แผนการเรียนรู้รายสัปดาห์ กล่มุ สาระทักษะการเรยี นรู้ รายวชิ า ทกั ษะการเรยี นรู้ ทร11001 ชน้ั ประถมศึกษา แผนการจดั การเรียนรู้เรื่องที่ 1 การเรียนรดู้ ้วยตนเอง เวลา 6 ชวั่ โมง วนั ที่จดั การเรียนการสอน...............................................................พบกลุ่มคร้ังท่.ี .............................................................. 1. ตวั ชี้วัด สามารถอธิบายปจั จัย ท่ีทาให้การเรียนร้ดู ว้ ยตนเองประสบความสาเรจ็ 2. เนอ้ื หา เจตคต/ิ ปจั จัย ทีท่ าให้การเรยี นรดู้ ้วยตนเองประสบความสาเร็จ (การเปิดรบั โอกาสการเรียนรู้ การคดิ ริเร่มิ และ เรียนรู้ด้วยตนเอง การสร้างแรงจูงใจ การสร้างวนิ ัยในตนเอง การคดิ เชงิ บวก ความคิดสรา้ งสรรค์ ความรกั ใน การเรียน การใฝร่ ู้ใฝเ่ รียน และความรบั ผิดชอบ ข้ันจดั กระบวนการเรียนรู้ ขน้ั ท่ี 1 นาเข้าส่บู ทเรยี น - ครทู กั ทายกล่าวนา และทบทวนเนือ้ หาเดมิ - ครเู ปิดโอกาสใหผ้ เู้ รียนซักถาม ข้อสงสยั ก่อนเข้าสขู่ ้ันตอนตอ่ ไป - ครูชีแ้ จงวัตถปุ ระสงค์การเรียนรู้ ขน้ึ ท่ี 2 การเรยี นการสอน - ครูจัดกิจกรรมแบ่งกล่มุ 4-5 คน เพอื่ มอบหมายให้ กล่มุ ละ 1 เนอื้ หา - วเิ คราะหส์ ภาพพนื้ ท่ีนกั ศึกษาอาศัยอยู่ กลุม่ ละ 2 เนื้อหา - บอกอาชีพทีท่ าในชุมชนทอี่ าศัยอยทู่ ั้งหมดทุกอาชีพ กลุม่ ละ 3 เนอื้ หา - บอกอาชีพใหม่ท่เี กิดขึ้นในชุมชน ขั้นที่ 3 การประเมินผล ให้ผู้เรียนท้ัง 3 กล่มุ ออกมานาเสนอผลการศกึ ษาตามหัวขอ้ ทก่ี าหนด ครสู รุปองคค์ วามรู้ ขั้นที่ 4 การเรยี นรู้ต่อเนื่อง ใหผ้ ู้เรียนทาใบงาน เรื่องอาชีพในฝัน
3. สือ่ การเรียนการสอน - หนงั สือเรยี น - กระดาษปรู๊ฟ - ปากกาเมจิ - ใบงาน เร่ืองอาชพี ในฝนั 4. การวดั และประเมนิ ผล - แบบวัดพฤตกิ รรม - ความถูกต้องครบถว้ นของใบงาน ลงชอ่ื .........................................................ผสู้ อน (.............................................................) ตาแหน่ง ครู กศน.ตาบล................ ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศึกษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ......................................................... (......................................) ผอู้ านวยการ กศน.อาเภอ.............
ใบความรู้ เรอ่ื ง การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรยี นรูเ้ ป็นเรอ่ื งของทุกคน ศกั ดิศ์ รีของผู้เรยี นจะมีไดเ้ มื่อมโี อกาสในการเลอื กเรียนในเร่ืองทห่ี ลากหลายและมี ความหมายแก่ตนเอง การเรยี นร้มู ีองค์ประกอบ 2 ดา้ น คอื องคป์ ระกอบภายนอก ได้แก่ สภาพแวดลอ้ ม โรงเรียน สถานศกึ ษา สง่ิ อานวยความสะดวก และครู องค์ประกอบภายใน ได้แก่ การคิดเปน็ พง่ึ ตนเองได้ มอี สิ รภาพ ใฝร่ ู้ ใฝ่ สร้างสรรค์ มีความคดิ เชิงเหตุผล มจี ติ สานึกในการเรยี นรู้ มีเจตคตเิ ชิงบวกต่อการเรียนรู้ การเรียนรทู้ ี่เกิดขน้ึ มิได้เกิดขึ้น จากการฟังคาบรรยายหรอื ทาตามท่คี รผู สู้ อนบอก แต่อาจเกิดข้นึ ได้ในสถานการณต์ า่ ง ๆ ต่อไปนี้ 1. การเรยี นรู้โดยบังเอิญ การเรยี นรแู้ บบนีเ้ กดิ ขน้ึ โดยบงั เอญิ มิไดเ้ กิดจากความตง้ั ใจ 2. การเรียนรู้ด้วยตนเอง เป็นการเรยี นรดู้ ว้ ยความต้ังใจของผูเ้ รียน ซึ่งมีความปรารถนาจะรใู้ น เรื่องนัน้ ผู้เรียน จึงคิดหาวิธีการเรียนดว้ ยวธิ ีการตา่ งๆ หลงั จากนัน้ จะมกี ารประเมนิ ผลการเรยี นรดู้ ้วยตนเองจะเปน็ รปู แบบการเรยี นรู้ทท่ี วี ความสาคญั ในโลกยุคโลกาภวิ ัตน์ บุคคลซึ่งสามารถปรบั ตนเองให้ตามทันความก้าวหน้าของโลกโดยใชส้ ่อื อปุ กรณ์ยุคใหม่ ได้ จะทาให้เปน็ คนที่มีคุณค่าและประสบความสาเรจ็ ได้อย่างดี 3. การเรยี นรู้โดยกลุ่ม การเรียนรูแ้ บบนี้เกดิ จากการทีผ่ เู้ รียนรวมกลุ่มกนั แล้วเชญิ ผทู้ รงคุณวฒุ มิ าบรรยายใหก้ บั สมาชกิ ทาใหส้ มาชิกมคี วามรู้เรื่องทีว่ ทิ ยากรพูด 4. การเรียนรจู้ ากสถาบนั การศึกษา เปน็ การเรียนแบบเป็นทางการ มีหลกั สูตร การประเมนิ ผล มีระเบยี บการ เขา้ ศกึ ษาทชี่ ัดเจน ผเู้ รียนตอ้ งปฏิบัติตามกฎระเบียบทีก่ าหนด เมือ่ ปฏิบตั ิครบถว้ นตามเกณฑท์ ี่กาหนดกจ็ ะไดร้ บั ปริญญา หรือประกาศนยี บตั ร จากสถานการณก์ ารเรียนรดู้ งั กล่าวจะเห็นได้วา่ การเรยี นรอู้ าจเกดิ ได้หลายวธิ ี และการเรยี นรูน้ น้ั ไม่ จาเป็นตอ้ งเกดิ ข้นึ ในสถาบันการศึกษาเสมอไป การเรยี นรอู้ าจเกดิ ขึ้นไดจ้ ากการเรียนรู้ดว้ ยตนเอง หรอื จากการเรียนโดย กลุ่มก็ได้ และการทบ่ี ุคคลมีความตระหนกั เรยี นรู้อยภู่ ายในจิตสานกึ ของบุคคลนัน้ การเรียนรูด้ ว้ ยตนเองจงึ เป็นตัวอย่าง ของการเรียนรู้ในลกั ษณะทเี่ ป็นการเรียนรู้ ท่ที าให้เกิดการเรียนรูต้ ลอดชีวิต ซงึ่ มีความสาคัญสอดคล้องกับการ เปลีย่ นแปลงของโลกปจั จบุ ัน และสนบั สนนุ สภาพ “สังคมแหง่ การเรยี นรู้” ไดเ้ ป็นอย่างดี การเรยี นรู้ด้วยตนเองคอื อะไร เมอ่ื กลา่ วถึง การเรียนด้วยตนเอง แลว้ บคุ คลโดยทัว่ ไปมักจะเข้าใจวา่ เปน็ การเรยี นท่ีผู้เรียนทาการศึกษาค้นคว้า ด้วยตนเองตามลาพงั โดยไม่ต้องพึ่งพาผู้สอน แตแ่ ท้ที่จริงแลว้ การเรยี นดว้ ยตนเองทต่ี ้องการให้เกดิ ขึ้นในตวั ผเู้ รยี นนน้ั เป็น กระบวนการเรียนรู้ทผี่ ูเ้ รียนริเรม่ิ การเรียนรู้ด้วยตนเอง ตามความสนใจ ความต้องการ และความถนดั มเี ป้าหมาย รจู้ ัก แสวงหาแหล่งทรัพยากรของการเรียนรู้ เลอื กวิธีการเรยี นรู้ จนถึงการประเมนิ ความก้าวหน้าของการเรียนรู้ของตนเอง โดยจะดาเนินการด้วยตนเองหรอื รว่ มมือชว่ ยเหลือกบั ผู้อนื่ หรือไม่ก็ได้ ซึง่ ผ้เู รียนจะต้องมีความรับผิดชอบและเป็นผู้ ควบคมุ การเรยี นของตนเอง ท้ังนี้การเรียนด้วยตนเองนัน้ มีแนวคิดพ้นื ฐานมาจากแนวคดิ ทฤษฎีกล่มุ มนุษยนยิ มทม่ี ีความเชอ่ื ในเร่ืองความเป็น อิสระและความเปน็ ตวั ของตัวเองของมนุษย์ว่ามนุษย์ทุกคนเกดิ มาพรอ้ มกับความดี มีความเป็นอิสระ เป็นตัวของตวั เอง สามารถหาทางเลือกของตนเอง มีศกั ยภาพและสามารถพัฒนาศักยภาพของตนเองได้อย่างไม่มขี ีดจากดั รวมท้ังมคี วาม รับผิดชอบตอ่ ตนเองและผู้อ่นื ซ่ึงการเรยี นด้วยตนเองก่อให้เกดิ ผลในทางบวกต่อการเรียน โดยจะส่งผลใหผ้ ู้เรยี นมีความ เช่อื มั่นในตนเอง มีแรงจูงใจในการเรียนมากข้ึน มีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนสงู ข้นึ และมีการใช้วธิ กี ารเรียนท่ีหลากหลาย
การเรยี นดว้ ยตนเองจึงเป็นมาตรฐานการศึกษาท่ีควรส่งเสริมให้เกดิ ข้นึ ในตัวผเู้ รยี น ทกุ คน เพราะเม่อื ใดกต็ ามที่ผเู้ รยี นมีใจ รกั ที่จะศกึ ษา คน้ คว้าจากความตอ้ งการของตนเอง ผู้เรยี นกจ็ ะมกี ารศกึ ษาคน้ คว้าอย่างต่อเนื่องต่อไปโดยไม่ต้องมใี ครบอก หรือบังคับ เป็นแรงกระตุ้นให้เกิดความอยากรู้อยากเห็นต่อไปไม่มที ่สี ้นิ สุด ซงึ่ จะนาไปสู่การเป็นผเู้ รียนรู้ตลอดชวี ติ ตาม เปา้ หมายของการศกึ ษาต่อไป การเรยี นด้วยตนเองมีอยู่ 2 ลักษณะคือ ลกั ษณะทีเ่ ปน็ การจัดการเรยี นรทู้ ี่มจี ดุ เนน้ ให้ผู้เรียนเปน็ ศนู ย์กลางในการ เรียนโดยเปน็ ผู้รบั ผดิ ชอบและควบคุมการเรียนของตนเองโดยการวางแผน ปฏิบัติการเรยี นรู้ และประเมินการเรียนร้ดู ว้ ย ตนเอง ซึ่งไม่จาเป็นจะต้องเรียนดว้ ยตนเองเพียงคนเดียวตามลาพัง และผูเ้ รยี นสามารถถ่ายโอนการเรียนรูแ้ ละทักษะที่ได้ จากสถานการณห์ นง่ึ ไปยงั อีก สถานการณ์หน่งึ ได้ ในอกี ลักษณะหนึ่งเป็นลกั ษณะทางบุคลิกภาพทมี่ ีอยู่ในตัวผู้ที่เรยี นด้วย ตนเองทุกคนซ่ึงมีอยู่ในระดับทไี่ ม่เทา่ กันในแตล่ ะสถานการณก์ ารเรียน โดยเป็นลักษณะทีส่ ามารถพฒั นาใหส้ งู ขนึ้ ได้และจะ พฒั นาได้สูงสดุ เมอื่ มีการจัดสภาพการจดั การเรยี นร้ทู ี่เอื้อกัน
ใบงาน เร่อื ง อาชีพในฝัน จงเตมิ ข้อความลงในช่องวา่ งใหส้ มบูรณ์ 1. เหตุผลทเี่ ลือกอาชีพน้ี…………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………….................................................................... ………………………………………………………………………………………………………….................................................................... ………………………………………………………………………………………………………….................................................................... ………………………………………………………………………………………………………....................................................................... 2. องคป์ ระกอบของอาชีพ……………..…………………………………………………………………............................................................. ………………………………………………………………………………………………………….................................................................... ………………………………………………………………………………………………………….................................................................... ………………………………………………………………………………………………………….................................................................... ………………………………………………………………………………………………………....................................................................... 3. ลักษณะของอาชีพ…………………..…………………………………………………………………............................................................... ………………………………………………………………………………………………………….................................................................... ………………………………………………………………………………………………………….................................................................... ………………………………………………………………………………………………………….................................................................... ………………………………………………………………………………………………………....................................................................... 4. ประเภทของอาชีพ…..………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………….................................................................... ………………………………………………………………………………………………………….................................................................... ………………………………………………………………………………………………………….................................................................... ………………………………………………………………………………………………………....................................................................... 5. โอกาสท่ีประประสบความสาเรจ็ ในอาชีพ……………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………….................................................................... ………………………………………………………………………………………………………….................................................................... ………………………………………………………………………………………………………….................................................................... ……………………………………………………………………………………………………….......................................................................
Search
Read the Text Version
- 1 - 5
Pages: