโครงสร้างจะขายท่ีผู้กากับการแสดงและผู้กากับเวทีจะเอาไว้ใช้สอนในระยะแรกมีการยกพ้ืนระดับต่างๆมีบันไดสาหรับข้ึนลงบันไดรปู ตวั Aทตี่ งั้ อย่บู นโต๊ะใหญ่ซ่ึงอาจหมายถึงหน้าต่างของยกพ้ืนของบ้านชนั้ ที่2 7) Stylization หรือ stylized scenery คือ สไตล์ของฉากที่มีคุณลักษณะเฉพาะท่ีสามารถปรับเปลี่ยนแปลงได้และแตกต่างจากสไตล์อ่ืนๆอย่างชัดเจนแม้ชื่อของมันจะไม่มีส่ือภาพให้เด่นชัดมากเหมือนฉากแบบแต่ฉันแบบนี้เป็นฉากสไตล์ท่ีเราคุ้นเคยและอยู่ใกล้ตัวเรามากท่ีสุดสไตล์หนึ่งเช่น ในหนังสือการ์ตูนหรือหนังสือที่มีภาพวาดของเด็กๆหรือในหนังสือการ์ตูนตลกหรือหนังโฆษณาบางชุดเป็นต้นอาจกล่าวได้ว่าเป็นลักษณะการเล่าเรื่องด้วยภาพหรอื ส่ือที่เป็นกราฟฟิกแบบต่างๆมีการขยายสัดส่วนและโครงสร้างของวัตถุต่างๆที่เหมือนจริงแต่มีสีสันได้ลายเซ็นและมวลท่ีเกินเลยความเป็นจริงมีมุ่งหมายเพ่ือการแสดงออกในทางบริสุทธิ์มากกว่าการล้อเลยี นแบบรูปฟอรม์ แหง่ ความเปน็ จรงิ แบบธรรมชาติทุกกระเบยี ดหลายวิธีเพ่ือพฒั นาแนวการแสดงความคิดโดยสว่ นประกอบตา่ งๆจะพเิ ศษกวา่ ปกตไิ ดแ้ ก่ สี สแี บบเกนิ กวา่ ที่จะคดิ ถงึ ถกู นามาใชแ้ ทนหรือเสรมิ เติมสีธรรมชาติของวตั ถุ เสน้ รูปทรงแบบสมจรงิ สามารถร่างได้อย่างง่ายโดยการลากเคร่ืองเป็นของกลางตามอรัญความของผู้ออกแบบเช่นเดียวกับ Walt Disneyใช้เป็นสไตล์ในการ์ตูนของเขาโดยไม่มีความผิดพลาดใดใดเน่ืองจากเป็นสิง่ ท่เี กดิ จากการออกแบบตามจนิ ตนาการและความตอ้ งการเฉพาะตัว มวล การขยายส่วนของมวลหรือหมายถึงสารที่มีความเป็นสามมิติหรอื ความลึกซึ่งเป็นวิธหี นึง่ ทาให้เกดิ ความพเิ ศษในงานของตนได้ ภาพสามมิติ การปรับเปลี่ยนแนวคิดตามภาพลักษณะของภาพสามมิติเพื่อให้เกิดภาพผลลพั ธ์ที่ไม่ปกตซิ ึง่ เป็นเทคนคิ ทน่ี ิยมใช้กันมากสาหรบั สไตล์ฉากน้ี
เครื่องประกอบฉากการแสดง และเวที คือ ส่วนประกอบของฉากบนเวทีอันได้แก่ชิ้นส่วนหรือวัตถุที่มีความสาคัญต่อการเคลื่อนไหวและการแสดงออกของนักแสดงบนเวทีคือภายในฉากแต่ละฉากที่มีความแตกต่างกันสามารถรวมถึงสิ่งประดับตกแต่งฉากเคร่ืองมือหรืออุปกรณ์ปกรณ์ต่างๆ ท่ีนักแสดงถือในระหว่างแสดงหรือหมายถึงเสียงที่ไม่ได้เกิดจากเคร่ืองมืออุปกรณ์ไฟฟ้าและรวมถึงเคร่ืองมือวสั ดุอุปกรณ์ต่างๆที่ทาให้เกิดภาพเพ่ือส่ืออารมณ์ความรู้สึกนึกคิดส่ือบรรยากาศและสภาพแวดลอ้ มของนกั แสดงหรอื ตัวละคร การแบ่งชนิดของเคร่ืองประกอบฉากการแสดงและเวทีเราสามารถแบ่งเคร่ืองประกอบฉากการแสดงละครเวทีแบ่งออกเป็นแปดประเภทใหญๆ่ ดงั นคี้ อื 3.1 เคร่ืองประกอบฉาก คือพวกเครื่องประกอบฉากการแสดงและเวทีที่มีขนาดใหญ่มีน้าหนักมากมีความผูกพันหรือสัมพันธ์กับฉากอย่างใกล้ชิด เป็นส่วนที่ต้ังติดกับฉากไว้เฉยเฉยและสามารถดึงเข้าออกจากตัวฉากได้มากอยู่บนเวทีในแต่ละฉากต้ังแต่ต้นจนจบการแสดงแต่ละฉากเป็นส่วนท่ีนักแสดงสามารถใช้ประกอบในการแสดงได้เช่นอาจจะเกิดข้ึนไปเดินยืนนั่งหรือมีการสัมผัสได้แก่พวกเฟอร์นิเจอร์ต่างๆเตาไฟเตาผิง พรม อ่างล้างหน้าตู้กับข้าว เคร่ืองประดับโต๊ะทางานต่างๆที่อยู่ในท่ีเดิมตลอดระยะเวลาการแสดงดังกล่าวคือไม่มีการเคลื่อนย้ายไปท่ีอ่ืนๆเคร่อื งประกอบฉากฉากสาหรับฉากภายนอกประกอบด้วยก้อนหินเล็กๆก้อนหินใหญ่ทรไม้พุ่มไม้หรือส่ิงอื่นๆท่ีนักแสดงสามารถสัมผัสได้การใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้าที่สาคัญคือต้องเป็นสิ่งของท่ีตั้งอยู่บนเวทตี ลอดการแสดงในแตล่ ะฉากดังกล่าว
3.2 สว่ นประกอบฉาก คือส่วนของสว่ นที่ต้งั อยู่บนเวทีอย่างอิสระเช่นแผนกาแพงกั้นด้านน่าจะเต้ียไม่รับน้าหนักและส่วนประกอบฉากท่ีช่วยให้เกิดความลึกลับบนเวทีได้แก่ พุ่มไม้ขอนไม้เล็กๆหน้าต่าง ประตูหรืออะไรก็ได้ที่ตั้งอยู่กลางเวทีซง่ึ ผู้ชมสามารถแลเห็นได้อย่างชัดเจนโดยปกตจิ ะต้ังอยู่ด้านหน้าของฉากรับซ่ึงมักจะเป็นผ้าสีดาหรือผ้าสีหรือผ้าที่เป็นภาพวาดผืนใหญ่หรือตั้งลอยๆในฉากที่เน้นส่วนประกอบของฉากเป็นหลักส่วนประกอบของฉากเหล่านี้แม้จะมีความผูกพันกับตัวละครในแยแ่ นวความคิดความรู้สึกอารมณ์และทิศทางการเคลื่อนไหวแปดตัวละครจะใช้เป็นเพียงแรงบนั ดาลใจโดยไม่ไดม้ ีการใช้หรือสัมผัสจริงเป็นส่วนที่ช่วยสร้างบรรยากาศและความลึกบนเวทีมักเป็นแบบสองมิติ ในฉากที่เน้นส่วนประกอบของฉากเป็นหลักส่วนประกอบของฉากเหล่าน้ีแม้จะมีความผูกพันกับตัวละครในแยแ่ นวความคดิ ความรู้สึกอารมณ์และทศิ ทางการเคลื่อนไหวแปดตัวละครจะใชเ้ ป็นเพียงแรงบนั ดาลใจโดยไม่ได้มีการใช้หรือสัมผัสจริงเป็นส่วนที่ช่วยสร้างบรรยากาศและความลึกบนเวทมี ักเป็นแบบสองมิติ 3.3 เคร่ืองประกอบการแสดง ได้แก่ วัสดุหรือสิ่งของท่ีเคลื่อนที่หรือนาพาไปได้โดยนักแสดงอาจจะอยู่ในฉากในระยะแรกแต่ต่อมาถูกนักแสดงนาพาไปยังที่ต่างๆบนเวทีหรือหนา้ เวทีหรอื อาจไม่มีอยู่ใฉากต้ังแต่แรก แต่ต่อมานกั แสดงนาพาเข้ามาในฉากระหว่างการแสดงมักเป็นส่ิงของที่มีน้าหนักเบาหรืออาจจะมีน้าหนักมากแบบเคล่ือนย้ายได้ง่ายมีความหมายและความสัมพันธ์กับการแสดงแล้วการแสดงตัวละครและเหตุการณ์ต่างๆตามท้องเรอื่ งอาจจะมีขนาดใหญ่เชน่ โต๊ะหรือมานั่งท่ีนักแสดงนาพาเข้ามาที่ซ่ึงเครื่องประกอบฉากการแสดงมักตั้งอยู่ในฉากคือด้านบนของเครื่องประกอบฉากต่างๆในล้ินชักบนพ้ืนหรือด้านล่างของหรือซึ่งเป็นที่ต้ังโต๊ะเครื่องประกอบฉากการแสดงและเวทนี กั แสดงจะหยบิ ของสัตว์โต๊ะน้ไี ดโ้ ดยตรงเมื่อใช้ในการแสดงเสร็จแล้วจะต้องนากลับมาไว้ที่เดิมได้แก่ ไฟแช็ก ปากกา ดินสอ จดหมายบางอย่างอาจจะมีความเก่ียวข้องกับฉากหรือเครื่องประกอบฉากเชน่ ม้านั่ง และบางอยา่ งอาจจะเกย่ี วขอ้ งกับเส้อื ผ้านกั แสดง เชน่ ฝักดาบ หมวก
3.4 ส่วนประกอบตัวละคร ได้แก่ ส่ิงของช้ินเล็กๆท่ีติดตัวนักแสดงอยู่ตลอดระยะเวลาการแสดงเป็นส่วนท่ีเก่ียวข้องกับตัวนักแสดงโดยตรงสามารถบอกบุคลิกลักษณะตลอดจนรู้สนิยมของตัวละครนั้นนั้นได้เช่นไม้เท้ารแว่นสายตานาฬิกาข้อมือปากกาแบบต่างๆสร้อยคอสิ่งที่ควรสังเกตคือเคร่ืองประกอบตัวละครกับเครื่องประกอบการแสดงอาจเป็นสิ่งของช้ินเดียวกันเม่ือใช้ในฉากหน่ึงจะทาหน้าที่เปน็ เครื่องประกอบตัวละครอกี สกั หนงึ่ นักแสดงถอื ของช้นิ เดยี วกันเข้ามาในฉากซ่งึ ทาใหช้ ิ้นนน้ั กายเป็นเคร่ืองประกอบการแสดงโดยปรยิ าย 3.5 ส่วนประดับฉาก ได้แก่ ส่ิงหน่ึงสิ่งใดก็ตามที่ประดับอยู่ในฉากหรือผนังค่ะโดยไม่ได้มีการจับต้องหรือใช้งานโดยนักแสดงจัดเป็นส่วนหนึ่งของฉากโดยตรงส่วนประดับฉากนี้จะช่วยส่งเสริมลักษณะเฉพาะของฉากแสดงกาลเวลา การลสมัย ฤดูกาลและสถานที่แสดงความเคารพศรัทธาส่ิงหน่ึงสิ่งใดของผู้เป็นเจ้าของห้องและความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครแสดงรถสนิยมและฐานะแสดงอารมณ์ความรู้สึกตลอดจนแ น ว ค ว า ม คิ ด ข อ ง ผู้ เ ป็ น เ จ้ า ข อ ง แ ล ะผู้เกี่ยวข้องสิ่งต่างๆเหล่านี้ได้แก่ นาฬิกาประดับฝา นาฬิกาต้ัง แอร์ เคร่ืองทาความเย็น เคร่ืองทาความร้อน ปฏิทิน ภาพวาดและภาพถ่ายลักษณะต่างๆ เปน็ ต้น ส่วนฉากภายนอกก็สามารถมีส่ิงบอกกาลเวลาหรือสถานทีห่ รอื สถานะของผู้เป็น
3.6 เคร่ืองประดับเสื้อผ้าตัวละคร ได้แก่ เคร่ืองประดับเสื้อผ้าบนตัวละครตัวใดตัวหนึ่งในฉากเช่นเคร่ืองเพชรกาไลข้อมือสร้อยคอนาฬิกาหน้ากาดดาบส่วนท่ีเป็นเคร่ืองประดับร่างกายโดยตรงได้แก่ถุงมือหมวกผ้าคุมไรซ่ึงนักแสดงอาจจะไม่ได้สวมใส่อยู่แต่ถือ ไปท่ัวเวทีด้วยตัวเอง Costume propsต่างจากpersonal props ตรงที่เคร่ืองประกอบตัวละครเป็นป่วนตัวไม่เปล่ียนตามแฟช่นั และมีความหมายกับตัวละครโดยตรงสามารถบอกบุคลิกภาพของตัวละครได้เช่นไม้เท้าแสดงความแก่ชราแว่นสายตาแสดงความผิดปกติในการแลเหน็ เป็นต้นโดยปกติเคร่อื งประกอบตัวละครมักมีอยูใ่ นหน่ึงเดยี วหรือเป็นสง่ิ ท่คี นบางคนสามารถนามาใช้ได้เท่าน้ันเช่นเครื่องหมายยศหรือสร้อยคอสลักชื่อส่วนเป็นสิ่งท่ีสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามแฟช่ันหรือชุดท่ีนกั แสดงสวมใสใ่ นแต่ละชาตนิ อกจากนย้ี งั สามารถบ่งบอกถึงโอกาสกาลเวลาและสถานทใ่ี นทอ้ งเรอ่ื งได้ดว้ ย 3.7 โป๊ะไฟและเครื่องใช้ไฟฟ้า ได้แก่ โป๊ะไฟหรือโคมไฟต่างๆที่ติดอยู่ภายในฉากและสามารถให้แสงสว่างได้ตามธรรมชาติของมันจากภายนอกจะมีโคมไฟข้างถนนโคมไฟร้ัวบ้านเป็นเครื่องประดับโคมไฟเหล่าน้อี าจทาหน้าท่ีเป็นเคร่ืองประกอบฉากหรือเครื่องประกอบการแสดงหรือสว่ นประดับฉากก็ได้แต่การท่ีเราแยกโคมไฟออกมาเป็นเครื่องประกอบฉากการแสดงและเวทีอีกประเภทหนึ่งต่างหากเพราะโคมไฟเหล่าน้ีจะต้อง อาศัยช่างเทคนิคหรือผู้ควบคุมการดูแลการทางานของมันเป็นพิเศษเช่นโคมไฟแบบท่ีจุดไสด้ ้วยไฟจากไม-้ จะต้องมีการเตมิ นา้ มันแก๊สกอ่ นการแสดงหรือโคมไฟแบบจุดไสด้ ว้ ยกระแสไฟฟ้าต้องอาศัยผู้ควบคุมปริมาณกระแสไฟฝา่ ยแสงเป็นผู้ติดตั้งและเคลอ่ื นยา้ ยฉาก
3.8 เทคนิคพิเศษต่างๆ ได้แก่ ปรากฏการณ์ทางเสียงทางแสงภาพดวงตาและสถานการณ์พิเศษท่ีช่วยเสริมสร้างบรรยากาศของละครแต่ละเร่ืองให้ดูสมจริงหรือให้ได้อารมณ์ตามบรรยากาศท่ีผู้กากับการแสดงได้วางไว้โดยใช้กลไกเครื่องมือปกรณ์พิเศษต่างๆที่ประกอบการกิจกรรมด้านข้างเวทีตามคิวการแสดงโดยไม่ไดท้ าใหเ้ กดิ อนั ตรายจริงๆเพราะผู้ชมผแู้ สดงแต่อยา่ งใดเทคนคิ พิเศษแบง่ ออกเปน็ สองลกั ษณะ คอื 3.8.1 เสียงประกอบพิเศษ ได้แก่ เสียงอันเกิดจากเครื่องกลหรือกลไกหรือเครื่องมือประดิษฐ์ท่ตี ้ังอยดู่ ้านข้างเวทีเคร่ืองมือบางอย่างไม่นิยมใชแ้ ล้วในปจั จุบันเนื่องจากมีขนาดใหญ่และขวางทางเข้าและการเคล่ือนไหวของนักแสดงด้านข้างและด้านหลังเวทีเสียงที่เกิดจากแผ่นเสียงนี้เราถือว่าเป็นเพียงเสียงประกอ บตามคิวเท่าน้ันไม่จัดว่าเป็นเคร่ืองประกอบฉากการแสดงอัดเสยี งพิเศษถึงแม้จะเรียกแผ่นเสียงท่ี นามาใช้น้ันว่าแผนซาวด์แทรค็ ก็ตามและเสียงที่เกิดจากเครื่องมือประดิษฐ์ ไดแ้ ก่ เสยี งนก เสยี งฟ้าร้อง เสียงไซเรน เป็นต้น 3.8.2 เทคนิคพเิ ศษทางสายตาหรือภาพปรากฏการณ์พเิ ศษ เป็นเรื่องเกี่ยวกับภาพหลวงตาท่ีเราสรา้ งขึ้นบนเวทโี ดยผลลัพธ์ท่ีเกิดข้ึนไม่มีผลกระทบกระเทือนหรอื เป็นอันตรายต่อผชู้ มและนักแสดงภาพลวงตาเหล่าน้ีเกิดจากการใช้เคร่ืองมือกลหรือเครื่องมือเล็กทรอนิกส์ต่างๆซึ่งติดต้ังไว้ด้านบนและด้านข้างเวทีเช่นควันลอย หรือหมอกควันในตอนเช้า หิมะตก ฝนตก ฟ้าแลบ ฟ้าผ่า น้าตก น้าพุ เครื่องมือท่ีใช้ทาภาพลวงตาเหล่านบ้ี างอยา่ งอาจจะเปน็ เครื่องมือแบบโบราณซ่งึ ไม่มวี ธิ ีอนื่ ใดสามารถทาให้เกิดผลลัพธ์ได้ดเี ท่าเช่นเครื่องทาหิมะตกหรือเคร่ืองทาเทคนิคพิเศษส่วนใหญ่สามารถควบคุมได้ด้วยไฟฟ้าดังน้ันฝ่ายแสงจึงทาหน้าท่ีความคมระหว่างการแสดงส่วนใดที่เป็นเครื่องมือที่ต้องใช้อาศัยแรงคนต้องควบคุมการทางานอยู่ด้านข้างเวทีจะมีเจ้าหนา้ ท่ีฝ่ายเทคนคิ เปน็ ผู้รบั ผิดชอบดแู ลเช่นใบไม้รว่ งใบทรี่ ่วงลงมาอาจกายเป็นเคร่ืองประกอบการแสดงหรืออาจเป็นสว่ นประดบั ฉากก็ได้
แสง สี ในการจัดทาละครเวที 4.1 ความรู้เบ้ืองต้น เร่อื งแสง สี เมื่อมนุษย์เริ่มรู้จักการแสดงออกนับตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์มนุษย์ก็เร่ิมจัดกิจกรรมในลักษณะต่างๆท่ีแสดงออกถึงความคิดความเช่ือพิธีกรรมของตนเองหรือชุมชนลานกว้างก่อให้เกิดรูปแบบในลักษณะกิจกรรมทางศาสนาหรือการแสดงเช่นการขับร้อง เพลงสรรเสริญเทพเจ้าหรือการแสดงล ะครท่ีต้องอาศัยแสงสวา่ งจากธรรมชาตนิ ะช่วงเวลาใดชว่ งเวลาหนึ่งเขา้ มาเกยี่ วข้องกบั กิจกรรมดงั กล่าว การใช้แสงสว่างจากธรรมชาติคือดวงอาทิตย์จึงเป็นแหล่งกาเนิดแสงท่ีสาคัญแห่งแรกท่ีมนุษย์นามาใช้ในการประกอบกจิ กรรมการแสดงซ่งึ มักจะมสี ่วนเขา้ มาเก่ียวข้องกบั สถานท่ีทใ่ี ชใ้ นการจัดกิจกรรมการแสดงหรือท่ีเราเรยี กว่าโรงละครอยู่เสมอๆ ในอดีตมนุษย์มักจัดกิจกรรมการแสดงอยู่ภายในบริเวณโรงละครกลางแจ้งโดยพบเห็นจากหลักฐานทางสถาปัตยกรรมของโรงละครกลางแจ้งในสมัยที่อาณาจักรกรีกมีความเจริญรุ่งเรือง โรงละครส่วนใหญ่ของกรีกมักถูกสร้างข้ึนโดยมีเวทีหันไปทางทิศตะวันออกและท่ีน่ังของผู้ชมจะถูกออกแบบจัดวางให้หันหน้าไปทางทิศตะวันตกซ่ึงการจัดท่ีน่ังในลักษณะนี้จะช่วยให้ผู้ชมไม่ต้องแสบตาเนื่องจากแสงท่ีสองมาจากดวงอาทิตย์ในยามเช้าส่วนแสงที่สาดส่องในช่วงบ่ายมายัง บริเวณเวทีจะช่วยให้การแสดงละครในแนวโศกนาฏกรรมเกิดแสงหัดเปน็ เงาบนเวทีทาให้เกดิ บรรยากาศทนี่ า่ ประทับใจ(สาธิต ไกวลั วรรธนะ 2548, น.8)
หน้าที่ของแสงสว่างที่เกิดจากแหล่งกาเนิดแสงแรกที่เราใช้ในงานศิลปะการแสดงจึงมีจุดมุ่งหมายในการเล่นให้เราสามารถมองเห็นกิจกรรมการแสดงต่างๆได้อย่างชัดเจนและกลายมาเป็นหน้าท่ีสาคัญข้อแรกๆ ในการจัดแสงบนเวทสี าหรับการแสดงสืบเน่อื งเร่ือยมาจนถงึ ปจั จุบัน การควบคุมแสงในงานแสดงสาหรับมนุษย์ในยุคแรกเริ่มน้ันเป็นสิ่งท่ีทาได้ลาบากเนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าวมนุษย์ยัง ไม่สามารถค้นพบวิธีการในการควบคุมพลังงานของแสงด้วยตนเองได้จึงทาให้การอาศัยแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ยังเป็นแหล่งกาเนิดแสงหลักท่ีใช้ในการแสดงช่วงเวลากลางวันและเม่ือ ถึงช่วงเวลาคืนมนษุ ย์จงึ ไดน้ าคบเพลิงหรือตะเกียงนา้ มนั ที่ได้ประดิษฐ์คิดคน้ ขึน้ มา นามาใช้เพอ่ื ให้แสงสว่างแก่การแสดง แต่ก็ยงั คงมีว่าสกั ต่อการแสดงอยู่บ้างเชน่ เดิม พัฒนาการของการจัดแสงสาหรับการแสดงเร่ิมเปลี่ยนไปเมื่อการแสดงละครเพื่อศาสนาในช่วงสมัยกลาง(Medieval)มีการใช้แสงสว่างจากเทียนส่องกระจกหน้าต่างแบบ Stained Glass เพ่ือเพิ่มสีสันให้แก่เวทีการแสดง ในช่วงฟื้นฟูศิลปวิทยาการหรือยุคเรเนอซองค์ (Renaissance) ในประเทศอิตาลี การแสดงเริ่มย้ายจากร้านกว้างการแจ้งเข้าสู่อาคารที่มีหลังคาปิดในลักษณะ Indoor Theater จึงเป็นเหตุในการพัฒนาองค์กรให้ความสว่างมกี ารประดษิ ฐค์ ิดค้นเปลยี่ นไปตามพนื้ ท่ีของการแสดงดว้ ยเช่นกัน Sabastiano Serlio (1475-1584)นักออกแบบ เวทีและจิตรกรชาวอิตาเลียน ผู้มีชื่อเสียงคนหน่ึงได้อธิบายถึงการจัดแสงสาหรับการแสดงบนเวทีในยุคฟ้ืนฟูศิลป วิทยาการไว้ว่า “ มีการสร้างแสงสีต่างๆ ซึ่งทาได้โดยการเติมสีในน้าแล้วใส่ลงในขวดแก้ว เช่น สีแดงแบบเหล้าองุ่น ฯลฯ แล้ววางไว้หน้าตะเกียงแสงที่ออกมาจะเปน็ แสงสีแดงอลมู เิ นยี มคอไรด์ จะทาให้เกดิ แสงสฟี า้ แสงสีส้มทาจากหญ้าฝรน่ั อีกวิธหี นงึ่ ทาได้โดยการใช้อ่างเคลือบแก้ว ซึ่งใช้กันตามร้านตัดผมในสมัยน้ันมาตั้งไว้ด้านหลังของตะเกียง ครบเพลิง หรือ เทียนไข ต้องการให้ได้แสงสีใดก็ใชเ้ คลอื บแก้วสนี ั้น เมื่อแสงมากระทบ เคลือบแก้วแก้วนี้จะสะท้อนแสงออกมาเปน็สีทเ่ี คลอื บอยแู่ ลว้ พุ่งตรง ไปยังด้านหน้าของเวที” (กฤษรา (ซูไรมาน) วริศราภูริชา 2548, น 21) Serlio ยังไดอ้ ธิบายลกั ษณะการจัดแสงในโรงละครไวเ้ ด่นเดน่ อยู่ 3 อยา่ งคือ 1. จดั ของไฟว่าไฟสาหรับให้ความสวา่ งแกผชู้ มและนักแสดง 2. จดั โคมไฟเพ่อื ให้แสงสว่างแก่ฉาก 3. จัดโคมไฟเพ่ือให้แสงสว่างแก่การแสดงละครโดยเปลี่ยนแปลงไปตามท่าทางในประเทศเยอรมันJoseph Furttenbach สถาปนิกผู้ออกแบบโรงละครผู้มีชื่อเสียงคนหนึ่งได้ออกแบบแสงสว่างในลักษณะตะเกียงแก้วน้ามันน้ามันวางตั้งเรียงกัน อยู่บริเวณพื้นที่รุมวันศุกร์วงดนตรีที่เรียกว่า ออเคสต้า พิท จน
กลายเป็นการจัดโคมไฟท่ีเรียกว่า Footlight ในเวลาต่อมา นอกจากน้ันเขายังนา ตะเกียงแก้วน้ามันวางไว้ดา้ นขา้ งของเวทีทง้ั สองฝ่งั ต้งั เรยี งกนั ขน้ึ ในแนวตงั้ ฉากกับเวทีบรเิ วณท่เี รียกวา่ วงิ (Wings) ในประเทศฝร่ังเศส การจัดแสงสาหรับการแสดงบนเวทีในชว่ งศตวรรษท่ี 17 มีการใช้โคมไฟระย้าขนาดใหญ่6 ตวั หอ้ ยเรียงกนั เป็นแถวอยดู่ ้านหน้าเวทีและใชเ้ ถียนเป็นแถวๆ ตัง้ อยู่บรเิ วณด้านหน้าเวทีส่วนชาบนเวทีนั้นถกู ทาให้ สวา่ งดว้ ยแสงเทียนทส่ี องจากดา้ นขา้ งของเวที ความเปล่ียนแปลงท่ีสาคัญของการจัดแสงสาหรับนักแสดงใหม่ที่เกิดข้ึนและประเทศอังกฤษในศตวรรษท่ี 18 เม่ือ David Garrick ตัวจัดการโรงละคร The Drury Lane Theatre ได้นาไฟระย้าท่ีเคยนิยมห้อยจากด้านหน้าเวทีออกและเพ่ิมความสาคัญใหก้ ับแสงจากด้านข้างเวทีเปน็ การบังคับให้นักแสดงเคล่ือนตัวมาทาการแสดงภายหลงั กรอบเวทีโพรซีเนยี มเท่านนั้ การใช้เทียนไขยังเป็นแหล่งกาเนิดแสงสาหรับการแสดงละครเวทีท่ีมีบทบาทเร่ือยมาจนถึงศตวรรษท่ี 18เมื่อในปี ค.ศ.1782 มีวิศวกรชาวสวิตเซอร์แลนด์คนหน่งึ ชอ่ื Amie Argand ได้ประดิษฐ์เคร่ืองใหแ้ สงสว่างชนิดตะเกยี งท่ีเรยี กว่า The Argand Burner ข้นึ โดยไสต้ ะเกียงของ โคม แบบนีส้ ามารถปรบั ระดบั ไสต้ ะเกียงได้และมีความปลอดภยั สงู เพราะมีครอบแกว้ ทนความร้อนครอบอยู่ ตะเกียงชนิดThe Argand Burner ถูกนามาใช้ครัง้ แรกในโรงละคร Odeon Theater ณกรุงปารสี ประเทศฝรง่ั เศสในปคี .ศ.1784 เมอ่ื มกี ารจัดการแสดงเรอื่ งLe Marriage de Figaroพัฒนาการของแหล่งกาเนิดแสงและการจัดแสงสาหรบั การแสดงเร่ิมเปล่ียนแปลงไปอีกทั้งในช่วงต้นศตวรรษท่ี18 เม่ือ William Murdock วิศวกรชาวอังกฤษได้ปรับปรุงวิธีการใช้แก๊สมาใช้กับการจัดแสงสาหรับเวทีการแสะพ่อค้าคนหนึ่งชื่อ Frederick Albert Wen or ได้จดทะเบียนกรรมสิทธ์ิการใช้แก๊สท่ีเขานามาใช้ในโรงละคร The Lyceum Theatre กรงุ ลอนดอนประเทศองั กฤษเปน็ คนแรก
ข้อบกพร่องของการใช้แก๊สสาหรับการใช้แสงสว่างแก่การแสดง ได้แก่ กินของแกส๊ ท่รี บกวนผ้ชู มและอันตรายที่เกดิ จากแกส๊ รัว่ ซึ่งอาจทาใหเ้ กิดเพลิงไหมภ้ ายในโรงละครได้ ในเวลาต่อมามีการคิดค้นพลังงานไฟฟ้าเพ่ือเข้ามาทดแทนการใช้แก๊สในการให้แสงสว่างแก่การแสดงบนเวที โดยมีการนาพลังงานไฟฟ้ามาใช้เป็นคร้ังแรกจากการประดิษฐ์โคมไฟแบบท่ีมีไส้หลอด ซึ่งในประเทศอังกฤษนาย Frederick de Moleyna ได้รับใบประกาศสิทธิบัตรในการประดิษฐ์หลอดไฟแบบมีไส้หลอดเปน็ คนแรกในปีค.ศ.1841 ซึง่ ในขณะที่ในสหรัฐอเมริกานาย Thomas A.Edison ได้เป็นผู้ประดิษฐ์คิดค้นหลอดไฟแบบมไี สห้ ลอดเปน็ คนแรกในปพี .ศ.1879 การใช้ไฟฟ้าสาหรับการแสดงบนเวทีในช่วงแรกยังเป็นเรื่องที่ยุ่งยากเน่ืองจากต้องมีการลงทุนสูงแต่ต่อมาในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 เร่ิมมีการใช้พลงั งานไฟฟา้ สาหรับการแสดงบนเวทเี พิม่ มากข้นึ พัฒนาการของการจัดแสงสาหรับการแสดงเปล่ียนไปตามพัฒนาการของอุปกรณ์และแหล่งกาเนิดแสงสว่างที่มีการประดิษฐ์คิดค้นนับตั้งแต่ยุคของการใช้พลงั งานแสงสวา่ งจากธรรมชาติคือดวงอาทิตย์มาสู่เขียนหรือคบเพลงิ แก๊สและพลงั งานไฟฟ้า ซ่งึ จากพฒั นาการท่ีมกี ารนากระแสไฟฟ้าเข้ามาใช้ในการให้แสงสว่าง จึงช่วยให้มีการพัฒนาเทคโนโลยีของโคมไฟที่มีคุณสมบัติสาหรับการส่องสวา่ งแก่การแสดงมากย่ิงข้ึน สามารถใช้คงไปทม่ี ีอายุการใช้งานตลอดจนการควบคุมปริมาณ ทิศทางและรูปแบบได้หลากหลายมากยิ่งขึ้นกว่าในอดีต ตามพัฒนาการที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นทั้งหมดได้ ด้วยการต่อสายยางเป็นท่อไปตามส่วนต่างๆของเวทีจากหัวปล่อยแก๊สและควบคุมปริมาณแสงด้วยการเคล่ือนหน้ากากท่ีปิดอยู่ด้านหน้าของไฟเข้าออก การใช้แก๊สจึงได้รับความนิยมมากขึ้น แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีการใช้แก๊สเพื่อให้แสงสว่างแก่การแสดงบนเวทีจึงกายเปน็ พัฒนาการอีกคร้ังหน่งึท่ีมนุษย์สามารถควบคุมปริมาณของแสงได้ตามที่ต้องการมากข้ึน เพราะการใช้แสงสว่างจากแก๊สสามารถ เพ่ิมความสว่างให้แก่เวทีได้มากกว่าการใช้เทียน และยังสามารถควบคุมการกระจายปริมาณของแสงและควบคุมทศิ ทางแสงตามทตี่ ้องการ
4.2 แสง สี กับอารมณข์ องการแสดงละครเวทีแสง และสี เป็นสิ่งท่ีเราไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่ามีผลต่ออารมณ์ และความรู้สึก ศาสตร์ในการจัดแสง และสีในสภาวะที่แตกต่าง จะส่ือถึงอารมณ์ที่หลากหลาย เป็นการส่งผ่านศิลปะไปสู่ความรสู้ ึกของผู้ที่ได้สัมผสั ไปโดยไม่รู้ตัว 4.2.1 แสงจากธรรมชาติ การนาแสงจากธรรมชาติมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ จะเป็นจุดเริ่มต้นท่ีดี และช่วยประหยัดงบประมาณ เราควรรู้ว่าแสงธรรมชาติจากทิศไหนมีคุณภาพดี จากการศึกษาพบว่าแสงธรรมชาติจากทิศเหนือจะให้แสงที่สะท้อนสีของวัตถุได้ตรงกับความเป็นจริงมากที่สุด ไม่สว่างจ้า และไม่ร้อนจนเกินไปในขณะที่แสงจากทิศใต้จะร้อนแรงกว่า ในเวลาเย็นก็จะเป็นสีในโทนอุ่น แสงจากธรรมชาติในปริมาณท่ีพอเหมาะจะช่วยให้ร่างกายเราสดช่ืน อย่างไรก็ดีแสงธรรมชาติยังคงมีปัจจัยท่ีควบคุมได้ยากเช่น ต้นไม้ใหญ่รอบ ๆบา้ น ขนาด และรูปร่างของหน้าต่าง รวมไปถึงทิศทางของหน้าต่าง การติดวสั ดกุ รองแสงกเ็ ป็นอีกส่วนท่ีมีผลต่อคุณภาพของแสง จึงมีความจาเป็นอย่างยิ่งท่ีจะต้องนาแสงประดิษฐ์จากหลอดไฟ หรือโคม มาช่วยในการควบคมุ ใหม้ ีแสงในปรมิ าณที่เหมาะสม 4.2.2 แสงประดิษฐ์ เปน็ แสงทไ่ี ด้จากหลอดไฟ หรอื โคม เพ่ือสร้างความต่อเนือ่ งของปริมาณแสงที่พอเหมาะให้มีอยู่ได้ตลอดตามท่ีต้องการ ส่ิงท่ีควรคานึงถึงก็คือ ตาแหน่งของโคม หรือหลอดไฟ ควรมีความสัมพันธ์ กับตาแหน่งของหน้าต่างท่ีใช้รับแสงธรรมชาติ โดยสร้างความต่อเนื่องให้มีแสงภายในห้องน้ันในปริมาณท่ีเหมาะสมกับการใช้สอยในกิจกรรมน้ัน ๆ นอกจากนี้ควรคดิ เผ่ืออนาคต จึงจาเปน็ ต้องสรา้ งความยืดหยุ่นไว้ตามสมควร หากต้องมีการปรับเปลี่ยนไปใช้ในกิจกรรมท่ีหลากหลายกว่าเช่น ความสามารถในการเพิ่ม หรือลดปริมาณแสงเพ่ือสร้างบรรยากาศ หรือการปรับทิศทางของแสงไปในจุดท่ีต้องการ การเลือก ชนิดของหลอดไฟและ รูปทรงของโคม เป็นเรื่องทคี่ วรคดิ ใหร้ อบคอบ 4.2.3 บรรยากาศและอารมณท์ ีต่ อ้ งการ ในกจิ กรรมแตล่ ะอยา่ งมักจะต้องการ แสง และสี ทแ่ี ตกต่างกนั ออกไปรวมไปถึงละครเวทีอันดับแรกถา้ การจัดสดั สว่ นแตล่ ะพ้นื ท่ีในเวทีต้องมีความชดั เจนจัด เพอื่ วตั ถุประสงค์ใด การจดั แสง และสีก็จะทาได้ง่าย และมีรสนิยม เช่น บางคร้ังต้องการให้บางมุมของการแสดงมีบรรยากาศอบอุ่น และเป็นส่วนตัวกับเครอื่ งดื่ม และเพลงเพราะ ๆ ริมกระจกใสบานใหญท่ ่ีเม่ือเปิดมา่ นออกไปแลว้ จะเหน็ ตน้ ไม้แสนรักท่ีอยูร่ ิมบ่อน้าเล็ก ๆท่มี ปี ลาแสนหวงของคุณแหวกวา่ ยอยู่จะต้องไมต่ ้องการแสงสว่างจ้า หรือหลอดไฟท่ีสามารถหร่ีแสงลงได้
น่าจะเป็นทางเลือกท่ีดี ความคิดนี้ยังเหมาะกับห้องนอนด้วยเช่นกัน หรือบางฉากที่ต้องการมีการปรึกษาหารือเรื่องสาคัญกับเพ่ือนร่วมงาน หรือแม้แต่ว่าปเจอหนังสือท่ีคุณโปรดปรานใช้เป็นห้องทางานด้วย ควรมีบรรยากาศที่เป็นทางการ การใช้หลอดไฟที่มีแสงสีขาว และสว่างท่ัวทั้งห้องที่เหมาะกับการใช้สายตาย่อมจะดีกวา่ แนน่ อน การใช้สีสาหรับการแสดง เป็นปัจจัยที่ควรคานึงเพราะมันมีผลต่อแสงสว่างภายในเวทีหรือฉากที่มีสีอ่อนจะช่วยสะท้อนแสงให้กระจายไปท่ัวท้ังเวที หากต้องการให้เวทีดูมีมิติ และเป็นส่วนตัว หากฉากหรือเวทสี เี ข้มทม่ี กั จะดูดกลืนแสงได้ดี ทาใหเ้ วทีไม่สวา่ งมากนัก มันจะทาหนา้ ทนี่ ้ีได้ดกี ว่าเวทหี รือฉากสีอ่อน ๆ จากความเช่ือท่ีนักจิตวิทยาได้กล่าวไว้ว่า สีมีความสัมพันธ์กับร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ของแต่ละคน จึงไม่แปลกหากสีสนั ตา่ งๆ จะเปน็ เหมือนสื่อกลางท่ชี ่วยบอกถึงอารมณ์และความรู้สกึ ของแต่ละคนที่มีความแตกต่างกันได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นสีโทนร้อนอย่าง สีแดง สีชมพู สีส้ม สีเหลือง สีม่วง ซ่ึงจะให้ความรู้สึกท่ีต่างจากสีโทนเย็นอย่าง สขี าว สีเขียว และสีฟ้า ในขณะเดยี วกนั โทนสีต่างๆ กถ็ กู นามาใช้ผสมผสานในเร่ืองของการจดั แสงไฟตามแตล่ ะพื้นท่มี ากข้ึน
การจดั แสงไฟในโทนสที ่เี หมาะสม นอกจากจะชว่ ยใหบ้ รรยากาศและอารมณ์ของละคร มีสสี ันทส่ี ดใสขน้ึ แลว้ โทนแสงสวยๆ ยังช่วยสะทอ้ นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของตัวละครเป็นอยา่ งดี เชน่ การเลือกใชแ้ สงไฟโทนสีขาว เหมาะกับคนท่ีช่ืนชอบความตื่นตัวและความกระฉับกระเฉงอยู่ตลอดเวลา หากเป็นแสงไฟโทนสีเหลืองนวลๆ หรอื ส้มหน่อยๆ กจ็ ะให้อารมณบ์ า้ นท่ีดูอบอนุ่ และผ่อนคลาย จงึ เหมาะสาหรับคนที่ชอบการพักผอ่ นและความเป็นส่วนตัว หรือการเลือกแต่งแต้มบรรยากาศภายในบ้านด้วยโทนสีแปลกตาอย่างสีม่วง สีชมพู หรือสีเขียว ก็นับเป็นอีกเฉดสีทางเลือกท่ีช่วยสร้างความต่ืนเต้นในฉากการแสดงของตัวละครเต็มไปด้วยสีสันที่ไม่ธรรมดา
4.2 ขนั้ ตอนการออกแบบแสงสีในงานศลิ ปะการแสดง ข้ันตอนในการลาดับการทางานสาหรับการออกแบบในงานศิลปะของผู้รู้หลายท่านดังมีรายละเอยี ดแตกต่างกันไปแลว้ แต่การจัดการการปฎิบัติการซ่ึงโดยสว่ นใหญ่สามารถสรุปขัน้ ตอนสาคัญสาคัญที่มีความคลา้ ยถงึ กนั ในการจดั เตรยี มงานตามลาดบั ขน้ั การออกแบบแสงได้ดงั นี้ 4.2.1 ผู้ออกแบบแสงศึกษาและวิเคราะห์บทละครหรือScriptการแสดง ขั้นตอนน้ีถือเป็นขนั้ ตอนแรกทฝี่ ่ายจดั แสงโดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ผู้ออกแบบแสงจะตอ้ งไดร้ ับบทละครหรือสคลปิ ของการแสดงในแต่ละประเภทจากผู้กากับการแสดงและทาการศึกษาข้อมูลจากบทละครในมิติต่างๆเช่นประเภทการแสดงสไตล์ของการกันลาดับฉากการแสดงและช่วงเหตุการณ์สาคัญตามท้องเรื่องช่วงเวลาของการดาเนินเรื่องในแต่ละฉากความสมั พนั ธ์ของตวั ละครบุคลกิ ตวั ละครทิศทางการเขา้ ออกของนักแสดงลกั ษณะเส้ือผ้าเครื่องแต่งกายยุคสมัยของการแสดง 4.2.2 การประชุมร่วมกับทีมงานและแบ่งฝ่ายการทางาน ใน ลาดับขั้นตอนที่สองน้ีผู้ออกแบบแสงจะต้องทาการเรียกประชุมบุคลากรต่างๆที่มี หน้าที่เก่ียวข้องเพ่ือเข้าร่วมรับฟังนโยบายการทางานและจัดแบ่งฝ่ายกันตังให้เกิด ความพรอ้ มในการทางานไม่วา่ จะเปน็ การกาหนดทีมตดิ ตง้ั หรือถอนทีมโฟกัสแสงทีม ขนส่งทมี งานประสานงานกับโรงละครหรือสถานท่ีทจ่ี ัดการแสดงสารวจความพร้อม ของอุปกรณ์ตลอดจนคานวณค่าใช้จ่ายในการจัดจ้างทีมงานหรือการเช่าอุปปกรณ์ เพ่มิ 4.2.3 การกาหนดพ้ืนท่ีแสงและการกระจายของแสง ผู้ออกแบบแสงจะต้องทราบข้อมูลของลักษณะพ้ืนท่ีเวทีในการจัดแสงตลอดจน ทางเข้าออกและฉากท่ีต้องติดตั้งนาฬิกาแสดงก่อนท่ีจะมีการกาหนดการกระจาย พนื้ ทแ่ี สงลงบนพืน้ ทเี่ วทีในรปู แบบแพลนแสงโดยคร่าวๆ
4.2.4 กาหนดทศิ ทางของแสงการเคลื่อนไหวของแสงและสที ีใ่ ช้ในการแสดง ในขัน้ ตอนนี้เป็นการลงรายละเอียดสาหรับทิศทางของแสงเพ่ือบ่งบอกอารมณ์สาคัญสาคัญของแต่ละฉากซ่ึงอาจมีที่ทางมาจากตาแหน่งใดตาแหน่งหนึ่งหรือมาจากหลายหลายตาแหน่งพร้อมกันพร้อมกับกาหนดสีที่จะเลือกใช้ ในแต่ละช่วงอารมณ์ของการแสดงซ่ึงการกาหนดข้อมูลของแสงในชว่ งน้ีจะรวมถึงลักษณะการเคลอ่ื นไหวของแสงแต่ละชว่ งการแสดงเช่นกัน 4.2.4การเขียนลาดับคิวแสง ภายหลังจากการวิเคราะห์พ้ืนที่ของการแสดงตลอดจนกาหนดการกระจายแสงทิศทางของแสงการเคล่ือนไหวและสีของแสงในการแสดงแต่ละช่วงลาดับของการแสดงตามบทละครหรือScript ของการแสดงท่ีเรียบร้อยแล้วผู้ออกแบบแสงจะต้องทาการจดบันทึกรายละเอียดต่างๆเราน้ีลงบนบันทึกลาดับคิวเพื่อเป็นการทบทวนแก้ไขงานการจัดให้สอดคล้องกับลาดับเหตกุ ารณ์ของการแสดง 4.2.5 Lighting plot หรือLightning Plan เป็นแบบแปลนการติดตั้งโคมไฟประเภทต่างๆที่ถูกถ่ายทอดความคิดและลาดับของการเคล่ือนไหวของแสงออกมาจากเอกสารการบันทึกลาดับแสงมาจัดวางเปน็ แบบแปลนในการตดิ ตั้งโดยผู้ที่มีหน้าที่ในการตดิ ต้ังสามารถอ่านและทาความเข้าใจการวางตาแหน่งทิศทางของโคมไฟในแบบแปลนอย่างถูกต้องมกั มีสว่ นประกอบดงั น้ี - โครงร่างใหญส่ ่วนของพ้นื ทเี่ วทีจดั แสดงหรอื โรงละครโครงสร้างฉากในการแสดงทง้ั หมด - จดุ แสดงตาแหนง่ ก่ึงกลางของเวที - จุดแสดงตาแหน่งแขวนไฟ - สัญลกั ษณแ์ สดงความหมายของโคมไฟในแตล่ ะประเภทท่ตี ิดตง้ั - ขอ้ มลู แสดงตาแหน่งวดั ของโคมไฟในแต่ละดวง - ข้อมูลแสดงชนิดเบอร์ของเจลสีในการติดตั้งหน้าโคมไฟข้อมูลแสดงปกรณ์เสริมสาหรับโคมไฟบางประเภทท่ใี ช้ข้อมลู แสดงตาแหน่งปลก๊ั ท่ตี อ่ - ข้อมูลแสดงตาแหนง่ ของดมิ เมอร์ - ข้อมูลแสดงตาแหน่งของช่องกาหนดไฟข้อมูลแสดงตาแหน่งของบ่าแขวนโคมไฟข้อมูลแสดงตาแหน่งการปรับโฟกัสแสง
4.2.6 การติดตั้ง ภายหลังจากท่ีทีมงานฝ่ายติดตั้งได้รับรายละเอียดติดตั้งโคมไฟในการแสดงผู้ออกแบบแสงแล้วปกรณ์ก็ดาเนินการตรวจเช็คจานวนประเภทของโคมไฟและอุปกรณ์ท่ีเก่ียวข้องจากนั้นจึงนาเอาอุปกรณ์ต่างๆเข้าไปติดตั้งภายในโรงละครหรือสถานที่ในการจัดแสดงโดยติดต้ังจะวางระบบตามแบบแปลนไฟพี่ผู้ออกแบบแสงได้ออกแบบจัดวางระบบไว้ให้เป็นท่ีเรียบร้อยก่อนจะมีการปรับโฟกัสการบันทกึ โปรแกรมรปู แบบไปในลกั ษณะต่างๆตามลาดบั ของการแสดงและการซ้อมคิวของแสงตามลาดบั 4.2.7 ฝึกซ้อมด้านเทคนิค ในข้ันตอนนี้เป็นการฝึกซ้อมสองสว่างบนพื้นที่เวที การแสดงตามลาดับของเนื้อหาการแสดงในแต่ละช่วงเพื่อตรวจเช็คความถูกต้องของการ ออกแบบแสงแสดงและเพื่อบันทึกรายละเอียดของแสงการแสดงในแต่ละช่วงลงบนบอร์ด คอนโทรลและฝกึ ใชบ้ อรด์ control ในการสง่ั การเพื่อความลนื่ ไหลในการจดั แสงขณะทาการ แสดงจรงิ 4.2.8 การซ้อมใหญ่และเปิดการแสดงจริง ในขั้นตอนนี้ฝ่ายจัดแสงการ แสดงบนเวทีทุกฝ่ายจะต้องเตรียมความพร้อมในตาแหน่งต่างๆของตนโดยเริ่มจัดแสงสว่าง บนเวทีพร้อมกับแสดงการแสดงของนักแสดงที่สวมใส่เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายเสมือนเป็นการ แสดงจรงิ สุดทา้ ย 4.2.9 การรือ้ ถอนและการจดั สง่ อปุ กรณ์คนื ในขั้นตอนสุดท้ายนี้ทีมงานที่ เคยเป็นผู้ติดต้ังระบบในครัง้ แรกจะกลับมาเพ่ือร้ือถอนในประเภทตา่ งๆและความระมัดระวงั อกี ครั้งซ่ึงเปน็ กระบวนการสดุ ท้ายของการจดั ระบบการแสงบนเวทีการแสดง
เอกสารอา้ งองิกฤษรา วริศราภูรชิ า.(2548). การจัดแสงสาหรับเวที . กรุงเทพฯ : สานักพิมพแ์ ห่ง จฬุ าลงกรณ์ มหาวิทยาลัย.ซูไรมาน เวศยาภรณ์. (2554). ประมวลศัพทเ์ ทคนคิ งานด้านฉากและเวทที ่นี สิ ตินกั ศกึ ษาการ ละครควรรู้ . กรงุ เทพฯ : สานกั พมิ พ์แหง่ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัยซไู รมาน เวศยาภรณ.์ (2551). งานฉากละคร 1 . กรุงเทพฯ : สานกั พมิ พ์แห่งจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัยศริ มิ งคล นาฎยกุล (2549). การจัดแสงสใี นงานศิลปะการแสดง. กรุงเทพฯ : สานักพิมพแ์ ห่ง จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลัย.
Search
Read the Text Version
- 1 - 35
Pages: