ป้องกนั การบาดเจบ็ และอบุ ตั เิ หตขุ องเดก็ แปล้อะงอกุบันตั กิเหารตบขุ าอดงเเจด็บก็ เด็กมีสิทธิที่จะอยู่อาศัยในส่ิงแวดล้อมท่ีปลอดภัยและ อบุ ตั เิ หตุและความรนุ แรงเปน็ สาเหตนุ �ำการเสยี ชีวิตใน ได้รับการปกป้องคุ้มครอง ปัจจัยเส่ียงต่อการตายจากการ เด็กและเยาวชนไทย แตล่ ะปมี ีเด็กอายุ ๑-๑๔ ปี เสยี ชีวติ บาดเจ็บเหล่าน้ี สามารถปอ้ งกนั ได้ ครอบครวั ชมุ ชน และ จากอบุ ตั เิ หตุ และความรนุ แรงจำ� นวนกวา่ ๓,๓๐๐ รายตอ่ ปี หน่วยต่างๆของสังคม มีหน้าที่ในการปกป้องสิทธิความ คิดเป็นอัตราการตาย ๒๒/๑๐๐,๐๐๐ รายและเยาวชนอายุ ปลอดภัยนี้แกเ่ ด็กและเยาวชน ๑๕-๒๔ ปี จำ� นวนกวา่ ๑๐,๓๐๐ รายตอ่ ปี คดิ เปน็ อตั ราการ ทกุ ปเี ดก็ ทวั่ โลกกวา่ หนง่ึ ลา้ นคน ตอ้ งเสยี ชวี ติ ลงจากการ ตาย ๑๐๔/๑๐๐,๐๐๐ ราย บาดเจ็บ อีกหลายสิบล้านคนแม้ไม่เสียชีวิต แต่ต้องได้รับ อุบัติเหตุจราจร จมน�้ำ และความรุนแรงเป็นเหตุน�ำ บาดเจ็บรุนแรง ในจ�ำนวนนี้บางรายเกิดความพิการถาวร สาเหตอุ น่ื ๆ ทพ่ี บไดต้ ามมาคอื การขาดอากาศรปู แบบตา่ งๆ บางรายมคี วามเสียหายทางสมองเกิดขนึ้ เกือบทุกประเทศ กระแสไฟฟ้าภยั ธรรมชาติ สารพษิ ไฟ น�ำ้ ร้อนลวก ส่ิงของ ทว่ั โลกการบาดเจบ็ ไดก้ ลายเปน็ สาเหตนุ ำ� การตายและพกิ าร หลน่ ทบั หรือกระแทก ตกจากทสี่ งู สตั วก์ ดั ในเดก็ ท่ีมีอายุมากกว่า ๑ ปี ขึ้นไป 2
ปอ้ งกนั การบาดเจบ็ และอบุ ตั ิเหตขุ องเดก็ ในช่วงปี พ.ศ.๒๕๔๒-๒๕๕๒ พบว่าแนวโน้มการตาย ในการพัฒนากว่า ๓๖,๐๐๐ รายต่อปี ของเด็กอายุนอ้ ยกว่า ๕ ปี จากการบาดเจ็บลดลง แตใ่ นเด็ก การจมน�้ำเป็นสาเหตุน�ำการตายในกลุ่มเด็กอายุน้อย วยั เรยี น และวยั รนุ่ กลบั มแี นวโนม้ การเสยี ชวี ติ ทส่ี งู ขน้ึ อบุ ตั เิ หตุ กวา่ ๑๐ ปี เดก็ อายุ ๑-๑๔ ปี ตายจากการจมน้�ำเฉลี่ยปี ละ จราจรเปน็ สาเหตนุ ำ� การตายในกลมุ่ เดก็ โตอายมุ ากกวา่ ๑๐ ปี ๑,๕๐๐ ราย คดิ เปน็ ร้อยละ ๔๗ ของการตายจากอุบตั ิเหตุ พบว่ามเี ด็กอายุ ๑-๑๔ ปี เสยี ชีวิตจากการจราจรกว่าปี ละ และการบาดเจ็บ หรือรอ้ ยละ ๑๖.๙ ของการตายทัง้ หมด ๖๕๐ ราย เยาวชน ๑๕-๒๔ ปี อกี กวา่ ปี ละ ๓,๖๐๐ ราย การตายจากการบาดเจบ็ สว่ นใหญ่ เกดิ ขนึ้ ในบา้ น ละแวกบา้ น ในหน่ึงรายของการเสียชีวิตมีอีกกว่า ๑๐ รายท่ีมีการบาด หรือ ในชุมชนที่เด็กอาศัยอยู่ เจ็บรุนแรงจนเกิดความพิการบางสว่ น ทำ� ให้สญู เสยี โอกาส ๑การบาดเจบ็ รนุ แรงเกือบทุกรูปแบบสามารถป้องกนั ได้ ถ้าผู้ดูแลเดก็ และชุมชนตระหนกั ถงึ ความเสี่ยง เฝา้ ดแู ล เดก็ อย่างระมัดระวัง สอนเด็กใหเ้ หมาะสมตามวัย เพื่อเรียนรู้ เร่ืองการหลีกเลี่ยงความเสี่ยง และจัดสภาพสิ่งแวดล้อม รอบตวั เดก็ ใหป้ ลอดภัยอยู่เสมอ เดก็ อายุระหวา่ ง ๑๒ เดอื น – ๔ ปี จัดอยใู่ นกล่มุ ที่มี ๑.๖ สารพษิ เช่น ยา น�ำ้ ยาท�ำความสะอาดต่างๆ นำ้� กรด ความเสี่ยงสูงต่อการตายและการบาดเจ็บรุนแรง การบาด นำ้� มัน น้ำ� มันกา๊ ด ยาฆา่ แมลง เจ็บเหล่านี้มักเกิดข้ึนในบ้านเป็นส่วนใหญ่และสามารถ ๑.๗ ไฟฟ้าดูดจากการสัมผัสสายไฟที่ช�ำรุดหรือการแหย่ ป้องกนั ได้ รปู ล๊ักไฟ สาเหตุหลกั ของการบาดเจบ็ ภายในบ้านไดแ้ ก่ ๑.๘ สัตว์กัด ซ่ึงสาเหตุสว่ นใหญ่มาจากสนุ ขั ท่ีเลี้ยงไว้เอง ๑.๑ จมนำ�้ ในแหลง่ นำ�้ ในบา้ นหรอื ละแวกบา้ น เชน่ ในอา่ ง เดก็ อยกู่ บั สัตวเ์ ลี้ยง เช่น สนุ ขั แมว แล้วถกู กัดบาด กะละมงั บ่อน�ำ้ เจ็บอาจถึงแก่ชีวิตได้ ท้ังจากบาดแผลท่ีรุนแรงจาก ๑.๒ การหกล้มและพลัดตกจากท่ีสูง เช่น ตกจากเตียง การกัด โรคพิษสนุ ขั บ้า และโรคบาดทะยัก หนา้ ตา่ ง โต๊ะ หรอื บนั ได ๑.๓ ไฟไหม้ น้�ำร้อนลวก จากเตาไฟ เตาอบ หม้อหรือ โครงสร้างสิ่งแวดล้อมทางกายภาพที่เป็นอันตรายต่อ กานำ้� รอ้ น อาหารร้อน นำ้� มนั ทีร่ อ้ น ตะเกยี ง เตารีด เดก็ ตอ้ งถกู ดดั แปลงใหเ้ หมาะสมกบั เดก็ เพอ่ื ความปลอดภยั เปน็ ต้น เชน่ ราวระเบยี งหรือบนั ได ต้องมีช่องห่างไมก่ วา้ งพอทีเ่ ดก็ ๑.๔ ของมีคมบาด เช่น เศษแกว้ มีด กรรไกร จะรอดตกได้ เป็นต้น วสั ดุต่างๆ ท่ีอาจเป็นอันตรายต่อเด็ก ๑.๕ การอดุ ตนั ทางเดนิ หายใจจากวัตถุเลก็ ๆ เช่น เหรียญ ตอ้ งถกู เกบ็ ไวม้ ดิ ชดิ หรอื ในทที่ เ่ี ดก็ ไมส่ ามารถเออื้ มหยบิ ถงึ ได้ กระดมุ เมล็ดถัว่ 3
ป้องกันการบาดเจบ็ และอุบัตเิ หตขุ องเด็ก ๒การโดยสารจกั รยานยนตท์ กุ ครง้ั ตอ้ งใสห่ มวกนริ ภยั ทมี่ ี ขนาด และนำ�้ หนกั ทเ่ี หมาะสมกบั ศรี ษะเดก็ การโดยสาร รถยนตน์ นั้ เดก็ ทกุ วยั ตอ้ งใชท้ นี่ ง่ั นริ ภยั (คารซ์ ที )และเขม็ ขดั นริ ภยั อยา่ งเหมาะสมตามวยั เดก็ เลก็ อายนุ อ้ ยกวา่ ๕ปีมคี วามเสย่ี งตอ่ การถกู รถชนเมอื่ เดนิ หรอื เลน่ อย่ใู กลถ้ นน ไมค่ วรใหเ้ ดก็ วยั น้ี เลน่ ใกลถ้ นนหรอื เดนิ ถนนโดยลำ� พงั จะตอ้ งมผี ้ใู หญอ่ ยดู่ ว้ ยเสมอ ๒.๑ ผู้ดูแลเดก็ ไมค่ วรให้เดก็ อายุน้อยกวา่ ๒ ปี โดยสาร อาจจะมองไม่เห็นจากกระจกมองหลัง หรือกระจก รถจกั รยานยนต์ สำ� หรบั เดก็ ทอี่ ายมุ ากกวา่ ๒ ปี ขนึ้ ไป มองข้างของรถยนต์ ตอ้ งสวมหมวกนริ ภยั ทกุ ครง้ั ทโ่ี ดยสารรถจกั รยานยนต์ ๒.๖ ในชมุ ชนและโรงเรียน ตอ้ งออกแบบแยกพืน้ ท่ีที่เดก็ ๒.๒ ผู้ปกครองและชุมชนต้องร่วมกันควบคุมไม่ให้เด็ก เดินหรือเล่น ออกจากถนนที่ให้ยานยนต์ผ่านได้ ที่อายนุ อ้ ยกว่า ๑๘ ปี ขบั ขีร่ ถจักรยานยนต์ ถนนในเขตชมุ ชนและโรงเรยี น ตอ้ งถกู ออกแบบเพอื่ ๒.๓ เด็กจะมีความเส่ียงสูงต่อการบาดเจ็บ หากโดยสาร ควบคมุ ความเรว็ ของยานยนตม์ ใิ หเ้ กนิ ๓๐ กโิ ลเมตร รถยนตโ์ ดยนง่ั ทน่ี ง่ั ตอนหนา้ หรอื นงั่ สว่ นบรรทกุ ของ ต่อ ช่ัวโมง รถกระบะโดยไมม่ ผี ดู้ แู ล ควรใหเ้ ดก็ นง่ั ในคารซ์ ที หรอื ๒.๗ เดก็ ต้องไดร้ บั การสอนให้เดินบนทางเท้า ในทิศทาง ทนี่ งั่ นริ ภยั ทเ่ี หมาะสมกบั วยั ทกุ ครงั้ ทข่ี นึ้ รถ ไมว่ า่ จะ ท่ีมองเหน็ รถว่ิงเข้าหาตวั เดนิ ทางไกลหรอื ใกล้ เพราะหากเกดิ อบุ ตั เิ หตุ คารซ์ ที ๒.๘ ตอ้ งสอนเดก็ ใหข้ า้ มถนนโดยใชส้ ะพานลอย ทางขา้ ม สามารถลดอตั ราการตาย หรอื บาดเจบ็ ไดถ้ งึ รอ้ ยละ 70 ม้าลาย หรือทางขา้ มท่ีมีเจา้ หนา้ ที่คอยช่วยดแู ลโดย คารซ์ ที ควรไดร้ บั การตดิ ตงั้ อยา่ งถกู วธิ บี รเิ วณทน่ี งั่ ตอน ก่อนข้ามถนนให้หยุดท่ีขอบทางเท้า มองตรวจสอบ หลงั ของรถ ถนนทั้งสองทิศทางว่ามีรถมาหรือไม่ ฟังเสียงว่ามี ๒.๔ เด็กเล็กไม่คิดถึงอันตรายก่อนวิ่งข้ามถนน ดังน้ัน รถยนตม์ าหรอื ไม่ จูงมอื ผใู้ หญ่ไว้เสมอ และเดนิ ข้าม ผดู้ แู ลจะตอ้ งเฝา้ ดเู ดก็ อยา่ งใกลช้ ดิ ตลอดเวลาเมอ่ื เดก็ ถนนโดยไมว่ ิ่ง อย่ใู กล้ถนนและ ไม่ควรอนญุ าตใหเ้ ดก็ เล่นใกล้ถนน ๒.๙ นอกจากอบุ ตั เิ หตจุ ากการจราจรแลว้ รถยนตย์ งั เปน็ เชน่ เล่นฟุตบอล หรือ เลน่ สเกต๊ เปน็ ตน้ เหตุส�ำคัญของภาวะความร้อนสูงเกินขนาดภายใน ๒.๕ ผู้ขับข่ีรถในชุมชน หรือ บริเวณบ้านท่ีมีเด็กอยู่ รา่ งกายซงึ่ เปน็ เหตใุ หเ้ สยี ชวี ติ ได้ จงึ ตอ้ งไมป่ ลอ่ ยเดก็ ควรตรวจตราใหเ้ รยี บรอ้ ยกอ่ นการเคลอื่ นรถ วา่ มเี ดก็ ไว้ตามล�ำพังแม้เพียงเวลาไม่นานในรถท่ีปิดกระจก เล็กเล่นบริเวณรอบรถหรือไม่ เนื่องจากเด็กเล็ก โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ รถทจ่ี อดไวใ้ นทกี่ ลางแจง้ ไมว่ า่ จะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กท่ีอายุน้อยกว่า ๓ ปี ผู้ขับข่ี ตดิ หรอื ดบั เครอื่ งยนต์ เพราะจะทำ� ใหเ้ ดก็ เสยี ชวี ติ ได้ 4
ป้องกนั การบาดเจ็บและอบุ ัตเิ หตขุ องเดก็ ๓ เด็กเล็กมีความเสี่ยงต่อการจมน�้ำในบ้านและบริเวณ รอบๆ บา้ น ผดู้ แู ลเดก็ เลก็ ตอ้ งไมป่ ลอ่ ยเดก็ ไว้ใกลแ้ หลง่ นำ้� ตามล�ำพงั แม้จะเปน็ แหลง่ น้ำ� ขนาดเล็ก เด็กวยั เรยี นมกั จมนำ้� ในชุมชน เด็กวัยน้ีต้องได้รับการเรียนรู้เร่ืองความปลอดภัย ทางนำ้� ทกั ษะการวา่ ยนำ้� และการชว่ ยเหลอื ผจู้ มนำ้� อยา่ งถกู วธิ ี ๓.๑ การจมนำ้� ทำ� ใหข้ าดอากาศหายใจ ในเวลาเพยี งสอง ๓.๕ การวา่ ยนำ�้ เปน็ ทกั ษะชวี ติ ทส่ี ำ� คญั ซง่ึ เดก็ ทกุ คนตอ้ ง ถึงส่ีนาทีเด็กท่ีจมน�้ำจะหมดสติและหยุดหายใจ ไดร้ บั การสอนใหท้ ำ� ไดต้ งั้ แตว่ ยั เยาว์ โดยเฉพาะอยา่ ง น�ำไปสกู่ ารเสยี ชีวติ ได้ ยง่ิ เมอ่ื เดก็ อายุ ๗ ปี ไมว่ า่ จะเปน็ เดก็ หญงิ หรอื เดก็ ชาย ๓.๒ เดก็ เลก็ มคี วามเสยี่ งตอ่ การจมน�้ำในบา้ นและบรเิ วณ อยา่ งไรกต็ าม เดก็ ที่วา่ ยน�้ำได้กอ่ นอายุ ๕ ปี ทกุ ราย รอบๆบา้ น แหลง่ นำ�้ ในบา้ นทม่ี คี วามเสย่ี ง เชน่ ถงั นำ้� ให้ถือว่าเด็กนั้นยังว่ายน�้ำไม่เป็น ผู้ดูแลยังคงต้อง กะละมงั ตุ่ม โอง่ บอ่ น้�ำ บ่อเลยี้ งปลา การจมน้�ำใน ใหก้ ารดูแลอยา่ งใกลช้ ดิ เชน่ เดิม เดก็ เลก็ มกั เกดิ จากความเผอเรอของผดู้ แู ลเพยี งชว่ั ขณะ ๓.๖ สอนใหเ้ ดก็ หลกี เลย่ี งการวา่ ยนำ้� ในแหลง่ นำ�้ ธรรมชาติ เชน่ งบี หลบั เขา้ หอ้ งนำ�้ ไปเกบ็ จานหรอื ลา้ งจานหลงั ท่ีไม่คุ้นเคย แหล่งน้�ำที่มีกระแสน�้ำเช่ียว และ ป้อนขา้ วแลว้ ตากผา้ รบั โทรศพั ท์ เปน็ ตน้ เด็กอายุ ไมว่ ่ายน้ำ� คนเดยี ว น้อยกว่า ๕ ปี ทกุ ราย จึงควรอยู่ภายใต้สายตาของ ๓.๗ ฝึกสอนเด็กให้ใช้ชูชีพทุกคร้ังที่ต้องเดินทางทางน้�ำ ผดู้ ูแลอยา่ งใกล้ชดิ ทัง้ น้ีผู้ประกอบการ หรอื เจ้าของเรอื จำ� เปน็ ต้องจัด ๓.๓ ผู้ดูแลเด็กเล็กต้องไม่ปล่อยเด็กไว้ใกล้แหล่งน้�ำตาม ใหเ้ รอื และแพ มชี ชู พี เพยี งพอสำ� หรบั ผโู้ ดยสารทกุ คน ล�ำพัง แม้จะเป็นแหล่งน�้ำขนาดเล็ก อย่างไรก็ตาม ไมว่ า่ จะเป็นเรอื สาธารณะ หรือเรอื ส่วนตัว ผู้ดูแลไม่สามารถเฝ้าดูเด็กได้ตลอดเวลา ดังน้ัน ๓.๘ ฝึกสอนเด็กให้รู้จักวิธีการช่วยเหลือผู้ตกน้�ำโดยการ ส่ิงที่ส�ำคัญที่สุดในการป้องกันการจมน้�ำในเด็กเล็ก ยื่นส่ิงอุปกรณ์ให้ผู้ตกน�้ำเกาะ หรือโยนอุปกรณ์ช่วย คอื การจัดการส่งิ แวดล้อมรอบตวั เดก็ ไมใ่ หม้ ีแหล่ง การพยุงตัวในน�้ำลงไป การกระโดดลงไปช่วยเหลือ น�ำ้ ที่เดก็ สามารถเข้าถึงได้ เชน่ ปดิ ฝาถงั น้ำ� ตมุ่ โอง่ ผ้อู ื่นอาจท�ำใหเ้ สียชีวติ ได้ บอ่ น�ำ้ ท�ำรัว้ กั้นสระว่ายนำ้� บ่อน้ำ� คลองรอบๆ บา้ น และจดั พ้ืนทีเ่ ล่นอย่างปลอดภัย เช่น การจ�ำกดั พ้ืนที่ ในพน้ื ทปี่ ระสบอทุ กภยั ครอบครวั และเดก็ ตอ้ งรบั รแู้ ผน เดก็ ใหอ้ ยใู่ นหอ้ ง หรอื อยใู่ นพน้ื ทท่ี ม่ี รี ว้ั กน้ั รอบใหเ้ ดก็ สาธารณภยั ชมุ ชนและไดเ้ ขา้ รว่ มการฝกึ ซอ้ ม เมอ่ื มสี ญั ญาณ ๓.๔ เด็กวยั เรียนมักจมน�้ำในชุมชน เชน่ บ่อนำ�้ ขนาดใหญ่ เตอื นภยั ตอ้ งรวู้ า่ พนื้ ทปี่ ลอดภยั อยทู่ ใ่ี ด และจะมงุ่ ไปทศิ ทาง สำ� หรบั ชมุ ชน บอ่ หลมุ ทเี่ กดิ จากการตกั หนา้ ดนิ คลอง ใดจึงจะปลอดภัยทส่ี ดุ ฝายเป็นตน้ เดก็ วยั น้ตี อ้ งไดร้ บั การเรยี นรูเ้ รอ่ื งความ ปลอดภยั ทางนำ้� ทกั ษะการวา่ ยนำ้� และการชว่ ยเหลอื ผจู้ มน�้ำอย่างถูกวิธี 5
ป้องกนั การบาดเจบ็ และอบุ ัติเหตขุ องเดก็ ๔ดูแลใหเ้ ด็กเล็กอยหู่ ่างจากปลก๊ั ไฟ กองไฟ เตาหุงต้ม ตะเกียง ไม้ขดี ไฟ และเครื่องใช้ไฟฟ้า ความรอ้ นจากไฟ น้ำ� ร้อน วัตถุรอ้ น หรือไฟฟ้า เปน็ เหตุ ๔.๕ อย่าวางหมอ้ แกง หมอ้ นำ�้ ท่รี อ้ น ไวก้ ับพืน้ เด็กอาจ ใหเ้ กดิ การบาดเจบ็ รนุ แรงในเดก็ การบาดเจบ็ จากความรอ้ น เดิน วง่ิ สะดุดล้มลงในภาชนะเหลา่ นน้ั ได้ ทรี่ นุ แรง อาจทำ� ใหเ้ สยี ชวี ติ เกดิ แผลเปน็ และกอ่ ใหเ้ กดิ ความ ๔.๖ เกบ็ ตะเกยี ง เทยี น ไมข้ ดี ไฟ เตารดี สายไฟ ใหพ้ น้ มอื เดก็ พกิ ารได้ ๔.๗ การตดิ ตง้ั ระบบไฟฟา้ ในบา้ นตอ้ งตดิ ตง้ั ระบบสายดนิ การบาดเจบ็ จากความรอ้ นและไฟฟา้ สามารถปอ้ งกนั ไดโ้ ดย ที่ถูกวิธี และมเี ครื่องตัดไฟฟา้ อตั โนมตั ิ เพอ่ื ปอ้ งกนั ๔.๑ อยา่ ใหเ้ ดก็ เลน่ กองไฟ จดุ ไมข้ ดี ไฟ เลน่ ธปู เทยี น หรอื การบาดเจ็บจากไฟฟ้าลัดวงจร บหุ รที่ จ่ี ุดอยู่ ๔.๘ ควรตดิ ตงั้ ปลก๊ั ไฟในตำ� แหนง่ ทส่ี งู เพยี งพอทจ่ี ะปอ้ งกนั ๔.๒ อย่าให้เด็กเล่นวัตถุไวไฟ หรือวัตถุระเบิดทั้งหลาย ไมใ่ หเ้ ด็กใช้นว้ิ หรือโลหะต่างๆแหยเ่ ลน่ ได้ เชน่ น้�ำมัน น�้ำมนั ก๊าด ดอกไมไ้ ฟ และประทดั ๔.๙ ควรมฝี าครอบเตา้ เสยี บปล๊ักไฟทกุ อัน หรอื มีทีเ่ สียบ ๔.๓ อย่าวางเตาหุงต้มกับพ้ืน ควรวางบนฐานที่ยกสูง ส�ำหรับปิดรปู ล๊ัก จากพ้ืน มิให้เด็กเออื้ มถงึ ๔.๑๐ ส�ำรวจสายไฟในบ้านและสายไฟของเคร่ืองใช้ไฟฟ้า ๔.๔ การวางหมอ้ หงุ ตม้ ทมี่ ดี า้ มจบั บนเตา ตอ้ งหนั ดา้ มจบั อยู่เสมอ สายเปือ่ ย สายท่ฉี นวนเปื่อยช�ำรุด ควรรบี เขา้ ดา้ นใน มใิ หย้ นื่ พน้ ขอบฐานวาง เพือ่ ป้องกันมิให้ เปล่ียนหรอื ซ่อมแซมโดยทนั ที เด็กเอ้อื มมอื ควา้ เล่นได้ 6
ปอ้ งกนั การบาดเจบ็ และอบุ ตั เิ หตุของเด็ก ๕เด็กเลก็ มกั ชอบปนี ปา่ ย จงึ จำ� เปน็ ตอ้ งคำ� นงึ ถงึ การปอ้ งกนั การพลดั ตกของเดก็ ดงั นน้ั บนั ได ระเบยี ง หลงั คาหนา้ ตา่ ง ประตูร้ัว เสาประตูฟุตบอล แป้นบาสเกตบอล และเครื่องเล่น ในสนามเด็กเล่น ควรสร้างใหป้ ลอดภยั การพลัดตกหกลม้ ท�ำใหเ้ กิดบาดแผลฟกชำ้� กระดูกหกั จะสามารถปีนปา่ ยทำ� ใหต้ กจากที่สงู ได้ หรือการบาดเจ็บของสมองได้ การปอ้ งกันทำ� ได้โดย • เก็บกวาดพ้ืนบ้านให้สะอาด ไม่มีของทิ้งขว้าง ๕.๑ สอนเดก็ ใหห้ ลกี เลยี่ งการปนี ปา่ ยในบรเิ วณทไ่ี มป่ ลอดภยั อันเปน็ เหตุใหเ้ ดก็ สะดดุ ลม้ ไดง้ ่าย การปีนปา่ ยบันได ราวระเบยี ง ตน้ ไม้ ตหู้ รอื ช้นั วาง ๕.๓ ไมใ่ หท้ ารกหรอื เดก็ เลก็ ใชร้ ถหดั เดนิ ทม่ี ลี กู ลอ้ เพราะ ของตา่ งๆ เปน็ เหตใุ หเ้ กดิ การพลกิ ควำ่� พลดั ตกทส่ี งู หรอื พนื้ ตา่ ง ๕.๒ ออกแบบโครงสรา้ งบา้ นเรอื นหรอื สนามเดก็ เลน่ โดย ระดบั ทำ� ใหเ้ กดิ การบาดเจบ็ รนุ แรงได้ อกี ทง้ั อปุ กรณ์ ค�ำนงึ ถึงการปอ้ งกนั การพลดั ตกของเด็ก เช่น ดงั กลา่ วไมไ่ ดท้ ำ� ใหพ้ ฒั นาการการเดนิ ของเดก็ เรว็ ขน้ึ • การสร้างราวกนั ตกของระเบียง บนั ไดต้องมีความ ๕.๔ เครอื่ งเลน่ สนาม ประตฟู ตุ บอล และแปน้ บาสเกตบอล สูงพอที่เด็กจะปนี ป่ายไมไ่ ด้ เป็นอุปกรณ์ท่ีมีน้�ำหนักมาก หากติดตั้งโดยไม่ได้ • ชอ่ งหา่ งของซรี่ าวกนั ตกระเบยี งบนั ได ตอ้ งมขี นาด ยึดติดฐานรากให้ม่ันคง ขณะเด็กปีนป่ายจะท�ำให้ ไม่เกิน ๙ เซนติเมตร เพื่อป้องกันเด็กลอดตกได้ อุปกรณ์เหล่านี้ล้มคว�่ำ และทับเด็ก จนเป็นเหตุให้ และตอ้ งไมว่ างเฟอรน์ เิ จอร์ กระถางตน้ ไม้ ตเู้ ครอื่ ง เด็กเสยี ชวี ิตได้ ปรับอากาศ หรือไม่มีซ่ีราวในแนวนอน ท่ีเด็ก ๖ยา และสารพิษตา่ งๆ ในบ้าน เช่น น�้ำยาทำ� ความสะอาด ตา่ งๆ นำ้� กรด น้�ำมัน นำ�้ มนั กา๊ ด ยาฆา่ แมลง ตอ้ งไม่ถกู บรรจใุ นภาชนะที่ใช้ด่ืมกนิ เชน่ ขวดน้�ำ ภาชนะที่บรรจสุ ารพิษ ต้องระบุช่ือของสารให้ชัดเจนและเก็บให้มิดชิด มิให้เด็ก เอ้อื มหยบิ ได้ เด็กเล็กมีความเสี่ยงต่อการได้รับสารพิษโดยไม่ตั้งใจ สารพิษหลายชนิดเข้าสู่ร่างกายโดยการดื่มกิน สารพิษในบ้านที่พบได้บ่อย เช่น ยาที่ใช้บ่อย ยาฆ่าแมลง แต่อีกหลายชนิดเข้าสู่ร่างกายทางอ่ืน เช่น การสูดดม ยาเบือ่ หนู นำ�้ มนั กา๊ ด น�้ำยาท�ำความสะอาด สามารถท�ำให้ การสมั ผสั ทางผวิ หนงั หรือทางตา เปน็ ต้น เดก็ เสียชีวิตหรือบาดเจบ็ ได้ 7
ป้องกันการบาดเจบ็ และอุบัติเหตุของเดก็ ๖.๑ อย่าเทสารพิษท้งั หลายลงในภาชนะท่ใี สอ่ าหารหรอื มเี จา้ หนา้ ทร่ี บั โทรศพั ทต์ ลอด ๒๔ ชวั่ โมง) หรอื หนว่ ย น�้ำด่ืมต่างๆ เช่น ใส่ในถ้วย จาน ชาม ขวด หรือ ปฏิบัติการฉุกเฉินในพ้ืนที่นั้น (หมายเลขโทรศัพท์ ขวดนำ�้ อดั ลม หากมสี ารพษิ ทเี่ หลอื ใชค้ วรเกบ็ ในบรรจุ 1669 ซง่ึ อาจใหค้ ำ� แนะนำ� โดยตรง หรอื ปรกึ ษาแพทย์ ภัณฑเ์ ดมิ และมปี ้ายบ่งบอกวา่ เปน็ สารพิษไวเ้ สมอ แทนท่าน หรอื ตอ่ ไปยังศูนย์พษิ วิทยาแทนทา่ นได)้ ๖.๒ ควรเก็บบรรจุภัณฑ์สารพิษนี้ไว้บนที่สูง หรือในตู้ท่ี ๖.๔ หากเด็กพลาดพลั้งกลืนกินสารพิษเข้าไป ก่อนจะ สามารถล็อคได้ปดิ ฝาใหแ้ นน่ ทกุ ครงั้ หลงั ใชง้ านแล้ว น�ำส่งโรงพยาบาล อย่าลืมเก็บขวด กระป๋อง หรือ ๖.๓ หากเดก็ ไดร้ บั กลนื กนิ สารพษิ เขา้ ไป ควรปรกึ ษาศนู ย์ ภาชนะใดๆ อนั เปน็ บรรจภุ ณั ฑข์ องสารพษิ นน้ั ไปดว้ ย พิษวิทยา (ต้ังอยู่ท่ีโรงพยาบาลรามาธิบดี หมายเลข เพื่อการพจิ ารณาของแพทย์ โทรศัพท์ 0-2201-1083 หรือ 0-2046-8282 ๗ถุงพลาสติก และของมีคมในบา้ น เช่น มดี กรรไกร เศษแกว้ แตก อาจเปน็ สาเหตขุ องการบาดเจบ็ ทร่ี นุ แรง ได้ฉะนั้น ต้องเก็บให้มิดชดิ พน้ มอื เดก็ ๗.๑ ถงุ พลาสตกิ กอ่ ใหเ้ กดิ อนั ตรายแกเ่ ดก็ ได้ ถา้ เดก็ นำ� มา ๗.๓ ควรเกบ็ มีด กรรไกร และของมีคม ให้มิดชิดพ้นจาก ครอบศีรษะ หรือรดั คอ จนทำ� ให้ขาดอากาศหายใจ มอื เดก็ และตอ้ งสอนวธิ กี ารจบั และใชอ้ ยา่ งปลอดภยั เปน็ เหตใุ ห้เสียชีวติ ได้ ให้กับเดก็ โต ตอ้ งเกบ็ และกำ� จัดโลหะมีคม เศษวสั ดุ ๗.๒ เศษแกว้ แตก หรอื เศษกระเบื้อง เป็นสาเหตใุ ห้เกดิ หรือ กระป๋องท่ีเปน็ สนมิ ออกจากบรเิ วณทเี่ ด็กเล่น บาดแผลฉีกขาด ซึ่งอาจท�ำให้เสียเลือด และแผล เพราะ อาจท�ำให้เกิดบาดแผล และตดิ เชอื้ ทร่ี ุนแรง ติดเชื้อ ขวดแก้วต่างๆควรถูกเก็บไว้ให้พ้นมือเด็ก ได้ ควรตรวจตราภายในบริเวณบ้านและท่ีท่ีเด็กเล่นไม่ ๗.๔ สอนให้เด็กรู้ถึงอันตรายของการขว้างปาก้อนหิน ใหม้ เี ศษแกว้ แตกเหลอื อยู่ เดก็ เลก็ ควรสอนไมใ่ หห้ ยบิ ทรายใส่กนั จับแก้วที่แตก ส่วนเด็กโตควรสอนวิธีเก็บเศษแก้ว ทิ้งอยา่ งปลอดภัย 8
ป้องกันการบาดเจ็บและอุบตั ิเหตุของเด็ก ๘เด็กเล็กมักชอบหยิบส่ิงของต่างๆเข้าปาก ดังน้ัน ผดู้ ูแลเด็กต้องเก็บส่ิงของท่มี ขี นาดเล็กใหพ้ น้ มือเดก็ เพอ่ื ป้องกันการสำ� ลกั และอดุ ตนั ทางเดนิ หายใจ สิง่ ของที่มขี นาดเล็กกว่า ๓.๒ เซนตเิ มตร และมีความ เหมาะสมตามอายุ เดก็ ควรไดร้ บั การสอนใหน้ ่งั กิน ยาวส้ันกว่า ๖ เซนติเมตร หากเด็กน�ำเข้าปากจะมีโอกาส ไมเ่ ดนิ หรอื วงิ่ ขณะกนิ อาหาร และฝกึ ใหเ้ คยี้ วอาหาร ส�ำลักเข้าสู่หลอดลมเด็กได้ โดยเฉพาะอย่างย่ิงส่ิงของทรง อยา่ งละเอียดและชา้ ๆ กลม เชน่ ลูกปัด ลูกหิน หรือลูกแก้ว เปน็ ตน้ ๘.๔ อาการไอ ส�ำรอก หายใจเสียงดัง หรือเสียงแหบ ๘.๑ บรเิ วณทเ่ี ด็กเล่นหรือนอน ไม่ควรใหม้ ีวัตถชุ ิ้นเลก็ ๆ ไม่สามารถออกเสียงได้อย่างเฉียบพลัน บ่งบอกถึง เชน่ กระดมุ ลูกปดั ตะปู กิ๊บ เมล็ดถวั่ ตา่ ง ๆ หรอื อาการส�ำลักส่ิงแปลกปลอมเข้าสู่ทางเดินหายใจ เหรยี ญ เปน็ ต้น อาการเหล่านี้เป็นเครื่องบ่งชี้ถึงภาวะหายใจล�ำบาก ๘.๒ เด็กเล็กๆ ไม่ควรให้รับประทานอาหาร หรือ ขนม ซง่ึ ตอ้ งใหก้ ารชว่ ยเหลอื อยา่ งเรง่ ดว่ น แมว้ า่ ผดู้ แู ลเดก็ ทมี่ ขี นาดเลก็ ๆ เชน่ เมลด็ ถว่ั ตา่ งๆ ลกู อม หรอื อาหาร จะไมเ่ หน็ ขณะเดก็ เอาสงิ่ ของเขา้ ปาก แตห่ ากมอี าการ ทมี่ ีกระดูก หรือก้างชิ้นเลก็ ๆ ดังกลา่ วผ้ดู ูแลเด็กตอ้ งใหก้ ารช่วยเหลอื ทันที ๘.๓ เดก็ เลก็ ควรไดร้ บั การดแู ลใกลช้ ดิ ในระหวา่ งมอ้ื อาหาร อาหารส�ำหรับเด็กเล็กควรท�ำให้เป็นชิ้นเล็ก 9
ปอ้ งกันการบาดเจบ็ และอุบตั ิเหตุของเด็ก ๙เด็กทารกอาจขาดอากาศหายใจไดจ้ ากทา่ นอน หรอื การใช้เครื่องนอนที่ไม่เหมาะสม การนอนคว่�ำ การนอนข้างผู้ใหญ่หรือเด็กโต การใช้หมอนใบใหญ่ ผ้าห่มหนา หรือท่ีนอนนุ่มจนเกินไป เป็นสาเหตุส�ำคัญ ของการขาดอากาศหายใจได้ ผูป้ กครอง ผูด้ แู ลเดก็ ตอ้ งมีความรูใ้ นการเลอื กใช้เตยี ง ตอ้ งไมเ่ กนิ กว่า ๑๕ เซนตเิ มตร หากเด็กเรมิ่ เกาะยนื ท่ีมีความปลอดภัย รวมท้ังหน่วยงานท่ีรับผิดชอบ เช่น ได้ ตอ้ งนำ� เบาะกนั ชนออก ไมแ่ นะนำ� ใหใ้ ชเ้ บาะกนั ชน สำ� นกั งานมาตรฐานอุตสาหกรรม และสำ� นักงานคุม้ ครองผู้ เพอ่ื จดุ ประสงคป์ อ้ งกนั เดก็ ตกหรอื ลอดชอ่ งเมอื่ ซร่ี าว บรโิ ภค ต้องควบคุมผลิตภณั ฑ์ในตลาดตามขอ้ แนะน�ำความ กันตกมีความห่างเกินกว่า ๖ เซนติเมตร ในกรณีนี้ ปลอดภยั ตามความเส่ียง ขอ้ แนะน�ำความปลอดภัยส�ำหรบั สมควรให้จดั หาเตยี งทถ่ี ูกต้องส�ำหรบั เดก็ ทดแทน เตยี งเด็ก ไดแ้ ก่ ๙.๖ เบาะส�ำหรับเด็กต้องเป็นเบาะที่มีความแข็งก�ำลังดี ๙.๑ เตียงส�ำหรับเด็กทารก ต้องมีราวกันตกท่มี ีซ่ีราวหา่ ง เบาะ ฟูก หมอน หรือผา้ หม่ นุ่มๆหนาๆ ขนาดใหญ่ๆ กนั ไมเ่ กิน ๖ เซนติเมตร เพอื่ ไมใ่ หเ้ ด็กลอดออกมาได้ เพราะหน้าของเด็กอาจจุ่มลงไปแล้วกดจมูกและ ๙.๒ ผนงั เตยี งด้านศรี ษะและเทา้ ต้องไมม่ ีการตดั ตกแต่ง ปาก เปน็ เหตใุ หข้ าดอากาศหายใจ เสยี ชวี ติ ได้ ให้เกดิ รอ่ ง รู หรือมีช่องว่างกวา้ งกวา่ ๖ เซนติเมตร ๙.๗ ควรเลอื กชุดนอนทห่ี นาอบอุ่น สวมใส่ได้พอดี ทำ� ให้ เช่นเดียวกนั ไมต่ อ้ งใชผ้ า้ หม่ หากจะใชผ้ า้ หม่ ตอ้ งเลอื กเนอ้ื ผา้ บาง ๙.๓ จากขอบบนของเบาะท่ีนอนถึงราวกันตกด้านบน ๙.๘ ต้องไมใ่ ช้เครื่องนอน ของเลน่ เสื้อผ้า อปุ กรณอ์ ืน่ ๆ ต้องมีความสูงไม่ต่�ำากว่า ๖๕ เซนติเมตร หรือ ¾ ทมี่ ลี กั ษณะเสน้ สายทม่ี คี วามยาวเกนิ กวา่ ๑๕ เซนตเิ มตร ของความสูงเด็ก ของเลน่ บนเตยี งชนิดแขวน (crib toy) ต้องนำ� ออก ๙.๔ เมอื่ เดก็ อายุ ๒ ปี หรอื ความสงู เกนิ กวา่ ๘๕ เซนตเิ มตร จากเตียงเม่ือเด็กเร่ิมดันตัวขึ้นน่ังได้ หรือเม่ืออายุ จะมีความเสี่ยงต่อการปีนราวกันตก และตกจาก มากกวา่ ๕ เดอื น ทส่ี ูงได้ ๙.๕ เบาะกันชนเพื่อป้องกันเด็กกระแทกกับซ่ีราวกันตก ต้องผูกไว้อย่างน้อย ๖ จุด และปลายเชือกที่ผูก 10
ป้องกันการบาดเจบ็ และอบุ ัตเิ หตุของเดก็ ๑๐ แม้ของเล่นจะเป็นสิ่งท่ีจ�ำเป็นในการส่งเสริม พัฒนาการเด็ก แต่หากเด็กเล่นของเล่น ท่ี ไ ม ่ เ ป ็ น ไ ป ต า ม ม า ต ร ฐ า น ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย แ ล ้ ว จ ะ มี ความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ ของเลน่ คอื เครอ่ื งมอื หนง่ึ ในการสง่ เสรมิ พฒั นาการเดก็ ปอ้ งกนั การมเี ลอื ดออกมากขนึ้ หากเปน็ ปนื ทม่ี คี วาม ของเลน่ ทด่ี ไี มจ่ ำ� เปน็ ตอ้ งเปน็ ของแพงแตจ่ ะตอ้ งเปน็ ของเลน่ แรงสงู เชน่ ปนื ในกฬี าBB อาจกอ่ ใหเ้ กดิ การแตกของ ทปี่ ลอดภยั เหมาะสมกบั อายแุ ละพฒั นาการของเดก็ ของเลน่ ท่ี ลูกตาได้ พบวา่ เปน็ เหตใุ หเ้ ดก็ ตอ้ งบาดเจบ็ รนุ แรงไดบ้ อ่ ย ไดแ้ ก่ เครอ่ื ง ๑๐.๓ ของเล่นที่ท�ำให้เคลื่อนท่ีได้เร็ว มักมีลูกล้อและต้อง เล่นในสนามเด็กเล่น ของเล่นท่ีใช้ยิง เช่น ปืนอัดลม ปืน ใช้ความสามารถในการทรงตวั ดว้ ย ของเลน่ ประเภท ลูกดอก ของเล่นท่ีท�ำให้เคล่ือนที่ได้เร็ว เช่น จักรยาน น้ีมีความเสี่ยงต่อการล้มคว�่ำ ตกท่ีสูง หรือถูกชน รองเท้าสเกต๊ ของเลน่ ชนิ้ เลก็ ทอี่ าจท�ำให้เกิดการอุดตนั ทาง กระแทก การปอ้ งกันท่สี �ำคญั ไดแ้ ก่ เดก็ ทีอ่ ายุนอ้ ย เดินหายใจเด็ก และของเล่นมีสายยาวซึ่งอาจรัดพันคอเด็ก กวา่ ๕ ปี ไม่ควรเลน่ เพราะเป็นวัยท่ียังไมส่ ามารถ เปน็ ต้น นอกจากน้นั สารตะกัวทผี่ สมในสขี องเลน่ อาจสะสม ทรงตัวได้ดีเม่ือเคล่ือนท่ีอย่างเร็ว เด็กที่เร่ิมหัดเล่น ในรา่ งกายและมผี ลตอ่ สมองรวมทง้ั อวยั วะอน่ื ๆ ไดใ้ นระยะยาว ควรมผี ฝู้ กึ ทชี่ ำ� นาญคอยดแู ลเสมอ ใหเ้ ลน่ ไดใ้ นสถาน ๑๐.๑ การบาดเจ็บรนุ แรงที่เกดิ จากเครอื่ งเล่นสนาม ไดแ้ ก่ ท่ีที่เหมาะสม ปลอดจากการถูกรถชน และต้องใช้ เครื่องเล่นล้มทับท�ำให้บาดเจ็บสมองและอวัยวะ อุปกรณ์เสรมิ ความปลอดภยั เช่น หมวกนริ ภยั ภายในทรวงอกและช่องท้อง การตกท่ีสูงท�ำให้เกิด ๑๐.๔ ของเล่นส�ำหรบั เดก็ ที่อายนุ อ้ ยกวา่ ๓ ปี ตอ้ งมคี วาม ภาวะกระดกู หัก และการบาดเจบ็ สมอง การป้องกัน กว้างไม่น้อยกว่า ๓.๒ เซนติเมตร หากความกว้าง ท่สี �ำคญั คอื การตดิ ตัง้ เคร่อื งเล่นสนามตอ้ งยดึ ตดิ พื้น น้อยกวา่ นตี้ ้องมีความยาวไม่น้อยกวา่ ๖ เซนตเิ มตร ให้ม่ันคง ไม่สามารถโยกคลอนหรือยกย้ายที่ได้ เพอื่ ป้องกนั มิใหเ้ ดก็ นำ� เข้าปากและสำ� ลักได้ พื้นสนามจะต้องดูดซับแรงเพื่อป้องกันการบาดเจ็บ ๑๐.๕ ของเลน่ ของใชท้ เ่ี ปน็ สายยาวเกนิ กวา่ ๒๒ เซนตเิ มตร จากการตก โดยปูพื้นด้วยทรายท่ีหนาอย่างตํ่า อาจพันรัดรอบคอเด็กทารกท�ำใหข้ าดอากาศหายใจ ๓๐ เซนตเิ มตร หรือเป็นพนื้ ยางสังเคราะห์ท่ีมีความ ได้ เช่นเชือกคลอ้ งหวั นมดูดเลน่ ของเลน่ ชนิดแขวน หนาเหมาะสม เครื่องเล่นต้องไม่มีความสูงเกินกว่า ใหเ้ ดก็ จ้องมอง เชอื กหูรูดหมอนข้าง เป็นตน้ ๑๘๐ เซนติเมตร และเครอ่ื งเล่นแต่ละอยา่ งจะตอ้ ง ๑๐.๖ สารตะก่ัวที่ผสมในสีของเล่น อาจสะสมในร่างกาย จัดใหห้ า่ งกันราว ๑๘๐ เซนตเิ มตร รอบๆ เครือ่ งเลน่ และมผี ลตอ่ สมองรวมทง้ั อวยั วะอน่ื ๆของเดก็ ในระยะ เพ่อื ป้องกันการว่งิ ชนกระแทก ยาว ควรเลือกของเล่นที่มีเคร่ืองหมายมาตรฐาน ๑๐.๒ ของเลน่ ชนดิ ปนื ทมี่ กี ระสนุ แบบตา่ งๆ โดยเฉพาะอยา่ ง อตุ สาหกรรม และสไี มห่ ลดุ ลอกติดมือเดก็ ย่งิ ปืนอัดลม ซงึ่ มกี ระสุนเป็นเม็ดพลาสติกกลมเล็กๆ ๑๐.๗ นอกจากสีในของเลน่ แล้ว สที าบ้านยงั เปน็ สาเหตใุ ห้ มักมีความเร็วของกระสุน และความแรงของการ เด็กได้รับพิษจากสารตะกั่วสะสมในร่างกาย การใช้ กระแทกเกนิ กวา่ คา่ มาตรฐาน ทำ� ใหเ้ กดิ การบาดเจบ็ สที าภายในอาคารบา้ นเรือน ศนู ย์เด็กเล็ก โรงเรียน ตาได้ โดยเกิดเลือดออกในช่องลูกตาซึ่งต้องรับการ หรอื สถานทท่ี เ่ี ดก็ ตอ้ งอยอู่ าศยั ตอ้ งเลอื กใชส้ ที าภายใน รักษาและการหยุดการเคล่ือนไหวในระยะแรกเพ่ือ ทไ่ี มม่ ีสารตะกว่ั 11
ป้องกนั การบาดเจบ็ และอุบตั เิ หตขุ องเดก็ 12
ปอ้ งกันการบาดเจบ็ และอบุ ัตเิ หตขุ องเดก็ ข้อมูลจากหนงั สือ ความรเู้ พื่อชวี ิต (พ.ศ. 2554) ซึ่งคณะท�ำงาน น�ำโดยสถาบันแหง่ ชาติ เพอื่ การพัฒนาเดก็ และครอบครัว มหาวิทยาลยั มหดิ ล ได้ปรับปรุงจากหนังสือ Facts for Life FacWtsHOfo,rULNifEeS(C4Oth, UeNdFitPioAn, ,U2N0D1P0,) UเปNน็ AขIDอ้ มSลู, ทW่ีจFดั Pทแำ� ลโดะยWองoคr์กldารBยaูนnิเซkฟ, 13
Search
Read the Text Version
- 1 - 13
Pages: