คู่มือการทาหัวสิงโต จิ๋วเพ่ือสรา้ งอาชีพ
ก คานา กองทนุ เพ่ือความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ) จดั ตั้งข้ึนตาม ข้อเสนอของคณะกรรมการอิสระเพ่อื การปฏิรูปการศึกษา โดยปรากฎใน รฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทย พ.ศ.2560 มาตรา 54 พ.ร.บ. กองทนุ เพ่ือความเสมอภาคทางการศึกษา พ.ศ.2561 ประกาศใชบ้ ังคับ เม่ือวนั ท่ี 14 พฤษภาคม 2561มีวตั ถุประสงค์เพ่อื สรา้ งความเสมอภาค ทางการศึกษา ชว่ ยเหลือผขู้ าดแคลน ทุนทรพั ย์ ลดความเหล่ือมลา้ ทางการศึกษา รวมทั้งเสรมิ สรา้ งและพฒั นาคุณภาพและประสิทธภิ าพครู โดยให้รฐั เปน็ ผูจ้ ดั สรรงบประมาณให้กองทุน และมีการบรหิ ารงานท่ีเปน็ อิสระ ในการจดั ทาโครงการการสรา้ งหัวสิงโตจวิ๋ เพ่ือสรา้ งอาชพี น้ี มีวัตถุประสงค์เพ่ือ 1. เพ่ือส่งเสรมิ สนับสนุนและให้ความชว่ ยเหลือผู้ขาด แคลนทุนทรพั ย์ และผูด้ ้อยโอกาสให้ได้รบั การศึกษาหรอื พัฒนา เพ่ือใหม้ ี ความรูค้ วามสามารถในการประกอบอาชพี ตามความถนัดและมศี ักยภาพ ท่ีจะพ่ึงพาตนเองในการดารงชวี ติ ได้ 2. เพ่ือใหค้ วามชว่ ยเหลือเยาวชนเล่นสิงโตท่ีขาดแคลนทุน ทรพั ยไ์ ด้รบั ความรูก้ ารพัฒนาทักษะใหม่ เพิ่มทักษะเดิม ใหส้ ามารถ ประดิษฐห์ ัวสิงโตจว๋ิ แบบโบราณจากวสั ดุเปน็ มิตรต่อสิ่งแวดล้อมเปน็ สินค้าชุมชน 3. เพ่ือส่งเสรมิ ให้เยาวชนเล่นสิงโตผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษา ในชุมชนฝ่ งั ธนบุรี ได้รบั การพัฒนาทักษะการประดิษฐห์ วั สิงโตจวิ๋ แบบ โบราณให้สามารถประกอบอาชพี ต่อยอดความรูต้ ามความถนัดและเกิด รายได้ 4. เพ่ือสนับสนุนให้ชุมชนฝ่ งั ธนบุรเี ปน็ ฐานการพัฒนาอาชพี ด้าน งานหตั ถศิลป์ และเปน็ แหล่งข้อมูลความรภู้ ูมิปญั ญาชุมชนใหก้ ับเยาวชน ท่ีด้อยโอกาสของคณะสิงโต 19 คณะ และผ้ดู ้อยโอกาส และขาดแคลน ทุนทรพั ย์ใหส้ ามารถพ่ึงพาตนเองในการดารงชวี ิตได้ โดยจดั ทาคู่มือการทาหวั สิงโตจวิ๋ เพ่ือเผยแพร่ ข้อมูลท่ีเก่ียวข้อง กับสิงโตฝ่ ังธนบุรี โดยจะประกอบด้วยเน้ือหา 2 ส่วนคือ ประวตั ิความ เปน็ มาของสิงโตฝ่ ังธนบุรแี ละขั้นตอนการทาหวั สิงโตจว๋ิ เพ่ือสรา้ งอาชพี เพ่ือเปน็ ประโยชน์ต่อนักเรยี น เยาวชน คณะสิงโต และผู้คนท่ีสนใจ คณะผ้ดู าเนินงาน
สารบญั ข เร่อื ง หน้า คานา ก ข สารบัญ 1 8 ประวตั ิความเปน็ มาของสิงโตฝ่ ังธนบุรี 14 19 อุปกรณ์ทาหัวสิงโตจวิ๋ ข้ันตอนการทาหวั สิงโตจว๋ิ ขอขอบคุณ
ประวตั ิความเปน็ มา ของสิงโตฝ่ ังธนบุรี
ประวตั ิความเปน็ มาของสิงโตฝ่ ังธนบุรี 2 ชาวจนี ท่ีอพยพเข้ามาในยา่ นฝ่ ังธนบุรี มีถึง 5 กลุ่ม ด้วยกัน ได้แก่ จนี แต้จวิ๋ (潮州) เปน็ กลุ่มชาวจนี ท่ีมาจากมณฑล ฝูเจ้ยี น (福建省) และมณฑลกวางต้งุ (廣東省) มักจะประกอบอาชพี การค้า และรบั ราชการ จนี แคะ (客家) เปน็ กลุ่มชาวจนี ท่ีมาจาก มณฑลกวางต้งุ (廣東省) ประกอบอาชพี เก่ียวกับหนังสัตว์ ทา เหมือง และเกษตรกรรม จนี ไหหลา (海南) เปน็ กลุ่มชาวจนี ท่ีมา จากเกาะไหหลา ประกอบอาชพี รา้ นอาหาร และอุตสาหกรรม จนี ฮกเก้ียน (福建) เปน็ กลุ่มชาวจนี ท่ีมาจากมณฑลฝเู จ้ยี น (福建 省) ประกอบอาชพี เก่ียวกับการค้าขายทางเรอื และชอบการรบั ราชการ และ จนี กวางต้งุ (廣東) เปน็ กลุ่มชาวจนี ท่อี พยพมาจาก มณฑลกวางสี ประกอบอาชพี เกษตรกรทาสวนยาง
3 พ้ืนท่ีบริบทฝ่ ังธนบุรีมีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนาน และเก่ียวพันกับชุมชนชาวจีนในพ้ืนท่ี อย่างต่อเน่ือง เช่ือมต่อภาพ ความคิดของผู้คนในแต่ละยุคด้วยเส้นแบ่งเวลา (Timeline) ท่ีเรา สามารถสืบค้นและนับเปน็ ช่วงอายุได้ แต่เร่อื งเล่าท่ีมาจากเค้าโครงจรงิ เป็นตานานเล่าขานมาจนถึงปัจจุบัน ยังคงอยู่หรอื สลายหายไปตาม กาลเวลา ความงดงามในวถิ ีชวี ิตรมิ น้าและการถ่ายทอดแบบมุขปาฐะใน ท้องถ่ิน การเล่าแบบปากต่อปากของผู้เฒ่าผู้แก่ในชุมชน สืบทอดมาสู่ กิจกรรมวัฒนธรรมประเพณีท่ียึดโยงกับชุมชน ปรากฏในรูปแบบงาน ศิลปะหัตถศิลป์ ศิลปะการแสดงและการละเล่นต่าง ๆ ล้วนแต่นับเป็น มรดกอันลา้ ค่าย่งิ ท่ีหาฟังไม่ได้จากในหนังสือและตารา แต่เดิมชาวจีนฝ่ ังธนบุรเี ข้ามาพานักตั้งถิ่นฐานแต่ครงั้ ปลาย สมัยอยุธยาจวบจนถึงสมัยธนบุรี มีความเช่ือความศรทั ธาสัมพันธ์กับ ธรรมชาติและปรากฏการณ์ ทางธรรมชาติ มีความเช่ือว่า เทพเจ้าส่ิง ศักด์ิสิทธิ์ ท่ีประจาอยู่ในธรรมชาติรอบล้อมเรามาตั้งแต่เกิดจนตาย ความเช่อื น้ี ถ่ายทอดสู่กิจกรรมวัฒนธรรมประเพณีต่าง ๆ แสดงการนับ ถือบูชาเทพเจา้ ได้แก่ พระอาทิตย์ พระจนั ทร์ สายน้า พ้ืนดิน และแผ่น ฟ้า
4 สิงโตเปน็ ศิลปะการ ละเล่นท่ีอยคู่ ู่กับชุมชนฝ่ ัง ธนบุรมี ายาวนานนับต้ังแต่ สมัยปลายกรุงศรอี ยธุ ยา เร่อื ยมา ปจั จบุ ันการเชดิ สิงโตขยายวงกวา้ งเปน็ อาชพี คนเล่นสิงโต ปรากฏ มีคณะสิงโตรบั งานการ แสดงมากมายหลายคณะ เปน็ ท่ียอมรบั ในฝีมือลีลา การเชดิ สิงโตท่ีโดดเด่น และยงั เปน็ ท่ีนิยมเล่นกัน อยา่ งแพรห่ ลายในยา่ น เศรษฐกิจดังทั้งฝ่ ังพระนคร และฝ่ ังธนบุรี ศิลปะการเล่นสิงโตเปน็ การแสดงถวายต่อส่ิงศักด์ิสิทธใ์ิ ห้ เกิดมงคลนาโชคลาภมาให้ และชว่ ยปกปอ้ งปดั เปา่ ภัยต่าง ๆ ไม่ใหม้ า เบยี ดเบยี น ผู้คนจงึ นิยมจดั ให้มีการแสดงเชดิ สิงโตข้นึ ในงานมงคล ต่าง ๆ ของชาวไทยเช้อื สายจนี ไม่วา่ จะเปน็ งานข้นึ บา้ นใหม่ เปิด โรงงานกิจการ แล้วให้มีขบวนแหส่ ิงโตและการเชดิ สิงโต มาอวยพร ใหเ้ ราเฮงๆ รวยๆ โชคดีตลอดปี สิงโตจงึ ถือวา่ มีบทบาทต่อวถิ ีชวี ติ ของชุมชนไทย-จนี ฝ่ ังธนบุรใี นอดีตถึงปจั จบุ นั ในรชั กาลสมเด็จพระ เจา้ ตากสินมหาราชมีชาวจนี ยา้ ยถ่ินฐานเขา้ มาทาการค้าขายใน แผ่นดินสยาม ได้นาเอาการเล่นสิงโตติดตัวมาด้วย ปรากฏมีการ แสดงหน้าพระท่ีน่ังใหส้ มเด็จพระเจา้ ตากสินมหาราชทอดพระเนตร เช่อื วา่ ผู้ใดได้ชมการเล่นสิงโตจะมีโชคลาภเจรญิ รุง่ เรอื งเปน็ สิริ มงคล นับแต่น้ันสิงโตจงึ ได้สืบทอดอยใู่ นชุมชนเกือบทุกชุมชนฝ่ ัง ธนบุรี มีจานวนคณะสิงโตประจาศาลเจา้ และชุมชน มากกวา่ 19 คณะ
5 การเล่นสิงโต เปน็ ศิลปะแขนงหน่ึงท่ีแฝงความแข็งแรงผสมความอ่อน พล้ิวและความยืดหยุน่ ของรา่ งกาย ด้วยลีลาการเชดิ สิงโตพ้ืนเน้นความแข็งแรง ขาและหัวเข่า การก้าว-เดิน การย่อ-ยืด การว่ิงและหยุดกะทันหัน ช่วงแขนและ ข้อมือต้องใช้กาลังอย่างมากในการเชิดหัวโตให้เคล่ือนไหวไปตามทิศทางท่ี กาหนด และรับน้าหนักหัวโตโดยประมาณ 7-8 กิโลกรัม การเชิดเป็นการ เลียนแบบอากัปกิรยิ าของสิงโตท่ีชอบซุกซนผสมผสานกับการเล่นกายกรรมจนี การเชดิ สิงโตแบ่งออกเปน็ 3 ลักษณะ 1.1) การเชดิ สิงโตพ้ืน เปน็ การเชดิ สิงโตในรูปแบบท่ีมีเร่อื งราวและเปน็ การอวยพรท่ีเรยี กว่า “ไฉ่ชิง” เป็นท่ีนิยมในการจัดแสดง โดยผู้แสดงจะเชิด สิงโตกินผักผลไม้ และคายออกมาเรยี งเปน็ คาอวยพร อักษรมงคล การเล่นไฉ่ ชงิ เช่อื วา่ เปน็ สัญลักษณ์แหง่ การเปล่ียนแปลง จากรา้ ยเปน็ ดี และเปล่ียนจากสิ่ง ท่ีดีให้ดียิ่งข้ึน ซ่งึ ผเู้ ชดิ จะต้องมีทักษะในการทาท่าทางต่างๆ เช่น ท่าก้มมอง รรี อ เดินวนรอบ ท่าดุดัน ท่างอตัว คุกเข่า ท่านอน ท่ากระโดด และการทรงตัวบน วัตถุ
6 .2) การเชดิ สิงโตต่อตัว เปน็ การ แสดงกายกรรมมีวิธแี สดงแบบ โบราณท่ีเรยี กวา่ “ซง่ิ จอื ไชชงิ ” กล่าวคือ เม่ือทาการแสดงเชดิ สิงโต แล้วผจู้ า้ งนาเอาซองรางวลั ไปแขวน ไว้บนยอดไม้สูง ผูแ้ สดงก็จะต้องต่อ ตัวกันข้ึนไปเพ่ือเอาซองรางวลั น้ัน ต่อมาการต่อตัวถูกปรบั ใชเ้ ปน็ รูปแบบการแสดงท่ีผสมผสานเข้า กับการเล่นกายกรรม โดยมี จดุ มุ่งหมายเพ่ือแสดงความสามารถ ในการทรงตัวและความแข็งแรงของ ผแู้ สดง โดยอาศัยความสูงเปน็ ข้อ บง่ ช้คี วามสามารถของคณะแสดง ซง่ึ จะเล่นแข่งกันแต่ละคณะมชี ่อื เรยี กการเล่นลักษณะน้ีวา่ “ดัมม่ี” 1.3) การเชดิ สิงโตบนเสาต่างระดับ หรอื ท่ีเรยี กว่า “เสาดอกเหมย” ซ่งึ เปน็ รูปแบบการเชดิ ท่ีมีมาในระยะหลังและเปน็ ท่ีนิยมมากในปจั จบุ นั ผแู้ สดงต้องมี กาลังขาท่ีแข็งแรงและมีสมาธแิ ม่นยาในการทรงตัว มีการใชเ้ ทคนิคพิเศษใน การเชดิ ท่ีอาศัยความชานาญในการฝกึ ซอ้ มอย่างหนักการเชดิ สิงโตบนเสา ต่างระดับน้ีได้รบั การพัฒนา รูปแบบการแสดงมาจากประเทศแถบเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้
7 ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซยี ถูกบรรจเุ ปน็ กีฬาประเภทหน่ึงในการแข่งขัน กีฬาเอเชียนอินดอรเ์ กมส์ ครง้ั ท่ี 2 ณ เมืองมาเก๊า ในประเทศไทยมีสมาคมวูซู แห่งประเทศไทยเปน็ สมาพันธผ์ ู้ดูแลกีฬาการแข่งขันประเภทการเชิดสิงโตและ จดั ส่งเข้าแข่งขัน สาหรบั องค์ความรูก้ ารทาหวั สิงโต ยังปรากฏอยใู่ นชุมชนมีปราชญ์ ท้องถิ่นอาวุโสเปน็ ผู้สืบทอด ศิลปะการทาหัวสิงโตโบราณท่ีมี ช่อื เสียงและเปน็ ยอมรบั ในแวดวง สิงโตฝ่ งั ธนบุรมี ีชายาว่า อาจารยโ์ จตลาดพลู (อาจารยว์ ิชยั รอดเกิด) อายุ 78 ปี สิงโตตาม ความเช่อื ชาวจนี ถือเปน็ สัตวว์ เิ ศษ ในจนิ ตนาการมีต้นกาเนิดมาจาก สัตว์ 3 ประเภท ได้แก่ แรด เพราะมีนอท่ีหน้าผากตรงตามนิทานพ้ืนบ้านของจีน ม้า เพราะมีลาตัวเปน็ ม้าท่ีมีเขาเดียวอยู่บนหัว ถือว่าเปน็ สัตว์มงคล ซ่งึ จะปรากฏตัว เม่ือมีซินแสเกิดหรอื มีนักปราชญ์ผู้ทรงธรรมข้ึนครองบัลลังก์ สุนัข จะเห็นว่า ท่าทางการเต้นของสิงโตน้ันเลียนแบบมาจากท่าทางสุนัขล่าเน้ือ และสุนัขพันธ์ ปักก่ิงและสุนัขพันธจ์ ู โดยสิงโตท่ีเล่นกันในทุกวันน้ี มีรากฐานจากชาวจนี โพ้น ทะเลท่ีอพยพออกมาจากประเทศจีน และยังคงรักษาวัฒนธรรมดั้งเดิมของ ตนเองไว้ รูปแบบและท่าทางของการเล่นสิงโตมีเคล็ดลับมาจากวิชา มวยจีน แฝงอยู่ด้วย คนสมัยก่อนจะใช้การเชิดสิงโตเปน็ อุบายในการสอนและถ่ายทอด วิชา โดยเฉพาะวิชามวยเท้า คณะสิงโตฝ่ ังธนบุรี มีมากมายหลายคณะ เช่น คณะ หลวงพ่อวัดโบสถ์บน คณะศิษย์เทวธรรม คณะศิษย์หลวงพ่อฑูรย์ คณะศิษย์ลูก ชัยมงคล คณะหลงเฉียนไทยแลนด์ คณะลูกธนบุรี คณะลูกพ่อพลายบางทรง ฤทธิ์ คณะลูกพ่อโอภาสี คณะลูกสวนย่ีสิบ คณะศิษย์หลวงพ่อมเหศวร คณะ ศิษย์หลวงพ่อวิเชียรมุนี คณะศิษย์หลวงพ่อแก้วคณะศิษย์เจ้าพ่อเจียวต๋ีเอ๊ียะ คณะศิษยล์ ูกเจา้ ฟ้าจฑุ ามณี คณะกังปักไทยแลนด์ คณะศิษย์จักรพรรดิดา คณะ ลูกเจ้าพ่อเขาตก คณะศิษย์เอกท้าวมหาพรหม คณะลูกพระนเรศวร คณะศิษย์ หลวงพ่อน้อย เปน็ ต้น
อุปกรณ์การทา หัวสิงโตจ๋ิว
อุปกรณ์การทาหัวสิงโตจิ๋ว 9 บล็อกปูน กระดาษหนังสือ กระดาษห่อของ ถ้วยสาหรบั แช่ กระดาษ พู่กันทากาว
10 สีโปสเตอร์ กาวลาเท็ก จานสี แก้วล้างพู่กัน ผา้ เชด็ พู่กัน
11 ลวดสาหรบั ดามขอบ ตาตุ๊กตา คีมตัดลวด ตะปูแปก็ ขนเทียม 25 mm.
12 ยนู ิเทน แก้วใส่ยูนิเทน กระดาษปะเก็น เชอื กผกู ปาก สเปรย์แล็กเกอร์
13 คัทเตอร์ กรรไกร สีอะครลิ ิก วาสลีน
ข้นั ตอนการทาหัว สิงโตจ๋ิว
ขน้ั ตอนการทาหัวสิงโตจิ๋ว 15 1. เตรยี มบล็อกปูนให้พรอ้ มสาหรบั การพอกหุ่น โดย นากระดาษ หนังสือพิมพ์ท่ีเตรยี มไว้ ฉีกให้เปน็ ชิ้นเล็กๆ จากน้ันนาไปแช่น้าในถ้วย เพ่ือใหก้ ระดาษเป่ ือย พรอ้ มสาหรบั นามาพอกบล็อกปูนต้นแบบหัวสิงโต นาวาสลีน( Vaseline) ทาบรเิ วณบล็อกปูนพาสเตอรต์ ้นแบบหัวสิงโตให้ ทั่ว เพ่ือสะดวกต่อการถอดบล็อกแม่พิมพ์ 2. นากาวลาเท็กผสมน้าเพ่ือให้กาวมีความเหลวเหมาะแก่การ ติดกระดาษและนากระดาษท่ีแช่น้าเตรยี มไว้มาแปะรอบหัวสิงโตให้ท่ัว โดยใชพ้ ู่กันจมุ่ กาวผสมน้า คอยทาลงบนกระดาษท่ีปะลงบนบล็อกปูนให้ ท่ัว ซ่งึ จะต้องทาไปทีละชนั้ เสรจ็ 1 ชนั้ รอจนกระดาษแห้งปฏิบัติซ้าจนครบ 10 ชนั้ และนาไปตากแดดเพ่ือไล่ความช้นื หรอื เพ่ือความสะดวกรวดเรว็ สามารถใชไ้ ดรเ์ ปา่ ผมชว่ ยเป่าใหแ้ หง้ ไวมากย่ิงข้ึน
16 3. หลักจากท่ีชน้ิ งานแห้งสนิทแล้วจงึ จะต้องแปะชน้ั สุดท้ายด้วย กระดาษหอ่ ของ เพ่ือให้พ้ืนผวิ เปน็ สีเดียวกันทั้งหมด และยังชว่ ยใหช้ นิ้ งานมี ความแข็งแรง หลักจากแปะกระดาษขั้นตอนสุดท้ายเสรจ็ เปน็ ท่ีเรยี บรอ้ ยแล้ว ใหน้ าชนิ้ งานไปตากแดดให้แหง้ เพ่ือปอ้ งกันการเกิดเช้อื รา 4. หลังจากชน้ิ งานแห้งสนิท ใหใ้ ชม้ ีดคัดเตอรผ์ ่าบรเิ วณก่ึงกลางของหวั สิงโต เพ่ือแกะตัวชนิ้ งานออกจากต้นแบบ ใชก้ ระดาษปะติดเพ่ือประสานชนิ้ งาน บรเิ วณรอยผา่ ให้เปน็ ชน้ิ เดียวกัน
17 5. จากนั้นนาลวดดัดให้ได้ตามรูป ซ่งึ จาต้องวัดตามขนาดของ ขอบชน้ิ งานใหพ้ อดี และนามาดามบรเิ วณขอบของชน้ิ งานหวั สิงโตให้เกิด ความแข็งแรง และเช่อื มรอยต่อระหว่างลวดด้วยกาว และใชก้ ระดาษติด ทับเพ่ือปิดรอยประสานใหเ้ รยี บรอ้ ย รอจนกว่าชนิ้ งานแห้งสนิท 6. ทาสีขาวอคลิลิครองพ้ืนให้ทั่วชน้ิ งาน เพ่ือปกปดิ รอ่ งรอยและ ปรบั สีของชน้ิ งานใหเ้ สมอกัน หลังจากนั้นวาดลวดลายตามความต้องการ โดยรา่ งด้วยดินสอ และ แบ่งสัดส่วนให้เกิดความสมดุลกัน นาสี โปสเตอรว์ าดลวดลายตามชนิ้ งานให้เกิดความสวยงาม 7. เม่ือวาดเสรจ็ แล้วเคลือบโดยใช้ สเปรย์เคลียร์ พ่นเพ่ือเคลือบเงาในชน้ั แรก เพ่ือล็อคสีใหค้ งทน ขั้นตอนต่อมานาชนิ้ งาน เคลือบเงาด้วยการทายรู เิ ทนเพ่ือใหช้ นิ้ งานมี ความเงางามและคงทน หลังจากลงยูนิเทนจน ทั่วชนิ้ งานแล้วใหน้ าไปตากแดดใหแ้ หง้ สนิท
18 8.ขั้นตอนการสรา้ งหสู ิงโดและปากสิงโต โดยจะนากระดาษปะเก็น ตัดเป็นรูปปากของสิงโต และหูของสิงโต จานวน 2 ข้าง จากนั้นวาด ลวดลายและลงสีใหส้ วยงาม และนาไปเคลือบเชน่ เดียวกับหวั สิงโต จากนั้น นาไปติดลงบนหัวสิงโต ใหเ้ รยี บรอ้ ย 9. ข้ันตอนการตกแต่งด้วยขนและอุปกรณ์ตกแต่ง โดยนาลูกปอมๆ ลูกตาพาสติก ขนเทียม หมุดติดหน้าผาก ท่ีเตรียมไว้สาหรับติดท่ีตาม ตาแหน่งส่วนต่างๆของหัวสิงโตบรเิ วณเช่น บริเวณปาก ตา หู จมูก แก้ม หน้าผาก เขานาปากมาผูกเข้ากับหัวสิงโต เปน็ อันเสรจ็ สิ้นข้ันตอนการทาหัว สิงโตจว๋ิ
19 ขอขอบคุณ - กองทุนเพ่ือความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) - มหาวทิ ยาลัยราชภัฏบา้ นสมเด็จเจา้ พระยา - สถาบนั วจิ ยั และพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏบา้ นสมเด็จเจา้ พระยา - คณะมนุษยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏบ้าน สมเด็จเจา้ พระยา - วทิ ยาลัยการดนตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏบา้ นสมเด็จเจา้ พระยา - คณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจา้ พระยา - โรงเรยี นวดั เศวตรฉัตร กรุงเทพฯ - สานักงานเขตธนบุรี - สานักงานเขตคลองสาน - สภาวฒั นธรรมเขตธนบุรี - ชุมชนสวนสมเด็จย่า - ชุมชนวดั เศวตรฉัตร - สาขาวชิ านาฏยศิลปศ์ ึกษา มหาวทิ ยาลัยราชภัฏบา้ นสมเด็จ เจา้ พระยา -คณะสิงโตหลงเฉียนไทยแลนด์ -สมาคมเผนแพรค่ ุณธรรมเต็กก่า จจี นิ เกาะ (เขตคลองสาน) -สมาคมเพ่ือการศึกษาศาลเจา้ พ่อพระเพลิง
สนับสนุนทุนโดย กองทนุ เพ่อื ความเสมอภาคทางการศึกษา จดั ทาโดย คณะผ้วู จิ ยั มหาวทิ ยาลัยราชภัฏบา้ นสมเด็จเจา้ พระยา
Search
Read the Text Version
- 1 - 24
Pages: