Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี : พิมพ์ครั้งที่ 5 : 2562

คู่มือกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี : พิมพ์ครั้งที่ 5 : 2562

Published by นัยนา รัตนพันธุ์, 2021-08-26 16:05:29

Description: คู่มือกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี : พิมพ์ครั้งที่ 5 : 2562

Search

Read the Text Version

“ 1



คำนำ ตามท่ีได้มีระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี พ.ศ. ๒๕๔๖ และได้มีการแต่งต้ังผู้ดารงตาแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีขึ้น เพ่ือปฏิบัติหน้าที่ในฐานะกรรมการผู้ช่วย รัฐมนตรี ซึ่งจะต้องทางานร่วมกันเป็นคณะและในฐานะผู้ช่วยรัฐมนตรีซึ่งไปปฏิบัติงานในแต่ละ กระทรวงแยกกัน เพื่อความเข้าใจและความสะดวกในการปฏิบัติงานของคณะกรรมการผู้ช่วย รัฐมนตรี สานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จึงได้จัดทาคู่มือคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีและได้ จัดพมิ พเ์ ผยแพร่คู่มือคณะกรรมการผู้ชว่ ยรัฐมนตรีครัง้ แรกเม่อื เดอื นกมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๔๖ โด ย ท่ี ส า นั ก เล ข า ธิ ก า ร น า ย ก รั ฐ ม น ต รี เป็ น ห น่ ว ย ง า น ที่ มี ห น้ า ที่ รั บ ผิ ด ช อ บ เกี่ ย ว กั บ คณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี สานักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีจึงได้ทาการปรับปรุงแก้ไขคู่มือ คณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีมาแล้วหลายคร้ัง การจัดพิมพ์หนังสือคู่มือคณะกรรมการผู้ช่วย รัฐมนตรีคร้ังนี้เป็นการพิมพ์ครั้งที่ห้า ซ่ึงจัดพิมพ์โดยสานักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้มีการ ปรับปรุงข้อมูลแนวทางปฏิบัติที่เก่ียวกับคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี เพื่อให้สอดคล้องกับ กฎระเบียบที่มีการเปลี่ยนแปลง เช่น ขน้ั ตอนการแต่งตั้งคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี การกาหนด องค์ประชุมในการจัดประชุมคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีครั้งแรก และการยื่นบัญชีแสดงรายการ ทรพั ย์สินและหนี้สนิ เป็นต้น ทง้ั น้ี เพือ่ เผยแพร่ให้แก่คณะกรรมการผูช้ ่วยรัฐมนตรี และหนว่ ยงานที่ เกี่ยวข้องเพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติงานของคณะกรรมการผู้ช่วยรฐั มนตรีและผู้ท่ีได้รับการแต่งตั้ง เป็นผู้ชว่ ยรฐั มนตรี รวมถึงประโยชนใ์ นการอา้ งอิงต่อไป สำนักเลขำธิกำรนำยกรฐั มนตรี เมษำยน ๒๕๖๒

สำรบญั หมวด ๑ กำรแต่งตง้ั คณะกรรมกำรผู้ช่วยรัฐมนตรี ๑ ๒ ๑.๑ ขนั้ ตอนการแตง่ ตงั้ คณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ๑.๒ ขนั้ ตอนการเปล่ยี นแปลงการมอบหมายให้กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีปฏบิ ตั ิหน้าที่ ๓ ๔ และมอบอานาจการบังคับบัญชา ๖ ๑.๓ ข้นั ตอนการให้ผชู้ ่วยรัฐมนตรีคงอยปู่ ฏบิ ตั ิหนา้ ท่ีต่ออกี หน่งึ วาระ ๗ ๑.๔ คุณสมบัตแิ ละลกั ษณะต้องห้ามของผชู้ ว่ ยรัฐมนตรี ๑.๕ การพน้ จากตาแหนง่ ของผู้ชว่ ยรัฐมนตรี ๑๑ ๑.๖ การเรียกช่ือผชู้ ว่ ยรัฐมนตรี ๑๒ ๑๕ หมวด ๒ แนวทำงปฏบิ ตั เิ ม่อื เข้ำรับตำแหนง่ แล้ว ๑๖ ๑๖ ๒.๑ สถานะของผูช้ ่วยรัฐมนตรี ๒.๒ การปฏิบัติหน้าท่ขี องผ้ชู ่วยรัฐมนตรี ๑๘ ๒.๓ วนิ ัยของผูช้ ่วยรัฐมนตรี ๑๙ ๒.๔ การบังคับบัญชา ๒๐ ๒.๕ การยน่ื บญั ชีแสดงรายการทรัพย์สนิ และหนสี้ ิน ๒๑ ๒๒ หมวด ๓ กำรประชุมคณะกรรมกำรผู้ช่วยรฐั มนตรี ๒๒ ๓.๑ ระบบการประชมุ ๓.๒ การประชุมครง้ั แรก ๓.๓ การจดั ระเบยี บวาระการประชุม ๓.๔ ลาดบั การประชมุ ๓.๕ การลาประชมุ ๓.๖ เจ้าหน้าท่ีปฏิบตั ิงานในการประชุม

หมวด ๔ เรื่องนำ่ รูส้ ำหรบั ผู้ชว่ ยรฐั มนตรี ๒๓ ๒๓ ๔.๑ ค่าตอบแทน ๒๕ ๔.๒ สทิ ธปิ ระโยชนแ์ ละเกยี รตยิ ศอนื่ ๆ ๔.๓ การแตง่ กายในโอกาสเขา้ ร่วมงานพระราชพิธีหรือรัฐพธิ ี หมวด ๕ ข้อพงึ ระวังสำหรบั ผู้ช่วยรัฐมนตรี ๒๗ ๒๗ ๕.๑ ผชู้ ว่ ยรฐั มนตรีเป็นผู้ทรงคุณวฒุ ิ ๕.๒ บัญญตั ิ ๙ ประการสาหรบั ผู้ช่วยรัฐมนตรี หมวด ๖ หนว่ ยงำนของรฐั และองคก์ รสำคญั ทีเ่ ก่ยี วข้องกบั ผูช้ ว่ ยรัฐมนตรี ๒๙ ๓๐ ๖.๑ ฝ่ายเสนาธิการของคณะรัฐมนตรี ๓๓ ๖.๒ หน่วยงานที่เก่ยี วขอ้ งกบั กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ๓๔ ๖.๓ สว่ นราชการทมี่ งี านสัมพันธก์ นั ๓๕ ๖.๔ หน่วยงานที่มอี านาจควบคุมการบริหารราชการแผ่นดนิ ของคณะรฐั มนตรี ๖.๕ หนว่ ยงานทม่ี อี านาจตรวจสอบการทางานของคณะรัฐมนตรี หรือส่ังการท่อี าจมผี ลกระทบตอ่ คณะรัฐมนตรีได้ ภำคผนวก ภำคผนวก ๑ - ระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าดว้ ยคณะกรรมการผชู้ ว่ ยรัฐมนตรี พ.ศ. ๒๕๔๖ (ฉบบั สคก.) ๓๗ - QR Code ๔๓ ระเบยี บสานกั นายกรฐั มนตรีว่าด้วยคณะกรรมการผูช้ ่วยรฐั มนตรี พ.ศ. ๒๕๔๖ ระเบยี บสานักนายกรฐั มนตรวี ่าดว้ ยคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๗ ระเบียบสานกั นายกรฐั มนตรีว่าดว้ ยคณะกรรมการผ้ชู ่วยรัฐมนตรี (ฉบับท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๕๗ ระเบยี บสานกั นายกรฐั มนตรีว่าดว้ ยคณะกรรมการผู้ชว่ ยรัฐมนตรี (ฉบบั ท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ - ระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าดว้ ยคณะกรรมการผู้ชว่ ยรฐั มนตรี (ฉบบั ท่ี ๕) พ.ศ. ๒๕๖๓ ๔๔ ภำคผนวก ๒ - ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบกิ จ่ายเงินค่าตอบแทนรายเดอื นของผ้ชู ่วยรฐั มนตรี ๔๕ ประจากระทรวง พ.ศ. ๒๕๔๖

- สาเนาหนงั สอื สานักเลขาธกิ ารคณะรัฐมนตรี ดว่ นที่สดุ ที่ นร ๐๕๐๖/๑๗๑๙๖ ๔๗ ลงวันท่ี ๑๙ กนั ยายน ๒๕๕๗ เรือ่ ง การปรับอัตราค่าตอบแทนรายเดอื นผชู้ ว่ ยรัฐมนตรี ๔๘ ประจากระทรวง - สาเนาหนังสือกระทรวงการคลงั ท่ี ๐๔๐๖.๖/ว ๑๐๔ ลงวนั ท่ี ๒๒ กนั ยายน ๒๕๕๑ เร่ือง การเทยี บตาแหน่ง ภำคผนวก ๓ - คาวินจิ ฉยั ของคณะกรรมการกฤษฎกี า เรอ่ื ง ฐานะและการดารงตาแหน่งของผู้ช่วยรฐั มนตรี ๕๓ - ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทจุ ริตแห่งชาติ เรอื่ ง หลักเกณฑแ์ ละ ๖๑ วธิ กี ารย่ืนบัญชีทรัพย์สนิ และหนส้ี นิ ของเจา้ พนกั งานของรัฐตอ่ คณะกรรมการ ป.ป.ช. พ.ศ. ๒๕๖๑ - ประกาศคณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามการทุจรติ แหง่ ชาติ เรื่อง กาหนดตาแหนง่ ๗๐ ของเจ้าพนักงานของรัฐซ่งึ จะต้องย่นื บญั ชีทรพั ยส์ ินและหนส้ี นิ ตามมาตรา ๑๐๓ พ.ศ. ๒๕๖๑ ภำคผนวก ๔ - ระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าดว้ ยประมวลจริยธรรมของขา้ ราชการการเมอื ง พ.ศ. ๒๕๕๑ ๙๑ ภำคผนวก ๕ - แบบแสดงข้อมลู ประวตั ิผไู้ ดร้ บั การเสนอชื่อเพือ่ ประกอบการแตง่ ตง้ั เปน็ ผูช้ ่วยรฐั มนตรี ๙๖ (แบบ ผช.รมต. ๑) ๙๘ - แบบแสดงขอ้ มูลเกยี่ วกับคุณสมบตั แิ ละลักษณะตอ้ งห้ามสาหรับผไู้ ด้รับการเสนอชอ่ื เปน็ ผู้ชว่ ยรฐั มนตรีใชต้ รวจสอบและรับรองตนเอง (แบบ ผช.รมต. ๒) ภำคผนวก ๖ - พระราชกฤษฎกี า กาหนดเจ้าหนา้ ที่ของรฐั และผมู้ ีอานาจออกบตั รประจาตัวเจา้ หนา้ ที่ ๙๙ ของรฐั ตามพระราชบญั ญัตบิ ตั รประจาตวั เจา้ หน้าที่ของรฐั พ.ศ. ๒๕๔๒ (ฉบบั ท่ี ๑๒) ๑๐๒ พ.ศ. ๒๕๕๕ - แบบคาขอมีบัตรประจาตวั หรอื ขอบัตรประจาตวั ใหม่ตามพระราชบญั ญัติบัตรประจาตัว เจา้ หนา้ ท่ขี องรฐั พ.ศ. ๒๕๔๑ (ฉบับที่ ๑๒)

คูม่ อื คณะกรรมการผู้ช่วยรฐั มนตรี : ๑ หมวด ๑ สงิ่ ทีต่ ้องทราบ การแต่งตงั้ คณะกรรมการผชู้ ่วยรฐั มนตรี - ผู้ช่วยรัฐมนตรีต้องมีคุณสมบัติ และไม่มีลักษณะต้องห้ามตาม ๑.๑ ข้ันตอนการแต่งตง้ั คณะกรรมการผูช้ ว่ ยรัฐมนตรี ระเบียบสานักนายกรัฐมนตรี ว่ า ด้ ว ย ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร ผู้ ช่ ว ย ขั้นตอนการปฏบิ ตั ิ รัฐมนตรี พ.ศ. ๒๕๔๖ และ ๑. นายกรัฐมนตรีคัดเลือกบุคคลท่ีสมควรแต่งตั้งเป็น ท่ีแก้ไขเพ่มิ เตมิ ผู้ชว่ ยรฐั มนตรี จานวนไม่เกิน ๔๐ คน - ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็น ผชู้ ่วยรฐั มนตรีต้องกรอกประวัติ ๒. สานักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีจัดทารายชื่อพร้อมด้วย ตามแบบแสดงข้อมูลประวัติท่ี ประวัติของผู้ได้รับการเสนอช่ือเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรี สานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และสง่ ให้สานักเลขาธกิ ารคณะรฐั มนตรี กาหนด (ตามภาคผนวก) ๓. สานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีตรวจสอบคุณสมบัติ - ผู้ได้รับการเสนอช่ือเป็นผู้ช่วย ข อ ง ผู้ ไ ด้ รั บ ก า ร เส น อ ชื่ อ เป็ น ผู้ ช่ ว ย รั ฐ ม น ต รี แ ล้ ว รั ฐ ม น ต รี ต้ อ ง แ น บ ห ลั ก ฐ า น นาเสนอคณะรฐั มนตรใี ห้ความเหน็ ชอบ การลาออกจากตาแหน่งซ่ึงมี ลกั ษณะตอ้ งหา้ มมาพร้อมประวัติ ๔. คณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบรายช่ือ ผชู้ ่วยรฐั มนตรี - สานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จะมีหนงั สือแจ้งมติคณะรัฐมนตรี ๕. สานักเลขาธิการคณ ะรัฐมนตรี (สลค.) แจ้งมติ เห็นชอบรายช่ือผู้ช่วยรัฐมนตรี ค ณ ะ รั ฐ ม น ต รี ให้ ส า นั ก เล ข า ธิ ก า ร น า ย ก รั ฐ ม น ต รี ท่ี ได้ รับ แ ต่ งตั้ งส่ งไป ส านั ก (สลน.) จัดทาประกาศแต่งตั้งคณะกรรมการผู้ช่วย เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรี และส่งประกาศแต่งตั้งฯ ให้สานักเลขาธิการ รฐั มนตรวี า่ การกระทรวง คณะรัฐมนตรีลงพิมพ์ในราชกิจจานุเบกษาแล้วแจ้ง ผูเ้ กยี่ วขอ้ งทราบ - สานักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี จั ด ท า ป ร ะ ก า ศ แ ต่ ง ต้ั ง ผู้ ช่ ว ย ๖. เปิดเผยประวัติผู้ช่วยรัฐมนตรีต่อสาธารณ ชน รั ฐ ม น ต รี แ ล ะ ม อ บ ห ม า ย ใ ห้ โดยติดประกาศหรือโดยสือ่ อเิ ล็กทรอนกิ ส์ ประจากระทรวงแล้ว แจ้งผู้ช่วย รฐั มนตรที ไี่ ด้รบั การแตง่ ต้งั ทราบ

คู่มอื คณะกรรมการผชู้ ่วยรฐั มนตรี : ๒ ๑.๒ ขั้นตอนการเปล่ียนแปลงการมอบหมายให้ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าท่ีและมอบ อานาจการบงั คับบัญชา ขั้นตอนการปฏิบตั ิ ๑. นายกรัฐมนตรีเห็นสมควรเปลยี่ นแปลงการมอบหมาย ให้กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าท่ีและมอบ อานาจการบงั คับบัญชา ๒. สานักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีจัดทาประกาศ เปล่ียนแปลงการมอบหมายให้กรรมการผู้ชว่ ยรฐั มนตรี ปฏิบัติหน้าท่ีและมอบอานาจการบังคับบัญชาเพื่อ เสนอนายกรัฐมนตรีลงนาม และส่งสานักเลขาธิการ คณะรฐั มนตรเี พอื่ เสนอคณะรฐั มนตรีทราบ ๓. คณะรัฐมนตรีรับทราบการเปล่ียนแปลงการมอบหมาย ให้กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าท่ีและมอบ อานาจการบงั คบั บัญชา รฐั มนตรี ๔. สานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งมติคณะรัฐมนตรี ให้สานักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีทราบและจัดทา ประกาศแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี และส่งให้ สานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพ่ือลงพิมพ์ในราช กิจจานเุ บกษา แล้วแจ้งผู้เกีย่ วขอ้ งทราบ

คมู่ ือคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี : ๓ ๑.๓ ข้ันตอนการให้กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีคงอยู่ ส่ิงทตี่ ้องทราบ ปฏบิ ัตหิ นา้ ทตี่ อ่ อกี หน่งึ วาระ ก รรม ก ารผู้ช่ วยรัฐม น ต รี ขัน้ ตอนการปฏบิ ัติ มี ว า ร ะ ก า ร ด า ร ง ต า แ ห น่ ง ๑. นายกรัฐมนตรีเห็นสมควรให้กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี คราวละหนึ่งปีนับจากวันที่มี ประกาศแตง่ ตัง้ ท่ีอยู่ในบังคับบัญชาซึ่งครบวาระคงอยู่ปฏิบัติหน้าท่ี ตอ่ อีกหนึ่งวาระ ๒. สานักเลขาธกิ ารนายกรัฐมนตรีจดั ทาบันทึกพร้อมด้วย ประวัติของกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีท่ีได้รับการเสนอช่ือ ให้คงอยู่ปฏิบัติหน้าท่ีต่ออีกหนึ่งวาระ ส่งสานัก เล ข า ธิ ก า ร ค ณ ะ รั ฐ ม น ต รี เพ่ื อ เส น อ ค ณ ะ รั ฐ ม น ต รี ใหค้ วามเหน็ ชอบ ๓. สานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีตรวจสอบคุณสมบัติ ข อ ง ผู้ ไ ด้ รั บ ก า ร เส น อ ชื่ อ เป็ น ผู้ ช่ ว ย รั ฐ ม น ต รี แ ล้ ว นาเสนอคณะรัฐมนตรใี หค้ วามเหน็ ชอบ ๔. คณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบให้กรรมการ ผชู้ ่วยรฐั มนตรีคงอย่ปู ฏบิ ัตหิ น้าทีต่ ่ออีกหน่ึงวาระ ๕. สานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งมติคณะรัฐมนตรี ให้สานักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีทราบและจัดทา ประกาศให้กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ ตอ่ อีกหนึ่งวาระ และส่งให้สานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพ่ือลงพิมพ์ในราชกิจจานุเบกษา แล้วแจ้งผู้เกี่ยวข้อง ทราบ

ค่มู อื คณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี : ๔ ๑.๔ คุณสมบตั แิ ละลกั ษณะต้องห้ามของผ้ชู ่วยรฐั มนตรี ผชู้ ว่ ยรฐั มนตรีต้องมีคุณสมบตั แิ ละไมม่ ีลักษณะต้องหา้ ม ดังน้ี ๑.๔.๑ คณุ สมบัติ ตอ้ งมีคุณสมบตั ิ ดังนี้ (๑) มสี ัญชาติไทย (๒) มีอายไุ มต่ ่ากว่าสามสิบหา้ ปบี รบิ ูรณ์ (๓) สาเร็จการศกึ ษาไมต่ า่ กวา่ ปรญิ ญาตรีหรอื เทยี บเทา่ (๔) มีประสบการณ์การทางานอย่างใดอย่างหนึง่ ดงั ต่อไปน้ี • เคยรับราชการและมีตาแหน่งไม่ต่ากว่าผู้อานวยการกองหรือเทียบเท่า หรือ ผพู้ พิ ากษาหวั หนา้ ศาล หรืออัยการจงั หวัด • เคยรับราชการตารวจหรือทหารมียศไม่ต่ากว่าพันตารวจเอก พันเอก นาวาเอก หรอื นาวาอากาศเอก • เคยดารงตาแหน่งทางวิชาการในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐหรือเอกชนไม่ต่ากว่า รองศาสตราจารย์ • เคยดารงตาแหน่งในรัฐวิสาหกิจหรือองค์การอ่ืนของรัฐไม่ต่ากว่าผู้บริหารลาดับ ทีส่ ามนบั จากตาแหน่งผ้บู ริหารสูงสดุ ลงมา • เคยดารงตาแหน่งข้าราชการการเมืองตาแหน่งเดียวหรือหลายตาแหน่งและ มีระยะเวลาครั้งเดียวหรือหลายคร้ังรวมกันไม่น้อยกว่าสามปี เว้นแต่เคยดารง ตาแหนง่ รัฐมนตรีก็ให้มรี ะยะเวลาน้อยกวา่ นน้ั ได้ • เคยได้รับเลือกต้ังหรือแต่งต้ังให้ดารงตาแหน่งสมาชิกรัฐสภาครั้งเดียวหรือ หลายคร้ังมรี ะยะเวลารวมกนั ไม่นอ้ ยกว่าสองปี • ปฏิบัติงานในธุรกิจภาคเอกชนแห่งเดียวหรือหลายแห่งมีระยะเวลาคร้ังเดียวหรือ หลายคร้ังรวมกันไม่น้อยกว่าสิบปี และเคยดารงตาแหน่งในองค์กรธุรกิจดังกล่าว ไม่ต่ากว่าระดับผู้ช่วยผู้บริหารสูงสุดของหน่วยงาน เว้นแต่หากเป็นการดารง ตาแหน่งระดับสูงในบริษัทขนาดใหญ่ท่ีมีทุนดาเนินการสูง มีผลกาไรมาก ประกอบกิจการต่อเน่ืองกันหลายปีจนเป็นที่รู้จักท่ัวไปในต่างประเทศและผู้น้ัน ประสบผลสาเร็จในการบริหารจัดการ การผลิต หรือการตลาดจนเป็นท่ียอมรับ ก็อาจอนุโลมวา่ มคี ณุ สมบตั ใิ นข้อน้ีได้

คมู่ อื คณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี : ๕ • ประกอบอาชีพอิสระ เช่น แพทย์ ทนายความ ท่ีปรึกษากฎหมาย นักหนังสือพิมพ์ นักเขียน เป็นต้น มีระยะเวลาครั้งเดียวหรือหลายครั้งรวมกันไม่น้อยกว่าสิบปี และมผี ลงานดีเด่นเป็นท่ปี รากฏ • ปฏิบัติงานในองค์กรเอกชนสาธารณประโยชน์แห่งเดียวหรือหลายแห่ง มีระยะ เวลาครั้งเดียวหรือหลายคร้ังรวมกันไม่น้อยกว่าสิบปี และเคยมีตาแหน่งสูง ในองคก์ รดงั กลา่ ว ตลอดจนมีผลงานสาคญั เป็นประโยชนต์ ่อสว่ นรวม • ในกรณีมีประสบการณ์การทางานในต่างประเทศ ได้ปฏิบัติงานมาแล้วไม่น้อย กว่าสิบปี มีความรู้ความสามารถทางวิชาการ วิชาชีพ หรือมีความชานาญพิเศษ อันเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติหน้าที่ในตาแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรี และเคยดารง ตาแหน่งสาคัญในหน่วยงานนัน้ ๆ ตลอดจนมผี ลงานดีเดน่ เปน็ ทปี่ รากฏ ๑.๔.๒ ลักษณะต้องห้าม ตอ้ งไม่มีลักษณะตอ้ งห้าม กล่าวคอื (๑) ตดิ ยาเสพตดิ ใหโ้ ทษ (๒) เป็นบคุ คลลม้ ละลายหรอื เคยเป็นบุคคลลม้ ละลายทจุ รติ (๓) เปน็ เจ้าของหรอื ผถู้ ือหุน้ ในกิจการหนงั สอื พมิ พห์ รือสือ่ มวลชนใด ๆ (๔) เป็นบุคคลผ้มู ลี ักษณะตอ้ งห้ามมิให้ใชส้ ิทธิเลอื กตั้งตามบทบญั ญัติของรัฐธรรมนญู ดงั นี้ (๔.๑) เป็นภิกษุ สามเณร นกั พรต หรอื นักบวช (๔.๒) อยใู่ นระหว่างถกู เพิกถอนสิทธเิ ลอื กตัง้ ไม่วา่ คดนี ัน้ จะถึงที่สดุ แล้วหรือไม่ (๔.๓) วิกลจริตหรือจิตฟน่ั เฟอื งไมส่ มประกอบ (๕) อยู่ระหว่างถูกระงับการใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นการช่ัวคราวหรือถูกเพิกถอนสิทธิ สมัครรับเลือกตง้ั (๖) ตอ้ งคาพพิ ากษาใหจ้ าคกุ และถกู คุมขังอยโู่ ดยหมายของศาล (๗) เคยได้รบั โทษจาคุกโดยไดพ้ ้นโทษมายังไม่ถึงสิบปีนับถึงวันเลอื กตั้ง เว้นแต่ ในความผิด อันได้กระทาโดยประมาทหรอื ความผดิ ลหุโทษ (๘) เคยถกู สงั่ ใหพ้ ้นจากราชการ หน่วยงานของรฐั หรือรัฐวสิ าหกิจเพราะทุจริตต่อหนา้ ท่ี หรอื ถือวา่ กระทาการทุจริตหรอื ประพฤติมิชอบในวงราชการ (๙) เคยต้องคาพิพากษาหรือคาส่ังของศาลอันถึงท่ีสุดให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน เพราะร่ารวยผิดปกติ หรือเคยต้องคาพิพากษาอันถึงที่สุดให้ลงโทษจาคุกเพราะ กระทาความผดิ ตามกฎหมาย วา่ ดว้ ยการปอ้ งกันและปราบปรามการทจุ ริต

คูม่ ือคณะกรรมการผู้ชว่ ยรัฐมนตรี : ๖ (๑๐) เคยต้องคาพิพากษาอันถึงที่สดุ ว่ากระทาความผิดต่อตาแหน่งหน้าท่รี าชการ หรือต่อ ตาแหน่งหน้าท่ีในการยุติธรรม หรือกระทาความผิดตามกฎหมายว่าด้วยความผิด ของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ หรือความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทา โดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงิน ที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน กฎหมายว่าด้วยยาเสพติดในความผิดฐานเป็นผู้ผลิต นาเข้า ส่งออก หรือผู้ค้า กฎหมายว่าด้วยการพนันในความผิดฐานเป็นเจ้ามือหรือ เจ้าสานัก กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือกฎหมาย ว่าดว้ ยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในความผิดฐานฟอกเงิน (๑๑) เคยต้องคาพิพากษาอนั ถงึ ทสี่ ุดว่ากระทาการอันเป็นการทุจริตในการเลอื กตั้ง (๑๒) เป็นขา้ ราชการซ่ึงมตี าแหน่งหรอื เงินเดือนประจานอกจากขา้ ราชการการเมอื ง (๑๓) เปน็ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกสภาทอ้ งถ่ินหรอื ผ้บู ริหารท้องถิ่น (๑๔) เป็นสมาชิกวุฒิสภาหรือเคยเป็นสมาชิกวุฒิสภาและสมาชิกภาพส้ินสุดลงยังไม่เกิน สองปี (๑๕) เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ หรือ เป็นเจ้าหน้าท่อี ืน่ ของรฐั (๑๖) เป็นตลุ าการศาลรัฐธรรมนูญ หรอื ผดู้ ารงตาแหน่งในองคก์ รอิสระ (๑๗) อยู่ในระหวา่ งตอ้ งหา้ มมใิ หด้ ารงตาแหน่งทางการเมือง (๑๘) เคยพ้นจากตาแหน่งเพราะเหตุตามมาตรา ๑๔๔ หรือมาตรา ๒๓๕ วรรคสาม ของ รัฐธรรมนูญ หากขาดคุณสมบัติหรอื มีลกั ษณะต้องห้าม กต็ อ้ งพน้ จากตาแหน่ง ๑.๕ การพน้ จากตาแหน่งของผชู้ ว่ ยรัฐมนตรี ๑.๕.๑ พน้ ตามวาระ ๑ ปี นับแต่วนั แต่งตั้ง ๑.๕.๒ พน้ ตาแหนง่ กอ่ นครบวาระ ในกรณีใดกรณีหน่งึ ดังตอ่ ไปน้ี (๑) ตาย (๒) ลาออกต่อนายกรัฐมนตรี โดยการลาออกจะมีผลนับแต่วันที่ผู้ช่วยรัฐมนตรีประสงค์ ให้มผี ล (โดยผ้ชู ว่ ยรฐั มนตรจี ะต้องยน่ื หนังสอื ลาออกเรยี นรองนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรี

คู่มอื คณะกรรมการผูช้ ว่ ยรัฐมนตรี : ๗ ที่เป็นผู้บังคับบัญชา และนากราบเรียนนายกรัฐมนตรี โดยส่งให้สานักเลขาธิการ นายกรัฐมนตรีเพอ่ื จดั ทาประกาศลาออกตอ่ ไป) (๓) นายกรัฐมนตรีผู้แต่งตั้งพ้นจากตาแหน่ง ในกรณีที่นายกรัฐมนตรียังต้องอยู่ใน ตาแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ให้กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรียังคงปฏิบัติหน้าที่ ต่อไปได้เท่าระยะเวลาเดียวกัน ซ่ึงโดยปกติคือวันที่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่เข้าเฝ้าฯ ถวาย สัตยป์ ฏิญาณก่อนเขา้ รับหน้าท่ี (๔) นายกรัฐมนตรีมีคาส่งั ใหผ้ ชู้ ่วยรัฐมนตรีออกจากตาแหน่งกอ่ นครบวาระก็ได้ตามดุลพินิจ ที่เห็นสมควร (ข้อ ๓ ของระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยคณะกรรมการผู้ช่วย รัฐมนตรี พ.ศ. ๒๕๔๖) (๕) นายกรัฐมนตรีมีคาส่ังให้ผู้ช่วยรัฐมนตรีที่ฝ่าฝืนวินัยออกจากตาแหน่งก่อนครบวาระ โดยจะดาเนินการสอบสวนหรือไม่สอบสวนก็ได้ (ข้อ ๑๑ ของระเบียบสานัก นายกรัฐมนตรีว่าด้วยคณะกรรมการผชู้ ว่ ยรัฐมนตรี พ.ศ. ๒๕๔๖) (๖) ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้าม (ข้อ ๔ ของระเบียบสานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยคณะกรรมการผชู้ ว่ ยรัฐมนตรี พ.ศ. ๒๕๔๖ และทแ่ี กไ้ ขเพม่ิ เตมิ ) อานาจวินิจฉัยและตคี วามระเบียบสานักนายกรัฐมนตรวี ่าดว้ ยคณะกรรมการผู้ชว่ ยรัฐมนตรี พ.ศ. ๒๕๔๖ ซึง่ รวมถึงการใหพ้ น้ จากตาแหนง่ เปน็ ของนายกรัฐมนตรี ๑.๖ การเรียกช่อื ผชู้ ่วยรัฐมนตรี และคณะกรรมการผูช้ ่วยรัฐมนตรี ๑.๖.๑ กรณเี ปน็ ผชู้ ว่ ยรฐั มนตรปี ระจานายกรัฐมนตรี ภาษาไทย ให้เรยี ก ผชู้ ว่ ยรฐั มนตรปี ระจานายกรัฐมนตรี ภาษาองั กฤษ ให้เรยี ก Vice Minister attached to the Prime Minister ๑.๖.๒ กรณเี ป็นผู้ชว่ ยรฐั มนตรปี ระจานายกรัฐมนตรี (ปฏบิ ตั งิ านกระทรวง...) ภาษาไทย ใหเ้ รียก ผู้ช่วยรฐั มนตรปี ระจานายกรัฐมนตรี (ปฏิบัตงิ านกระทรวง...) ภาษาอังกฤษ ให้เรียก Vice Minister attached to the Prime Minister (assigned to the Ministry of ...)

ค่มู ือคณะกรรมการผู้ชว่ ยรัฐมนตรี : ๘ ๑.๖.๓ กรณีเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจาสานักนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าจะมีรัฐมนตรีประจาสานัก นายกรฐั มนตรหี รอื ไมม่ กี ต็ าม ภาษาไทย ให้เรยี ก ผูช้ ว่ ยรฐั มนตรปี ระจาสานักนายกรฐั มนตรี ภาษาองั กฤษ ให้เรียก Vice Minister for Office of the Prime Minister ๑.๖.๔ กรณเี ปน็ ผูช้ ว่ ยรัฐมนตรีประจากระทรวง ภาษาไทย ให้เรียก ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจากระทรวง + ชื่อกระทรวง เช่น ผู้ช่วยรัฐมนตรี ประจากระทรวงกลาโหม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจากระทรวงการต่างประเทศ หรือ ผู้ช่วยรัฐมนตรี ประจากระทรวงพาณิชย์ เป็นต้น ภาษาอังกฤษ ให้เรียก Vice Minister for + ช่ือกระทรวง เช่น Vice Minister for Defence, Vice Minister for Foreign Affairs หรอื Vice Minister for Commerce ๑.๖.๕ คณะกรรมการผูช้ ่วยรัฐมนตรี ภาษาองั กฤษใหเ้ รยี ก Commission of Vice Ministers ๑.๖.๖ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ภาษาอังกฤษให้เรียก Member of the Commission of Vice Ministers ชอ่ื ผู้ช่วยรฐั มนตรีประจาแต่ละกระทรวง หนว่ ยงาน ภาษาไทย ภาษาองั กฤษ ๑. นายกรฐั มนตรี ผู้ช่วยรฐั มนตรีประจา Vice Minister attached to นายกรฐั มนตรี the Prime Minister ๒. สานักนายกรัฐมนตรี ผ้ชู ่วยรัฐมนตรีประจาสานัก Vice Minister for Office of นายกรัฐมนตรี the Prime Minister ๓. กระทรวงกลาโหม ผูช้ ่วยรัฐมนตรีประจา Vice Minister for Defence กระทรวงกลาโหม ๔. กระทรวงการคลงั ผู้ชว่ ยรัฐมนตรีประจา Vice Minister for Finance กระทรวงการคลงั ๕. กระทรวงการต่างประเทศ ผชู้ ่วยรฐั มนตรีประจากระทรวง Vice Minister for Foreign การต่างประเทศ Affairs ๖. กระทรวงการท่องเท่ียวและ ผชู้ ว่ ยรัฐมนตรีประจากระทรวง Vice Minister for Tourism กฬี า การทอ่ งเท่ียวและกีฬา and Sports

คมู่ อื คณะกรรมการผู้ช่วยรฐั มนตรี : ๙ หนว่ ยงาน ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ๗. กระทรวงการพฒั นาสงั คม ผู้ช่วยรฐั มนตรีประจากระทรวง Vice Minister for Social และความมัน่ คงของมนุษย์ การพัฒนาสังคมและความมน่ั คง Development and Human ของมนษุ ย์ Security ๘. กระทรวงการอุดมศกึ ษา ผชู้ ว่ ยรัฐมนตรีประจากระทรวง Vice Minister for Higher วทิ ยาศาสตร์ วิจยั และ การอุดมศึกษา วทิ ยาศาสตร์ Education, Science, นวัตกรรม วจิ ัยและนวตั กรรม Research and Innovation ๙. กระทรวงเกษตรและ ผู้ชว่ ยรฐั มนตรีประจากระทรวง Vice Minister for Agriculture สหกรณ์ เกษตรและสหกรณ์ and Cooperatives ๑๐. กระทรวงคมนาคม ผ้ชู ่วยรัฐมนตรีประจากระทรวง Vice Minister for Transport คมนาคม ๑๑. กระทรวงดจิ ิทัล ผชู้ ว่ ยรัฐมนตรีประจากระทรวง Vice Minister for Digital เพ่ือเศรษฐกจิ และสงั คม ดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกจิ และสังคม Economy and Society ๑๒. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ ผู้ชว่ ยรฐั มนตรีประจากระทรวง Vice Minister for Natural และสง่ิ แวดลอ้ ม ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ Resources and สิ่งแวดลอ้ ม Environment ๑๓. กระทรวงพลงั งาน ผชู้ ว่ ยรฐั มนตรีประจากระทรวง Vice Minister for Energy พลังงาน ๑๔. กระทรวงพาณชิ ย์ ผู้ชว่ ยรัฐมนตรีประจากระทรวง Vice Minister for พาณิชย์ Commerce ๑๕. กระทรวงมหาดไทย ผู้ชว่ ยรฐั มนตรีประจากระทรวง Vice Minister for Interior มหาดไทย ๑๖. กระทรวงยุตธิ รรม ผชู้ ว่ ยรฐั มนตรีประจากระทรวง Vice Minister for Justice ยตุ ิธรรม ๑๗. กระทรวงแรงงาน ผชู้ ว่ ยรัฐมนตรีประจากระทรวง Vice Minister for Labour แรงงาน ๑๘. กระทรวงวฒั นธรรม ผ้ชู ว่ ยรฐั มนตรีประจากระทรวง Vice Minister for Culture วัฒนธรรม

คูม่ อื คณะกรรมการผูช้ ่วยรฐั มนตรี : ๑๐ หนว่ ยงาน ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ๑๙. กระทรวงศึกษาธกิ าร ผชู้ ่วยรัฐมนตรีประจา Vice Minister for Education ๒๐. กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศกึ ษาธิการ ๒๑. กระทรวงอตุ สาหกรรม ผชู้ ว่ ยรัฐมนตรีประจากระทรวง Vice Minister for Public สาธารณสขุ Health ผูช้ ว่ ยรัฐมนตรีประจากระทรวง Vice Minister for Industry อุตสาหกรรม

คู่มือคณะกรรมการผชู้ ว่ ยรัฐมนตรี : ๑๑ หมวด ๒ แนวทางปฏิบัตเิ ม่อื เข้ารับตาแหน่งแลว้ ๒.๑ สถานะของผู้ชว่ ยรฐั มนตรี เนื่องจากการแต่งต้ังผู้ช่วยรัฐมนตรีเป็นการใช้อานาจของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ในการแต่งตั้งกรรมการในฝ่ายบริหารตามมาตรา ๑๑ (๖)* ของพระราชบัญญัติระเบียบบริหาร ราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ ไม่ใช่การแต่งต้ังให้ดารงตาแหน่งตามกฎหมาย คณะกรรมการและ ผชู้ ่วยรัฐมนตรีประจากระทรวงจึงไม่ใช่เจา้ พนักงานตามกฎหมายใด ๆ จงึ ไม่อาจใช้อานาจหน้าท่ี ตามกฎหมายใด ๆ ไม่ว่าต่อข้าราชการหรือบุคคลภายนอกโดยตรง อนึ่ง นายกรัฐมนตรีหรือ รัฐมนตรีจะมอบหมายให้ใช้อานาจตามกฎหมายซึ่งเป็นของนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีก็มิได้ เพราะพระราชบัญญตั ิระเบียบบริหารราชการแผน่ ดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ มาตรา ๓๘ (๑) (๒) และ (๓)** มิได้ให้อานาจนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีท่ีจะมอบอานาจให้ผู้ช่วยรัฐมนตรีปฏิบั ติราชการแทน ซงึ่ หากฝา่ ฝนื ก็จะทาใหก้ ารปฏิบัตริ าชการดังกลา่ วเสยี ไปเพราะกระทาลงโดยปราศจากอานาจ อนึ่ง เนื่องจากเป็นการแต่งต้ังในฝ่ายบริหาร จึงแต่งต้ังให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและ สมาชิกวุฒิสภาดารงตาแหน่งไม่ได้ เพราะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ หากฝ่าฝืนก็จะทาให้ สมาชกิ สภาผูแ้ ทนราษฎรและสมาชิกวุฒสิ ภาน้นั ตอ้ งส้ินสมาชิกภาพแล้วแต่กรณี * มาตรา ๑๑ นายกรฐั มนตรใี นฐานะหวั หน้ารฐั บาลมีอานาจหนา้ ที่ ดังน้ี (๖) แต่งต้ังผู้ทรงคุณวุฒิเป็นประธานที่ปรึกษา ท่ีปรึกษา หรือคณะท่ีปรึกษาของนายกรัฐมนตรีหรือเป็น คณะกรรมการเพื่อปฏบิ ัติราชการใด ๆ และกาหนดอตั ราเบี้ยประชมุ หรือคา่ ตอบแทนใหแ้ ก่ผูซ้ ึ่งไดร้ ับแต่งตัง้ ** มาตรา ๓๘ (๑) นายกรัฐมนตรีอาจมอบอานาจให้รองนายกรฐั มนตรีหรือรัฐมนตรีประจาสานกั นายกรฐั มนตรี (๒) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอาจมอบอานาจให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง ปลัดกระทรวง อธบิ ดี หรือหัวหน้า ส่วนราชการซึง่ ดารงตาแหนง่ เทียบเท่า หรอื ผูว้ ่าราชการจังหวดั (๓) รัฐมนตรีว่าการทบวงอาจมอบอานาจให้รฐั มนตรชี ่วยว่าการทบวง ปลัดทบวง อธบิ ดี หรือหัวหน้าส่วนราชการ ซ่งึ ดารงตาแหน่งเทียบเท่า หรือผู้ว่าราชการจังหวัด

คมู่ ือคณะกรรมการผู้ชว่ ยรัฐมนตรี : ๑๒ ๒.๒ การปฏิบัตหิ น้าทขี่ องผู้ช่วยรฐั มนตรี 2.2 ๒.๒.๑ การปฏิบัติหนา้ ท่ีของผ้ชู ่วยรฐั มนตรีซง่ึ มีสองสถานะ ในการปฏิบัติหนา้ ทีผ่ ้ดู ารงตาแหน่งผชู้ ่วยรัฐมนตรตี ้องปฏบิ ตั หิ น้าทส่ี องสถานะ คือ (๑) การปฏิบัติหน้าท่ีในฐานะคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี โดยต้องประชุมอย่างน้อย เดอื นละครง้ั (๒) การปฏิบตั หิ น้าท่ใี นฐานะผูช้ ่วยรัฐมนตรี (๒.๑) ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจานายกรัฐมนตรี อยู่ในบังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรี โดยนายกรัฐมนตรีจะมอบหมายให้ผู้ช่วยรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งปฏิบัติภารกิจเฉพาะเรื่องตามที่ มอบหมายเป็นกรณีพเิ ศษ โดยถือวา่ เปน็ ผูช้ ่วยรฐั มนตรปี ระจานายกรัฐมนตรี และใหร้ ายงานตรงต่อ นายกรฐั มนตรกี ็ได้ (๒.๒) ผชู้ ่วยรัฐมนตรปี ระจาสานกั นายกรฐั มนตรี อยู่ในบงั คบั บัญชาของรองนายกรัฐมนตรี หรอื รัฐมนตรปี ระจาสานกั นายกรฐั มนตรที ่นี ายกรัฐมนตรมี อบหมาย (๒.๓) ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจากระทรวง อยู่ในบังคับบัญชาของรัฐมนตรีว่าการ ในกรณี กระทรวงหนึ่งมีผ้ชู ว่ ยรัฐมนตรีมากกว่า ๑ คน รัฐมนตรีวา่ การอาจบังคับบัญชาผู้ช่วยรฐั มนตรีทกุ คน หรือจะมอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการบังคับบัญชาก็ได้ ตามมาตรา ๓๘ แห่งพระราชบัญญัติ ระเบยี บบรหิ ารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ และทแี่ ก้ไขเพมิ่ เติม อน่ึง ในกรณีท่ีนายกรัฐมนตรีหรอื รัฐมนตรีว่าการ มอบหมายใหร้ องนายกรฐั มนตรี หรือ รัฐมนตรีช่วยว่าการเป็นผู้ดูแลผู้ช่วยรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีว่าการ ควรกาหนด ภารกิจและระบบการประสานงานให้ชัดเจนเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อมิให้เกิดความสับสน ซ้าซ้อน ซึง่ จะกระทบถงึ ขา้ ราชการและประชาชน ๒.๒.๒ การปฏบิ ัติหน้าท่ใี นมติ ิตา่ ง ๆ (๑) มติ ิดา้ นการเมือง (๑.๑) การประสานงานระหว่างนายกรัฐมนตรี และสานักนายกรัฐมนตรีกับรัฐมนตรี สานักงานรัฐมนตรี และกระทรวง ให้เป็นไปตามระเบียบสานักนายกรฐั มนตรีว่าดว้ ยคณะกรรมการ ผชู้ ว่ ยรัฐมนตรี พ.ศ. ๒๕๔๖ (๑.๒) การมอบหมายภารกิจหรืองานใดให้แก่ผู้ช่วยรัฐมนตรี ควรจัดทาเป็น ลายลักษณ์อักษร โดยเฉพาะอย่างย่ิงกรณีต้องติดต่อกับข้าราชการและหน่วยงาน ไม่ว่าภายใน สานกั นายกรฐั มนตรี ภายในกระทรวง หรือต่างกระทรวง

คมู่ ือคณะกรรมการผ้ชู ว่ ยรฐั มนตรี : ๑๓ (๑.๓) ในการติดต่อนัดหมาย ควรติดต่อล่วงหน้าและแสดงเอกสารท่ีได้รับมอบหมาย เพ่ือใหข้ า้ ราชการหรอื หนว่ ยงานสามารถเตรียมขอ้ มูลท่ีเกยี่ วขอ้ งใหพ้ รอ้ ม (๑.๔) ควรติดตามความเคลื่อนไหวของงานด้านนิติบัญญัติ โดยเฉพาะเร่ืองการพิจารณา ร่างกฎหมายในคณะกรรมาธิการ เพ่อื รายงานให้รัฐมนตรีทราบและส่งั การตอ่ ไป ในการนี้ ควรประสานงาน อย่างใกล้ชดิ กับหน่วยงานท่เี ป็นเจ้าของรา่ งกฎหมาย ในกรณที ่ีมีการแก้ไขเพ่ิมเติมกฎหมายแตกต่างไป จากท่ีเสนอจนหน่วยงานเห็นว่ามีปัญหาก็สมควรแจ้งให้รัฐมนตรีทราบเพื่อให้รัฐมนตรีแจ้งให้ คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (ปปส.) ดาเนินการตามทเี่ หมาะสมต่อไป ข้อควรระวงั การประสานงานดา้ นนติ บิ ญั ญัติพึงระมดั ระวังมใิ หก้ า้ วลว่ งเข้าไปในการทางานของรฐั สภา (๒) มิตดิ า้ นประชาชน (๒.๑) การปฏบิ ัติหนา้ ที่ในมิติประชาชนตอ้ งให้รฐั มนตรีเป็นผู้มอบอานาจซ่ึงอาจจะเป็น เร่ืองการรับฟังข้อเสนอแนะ การรับและพิจารณาเร่ืองร้องทุกข์ของประชาชน หรือการอื่นตามที่ ไดร้ ับมอบหมาย (๒.๒) อย่าตกปากรับคาใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะผู้ช่วยรัฐมนตรีไม่มีอานาจกระทาการใด ในลกั ษณะผูกพนั รัฐมนตรี กระทรวง หรือทางราชการ (๒.๓) ควรตอ้ งขอนโยบายจากรฐั มนตรีกอ่ นทกุ คร้ังไป เว้นแตเ่ ปน็ กรณฉี ุกเฉิน (๓) มิติด้านกระทรวง (๓.๑) ผู้ช่วยรัฐมนตรสี ามารถเป็นผแู้ ทนรัฐมนตรีในการเจรจา รว่ มเจรจา หรือหารอื ในเรอ่ื ง ที่ไม่ก่อให้เกิดพันธะทางกฎหมาย ผูกพันรัฐมนตรี กระทรวง หรือทางราชการ โดยรัฐมนตรีต้อง มอบหมายเป็นลายลกั ษณ์อักษร (๓.๒) เข้ารับฟัง ประชุมแทน หรือประชุมร่วมกับรัฐมนตรีในการประชุมต่าง ๆ ของ ฝ่ายบริหารได้ โดยขออนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากประธานทุกคร้ัง และควรตรวจสอบที่น่ังในการ เขา้ ประชมุ กอ่ น การเสนอความเห็นต้องขอและได้รับอนุญาตจากประธานทีป่ ระชมุ กอ่ น ขอ้ ควรระวงั ข้อนี้ไม่ได้ใช้กับฝ่ายนิติบัญญัติ เพราะการเข้าร่วมประชุมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชกิ วฒุ สิ ภาใหใ้ ช้ขอ้ บงั คบั การประชุมรฐั สภา

คู่มือคณะกรรมการผูช้ ่วยรฐั มนตรี : ๑๔ (๔) มิตดิ า้ นตา่ งประเทศ (๔.๑) เข้าประชุมแทน หรือเข้าประชุมร่วมกับรัฐมนตรีในการประชุมกับต่างประเทศ หรอื ระหว่างประเทศ โดยมหี นงั สอื มอบหมายเปน็ ลายลกั ษณ์อักษรจากรฐั มนตรี (๔.๒) ไมส่ ามารถก่อพันธะผูกพนั ทางกฎหมายใด ๆ (๔.๓) ให้ปฎิบตั ิตามแนวทางระเบยี บประเพณที กี่ ระทรวงการต่างประเทศกาหนด (๕) มติ ดิ ้านขา้ ราชการ (๕.๑) ประสานงานกับข้าราชการท้ังประจาและการเมืองในกระทรวงเพื่อให้ภารกิจ ที่ไดร้ บั มอบหมายเปน็ ไปด้วยความเรยี บรอ้ ย (๕.๒) ห้ามส่ังการ หรือใช้อานาจบังคับบัญชาข้าราชการ และห้ามก้าวก่ายในการ แต่งตงั้ โยกยา้ ย (๕.๓) ใช้อานาจแทนรัฐมนตรีตามกฎหมายไม่ได้ เน่ืองจากตามพระราชบัญญัติ ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ และท่ีแก้ไขเพิ่มเติม ไม่ได้กาหนดให้รัฐมนตรี มอบอานาจใหผ้ ชู้ ่วยรัฐมนตรไี ว้ (๖) มติ ิด้านสังคม การปฏิบัติหน้าท่ีแทนรัฐมนตรีในงานพิธีการของทางราชการ หรือเอกชน หรืองาน สังคม ซึ่งหมายถึงงานพิธีการท่ัว ๆ ไป เช่น พิธีเปิดงานหรือกิจการต่าง ๆ ท่ีไม่ขัดต่อกฎหมาย ระเบียบแบบแผนของทางราชการ หรอื ขนบธรรมเนยี มประเพณอี ันดีงามของไทย ขอ้ ควรระวัง ๑. ผู้ช่วยรัฐมนตรีไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่แทนรัฐมนตรีในการเข้าเฝ้าฯ รับเสด็จในโอกาส งานพระราชพิธีหรือรัฐพิธีต่าง ๆ ได้ เน่ืองจากรัฐมนตรีได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งตามรัฐธรรมนูญให้มีหน้าท่ีบริหารราชการแผ่นดิน จึงมีตาแหน่งเฝ้าฯ โดยตรง เพ่ือกราบบังคมทูลฯ เก่ียวกับข้อราชการ หรือการบริหารราชการแผ่นดินอันเป็นไปตามโบราณ ประเพณี ๒. กรณีได้รบั มอบให้ปฏบิ ัติหน้าท่แี ทนรัฐมนตรีในงานพิธีการอ่ืนนอกจากพระราชพิธี หรือ รฐั พิธีควรประสานงานและแจ้งเจ้าภาพให้ทราบล่วงหนา้

คู่มอื คณะกรรมการผู้ช่วยรฐั มนตรี : ๑๕ (๗) มติ ดิ ้านอืน่ ๆ ในกรณีท่ีนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี ได้ริเร่ิมนโยบายใหม่ ๆ ซึ่งต้องการการกาหนด รายละเอียดเพื่อให้นาไปปฏิบัติได้ คณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีควรรบั ผิดชอบในการประสานงาน เพ่ือทาให้นโยบายกว้าง ๆ เหล่านี้ มีรายละเอียดการปฏิบัติที่นาไปสู่การปฏิบัติที่มีผล ในการนี้ อาจมี การศกึ ษาและวจิ ัย และจัดให้มีการประชุมเพ่อื ประสานงาน ๒.๒.๓ ข้อแนะนาอน่ื ๆ ในการปฏบิ ตั ิหน้าท่ี (๑) ไม่ควรให้สัมภาษณ์ใด ๆ ในเรื่องนโยบายรัฐบาล หรือกระทรวง เวน้ แต่ได้รับมอบหมาย จากนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี หรือรฐั มนตรี (๒) ศึกษาแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ นโยบายรัฐบาล แนวนโยบายนายกรัฐมนตรี รองนายกรฐั มนตรี และรัฐมนตรี (๓) ศึกษางานในกระทรวง (๔) ศึกษากระบวนการตดั สินใจของคณะรฐั มนตรี (๕) ศึกษากระบวนงานดา้ นรัฐสภา ๒.๓ วินัยของผชู้ ว่ ยรฐั มนตรี 2.3 ผชู้ ว่ ยรัฐมนตรีต้องปฏบิ ตั ิตามวินยั ดงั นี้ ๒.๓.๑ ซือ่ สตั ย์ สุจรติ ๒.๓.๒ รกั ษาประโยชน์และความลบั ของทางราชการ ๒.๓.๓ ไม่ให้สัมภาษณ์ในเร่ืองนโยบายของรัฐบาล หรือกระทรวง เว้นแต่จะได้รับมอบหมาย จากรัฐมนตรี ๒.๓.๔ ดารงตนเหมาะสมแก่ตาแหนง่ หน้าที่ ๒.๓.๕ ไม่ก้าวกา่ ยงานราชการประจา ๒.๓.๖ ไมแ่ ทรกแซงการแต่งต้ัง โยกย้าย และการบรหิ ารงานบุคคล ๒.๓.๗ ไมใ่ ชต้ าแหน่งหนา้ ท่เี อือ้ ประโยชนต์ ่อตนเอง หรือผูอ้ น่ื โดยไมช่ อบด้วยกฎหมาย ๒.๓.๘ ต้องไม่ดารงตาแหน่งกรรมการ หรือท่ีปรึกษาของรัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน หรือ องค์กรอ่ืนของรัฐ เว้นแต่การเป็นกรรมการตามที่กฎหมายบัญญัติ หรือได้รับแต่งต้ังในการบริหาร ราชการแผน่ ดนิ

คูม่ ือคณะกรรมการผชู้ ่วยรัฐมนตรี : ๑๖ ๒.๓.๙ ต้องไม่เป็นคู่สัญญาอันมีลักษณะเป็นการผูกขาดตัดตอน หรือมีผลประโยชน์ใด ๆ ขัดหรอื แย้งกบั สว่ นราชการ รฐั วิสาหกจิ องคก์ ารมหาชน หรือองค์กรอื่นของรฐั สิง่ ท่ตี ้องทราบ ๑. กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีผู้ใดฝ่าฝืนวินัย นายกรัฐมนตรีจะมีคาสั่งให้ผู้น้ั นพ้นจากตาแหน่ง โดยดาเนินการสอบสวนหรอื ไม่ก็ได้ ๒. หากการฝ่าฝนื วนิ ยั อาจเข้าขา่ ยเปน็ ความผิดทางอาญา ใหส้ ่งเร่อื งใหพ้ นักงานสอบสวนดาเนนิ คดีดว้ ย ๒.๔ การบังคับบญั ชา 2.4 ๒.๔.๑ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจากระทรวงให้อยู่ในบังคับบัญชาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงที่ได้รับ มอบหมายใหไ้ ปประจาอยูด่ ้วย ๒.๔.๒ ผู้ช่วยรัฐมนตรีท่ีมิได้มอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ประจากระทรวงใดและผู้ช่วยรัฐมนตรี ประจาสานักนายกรัฐมนตรีให้อยู่ในบังคับบัญชาของรองนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีประจาสา นัก นายกรฐั มนตรีคนหน่ึงตามทนี่ ายกรัฐมนตรมี อบหมาย ๒.๕ การย่ืนบญั ชีแสดงรายการทรพั ยส์ ินและหนส้ี นิ 2.5 กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีเป็นตาแหน่งท่ีจะต้องย่ืนบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ตามประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เร่ือง กาหนดตาแหน่งของ เจ้าพนักงานของรัฐซ่ึงจะต้องย่ืนบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินตามมาตรา ๑๐๓ พ.ศ. ๒๕๖๑1 แ ห่ ง พ ร ะ ร า ช บั ญ ญั ติ ป ร ะ ก อ บ รั ฐ ธ ร ร ม นู ญ ว่ า ด้ ว ย ก า ร ป้ อ ง กั น แ ล ะ ป ร า บ ป ร า ม ก า ร ทุ จ ริ ต พ.ศ. ๒๕๖๑2 การแสดงทรัพย์สินจะต้องแสดงทั้งของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ต่อ คณะกรรมการ ป.ป.ช. โดยคู่สมรสให้หมายความรวมถึง ผู้ซึ่งอยู่กินกันฉันสามีภริยา โดยไม่ได้ จดทะเบยี นสมรสดว้ ย ท้งั นี้ ตามหลักเกณฑท์ คี่ ณะกรรมการ ป.ป.ช. กาหนด 1 https://spm.e-office.cloud/d/68a397a7 2 https://spm.e-office.cloud/d/01648acf

คมู่ ือคณะกรรมการผ้ชู ว่ ยรฐั มนตรี : ๑๗ ผู้ช่วยรัฐมนตรีจะต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินพร้อมเอกสารประกอบ จานวน ๒ ชุด ชุดหน่ึงเป็นต้นฉบับ อีกชุดหนึ่งเป็นสาเนาคู่ฉบับ โดยใช้แบบบัญชีทรัพย์สินและ หน้ีสิน ตามประกาศ ป.ป.ช. โดยผู้ยื่นบัญชีสามารถยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินได้ด้วยวิธีการใด วิธีการหน่ึง ดังต่อไปน้ี (๑) จัดส่งด้วยตนเอง หรือมอบหมายให้บุคคลอ่ืนจัดส่งแทน (๒) จัดส่งทาง ไปรษณยี ์ลงทะเบียนตอบรับ (๓) ยื่นบญั ชีด้วยวธิ กี ารทางอเิ ลก็ ทรอนิกส3์ ดงั นี้ ๑. ยืน่ พร้อมหลกั ฐานท่ีพิสจู น์ความมอี ย่จู ริงของทรัพยส์ ินและหนี้สนิ ๒. หลกั ฐานการเสยี ภาษีเงนิ ได้บคุ คลธรรมดาในรอบปีภาษที ่ีผ่านมา ๓. ผยู้ ืน่ ต้องลงลายมอื ชื่อกากบั ไว้ในบัญชที รัพยส์ นิ และหน้ีสนิ และสาเนาหลักฐานทีย่ นื่ ทกุ หน้า ๔. ต้องจัดทารายละเอยี ดเอกสารประกอบบัญชที รพั ย์สนิ และหนีส้ นิ ที่ยนื่ ด้วย ๕. ทรัพย์สินและหน้ีสินท่ีแสดงให้รวมท้ังทรัพย์สินและหน้ีสินในต่างประเทศและให้รวมถึง ทรัพย์สินของบุคคลดังกล่าวท่ีมอบหมายให้อยู่ในความครอบครองหรือดูแลของบุคคลอ่ืนไม่ว่าทางตรง หรอื ทางอ้อม ๖. ระยะเวลา การขยายระยะเวลา และวิธีการยื่น ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กาหนด ซึ่งต้องยน่ื ภายในกาหนดเวลา ดงั น้ี ๖.๑ ในกรณีที่เป็นการเข้ารับตาแหน่ง ให้ยื่นภายในหกสิบวันนับแต่วันถัดจากวันเข้า รบั ตาแหน่ง ๖.๒ ในกรณีท่ีเป็นการพ้นจากตาแหน่งหรือพ้นจากการเป็นเจ้าหน้าท่ีรัฐ ให้ยื่นภายใน หกสบิ วนั นบั แต่วันถดั จากวันพ้นจากตาแหน่งหรอื พ้นจากการเปน็ เจ้าหนา้ ทีข่ องรฐั ๖.๓ ในกรณีทุกสามปีตลอดเวลาที่ยังดารงตาแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ให้ยื่นภายใน หกสิบวันนับแต่วันถัดจากวันดารงตาแหน่งครบทุกสามปี ๗. ผู้ดารงตาแหน่งทางการเมอื งใหย้ ื่นเมือ่ เข้ารับตาแหน่งและพน้ จากตาแหน่ง ๘. ผู้ดารงตาแหน่งระดับสูง ผู้ดารงตาแหน่งอื่นตามท่ีกฎหมายกาหนด เช่น ตาแหน่ง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี เป็นต้น ให้ย่ืนเม่ือเข้ารับตาแหน่ง และเมื่อพ้นจากการเป็นเจ้าหน้าท่ี ของรัฐและทกุ ๓ ปี ตลอดเวลาทด่ี ารงตาแหน่งเป็นเจา้ หนา้ ท่ขี องรฐั 3 https://spm.e-office.cloud/d/70f8a88a

คูม่ ือคณะกรรมการผู้ช่วยรฐั มนตรี : ๑๘ หมวด ๓ การประชุมคณะกรรมการผชู้ ว่ ยรฐั มนตรี ๓.๑ ระบบการประชมุ 2.6 วนั เวลา และสถานที่ วนั เวลา และสถานที่ประชุม ใหเ้ ป็นไปตามทีค่ ณะกรรมการผ้ชู ่วยรัฐมนตรพี ิจารณากาหนด คู่มือฯ ฉบับเดิมกาหนดว่าผู้ช่วยรัฐมนตรีควรประชุมทุกวันพุธ เวลา ๐๙.๓๐ น. ณ ห้องประชุมในทาเนียบรัฐบาล เพ่ือให้คณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีสามารถประชุมปรึกษา เกี่ยวกับเร่ืองที่นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีดาเนินการ และเร่ืองที่ นายกรัฐมนตรีหยิบยกขึ้นในท่ปี ระชมุ คณะรัฐมนตรีเมื่อวันองั คารและยังไม่มผี ู้รับผิดชอบ เพ่ือนามา ดาเนนิ การใหเ้ ป็นรูปธรรม จากการดาเนินการของคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีที่ผ่านมา คณะกรรมการผู้ช่วย รัฐมนตรีจะจัดให้มีการประชุมเดือนละคร้ัง โดยจะเปล่ียนสถานที่ประชุมไปยังกระทรวงต่าง ๆ เพ่ือรับทราบข้อมูลการดาเนินงานของแต่ละกระทรวง และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น รวมถึงให้ ข้อเสนอแนะทเี่ ป็นประโยชนต์ ่อการดาเนนิ งานของกระทรวงด้วย ผเู้ ขา้ ร่วมประชมุ • กรรมการผชู้ ว่ ยรัฐมนตรีทกุ คน • เลขานกุ ารและผูช้ ่วยเลขานกุ าร - รองเลขาธกิ ารนายกรฐั มนตรที ี่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย เปน็ เลขานกุ าร - ผู้ช่วยเลขานุการ ไม่เกิน ๒ คน ท่ีคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีแต่งต้ังโดยความเห็นชอบ ของนายกรฐั มนตรี • ข้าราชการประจา - ผแู้ ทนสานักเลขาธิการนายกรฐั มนตรี - ผแู้ ทนสานกั เลขาธกิ ารคณะรัฐมนตรี - อาจเชญิ ส่วนราชการอน่ื เขา้ ร่วมประชุมในกรณีทีม่ ีความจาเปน็ เป็นคร้งั คราว • ขา้ ราชการการเมอื ง - ผแู้ ทนโฆษกประจาสานักนายกรฐั มนตรี

คูม่ อื คณะกรรมการผูช้ ว่ ยรัฐมนตรี : ๑๙ การเลือกประธานท่ีประชุม ท่ีประชุมคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีจะเลือกผู้ช่วยรัฐมนตรีคนหน่ึงเป็นประธานในท่ีประชุม เฉพาะคราวนั้น โดยการเลอื กจะกระทาล่วงหน้าหน่งึ ครัง้ การประชมุ เพื่อให้ผู้ชว่ ยรฐั มนตรีทจี่ ะตอ้ ง ปฏบิ ตั หิ น้าทีป่ ระธานทราบล่วงหน้าและสามารถเตรียมความพร้อมได้ ระเบยี บวาระการประชมุ ฝ่ายเลขานุการฯ จะจัดส่งระเบียบวาระการประชุมให้ผู้ช่วยรัฐมนตรีก่อนวันท่ีกาหนดให้มี การประชมุ การเสนอเรอ่ื งเข้าสู่ระเบยี บวาระการประชมุ ผู้ช่วยรัฐมนตรีที่ประสงค์จะเสนอเรื่องให้คณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีพิจารณา ต้องส่งเร่ือง ไปท่ีฝ่ายเลขานุการฯ โดยฝ่ายเลขานุการฯ จะตรวจสอบและจัดทาบัญชีรายช่ือเสนอให้ผู้ช่วย รฐั มนตรี ท่ีได้รับเลือกให้เป็นประธานในการประชุมครั้งต่อไป เป็นผู้พิจารณาและสั่งบรรจุในวาระ การประชมุ รายงานการประชมุ รายงานการประชมุ ท่ไี ดร้ บั การรบั รองแลว้ จะต้องนาเสนอนายกรฐั มนตรที ราบ ๓.๒ การประชมุ ครง้ั แรก สงิ่ ท่ีต้องทราบ ๑. การประชุมคณะกรรมการผ้ชู ่วยรฐั มนตรีครงั้ แรก จะมีข้ึนภายหลังจากมีการประกาศรายชื่อ คณะกรรมการผชู้ ว่ ยรัฐมนตรีในราชกจิ จานุเบกษาแล้ว อย่างน้อย ๒๕ คน ๒. คณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีจะประชุมอยา่ งน้อยเดอื นละครัง้ เร่อื งทปี่ รากฏในระเบียบวาระการประชุมคณะกรรมการผ้ชู ว่ ยรฐั มนตรคี รง้ั แรก ๓.๒.๑ แนวทางการประชุมคณะกรรมการผู้ช่วยรฐั มนตรี (๑) วัน เวลา และสถานทีป่ ระชมุ (๒) การเลือกประธานทปี่ ระชมุ (๓) ผู้เขา้ ร่วมประชุม (๔) การจดั ระเบยี บวาระการประชมุ

คมู่ ือคณะกรรมการผ้ชู ว่ ยรัฐมนตรี : ๒๐ ๓.๒.๒ แนวทางปฏบิ ตั ิของคณะรัฐมนตรี วาระน้ีจะเป็นการแจ้งแนวทางปฏิบัติในเรื่องสาคัญท่ีเก่ียวกับราชการของคณะรัฐมนตรี ใหค้ ณะกรรมการผู้ชว่ ยรฐั มนตรีทราบ เช่น ราชการของคณะรัฐมนตรีท่ีเก่ียวกบั ราชการในพระองค์ ราชการของคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวกับฝ่ายนิติบัญญัติ กระบวนการตัดสินใจของคณะรัฐมนตรี การมอบอานาจของคณะรัฐมนตรี และอนื่ ๆ ๓.๒.๓ แนวทางปฏิบตั ขิ องคณะกรรมการผชู้ ว่ ยรัฐมนตรี วาระน้ีจะเป็นการหารือและกาหนดแนวทางการปฏิบัติและวิธี การทางานของ คณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีเกี่ยวกับเร่ืองต่าง ๆ เช่น การประสานงานเพ่ือการนานโยบายท่ีได้รับ มอบหมายจากนายกรฐั มนตรี รองนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรี ไปสู่การปฏิบัติ การรักษาความลับ ของทางราชการ การห้ามนาเอกสารลับของทางราชการ หรือระเบียบวาระการประชุม คณะรัฐมนตรไี ปเผยแพร่ และการให้สมั ภาษณต์ อ่ ส่อื มวลชน เปน็ ตน้ ๓.๒.๔ การมอบหมายให้ผชู้ ว่ ยรัฐมนตรตี รวจพจิ ารณามติคณะกรรมการผ้ชู ่วยรฐั มนตรี ในการยกร่างมติคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีในวาระเพ่ือพิจารณาทุกเร่ืองนั้น เพ่ือความ รอบคอบและถูกต้อง สานักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีจะเสนอในการประชุมคณะกรรมการผู้ช่วย รัฐมนตรีครั้งแรกให้คณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีมีมติมอบหมายให้ผู้ช่วยรัฐมนตรีผู้ใดผู้หนึ่งเป็น ผู้ดาเนนิ การตรวจสอบกอ่ นดาเนนิ การตอ่ ไป ๓.๓ การจัดระเบยี บวาระการประชุม สานักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะฝ่ายเลขานุการของที่ประชุม จะพิจารณาการจัด ระเบยี บวาระการประชุม ดงั นี้ ๓.๓.๑ วาระการเลอื กประธานการประชมุ ท่ีจะมขี ้ึนครั้งต่อไป ๓.๓.๒ วาระประธานแจ้งตอ่ ที่ประชุม (ถา้ ม)ี ๓.๓.๓ วาระรับรองรายงานการประชมุ ๓.๓.๔ วาระเร่ืองที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย (ถา้ มี) ๓.๓.๕ วาระเพื่อทราบ ๓.๓.๖ วาระเพอ่ื พจิ ารณา ๓.๓.๗ วาระการตดิ ตามและประเมินผลการดาเนนิ การ ๓.๓.๘ เร่อื งอื่นๆ (ถา้ มี)

ค่มู อื คณะกรรมการผ้ชู ่วยรัฐมนตรี : ๒๑ ๓.๔ ลาดบั การประชุม ๓.๔.๑ วาระการเลอื กประธานการประชุมทจี่ ะมขี ้นึ ครงั้ ต่อไป เป็นการเลือกผู้ช่วยรัฐมนตรีท่ีจะปฏิบัติหน้าท่ีประธานที่ประชุมคณะกรรมการผู้ช่วย รัฐมนตรที จี่ ะมีข้นึ ในครั้งต่อไป ๓.๔.๒ วาระประธานแจง้ ตอ่ ทป่ี ระชมุ (ถา้ ม)ี เปน็ เรอ่ื งท่ีประธานแจง้ ให้คณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรเี พื่อทราบ หรือเพื่อหารือ และ/หรือ เรอ่ื งที่ประธานขอให้ผชู้ ว่ ยรัฐมนตรีรายงานเก่ียวกบั ปญั หาเร่งดว่ นเพ่อื การติดตามเรอ่ื ง ๓.๔.๓ วาระรบั รองรายงานการประชมุ เป็นการรับรองรายงานการประชุมครั้งท่ีผ่านมา ซึ่งได้จัดส่งให้ผู้ช่วยรัฐมนตรีแต่ละคน ตรวจพิจารณาล่วงหน้าพร้อมกับระเบียบวาระการประชุม ท้ังน้ี รายงานการประชุมที่ได้รับการรับรอง แล้วจะเสนอนายกรฐั มนตรที ราบต่อไปทุกครงั้ ๓.๔.๔ วาระเรอ่ื งทนี่ ายกรัฐมนตรมี อบหมาย (ถ้าม)ี ได้แก่ เร่ืองท่ีนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้คณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีดาเนินการในการ ประชมุ คณะรฐั มนตรคี รง้ั ทผี่ า่ นมา ๓.๔.๕ วาระเพื่อทราบ เรื่องท่ัว ๆ ไป ซ่ึงประธานท่ีประชุมได้พิจารณาแล้วเห็นว่าไม่มีประเด็นขัดแย้งหรือ ข้อพิจารณาอ่ืนใดและสามารถนาเสนอคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีทราบได้ หากผู้ช่วยรัฐมนตรี มีข้อทว้ งติง หรอื ความเห็นแตกต่างจะสามารถยกข้นึ มาพจิ ารณาในท่ีประชุมได้

คู่มือคณะกรรมการผู้ชว่ ยรฐั มนตรี : ๒๒ ๓.๔.๖ วาระเพ่ือพิจารณา เปน็ เรอ่ื งที่ประธานพจิ ารณาแล้วมีคาสั่งให้เสนอคณะกรรมการผู้ช่วยรฐั มนตรีพิจารณา ๓.๔.๗ วาระการติดตามและประเมนิ ผลการดาเนนิ การ เปน็ การรายงานผลการดาเนนิ การในเร่ืองต่าง ๆ เพื่อท่ีประชมุ คณะกรรมการผู้ชว่ ยรัฐมนตรี ไดม้ ีมติมอบหมายใหผ้ ชู้ ่วยรัฐมนตรีไปดาเนนิ การ ๓.๔.๘ เรอ่ื งอ่นื ๆ (ถา้ มี) เป็นวาระที่มีผู้ช่วยรัฐมนตรีเสนอข้ึนในท่ีประชุมเพื่อให้คณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีทราบ หรือพิจารณา ซง่ึ เปน็ เร่อื งทไี่ มป่ รากฏในวาระการประชุม ๓.๕ การลาประชุม ผู้ช่วยรัฐมนตรีควรแจ้งให้สานักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีทราบเป็นหนังสือ เพื่อสานัก เลขาธิการนายกรัฐมนตรีจะได้รายงานให้ประธานทราบ และใช้เป็นหลักฐานในการจัดทารายงาน การประชุมคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ซึ่งจะต้องแสดงรายชื่อผู้ช่วยรัฐมนตรีที่เข้าร่วมประชุม และไมเ่ ข้าร่วมประชมุ ด้วย ๓.๖ เจ้าหนา้ ทป่ี ฏบิ ตั งิ านในการประชุม ในการประชุมคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี สานักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ฝ่ายเลขานุการของท่ีประชุม จะได้จัดเจ้าหน้าท่ีฝ่ายต่าง ๆ เพ่ือทาหน้าที่ประสานงานและ อานวยการให้การประชุมคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีเป็นไป อย่างมีประสิทธิภาพและราบรื่น ได้แก่ การศึกษา วิเคราะห์และจัดทาความเห็นประกอบการพิจารณา การจัดทาวาระ/เอกสาร การประชุม การจัดทารายงานการประชุม การใช้อุปกรณ์เทคโนโลยสี ารสนเทศและโสตทัศนูปกรณ์ การติดต่อประสานงาน การต้อนรับและอานวยความสะดวกแก่ผู้ช่วยรัฐมนตรี ผู้เข้าร่วมประชุม และผู้ชี้แจงตลอดการประชุม

คมู่ ือคณะกรรมการผูช้ ่วยรัฐมนตรี : ๒๓ หมวด ๔ เร่ืองน่ารูส้ าหรับผูช้ ่วยรัฐมนตรี ๔.๑ คา่ ตอบแทน ๔.๑.๑ เบี้ยประชมุ รายครั้ง คณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีและเลขานุการจะได้รับเบี้ยประชุมเป็นรายครั้งตามอัตรา ท่กี ฎหมายวา่ ด้วยเบยี้ ประชมุ กรรมการ การรับเบยี้ ประชุมให้รบั จากสานกั เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ๔.๑.๒ คา่ ตอบแทนรายเดอื น ผู้ช่วยรฐั มนตรีจะได้รับค่าตอบแทนเป็นรายเดือนตามที่กระทรวงการคลังกาหนดโดยความ เหน็ ชอบของคณะรฐั มนตรี ๔.๒ สิทธปิ ระโยชน์และเกยี รติยศอ่นื ๆ ๔.๒.๑ การขอพระราชทานเครอ่ื งราชอสิ ริยาภรณ์ รัฐมนตรีท่ีเป็นผู้บังคับบัญชาอาจพิจารณาเสนอขอพระราชทานเคร่ืองราชอิสริยาภรณ์ ใหแ้ กผ่ ชู้ ว่ ยรฐั มนตรที ่มี ีผลงานดีเดน่ ไดต้ ามหลกั เกณฑ์ ดังนี้ เครือ่ งราชอสิ รยิ าภรณ์ เง่ือนไขระยะเวลา หมายเหตุ เรม่ิ ต้นขอ เลอื่ นไดถ้ งึ การเลอ่ื นชั้นตรา ต้องมีระยะเวลาดารงตาแหน่งติดต่อกันไม่น้อยกว่า ต.ช. ท.ช. ปีเว้นปี ๑๒๐ วัน นับตั้งแต่วันที่ดารงตาแหน่งจนถึง วนั พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาของปีท่ีจะขอ พระราชทาน ◊ ผูช้ ว่ ยรฐั มนตรเี ปน็ ตาแหน่งทไ่ี ม่มใี นระเบยี บสานักนายกรัฐมนตรวี ่าด้วยการขอพระราชทาน เครอื่ งราชอสิ ริยาภรณ์อันเปน็ ท่ีเชิดชูยิ่งช้างเผอื ก และเครื่องราชอสิ ริยาภรณอ์ นั มีเกียรติยศย่ิง มงกฎุ ไทย พ.ศ. ๒๕๓๖

คู่มอื คณะกรรมการผู้ชว่ ยรฐั มนตรี : ๒๔ ๔.๒.๒ การจัดทาบัตรประจาตวั เจ้าหนา้ ทข่ี องรัฐ พระราชกฤษฎีกากาหนดให้เจ้าหน้าที่ของรัฐและผู้มีอานาจออกบัตรประจาตัวเจ้าหน้าท่ี ของรัฐตามพระราชบัญญัติบัตรประจาตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ. ๒๕๔๒ (ฉบับท่ี ๑๒) พ.ศ. ๒๕๕๕ กาหนดให้กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐและนายกรัฐมนตรีเป็นผู้มีอานาจออกบัตร ประจาตวั เจ้าหน้าทขี่ องรฐั โดยให้ผู้ชว่ ยรัฐมนตรีส่งแบบคาขอมบี ัตรประจาตัวตามแบบท่ีแนบท้ายหนังสอื นี้ เพ่ือสานัก เลขาธิการนายกรัฐมนตรีดาเนินการจัดทาบตั รประจาตวั ต่อไป ๔.๒.๓ การใช้บัตรแสดงตนและบัตรอนุญาตนายานพาหนะผ่านเข้า – ออก บริเวณทาเนียบรฐั บาล เพ่ือเป็นการแสดงฐานะของบุคคล และเป็นไปตามมาตรการรักษาความปลอดภัยบริเวณ ทาเนียบรฐั บาล สานกั เลขาธกิ ารนายกรัฐมนตรี จะดาเนินการ ดงั น้ี (๑) จัดทาบัตรแสดงตนให้แก่ผู้ช่วยรัฐมนตรีทุกคนตามจานวนที่รัฐมนตรีแจ้ง โดยบัตร ดงั กลา่ วมีอายกุ ารใชง้ านตามท่ีสานกั เลขาธกิ ารนายกรัฐมนตรีกาหนด (๒) จัดทาบัตรอนุญาตนายานพาหนะผ่านเข้า – ออก บริเวณทาเนียบรัฐบาลสาหรับ รถยนต์ของผูช้ ว่ ยรัฐมนตรี ๑ คน ซึง่ บตั รอนุญาตดังกล่าวจะมีอายกุ ารใชง้ านเป็นเวลา ๑ ปี ส่ิงที่ตอ้ งทราบ ๑. ตดิ บัตรแสดงตนใหเ้ หน็ ไดโ้ ดยชัดเจน และตลอดเวลาท่ีอยใู่ นบริเวณทาเนียบรัฐบาล ๒. ตดิ บตั รอนุญาตนายานพาหนะผ่านเข้า – ออก บรเิ วณกระจกหน้าด้านซ้ายในระดับทสี่ ามารถ เหน็ ไดโ้ ดยชัดเจน ๔.๒.๔ การเทียบตาแหนง่ กรรมการผ้ชู ว่ ยรัฐมนตรแี ละผชู้ ว่ ยรฐั มนตรี ตามหนังสือกระทรวงการคลัง ทื่ กค ๐๔๐๖.๖/ว ๑๐๔ ลงวันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๕๑ ได้เทียบตาแหน่งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีและผู้ช่วยรัฐมนตรีเท่ากับข้าราชการพลเรือนตาแหน่ง ประเภทบริหารระดบั สงู

คู่มือคณะกรรมการผู้ชว่ ยรัฐมนตรี : ๒๕ ๔.๓ การแต่งกายในโอกาสเข้ารว่ มงานพระราชพิธีหรือรฐั พิธี ความหมายของพระราชพิธแี ละรฐั พธิ ี พระราชพิธี งานท่ีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ กาหนดไว้เป็น ประจาตามราชประเพณี ซ่ึงจะเสด็จพระราชดาเนินไปทรงประกอบพระราชพิธีด้วยพระองค์เอง หรือจะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ผู้แทนพระองค์ไปปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ แล้วแต่กรณี โดยก่อนถึงงานพระราชพิธีจะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีหมายกาหนดการ พระราชพิธีดังกล่าว ท้ังนี้ ผู้มีตาแหน่งเฝ้าฯ มีหน้าท่ีจะต้องไปเข้าเฝ้าฯ ในพระราชพิธีดังกล่าว เว้นแต่จะทรงกาหนดเป็นพระราชพิธีส่วนพระองค์หรือเป็นการภายใน อนึ่ง ในช่วงโอกาสสาคัญ อาจทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีพระราชพิธีเน่ืองในโอกาสมหามงคลน้ัน ๆ เพิ่มจากพระราชพิธี ประจาปีดังเช่นท่ีผ่านมา ได้แก่ พระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี และพระราชพิธี มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ โดยก่อนวันพระราชพิธีจะมี หมายกาหนดการ (เป็นเอกสารแจ้งกาหนดขั้นตอนของงานพระราชพิธีโดยเฉพาะ) ในการเสด็จฯ ไปทรงประกอบพระราชกรณียกิจ ซึ่งโดยปกติแล้วคณะรัฐมนตรี และผู้มีตาแหน่งตามที่กาหนดให้ เฝ้าฯ ต้องมีหน้าท่ีไปเข้าเฝ้าฯ ในพระราชพิธดี ้วย ยกเว้นพระราชพิธีส่วนพระองค์หรือเป็นการภายใน พระราชพิธีที่บุคคลสาคัญหรือมีตาแหน่งต้องไปเข้าเฝ้าฯ ได้แก่ พระราชพิธีฉัตรมงคล พระราชพิธี เฉลิมพระชนมพรรษา พระราชพธิ ที รงบาเพญ็ พระราชกศุ ลถวายผา้ พระกฐิน เปน็ ต้น รฐั พิธี งานท่ีรัฐบาลกราบบังคมทูลพระกรุณาขอพระราชทานพระมหากรณุ าให้ทรงรบั ไว้เป็น งานรัฐพิธี มีหมายกาหนดการที่กาหนดไว้เป็นประจาเช่นเดียวกับพระราชพิธี ซ่ึงพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอย่หู ัวจะเสดจ็ พระราชดาเนินไปทรงเปน็ ประธานในพิธีหรอื ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มี ผู้แทนพระองค์ไปในการประกอบรัฐพิธีดังกล่าวแล้วแต่กรณี ซึ่งเห็นได้ว่าแตกต่างจากพระราชพิธี ที่ว่าแทนท่ีพระมหากษัตริย์จะทรงกาหนด กลับเป็นว่ารัฐบาลเป็นฝ่ายกาหนดแล้วขอพระราชทาน เชิญเสด็จพระราชดาเนิน นอกจากน้ี จะมีรัฐพิธีท่ีสาคัญและไม่ได้จัดข้ึนเป็นประจา ได้แก่ การเสด็จ พระราชดาเนินทรงเปิดประชุมรฐั สภา ซึ่งจะมีข้ึนหลงั จากมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแล้ว และได้นาความกราบบังคมทูลพระกรุณาขอพระราชทานเชิญเสด็จพระราชดาเนินทรงเป็นองค์ ประธานเปิดประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญครั้งแรก ซึ่งรัฐพิธีในปัจจุบันที่คณะรัฐมนตรีและ บคุ คลสาคัญต้องไปเข้าเฝา้ ฯ ได้แก่ วันสมเด็จพระนเรศวรมหาราช (วันกองทัพไทย) วันพระบาทสมเด็จ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และวันที่ระลึกจักรีบรมราชวงศ์ วันปิยมหาราช และวันรัฐธรรมนูญ เป็นต้น

คู่มือคณะกรรมการผูช้ ว่ ยรฐั มนตรี : ๒๖ การแต่งกาย การแต่งกายในโอกาสเข้าร่วมงานพระราชพิธี งานรัฐพิธี หรืองานสาคัญต่าง ๆ หลักสาคัญท่ีต้องยึดถือปฏิบัติ คือ หมายกาหนดการ สาหรับผู้ช่วยรัฐมนตรีไม่มีข้อกาหนดในเร่ือง การแต่งกาย หรอื เครือ่ งแบบไว้เปน็ การเฉพาะ หากจะต้องเขา้ เฝ้าฯ ใหแ้ ต่งกาย ดังน้ี ในฐานะที่เคยเป็นข้าราชการ รวมถึงผู้ที่เคยดารงตาแหน่งข้าราชการการเมืองและพนักงาน ของรัฐที่มีกฎหมายกาหนดเกี่ยวกับเคร่ืองแบบไว้ หากเป็นข้าราชการนอกประจาการให้แต่งกาย ตามหมายกาหนดการ หรือหมายรับสั่งของสานักพระราชวัง โดยมีลักษณะและส่วนประกอบ เช่นเดียวกับขณะประจาการ เพียงแต่ติดเคร่ืองหมาย นก (นอ – กอ อันหมายถึง นอกประจาการ ทาดว้ ยโลหะโปร่งสีทองสงู ๒ เซนติเมตร) ดงั นี้ - อดีตข้าราชการการเมือง ใหต้ ดิ “นก” ทีอ่ กเสือ้ เบื้องขวา - อดีตข้าราชการพลเรือน ให้ตดิ “นก” ที่ปกคอเสือ้ ด้านหนา้ ข้างขวา ในฐานะอ่ืน (ผู้ที่มิใช่ข้าราชการและไม่อยู่ในกฎหมายหรือข้อบังคับของทางราชการให้มี เครื่องแบบเฉพาะการแต่งกายเข้าเฝ้าฯ ในโอกาสต่าง ๆ สามารถแต่งกายด้วยเครื่องแบบพิธีการ) ใหแ้ ต่งกายด้วยชดุ ขอเฝ้าฯ ดังนี้ บุรุษ ให้แต่งกายด้วยชุดขอเฝ้าเต็มยศ ชุดขอเฝ้าครึ่งยศ ชุดขอเฝ้าปกติขาว แล้วแต่กรณี ลักษณะคือ เสื้อนอกเป็นเสื้อคอปิดสีขาวแบบราชการ แนวเส้ือมีกระดุมสีทองขนาดใหญ่ ๕ เม็ด กางเกงขายาวแบบสากลไมพ่ ับปลายขา โดยมีเคร่อื งประกอบชุด คือ ดุมเสื้อ (เปน็ ดุมเกลีย้ งทาด้วย โลหะสีทอง) แผ่นทาบคอ (พื้นกามะหย่ีสีดามกี ่ิงชยั พฤกษ์ ประกอบด้วย ใบขา้ งละห้าใบ ปักดว้ ยด้ิน สีทอง และที่ก่ึงกลางมุมแหลมติดดุมโลหะสีทองขนาดเล็กข้างละหนึ่งเม็ด) ไม่มีอินทรธนูติดบ่า ประดบั เครื่องราชอิสริยาภรณต์ ามทไี่ ดร้ ับพระราชทานหรอื ตามทีก่ าหนดในหมายฯ สตรี ให้แต่งกายตามที่กาหนดในหมายฯ เช่น ชุดไทยจิตรลดา ชุดไทยอมรินทร์ และชุดไทย บรมพมิ าน ประดับดว้ ยเครื่องราชอสิ รยิ าภรณ์ ทม่ี าข้อมูลบางสว่ นได้มาจาก : สานักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแหง่ ชาติ กระทรวงวัฒนธรรม http://www.culture.go.th/knowledge/study ข้อควรระวงั การเข้าเฝ้าฯ รับเสด็จในโอกาสงานพระราชพิธีหรืองานรัฐพิธี เป็นเร่ืองท่ีผู้ช่วย รฐั มนตรีไม่สามารถปฏบิ ัตหิ น้าทแี่ ทนรฐั มนตร๒ี ๔

คูม่ อื คณะกรรมการผ้ชู ว่ ยรฐั มนตรี : ๒๗ หมวด ๕ ข้อพึงระวังสาหรบั ผู้ชว่ ยรัฐมนตรี ๕.๑ ผู้ชว่ ยรฐั มนตรีเป็นผ้ทู รงคุณวฒุ ิ ตามระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี พ.ศ. ๒๕๔๖ กาหนดให้ผู้ช่วยรัฐมนตรีเป็นตาแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิ จึงมิใช่ทั้งข้าราชการประจา หรือข้าราชการ การเมือง แต่อาจถือเป็นเจ้าหน้าท่ีของรัฐตามกฎหมายประกอบรฐั ธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริต ซ่ึงอาจมีความผิดหากใช้อานาจหน้าที่โดยทุจริต หรือโดยมิชอบเหมือน กรรมการอื่น ๆ ในระบบราชการ เม่ือผู้ช่วยรัฐมนตรีเป็น “ผู้ทรงคุณวุฒิ” สังคมจึงคาดหวังให้มี คุณวุฒิสมเกียรติ ท้ังน้ี สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและศาลปกครองสูงสดุ ได้วินจิ ฉัยว่าผูช้ ่วย รัฐมนตรีเป็นผูด้ ารงตาแหนง่ ทางการเมอื งด้วย ๕.๒ บญั ญตั ิ ๙ ประการสาหรบั ผ้ชู ว่ ยรัฐมนตรี เรื่องที่ผู้ช่วยรัฐมนตรีพึงระมัดระวังมิให้ปฏิบัติตัว หรือปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาดไปจากที่กฎหมาย หรอื ระเบียบประเพณีวธิ ปี ฏบิ ตั ิกาหนด ไดแ้ ก่ เรือ่ งต่อไปน้ี ๕.๒.๑ ผู้ช่วยรัฐมนตรีพึงเป็นแบบฉบับท่ีดีแก่ข้าราชการและประชาชน กล่าวคือ มีคุณธรรม ศีลธรรม และดารงตนสมเกียรติผู้ทรงคุณวุฒิ ท้ังน้ี สมควรจัดทาจรรยาบรรณของ ผู้ช่วยรัฐมนตรีข้ึนใช้บังคับต่อไป อย่างไรก็ดี ระหว่างท่ียังไม่มีการจัดทาจรรยาบรรณของผู้ช่วย รัฐมนตรีดังกล่าว สมควรนาระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยมาตรฐานทางคุณธรรมและ จรยิ ธรรมของขา้ ราชการการเมอื ง พ.ศ. ๒๕๔๓ มาบังคับใชไ้ ปพลางก่อน ๕.๒.๒ ผู้ช่วยรฐั มนตรีต้องดารงตนให้มีคุณสมบัติถูกต้องครบถ้วนและไม่มีลักษณะต้องห้าม ตลอดเวลาท่ีดารงตาแหน่ง ๕.๒.๓ ผู้ช่วยรัฐมนตรีต้องไม่รับเงินหรือผลประโยชน์ใดจากหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจเป็นพิเศษนอกเหนือไปจากท่ีหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ ปฏิบตั ิกบั บคุ คลอน่ื ๆ ในธรุ กจิ การงานตามปกติ

คูม่ ือคณะกรรมการผชู้ ่วยรฐั มนตรี : ๒๘ ๕.๒.๔ ผู้ช่วยรัฐมนตรีต้องไม่รับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อ่ืนใดจากบุคคลอื่นซ่ึงมิใช่ญาติ และมีราคา หรอื มูลค่าในการรับจากแต่ละบุคคลแต่ละโอกาสเกินสามพันบาท ในกรณีได้รบั ไวแ้ ล้ว ไม่ว่าจากในหรือนอกประเทศและจาเป็นต้องรับไว้เพ่ือรักษาไมตรี มิตรภาพ หรือความสัมพันธ์ อันดีระหว่างบุคคล ให้แจ้งผู้บังคับบัญชา เพื่อวินิจฉัยว่าควรรับไว้เป็นสิทธิของตนหรือไม่ หลักเกณฑน์ ี้ให้ใช้บงั คับแม้พ้นจากการเป็นกรรมการผชู้ ่วยรัฐมนตรไี มถ่ งึ สองปดี ้วย ๕.๒.๕ ผู้ช่วยรัฐมนตรีต้องเข้าประชุมคณะกรรมการผู้ชว่ ยรัฐมนตรีอย่างสม่าเสมอแม้ไม่มี เร่ืองของกระทรวงตนบรรจใุ นวาระการประชมุ ก็ตาม ๕.๒.๖ ผู้ช่วยรัฐมนตรตี ้องระมัดระวังในการคัดเลือกบุคคลมาเป็นคณะทางาน เลขานกุ าร หรือท่ีปรึกษา ไม่ว่าจะเป็นตาแหน่งทางการเมืองหรือไม่ก็ตาม เพราะอาจมีการนาเอาตาแหน่ง ไปใช้แอบอ้าง หรือแสวงหาประโยชน์โดยผิดกฎหมาย หรือไม่สมควร อันอาจนามาซ่ึงความ เสยี หายต่อผ้ชู ่วยรัฐมนตรีต่อนายกรฐั มนตรผี แู้ ตง่ ตง้ั และตอ่ รัฐบาลได้ ๕.๒.๗ ผู้ช่วยรัฐมนตรีต้องระมัดระวังมิให้มีผู้นาตาแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีไปแสวงหา ประโยชน์โดยไม่ชอบ หรือปล่อยให้คนใกล้ชิดก่อให้เกิดความเดือดร้อนราคาญต่อผู้อื่น หรือ รบกวนผู้อื่น เช่น กีดกันการท่ีประชาชนจะรับรู้ข้อมูลข่าวสารของทางราชการท้ังที่ดาเนินการ ตามข้ันตอนของกฎหมายแล้ว การฝ่าฝืนกฎจราจร การแทรกแซงในการแต่งต้ังโยกย้าย หรือ ปูนบาเหน็จความชอบแก่ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือเจ้าหน้าท่ีของรัฐไม่ ว่าใน กระทรวงนนั้ หรอื ตา่ งส่วนราชการ ๕.๒.๘ ผู้ช่วยรัฐมนตรีต้องประพฤติปฏิบัติตนให้อยู่ในกรอบของรัฐธรรมนูญอย่าง เครง่ ครดั โดยเฉพาะต้องไมม่ ีพฤตกิ ารณ์ร่ารวยผิดปกติ ส่อไปในทางทุจริตตอ่ หนา้ ที่ ส่อว่ากระทา ผิดต่อตาแหน่งหน้าท่ีราชการ ส่อว่ากระทาผิดต่อตาแหนง่ หนา้ ที่ในการยุติธรรม หรือส่อวา่ จงใจ ใชอ้ านาจหนา้ ท่ีขัดต่อบทบญั ญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย ๕.๒.๙ ผู้ช่วยรัฐมนตรีพึงราลึกว่า โดยเหตุที่ผู้ช่วยรัฐมนตรีเป็นตาแหน่งสาคัญ มีความ ใกล้ชิดรัฐมนตรีและมีส่วนอานวยให้การบริหารราชการแผ่นดินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงต้องระมัดระวังการใช้อานาจหน้าท่ีท้ังในฐานะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีและในฐานะผู้ช่วย รฐั มนตรีไปในทางท่ีไม่สมควร

คมู่ อื คณะกรรมการผชู้ ว่ ยรัฐมนตรี : ๒๙ หมวด ๖ หนว่ ยงานของรฐั และองคก์ รสาคัญทเี่ กยี่ วข้องกับผ้ชู ่วยรัฐมนตรี ๖.๑ ฝา่ ยเสนาธิการของคณะรัฐมนตรี ขอ้ มลู ดา้ นแผนเศรษฐกจิ สังคม ข้อมลู ดา้ นคน-อตั รากาลงั สานักงานสภาพฒั นาการเศรษฐกจิ และ สานักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรอื น สงั คมแห่งชาติ (สศช.) (สานกั งาน ก.พ.) เลขาธกิ าร โทร. ๐-๒๒๘๒-๐๘๑๓ เลขาธกิ าร โทร. ๐-๒๕๔๗ ๑๕๐๒ ขอ้ มูลด้านแผนความมนั่ คง ขอ้ มูลด้านเงนิ -งบประมาณ สานกั งานสภาความมน่ั แห่งชาติ (สมช.) สานกั งบประมาณ (สงป.) เลขาธกิ าร โทร. ๐-๒๖๒๙-๘๐๙๖-๙๘ ผอู้ านวยการ โทร. ๐-๒๒๗๓-๙๔๒๓ ขอ้ มลู ด้านกฎหมาย ขอ้ มูลด้านมติคณะรฐั มนตรี การประชุม-รฐั บาล-รฐั สภา-ราชสานกั สานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า (สคก.) สานักเลขาธกิ ารคณะรัฐมนตรี (สลค.) เลขาธกิ าร โทร. ๐-๒๒๒๒-๐๒๐๖-๙ ต่อ ๑๔๓๗ เลขาธิการ โทร. ๐-๒๒๘๐-๙๐๕๑

ค่มู ือคณะกรรมการผชู้ ว่ ยรัฐมนตรี : ๓๐ ๖.๒ หนว่ ยงานท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ๖.๒.๑ สานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี สถานะ : สว่ นราชการระดับกรม สังกัดสานักนายกรัฐมนตรี การบังคับบัญชา : เลขาธิการคณะรัฐมนตรี (นักบริหารระดับสูง) ซ่ึงเป็นข้าราชการ ประจาเป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบและขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี มีรองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และที่ปรึกษาประจาสานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเป็นผู้ช่วย สั่งและปฏิบัติราชการแทน ตามที่ เลขาธกิ ารคณะรฐั มนตรมี อบหมาย ภารกิจ : มีภารกิจเก่ียวกับราชการของคณะรัฐมนตรี การประสานราชการ กบั รัฐสภา การประสานราชการกับส่วนราชการในพระองค์ การประสานราชการกับกระทรวง ทบวง กรม และหน่วยงานอ่ืน ๆ ของรัฐ และภารกิจเก่ียวกับประชาชน โดยพัฒนาระบบข้อมูลเพ่ือการ ตัดสินใจของฝ่ายบริหาร พัฒนาการออกกฎ ระเบียบ คาส่ัง และมติคณะรัฐมนตรี ประสานการ ปฏิบตั ิตามนโยบายและมตคิ ณะรัฐมนตรีตามแผนการบรหิ ารราชการแผ่นดนิ เพอื่ นาไปสู่การบรหิ าร ราชการแผน่ ดินทมี่ ีประสทิ ธิภาพ มงุ่ ผลสมั ฤทธ์ิ และเปน็ ไปตามหลักการบรหิ ารกจิ การบา้ นเมอื งทีด่ ี ส่วนราชการภายใน ๑. สานักงานเลขาธิการ รบั ผิดชอบงานราชการท่วั ไปของสานักเลขาธิการคณะรฐั มนตรี ๒. กองการประชมุ คณะรัฐมนตรี รบั ผิดชอบเกี่ยวกบั การประชมุ คณะรัฐมนตรี ๓. กองนิตธิ รรม รับผิดชอบงานกฎหมายทกุ ประเภทและราชกจิ จานเุ บกษา ๔. กองบริหารงานสารสนเทศ รับผิดชอบระบบสารสนเทศและข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี ตา่ ง ๆ ๕. กองพัฒนายุทธศาสตร์และติดตามนโยบายพิเศษ รับผิดชอบการดาเนินการตาม ยุทธศาสตรข์ องคณะรฐั มนตรี ๖. กองวิเคราะห์เร่ืองเสนอคณะรัฐมนตรี รับผิดชอบการนาเสนอเร่ืองพิจารณาเร่ือง ทวั่ ไปตอ่ คณะรัฐมนตรี และจดั ทามตคิ ณะรฐั มนตรี ๗. กองส่งเสริมและประสานงานคณะรัฐมนตรี รับผิดชอบการจัดทาและเผยแพร่ รายงานผลการดาเนินการตามแนวนโยบายพ้ืนฐานแห่งรัฐและนโยบายรัฐบาล รวมท้ังการจัดทา ขอ้ มลู สนบั สนุนการจดั ทาคาแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรี

คมู่ อื คณะกรรมการผชู้ ่วยรัฐมนตรี : ๓๑ ๘. กองอาลักษณ์และเคร่ืองราชอิสริยาภรณ์ รับผิดชอบการประสานราชการระหว่าง นายกรัฐมนตรี หรือคณะรัฐมนตรีกับส่วนราชการในพระองค์ในเร่ืองที่จะต้องขอพระราชทาน พระมหากรณุ าตามกฎหมายหรือระเบยี บประเพณี ๖.๒.๒ สานกั เลขาธิการนายกรัฐมนตรี สถานะ : สว่ นราชการระดบั กรม สังกัดสานักนายกรัฐมนตรี การบงั คับบัญชา : เลข าธิก ารน ายก รัฐม น ต รี ซ่ึ งเป็ น ข้ าราช ก ารก ารเมื อ ง เป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบและข้ึนตรงต่อนายกรัฐมนตรี มีรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายบริหาร (นักบริหารระดับสูง) เป็นผู้ช่วยสั่งและปฏิบัติราชการแทน ตามที่เลขาธิการ นายกรฐั มนตรีมอบหมาย ภารกิจ : มีภารกิจเก่ียวกับการปฏิบัติราชการด้านการเมือง ด้านวิชาการ ด้านเลขานุการ ตลอดจนเป็นศูนย์ประสานการบริหารราชการของนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจาสานักนายกรัฐมนตรี รวมทั้งข้าราชการการเมืองสังกัดสานักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ มุ่งผลสัมฤทธ์ิ และเป็นไปตาม หลกั การบริหารกจิ การบา้ นเมืองที่ดี สว่ นราชการภายใน ๑. สานักงานเลขาธิการ รับผิดชอบงานราชการทั่วไปของสานักเลขาธิการ นายกรัฐมนตรี และการแตง่ ตง้ั ขา้ ราชการการเมืองสังกัดสานักนายกรฐั มนตรี ๒. กองการต่างประเทศ รับผิดชอบเกี่ยวกับการปฏิบัติงานด้านการต่างประเทศของ นายกรัฐมนตรี รองนายกรฐั มนตรี รัฐมนตรีประจาสานักนายกรฐั มนตรี รวมทั้งข้าราชการการเมือง สงั กัดสานกั นายกรัฐมนตรี ๓. กองงานนายกรัฐมนตรี รับผิดชอบการจัดทาสุนทรพจน์ของนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจาสานักนายกรัฐมนตรี ในวาระต่าง ๆ รวมทั้งจัดทาคากราบ บังคมทูล และหนังสือถวายพระพรชัยมงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานวุ งศ์ทุกพระองค์ รวมทั้งงานเลขานุการให้แก่นายกรฐั มนตรี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจาสานักนายกรัฐมนตรี ๔. กองประสานงานการเมือง รับผิดชอบเก่ียวกับการประสานงานกับรัฐสภา และ องค์กรตามรฐั ธรรมนญู องค์กรทางการเมอื ง และองคก์ รท่เี กยี่ วกบั การปฏริ ูปกฎหมาย

คมู่ อื คณะกรรมการผชู้ ว่ ยรัฐมนตรี : ๓๒ ๕. กองประสานนโยบายและยทุ ธศาสตร์ รับผดิ ชอบเก่ียวกับการตดิ ตาม ขับเคล่ือนและ ประสานงานตามนโยบายและการส่ังการของนายกรัฐมนตรี รวมถึงปฏิบัติหน้าท่ีฝ่ายเลขานุการ ให้แก่คณะกรรมการผ้ชู ่วยรฐั มนตรี และคณะกรรมการอนื่ ตามท่ไี ดร้ บั มอบหมาย ๖. กองพิธีการ รับผิดชอบเก่ียวกับงานพระราชพิธี รัฐพิธี ศาสนพิธี พิธีการทูต ในนามรัฐบาล นายกรัฐมนตรี รองนายกรฐั มนตรี และรัฐมนตรีประจาสานักนายกรฐั มนตรี ๗. กองสถานท่ี ยานพาหนะ และรักษาความปลอดภัย รับผิดชอบเก่ียวกับอาคาร สถานท่ี ยานพาหนะ และการรักษาความปลอดภัยในความรับผิดชอบของสานักเลขาธิการ นายกรัฐมนตรี ๘. ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร รับผิดชอบเก่ียวกับการเป็นศูนย์กลาง ข้อมูลระบบเครอื ขา่ ยและระบบสารสนเทศทางการบริหาร ๙. สานักโฆษก รับผิดชอบการเผยแพร่นโยบายและผลงานของรัฐบาล และเป็นศูนย์ ขา่ วของรัฐบาลให้แกป่ ระชาชนและสอ่ื มวลชน สานกั งานเลขาธกิ าร กองประสานนโยบายและยุทธศาสตร์ ผูอ้ านวยการ ๐ ๒๒๘๘ ๔๓๒๑ ผู้อานวยการ ๐ ๒๒๘๘ ๔๔๐๗ ๑. งานแต่งตงั้ กรรมการผชู้ ว่ ยรัฐมนตรี งานคณะกรรมการผู้ชว่ ยรฐั มนตรี โทร. ๐ ๒๒๘๘ ๔๐๐๐ ตอ่ ๔๖๖๑ โทร. ๐ ๒๒๘๘ ๔๐๐๐ ต่อ ๔๖๘๖, ๔๙๐๕ ๒. งานการเงนิ และบัญชี โทร. ๐ ๒๒๘๘ ๔๓๓๕

๖.๓ ส่วนราชการท่ีมีงานสัมพนั ธก์ ัน คมู่ อื คณะกรรมการผู้ช่วยรฐั มนตรี : ๓๓ นายกรฐั มนตรี คณะรฐั มนตรี สานกั เลขาธกิ ารนายกรฐั มนตรี สานกั เลขาธิการคณะรัฐมนตรี รับผิดชอบงานที่กระทาในนาม รับผิดชอบงานการเมือง งาน ด้านพิธีการและเลขานุการ และ ของรัฐบาล หรือคณ ะรัฐมนตรี งานด้ าน การต่างประเท ศของ ร่วมกัน งานประสานกับกระทรวง นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี ทบวง กรม รัฐสภา และราชการ แ ล ะ รั ฐ ม น ต รี ป ร ะ จ า ส า นั ก ในพระองคพ์ ระมหากษัตรยิ ์ นายกรัฐมนตรี งานอาคารสถานที่ หัวหนา้ สว่ นราชการ ก า รรั ก ษ า ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย ใน ทาเนียบรัฐบาล งานโฆษก งานรับ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เป็น เร่ืองราวร้องทุกข์ และงานพิธีการ ข้ า ร า ช ก า ร พ ล เรื อ น ส า มั ญ ของรฐั บาล นักบริหารระดบั สงู หวั หนา้ ส่วนราชการ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็น ข้าราชการการเมือง

คมู่ ือคณะกรรมการผูช้ ว่ ยรัฐมนตรี : ๓๔ ๖.๔ หนว่ ยงานทมี่ อี านาจควบคุมการบริหารราชการแผน่ ดินของคณะรัฐมนตรี สภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา คณะรฐั มนตรี ขา้ ราชการประจา

คมู่ อื คณะกรรมการผู้ชว่ ยรฐั มนตรี : ๓๕ ๖.๕ หนว่ ยงานทมี่ อี านาจตรวจสอบการทางานของคณะรัฐมนตรีหรอื สัง่ การทอี่ าจมี ผลกระทบต่อคณะรฐั มนตรีได้ ศาลยตุ ิธรรม ศาลปกครอง คณะรัฐมนตรี ศาลรฐั ธรรมนญู คณะกรรมการการเลือกตง้ั ผตู้ รวจการแผน่ ดนิ คณะกรรมการปอ้ งกันและ ปราบปรามการทุจรติ แห่งชาติ คณะกรรมการ ตรวจเงนิ แผ่นดิน คณะกรรมการ สทิ ธิมนุษยชนแหง่ ชาติ

ค่มู ือคณะกรรมการผ้ชู ่วยรฐั มนตรี : ๓๖ ภาคผนวก

ค่มู อื คณะกรรมการผู้ชว่ ยรฐั มนตรี : ๓๗

ค่มู อื คณะกรรมการผู้ชว่ ยรฐั มนตรี : ๓๘

ค่มู อื คณะกรรมการผู้ชว่ ยรฐั มนตรี : ๓๙

ค่มู อื คณะกรรมการผู้ชว่ ยรฐั มนตรี : ๔๐

ค่มู อื คณะกรรมการผู้ชว่ ยรฐั มนตรี : ๔๑

ค่มู อื คณะกรรมการผู้ชว่ ยรฐั มนตรี : ๔๒

ค่มู อื คณะกรรมการผู้ชว่ ยรฐั มนตรี : ๔๓

ค่มู อื คณะกรรมการผู้ชว่ ยรฐั มนตรี : ๔๔