Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรพื้นฐานการเฝ้าระวังโรคและภัยสุขภาพสำหรับเครือข่ายภายในช่องทางเข้าออกประเทศ (Non-Health)

หลักสูตรพื้นฐานการเฝ้าระวังโรคและภัยสุขภาพสำหรับเครือข่ายภายในช่องทางเข้าออกประเทศ (Non-Health)

Published by icdc_gcd, 2021-01-19 10:30:30

Description: หลักสูตรพื้นฐานการเฝ้าระวังโรคและภัยสุขภาพสำหรับเครือข่ายภายในช่องทางเข้าออกประเทศ (Non-Health)
จัดพิมพ์โดย กรมควบคุมโรค
รวบรวมเนื้อหาและออกแบบรูปเล่ม
1.นายเทวพร จานนอก
2.นางสาวกมลชนก ช่วยจันทร์
พิมพ์ครั้งที่ 1 : กันยายน 2563

Keywords: Non-Health

Search

Read the Text Version

การขยายของทรวงอกจะทำให้มีการแลกเปลี่ยนก๊าซได้ โดยเน้นให้กดหน้าอกท่ีแรงและเร็ว ผู้ปฏิบัต ิ การช่วยเหลือชีวิตควรจะทำการกดหน้าอกแต่เพียงอย่างเดียวต่อไปจนกระท่ังเครื่องช็อกไฟฟ้าหัวใจ มาถึงและพร้อมใช้งาน หรือมบี ุคลากรทางการแพทย์มาดแู ลผู้ป่วย A : Airway การเปิดทางเดินหายใจให้โล่ง เพราะโดยมากผู้บาดเจ็บท่ีหมดสติ จะมีภาวะโคนล้ินและกล่องเสียงตกลงไปอุดทางเดินหายใจส่วนบน ดังน้ันจึงต้องเปิดทางเดินหายใจให้ โล่ง โดยพิจารณาจาก - หากผู้ป่วยไม่มีการบาดเจ็บท่ีศีรษะหรือคอ จะใช้วิธีการแหงนหน้าและเชยคาง (Head tilt - Chin lift) - หากสงสัยว่าผู้ป่วยมีอาการเจ็บของไขสันหลัง ให้ใช้วิธี Manual Spinal Motion Restriction โดยการวางมือสองขา้ งบริเวณด้านขา้ งของศีรษะ เพือ่ ปอ้ งกนั การเคลือ่ นของศรี ษะ - หากสงสัยว่าผู้ป่วยมีอาการบาดเจ็บที่กระดูกสันหลังบริเวณคอให้เปิดทางเดิน หายใจด้วยวิธียกขากรรไกร (Jaw Thrust) คือ ดึงขากรรไกรทั้งสองข้างขึ้นไปด้านบน โดยผู้ช่วยเหลือ จะอยู่เหนอื ศรี ษะของผปู้ ่วย B : Breathing การชว่ ยหายใจ ดว้ ยการรกั ษาระดบั ออกซเิ จนใหเ้ พยี งพอและขบั ก๊าซ คาร์บอนไดออกไซด์ ดังนั้นในผู้ป่วยท่ีหัวใจหยุดเต้นเน่ืองจากการขาดอากาศ เช่น จมน้ำ จึงต้องรีบกด หน้าอกและช่วยหายใจ ๕ รอบ หรือ ๒ นาที ก่อนการร้องขอความช่วยเหลือ เน่ืองจากผู้ป่วยกำลังมี ระดับออกซิเจนท่ีต่ำกว่าปกติ ซึ่งออกซิเจนที่เป่าออกไปนั้นมีออกซิเจนประมาณ ๑๖ - ๑๗% ซงึ่ เพียงพอสำหรบั ใช้ในร่างกาย ๑) การช่วยหายใจด้วยวธิ เี ป่าปาก ให้ผู้ป่วยนอนหงาย วางศีรษะให้ต่ำกว่าไหล่เล็กน้อย และให้แหงนศีรษะไปข้างหลังเท่าที่ จะทำได้ เพื่อให้ทางเดินหายใจของผู้ป่วยโล่ง ล้ินมามาจุกท่ีคอหอย ใช้มือหนึ่งบีบจมูกของผู้ป่วย ใช้นิ้วหัวแม่มือของอีกมือหน่ึงแหย่เข้าไปในปากผู้ป่วยเพ่ือดึงคางให้อ้าออก หายใจเข้าลึก ๆ อ้าปาก ให้กว้าง ๆ เอาปากประกอบกับปากผู้ป่วยให้แน่นแล้วเป่าลมเข้าไปในปากผู้ป่วย ดูว่าหน้าอกผู้ป่วย พองข้ึนหรือไม่ ถ้าพองข้ึนแสดงว่าลมเข้าไปในปอดได้ดี ถอนปากที่ประกบออกเพ่ือให้ผู้ป่วยได้หายใจ ออกเอง เม่ือผ้ปู ว่ ยหนา้ อกยุบลง กเ็ ป่าลมเข้าไปในปากผู้ปว่ ยอีก ทำเชน่ น้ีไปเรื่อย ๆ ประมาณ ๑๕-๒๐ ครงั้ ตอ่ นาทีจนกว่าผู้ปว่ ยจะหายใจไดเ้ อง ระหวา่ งปฏิบัติให้ศีรษะผปู้ ่วยแหงนไปขา้ งหลงั ตลอดเวลา ๒) การชว่ ยหายใจด้วยวิธีเปา่ จมูก ให้ผู้ป่วยอยู่ในท่าเช่นเดียวกับวิธีช่วยหายใจด้วยวิธีเป่าปาก แต่ใช้มือข้างหน่ึงดันคางผู้ป่วยให้ ปากปิดสนิท หายใจเข้าลึก ๆ เอาปากประกบลงไปบนจมูกผู้ป่วยให้แนบสนิท แล้วเป่าลมเข้าไป ดูว่าหน้าอกผู้ป่วยพองข้ึนหรือไม่ ถ้าพองข้ึนแสดงว่าลมเข้าไปในปอดได้ดี ถอนปากออกแล้วให้มือ จับคางผู้ป่วยให้อ้าออก เพ่ือให้ผู้ป่วยหายใจออกได้ทางปาก เม่ือผู้ป่วยหน้าอกยุบลง ก็เป่าลมไป ทางจมูกเช่นเดมิ อีก ทำเชน่ น้ีไปเร่อื ย ๆ จนกว่าผู้ปว่ ยจะหายใจไดเ้ อง 48 หลกั สูตรพนื้ ฐานการเฝ้าระวังโรคและภัยสุขภาพสำหรบั เครอื ขา่ ยภายในชอ่ งทางเข้าออกประเทศ (Non-Health)

๓) ในเด็กเล็กอาจใชว้ ิธีช่วยหายใจ โดยเป่าลมเข้าไปท้ังทางปากและจมูก ประกบปากเข้ากับท้ังปากและจมูกของเด็กขณะ ช่วยหายใจ ถ้าสังเกตเห็นท้องผู้ป่วยพองโตข้ึนแสดงว่ามีลมเข้าไปในกระเพาะด้วยให้ใช้ฝ่ามือกดลง ตรงกลางช่องทอ้ งเหนือตอ่ สะดือ เพ่อื ดนั ใหล้ มออกจะทำให้การชว่ ยหายใจทกี่ ำลังปฏบิ ตั อิ ยไู่ ด้ผลดีข้ึน ๔) การชว่ ยหายใจโดยใชก้ ารยกแขนและกดทรวงอก ให้ผู้ป่วยอยู่ในท่าเช่นเดียวกับสองวิธีแรก พับแขนผู้ป่วยเข้าหากันไว้บนอก น่ังคุกเข่าอยู่เหนือ ศีรษะผปู้ ่วย จบั ข้อมอื ผปู้ ว่ ยทั้ง ๒ ข้าง ขา้ งละมือ โยต้ ัวไปขา้ งหน้าเหยยี ดแขนตรงกดลงไปตรงมือของ ผู้ป่วย ซ่ึงจะเท่ากับกดทรวงอกของผูป้ ว่ ยให้หายใจออกขบั เอาน้ำออกมา แลว้ โยต้ วั ไปข้างหลงั พร้อมกับ จับแขนผู้ป่วยทั้ง ๒ ข้างดึงแยกข้ึนไปข้างบนให้มากท่ีสุดเท่าที่จะทำได้จะทำให้ปอดผู้ป่วยขยายตัว ทำให้อากาศไหลเขา้ ไปได้ ทำเชน่ น้ไี ปเรอ่ื ย ๆ จนกว่าผปู้ ว่ ยจะหายใจได้เอง ๕) การชว่ ยหายใจ โดยวธิ ีแยกแขนและกดหลงั ให้ผู้ป่วยนอนคว่ำ ให้แขนของผู้ป่วยท้ัง ๒ ข้างพับเข้าหากัน หนุนอยู่ใต้คาง นั่งคุกเข่าอยู่ เหนือศีรษะผู้ป่วย วางฝ่ามือลงบนหลังของผู้ป่วยใต้ต่อกระดูกสะบัก ข้างละมือ โดยให้หัวแม่มือมาจด กัน กางนิ้วมือทั้ง ๒ ข้างออก โน้มตัวไปข้างหน้า แขนเหยียดตรงใช้น้ำหนักตัวกดลงบนแผ่นหลังของ ผปู้ ว่ ย ซง่ึ จะเทา่ กบั กดทรวงอกของผปู้ ว่ ยใหห้ ายใจออก ขบั เอานำ้ (ถา้ ม)ี ออกมาจากนย้ี า้ ยมอื ทง้ั ๒ ขา้ ง มาจับต้นแขนผู้ป่วย แล้วโย้ตัวกลับพร้อมกับดึงข้อศอกของผู้ป่วยมาด้วย จะทำให้ปอดผู้ป่วยขยายตัว ทำให้อากาศไหลเข้าไปได้ ทำเช่นนี้เรื่อย ๆ ไปจนกว่าผู้ป่วยจะหายใจได้เอง ถา้ การชว่ ยหายใจ กระทำได้ถูกต้องดังกล่าว และหัวใจของผู้ป่วยยังเต้นอยู่ตลอดเวลาผู้ป่วยจะดูแดงขึ้น และอาจกลับมา หายใจได้เปน็ ปกตอิ ีก ท้ังน้ี ใหผ้ ูช้ ่วยเหลอื ทำขั้นตอน C-A-B ไปเร่ือย ๆ จนกว่าหนว่ ยกชู้ พี มาถงึ หรือจนกว่าผ้ปู ่วยจะ มกี ารตอบสนอง หลกั สตู รพน้ื ฐานการเฝ้าระวังโรคและภยั สุขภาพสำหรับเครอื ข่ายภายในช่องทางเข้าออกประเทศ (Non-Health) 49

หน้าปัดคำแน ะนำ จะขนึ้ ไฟกระพ รบิ ใหป้ ฏิบตั ิตาม คำแนะนำ ตแตผำวั แอน่ หยนา่นำง่งไกฟขาอฟรง้าว าง ปมุ่ Shock ปุ่มเปดิ -ปิดเครือ่ ง จุดกด ปัม้ หวั ใจ ภาพที่ ๑ เครอื่ งชอ็ กไฟฟา้ หวั ใจอัตโนมตั ิ (Automatic External Defibrillator :AED ) อุปกรณ์ชนิดน้ีเรียกว่า เคร่ืองช็อกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ หรือเออีดี (Automatic External Defibrillator :AED ) เป็น อุปกรณ์ท่ีสามารถ “อ่าน” และ “วิเคราะห์” คล่ืนไฟฟ้าหัวใจของผู้ป่วยได้ อย่างแม่นยำ รวมท้ังให้รักษาได้ โอกาสที่จะรอดชีวิต ของผู้ป่วยน้ันขึ้นอยูกับว่า เราสามารถใช้เครื่อง AED ร่วมกับการช่วยฟ้ืนชีวิต ข้ันพื้นฐานโดยการกดหน้าอกได้อย่าง รวดเร็วและมีประสิทธิภาพเพียงใด และควรตระหนักไวว้ ่าเวลาทกุ ๆ นาทีทผ่ี า่ นไปนั้นมคี ่าอยา่ งยิ่งต่อการรอดชวี ติ ของผปู้ ว่ ย วิธีการใช้เครอื่ ง AED (เครื่องอาจมหี ลายแบบหลายยี่หอ้ แต่การใช้งานเหมือนกนั ) ๑.เปิดเครื่อง ในเครื่อง AED บางรุ่นท่านต้องกดปุ่มเปิดเคร่ือง ในขณะที่เคร่ืองบางรุ่นจะทำงานทันที ทเ่ี ปดิ ฝาครอบออก เมื่อเปดิ เครือ่ งแลว้ จะมเี สียงบอกให้รวู้ ่าทา่ นต้องทำอยา่ งไรต่อไปอยา่ งเปน็ ขัน้ ตอน ๒.ติดแผ่นนำไฟฟ้า เข้ากับหน้าอกของผู้ป่วยติดแผ่นนำไฟฟ้าของเครื่องเออีดีเข้ากับหน้าอก ของผู้ป่วยให้เรียบร้อย ในกรณีจำเป็นท่านสามารถใช้กรรไกรตัดเสื้อของผู้ป่วยออกก็ได้ กรรไกรนี้จะมีเตรียมไว้ ให้ในชุดช่วยชีวิต (กระเป๋า AED) อยู่แล้ว ต้องให้แน่ใจว่าหน้าอกของผู้ป่วยแห้งสนิทดี ไม่เปียกเหง่ือ หรือ เปียกน้ำ แผ่นนำไฟฟ้าของเคร่ือง AED ต้องติดแนบสนิทกับหน้าอกจริงๆ ถ้าจำเป็นท่านสามารถใช้ผ้าขนหนู ซง่ึ จะมเี ตรยี มไวใ้ หใ้ นชดุ ชว่ ยชวี ติ เชด็ หนา้ อกของผปู้ ว่ ยใหแ้ หง้ เสยี กอ่ น การตดิ แผน่ นำไฟฟา้ ของเครอ่ื ง AED นั้น เร่ิมด้วยการลอกแผ่นพลาสติกด้านหลังออก ตำแหน่งติดแผ่นนำไฟฟ้าดูตามรูปที่แสดงไว้ เคร่ืองบางรุ่น มีรูปแสดงท่ีตัวแผ่นนำไฟฟ้า บางรุ่นก็มีรูปแสดงที่ตัวเครื่อง ต้องติดให้แนบสนิทกับหน้าอกของผู้ป่วยด้วย 50 หลกั สตู รพืน้ ฐานการเฝ้าระวังโรคและภัยสขุ ภาพสำหรับเครอื ขา่ ยภายในช่องทางเข้าออกประเทศ (Non-Health)

ความรวดเร็ว แผ่นหนึ่งติดไว้ที่ใต้กระดูกไหปลาร้าด้านขวา และอีกแผ่นหน่ึงติดไว้ที่ใต้ราวนมซ้ายด้านข้างลำตัว ตรวจดใู หแ้ น่ใจว่าสายไฟฟ้าจากแผ่นนำไฟฟ้าต่อเข้ากบั ตวั เคร่อื งเรียบรอ้ ย ๓. ให้เคร่ือง AED วิเคราะห์คลื่นไฟฟ้าหัวใจ ระหว่างน้ันห้ามสัมผัสถูกตัวผู้ป่วยห้ามแตะต้องตัว ผู้ป่วย ถ้าเครื่อง AED พบว่าคลื่นไฟฟ้าของผู้ป่วยเป็นชนิดท่ีต้องการการรักษาด้วยการช็อกไฟฟ้าหัวใจ เคร่ืองจะบอกโดยเด็ดขาด ให้ท่านร้องเตือนดัง ๆ ว่า “เคร่ืองกำลังวิเคราะห์คล่ืนไฟฟ้าหัวใจ ห้ามแตะตอ้ งตวั ผู้ป่วย”เครื่อง AED ส่วนใหญ่จะเร่ิมวิเคราะห์คลื่นไฟฟ้าหัวใจทันทีท่ีติดแผ่นนำไฟฟ้าเสร็จ เคร่ืองบางรุ่นต้องให้ กดปมุ่ “ANALYZE” ก่อน ๔. ห้ามแตะต้องตัวผู้ป่วย ถ้าเครื่อง AED พบว่าคลื่นไฟฟ้าของผู้ป่วยเป็นชนิดท่ีต้องการการรักษาด้วย การช็อกไฟฟ้าหัวใจ เครอื่ งจะบอกโดยเด็ดขาด เครื่องรอ้ งเตือนดงั ๆ วา่ “เคร่ืองกำลงั วเิ คราะหค์ ลนื่ ไฟฟา้ หวั ใจ ห้ามแตะต้องตัวผู้ป่วย”เครื่อง AED ส่วนใหญ่จะเร่ิมวิเคราะห์คล่ืนไฟฟ้าหัวใจทันทีท่ีติดแผ่นนำไฟฟ้าเสร็จ เคร่ืองบางรุ่นต้องให้กดปุ่ม “ANALYZE” ก่อนให้เรากดปุ่ม “SHOCK” และก่อนท่เี ราจะกดปมุ่ “SHOCK” ตอ้ ง ใหแ้ นใ่ จวา่ ไมม่ ใี ครสมั ผสั ถกู ตวั ของผปู้ ว่ ย รอ้ งบอกดงั ๆ วา่ “คณุ ถอย ผมถอย และทกุ คนถอย” ก่อนกดปุ่ม “SHOCK” ให้มองซำ้ อีกครงั้ เป็นการตรวจสอบครง้ั สดุ ท้าย ๕. เมอื่ เครอื่ งบอกวา่ ไมต่ อ้ งชอ็ ก หรอื “No shock is needed” หรอื “start CPR” ใหท้ า่ นเปดิ เครอ่ื ง AED ไวก้ อ่ นและใหเ้ รม่ิ ชว่ ยฟนื้ ชวี ติ ขนั้ พน้ื ฐานทนั ที ทำการกดหนา้ อก ๓๐ ครงั้ สลบั กบั ชว่ ยหายใจ ๒ ครงั้ ประมาณ ๒ นาที หรอื จนกวา่ เครอ่ื ง AED จะวเิ คราะหค์ ลนื่ ไฟฟา้ หวั ใจอกี ครง้ั แลว้ กลบั ไปยงั ขอ้ ๓ และ ๔ สำหรบั ขน้ั ตอนท่ี ๑ และ ๒ ไม่ควรใชเ้ วลาเกนิ ๓๐ วนิ าที และทำการชว่ ยเหลอื รอจนกว่าความช่วยเหลอื อ่นื ๆ จะตามมา เราจะใช้เครอื่ ง AED ในสถานการณใ์ ด ๑. กรณผี ู้ปว่ ยไม่รูส้ กึ ตัว และหมดสติ ๒. กรณผี ู้ปว่ ยมีอาการแนน่ หนา้ อก สงสัยวา่ โรคหวั ใจกำเรบิ ทไ่ี มร่ ู้สึกตัว และหมดสต ิ ๓. กรณีผู้ป่วยได้รับอบุ ตั เิ หตจุ ากการถกู ไฟฟา้ ชอ็ กท่ไี มร่ สู้ ึกตัว และหมดสต ิ อุปกรณ์ : ห่นุ ฝึกซอ้ ม CPR/เคร่อื ง AED สรุปกิจกรรม : ผู้เรียนต้องสามารถปฏิบัติตามเก่ียวกับการใช้เคร่ือง AED ได้อย่างถูกต้อง พร้อมท้ังฝึกปฏิบัติ การช่วยฟ้นื คืนชพี ข้นั พ้ืนฐาน (CPR) ได้อย่างถกู ตอ้ งและมีประสทิ ธภิ าพ ผลลัพธ์ทตี่ อ้ งการประเมนิ : ที่ ผลลัพธท์ ต่ี ้องการ วิธีการประเมิน ๑ สามารถปฏิบัติการช่วยฟื้นคืนชีพข้ันพื้นฐาน สังเกตการฝึกปฏบิ ตั ิตามได้อยา่ งถูกต้อง (CPR) ได้ ๒ สามารถใชเ้ ครือ่ ง AED ได้ สังเกตการฝึกปฏบิ ัติตามได้อย่างถกู ตอ้ ง เทคนคิ การสอน : การยกตวั อย่างเหตกุ ารณ์ท่เี คยเกดิ ข้ึนจรงิ แลว้ อธบิ ายวิธีการสื่อสารความเส่ียงประกอบจะทำให้ผู้เรียน เห็นภาพชดั เจนมากขน้ึ หลักสูตรพืน้ ฐานการเฝ้าระวงั โรคและภัยสุขภาพสำหรับเครือข่ายภายในชอ่ งทางเข้าออกประเทศ (Non-Health) 51

เอกสารอ้างอิง ๑. Centers for Disease Control and Prevention. Guidance on personal protective equipment to be used by healthcare workers during management of patients with Ebola virus disease in U.S. hospitals, including procedures for putting on (donning) and removing (doffing) [Internet]. ๒๐๑๔ Nov ๑๐ [cited ๒๐๑๔ Nov ๑๖]. Available from: http://www.cdc.gov/vhf/ebola/hcp/procedures-for-ppe.html ๒. สถาบนั การแพทยฉ์ กุ เฉนิ แหง่ ชาติ (สพฉ.). คมู่ อื สำหรบั ประชาชนในการชว่ ยชวี ติ ผปู้ ว่ ยฉกุ เฉนิ ทมี่ ภี าวะ หัวใจหยุดเต้นด้วยเครื่อง เอ อี ดี [คู่มือ]. ๒๕๕๙ [เข้าถึงเม่ือ ๒๕๖๒ พฤศจิกายน ๑] (๒๕๕๙); ๒๕๕๙:[หน้า ๒๒]. เข้าถึงได้จาก: http://healthydee.moph.go.th/backend/fileAttach/ ๑๖๑๒๒๐๑๙_๐๓๕๓๓๑-๐๐๐๐๐๐๒๔๕๘.pdf ๓. คณะกรรมการมาตรฐานการช่วยชีวติ สมาคมแพทยโ์ รคหวั ใจแหง่ ประเทศไทยในพระบรมราชปู ถมั ภ.์ สรุปแนวทางปฏิบัติการช่วยชีวิตปี ค.ศ.๒๐๑๐ (Highlights of the ๒๐๑๐ American Heart Association Guidelines for CPR and ECC); (๒๕๕๕). ๔. กรมควบคุมโรค. คู่มือการปฏิบัติงานสื่อสารในภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข. กรุงเทพ: สํานักพิมพ์ อักษรกราฟิคแอนดไี ซน;์ (๒๕๕๓). ๕. ศูนย์กฎหมาย กรมควบคุมโรค. พระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. ๒๕๕๘. กรุงเทพ: โรงพิมพ์แห่ง จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั ; (๒๕๖๑). 52 หลักสตู รพ้นื ฐานการเฝ้าระวังโรคและภัยสุขภาพสำหรบั เครือขา่ ยภายในชอ่ งทางเข้าออกประเทศ (Non-Health)

ภาคผนวก หลกั สตู รพื้นฐานการเฝ้าระวงั โรคและภยั สุขภาพสำหรับเครอื ข่ายภายในชอ่ งทางเข้าออกประเทศ (Non-Health) 53

54 หลักสูตรพน้ื ฐานการเฝา้ ระวังโรคและภัยสขุ ภาพสำหรบั เครอื ข่ายภายในชอ่ งทางเขา้ ออกประเทศ (Non-Health)

องคค์ วามรทู้ ีส่ ำคัญเพมิ่ เติม ๑.ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เร่อื ง ชอ่ื และอาการสำคญั ของโรคตดิ ต่ออนั ตราย พ.ศ. ๒๕๕๙ (ฉบับที่ ๑ และฉบบั ท่ี ๒ ) รวม ๑๓ โรค ได้แก ่ ๑.) กาฬโรค (Plague) ๒.) ไข้ทรพษิ (Smallpox) ๓.) ไขเ้ หลือง (Yellow fever) ๔.) โรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง หรือโรคซาร์ส (Severe Acute Respiratory Syndrome - SARS) ๕.) โรคตดิ เช้อื ไวรสั อโี บลา (Ebola virus disease - EVD) ๖.) โรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง หรือโรคเมอร์ส (Middle East Respiratory Syndrome - MERS) ๗.) โรคติดเช้อื ไวรัสมาร์บวร์ก (Marburg virus disease) ๘.) โรคติดเชื้อไวรัสเฮนดรา (Handra virus disease) ๙.) โรคตดิ เชอ้ื ไวรสั นิปาห์ (Nipah virus disease) ๑๐.) โรคไขล้ าสซา (Lassa fever) ๑๑.) ไขเ้ ลอื ดออกไครเมยี นคองโก (Crimean - Congo hemorrhagic fever) ๑๒.) ไข้เวสตไ์ นล์ (West Nile Fever) ๑๓.) วณั โรคดอื้ ยาหลายขนานชนดิ รนุ แรงมาก (Extensively drug - resistant tuberculosis (XDR - TB)) ๒.ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เร่ือง ชื่อและอาการสำคัญของโรคติดต่อท่ีต้องเฝ้าระวัง พ.ศ. ๒๕๖๒ รวม ๕๕ โรค ได้แก่ ๑.) กามโรคของตอ่ มและท่อน้ำเหลอื ง ๒.) ไขก้ าฬหลังแอน่ ๓.) ไข้ดำแดง ๔.) ไข้ปวดขอ้ ยงุ ลาย ๕.) ไขม้ าลาเรีย ๖.) ไข้สมองอักเสบชนิดญ่ีปนุ่ ๗.) โรคสกุ ใส ๘.) ไขห้ วดั นก ๙.) ไข้หวดั ใหญ่ ๑๐.) ไข้หัด หลักสตู รพื้นฐานการเฝ้าระวงั โรคและภยั สขุ ภาพสำหรบั เครอื ขา่ ยภายในช่องทางเข้าออกประเทศ (Non-Health) 55

๑๑.) ไข้หดั เยอรมัน ๑๒.) ไข้เอนเทอริค ๑๓.) ไข้เอนเทอโรไวรัส ๑๔.) คอตบี ๑๕.) โปลิโอ ๑๖.) แผลรมิ ออ่ น ๑๗.) เมลอิ อยโดสสิ ๑๘.) เรมิ ของอวัยวะสบื พนั ธ์ุและทวารหนัก ๑๙.) โรคติดเช้อื ไวรัสซิกา ๒๐.) คางทูม ๒๑.) ซิฟลิ สิ ๒๒.) โรคตับอกั เสบจากเชอื้ ไวรสั ๒๓.) โรคตาแดงจากไวรัส ๒๔.) ไข้เดง็ ก่ี ๒๕.) โรคตดิ เชือ้ สเตรป็ โตคอคคสั ซูอิส ๒๖.) พยาธทิ รคิ เิ นลลา ๒๗.) โรคเท้าชา้ ง ๒๘.) โรคบรเู ซลโลสสิ ๒๙.) บาดทะยัก ๓๐.) โรคพิษสนุ ขั บา้ ๓๑.) โรคมอื เทา้ ปาก ๓๒.) เยอื่ หุ้มสมองอักเสบจากพยาธิ ๓๓.) โรคเรื้อน ๓๔.) โรคลซิ มาเนยี ๓๕.) โรคเลปโตสไปโรสิส ๓๖.) โรคสครบั ไทฟสั ๓๗.) โรคอุจจาระรว่ งเฉยี บพลัน ๓๘.) โรคเอดส์ ๓๙.) วัณโรค ๔๐.) หนองใน ๔๑.) หนองในเทยี ม ๔๒.) หดู อวยั วะเพศและทวารหนกั ๔๓.) ไข้สมองอกั เสบไมร่ ะบุเชอ้ื สาเหตุ 56 หลักสูตรพ้ืนฐานการเฝ้าระวังโรคและภยั สขุ ภาพสำหรบั เครือข่ายภายในช่องทางเขา้ ออกประเทศ (Non-Health)

๔๔.) ไข้ไม่ทราบสาเหตุ ๔๕.) ไวรสั ตบั อกั เสบไมร่ ะบุเชอ้ื สาเหตุ ๔๖.) เย่ือหุ้มสมองอกั เสบไม่ระบเุ ช้ือสาเหตุ ๔๗.) โรคอมั พาตกล้ามเน้ืออ่อนปวกเปยี กเฉียบพลนั ๔๘.) โรคปอดอกั เสบ ๔๙.) อาการภายหลังไดร้ บั การสร้างเสริมภูมคิ ุม้ กนั โรค ๕๐.) อาหารเป็นพษิ ๕๑.) อหวิ าตกโรค ๕๒.) โรคแอนแทร็คซ์ ๕๓.) ไอกรน ๕๔.) โรคพยาธิใบไมใ้ นตับ ๕๕.) โรคตดิ เชื้อในโรงพยาบาล ๓.ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ พ.ศ. ๒๕๕๙ (ฉบับท่ี ๑ ฉบับท่ี ๒ และฉบับที่ ๓) รวม ๖๘ ช่องทาง ได้แก่ ๑. ด่านควบคมุ โรคติดต่อระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ๒. ดา่ นควบคุมโรคติดตอ่ ระหวา่ งประเทศ ท่าอากาศยานแมฟ่ า้ หลวง ๓. ดา่ นควบคมุ โรคตดิ ต่อระหว่างประเทศ พรมแดนแมส่ าย ๔. ดา่ นควบคมุ โรคตดิ ตอ่ ระหวา่ งประเทศ พรมแดนบ้านฮวก ๕. ดา่ นควบคมุ โรคติดต่อระหว่างประเทศ พรมแดนหว้ ยโก๋น ๖. ด่านควบคุมโรคตดิ ตอ่ ระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานแม่สอด ๗. ดา่ นควบคุมโรคตดิ ตอ่ ระหว่างประเทศ พรมแดนแมส่ อด ๘. ด่านควบคมุ โรคติดตอ่ ระหวา่ งประเทศ พรมแดนบา้ นภูด ู่ ๙. ดา่ นควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ทา่ อากาศยานหัวหิน ๑๐. ด่านควบคุมโรคตดิ ต่อระหว่างประเทศ ท่าเรอื ประจวบคีรขี นั ธ์ (บางสะพาน) ๑๑. ดา่ นควบคุมโรคตดิ ตอ่ ระหว่างประเทศ พรมแดนสงิ ขร ๑๒. ดา่ นควบคมุ โรคตดิ ต่อระหวา่ งประเทศ พรมแดนสังขละบรุ ี (เจดีย์สามองค์) ๑๓. ดา่ นควบคุมโรคตดิ ตอ่ ระหว่างประเทศ พรมแดนบา้ นพุน้ำร้อน ๑๔. ด่านควบคมุ โรคตดิ ตอ่ ระหวา่ งประเทศ พรมแดนคลองลึก ๑๕. ดา่ นควบคมุ โรคตดิ ตอ่ ระหวา่ งประเทศ พรมแดนบา้ นเขาดนิ ๑๖. ดา่ นควบคมุ โรคติดตอ่ ระหวา่ งประเทศ ทา่ เรือแหลมฉบงั ๑๗. ด่านควบคมุ โรคติดต่อระหวา่ งประเทศ ทา่ เรือสัตหีบ ๑๘. ดา่ นควบคุมโรคตดิ ต่อระหว่างประเทศ ทา่ เรือเกาะสีชงั หลักสตู รพ้ืนฐานการเฝ้าระวังโรคและภยั สุขภาพสำหรับเครอื ข่ายภายในชอ่ งทางเขา้ ออกประเทศ (Non-Health) 57

๑๙. ดา่ นควบคุมโรคตดิ ต่อระหว่างประเทศ ท่าเรอื ศรรี าชา ๒๐. ด่านควบคมุ โรคติดตอ่ ระหวา่ งประเทศ ทา่ อากาศยานอูต่ ะเภา ๒๑. ด่านควบคมุ โรคตดิ ต่อระหวา่ งประเทศ ทา่ เรอื มาบตาพุด ๒๒. ดา่ นควบคุมโรคตดิ ตอ่ ระหวา่ งประเทศ พรมแดนบ้านผักกาด ๒๓. ด่านควบคุมโรคติดต่อระหวา่ งประเทศ พรมแดนบา้ นแหลม ๒๔. ด่านควบคมุ โรคตดิ ต่อระหว่างประเทศ พรมแดนบ้านหาดเลก็ ๒๕. ดา่ นควบคุมโรคตดิ ต่อระหวา่ งประเทศ ท่าอากาศยานอดุ รธาน ี ๒๖. ดา่ นควบคมุ โรคติดตอ่ ระหว่างประเทศ พรมแดนบงึ กาฬ ๒๗. ด่านควบคมุ โรคติดต่อระหว่างประเทศ พรมแดนทา่ ล ่ี ๒๘. ด่านควบคมุ โรคตดิ ต่อระหวา่ งประเทศ พรมแดนเชยี งคาน ๒๙. ดา่ นควบคุมโรคติดตอ่ ระหวา่ งประเทศ พรมแดนสะพานมติ รภาพ ๑ (หนองคาย) ๓๐. ดา่ นควบคมุ โรคตดิ ตอ่ ระหว่างประเทศ พรมแดนวดั หายโศก ๓๑. ด่านควบคมุ โรคตดิ ต่อระหว่างประเทศ พรมแดนสถานรี ถไฟหนองคาย ๓๒. ดา่ นควบคมุ โรคติดตอ่ ระหวา่ งประเทศ พรมแดนท่าเทยี บเรอื เทศบาลเมอื งนครพนม ๓๓. ด่านควบคุมโรคติดตอ่ ระหวา่ งประเทศ พรมแดนสะพานมติ รภาพ ๓ (นครพนม) ๓๔. ด่านควบคุมโรคตดิ ตอ่ ระหว่างประเทศ พรมแดนชอ่ งจอม (กาบเชงิ ) ๓๕. ดา่ นควบคมุ โรคตดิ ต่อระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานอุบลราชธาน ี ๓๖. ดา่ นควบคมุ โรคติดตอ่ ระหวา่ งประเทศ พรมแดนชอ่ งเมก็ ๓๗. ด่านควบคุมโรคติดตอ่ ระหวา่ งประเทศ พรมแดนภูสิงห์ (ช่องสะงำ) ๓๘. ดา่ นควบคุมโรคตดิ ต่อระหว่างประเทศ พรมแดนสะพานมิตรภาพ ๒ (มุกดาหาร) ๓๙. ด่านควบคุมโรคติดตอ่ ระหวา่ งประเทศ พรมแดนท่าเทยี บเรอื เทศบาลเมืองมุกดาหาร ๔๐. ดา่ นควบคมุ โรคตดิ ต่อระหว่างประเทศ ทา่ อากาศยานสมยุ ๔๑. ดา่ นควบคมุ โรคตดิ ตอ่ ระหว่างประเทศ ทา่ อากาศยานสรุ าษฎรธ์ าน ี ๔๒. ด่านควบคมุ โรคติดตอ่ ระหวา่ งประเทศ ท่าเรอื เกาะสมยุ ๔๓. ด่านควบคมุ โรคตดิ ต่อระหว่างประเทศ ทา่ เรอื สรุ าษฎรธ์ านี ๔๔. ดา่ นควบคมุ โรคติดตอ่ ระหวา่ งประเทศ ท่าเรือระนอง ๔๕. ด่านควบคมุ โรคตดิ ต่อระหว่างประเทศ ทา่ อากาศยานทา่ กาศยานภเู ก็ต ๔๖. ด่านควบคุมโรคตดิ ต่อระหวา่ งประเทศ ทา่ เรือภูเก็ต ๔๗. ดา่ นควบคมุ โรคตดิ ตอ่ ระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานกระบี่ ๔๘. ด่านควบคมุ โรคตดิ ตอ่ ระหว่างประเทศ ทา่ เรอื กระบ ่ี ๔๙. ด่านควบคมุ โรคติดต่อระหว่างประเทศ ทา่ เรือนครศรธี รรมราช ๕๐. ด่านควบคมุ โรคติดตอ่ ระหว่างประเทศ พรมแดนเบตง ๕๑. ดา่ นควบคุมโรคตดิ ตอ่ ระหวา่ งประเทศ ทา่ เรือสงขลา 58 หลกั สูตรพืน้ ฐานการเฝา้ ระวงั โรคและภยั สขุ ภาพสำหรับเครือขา่ ยภายในชอ่ งทางเข้าออกประเทศ (Non-Health)

๕๒. ด่านควบคุมโรคตดิ ตอ่ ระหวา่ งประเทศ ทา่ อากาศยานหาดใหญ่ ๕๓. ด่านควบคุมโรคตดิ ตอ่ ระหวา่ งประเทศ พรมแดนสะเดา ๕๔. ดา่ นควบคมุ โรคติดต่อระหวา่ งประเทศ พรมแดนปาดงั เบซาร ์ ๕๕. ดา่ นควบคมุ โรคตดิ ต่อระหว่างประเทศ พรมแดนบา้ นประกอบ ๕๖. ด่านควบคมุ โรคตดิ ต่อระหวา่ งประเทศ ทา่ อากาศยานนราธวิ าส ๕๗. ดา่ นควบคมุ โรคตดิ ตอ่ ระหว่างประเทศ พรมแดนสุไหงโกลก ๕๘. ดา่ นควบคมุ โรคติดตอ่ ระหวา่ งประเทศ พรมแดนบูเกะ๊ ตา ๕๙. ดา่ นควบคุมโรคติดตอ่ ระหวา่ งประเทศ พรมแดนสะพานมิตรภาพ ๔ (เชียงของ) ๖๐. ดา่ นควบคมุ โรคติดต่อระหว่างประเทศ ท่าเรอื เชยี งแสน ๖๑. ด่านควบคุมโรคตดิ ต่อระหว่างประเทศ ท่าเรือกนั ตงั ๖๒. ด่านควบคมุ โรคตดิ ตอ่ ระหว่างประเทศ พรมแดนตากใบ ๖๓. ดา่ นควบคุมโรคตดิ ต่อระหว่างประเทศ ทา่ เรอื ปัตตานี ๖๔. ดา่ นควบคมุ โรคติดต่อระหวา่ งประเทศ ท่าเรือตำมะลัง ๖๕. ด่านควบคุมโรคติดตอ่ ระหวา่ งประเทศ พรมแดนควนโดน ๖๖. ดา่ นควบคุมโรคติดตอ่ ระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานสุวรรณภูม ิ ๖๗. ด่านควบคุมโรคติดต่อระหวา่ งประเทศ ท่าอากาศยานดอนเมอื ง ๖๘. ด่านควบคุมโรคตดิ ต่อระหว่างประเทศ ท่าเรอื กรงุ เทพฯ หลกั สตู รพ้นื ฐานการเฝ้าระวงั โรคและภยั สุขภาพสำหรบั เครือข่ายภายในชอ่ งทางเข้าออกประเทศ (Non-Health) 59

แบบทดสอบความรู้ กอ่ นเรียน – หลังเรียน (Pre – Post Test) หลักสูตรพื้นฐานการเฝ้าระวังโรคและภัยสุขภาพสำหรับเครือข่ายภายในช่องทางเข้าออก ประเทศ (Non - Health) ๑. หัวข้อ พระราชบัญญตั ิโรคตดิ ต่อ พ.ศ. ๒๕๕๘ (๕ ข้อ) ๑. ข้อได้คือโรคตดิ ต่ออนั ตรายตามประกาศพระราชบญั ญตั โิ รคติดตอ่ พ.ศ. ๒๕๕๘ ก. ไข้เลอื ดออก ข. อาหารเปน็ พิษ ค. วณั โรค ง. โรคทางเดนิ หายใจตะวันออกกลาง (เมอร์ส) ๒. ใครมีอำนาจในการประกาศเขตติดโรคตามพระราชบญั ญัติโรคติดต่อ พ.ศ. ๒๕๕๘ ก. อธบิ ดีกรมควบคมุ โรค ข. ปลดั กระทรวงสาธารณสุข ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสขุ ง. นายกรัฐมนตร ี ๓. ผใู้ ดไม่ไดอ้ ยใู่ นคณะทำงานประจำช่องทางเขา้ ออก ก. ผู้แทนกรมปศสุ ัตว ์ ข. ผู้แทนกรมควบคุมมลพิษ ค. ผู้แทนกรมศุลกากร ง. ผแู้ ทนสำนักงานตรวจคนเขา้ เมอื ง ๔. ผู้เดินทางมาจากเขตติดโรคและผู้ที่จะเดินทางไปเขตติดโรคไข้เหลือง ควรสังเกตอาการหลังได้รับวัคซีน ปอ้ งกนั โรคไข้เหลืองอย่างน้อยก่วี นั จงึ พ้นระยะฟักตวั ของโรค ก. ๖ วนั ข. ๗ วนั ค. ๙ วัน ง. ๑๐ วัน ๕. ข้อใดคือโรคต้องห้ามในแรงงานต่างด้าว ตามพระราชบญั ญัตคิ นเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒ ก. โรคเร้อื น ข. โรคซิฟิลสิ ในระยะท่ี ๓ ค. วัณโรคในระยะอันตราย ง. ถกู ทกุ ข้อ ๒. หัวข้อ การตรวจจับความผิดปกตโิ รคและภัยสุขภาพ (๕ ขอ้ ) ๖. ทำไมตอ้ งอบรมเจ้าหนา้ ทที่ ุกคนในชอ่ งทางเข้าออกประเทศ ก. เพราะเปน็ ไปตามกฎหมายบงั คับ ข. มโี อกาสสมั ผสั กบั ผเู้ ดนิ ทางตลอดเวลาในทท่ี ำงาน ทำใหม้ โี อกาสพบผปู้ ว่ ยและสามารถปอ้ งกนั ตวั เองไดท้ นั ค. เพราะทกุ คนเปน็ คณะทำงานช่องทางเขา้ ออกประเทศ ง. ถูกทกุ ข้อ 60 หลักสตู รพนื้ ฐานการเฝา้ ระวังโรคและภัยสุขภาพสำหรับเครือขา่ ยภายในชอ่ งทางเขา้ ออกประเทศ (Non-Health)

๗. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ วิธกี ารตรวจจบั ความผิดปกติ ดา้ นสขุ ภาพและสาธารณสขุ ก. ดู : เฝ้าสงั เกตความผดิ ปกติ ข. แยก : รบี แยกผ้เู ดนิ ทางออกห่าง ๒ เมตร ค. แจง้ : รีบแจง้ ๑๖๖๙, ด่านฯ, ผบู้ ังคับบญั ชา ง. ตาม : ตามข้อมลู ข่าวสารตลอดเวลา ๘. อาการไอเป็นชดุ ไอต่อเนือ่ งมีโอกาสเปน็ โรคใดได้บา้ ง ยกเวน้ ข้อใด ก. ไอกรน ข. วัณโรค ค. ไข้เหลือง ง. ไขห้ วดั ใหญ่ ๙. อาการอจุ จาระรว่ งตอ่ เนอ่ื ง อาเจยี นตอ่ เน่ือง มีโอกาสปว่ ยโรคอะไรได้บ้าง ก. อหิวาตกโรค/อีโบลา่ ข. ไข้ทรพิษ/เมอรส์ ค. ไข้เหลอื ง/ไขห้ วดั ใหญ ่ ง. ไขเ้ ลอื ดออก/ไขซ้ กิ า้ ร์ ๑๐. เมือ่ พบผ้เู ดนิ ทาง ไอ จาม เราควรสวมอะไรเพือ่ ปอ้ งกนั ตนเอง ก. ใส่ผ้าคลมุ กนั เปอ้ื น ข. ใส่หนา้ กากอนามัย ค. ใสร่ องเทา้ บธู ง. ใส่ถุงมือกนั สารเคม ี ๑๑. เมื่อผเู้ ดนิ ทางหมดสติ ท่านควรแจง้ หนว่ ยงานใด ก. แจ้งผบู้ ริหารทราบทันที ข. แจ้งเจ้าพนักงานควบคมุ โรคติดตอ่ ค. แจง้ การแพทยฉ์ กุ เฉนิ ๑๖๖๙ ง. แจ้งฝา่ ยความม่ันคง เหตกุ ารณ์ (ใชต้ อบข้อ ๑๒ - ๑๓) ผเู้ ดนิ ทางเพศชาย อายุ ๓๕ ปี ในระยะเวลา ๒๑ วนั ไดเ้ ดนิ ทางกลบั มาจากประเทศในทวปี อฟั รกิ า มเี ลือดออก ผดิ ปกติ ที่ เหงอื ก หู จมูก ผวิ หนงั ที่มองเหน็ งา่ ย โดยไม่มีอาการบาดเจบ็ ๑๒. ทา่ นสงสัยผู้ป่วยน่าจะเปน็ โรคอะไรไดบ้ า้ ง ก. ไข้กาฬหลงั แอน่ ข. ไข้เลือดออก ค. ไข้สมองอกั เสบ ง. โรคตดิ เชื้อไวรสั อโี บล่า ๑๓. ควรสวมอุปกรณ์อะไรเพ่ือป้องกันตนเองเบื้องต้นสำหรับเจ้าหน้าท่ีศุลกากรหรือตรวจคนเข้าเมือง (Non-Health) เม่อื ต้องพูดคยุ ห่าง ๆ กับผูเ้ ดนิ ทางคนดงั กลา่ ว ก. ชุดหมี ข. ชุดกราวดย์ าว ค. ถุงมอื ยาง และหนา้ กากอนามยั ง. ถุงมือกนั สารเคมี และ N๙๕ หลกั สตู รพืน้ ฐานการเฝ้าระวงั โรคและภยั สขุ ภาพสำหรับเครือข่ายภายในชอ่ งทางเขา้ ออกประเทศ (Non-Health) 61

๓. ความรู้พน้ื ฐานในการประเมินความเสย่ี งและจัดการความเสี่ยง (๕ ข้อ) ๑๔. ข้อใดคอื ขนั้ ตอนของ การสือ่ สารทน่ี ำสู่การปฏบิ ัต ิ ก. ระยะกอ่ นเกิดเหตุ (Preparedness Phase) ข. ระหว่างเกิดเหตุ (Response Phase) ค. ระยะหลังเกดิ เหตุ (Recovery Phase) ง. ถูกทุกข้อ ๑๕. ถา้ ตอ้ งการสอบถามขอ้ มูลโรค ความรเู้ รอ่ื งโรค ควรโทรเบอรส์ ายด่วนเบอร์อะไร ก. ๑๖๖๙ ข. ๑๖๖๓ ค. ๑๔๒๒ ง. ๑๖๖๗ ๑๖. ช่องทางการประสานงานและสื่อสารทีร่ วดเรว็ ท่ีสุดคือชอ่ งทางใด ก. โทรศพั ท ์ ข. Line ค. หนงั สือราชการ ง. โทรสาร ๑๗. หากเราต้องการติดตามข่าวสารและสถานการณ์ของโรคและภัยสุขภาพ เราสามารถเข้าหาข้อมูลได้จาก แหลง่ ขอ้ มูลใด ก. เวบ็ ไซต์สำนักระบาดวทิ ยา ข. เว็บไซตส์ ำนักโรคติดตอ่ ท่วั ไป ค. เว็บไซตส์ ำนกั สื่อสารความเสี่ยงฯ กรมควบคมุ โรค ง. ถูกทกุ ขอ้ ๑๘. ข้อใดคือประโยชน์ของการคนื ข้อมูลและการตอบกลบั ผลการดำเนินงานต่อผปู้ ฏิบัติงาน ก. เพอื่ ใช้ในการปรบั ปรุงและพฒั นาวิธกี ารสือ่ สารในชอ่ งทางให้มีประสทิ ธิภาพมากยง่ิ ขึ้น ข. เพอ่ื ใหป้ ระชาชนทราบถึงโรคทีก่ ำลังระบาดเข้าประเทศ ค. เพือ่ ใหร้ ัฐบาลช่วยแก้ไขปัญหาโรคและภยั สขุ ภาพ ง. เพอ่ื ให้กองคลังสามารถจัดสรรงบไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง ๔. การประสานงานเมือ่ ตรวจพบความผิดปกตหิ รอื เม่ือเกิด PHEIC (๕ ข้อ) ๑๙.PHEIC คืออะไร ก. ภาวะฉุกเฉนิ ทางการแพทย์ ข. ภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสขุ ระหวา่ งประเทศ ค. ภยั พบิ ัติ ง. เหตกุ ารณท์ สี่ ง่ ผลกระทบตอ่ ความมั่นคงของประเทศ ๒๐.เหตุการณใ์ ดตอ่ ไปนส้ี ง่ ผลกระทบ ทำให้เกดิ PHEIC ได้ ก. โรคระบาดทส่ี ่งผลต่อการค้าและการสง่ ออกระหวา่ งประเทศ ข. โรคระบาดในประเทศ ค. เหตุการณค์ วามรุนแรงและการประทว้ งในประเทศ ง. เหตุการณก์ ารระบาดของโรคมาลาเรีย 62 หลกั สูตรพ้นื ฐานการเฝ้าระวงั โรคและภัยสขุ ภาพสำหรบั เครือขา่ ยภายในชอ่ งทางเข้าออกประเทศ (Non-Health)

แบบประเ ิมนการปฏิบั ิต (Skills Checklist) หลกั สูตรพ้นื ฐานการเฝา้ ระวงั โรคและภยั สขุ ภาพสำหรบั เครอื ข่ายภายในชอ่ งทางเขา้ ออกประเทศ (Non-Health) 63

64 หลักสูตรพน้ื ฐานการเฝา้ ระวังโรคและภัยสขุ ภาพสำหรบั เครอื ข่ายภายในชอ่ งทางเขา้ ออกประเทศ (Non-Health) การ์ด “ดู แยก แจ้ง ช่วย” ใสเ่ บอร์โทรประสานเจา้ หน้าทีด่ ่านควบคมุ โรคฯ ด้านหน้า ด้านหลัง

ตวั อย่างสถานการณส์ มมติ สถานการณท์ ี่ ๑ : กรณมี ผี ูเ้ ดินทางขาเขา้ ป่วยดว้ ยโรคไข้กาฬหลังแอน่ (ณ ท่าอากาศยานนานาชาติ..................) รเเขหูส้ า้ ตึกเุมมกือีไาขรง้ ณแกล์ ำะ:ลมงั ผีตผ่ืนรู้เดวเปจินสน็ ทอจาบำ้ งเหเลปนอื ็นงัดสชบือารเยเิดววนิณัยทกแาขลงนาทง่เีขคคานานจงึเ์เตดไดอิน้มรท์กี าสางังรมเสกาอตจบเาหถก็นาปมผรอู้เดะาเินกททาศราแเงอลทธะ่ียิโดืนอำตเเป่อนียแนิ ขถกวณาอระยทดู่ ังี่มเจนอี ้า้ี า หกนาร้าไทอี่ตรมวีนจ้ำคมนกู ๑น่ัง.ตSAรccวrtจipinสtgอ:บไ:เมอนเ่สจก่ังบา้สอหาายยรนู่เรกค้าเึ าาทปรน่ตีลเ์เดา่รตคนิวอจรทรับคา์ คงนผ ะเู้เขดม้าินอเทมงาือหงงนข ้าาผเขู้เด้านิปทระาเงท ศ ผปู้ ว่ ย Acting : ไอ เช็ดเหง่ือ ปวดหัว มือกุมหัวนิดหน่อย มายนื ต่อแถว รอตรวจสอบเอกสารการเดนิ ทาง Script : ใชค่ รับ ตวั รุมๆ ๒. Acting : ทำหน้าสงสัย /เปน็ ห่วง มองหน้าผเู้ ดนิ ทาง Acting : ดู งงๆ สับสน ตอบแบบไมเ่ ต็มปากเต็มคำ Script : หรอคะ คิดว่ามไี ข้ ไหมคะ เป็นมากวี่ ันเอ่ย Script : เอ่อ น่าจะมนี ะครับ เป็นมา ๒ วัน เออ่ ไมค่ รับ ๓ วัน ครับ นา่ จะ ๒ วัน Acting : สกั พักรสู้ ึก ผะอืดผะอม เหมือนจะอาเจียน จ๓ำ้ .เSลAcือcrดitpแintดg:งๆเป: ท็นม่ีแออขะงนไหรทคนัง้ ะ้าสผอเนู้เงด่ยีขินา้ มงทีจ าดุ งแดแงลๆ้วเเปหน็ ลจือ้ำบๆไ(ปดเู)ห ็น Acting : ยง่ิ ปวดหวั ใหญ่ และมองตามตัวของตัวเอง Script : หยู จริงดว้ ยครับ ตอนแรกเป็นผน่ื แต่ทำไม ตอนนมี้ นั เยอะขนาดน้ี ตายละ จำ้ แดง เตม็ ไปหมดเลย ท๔ท*ซใลหช้าา้าัน.ีจ้้คงงยทAซมุดวมSีา้cอืาใอื cยแหมtไนrมiลดเ้ชinpะคอืะ้เ่วgลคt้าเยตยนใะ:เ:หรนหัง่ ียเเ้เห ะลดดคมยคือยี๋ี๋ยา้ลิบะคเวว้าดใุณเงอรนิสSมาค่า่uือจMะ่ไดrระปg้บวa(ปนiแยcsกรั่งยkเaวะจหกlนสลนา่)น ลางmะนจ้าั่งคงaพาะมกดsักือkเา่อผคน่ะอ่าแใคนนหนลว่คี้เ์ะผบตต่ะชู้เคอรด้ีไงปุมรเินจม์ตโทลร๒้ารคาลนงงฯ้าม่ังเสมงท้ามวมตนามือรางั่ง Acting : สวม Surgical mask และมีอาการเร่ิม ซึม ๆ ล้างมือด้วยเจลล้างมือ เดินไปนั่งท่ีจุดแยกกัก ซงึ่ ออกจาก ตรงเคานเ์ ตอร์ ผเู้ ดนิ ทาง ๒ เมตร Script : ได้ครบั สวมเลยนะครบั ๕. Acting : หยิบ โทรศัพท์ ขึน้ มา มองหาเบอร์ ด่านฯ ด่านควบคุมโรคฯ กรมควบคุมโรค (ประสานด่านควบคุมโรคฯ แจ้งอาการ Acting : รบั สายโทรศพั ท์ ผงกหวั เร่ือย ๆ ท่ีสัมภาษณ์มา และเตรียมประสานงาน ตามที่ด่าน ควบคุมโรคฯ แนะนำ/ด่านควบคุมโรคฯ จะดำเนินการ อย่างไร ก็บอกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง เพื่อให้เค้า แจ้งผ้เู ดินทาง) หลกั สูตรพ้นื ฐานการเฝ้าระวังโรคและภัยสขุ ภาพสำหรบั เครือข่ายภายในชอ่ งทางเข้าออกประเทศ (Non-Health) 65

เจ้าหนา้ ทต่ี รวจคนเข้าเมอื ง ผูป้ ว่ ย เครดโตปเม พรสถวอ้่าาวค้นศานดงดโตมรกชทอูศคSSิดงสาาาราีวพccระตยกษงบrคrด่อยiาะiคpอววpSทารุมากาtnซดtบามย)โ:มaึ้วง ราช:ปุรkยสคลว่มะรeโนวฯเยะอบจีสัดะเlมดุเดหบินคiปคnาคจีลทะทรคณeะำ่้อื ะาา่เะงลส(งเอ๓ดแเพอืามดะแา่จ๕นดื่อไานินย้งรลตถค)หกบปต ำิดึงวเาาอีเรบตมลยมกดียคาียีอใแไำบจมมุดงขาเกโผรเ้กนนแรล้อู้ปาาคบินยรขรย่วฯนบรกายแไักะนาคขลDรคษระ่ะ้้วบrะคสเาoปกะ่ง(เถpชวชน็แตม้าlน่วน่ลม่อeผคียคะาtผเู้กุณอณุดใู้ปTา๒หำนิหรหrน่ว้สทaกมมวยวุขnาน้ัันออยรงศsับmึกSดS(เไพไษicc้าปขsื่อาrrนs้กรiiบสppiซัoกาุค่งtt้ฬาnษตล::ยหา่อา(อไล/ใกลดน่อวหะัรง้คิะนอ้คใแครคนิอจรอับรรชับงฉับ่นับฝ่อขัย )อองอตททยราบาบก)าามพ งางกกรรเวะรรหเขนาคะรา้จแุณบือขะยชวมา่ปกนี้แยารผจกกโะรู้งปคาคสม่รวรตาาบัทยนตดิ ไาร ตโวงรก้อ่กงาตาพร รรปยงแา้อมพบง้ากทนาันลย่ัง ์ หมายเหต ุ ■ เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง รู้อาการเบ้ืองต้นแล้ว ต้องมีการแสดงท่ีเน้น การส่ือสาร เช่น โทร สอบถามด่านควบคุมโรคฯ บอกอาการเบื้องต้นเท่าท่ีสังเกต หรือ Screen ด่านควบคุมโรคฯ ตรวจ สอบข้อมูลดอู าการว่าสงสัยปว่ ย Meningococcemia เตรยี มแยกกัก และสง่ ต่อ ■ อธิบายว่า ดา่ นควบคมุ โรคฯ ตอ้ งประสานใครบ้าง ตาม The Core Capacity Assessment Tool (CCAT) part A ■ แทรกเรอ่ื งการใส่ถุงมอื ควรใส่ในฉากทศั น์ (Scene) ไหนดี ■ สอนสวม และถอด Surgical mask และถงุ มือ ■ สอนการล้างมือ เ๑๒๓๔อ๕ปุป.....น็ กหเโถรจทปูรุงนผลรมณตืน่า้ลศือดิก์ทแ้าพัยาบงีต่ฟทากมบอ้งวิอ์อื งด(เนMจเา ตาอวoรมรกbียยั์บรiมlอะeNจร:9์ดPา 5ยhหo/หรnSรอื euือ)โr ชgจวi้ำc์เaผลlา่ือนmดทดaาำsงkๆห น้าจอ ๖. สต๊ิกเกอร์สแี ดง รูปหวั ใจก็ได้ ๗. เครอื่ งวดั อณุ หภมู ริ า่ งกาย (Handheld Thermo) ๘. เคร่ืองฟังตรวจ (Stethoscope) ๙. กระเป๋าสมั ภาระ สำหรบั บทบาทผเู้ ดนิ ทาง ขอ้ มูลสนับสนุนวิทยากรประจำกลุ่ม อาการผสู้ งสยั ปว่ ย ไขก้ าฬหลงั แอน่ (Meningococcemia) เปน็ Droplet Transmission และ Closed contact มไี ขอ้ าจมีปวดศีรษะ อาเจียน รว่ มกบั อย่างน้อยหนงึ่ อาการ ดังต่อไปนี้ ๑. มอี าการระคายเคืองของเยือ้ หมุ้ สมอง เช่น คอแข็ง ๒. ซมึ อาจพบอาการชกั ตรวจร่างกายระดบั ความร้สู ึกอาจปกติจนถงึ โคมา่ ๓. จ้ำ เลือดตามผิดหนงั ชนิดรุนแรง (Purpura fulminant) 66 หลักสูตรพน้ื ฐานการเฝา้ ระวงั โรคและภยั สุขภาพสำหรับเครือข่ายภายในชอ่ งทางเข้าออกประเทศ (Non-Health)

สถานการณท์ ่ี ๒ : กรณมี ีผู้เดินทางกลบั มาจากเยอรมันแต่ได้เปล่ยี นเคร่ืองทด่ี ไู บ ท้งั ไปและกลับ ผปู้ ่วยมีอาการคลา้ ย โรคปอดบวม (ณ ทา่ อากาศยาน) เหตุการณ์ : ขณะที่เจ้าหน้าที่ศุลกากรกำลังตรวจสัมภาระผู้เดินทางเข้ามาในประเทศ บังเอิญพบผู้เดินทาง ทา่ นหนงึ่ กำลงั เดนิ มาถงึ ทตี่ รวจสมั ภาระ มอี าการเหนอื่ ย หอบ หายใจลำบาก และกระสบั กระสา่ ย จงึ เดนิ เขา้ ไป สอบถามใหก้ ารชว่ ยเหลอื ดงั น้ ี เจ้าหนา้ ที่ศลุ กากร ผ้ปู ่วย ๑. Acting : หยิบ หน้ากากอนามัย (surgical mask) Acting : ไอ เหนอื่ ยหอบ หายใจลำบาก มาใส่ให้ตนเองแล้ว เดินไปกล่าวทักทาย และดูว่า Script : นดิ หน่อยครับ/คะ่ ผู้สงสัยป่วยอยู่ห่างจากผู้เดินทางคนอ่ืน ๆ อย่างน้อย ๒ เมตร แล้วหรือไม่ Script : ไม่สบายหรือปา่ วครับ/ค่ะ ๒. Acting : ยมิ้ และสอบถามอาการ Acting : ทำหน้าสงสยั แลว้ กไ็ อ เอามอื ปิดปาก Script : เป็นไขห้ รอื ป่าวครับ/คะ่ Script : ตวั อ่นุ ๆ นะครับ/ค่ะ และรู้สึกเหนอื่ ยมาก เลยครับ/คะ่ ๓. Acting : ลา้ งมอื และใส่ถงุ มือตนเองแลว้ หยบิ เจล Acting : ใส่ surgical mask แล้วเลา่ อาการครา่ ว ๆ ลา้ งมือให้ผปู้ ่วยล้างมือ และหยบิ surgical mask ให้ Script : ครบั /คะ่ แตผ่ ม/ฉนั ไมน่ า่ จะเปน็ อะไรมากนะ ผปู้ ่วยใสด่ ้วยตนเอง ลดการสมั ผสั ใกล้ชิด Script : รอสักครนู่ ะครบั /ค่ะ ผมจะประสานไปยงั หน่วยงานสาธารณสขุ มาดูแลคณุ ครับ/คะ่ เจ้าพนกั งานควบคุมโรคติดตอ่ เจา้ หน้าทศี่ ลุ กากร ๔. Acting : โทรศัพท์ไปประสานกับเจ้าพนักงาน Acting : รับโทรศัพท์ / จดบันทึกในทะเบียนและ ควบคมุ โรคติดตอ่ แบบคัดกรอง Script: สวัสดีครับ/คะ่ เจา้ หนา้ ทดี่ ่านควบคมุ โรค Script : รบั ทราบครบั /ค่ะ ทางด่านควบคมุ โรคฯ นะครบั /คะ่ ผม/ฉนั เปน็ เจา้ หนา้ ที่.......ได้พบผู้เดินทาง จะรีบดำเนินการประสานส่งต่อผู้ป่วยไปรับการรักษา สงสยั ป่วย เป็นเพศ..... อายุประมาณ........มอี าการไอ และสอบสวนโรคเบอ้ื งตน้ ทนั ทคี รบั /คะ่ และหอบเหนื่อย เดินทางกลับมาจากเยอรมัน แต่ได้ เปล่ียนเครื่องท่ีดูไบ รบกวนมาช่วยดูแลผู้ป่วยหน่อย นะครบั /ค่ะ หลกั สตู รพน้ื ฐานการเฝา้ ระวังโรคและภยั สุขภาพสำหรับเครอื ขา่ ยภายในชอ่ งทางเขา้ ออกประเทศ (Non-Health) 67

เจา้ หนา้ ทศี่ ลุ กากร เจา้ พนกั งานควบคมุ โรคติดต่อ Next step : ๑. เจา้ พนักงานควบคุมโรคติดต่อไดป้ ระสานไปที่ หน่วยงานที่รับสง่ ตอ่ ใหม้ ารบั เพอ่ื แยกกกั (Quarantine) ๒. โรงพยาบาลทร่ี บั สง่ ตอ่ ไดใ้ ชร้ ถ Ambulance มารบั ผสู้ งสยั ปว่ ยไปแยกกกั (Quarantine) และสอบสวนโรค ๓. โรงพยาบาลได้เก็บตัวอย่างผู้ป่วยเพ่ือหาเช้ือก่อโรคท่ีสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข/สถาบัน บำราศนราดูร หรือโรงพยาบาลจฬุ าลงกรณ์ สภากาชาดไทย ๔. ผลการตรวจยืนยันผู้ป่วยใหผ้ ลบวกต่อเชอ้ื MERS-CoV ๕. ทางทมี สอบสวนโรคติดตามผสู้ ัมผัสใกลช้ ิด (Closed Contract) เพ่ือแยกกัก (Quarantine) ๑๔ วนั หรอื ผลตรวจจะให้ผลลบต่อเชอื้ MERS-CoV ๖. เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อรายงานผลแยกกัก (Quarantine) และผลตรวจทางห้องปฏิบัติการให้ทาง เจา้ หนา้ ทีศ่ ุลกากร ทราบเบอ้ื งต้น และใหเ้ ฝ้าสังเกตอาการของตนเองในระยะเวลา ๑๔ วนั ว่ามอี าการผดิ ปกติ หรอื ไม ่ อุปกรณ์ทตี่ ้องเตรียม : ๔. โทรศัพท์ (Mobile Phone) ๑. ถงุ มอื ยาง ๕. แบบรายงานผู้ป่วยติดเช้ือระบบทางเดินหายใจ ๒. หน้ากากอนามยั (Surgical face mask) เฉยี บพลนั (SARI - AI1) ๓. เจลลา้ งมือ ๖. ชุดอปุ กรณ์ปอ้ งกันส่วนบคุ คล (PPE) ข้อมลู สนับสนุนวทิ ยากรประจำกลุ่ม อาการผ้สู งสัยปว่ ย โรคปอดอกั เสบ และ MERS - CoV มอี าการไข้ และอาจมีอาการปวด กล้ามเน้อื ไอ และหายใจผิดปกติรว่ มด้วย นิยามผู้ปว่ ยท่ีตอ้ งดําเนนิ การสอบสวนโรค MERS - CoV (Patients under investigated: PUI) ๑. ผปู้ ว่ ยตดิ เชือ้ ระบบทางเดินหายใจส่วนบน ไดแ้ ก่ ผูท้ มี่ ีอาการตดิ เชื้อทางเดินหายใจส่วนบน (ไอ น้ำมูก เจบ็ คอ เป็นต้น) และมีประวัติเดินทางมาจากพ้ืนที่ที่พบผู้ป่วยในช่วงเวลา ๑๔ วันก่อนวันเร่ิมป่วย และมีลักษณะอย่าง ใดอยา่ งหนึง่ ตอ่ ไปน้ี l มีอณุ หภมู กิ ายมากกวา่ หรือเท่ากบั ๓๘ องศาเซลเซยี ส หรือ l มปี ระวตั เิ ข้ารบั บริการในโรงพยาบาลในพืน้ ทีเ่ ส่ียงในชว่ ง ๑๔ วันกอ่ นวนั เรมิ่ ปว่ ย หรือ l สัมผสั อูฐ หรอื ดม่ื นมอูฐในชว่ ง ๑๔ วนั ก่อนวนั เร่ิมป่วย หรือ l สมั ผัสใกลช้ ิดกับผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง ในช่วง ๑๔ วนั ก่อนวนั เรม่ิ ปว่ ย ๒. ผูป้ ว่ ยปอดบวมที่มีประวตั เิ สยี่ ง หมายถึง ผ้ปู ่วยปอดบวมท่มี ปี ระวตั ิอยา่ งใดอยา่ งหนึ่งดังตอ่ ไปน้ีใน ช่วงเวลา ๑๔ วันก่อนวันเรม่ิ ปว่ ย ได้แก่ l อาศัย หรือเดินทาง หรือเป็นผู้สัมผัสของผู้ท่ีเดินทางจากพื้นที่ท่ีพบผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ ตะวนั ออกกลาง หรอื 68 หลักสูตรพืน้ ฐานการเฝา้ ระวังโรคและภยั สุขภาพสำหรับเครือขา่ ยภายในช่องทางเข้าออกประเทศ (Non-Health)

l เป็นบุคลากรทางการแพทย์ท่ีดูแลผู้ป่วยปอดบวม หรือเจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการท่ีตรวจตัวอย่างจาก ระบบทางเดนิ หายใจ หรือ l ผู้สมั ผสั ใกล้ชดิ “ผูป้ ่วยเข้าขา่ ย” หรอื “ผ้ปู ่วยยืนยนั ” ติดเชื้อทางเดินหายใจตะวันออกกลาง หรือ l ผู้ป่วยปอดบวมที่เกิดเป็นกลุ่มก้อน (พบผู้ป่วยต้ังแต่ ๒ คนขึ้นไป) ในชุมชนหรือท่ีทำงานเดียวกัน หรือมีความเชื่อมโยงทางระบาดวิทยา ในผู้ป่วยท้ัง ๔ กลุ่มนี้ถ้าตรวจพบเชื้อสาเหตุอื่น ๆ แล้ว แต่ไม่ ตอบสนองต่อการรกั ษาเชื้อดังกลา่ ว ต้องสง่ ตรวจหาเชอื้ ไวรสั โรคทางเดินหายใจตะวนั ออกกลาง ๓. ผู้ป่วยปอดบวมรุนแรง หรือภาวะระบบทางเดินหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน (Acute Respiratory Distress Syndrome: ARDS) ท่ีไม่ทราบเช้ือสาเหตุ (ปอดบวมรุนแรง หมายถึง ผู้ป่วยปอดบวมที่ต้องใส่เครื่องช่วย หายใจ) ถึงแม้ไมม่ ปี ระวตั ิเสีย่ งก็ตามหมายเหตุ ประเทศในตะวันออกกลางไดแ้ ก่ บาห์เรน อยี ิปต์ อิหร่าน ตรุ กี อริ ัก อิสราเอล จอร์แดน คูเวต เลบานอน โอมาน กาตาร์ ซาอุดอิ าระเบีย ซีเรยี สหรัฐอาหรบั เอมิเรตส์ เยเมน และดินแดนปาเลสไตน์ (เวสต์แบงคแ์ ละฉนวนกาซา) หลักสตู รพ้ืนฐานการเฝ้าระวงั โรคและภัยสขุ ภาพสำหรบั เครอื ขา่ ยภายในช่องทางเข้าออกประเทศ (Non-Health) 69

สถานการณท์ ี่ ๓ : กรณพี บผเู้ ดนิ ทางป่วยอาหารเปน็ พษิ (ณ ช่องทางเขา้ ออกทางบก) เหตกุ ารณ์ : ขณะท่ีเจ้าหน้าที่ non - health อยู่ระหว่างการตรวจสอบหนังสือเดินทาง สังเกตเห็นผู้เดินทางท่านหนึ่ง มีอาการอ่อนเพลีย อาเจยี น ……. จึงได้มกี ารสอบถามอาการและดำเนนิ การ ดังนี้ ผู้เดินทาง เดินทางมายังประเทศไทย ด้วยรถโดยสารระหว่างประเทศ เมื่อมาถึงเคาน์เตอร์ตรวจเอกสาร การเดนิ ทาง ผหู้ ญงิ คนดงั กลา่ ว มอี าการปวดทอ้ ง จบั บรเิ วณหนา้ ทอ้ ง สหี นา้ ไมส่ ดู้ นี กั เจา้ หนา้ ท่ี non - health สังเกตเห็นเดนิ ทางคนน้ี จับท้องกุมทอ้ ง ระหว่างทางเดนิ ทางคนดงั กล่าว ได้อาเจยี นทีเ่ คาเตอร์ ดูอ่อนแรง ๑. เจา้ หน้าที่ non-health ผูป้ ว่ ย Acting : นั่งอยู่เคาน์เตอร์ ผู้เดินทางขาเข้า Acting : แบบสัมภาระเดนิ เข้ามาที่เคาน์เตอร์ ประเทศนั่งตรวจสอบเอกสารการเดินทาง Script : ใชค่ รบั /คะ่ ฉนั รสู้ กึ ปวดทอ้ งมากๆ เลยครบั /คะ่ Script : สวสั ดคี รบั /คะ่ คณุ ไมส่ บายหรอื เปลา่ ครบั ๒. Acting : ทำหนา้ สงสัย Acting : พยกั หนา้ ก่อนขึ้นรถมาฉันเข้าห้องน้ำ Script : คุณอาเจียน หรือท้องร่วงหรอื ครับ/คะ่ Script : ใช่ครับ/ค่ะ (อจุ จาระ) บอ่ ยมาก ๓. Acting : แนะนำให้เดนิ ไปที่ด่านควบคุมโรคฯ Acting : ระหวา่ งน้นั ผปู้ ว่ ยไดอ้ าเจียนออกมา และโทรแจง้ ดา่ นควบคมุ โรคฯ เบือ้ งตน้ และได้หมดสตไิ ปในเวลาต่อมา Script : งั้นรบกวนให้คุณ เดินไปท่ีด่านควบคุม โรคฯ ทางซา้ ยมอื เพอื่ พบคณุ หมอกอ่ นนะครบั /คะ่ เขา จะชว่ ยรกั ษาคณุ ได ้ เจา้ หนา้ ที่ non-health หอ้ งฉุกเฉินโรงพยาบาล (๑๖๖๙) ๓. Acting : ใส่ถุงมือ และรีบเข้าไปปฐมพยาบาล Acting : ยกหูรบั โทรศพั ท ์ เบื้องต้น (สังเกตอาการ) และกันผู้เดินทางคนอ่ืน ๆ Script : สวัสดีครับ/ค่ะ โรงพยาบาล...... แจ้งเหตุ ออกห่างจากผู้ป่วย และรีบโทรแจ้ง ๑๖๖๙ หรือ อะไรครบั /คะ่ เบอรข์ องโรงพยาบาลที่สง่ ตอ่ ผู้ปว่ ย -รับทราบครับ/คะ่ เราจะไปรบั ผ้ปู ่วยภายใน ๑๕ นาท ี Script ๑ : คณุ ๆ คณุ ชอื่ อะไรครบั (เรยี กสตผิ ปู้ ว่ ย) คณุ ลกุ เดินไหวใช่ไหมครบั /คะ่ รบกวนผู้เดินทางท่านอ่ืน ๆ ถอยออกห่างจากตรงน้ี ก่อนนะครับ/คะ่ Script ๒ : สวัสดีครับ/ค่ะ โทรจากด่านควบคุม โรค..... ตอนนี้มีผู้เดินทางป่วยและหมดสติไป มี อาการปวดท้องและอาเจียนก่อนหมดสติ รบกวนโรง พยาบาลรีบมาดูแลผปู้ ่วยด้วยครับ/ค่ะ 70 หลักสูตรพ้ืนฐานการเฝ้าระวังโรคและภยั สุขภาพสำหรับเครือข่ายภายในชอ่ งทางเข้าออกประเทศ (Non-Health)

เจา้ หนา้ ที่ non-health ห้องฉกุ เฉินโรงพยาบาล (๑๖๖๙) Next step : ๑. โรงพยาบาลมารับผ้ปู ่วย ๒. ทางเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดตอ่ ทำความสะอาดอาเจยี นของผู้เดนิ ทาง ๓. ดา่ นควบคมุ โรคฯ ประสานขอ้ มลู ผลการรกั ษาและการวนิ จิ ฉยั โรคและแจง้ กลบั ไปยงั เจา้ หนา้ ท่ี Non - health ทราบ อุปกรณท์ ่ีต้องเตรยี ม : ๑. ถุงมือยาง ๗. ท่ีโกยขยะมอื จบั ๒. หน้ากากอนามัย (Surgical face mask) ๘. ท่ีเช็ดกระจก ๓. เจลล้างมอื ๙. ถงุ ซิปล็อก ๔. โทรศัพท์ (Mobile Phone) ๑๐. พลาสตกิ /เชอื ก ๕. ทิชช่ใู หญ่ (Travel tissues) ๑๑. ชดุ ป้องกนั (PPE) ๖. สารโซเดียมไฮโปคลอไรท์ (Sodium hypochlorite) ข้อมูลสนบั สนุนวิทยากรประจำกล่มุ อาการผสู้ งสยั ป่วย โรคอจุ จาระรว่ งเฉยี บพลนั (Acute diarrhea) ผปู้ ว่ ยทม่ี อี าการถา่ ยอจุ จาระเหลวอย่างนอ้ ย ๓ ครงั้ ใน ๒๔ ชั่วโมง หรอื ถ่ายเปน็ น้ำ อย่างนอ้ ย ๑ ครงั้ อาจรว่ ม กับอาการอาเจยี น อาการขาดนำ้ หลกั สตู รพ้นื ฐานการเฝ้าระวังโรคและภัยสขุ ภาพสำหรบั เครือข่ายภายในช่องทางเข้าออกประเทศ (Non-Health) 71