Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ความรู้เกี่ยวกับโควิด-19

ความรู้เกี่ยวกับโควิด-19

Published by phirphathnthxngsri74, 2022-06-10 03:41:01

Description: 1 นิยาม
2 ขั้นตอนรายงานการระบาด
3 การสอบสวนและเก็บตัวอย่าง
4 การติดตามผู้สัมผัส

Search

Read the Text Version

แนวทางเฝา้ ระวงั และสอบสวนโรคตดิ เช้อื ไวรัสโคโรนา 2019 https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/guidelines.php 1

เวอรช์ น่ั 21 ก.พ. 2563 - ปรบั นยิ าม - พืน้ ที่ระบาด อา้ งอิงประกาศหน้าเว็บกรม 2

เนอ้ื หา • ภาคผนวก • นิยาม • แบบรายงาน • ขน้ั ตอนรายงานการระบาด • การป้องกนั ตนเองของผูส้ อบสวน • การสอบสวนและเก็บ • การส่งตรวจและประสานงานแลบ็ ตัวอยา่ ง • Home quarantine/ • การตดิ ตามผ้สู ัมผสั Home isolation  High risk  Low risk 3

Version 3 มีนาคม 2563 ประเด็นเด่น -นิยาม PUI อาการ + พ้ืนทเ่ี สี่ยง/ความเส่ยี ง ไข้ ไอ นา้ มกู เจบ็ คอ หายใจเหนอ่ื ย • อณุ หภูมิกาย 37.5 C ข้ึนไป หายใจล้าบาก ถ้าตรวจที่ รพ. – ใชป้ ระวตั มิ ีไข้  4

นิยามผ้ปู ่วย (1) พิจารณาจากอาการ/อาการแสดง ร่วมกับ มปี ระวัติเสีย่ ง และสัมพนั ธ์พนื้ ที่ที่พบการระบาดของโรค ดงั นี้ กรณีที่ 1 การเฝ้าระวงั ทดี่ ่านควบคุมโรคติดตอ่ มีประวัตใิ นชว่ งเวลา 14 วนั กอ่ นวันเร่มิ ป่วย อย่างใดอยา่ งหนงึ่ ระหว่างประเทศ ตอ่ ไปน้ี ผ้ปู ่วยมีอาการ และอาการแสดง ดังนี้ 1) มีประวัตเิ ดนิ ทางไปยงั หรือ มาจาก หรอื อยูอ่ าศยั ในพื้นท่ีที่มี อณุ หภมู ิร่างกายตง้ั แต่ 37.5 องศาเซลเซียสข้ึนไป รายงานการระบาดตอ่ เนือ่ งของ โรคตดิ เชอื้ ไวรสั โคโรนา 2019 ร่วมกบั มีอาการของระบบทางเดนิ หายใจ 2) มีผทู้ ่อี ยอู่ าศยั ร่วมบา้ นเดินทางกลบั มาจากพนื้ ทที่ ีม่ ีรายงานการ อยา่ งใดอย่างหนึ่ง ดงั ต่อไปน้ี ไอ น้ามูก เจ็บคอ ระบาดตอ่ เน่ืองของโรคตดิ เชอื้ ไวรัสโคโรนา 2019 หายใจเหนอื่ ย หรือ หายใจล้าบาก 3) เป็นผูท้ ี่ประกอบอาชพี ที่สัมผสั ใกลช้ ิดกบั นกั ท่องเทยี่ วต่างชาติ 4) มีประวัตใิ กลช้ ดิ หรือสัมผัสกบั ผปู้ ่วยเข้าข่ายหรอื ยนื ยนั โรคติด เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 5) เป็นบุคลากรทางการแพทยห์ รือสาธารณสขุ ทส่ี มั ผัสกบั ผู้ป่วย เขา้ เกณฑส์ อบสวนโรคตดิ เชอื้ ไวรัสโคโรนา 2019 พื้นทท่ี ่มี รี ายงานการระบาดอา้ งอิงตามทีแ่ สดงในหน้าเว็บ https://ddc.moph.go.th/viral5pneumonia/index.php

นยิ ามผูป้ ว่ ย (2) พิจารณาจากอาการ/อาการแสดง ร่วมกบั มปี จั จยั เสย่ี ง และสมั พันธ์พน้ื ที่ทพ่ี บการระบาดของโรค ดังนี้ กรณที ่ี 2 การเฝา้ ระวังที่สถานพยาบาล มปี ระวตั ิในชว่ งเวลา 14 วันก่อนวันเรม่ิ ปว่ ย อยา่ งใดอย่างหนึง่ ผู้ป่วยมอี าการ และอาการแสดง ดังน้ี ตอ่ ไปน้ี 2.1 อณุ หภมู ริ ่างกายตงั้ แต่ 37.5 องศาเซลเซยี สข้นึ ไป 1) มีประวัติเดินทางไปยัง หรอื มาจาก หรอื อยูอ่ าศยั ในพน้ื ทีท่ ี่มี หรอื ให้ประวตั ิว่า มไี ขใ้ นการปว่ ยครงั้ นี้ รว่ มกบั มี รายงานการระบาดต่อเน่ืองของ โรคตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019 อาการของระบบทางเดินหายใจ อย่างใดอยา่ งหนึ่ง 2) มีผ้ทู ่อี ยอู่ าศยั รว่ มบา้ นเดนิ ทางกลับมาจากพ้ืนท่ที ม่ี รี ายงานการ ดังต่อไปน้ี ไอ น้ามกู เจ็บคอ หายใจเหนื่อย หรอื ระบาดตอ่ เนอ่ื งของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019 หายใจลา้ บาก 3) เป็นผทู้ ี่ประกอบอาชพี ท่ีสัมผสั ใกล้ชิดกับนักทอ่ งเที่ยวตา่ งชาติ 2.2 ผ้ปู ว่ ยโรคปอดอักเสบ 4) มีประวตั ใิ กลช้ ดิ หรอื สัมผัสกบั ผปู้ ว่ ยเขา้ ข่ายหรือยนื ยนั โรคติด เช้ือไวรัสโคโรนา 2019 5) เป็นบุคลากรทางการแพทย์หรอื สาธารณสขุ ทีส่ มั ผัสกบั ผู้ปว่ ย เขา้ เกณฑ์สอบสวนโรคติดเช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 พ้ืนท่ที ่มี ีรายงานการระบาดอา้ งองิ ตามทแ่ี สดงในหนา้ เวบ็ https://ddc.moph.go.th/viral6pneumonia/index.php

นยิ ามผ้ปู ่วย (3) พิจารณาจากอาการ/อาการแสดง รว่ มกบั มีประวตั ิเสี่ยงดังน้ี ไมต่ อ้ งพจิ ารณาพื้นทร่ี ะบาด กรณีที่ 3 การเฝา้ ระวงั ทส่ี ถานพยาบาล ร่วมกบั การมปี ระวัติ อยา่ งใดอยา่ งหนึ่งต่อไปนี้ ผู้ปว่ ยโรคปอดอักเสบ 1) ใกลช้ ิดผสู้ งสยั ติดเชื้อ SARS-CoV-2 ในช่วง เวลา 14 วันก่อนวันเริ่มปว่ ย 2) เปน็ บุคลากรทางการแพทยห์ รือสาธารณสุข 3) รกั ษาแลว้ อาการไม่ดีข้ึน 4) หาสาเหตไุ มไ่ ด้ 5) มอี าการรุนแรง หรอื เสยี ชวี ติ โดยหาสาเหตุ ไมไ่ ด้ 7

นิยามผปู้ ่วย (4) พจิ ารณาจากอาการ/อาการแสดง รว่ มกบั มีประวตั ิเส่ยี งดังนี้ ไมต่ ้องพจิ ารณาพ้นื ท่ีระบาด กรณที ี่ 4 การป่วยเป็นกลมุ่ ก้อน กลมุ่ กอ้ น • กรณีเป็นบคุ ลากรทางการแพทย์ ตั้งแต่ 3 (cluster) ของผมู้ ีอาการติดเช้อื ระบบทางเดนิ รายข้นึ ไป ในแผนก เดยี วกนั ในช่วง หายใจ (Acute respiratory tract infection) สปั ดาห์เดยี วกัน (หากสถานพยาบาลขนาด ท่ตี รวจ rapid test หรือ PCR ตอ่ เช้ือ ไวรสั เล็ก เช่น คลนิ ิก ใช้เกณฑ์ 3 รายขนึ้ ไปใน ไขห้ วัดใหญแ่ ลว้ ให้ผลลบทกุ ราย สถานพยาบาลนน้ั ๆ) • กรณใี นสถานท่ีแห่งเดียวกัน (ไมใ่ ช่ บคุ ลากรทางการแพทย)์ ตงั้ แต่ 5 รายขน้ึ ไป ในชว่ งสปั ดาหเ์ ดียวกัน 8

นิยามผ้ปู ่วย (5) ผู้ป่วยเขา้ ข่าย (Probable) หมายถงึ ผู้ป่วยเข้าเกณฑส์ อบสวนโรคท่ีมีผลตรวจทาง หอ้ งปฏิบัตกิ ารพบสาร พนั ธุกรรมของเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 โดยวธิ ี PCR ยืนยันจาก ห้องปฏบิ ตั กิ าร 1 แห่ง หรือ Sequencing หรือเพาะเชอ้ื ผปู้ ่วยยนื ยนั (Confirmed) หมายถงึ ผปู้ ว่ ยเขา้ เกณฑ์สอบสวนโรคท่ีมีผลตรวจทาง หอ้ งปฏบิ ตั ิการพบสาร พนั ธกุ รรมของเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 โดยวิธี PCR ยนื ยันจาก ห้องปฏบิ ัติการ 2 แห่ง หรือ Sequencing หรือเพาะเชื้อ ผตู้ ิดเชื้อไม่มอี าการ (Asymptomatic infection) หมายถงึ ผูท้ มี่ ีผลตรวจทางห้องปฏิบตั ิการพบสาร พันธกุ รรมของเชอ้ื ไวรสั SARS-CoV-2 โดยวิธี PCR ยืนยันจากหอ้ งปฏบิ ัตกิ าร 2 แหง่ หรือ Sequencing หรือเพาะเช้ือ แต่ไมม่ ีอาการและอาการแสดง 9

นยิ ามทีอ่ ธิบาย ในสไลดท์ ผ่ี า่ นมา มีไฟล์ PDF สรุป ดาวนโ์ หลดได้ จากเว็บกรม ควบคมุ โรค 10

ระบบการรายงานการระบาด 1. หากพบผูป้ ว่ ยเขา้ เกณฑ์สอบสวนโรคให้พจิ ารณาแยกกกั ผปู้ ่วยให้อยใู่ นพน้ื ทที่ ่ีกาหนดไม่ให้ แพร่เชือ้ ไปสู่ บคุ คลอ่นื ตามแนวทางของกรมการแพทย์ 2. ใหโ้ รงพยาบาล หรอื สถานบรกิ ารทางการแพทยแ์ ละสาธารณสขุ แจง้ สานกั งานสาธารณสขุ จังหวัด หรอื สานักอนามยั กรุงเทพมหานคร ทนั ที 3. สานกั งานสาธารณสขุ จังหวัด หรอื สานักอนามยั กรุงเทพมหานคร แจง้ สา้ นกั งานปอ้ งกันควบคมุ โรคใน เขตท่ีรับผิดชอบ/สถาบนั ป้องกนั ควบคมุ โรคเขตเมือง ภายใน 3 ชว่ั โมง หลังพบผู้ป่วยเขา้ เกณฑ์ สอบสวนโรค ตามแนวทางท่ีกาหนด 4. สานกั งานป้องกันควบคุมโรคท่ี 1-12 /สถาบนั ปอ้ งกันควบคมุ โรคเขตเมอื ง ใหร้ หสั ผ้ปู ่วยและบันทึก ขอ้ มลู ในระบบออนไลน์ 11

เกณฑก์ ารออกสอบสวนโรค และคน้ หาตดิ ตามผ้สู ัมผสั 1. หากเป็นรายแรกของพน้ื ทหี่ รือประเมินความพรอ้ มแลว้ พบวา่ ตอ้ งการใหท้ มี สอบสวนระดบั สูงข้ึนไปรว่ มสอบสวน สามารถ ประสานงานขอการสนับสนุนได้ 2. กรณพี นื้ ท่กี รงุ เทพมหานคร ใหใ้ ช้การตกลงระหว่าง ศูนย์ปฏบิ ตั กิ าร ภาวะฉกุ เฉนิ ฯ และ สถาบนั ป้องกนั ควบคมุ โรคเขตเมอื ง กรม ควบคมุ โรค กระทรวงสาธารณสุข และ กองควบคุมโรคตดิ ตอ่ สานกั อนามัย กรุงเทพมหานคร 3. เกณฑ์ยุตกิ ารสอบสวนผปู้ ว่ ย เมอื่ ผู้ป่วยได้รบั การวินิจฉยั สุดทา้ ย วา่ ไมต่ ิดเชอื้ SARS-CoV-2 และ จาหน่ายออกจากโรงพยาบาล หรือ กรณไี ม่ไดร้ บั การรักษาในโรงพยาบาลแลว้ อาการหายเปน็ ปกติ 12

เกณฑ์การออกสอบสวนโรคกรณเี หตกุ ารณ์อาการติดเช้ือระบบทางเดินหายใจเป็นกลมุ่ ก้อน การสอบสวนเหตุการณก์ ลมุ่ ก้อน (cluster) ของผมู้ อี าการตดิ เชื้อระบบทางเดินหายใจ (Acute respiratory tract infection - ARI) ทต่ี รวจ rapid test หรอื PCR ตอ่ เช้อื ไวรัสไข้หวัดใหญแ่ ล้วให้ผลลบทกุ ราย 13

การสอบสวนโรค 1. สัมภาษณ์ผูป้ ่วย ญาติ และทบทวนเวชระเบยี นผ้ปู ว่ ย รวมทงั้ ขอถา่ ยรปู ฟลิ ์มเอ็กซเรยป์ อด ใชแ้ บบฟอรม์ Novelcorona 2 ใน การสอบสวนโรค 2. การเก็บตวั อย่างสง่ ตรวจ 2.1 ในกรณขี องผูป้ ่วยทม่ี อี าการทางระบบทางเดนิ หายใจส่วนบน (URI) -เกบ็ Nasopharyngeal swab รว่ มกบั Throat swab/ Oropharyngeal swab ใสใ่ น VTM/UTM หรอื หรอื Nasopharyngeal aspirate, Nasopharyngeal wash ใสใ่ นภาชนะเกบ็ ตัวอยา่ งปลอดเชือ้ เพ่ือตรวจ SARS-CoV-2 PCR เก็บ Nasopharyngeal swab รว่ มกับ Throat swab/ Oropharyngeal swab ใสใ่ น VTM/UTM 2.2 ในกรณีของผปู้ ว่ ยทมี่ ีอาการทางระบบทางเดินหายใจสว่ นลา่ ง (เช่น pneumonia, ARDS) ให้เกบ็ ตวั อย่างในขอ้ 2.1 และ 2.2.1 ผ้ปู ว่ ยที่ไมไ่ ดใ้ สท่ อ่ ช่วยหายใจ และเกบ็ เสมหะใสใ่ นภาชนะเก็บตัวอยา่ งปลอดเชอื้ (sterile) หรือ ใสใ่ น VTM/UTM เพื่อตรวจ SARS-CoV- 2 PCR 2.2.2 ผปู้ ว่ ยที่ใส่ท่อชว่ ยหายใจ เกบ็ tracheal suction secretion ใส่ใน sterile container (2-3 mL) หากไมม่ ี secretion ตัดปลาย suction ใส่ VTM/UTM เพ่อื ตรวจ SARS-CoV-2 PCR 2.2.3 ในกรณีท่ผี ู้ปว่ ยเสยี ชีวติ ถ้าใส่ทอ่ ชว่ ยหายใจใหเ้ ก็บตัวอย่าง และส่งตรวจตามข้อ 2.2.2 หากไมไ่ ดใ้ ส่ท่อช่วย หายใจใหเ้ กบ็ ช้นิ เน้ือปอดใส่ใน 14 ภาชนะปลอดเชอื้ ทมี่ ีนา้ เกลอื อยู่ (saline)

15

VTM UTM Viral Transport Media Universal Transport Media 16

17

18

19

การสอบสวนโรค • กรณีทีผ่ ลการตรวจผ้ปู ว่ ยเป็นลบ และผูป้ ่วยมอี าการไม่ดีขน้ึ อาจมสี าเหตุจากตวั อยา่ งทไ่ี ม่เหมาะสม หรอื ด้อยคณุ ภาพ ควรทบทวนวิธีเกบ็ และนา้ ส่งตัวอยา่ ง แลว้ เก็บตวั อย่างตรวจซ้าหลังจากเกบ็ ตวั อย่างคร้ังแรก 24 ชั่วโมง • ในกรณีกลมุ่ กอ้ น หากพบวา่ ไม่มีผู้ป่วยรายใดเลยให้ผลบวกต่อเชอ้ื ไวรัสไข้หวัดใหญ่ ใหเ้ ก็บตัวอย่างจาก ผูป้ ่วยทมี่ ี อาการชดั เจน ณ วนั ทส่ี อบสวนโรค จ้านวนรอ้ ยละ 10 ของจ้านวนผู้ป่วยทง้ั หมด (อยา่ งน้อย 3 รายแตไ่ มเ่ กิน 10 ราย) จากกลุ่มกอ้ นนัน้ ๆ ส่งตรวจ  PCR ตอ่ เชื้อไวรัสไขห้ วัดใหญ่  PCR ตอ่ เชือ้ ไวรัสโคโรนา 2019 • การเก็บข้อมลู ผลการสอบสวน เก็บเปน็ เอกสาร ไฟล์ และบันทึกขอ้ มลู ในระบบออนไลน์ 20

21

ผ้สู ัมผสั ใกลช้ ดิ 22

หลักแนวคดิ - การติดตามผสู้ ัมผสั ใกลช้ ิด • Contact tracing – เม่อื พบผปู้ ่วยยนื ยนั หรือเข้าขา่ ย จะติดตามหาว่า มผี ู้สัมผัสซง่ึ อาจจะไดร้ ับ เช้ือ เกิดโรคหรือไม่ ท้ังนี้มีกิจกรรมและประเดน็ สา้ คญั คือ  หาข้อมลู จากผูป้ ่วย บุคคล(เชน่ ญาติ) และแหลง่ ข้อมลู ทีเ่ ก่ียวข้อง(ขอ้ มลู การเดนิ ทาง ฯ)  หาตวั ผสู้ ัมผัส – แจ้งว่าเขาอาจสมั ผสั โรค ชว่ ยใหเ้ ข้าถงึ การวินิจฉยั และรกั ษา โดยท่ัวไปจะไม่แจ้งวา่ ผ้ปู ่วยเปน็ ใคร  เปน็ หน้าท่ใี นการควบคุมโรค โดยมีกฎหมายรองรบั และดา้ เนินการโดยสอดคล้องกับหลกั จรยิ ธรรม • Reverse contact tracing หรือ Source case investigation - เม่อื พบผปู้ ว่ ยยืนยันหรือเข้า ขา่ ย จะสอบถามหาว่า ก่อนป่วย 1 ระยะฟักตวั ที่ยาวทีส่ ุด ผ้ปู ่วยไปสมั ผัสใกลช้ ดิ กบั ผปู้ ่วยรายใด หรือไม่ 23

การจดั กล่มุ ผ้สู ัมผสั ใกล้ชดิ ตามระดับความเสย่ี งตอ่ การรบั เช้ือ (1) 24

การจดั กล่มุ ผ้สู ัมผสั ใกล้ชดิ ตามระดับความเสย่ี งตอ่ การรบั เช้ือ (2) 25

การจดั กล่มุ ผ้สู ัมผสั ใกล้ชดิ ตามระดับความเสย่ี งตอ่ การรบั เช้ือ (3) 26

การจดั กล่มุ ผ้สู ัมผสั ใกล้ชดิ ตามระดับความเสย่ี งตอ่ การรบั เช้ือ (4) 27

ใครคอื High risk contact สมาชิกในครอบครวั ผป ผทู้ อ่ งเท่ียวร่วมกลุม่ ผโู้ ดยสารแถวเดียวกัน + 2แถวหน้า + 2แถวหลงั พนง บนเครอ่ื งบิน โซน ผป เจา้ หนา้ ทดี่ ่านทตี่ รวจ ผป แพทย์ พยบ คนมาเยย่ี ม ที่ไม่สวม PPE ผป อนื่ ที่อยหู่ ้องเดยี วกัน จนท แลบ็ ที่ไมส่ วม PPE ผรู้ ว่ มงาน รว่ มโรงเรียน ท่พี บปะ ขณะ ผป มี อาการ หรือ สมั ผัสสารคดั หลงั่ โดน ไอจาม 28

การจดั การผูส้ มั ผัสเสยี่ งต่า้ • ให้ด้าเนนิ ชวี ิตตามปกติ แตห่ ลีกเลย่ี งการเดินทางไปในท่ีที่มคี นจา้ นวนมาก สังเกตอาการตนเอง (self monitoring) เปน็ เวลา 14 วนั หลังวันที่สมั ผสั ผูป้ ว่ ยยืนยนั ครั้งสดุ ท้าย • หากมไี ขห้ รอื อาการของระบบทางเดินหายใจให้แจง้ เจ้าหน้าทส่ี าธารณสขุ ทันที เพื่อเกบ็ ส่งิ ส่งตรวจ ตดิ ตามอาการและวัดไข้ ตามแนวทางผู้สมั ผัสท่ีมคี วามเสี่ยงสงู หากอาการเขา้ ได้กบั PUI ให้ ด้าเนินการตามแนวทาง PUI 29

การคน้ หาผ้ปู ว่ ยรายอืน่ เพิม่ เติม (Active case finding) กรณีสอบสวนผู้ป่วยยืนยันท่ีติดเช้อื ในประเทศไทยโดยไม่สามารถหาแหลง่ แพรเ่ ชือ้ ไดช้ ัดเจน • เมื่อพบผูป้ ว่ ยยนื ยันทไ่ี ม่สามารถหาแหล่งโรคทีม่ าจากพื้นท่รี ะบาดไดอ้ ย่างชดั เจน มีความเปน็ ไปได้สงู ที่ ผปู้ ว่ ยจะได้รับเชอ้ื มาจากภายในชุมชนท่ีผ้ปู ว่ ยอยูอ่ าศยั หรอื ใช้ชวี ติ อยู่ • การค้นหาผู้ป่วยเพิม่ เตมิ จะขยายวง ใหค้ รอบคลมุ ชุมชนทผี่ ปู้ ว่ ยใช้ชีวิตหรอื อาศัยอยู่ โดยไมจ่ ้ากดั อยเู่ พยี งผู้ ทมี่ าสมั ผัสใกลช้ ิดกบั ผู้ปว่ ยโดยขอบเขตการค้นหาผู้ป่วยเพ่มิ เตมิ จะกว้างเทา่ ใดน้นั ใหพ้ จิ ารณาโดยใช้หลกั ทวี่ า่ จะคน้ หาผปู้ ว่ ยราย อนื่ ๆ ทม่ี โี อกาสไปสัมผสั แหล่งโรคเดียวกัน (common exposure) กับผปู้ ่วย ยืนยัน • ขอบเขตในการค้นหาผปู้ ว่ ย ได้แก่ ผทู้ ี่อาศัย ทา้ งาน เรยี น หรือใชช้ วี ิตประจ้าวนั อย่ใู นชุมชน หรอื ใน บรเิ วณเดียวกบั ผปู้ ่วย เช่น แผนก/ ชั้นท่ีท้างาน โรงเรียน ทีพ่ ัก (คา่ ยทหาร เรอื นจา้ ) ตกึ คอนโดมเิ นียม 30

นยิ ามการคน้ หาผ้ปู ว่ ยเพิ่มเตมิ • ผู้ป่วยสงสัย (suspected case) ได้แก่ ผู้ปว่ ยทม่ี ีอณุ หภูมิร่างกาย > 37.5 องศาเซลเซยี ส หรือมี ประวัติ ไข้ รว่ มกบั อาการอยา่ งนอ้ ยหนง่ึ อาการ ไดแ้ ก่ ไอ มนี ้ามกู เจ็บคอ หอบเหนอ่ื ย ตั้งแต่ 14 วันกอ่ นวนั เริม่ ป่วยของผปู้ ่วยยืนยนั ทไ่ี ดร้ บั การรายงานรายแรก (Index case) จนถงึ 28 วนั หลังจากพบผปู้ ว่ ยยนื ยนั ราย สุดท้าย 31

การด้าเนินงานเม่อื พบผู้ปว่ ย • ผูป้ ่วยสงสัย (suspected case) ทุกรายทยี่ ังมอี าการ ณ วนั สอบสวนโรค ใหต้ รวจหาเชื้อ SARS-CoV2 (ทา้ การเก็บ ตวั อย่างตามแนวทาง PUI) ส่วนผ้ปู ่วยสงสัยทไ่ี ม่มอี าการแลว้ ไมจ่ า้ เปน็ ตอ้ งเก็บตวั อย่าง • ผปู้ ่วยสงสยั (suspected case) ทกุ รายไมว่ ่ายังมีอาการหรอื ไมม่ อี าการ ใหแ้ ยกกกั (ใหห้ ยุดงาน/หยุด เรยี น) อยา่ งนอ้ ย 14 วนั นับจากวันเริ่มมอี าการ แม้วา่ อาการจะหายแลว้ หรือมผี ลตรวจทางห้องปฏบิ ัตกิ ารเปน็ ลบ หากพบผู้ป่วยสงสัย จ้านวนมากอาจพิจารณาจัด cohort ward ในโรงพยาบาล หรอื ก้าหนดพืน้ ทีร่ องรับผู้ปว่ ยจ้านวนมาก • ใหส้ ถานทที่ ่พี บการระบาด งดกิจกรรมทมี่ ีการชมุ นมุ รวมคน ประชุมหรือเคลื่อนย้ายคนจา้ นวนมาก จนถงึ 28 วนั หลงั จากพบผ้ปู ่วยยนื ยันรายสดุ ท้าย • ท้าความสะอาดสถานที่ทพี่ บการระบาด หรือเก่ียวข้องกับการระบาด • พจิ ารณาปิดสถานทท่ี ีต่ ามความเหมาะสม หากมกี ารระบาดต่อเนอื่ งเกนิ กวา่ 14 วัน นบั จากวนั ทพ่ี บผูป้ ่วยยืนยนั ทีไ่ ด้รบั การรายงานรายแรก (Index case) • ให้เฝ้าระวงั ไปข้างหน้าจนถึง 28 วันหลงั จากพบผูป้ ว่ ยยนื ยนั รายสดุ ทา้ ย ระหวา่ งนน้ั ถ้ามผี ปู้ ว่ ยเข้านิยามผู้ปว่ ยสงสยั ให้ เกบ็ ตัวอย่างส่งตรวจหาเช้ือ SARS-CoV-2 ทุกราย • หากพบการระบาดของโรคตดิ เชอื้ ไวรัสโคโรนา 2019 เป็นกลุม่ ก้อนในชุมชน สามารถดูแนวทางการสอบสวนโรคฯ แบบ เปน็ กลมุ่ กอ้ น 32

DDC EOC https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/guidelines.php 33 https://vac-lshtm.shinyapps.io/ncov_tracker/


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook