บทที่ 1 ความรูเ้ บือ้ งตน้ เก่ยี วกับการสื่อสาร ความรเู้ บื้องตน้ เกี่ยวกับการสอื่ สาร 1. ความหมายของการสอื่ สาร 2. ความสำคญั ของการสือ่ สาร 3. องคป์ ระกอบของการ สอื่ สาร 4. หลักในการสอ่ื สาร 5. วัตถุประสงค์ในการส่ือสาร 6. ประเภทของการสือ่ สาร 7. ปจั จัยทช่ี ่วยให้การสอ่ื สารประสบผลสำเร็จ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ บอกความหมายของการสอื่ สารไดถ้ ูกตอ้ ง บรรยายความสำคญั ของการส่อื สารได้ จำแนกองค์ประกอบและประเภทของการส่ือสารได้ ช้แี จงหลักการและวตั ถปุ ระสงค์ของการสอื่ สารได้ วเิ คราะห์อุปสรรคและแก้ปัญหาในการส่อื สารได้ ความรพู้ ื้นฐานเร่ืองการส่ือสาร การสือ่ สารเป็นปจั จัยสำคญั ในการดำรงชีวิต มนษุ ย์จำเป็นต้องติดตอ่ สื่อสารกนั อยู่ตลอดเวลา การสือ่ สารจงึ เป็นปจั จัยสำคัญอย่าง หนึ่งนอกเหนือจากปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิตของมนุษย์ การสื่อสารมีบทบาทสำคัญต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์มาก การ สื่อสารมีความสำคัญอย่างยิ่งในปัจจุบัน ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นยุคโลกาภิวัตน์ เป็นยุคของข้อมูลข่าวสาร การสื่อสารมี ประโยชน์ทั้งในแง่ บุคคลและสงั คม การสื่อสารทำใหค้ นมีความรู้และโลกทศั นท์ กี่ วา้ งขวางขึ้น การสือ่ สารเปน็ กระบวนการที่ทำใหส้ ังคม เจรญิ ก้าวหนา้ อยา่ งไม่หยดุ ยง้ั ทำใหม้ นษุ ยส์ ามารถสืบทอดพัฒนา เรียนรู้ และรบั รู้วัฒนธรรมของตนเองและสังคมได้ การส่อื สารเปน็ ปจั จัยสำคัญ ในการพัฒนาประเทศ สรา้ งสรรค์ความเจริญกา้ วหน้าแก่ชมุ ชน และสงั คมในทกุ ด้าน ความหมายของการสื่อสาร คำว่า การสื่อสาร (communications) มีที่มาจากรากศัพท์ภาษาลาตินว่า communis หมายถึง ความเหมือนกันหรือ ร่วมกัน การสอื่ สาร (communication) หมายถงึ กระบวนการถ่ายทอดข่าวสาร ข้อมลู ความรู้ ประสบการณ์ ความรสู้ ึก ความ คิดเห็น ความต้องการจากผู้ส่งสารโดยผ่านส่ือต่าง ๆ ที่อาจเปน็ การพูด การเขยี น สัญลกั ษณ์อน่ื ใด การแสดงหรอื การจัดกิจกรรมต่าง ๆ ไปยังผ้รู บั สาร ซ่ึงอาจจะใช้กระบวนการสื่อสารทแี่ ตกต่างกนั ไปตามความเหมาะสม หรอื ความจำเปน็ ของตนเองและคู่สื่อสาร โดย มีวัตถุประสงค์ให้เกิดการรบั รรู้ ว่ มกันและมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อกัน บรบิ ททางการสือ่ สารท่เี หมาะสมเปน็ ปจั จัยสำคัญที่จะช่วยให้ การสอ่ื สารสมั ฤทธิผ์ ล
ความสำคัญของการสือ่ สาร การสื่อสารมีความสำคญั ดังนี้ 1. การสื่อสารเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิตของมนุษย์ทุกเพศ ทุกวัย ไม่มีใครที่จะดำรงชีวิตได้ โดยปราศจากการสื่อสาร ทุก สาขาอาชีพก็ต้องใช้การสื่อสารในการปฏิบัติงาน การทำธุรกิจต่าง ๆ โดยเฉพาะสังคมมนุษย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนา ตลอดเวลา พฒั นาการทางสงั คม จงึ ดำเนินไปพรอ้ ม ๆ กบั พัฒนาการทางการสื่อสาร 2. การสื่อสารก่อให้เกิดการประสานสัมพันธ์กันระหว่างบุคคลและสังคม ช่วยเสริมสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างคนในสังคม ช่วยสืบทอดวฒั นธรรมประเพณี สะท้อนให้เห็นภาพความเจริญรุ่งเรือง วิถีชีวิตของผู้คน ช่วยธำรงสังคมให้อยู่ร่วมกันเป็นปกติสขุ และอย่รู ว่ มกันอย่างสนั ติ 3. การสื่อสารเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาความเจริญก้าวหน้าทั้งตัวบุคคลและสังคม การพัฒนาทางสังคมในด้านคุณธรรม จริยธรรม วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ฯลฯ รวมทั้งศาสตร์ในการสื่อสาร จำเป็นตอ้ งพฒั นาอย่างไมห่ ยดุ ยั้ง การสื่อสารเป็นเครื่องมือ ในการพฒั นาคณุ ภาพชีวติ ของมนุษย์และพฒั นาความเจรญิ ก้าวหน้าในด้านต่าง ๆ องค์ประกอบของการสื่อสาร องค์ประกอบทส่ี ำคญั ของการสื่อสาร มี 4 ประการ ดังนี้ 1. ผู้ส่งสาร (sender) หรือ แหล่งสาร (source) หมายถึง บุคคล กลุ่มบุคคล หรือ หน่วยงานที่ทำหน้าที่ในการส่งสาร หรือเป็นแหล่งกำเนิดสาร ที่เป็นผู้เริ่มต้นส่งสารด้วยการแปลสารนั้นให้อยู่ในรูปของสัญลักษณ์ที่มนุษย์สร้างขึ้นแทนความคิด ได้แก่ ภาษาและอากัปกิริยาต่าง ๆ เพื่อสื่อสารความคิด ความรู้สึก ข่าวสาร ความต้องการและวัตถุประสงค์ของตนไปยังผู้รับสารด้วย วิธีการใด ๆ หรือส่งผ่านช่องทางใดก็ตาม จะโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม เช่น ผู้พูด ผู้เขียน กวี ศิลปิน นักจัดรายการวิทยุ โฆษกรัฐบาล องค์การ สถาบัน สถานีวิทยุกระจายเสียง สถานีวิทยุโทรทัศน์ กองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ หน่วยงานของรัฐ บริษัท สถาบนั สื่อมวลชน เป็นตน้ คุณสมบัตขิ องผสู้ ่งสาร 1. เป็นผทู้ ่ีมีเจตนาแนช่ ดั ที่จะใหผ้ ู้อืน่ รบั รู้จดุ ประสงค์ของตนในการสง่ สาร แสดงความคดิ เห็น หรอื วจิ ารณ์ ฯลฯ 2. เป็นผทู้ ม่ี ีความรู้ ความเขา้ ใจในเน้อื หาของสารทีต่ ้องการจะส่อื ออกไปเปน็ อย่างดี 3. เป็นผู้ท่มี บี คุ ลิกลกั ษณะท่ดี ี มคี วามน่าเช่อื ถอื แคลว่ คล่องเปดิ เผยจรงิ ใจ และมีความรบั ผดิ ชอบ ในฐานะเป็นผู้สง่ สาร 4. เป็นผทู้ ่สี ามารถเข้าใจความพรอ้ มและความสามารถในการรบั สารของผู้รบั สาร 5. เป็นผูร้ จู้ กั เลอื กใช้กลวิธีที่เหมาะสมในการส่งสารหรือนำเสนอสาร 2. สาร (message) หมายถึง เรื่องราวที่มีความหมาย หรือสิ่งต่าง ๆ ที่อาจอยู่ในรูปของข้อมูล ความรู้ ความคิด ความ ต้องการ อารมณ์ ฯลฯ ซึ่งถ่ายทอดจากผู้ส่งสารไปยังผู้รับสารให้ได้รับรู้ และแสดงออกมาโดยอาศัยภาษาหรือสัญลักษณ์ใด ๆ ทส่ี ามารถทำให้เกิดการรบั รู้รว่ มกันได้ เช่น ข้อความท่ีพูด ข้อความที่เขียน บทเพลงที่ร้อง รปู ท่ีวาด เร่ืองราวท่ีอ่าน ท่าทางท่ี ส่อื ความหมาย เป็นต้น
2.1 รหัสสาร (message code)ได้แก่ ภาษา สัญลักษณ์ หรือสัญญาณที่มนุษย์ใช้เพื่อแสดงออกแทนความรู้ความคิด อารมณ์ หรือความร้สู ึกตา่ ง ๆ 2.2 เนื้อหาของสาร (message content) หมายถึง บรรดาความรู้ ความคิดและประสบการณ์ที่ผู้ส่งสารต้องการจะ ถา่ ยทอดเพอื่ การรับรูร้ ่วมกัน แลกเปลีย่ นเพื่อความเขา้ ใจร่วมกันหรอื โตต้ อบกนั 2.3 การจัดสาร (message treatment) หมายถึง การรวบรวมเนื้อหาของสาร แล้วนำมาเรียบเรียงให้เป็นไปอย่างมรี ะบบ เพือ่ ให้ไดใ้ จความตามเนือ้ หา ท่ตี ้องการดว้ ยการเลือก ใช้รหสั สารท่เี หมาะสม 3. ส่ือ หรอื ช่องทาง (media or channel) เป็นองค์ประกอบท่ีสำคัญอีกประการหนึง่ ในการส่ือสาร หมายถึง สิ่งที่เป็น พาหนะของสาร ทำหนา้ ที่นำสารจากผสู้ ่งสารไปยังผ้รู ับสาร ผู้ส่งสารตอ้ งอาศัยส่ือหรอื ช่องทางทำหน้าที่นำสารไปสผู่ ้รู บั สาร การแบง่ ประเภทของส่ือมีหลากหลายตา่ งกนั ออกไป (สถาบนั ราชภัฏสวนดุสติ , 2542: 6 ) 4. ผรู้ ับสาร (receiver) หมายถงึ บคุ คล กล่มุ บุคคล หรือมวลชนทรี่ ับเรอ่ื งราวข่าวสาร จากผู้สง่ สาร และแสดงปฏกิ ริ ิยาตอบกลบั (Feedback) ต่อผู้สง่ สาร หรือส่งสารต่อไปถึงผรู้ ับสารคนอนื่ ๆ ตามจุดมุง่ หมายของผู้ส่ง สาร เช่น ผู้เข้าร่วมประชมุ ผูฟ้ ังรายการวิทยุ กลุม่ ผ้ฟู ังการอภปิ ราย ผูอ้ า่ นบทความจากหนังสอื พมิ พ์ เป็นตน้ หลกั ในการส่อื สาร การสอ่ื สารจะประสบความสำเร็จตรงตามจุดประสงค์หรือไมผ่ ู้สง่ สารควรคำนึงถึงหลกั การส่ือสาร ดงั น้ี (ภาควิชาภาษาไทย สถาบันราชภัฏเทพสตรี ลพบรี, 2542: 13-14) 1. ผทู้ จ่ี ะสอ่ื สารใหไ้ ด้ผลและเกิดประโยชน์ จะตอ้ งทำความเข้าใจเร่ืององคป์ ระกอบในการสื่อสาร และปจั จยั ทางจิตวิทยาท่ี เกีย่ วข้องกบั ระบบการรบั รู้ การคดิ การเรยี นรู้ การจำ ซ่งึ มผี ลตอ่ ประสิทธภิ าพ ในการสือ่ สาร 2. ผู้ที่จะสื่อสารต้องคำนึงถึงบริบทในการสื่อสาร บริบทในการสื่อสาร หมายถึง สิ่งที่อยู่แวดล้อมที่มีส่วนในการกำหนดรู้ ความหมายหรอื ความเขา้ ใจในการสื่อสาร 3. คำนึงถึงกรอบแห่งการอ้างอิง (frame of reference) มนุษย์ทุกคนจะมีพื้นความรู้ทักษะ เจตคติ ค่านิยม สังคม ประสบการณ์ ฯลฯ เรียกว่าภูมิหลังแตกต่างกัน ถ้าคู่สื่อสารใดมีกรอบแห่ง การอ้างอิงคล้ายกัน ใกล้เคียงกัน จะทำให้การสื่อสาร งา่ ยขน้ึ 4. การสือ่ สารจะมีประสิทธิผล เมือ่ ผูส้ ง่ สารสง่ สารอยา่ งมีวัตถุประสงคช์ ัดเจน ผา่ นสอื่ หรอื ชอ่ งทาง ท่เี หมาะสม ถึงผู้รบั สาร ทม่ี ที กั ษะในการสอื่ สารและมีวตั ถุประสงคส์ อดคลอ้ งกัน 5. ผู้ส่งสารและผู้รับสาร ควรเตรียมตัวและเตรียมการล่วงหน้า เพราะจะทำให้การสื่อสารราบรื่น สะดวก รวดเร็ว เป็นไป ตามวตั ถุประสงคแ์ ละสามารถแก้ไขได้ทนั ทว่ งที หากจะเกิดอุปสรรค์ ที่จดุ ใดจดุ หนง่ึ 6. คำนงึ ถึงการใชท้ กั ษะ เพราะภาษาเป็นสญั ลักษณท์ ม่ี นษุ ยต์ กลงใช้รว่ มกันในการ สื่อความหมาย ซึ่งถือได้ว่าเป็นหัวใจในการสื่อสาร คู่สื่อสารต้องศึกษาเรื่องการใช้ภาษา และสามารถใช้ภาษาให้เ หมาะสมกับ กาลเทศะ บุคคล เนือ้ หาของสาร และช่องทางหรอื สอื่ ที่ใช้ในการส่ือสาร
7. คำนึงถึงปฏิกิริยาตอบกลับตลอดเวลา ถือเป็นการประเมินผลการสื่อสาร ที่จะทำให้คู่สื่อสารรับรู้ผลของการสื่อสารว่า ประสบผลดีตรงตามวัตถุหรอื ไม่ ควรปรบั ปรงุ เปลยี่ นแปลงหรือแกไ้ ขขอ้ บกพร่องใด เพือ่ ทีจ่ ะทำให้การสอ่ื สารเกดิ ผลตามท่ีตอ้ งการ วตั ถปุ ระสงค์ในการสอ่ื สาร 1. เพอ่ื แจง้ ใหท้ ราบ (inform) ในการทำการส่อื สาร ผ้ทู ำการสอ่ื สารควรมคี วาม ต้องการที่จะบอกกล่าวหรือชแ้ี จงข่าวสาร เรอ่ื งราว เหตกุ ารณ์ หรอื ส่ิงอนื่ ใดให้ผู้รบั สารได้รับทราบ 2. เพื่อสอนหรือให้การศึกษา (teach or education) ผู้ทำการสื่อสารอาจมีวัตถุประสงค์เพื่อจะ ถ่ายทอดวิชาความรู้ หรอื เรอ่ื งราวเชิงวชิ าการ เพอ่ื ให้ผรู้ ับสารไดม้ ีโอกาสพฒั นาความรใู้ ห้เพมิ่ พนู ยิง่ ขน้ึ 3. เพื่อสร้างความพอใจหรือให้ความบันเทิง (please of entertain) ผู้ทำการสื่อสารอาจ ใช้วัตถุประสงค์ในการสื่อสาร เพื่อสร้างความพอใจ หรือให้ความบันเทิงแก่ผู้รับสาร โดยอาศัยสารที่ตนเองส่งออกไป ไม่ว่าจะอยู่ในรูปของการพูด การเขียน หรอื การแสดงกริ ยิ าตา่ ง ๆ 4. เพื่อเสนอหรือชักจูงใจ (Propose or persuade) ผูท้ ำการสอื่ สารอาจใชว้ ตั ถปุ ระสงค์ใน การสอื่ สารเพื่อให้ข้อเสนอแนะ หรือชักจูงใจในสิ่งใดสิ่งหนึง่ ตอ่ ผู้รบั สาร และอาจชกั จูงใจใหผ้ ู้รับสารมคี วามคิดคลอ้ ยตาม หรือยอมปฏิบัตติ ามการเสนอแนะของตน 5. เพื่อเรียนรู้ (learn) วัตถุประสงค์นี้มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับผู้รับสาร การแสวงหาความรู้ ของผู้รับสาร โดยอาศัย ลกั ษณะของสาร ในกรณีนมี้ ักจะเป็นสารท่ีมเี นื้อหาสาระเกี่ยวกับวิชาความรู้ เป็นการหาความรเู้ พ่ิมเติมและเป็นการทำความเข้าใจ กับเนื้อหาของสารทผ่ี ูท้ ำการส่ือสารถ่ายทอดมาถงึ ตน 6. เพื่อกระทำหรอื ตัดสินใจ (dispose or decide) ในการดำเนินชีวิตของคนเรามี สงิ่ หนึ่งท่ตี ้องกระทำ อยู่เสมอก็คือ การ ตดั สินใจกระทำการอย่างใดอย่างหนึง่ ซงึ่ การตัดสนิ ใจ นั้นอาจไดร้ บั การเสนอแนะ หรอื ชักจงู ใจให้กระทำอย่างนนั้ อยา่ งน้ีจากบุคคล อื่นอยู่เสมอ ทางเลอื กในการ ตดั สนิ ใจของเราจงึ ขน้ึ อยู่กบั ขอ้ เสนอแนะนนั้
Search
Read the Text Version
- 1 - 4
Pages: