Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ภาษาไทย.1-2560.กิตติพงษ์

ภาษาไทย.1-2560.กิตติพงษ์

Published by nicha.99999, 2018-11-10 01:49:06

Description: ภาษาไทย.1-2560.กิตติพงษ์

Search

Read the Text Version

การพฒั นาผลสมั ฤทธ์ิการอ่านจบั ใจความของนักเรียนชนั้ มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4/8 โรงเรียนวดั เขมาภิรตาราม ตาบลสวนใหญ่ อาเภอเมืองนนทบรุ ี จงั หวดั นนทบรุ ี โดยใช้แบบฝึ กเสริมทกั ษะการอ่านจบั ใจความ นายกิตติพงษ์ จาชาติ กล่มุ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย โรงเรียนวดั เขมาภิรตาราม สานักงานเขตพืน้ ท่ีการศึกษามธั ยมศึกษาเขต 3

การพฒั นาผลสมั ฤทธ์ิการอ่านจบั ใจความของนักเรียนชนั้ มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4/8 โรงเรียนวดั เขมาภิรตาราม ตาบลสวนใหญ่ อาเภอเมืองนนทบรุ ี จงั หวดั นนทบรุ ี โดยใช้แบบฝึ กเสริมทกั ษะการอ่านจบั ใจความ นายกิตติพงษ์ จาชาติ กล่มุ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย โรงเรียนวดั เขมาภิรตาราม สานักงานเขตพืน้ ท่ีการศึกษามธั ยมศึกษาเขต 3

ชอ่ื วจิ ยั การพฒั นาผลสมั ฤทธกิ ์ ารอ่านจบั ใจความของนกั เรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษา ปีท่ี 4 โรงเรยี นวดั เขมาภริ ตาราม ตาบลสวนใหญ่ อาเภอเมอื งผทู้ าวจิ ยั นนทบรุ ี จงั หวดั นนทบรุ ี โดยใชแ้ บบฝึกเสรมิ ทกั ษะการอ่านจบั ใจความครศุ าสตรบณั ฑติ นายกติ ตพิ งษ์ จาชาติปีพทุ ธศกั ราช สาขาวชิ าภาษาไทย 2560 บทคดั ย่อ การวจิ ยั ครงั้ น้ีผวู้ จิ ยั มวี ตั ถุประสงคเ์ พ่อื พฒั นาผลสมั ฤทธกิ ์ ารอ่านจบั ใจความของนกั เรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 โรงเรยี นวดั เขมาภริ ตาราม ตาบลสวนใหญ่ อาเภอเมอื งนนทบุรี จงั หวดันนทบรุ ี โดยใชแ้ บบฝึกเสรมิ ทกั ษะการอ่านจบั ใจความ ประชากรทศ่ี กึ ษาในครงั้ น้ีคอื ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 โรงเรยี นวดั เขมาภริ ตาราม ตาบลสวนใหญ่ อาเภอเมอื งนนทบุรี จงั หวดั นนทบุรี กลุ่มตัวอย่างคือ ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 4/8โรงเรยี นวดั เขมาภริ ตาราม ตาบลสวนใหญ่ อาเภอเมอื งนนทบุรี จงั หวดั นนทบรุ ี การดาเนินการเก็บรวบรวบข้อมูลการพัฒนาผลสมั ฤทธิก์ ารอ่านจบั ใจความ ของนกั เรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 โรงเรยี นวดั เขมาภริ ตาราม โดยใช้แบบฝึกเสรมิ ทกั ษะการอ่านจบั ใจความ ผวู้ จิ ยั ดาเนินการเก็บขอ้ มลู ตงั้ แต่วนั ท่ี 20 กนั ยายน พ.ศ. 2560 ถงึ 20 ตุลาคมพ.ศ. 2560 ผลการวิจยั พบว่า คะแนนเฉล่ียก่อนเรยี นการอ่านจบั ใจความของนักเรยี นชนั้มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 โรงเรยี นวดั เขมาภริ ตาราม จานวน 31 คน เท่ากบั 3.57 จากคะแนนเตม็10 คะแนน คดิ เป็นร้อยละ 35.7 ของคะแนนเต็ม และคะแนนเฉล่ยี จากการทดสอบวดัผลสมั ฤทธทิ ์ างการอ่านจบั ใจความสาคญั หลงั เรยี นเทา่ กบั 7.66 จากคะแนนเตม็ 10 คะแนน คดิเป็นร้อยละ 76.6 ของคะแนนเต็ม ดงั นัน้ การพฒั นาผลสมั ฤทธกิ ์ ารอ่านจบั ใจความของนักเรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 โรงเรยี นวดั เขมาภริ ตาราม โดยใช้แบบฝึกเสรมิ ทกั ษะการอ่านจบั ใจความ ทาให้ผลสมั ฤทธทิ ์ างการอ่านจบั ใจความสาคญั ของนักเรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4เพม่ิ ขน้ึ จากรอ้ ยละ 35.7 เป็นรอ้ ยละ 76.6 จะเหน็ ว่าผลสมั ฤทธทิ ์ างการอ่านจบั ใจความสาคญัของนกั เรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 โรงเรยี นวดั เขมาภริ ตารามสงู ขน้ึ

กิตติกรรมประกาศ งานวจิ ยั ฉบบั น้สี าเรจ็ ลลุ ่วงไดด้ ว้ ยความกรณุ าและคาแนะนาในดา้ นต่าง/ๆ/จาก คณะครูจากกลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ชิ าภาษาไทยทุกทา่ นทใ่ี หค้ าแนะนาแก่ผวู้ จิ ยั ขอขอบพระคุณบดิ ามารดาท่เี ป็นกาลงั ใจพรอ้ มใหก้ ารช่วยเหลอื สนับสนุนการจดั ทางานวจิ ยั มาโดยตลอด คุณค่าและประโยชน์ของงานวจิ ยั ฉบบั น้ี ผวู้ จิ ยั ขอมอบบชู าพระคุณของบดิ ามารดา ผมู้ ีพระคุณต่อผู้วจิ ยั และบูรพาจารยท์ ุกท่าน ท่ไี ด้ให้การศึกษา การอบรมสงั่ สอน ใหส้ ติปญั ญาความรู้ รวมทงั้ คุณธรรมจรยิ ธรรมทงั้ หลายอนั เป็นเคร่อื งมอื ช้นี าทางไปสู่ความสาเรจ็ ในชวี ติของผวู้ จิ ยั กติ ตพิ งษ์ จาชาติ

บทท่ี 1 บทนาความเป็นมาและความสาคญั ของปัญหา ภาษานับว่าเป็นสงิ่ สาคญั ในการส่อื สาร องคป์ ระกอบของภาษาคอื การฟงั การพูดการอ่าน และการเขยี น เพ่อื เป็นเคร่อื งช่วยให้คนในสงั คมมคี วามเข้าใจท่ดี ตี ่อกนั และอยู่ร่วมกนั อย่างมคี วามสุข การเรยี นการสอนภาษาไทยมุ่งให้ผู้เรยี นมพี ฒั นาการทางภาษาทงั้ทางดา้ นการฟงั การพูด การอ่าน และการเขยี น สามารถใช้ภาษาในการติดต่อส่อื สารถงึ การรบั รู้ และถ่ายทอดความรู้สกึ นึกคดิ ได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ นอกจากน้ีนักการศกึ ษายงั เห็นความสาคญั ของวชิ าภาษาไทยเป็นอยา่ งมาก เพราะเป็นพน้ื ฐานของการเรยี นวชิ าอ่นื ๆ อกี ดว้ ย(จรี ภทั ร เลศิ วมิ ลลกั ษณ์. 2550 : บทนา) ภาษาเป็นเคร่อื งมอื ท่ใี ชใ้ นการถ่ายทอดความรคู้ วามคดิ อารมณ์ ตลอดจนสามารถใช้บนั ทกึ เรอ่ื งราวทางประวตั ศิ าสตร์ ยงั ถอื เป็นหวั ใจหลกั ของการส่อื สารอกี ดว้ ย องคป์ ระกอบของภาษา ประกอบไปด้วย การพูด การเขยี น และท่ีสาคญั อีกอย่างหน่ึงนัน้ คือ การอ่านดังท่ีสานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน (2549 : 1) กล่าววา่ การอ่านเป็นพน้ื ฐานท่สี าคญั ของการเรยี นรูแ้ ละการพฒั นาสติปญั ญาของคนในสงั คมการอ่านทาใหเ้ กดิ การพฒั นาดา้ นสตปิ ญั ญา ความรคู้ วามสามารถ พฤตกิ รรม และค่านิยมต่างๆรวมทงั้ ช่วยในการเปล่ยี นแปลงการดาเนินชวี ติ พฒั นาไปสู่สงิ่ ทด่ี ที ่สี ุดของชวี ติ การอ่านจงึ มีความสาคญั ต่อชวี ติ มนุษยอ์ ยา่ งยง่ิ นอกจากน้ีการอ่านยงั มบี ทบาท ในการเป็นเคร่อื งมอื ทใ่ี ชใ้ นการแสวงหาความรู้ ความบนั เทงิ ดงั ท่ี ฟองจนั ทร์ สขุ ยง่ิ และคณะ (2554 : 1) กลา่ ววา่ การอ่านเป็นเคร่อื งมอื สาคญั สาหรบั การแสวงหาความรู้ และความบนั เทงิ ทาใหเ้ ป็นบุคคลทม่ี คี วามรอบรู้ มที กั ษะการคดิ ความสามารถในการแก้ไขปญั หา มมี ุมมองต่อโลกและชวี ติ การเปิดหน้าหนังสอื จงึ เปรยี บเสมอื นการเปิดหน้าต่างของชวี ติ ให้พบเหน็ และเรยี นรสู้ ง่ิต่าง ๆ ผา่ นตวั อกั ษร ด้วยความสาคญั ของการอ่านขา้ งต้น จงึ เป็นการตอกย้าถึงบทบาทของการอ่าน ท่มี ีอทิ ธิพลต่อมนุษย์ การอ่านมหี ลากหลายประเภท ทงั้ อ่านออกเสยี ง อ่านในใจ การอ่านทุก

รปู แบบยอ่ มตอ้ งอาศยั ความเขา้ ใจในเน้อื หาของเรอ่ื งทอ่ี ่านอนั จะนาผอู้ ่านไปส่เู ป้าหมายของการอ่านได้ การอ่านท่จี ะทาใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจแก่ผู้อ่านนนั้ ย่อมต้องมกี ารเขา้ ใจและเขา้ ถงึ เน้ือหาการอ่านจบั ใจความเป็นทกั ษะท่สี าคญั อย่างยง่ิ ท่จี ะนาผูอ้ ่านไปสู่ความเขา้ ใจในเน้ือหาเร่อื งท่ีอ่าน การอ่านจบั ใจความเป็นทกั ษะสาคญั ทจ่ี ะนาไปส่คู วามสาเรจ็ ในการเรียน ผเู้ รยี นจะต้องใชเ้ วลาสว่ นใหญ่ในการอ่านเพอ่ื การเรยี นรู้ เขา้ ใจเน้อื หาสาระทก่ี ลา่ วถงึ จากเรอ่ื งทอ่ี ่านได้ ดงั ท่ีมหาวทิ ยาลยั สุโขทยั ธรรมาธริ าช (2550 : 159-161) กล่าวว่า การอ่านจบั ใจความมบี ทบาทสาคญั ต่อการพฒั นาการศกึ ษาของบุคคล ความสามารถในการอ่านของประชาชนในชาตยิ อ่ มแสดงใหเ้ หน็ ถงึ การพฒั นาของประเทศนนั้ ซง่ึ บงั เกดิ ผลทงั้ทางตรงและทางออ้ ม ดา้ นเศรษฐกจิ ความรทู้ ไ่ี ดจ้ ากการอ่านสารทเ่ี กย่ี วขอ้ งดา้ นเศรษฐกจิ จะเป็นประโยชน์ต่อการปรบั เปลย่ี นระบบผลติ การบรโิ ภคและการเลอื กอาชพี ทเ่ี หมาะสมสาหรบัตนเอง ดา้ นการเมอื งเกย่ี วขอ้ งกบั การนาความรทู้ ไ่ี ดจ้ ากการอ่านสารการเมอื งไปพฒั นาความรู้ความเขา้ ใจ เพ่อื ใชเ้ ป็นพน้ื ฐานของการคดิ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ และประเมนิ ค่าใหถ้ ูกตอ้ งตามหลกั ประชาธปิ ไตยอนั เป็นระบอบการปกครองของประเทศทม่ี พี ระมหากษตั รยิ เ์ ป็นประมขุ ดา้ นสงั คม การอ่านจบั ใจความจะเกย่ี วขอ้ งกบั การพฒั นาความรู้ ความคดิ ของผอู้ ่านใหก้ วา้ งขวางเพ่อื การนามาใชพ้ ฒั นาคณุ ภาพชวี ติ ในครอบครวั และประเทศชาตใิ หก้ า้ วหน้าทดั เทยี มกบัประเทศอ่นื สามารถช่วยลดปญั หาทางสงั คมในระดบั หน่ึง หากมกี ารจดั กจิ กรรมทางการอ่านให้สอดคลอ้ งกบั ความสนใจและความต้องการของประชาชน พระราชบญั ญตั กิ ารศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 มาตรา 22 กล่าวไวว้ า่ การจดั การศกึ ษาต้องยดึ หลกั ว่าผูเ้ รยี นทุกคนมคี วามสามารถเรยี นรู้และพฒั นาตวั เองได้ และถือว่าผู้เรยี นมีความสาคญั ท่สี ุดกระบวนการจดั การศกึ ษาต้องส่งเสรมิ ให้ผู้เรยี นสามารถพฒั นาตนเองตามธรรมชาติ และเตม็ ตามศกั ยภาพ นอกจากน้ีมาตรา 24 กล่าวว่า การจดั กระบวนการเรยี นรู้สถานศกึ ษาจะตอ้ งตอ้ งจดั เน้อื หาสาระ และกจิ กรรมใหส้ อดคลอ้ งกบั ความสนใจ ความถนดั และความแตกต่างระหว่างบุคคล โดยท่ผี ู้เก่ียวข้อง ทุกฝ่ายจะต้องให้ความร่วมมอื กันจดักระบวนการเรยี นรู้ ทม่ี ่งุ เน้นการฝึกทกั ษะกระบวนการคดิ การเผชญิ สถานการณ์ จดั กจิ กรรมใหผ้ เู้ รยี นเรยี นรจู้ ากประสบการณ์จรงิ ฝึกปฏบิ ตั ใิ หท้ าไดค้ ดิ เป็น ทาเป็น รกั การอ่านและเกดิการใฝร่ ู้ (กรมวชิ าการ. 2544 : 9)

ขอ้ ความดงั่ กล่าวขา้ งตน้ นามาซง่ึ หลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานพุทธศักราช2551 ซ่งึ ให้ความสาคญั ต่อการใช้ภาษาไทย ดงั่ ท่ี หลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐานพุทธศกั ราช 2551 ( 2551 : 34 ) กลา่ ววา่ ภาษาไทยเป็นเอกลกั ษณ์ของชาติเป็นสมบตั ทิ างวฒั นธรรมอันก่อให้เกิดความเป็นเอกภาพและเสริมสร้างบุคลิกภาพของคนในชาติให้มคี วามเป็นไทย เป็นเคร่อื งมอื ในการตดิ ต่อส่อื สารเพ่อื สรา้ งความเขา้ ใจและความสมั พนั ธท์ ่ดี ตี ่อกนั ทาใหส้ ามารถประกอบกจิ ธุระการงาน แลดารงชวี ติ ร่วมกนั ในสงั คมประชาธปิ ไตยไดอ้ ย่างสนั ตสิ ุข และเป็นเคร่อื งมอื ในการแสวงหาความรู้ประสบการณ์จากแหล่งข้อมูลสารสนเทศต่างๆ เพ่ือพฒั นาความรู้ พัฒนากระบวนการคิดวเิ คราะห์ วจิ ารณ์ และสร้างสรรค์ให้ทนั ต่อการเปล่ยี นแปลงทางสงั คม และความก้าวหน้าทางวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี ตลอดจนนาไปใช้ในการพฒั นาอาชพี ใหม้ คี วามมนั่ คงทางเศรษฐกิจ นอกจากน้ียงั เป็นส่ือแสดงภูมิปญั ญาของบรรพบุรุษด้านวฒั นธรรมประเพณี และสนุ ทรยี ภาพ เป็นสมบตั ลิ ้าค่าควรแก่การเรยี นรู้ อนุรกั ษ์ และสบื สาน ใหค้ งอยู่คชู่ าตไิ ทยตลอดไป จากขอ้ ความดงั กล่าวจะเหน็ ไดว้ ่า การอ่านและทกั ษะทางภาษามคี วามสาคญั อยา่ งยงิ่สาหรบั การศกึ ษาไทย ซง่ึ ยอ่ มแสดงใหเ้ หน็ ถงึ ความสาคญั ของทกั ษะการอ่านจบั ใจความดว้ ย จากเหตุผลท่กี ล่าว ผู้วจิ ยั จงึ สนใจท่จี ะพฒั นาการอ่านจบั ใจความ และผลสมั ฤทธิ ์ทางการอ่านจบั ใจความ กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ของนักเรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4โรงเรียนวดั เขมาภิรตาราม โดยใช้แบบฝึกเสรมิ ทกั ษะการอ่านจบั ใจความ เพ่ือพฒั นาความสามารถของผเู้ รยี นใหเ้ กดิ ทกั ษะการอ่านจบั ใจความดขี น้ึ เพ่อื แสวงหาความรเู้ พมิ่ เตมิ ได้อยา่ งต่อเน่อื งวตั ถปุ ระสงคข์ องการวิจยั เพอ่ื พฒั นาผลสมั ฤทธกิ ์ ารอ่านจบั ใจความของนักเรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 โรงเรยี นวดั เขมาภริ ตาราม โดยใชแ้ บบฝึกเสรมิ ทกั ษะการอ่านจบั ใจความประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รบั ผลสมั ฤทธทิ ์ างการอ่านจบั ใจความของนักเรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 โรงเรยี นวดัเขมาภริ ตาราม เพมิ่ ขน้ึ

ขอบเขตของการวิจยั ผู้วจิ ยั มุ่งพฒั นาผลสมั ฤทธกิ ์ ารอ่านจบั ใจความ ของนักเรยี นชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 4โรงเรยี นวดั เขมาภริ ตารามกรอบแนวคิดในการวิจยั ผู้วจิ ยั มุ่งพฒั นาผลสมั ฤทธกิ ์ ารอ่านจบั ใจความ ของนักเรยี นชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 4โรงเรยี นวดั เขมาภริ ตาราม โดยใช้แบบฝึกเสรมิ ทกั ษะการอ่านจบั ใจความ ของภทั รวรรณ มา้ทองสมมตุ ิฐานการวิจยั ผลสมั ฤทธกิ ์ ารอ่านจบั ใจความ ของนกั เรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 โรงเรยี นวดั เขมาภริ ตารามหลงั ใชแ้ บบฝึกเสรมิ ทกั ษะการอ่านจบั ใจความ สงู กวา่ ผลสมั ฤทธกิ ์ ารอ่านจบั ใจความของนกั เรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 โรงเรยี นวดั เขมาภริ ตาราม ก่อนใชแ้ บบฝึกเสรมิ ทกั ษะการอ่านจบั ใจความนิยามศพั ทเ์ ฉพาะ 1. การอ่านจบั ใจความ หมายถงึ การอ่านทม่ี ่งุ คน้ หาสาระของเร่อื ง หรอื ของหนังสอื แต่ละเลม่ ทเ่ี ป็นสว่ นใจความสาคญั และส่วนขยายใจความสาคญั ของเรอ่ื ง 2. แบบฝึกเสรมิ ทกั ษะ หมายถงึ แบบฝึกเสรมิ ทกั ษะเร่อื งการอ่านจบั ใจความ ของภทั รวรรณ มา้ ทอง เพ่อื ใหน้ กั เรยี นฝึกปฏบิ ตั เิ พ่อื ใหเ้ กดิ ความรู้ ความเขา้ ใจและทกั ษะเพม่ิ ขน้ึซง่ึ มจี านวน 5 ชุด เพ่อื พฒั นาผลสมั ฤทธกิ ์ ารอ่านจบั ใจความ ใหก้ บั นักเรยี น ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 และเรยี งลาดบั จากง่ายไปหายาก โดยเน้นการฝึกทกั ษะการอ่านเพ่อื จบั ใจความสาคญัและสามารถนาไปใชไ้ ดใ้ นชวี ติ ประจาวนั

บทที่ 2 วรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง ในการพฒั นาผลสมั ฤทธทิ ์ างการอ่านจบั ใจความ โดยใชแ้ บบฝึกเสรมิ ทกั ษะการอ่านจบัใจความนักเรยี นของ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 โรงเรยี นวดั เขมาภริ ตาราม ผวู้ จิ ยั ได้ดาเนินการศกึ ษาคน้ ควา้ เอกสารและงานวจิ ยั ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ดงั น้ี 1. หลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานพทุ ธศกั ราช 2551 2. ความหมายของการอ่าน 3. การอ่านจบั ใจความ 4. แนวคดิ และทฤษฎเี กย่ี วกบั การสรา้ งแบบฝึก 5. งานวจิ ยั ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง1.หลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานพุทธศกั ราช 2551 หลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานพทุ ธศกั ราช 2551 เป็นหลกั สูตรองิ มาตรฐานท่ีสะท้อนถึงความสาคญั ของภาษาไทย และการอ่าน ดงั น้ี หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้พน้ื ฐานพทุ ธศกั ราช 2551 ( 2551 : 1-6 ) กล่าวว่าความนา กระทรวงศกึ ษาธกิ ารไดป้ ระกาศใช้หลกั สูตรการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2544ให้เป็นหลกั สูตรแกนกลางของประเทศ โดยกาหนดจุดหมาย และมาตรฐานการเรยี นรูเ้ ป็นเป้าหมายและกรอบทศิ ทางในการพฒั นาคุณภาพผเู้ รยี นใหเ้ ป็นคนดี มปี ญั ญา มคี ุณภาพชวี ติ ท่ีดแี ละมขี ดี ความสามารถ ในการแขง่ ขนั ในเวทรี ะดบั โลก (กระทรวงศกึ ษาธกิ าร, 2544) พรอ้ มกนัน้ีไดป้ รบั กระบวนการพฒั นาหลกั สูตรให้มคี วามสอดคลอ้ งกบั เจตนารมณ์แห่งพระราชบญั ญตั ิการศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และ ท่แี ก้ไขเพ่ิมเตมิ (ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ. 2545 ท่มี ุ่งเน้นการกระจายอานาจทางการศึกษาให้ท้องถิ่นและสถานศึกษาได้มบี ทบาทและมสี ่วนร่วมในการพัฒนาหลักสูตร เพ่ือให้สอดคล้องกับสภาพ และความต้องการของท้องถ่ิน (สานักนายกรฐั มนตร,ี 2542)

2.ความหมายของการอ่าน กรรณิการธ์ วิ งศ์ และศศวิ มิ ล ประสม (2550 : 7) กล่าวว่า การอ่านออกเสยี งคอืการถ่ายทอดตวั อกั ษรออกมาเป็นเสยี ง และเป็นการอ่านท่ผี ู้อ่นื สามารถได้ยนิ เสยี งอ่านด้วยหรอื การอ่านหนังสอื โดยการท่ผี ู้อ่านออกเสยี งเปล่งเสยี งออกมาในขณะทอ่ี ่าน การอ่านออกเสยี งช่วยให้สามารถจดจาคาศพั ทไ์ ดแ้ ละออกเสยี งไดถ้ ูกตอ้ ง ตลอดจนสามารถนาไปถ่ายทอดเรอ่ื งราวใหผ้ อู้ ่นื รบั รไู้ ด้ ขนั ธช์ ยั อทิ ธเิ กยี รติ (2545 : 32) ใหค้ วามหมายของการอ่านไวว้ ่า การอ่านเป็นกระบวนการรบั สารในขณะท่อี ่าน โดยมปี ฏสิ มั พนั ธร์ ะหว่างผู้อ่านกบั เร่อื งท่อี ่านเพ่อื ใหเ้ ขา้ ใจเรอ่ื งทอ่ี ่าน3.การอ่านจบั ใจความ นกั วชิ าการหลายทา่ นไดใ้ หค้ วามหมายของการอ่านจบั ใจความไวด้ งั น้ี สุปาณี พดั ทอง (2545 : 65) ไดก้ ล่าววา่ การอา่ นจบั ใจความ เป็นความคิดสาคญั อนั เป็นแก่นหรือหวั ใจของเรื่อง ท่ีผเู้ ขียนมุง่ ส่ือมาใหผ้ อู้ ่านไดร้ ับทราบ ซ่ึงเป็นขอ้ เทจ็ จริงและความคิดเห็นหรืออยา่ งใดอยา่ งหน่ึงก็ได้ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร (2546 : 188) ไดก้ ล่าวว่า การอ่านจบั ใจความคอื การอ่านทม่ี ่งุคน้ หาสาระของเรอ่ื งหรอื ของหนงั สอื แต่ละเล่มทเ่ี ป็นส่วนใจความสาคญั และส่วนขยายใจความสาคญั ของเรอ่ื ง4. แนวคิดและทฤษฎีเก่ียวกบั การสรา้ งแบบฝึ ก กรรณกิ าร์ ธวิ งศ์ และศศวิ มิ ล ประสม (2550 : 10- 11) บลูม(Bloom)กล่าวว่า ผู้เรยี นจะฝึกทกั ษะได้ต้องมีความพร้อมทางสมอง ร่างกายอารมณ์ เพอ่ื สนองตอบตามรปู แบบต่าง ๆ อยา่ งไมล่ งั เลใจ และอตั โนมตั ิ

ฟุตส(์ Futts)กลา่ วว่า ผเู้ รยี นจะฝึกทกั ษะจนถูกต้องไมผ่ ดิ พลาดได้ ผูเ้ รยี นตอ้ งใชป้ ญั ญานาทกั ษะยอ่ ย ๆ มาเชอ่ื มต่อกนั จนครบทกุ ขนั้ ตอน และใชเ้ วลาทาไดอ้ ยา่ งรวดเรว็5. งานวิจยั ท่ีเก่ียวข้อง ในการพฒั นาผลสมั ฤทธทิ ์ างการอ่านจบั ใจความ โดยใชแ้ บบฝึกเสรมิ ทกั ษะ ของนกั เรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 โรงเรยี นมหศิ ราธบิ ดี ผวู้ จิ ยั ไดศ้ กึ ษาคน้ ควา้ งานวจิ ยั ทเ่ี กย่ี วขอ้ งดงั น้ี จุฬาลกั ษณ์ กองพลิ า (2553 : บทคดั ยอ่ ) ไดศ้ กึ ษาการพฒั นาความสามารถดา้ นการอ่านจบั ใจความของนักเรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 โดยใชก้ ารจดั การเรยี นรแู้ บบกลุ่มร่วมมอืแบบ CIRC โดยมีวัตถุประสงค์ 1) พฒั นาแผนการจดั กิจกรรมการเรียนรู้เพ่อื พฒั นาความสามารถดา้ นการอ่านจบั ใจความ ตามเกณฑ์ 80/80 2) เพ่อื หาดชั นีประสทิ ธผิ ลของแผนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ 3) เพ่อื เปรยี บเทยี บคะแนนการทดสอบดา้ นการอ่านจบัใจความระหว่างก่อนเรยี นและหลงั เรยี น 4) เพ่อื ศกึ ษาความพงึ พอใจของนกั เรยี นทม่ี ตี ่อการจดักจิ กรรมการเรยี นรแู้ บบกลุ่มรว่ มมอื แบบ CIRC 5) เพอ่ื ศกึ ษาผลการจดั กจิ กรรมการเรยี นรโู้ ดยใช้การจดั การเรยี นรแู้ บบกลุ่มร่วมมอื แบบ CIRC ผลการวจิ ยั พบว่า แผนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้เพ่อื พฒั นาความสามารถด้านการอ่านจบั ใจความโดยใช้การจดั การเรยี นรู้แบบกลุ่มร่วมมอื แบบ CIRC มปี ระสทิ ธภิ าพ ประสทิ ธผิ ลเหมาะสม ซง่ึ ส่งผลใหน้ ักเรยี นมคี วามสามารถดา้ นการอ่านจบั ใจความได้เป็นอยา่ งดี ดงั นนั้ ครผู ูส้ อนภาษาไทยจงึ ควรนาวธิ กี ารเรยี นรแู้ บบดงั กล่าวไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพยงิ่ ขน้ึ

บทที่ 3 วิธีดาเนิ นการวิจยั ผู้วิจยั มจี ุดมุ่งหมายเพ่อื เพ่ือพฒั นาผลสัมฤทธกิ ์ ารอ่านจบั ใจความของนักเรยี นชนั้มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 โรงเรยี นวดั เขมาภริ ตารามโดยใชแ้ บบฝึกเสรมิ ทกั ษะการอ่านจบั ใจความซง่ึมวี ธิ ดี าเนนิ การตามลาดบั ขนั้ ตอนดงั น้ี 1. ประชากรและกลุม่ ตวั อยา่ ง 2. เครอ่ื งมอื ทใ่ี ชใ้ นการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู 3. วธิ กี ารดาเนินการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู 4. การวเิ คราะหข์ อ้ มลู 5. สถติ ทิ ใ่ี ชใ้ นการวเิ คราะหข์ อ้ มลู1. ประชากรและกล่มุ ตวั อย่าง ประชากรนักเรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 โรงเรยี นวดั เขมาภริ ตาราม ตาบลสวนใหญ่อาเภอเมอื งนนทบรุ ี จงั หวดั นนทบุรี กลุ่มตวั อย่างนักเรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4/8 โรงเรยี นวดั เขมาภริ ตาราม ตาบลสวนใหญ่ อาเภอเมอื งนนทบรุ ี จงั หวดั นนทบุรี 2. เครื่องมือท่ีใช้ในการเกบ็ รวบรวมข้อมลู ชุดแบบฝึกเสรมิ ทักษะการอ่านจบั ใจความ ของภัทรวรรณ ม้าทองใช้เพ่ือพัฒนาผลสมั ฤทธกิ ์ ารอ่านจบั ใจความของนกั เรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 โรงเรยี นวดั เขมาภริ ตารามดงั น้ี 1. แบบฝึกท่ี 1 นิทาน 2. แบบฝึกท่ี 2 หมาฮุย (หมาขนดา) 3. แบบฝึกท่ี 3 แมวสวย 4. แบบฝึกท่ี 4 จาปาสต่ี น้ 5. แบบฝึกท่ี 5 คนเลย้ี งลงิ

3.วิธีการดาเนินการเกบ็ รวบรวมข้อมลู การดาเนินการเก็บรวบรวบข้อมูลการพฒั นาผลสัมฤทธิก์ ารอ่านจบั ใจความ ของนักเรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 โรงเรยี นวดั เขมาภริ ตาราม โดยใชแ้ บบฝึกเสรมิ ทกั ษะการอ่านจบั ใจความ ผวู้ จิ ยั ดาเนินการเกบ็ ขอ้ มลู ตงั้ แต่วนั ท่ี 20 กนั ยายน พ.ศ. 2560 ถงึ 20 ตุลาคม พ.ศ.2560 ซง่ึ มขี นั้ ตอนการดาเนนิ การ ดงั น้ี 1. ทาการสารวจปญั หาเพ่อื หาแนวทางแกไ้ ข 2. ปรกึ ษาครพู เ่ี ลย้ี ง หรอื ผเู้ ชย่ี วชาญถงึ ปญั หาเพ่อื หาแนวทางการแกไ้ ขปญั หา 3. เตรยี มเคร่อื งมอื เพ่อื แก้ไขปญั หาการอ่านจบั ใจความสาคญั โดยใช้แบบฝึกเสรมิทกั ษะการอ่านจบั ใจความสาคญั ของภทั รวรรณ มา้ ทอง เพ่อื พฒั นาการอ่านจบั ใจความสาคญัใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพสงู ขน้ึ 4. ผวู้ จิ ยั ทาการทดสอบการอ่านจบั ใจความสาคญั โดยใชแ้ บบทดสอบการอ่านก่อนเรยี นแลว้ บนั ทกึ คะแนน 5. ผวู้ จิ ยั สอนเร่อื งการอ่านจบั ใจความสาคญั โดยใชแ้ บบฝึกเสรมิ ทกั ษะการอ่านจบัใจความสาคญั ของภทั รวรรณ มา้ ทอง 6. ทาการทดสอบหลงั เรยี น( Post test ) และบนั ทกึ คะแนน โดยใชแ้ บบฝึกเสรมิทกั ษะการอ่านจบั ใจความสาคญั ของภทั รวรรณ มา้ ทอง4.การวิเคราะหข์ ้อมลู ผวู้ จิ ยั ดาเนินการวเิ คราะหข์ อ้ มลู โดยตรวจแบบบนั ทกึ คะแนนก่อนเรยี นและหลงั เรยี นของนักเรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4/8 โรงเรยี นวดั เขมาภริ ตาราม จานวน 31 คน แลว้ นามาเปรยี บเทียบความแตกต่างของคะแนนท่ีได้ สถิติท่ีใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลในครงั้ น้ี คือเปรยี บเทยี บเป็นจานวนรอ้ ยละ5.สถิติที่ใช้ในการวิเคราะหข์ ้อมูล 1.1 ค่าเฉลย่ี (Arithmetic Mean)ของคะแนนโดยใชส้ ตู ร

สตู ร X   X N เมอ่ื X แทน คา่ เฉลย่ี คะแนนของกลมุ่ ตวั อยา่ ง  X แทน ผลรวมของคะแนนทงั้ หมดของกลุ่มตวั อยา่ ง N แทน จานวนคะแนนของกล่มุ ตวั อยา่ ง1.2 สว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน (S.D.)เมอ่ื S.D. แทน สว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐานของกลุ่มตวั อยา่ ง X แทน ขอ้ มลู แต่ละตวั X2 แทน ค่าเฉลย่ี ของคะแนน N แทน จานวนขอ้ มลู ทงั้ หมดของกลมุ่ ตวั อยา่ ง1.3 รอ้ ยละ 100 คา่ รอ้ ยละ =เมอ่ื x แทน คะแนนทไ่ี ด้ n แทน คะแนนเตม็

บทท่ี 4 ผลการวิเคราะหข์ ้อมลู ผู้วิจัยมีจุดมุ่งหมายเพ่ือพัฒนาผลสัมฤทธิก์ ารอ่านจับใจความของนักเรียนชัน้มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 โรงเรยี นวดั เขมาภริ ตาราม โดยใชแ้ บบฝึกเสรมิ ทกั ษะการอ่านจบั ใจความ การดาเนินการเก็บรวบรวบข้อมูลการพัฒนาผลสัมฤทธิก์ ารอ่านจบั ใจความ ของนกั เรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 โรงเรยี นวดั เขมาภริ ตาราม โดยใชแ้ บบฝึกเสรมิ ทกั ษะการอ่านจบั ใจความ ซง่ึ ผู้วจิ ยั ดาเนินการเกบ็ ขอ้ มลู ตงั้ แต่วนั ท่ี 20 กนั ยายน พ.ศ. 2560 ถงึ 20 ตุลาคมพ.ศ. 2560 ซง่ึ มขี นั้ ตอนการดาเนินการ ดงั น้ี 1. ทาการสารวจปญั หาเพ่อื หาแนวทางแกไ้ ข 2. ปรกึ ษาครใู นหมวด หรอื ผเู้ ชย่ี วชาญถงึ ปญั หาเพ่อื หาแนวทางการแกไ้ ขปญั หา 3. เตรยี มเคร่อื งมอื เพ่อื แก้ไขปญั หาการอ่านจบั ใจความสาคญั โดยใชแ้ บบฝึกเสรมิทกั ษะการอ่านจบั ใจความสาคญั ของภทั รวรรณ มา้ ทอง เพ่อื พฒั นาการอ่านจบั ใจความสาคญัใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพสงู ขน้ึ 4. ผู้วจิ ยั ทาการทดสอบการอ่านจบั ใจความสาคญั โดยใชแ้ บบทดสอบการอ่านก่อนเรยี นแลว้ บนั ทกึ คะแนน 5. ผู้วจิ ยั สอนเร่อื งการอ่านจบั ใจความสาคญั โดยใช้แบบฝึกเสรมิ ทกั ษะการอ่านจบัใจความสาคญั ของภทั รวรรณ มา้ ทอง 6. ทาการทดสอบหลงั เรยี น( Post test ) และบนั ทกึ คะแนน โดยใชแ้ บบฝึกเสรมิทกั ษะการอ่านจบั ใจความสาคญั ของภทั รวรรณ มา้ ทอง ทงั้ น้ผี วู้ จิ ยั ไดเ้ สนอผลการวเิ คราะหข์ อ้ มลู ตามลาดบั ขนั้ ตอน ดงั น้ี 1. สญั ลกั ษณ์ทใ่ี ชใ้ นการนาเสนอผลการวเิ คราะหข์ อ้ มลู 2. ผลการวเิ คราะหข์ อ้ มลู

1. สญั ลกั ษณ์ท่ีใช้ในการนาเสนอผลการวิเคราะหข์ ้อมลู ผวู้ จิ ยั ไดก้ าหนดสญั ลกั ษณ์ทใ่ี ชใ้ นการแปลความหมายผลการวเิ คราะหข์ อ้ มลู ดงั น้ี X แทน คะแนนเฉลย่ี ของกลุ่มตวั อยา่ ง N แทน จานวนนกั เรยี นของกลุ่มตวั อยา่ ง  X แทน ผลรวมของคะแนนทงั้ หมดของกลมุ่ ตวั อยา่ ง S.D. แทน สว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐานของกลมุ่ ตวั อยา่ ง2.ผลการวิเคราะหข์ ้อมลู แสดงคะแนนเฉลย่ี และรอ้ ยละ การการอ่านจบั ใจความของนกั เรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี4/8 โรงเรยี นวดั เขมาภริ ตาราม จานวน 31 คน ก่อน – หลงั การใชแ้ บบฝึกเสรมิ ทกั ษะการอ่านจบั ใจความสาคญัคะแนน N คะแนน X S.D. รอ้ ยละ เตม็1. คะแนนก่อนเรยี น 33 10 3.57 1.32 35.72. คะแนนหลงั เรยี น 33 10 7.66 1.02 76.6 พบว่า คะแนนเฉลย่ี ก่อนเรยี นเทา่ กบั 3.57 จากคะแนนเตม็ 10 คะแนน คดิ เป็นรอ้ ยละ35.7 ของคะแนนเตม็ และคะแนนเฉลย่ี หลงั เรยี นเท่ากบั 7.66 จากคะแนนเตม็ 10คะแนน คดิเป็นร้อยละ 76.6 ของคะแนนเต็ม ดังนัน้ การพัฒนาผลสัมฤทธิก์ ารอ่านจบั ใจความของนกั เรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 โรงเรยี นวดั เขมาภริ ตาราม โดยใชแ้ บบฝึกเสรมิ ทกั ษะการอ่านจบั ใจความ ทาใหผ้ ลสมั ฤทธทิ ์ างการอ่านจบั ใจความสาคญั ของนกั เรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4เพม่ิ ขน้ึ จากรอ้ ยละ 35.7 เป็นรอ้ ยละ 76.6

บทท่ี 5 สรปุ อภิปรายผลและขอ้ เสนอแนะ ผู้วิจัยมีจุดมุ่งหมายเพ่ือพัฒนาผลสัมฤทธิก์ ารอ่านจับใจความของนักเรียนชัน้มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 โรงเรยี นวดั เขมาภริ ตาราม โดยใชแ้ บบฝึกเสรมิ ทกั ษะการอ่านจบั ใจความ การดาเนินการเก็บรวบรวบข้อมูลการพัฒนาผลสมั ฤทธิก์ ารอ่านจบั ใจความ ของนักเรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 โรงเรยี นวดั เขมาภริ ตาราม โดยใชแ้ บบฝึกเสรมิ ทกั ษะการอ่านจบั ใจความ ผวู้ จิ ยั ดาเนินการเกบ็ ขอ้ มลู ตงั้ แต่วนั ท่ี 20 กนั ยายน พ.ศ. 2560 ถงึ 20 ตุลาคมพ.ศ. 2560 ซง่ึ มขี นั้ ตอนการดาเนนิ การ ดงั น้ี 1. ทาการสารวจปญั หาเพอ่ื หาแนวทางแกไ้ ข 2. ปรกึ ษาครใู นหมวด หรอื ผเู้ ชย่ี วชาญถงึ ปญั หาเพ่อื หาแนวทางการแกไ้ ขปญั หา 3. เตรยี มเคร่อื งมอื เพ่อื แก้ไขปญั หาการอ่านจบั ใจความสาคญั โดยใช้แบบฝึกเสรมิทกั ษะการอ่านจบั ใจความสาคญั ของภทั รวรรณ มา้ ทอง เพ่อื พฒั นาการอ่านจบั ใจความสาคญัใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพสงู ขน้ึ 4. ผู้วจิ ยั ทาการทดสอบการอ่านจบั ใจความสาคญั โดยใชแ้ บบทดสอบการอ่านก่อนเรยี นแลว้ บนั ทกึ คะแนน 5. ผู้วจิ ยั สอนเร่อื งการอ่านจบั ใจความสาคญั โดยใช้แบบฝึกเสรมิ ทกั ษะการอ่านจบัใจความสาคญั ของภทั รวรรณ มา้ ทอง 6. ทาการทดสอบหลงั เรยี น( Post test ) และบนั ทกึ คะแนน โดยใชแ้ บบฝึกเสรมิ ทกั ษะการอ่านจบั ใจความสาคญั ของภทั รวรรณ มา้ ทอง ผวู้ จิ ยั ดาเนินการวเิ คราะหข์ อ้ มลู โดยตรวจแบบบนั ทกึ คะแนนก่อนเรยี นและหลงั เรยี นของนักเรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 โรงเรยี นวดั เขมาภริ ตาราม จานวน 31 คน แล้วนามาเปรยี บเทียบความแตกต่างของคะแนนท่ีได้ สถิติท่ีใช้ในการวเิ คราะห์ข้อมูลในครงั้ น้ี โดยเปรยี บเทยี บเป็นจานวนรอ้ ยละ

สรปุ ผล การเปรยี บเทยี บผลสมั ฤทธทิ ์ างการอ่านจบั ใจความของนักเรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4โรงเรียนวัดเขมาภิรตาราม จานวน 31 คนโดยใช้แบบฝึกเสริมทกั ษะการอ่านจบั ใจความพบวา่ มผี ลสมั ฤทธทิ ์ างการอ่านจบั ใจความของนักเรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 โรงเรยี นวดั เขมาภริ ตาราม สงู ขน้ึอภิปรายผล การศึกษาครงั้ น้ีผู้วจิ ยั มวี ตั ถุประสงค์เพ่ือพฒั นาผลสมั ฤทธกิ ์ ารอ่านจบั ใจความของนักเรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 โรงเรยี นวดั เขมาภริ ตาราม จานวน 31 คนโดยใชแ้ บบฝึกเสรมิทกั ษะการอ่านจบั ใจความ ผลการวจิ ยั พบว่าหลงั จากใชแ้ บบฝึกเสรมิ ทกั ษะการอ่านนักเรยี นมีผลสมั ฤทธทิ ์ างการอ่านสงู ขน้ึ และขอ้ มลู มคี วามสอดคลอ้ งกบั งานวจิ ยั ดงั น้ี กญั จนา รวมใหม่ (2553 : บทคดั ย่อ) ไดศ้ กึ ษา ผลการจดั การเรยี นรภู้ าษาไทยดา้ นการอ่านจบั ใจความของนกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 โดยใชแ้ บบฝึกทกั ษะประกอบเทคนิคSTAD โดยมวี ตั ถุประสงคเ์ พ่อื 1) พฒั นาแผนการจดั การเรยี นรภู้ าษาไทย ด้านการอ่านจบัใจความของนกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 โดยใชแ้ บบฝึกทกั ษะประกอบเทคนิค STAD ตามเกณฑ์ 80/80 2) ศกึ ษาดชั นีประสทิ ธผิ ลของแผนการจดั การเรยี นรภู้ าษาไทยดา้ นการอ่านจบัใจความของนกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 โดยใชแ้ บบฝึกทกั ษะประกอบเทคนิคSTAD และ 3)ศกึ ษาความรบั ผดิ ชอบของนกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 ทม่ี ตี ่อการเรยี นรดู้ ว้ ยแผนการจดั การเรยี นรภู้ าษาไทยดา้ นการอ่านจบั ใจความโดยใชแ้ บบประเมนิ ความรบั ผดิ ชอบ ผลการวจิ ยั พบว่าการจดั การเรยี นรู้ภาษาไทยด้านการอ่านจบั ใจความโดยใช้แบบฝึกทกั ษะประกอบเทคนิคSTAD มปี ระสทิ ธภิ าพและประสทิ ธผิ ลเหมาะสม ช่วยใหผ้ เู้ รยี นมปี ฏสิ มั พนั ธร์ ่วมกบั ผอู้ ่นื มสี ่วนรว่ มในการทางานกลมุ่ อย่างมคี วามสุข รว่ มมอื และช่วยเหลอื กนั เพ่อื ใหเ้ กดิ ทกั ษะการอ่านอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ จงึ ควรส่งเสรมิ ใหค้ รผู สู้ อนภาษาไทยและครผู สู้ อนในกลุ่มสาระการเรยี นรอู้ ่นื ได้จดั กจิ กรรมการเรยี นรทู้ ส่ี ่งเสรมิ ใหผ้ เู้ รยี นมสี ่วนรว่ มในการทางานกลุ่ม รว่ มมอื และช่วยเหลอื กนัเพ่อื ใหก้ ารทางานกลมุ่ ของตนประสบความสาเรจ็ อยา่ งมคี ณุ ภาพ และมปี ระสทิ ธภิ าพ

ข้อเสนอแนะ 1. การพฒั นาทกั ษะการอ่านจบั ใจความสาคญั ครูควรนาชุดฝึกทกั ษะใหน้ ักเรยี นท่มี ีปญั หา ซ่งึ ครตู ้องมกี ารควบคุมการฝึกของนักเรยี นอย่างสม่าเสมอ และต้องคอยใหค้ าปรกึ ษาอยา่ งใกลช้ ดิ

บรรณานุกรม

บรรณานุกรมกรมวชิ าการ. (2544). แนวการสอนภาษาไทย ชนั้ ประถมศึกษาปี ท่ี 6. กรงุ เทพฯ : โรง พมิ พค์ รุ สุ ภาลาดพรา้ ว.กรรณกิ ารธ์ วิ งศ์ และศศวิ มิ ล ประสม. (2550). ผลการใช้ชดุ ฝึ กทกั ษะการอ่านออกเสียง เพ่ือพฒั นาการอ่านออกเสียง ฉ ช ของนักเรียนชนั้ ม. ๑/๓. ลาปาง : โรงเรยี น ทงุ่ กว๋าววทิ ยาคม.กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. (2546). การจดั สาระการเรียนรกู้ ลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาไทย. กรงุ เทพฯ : กระทรวงฯ._______________. (2552). หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551. กรงุ เทพมหานคร : กระทรวงฯ.กญั จนา รวมใหม.่ (2553). ผลการจดั การเรยี นรภู้ าษาไทยด้านการอ่านจบั ใจความของ นักเรียนชนั้ ประถมศึกษาปี ที่ 4 โดยใช้แบบฝึ กทกั ษะประกอบเทคนิค STAD. ปรญิ ญาการศกึ ษามหาบณั ฑติ (หลกั สตู รและการสอน) มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม.ขนั ธช์ ยั อทิ ธเิ กยี รต.ิ (2545). การเปรียบเทียบความสามารถของนักเรยี นชนั้ มธั ยมศึกษาปี ท่ี 2 ในการจาบทร้อยกรองภาษาไทยระหว่างกล่มุ ที่ฝึ กท่องจา จากการฟังและฝึ กท่องจาจากการอ่าน. วทิ ยานพิ นธ์ ค.ม. (การสอนภาษาไทย) จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั .จรี ภทั ร เลศิ วมิ ลลกั ษณ์. (2550). การพฒั นาทกั ษะการอ่านและการเขียนนักเรียนชนั้ ประถมศึกษาปี ท่ี 6ท่ีบกพร่องด้านการเรียนร.ู้ กรุงเทพฯ : โรงเรยี นพบิ ลู ประชา สรรค.์จฬุ าลกั ษณ์ กองพลิ า. (2553). การพฒั นาความสามารถด้านการอ่านจบั ใจความของ นักเรียนชนั้ มธั ยมศึกษาปี ท่ี 1 โดยใช้การจดั การเรียนร้แู บบกล่มุ รว่ มมือแบบ

CIRC. ปรญิ ญาการศกึ ษามหาบณั ฑติ (หลกั สตู รและการสอน) มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม.ฟองจนั ทร์ สขุ ยงิ่ และคณะ. (2544). หนังสือเรยี นรายวิชาพื้นฐานภาษาไทย หลกั ภาษา และการใช้ภาษา ม.๒. กรงุ เทพฯ : อกั ษรเจรญิ ทศั น์.มหาวทิ ยาลยั สุโขทยั ธรรมาธริ าช. (2550). เอกสารการสอนชุดวิชาการอ่านภาษาไทย. พมิ พค์ รงั้ ท่ี 4. กรงุ เทพฯ : อรณุ การพมิ พ.์สานกั งานคณะกรรมการขนั้ พน้ื ฐาน. (2549). การสอนภาษาไทย. กรงุ เทพฯ : สานกั นโยบายและแผนการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน.สปุ าณี พดั ทอง. (2545). การใช้ภาษาไทย. พมิ พค์ รงั้ ท่ี 4. กรงุ เทพฯ : มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร.์


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook