ความรู้พื้นฐานทางธุรกิจดิจิทัล
ความรู้พื้นฐานทางธุรกิจดิจิทัล ความหมายของธุรกิจ ธรกิจ คือ กิจกรรมต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการผลิตสินค้าหรือ บริการโดยการจัดสรรทรัพยากรหรือปัจจัยที่มีอยู่มาเปลี่ยน สภาพอย่างมีระบบจนกระทั่งได้เป็นสินค้าหรือบริการแล้ว นำสิ่งเหล่านั้นมาจำหน่ายซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนเพื่อ นำไปสู่ผลกำไรหรือสิ่งตอบแทนตามจุดประสงค์ของผู้ประกอบการ รูปแบบการจัดตั้งธุรกิจ ธรุกิจแบบเจ้าของคนเดียว(Single or Sole Proprietor) ห้างห้นส่วน (Partnership) บริษัทจำกัด(LimitedCompany) สหกรณ์ (Co – Operative Society) รัฐวิสาหกิจ (State Enterprise)
ประเภทของธุรกิจ ซื้อมาขายไป กิจการผลิต กิจการให้บริการ ปัจจัยพื้นฐานในการดำเนินธุรกิจ คน เงิน วัสดุ/วัตถุดิบ วิธีปฏิบัติงาน การจัดการ ขวัญและกำลังใจ หน้าที่ในการจัดการองค์กรธุรกิจ การวางแผน การจัดองค์กร การอำนวยการ ด้านการควบคุม
ลักษณะของธุรกิจทั่วไปและธุรกิจดิจิทัล ธุรกิจดิจิทัล เป็นธุรกิจที่ใช้เทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาช่วยพัฒนาและ ดำเนินการในการประกอบธุรกิจมีรูปแบบการสื่อสารที่รวดเร็วโดย การนำส่งข้อมูลผ่านเครือข่ายเข้าสู่คอมพิวเตอร์ทันทีโดยไม่หยุด พักจึงสามารถทำงานได้ทันทีแตกต่างจากรูปแบบของธุรกิจแบบ เดิมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นพื้นฐาน การเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล การเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล มาจากแนวคิด “ประเทศไทยยุค 4.0” หรือ “ไทยแลนด์ 4.0” (Thailand 4.0) ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์เชิงนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจของ ประเทศไทยหรือโมเดลพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐบาล ภายใต้ การน าของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมที่เข้ามาบริหารประเทศบน วิสัยทัศน์ที่ว่า “มั่นคงมั่งคั่ง ยั่งยืน”
ความหมายและแนวคิดธุรกิจดิจิทัล คือ การนำเทคโนโลยีต่างๆเข้ามาช่วยปรับเปลี่ยน โครงสร้างและพัฒนาธุรกิจเพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย ให้กับทั้งผู้ประกอบการ ผู้บริโภคในการเลือกสินค้าหรือ บริการต่าง ๆ และเพื่อเพิ่มผลกำไรหรือยอดขายให้กับ ธุรกิจ เช่น การนำแอปพลิเคชันมาช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึง สินค้าหรือบริการได้ง่ายมากขึ้น เช่น การทำโฆษณาผ่าน เว็บไซต์หรือสื่อสังคมออนไลน์ รวมไปถึงการจัดซื้อและ จัดส่งสินค้าในรูปแบบออนไลน์ ความสำคัญของธุรกิจดิจิทัล คือ การปรับเปลี่ยน โครงสร้างหรือรูปแบบของธุรกิจหรือการประกอบการ ที่เป็นอยู่แบบเดิม หรืออยู่ในรูปแบบออฟไลน์ (Offline) ให้อยู่ในรูปแบบออนไลน์ (Online Platform) และใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Information Communication Technology: ICT)ใน การพัฒนาธุรกิจให้ก้าวสู่ดิจิทัล เพื่อให้เกิดความ ทันสมัยและเหมาะสมกับยุคสมัยที่มีการพัฒนา เทคโนโลยีต่าง ๆ มากขึ้น
ธุรกิจดิจิทัลและการเปลี่ยนแปลง หลายคนเข้าใจคำนี้ว่าเป็นแรงโจมตี เป็นภัยร้ายแรงต่อธุรกิจ แต่พวกเขาเข้าใจผิด เพราะการเปลี่ยนแปลงนี้ คือการปฏิรูปการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจาก การนำเทคโนโลยีดิจิทัลและโมเดลทางธุรกิจแบบใหม่มาประยุกต์ใช้ นวัตกรรมทางเทคโนโลยีและโมเดลต่าง ๆ นี้ จะสามารถส่งผลกระทบต่อสินค้าและบริการในอุตสาหกรรมสิ่งต่างๆ ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลกระทบต่อตลาดในปัจจุบันและทำให้ เกิดความจำเป็นในการบูรณาการสิ่งต่าง ๆ ใหม่
โครงสร้างพื้นฐานธุรกิจดิจิทัล
โครงสร้างพื้นฐานธุรกิจดิจิทัล โครงสร้างพื้นฐานระบบอุปกรณ์ ! !อิเล็กทรอนิกส์เคลื่อนที่ไร้สาย โครงสร้างพื้นฐานระบบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เคลื่อนที่ไร้สายจะมีส่วนเกี่ยวข้องต่างๆ ได้แก่ ช่องทางติดต่อสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ ช่องทาง ทำธุรกรรมดิจิทัล เทคโนโลยีการสื่อสารต่าง ๆ โดยมีรายละเอียดดังนี้ ช่องทางการติดต่อสื่อสารระหว่าง อุปกรณ์ ผ่านเทคโนโลยี การสื่อสารสนามใกล้(Near Field Communication: NFC) ช่องทางการทำธุรกรรมดิจิทัล โดยใช้โมไบล์เบราว์เซอร์และ แอปพลิเคชัน
มิดเดิลววร์ของระบบอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์เคลื่ อนที่ไร้สาย โมไบล์มิดเดิลวรร์เป็นซอฟต์แวร์ที่ทำการเชื่อมต่อ การใช้งานระหว่างระบบปฏิบัติการหรือเชื่อมแอป พลิเคชันที่แตกต่างกัน คือ เป็นซอฟต์แวร์ที่ท างานคั่น ระหว่างระบบปฏิบัติการของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เคลื่อนที่ไร้สายประเภทต่าง ๆ และแอปพลิเคชันหรือ โมไบล์แอปพลิเคชันที่ติดตั้งอยู่บนอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์เคลื่อนที่ไร้สายเหล่านั้น สามารถ เชื่อมต่อประสาน (Interface) เข้ากับอุปกรณ์ที่มี ระบบปฏิบัติการหรือแอปพลิเคชันที่ต่างกันได้เพื่อให้ การใช้งานสามารถใช้งานต่อไปได้อย่างอัตโนมัติ โครงสร้างพื้นฐานการเชื่อม ต่อเครือข่ายเคลื่ อนที่ไร้สาย โครงสร้างพื้ นที่การเชื่ อมต่อเครือข่ายเคลื่ อนที่ไร้สาย มีหลากหลายเทคโนโลยี ได้แก่ เทคโนโลยีระบุตัวตน ด้วยคลื่นวิทยุเทคโนโลยีบลูทูธ เทคโนโลยีบีคอน เทคโนโลยีไวไฟ เทคโนโลยีซิกบี และเทคโนโลยีโทรศัพท์เคลื่ อนที่
การประมวลผลบนโทรศัพท์ และการประมวลผลบนอุปกรณ์สวมใส่ การประมวลผลบนโทรศัพท์ (Mobile Computing) คือ โทรศัพท์มือถือที่มีลักษณะการทำงานเหมือน คอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถ เข้าถึงบริการต่าง ๆ ได้ทุกที่ทุกเวลาการประมวลผลบน โทรศัพท์มีการเชื่อมโยงกับการสื่อสารไร้สาย สั่งการผ่าน แอปพลิเคชันทำให้รับรู้ตำแหน่งสถานที่สนับสนุนการ เคลื่อนไหว (Mobility Support) ความปลอดภัย (Security) การจัดการทรัพยากร(Resource Management) โปรโตคอลเครือข่าย (Network Protocols) การออกอากาศ (Broadcast)เทคโนโลยี (Technologies) มาตรฐาน (Standards) และสื่อไร้สาย (Wireless Medium) การประมวลผลบนอุปกรณ์สวมใส่ (Wearable Computing) คือ อุปกรณ์สวมใส่ที่มีลักษณะการทำงานเหมือนคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีที่ช่วยผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงบริการ ต่าง ๆ ได้ทุกที่ทุกเวลาซึ่งสามารถควบคุมโดยผู้ใช้งานและมี ความมั่นคงในการปฏิบัติงาน ผู้ใช้สามารถป้อนคำสั่งและ ดำเนินการชุดคำสั่งที่ป้อนไว้และผู้ใช้งานสามารถทำกิจกรรมอื่น ๆ ได้
การประมวลผลวบบคลาวด์ (Cloud Computing) การประมวลผลวบบคลารด์(Cloud Computing) เป็น ลักษณะของการทำงานของผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ผ่าน อินเทอร์เน็ต ที่ให้บริการใดบริการหนึ่งกับผู้ใช้ โดยผู้ ให้บริการจะแบ่งปันทรัพยากรให้กับผู้ต้องการใช้งานนั้น การประมวลผลแบบคลาวด์เป็นลักษณะที่พัฒนาขึ้นต่อมา จากความคิดและบริการของเวอร์ชัวไลเซชันและเว็บเซอร์ วิซ โดยผู้ใช้งานนั้นไม่จำเป็นต้องมีความรู้ในเชิงเทคนิค สำหรับตัวพื้นฐานการทำงานนั้น 5.1 ประเภทของการประมรลผลวบบคลารด์ (Cloud Computing) สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทได้แก่ Private Cloud, Public Cloud และ Hybrid Cloud โดยมีรายละเอียดดังนี้ คลาวด์ส่วนตัว (Private Cloud) คลาวด์สาธารณะ (Public Cloud) คลาวด์วบบผสม (Hybrid Cloud)
5.2 การบริการบนระบบการประมวลผล บนคลาวด์(Cloud Computing) ความหมายของคำว่า “ข้อมูลเกินนับ (Big Data)” จากองค์ความรู้ ภาษา-วัฒนธรรม โดยสำนักงานราชบัณฑิตยสภา หมายถึง ข้อมูล ตัวเลข ข้อความ รูปภาพ วีดิทัศน์ สื่อประสม ในรูปแบบดิจิทัล ที่สร้าง หรือผลิตขึ้นตลอดเวลา เพื่อประโยชน์ในการจัดเก็บ เผยแพร่ แลกเปลี่ยน ผ่านเครือข่ายสารสนเทศโดยบุคคล องค์การของรัฐและ เอกชน ข้อมูลเหล่านั้นเมื่อรวมกันเข้ามีปริมาณมากครอบคลุมเรื่อง หลากหลาย และมีความซับซ้อน ไม่อาจประมวลผลด้วยระบบ คอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ทั่วไปได้ ต้องใช้โปรแกรมประมวลผลที่จัดทำเฉพาะ มาวิเคราะห์ จัดหมวดหมู่ และจัดการเพื่อน าผลมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ตามประสงค์ ข้อมูลเกินนับ (Big Data) สามารถแบ่งรูปแบบของชั้น ได้แก่ การให้บริการ ซอฟต์แวร์ หรือ Software as a Service (SaaS) การให้บริการแพลตฟอร์มหรือ Platform as a Service (PaaS) การให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน หรือ Infrastructure as a Service(IaaS) ซึ่งเป็น การบริการหลัก และยังมีบริการระบบจัดเก็บข้อมูล หรือ data Storage as a Service(dSaaS) บริการ ร่วมรวมล าดับความเชื่อมโยง หรือ Composite Service (CaaS)
6.1 คุณลักษณะของข้อมูลนับเกิน(Big Data) ซึ่งประกอบไปด้วยขนาดของข้อมูล(Volume) ความเร็ว(Velocity) ความหลากหลาย (Variety) ความถูกต้อง (Veracity) คุณค่า (Value) และความแปรผันได้(Variability) 6.2 หลักการและการวางกลยทุธข์องข้อมลูเกินนับ จะมี 3 คำที่เกี่ยวข้องกัน คือ ข้อมูล (Data) สารสนเทศ (Information) และการวิเคราะห์ (Analytics) ซึ่งมีความสัมพันธ์ ในหลักการและการวาง กลยุทธ์ของข้อมูลเกินนับ 6.3 การเปลี่ยนข้อมลูเป็นสินทรัพย์ เชิงกลยทุธข์องธรุกิจ ข้อมูลประเภทกระบวนการของธุรกิจ ข้อมูลของสินค้าและบริการที่เกิดการ นำเสนอคุณค่าของธุรกิจต่อลูกค้า ข้อมูลของลูกค้า
6.4 การสร้างคุณค่าให้ธรุกิจด้วยการทำ ยุทธศาสตร์ข้อมูล (Data Strategy) ขององค์กรโดยการเริ่มต้นตั้งแต่การเก็บ รวบรวมข้อมูลจากแหล่งใดบ้าง เช่น การเก็บ ข้อมูลจากแหล่งภายในบริษัทจากฝ่ายต่าง ๆ หรือเอกสาร เป็นต้น และจากภายนอกองค์กร เช่น อินเทอร์เน็ต สื่อสังคมออนไลน์ เป็นต้น ต่อจากนั้นก็ทำการวิเคราะห์ข้อมูล โดยนำข้อมูล ที่รวบรวมมาได้มาทำการวิเคราะห์ด้วยระบบ เทคโนโลยีสารสนเทศ 6.5 Big Data และการทำ Digital Transformation สำหรับธุรกิจ เมื่อมีผู้สนใจเข้าไปดูสินค้าในเว็บไซต์ของ Amazon จะเห็นได้ว่ามีคำแนะนำต่าง ๆ ที่ช่วยให้ผู้ซื้อ พิจารณาในการตัดสินใจซื้อสินค้า และยังมีคำวิจารณ์จาก ลูกค้าด้วย และนำข้อมูลนั้นมาช่วยจัดลำดับสินค้า มีการ เปรียบเทียบตัวสินค้าในลักษณะสินค้าที่ใกล้เคียงกัน
อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (Internet of Thing) หมายถึง เครือข่ายของวัตถุ อุปกรณ์ พาหนะ สิ่งปลูกสร้าง และสิ่งของอื่น ๆ ที่มี วงจรอิเล็กทรอนิกส์ซอฟต์แวร์ เซ็นเซอร์ และการเชื่อมต่อกับเครือข่ายฝังตัวอยู่ และ ทำให้วัตถุเหล่านั้นสามารถเก็บบันทึกและ แลกเปลี่ยนข้อมูลได้ อินเทอร์เน็ตของสรรพ สิ่งทำให้วัตถุสามารถรับรู้สภาพแวดล้อม และถูกควบคุมได้จากระยะไกลผ่าน โครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายที่มีอยู่แล้ว ทำให้เราสามารถผสานโลกกายภาพกับ ระบบคอมพิวเตอร์ได้แนบแน่นมากขึ้น
นวัตกรรมสำหรับธุรกิจดิจิทัล
นวัตกรรมสำหรับธุรกิจดิจิทัล นวัตกรรม (Innovation) คือ ระบบในธรรมชาติที่ นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดดโดยใช้ทักษะ ประสบการณ์ และความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์เพื่อ พัฒนากระบวนการการบริการหรือผลิตภัณฑ์ใหม่ขึ้นมา ให้เป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติ องค์ประกอบของนวัตกรรม ต้องเป็นสิ่งใหม่ (Newness) ต้องเป็นประโยชน์ในเชิงเศรษฐกิจ (Economic Benefits) ต้องเป็นวิธีการใช้ความรู้และความคิดเชิงสร้างสรรค์ (Knowledge and Creativity idea)
ความจำเป็นต่อการเปลี่ยนแปลงองค์กร สู่ดิจิทัลในปัจจุบันมีอยู่ด้วยกันหลายประเภท ดังนี้ เครื่องจักรอัจฉริยะ เทคโนโลยีแบบสวมใส่ได้ สกุลเงินดิจิทัล การนำเสนอแผนภาพข้อมูล ระบบรักษาความปลอดภัยในโลกดิจิทัล การประยุกต์ใช้ระบบข้อมูลประสาท การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลและ การเตรียมความพร้อมด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ กลยุทธ์ธุรกิจดิจิทัลและแนวคิดการ เชื่อมโยงกับเทคโนโลยีสารสนเทศ ประเภทของนวัตกรรมธุรกิจดิจิทัล ความต้องการ ผลิตภัณฑ์ กระบวนการ
องค์ประกอบของนวัตกรรมธุรกิจดิจิทัล โมเดลทางธุรกิจ ประสบการณ์ของลูกค้า กระบวนการทางธุรกิจ โมเดลนวัตกรรมธุรกิจดิจิทัล เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและสำคัญมากที่สุด สำหรับหน่วยงานบริษัทหรือองค์ที่ต้องการความ โดดเด่นจากการแข่งขันและการดำรงอยู่ได้ของ หน่วยงาน บริษัท หรือองค์กรของตนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่ไม่แน่นอน ซึ่งจำเป็น จะต้องยึดหลักเพื่อสร้างนวัตกรรมธุรกิจดิจิทัลจาก สิ่งต่อไปนี้ Who What How How รูปแบบธรุกิจ การกำหนดกลุ่มลูกค้า การเสนอคุณค่า ช่องทางการจัดจำหน่าย การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า การกำหนดแหล่งที่มาของรายได้ ทรัพยากรที่สำคัญ กิจกรรมหลัก พันธมิตรที่สำคัญ โครงสร้างต้นทุน
กระบวนการสร้างนวัตกรรมธุรกิจดิจิทัล การรับรู้ถึงโอกาส การพัฒนาแนวคิด การแก้ไขปัญหา การพัฒนาต้นแบบ การแก้ไขจุดบกพร่อง
ธุรกรรมในธุรกิจดิจิทัล
ธุรกรรมในธุรกิจดิจิทัล หมายถึง การประกอบกิจกรรมอย่ํางใดอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะด้านธุรกิจและกํารเงิน การทำธรุกิจแบบแพลตฟอรม์ (Platform Business) ได้มี Geoffrey Parker, Marshall Van Alstyne และ Sangeet Choudary ซึ่งเป็นผู้แต่งหนังสือที่มีชื่อว่ํา Platform Revolution ได้นิยํามคำว่า Platform Business คือ โมเดลทํางธุรกิจที่สร้ําง คุณค่าจากการอำนวยความสะดวกให้เกิดการแลกเปลี่ยน ระหว่างกลุ่มคนหรือผู้ใช้งานตั้งแต่ 2 กลุ่มขึ้นไป โดยทั่วไปก็คือ กลุ่มหนึ่งเป็นผู้บริโภคและอีกกลุ่มเป็นผู้ผลิต นวัตกรรมกับธุรกิจดิจิทัล เป็นการสร้ํางผลิตภัณฑ์ การให้บริการหรือ กระบวนการรูปแบบใหม่ อาศัยข้อมูลข่าวสํารและ กํารดำเนินการทางด้านเทคโนโลยีโดยมีเครื่องมือ (Tools) หรือแอปพลิเคชันโปรแกรม (Application Program) เข้ามาช่วยในการบริหารจัดการจัดเก็บ รวบรวม วิเคราะห์ พยากรณ์ข้อมูล เพื่อช่วยให้การ ดําเนินธุรกิจหรือการค้าของตนเองได้เปรียบเชิง การแข่งขัน สร้างผลกำไรและสนองตอบต่อความ ต้องการให้กับลูกค้าเป็นหลัก
แพลตฟอร์ม การชำระเงินออนไลน์ โมเดลธุรกิจ การโอนเงิน รูปแบบที่ 1 โมเดลกํารแลกเปลี่ยน หรือ Marketplace กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมเพย์ รูปแบบที่ 2 กํารโฆษณํา บริกํารชำระบิลข้ามธนาคาร รูปแบบที่ 3 Mobile Payment ค่ําธรรมเนียมจําก กํารใช้บริกําร รูปแบบที่ 4 โมเดลทํางระบบนิเวศ รูปแบบที่ 5 ระบบกํารเก็บค่ําสมําชิก (Subscription) รูปแบบที่ 6 ฟรีเมียม (Freemium)
สื่อสังคมออนไลน์กับธุรกิจดิจิทัล
สื่อสังคมออนไลน์กับธุรกิจดิจิทัล คุณลักษณะของสื่อสังคมออนไลน์ สื่อสังคมออนไลน์เป็นอินเทอร์เน็ตแอปพลิเคชัน เนื้อหาในสื่อสังคมออนไลน์ถูกสร้างโดยผู้ใช้งานสื่อสังคม ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์สามารถสร้างข้อมูลส่วนตัวที่เป็น ตัวแทนของผู้ใช้งานบนเว็บไซต์ สื่อสังคมออนไลน์ช่วยในการสร้างกลุ่มสังคมออนไลน์ ความแตกต่างของสื่ อสังคมออนไลน์กับสื่ อประเภทอื่ น การกระจายตัวของเนื้อหาบนสื่อสังคมออนไลน์ซึ่งเป็นแบบไวรัล การที่เนื้อหาบนสื่อสังคมออนไลน์สามารถถูกเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา ปริมาณเนื้อหาบนสื่อสังคมออนไลน์มีจำนวนมาก การที่เนื้อหาบนสื่อสังคมออนไลน์สามารถถูกดัดแปลงแก้ไขได้ตลอดเวลา
ประเภทของสื่อสังคมออนไลน์ เครือข่ายสังคม (Social networking site) ไมโครบล็อก (Mico-blog) เว็บไซต์ที่ให้บริการแบ่งปันสื่อออนไลน์ (Video and photo sharing website) บล็อกส่วนบุคคลและองค์กร (Personal and corporate blogs) บล็อกที่มีสื่อสิ่งพิมพ์เป็นเจ้าของเว็บไซต์ (Blogs hosted by media outlet) วิกิ และพื้นที่สาธารณะของกลุ่ม (Wikis and online collaborative space) กลุ่มหรือพื้นที่แสดงความคิดเห็น (Forums, discussion board and group) เกมออนไลน์ที่มีผู้เล่นหลายคน (Online multiplayer gaming platform) ข้อความสั้น (Instant messaging) การแสดงตนว่าอยู่ ณ สถานที่ใด (Geo-Spatial tagging) ผลกระทบของสื่อสังคมออนไลน์ในธุรกิจดิจิทัล การเปลี่ยนแปลงของวัฏจกัรการบริโภค การเปลี่ยนแปลงของประเภทข้อมูลที่ผู้ใช้เข้าถึงได้ การมีส่วนร่วมของผู้บริโภค บคุคลที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของผบู้ริโภค
หน้าที่ของสื่อสังคมออนไลน์ การระบุตัวตน (Identity) การสนทนา (Conversations) การแบ่งปันข้อมูล (Sharing) การมีตัวตน (presence) ความสัมพันธ์ (Relationships) ชื่อเสียง (Reputation) การสร้างกลุ่มใน Facebook
ธุรกิจดิจิทัลโมไบล์
ธุรกิจดิจิทัลโมไบล์ ธรุกิจดิจิทัลโมไบล์(Digital Mobile Business) เป็นการนำเทคโนโลยีดิจิทัลต่าง ๆ และอุปกรณ์สื่อสารที่ใช้ ในการพกพาเข้ามาพัฒนาธุรกิจเพื่ออำนวยความสะดวก ให้แก่ผู้ประกอบการและผู้บริโภค โครงสร้างของระบบธุรกิจดิจิทัลโมไบล์ โครงสร้างพื้นฐานการเชื่อมต่อ มิดเดิลแวร์ของระบบอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์เคลื่ อนที่ไร้สาย โครงสร้างพื้นฐานระบบอุปกรณ์ แอปพลิเคชันธุรกิจดิจิทัลโมไบล์ การให้บริการธุรกรรมต่าง ๆ การให้ข้อมูลและเนื้อหาต่าง ๆ การพัฒนาแอปพลิเคชัน
คุณลักษณะและความสำคัญของ แพลตฟอร์มระบบธุรกิจดิจิทัลโมไบล์ สามารถสร้างสินค้าหรือบริการใหม่ ที่เรียกว่า การบูรณาการในแนวตั้ง (Vertical integration) สามารถสร้างตลาดหลายด้าน (Multi-sided markets) สามารถสร้างการผูกขาดของธุรกิจ สามารถสนับสนุนให้ผู้ใช้งานทำธุรกรรมต่าง ๆ ได้ง่าย สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันระบบการให้บริการได้ตาม ความต้องการของผู้ใช้งาน สามารถรองรับโมไบล์แอปพลิเคชันส าหรับบริการธุรกิจ ดิจิทัลจากหลากหลายผู้ให้บริการหรือนักพัฒนา แอปพลิเคชันทั่วไปได้ สามารถรองรับเทคโนโลยีหรือเทคนิคใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นอยู่ ตลอดเวลา สามารถคงรักษาข้อมูลธุรกรรมสำคัญต่าง ๆ ไว้ได้
แอปพลิเคชันของกลุ่มธุรกิจดิจิทัลโมไบล์ ด้านการค้าขาย ด้านจราจร ด้านการศึกษา ด้านการขนส่ง ด้านการประกัน ด้านสุขภาพ ด้านวางแผน ด้านความบันเทิง ด้านการท่องเที่ยว การประยุกต์เทคโนโลยีสำหรับธุรกิจดิจิทัลโมไบล์ ช่องทางการทำธุรกิจดิจิทัลโมไบล์ผ่านอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์เคลื่ อนที่ไร้สาย การตลาดเคลื่อนที่ (Mobile Marketing) การใช้โมไบล์คูปอง การชำระเงินเคลื่ อนที่ ผู้ช่วยส่วนบุคคลดิจิทัล (Digital Personal Assistant) การสร้างความภักดีในตัวสินค้าและการบริการเคลื่ อนที่ (Mobile Loyalty) การให้บริการของธุรกิจแบบเคลื่ อนที่
ความมั่นคงปลอดภัย ในการทำธุรกรรมดิจิทัล
ความมั่นคงปลอดภัย ในการทำธุรกรรมดิจิทัล ความเสี่ยงและภัย คุกคามธุรกรรมดิจิทัล ทางระบบฮาร์ดแวร์ ความเสี่ยงและภัยคุกคาม ธุรกรรมดิจิทัลที่มีต่อ ความเสี่ยงและภัย คุกคามธุรกรรมดิจิทัล ทางซอฟต์แวร์ ปัจจุบันผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทั่วโลกมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นทุกปี โดยเฉพาะจำนวนผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในภูมิภาคเอเชีย มีจำนวน ถึง 2,300 ล้านคน เมื่อเปรียบเทียบกับจ านวนภูมิภาคที่เหลือ จำนวนผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทั้งหมดรวมกันเพียง 2,233 ล้านคน คิดเป็น 50.3% ของประชากรที่ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลก รองลงมา เป็นภูมิภาคยุโรป มีจ านวนถึง 727 ล้านคน คิดเป็น 15.9% และ น้อยที่สุดคือภูมิภาคโอเชียเนียออสเตรเลียมีจำนวน 29 ล้านคน คิดเป็น 0.6% ของประชากรที่ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลก
ประเภทเหตุการณ์ของภัยคุกคาม ต่อธุรกรรมดิจิทัล การยืนยันตัวตนล้มเหลว (Authentication Failed) โปรแกรมประสงค์ร้าย (Malicious Software) การค้นหาช่องโหว่บนเว็บไซต์จากผู้ไม่ประสงค์ดี (Reconnaissance) การโจมตีไปยังเป้าหมายโดยตรง (Intrusion or Attempted Exploit) การปลอมแปลงเว็บไซต์ในการทำธุรกรรมดิจิทัล (Phishing Website) โปรแกรมที่ไม่พึงประสงค์เพื่อกระทำการบางสิ่ง (Potentially Unwanted Program)
การจัดการความเสี่ยงและภัย คุกคามธุรกรรมดิจิทัล ความเสี่ยงด้านข้อมูลสารสนเทศ (Information Risk) ความเสี่ยงด้านอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ (Hardware Risk) ความเสี่ยงด้านซอฟต์แวร์ (Software Risk) ความเสี่ยงด้านผู้ใช้งาน (Users Risk) ความเสี่ยงด้านกายภาพและสิ่งแวดล้อม (Physical and Environment Risk) ความเสี่ยงด้านเครือข่ายสื่อสาร (Network Communication Risk) ความเสี่ยงด้านกระบวนการใช้งาน (Process Risk)
กฎหมายและจริยธรรมและ การทำธุรกรรมดิจิทัล
กฎหมายและจริยธรรมและ การทำธุรกรรมดิจิทัล 1. กฎหมายเกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Transactions Law) เพื่อรับรอง สถานะทางกฎหมายของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ให้เสมอ ข้อมูลที่ทำในกระดาษ อันเป็นการรองรับ นิติสัมพันธ์ต่างๆ ซึ่งแต่เดิมอาจจะจัดทำขึ้นในรูปแบบของหนังสือให้เท่า เทียมกับนิติสัมพันธ์รูปแบบใหม่ที่จัดทำขึ้น ให้อยู่ใน รูปแบบของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ รวมตลอดทั้งการลง ลายมือชื่อในข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ และการรับฟัง พยานหลักฐานที่อยู่ในรูปแบบของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ 2. กฎหมายเกี่ยวกับลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Signatures Law) เพื่อรับรองการใช้ ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ด้วยกระบวนการใด ๆ ทาง เทคโนโลยีให้เสมอด้วยการลงลายมือชื่อธรรมดา อันส่ง ผลต่อความเชื่อมั่นมากขึ้นในการท าธุรกรรมทาง อิเล็กทรอนิกส์ และก าหนดให้มีการก ากับดูแล การให้ บริการเกี่ยวกับลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ตลอดจนการให้ บริการอื่น ที่เกี่ยวข้องกับลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์
3. กฎหมายเกี่ยวกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สารสนเทศให้ทั่วถึง และเท่าเทียมกัน (National Information Infrastructure Law) เพื่อก่อให้เกิดการส่ง เสริม สนับสนุน และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สารสนเทศ อันได้แก่โครงข่าย โทรคมนาคม เทคโนโลยี สารสนเทศ สารสนเทศทรัพยากรมนุษย์และโครงสร้าง พื้นฐานสารสนเทศส าคัญอื่น ๆ 4. กฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Law) เพื่อก่อให้เกิดการ รับรองสิทธิ และให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งอาจ ถูกประมวลผลเปิดเผยหรือ เผยแพร่ถึงบุคคลจำนวนมาก ได้ในระยะเวลาอันรวดเร็วโดยอาศัยพัฒนาการทาง เทคโนโลยี
5. กฎหมายเกี่ยวกับการกระท าความผิดเกี่ยว กับคอมพิวเตอร์ (Computer Crime Law) เพื่อกำหนดมาตรการทางอาญา ในการลงโทษผู้ กระทำผิดต่อระบบการทำงานของคอมพิวเตอร์ ระบบ ข้อมูล และระบบเครือข่าย ทั้งนี้เพื่อเป็น หลักประกันสิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองการ อยู่ร่วมกันของสังคม 6. กฎหมายเกี่ยวกับการโอนเงินทาง อิเล็กทรอนิกส์(Electronic Funds Transfer Law) เพื่อกำหนดกลไกสำคัญทางกฎหมายในการรองรับระบบการ โอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งที่เป็นการโอน เงิน ระหว่างสถาบันการเงิน และ ระบบการชำระเงินรูปแบบใหม่ใน รูปของเงินอิเล็กทรอนิกส์ก่อให้เกิดความเชื่อมั่น ต่อระบบการท าธุรกรรมทางการเงิน และการทำธุรกรรม ทางอิเล็กทรอนิกส์มากยิ่งขึ้น
Search
Read the Text Version
- 1 - 39
Pages: