Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ผลการคัดเลือกการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice)

ผลการคัดเลือกการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice)

Published by กีรติ ล่ำลือ, 2023-08-27 12:21:32

Description: โครงการขับเคลื่อนการจัดการจัดการเรียนรู้ด้วยสื่อเทคโนโลยี (OBEC Content Center)
ประเภท ครูผู้ใช้สื่อเทคโนโลยีระบบ OBEC Content Center

“การศึกษาประวัติศาสตร์ท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ ๕ ขั้นตอน (Co-5STEPs) ร่วมกับการใช้สื่อเทคโนโลยีดิจิทัล ระบบคลังสื่อ OBEC Content Center”
โดย นายกีรติ ล่ำลือ

Search

Read the Text Version

รายงานผลการปฏิบัติทเี่ ป็นเลศิ (Best Practice) เร่ือง การพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะหใ์ นรายวชิ าประวตั ศิ าสตร์ เรอ่ื ง การศึกษาประวัติศาสตร์ท้องถ่ิน สำหรบั นักเรยี นชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ โดยใชก้ ระบวนการเรยี นรู้ ๕ ข้ันตอน (CO-5STEPs) รว่ มกบั การใช้ส่อื เทคโนโลยีดิจทิ ลั ระบบ OBEC Content Center โดย นายกีรติ ลำ่ ลอื ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย กลุ่มสาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรยี นบา้ นโนนสวรรค์ อำเภอรตั นวาปี จังหวัดหนองคาย สำนักงานเขตพน้ื ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาหนองคาย เขต ๒ สงั กดั สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

หน้า |ก คำนำ รายงานผลงานทม่ี วี ิธปี ฏิบัติงานท่ีเป็นเลิศ (Best Practice) ประเภท ผูใ้ ช้สือ่ เทคโนโลยีดิจิทัล ระบบ OBEC Content Center ชื่อผลงาน การพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ในรายวิชาประวัติศาสตร์ เรื่อง การศึกษาประวัติศาสตร์ท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ ๕ ขั้นตอน (CO-5STEPs) ร่วมกับ การใช้สื่อเทคโนโลยีดิจิทัล ระบบ OBEC Content Center เล่มนี้ จัดทำขึ้น เพื่อให้คณะกรรมการ พิจารณาผลการปฏิบัติงานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้าพเจ้าในด้านต่าง ๆ โดยนายกีรติ ล่ำ ลือ ครูโรงเรียนบ้านโนนสวรรค์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคาย เขต ๒ ซึ่ง ผู้จัดทำหวัง เป็นอยา่ งยง่ิ วา่ ผลงานทนี่ ำเสนอครงั้ น้ี จะเป็นขอ้ มลู ที่เป็นประโยชน์ประกอบการพจิ ารณาตอ่ ไป ขอขอบพระคุณ ผู้อำนวยการโรงเรียน คณะครู นักเรียน โรงเรียนบ้านโนนสวรรค์ และผู้เกี่ยวข้อง ที่ให้ความชว่ ยเหลือ ให้คำปรึกษา แนะนำ ในการปฏิบัติงาน ขอขอบคุณทุกท่านที่ใหก้ ารสนบั สนุน ให้กำลังใจ และให้ความร่วมมอื ในการปฏิบัตงิ านด้วยดตี ลอดมา จึงขอขอบพระคณุ มา ณ โอกาสน้ี นายกรี ติ ลำ่ ลือ ครูโรงเรยี นบ้านโนนสวรรค์

สารบญั หน้า |ข เร่ือง หน้า คำนำ ก สารบัญ ข ความเปน็ มาและความสำคัญของผลงาน ๑ วัตถุประสงคแ์ ละเป้าหมาย ๒ กระบวนการผลิตผลงาน ๓ ผลการดำเนนิ งาน/ผลสัมฤทธิ์/ประโยชนท์ ่ไี ด้รบั ๘ บทเรยี นท่ไี ดร้ ับ ๙ ปัจจัยความสำเร็จ ๑๐ การเผยแพร่/การไดร้ ับการยอมรบั ๑๑ บรรณานุกรม ๑๒ ภาคผนวก ๑๒

หน้า |1 รายงานผลการปฏบิ ตั ิที่เปน็ เลศิ (Best Practice) การจดั การเรยี นรู้ดว้ ยสอ่ื เทคโนโลยีดิจิทัล OBEC Content Center สำนกั งานเขตพนื้ ท่กี ารศึกษาประถมศึกษาหนองคาย เขต ๒ ช่อื ผลงาน การพัฒนาความสามารถในการคดิ วิเคราะห์ในรายวชิ าประวัติศาสตร์ เรอื่ ง การศึกษาประวัตศิ าสตร์ท้องถน่ิ สำหรับนักเรยี นชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๔ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ ๕ ขน้ั ตอน (CO-5STEPs) รว่ มกับ การใชส้ อื่ เทคโนโลยีดิจิทัล ระบบ OBEC Content Center ชื่อเจ้าของผลงาน นายกรี ติ ล่ำลอื ตำแหน่ง ครผู ู้ช่วย โรงเรียน บา้ นโนนสวรรค์ สังกัด สำนกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาหนองคาย เขต ๒ โทรศัพท์ 042 418 242 โทรศัพทม์ ือถือ 062 281 6515 E-mail [email protected] ประเภทผลงาน ผใู้ ช้ส่ือเทคโนโลยีดจิ ิทลั ๑. ความเป็นมาและความสำคญั ของผลงาน การเรียนรู้เป็นกระบวนการที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนามนุษย์ให้เจริญงอกงามไปสู่การเป็นคนดี คนเก่ง มีความสุข และมีความใฝ่รู้ ซึ่งปัจจุบันโลกเป็นยุคสังคมแห่งการเรียนรู้ ผู้ที่จะประสบความสำเร็จและ ดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้นั้น จะต้องเปน็ คนเข้มแข็งและแข็งแกร่ง มีความคิด มีไหวพรบิ ทไี่ มใ่ ช่ใช้เพียงแค่ความ ฉลาด แต่ต้องคิดเป็น ทำเป็น แก้ปัญหาเป็น และที่สำคัญต้องสามารถสร้างกระบวนการเรียนรู้ด้วยได้ตัวเอง (ศันสนีย์ ฉัตรคุปต์ และอษุ า ชชู าติ, 2545) นอกจากนตี้ ้องม่งุ สง่ เสริมผ้เู รยี นมีคุณธรรม รกั ความเปน็ ไทย ให้มี ความสามารถในการคิดวเิ คราะห์ สร้างสรรค์ มีทักษะด้านเทคโนโลยี สามารถทำงานร่วมกบั ผู้อื่นและสามารถ อยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมโลกได้อย่างสันติ (กระทรวงศึกษาธิการ, 2551) สำหรับหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ข้ึนพน้ื ฐานได้กำหนดว่า การศึกษาก็ได้มุ่งเนน้ ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ โดยได้กำหนดสมรรถนะสำคัญ ของผู้เรียน ให้มีความสามารถในการคิดเป็น ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิดอย่าง สร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพื่อนำไปสู่การสร้างองค์ความรูห้ รือสารสนเทศ เพื่อการตัดสินใจเกี่ยวกับตนเองและสังคมได้อย่างเหมาะสม (หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551) ซึ่งสอดคล้องกับจุดประสงค์ของการศึกษาเพื่อนำไปใช้ของกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคม ศึกษา ที่การศึกษาต้องทำให้เด็กไทยคิดเป็นโดยคิดได้ทั้งแบบคิดวิเคราะห์ คิดเชิงโครงสร้าง คิดรวบยอด และ คิดเพื่อสังคม สามารถร่วมกันทำงานเป็นทีม เพราะฉะนั้นรูปแบบการเรียนการสอนจึงควรยึดผู้เรียนเป็น ศูนย์กลาง ฝึกฝนกระบวนการคิด กระบวนการประชาธิปไตย รวมทั้งฝึกฝน คุณธรรมและจริยธรรมดังน้ัน ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ เป็นทักษะที่สำคัญต่อการเรียนรู้และมีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการศึกษาใน ศตวรรษที่ 21 จากสภาพการศึกษาของผู้เรียนในปัจจุบัน พบว่า มีปัญหาสำคัญจากการขาดการส่งเสริมผู้เรียน ทางด้านการคิดวิเคราะห์ ทำให้มีอุปสรรคต่อการเรียนรู้ สอดคล้องกับบทความของมนตรี วงษ์สะพาน (2556) ได้กล่าวไว้ว่า ผู้เรียนขาดความสามารถในการคิดวิเคราะห์ เป็นผลมาจาก พฤติกรรมใน การเรียนการสอนถูกผูกขาดโดยการบอกของครู ครูผู้สอนให้ความสำคัญกับคำตอบมากกว่ากระบวนการ

หน้า |2 ผเู้ รียนขาดเคร่อื งมือช่วยในระหวา่ งการเรยี นรู้ โดยผู้เรียนแทบไมม่ โี อกาสได้ใช้ศักยภาพสมองเพื่อคิดหาคำตอบ แต่ใช้สมองในการจำมากกว่า ผู้เรียนไม่เกิดการเชื่อมโยงความรู้ และประสบการณ์ ซึ่งสอดคล้องกับการสังเกต พฤติกรรมนกั เรียนชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ โรงเรียนบา้ นโนนสวรรค์ จังหวัดหนองคาย ในรายวชิ าประวัติศาสตร์ พบว่า ผู้เรียนขาดความสามารถในการคิดวิเคราะห์ผู้เรียนไม่แสดงความคิดเห็น ตอบคำถามระหว่างการเรียน การสอน นอกจากนผี้ ู้เรียนยังได้การปลูกฝังการเรยี นการสอนท่เี น้นท่องจำ ผ้เู รียนยงั ไมส่ ามารถคิดวิเคราะห์ได้ ทำให้ผเู้ รยี นไมเ่ กิดการฝึกทักษะการคิด และไมส่ ามารถต่อยอดความรู้ต่าง ๆ ได้ และเมือ่ ครูผู้สอนจัดการเรียน สอนในระดับที่สูงขึ้น เนื้อหามีความซับซ้อนมากกว่าเดิม ทำให้ผู้เรียนขาดการเรียนรู้อย่างมีความหมาย ไม่สามารถเชื่อมโยงความรู้เดิมกับความรู้ใหม่ เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ โดยเฉพาะในรายวิชา ประวัติศาสตร์ ที่ต้องอาศัยการคิดวิเคราะห์ การสังเคราะห์ เนื้อหาที่มีความหลากหลายและเชื่อมโยงกัน รวมถึงพฤติกรรมบางอย่างของผู้เรียนในชน้ั เรยี น เชน่ การไม่กลา้ แสดงความคดิ เห็น ไมก่ ล้าตอบคำถาม ไม่กล้า แสดงออก ดังนั้นครูผู้สอนจะต้องเห็นความสำคัญในการจัดการเรียนการสอนที่เน้นการส่งเสริมความสามารถ ในการคิด และจะต้องอาศัยสื่อการจัดการเรียนการสอนที่จะช่วยกระตุ้นความสนใจให้กับผู้เรียน เพื่อให้เกิด องค์ความร้อู ย่างมปี ระสิทธภิ าพ ซึ่งในปัจจุบันกระทรวงศึกษาธิการได้มีนโยบายด้านการพลิกโฉมระบบการศึกษาไทยด้วยการนํา นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการจัดการศึกษาทุกระดับการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการถ่ายทอดองค์ความรู้ไปสู่นักเรียนและประชาชน เพื่อสร้างโอกาสความเท่าเทียมอย่างทั่วถึง โดยได้จัดทำระบบคลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัลระดับการศึกษา ขั้น พื้นฐาน (OBEC Content Center) ซึ่งเป็นแฟลตฟอร์มการเรียนรู้ที่เป็นชุดโปรแกรมรวบรวมเนื้อหาใน ๘ ประเภทเนื้อหา ได้แก่ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์แอปพลิเคชัน วีดีทัศน์เสียง ภาพ ข้อสอบ เทมเพลต และ มัลติมีเดีย โดยเผยแพร่ให้กับนักเรียน ครูผู้สอน บุคลากรทางการศึกษาและประชาชนผู้สนใจทั่วไป สามารถ เข้าถึงการใช้งานเนื้อหาต่าง ๆ สำหรับการเรียนรู้ได้ทุกท่ี ทุกเวลา กับอุปกรณ์ที่หลากหลาย สื่อการเรียนรู้เปน็ เครื่องมือส่งเสริมสนับสนุนการจัดการกระบวนการเรียนรู้ให้ผู้เรียนเข้าถึง ความรู้ทักษะกระบวนการ และ คณุ ลกั ษณะตามมาตรฐานการเรยี นรู้ของหลักสูตรไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธิภาพ ดังนั้น ครูจึงได้ตระหนกั ถึงความสำคัญของการพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ให้เกิดข้นึ กบั ผู้เรยี น ให้ไดร้ บั การพฒั นาความสามารถในการคิดวเิ คราะหซ์ ่งึ เป็นพ้ืนฐานสำคญั ของการดำเนนิ ชวี ิตในศตวรรษ ที่ 21 และนำไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้และเป็นแนวทางในการจัดการเรียนรู้ด้วยการ พัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ในรายวิชาประวัติศาสตร์ เรื่อง การศึกษาประวัติศาสตร์ท้องถ่ิน สำหรบั นกั เรยี นชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๔ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ ๕ ขนั้ ตอน (CO-5STEPs) รว่ มกับ การใช้ส่ือ เทคโนโลยีดิจิทัล ระบบ OBEC Content Center เพื่อพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน ต่อไป ๒. จดุ ประสงคห์ รือเป้าหมายของการดำเนินงาน ๒.๑ จุดประสงค์ ๑) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนผ่านจัดการเรียนการสอนโดยการใช้สื่อเทคโนโลยี ดิจทิ ัล ระบบ OBEC Content Center ๒) เพื่อพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ในรายวิชาประวัติศาสตร์ เรื่อง การศึกษา ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ ๕ ขั้นตอน (CO-5STEPs) ร่วมกับ การใชส้ ่ือเทคโนโลยดี ิจิทัล ระบบ OBEC Content Center

หน้า |3 ๒.๒ เป้าหมาย ๑) เป้าหมายเชิงปริมาณ : นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ โรงเรียนบ้านโนน สวรรค์ จำนวน ๑๔ คน มีความสามารถในการคิดวเิ คราะห์ ผา่ นเกณฑ์การประเมิน ร้อยละ 80 ๒) เป้าหมายเชิงคุณภาพ : นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ โรงเรียนบ้านโนน สวรรค์ จำนวน ๑๔ คน ได้เรียนรู้กิจกรรมการเรียนรู้ในรายวิชาประวัติศาสตร์ เรื่อง การศึกษาประวัติศาสตร์ ทอ้ งถน่ิ โดยใช้กระบวนการเรยี นรู้ ๕ ข้นั ตอน (CO-5STEPs) รว่ มกับ การใช้สือ่ เทคโนโลยีดิจิทลั ระบบ OBEC Content Center ทมี่ ีประสิทธิภาพ สามารถส่งเสริมการเรียนรูใ้ ห้เกดิ ข้ึนกับนกั เรยี นอย่างสงู สุด ๓. กระบวนการผลิตผลงานหรอื ข้ันตอนการดำเนนิ งาน โรงเรียนบ้านโนนสวรรค์ ภายใต้การบริหารงานของนายอภิศร ทิพเสนา ผู้อำนวยการโรงเรียน บ้านโนนสวรรค์ ได้บริหารสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วมกับคณะครู และคณะกรรมการสถานศึกษา เพื่อจัดการ เรียนรู้ให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ ตลอดจนหลักสูตรแกนกลาง พ.ศ.๒๕๕๑ มุ่งเน้นให้นักเรียนเป็นคนดี คนเก่ง และ สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข ตามวิสัยทัศน์ของโรงเรียน คือ “โรงเรียนมีคุณภาพได้ มาตรฐาน นักเรียนมีความรูค้ ูค่ ุณธรรม ก้าวนำเทคโนโลยี ดนตรีกีฬาเป็นเลิศ เชิดชูวถิ ีไทย ชุมชนร่วมใจพัฒนา ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ซึ่งมี Model ในการบริหารสถานศึกษา คือ “SAWAN Model ขับเคลื่อนความรู้สู่คณุ ธรรม” เป็นแนวทางที่ใช้ในการบริหารงานเพ่ือพัฒนาโรงเรียน ให้เป็นโรงเรียนคุณธรรม โดยมีขัน้ ตอนการดำเนินงาน ตามวงจรควบคุมคณุ ภาพโดยใชก้ ระบวนการ PDCA ดังนี้ SAWAN Model คอื เทคนิคหรอื วิธกี ารบรหิ ารทข่ี า้ พเจา้ นำมาประยุกต์ใชใ้ นการขับเคลื่อนโรงเรียน บ้านโนนสวรรค์ มดี ังนี้

หน้า |4 ๑) S : Standard and Service mind (โรงเรียนมาตรฐานให้บริการด้วยหัวใจ) หมายถึง การปฏิบัติงานในโรงเรียนจะต้องมีเกณฑ์มาตรฐานด้านต่าง ๆ เป็นสิ่งควบคุม และให้การทำงานด้วยใจ ท้งั บรกิ ารนกั เรียน บรกิ ารชมุ ชน ต้องเตม็ ใจใหบ้ ริการ ๒) A : Accountability (ยึดติดความโปร่งใส) หมายถึง การบริหารงานด้านต่าง ๆ จะต้องมีความ ซือ่ สัตย์สจุ รติ มคี วามโปรง่ ใสตรวจสอบได้ ยึดระเบียบการปฏบิ ัตงิ านของทางราชการเป็นท่ตี ั้ง ๓) W : Willingness (เต็มใจในการทำงาน) หมายถึง การปฏิบัติงานจะต้องมีความรับผิดชอบ มีความเต็มใจในการทำงานในหน้าที่ และงานในส่วนรวม งานชุมชน มีความเต็มใจที่จะช่วยเหลืองาน หากมีความรับผิดชอบและความเต็มใจทำงานแล้ว ผลงานที่ออกมาจะดีและประสบความสำเร็จตาม วัตถปุ ระสงคข์ องงานนั้น ๆ ๔) A : Assessment (วัดผลประเมินผลด้วยหลักการ) หมายถึง การดำเนินงานในกิจกรรมหรือ โครงการต่าง ๆ จะต้องมีการวัดผลประเมินผล ซึ่งมีระบบควบคุมคุณภาพ PDCA เป็นหลักในการดำเนินงาน เพื่อให้มีการประเมนิ และปรบั ปรุงงานให้ดแี ละเหมาะกับบริบทงานเนื้องานกิจกรรมหรือโครงการ ๕) N : Network (ประสานเครือข่ายความร่วมมือ) หมายถึง การประสานงาน ทั้งแนวดิ่งและ แนวราบ ในการปฏิบัติงาน มีเครือข่ายความร่วมมือในโรงเรียน ใช้กิจกรรม PLC เป็นตัวขับเคลื่อน เครือข่าย ความร่วมมือกับชุมชน บ้าน วัด โรงเรียน จะมีคณะกรรมการสถานศึกษาเป็นผู้นำการขับเคลื่อนกิจกรรมของ โรงเรียน เครือข่ายความร่วมมือภายนอกโรงเรยี น มีสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ตลอดจนหน่วยงานอื่นร่วม ขับเคลือ่ น ขน้ั ตอนการดำเนินงาน การดำเนินการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาความสามารถในคิดวิเคราะห์ ในรายวิชาประวัติศาสตร์ เรื่อง การศึกษาประวัติศาสตร์ท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ ๕ ขั้นตอน (CO-5STEPs) ร่วมกับ การใช้สื่อเทคโนโลยีดิจิทัล ระบบ OBEC Content Center โดยใช้การ ออกแบบและพัฒนาโดยใช้กระบวนการดำเนินงาน ดังนี้ PDCA Plan Do Check Act ขัน้ ที่ ๑ : Plan (การวางแผน) 1) การศึกษาสภาพปัญหาจดั การเรยี นการสอนและความต้องการของผเู้ รยี น 2) ศกึ ษารูปแบบการจัดกจิ กรรมและดำเนนิ กจิ กรรมการจัดการเรยี นการสอนตามโครงสรา้ งรายวชิ า 3) วเิ คราะห์ความตอ้ งการของผ้เู รยี นในการจัดการเรียนรู้ 4) วางแผนการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอน เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้เรยี น 6) จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้และออกแบบการจัดการเรียนรู้ที่ประกอบด้วยความรู้ ทักษะ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ และสมรรถนะ ตามมาตรฐานและตัวชีว้ ดั ท่กี ำหนดไวใ้ นหลกั สูตรสถานศกึ ษา

หน้า |5 ๗) การประชุมพูดคุยในการจัดกิจกรรมร่วมกับผู้อำนวยการสถานศึกษา คณะครูในโรงเรียน ในการสะท้อนคิดแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในสภาพปัญหาและสังเคราะห์แนวทางในการดำเนินการจัดกิจกรรม ภายใต้โครงการโรงเรียนคุณธรรม และโครงการโรงเรียนในฐานะชุมชนแห่งการเรียนรู้การ SLC (School as Learning Community) ขนั้ ที่ ๒ : Do (ดำเนนิ กิจกรรมการเรยี นรู้) การจัดการเรียนรู้ เรื่อง การศึกษาประวัติศาสตร์ท้องถิ่น โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ ๕ ขั้นตอน (CO-5STEPs) ร่วมกบั การใชส้ ือ่ เทคโนโลยีดจิ ทิ ัล ระบบ OBEC Content Center ดงั นี้ ➢ ขน้ั ที่ ๑ การเรียนรูต้ งั้ คำถาม หรือขน้ั ต้งั คำถาม (Learning to Question) ๑) ครูสร้างความสนใจให้กับนักเรียนโดยการเล่นเกมถอดรหัสดาวินชี (Davinci) เกี่ยวกับสถานที่ ท่องเทยี่ วในจังหวดั หนองคาย จำนวน ๓ ขอ้ ๒) นกั เรียนรว่ มกันตอบคำถามโดยเชอ่ื มโยงจากการเล่นเกม ดังต่อไปนี้ “นักเรยี นคดิ ว่าสถานทีเ่ หลา่ น้ีมีหลักฐานทางประวัติศาสตรใ์ ดปรากฏอยบู่ า้ ง ?” “นกั เรียนคดิ ว่าหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์เหล่านี้มีความแตกตา่ งกันหรือไม่ อย่างไร ?” ๓) ครเู ช่ือมโยงเน้ือหาประเภทหลักฐานทางประวัติศาสตรท์ ่ใี ช้ในการศึกษาความเปน็ มาของทอ้ งถน่ิ ➢ ขน้ั ท่ี ๒ การเรยี นรู้แสวงหาสารสนเทศ (Learning to Search) ๔) นักเรียนรับฟังการบรรยายความรู้ประกอบหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง ประเภทหลักฐานทาง ป ร ะ ว ั ต ิ ศ า ส ต ร ์ ท ี ่ ใ ช ้ ใ น ก า ร ศ ึ ก ษ า ค ว า ม เ ป ็ น ม า ข อ ง ท ้ อ ง ถ ิ ่ น จ า ก OBEC Content Center (https://contentcenter.obec.go.th/detail/book/109112) โดยการแสกนคิวอารโ์ ค้ด

หน้า |6 ๕) ครแู บ่งกลุม่ นกั เรียนเปน็ ๔ กล่มุ กลุ่มคนละ ๓ คน โดยใช้เว็บไซต์ Classdojo ๖) ครูแจก “กลอ่ งสุ่มพมิ รี่ปอน” โดยภายในกลอ่ งจะมสี ต้กิ เกอรร์ ูปภาพหลักฐานทางประวตั ิศาสตร์ใน จงั หวดั หนองคาย จำนวน ๕ รปู ภาพ คละกันในแต่ละกลุม่ ใหน้ กั เรียนได้อภิปรายแตล่ ะรูปภาพร่วมกัน ➢ ขัน้ ที่ ๓ การเรยี นร้เู พ่ือสร้างองคค์ วามรู้ (Learning to Construct) ๗) ครูแจกใบงานจำแนกประเภทหลักฐานที่ใช้ในการศึกษาความเป็นมาของท้องถิ่น แล้วนักเรียน ภายในกลุ่มร่วมกันพิจารณาจำแนกรูปภาพในกล่องสุ่ม จำนวน ๕ รูปภาพ ติดรูปภาพลงบนในใบงาน โดยให้จำแนกประเภทหลักฐานทางประวัติศาสตร์ พร้อมทั้งระบุความหมายของประเภทของหลักฐานทาง ประวัติศาสตร์ท่ีใชใ้ นการศึกษาความเปน็ มาของทอ้ งถนิ่ ให้ถกู ต้อง ➢ ข้ันท่ี ๔ การเรยี นรูเ้ พอื่ การส่อื สาร (Learning to Communicate) ๘) นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอใบงานการจำแนกประเภทหลักฐานที่ใช้ในการศึกษาความเป็นมาของ ท้องถิ่นโดยให้เวลากลุ่มละไม่เกนิ ๒ นาทีในการนำเสนอ จากนั้นอภิปรายรว่ มกันกับนักเรยี น พร้อมทั้งสรปุ ผล คะแนนความถกู ต้องของแตล่ ะกลมุ่ ๙) นักเรียนทำแบบทดสอบ เรื่อง ประเภทหลักฐานที่ใช้ในการศกึ ษาความเปน็ มาของท้องถิ่น จำนวน ๕ ข้อ โดยใชแ้ อพลเิ คชัน่ Plickers ๑๐) นกั เรยี นและครูร่วมกนั สรปุ สง่ิ ทไ่ี ดร้ ับจากบทเรยี น โดยครถู ามคำถาม ดงั ต่อไปน้ี “นักเรยี นคดิ วา่ การแบ่งประเภทของหลกั ฐานทางประวัติศาสตรม์ คี วามสำคัญอยา่ งไร ?”

หน้า |7 ➢ ข้ันที่ ๕ การเรยี นรู้เพ่อื ตอบแทนสงั คม (Learning to Service) ๑๑) นักเรียนนำผลงานใบงานจำแนกประเภทหลักฐานที่ใช้ในการศึกษาความเป็นมาของท้องถิ่น ไปติดบอร์ดประชาสัมพันธ์ที่หอ้ งเรียนสังคมศึกษา โรงเรียนบ้านโนนสวรรค์ เพื่อเป็นการขยายความรู้เกีย่ วกบั การจำแนกหลกั ฐานทางประวัติศาสตรใ์ นจงั หวัดหนองคาย ขัน้ ที่ ๓ : Check (ตรวจสอบ) มีการนิเทศ กำกับติดตาม ให้กำลังใจ วัดและประเมิน ผลการจัดการเรียนจากผู้อำนวยการ สถานศึกษา ศกึ ษานเิ ทศ และกลุ่มบริหารงานวชิ าการ โดยวิเคราะหค์ วามสอดคล้องกบั จุดประสงค์การเรียนรู้ เนื้อหา กิจกรรมการเรียนรู้ สื่อการสอน การวัดและประเมินผลโดยการสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนที่ได้จัด และจัดทำเอกสารสรุปรายงานผลการจัดการเรียนรู้ ข้ันท่ี ๔ : Action (ปรบั ปรงุ และพฒั นา) ขั้นตอนการสรุปผลการจัดการเรียนรู้และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ตลอดจนสะท้อนแนวคิดเพื่อเป็น แนวทางพิจารณาในการปรับปรุงการจัดการเรียนการสอน ผ่านกระบวนการ PLC สะท้อนผลการดำเนินงาน เป็นการมีส่วนร่วมของครู ผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษาที่ได้เข้ามามีบทบาทในการชื่นชมผลงาน ของ นกั เรียน เพ่ือนำมาข้อเสนอแนะท่ไี ด้วางแผนพัฒนาคณุ ภาพการจดั การศกึ ษาต่อไป

หน้า |8 ๔. ผลการดำเนินงาน/ผลสัมฤทธ/ิ์ ประโยชน์ทีไ่ ดร้ บั ๔.๑ ผลการดำเนนิ งาน ๑) รูปแบบการจัดการเรียนการสอนผ่านจัดการเรียนการสอนโดยการใช้สื่อเทคโนโลยีดิจิทัลระบบ OBEC Content Center ส่งผลให้การจัดการเรียนรู้ในรายวิชาประวัติศาสตร์ เรื่อง การศึกษาประวัติศาสตร์ ท้องถ่ิน สำหรับนักเรียนชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ มปี ระสทิ ธภิ าพบรรลุตามวตั ถุประสงค์ทก่ี ำหนดไว้ ๒) ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ใน รายวิชาประวัติศาสตร์ เรื่อง การศึกษาประวัติศาสตร์ท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ ๕ ขั้นตอน (CO-5STEPs) ร่วมกับ การใช้สื่อเทคโนโลยีดิจิทัล ระบบ OBEC Content Center เป็นประโยชน์ต่อการจัดการศกึ ษาเป็นอย่างมาก ซึ่งทำให้ผู้เรียนเกิดองค์ความรูท้ ีเ่ ข้าใจงา่ ย ในการเรียนร้ใู นเรื่องราวของประวัติศาสตร์ท้องถิน่ ตนเอง ๔.๒ ผลสัมฤทธ์ิ ๑) ผลทดสอบความสามารถในการคิดวิเคราะห์ ครูผู้สอนได้ทำการทดสอบวัดความสามารถในการคิดวิเคราะห์ โดยใช้แบบทดสอบ เรื่อง ประเภท หลักฐานที่ใช้ในการศึกษาความเป็นมาของท้องถิ่น ผ่านแอพลิเคชั่น Plickers จำนวน ๕ ข้อ ซึ่งแสดงผลการ วิเคราะหข์ อ้ มูลได้ดงั ตารางต่อไปนี้ ตารางที่ ๑ แสดงผลการทดสอบความสามารถในการคิดวเิ คราะห์ จำนวน นักเรยี นท่ีผา่ นเกณฑ์ คะแนนสอบ นักเรียน รอ้ ยละ 80 คะแนน คะแนน คะแนน คะแนน 14 จำนวน คิดเป็น เต็ม สงู สุด ตำ่ สุด เฉล่ีย คิดเป็น S.D. (คน) รอ้ ยละ 5 5 3 4.29 ร้อยละ 14 100 85.71 0.91 จากตารางพบว่า ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 14 คน ในรายวิชาประวัติศาสตร์ เรื่อง การศึกษาประวัติศาสตร์ท้องถิ่น มีนักเรียนจำนวน 14 คน ผ่านเกณฑ์ที่ กำหนด คิดเป็นร้อยละ 100 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ นักเรียนจำนวนร้อยละ 80 ของนักเรียนทั้งหมด มีคะแนนผา่ นเกณฑ์รอ้ ยละ 80 ข้ึนไป โดยมคี ะแนนเฉล่ีย 4.29 คะแนน คดิ เป็นรอ้ ยละ 85.71 ของคะแนนเตม็ ๒) ผลการประเมินความสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ ครูผู้สอนได้ทำการประเมินความสามารถในการคิดวิเคราะห์ โดยใช้แบบประเมินผลงานใบงาน จำแนกประเภทหลักฐานที่ใช้ในการศึกษาความเป็นมาของทอ้ งถิ่น ซึ่งแสดงผลการวิเคราะห์ข้อมูลได้ดังตาราง ตอ่ ไปนี้

หน้า |9 ตารางท่ี ๒ แสดงผลการประเมนิ ความสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ จำนวน นกั เรยี นทีผ่ ่านเกณฑ์ คะแนนการประเมนิ นกั เรยี น ร้อยละ 80 คะแนน คะแนน คะแนน คะแนน 14 จำนวน คิดเป็น เตม็ สงู สุด ตำ่ สุด เฉล่ีย คดิ เป็น S.D. (คน) ร้อยละ 20 19 18 18.29 ร้อยละ 14 100 91.43 0.47 จากตารางพบว่า ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ ของนักเรียนชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 14 คน ในรายวิชาประวัติศาสตร์ เรื่อง การศึกษาประวัติศาสตร์ท้องถิ่น มีนักเรียนจำนวน 14 คน ผ่านเกณฑ์ท่ี กำหนด คดิ เป็นรอ้ ยละ 100 ซ่งึ สงู กวา่ เกณฑ์ท่ีกำหนดไว้ คอื นักเรียนจำนวนรอ้ ยละ 80 ของนักเรียนท้ังหมด มีคะแนนผา่ นเกณฑ์รอ้ ยละ 80 ข้ึนไป โดยมคี ะแนนเฉลย่ี 18.29 คะแนน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 91.43 ของคะแนน เตม็ ๔.๓ ประโยชน์ท่ไี ด้รบั ๑) การจัดการเรยี นรูโ้ ดยใช้สื่อเทคโนโลยรี ะบบ OBEC Content Center ทำให้ผ้เู รียนเกิดการเรียนรู้ ดว้ ยตนเอง โดยใช้เทคโนโลยีในการศึกษาหาความรไู้ ด้เปน็ อย่างดี เป็นทีน่ ่าสนใจในการในการเรยี น ๒) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนบ้านโนนสวรรค์ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ มีพัฒนาการด้าน การคิดวิเคราะห์ในรายวิชาประวัติศาสตร์ท่ีดีขึ้น จากการจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ ๕ ขั้นตอน (CO-5STEPs) รว่ มกบั การใช้ส่ือเทคโนโลยีดจิ ทิ ลั ระบบ OBEC Content Center ๕. บทเรียนท่ไี ดร้ บั ๕.๑ ข้อสรุป การพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ในรายวชิ าประวัติศาสตร์ เรือ่ ง การศึกษาประวัติศาสตร์ ท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ ๕ ขั้นตอน (CO-5STEPs) ร่วมกับ การใช้สอ่ื เทคโนโลยีดิจิทัล ระบบ OBEC Content Center สง่ ผลให้นกั เรียนเกดิ การพฒั นาที่รอบด้าน ทั้งด้าน ความรู้ ทกั ษะกระบวนการ ด้านคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์และด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน นักเรียนคิดลง มือทำและสรุปความรู้ด้วยตนเอง โดยมีประสบการณ์ต่าง ๆ นำไปสู่การปรับโครงสร้างความรู้ ความคิดรวบ ยอด หรือหลกั การสำคัญทีศ่ กึ ษาค้นคว้าด้วยตนเอง จึงเปน็ แนวทางทตี่ อบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคลท้ัง ในแง่ความสนใจ ประสบการณ์ วิธีการเรียนรู้ และการให้คุณค่าความรู้ที่นักเรียนแต่ละคนสร้างขึ้นอย่างมี ความหมาย เพื่อนำไปใช้ให้เกดิ ประโยชน์ต่อตนเอง ชมุ ชน และสังคมโลก

ห น ้ า | 10 ๕.๒ ปัญหา/อปุ สรรคและข้อเสนอแนะ ตารางท่ี 3 แสดงปัญหา/อปุ สรรค และข้อเสนอแนะหลงั จากจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ปัญหา/อุปสรรค ข้อเสนอแนะ ประเดน็ ที่ 1 การแบง่ กลุ่มทำงาน ครูผู้สอนจำเป็นต้องอธิบายเพิ่มเติม และช้ี การแบ่งกลุ่มด้วยสุ่ม ทำให้นักเรียนบางคนไม่ ประเด็นสำคัญว่าต้องการให้นักเรยี นได้ประสบการณ์ พอใจ เพราะได้เพือ่ นทไ่ี ม่ชอบชว่ ยงาน จงึ อยากให้จับ การทำงานกับผ้อู ื่น กลุม่ ตามความสมัครใจ ประเด็นท่ี 2 เวลาในการจดั กิจกรรม ครูผู้สอนพยายามจัดสรรเวลาให้เหมาะสม และ เวลาในแต่ละคาบมีเพียง 60 นาที ซึ่งต้องจัด ปรับปรุงกิจกรรมการสอนให้เหมาะสมกับการทำงาน กิจกรรมการเรียนรู้ให้ครบทั้ง 5 ขั้นตอน โดยมี ของนกั เรยี นมากย่ิงขึน้ กิจกรรมที่หลากหลาย ประเด็นที่ 3 ทกั ษะดา้ นการอ่านของนักเรียน ครูผู้สอนควรนำนักเรียนในการอ่านก่อนทำ นักเรียนบางส่วนยังอ่านหนังสือได้ไม่คล่องทำให้ กจิ กรรมทุกคร้ัง เพอ่ื ชว่ ยเหลอื นกั เรยี นที่มีปัญหาด้าน เรียนรู้ได้ช้ากว่าเพื่อน และเกิดปัญหาเมื่อต้องให้ การอ่านหรือแบ่งกลุ่มให้นักเรียนได้ไปอยู่ในกลุ่มที่มี ศกึ ษาความร้เู พ่มิ เติมดว้ ยตนเองจากในหนังสือเรยี น เพ่อื นทอี่ า่ นเขียนไดค้ ลอ่ ง ประเด็นท่ี ๔ อุปกรณ์เทคโนโลยี ครูผู้สอนควรสำรวจความพร้อมด้านอุปกรณ์ นักเรยี นบางส่วนยงั ไมม่ ีเคร่ืองมือส่ือสาร หรือ เทคโนโลยีสำรองให้กับผู้เรียน หรือพิมพ์เนื้อหาใน กระดาษใหก้ บั ผูเ้ รยี นที่ไมม่ อี ปุ กรณ์ เทคโนโลยีในการศึกษาหาความรู้ ๖. ปัจจัยไปสคู่ วามสำเร็จ ๑) บทบาทของผู้เรียน : นักเรียนมีความพร้อมในการเรียนรู้ ใฝ่เรียนรู้ รู้จักการแสวงหาความรู้ด้วย ตนเอง นำไปสูก่ ารสรา้ งองคค์ วามรดู้ ว้ ยตนเอง และให้ความรว่ มมือในการทำกิจกรรมเป็นอย่างดี ๒) บทบาทของครูผู้สอน : ครูมีความรู้ความเข้าใจในความแตกต่างของผู้เรียน รู้จักนักเรียนเป็น รายบุคคล ทำให้สามารถออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ ได้ตรงตามความสนใจและถนัดของนักเรียน มีความ มงุ่ ม่ันต้งั ใจทจ่ี ะพฒั นานกั เรียนใหส้ ามารถพฒั นาตนเองไดส้ งู สดุ ตามศักยภาพของแต่ละบุคคล ๓) บทบาทของสถานศึกษา : โรงเรียนสนับสนุน ส่งเสริม ให้บุคลากรครูมีการพัฒนาตนเองอยู่ ตลอดเวลา และจดั หาส่อื /อปุ กรณ์ อำนวยความสะดวกให้ครผู ้สู อน ใช้ประกอบการจัดกิจกรรมและมกี ารระดม หนว่ ยงานเอกชน องค์กรสว่ นท้องถน่ิ ร่วมจัดการศึกษา

ห น ้ า | 11 ๗. การเผยแพรผ่ ลงาน/การได้รบั การยอมรับ/รางวัลทีไ่ ดร้ บั ๑) เผยแพร่ในเว็บไซต์โรงเรียนบ้านโนนสวรรค์ www.nonsawan.ac.th และใน facebook โรงเรยี นบ้านโนนสวรรค์ www.facebook.com/nonsawannk2 ๒) เผยแพร่ในคลังเนื้อหาอิเล็กทรอนิกส์ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) หรือ OBEC Content Center https://contentcenter.obec.go.th/detail/book/99479 ๓) การจดั นิทรรศเผยแพร่ผลงาน และนำเสนอผลงานแก่ผบู้ รหิ ารโรงเรียนและคณะครูในการประชุม ปฏิบัติการแลกเปลี่ยนเรียนรู้การบริหารจัดการและการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาสมรรถนะพลเมืองรุ่นใหม่ ด ้ ว ย น ว ั ต ก ร ร ม โ ร ง เ ร ี ย น เ ป ็ น ช ุ ม ช น แ ห ่ ง ก า ร เ ร ี ย น ร ู ้ ( School as Leaning Community) ภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื ณ จงั หวัดอดุ รธานี

ห น ้ า | 12 ๘. บรรณานุกรม กีรติ ล่ำลือ. (2565). ประเภทหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ใช้ในการศึกษาความเป็นมาของท้องถิ่น. ค้นเมื่อ 25 กรกฎาคม 2566, จาก https://contentcenter.obec.go.th/detail/book/109112. สำนักพิมพ์ : สำนกั งานเขตพืน้ ท่ีการศกึ ษาประถมศึกษาหนองคายเขต ๒ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร.(2551). หลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐานพุทธศกั ราช 2551.กรุงเทพฯ: โรงพิมพช์ มุ นมุ สหกรณก์ ารเกษตรแห่งประเทศไทย. มนตรี วงษ์สะพาน. (2556). การยกระดับการเรียนรู้ของนักเรียนด้วยกระบวนการคิดวิเคราะห์.วารสาร ศกึ ษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ทกั ษณิ . ศันสนีย์ ฉัตรคุปต์และอุษา ชูชาติ.(2545). การเรียนรู้รูปแบบใหม่: ยุทธศาสตร์ด้านนโยบายและการใช้ ทรัพยากร.กรุงเทพฯ : สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาแหง่ ชาติ. 2545 ๙. ภาคผนวก • แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชา ส ๑๔๑๐๒ ประวัติศาสตร์ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๓ เรื่อง การศึกษา ประวัติศาสตร์ท้องถิน่ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๘ เรื่อง ประเภทหลักฐานท่ใี ช้ ในการศกึ ษาความเปน็ มาของทอ้ งถิ่น เวลา ๑ คาบ • แบบประเมนิ ผลงานใบงานจำแนกประเภทหลักฐานท่ีใช้ในการศกึ ษาความเป็นมาของท้องถนิ่ • แบบประเมินสมรรถนะของผูเ้ รียน • แบบประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ของผเู้ รยี น • บนั ทึกหลงั สอน • สอ่ื / แหลง่ เรียนรู้

ห น ้ า | 13 แผนการจัดการเรียนรู้ กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ รายวิชา ส ๑๔๑๐๒ ประวตั ศิ าสตร์ เวลา ๔๐ คาบ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๓ เรื่อง การศึกษาประวตั ศิ าสตร์ท้องถิน่ เวลา ๕ คาบ แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ ๘ เรือ่ ง ประเภทหลกั ฐานทใี่ ชใ้ นการศึกษาความเป็นมาของท้องถิ่น เวลา ๑ คาบ ผ้สู อน นายกรี ติ ลำ่ ลือ วนั ท่ี ๓ สิงหาคม ๒๕๖๕ ๑. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวดั มาตรฐาน ส ๔.๑ เขา้ ใจความหมาย ความสําคัญของเวลา และยคุ สมัยทางประวตั ิศาสตร์ สามารถใช้วิธีการ ทางประวตั ศิ าสตร์มาวเิ คราะห์เหตุการณ์ตา่ ง ๆ อย่างเปน็ ระบบ ป.๔/๓ แยกแยะประเภทหลักฐานท่ใี ชใ้ นการศึกษาความเป็นมาของทอ้ งถิ่น ๒. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น ๑) ความสามารถในการสอ่ื สาร ๒) ความสามารถในการคดิ วิเคราะห์ ๓) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ๓. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ๑) ใฝเ่ รยี นรู้ ๒) มุ่งมนั่ การทำงาน ๔. สาระสำคัญ/สาระการเรยี นรู้ สาระสำคญั การสืบค้นประวัติความเป็นมาของครอบครัว โรงเรียน ชุมชน และเรื่องราวเหตุการณ์สำคัญในอดีตด้วย วิธีการทางประวตั ิศาสตร์ จากหลักฐานและแหล่งข้อมูลต่าง ๆ เป็นการใชว้ ิธกี ารทางประวัติศาสตร์อย่างง่าย ๆ สาระการเรยี นรู้ การจำแนกประเภทของหลกั ฐานทางประวัติศาสตรต์ ามลำดับขัน้ แบง่ ประเภทเป็นหลักฐานชั้นต้น และหลักฐานชนั้ รอง หากการจำแนกประเภทของหลักฐานทางประวัติศาสตร์ตามลักษณะของการบันทึกลายลักษณ์อักษร สามารถแบ่งออกได้เปน็ หลกั ฐานท่ไี มเ่ ป็นลายลกั ษณ์อักษร และหลักฐานทเี่ ปน็ ลายลกั ษณอ์ กั ษร ๕. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑) อธิบายประเภทหลกั ฐานท่ีใช้ในการศึกษาความเป็นมาของท้องถนิ่ ได้ (K) ๒) จำแนกประเภทหลกั ฐานทใี่ ชใ้ นการศึกษาความเปน็ มาของท้องถิน่ ได้ (S) ๓) เห็นความสำคัญของหลกั ฐานทใ่ี ช้ในการศกึ ษาความเป็นมาของท้องถ่นิ (A) ๔) อธิบาย จำแนกประเภท และเห็นความสำคัญของหลักฐานที่ใช้ในการศึกษาความเป็นมาของ ท้องถ่ิน (KSA)

ห น ้ า | 14 ๖. จดุ เน้นสู่การพฒั นาผ้เู รยี น ความสามารถและทักษะของผูเ้ รยี นศตวรรษท่ี ๒๑ (๓Rs x ๘Cs x ๒Ls) R1 - Reading : อา่ นออก R2 - (W)Riting : เขียนได้ C1 - Critical thinking and problem solving : ทักษะการคดิ วิเคราะห์ อยา่ งมวี จิ ารณญาณและ สามารถแก้ปัญหาได้ C4 - Collaboration teamwork and leadership : ความสามารถในการรว่ มมือกันทำงานเป็นทมี และมีภาวะความเป็นผู้นำ C5 - Communication information and media literacy : ทักษะในการสอื่ สารขอ้ มูล และการ รเู้ ท่าทันส่ือ L1 - Learning Skill : ทักษะการเรยี นรู้ L2 - Leadership : ทักษะดา้ นภาวะผ้นู ำ ๗. กจิ กรรมการเรยี นรู้ กระบวนการเรียนรู้ ๕ ข้นั ตอน (CO-5STEPs) ขน้ั ท่ี ๑ การเรียนรตู้ ง้ั คำถาม หรือขั้นต้ังคำถาม (Learning to Question) - ๕ นาที ๑) ครูสร้างความสนใจให้กับนักเรียนโดยการเล่นเกมถอดรหัสดาวินชี (Davinci) เกี่ยวกับสถานที่ ทอ่ งเท่ียวในจังหวัดหนองคาย จำนวน ๓ ขอ้ ๒) นักเรยี นรว่ มกนั ตอบคำถามโดยเชือ่ มโยงจากการเล่นเกม ดงั ตอ่ ไปน้ี “นกั เรยี นคิดวา่ สถานท่เี หล่าน้ีมีหลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตรใ์ ดปรากฏอยู่บ้าง ?” ( แนวคำตอบ : องค์พระพุทธรูป, ภาพถ่ายในอดีต, ภาพวาดจิตรกรรมฝาผนัง, การสร้างอนุสาวรีย์,การสร้าง องคจ์ ำลอง, หนงั สือประวัติสถานที่นั้น ๆ เปน็ ตน้ ) “นักเรยี นคิดว่าหลักฐานทางประวตั ิศาสตร์เหลา่ น้ีมคี วามแตกตา่ งกนั หรือไม่ อยา่ งไร ?” ( แนวคำตอบ : แตกต่างกัน เพราะ มีทั้งที่เป็นหลักฐานที่สร้างขึ้นมาใหม่ และหลักฐานที่มีมาตั้งแต่อดีต หรือ เป็นหลกั ฐานท่ีบันทกึ ไว้ด้วยตวั อกั ษร หรอื ภาพถา่ ย ภาพวาดกไ็ ด้ ) ๓) ครเู ช่ือมโยงเนอื้ หาประเภทหลักฐานทางประวัตศิ าสตร์ทใี่ ชใ้ นการศึกษาความเปน็ มาของท้องถิ่น ขนั้ ที่ ๒ การเรียนรู้แสวงหาสารสนเทศ (Learning to Search) - ๒๐ นาที ๔) นักเรียนรับฟังการบรรยายความรู้ประกอบหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง ประเภทหลักฐานทาง ป ร ะ ว ั ต ิ ศ า ส ต ร์ ท ี ่ ใ ช ้ ใ น ก า ร ศ ึ ก ษ า ค ว า ม เ ป ็ น ม า ข อ ง ท ้ อ ง ถ ิ ่ น จ า ก OBEC Content Center (https://contentcenter.obec.go.th/detail/book/109112) โดยการแสกนควิ อารโ์ ค้ด

ห น ้ า | 15 ๕) ครแู บ่งกล่มุ นกั เรยี นเป็น ๔ กลมุ่ กลุม่ คนละ ๓ คน โดยใช้เวบ็ ไซต์ Classdojo ๖) ครูแจก “กลอ่ งสุ่มพิมรี่ปอน” โดยภายในกลอ่ งจะมสี ติ้กเกอร์รูปภาพหลักฐานทางประวตั ิศาสตรใ์ น จังหวัดหนองคาย จำนวน ๕ รูปภาพ คละกันในแต่ละกลุม่ ให้นักเรียนได้อภิปรายแตล่ ะรูปภาพร่วมกนั ข้นั ที่ ๓ การเรียนรู้เพอื่ สรา้ งองค์ความรู้ (Learning to Construct) - ๑๔ นาที ๗) ครูแจกใบงานจำแนกประเภทหลักฐานที่ใช้ในการศึกษาความเป็นมาของท้องถิ่น แล้วนักเรียน ภายในกลุ่มร่วมกันพิจารณาจำแนกรูปภาพในกล่องสุ่ม จำนวน ๕ รูปภาพ ติดรูปภาพลงบนในใบงาน โดยให้จำแนกประเภทหลักฐานทางประวัติศาสตร์ พร้อมทั้งระบุความหมายของประเภทของหลักฐานทาง ประวตั ิศาตรท์ ่ใี ช้ในการศึกษาความเปน็ มาของท้องถ่นิ ใหถ้ ูกต้อง

ห น ้ า | 16 ขน้ั ที่ ๔ การเรียนรูเ้ พอ่ื การส่ือสาร (Learning to Communicate) - ๑๔ นาที ๘) นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอใบงานการจำแนกประเภทหลักฐานที่ใช้ในการศึกษาความเป็นมาของ ท้องถิ่นโดยใหเ้ วลากลุ่มละไมเ่ กิน ๒ นาทีในการนำเสนอ จากนั้นอภิปรายร่วมกันกับนักเรยี น พร้อมทั้งสรปุ ผล คะแนนความถกู ต้องของแต่ละกลุ่ม ๙) นักเรียนทำแบบทดสอบ เรื่อง ประเภทหลักฐานที่ใช้ในการศึกษาความเปน็ มาของทอ้ งถิ่น จำนวน ๕ ขอ้ โดยใชแ้ อพลิเคช่นั Plickers ๑๐) นกั เรียนและครูรว่ มกันสรุปส่ิงทไี่ ดร้ บั จากบทเรยี น โดยครูถามคำถาม ดังตอ่ ไปนี้ “นักเรยี นคิดวา่ การแบ่งประเภทของหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตรม์ คี วามสำคญั อย่างไร ?” ( แนวคำตอบ : เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาและรวบรวมข้อมูลเพื่อหาข้อเท็จจริงให้เข้าใจเกี่ยวกับ เหตุการณ์ที่ต่าง ๆ ทั้งในอดีตและปัจจุบัน และสามารถนำมาประเมินค่าความน่าเชื่อถือของหลักฐานทาง ประวตั ศิ าสตรต์ อ่ การศกึ ษาความเปน็ มาของท้องถิ่น) ข้นั ที่ ๕ การเรยี นรเู้ พ่ือตอบแทนสงั คม (Learning to Service) - ๕ นาที ๑๑) นักเรียนนำผลงานใบงานจำแนกประเภทหลักฐานที่ใช้ในการศึกษาความเป็นมาของท้องถิ่น ไปติดบอร์ดประชาสัมพันธ์ที่ห้องเรียนสังคมศึกษา โรงเรียนบ้านโนนสวรรค์ เพื่อเป็นการขยายความรู้เกีย่ วกับ การจำแนกหลกั ฐานทางประวัติศาสตรใ์ นจังหวัดหนองคาย ๘. สอ่ื / แหลง่ เรียนรู้ ๑) เกมถอดรหสั ดาวินชี เก่ยี วกับสถานทที่ ่องเที่ยวในจังหวดั หนองคาย จำนวน ๓ ข้อ ๒) หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง ประเภทหลักฐานที่ใช้ในการศึกษาความเป็นมาของท้องถ่ิน จาก OBEC Content Center (https://contentcenter.obec.go.th/detail/book/109112) ๓) เวบ็ ไซต์ Classdojo ๔) กล่องสุ่ม “พิมรี่ปอน” ประกอบไปด้วย สติ้กเกอร์รูปภาพหลักฐานทางประวัติศาสตร์ในท้องถิ่น จำนวน ๕ รูปภาพ แบบคละรูปภาพ ซึ่งรูปภาพอาจจะประกอบไปดว้ ย (๑) พระธาตุหล้าหนอง (๒) พระธาตุ หล้าหนอง (จำลอง) (๓) พระธาตุบังพวน (๔) หลวงพ่อพระใส (๕) หลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื๊อ (๖) หนังสือ ตำนานพญานาค (๗) ภาพถ่ายชุมชนริมฝั่งแม่น้ำโขง จ.หนองคาย ในปี ๒๔๙๑ (๘) ภาพจิตรกรรมฝาผนังวัด โพธิ์ชัย (พระอารามหลวง) (๙) อนุสาวรีย์ปราบฮ่อ (๑๐) ภาพยนตร์ เรื่อง ๑๔ ค่ำ เดือน ๑๑ (๑๑) จารึกวัด แดนเมือง ๒ (จารึกวัดปัจจันตบุรี) (๑๒) จารึกฐานพระพุทธรูปวัดเทพมงคล (๑๓) ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๗๐) (๑๔) นิราศหนองคาย ๕) ใบงานจำแนกประเภทหลักฐานทใี่ ช้ในการศึกษาความเป็นมาของท้องถิ่น ๖) แบบทดสอบ เรื่อง ประเภทหลักฐานที่ใช้ในการศึกษาความเป็นมาของท้องถิ่น จำนวน ๕ ข้อ โดยใช้แอพลเิ คชนั่ Plickers ๗) Plickers Card เพ่ือใช้ในการตอบแบบทดสอบตามจำนวนนักเรยี น

ห น ้ า | 17 ๙. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ประเมนิ อย่างไร ใคร ประเมนิ ประเมนิ ที่ ประเมนิ เวลาใด ไหน พฤตกิ รรม วิธีการ ประเมิน ครู เคร่ืองมือ ๑) อธิบายประเภทหลักฐานที่ ใชใ้ นการศึกษาความเปน็ มาของ ประเมินผล ท้องถ่นิ ได้ (K) แบบประเมนิ ใบงานจำแนก ๒) จำแนกประเภทหลักฐานที่ ใบงานจำแนก ประเภท ใช้ในการศึกษาความเป็นมาของ ประเภท หลักฐานทใี่ ช้ ทอ้ งถ่นิ ได้ (S) หลักฐานที่ใช้ ในการศึกษา ระหว่าง โรงเรียน เรยี น (ห้องเรียน ๓) เหน็ ความสำคญั ของ ในการศึกษา ความเป็นมา ชั้น ป.๔) หลกั ฐานที่ใช้ในการศึกษาความ ความเป็นมา ของทอ้ งถิน่ เป็นมาของท้องถ่ิน (A) ของทอ้ งถ่นิ นกั เรียน ๔) อธบิ าย จำแนกประเภท และ และการตอบ และเห็นความสำคญั ของ คำถาม คำถาม หลกั ฐานทใี่ ช้ในการศึกษาความ เปน็ มาของท้องถนิ่ (KSA)

ห น ้ า | 18 แบบประเมนิ ผลงานใบงานจำแนกประเภทหลกั ฐานที่ใชใ้ นการศกึ ษาความเป็นมาของท้องถนิ่ สมาชิก ๑)………เด…ก็ …ช…าย…ว…ีระ…ย…ทุ …ธ…ต…น้ …จ…า่ …………………………………………………………… เลขท่ี ....๑............. ๒)………เด…ก็ …ช…าย…โ…บ…ข…นั …เง…นิ …………………………………………………………………… เลขที่ ....๔............. ๓)………เด…ก็ …ห…ญ…งิ ด…า…ร…าก…า…น…ต์…เผ…ื่อ…แ…ผ่……………………………………………………… เลขที่ .....๕............ ๔)………เด…ก็ …ห…ญ…งิ อ…ณ…ชิ…ญ…า…อ…ฏิ …ฐ…าร…ตั …น…์ …………………………………………………… เลขที่ .....๗............ ๕)………เด…ก็ …ห…ญ…ิงต…ร…ีช…ฎ…าพ…ร…พ…ุ่ม…พ…นั …ฆ…้อ…ง ………………………………………………… เลขที่ .....๘............ ใหท้ ำเคร่ืองหมาย  ลงในช่องวา่ งคุณภาพการปฏิบัติงาน โดยมีเกณฑ์การใหค้ ะแนน ดังน้ี เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ได้ ๔ คะแนน ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมอยู่ในระดับดมี าก ได้ ๓ คะแนน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมอยู่ในระดบั ดี ได้ ๒ คะแนน ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมอยู่ในระดบั พอใช้ ได้ ๑ คะแนน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมอยู่ในระดับควรปรับปรงุ รายการประเมนิ คุณภาพการปฏบิ ตั ิงาน ๔๓๒ ๑ ๑) ความถกู ต้องของคำตอบ  ๒) การจำแนกประเภทของคำตอบ  ๓) การใหค้ วามรว่ มมือในการทำใบงาน  ๔) ความตรงต่อเวลา  ๕) การนำเสนอผลงาน  รวม ๑๙ เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ ๑๖-๒๐ ดมี าก ๑๑-๑๔ ดี ๖-๑๐ ๑-๕ พอใช้ ปรบั ปรุง

ห น ้ า | 19 แบบประเมนิ ผลงานใบงานจำแนกประเภทหลักฐานทใ่ี ช้ในการศกึ ษาความเปน็ มาของท้องถิ่น สมาชกิ ๑)………เด…ก็ …ช…าย…ส…หี …น…าท……สดุ…า…ท…ิพ…ย์………………………………………………………… เลขท่ี ....๒............. ๒)………เด…ก็ …ช…าย…ธ…รี ภ…ัท…ร……จ…าล…ำ……………………………………………………………… เลขที่ ....๑...๑.......... ๓)………เด…็ก…ห…ญ…งิ ร…่งุ …น…ภา……ธร…ร…มว…ง…ษ…า ……………………………………………………… เลขที่ .....๖............ ๔)………เด…ก็ …ห…ญ…งิ ก…ม…ล…ช…น…ก…เด…ีย…น…งา…ม……………………………………………………… เลขท่ี .....๑...๐......... ๕)………เด…็ก…ห…ญ…ิงย…ุพ…า…ร…ัตน…์ ……เอ…ยี่ …มเ…ว…ียง…………………………………………………… เลขที่ .....๑...๔......... ให้ทำเครื่องหมาย  ลงในช่องว่างคุณภาพการปฏบิ ัตงิ าน โดยมเี กณฑ์การใหค้ ะแนน ดังนี้ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ได้ ๔ คะแนน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมอยู่ในระดับดีมาก ได้ ๓ คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยู่ในระดบั ดี ได้ ๒ คะแนน ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมอยู่ในระดับพอใช้ ได้ ๑ คะแนน ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมอยู่ในระดับควรปรับปรงุ รายการประเมนิ คุณภาพการปฏิบตั ิงาน ๔๓๒ ๑ ๑) ความถกู ตอ้ งของคำตอบ  ๒) การจำแนกประเภทของคำตอบ ๓) การใหค้ วามร่วมมือในการทำใบงาน  ๔) ความตรงต่อเวลา  ๕) การนำเสนอผลงาน  รวม  ๑๘ เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ๑๖-๒๐ ดีมาก ๑๑-๑๔ ดี ๖-๑๐ ๑-๕ พอใช้ ปรับปรุง

ห น ้ า | 20 แบบประเมนิ ผลงานใบงานจำแนกประเภทหลกั ฐานท่ีใชใ้ นการศึกษาความเปน็ มาของทอ้ งถ่ิน สมาชิก ๑)………เด…็ก…ช…าย…ช…าน…น…ท…์ …สุว…ร…รณ…ว…ง…ษ…์ …………………………………………………… เลขที่ ....๓............. ๒)………เด…็ก…ช…าย…ศ…ภุ …ก…ิจ…ไ…ชย…ส…ท…า้ …น………………………………………………………… เลขที่ ....๑...๒.......... ๓)………เด…ก็ …ช…าย…ก…ฤ…ษ…ณ…ะ…ส…มุ …า…ริน…ท…ร…์ …………………………………………………… เลขท่ี .....๑..๓.......... ๔)………เด…็ก…ห…ญ…งิ ก…ลุ …ธ…ดิ …า …ผา่…น…พ…เิ ค…ร…าะ…ห…์ ………………………………………………… เลขที่ .....๙............ ๕)…………………………………………………………………………………………………… เลขที่ ................. ให้ทำเคร่ืองหมาย  ลงในช่องว่างคุณภาพการปฏิบตั ิงาน โดยมเี กณฑ์การใหค้ ะแนน ดังนี้ เกณฑ์การให้คะแนน ได้ ๔ คะแนน ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมอยู่ในระดบั ดีมาก ได้ ๓ คะแนน ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมอยู่ในระดบั ดี ได้ ๒ คะแนน ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมอยู่ในระดับพอใช้ ได้ ๑ คะแนน ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมอยู่ในระดับควรปรับปรงุ รายการประเมิน คณุ ภาพการปฏบิ ตั งิ าน ๔๓๒ ๑ ๑) ความถูกตอ้ งของคำตอบ ๒) การจำแนกประเภทของคำตอบ  ๓) การให้ความรว่ มมือในการทำใบงาน  ๔) ความตรงต่อเวลา ๕) การนำเสนอผลงาน   รวม  ๑๘ เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ๑๖-๒๐ ดีมาก ๑๑-๑๔ ดี ๖-๑๐ ๑-๕ พอใช้ ปรบั ปรุง

ห น ้ า | 21 รายละเอียดเกณฑ์การใหค้ ะแนนแบบประเมินผลงาน ประเดน็ การประเมิน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ๔ ๓๒ ๑ ๑) ความถูกตอ้ งและ คำตอบมีความ คำตอบมคี วาม คำตอบมีความ คำตอบไม่ถูกต้อง ถกู ต้อง คำตอบมี ถกู ต้องสมบรู ณ์ ไมช่ ดั เจน และไม่ ความชดั เจนของ ถูกต้องสมบูรณ์ ความชัดเจน แต่ น้อย มคี วาม ตรงประเดน็ คำตอบ มาก มคี วาม ชดั เจนของ ไม่ตรงประเดน็ ชดั เจนของ คำตอบน้อย และ คำตอบมาก ตรง ไม่ตรงประเด็น ประเด็น และ ครอบคลุม ๒) การจำแนก การจำแนก การจำแนก การจำแนก การจำแนก ประเภทของคำตอบ ประเภทของ ประเภทของ ประเภทของ ประเภทของ คำตอบได้ถูกต้อง คำตอบได้ถูกต้อง คำตอบได้ถูกต้อง คำตอบไดถ้ ูกต้อง ครบทุกขอ้ ได้ ๔ ขอ้ ได้ ๓ ข้อ ได้ ๒-๑ ขอ้ ๓) การให้ความ มีความรว่ มมือกนั มคี วามร่วมมือ มคี วามร่วมมือ ไมม่ ี ร่วมมอื ในการทำใบ งาน ในกลมุ่ ทำงาน กันในกลมุ่ ทำงาน กนั ในกล่มุ แตไ่ ม่ ความรว่ มมือกัน ๔) ความตรงต่อเวลา ด้วยความ ดว้ ยความกระตือ มคี วามกระตือรอื ในทำใบงานเลย กระตือรอื รน้ และ รือรน้ แต่ไม่มกี าร รน้ และไม่มีการ ไมส่ นใจทำงาน แสดงความ แสดงความ แสดงความ หยอกล้อและสรา้ ง คดิ เหน็ ระหว่าง คิดเห็นภายใน คิดเหน็ ระหวา่ ง ความว่นุ วาย การทำงาน กลุม่ การทำงาน สง่ งานและ ส่งงานและ ส่งงานและ สง่ งานและ นำเสนอผลงาน นำเสนอผลงานช้า นำเสนอผลงานช้า นำเสนอผลงานชา้ ภายในเวลาที่ กวา่ กำหนด กว่ากำหนด กว่าเวลาที่กำหนด กำหนด ๑-๒ นาที ๓-๕ นาที มากกว่า ๕ นาที ๕) การนำเสนอ นำเสนอเน้ือหาได้ นำเสนอเน้อื หาได้ นำเสนอเนอ้ื หาได้ นำเสนอเนื้อหาได้ ผลงาน อยา่ งถูกต้องตรง อย่างถูกต้องตรง อย่างถูกต้องตรง ไมถ่ ูกต้องตรง ประเดน็ และ ประเด็นและ ประเดน็ และ ประเดน็ และ ครอบคลุม ครอบคลุมครบ ครอบคลุม ครอบคลุม ครบถว้ นมาก ถว้ นปานกลาง ครบถ้วนน้อย ครบถ้วนเลย

ห น ้ า | 22 แบบประเมนิ สมรรถนะของผู้เรียน ให้เติมคะแนนระดบั คุณภาพ ลงในชอ่ งว่างคุณภาพการปฏบิ ัตงิ าน โดยมีเกณฑ์การให้คะแนน ดงั น้ี เกณฑก์ ารให้คะแนน ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยู่ในระดบั ดีเย่ียม ได้ ๓ คะแนน ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมอยู่ในระดับดี ได้ ๒ คะแนน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมอยู่ในระดบั พอใช้ ได้ ๑ คะแนน ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมอยู่ในระดับปรบั ปรุง ได้ ๐ คะแนน สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น สมรรถนะที่ 1 สมรรถนะที่ ๒ สมรรถนะที่ ๕ ความสามารถในการสือ่ สาร ความสามารถใน ความสามารถใน การใชเ้ ทคโนโลยี ช่ือ-สกุล การคิด ที่ ตัว ้ีช ัวด ่ีท ๑.๑ ัตว ี้ช ัวด ีท่ ๑.๒ ตัว ้ีช ัวดที่ ๑.๓ ค่าเฉลี่ย ระ ัดบ ุคณภาพ ัตว ้ีช ัวด ่ที ๑ ค่าเฉลี่ย ระดับคุณภาพ ัตว ้ีช ัวดท่ี ๑.๑ ค่าเฉ ี่ลย ระ ัดบคุณภาพ ๑ เดก็ ชายวรี ะยุทธ ตน้ จา่ ๓ ๓ ๓ ๓ ดเี ยี่ยม ๓ ๓ ดเี ยีย่ ม ๓ ๓ ดีเยย่ี ม ๒ เดก็ ชายสหี นาท สุดาทพิ ย์ ๓ ๓ ๒ ๒.๖ ดี ๒ ๒ ดี ๒ ๒ ดี ๓ เด็กชายชานนท์ สุวรรณวงษ์ ๓ ๓ ๓ ๓ ดีเยย่ี ม ๓ ๓ ดเี ยย่ี ม ๓ ๓ ดีเยย่ี ม ๔ เดก็ ชายโบ ขนั เงิน ๓ ๓ ๓ ๓ ดเี ยีย่ ม ๓ ๓ ดีเยี่ยม ๓ ๓ ดเี ยี่ยม ๕ เดก็ หญงิ ดารากานต์ เผอ่ื แผ่ ๓ ๓ ๓ ๓ ดีเยีย่ ม ๒ ๒ ดี ๓ ๓ ดีเยย่ี ม ๖ เด็กหญิงรุ่งนภา ธรรมวงษา ๓ ๓ ๓ ๓ ดเี ยี่ยม ๓ ๓ ดีเยี่ยม ๓ ๓ ดเี ยี่ยม ๗ เด็กหญิงอณิชญา อฏิ ฐารตั น์ ๓ ๓ ๓ ๓ ดีเยี่ยม ๓ ๓ ดเี ยี่ยม ๓ ๓ ดีเยย่ี ม ๘ เด็กหญงิ ตรีชฎาพร พมุ่ พันฆอ้ ง ๓ ๒ ๓ ๒.๖ ดี ๒ ๒ ดี ๓ ๓ ดีเยย่ี ม ๙ เด็กหญงิ กุลธดิ า ผา่ นพิเคราะห์ ๓ ๓ ๓ ๓ ดีเยี่ยม ๓ ๓ ดเี ยย่ี ม ๓ ๓ ดีเยยี่ ม ๑๐ เดก็ ชายธรี ภทั ร จาลำ ๓ ๓ ๒ ๒.๖ ดี ๓ ๓ ดีเยย่ี ม ๒ ๓ ดเี ยย่ี ม ๑๑ เดก็ หญงิ กมลชนก เดียนงาม ๓ ๒ ๒ ๒.๓ ดี ๒ ๒ ดี ๓ ๓ ดีเยี่ยม ๑๒ เด็กชายศภุ กจิ ไชยสท้าน ๓ ๓ ๓ ๒.๓ ดี ๒ ๒ ดี ๒ ๒ ดี ๑๓ เดก็ ชายกฤษณะ สมุ ารินทร์ ๓ ๓ ๓ ๓ ดีเยี่ยม ๓ ๓ ดีเยยี่ ม ๓ ๓ ดีเยีย่ ม ๑๔ เด็กหญงิ ยพุ ารัตน์ เอี่ยมเวยี ง ๒ ๓ ๒ ๒.๓ ดี ๓ ๓ ดเี ยี่ยม ๒ ๒ ดี รวม ๔๑ ๔๐ ๓๘ ๓๘.๗ ดี ๓๗ ๓๗ ดี ๓๘ ๓๘ ดี ค่าเฉลี่ย ๒.๙ ๒.๘ ๒.๗ ๒.๗ ๒.๖ ๒.๖ ๒.๗ ๒.๗ รอ้ ยละ ๙๔.๔๓ ๘๘.๐๙ ๙๐.๔๗ ๙๐.๙๙

ห น ้ า | 23 รายละเอียดเกณฑ์การให้คะแนนแบบประเมินสมรรถนะของผู้เรียน พฤตกิ รรมบ่งชี้ ดีเยย่ี ม (๓) เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ปรบั ปรงุ (๐) ดี (๒) พอใช้ (๑) สมรรถนะที่ 1 ความสามารถในการสอื่ สาร ตัวช้ีวดั ท่ี ๑ ใชภ้ าษาถา่ ยทอดความรู้ ความเขา้ ใจ ความคดิ ความรู้สกึ และทัศนะของตนด้วยการพูดและการเขยี น 1. พูดถ่ายทอด พดู ถา่ ยทอดความรู้ พูดถา่ ยทอดความรู้ พดู ถ่ายทอดความรู้ พูดถ่ายทอด ความรู้ความเข้าใจ ความเขา้ ใจจากสารท่ี ความเข้าใจจากสาร ความเข้าใจจากสาร ความร้คู วามเข้าใจ จากสารทอ่ี ่าน ฟงั อ่าน ฟงั หรือดตู ามที่ ที่อ่าน ฟัง หรอื ดู ทอี่ า่ น ฟัง หรือดู จากสารที่อ่าน ฟงั หรอื ดู ตามท่ี กำหนดได้อยา่ ง ตามท่ีกำหนดได้ ตามทก่ี ำหนด หรอื ดตู ามท่ี กำหนดได้ ถูกต้อง ครบถ้วน อยา่ งถูกต้อง ได้ไม่ชดั เจน กำหนดไมไ่ ด้ ชดั เจนและม่นั ใจ ครบถ้วน ชัดเจน ๒. พดู ถา่ ยทอด พดู ถา่ ยทอดความคดิ พดู ถา่ ยทอด พดู ถ่ายทอด พดู ถา่ ยทอด ความคดิ ความร้สู ึก ความรสู้ กึ และทศั นะ ความคดิ ความรูส้ ึก ความคดิ ความรู้สึก ความคิดความรูส้ กึ และทศั นะของ จากสารทอ่ี า่ น ฟงั และทศั นะ จากสาร และทศั นะจากสาร และทศั นะจากสาร ตนเองจากสารที่ หรือดู ตามที่กำหนด ทีอ่ า่ น ฟัง หรอื ดู ทอ่ี ่าน ฟัง หรอื ดู ท่ีอา่ น ฟัง หรือดู อา่ น ฟงั หรือดู ไดอ้ ย่างสมเหตสุ มผล ตามท่ีกำหนด ตามท่กี ำหนด ตามท่ีกำหนดให้ ตามที่กำหนดได้ ชดั เจน และมน่ั ใจ ได้อยา่ งมเี หตุผล โดยมเี หตุผล ไม่ได้ ไมเ่ พียงพอ ๓. เขียนถ่ายทอด เขยี นถ่ายทอดความรู้ เขียนถ่ายทอด เขยี นถา่ ยทอด เขียนถ่ายทอด ความรู้ ความเข้าใจ ความเขา้ ใจจากสารที่ ความรู้ ความเข้าใจ ความรูค้ วามเข้าใจ ความรู้ความเข้าใจ จากสารท่ีอา่ น ฟงั อา่ น ฟงั หรือดู ตามท่ี จากสารทอ่ี า่ น ฟัง จากสารท่ีอ่าน ฟงั จากสารทอ่ี า่ น ฟงั หรือดู ตามท่ี กำหนดได้อย่าง หรือดู ตามท่ี หรือดู ตามท่ี หรือดู ตามที่ กำหนดได้ ถูกต้อง ครบถว้ น มี กำหนดได้อยา่ ง กำหนดไว้ และมี กำหนดไมไ่ ด้ ข้อบกพร่องในการใช้ ถูกต้อง ครบถ้วน ข้อบกพร่องในการ ภาษาวรรคตอนและ มขี ้อบกพร่องใน ใช้ภาษาวรรคตอน การเขยี นคำไมเ่ กนิ ๒ การใช้ภาษา วรรค และการเขียนคำ แห่ง ตอนและการเขยี น ตงั้ แต่ 6 แหง่ ข้ึนไป คำต้ังแต่ 3 แหง่ แตไ่ ม่เกิน 5 แหง่

ห น ้ า | 24 รายละเอียดเกณฑ์การใหค้ ะแนนแบบประเมนิ สมรรถนะของผ้เู รียน (ต่อ) พฤติกรรมบ่งช้ี เกณฑ์การให้คะแนน ๓. คิดอยา่ งมี ดเี ย่ียม (๓) ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรบั ปรุง (๐) วจิ ารณญาณ เพื่อ นำไปสกู่ ารสรา้ ง สมรรถนะท่ี ๒ ความสามารถในการคดิ คดิ แบบองค์รวม องค์ความรหู้ รือ โดยใช้เหตผุ ล สารสนเทศ ตวั ช้ีวดั ท่ี ๒ คิดขน้ั สูง (คิดอยา่ งมีวจิ ารณญาณ) หลักฐานเชงิ ประกอบการ ตรรกะมา ตัดสินใจ เกี่ยวกับ คิดแบบองค์รวมโดย คิดแบบองคร์ วม คิดแบบองค์รวม วิเคราะห์ส่ิงต่าง ๆ ตนเองและสังคมได้ อยา่ งสมเหตสุ มผล อยา่ งเหมาะสม ใชเ้ หตผุ ล หลกั ฐาน โดยใชเ้ หตผุ ล โดยใชเ้ หตผุ ล ไม่ได้ ๑. เลือกและใช้ เชิงตรรกะ หลกั ฐานเชิงตรรกะ หลกั ฐานเชงิ ตรรกะ เทคโนโลยใี นการ ใชเ้ ทคโนโลยีใน เรียนรูอ้ ยา่ ง มาวเิ คราะห์สิ่งต่าง ๆ มาวเิ คราะห์ มาวเิ คราะห์ การสืบคน้ ค้นควา้ สร้างสรรค์ และมี รวบรวม ความรไู้ ด้ คุณธรรม ให้แนช่ ดั อย่าง สง่ิ ตา่ ง ๆ อยา่ ง สง่ิ ตา่ ง ๆ แตไ่ ม่ โดยมีผู้แนะนะ สมเหตุสมผลและ สมเหตุสมผล สมเหตุสมผล หรอื ควบคมุ สรปุ /ตัดสินใจเลือก แต่ไม่ครอบคลมุ ทุก ทางเลือกท่เี หมาะสม ดา้ น ต่อตนเองและสงั คม ได้ สมรรถนะที่ ๕ ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ตวั ชีว้ ัดท่ี ๑ เลอื กและใช้เทคโนโลยีเพอ่ื พัฒนาตนเองและสังคม เลอื กและใช้ เลือกและใช้ ใช้เทคโนโลยีในการ เทคโนโลยที ี่ เทคโนโลยีท่ี สืบคน้ ค้นควา้ เหมาะสมในการ เหมาะสมในการ สบื คน้ คน้ คว้า สืบค้น คน้ คว้า รวบรวม ความรไู้ ด้ รวบรวม สรุปความรู้ รวบรวม ความรู้ได้ ด้วยตนเองอย่าง ไดด้ ้วยรูปแบบของ ด้วยตนเองอย่าง ตนเองอยา่ ง ถูกต้อง สรา้ งสรรค์ ถูกต้อง

ห น ้ า | 25 แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ของผู้เรียน ให้เติมคะแนนระดบั คุณภาพ ลงในชอ่ งว่างคุณภาพการปฏบิ ัติงาน โดยมเี กณฑก์ ารใหค้ ะแนน ดังน้ี เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยู่ในระดบั ดเี ยี่ยม ได้ ๓ คะแนน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมอยู่ในระดบั ดี ได้ ๒ คะแนน ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมอยู่ในระดับพอใช้ ได้ ๑ คะแนน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมอยู่ในระดบั ปรบั ปรุง ได้ ๐ คะแนน การประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ เลขที่ ชอ่ื -สกุล ใฝ่เรยี นรู้ ม่งุ ม่ันการ เฉลีย่ ผลการ ๓ ทำงาน ประเมนิ คะแนนเต็ม ๓ 3 1 เด็กชายวีระยทุ ธ ต้นจ่า 3 3 3 ดีเยย่ี ม 2 เด็กชายสหี นาท สดุ าทิพย์ 2 3 2.5 ดี 3 เด็กชายชานนท์ สวุ รรณวงษ์ 4 เดก็ ชายโบ ขันเงิน 3 3 3 ดเี ยย่ี ม 5 เด็กหญงิ ดารากานต์ เผื่อแผ่ 6 เดก็ หญงิ รุง่ นภา ธรรมวงษา 3 3 3 ดเี ยย่ี ม 7 เด็กหญงิ อณิชญา อิฏฐารตั น์ 8 เดก็ หญงิ ตรีชฎาพร พมุ่ พนั ฆอ้ ง 3 3 3 ดเี ยีย่ ม 9 เด็กหญงิ กลุ ธดิ า ผ่านพเิ คราะห์ 10 เดก็ ชายธรี ภทั ร จาลำ 3 3 3 ดีเยี่ยม 11 เด็กหญงิ กมลชนก เดยี นงาม 12 เดก็ ชายศุภกิจ ไชยสท้าน 3 3 3 ดีเยี่ยม 13 เดก็ ชายกฤษณะ สมุ ารนิ ทร์ 14 เด็กหญงิ ยุพารตั น์ เอ่ยี มเวียง 3 3 3 ดเี ยี่ยม รวม 3 3 3 ดีเยย่ี ม รอ้ ยละ 3 3 3 ดีเย่ียม 2 3 2.5 ดี 3 3 3 ดีเยย่ี ม 3 3 3 ดีเยย่ี ม 3 2 2.5 ดี 2.85 2.92 2.89 95.23 97.61 96.42

ห น ้ า | 26 บนั ทึกหลังสอน ผลการจัดการเรยี นการสอน 1. จากการจัดการเรยี นรูต้ ามแผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๘ เรือ่ ง ประเภทหลักฐานที่ใช้ในการศกึ ษาความ เป็นมาของท้องถ่ิน นกั เรียนจำนวน ๑๔ คน ผลปรากฏวา่ นกั เรียนสามารถ  มีความรู้ ความเข้าใจ ให้ความ สนใจและต้ังใจเรยี น 1) อธิบายประเภทหลกั ฐานที่ใชใ้ นการศึกษาความเป็นมาของท้องถิน่ ได้ (K) ผ่าน คิดเป็นร้อยละ 91.43 ๒) จำแนกประเภทหลกั ฐานที่ใชใ้ นการศึกษาความเปน็ มาของท้องถิ่นได้ (S) ผา่ น คิดเป็นรอ้ ยละ 91.43 ๓) เห็นความสำคัญของหลักฐานทีใ่ ช้ในการศกึ ษาความเปน็ มาของท้องถ่ิน (A) ผ่าน คดิ เป็นร้อยละ 91.43 2. นกั เรยี นผา่ นการประเมนิ สมรรถนะทสี่ ำคญั คดิ เป็นรอ้ ยละ ๙๐.๙๙ ไม่ผ่าน คดิ เป็นร้อยละ ๙.๐๑ 3. นกั เรยี นผา่ นการประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ คดิ เป็นรอ้ ยละ 96.42 ไม่ผา่ น คดิ เป็นรอ้ ยละ ๓.๕๘ 4. เวลาในการจัดการเรยี นรู้  ตรงตามแผนฯ  น้อยกวา่ แผนฯ  มากกว่าแผนฯ 5. การใช้ส่อื / แหล่งเรียนรู้  ตรงตามแผนฯ  ไมต่ รงตามแผนฯ ๖. ปัญหา/อปุ สรรค ประเดน็ ที่ 1 การแบง่ กลุม่ ทำงานด้วยการสมุ่ ทำให้นักเรียนบางคนไมพ่ อใจ ประเดน็ ที่ 2 ระยะเวลา 60 นาที ซง่ึ ตอ้ งจดั กิจกรรมการเรียนรู้มีกิจกรรมทหี่ ลากหลาย ประเด็นท่ี 3 ทักษะดา้ นการอ่านของนักเรยี น เกดิ ปัญหาเม่ือตอ้ งให้ศึกษาความรเู้ พ่ิมเติมด้วยตนเอง ประเด็นที่ ๔ นักเรยี นบางส่วนยงั ไม่มีเครอ่ื งมือส่ือสาร หรือเทคโนโลยใี นการศึกษาหาความรู้ ๗. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข ประเดน็ ท่ี 1 ช้ีแจงสร้างความเข้าใจในกระบวนกการทำงานกลมุ่ ประเดน็ ท่ี 2 ปรับเวลากบั กิจกรรมการสอนใหเ้ หมาะสมกับการทำงานของนกั เรยี นมากยิ่งข้ึน ประเด็นที่ 3 ครูผสู้ อนอ่านนำกอ่ นทำกิจกรรมหรือแบ่งกลุม่ ให้ไปอยู่ในกลมุ่ ที่มีเพื่อนที่อ่านเขียนได้ ประเดน็ ที่ ๔ นักเรยี นบางสว่ นยงั ไม่มเี ครื่องมือส่ือสาร หรอื เทคโนโลยีในการศึกษาหาความรู้ ลงชือ่ .............................................................. ( นายกีรติ ล่ำลือ ) ครผู ู้ช่วย โรงเรยี นบ้านโนนสวรรค์ วนั ท่ี ๓ เดอื นสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๕

ห น ้ า | 27 ความคิดเห็นของครูพเ่ี ลีย้ ง แผนการจดั การเรียนรู้มีความทันสมัยและมีความหลากหลาย เกิดความน่าสนใจ ลงชอ่ื .............................................................. ( นางสุดาทิพย์ สนั่นเอื้อ ) ครชู ำนาญการพิเศษ ความคิดเห็นของหัวหน้ากลุ่มงานวิชาการ เป็นแผนท่ีดเี หมาะสมกับผเู้ รยี น สามารถนำไปใช้ได้ ลงชอื่ .............................................................. ( นายปรีชา ไชยดี ) หวั หน้ากลุม่ งานวชิ าการ ความคดิ เห็นของผูบ้ ริหารสถานศึกษา ทราบ ลงชอ่ื .............................................................. ( นายอภศิ ร ทิพเสนา ) ผ้อู ำนวยการโรงเรยี นบ้านโนนสวรรค์

ห น ้ า | 28 ส่ือ/ แหล่งเรยี นรู้ ๑) เกมถอดรหัสดาวนิ ชี (Davinci) เก่ยี วกบั สถานท่ีทอ่ งเท่ียวในจังหวัดหนองคาย

ห น ้ า | 29 ๒) หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง ประเภทหลักฐานที่ใช้ในการศึกษาความเป็นมาของท้องถ่ิน จาก OBEC Content Center (https://contentcenter.obec.go.th/detail/book/109112)

ห น ้ า | 30 ๓) เว็บไซต์ Classdojo

ห น ้ า | 31 ๔) กล่องสุ่ม “พมิ รปี่ อน” ประกอบไปดว้ ย ๕) สติ้กเกอรภ์ าพหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตรใ์ นทอ้ งถิน่

ห น ้ า | 32 ๖) ใบงานจำแนกประเภทหลักฐานทใี่ ช้ในการศึกษาความเปน็ มาของท้องถิน่

ห น ้ า | 33 ๗) แบบทดสอบ เรื่อง ประเภทหลักฐานที่ใชใ้ นการศึกษาความเป็นมาของท้องถิ่น จำนวน ๕ ข้อ โดย ใชแ้ อพลเิ คช่ัน Plickers ประกอบดว้ ยคำถามในแบบทดสอบ จำนวน ๕ ข้อ

ห น ้ า | 34 ๘) Plickers Card ทใ่ี ช้ในการตอบแบบทดสอบ

ห น ้ า | 35 ผลงานใบงานจำแนกประเภทหลกั ฐานท่ใี ชใ้ นการศกึ ษาความเปน็ มาของท้องถ่ิน กลุ่มที่ 1

ห น ้ า | 36 ผลงานใบงานจำแนกประเภทหลกั ฐานท่ใี ชใ้ นการศกึ ษาความเปน็ มาของท้องถ่ิน กลุ่มที่ ๒

ห น ้ า | 37 ผลงานใบงานจำแนกประเภทหลกั ฐานท่ใี ชใ้ นการศกึ ษาความเปน็ มาของท้องถ่ิน กลุ่มที่ ๓

ห น ้ า | 38 ประวัตผิ เู้ สนอผลงาน ชือ่ - สกลุ นายกีรติ ล่ำลอื วัน เดือน ปเี กดิ ทอ่ี ยปู่ ัจจบุ ัน ๑๙ มถิ ุนายน พ.ศ. ๒๕๔๐ การศึกษา บ้านเลขที่ ๕๓/๑ หมู่ ๑ ตำบลหาดคำ อำเภอเมอื งหนองคาย จังหวดั หนองคาย รหัสไปรษณีย์ ๔๓๐๐๐ อาชพี ปจั จุบนั ตำแหน่ง ปริญญาตรี ศึกษาศาสตรบณั ฑิต สาขาวิชาสังคมศึกษา การปฏบิ ัติการสอน มหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น สถานท่ที ำงาน ข้าราชการครู สงั กัดหน่วยงาน เบอร์โทรศพั ทม์ อื ถอื ครูผชู้ ว่ ย E-mail รายวิชาสังคมศกึ ษา ระดับชนั้ ป.๒ - ป.๕ รายวิชาภาษาไทย และภาษาองั กฤษ ระดับชั้น ป.๒ โรงเรียนบา้ นโนนสวรรค์ สำนกั งานเขตพื้นทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษาหนองคาย เขต ๒ ๐๖๒ ๒๘๑ ๖๕๑๕ [email protected]


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook