Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore PHY01

PHY01

Published by nattanunya2519, 2018-09-17 09:12:09

Description: PHY01

Search

Read the Text Version

เอกสารประกอบการเรยี นรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ จดั ทาโดย นางสาวณฐั ธนัญา บุญถงึ ตาแหน่ง ครู คศ.2 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ตาบลช่างเค่งิ อาเภอแมแ่ จ่ม จงั หวัดเชยี งใหม่ สานักบรหิ ารงานการศึกษาพเิ ศษสานักงานการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร

เอกสารประกอบการเรยี นรู้ รายวชิ า ฟสิ กิ ส์ 1 เรอ่ื ง การเคลอ่ื นทแ่ี นวตรง 1 เอกสารประกอบการเรยี นรู้ รายวิชา ฟิสิกส์ 1 เรอ่ื ง การเคลอ่ื นทแ่ี นวตรง ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 4 สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรเ์ พิ่มเติม ชอื่ ………………………………………………………………………………………….…………………………. ชน้ั ……………………………….เลขท…ี่ ………………….. โดย นางสาวณฐั ธนญั า บญุ ถงึ ครผู สู้ อน ตาแหนง่ ครชู านาญการ คศ. 2 กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์ โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 อาเภอแมแ่ จม่ จงั หวัดเชยี งใหม่สานักบรหิ ารงานการศกึ ษาพิเศษ สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน โดยคณุ ครณู ฐั ธนญั า บญุ ถึง ครูชานาญการ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31

เอกสารประกอบการเรยี นรู้ รายวชิ า ฟสิ กิ ส์ 1 เรอื่ ง การเคลอื่ นทแ่ี นวตรง 2 คานา เอกสารประกอบการเรยี นรู้ เรื่อง การเคลื่อนทีแ่ นวตรง เป็นส่ือประกอบการเรียนรู้ที่จัดทาข้ึนเพื่อให้ผู้เรียนได้ใช้ศึกษาและทบทวนเนื้อหาจากการเรียนรู้ในช้ันเรียน ตลอดจนสามารถใช้เป็นแบบฝึกทักษะการคิดคานวณทางฟิสิกส์ในการเรยี นรรู้ ายวิชา ฟิสิกส์ 1 สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์เพ่ิมเติม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และใช้เป็นแบบฝึกเสรมิ สาหรับผู้เรียนท่เี รียนอ่อนหรือเรียนช้าทางฟิสิกส์ เพราะเอกสารประกอบการเรียนรู้น้ีมีลักษณะที่สามารถศึกษาค้นควา้ ทบทวน และฝึกปฏิบตั ดิ ้วยตนเองหรอื ร่วมกนั หาคาตอบกับเพือ่ นๆ ได้ เอกสารประกอบการเรียนรู้ นีย้ งั เป็นเครื่องชว่ ยบง่ ช้ใี หค้ รูทราบวา่ ผูเ้ รียนท่ีใช้เอกสารประกอบการเรยี นรู้นี้มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจในบทเรียน และสามารถนาความรู้ไปใช้ไดม้ ากน้อย เพียงใด ผู้เรียนมีจุดเด่นที่ควรส่งเสริมหรือมีจดุ ดอ้ ยที่ตอ้ งปรบั ปรุงแกไ้ ขอยา่ งไร เอกสารประกอบการเรียนรจู้ ึงเปน็ เครอื่ งมอื สาคัญ ทค่ี รใู ชใ้ นการตรวจสอบความรู้ความเขา้ ใจและพฒั นาทักษะการแกโ้ จทย์ปัญหาและการคดิ คานวณของผเู้ รยี น ขา้ พเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเอกสารประกอบการเรียนรู้ เรื่อง การเคล่ือนท่ีแนวตรง ในการเรียนรู้รายวิชาฟิสิกส์ 1 สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์เพ่ิมเติม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 น้ี จักเป็นประโยชน์ต่อผู้เรียน ผู้ท่ีสนใจและครูผูส้ อนตอ่ ไป นางสาวณัฐธนญั า บุญถงึ ตาแหนง่ ครูชานาญการ คศ. 2 กล่มุ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ โดยคณุ ครูณฐั ธนญั า บุญถงึ ครูชานาญการ กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31

เอกสารประกอบการเรยี นรู้ รายวชิ า ฟสิ กิ ส์ 1 เรอื่ ง การเคลอื่ นทแี่ นวตรง 3 คำชแี้ จง เอกสำรประกอบกำรเรยี นรู้ เรอื่ ง การเคลอ่ื นทแ่ี นวตรง 1. ใหผ้ ู้เรียนทุกคนศกึ ษาจุดประสงค์การเรียนรูแ้ ละเนือ้ หาอย่างละเอยี ดในเอกสารประกอบการเรียนรู้ เรอ่ื งการเคล่ือนท่แี นวตรง เพือ่ ประกอบการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ของครผู ู้สอน ซง่ึ จะตอ้ งปฏิบัตติ ามขน้ั ตอนทีก่ าหนดใหอ้ ยา่ งเคร่งครัดและมีความซอื่ สตั ย์ต่อตนเอง 2. ถา้ ผู้เรียนคนใดสงสยั หรอื มีปัญหาท่ีไมเ่ ข้าใจ สามารถขอคาแนะนาจากครูผู้สอนไดต้ ลอดเวลา 3. เมือ่ ทาแบบทดสอบและแบบฝกึ หัดระหว่างเรยี นเสร็จแล้ว ผเู้ รยี นสามารถสง่ เอกสารประกอบการเรยี นรชู้ ดุน้ี ใหค้ รูผู้สอนเพ่อื ตรวจคาตอบ โดยครูผู้สอนจะเฉลยคาตอบตลอดจนทบทวนการคดิ คานวณเพือ่ หาคาตอบตอ่ ไป จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้ 1. ศึกษาและอธิบายความสัมพนั ธ์ ระหว่างแรงกบั การเคล่อื นที่ของวตั ถใุ นสนามโนม้ ถ่วงและนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ 2. อธิบายและทดลองความสัมพนั ธ์ระหว่างการกระจัด เวลา ความเรว็ ความเร่งของการเคลอ่ื นท่ีในแนวตรง โดยคุณครณู ัฐธนญั า บุญถงึ ครชู านาญการ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31

เอกสารประกอบการเรยี นรู้ รายวชิ า ฟสิ กิ ส์ 1 เรอื่ ง การเคลอื่ นทแี่ นวตรง 4 การเคลอ่ื นทใ่ี นแนวเส้นตรงตอนที่ 1 ปรมิ าณทีเ่ กยี่ วกับการเคลอ่ื นที่ระยะทาง คือ ความยาวตามแนวทีเ่ คล่ือนทไ่ี ดจ้ รงิ ( m ) (เป็นปริมาณสเกลลาร์)การขจดั คือ ความยาวทว่ี ดั เปน็ เสน้ ตรงจากจุดเริ่มตน้ ถึงจดุ สุดท้ายของการเคลื่อนที่ ( m ) (เป็นปริมาณเวกเตอร์)อัตราเร็ว คือ อัตราส่วนของระยะทาง ตอ่ เวลาท่ใี ชใ้ นการเคลอื่ นที่ (m/s) (เปน็ ปริมาณสเกลลาร์) อตั ราเร็ว (m/s ) ������ = ������ ระยะทาง (m) ������ เวลา (s)ความเรว็ คอื อัตราส่วนของการขจดั ตอ่ เวลาท่ีใชใ้ นการเคล่ือนท่ี (m/s) (เปน็ ปรมิ าณเวกเตอร์)ระยะทาง = 4 + 3 = 7 เมตร ระยะทาง = 7 + 3 = 10 เมตร ระยะทาง = 2πR = 2( )7การขจัด = 5 เมตร การขจัด = 4 เมตร = 44 เมตร การขจัด = 0สมมตใิ ช้เวลา 2 วนิ าที ระยะทาง เมตร เวลา วนิ าทีอตั ราเร็ว = = = 3.5 เมตร/วินาทีความเร็ว = การกระจดั = เมตร = 2.5 เมตร/วนิ าที เวลา วนิ าที1. จงหาระยะทาง และการขจัดของการเคล่อื นท่ี ต่อไปน้ีโดยคุณครณู ัฐธนญั า บุญถึง ครูชานาญการ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31

เอกสารประกอบการเรยี นรู้ รายวชิ า ฟสิ กิ ส์ 1 เรอื่ ง การเคลอ่ื นทแ่ี นวตรง 52. นาย ก เดนิ จาก A ไป B ใชเ้ วลา 18 วินาที จากนั้นเดินต่อไปยงั C ดงั รปู ใช้เวลา 12 วนิ าทีจงหาขนาดของความเรว็ เฉลย่ี ของนาย ก ตลอดการเดนิ นี้ A 20 m Bก. 0.67 m/s ข. 0.75 m/s 10 m Cค. 0.97 m/s ง. 1.0 m/sอตั ราเรง่ คอื อัตราส่วนของอัตราเร็วทเ่ี ปลย่ี นไปต่อเวลาที่ใช้ในการเคล่ือนท่ี (m/s 2)(เปน็ ปรมิ าณสเกลลาร)์ อตั ราเรง่ (m/s 2) ������ = ∆������ อตั ราเรว็ ทีเ่ ปล่ียนไป (m/s ) ������ เวลา (s)ความเรง่ คือ อตั ราสว่ นของ ความเร็วท่ีเปล่ยี นไป ตอ่ เวลาที่ใช้ในการเคล่อื นที่ (m/s 2)(เป็นปรมิ าณเวกเตอร์) ตัวอย่างท่ี 1 ตวั อยา่ งท่ี 2 t=4s t=2s V1 = 0 m/s V2 = 5 m/s V1 = 20 m/s V1 = 0 m/sจาก ������ = ∆������ = ������2−������1 = −0������/������ จาก ������ = ∆������ ==������2-5−������m������1/s=2 0− 0 ������/������ ������ ������ ������ ������ 4 ������ = 2.5 m/s 2 ������ ������อตั ราเร่ง → อตั ราเรว็ (V) มีคา่ เพ่ิมมากขึน้ อัตราหน่วง → อตั ราเรว็ (V) มคี ่าลดลง3. รถคนั หนึ่งวิ่งด้วยความเร็ว 10 m/s จนกระทงั่ มคี วามเรว็ 15 m/s ในเวลา 1.5 วินาที ในแนวเส้นตรง จงหาความเร่งเฉล่ียของรถ4. ขับจักรยานดว้ ยอัตราเร็วดงั น้ีอตั ราเร็ว (m/s) 10 8 6 4 2 0เวลา (S) 012 3 4 5จงหาอัตราเร่ง โดยคุณครูณัฐธนัญา บญุ ถงึ ครูชานาญการ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31

เอกสารประกอบการเรยี นรู้ รายวชิ า ฟสิ กิ ส์ 1 เรอื่ ง การเคลอื่ นทแี่ นวตรง 65. วัตถุอันหน่ึงเคล่ือนท่ีด้วยความเร่ง 10 m/s2 จะต้องใชเ้ วลานานเท่าไรในการเปลี่ยนความเร็วจาก 20 m/s เป็น 50 m/s ก. 2 s ข. 3 s ค. 5 s ง. 7 sตอนท่ี 2 สมการการเคลอื่ นทใี่ นแนวเสน้ ตรงดว้ ยอตั ราเรง่ คงท่ี เมื่อ u = ความเร็วต้น (m/s) v = ความเรว็ ปลาย (m/s) a = ความเรง่ (m/s2) t = เวลา (s) s = การกระจัด (m)เมื่อ V= ความเร็วซ่ึงคงที่ตวั อยา่ ง รถคันหนงึ่ เคลอื่ นทีไ่ ปด้วยความเรว็ 10 m/s ตอ่ มาไดเ้ ปลีย่ นความเร็ว เป็น 30 m/s ภายในเวลา20 s ถามวา่ ในช่วงเร่งเครอ่ื งรถคนั นจี้ ะเคลือ่ นทไ่ี ดร้ ะยะทางกเ่ี มตรวธิ ที า จากโจทย์ จะได้ว่า u = 10 m/s v = 30 m/s t = 20 s หา S = ?ใช้สูตร S = ( ) t แทนคา่ S = ( 0 0 )20 S = 400 mตอบ ในช่วงเรง่ เครือ่ งรถคันน้จี ะเคลอ่ื นท่ีได้ระยะทางท้ังหมด 400 เมตร6. ถ้าเครอ่ื งบินตอ้ งใช้เวลาในการเรง่ เครอ่ื ง 20 s จากหยดุ นิง่ และใช้ระยะทาง 400 m กอ่ นทีจ่ ะขนึ้ จากทางว่ิงได้จงหาอัตราเรว็ ของเคร่อื งบินขณะที่ขึน้ จากทางวิ่งเท่ากบั กี่เมตรตอ่ วินาทีก. 20 ข. 32 ค. 40 ง. 80 จ. 1007. จรวดลาหน่ึงทะยานขนึ้ จากพ้นื โลกในแนวดิ่งด้วยความเร่ง 15 m/s2 เมื่อเวลาผา่ นไป 60 s จรวดลาน้ีจะอยู่สงู จากพื้นโลกกเ่ี มตร ข. 1 .2 x 104 ค. 2.7 x 104 ง. 9.4 x 103 ก. 1.9 x 104โดยคณุ ครณู ัฐธนัญา บุญถงึ ครูชานาญการ กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31

เอกสารประกอบการเรยี นรู้ รายวชิ า ฟสิ กิ ส์ 1 เรอื่ ง การเคลอื่ นทแ่ี นวตรง 78. รถยนต์คนั หนึ่งวิง่ ตามหลงั มอเตอรไ์ ซด์ด้วยอัตราเร็วคงตัว 36 km/hr ต่อมารถยนตค์ นั น้ไี ดแ้ ซงรถมอเตอรไ์ ซด์ ดว้ ยอตั ราเรง่ 2 m/s2 โดยใช้เวลาในการแซงท้ังหมด 10 s จงหาวา่ รถยนต์เคล่ือนที่เปน็ ระยะทางก่ีเมตร ในการแซงรถมอเตอร์ไซด์ครง้ั นี้9. รถไฟขบวนหนง่ึ ออกวง่ิ จากหยุดนง่ิ ทสี่ ถานี ก ไปด้วยความเรง่ 4 m/s2 นาน 10 s วง่ิ ตอ่ ไปดว้ ยความเรว็ คงท่ี เป็นเวลา 30 s จึงลดความเรว็ ลงในอตั รา 8 m/s2 จนไปหยุดน่ิงสถานี ข พอดี ให้หาระยะทางระหว่างสถานี ก และ ข10. ชายผูห้ น่งึ ขับรถยนต์เข้าหาสัญญาณไฟจราจรท่สี แ่ี ยกแห่งหนง่ึ ขณะทร่ี ถยนตม์ คี วามเรว็ 30 m/s สญั ญาณไฟ เปล่ยี นจากสีเขยี วเป็นสเี หลือง หากชายผนู้ ้ันใช้เวลา 1.0 s กอ่ นจะเหยียบเบรกและหากอัตราหน่วงสงู สุดของ เบรกเปน็ 5.0 m/s2 จงหาระยะนอ้ ยที่สดุ ทีร่ ถยนต์อยู่หา่ งจากสัญญาณไฟซง่ึ รถจะหยุดได้ทนั พอดี โดยคณุ ครณู ฐั ธนัญา บุญถงึ ครชู านาญการ กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31

เอกสารประกอบการเรยี นรู้ รายวชิ า ฟสิ กิ ส์ 1 เรอื่ ง การเคลอ่ื นทแ่ี นวตรง 811. รถคนั หนง่ึ ออกจากจุดหยดุ น่งิ ด้วยความเร่ง 6 m/s2 พรอ้ ม ๆ กนั นนั้ มรี ถ A แลน่ ผ่านจดุ เดยี วกันไปดว้ ยความเร็วคงท่ี 30 m/s พุ่งนาหนา้ รถคนั แรก รถคันแรกจะทนั รถ A ในระยะทางเท่าใดก. 300 m ข. 360 m ค. 400 m ง. 450 m12. จากโจทย์ขอ้ ที่ 11 ขณะรถท้งั สองทนั กนั รถคันแรกมคี วามเรว็ เทา่ ไรก. 80 m/s ข. 60 m/s ค. 40 m/s ง. 30 m/s13. คนหน่ึงขบั รถด้วยความเรว็ คงที่ 72 km/hr เมอ่ื ผ่านด่านตรวจไปได้ 10 s ตารวจจงึ ออกรถไลก่ วดและทนั รถของ ชายดังกล่าวในเวลา 2 min ตารวจตอ้ งเร่งเครอ่ื งยนตด์ ้วยความเรง่ คงท่ีเทา่ ไรในหนว่ ย m/s2สมการขน้ึ - ลง14. ขวา้ งลูกบอลลงมาในแนวด่ิงดว้ ยความเร็ว 15 m/s ใชเ้ วลา 2 s จึงจะถึงพื้นดนิ ถามว่าตาแหนง่ ท่ีขว้าง ลูกบอลอยู่สงู จากพืน้ ก่ีเมตร ก. 10 ข. 50 ค. 20 ง. 30 โดยคุณครณู ฐั ธนญั า บญุ ถึง ครูชานาญการ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31

เอกสารประกอบการเรยี นรู้ รายวชิ า ฟสิ กิ ส์ 1 เรอ่ื ง การเคลอ่ื นทแ่ี นวตรง 915. จากข้อ 14 ความเร็วของลูกบอลขณะกระทบพน้ื มคี า่ ก่เี มตร/วนิ าที ง. 35 ก. 15 ข. 25 ค. 3016. ปลอ่ ยลกู บอลให้ตกลงในแนวด่งิ จากทสี่ งู 50 m ความเร็วขณะกระทบพื้นและเวลาที่ใช้ทงั้ หมดเปน็ เท่าไรก. 25 10 m/s, 5 10 s ข. 25 m/s, 10 10 sค. 10 m/s, 10 s ง. 10 10 m/s, 10 s17. ลูกบอลตกจากจุด A ซง่ึ สูง h จากพ้ืนเมอื่ ผ่านจุด B ซง่ึ สูง h/4 จากพ้ืนจะมอี ตั ราเรว็ เท่าใดก. (gh/2) 1/2 m/s ข. (gh)1/2 m/ ค. (3gh/2) 1/2 m/s ง. (2gh) 1/2 m/s18. ขว้างก้อนหินขน้ึ ไปในแนวดง่ิ ดว้ ยความเรว็ 40 m/s กินเวลานานเท่าไร กอ้ นหนิ จึงอยู่สูงจากพื้นดิน 60 m ก. 2 และ 4 วินาที ข. 3 และ 6 วนิ าที ค. 1 และ 3 วนิ าที ง. 2 และ 6 วินาที โดยคณุ ครณู ัฐธนัญา บุญถึง ครูชานาญการ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31

เอกสารประกอบการเรยี นรู้ รายวชิ า ฟสิ กิ ส์ 1 เรอ่ื ง การเคลอ่ื นทแ่ี นวตรง 1019. เดก็ ชายคนหน่ึงขว้างลูกบอลข้ึนไปในแนวดงิ่ เมอ่ื ลูกบอลข้ึนไปได้สูง 5 m อตั ราเรว็ ของลูกบอลเท่ากบั 10 m/s ในแนวขนึ้ อตั ราเรว็ เริ่มต้น และระยะสูงสุดท่ลี ูกบอลเคลือ่ นท่ีได้มคี ่าเทา่ ใดก. 10 m/s และ 10 m ข. 10 2 m/s และ 10 2 mค. 10 m/s และ 10 2 m ง. 10 2 m/s และ 10 m20. โยนวัตถุสองก้อน A และ B ใหเ้ คลอ่ื นที่ข้นึ ตามแนวดิง่ ระยะทางสงู สุดท่ีวัตถุ A และ B เคล่อื นท่ี ขน้ึ ไปได้คอื 50 และ 200 เมตร ตามลาดบั อัตราสว่ นของความเรว็ ต้นของ A ต่อของ B มคี า่ เท่าใด ก. 4 ข. ค. ง.21. ชายคนหน่ึงโยนเหรยี ญขึ้นไปในแนวดงิ่ ดว้ ยความเรว็ ตน้ 10 m/s เป็นเวลาเท่าใดเหรียญจึงจะตกลงมาถึงตาแหนง่ เร่ิมต้น ก. 1 s ข. 2 s ค. 3 s ง. 4 s โดยคณุ ครณู ฐั ธนัญา บญุ ถงึ ครูชานาญการ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31

เอกสารประกอบการเรยี นรู้ รายวชิ า ฟสิ กิ ส์ 1 เรอ่ื ง การเคลอ่ื นทแ่ี นวตรง 1122) กอ้ นหนิ A ถูกปล่อยให้ตกแบบเสรี ขณะท่ีก้อนหนิ B ถกู โยนขนึ้ จากพนื้ ดินในแนวด่ิงดว้ ยอตั ราเรว็ ต้นค่าหนง่ึ ปรากฏว่าเมือ่ เวลาผ่านไปนาน 3 วินาที กอ้ นหนิ ทัง้ สองเคลือ่ นทไ่ี ด้ระยะทางเทา่ กนั จงหาวา่ อัตราเรว็ ต้น ของกอ้ นหิน B จะมีค่ากเ่ี มตร/วินาที ก.45 ข. 30 ค. 20 4. 1023. โยนวัตถกุ อ้ นหนึง่ ขนึ้ ไปในแนวดง่ิ โดยวัตถุข้ึนถงึ จุดสูงสุดที่ B ถ้า A และ C เปน็ จุดท่อี ยใู่ นระดับ เดียวกนั ดังรูป เมือ่ ไมค่ ิดผลของแรงตา้ นอากาศข้อต่อไปน้ีข้อใดถกู ก. ท่ีจดุ B วตั ถุมคี วามเร็วและความเร่งเปน็ ศูนย์ ข. ที่จุด A และ C วตั ถมุ คี วามเรว็ เท่ากัน ค. ทจ่ี ุด A และ C วัตถมุ ีความเร่งขนาดเท่ากนั แต่ทิศทางตรงกนั ข้าม ง. ท่ีจุด A, B และ C วตั ถุมีความเร่งเทา่ กนั ท้ังขนาดและทศิ ทาง24. โยนวัตถจุ ากพน้ื ดว้ ยความเร็วต้น 20 m/s จงหา ข. ความเร็วเมอื่ เวลาผา่ นไป 5 วนิ าที ก. ความเร็วเม่อื เวลาผ่านไป 1 วินาทีโดยคุณครูณัฐธนัญา บญุ ถงึ ครูชานาญการ กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31

ค. การขจัดเม่ือเวลาผ่านไป 1 วนิ าที เอกสารประกอบการเรยี นรู้ รายวชิ า ฟสิ กิ ส์ 1 เรอื่ ง การเคลอ่ื นทแี่ นวตรง 12 ง. การขจดั เมอ่ื เวลาผ่านไป 5 วินาที25. ชายคนหนึง่ ยนื อยบู่ นดาดฟา้ ของตกึ เขาขว้างกอ้ นหนิ มวล 0.1 kg ขึ้นไปในอากาศในแนวดิง่ ด้วยความเรว็ 5 m/sหลังจากกอ้ นหินหลุดจากมือเขา 6 s กต็ กถงึ พืน้ ดินความสงู ของตึกเป็นเท่าไรก. 125.0 เมตร ข. 150.0 เมตร ค. 151.25 เมตร ง. 152.5 เมตร26. เด็กคนหนงึ่ โยนกอ้ นหินขนึ้ ไปในแนวดิ่งดว้ ยอตั ราเร็วต้น 10 m/s ก้อนหินตกถงึ พนื้ ซึง่ อยตู่ ่ากวา่ ตาแหน่งมือที่ กาลงั โยนเป็นระยะทาง 15 m จงหาว่าก้อนหินเคลอื่ นทีอ่ ยใู่ นอากาศเป็นเวลานานกว่ี ินาที27. ลูกบอลลนู ลอยขึ้นไปในอากาศดว้ ยความเร็วคงท่ี 5 m/s เมือ่ ขน้ึ ไปได้ 30 s กป็ ล่อยลกู ระเบิดลงมานาน กวี่ ินาที ลกู ระเบิดจงึ จะตกถงึ พื้น ก. 5 ข. 6 ค. 3 ง. 15 228. ถ้าปล่อยนา้ ให้ไหลทีละหยดเป็นจังหวะโดยที่หยดแรกถึงพื้นหยดตอ่ ไปกป็ ลอ่ ยเป็นดงั นีเ้ ร่ือย ๆ ถา้ ในเวลา 1 นาที มีหยดน้ารวม 150 หยด จดุ ท่ีปล่อยนา้ สูงจากพน้ื เทา่ ใดโดยคณุ ครณู ัฐธนัญา บญุ ถงึ ครชู านาญการ กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31

เอกสารประกอบการเรยี นรู้ รายวชิ า ฟสิ กิ ส์ 1 เรอ่ื ง การเคลอ่ื นทแี่ นวตรง 1329. ในการปรบั ใหน้ า้ หยดจากปลายหลอดบิวเรตต์ชนดิ หนึง่ ถงึ พื้น อีกหยดหน่งึ ถัดไปก็หยดออกทันที เม่ือปลาย บวิ เรตต์สูง (h) 50 cm หยดน้าควรหยดกห่ี ยดต่อ 10 s ก. 6 ข. 20 ค. 31 ง . 4930. ชายคนหน่ึงปล่อยหนิ กอ้ นหนึ่งจากดาดฟา้ อาคารสงู หลังจากนน้ั 1 s เขาก็ขว้างหินกอ้ นหน่ึงลงมาในแนวดง่ิ ด้วยความเรว็ ตน้ 15 m/s ถา้ หินทงั้ สองก้อนกระทบพนื้ ดนิ พรอ้ มกนั จงหาว่าอาคารน้สี ูงกี่เมตร31. กระถางต้นไม้ตกจากดาดฟา้ ตึกผา่ นหนา้ ตา่ งสูง 1 m ในเวลา 0.2 s ขอบบนของหน้าตา่ งนต้ี ่าจากยอดตึกเทา่ ใดก. 60 cm ข. 70 cm ค. 80 cm ง. 90 cm32. ในขณะถ่ายทาภาพยนตร์ กลอ้ งวดี ีโอไดถ้ า่ ยภาพการเคล่ือนท่ี ของกระถางที่ตกจากระเบียงของตึกสูงแห่งหนึ่งซึง่ พบว่ากระถางใช้เวลาในการเคลื่อนทผี่ ่านหน้าต่างชน้ั ล่างซึ่งมคี วามสูง 1.5 m ในเวลา 0.03 s จงคานวณว่าจุดทกี่ ระถางเร่มิ ตกลงมามีความสูงจากหนา้ ต่างช้นั ลา่ งประมาณเทา่ ไร (ไม่คดิ ผลจากแรงต้านทานของอากาศ)ก. 50 m ข. 75 m ค. 100 m ง. 125 m โดยคณุ ครูณัฐธนญั า บญุ ถึง ครชู านาญการ กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31

เอกสารประกอบการเรยี นรู้ รายวชิ า ฟสิ กิ ส์ 1 เรอ่ื ง การเคลอ่ื นทแ่ี นวตรง 1433. นักโดดรม่ ด่ิงพสธุ าคนหน่ึง โดดลงมาจากเคร่อื งบนิ อีก 100 m จะถงึ พ้ืนดินก็กระตกุ ร่มกางออกจะทาให้ เขา เคลื่อนท่ีดว้ ยความหนว่ ง 5.0 m/s2 แล้วถึงพื้นด้วยความเรว็ 1 m/s ขณะทีเ่ ขาโดดเครอื่ งบนิ อยสู่ งู จากพ้ืนก. 140 เมตร ข. 150 เมตร ค. 160 เมตร ง. 170 เมตร34. รถไฟ 2 ขบวน วง่ิ เข้าหากนั โดยวงิ่ ในรางเดียวกัน รถขบวนท่ี 1 ว่ิงด้วยความเรว็ 10 m/s สว่ นรถขบวนท่ี 2 ว่ิงดว้ ยความเร็ว 20 m/s ขณะทีอ่ ยหู่ ่างกัน 325 m รถไฟทงั้ 2 ขบวน ต่างเบรกรถและหยุดได้ พอดีพรอ้ มกันโดยหา่ งกนั25 m เวลาท่ีรถท้ังสองใชเ้ ปน็ เทา่ ใดก. 10 วนิ าที ข. 15 วนิ าที ค. 20 วนิ าที ง. 25 วนิ าที35. นาย ก ยืนอยูบ่ นดาดฟา้ ตกึ ซง่ึ สูงจากพ้นื ดิน 20 m ปลอ่ ยกอ้ นหนิ ลงไปในแนวดิ่งในขณะเดยี วกนั นาย ข ซงึ่ อยู่ ทีพ่ ืน้ ดนิ โยนกอ้ นหนิ ขน้ึ ไปตรงๆ ด้วยความเรว็ 20 m/s กอ้ นหนิ ท้งั สองจะพบกนั ทส่ี งู จากพน้ื ดนิ กเี่ มตร36. ชายคนหนึ่งโยนกอ้ นหินข้ึนไปในแนวดง่ิ ด้วยอตั ราเรว็ ต้น 12.0 m/s ขณะท่ีก้อนหินกอ้ นแรกขนึ้ ไปถึงจุดสูงสุด ก็โยนกอ้ นหนิ ก้อนท่ีสองขึน้ ไปในแนวดง่ิ ด้วยอัตราเร็วต้นเทา่ กบั กอ้ นแรก จงหาวา่ กอ้ นหินท้งั สองจะชนกัน ณ ตาแหน่งซ่งึ สูงจากตาแหนง่ ท่โี ยนก่เี มตร โดยคณุ ครูณัฐธนัญา บญุ ถึง ครูชานาญการ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31

เอกสารประกอบการเรยี นรู้ รายวชิ า ฟสิ กิ ส์ 1 เรอ่ื ง การเคลอ่ื นทแี่ นวตรง 1537. ปล่อยก้อนหินลงไปในบอ่ ลกึ 20 m พบว่าอีก 2.06 s ตอ่ มาไดย้ ินเสียงกอ้ นหนิ กระทบกน้ บ่อ อตั ราเรว็ ของเสยี งทไ่ี ด้จากข้อมลู นี้เปน็ เท่าใดก. 333 m/s ข. 340 m/s ค. 347 m/s ง. 352 m/sตอนที่ 3 กราฟของการเคลอื่ นทใ่ี นแนวเสน้ ตรงดว้ ยอตั ราเรง่ คงท่ี ความสัมพนั ธ์แทง่ กราฟ ความเร่ง ความเรว็ และการกระจัดกราฟชดุ ท่ี 1 ความเร่ง = 0 ความเร็วคงที่ การกระจัดเพิ่มขน้ึ เปน็ กราฟเสน้ ตรงกราฟชุดท่ี 2ความเร่งเปน็ บวกคงที่ ความเร็วเพม่ิ เปน็ เสน้ ตรง การกระจัดเพิ่มขึน้ เปน็ เส้นโคง้ หงายกราฟชุดท่ี 3 ความเร็วลดลงเปน็ เส้นตรง การกระจัดลดเปน็ เสน้ โค้ง ความเร่งเป็นลบคงที่ การขจัดคงที่ แสดงวา่ วัตถุอยนู่ ิง่ ๆ ความเร็ว = 0 ความเรง่ = 0ตะแคงโดยคณุ ครณู ฐั ธนญั า บญุ ถึง ครชู านาญการ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31

เอกสารประกอบการเรยี นรู้ รายวชิ า ฟสิ กิ ส์ 1 เรอื่ ง การเคลอ่ื นทแี่ นวตรง 1638. ตามรปู เป็นกราฟระหว่างการกระจัด – เวลา ช่วงเวลาข้อใดทีค่ วามเรว็ เปน็ ศนู ย์ ก. 0 → t1 , t2 → t4 ข. t2 , t3 → t4 ค. 0 → t1 , t3 → t4 ง. 0 → t1 , t2 → t339. พจิ ารณาการเคลอ่ื นที่ของจักรยานคนั หนึ่งในแนวเสน้ ตรง กราฟระหวา่ งการขจัด – เวลาในข้อใดต่อไปน้ี ทแ่ี สดงวา่ จกั รยานมคี วามเรว็ คงท่ี ก. ข. ค. ง.40. ถา้ กราฟการกระจัด x กบั เวลา t ของรถยนต์ ก และ ข มีลักษณะดงั รูปขอ้ ใดตอ่ ไปนถ้ี กู ต้อง ก. รถยนต์ ก และ ข จะมคี วามเรว็ เทา่ กันเมื่อเวลา ผา่ นไป 2 นาที ข. รถยนต์ ก มีความเร็วไม่คงท่ี ส่วนรถยนต์ ข มีความเรว็ คงท่ี ค. รถยนต ก มีความเรง่ มากกวา่ ศนู ย์ สว่ นรถยนต ข มีความเรว็ เท่ากับศูนย ง. ทัง้ รถยนต์ ก และ ข ตา่ งมคี วามเรง่ เป็นศนู ย์ โดยคณุ ครณู ัฐธนัญา บุญถึง ครูชานาญการ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31

เอกสารประกอบการเรยี นรู้ รายวชิ า ฟสิ กิ ส์ 1 เรอ่ื ง การเคลอื่ นทแ่ี นวตรง 1741. วัตถกุ ้อนหน่ึงเคลือ่ นท่ใี นแนวเส้นตรงโดยมีกราฟความเรว็ – เวลา ดังรูป ดงั นั้นกราฟในขอ้ ใดต่อไปน้ี แทนความสัมพันธ์ระหว่างความเรง่ กบั เวลาของการเคล่ือนท่ีนี้ได้ถกู ก. ข. ค. ง.42. จงพิจารณากราฟต่อไปน้ีจากกราฟทป่ี รากฏขา้ งบนนม้ี กี รณีใดทส่ี อดคลอ้ งกับกราฟเหล่าน้ีกรณที ีห่ น่งึ มีการโยนวัตถขุ ึน้ ไปในแนวด่ิงจนวัตถขุ ึ้นไปถงึ ตาแหน่งสงู สุดกรณีทสี่ อง มีการปล่อยวัตถตุ กในแนวดงิ่ ภายใต้แรงดึงดูดของโลกก. กรณที ่หี น่ึงกับ ก. กรณที ่สี องกับ ข. ข. กรณที ี่หนง่ึ กบั ข. กรณีทส่ี องกับ ก.ค. กรณีทหี่ นึง่ กับ ข. กรณที ี่สองกับ ค. ง. กรณที ีห่ น่งึ กบั ค. กรณีท่ีสอง กบั ก.โดยคณุ ครณู ฐั ธนัญา บญุ ถงึ ครูชานาญการ กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์ โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31

เอกสารประกอบการเรยี นรู้ รายวชิ า ฟสิ กิ ส์ 1 เรอื่ ง การเคลอื่ นทแ่ี นวตรง 18 43. จากการศกึ ษาการเคลอื่ นที่ของวัตถุในแนวเส้นตรง โดยใชเ้ ครอื่ งเคาะสัญญาณเวลาได้จดุ บนแถบกระดาษ ดงั รูป โดยท่รี ะยะระหว่างจุดจะมชี ว่ งเวลาเท่ากัน กราฟรูปใดทแ่ี สดงความสัมพนั ธ์ระหว่างความเรง่ ของวัตถกุ ับเวลา ก. ข. ค. ง. ตอนที่ 4 กราฟของการเคลอื่ นทใี่ นแนวเสน้ ตรงดว้ ยอตั ราเรง่ คงที่ พืน้ ทใ่ี ตก้ ราฟ จะไมเ่ ทา่ กบั อะไรเลย ความชนั เสน้ กราฟ = V พ้นื ท่ีใตก้ ราฟ = S ความชันเส้นกราฟ = a พน้ื ที่ใต้กราฟ = v – u ความชันเสน้ กราฟ ไม่เท่ากบั อะไรเลย44. คากล่าวต่อไปน้ี ขอ้ ใดผดิ ก. ความชนั ของกราฟระหวา่ งการกระจัด – เวลา คือ ความเรว็ ข. ความชนั ของกราฟระหวา่ งความเร็ว – เวลา คือ ความเรง่ ค. ความชันของกราฟระหว่างความเรง่ – เวลา คือ พลงั งานจลน์ ง. พ้นื ท่ีใตก้ ราฟระหวา่ งความเร็ว – เวลา คือ การกระจดั โดยคุณครูณัฐธนัญา บญุ ถงึ ครูชานาญการ กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31

เอกสารประกอบการเรยี นรู้ รายวชิ า ฟสิ กิ ส์ 1 เรอ่ื ง การเคลอ่ื นทแ่ี นวตรง 1945. จากกราฟ v – t กราฟเส้นใดแสดงการเคลอื่ นทขี่ องวัตถดุ ว้ ยความเรง่ มากท่ีสุด ก. เส้น 1 ข. เสน้ 2 ค. เสน้ 3 ง. เส้น 446. รถยนตค์ ันหน่งึ เคลอื่ นท่ีในแนวเสน้ ตรงได้กราฟระหวา่ ง ความเรว็ – เวลา ดงั รูป ถามว่าเมือ่ ส้ินวินาทที ี่ 6 การ กระจดั จะเป็นกีเ่ มตร ก. 1190 ข. 80 ค. 180 ง. 9047. จากข้อท่ีผ่านมา คา่ ความเรว็ เฉลีย่ ในช่วงเวลา 0 ถึง 6 วินาที เปน็ เทา่ ไรก. 20 เมตร/วินาที ข. 15 เมตร/วนิ าทีค. 10 เมตร/วินาที ง. 5 เมตร/วนิ าที48. จากกราฟของความเร็วกับเวลาของการเคลอื่ นทขี่ องวตั ถุเป็นดังรูป ระยะทางที่วตั ถเุ คลื่อนทไี่ ด้ทง้ั หมด ก. 105 เมตร ข. 180 เมตร ค. 120 เมตร ง. 135 เมตร49. กราฟของอัตราเร็วกับเวลาของนักวงิ่ คนหนง่ึ ปรากฏดังรูป จงหาระยะทางทีว่ งิ่ ได้ในช่วงเวลาระหว่างวินาทีท่ี 8 ถึงวนิ าทที ่ี 14 ก. 280.00 เมตร ข. 116.25 เมตร ค. 82.50 เมตร ง. 45.00 เมตรโดยคุณครณู ฐั ธนญั า บญุ ถึง ครูชานาญการ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31

เอกสารประกอบการเรยี นรู้ รายวชิ า ฟสิ กิ ส์ 1 เรอื่ ง การเคลอื่ นทแี่ นวตรง 2050. อนุภาคหนึ่งเคลอื่ นทไ่ี ดก้ ารกระจัด 150 m โดยมีความเร็วสูงสดุ 10 m/s และความเรว็ V กับเวลา t มี ความสัมพนั ธด์ งั กราฟ จงหาเวลาที่ใชใ้ นการเคล่ือนที่ ก. 10 วินาที ข. 20 วินาที ค. 30 วนิ าที ง. 40 วินาที51. วตั ถุอนั หน่ึงเคล่ือนทโี่ ดยมคี วามเรว็ เปลยี่ นแปลง กับเวลาเปน็ sine curve (ดังรปู ) ซง่ึ มีค่าแอมพลจิ ูด เปน็ 0.3 m/s จงหาระยะที่วตั ถเุ คลือ่ นทีไ่ ปไดร้ ะหวา่ ง A กับ B52. วัตถอุ ันหนึง่ เคลอ่ื นที่จากนง่ิ ดว้ ยความเร่ง a ทเ่ี วลา t ดังไดแ้ สดงในรปู จงหาความเร็วของวัตถุ ทีเ่ วลา 5 นาที ก. 2 m/s ข. 1 m/s ค. 0 m/s ง. –1 m/s53. (มช 36) รถคนั หน่งึ วิง่ ออกจากจดุ สตารท์ ไปตามล่แู ข่ง ด้วยอัตราเรว็ ดังแสดงในกราฟ จงหาอตั ราเรง่ ของรถ ขณะว่งิ ออกมาได้ 7 s ในหนว่ ย m/s2โดยคณุ ครณู ฐั ธนัญา บญุ ถึง ครูชานาญการ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31

เอกสารประกอบการเรยี นรู้ รายวชิ า ฟสิ กิ ส์ 1 เรอื่ ง การเคลอื่ นทแ่ี นวตรง 2154. จากกราฟในข้อ 53 จงหาอัตราเร็วเฉลย่ี ของรถคันนีใ้ นหนว่ ยกิโลเมตรต่อช่ัวโมง55. จากกราฟแสดงความสัมพันธร์ ะหวา่ งความเรว็ กบั เวลาของการเคล่ือนท่ีเป็นดังรปู พบว่าภายหลังการเดินทางไปได้ 4 s ระยะทางการเคลอ่ื นทีม่ คี า่ 16 m จงหาความเรง่ ทีเ่ วลา 3 sก. +2 m/s2 ข. –2 m/s2ค. +3 m/s2 ง. –4 m256. รถ A แลน่ ดว้ ยความเรว็ คงท่ี 40 km/hr ผา่ นรถ B ซง่ึ กาลังออกแล่นด้วยความเร่งคงท่ี จนมคี วามคงท่ี 60 km/hr ซงึ่ กราฟความเร็ว–เวลา ของรถทั้งสองคันเป็นดงั รปู ถ้าจะให้รถ B แล่นทนั รถ A จะต้องกินเวลา เทา่ ไร ก. 70 วนิ าที ข. 80 วินาที ค. 90 วนิ าที ง. 100 วินาที57. จากกราฟของการเคล่ือนทต่ี อ่ ไปน้ี จงหาการกระจดั และระยะทางของการเคล่อื นที่โดยคณุ ครูณฐั ธนัญา บญุ ถึง ครชู านาญการ กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31

เอกสารประกอบการเรยี นรู้ รายวชิ า ฟสิ กิ ส์ 1 เรอื่ ง การเคลอื่ นทแี่ นวตรง 2258. รถยนตค์ นั หนง่ึ เคล่อื นที่ด้วยความเรว็ ตามกราฟท่ีกาหนดให้ อยากทราบวา่ เมื่อส้ินสุดวินาทีที่ 5 ระยะทางและการขจดั ของรถยนต์เป็นเท่าไรในหนว่ ยเมตรก. 50 , 50 ข. 50 , 250ค. 250 , 50 ง. 250 , 25059. จากข้อท่ีผ่านมา อยากทราบว่าเม่อื สิน้ สุดวินาทีที่ 5 แล้วจะได้ความเร็วเฉลยี่ และอตั ราเฉล่ียของรถยนต์เป็นก่ีเมตร/วินาทีก. 10 , 10 ข. 50 , 10 ค. 50 , 50 ง. 10 , 5060. รถยนตค์ ันหนึ่งกาลงั เคลือ่ นท่ีด้วยอัตราเรว็ คงตัว 50 km/hr ตอ่ มา รถยนต์คนั นว้ี ่ิงผา่ นรถยนต์ อกี คันหน่งึ ซงึ่ ว่งิ ไปในทางเดียวกันดว้ ยอัตราเร็ว 40 km/hr และมีอัตราเร่งคงตัว 20 km/hr2 อีกนานเทา่ ใด รถยนต์ทั้งสองคนัจะมาพบกนั อีกครั้งก. ไมม่ ที างเจอกนั อีก ข. 1 ชั่วโมง ค. 2 ชั่วโมง ง. 3 ชัว่ โมงโดยคณุ ครณู ัฐธนญั า บุญถงึ ครชู านาญการ กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์ โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31

เอกสารประกอบการเรยี นรู้ รายวชิ า ฟสิ กิ ส์ 1 เรอ่ื ง การเคลอ่ื นทแี่ นวตรง 23 แบบฝกึ หัด เรื่อง การเคลอ่ื นทีใ่ นแนวเส้นตรง1.(มช 31) เดก็ คนหนง่ึ เดนิ ตามเส้นทางคร่งึ วงกลมดงั รปู ระยะทางและการขจดั จาก A ไป B มคี ่าเท่าไร ก. 10, 10 เมตร ข. 30, 15 เมตร ค. 47.1, 10 เมตร ง. 47.1, 15 เมตร2. ตามรูป A กับ B ใกลก้ ันทส่ี ุด 1,000 m ถา้ ป่ันจกั รยานตามเส้นทางคดโค้งทกี่ าหนดใหจ้ ะกินเวลา 100 sความเรว็ และอัตราเรว็ เปน็ เท่าไร ก. 5 m/s , 5 m/s ข. 10 m/s, 20 m/s ค. 10 m/s, 5 m/s ง. 5 m/s, 10 m/s3. ชายคนหนึง่ ขบั เรือได้ระยะทาง 88.00 km ในเวลา ค.50 hr เขาขบั เรอื ด้วยอัตราเร็วเทา่ ใด ก. 25.1 km/hr ข. 25.14 km/hr ค. 25.143 km/hr ง. 25.1429 km/hr4. (มช 40) เคร่ืองบนิ ลาหน่ึงบินจากสนามบนิ เชียงรายมาท่สี นามบนิ เชยี งใหม่ใชเ้ วลา 40 นาทแี ล้วบนิ จากสนามบนิ เชียงใหมไ่ ปสนามบินแมฮ่ ่องสอนใชเ้ วลา 35 นาที ถา้ สนามบนิ เชยี งรายอย่ทู างทิศตะวนั ออกเฉยี งเหนือของสนามบนิ เชียงใหม่เปน็ ระยะทางตรง 150 กโิ ลเมตร และสนามบนิ แมฮ่ อ่ งสอนอยูท่ างทศิ ตะวันตกเฉียงเหนือของสนามบนิ เชียงใหม่เป็นระยะทางตรง 120 กิโลเมตร จงหาว่าถ้าเครื่องบินนบี้ ินตรงจากสนามบนิ เชยี งรายไปยังสนามบินแมฮ่ ่องสอน โดยใชเ้ วลาบินเท่าเดมิ จะต้องบนิ ด้วยอัตราเรว็กกี่ โิ ลเมตร/ชั่วโมง ก. 153.60 ข. 215.35 ค. 216.00 ง. 430.705(มช 41) ถ้า u เปน็ ขนาดของความเร็วเริ่มตน้ ของวัตถุ t เปน็ ช่วงเวลาทวี่ ตั ถุใช้ในการเคลื่อนท่ีทัง้ หมด v เป็นขนาดของความเรว็ สดุ ท้ายของวัตถุ s เป็นระยะทางทีเ่ ปล่ียนไปของวัตถุในชว่ งเวลา t a เป็นขนาดของความเรง่ เฉลยี่ ในช่วงเวลา t ของวัตถุสมการขอ้ ใดทแี่ สดงความสัมพนั ธ์ถึงการเปลยี่ นขนาดของความเรว็ ของวัตถใุ นช่วงเวลา t ทาใหว้ ัตถุมอี ตั ราเร่งเกิดขน้ึ ก. v = t s ข. s = ut + at2 ค. v2= u2 + 2as ง. v = u + at6. (En 38) รถยนตค์ ันหน่ึงว่ิงดว้ ยความเรว็ คงท่ี 10 m/s ขณะท่อี ยู่หา่ งสิง่ กีดขวางเป็นระยะทาง 35 m คนขบัตัดสินใจหา้ มล้อรถ โดยเสยี เวลา 1 s กอ่ นที่ ห้ามลอ้ จะทางาน เม่ือห้ามลอ้ ทางานแล้ว รถจะต้องลดความเร็วในอัตราเท่าใด จงึ จะทาใหร้ ถหยดุ พอดเี มื่อถงึ ส่งิ กีดขวางนน้ั ก. 1.0 m/s2 ข. 1.5 m/s2 ค. 2.0 m/s2 ง. 3.0 m/s27. วัตถชุ ิ้นหนงึ่ ถูกปลอ่ ยให้ตกลงมาในแนวดิ่งจงหาระยะทางระหว่างวนิ าทที ่ี 4 ถึงวนิ าทที ่ี 8 ก. 320 m ข. 280 m ค. 240 m ง. 200 m8. วตั ถุกอ้ นหนง่ึ ถูกปลอ่ ยใหต้ กลงมาในแนวด่ิงอีกก้อนตกลงมาดว้ ยความเร็วต้น 1 m/s จงหาว่าอีกนานเท่าไร โดยคุณครณู ฐั ธนญั า บุญถึง ครูชานาญการ กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์ โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31

เอกสารประกอบการเรยี นรู้ รายวชิ า ฟสิ กิ ส์ 1 เรอื่ ง การเคลอ่ื นทแ่ี นวตรง 24วัตถทุ ั้งสองจงึ จะอยหู่ ่างกัน 18 mก. 8 s ข. 10 s ค. 15 s ง. 18 s9. (มช 33) จกุ คอร์กกระเดน็ หลุดจากปากขวดขน้ึ ในแนวดิ่ง กระทบหลอดไฟซง่ึ อยสู่ ูงขนึ้ ไป 4 m จากปากขวดในเวลา 0.4 s จงหาอตั ราเรว็ ของจกุ คอรก์ ขณะกระทบหลอดไฟในหนว่ ยเมตร/วนิ าทีก. 7 ข. 8 ค. 12 ง. 1610. (มช 30) ลูกบอลสองลูกถูกโยนขน้ึ ไปในแนวดง่ิ โดยทล่ี ูกหนึง่ มีความเร็วต้นเป็นสองเทา่ ของอีกลูกหน่งึลูกทค่ี วามเรว็ ตน้ สูงกวา่ จะเคล่ือนทขี่ ้นึ ได้สูงเท่ากับก. 8 เทา่ ของอกี ลกู หน่งึ ข. 4 เท่าของอีกลูกหน่ึงค. 2 เท่าของอกี ลกู หน่ึง ง. 2 เท่าของอกี ลูกหน่งึ11. โยนกอ้ นหนิ ขนึ้ ไปตามแนวดิง่ ด้วยความเรว็ ต้น 20 m/s ถามว่าโยนข้ึนไปแลว้ นาน 5 s กอ้ นหินจะอยู่ทใี่ ดก. วัตถุอยู่ตา่ กวา่ จุดทโ่ี ยน 25 เมตร ข. วัตถอุ ย่สู ูงกวา่ จุดท่โี ยน 15 เมตรค. วตั ถอุ ย่ทู ่ีพ้นื ง. วตั ถุอยู่ตา่ กวา่ จดุ ทีโ่ ยน 15 เมตร12. บอลลูนลอยข้นึ ด้วยความเร็วคงที่ เป็นเวลา 8 S จึงปลอ่ ยวัตถุใหต้ กลงมา ปรากฏวา่ วตั ถุจะถงึ พ้ืนนบัจากปลอ่ ย 8 S จงหาความเรว็ ของบอลลูนก. 13.33 m/s ข. 16 m/s ค. 20 m/s ง. 68 m/s13. (มช 31) สะพานสูงจากน้า 5 m บอลลนู ลูกหนึ่งกาลังเคลอื่ นท่ลี งสู่พน้ื และขณะที่บอลลนู อยสู่ งู จากสะพาน 25 m คนทีอ่ ยู่บนบอลลูน และคนท่ยี นื อยทู่ ่ีสะพานไดป้ ลอ่ ยกอ้ นหินออกไปคนละก้อนในเวลาเดยี วกัน ปรากฏวา่ ก้อนหนิ ทงั้ สองกอ้ นตกถงึ ผวิ น้าพรอ้ มกัน ถามวา่ ก้อนหินทีต่ กจากบอลลูนผ่านระดบัสะพานจะมคี วามเรว็ กี่ m/sก. 885 ข. 925 ค. 985 ง. 112514. หนิ ก้อนหนง่ึ หลดุ ลงมาจากยอดตึกสงู 45 m เม่ือก้อนหินผา่ นยอดต้นมะม่วงแล้ว s กต็ กถึงพื้นดนิจงหาความสูงของต้นมะม่วงก. 10.25 เมตร ข. 13.75 เมตร ค. 15.33 เมตร ง. 18.50 เมตร15. วตั ถตุ กอยา่ งอสิ ระจากหยุดนิ่ง และเคลื่อนท่ไี ด้ ของความสูงท้งั หมดในวนิ าทีสุดทา้ ยจงหาเวลาที่วตั ถตุ กลงมาก. 0.625 s ข. 2.5 s ค. 4 s ง. 5 s16. จากข้อที่ 15 จงหาความสูงท้ังหมดก. 25 m ข. 31.25 m ค. 37.5 m ง. 50 m17. ปล่อยวตั ถุ A มวล m และวตั ถุ B มวล 2 m ให้ตกลงมาตรง ๆ จากที่สูงแหง่ หนึ่งพรอ้ มกันทรี่ ะยะ 1 mก่อนกระทบพน้ื ดนิ วตั ถุ A มคี วามเร็ว V วตั ถุ B จะมีความเร็วเทา่ ใดก. ข. V ค. 2V ง. 4Vเพม่ิ เตมิ (En 44/2) ในการเดินสวนสนามของนักกฬี า ผู้ชมบนอัฒจรรยค์ นหนึ่งสังเกตเหน็ ว่านกั กฬี าทท่ี ้าย แถวก้าวเท้าไมพ่ ร้อมกับหวั แถว โดยนกั กฬี าท่ีท้ายแถวจะก้าวช้ากวา่ หวั แถว1/4 ก้าว ถ้านักกฬี าเหล่านี้ กาลังเดินสวนสนามโดยกา้ วเทา้ ตามจงั หวะของเสียงกลองท่ตี โี ดยผู้ที่อยู่หัวแถว และตีกลองแตล่ ะครงั้ หา่ ง กนั 1.6 วินาที นักกีฬาท่ีอยู่ท้ายแถวอยูห่ ่างจากคนที่อยู่หัวแถวเป็นระยะทางกีเ่ มตร (กาหนดให้ ความเร็ว เสียงในอากาศเท่ากับ 340 เมตร/วนิ าท)ี โดยคุณครณู ฐั ธนัญา บญุ ถึง ครูชานาญการ กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31

เอกสารประกอบการเรยี นรู้ รายวชิ า ฟสิ กิ ส์ 1 เรอื่ ง การเคลอ่ื นทแี่ นวตรง 2518. (มช 33) กราฟท่ีแสดงการเคลื่อนทข่ี องวัตถทุ ่ีมอี ัตราเร่งคงทีค่ ือข้อใด19. (En 32) พจิ ารณากราฟความสมั พันธ์ระหว่างระยะทางที่เคลอ่ื นท่ี−เวลา และกราฟระหวา่ งความเร่ง−เวลาคาตอบข้อใดที่แสดงความสอดคล้องทถี่ กู ตอ้ งของการ เคล่ือนที่ของวัตถุหนงึ่ก. 1 และ C ข. 2 และ B ค. 3 และ A ง. 4 และ D20. (En 42/2) รถเรม่ิ แลน่ จากจดุ หยุดนิ่ง โดยมคี วามเร่งตามท่ี แสดงในกราฟ จงหาความเร็วของรถทเี่ วลา30 วินาที จากจดุ เรมิ่ ตน้ก. 40 m/sข. 20 m/sค. 10 m/sง. 0 m/s21. (มช 40) วตั ถุเคลอื่ นท่ใี นแนวเส้นตรงด้วยความเร่ง a ณ เวลา t ใด ๆ ดังรปู โดยความเรง่ ที่มีทิศไปทางขวามีเครอื่ งหมายบวก ถา้ วัตถุมคี วามเรว็ ต้น ค.0 เมตร/วินาที วัตถุจะมคี วามเรว็ เท่าใดท่ีวนิ าทีท่ี 2022.(En 39) ในการแขง่ รถครั้งหน่งึ ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งความเรว็ กบัเวลาของรถ A และ รถ B เขียนกราฟไดด้ งั รปูก. ท่ีเวลา t = 20 รถ A ว่งิ ได้ระยะทางมากกวา่ รถ Bข. ทีเ่ วลา t = 20 รถ A มคี วามเรง่ มากกวา่ รถ Bค. ช่วงเวลา t = 0 ถงึ t = 20 รถ A มีความเรง่ เฉลี่ยมากกว่ารถ Bขอ้ ทถี่ กู คอื ขอ้ ใดต่อไปน้ัก. ก, ข และ ค ข. ข และ ค ค. ข เท่าน้ัน ง. คาตอบเป็นอย่างอนื่23. จากการเคลอ่ื นทซ่ี ง่ึ แสดงได้ดว้ ยกราฟ V(m/s)ความเร็ว – เวลา ดงั รปู จงหาขนาด โดยคุณครณู ัฐธนญั า บญุ ถงึ ครูชานาญการ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31

เอกสารประกอบการเรยี นรู้ รายวชิ า ฟสิ กิ ส์ 1 เรอ่ื ง การเคลอื่ นทแี่ นวตรง 26ของการขจดั เม่ือสิน้ วินาทที ่ี 8ก. 5 เมตร t (s)ข. 10 เมตรค. 20 เมตรง. 40 เมตร24. จากข้อท่ี 23 จงคานวณระยะทางของการเคลอื่ นท่เี มอ่ื สิ้นวินาทที ่ี 8ก. 5 เมตร ข. 10 เมตร ค. 20 เมตร ง. 40 เมตร25. จากขอ้ ที่ 24 เม่ือส้นิ วนิ าทที ่ี 8 ความเรว็ แล้วอัตราเรว็ เฉลี่ยมีคา่ กี่เมตร/วินาทีก. 0, 1.25 ข. 1.25, 5 ค. 0, 5 ง. 5, 2.526. จากขอ้ ที่ 25 ความเรง่ เฉลยี่ ของการเคลือ่ นที่ในช่วง เวลา 0 ถึง 3 วนิ าทีเป็นเท่าไรก. −5 เมตร/วนิ าที2 ข. +5 เมตร/วนิ าที2ค. − เมตร/วินาที2 ง. + เมตร/วินาที227. จากข้อที่ 26 ความเร่งเฉล่ียของการเคลือ่ นที่ในช่วงเวลา 4.2 ถึง 5.7 วินาทเี ป็นเท่าไรก. 7 เมตร/วินาที2 ข. 8 เมตร/วนิ าที2ค. 9 เมตร/วินาที2 ง. 10 เมตร/วนิ าที2 V(m/s)28. จากการเคลือ่ นที่ซึ่งแสดงได้ดว้ ยกราฟความเร็ว − เวลา ดงั รูปใชเ้ วลานานเทา่ ไรวตั ถจุ งึ จะกลับมาทจ่ี ุดเร่มิ ตน้ t (s)ก. 16 วนิ าที ข. 18.5 วินาที ค. 13.5 วินาที ง. 16.2 วินาที29. (En 33) สมมตกิ ราฟน้ีแสดงความสัมพนั ธ์ของอตั ราเรว็ และเวลาในการเคลื่อนที่ของจรวดเคร่อื งหน่ึงซง่ึตกกลับมายงั โลกหลงั จากเชอ้ื เพลงิ หมดระยะเวลานบั จากจรวดข้ึนจากพื้นดินจนตกกลับถงึ ผิวโลกเปน็เวลาท้งั หมดกวี่ นิ าทีก. 9.0 sข. 11.2 sค. 14.0 sง. 14.2 s โดยคณุ ครณู ัฐธนัญา บญุ ถงึ ครชู านาญการ กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์ โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31

เอกสารประกอบการเรยี นรู้ รายวชิ า ฟสิ กิ ส์ 1 เรอื่ ง การเคลอื่ นทแ่ี นวตรง 2730. จากกราฟ ก. วัตถุจะขึ้นไปสูงสุดเท่าไรข. เมอื่ เวลา 3 วินาทวี ัตถอุ ยทู่ ี่จดุ ใดค. วตั ถุใช้เวลาอยใู่ นอากาศนานเท่าใด31. (มช 29) ในการวิ่งมาราธอน 5000 เมตร ถ้านาย ก วง่ิ ด้วยความเร็วดงั แสดงใน กราฟด้านข้าง เขาจะถึงเส้นชยั ในเวลา กนี่ าที ก. 2.5 ข. 2.8 ค. 3.3 ง. 3.832.(มช 31) เทอดศักดข์ิ ับรถจากเชียงใหม่ไปลาปาง ซงึ่ อยหู่ า่ งกนั 100 km ถ้าแบง่ การขบั รถดังน้ี ตอนแรกออกรถด้วยอัตราเร่งค่าหน่งึ จนไดค้ วามเรว็ สูงสุด 50 m/s จึงขบั ต่อไปด้วยความเรว็ คงทร่ี ะดบั น้กี อ่ นถงึ ลาปางลดความเร็วด้วยอตั ราเดียวกับเม่ือเร่ิมต้นเมอ่ื รถหยดุ สนทิ ก็ถึงลาปางพอดี ถา้ เวลาท่ีใช้ท้ังหมดเทา่ กับ1 hr อยากทราบว่าชว่ งท่ขี บั รถด้วยความเรว็ คงทน่ี ้ันเป็นระยะเวลาก่ีวนิ าทีก. 100 วินาที ข. 200 วินาที ค. 400 วนิ าที ง. 600 วินาที33. อนุภาคอนั หนึง่ เคลือ่ นทีไ่ ด้ความสัมพันธ์ ระหวา่ ง v2 กบั s ดังกราฟขา้ งล่าง จงหาความเรง่ ของการเคลอ่ื นท่ีก. 5 m/s2 ข. 3.5 m/s2 ค. 2 m/s2 ง. 1.5 m/s2 โดยคุณครณู ฐั ธนญั า บุญถงึ ครูชานาญการ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31

เอกสารประกอบการเรยี นรู้ รายวชิ า ฟสิ กิ ส์ 1 เรอ่ื ง การเคลอ่ื นทแ่ี นวตรง 28 บรรณานกุ รมสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี, สถาบัน. หนงั สอื เรียนวิชาฟิสกิ ส์ เล่ม 1 ว 421 ชน้ั มธั ยมศึกษาตอนปลาย. กรงุ เทพฯ : โรงพิมพ์ครุ สุ ภาลาดพรา้ ว, 2558.ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี, สถาบัน. หนงั สือเรียน รายวชิ าฟิสิกสเ์ พ่ิมเตมิ ฟิสกิ ส์ เล่ม 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 . กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พ์ สกสค.ลาดพร้าว, 2559. หนงั สือเรยี นวิชาฟิสิกส์ เลม่ 2 ว 021 ชั้นมธั ยมศึกษาตอนปลาย. กรงุ เทพฯ : โรงพิมพ์ครุ สุ ภาลาดพร้าว, 2542. ทดสอบทางการศกึ ษาแห่งชาติ (องคก์ ารมหาชน),สถาบนั . ขอ้ สอบ O-NET ปี 2555- 2559.(ออนไลน)์ . เข้าถึงไดจ้ าก :http://www.niets.or.th ( 5 พฤษภาคม 2560) โดยคณุ ครูณัฐธนญั า บญุ ถึง ครูชานาญการ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook