Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ตู้กดน้ำอัตโนมัติ

ตู้กดน้ำอัตโนมัติ

Published by book5512012312123, 2022-09-14 03:00:08

Description: ตู้กดน้ำอัตโนมัติ

Search

Read the Text Version

ผูจ้ ดั ทำโครงงำน นำงสำว ปำรชิ ำติ เตชนันท์ เลขท่ี 6 นำยกฤษดำ กนั ไชย เลขที่ 20 นำงสำว พชิ ชำพร เนตรทพิ ย์ เลขที่ 26 นำงสำว สุภำภรณ์ แกว้ วงใหญ่ เลขท่ี 27 นำย เดชำธร นำกสิงห์ เลขที่ 34 นำยพฤกษำชำติ เลขท่ี 35 ทปี่ รกึ ษำโครงงำน ครู เดชา จนั ทรผ์ ง กลมุ่ สาระการเรยี นรูก้ ารงานอาชีพละเทคโนโลยี โครงงานฉบบั นเี้ ป็นสว่ นหน่งึ ของวิชา การศกึ ษาคน้ ควา้ และสรา้ งองคค์ วามรู้ (IS1) ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 ภาคเรยี นท่ี 6ปีการศกึ ษา 2565 โรงเรยี น ปัว อ.ปัว จ.น่าน

บทคดั ยอ่ ก โครงการตกู้ ดนา้ อตั โนมตั ิแบบเซนเซอรเ์ พ่อื สรา้ งความสะดวกสบายและลดการสมั ผสั เชือ้ โรคตา่ งๆเพ่อื หา ประสิทธิภาพ ของตกู้ ดนา้ อตั โนมตั ิแบบเซนเซอร์ เพ่อื ความพึงพอใจของอปุ กรณต์ กู้ ดนา้ บทคัดยอ่ ข โครงการนสี้ ามารถบรรลไุ ดด้ ว้ ยดนี นั้ เน่อื งจากความรว่ มมือรว่ มใจของสมาชิกภายในนกลมุ่ ทกุ ทา่ น คณะ ผจู้ ดั ทา ขอขอบพระคณุ อาจารยท์ ่ปี รกึ ษาประจาแผนกเทคนคิ อตุ สาหกรรมทกุ ท่าน เป็นอย่างสงู ท่ไี ดก้ รุณา ใหค้ าปรกึ ษาและใหค้ าแนะนาในการแกไ้ ขปัญหาตา่ งๆตลอดถงึ ขอ้ มลู และอปุ กรณท์ ่เี ป็นประโยชนต์ ่อการทา โครงการนี้ ขอขอบคณุ บิดา มารดา และผทู้ ่มี ีพระคณุ ท่ี ไดใ้ หก้ ารสนบั สนนุ ทกุ ส่ิงทกุ อย่างทางดา้ นการศกึ ษาและเป็นผใู้ ห้ กาลงั ใจดว้ ยดตี ลอดมา ตงั้ แตอ่ ดีตจนถึงปัจจบุ นั สดุ ทา้ ยขอขอบคณุ เพ่อื นๆพ่ๆี นอ้ งๆ ท่คี อยชว่ ยเหลือและ เป็นกาลงั ใจ ใหเ้ สมอ ถา้ โครงการนีผ้ ดิ พลาดประการใดขออภยั ณ โอกาสนี้

สำรบญั ค

บทที่ 1 บทนำ 1.1 ทม่ี ำและควำมสำคัญ ในปัจจบุ นั ประเทศไทยมโี รคโควิด-19เขา้ มา จงึ ทาใหท้ ุกคนตอ้ งดแู ลสขุ ภาพโดยใชต้ กู้ ดนา้ อตั โนมตั ิเพ่อื ลด การสมั ผสั ปอ้ งกนั แบคทีเรียและเชอื้ โรคต่างๆและคนไทยสว่ นมากนยิ มใชต้ กู้ ดนา้ และอกี สว่ นมากท่ไี มใ่ ชต้ ู้ กด นา้ แต่เวลาสถานท่ตี ่างๆ ก็จะมีตกู้ ดนา้ มากมายซ่งึ อาจเกิดการติดเชือ้ โรคตา่ งๆได้ ดงั นนั้ เราจึงคิดคน้ ประดษิ ฐ์ ตกู้ ดนา้ อตั โนมตั แิ บบเซนเซอร์ โดยไมต่ อ้ งใชม้ ือสมั ผสั ทาใหป้ ลอดภยั จากเชือ้ โรค เหมาะสาหรบั โรงงานอตุ สาหกรรม โรงพยาบาล และทุกสถานท่ี ท่ีตอ้ งการความสะอาดปราศจากเชือ้ โรค ดว้ ย ตกู้ ดนา้ อตั โนมตั ิ 1.2 วัตถุประสงค์ 1.2.1 เพ่อื สรา้ งตอู้ ตั โนมตั ิแบบเซนเซอร์ 1.2.2 เพ่อื ศกึ ษาหลกั การทางานของเซนเซอร์ 1.2.3 เพ่อื ตอบสนองความตอ้ งการ 1.3 ขอบเขตกำรทำโครงกำร 1.3.1 เพ่อื นๆท่ไี ดใ้ ชว้ ดั ความพงึ พอใจตกู้ ดนา้ อตั โนมตั ิ จานวน 5 คน 1.3.2 ขนาดตกู้ ดนา้ อตั โนมตั ิ 30x30x90

1.4 นิยำมศพั ท์ 1.4.1 ตกู้ ดนา้ คือ สถานท่ที ่ผี ลติ นา้ บรโิ ภคบรรจขุ วดหรือใสภ่ าชนะตา่ งๆ 1.4.2 เซนเซอร์ คือ ชดุ อปุ กรณ์ วงจร หรอื ระบบ ท่ที าหนา้ ท่ตี รวจวดั การเปลย่ี นแปลงคณุ สมบตั ิ หรือ ลกั ษณะของส่งิ ต่างๆ 1.5 ประโยชนท์ คี่ ำดวำ่ จะได้รับ 1.5.1 ตกู้ ดนา้ อตั โนมตั มิ ีประสทิ ธิภาพในการใชง้ าน 1.5.2 ตกู้ ดนา้ อตั โนมตั เิ ป็นท่พี งึ พอใจตอ่ ทกุ คน 1.6 วธิ กี ำรดำเนิน 1.6.1 ศกึ ษาความเป็นมา 1.6.2 เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู

บทที่ 2 เอกสำรและงำนวจิ ัยทเ่ี กยี่ วข้อง 2.1 กำรใช้ตูก้ ดน้ำอัตโนมตั ิ การใชต้ นู้ า้ อตั โนมตั ิ คอื ตทู้ ่ใี ชก้ นั อย่างมากมายในปัจจบุ นั สามารถใชง้ านไดส้ ะดวกสบายโดยไม่ตอ้ งสมั ผสั เพราะ ใชร้ ะบบเซนเซอร์ เพ่อื ลดการนาเชือ้ โรคเขา้ ส่รู า่ งกายจากการสมั ผสั 2.2 โครงต้กู ดน้ำ โครงตกู้ ดนา้ คอื วสั ดทุ ่ดี ดั แปลงไดใ้ นรูปแบบสาเรจ็ รูปชนดิ หนง่ึ ท่ใี ชใ้ นการทาตกู้ ดนา้ อตั โนมตั ิ ทามากจากเหลก็ และ อะลมู เิ นยี ม 2.3 ป๊ัมดดู นำ้ เคร่ืองป๊ัมนา้ คอื เป็นอปุ กรณท์ ่ชี ว่ งส่งผา่ นพลงั งานจากแหลง่ ตน้ กาเนดิ ไปยงั ของเหลว เพ่อื ทาใหข้ องเหลวเคล่อื นท่ี จาก ตาแหน่งหนง่ึ ไปยงั อกี ตาแหน่งหนง่ึ ท่อี ยสู่ งู กว่าหรือ ในระยะทางทไ่ี กลออกไป โดยจดุ เร่มิ ตน้ ของเครอื่ งป๊ัมนา้ นี้ มี ประวตั ศิ าสตรท์ ่ยี าวนานมากกวา่ 2,000 ปีกอ่ นครสิ ตศกั ราช ซ่งึ ในช่วงเรม่ิ แรกมีการใชพ้ ลงั งานท่ไี ดจ้ ากมนษุ ย์ สตั ว์ ตอ่ มา จึงไดใ้ ชพ้ ลงั งานจากธรรมชาติ เช่น พลงั งานจากลมและนา้ เป็นแหลง่ ตน้ กาเนิด ซง่ึ ในช่วงแรกเพยี งเพ่อื การอปุ โภคบรโิ ภค และทาการเกษตรเทา่ นน้ั ในปัจจบุ นั เครอ่ื งป๊ัมนา้ จดั เป็นอปุ กรณเ์ ครื่องมอื อกี ชนิดหนงึ่ ท่มี ีความเก่ียวขอ้ งกบั ชวี ิตความ เป็นอยขู่ อง มนษุ ยอ์ ยา่ งมาก เป็นอปุ กรณท์ ่ชี ่วยจดั สง่ นา้ เพ่อื การอุปโภค บรโิ ภค การเกษตร คมนาคม อตุ สาหกรรม ตลอดจน การบาบดั นา้ เสียเพ่อื รกั ษาสภาวะแวดลอ้ มท่ดี ใี หก้ บั มนษุ ย์ ซง่ึ ววิ ฒั นาการของเครือ่ งป๊ัมนา้ ในปัจจบุ นั ได้ เปล่ียนไป จากเดมิ ท่ใี ชพ้ ลงั งานจากแหล่งธรรมชาตมิ าเป็นการใชพ้ ลงั งานจากไอนา้ จากเคร่อื งยนต์ และท่นี ิยมกนั มาก คอื การใชไ้ ฟฟา้ เน่อื งจากความสะดวกและงา่ ยต่อการใชง้ าน

2.4 เซนเซอรต์ รวจจับวตั ถุ เซนเซอร์ (Sensor) คือ ชดุ อปุ กรณ์ วงจร หรอื ระบบท่ที าหนา้ ทต่ี รวจวดั การเปล่ยี นแปลงคณุ สมบตั ิ หรอื ลกั ษณะ ของสงิ่ ตา่ งๆ โดยรอบวตั ถเุ ปา้ หมาย และนาขอ้ มลู จานวนมหาศาล (Big Data) ท่ไี ดจ้ ากการตรวจวดั เขา้ สู่ กระบวนการแจกแจง และวิเคราะหพ์ ฤตกิ รรมของการเปล่ียนแปลง ประมวลผลเป็นองคค์ วามรูแ้ ละ ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) ใหม้ นษุ ยส์ ามารถนาองคค์ วามรูม้ าใชเ้ พ่อื เพิม่ ประสิทธิภาพลดขนั้ ตอน ของกระบวนการทางาน ปัจจบุ นั มกี ารนาระบบ sensor มาใชบ้ นโทรศพั ทม์ อื ถือ ในหลายรูปแบบ เช่น G-sensor ระบบตรวจจบั ความ เคลอ่ื นไหว , Accelerometer Sensor ระบบหมนุ ภาพ อตั โนมตั ิ, Orientation Sensor เซน็ เซอรป์ รบั มมุ มอง หนา้ จอ, Sound Sensor เซน็ เซอร์ ตรวจวดั ระดบั เสยี ง, Magnetic Sensor ตรวจวดั ความเขม้ สนามแมเ่ หลก็ , Light Sensor ตรวจจบั แสงสว่างสาหรบั การ ปรบั แสงบนหนา้ จออตั โนมตั ิ และ Proximity Sensor ระบบเปิด/ปิด หนา้ จออตั โนมตั ขิ ณะสนทนาแนบหู เป็นตน้ ซง่ึ เรา มกั พบคณุ สมบตั เิ หล่านไี้ ดก้ บั โทรศพั ทม์ ือถือ แบบ Smartphone ทงั้ ในระบบ Ios และ Android อปุ กรณเ์ ซนเซอร์ สามารถแบง่ ไดเ้ ป็น 3 ประเภท ตามคณุ สมบตั ิในการตรวจวดั ประกอบดว้ ย 1.เซนเซอรด์ า้ นกายภาพ (Physical Sensor) คือ เซนเซอรท์ ่ใี ชใ้ นการตรวจวดั คณุ สมบตั ิทางกายภาพตา่ งๆ เป็น เซ็นเซอรท์ ่ใี ชเ้ ซลลพ์ เิ ศษท่มี คี วามไว ตอ่ แสง, การ เคล่อื นไหว, อณุ หภมู ิ, สนามแมเ่ หลก็ , แรงโนม้ ถว่ ง, ความชืน้ , การส่นั สะเทือน, แรงดนั , สนามไฟฟา้ , เสยี ง และลกั ษณะ ทางกายภาพอน่ื ๆ ของสภาพแวดลอ้ มภายนอก/ภายใน เชน่ แรงยดื , การเคลอ่ื นไหวของอวยั วะ รวมทง้ั สารพษิ , สารอาหาร, และสภาพแวดลอ้ มการเผาผลาญภายใน เชน่ ระดบั นา้ ตาล , ระดบั ออกซเิ จน , ฮอรโ์ มน, สารส่อื ประสาท เป็น ตน้ 2. เซนเซอรด์ า้ นเคมี (Chemical Sensor) คือ เซนเซอรท์ ่ใี ชใ้ นการตรวจวดั สารเคมีตา่ งๆ โดยอาศยั ปฏิกิรยิ า จาเพาะ ทางเคมี และมกี ารแปลงเป็นขอ้ มลู หรือสญั ญาณท่สี ามารถอา่ นวเิ คราะหไ์ ด้ เชน่ เซนเซอรต์ รวจวดั สารเคมี ปนเปือ้ นใน ส่ิงแวดลอ้ ม หรือดินและนา้ เซนเซอร์ และ อปุ กรณใ์ นการตรวจวิเคราะหท์ ดสอบ สมั พนั ธก์ นั อยา่ งไร? ทิศทางการพฒั นา อปุ กรณใ์ นการตรวจวเิ คราะหท์ ดสอบมีแนวโนม้ จะประยกุ ตเ์ ป็นอปุ กรณเ์ ซนเซอรท์ ่เี ป็นเคร่ืองมือ อเิ ลก็ ทรอนกิ สท์ ่สี ามารถ อ่านผลไดง้ า่ ย แสดงผลเป็นระบบดจิ ติ อลหรอื ตวั เลข โดยไมจ่ า เป็นตอ้ งอาศยั ผเู้ ช่ียวชาญ ในการตรวจวิเคราะหแ์ ละอา่ น ผลผใู้ ชส้ ามารถใชอ้ ปุ กรณด์ งั กลา่ วไดด้ ว้ ยตวั เอง (Point-of-Care: Poc) จาก ลกั ษณะเฉพาะของเซนเซอรท์ ่สี ามารถใช้ เป็นอปุ กรณใ์ นการตรวจวิเคราะหท์ ่มี ขี นาดพกพาสะดวกและใชง้ านงา่ ย นนั้ จงึ ถกู นา มาประยกุ ตใ์ ชใ้ นอตุ สาหกรรมตา่ งๆ

3. เซนเซอรท์ ำงชีวภำพ (Biosensor) คอื เซนเซอรท์ ่อี าศยั เทคนิคการนา สารชวี ภาพ (Biological Recognition Material) มาเป็นตวั ทาปฏกิ ริ ยิ าจาเพาะกบั สารเป้าหมาย เชน่ เซนเซอรท์ ่ใี ชใ้ นการตรวจวดั ระดบั นา้ ตาล ในเลือด ในยคุ 4.0 เทคโนโลยี Sensor มคี วามสาคญั มากต่อการทางานกบั ระบบเกบ็ ขอ้ มลู อตั โนมตั ิตา่ งๆ ผ่าน เครอื ขา่ ย ของวตั ถทุ ่เี รยี กวา่ อินเตอรเ์ นต็ ของสรรพสิ่ง หรือ Internet of Things (IoT) และ AI เน่อื งจาก ระบบ Sensor ในปัจจบุ นั มีทิศทางท่คี าดวา่ จะกา้ วสู่ คาวา่ วตั ถอุ จั ฉรยิ ะ (Smart Objects) โดยปัจจบุ นั ไดม้ กี ารเช่ือมโยง และสื่อสารเขา้ กบั วตั ถุ ต่างๆ รอบตวั ไม่วา่ จะเป็นรถยนต์ เครื่องใชไ้ ฟฟา้ ในบา้ น และแมแ้ ต่สตั วเ์ ลยี้ งท่บี า้ น ก็ สามารถเชอ่ื มโยงสือ่ สาร และ ตอบสนองผา่ น IoT ซง่ึ ทง้ั หมดตอ้ งอาศยั เซนเซอรท์ ม่ี ีขนาดเลก็ ลง ฉลาดขึน้ และ ราคาท่ถี กู ลง ซง่ึ มกี ารคาดการณว์ า่ วตั ถุ อจั ฉรยิ ะท่ีเช่ือมตอ่ อินเตอรเ์ นต็ จะมีมากถงึ 13 ลา้ นลา้ นตวั ภายในปี 2025 สาหรบั ระบบอจั ฉรยิ ะต่างๆ รวมทงั้ บา้ น อจั ฉรยิ ะ (Smart Home) ระบบขนสง่ อจั ฉรยิ ะ (intelligent transport) เมืองอจั ฉรยิ ะ (Smart City) เกษตรกรรม อจั ฉรยิ ะ (Smart Agriculture) ระบบดแู ลสขุ ภาพอจั ฉรยิ ะ (Smart Healthcare) ภาพท่ี 2.4 เซนเซอรต์ รวจจบั วตั ถุ ภำพท่ี 2.4 เซนเซอรต์ รวจจบั วตั ถุ 2.5 รีเลย์ รีเลย์ คอื อปุ กรณอ์ เิ ลก็ ทรอนกิ สท์ ่ที าหนา้ ทเ่ี ป็นสวิตซต์ ดั -ต่อวงจร โดยใชแ้ มเ่ หล็กไฟฟ้า [1] และการท่จี ะ ใหม้ นั ทางานกต็ อ้ งจา่ ยไฟใหม้ นั ตามทก่ี าหนด เพราะเม่ือจา่ ยไฟใหก้ บั ตวั รเี ลย์ มนั จะทาใหห้ นา้ สมั ผสั ติดกนั กลายเป็น วงจรปิด และตรงขา้ มทนั ทที ่ไี มไ่ ดจ้ ่ายไฟใหม้ นั มนั กจ็ ะกลายเป็นวงจรเปิด ไฟท่เี ราใชป้ อ้ นใหก้ บั ตวั รีเลยก์ จ็ ะเป็นไฟ ท่มี า จาก เพาเวอรฯ์ ของเครือ่ งเรา ดงั นน้ั ทนั ทที ่เี ปิดเครือ่ ง กจ็ ะทาใหร้ เี ลยท์ างาน ภำพท่ี 2.5 รเี ลย

2.3 ป๊ัมดูดน้ำ เครอ่ื งป๊ัมนำ้ คอื เป็นอปุ กรท์ ่ชี ่วงส่งผ่านพลงั งานจากแหลง่ ตน้ กาเนดิ ไปยงั ของเหลว เพ่อื ทาให้ ของเหลวเคลื่อนท่ี จากตาแหนง่ หนง่ึ ไปยงั อีกตาแหนง่ หนึง่ ท่อี ยสู่ งู กวา่ หรอื ในระยะทางท่ไี กลออกไป โดยจดุ เร่มิ ตน้ ของ เครอ่ื งป๊ัมนา้ นี้ มีประวตั ศิ าสตรท์ ย่ี าวนานมากกว่า 2,000 ปีก่อนครสิ ตศกั ราช ซ่งึ ในชว่ งเร่มิ แรกมกี ารใชพ้ ลงั งานท่ไี ดจ้ าก มนษุ ย์ สตั ว์ ตอ่ มาจงึ ไดใ้ ชพ้ ลงั งานจากธรรมชาติ เช่น พลงั งานจากลมและนา้ เป็นแหลง่ ตน้ กาเนิด ซง่ึ ในช่วงแรกเพยี งเพ่อื การอปุ โภคบรโิ ภคและทาการเกษตรเทา่ นน้ั ในปัจจบุ นั เครอ่ื งป๊ัมนา้ จดั เป็นอปุ กรณเ์ ครอื่ งมืออกี ชนดิ หนงึ่ ท่มี คี วามเกี่ยวขอ้ ง กบั ชวี ติ ความเป็นอย่ขู อง มนษุ ยอ์ ย่างมาก เป็นอปุ กรณท์ ่ชี ว่ ยจดั ส่งนา้ เพ่อื การอปุ โภค บรโิ ภค การเกษตร คมนาคม อตุ สาหกรรม ตลอดจน การบาบดั นา้ เสียเพ่อื รกั ษาสภาวะแวดลอ้ มท่ดี ใี หก้ บั มนษุ ย์ ซง่ึ วิวฒั นาการของเครื่องป๊ัมนา้ ใน ปัจจบุ นั ไดเ้ ปลย่ี นไป จากเดมิ ทใ่ี ชพ้ ลงั งานจากแหลง่ ธรรมชาติมาเป็นการใชพ้ ลงั งานจากไอนา้ จากเครือ่ งยนต์ และท่นี ิยม กนั มาก คือ การใชไ้ ฟฟ้า เน่อื งจากความสะดวกและงา่ ยต่อการใชง้ าน ภำพที่ 2.3 ป๊ัมดดู นำ้ 2.6 สำยทอ่ นำ้ สำยท่อนำ้ คอื สายนา้ ดีทเ่ี ป็นสแตนเลส ไม่ไดห้ มายความวา่ ท่อเป็นสแตนเลสทง้ั หมด ภายในส แตนเลสถกั ท่ีเรา มองเหน็ นน้ั กจ็ ะเป็นทอ่ ยางเหมอื นกนั เป็นทอ่ ยางสดี าๆ ท่มี ีคณุ ภาพตามราคา ตามย่หี อ้ งผลิตภณั ฑ์ แต่ จะรบั แรงดนั ไดส้ งู กวา่ แบบเชือกถกั มากทีเดียว เพราะเม่ือแรงดนั สงู สายยางภายในก็จะขยายตวั ใหญ่ขนึ้ ตามแรงดนั ภายใน แตจ่ ะขยายตวั ไม่ไดม้ าก ภำพที่ 2.6 สำยทอ่ นำ้

2.7 แผ่นอะคริลิคใส แผ่นอะครลิ คิ ใส (Acrylic) คอื แผน่ พลาสตกิ เรยี บชนดิ Thermoplastic ผลิตจากนา้ ยา Methyl Methacrylate (MMA) ดว้ ยการนาไปหลอ่ แบบ Casting System อะครลิ คิ ไดถ้ กู คดิ คน้ และนยิ มนามาใชแ้ ทน แกว้ และกระจก เพราะมีรูปรา่ งลกั ษณะคลา้ ยคลงึ กนั แตท่ นทานและเส่ียงต่อการแตกหกั นอ้ ยกวา่ แกว้ และกระจก อีกทง้ั อะครลิ ิคยงั มคี ณุ สมบตั พิ เิ ศษ คอื เม่ือไดร้ บั ความรอ้ นสงู จะอ่อนตวั จนสามารถดดั ขึน้ รูป ไดต้ ามตอ้ งการ เม่ือทงิ้ ใหเ้ ยน็ ตวั ลงจะ แผน่ พลาสตกิ อะครลิ ิคจะแขง็ ตวั และคงสภาพดงั รูปทรงท่ดี ดั ไว้ ขนาดความหนา ของแผน่ อะครลิ คิ มีตงั้ แต่ 2 มลิ ลิเมตร - 100 มลิ ลเิ มตรสามารถนามาประยกุ ตง์ านไดห้ ลากหลายและผลติ เป็นของใชต้ า่ งๆ ไดม้ ากมาย อาทิ เครอ่ื งประดบั กรอบรูป ชนั้ วางโชว์ ป้ายโฆษณา กล่องไฟ และอ่นื ๆอีกมากมาย ภำพที่ 2.7 แผ่นอะคริลคิ ใส 2.8 แผ่นอลมู เิ นียม แผ่นอลูมเิ นียม คือ โลหะมผี ิวเงาวาว มีนา้ หนกั เบา มคี วามคงทน และไม่เป็นสนมิ สามารถนาไปใชง้ านได้ อยา่ งกวา้ งขวาง เช่น ทาฝาผนงั เสาทวี ีแผน่ ปา้ ยตา่ งๆ เครือ่ งครวั บรรจภุ ณั ฑ์ ครุภณั ฑ์ งานหอ้ ง เย็น งานตอ่ ประกอบ ยานยนต์ และชิน้ งานในโรงงานอตุ สาหกรรมตา่ งๆ ภาพท่ี 2.8 แผ่นอลมู เิ นียม

2.9 ถงั ใสน่ ้ำ ถงั ใสน่ ้ำ คือ ถังท่ที ามาจากพลาสตกิ สามารถนามาใสน่ า้ เพ่อื ใชด้ มื่ ในชวี ติ ประจาวนั ถงั พลาสตกิ มี 2 แบบ คือ พลาสติกใส และ พลาสติกข่นุ ภาพท่ี 2.9 ถงั ใส่นา้ 2.10 ฐำนตกู้ ดน้ำ ฐำนตกู้ ดนำ้ คอื ฐานใชส้ าหรบั วางแกว้ นา้ เพอ่ื ความสะดวกสบาย และถา้ นา้ ลน้ จากแกว้ ฐานตกู้ ดนา้ กจ็ ะ ชว่ ยระบายนา้ ตามช่องระบาย ภาพท่ี 2.10 ฐานตกู้ ดนา้

2.11 ตวั แปลงไฟฟ้ำ เครือ่ งแปลงกระแสไฟฟ้ำเป็ นอุปกรณไ์ ฟฟ้ำที่ แปลง กระแสสลับ (AC) ซง่ึ หมนุ เป็นระยะ ๆ ไป ยงั กระแสตรง (DC) ซ่งึ ไหลไปในทิศทางเดียว กระบวนการนเี้ รียกว่าการแกไ้ ข รา่ งกาย rectifiers ใชห้ ลาย รูปแบบ รวมทง้ั หลอดสญุ ญากาศ ไดโอด , วาลว์ ปรอท , ปรอท , ปรอท , ปรอท , ปรอท , ปรอท , ปรอท , อญั มณีใน อดีต มีการใชส้ วทิ ชแ์ ละมอเตอรแ์ บบซงิ โครนสั สวทิ ชแ์ ละมอเตอรว์ ิทยตุ น้ เรยี กวา่ ครสิ ตลั วทิ ยใุ ช้ \" แมวของมสั สุ \" ของลวด ละเอยี ดกดบนผลกึ ของ galena (ตะก่วั ซลั ไฟด)์ เพ่อื ทาหนา้ ทเ่ี ป็นจดุ สมั ผสั rectifier หรือ \"เครอื่ งตรวจจบั ครสิ ตลั \" วงจร เรียงกระแสมกี ารใชง้ านมาก แตม่ กั พบวา่ เป็นส่วนประกอบของ อปุ กรณจ์ า่ ยไฟ กระแสตรง และ ระบบสง่ กาลงั ไฟฟ้า กระแสตรงแรงดนั สงู การแกไ้ ขจะทาหนา้ ทใ่ี นบทบาทอืน่ นอกเหนอื จากการสรา้ งกระแสไฟฟ้าตรงเพ่อื ใชเ้ ป็นแหล่งพลงั งาน เครอื่ งตรวจจบั สญั ญาณ วทิ ยุ ทาหนา้ ท่เี ป็นตวั ปรบั กาลงั ในระบบทาความรอ้ นดว้ ยความ รอ้ น จะใชเ้ พ่อื ตรวจจบั เปลวไฟ ภาพท่ี 2.11 ตวั แปลงไฟฟา้

บทท3ี่ วธิ ดี ำเนินกำรศกึ ษำคน้ ควำ้ 3.1 บทนำ ในบทนีจ้ ะกลา่ วถงึ ขนั้ ตอนและวธิ ีการสรา้ งตกู้ ดนา้ อตั โนมตั แิ บบเซนเซอร์ และ คน้ ควา้ ขอ้ มลู เพ่มิ เตมิ หลงั จากการศกึ ษาขอ้ มลู ผจู้ ดั ทาจงึ ทาการวเิ คราะหจ์ ดุ สาคญั ตา่ งๆในการสรา้ งตกู้ ดนา้ อตั โนมตั ิ แบบเซนเซอรม์ าใชใ้ หมไ่ ด้ เพ่อื ท่จี ะทาการจดั ซอื้ อปุ กรณใ์ นการสรา้ งตกู้ ดนา้ อตั โนมตั ิแบบเซนเซอร์ โดยขนั้ ตอนการศกึ ษาขอ้ มลู และ ขนั้ ตอนการดาเนนิ โครงการจะประกอบดว้ ยดงั ตอ่ ไปนี้ 3.2 ขั้นตอนกำรศกึ ษำข้อมูล การดาเนินโครงการตกู้ ดนา้ อตั โนมตั แิ บบเซนเซอรใ์ นครง้ั นีเ้ พ่อื ศกึ ษาคน้ ควา้ หาขอ้ มลู ในการ ทดลอง เกี่ยวกบั โครงการตกู้ ดนา้ อตั โนมตั แิ บบเซนเซอร์ โดยการหาขอ้ มลู จากผเู้ ช่ียวชาญ หนงั สือ ตา่ งๆ และสื่อ ออนไลนใ์ หม้ ีประสทิ ธิภาพในการทาโครงการตกู้ ดนา้ อตั โนมตั แิ บบเซนเซอร์ ก่อใหเ้ กิด ประโยชนแ์ ก่ นกั ศกึ ษาวิทยาลยั เทคนิคชลบรุ ี และมปี ระสทิ ธิผลมากขนึ้

3.3 ขนั้ ตอนการดาเนินงานสรา้ งโครงการ เรม่ิ ตน้ โครงการ ศกึ ษาและวเิ คราะหข์ อ้ มลู ออกแบบตกู้ ดนา้ อตั โนมตั แิ บบเซนเซอร ออกแบบตกู้ ดนา้ อตั โนมตั แิ บบเซนเซอร์ เสนออาจารยท์ ่ปี รกึ ษา ย่ืนสอบหวั ขอ้ โครงการ ดาเนินการสรา้ งตกู้ ดนา้ อตั โนมตั แิ บบเซนเซอร์ ทดลองการใชต้ กู้ ดนา้ อตั โนมตั แิ บบเซนเซอร์ วเิ คราะหป์ รบั ปรุงและแกไ้ ข นาสว่ นท่แี กไ้ ขไปทดลอง สรุปผลและเขยี นโครงการ การวดั การประเมิน สนิ้ สดุ โครงการ

3.4 รำยละเอยี ดอุปกรณเ์ คร่อื งมือ วัสดทุ ใี่ ชท้ ดลอง ในการดาเนินโครงการจาเป็นตอ้ งใชอ้ ปุ กรณ์ เคร่ืองมอื วสั ดทุ ใ่ี ชท้ ดลอง ซ่งึ ผดู้ าเนนิ โครงการได้ วางแผนและ เตรยี มการใน เรอ่ื งของอปุ กรณ์ เคร่อื งมอื วสั ดทุ ่ใี ชท้ ดลอง โดยมรี ายละเอยี ดดงั นี้ 3.4.1 อปุ กรณ์ เครอื่ งมอื วสั ดทุ ่ใี ชร้ ะหวา่ งการดาเนินโครงการ 1.) โครงตกู้ ดนา้ 2.) ป๊ัมดดู นา้ 3.) เซนเซอรต์ รวจจบั วตั ถุ 4.) รเี ลย์ 5.) สายทอ่ นา้ 6.) แผ่นอะครลิ ิคใส 7.) แผน่ อลมู เิ นยี ม 8.) ถงั ใส่นา้ 9.) ฐานตกู้ ดนา้ 1 0.) ตวั แปลงไฟฟ้า 3.5 วธิ กี ำรดำเนินโครงกำร 3.5.1 การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู การดาเนินการในขนั้ ตอนนจี้ ะเรม่ิ จากการวางแผนหาโครงสรา้ ง การจดั หาวสั ดแุ ละอปุ กรณ์ รวมถงึ การสรา้ งตกู้ ดนา้ แบบ อตั โนมตั ิแบบเซนเซอร์ จากนนั้ ทาการหาวิธคี ิดคน้ ศกึ ษาหาความรู้ และ สถานท่ี ท่สี ะดวกเหมาะสมใชใ้ นการดาเนนิ การ เตรยี มวสั ดอุ ปุ กรณท์ ใ่ี ชใ้ นระหวา่ งดาเนนิ การสรา้ งตกู้ ดนา้ อตั โนมตั แิ บบเซนเซอร์ สดุ ทา้ ยทาการตรวจสอบและติดตงั้ อปุ กรณท์ ่ใี ชใ้ นระหวา่ งดาเนินโครงการ

3.5.2 การดาเนินงาน ในขน้ั ตอนนจี้ ะเรม่ิ การทาการอปุ กรณต์ กู้ ดนา้ อตั โนมตั แิ บบเซนเซอรโ์ ดยสรา้ งขนึ้ มาเพ่อื ใชส้ าหรบั การลดการใชม้ อื สมั ผสั โดยการใชง้ านนจี้ ะสะดวกและลดเชือ้ โรคไดอ้ ีกดว้ ย 3.6 ขนั้ ตอนกำรดำเนินงำน 3.6.1 นาโครงตกู้ ดนา้ มาทาความสะอาดใหเ้ รียบรอ้ ย 3.6.2 กาหนดตาแหนง่ ก๊อกนา้ และเซน็ เซอร์ 3.6.3 ตดิ ตงั้ ฐานรองรบั ก๊อกนา้ และเซ็นเซอร์ 3.6.4 ตดิ ตงั้ ก๊อกนา้ และต่อวงจรเซน็ เซอรใ์ หเ้ รยี บรอ้ ย 3.6.5 นาแผ่นอะลมู เิ นยี มมาพบั ปิดสว่ นท่เี ป็นชอ่ งวา่ ง ของโครงตกู้ ดนา้ ใหเ้ รยี บรอ้ ย 3.6.6 ทาสฐี านรองตกู้ ดนา้ 3.6.7 ทาสีท่รี องแกว้ นา้ 3.6.8 ทดสอบระบบเซน็ เซอร

บทท4ี่ ผลกำรดำเนินโครงกำร การคน้ ควา้ ครงั้ นผี้ รู้ ายงานกาหนดวตั ถปุ ระสงคเ์ พ่อื หาความพึงพอใจของตกู้ ดนา้ อตั โนมตั ิแบบเซนเซอรท์ ่สี รา้ ง ขนึ้ ผรู้ ายงานไดท้ าการวเิ คราะหข์ อ้ มลู ท่สี รา้ งขนึ้ มี ดงั นี้ 4.1 สญั ลกั ษณท์ ่ใี ชใ้ นการวเิ คราะหข์ อ้ มลู การวเิ คราะหข์ อ้ มลู ผศู้ กึ ษาใชส้ ญั ลกั ษณ์ ดงั นี้ N แทน จานวนของกล่มุ เป้าหมาย x̅ แทน คะแนนเฉลี่ย S.D. แทน สว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐาน 4.2 ประสทิ ธิตกู้ ดนา้ อตั โนมตั ิแบบเซนเซอร์ การศกึ ษาคน้ ควา้ ในขนั้ ตอนนี้ เพ่อื หาประสทิ ธิภาพของตกู้ ดนา้ อตั โนมตั ิแบบเซนเซอร์ 4.2.1 การหาประสิทธิภาพความสอดคลอ้ งของตกู้ ดนา้ อตั โนมตั แิ บบเซนเซอรท์ ่สี รา้ งขนึ้ ผวู้ จิ ยั ไดท้ าวิเคราะห์ ขอ้ มลู การหา ประสิทธิภาพความสอดคลอ้ งจากผเู้ ช่ียวชาญดงั ตารางท่ี4.1 ประสิทธิภาพความสอดคลอ้ งของตกู้ ดนา้ อตั โนมตั แิ บบ เซนเซอร์ 4.3 ความพึงพอใจของตกู้ ดนา้ อตั โนมตั แิ บบเซนเซอร์ กล่มุ ความพงึ พอใจของนกั ศกึ ษาวิทยาลยั เทคนคิ ชลบรุ ี จานวน 10 คน ดงั ตารางท่ี 4.2 ซ่งึ คะแนนระดบั ความพงึ พอใจ ของแบบสอบถามมี 5 ระดบั ไดก้ าหนดเกณฑใ์ นการแปลความหมายของ คะแนนเฉล่ียของความพงึ พอใจแต่ ขอ้ ดงั นี้ คะแนนเฉลยี่ 1.00-1.49 ระดบั ความพึงพอใจนอ้ ยท่สี ดุ คะแนนเฉลย่ี 1.50-2.49 ระดบั ความพงึ พอใจนอ้ ย คะแนนเฉลย่ี 2.50-3.49 ระดบั ความพงึ พอใจปานกลาง คะแนนเฉลย่ี 3.50 -4.49 ระดบั ความพงึ พอใจมาก คะแนนเฉลี่ย 4.50 -5.00 ระดบั ความพงึ พอใจมากท่ีสดุ

ตำรำงท่ี 4.1 ประสิทธภิ ำพควำมสอดคล้องของตกู้ ดนำ้ อตั โนมัตแิ บบเซนเซอร รำยกำร ควำมเหน็ ขิงผู้เชีย่ วชำญ 1 2 3 ค่าเฉลยี่ 1.ด้ำนโครงสร้ำง 1.1 ความสวยงาม 1.3 ความแขง็ แรงทนทาน 2.ดำ้ นกำรออกแบบ 2.1 กลไกการทางาน 2.2 การตดิ ตงั้ อปุ กรณ์ 2.3 การเลือกใชว้ สั ด 3. ดำ้ นกำรใชง้ ำน 3.1 ใชง้ านไดง้ ่าย 3.2 ดแู ลรกั ษาไดง้ า่ ย 3.3 มีความปลอดภยั ในการทางาน รวม ค่าเฉล่ยี จากผเู้ ช่ียวชาญ 3 ทา่ น จากตารางท่ี 4.1 ประสทิ ธิภาพความสอดคลอ้ งของตกู้ ดนา้ อตั โนมตั แิ บบเซนเซอร์ ผรู้ ายงานไดท้ าการ วเิ คราะห์ จากผเู้ ช่ียวชาญ 3 ทา่ น พบวา่ ความสอดคลอ้ งมีคา่ เทา่ กบั 0.96 แสดงวา่ ตกู้ ดนา้ อตั โนมตั ิแบบเซนเซอรท์ ่ี สรา้ งขนึ้ มี ประสิทธิภาพตามจดุ ประสงคท์ ต่ี งั้ ไว้ ทง้ั นคี้ วรปรบั ปรุง ดา้ นโครงสรา้ งในเรอื่ งของความสวยงาม

ตำรำงท่ี 4.2 ความพงึ พอใจของฝ่าย นกั ศกึ ษาวทิ ยาลยั เทคนคิ ชลบรุ ี ท่ไี ดท้ าการใชง้ านตกู้ ดนา้ อตั โนมตั แิ บบ เซนเซอร์ จานวน 10 คน ลาดบั ท่ี รายการ คา่ เฉล่ีย สว่ นเบีย่ งแบน ระดบั ความ 1 ความสวยงาม มาตรฐาน คิดเหน็ 2 ความกะทดั รดั 3 ความแข็งแรงทนทาน 4 กลไกการทางาน 5 การติดตงั้ อปุ กรณ์ 6 การเลอื กใชอ้ ปุ กรณ์ 7 ใชง้ านไดง้ า่ ย 8 ดแู ลรกั ษางา่ ย 9 ใชง้ านไดต้ ามวตั ถปุ ระสงค์ 10 ความต่อเน่อื งในการใชง้ าน เฉลยี่ จากตารางท่ี 4.2 ความพงึ พอใจของกลมุ่ นกั ศกึ ษาวทิ ยาลยั เทคนคิ ชลบรุ ที ่ใี ชง้ านตกู้ ดนา้ อตั โนมตั แิ บบเซนเซอร์ ท่สี รา้ ง ขนึ้ จานวน 10 คน มีคา่ เฉล่ยี ต่าสดุ ท่ี 4.3 ในเร่ืองการตดิ ตงั้ อปุ กรณแ์ ละความสวยงาม ซ่งึ มคี า่ เฉลย่ี สงู สดุ ท่ี 5.00 ในเรือ่ ง ของความกะทดั รดั ใชง้ านไดง้ า่ ย ใชง้ านไดต้ ามวตั ถปุ ระสงคแ์ ละความต่อเน่อื งในการใชง้ าน มีความพงึ พอใจเพยี ง 2 ระดบั คอื “มาก” และ “มากท่สี ดุ ” แสดงวา่ กลมุ่ นกั ศกึ ษาวิทยาลยั เทคนคิ ชลบรุ มี คี วามพงึ พอใจต่อตู้ กดนา้ อตั โนมตั แิ บบ เซนเซอรอ์ ยใู่ นระดบั มากท่สี ดุ

บทท่ี 5 สรุปผล อภิปรายผลและขอ้ เสนอแนะ การประดษิ ฐ์ตกู้ ดนา้ อตั โนมตั ิแบบเซนเซอร์ ทาขนึ้ เพ่อื ความสะดวกและลดเชือ้ โรคต่างๆได้ สรุปขน้ั ตอนและรายงานผลดงั นี้ 5.1 วตั ถปุ ระสงค์ 5.1.1 เพ่อื สรา้ งตกู้ ดนา้ อตั โนมตั แิ บบเซ็นเซอร์ 5.1.2 เพ่อื ศกึ ษาหลกั การทางานของเซ็นเซอร์ 5.1.3 เพ่อื ตอบสนองความตอ้ งการ 5.2 วิธีการดาเนินการโครงการ 5.2.1 การศกึ ษาหาขอ้ มลู เกี่ยวกบั การทาตกู้ ดนา้ อตั โนมตั ิแบบเซนเซอร์ ผจู้ ดั ทาไดท้ าการศกึ ษาขอ้ มลู ไดร้ ว่ ม พจิ ารณา เพ่อื กาหนดเป้าหมายการสรา้ งตกู้ ดนา้ อตั โนมตั แิ บบเซนเซอร์ 5.2.2 การดาเนนิ งานในขน้ั ตอนนจี้ ะเรม่ิ การทาตกู้ ดนา้ อตั โนมตั แิ บบเซนเซอร์ โดยสรา้ งขนึ้ เพ่อื ลดการใชม้ ือ สมั ผสั และ ทาใหล้ ดเชือ้ โรคต่อนกั ศกึ ษาวิทยาลยั เทคนคิ ชลบรุ ีไดม้ ากขึน้ 5.3 สรุปผลการดาเนินการโครงการ 5.3.1 การศกึ ษาหาขอ้ มลู เกี่ยวกบั การทาตูก้ ดนา้ อตั โนมตั ิแบบเซนเซอร์ ผจู้ ดั ทาไดท้ าการศกึ ษาขอ้ มลู ไดร้ ว่ ม พจิ ารณา เพ่อื กาหนดเป้าหมายการสรา้ งตกู้ ดนา้ อตั โนมตั แิ บบเซนเซอร์ 5.3.2 การดาเนินงานในขนั้ ตอนนจี้ ะเร่มิ การทาตกู้ ดนา้ อตั โนมตั แิ บบเซนเซอรโ์ ดยสรา้ งขนึ้ เพ่อื ใชใ้ นการกดนา้ ลดการ สมั ผสั

5.4 อภปิ รำยผล การสรา้ งตกู้ ดนา้ อตั โนมตั ิแบบเซนเซอร์ อภิปรายผลได้ ดงั นี้ 5.4.1 ประสทิ ธิภาพความสอดคลอ้ งของตกู้ ดนา้ อตั โนมตั แิ บบเซนเซอร์ ผทู้ ารายงานไดท้ าการวเิ คราะห์ จาก ผเู้ ช่ียวชาญ 3 ทา่ น พบว่าความสอดคลอ้ งมคี ่าเท่ากบั 0.96 แสดงว่าตกู้ ดนา้ อตั โนมตั แิ บบเซนเซอรท์ ่ีสรา้ งขนึ้ มี ประสิทธิภาพตามจดุ ประสงคท์ ่ตี งั้ ไว้ ทงั้ นคี้ วรปรบั ปรุงดา้ นโครงสรา้ งในเรอ่ื งของความสวยงาม 5.4.2 ความพงึ พอใจของกล่มุ นกั ศกึ ษาวทิ ยาลยั เทคนคิ ชลบรุ ที ่ใี ชง้ านตกู้ ดนา้ อตั โนมตั แิ บบเซนเซอรท์ ่สี รา้ งขนึ้ จานวน 10 คน มคี า่ เฉลี่ยตา่ สดุ ท่ี4.3 ในเร่อื งการตดิ ตงั้ อปุ กรณแ์ ละความสวยงาม ซง่ึ มคี า่ เฉลี่ยสงู สดุ ท่ี 5.00 ในเรอื่ ง ของความ กะทดั รดั ใชง้ านไดง้ า่ ย ใชง้ านไดต้ ามวตั ถปุ ระสงคแ์ ละ ความต่อเน่อื งในการใชง้ าน มีความพงึ พอใจเพียง 2 ระดบั คอื “มาก” และ “มากท่ีสดุ ” แสดงวา่ กล่มุ นกั ศกึ ษาวทิ ยาลยั เทคนคิ ชลบรุ ีมีความพึงพอใจตอ่ ตกู้ ดนา้ อตั โนมตั ิแบบเซนเซอรอ์ ยู่ ในระดบั มากท่สี ดุ สรุปวำ่ นกั ศกึ ษาวทิ ยาลยั เทคนิคชลบรุ ี จานวน 10 คน มคี วามพึงพอใจต่อตกู้ ดนา้ อตั โนมตั แิ บบเซนเซอรท์ ่ี สรา้ งขนึ้ สามารถนาไปใชง้ านไดต้ ามวตั ถปุ ระสงค์ 5.5 ขอ้ เสนอแนะ 5.5.1 ถา้ ใชไ้ ปนานๆอาจจะทาใหอ้ ปุ กรณต์ ิดขดั อาจมีการแกไ้ ขใหส้ ามารถนากลบั มาใชใ้ หม่ไดเ้ หมอื นเดมิ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook