Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore พระราชประวัติและพระราชกรณียกิจพระพันปีหลวง

พระราชประวัติและพระราชกรณียกิจพระพันปีหลวง

Published by anustara_o, 2022-08-08 04:00:55

Description: พระราชประวัติและพระราชกรณียกิจพระพันปีหลวง

Search

Read the Text Version

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเป็นสมเด็จพระบรมราชินีนาถในรัชกาลท่ี ๙ พระนามเดิม หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร เป็นพระธิดาองค์ใหญ่ของหม่อมเจ้านักขัตรมงคล (ภายหลังได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนา ข้ึนเป็นพลเอกพระวรวงศ์เธอ กรมหม่ืนจันทบุรี สุรนาถ) กับ หม่อมหลวงบัว กิติยากร เสด็จพระราชสมภพ เม่ือ วันศุกร์ ท่ี ๑๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๕ ณ บ้านของพลเอกเจ้าพระยาวงศานุประพัทธ์ (ม.ร.ว.สท้าน สนิทวงศ์) และท้าววนิดาพิจาริณี บิดาและมารดาของหม่อมหลวงบัว กิติยากร ตั้งอยู่ที่ ๑๘๐๘ ถนนพระรามที่ ๖ อาเภอปทุมวัน จ.พระนคร ได้รับพระราชทานนามจาก พระบาทสมเดจ็ พระปกเกลา้ เจ้าอยู่หวั ว่า \"สริ ิกติ ิ์\" มีความหมายวา่ \"ผเู้ ปน็ ศรแี ห่งกติ ิยากร\" สมเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ติ ิ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงมีพระภาดา (พชี่ าย) ๒ องค์ คือ หม่อมราชวงศ์ กัลยาณกิติ์ กิติยากร (ชาตะ พ.ศ. ๒๔๗๒) หม่อมราชวงศ์ อดุลยกิติ์ กิติยากร (ชาตะ พ.ศ. ๒๔๗๓) และพระขนิษฐภคนิ ี (นอ้ งสาว) ๑ องค์ คือหม่อมราชวงศ์หญิง บุษบา กิติยากร (ชาตะ พ.ศ. ๒๔๗๗) ในระหวา่ งยงั ทรงพระเยาว์ สถานการณบ์ ้านเมืองไม่สู้สงบนัก เน่ืองจากเพิ่งพ้น จากช่วงการเปลี่ยนแปลงการปกครองไม่นาน เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๖ ขณะท่ีหม่อมราชวงศ์หญิงสิริกิต์ิ มีอายุเพียง ๑ ขวบ ก็ต้องอยู่ไกลจากพระบิดามารดาโดยได้ตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ไปประทับอยู่ท่ีจังหวัดสงขลา เม่ือหม่อมเจ้านักขัตรมงคลทรงลาออกจากราชการและกลับมาจาก วอชิงตัน ดี.ซี. ในปี พ.ศ. ๒๓๗๗ หม่อมราชวงศ์สิริกิต์ิ ซึ่งขณะน้ันอายุได้ ๒ ปี ๖ เดือน จงึ ไดก้ ลับมาอยรู่ วมพร้อมหนา้ กันทง้ั ครอบครวั

พ.ศ. 2479 เม่ือหมอ่ มราชวงศส์ ริ กิ ิติ์มีอายุได้ 4 ปี ก็ได้เข้ารับการศึกษาคร้ังแรกในชั้นอนุบาล ที่โรงเรียนราชินี ทว่าในขณะนั้น แม้เหตุการณ์ด้านการเมืองภายในสยามจะสงบลง แต่สถานการณ์ ระหวา่ งประเทศกไ็ ม่สงบ กล่าวคือสงครามแปซฟิ ิกเรม่ิ แผข่ ยายมาถงึ สยาม จังหวัดพระนครถูกโจมตี ทางอากาศหลายครั้งจนการคมนาคมไม่สะดวก บิดาจึงให้หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ย้ายไปเรียน ทโ่ี รงเรยี นเซนต์ฟรังซีสซาเวียร์คอนแวนต์ เพราะอยู่ใกล้วังบิดา ได้เรียนท่ีน่ันตั้งแต่ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 2 จนถึงช้ันมัธยมศึกษา หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ได้เร่ิมเรียนเปียโน ซึ่งเรียนได้ดีและเร็วเป็นพิเศษ นอกจากน้ยี ังไดศ้ กึ ษาภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศสซ่ึงทรงสนั ทดั เชน่ กัน พ.ศ. 2489 ครั้นเมื่อสงครามโลกคร้ังที่สองสงบลง หม่อมเจ้านักขัตรมงคลต้องเสด็จ ไปดารงตาแหน่งอัครราชทูตผู้มีอานาจเต็มประจาสานักเซนต์เจมส์ ประเทศอังกฤษ ทั้งน้ีได้ทรง พาครอบครัวทั้งหมดไปอยู่ด้วย ในเวลานั้นหม่อมราชวงศ์สิริกิต์ิ มีอายุได้ 13 ปีเศษ และเรียนจบ ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 แลว้ ขณะที่อยู่ในประเทศอังกฤษ หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ได้ศึกษาต่อทั้งวิชาภาษาอังกฤษและ ฝร่ังเศส และวิชาเปียโนกับครูพิเศษ หลังจากน้ันไม่นาน บิดาย้ายไปประเทศเดนมาร์กและฝรั่งเศส ตามลาดับ ขณะทหี่ มอ่ มราชวงศส์ ริ กิ ติ ิก์ ย็ ังคงเรยี นเปยี โนและตงั้ ใจจะศึกษาต่อในวิทยาลัยการดนตรี ท่มี ีชอื่ เสียงของกรงุ ปารีสจนจบ ร ะ ห ว่ า ง ที่ อ ยู่ ใ น ป ร ะ เ ท ศ ฝ ร่ั ง เ ศ ส ห ม่ อ ม ร า ช ว ง ศ์ สิ ริ กิ ต์ิ ไ ด้ มี โ อ ก า ส รั บ เ ส ด็ จ พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เม่ือคร้ังดารงพระอิสริยยศ สมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ ัวภมู ิพลอดุลยเดช (ขณะนัน้ ทรงศึกษาต่อที่ประเทศสวิตเซอร์แลนดห์ ลงั จากเสด็จ ขึ้นครองราชย์) ซึ่งพระองค์เสด็จประพาสกรุงปารีสเพ่ือทอดพระเนตรโรงงานทารถยนต์ ทั้งน้ีเนื่องจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช โปรดการดนตรีเป็นพิเศษ ขณะที่หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กส็ นใจศลิ ปะเชน่ กัน ทาใหเ้ กิดความสมั พนั ธข์ ึน้

วันท่ี 3 ตุลาคม พ.ศ. 2491 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงประสบอุบัติเหตุ ทางรถยนต์ ณ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ทรงเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งโดยมี หมอ่ มหลวงบัวและหม่อมราชวงศ์สริ ิกิต์ิ เข้าเฝา้ ฯ เยย่ี มพระอาการเปน็ ประจา และในช่วงระยะเวลา ท่ีหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์อยู่เฝ้าฯ ถวายสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชที่สวิตเซอร์แลนด์นั้น สมเด็จพระราชชนนีศรีสังวาลย์ทรงรับเป็นธุระจัดการให้หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์เข้าศึกษาในโรงเรียน Pensionnat Riante Rive ซึ่งเป็นโรงเรียนประจาแห่งหน่ึงของโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ครั้นเม่ือสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงหายจากอาการประชวรแล้ว ก็ได้ทรงหมั้น กบั หม่อมราชวงศ์สริ ิกิติเ์ ปน็ การภายในเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 249๒ หลังจากทรงหม้ันแล้ว หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ยังคงศึกษาต่อ กระท่ัง พ .ศ. 2493 เม่อื สมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเสด็จพระราชดาเนินนิวัติประเทศไทยเพ่ือร่วมพระราชพิธี ถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระองค์ท่าน โปรดฯ ให้หม่อมราชวงศส์ ริ กิ ิตติ์ ามเสดจ็ พระราชดาเนนิ กลบั ดว้ ย

เม่ือวันท่ี 28 เมษายน พ.ศ. 2493 พระราชพิธีราชาภิเษกสมรสในพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชกับหม่อมราชวงศ์สิริกิต์ิจึงจัดขึ้น ณ วังสระปทุม โดยมีสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า เสด็จฯ เป็นองค์ประธาน ในการน้ีสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงลงพระปรมาภิไธยในทะเบียนสมรสและโปรดให้ หม่ อมราชวงศ์ สิ ริ กิ ต์ิ กิ ติ ยากรพร้ อมท้ั งสั กขี พยานลงนามในทะเบี ยนนั้ น หลั งจากนั้ น สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าเสด็จออกในพระราชพิธีถวายน้าพระพุทธมนต์เทพมนต์ แ ด่ ส ม เ ด็ จ พ ร ะ เ จ้ า อ ยู่ หั ว ภู มิ พ ล อ ดุ ล ย เ ด ช แ ล ะ ท ร ง ร ด น้ า พ ร ะ พุ ท ธ ม น ต์ เ ท พ ม น ต์ แ ด่ ห ม่ อ ม ร า ช ว ง ศ์ สิ ริ กิ ติ์ ใ น ก า ร พ ร ะ ร า ช พิ ธี ร า ช า ภิ เ ษ ก ส ม ร ส ต า ม โ บ ร า ณ ร า ช ป ร ะ เ พ ณี ต่อมาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช โปรดเกล้าฯ ให้อาลักษณ์อ่านประกาศสถาปนา หม่อมราชวงศ์สิริกิต์ิ กิติยากรขึ้นเป็น\"สมเด็จพระราชินีสิริกิติ์\" พร้อมท้ังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์ ในการนีด้ ้วย ต่อมาในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เม่ือวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระราชดาริว่า ตามโบราณราชประเพณีเม่ือสมเด็จพระมหากษัตริยาธิราชเจ้าได้เสด็จ เถลิงถวัลยราชสมบัติบรมราชาภิเษกแล้ว ย่อมโปรดให้สถาปนาเฉลิมพระเกียรติยศ สมเด็จพระอัครมเหสีข้ึนเป็นสมเด็จพระบรมราชินี ดังนั้น พระองค์จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศสถาปนาเฉลิมพระเกียรติยศสมเด็จพระราชินีสิริกิติ์ ขึ้นเป็น สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ิ พระบรมราชินี หลังจากนั้นทั้งสองพระองค์ได้เสด็จฯ กลับไปยังสวิตเซอร์แลนด์เพ่ือทรง รักษาพระองค์และทรงศึกษาต่อ จนกระทั่ง พระองค์มีพระประสูติกาลสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจา้ ฟ้าอบุ ลรัตนราชกัญญา สิรวิ ฒั นาพรรณวดี และเม่อื สมเด็จพระเจ้าลูกเธอมพี ระชนั ษาได้ 3 เดือน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จึงเสดจ็ นวิ ตั ปิ ระเทศไทย

เม่ือ พ.ศ. 2499 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู ิพลอดุลยเดชมีพระราชประสงค์ จะทรงผนวชเป็นพระภิกษุระหว่างวันท่ี 22 ตุลาคม ถึง 5 พฤศจิกายน เป็นระยะเวลา 15 วัน จึงต้องมีการแต่งต้ังผู้สาเร็จราชการแทนพระองค์ ดังน้ันพระองค์ทรงพระราชดาริว่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี เป็นผู้ทรงพระปรีชาสามารถในอันท่ีจะรับพระราชภารกิจ ในคราวน้ีได้ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี เป็นผ้สู าเร็จราชการแทนพระองค์ในระหว่างทที่ รงผนวช ต่ อ ม า ใ น วั น เ ฉ ลิ ม พ ร ะ ช น ม พ ร ร ษ า 5 ธั น ว า ค ม ปี เ ดี ย ว กั น น้ี พ ร ะ บ า ท ส ม เ ด็ จ พ ร ะ ป ร มิ น ท ร ม ห า ภู มิ พ ล อ ดุ ล ย เ ด ช มี พ ร ะ บ ร ม ร า ช โ อ ง ก า ร ป ร ะ ก า ศ ว่ า ตามราชประ เพณีเม่ือสมเด็ จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ไ ด้ทรงด ารงต าแหน่ง ผู้สาเร็จราชการแทนพระองค์เคยมีประกาศให้ออกพระนามว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และทรงพระราชดาริว่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีได้ทรงดารง ตาแหน่งผู้สาเร็จราชการแทนพระองค์ในระหว่างที่ทรงผนวช และได้ปฏิบัติพระราชภารกิจแทน พระองค์ด้วยพระปรีชาสามารถสนองพระราชประสงค์เป็นที่เรียบร้อย จึงทรงพระกรุณา โ ป ร ด เ ก ล้ า ฯ ใ ห้ เ ฉ ลิ ม พ ร ะ อ ภิ ไ ธ ย ส ม เ ด็ จ พ ร ะ น า ง เ จ้ า สิ ริ กิ ต์ิ พ ร ะ บ ร ม ร า ชิ นี ว่ า “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถ ” นับว่าทรงเป็น สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระองค์ที่ 2 ในประเทศไทย โดยพระองค์แรก คือ สมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระบรมราชินีนาถ (ภายหลังได้รับการสถาปนาเป็น สมเดจ็ พระศรีพชั รนิ ทราบรมราชนิ ีนาถ พระบรมราชชนนพี นั ปหี ลวง)



\"...พระเจ้าอยหู่ วั เป็นน้า ข้าพเจ้าจะเป็นปา่ ป่าท่มี ีความจงรักภกั ดตี ่อน้า...\" ปจั จุบันพน้ื ที่ปา่ ไม้ มจี านวนลดน้อยถอยลง เปน็ ส่วนหนง่ึ ของปัญหานอกจากเกิดจากภัยธรรมชาติ แล้วยังเกิดจากการลักลอบตัดไม้ทาลายป่า และมีจานวนไม่น้อยของการลักลอบตัดไม้ทาลายป่า ที่เกิดจากความยากจนของราษฎร พระราชกระแสในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงห่วงใยปัญหาน้ี และทรงวิตกว่า ประเทศชาติกาลังสูญเสีย ทรัพยากรธรรมชาติที่สาคัญไป พระองค์จึงพระราชทานพระราชดาริ ให้จัดต้ังโครงการท่ีจะช่วยเหลือ ราษฎรที่ทุกข์ยากเหล่าน้ีได้มีอาชีพที่สุจริต มีรายได้เพ่ือประทังชีวิต โดยไม่ตัดไม้ทาลายป่าอีกต่อไป ซงึ่ โครงการนี้ คอื “โครงการปา่ รกั น้า” โครงการป่ารักน้า เริ่มทดลองเป็นครั้งแรก ท่ีบ้านน้าติ้ว ตาบลส่องดาว อาเภอส่องดาว จังหวัดสกลนคร เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2525 เป็นโครงการเพื่อปลูกป่า ด้วยพันธุ์ไม้ที่เติบโตเร็ว โดยราษฎรเป็นผู้ลงแรงปลูกและดูแลบารุงเล้ียง บนพ้ืนดินที่ทรงซ้ือ และทรงเช่าพระราชทาน รวมทั้งเงินเดือนท่ีพระราชทานแก่ราษฎรผู้ยากจน ทเี่ ข้าโครงการ

“…ขา้ พเจา้ นันภมู ิใจเสมอมาวา่ คนไทยมสี ายเลือดของชา่ งฝมี อื อยทู่ กุ คน ไมว่ ่าจะเปน็ ชาวไร่ ชาวนา หรอื อาชพี ใด อยสู่ ารทศิ ใด คนไทยมคี วามละเอยี ดออ่ นและฉับไวต่อการรบั ศลิ ปะทุกชนิด ขอเพียงแต่ให้เขาไดม้ โี อกาสฝกึ ฝน เขาก็จะแสดงความสามารถออกมาให้เหน็ …” สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงมีพระราชดาริ ท่ีจะส่งเสริมให้ราษฎรไทยมีอาชีพหัตถกรรมเพื่อเป็นอาชีพเสริมให้แก่ชาวนา ชาวไร่ ผู้เป็นพลเมือง ส่วนใหญ่ของประเทศ แต่มีรายได้น้อย เพราะต้องเผชิญอุปสรรคในการเพาะปลูกอันเนื่องมาจาก สภาพดิน ฟ้า อากาศท่ีปรวนแปรอยู่เสมอ ทาให้รายได้จากผลผลิตไม่เพียงพอเล้ียงครอบครัว ในขณะเดียวกันศิลป-หัตถกรรม อันเป็นเอกลักษณ์ประจาชาติไทยซ่ึงได้ช่ือว่าเคยเจริญรุ่งเรือง มาแตใ่ นสมยั โบราณกาลงั จะเส่อื มสูญไป สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงจึงทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ ให้ก่อต้ัง มูลนิธิศิลปาชีพในสมเด็จ พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ขึ้นเมื่อ วันท่ี 21 กรกฎาคม 2519 และต่อมาเม่ือปี พ.ศ. 2522 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ก่อตั้ง โรงฝึกศลิ ปาชพี แขนงตา่ ง ๆ และทรงขยายโรงฝกึ ศูนยศ์ ลิ ปาชพี ในภูมิภาคตา่ ง ๆ

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงทรงสนพระราชหฤทัย ในด้านการศึกษา และทรงยึดมั่นในคาสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า \"ปัญญาท้าให้มนุษย์ เป็นมนุษย์ท่ีสมบูรณ์\" สติปัญญาเกิดข้ึนได้ด้วยการศึกษาหาความรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จากการอา่ นหนังสอื พระราชกรณียกิจด้านการศึกษานานัปการทพี่ ระราชทานแกพ่ สกนกิ รชาวไทย ทรงส่งเสริมการศึกษาในระบบโรงเรียน เช่น พระราชทานทุนการศึกษาแก่นักเรียน สร้างโรงเรียนพระราชทาน พระราชทรัพย์อุดหนุนโรงเรียน พระราชทานอุปกรณ์การเรียน ทรงรับโรงเรียนไว้ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เสด็จพระราชดาเนินไปทรงเย่ียมโรงเรียน เป็นต้น ด้านการศึกษานอกโรงเรียน เช่น ทรงสอนหนังสือชาวบ้าน ทรงสร้างศาลาร่วมใจ ทรงส่งเสริม การอาชีวศึกษา ทรงอนุรักษ์ ฟ้ืนฟู และพัฒนางานศิลปาชีพ นอกจากน้ี ยังทรงส่งเสริมการศึกษา ของพระภิกษุสามเณร และทรงรบั มูลนิธิแม่ชไี ทยไว้ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เปน็ ตน้

\"...ไดท้ รงเลือกสรรประสบผทู้ ่ีสมควรแกก่ ารสนองพระยคุ ลบาทร่วมทุกข์ แบง่ เบาพระราชภาระในภายภาคหนา้ ...\" ในด้านการสาธารณสุข นอกจากทรงช่วยเหลือผู้ท่ีได้รับความเดือดร้อนโดยจัด “หน่วยแพทย์ พระราชทาน” ตามเสด็จไปรักษาพยาบาลราษฎรในถ่ินทุรกันดารแล้ว ยังทรงช่วยเหลือ กลุ่มผู้ประสบภัยธรรมชาติ ทรงช่วยเหลือทหาร ตารวจ และราษฎรอาสาสมัครตามชายแดน ทรงริเร่ิม จดั ต้ังมูลนิธิสายใจไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในกรณีที่ทรงพบราษฎรเจ็บป่วยก็จะทรงรับไว้เป็นคนไข้ ในพระบรมราชานเุ คราะห์ ทรงอปุ ถมั ภ์องคก์ รการกุศล สมาคม มูลนิธติ ่าง ๆ เปน็ จานวนมาก

ในดา้ นศลิ ปวัฒนธรรม มกี ารอนรุ กั ษ์ สืบสาน ภูมปิ ญั ญามรดกวฒั นธรรมแขนงต่าง ๆ ในแผ่นดินไทย ให้คงอยู่โดยเฉพาะ “โขน” ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงช้ันสูงของไทยและยังเป็นมหรสพหลวง ที่รุ่งเรืองมาช้านาน ด้วยสายพระเนตรอันยาวไกล มีพระราชเสาวนีย์ให้ศึกษาค้นคว้าการแสดงโขน ตามแบบโบราณราชประเพณี พร้อมฟื้นฟูองค์ความรู้ในการสร้างเคร่ืองแต่งกายโขน ให้งดงาม ตามธรรมเนียมเดิม โปรดเกล้าฯ ให้ผู้เชี่ยวชาญและศิลปินในสาขาท่ีเก่ียวข้อง ศึกษาข้อมูล และ หลักฐานเก่ียวกับเคร่ืองแต่งกายโขนละครโบราณอย่างละเอียด เพ่ือจัดสร้างเคร่ืองแต่งกาย โขนละครข้ึนใหม่ ตลอดจนพัฒนาศิลปะการแสดงหนา้ โขนละครใหม้ คี วามรว่ มสมยั โขนพระราชทาน เรื่อง รามเกียรติ์ ชุดศึกพรหมาศ เมื่อพุทธศักราช 2552 จึงเป็นปฐมบท แห่งโขนพระราชทานท่ีประสบความสาเร็จ ได้รับความชื่นชมในเร่ืองความงดงามของเครื่องแต่งกาย ความวิจิตรตระการตาของฉากและเทคนิคต่าง ๆ กระบวนการรังสรรค์เครื่องโขนที่เต็มไปด้วย รายละเอียดและเกือบสูญสลายไปตามกาลเวลาให้กลับมาเฉิดฉายอีกครั้ง นาไปสู่การแสดงโขน พระราชทานอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ด้วยพระอัจฉริยภาพ พระวิสัยทัศน์ ในการสนับสนุนส่งเสริม การแสดงโขน ทาใหโ้ ขนเปน็ ท่รี ู้จักและชนื่ ชมไปทว่ั โลก องคก์ ารการศกึ ษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรม แห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ได้ประกาศข้ึนทะเบียนโขนไทยเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ของมนษุ ยชาติ เมื่อเดือนพฤศจิกายน พุทธศักราช 2561

1. สยามรฐั . “สมเดจ็ พระบรมราชชนนพี ันปีหลวง” พระอจั ฉรยิ ภาพฟนื้ ฟูเครือ่ งแต่งกายโขน-ศิลปาชพี [ออนไลน์]. 2563, แหล่งที่มา : https://siamrath.co.th/n/174083 [5 สงิ หาคม 2565] ๒. มูลนิธิมัน่ พัฒนา. โครงการศลิ ปาชีพ (พ.ศ. 2519) [ออนไลน์]. 2563, แหลง่ ทม่ี า : http://www.tsdf.nida.ac.th/th/royally-initiated-projects/10218-โครงการศิลปาชพี -พศ-251 9/ [5 สิงหาคม 2565] ๓. สถาบนั พยาธิวิทยา. พระราชกรณียกจิ สมเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ติ ์ิ พระบรมราชนิ ีนาถ พระบรมราช ชนนพี นั ปีหลวง [ออนไลน์]. 2563, แหล่งท่ีมา : https://www.iop.or.th/page/37#:~:text=ดา้ นการสาธารณสุข%20ในด้าน,กรณีทท่ี รงพบราษฎร [5 สิงหาคม 2565] ๔. กระปุก. พระราชกรณียกจิ ดา้ นการศกึ ษา [ออนไลน์]. 2563, แหลง่ ท่มี า : https://queen.kapook.com/queen_activity07.php#:~:text=สมเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ติ ์ิ%20 พระบรมราชนิ ีนาถ%20จะใช้วิธ,ี เรยี นดกี ็จะพระราชทาน [5 สงิ หาคม 2565]


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook