Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore E-book เรื่อง สถาบันทางสังคม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

E-book เรื่อง สถาบันทางสังคม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

Published by nana_1-1, 2023-06-19 14:11:47

Description: E-book เรื่อง สถาบันทางสังคม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม นางกมลชนก อนุกูลอนันต์ชัย โรงเรียนหนองโนประชาสรรค์

Keywords: E-book สถาบันทางสังคม

Search

Read the Text Version

E-Book เร่ือง สถานบนั ทางสงั คม ระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 2

คำนำ สารบญั E-Book เล่มนี้ จัดทำขึ้นสำหรับนักเรยี นชน้ั ความหมายของสถาบนั ทางสงั คม 1 มัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรยี นหนองโนประชาสรรค์ ความสำคญั ของสถาบนั ทางสงั คม 2 วตั ถปุ ระสงค์เพ่อื ศึกษาและเผยแพรเ่ นือ้ หาเร่อื ง สถาบนั บทบาทของสถาบนั ทางสงั คม 3 ทางสงั คม โดยสร้างเปน็ E-Book ช่วยสอนนำเสนอเนือ้ หา ความสมั พนั ธข์ องสถาบนั ทางสงั คม 12 และฝกึ คดิ วเิ คราะหท์ ำแบบทดสอบ โดยผลการนำไปใช้ วธิ ที ำแบบทดสอบ 14 ทง้ั หมดจะมปี ระโยชน์ต่อการจดั เรียนรู้ และสามารถนำผลท่ี แบบทดสอบ 15 ได้มาปรบั ปรงุ การจัดเรยี นรใู้ ห้มปี ระสิทธิภาพย่ิงขึน้ เฉลยแบบทดสอบ 21 ซงึ่ ถอื ว่า E-Book เปน็ อีกหนึง่ วิธที ่จี ะช่วยใหน้ กั เรียน ประสบความสำเร็จในการเรียน สามารถเรียนรไู้ ดอ้ ย่างมี ความสุข เข้าใจในเนื้อหาเรื่องท่ีตอ้ งการนำเสนอ หวังเปน็ อยา่ งย่งิ วา่ E-Book เล่มน้ี จะเปน็ ประโยชน์ตอ่ ผู้ทส่ี นใจไม่มากก็น้อย และขอขอบคุณแหลง่ ข้อมลู ต่างๆที่ ไดน้ ำมาเผยแพร่ ไมว่ า่ จะเปน็ ข้อมลู เรื่องสถาบันทางสงั คม หรอื รูปภาพทปี่ รากฏภายในเลม่ สดุ ท้ายนี้ขอขอบพระคณุ คณะครูโรงเรียนหนองโน ประชาสรรค์ ทีเ่ อื้ออำนวยในการจดั ทำ หากผดิ พลาด ประการใด ผ้จู ัดทำขอน้อมรบั และจกั นำไปปรบั ปรงุ ให้ สมบูรณย์ งิ่ ขนึ้ ผูจ้ ัดทำ

ความหมายของสถาบนั ทางสังคม 1 2 ความสำคญั ของสถาบนั ทางสงั คม “สถาบนั ทางสงั คม (Social institution) หมายถงึ รูปแบบ สถาบันทางสังคม เปน็ องค์ประกอบหนึ่งของ โครงสรา้ งทางสงั คม ซง่ึ พฤตกิ รรมของสมาชกิ ในสังคม ทีเ่ ป็นไปตามบรรทดั ฐาน ระเบียบ แบบ แต่ละสถาบันก็มบี ทบาทหน้าทแี่ ตกตา่ งกันไป สำหรบั ความสำคัญของ แผน หรือแนวทางปฏิบัติอย่างเปน็ ระเบยี บ ระบบ เปน็ ทยี่ อมรบั ของคนส่วน สถาบันทางสงั คม สรุปได้ดังนี้ ใหญใ่ นสงั คมอย่างเปน็ ทางการ เพือ่ ตอบสนองความต้องการและการดำรงอยู่ ของสังคม 1.ชว่ ยหลอ่ หลอมพฤตกิ รรมของมนษุ ยใ์ ห้เปน็ สมาชกิ ท่ดี ขี องสังคม หรือ หมายถึง กระบวนการท่ีมนุษย์ในสังคมได้จัดต้ัง ให้มีข้ึนอย่าง 2.ช่วยตอบสนองความตอ้ งการดา้ นตา่ งๆ รว่ มกันของสมาชกิ ในสังคม เป็นระเบยี บแบบแผน ซง่ึ บุคคลสว่ นใหญ่ในสงั คมยอ่ มปฏิบัติเพ่ือประโยชน์ สว่ นรวม และเพ่ือทำหนา้ ทส่ี นองความต้องการท่ีจำเป็นของสังคม โดยสถาบัน 3.เป็นเครอ่ื งมอื ในการควบคมุ คนในสังคมโดยการกำหนด กฎกตกิ า สังคมไม่ใช่ ระบบพฤติกรรมท่ีสังคมกำหนดข้ึน แต่เป็นแนวทางในการ ระเบยี บ แบบแผนท่เี ป็นมาตรฐานในสังคม ซึ่งจะยดึ โยงสถาบนั ตา่ งๆเข้าไว้ ปฏิบัติส่ิงใดสิ่งหน่ึง อย่างเป็นระเบียบแบบแผน แบ่งออกตามความต้องการ ดว้ ยกัน ของมนุษย์ 4.ช่วยใหส้ งั คมโดยรวมธำรงอยู่ได้และพฒั นาสงั คมให้มีความ ในทางสงั คมวทิ ยา แบ่งรปู แบบของสถาบันทางสงั คมออกเปน็ 2 เจรญิ ก้าวหน้า รปู แบบ คอื รูปแบบทีเ่ ป็นทางการ ซงึ่ จะมีลกั ษณะทางความสมั พนั ธ์ท่ี ชัดเจนมแี บบแผน หรือกฎเกณฑอ์ ยา่ งเป็นระบบ ส่วนสถาบันทางสงั คมท่ีไม่ กล่าวโดยสรปุ สถาบันทางสังคมมีความเกีย่ วขอ้ งกบั การกำหนดกฎ เป็นทางการน้นั จะมีความสมั พนั ธ์ทไ่ี มม่ ีแบบแผนนกั แตเ่ กดิ ข้ึนโดย ระเบียบ มาตรฐาน และแนวทางความประพฤติของคนในสังคมใหป้ ฏบิ ัติ ธรรมชาติ ตามโดยมีคา่ นิยม ความเชอ่ื ศาสนา และภูมิปญั ญา ซงึ่ เป็นหวั ใจในการ กำหนดกรอบบรรทดั ฐานทสี่ มาชกิ ใชก้ ระทำตอบโตก้ นั

บทบาทของสถาบนั ทางสงั คม 3 4 สถาบนั ครอบครัวมบี ทบาทท่ีสำคญั คือ การให้กำเนดิ สมาชกิ ใหมแ่ ก่ สังคมและเล้ยี งดสู มาชิกของครอบครวั ใหเ้ จริญเตบิ โตอยา่ งมีคณุ ภาพ เพราะ ในแตล่ ะสงั คมจะมีสถาบนั ทางสังคมท่ีเป็นพ้ืนฐานทส่ี ำคัญ ไดแ้ ก่ ครอบครวั เป็นสถาบนั พ้นื ฐานแรกสุดทท่ี ำหน้าทีใ่ นการอบรมขดั เกลา สถาบนั ครอบครัว สถาบันการศึกษา สถาบันศาสนา สถาบนั เศรษฐกจิ สมาชิกใหเ้ ปน็ คนดีทง้ั กาย วาจา และใจ เพอื่ ให้อยใู่ นสงั คมไดอ้ ย่างมี สถาบันการเมอื งการปกครอง สถาบันนันทนาการ และสถาบันสอ่ื สารมวลชน ความสุขรวมท้ังทำหน้าทถ่ี ่ายทอดวัฒนธรรมใหแ้ กส่ มาชกิ ใหมท่ ่กี ำเนิดขึ้นมา ซึ่งแต่ละสถาบนั มบี ทบาทท่สี ำคญั ดังน้ี ในสงั คม กำหนดแนวปฏบิ ตั เิ กยี่ วกบั ความสัมพนั ธ์ของสมาชกิ ในครอบครวั กำหนดสถานภาพทางสงั คมและบทบาทที่สอดคลอ้ งกนั ให้แกส่ มาชิกในสงั คม 1.สถาบนั ครอบครวั 2.สถาบนั การศึกษา สถาบนั การศกึ ษา เปน็ แบบ สถาบนั ครอบครวั จดั เปน็ แบบ แผนพฤติกรรมของคนที่ตดิ ตอ่ เก่ยี วขอ้ ง แผนการคิด การกระทำท่ี กันในเร่อื งเกย่ี วกับครอบครวั และเครือ เก่ยี วขอ้ งกับการให้การศึกษา ญาติ สมาชิกในครอบครัวมคี วามสัมพนั ธ์ แกส่ มาชกิ ในสังคม กันทางสายโลหติ หรอื โดยการสมรส สถาบนั การศึกษาเป็นสถาบนั ที่ หรอื การรบั ไวเ้ ป็นญาติ เชน่ ครอบคลมุ ในเร่ืองท่เี กีย่ วข้อง บุตรบญุ ธรรม เป็นตน้ ความสัมพนั ธข์ องสมาชิกในครอบครัวจะแนน่ แฟน้ กบั การเรยี นการสอน การ ม่นั คง มีความรักและปรารถนาดตี ่อกนั ฝึกอบรมด้านต่างๆ ประกอบดว้ ยองคก์ รต่างๆ แบบ ขนาดของครอบครัวอาจแตกต่างกันออกไป บางครอบครวั เป็น เปน็ ทางการ ลักษณะครอบครัวเด่ียว แตบ่ างครอบครวั มลี กั ษณะครอบครวั ขยาย มสี มาชกิ หลายลำดับชนั้ ในอดตี ครอบครัวของสงั คมไทยจะมีลักษณะเปน็ ครอบครวั และไม่เปน็ ทางการ ซ่งึ การศกึ ษาทไี่ ม่เป็นทางการน้ีถอื วา่ มคี วามสำคัญอย่าง ขยาย คนในครอบครวั มีความใกลช้ ดิ ผูกพันกนั ของบุคคลหลายรนุ่ ซึ่ง มาก ปัจจุบนั เราจะพบครอบครวั ใหญใ่ นชนบทมากกว่าในสังคมเมอื ง สถาบนั การศึกษามีบทบาทสำคัญ คอื สง่ เสริมให้สมาชกิ ในสังคมเกิด ความเจรญิ งอกงามในด้านต่างๆ และนำความรู้ท่ไี ดร้ ับจากสถาบนั การศกึ ษา นน้ั ไปประกอบอาชพี และพฒั นาอาชีพ เพอื่ สนองความตอ้ งการของสงั คม ต่อไปได้ สง่ เสริมใหบ้ ุคคลเป็นคนดี มศี ลี ธรรม มคี า่ นิยมทีด่ งี าม ร้จู กั ระเบยี บ แบบแผนของสังคม ประพฤติและปฏบิ ตั ิตนเหมาะสม ร้จู กั สทิ ธิหน้าที่ทต่ี นพงึ ปฏบิ ตั ติ อ่ สังคมและประเทศชาติ รวมทง้ั สง่ เสรมิ ให้เกดิ ความเจรญิ กา้ วหน้า ดา้ นต่างๆ แกส่ งั คม

บทบาทของสถาบนั ทางสงั คม (ตอ่ ) 5 6 4.สถาบนั เศรษฐกจิ 3.สถาบนั ศาสนา สถาบนั ศาสนา เปน็ แบบแผนการคดิ การ สถาบันเศรษฐกิจเปน็ แบบแผนการคดิ การกระทำทเี่ กี่ยวกบั เร่ืองของการ ผลิตสินค้าและบรกิ ารการแลกเปลย่ี นจำหนา่ ย แจกจา่ ยสินคา้ และการ กระทำทกี่ ำหนดแนวทางการปฏิบตั ขิ องสมาชิก ใหบ้ ริการตา่ งๆ การแลกเปลีย่ นสินคา้ และบรกิ ารรวมท้งั การบริโภคของ ในสังคม สถาบันศาสนามีรปู แบบทส่ี ำคัญ ไดแ้ ก่ สมาชิกที่อาศยั อยู่ร่วมกันในสงั คม สถาบนั ทางเศรษฐกิจยงั รวมถงึ กฎเกณฑ์ หลกั คำสอน พิธีกรรม สญั ลกั ษณ์แหง่ ศาสนา สิง่ ขอ้ บังคบั ที่ลกู จา้ ง นายจ้าง เจา้ ของโรงงาน ธนาคาร และผ้ผู ลติ สนิ ค้าและ สักการบูชา หลกั ความเชื่อหรือหลกั ธรรม บรกิ ารจะต้องปฏิบัติตาม แมแ้ ต่ผูป้ ระกอบการอสิ ระ และเกษตรกรกจ็ ะตอ้ ง นกั บวช และศาสนกิ ชน ปฏบิ ัตติ ามกฎเกณฑข์ องการประกอบอาชพี ทด่ี ี การนบั ถือศาสนาจะเกี่ยวพนั กบั การดำเนิน ตลอดจนสถาบนั ทางเศรษฐกจิ ถือเป็นองคป์ ระกอบท่ีสำคญั ในการสรา้ ง ชีวติ ของคนในสงั คมอยา่ งใกล้ชิด โดยเฉพาะใน รากฐานทางการเมืองใหม้ ีความแขง็ แกรง่ อีกด้วย สถาบนั เศรษฐกจิ มีบทบาท โอกาสสำคัญตา่ งๆของชีวิต ท่ีสำคัญ คอื สรา้ งแบบแผนที่เกีย่ วกบั การดำเนนิ กิจกรรมทางเศรษฐกจิ ใน ดา้ นตา่ งๆ ไม่วา่ จะเปน็ การใช้ทรพั ยากรอยา่ งเหมาะสม เพียงพอตอ่ การ สถาบนั ศาสนามบี ทบาทที่สำคัญ คือ เป็นศูนย์รวมความศรทั ธา ดำเนินชีวติ การนำทรพั ยากรมาผลิตสินค้าและบริการอยา่ งคมุ้ คา่ การบรหิ าร กำหนดมาตรฐานความประพฤตขิ องสมาชิกในสังคมนอกเหนอื จากการ จัดการปจั จยั การผลิตอยา่ งสมดุล ควบคมุ โดยกฎหมาย ควบคุมดว้ ยหลักธรรมคำสอนเปน็ แนวทาง ชว่ ยให้ สมาชิกมีความสงบสุขในจิตใจ ไม่คดิ ฟงุ้ ซา่ น มคี วามม่นั คงทางอารมณ์ สามารถแก้ปัญหา และตัดสินใจได้อยา่ งถกู ตอ้ ง ฝึกใหส้ มาชิกทกุ คนมี ระเบยี บวนิ ยั สามารถจัดระเบยี บชวี ติ ของตนได้ ตลอดจนช่วยปลกู ฝังค่านยิ ม ทด่ี ีงามแก่สมาชิกในสังคม

บทบาทของสถาบนั ทางสงั คม (ตอ่ ) 7 8 5.สถาบนั การเมืองการปกครอง 4.สถาบนั เศรษฐกจิ (ต่อ) สถาบนั การเมืองการปกครอง เปน็ แบบแผนการคดิ การกระทำ ที่ กำหนดระบบอำนาจ ในการจดั ระเบียบภายในสังคม และอำนาจในการ สถาบันทางเศรษฐกจิ ยังสร้างแบบแผน และกฎเกณฑ์ในการผลติ ปอ้ งกันความม่ันคงจากสังคม หรอื ศตั รภู ายนอกดังน้ัน สถาบันการเมอื งการ สินค้าให้ได้มาตรฐาน กำหนดกลไกราคาท่ีเหมาะสม กระจายสนิ ค้าและ ปกครอง จงึ เปน็ สถาบันที่ทำหนา้ ท่ี ควบคุมสงั คมให้สมาชิกในสงั คมสามารถ บรกิ ารแก่สังคม ผลติ เครอ่ื งอุปโภค บรโิ ภค และเทคโนโลยี เพ่ือนำไป อยู่รว่ มกันไดอ้ ย่างสันตสิ ุข แลกเปลยี่ นกับของชนิดอนื่ ๆที่ไม่ได้ผลิตขึน้ มาเอง ซึง่ กระบวนการ แลกเปลี่ยนเปน็ หัวใจสำคัญของความสัมพันธ์ของคนในสังคม ดว้ ยการใช้ สถาบันการเมอื งการปกครอง ในแตล่ ะสงั คม จะแตกต่างกันไปขึน้ อยู่กับ สนิ ค้าและบรกิ าร เปน็ สือ่ กลางของความสมั พันธร์ ะหว่างกนั โดยเฉพาะใน ปรัชญาความเชือ่ พ้ืนฐานของสมาชกิ ในสังคม วา่ ตอ้ งการจะใหส้ ังคมของตนมี สงั คมปจั จบุ นั กลไกของการแลกเปล่ียนมคี วามสะดวก และรวดเร็วโดยใช้ การปกครอง ตามระบอบประชาธปิ ไตย หรือระบอบเผด็จการ เมือ่ ได้เลือก สื่อกลางคอื เงินตราในการแลกเปล่ยี น ระบอบการปกครองแลว้ ก็ต้องจดั การบรหิ ารการปกครองให้เป็นไปตาม ปรชั ญาการเมืองแบบนน้ั ๆ หรืออาจมกี ารปรับเปลยี่ นใหม่ ซ่ึงถา้ หากใช้แล้ว นอกจากน้ี สถาบันทางเศรษฐกิจ เกิดปญั หา หรอื มกี ารพฒั นาลา่ ช้าไม่เป็นไปตามทสี่ ังคมต้งั เปา้ หมายไว้ ยงั เปน็ ตวั บง่ ชฐ้ี านะทางเศรษฐกิจ ของสมาชิกในสงั คม ถ้าสมาชิกใน สังคมมฐี านะทางเศรษฐกิจดี กจ็ ะมี ความเป็นอยทู่ ด่ี ี สามารถพฒั นาสงั คม ไดอ้ ย่างรวดเรว็ กว่าสังคมท่สี มาชิกมี ฐานะทางเศรษฐกิจไมด่ ี ดงั น้นั จงึ ถอื ไดว้ า่ สถาบนั เศรษฐกจิ มีความสำคญั ต่อสงั คมมนุษย์ และเปน็ สถาบันท่ี มนุษยจ์ ะขาดเสียไม่ได้

บทบาทของสถาบนั ทางสงั คม (ตอ่ ) 9 10 6.สถาบนั นนั ทนาการ 5.สถาบนั การเมืองการปกครอง (ต่อ) สถาบันนันทนาการ เปน็ แบบแผนการคิด การกระทำทเี่ ก่ียวขอ้ งกบั การ พักผอ่ นหย่อนใจของสมาชกิ ในสงั คม สถาบนั นนั ทนาการ ทำใหเ้ กิดการ สถาบันการเมอื งการปกครอง มบี ทบาททีส่ ำคญั คือ การสร้างความ สรา้ งสรรค์ผลงานการแสดง กฬี า การละเลน่ ดนตรี มั่นคงให้แกส่ งั คม รกั ษาความปลอดภยั แก่ประเทศชาติ และใหบ้ ริการ สาธารณะต่างๆ คำว่า “นันทนาการ” หมายถงึ กจิ กรรมท่ีบคุ คลสมคั รใจเขา้ ร่วมกระทำ เพือ่ ใชเ้ วลาว่างใหเ้ ปน็ ประโยชน์ และเมื่อกระทำแลว้ เกิดความสขุ กาย สบาย กลมุ่ บุคคลสำคัญของสถาบันน้ี ไดแ้ ก่ กลุม่ บุคคลท่ีทำหนา้ ที่ ฝา่ ย ใจ สนกุ สนาน มคี วามสุขและความสามคั คี บรหิ าร ฝ่ายนติ บิ ญั ญตั ิ และฝา่ ยตลุ าการ ดงั ตัวอยา่ งเชน่ ในระบบการ ปกครองแบบประชาธปิ ไตยของประเทศไทย หวั หนา้ ของฝา่ ยบรหิ าร คอื สถาบนั นันทนาการ มีบทบาท นายกรฐั มนตรี จะมบี ทบาทในการกำกบั ดูแลคณะรัฐมนตรีใหบ้ ริหาร ท่ีสำคญั คือ การทำใหค้ นในสงั คม ราชการแผ่นดนิ ใหเ้ ปน็ ไปดว้ ยความเรียบร้อย ตรงตามนโยบายที่รฐั บาล ใชเ้ วลาว่างใหเ้ ป็นประโยชน์ ประกาศไว้ หัวหน้าของฝา่ ยนิติบญั ญตั ิ คือประธานรัฐสภา มหี น้าที่เป็น ในทางสรา้ งสรรค์ ผอ่ นคลายความ ประธานในการประชมุ รฐั สภา และพจิ ารณากฎหมายตามข้ันตอน เพื่อ ตงึ เครียด เพ่ิมพูนสขุ ภาพทด่ี ี ออกมาบงั คบั ใชแ้ กป่ ระชาชนทกุ คน หวั หนา้ ของฝ่ายตลุ าการ คือประธาน ตลอดจนสนองต่อความตอ้ งการทาง ศาลฎกี า มีหนา้ ทบ่ี ริหารจดั การ ตคี วามไปอย่างรวดเรว็ และบรสิ ทุ ธิ์ สงั คมในรปู แบบความบันเทงิ ต่างๆ ยุตธิ รรม เปน็ ต้น โดยผลทตี่ ามมานอกจากความผ่อน คลาย ความเพลดิ เพลินใจแกค่ น ในสังคมแล้ว ยังทำใหเ้ กดิ การ แสดงในรูปแบบต่างๆตามมาด้วย เชน่ ภาพยนตร์ การแสดงดนตรี เปน็ ต้น ซึ่งการแสดงต่างๆเหล่าน้มี ี ความสำคัญต่อสงั คมปจั จุบนั ทีม่ แี ต่ ความตึงเครยี ดเปน็ อย่างมาก

บทบาทของสถาบนั ทางสงั คม (ตอ่ ) 11 12 ความสมั พนั ธข์ องสถาบนั ทางสงั คม 7. สถาบนั สอื่ สารมวลชน สถาบันทางสงั คมเป็นองค์ประกอบหนงึ่ ของโครงสรา้ งสังคม และแต่ละ สถาบัน จะไม่แยกตัวออกจากกนั อยา่ งโดดเดีย่ ว แต่จะเกย่ี วโยงผูกพันกนั กบั สถาบนั ส่ือสารมวลชน เปน็ แบบแผนการคดิ การกระทำในเร่อื งของ สถาบนั อน่ื ๆ ดังน้ันการศกึ ษาสถาบนั ทางสังคม จงึ ต้องศกึ ษาแบบองค์รวม การตดิ ต่อ หรอื สง่ ข่าวสารข้อมลู ประสบการณ์ บทบาทของสังคมในดา้ น หรอื ศึกษาสังคมทงั้ สังคม โดยไมแ่ ยกศึกษาสงั คมออกเปน็ สว่ นๆ หรือเปน็ ตา่ งๆไปสู่ประชาชน รวมท้ังใหค้ วามรู้ และความเพลิดเพลนิ แก่บุคคลใน สถาบันๆ โดยมองวา่ ทกุ สถาบนั มคี วามสัมพนั ธโ์ ยงใยตอ่ กนั ไดเ้ ปน็ สงั คม ความสมั พนั ธ์ทางตรงและความสัมพันธท์ างออ้ ม ดงั นี้ คำว่า 1. ความสมั พันธ์ทางตรง เปน็ “สือ่ สารมวลชน” ความสมั พนั ธท์ ่มี ีลกั ษณะเกีย่ วขอ้ ง หมายถงึ กระบวน กันโดยตรง มีการพบปะพูดคุยกัน การสง่ ขา่ วสาร มีการปฏิสัมพนั ธ์กนั บอ่ ยครงั้ ความรู้สึกนกึ คดิ ไป ยังคนจำนวนมาก 2. ความสมั พนั ธท์ างออ้ ม เปน็ ตรงกับคำใน ความสัมพนั ธ์ทีไ่ มไ่ ดเ้ กย่ี วข้องกัน ภาษาองั กฤษท่วี า่ โดยตรง โดยปกตคิ นเราตอ้ ง Mass เก่ียวพันกับคนในสังคมอน่ื ท่ตี ั้งอยู่ Communication ห่างออกไป ในขณะทสี่ ังคมเมอื ง ใหญ่ทค่ี นท้งั สังคมเกย่ี วขอ้ งกนั บทบาททส่ี ำคญั ของสถาบันสอ่ื สารมวลชน คอื การส่งข่าวสาร ส่ือสาร อยา่ งจำกดั แตค่ วามสมั พนั ธ์ ความคดิ เห็น และความตอ้ งการของประชาชนออกไปสู่สาธารณชน เพอื่ ให้ ทางอ้อมก็เกดิ ขึน้ ได้เช่นกนั รบั รขู้ ่าวสาร ทนั กบั ความเปล่ียนแปลงของสงั คม ถ่ายทอดวฒั นธรรม ให้ ตวั อย่างเช่น การเป็นคนไทย การ ความบันเทิง ช่วยพฒั นาคุณภาพชีวิตแกผ่ รู้ ับสาร ตลอดจนใหค้ วามรแู้ ก่ นับถือศาสนาเดียวกนั แมไ้ ม่เคย ประชาชนในรปู แบบตา่ งๆ เชน่ หนงั สือพมิ พ์ สอ่ื อเิ ล็กทรอนิกส์ เป็นต้น รจู้ กั กนั กับคนอ่นื ๆในสังคม เปน็ ตน้

13 14 วธิ ีทำแบบทดสอบ นักเรียนศึกษาเนอ้ื หาจนครบแลว้ นะคะ 1) ให้นกั เรียนทำแบบทดสอบลงบน ถา้ อย่างนน้ั เราลองมาทบทวนเน้ือหา กระดาษ หรอื สมุด โดยไมต่ ้องเขียนโจทย์ โดยการทำแบบทดสอบกนั เถอะ 2) ทำให้ครบท้งั 6 ขอ้ แลว้ จงึ กดดเู ฉลย หนทู ำได้ แน่นอนคะ่ คณุ ครู ครัง้ เดยี ว คริ คริ 3) นักเรียนสามารถย้อนดเู น้อื หาทศ่ี กึ ษา ผ่านมาแลว้ ได้ หรือ อยากทดสอบตนเอง โดยการไมด่ เู นอื้ หาก็ได้ 4) แบบทดสอบ คะแนนเต็ม 6 คะแนน

แบบทดสอบ 15 16 1. ครอบครัวของหนอ่ ย ประกอบดว้ ยสมาชกิ จำนวน 5 2. ข้อใดไม่ใช่ องคป์ ระกอบของสถาบันเศรษฐกจิ คน คือ พ่อ แม่ พี่ชาย หน่อย และนอ้ งสาว ดงั นนั้ ครอบครวั ของหน่อยเป็นครอบครวั ลกั ษณะใด ก.การผลิต ข.การลงทนุ ก.ครอบครวั เดี่ยว ค.การบรกิ าร ง.การบริโภค ข.ครอบครวั ขยาย ค.ครอบครวั เชิงซ้อน ง.ครอบครวั กลมุ่ ย่อย

แบบทดสอบ(ตอ่ ) 17 18 3. กลุม่ ของสถาบนั การเมอื งการปกครองในขอ้ ใดมี 4.การกระทำของผใู้ ดเกยี่ วข้องกบั สถาบนั นนั ทนาการ บทบาทท่ีสัมพันธ์กนั โดยตรง ก.รัฐสภา-ตดั สนิ คดี ก.แวว เข้าร่วมกจิ กรรมเลือกประธาน นกั เรยี น ข.ศาล-ออกกฎหมาย ข.ต้อย เขา้ ชมการแสดงละครเวทีที่โรง ค.คณะรัฐมนตร-ี บรหิ ารราชการแผน่ ดิน ละครแหง่ ชาติ ง.พรรคการเมอื ง-พจิ ารณางบประมาณ แผ่นดิน ค.ก้อย อ่านข่าวเศรษฐกจิ ในหนังสือพมิ พ์ ทกุ เช้าก่อนทำงาน ง.ออ้ ม หาเวลาวา่ งไปทำบุญและปฏบิ ตั ิ ธรรมทีว่ ดั

แบบทดสอบ(ตอ่ ) 19 20 5. ข้อใดต่อไปนี้กลา่ วถูกตอ้ ง 6. ความสมั พนั ธข์ องสถาบันทางสงั คมทางตรงมีลักษณะ สอดคลอ้ งกับข้อใด ก.สถาบนั ทางสงั คมต้องอย่อู ย่างโดดเดีย่ ว ก.โรงเรียนจดั ให้นักเรียนไปเข้าคา่ ย ข.สถาบันทางสังคมควรแยกออกจากกนั คุณธรรมทีว่ ดั แห่งหนึง่ อย่างส้ินเชิง ค.สถาบันทางสงั คมย่อมมีความเช่อื มโยง ข.โพลสำรวจพบวา่ คนสว่ นใหญ่นยิ มรับชม สัมพนั ธก์ ัน ขา่ วบันเทิงมากทส่ี ดุ ง.สถาบนั ทางสงั คมมคี วามสมั พนั ธก์ นั ทางออ้ มเทา่ นนั้ ค.ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศอนิ เดีย นับถอื ศาสนาพราหมณ-์ ฮินดู ง.ครอบครัวในเมอื งมลี ักษณะเปน็ ครอบครัวเดย่ี วมากกวา่ ครอบครวั ขยาย

เฉลยแบบทดสอบ 21 22 1. ครอบครวั ของหน่อย ประกอบดว้ ยสมาชิกจำนวน 5 2. ขอ้ ใดไม่ใช่ องคป์ ระกอบของสถาบนั เศรษฐกิจ คน คือ พอ่ แม่ พีช่ าย หนอ่ ย และน้องสาว ดังน้ัน ครอบครัวของหน่อยเป็นครอบครัวลกั ษณะใด ข.การลงทุน ก.ครอบครัวเดี่ยว เนอ่ื งจาก สถาบนั เศรษฐกิจเป็นสถาบันทเ่ี กีย่ วขอ้ งกบั กระบวนการผลติ การบริโภค และการให้บริการ เพราะ ครอบครัวเดีย่ ว เปน็ ครอบครวั ท่ปี ระกอบด้วย เพอื่ ให้สมาชกิ ในสังคมดำรงชพี อยไู่ ด้ โดยสถาบนั พอ่ แม่ ลกู เทา่ นน้ั ซ่งึ จะแตกต่างจากครอบครวั ขยาย ที่ เศรษฐกิจมีหน้าที่สำคญั ดงั น้ี จะมีสมาชกิ ท่เี ป็นญาตใิ นลำดับอน่ื ๆ ร่วมอาศัยอย่ดู ้วย -กระจายสนิ ค้าและบริการไปส่สู มาชิกในสังคม เชน่ ปู่ ยา่ ตา ยาย เปน็ ตน้ -สร้างอาชีพและรายได้ให้กับสมาชกิ ในสงั คม -ผลติ สินคา้ และบรกิ ารทัง้ เครื่องอุปโภคและบรโิ ภคตา่ งๆ -สร้างมาตรฐานการครองชพี และพฒั นาเศรษฐกจิ ให้ เจรญิ กา้ วหนา้

เฉลแยบแบบทบดทสดอสบอ(บต(อ่ ต)อ่ ) 23 24 3. กล่มุ ของสถาบนั การเมืองการปกครองในข้อใดมี 4.การกระทำของผใู้ ดเกย่ี วขอ้ งกบั สถาบันนันทนาการ บทบาททส่ี ัมพันธ์กนั โดยตรง ค.คณะรัฐมนตร-ี บรหิ ารราชการแผน่ ดิน ข.ตอ้ ย เข้าชมการแสดงละครเวทีทโ่ี รง ละครแห่งชาติ เพราะ ประเทศไทยปกครองดว้ ยระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษตั รยิ ์เปน็ ประมุข มีอำนาจอธปิ ไตยเปน็ เพราะ การแสดงละครเวทีช่วยสรา้ งความบนั เทงิ ใหแ้ กผ่ ู้ อำนาจสงู สุดในการปกครองประเทศ โดยแบง่ ออกเป็น รบั ชม ซงึ่ เปน็ หน้าทส่ี ำคญั ของสถาบนั นันทนาการ 3 ฝา่ ย ได้แก่ และยงั ช่วยสง่ เสรมิ ใหค้ นทำกจิ กรรมในยามว่างท่ีเปน็ ฝ่ายนิติบัญญตั ิ คอื รัฐสภา ประโยชน์รูปแบบหน่ึง ฝ่ายบรหิ าร คือ คณะรัฐมนตรี และฝา่ ยตุลาการ คือ ศาล

เฉลแยบแบบทบดทสดอสบอ(บต(อ่ ต)อ่ ) 25 26 5. ขอ้ ใดต่อไปนก้ี ลา่ วถกู ต้อง 6. ความสัมพันธข์ องสถาบันทางสังคมทางตรงมีลักษณะ สอดคล้องกบั ขอ้ ใด ค.สถาบันทางสงั คมยอ่ มมคี วามเชื่อมโยง สัมพันธ์กัน ก.โรงเรยี นจดั ใหน้ ักเรยี นไปเขา้ คา่ ย คณุ ธรรมทว่ี ัดแห่งหนึง่ ในแตล่ ะสถาบนั ทางสงั คมย่อมมีบทบาทหน้าท่แี ตกตา่ ง กันไป แต่ทกุ ๆสถาบนั ยอ่ มมคี วามสัมพนั ธ์กนั ทงั้ ทางตรง เพราะ โรงเรยี นไดม้ ีการวางแผนไว้อยา่ งชัดเจนว่าจะ และทางออ้ ม ความสมั พนั ธ์ของสถาบันทางสังคมน้จี ะชว่ ย จัดกิจกรรมเข้าคา่ ยคณุ ธรรม โดยโรงเรียนจะต้องมีการ ใหส้ งั คมมีการขับเคล่อื น มีการพัฒนาอนั นำไปสคู่ วาม ตดิ ตอ่ ประสานงานโดยตรงกับสถาบันศาสนาในเร่อื ง เจริญก้าวหนา้ สถานท่จี ัดกิจกรรม และยังต้องมีการติดต่อกบั สถาบัน ครอบครวั คือผู้ปกครองของนกั เรียน เรอื่ งแจ้ง กำหนดการเข้าคา่ ยใหร้ บั ทราบ สว่ นในข้ออืน่ ๆ เป็น ความสมั พนั ธ์ทางออ้ ม เพราะเป็นลกั ษณะที่ไมไ่ ด้เกดิ จากการวางแผนและไมไ่ ด้มีการติดตอ่ สื่อสารกนั โดยตรง

ผ้จู ดั ทำ ช่อื -สกลุ : นางกมลชนก อนุกลู อนนั ตช์ ยั ตำแหนง่ : ครู วทิ ยฐานะ : ครชู ำนาญการ โรงเรยี น : หนองโนประชาสรรค์ สังกัด : องค์การบรหิ ารสว่ นจงั หวดั ขอนแกน่ E-mail : [email protected]


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook