บทที่ วิชาป้อง ักนและบรรเทาสาธารณภัย 347 การใชอ้ ุปกรณ์ไฟฟ้า 1. รู้หลกั ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าถูกวิธี...ช่วยชีวติ รอดปลอดภยั แมอ้ ปุ กรณไ์ ฟฟา้ จะมปี ระโยชนแ์ ตห่ ากผใู้ ชข้ าดความระมดั ระวงั และไมร่ วู้ ธิ ใี ช้ อย่างถูกต้องอาจท�ำให้ได้รับอันตรายถึงข้ันเสียชีวิตได้ เพื่อความปลอดภัยขอแนะวิธี เลือกใช้และตดิ ตง้ั อุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างปลอดภัยดังน้ี การเลอื กใช้อุปกรณ์ไฟฟา้ เลือกให้เหมาะสมกบั สภาพพื้นท่แี ละวตั ถปุ ระสงค์ในการใช้งาน ขนาดของ สายไฟฟา้ เหมาะกบั ปรมิ าณกระแสไฟฟา้ หากใชก้ ระแสไฟฟา้ เกนิ ขนาดหรอื จดุ ตอ่ บรเิ วณ ปลก๊ั ไฟไม่แนน่ จะทำ� ให้สายไฟร้อนกว่าปกติ ทำ� ใหก้ ระแสไฟฟ้ารวั่ ไหลและถกู ไฟฟ้าดดู เสียชีวติ ได้
348 วชิ าป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั การติดตงั้ ไมต่ ดิ ตง้ั อปุ กรณไ์ ฟฟา้ ไวใ้ นระดบั ทต่ี ำ่� โดยเฉพาะเตา้ รบั เพราะเดก็ อาจซกุ ซนนำ� นวิ้ หรอื วสั ดอุ น่ื แหยเ่ ขา้ ไปในรเู ตา้ รบั ทำ� ใหถ้ กู ไฟฟา้ ดดู ได้ โดยเฉพาะหากเกดิ นำ�้ ท่วม จะทำ� ให้ กระแสไฟฟ้าร่ัวไหลก่อให้เกิดอันตรายได้ ไมต่ ดิ ตง้ั อปุ กรณไ์ ฟฟา้ ไวบ้ รเิ วณทช่ี นื้ แฉะหรอื เปยี กชน้ื พรอ้ มตดิ ตง้ั สายดนิ กบั เครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ ประเภททม่ี เี ปลอื กหมุ้ เปน็ โลหะและตงั้ อยกู่ บั ทเ่ี ชน่ เครอื่ งทำ� นำ้� อนุ่ เครอื่ งซกั ผา้ เตาไมโครเวฟ เป็นต้น เพ่อื ป้องกันกระแสไฟฟ้าร่วั ไหล ท�ำให้ถูกไฟฟ้าดดู เสยี ชวี ิต ก่อนใช้งาน อ่านฉลากค�ำแนะน�ำให้ละเอียด และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ตรวจสอบ อุปกรณ์ไฟฟ้าให้อยู่ในสภาพใช้งานได้ อยา่ งปลอดภยั ไมอ่ ยใู่ นสภาพเปยี กชนื้ ชำ� รดุ หรือมีกระแสไฟฟ้าร่วั ไหล การตรวจสอบ ตรวจสอบเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่าง สม่�ำเสมอโดยสังเกตความผิดปกติของ เครอื่ งใชไ้ ฟฟา้ หากอยใู่ นสภาพชำ� รดุ สายไฟฟา้ มีสีหมองคล�้ำฉนวนหุ้มสายไฟมีรอยแตก ให้รีบเปลี่ยนใหม่ทันทีและน�ำไปให้ช่าง ผู้ชำ� นาญการซ่อมแซม
วธิ ีใช้ วิชาป้อง ักนและบรรเทาสาธารณภัย 349 ห้ามใช้หรือสัมผัสเคร่ืองใช้ไฟฟ้า ในขณะทร่ี า่ งกายหรอื มอื เปยี กชน้ื อยา่ งเดด็ ขาด เพราะอาจถูกไฟฟ้าดูดเสียชีวิต ไม่เสียบปล๊ัก ไฟฟ้าหลายตวั ในเต้ารบั เดยี วกัน ปลดปลัก๊ ไฟ และปิดสวิตช์ไฟทุกคร้ังหลังเลิกใช้งาน หาก ไม่มีความรู้เกย่ี วกบั ระบบไฟ ห้ามซ่อมแซมเครอ่ื งใช้ไฟฟ้าด้วยตนเอง เพราะอาจเกิดความ ผิดพลาดท�ำให้ถูกไฟฟ้าดูดเสียชีวิต หลีกเล่ียงการใช้เคร่ืองใช้ไฟฟ้าขณะท่ีมีฝนฟ้าคะนอง เพราะอุปกรณ์ไฟฟ้าจะได้รบั ความเสยี หาย และผู้ใช้งานจะได้รบั อันตรายจากฟ้าผ่า การช่วยเหลอื ผูถ้ กู ไฟฟา้ ดดู - ห้ามใช้มือเปล่าหรือส่วนใดส่วนหน่ึงของร่างกายสัมผัสถูกตัวผู้ถูกไฟฟ้าดูด ให้ยืนอยู่บนพ้นื หรอื วสั ดุท่ีแห้ง และสวมรองเท้าพ้นื ยาง เพอื่ ป้องกนั การถกู กระแสไฟฟ้าดูด - รบี ตัดกระแสไฟฟ้า โดยสับสวติ ช์ไฟ ยกสะพานไฟ (cut out) และเบรกเกอร์ ออกในทนั ที หรอื นำ� วสั ดทุ เ่ี ปน็ ฉนวนปอ้ งกนั ไฟฟา้ เชน่ ผา้ แหง้ กง่ิ ไมแ้ หง้ เปน็ ตน้ มากระชาก ผลักหรือดนั ตวั ผู้ถูกไฟฟ้าดดู ออกจากบรเิ วณที่มกี ระแสไฟฟ้าร่วั ไหล - เมอ่ื ชว่ ยผถู้ กู ไฟฟา้ ดดู ออกจากจดุ เกดิ เหตไุ ดแ้ ลว้ ใหต้ รวจสอบชพี จร หากหมด สติให้ใช้วธิ ปี ั๊มหวั ใจ หรอื ผายปอดโดยการเป่าปาก พร้อมรบี น�ำส่งโรงพยาบาลในทันที
350 วชิ าป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั 2. ตรวจสอบอปุ กรณ์ไฟฟ้า...ลดเสย่ี งไฟฟา้ ลัดวงจร อุปกรณ์ไฟฟ้าท่ีมีอายุการใช้งานยาวนานอาจมีสภาพช�ำรุด จนเป็นสาเหตุให้ กระแสไฟฟา้ ลดั วงจร ทำ� ใหผ้ ใู้ ชง้ านไดร้ บั อนั ตรายได้ เพอ่ื ความปลอดภยั ขอแนะวธิ ตี รวจสอบ อุปกรณ์ไฟฟ้า ดงั นี้ - สังเกตสภาพอุปกรณ์ไฟฟ้า ให้อยู่ ในสภาพพร้อมใช้งาน สายไฟฟ้าไม่มีสีคล้�ำ ไมม่ กี ลน่ิ เหมน็ ไหม้ ฉนวนหมุ้ สายไฟฟา้ ไมช่ ำ� รดุ ไมม่ รี อยฉกี ขาด ไมม่ รี อยแตกรา้ วไมม่ รี อยไหม้ ไมม่ รี อยกดั แทะของสตั ว์ และไมม่ รี อยสงิ่ ของ หนกั กดทบั - เลือกใช้ขนาดของสายไฟฟ้าให้เหมาะสมกับปริมาณกระแสไฟฟ้า และ การใช้งานของเคร่ืองใช้ไฟฟ้า หากใช้กระแสไฟฟ้าเกินขนาดหรือจุดต่อบริเวณปล๊ักไฟ ไม่แน่น จะทำ� ให้อณุ หภูมสิ ายไฟอยู่ในระดบั สูงกว่าปกติ ให้จัดการแก้ไขเพอ่ื ป้องกนั กระแส ไฟฟ้าลดั วงจร - หม่ันตรวจสอบสายไฟฟ้านอกอาคารหรือผนังใต้ฝ้าเพดานเป็นพิเศษ โดย เฉพาะจุดต่อและข้อต่อสายไฟฟ้า หากมีมดและแมลงอาศัยมีรอยน�้ำร่ัวซึม ให้แจ้งช่าง ผู้ชำ� นาญการมาซ่อมแซม หรอื เปลย่ี นใหม่ในทนั ที - จัดการแก้ไขสายไฟฟ้าที่อยู่ในจุดเส่ียงอันตราย เช่น ใกล้แหล่งความร้อน สารเคมีสารไวไฟ แสงแดดส่องถึง ฝนสาดหรือวางของหนักกดทับสายไฟ เพราะจะท�ำให้ ชนวนไฟฟ้าช�ำรุดได้ง่าย จะเพม่ิ ความเสย่ี งต่อการเกดิ กระแสไฟฟ้าลดั วงจร
- ไม่ปล่อยให้สายไฟฟ้าพาดโครงสร้างส่วนท่ีเป็นโลหะหรือเหล็กโดยตรง วิชาป้อง ักนและบรรเทาสาธารณภัย 351 ให้น�ำสายไฟร้อยใส่ท่อพวี ีซี เพอื่ ป้องกนั ไฟฟ้ารว่ั ลงบนโครงโลหะ และหากสายไฟฟ้าชำ� รุด จะทำ� ให้เกิดอนั ตรายถงึ ชีวติ ได้ - หากไมม่ คี วามรู้ ความชำ� นาญเกย่ี วกบั ระบบไฟฟา้ หา้ มดำ� เนนิ การตรวจสอบแกไ้ ข หรอื ซอ่ มแซมอปุ กรณไ์ ฟฟา้ ดว้ ยตนองอยา่ งเดด็ ขาด เพราะเสย่ี งตอ่ การถกู ไฟฟา้ ดดู เสยี ชวี ติ 3. ดแู ลจัดสภาพแวดล้อมบา้ นปลอดภัย...ลดอุบตั ิภัยในบ้านเรอื น “บ้าน” ที่หลายคนคิดว่าเป็นสถานท่ีที่ปลอดภัยแต่ความประมาทและการจัด สภาพแวดลอ้ มทไี่ มป่ ลอดภยั อาจทำ� ใหบ้ า้ นกลายเปน็ สถานทอ่ี นั ตรายไดเ้ ชน่ กนั เพอ่ื ปอ้ งกนั อุบัติภัยที่มักเกิดข้ึนในบ้าน ขอแนะวิธีดูแลและจัดสภาพแวดล้อมในบ้านและรอบบ้าน อย่างปลอดภยั ดังนี้ - พื้นบ้าน เลือกวัสดุปูพ้ืนแบบหยาบ หม่ันท�ำความสะอาดพื้นมิให้มีคราบ สกปรกหรอื ตะไคร่น้ำ� ท่อี าจทำ� ให้ลื่นล้ม หกล้ม ไม่ทำ� ความสะอาดพ้ืนโดยใช้น้�ำยาทท่ี �ำให้ พื้นลืน่ กว่าปกติ
352 วชิ าป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั - บันได ระเบียงบ้าน ท�ำราวลูกกรงให้ถี่ติดต้ังที่ก้ันบริเวณราวบันได และ ระเบยี งบ้านเพอ่ื ป้องกันเด็กเอาตวั หรอื ศรี ษะลอดเข้าไป ทำ� ให้พลดั ตกลงมา ไม่วางสิ่งของ หรือผ้าเชด็ เท้ากีดขวางทางเดนิ เพื่อป้องกันการล่นื หกล้ม - ประตูหน้าต่าง เลือกใช้เหล็กดัดแบบที่สามารถเปิดได้ เก็บกุญแจห้องไว้ ในจุดที่หยิบใช้งานได้สะดวก ไม่วางสิ่งของกีดขวางทางออกหากเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้หนี ออกจากบ้านได้ทนั ท่วงที - อปุ กรณไ์ ฟฟา้ ตดิ ตงั้ ปลกั๊ ไฟไวใ้ นระดบั ทพ่ี น้ มอื เดก็ พรอ้ มใชท้ ป่ี ดิ ครอบรปู ลก๊ั ไฟ เพ่ือป้องกันเด็กเอานิ้วหรือวัสดุอื่นแหย่ปล๊ักไฟท�ำให้ถูกไฟฟ้าดูด ตรวจสอบเคร่ืองใช้ไฟฟ้า ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน หากช�ำรุดให้รีบซ่อมแซมหลังใช้งานควรปิดสวิตซ์ไฟและถอด ปลั๊กไฟทกุ คร้งั เพ่อื ป้องกันกระแสไฟฟ้าลดั วงจรท�ำให้เกดิ เพลิงไหม้ - สนามหญา้ พนื้ สนามไมเ่ ปน็ หลมุ บอ่ หรอื มเี ศษวสั ดสุ ง่ิ ของมคี มตกหลน่ รวมถงึ หมัน่ ตัดหญ้าให้โล่งเตยี น เพอื่ ป้องกันสตั ว์มีพษิ เข้าไปอาศยั - ลานจอดรถ ไม่ให้เด็กใช้ลานจอดรถเป็นสถานที่ว่ิงเล่น ก่อนขับรถเข้าออก บ้าน ควรตรวจสอบลานจอดรถและบริเวณรอบ ๆ รถ เพ่อื ป้องกันขบั รถทบั เด็กเสยี ชีวิต - บ่อนำ้� ท�ำร้วั ก้ันล้อมรอบบรเิ วณบ่อน้�ำ ไม่ปล่อยให้เดก็ วิ่งเล่น บรเิ วณรท่มี บี ่ อน�ำ้ หรือสระน้ำ� ตามล�ำพงั เพราะอาจล่ืนไถล และพลดั ตกจมน้�ำเสียชีวติ
การจดั วางสิ่งของ วิชาป้อง ักนและบรรเทาสาธารณภัย 353 - จัดวางส่ิงของภายในบ้านให้เป็น ระเบียบโดยเฉพาะสารเคมี ของมีคม และวัสดุ ทมี่ ลี กั ษณะเปน็ เชอื้ เพลงิ ไวใ้ นทมี่ ดิ ชดิ พน้ จากมอื เดก็ เพอ่ื ปอ้ งกนั เดก็ นำ� ไปเลน่ ทำ� ใหไ้ ดร้ บั อนั ตราย - ไม่วางส่ิงของไว้บนหลังตู้เย็น โทรทัศน์หรือท่ีสูง เพราะหากเด็กปีนข้ึนไปหยิบ สง่ิ ของ อาจทำ� ใหไ้ ดร้ บั อนั ตรายจากการถกู สงิ่ ของ หล่นใส่ หรอื ตู้เยน็ โทรทศั น์ล้มทับ - เก็บแยกสารเคมไี ว้บรเิ วณท่อี ากาศถ่ายเทสะดวก ห่างจากจุดที่มีประกายไฟ หรอื แหลง่ ความรอ้ น เพราะหากสารเคมที ำ� ปฏกิ ริ ยิ ากนั จะทำ� ใหเ้ กดิ เพลงิ ไหม้ รวมถงึ ไมจ่ ดั เกบ็ สารเคมีไว้ในภาชนะบรรจุอาหาร หากมีคนหยิบไปรับประทาน จะก่อให้เกิดอันตรายถึง ขน้ั เสยี ชีวติ ได้ - การจดั สภาพแวดลอ้ มภายในบา้ นและรอบบา้ นอยา่ งปลอดภยั รวมถงึ จดั วาง สิง่ ของให้เป็นระเบยี บ จะช่วยลดความเสย่ี งต่อการเกิดอบุ ัตภิ ัยในบ้านเรือน 4. เพลิงไหม้ หายนะรา้ ยใกลต้ ัว เรียนรู้ ป้องกนั รทู้ ันเพลิงไหม้ เพลิงไหม้เป็นภัยใกล้ตัวท่ีเกิดบ่อยครั้งมากท่ีสุดซึ่งในแต่ละคร้ังท่ีเกิดได้สร้าง ความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินเพ่ือความปลอดภัย ขอแนะวิธีป้องกัน การปฏิบัติตน และการอพยพหนเี พลงิ ไหม้ ดงั นี้ การป้องกันเพลิงไหม้ - กำ� จดั วสั ดทุ เ่ี ปน็ เชอื้ เพลงิ ใหห้ า่ งจากแหลง่ ความรอ้ น ตรวจสอบอปุ กรณไ์ ฟฟา้ ใหอ้ ยใู่ นสภาพปลอดภยั ตดิ ตง้ั ระบบตดั กระแสไฟฟา้ อตั โนมตั แิ ละสายดนิ กบั อปุ กรณไ์ ฟฟา้ ทุกประเภท ปิดสวติ ช์ไฟและถอดปลัก๊ ไฟ ทกุ ครง้ั หลงั ใช้เครือ่ งใช้ไฟฟ้า ดบั ธปู เทียนให้สนิท ก่อนออกจากบ้าน จดั เกบ็ สิง่ ของให้เป็นระเบียบ ไม่กีดขวางทางเดนิ หรอื หน้าต่างหากเกิด เหตเุ พลงิ ไหม้ จะได้สามารถหนอี อกจากอาคารได้ทนั
354 วชิ าป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั - ผู้ที่อาศัยอยู่ในอาคารสงู ควรตรวจสอบตำ� แหน่งบนั ไดหนีไฟ ทางออกฉกุ เฉิน ทใ่ี กลห้ อ้ งพกั มากทสี่ ดุ ตำ� แหนง่ ทตี่ งั้ อปุ กรณแ์ จง้ เหตุ อปุ กรณด์ บั เพลงิ วางกญุ แจหอ้ งพกั และ อปุ กรณฉ์ กุ เฉนิ เชน่ ไฟฉาย ไวใ้ กลก้ บั เตยี งนอน หากเกดิ เพลงิ ไหมจ้ ะไดน้ ำ� มาใชง้ านไดท้ นั ที การปฏบิ ตั ิตนเม่อื เกิดเพลงิ ไหม้ - ตั้งสติ ไม่ต่ืนตระหนก ถ้าสถานการณ์ไม่รุนแรง ให้ท�ำการควบคุมเพลิงเอง ในเบอ้ื งตน้ หากเปน็ เพลงิ ทไี่ หมก้ ระดาษ ไม้ หรอื วสั ดทุ ตี่ ดิ ไฟธรรมดา ใหใ้ ชน้ ำ้� ดบั แตถ่ า้ เปน็ ไฟไหม้เคร่ืองใช้ไฟฟ้า สายไฟ น�้ำมัน หรือก๊าซหุงต้ม ต้องใช้น�้ำยาเคมีดับเพลิงเท่าน้ัน จากน้ันให้รบี แจ้งเหตเุ พลงิ ไหม้พร้อมรบี หนีออกจากทเี่ กิดเหตใุ นทันที - กรณไี ฟไหมน้ อกหอ้ ง ใหใ้ ชม้ อื สมั ผสั บริเวณผนังหรือลูกบิดประตู ถ้ามีความร้อนสูง แสดงวา่ เกดิ เพลงิ ไหมบ้ รเิ วณใกล้ ๆ หา้ มเปดิ ประตู ออกไป ปดิ ประตใู หส้ นทิ ใชผ้ า้ หนา ๆ ชบุ นำ�้ อดุ ตาม ช่องทค่ี วนั สามารถเข้าไปได้ เช่น ใต้ประตู ช่องลม ขอบหน้าต่าง เป็นต้น จะท�ำให้เพลิงลุกลามช้าลง ถ้าลูกบิดไม่ร้อน ให้เปิดประตูออกไป อย่างช้า ๆ และรบี เดินไปยงั เส้นทางหนไี ฟทป่ี ลอดภยั ในทนั ที - กรณีติดอยู่ในวงล้อมของกองเพลิง ให้โทรศัพท์แจ้งเหตุหรือส่งสัญญาณ ขอความช่วยเหลอื ด้วยการส่องไฟฉาย โบกผ้า เป่านกหวดี หรือตะโกนขอความช่วยเหลอื ให้ผู้ทอ่ี ยู่ภายนอกอาคารทราบ จะได้สามารถช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที - หากไฟลุกลามติดเส้ือผ้า ห้ามว่ิงหนีโดยเด็ดขาดเพราะการว่ิงจะย่ิงท�ำให้ ไฟลกุ ลามอย่างรวดเรว็ ให้นอนราบกบั พื้นพร้อมกลงิ้ ตัวไปมากับพนื้ จนกว่าไฟจะดับ
การหนีออกจากอาคารท่ี วิชาป้อง ักนและบรรเทาสาธารณภัย 355 เพลิงไหม้ - ให้ใช้บันไดหนีไฟภายนอก อาคารห้ามใช้ลิฟต์อย่างเด็ดขาด เพราะ เมอื่ เกดิ เพลงิ ไหม้ ไฟฟา้ จะดบั ทำ� ใหต้ ดิ คา้ ง อยู่ในลฟิ ต์ จนขาดอากาศหายใจเสยี ชีวิต - ไมห่ ลบเขา้ ไปอยใู่ นบรเิ วณทเี่ ปน็ จดุ อบั ภายในอาคารซง่ึ ยากตอ่ การชว่ ยเหลอื เช่น ห้องน�้ำ ห้องใต้ดิน ดาดฟ้า เป็นต้น เพราะแม้ช่วงแรกจะปลอดภัยจากเปลวเพลิง แต่หากไฟลกุ ลามรุนแรง น้�ำในห้องนำ�้ จะไม่เพียงพอต่อการดับไฟ - หากหนีออกจากอาคารท่ีเกิดเพลิงไหม้ได้แล้ว ห้ามกลับเข้าไปในอาคาร ทเ่ี กดิ เหตอุ ีก 5. รู้หลกั ปฏิบัตติ ามกฎ ลดอุบตั ิภยั ในการทำ� งาน ความประมาท ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และสภาพแวดล้อมในการท�ำงาน ที่ไม่ปลอดภัยเป็นสาเหตุส�ำคัญของการเกิดอุบัติภัยในการท�ำงาน เพื่อความปลอดภัย ขอแนะหลกั สร้างความปลอดภยั ในการท�ำงาน ดังนี้ ท�ำงานกับเครื่องจักร ศึกษาวิธี ใชเ้ ครอื่ งจกั รอยา่ งละเอยี ดเลอื กใชเ้ ครอ่ื งมอื ให้ ถกู วธิ ี ถกู ขนาด และสอดคลอ้ งกบั วตั ถปุ ระสงค์ การใช้งาน แต่งกายให้เหมาะสมกับประเภท ของงาน สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตราย ทุกครั้งท่ีปฏิบัติงาน ห้ามใช้เคร่ืองจักรที่อยู่ ในสภาพชำ� รดุ เพมิ่ ความระมดั ระวงั ในการใช้ เคร่ืองจักรที่มีส่วนประกอบของเฟือง ใบมีดและสายพานเป็นพิเศษ ห้ามท�ำความสะอาด เคร่ืองจักรในขณะเดินเคร่ือง กรณีเคร่ืองจักรช�ำรุดให้ปิดสวิตช์ไฟเพื่อหยุดการท�ำงานและ แจ้งช่างผู้ช�ำนาญมาตรวจสอบแก้ไข
356 วชิ าป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั ทำ� งานกอ่ สรา้ ง ตรวจสอบอปุ กรณ์ ก่อสร้างให้อยู่ในสภาพปลอดภัย เลือกใช้ให้ ถูกต้องกับประเภทของงาน สวมใส่อุปกรณ์ ปอ้ งกนั อนั ตรายทกุ ครง้ั ทป่ี ฏบิ ตั งิ านหา้ มจดุ ไฟ สูบบุหร่ี หรือประกอบอาหารในบริเวณงาน ก่อสร้างและพื้นที่จัดเก็บวัสดุตกแต่งอาคาร เพราะเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีท่ีท�ำให้ไฟลุกลาม อย่างรวดเรว็ ทำ� งานกบั สารเคมี ปฏบิ ตั ติ ามระเบยี บทก่ี ำ� หนดอยา่ งเครง่ ครดั สวมใสอ่ ปุ กรณ์ ป้องกนั อันตรายทกุ ครั้งทป่ี ฏบิ ัติงาน เช่น ผ้าปิดจมกู รองเท้าบู๊ต ถงุ มือ หน้ากากกนั สาร เคมี เป็นต้น หมน่ั ตรวจสอบจุดเส่ยี งต่อการเกดิ สารเคมรี ว่ั ไหล เช่น ข้อต่อ วาล์วท่อส่งก๊าซ เป็นต้น จัดเก็บสารเคมีที่เป็นอันตรายไว้ให้ห่างจากวัสดุท่ีติดไฟง่ายเพ่ือป้องกันการระเบิด และเพลิงไหม้ กรณีสารเคมรี ั่วไหล ให้ใช้ผ้าปิดจมูก ออกให้ห่างจากบริเวณดังกล่าวไปอยู่ ทางด้านเหนอื ลมหรือทส่ี งู พร้อมเปิดช่องระบายอากาศ เพอื่ ให้อากาศถ่ายเทสู่ภายนอกได้ สะดวกมากข้นึ ท�ำงานในส�ำนักงาน จัดเก็บวัสดุอุปกรณ์และเครื่องใช้สำ� นักงานให้เรียบร้อย ไมว่ างบนทส่ี งู หรอื กดี ขวางทางเดนิ จดั ใหม้ ฝี าครอบปดิ สายไฟ สายอนิ เทอรเ์ นต็ เพอื่ ปอ้ งกนั การสะดดุ ล้ม พร้อมหมนั่ ตรวจสอบอปุ กรณ์ไฟฟ้าให้อยู่ในสภาพปลอดภยั เกบ็ แยกเอกสาร ออกจากพน้ื ทเ่ี ส่ียงเพลิงไหม้ เช่น ปล๊กั ไฟ หม้อไฟ เป็นต้น
บทที่ การใชส้ ารเคมีและกา๊ ซหงุ ต้ม 1. แนะใช้ จัดเก็บสารเคมีในบ้านถูกวิธี ลดเลี่ยงภัยแฝงเร้นใน ชีวติ ประจำ� วัน การด�ำเนินชีวิตในปัจจุบันล้วนต้องเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ท่ีมีส่วนผสม วิชาป้อง ักนและบรรเทาสาธารณภัย 357 ของสารเคมอี ย่างหลกี เลยี่ งไม่ได้ การเรยี นรู้วิธใี ช้ จัดเก็บ ท�ำลายอย่างถกู วธิ ี จะช่วย ป้องกันอนั ตรายจากสารเคมไี ด้ ดงั น้ี การเลอื กซ้ือ เลือกซ้ือผลิตภัณฑ์ท่ีมีส่วนผสมของสารเคมี ซึ่งได้รับการข้ึนทะเบียนวัตถุ อนั ตราย มเี ครอ่ื งหมาย อย. ช่อื การค้า ชือ่ สามัญ อัตราส่วนของสารสำ� คัญ ประโยชน์ วธิ ใี ช้ คำ� เตอื นหรอื ขอ้ ควรระวงั วธิ เี กบ็ รกั ษา วธิ แี กพ้ ษิ หมายเลขโทรศพั ทข์ องสถานทผ่ี ลติ การเลอื กใช้ อา่ นฉลากกอ่ นใชง้ านทกุ ครง้ั ปฏบิ ตั ิ ตามวธิ ใี ชแ้ ละขอ้ แนะนำ� อยา่ งเครง่ ครดั สวมถงุ มอื และรองเทา้ ทกุ ครงั้ ทสี่ มั ผสั กบั ผลติ ภณั ฑท์ เ่ี ปน็ อนั ตรายตอ่ ผวิ หนงั สวมแวน่ ตา เพอื่ ปอ้ งกนั สารเคมกี ระเดน็ เขา้ ตา ไมใ่ ชผ้ ลติ ภณั ฑท์ เ่ี ปน็ อนั ตรายตอ่ ระบบทางเดนิ หายใจ ในบริเวณท่ีอับอากาศ ห้ามสูบบุหรี่หรือท�ำให้เกิดประกายไฟในขณะที่ใช้ผลิตภัณฑ์ ทต่ี ดิ ไฟง่าย เพราะอาจเกดิ การระเบดิ หลงั ใชง้ านเสรจ็ แล้วควรล้างมอื ใหส้ ะอาดทกุ ครง้ั
358 วชิ าป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั การเกบ็ รกั ษา แยกเก็บสารเคมีให้เป็นสัดส่วนในท่ีมิดชิด พ้นมือเด็กเก็บในที่แห้งและเย็น ห่างจากแหล่งความร้อน โดยวางบนพ้ืนหรือบนชั้นวางที่มั่นคง ไม่เก็บรวมกับยา อาหาร และของใชอ้ น่ื ๆ รวมทงั้ หา้ มนำ� ผลติ ภณั ฑท์ ม่ี สี ว่ นผสมของสารเคมเี ปลย่ี นถา่ ยลงในภาชนะ บรรจอุ าหารเพอื่ ปอ้ งกนั เดก็ หรอื ผทู้ ไี่ มร่ นู้ ำ� ไปรบั ประทานทำ� ใหเ้ กดิ อนั ตรายถงึ ขนั้ เสยี ชวี ติ ได้ การท�ำลาย ห้ามท้ิงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารเคมีลงดิน ท่อระบายน้�ำ หรือโถส้วม อย่างเด็ดขาด ให้ทิ้งในถังขยะมีพิษแยกจากขยะทั่วไป โดยก�ำจัดให้ถูกต้องกับประเภท ของผลิตภณั ฑ์และค�ำแนะนำ� ของผู้ผลติ 2. รูห้ ลบหนีภยั สารเคมรี ่ัวไหล ชว่ ยชวี ิตรอดปลอดภัย การเรียนรู้วิธีหนีภัยจากสารเคมีร่ัวไหลที่ถูกต้องจะช่วยให้สามารถเอาตัวรอด จากเหตสุ ารเคมีร่ัวไหลอย่างปลอดภยั เพอ่ื ความปลอดภยั ขอแนะวิธีปฏบิ ัติกรณีทีต่ ้องอยู่ ในเหตกุ ารณ์สารเคมรี ัว่ ไหลในสถานการณ์ต่าง ๆ ดังน้ี หากอยู่ในรถ หาที่จอดรถริมข้างทางในพ้ืนที่ร่มซ่ึงปลอดภัยมากท่ีสุด เพ่ือ หลกี เลยี่ งการไดร้ บั ความรอ้ นสงู จากนนั้ ใหด้ บั เครอ่ื งยนตแ์ ละปดิ ประตหู นา้ ตา่ งรถใหม้ ดิ ชดิ พร้อมเปิดวิทยุรับฟังข่าวสาร ค�ำแนะน�ำในการปฏิบัติตน และรอจนกว่าจะได้รับแจ้ง ให้สามารถใช้ถนนได้ตามปกติ จึงค่อยเลอ่ื นรถออกจากบริเวณดงั กล่าว
หากอยู่ในอาคาร รีบปิดประตู หน้าต่างอาคารให้มิดชิด หากได้รับแจ้งว่า วิชาป้อง ักนและบรรเทาสาธารณภัย 359 จะเกิดระเบิดให้ปิดมู่ล่ีและผ้าม่านที่หน้าต่าง เพื่อป้องกันสะเก็ดระเบิด ปิดระบบระบาย อากาศภายในอาคารทง้ั หมด เช่น พดั ลม เครอื่ งปรบั อากาศ เครื่องทำ� ความร้อน เป็นต้น จากน้ันให้เข้าไปหลบอยู่ในพื้นท่ีในสุดของอาคาร นำ� ถุงพลาสติกหรือเศษผ้าชุบนำ้� อุดหรือ ปิดช่องประตู ใช้แผ่นพลาสติกปิดคลุมหน้าต่างหรือเทปกาวปิดตามช่องระบายอากาศ พร้อมโทรแจ้งหน่วยงานทร่ี ับผิดชอบ กรณีอยู่ในพ้นื ทที่ เี่ กดิ สารเคมรี วั่ ไหล ให้รบี อพยพออกจากพื้นทท่ี ่ีมสี ารเคมี รั่วไหล โดยใช้ผ้าสะอาดปิดจมกู เพอ่ื ป้องกันการสดู ดมสารเคมเี ข้าสู่ร่างกาย พยายามหนี ออกไปอยู่ในบริเวณที่อากาศถ่ายเทสะดวก ทางด้านเหนือลมหรือท่ีสูง จากนั้นให้รีบแจ้ง หน่วยงานท่รี ับผดิ ชอบมาก�ำจดั หรอื ทำ� ความสะอาดบรเิ วณท่เี กิดการรัว่ ไหล 3. หลกั ชว่ ยเหลือเบ้อื งตน้ เมื่อได้รับอนั ตรายจากสารเคมี สารเคมีที่ใช้ในชีวิตประจ�ำวันส่วนมากจัดเป็นสารอันตราย ซ่ึงสามารถเข้าสู่ รา่ งกายไดท้ งั้ โดยการสมั ผสั การรบั ประทาน การสดู ดม หากใชอ้ ยา่ งไมถ่ กู วธิ แี ละไมถ่ กู ตอ้ ง ตามวตั ถปุ ระสงคก์ ารใชง้ านอาจกอ่ ใหเ้ กดิ อนั ตรายถงึ ขน้ั เสยี ชวี ติ ไดเ้ พอื่ ความปลอดภยั ขอแนะ วธิ ปี ฐมพยาบาลผู้ได้รบั อนั ตรายจากสารเคมใี นเบ้ืองต้นก่อนน�ำส่งสถานพยาบาล ดงั น้ี ผิวหนัง ใช้ผ้าสะอาดเช็ดสารเคมีออกจากผิวหนังและรีบล้างออกทันทีด้วย การน�ำน�้ำสะอาดไหลผ่านบริเวณท่ีถูกสารเคมีอย่างน้อย 15 นาที รีบถอดเส้ือผ้าที่เปื้อน สารเคมอี อก จากนน้ั ให้อาบนำ�้ ชำ� ระล้างรา่ งกายให้สะอาดดว้ ยการฟอกสบแู่ ละล้างดว้ ยน้�ำ จ�ำนวนมากเพอ่ื ให้สารเคมเี จือจาง
360 วชิ าป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั ดวงตา ให้รบี ล้างออกโดยพยายามลืมตาในนำ้� และเปิดเปลอื กตาออก เพื่อให้ นำ�้ ไหลผา่ นตาอยา่ งนอ้ ย 15 นาที ระวงั อยา่ ใหน้ ำ�้ กระเดน็ ไปเขา้ ตาอกี ขา้ งหนง่ึ หา้ มขยต้ี าหรอื ใชแ้ อลกอฮอล์ นำ�้ ยาลา้ งตาหรอื นำ�้ ยาหยอดตาอยา่ งเดด็ ขาด เพราะจะทำ� ใหต้ าระคายเคอื ง มากขนึ้ หลงั จากทำ� ความสะอาดเสรจ็ แลว้ ใหใ้ ชผ้ า้ กอ๊ ซปดิ ดวงตาทไ่ี ดร้ บั อนั ตรายจากสารเคมี สดู ดม ใหร้ บี นำ� ผปู้ ว่ ยออกมาอยใู่ นทโี่ ลง่ แจง้ หรอื บรเิ วณทอ่ี ากาศถา่ ยเทสะดวก ทางด้านเหนือลม ห่างจากที่เกิดเหตุไม่ตำ�่ กว่า 100 เมตร หรือเปิดประตู หน้าต่าง เพื่อ ระบายอากาศและลดความเข้มข้นของสารเคมีท่ีรั่วไหล พร้อมทำ� การผายปอดเพื่อกระตุ้น ระบบทางเดนิ หายใจท�ำให้ผู้ป่วยหายใจสะดวกข้ึน รบั ประทาน ใหป้ ฐมพยาบาลดว้ ยการทำ� ใหอ้ าเจยี น แตต่ อ้ งแนใ่ จวา่ ผปู้ ระสบเหตุ ไม่ได้รับสารพิษที่เป็นกรด เพราะการอาเจียนจะท�ำให้อวัยวะภายในบอบช�้ำมากขึ้น หากผปู้ ระสบพษิ ไมไ่ ดร้ บั สารพษิ ทเ่ี ปน็ กรด ใหล้ ว้ งคอเพอ่ื อาเจยี น แลว้ ใหด้ มื่ นม กลนื ไขข่ าว หรือน้�ำเปล่าในทันที จะช่วยลดอัตราการดูดซึมของสารเคมีได้ แต่ห้ามท�ำในกรณี ผ้ปู ว่ ยชกั หมดสตไิ ม่ร้สู กึ ตวั เพราะเศษอาหารจะเขา้ ไปตดิ ในหลอดลม ท�ำให้หายใจไม่ออก เสียชีวิตได้
ผทู้ เี่ ขา้ ใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผไู้ ดร้ บั อนั ตรายจากสารเคมี ควรสงั เกตสภาพแวดลอ้ ม วิชาป้อง ักนและบรรเทาสาธารณภัย 361 ในที่เกิดเหตุ จะได้ท�ำการปฐมพยาบาลผู้ประสบเหตอุ ย่างถูกต้อง ตามประเภทของสารพษิ โดยการสอบถามจากผู้อยู่ในเหตุการณ์หรือพบผู้ประสบเหตุเป็นคนแรก หรือโดยสังเกต จากภาชนะบรรจุสารพิษท่ีตกหล่นในบริเวณใกล้เคียงและคราบของสารเคมีที่ติดอยู่ตาม ร่างกายหรอื เส้อื ผ้า หรอื กล่ินของสารพษิ จากลมหายใจของผู้ประสบเหตุ 4. ใช้ก๊าซหงุ ต้มถูกวธิ ี ลดเส่ียงระเบิดและเพลิงไหม้ ปจั จบุ นั ครวั เรอื นสว่ นใหญน่ ยิ มนำ� กา๊ ซหงุ ตม้ มาใชป้ ระกอบอาหาร แตเ่ นอ่ื งจาก กา๊ ซหงุ ตม้ มคี ณุ สมบตั ไิ วไฟและเปน็ เชอ้ื เพลงิ ทต่ี ดิ ไฟรวดเรว็ จงึ มคี วามเสย่ี งสงู ทจ่ี ะเกดิ ระเบดิ และเพลงิ ไหม้ เพอื่ ความปลอดภยั ขอแนะวธิ เี ลอื กตดิ ตง้ั และใชก้ า๊ ซหงุ ตม้ อยา่ งปลอดภยั ดงั นี้ การเลอื กถงั กา๊ ซ เลอื กใชถ้ งั กา๊ ซทม่ี เี ครอื่ งหมายรบั รองมาตรฐานอตุ สาหกรรม (มอก.) มกี ารปดิ ผนกึ บนวาลว์ ถงั กา๊ ซ และขอ้ ความระบนุ ำ้� หนกั ถงั วนั เดอื น ปี การทดสอบ ถงั ครง้ั สดุ ทา้ ยไมค่ วรเกนิ 5 ปรี วมถงึ ถงั กา๊ ซอยใู่ นสภาพสมบรู ณ์ ไมบ่ บุ ไมบ่ วม และเปน็ สนมิ
362 วชิ าป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั การตดิ ต้งั ถงั กา๊ ซ ตดิ ตง้ั ถงั กา๊ ซบนพน้ื ราบ ไมล่ าดเอยี งไมว่ างถงั กา๊ ซในแนวนอน เพราะกา๊ ซอาจรวั่ ไหลออกมา ควรวางถังก๊าซให้ห่างจากเตาแก๊สประมาณ 1.5 - 2 เมตร ในบรเิ วณที่อากาศ ถา่ ยเทสะดวก และสามารถเคลอ่ื นยา้ ยไดง้ า่ ย ไมอ่ ยใู่ กลแ้ หลง่ ความรอ้ นบรเิ วณทมี่ ปี ระกายไฟ หรืออุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าโดยเด็ดขาด เพราะอาจเกิดประกายไฟจนเกิดการระเบิดได้ อีกทงั้ ไม่วางถงั ก๊าซบรเิ วณทม่ี สี ารเคมหี รือไอน้�ำท่มี ีคุณสมบตั ิกัดกร่อนถังโลหะ เพราะอาจ ท�ำให้ก๊าซร่วั ไหล การใช้กา๊ ซหุงตม้ ห้ามกลง้ิ หรอื กระแทกถงั ก๊าซ เพราะแรงกระแทก อาจทำ� ให้ ถังก๊าซระเบดิ ก่อนใช้งานให้เปิดวาล์วทถ่ี ังก๊าซ โดยหมุนไม่เกิน 2 รอบ แล้วจงึ เปิดวาล์ว ทเี่ ตาแกส๊ เพอ่ื ปอ้ งกนั กา๊ ซกระจายตวั ในอากาศ หากมปี ระกายไฟ จะท�ำใหเ้ กดิ การระเบดิ ได้ กรณเี ปดิ เตาแกส๊ แลว้ ไฟไมต่ ดิ หา้ มเปดิ ซำ�้ ใหท้ งิ้ ระยะสกั ครคู่ อ่ ยเปดิ ซำ้� เพราะอาจมกี า๊ ซสะสม เป็นจ�ำนวนมาก ท�ำให้เปลวไฟพุ่งถูกร่างกายและเกิดเพลิงไหม้ หลังจากใช้งานเสร็จแล้ว ให้ปิดวาล์วถงั ก๊าซก่อนและรอจนไฟที่เตาแก๊สดับสนิทแล้วจึงปิดวาล์วท่หี ัวเตา การตรวจสอบรอยรว่ั บรเิ วณถงั กา๊ ซ ใหใ้ ชน้ ำ้� สบลู่ บู ตามจดุ ตา่ ง ๆ ของถงั กา๊ ซ หากมีฟองสบู่ผุดขึ้นมา แสดงว่าก๊าซร่ัวไหลให้ปิดวาล์วท่ีถังก๊าซทันที และจัดการเปลี่ยน ถังก๊าซใหม่ทนั ที
กรณีก๊าซรั่วไหล รบี ปิดวาล์วถงั ก๊าซทนั ที แล้วเปิดประตูหน้าต่างทุกบาน เพ่อื วิชาป้อง ักนและบรรเทาสาธารณภัย 363 ระบายก๊าซออกสู่ภายนอก จากน้ันให้ตรวจสอบหาสาเหตุที่ท�ำให้ก๊าซร่ัวไหลหากพบว่า เกิดจากถังก๊าซรั่ว ให้พลิกถังก๊าซส่วนท่ีร่ัวไหลไว้ด้านบน หรือน�ำผ้าชุบน�้ำมาปิดบริเวณ ทกี่ า๊ ซรว่ั จะชว่ ยลดการรว่ั ไหลของกา๊ ซหา้ มเปดิ ปดิ อปุ กรณไ์ ฟฟา้ ทกุ ชนดิ หรอื กระทำ� การใด ๆ ที่ท�ำให้เกิดประกายไฟบริเวณท่ีก๊าซรั่วไหล เช่น สูบบุหร่ี จุดไฟแช็ก เป็นต้น เพราะอาจ ทำ� ให้เกดิ เพลงิ ไหม้ กรณีเกดิ เพลงิ ไหม้ ให้รบี ปิดวาล์วถังก๊าซ หากไม่สามารถปิดได้ให้ใช้นำ�้ ราด หรือเครื่องดบั เพลงิ ฉีดพ่นไปบรเิ วณทไี่ ฟลกุ ไหม้จนกว่าไฟจะดับสนทิ ขอ้ หา้ ม หา้ มถา่ ยเทกา๊ ซจากถงั หนงึ่ ไปสอู่ กี ถงั หนง่ึ ดว้ ยตนเอง และไมน่ ำ� ถงั กา๊ ซ หงุ ตม้ ทใ่ี ชใ้ นครวั เรอื นไปดดั แปลงใชเ้ ปน็ ถงั กา๊ ซเชอื้ เพลงิ สำ� หรบั ใชใ้ นรถยนต์ เพราะเสยี่ งตอ่ การเกิดระเบดิ และเพลิงไหม้
บทท่ี การใชย้ านพาหนะ การแก้เหตฉุ ุกเฉิน และการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ 1. อบุ ตั เิ หตทุ างถนนภยั จากการเดนิ ทาง แนะนำ� ผขู้ บั ขเี่ ตรยี มพรอ้ ม ก่อนเดนิ ทางไกล 364 วชิ าป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั การตรวจสอบรถให้พร้อมใช้งาน การเตรียมพร้อมด้านสภาพร่างกาย การตรวจสอบและเลอื กใชเ้ สน้ ทางทปี่ ลอดภยั ถอื เปน็ หลกั ปฏบิ ตั ขิ น้ั พนื้ ฐานทจี่ ะชว่ ยเพมิ่ ความปลอดภัยในการเดินทางเพ่ือความปลอดภัย ขอแนะผู้ขับขี่ให้เตรียมความพร้อม ก่อนออกเดนิ ทาง ดงั น้ี ตรวจสอบสภาพรถ ก่อนเดินทาง ตรวจสอบรถให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานโดยเฉพาะ ระบบเบรกให้สามารถหยุดรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบบสัญญาณไฟมีแสงไฟ ส่องสว่างทุกดวง เติมลมยางรถยนต์ไม่อ่อนหรือแข็งเกินไป รวมถึงเติมนำ�้ ในหม้อน้�ำ และตรวจสอบน�้ำมันเบรกให้อยู่ในระดับท่ีก�ำหนด หากตรวจพบความบกพร่อง ของเครื่องยนต์ให้น�ำรถไปเข้าศูนย์บริการ เพื่อซ่อมแซมและแก้ไขในทันที ตลอดจน จัดเตรียมอปุ กรณ์สำ� หรับใช้งานในยามฉุกเฉนิ ไว้ประจำ� รถ เช่น สายลากจูง สายพ่วง แบตเตอร่ี ไฟฉาย ยางอะไหล่ เป็นต้น
ขณะเดินทาง หมั่นสังเกตสัญญาณความผิดปกติของรถยนต์ จะช่วยให้ วิชาป้อง ักนและบรรเทาสาธารณภัย 365 สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างทนั ท่วงที และลดความเส่ยี งต่อการเกดิ อบุ ตั ิเหตุ เตรยี มพร้อมด้านสภาพร่างกาย ก่อนเดนิ ทาง นอนหลบั พกั ผ่อนให้เพยี งพออย่างน้อย 8 ชว่ั โมง งดเว้นการดมื่ เครื่องดื่มท่ีมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์หรือของมึนเมาทุกชนิด ไม่ทานยาท่ีมีฤทธิ์กล่อม หรือกดประสาท เพราะจะทำ� ให้ง่วงนอนจนเกดิ อาการหลบั ในขณะขับข่ี ขณะเดินทาง ปฏิบัติตามป้ายเตือนและป้ายจราจรริมข้างทางอย่างเคร่งครัด สวมใส่อุปกรณ์นิรภัยทุกคร้ังไม่ว่าจะเดินทางใกล้หรือไกล เพ่ือลดอัตราการบาดเจ็บและ เสยี ชีวิตกรณปี ระสบอุบตั เิ หตุ หากมีอาการง่วงนอน ควรจอดพักรถในบรเิ วณท่ีปลอดภัย
366 วชิ าป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั ศึกษาสภาพเส้นทาง ก่อนเดินทาง ตรวจสอบเส้นทางจราจรจากเว็บไซต์หรือสอบถามจากผู้อ่ืน พรอ้ มทำ� ความเขา้ ใจเสน้ ทางอยา่ งละเอยี ด นอกจากจะชว่ ยใหส้ ามารถวางแผนการเดนิ ทาง และเลือกใช้เส้นทางท่ีปลอดภัยแล้ว ยังช่วยป้องกันอุบัติเหตุท่ีเกิดจากความไม่ช�ำนาญ เส้นทางอกี ด้วย ขณะเดินทาง หลีกเลี่ยงการขับรถผ่านเส้นทางเส่ียงต่าง ๆ เช่น ถนนท่ีมี สภาพช�ำรุด นำ�้ ท่วมขงั หรืออยู่ในระหว่างการก่อสร้างเพราะจะเพม่ิ ความเสย่ี งต่อการเกิด อบุ ตั เิ หตใุ หเ้ ลยี่ งไปใชเ้ สน้ ทางอน่ื ทปี่ ลอดภยั กรณที ศั นวสิ ยั ไมด่ ี เชน่ ฝนตกหนกั หมอกลงจดั เป็นต้น ควรจอดพักรถในบริเวณท่ีปลอดภัยรอจนทัศนวิสัยดีขึ้นค่อยขับรถต่อ ท่ีส�ำคัญ ควรใช้ความเรว็ ให้เหมาะสมกบั สภาพเส้นทางและทศั นวสิ ยั ในการเดนิ ทาง ค�ำแนะน�ำในข้างต้นเป็นหลักพื้นฐานในการขับข่ีอย่างปลอดภัย แต่หากผู้ขับขี่ มองข้ามกจ็ ะเพมิ่ ความเส่ยี งต่อการเกดิ อบุ ตั เิ หตุได้ 2. เตอื นผขู้ บั ขี่ เลย่ี งพฤตกิ รรมเสย่ี งอบุ ตั เิ หตุ ยงิ่ ขบั รถเรว็ ยง่ิ เสย่ี งตาย การขับรถด้วยความเร็วสูงเพ่ิมความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ในลกั ษณะรุนแรง โดยกว่า 3 ใน 4 ของอุบัตเิ หตเุ กิดจากการขับรถด้วยความเรว็ สงู จงึ มี คำ� เตือนเพ่อื ลดความเสีย่ งต่อการเกดิ อบุ ตั เิ หตุจากการใช้ความเร็วสูง ดงั น้ี
ปัจจัยเสี่ยง การขับรถเร็วท�ำให้ผู้ขับข่ีมีขอบเขตและระยะในการมองเห็น วิชาป้อง ักนและบรรเทาสาธารณภัย 367 เส้นทางลดลง เม่ือเกิดเหตุฉุกเฉินจะไม่มีเวลาเพียงพอที่จะแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ อย่างทันท่วงที หากผู้ขับขี่ขับรถด้วยความเร็วสูงและเกิดอุบัติเหตุ แรงปะทะจะเพิ่มขึ้น ตามความเรว็ ท�ำให้มอี ัตราการบาดเจบ็ และเสยี ชีวิตสงู ขึน้ การปอ้ งกันอันตรายจากการขับรถเร็ว - ใช้ความเร็วไม่เกิน 90 กม./ชม.เพราะเป็นอัตราท่ีจะช่วยให้ผู้ขับข่ีสามารถ หยุดรถได้อย่างปลอดภยั เมอ่ื เกิดเหตุฉุกเฉนิ - ใชค้ วามเรว็ เหมาะกบั สภาพถนน สภาพอากาศ และสภาพการจราจร โดยปฏบิ ตั ิ ตามป้ายจ�ำกัดความเร็วที่ติดริมข้างทาง ลดความเร็วลงกว่าปกติ เม่ือขับผ่านเส้นทาง บริเวณชุมชน โรงเรยี น ทางโค้ง และทางลาดชนั - ไม่ใช้ความเรว็ สูงในการขบั รถช่วงโพล้เพล้ ช่วงพลบคำ่� และกลางคนื เพราะ ความมืดท�ำให้ระยะการมองเห็นเส้นทางลดลง ผู้ขับขี่ควรใช้ความเร็วให้สัมพันธ์กับระยะ ในการมองเหน็ เส้นทางหากมสี ิ่งกดี ขวางจะได้สามารถหยดุ รถได้ทัน - กรณีขับผ่านเส้นทางท่ีทัศนวิสัยไม่ดี เช่น หมอกลงจัดฝนตกหนัก ควันไฟ ปกคลมุ เปน็ ตน้ ให้ลดความเรว็ ในระดบั ทสี่ มำ่� เสมอและสามารถควบคมุ รถได้ หากเกดิ เหตุ ฉกุ เฉนิ จะได้สามารถหยดุ รถได้อย่างปลอดภยั
368 วชิ าป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั 3. เมาแล้วขับ เส่ียงอุบตั เิ หตุรนุ แรง เสยี่ งตายเพิม่ ข้ึน กว่าร้อยละ 50 ของอุบัติเหตุทางถนนเกิดจากการเมาแล้วขับ โดยเฉพาะ ในช่วงหลังเท่ียงคืนไปแล้วกว่า 1 ใน 10 ของคนขับรถบนท้องถนนเป็นผู้ท่ีด่ืมสุรา จนขาดสตสิ มั ปชญั ญะ เพอื่ ลดอบุ ตั เิ หตจุ ากการเมาแลว้ ขบั ขอแนะนำ� วธิ หี ลกี เลย่ี งอนั ตราย จากผู้ขับรถท่เี มาสุรา ดงั น้ี ปจั จยั เสี่ยง เครื่องด่ืมแอลกอฮอล์มีฤทธิ์กดประสาท ท�ำให้ ความสามารถในการขับข่ีและการมองเห็นเส้นทางลดลง ไม่สามารถตัดสินใจแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างถูกต้อง การตอบสนองต่อเหตกุ ารณ์ฉกุ เฉนิ ช้ากว่าปกติ 8 เท่า จงึ เพิม่ ความเส่ยี งต่อการเกดิ อุบตั ิเหตทุ างถนนรนุ แรงกว่าปกติ วธิ ปี ้องกนั อุบตั เิ หตุจากการเมาแล้วขับ หากต้องขับรถ ห้ามด่ืมเคร่ืองดื่มที่มีแอลกอฮอล์ อย่างเด็ดขาด ควรให้เพ่ือนท่ีไม่ด่ืมเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์เป็นผู้ขับแทน หรือใช้บริการ รถแท็กซ่ี รถโดยสารสาธารณะกรณีไม่มีเพ่ือนร่วมทาง ควรรอจนสร่างเมาก่อนจึงขับรถ หรอื หาทจ่ี อดพักรถในบรเิ วณท่ปี ลอดภัย เช่น จดุ พักรถรมิ ทางสถานีบรกิ ารน้�ำมนั เป็นต้น วิธหี ลกี เล่ยี งอันตรายจากผเู้ มาแลว้ ขบั หากสังเกตพบผู้ร่วมใช้เส้นทางมีลักษณะ การขบั ข่ที ผ่ี ิดปกติ เช่น ขับคร่อมเลนตลอดเวลา ขบั รถ สา่ ยไปมา เปน็ ตน้ ใหช้ ะลอความเรว็ เวน้ ระยะหา่ งจากรถคนั ดังกล่าวให้มากกว่าปกติถ้ารถคันดังกล่าวอยู่ด้านหลัง ควรขับชดิ ซ้ายและลดความเรว็ ลง เพื่อให้รถคนั ดงั กล่าว ขบั แซงไปก่อน หากขับรถผ่านสี่แยกท่ีมีสัญญาณไฟจราจร ในช่วงกลางคืน ควรชะลอความเร็ว และตรวจสอบให้ แนใ่ จวา่ ไมม่ รี ถวง่ิ ผา่ น เพราะอาจมผี ขู้ บั ขที่ เี่ มาสรุ าขบั รถ ฝ่าสญั ญาณไฟแดง ทำ� ให้เกิดอุบตั ิเหตุได้
4. ง่วงขับ หลับใน...ปอ้ งกันไดด้ ้วยตนเอง วิชาป้อง ักนและบรรเทาสาธารณภัย 369 การขับรถติดต่อกันเป็นเวลานานอาจท�ำให้ผู้ขับขี่เกิดอาการหลับใน ซ่ึง การหลับในถือเป็นสาเหตุส�ำคัญที่ท�ำให้เกิดอุบัติเหตุทางถนน แต่เน่ืองจากปัจจุบันยังไม่มี เครื่องตรวจวัดอาการง่วงนอน ท�ำให้ไม่สามารถเก็บรวบรวมเป็นสถิติอุบัติเหตุทางถนนได้ เพ่ือความปลอดภยั ขอแนะวธิ ปี ้องกันและแก้ไขกรณมี อี าการง่วงนอนในขณะขับรถ ดงั นี้ ปจั จยั เส่ยี ง คนหลับในเปรยี บเสมือนคนหูหนวก ตาบอด ช่วั ขณะ โดยผู้ขับข่มี ักเกดิ อาการ หลับในแบบไม่รู้ตวั หากวบู หลบั เพยี ง 3 - 5 วนิ าที จะทำ� ให้รถวง่ิ โดยปราศจากการควบคุม เป็นระยะทางกว่า 100 เมตรจงึ เส่ยี งต่อการเกิดอุบตั ิเหตรุ ้ายแรง วธิ ีป้องกันอาการหลบั ใน กอ่ นเดินทาง นอนหลับพกั ผ่อนให้เพยี งพอ อย่างน้อย 7 - 8 ชวั่ โมง งดเว้น เครอ่ื งดมื่ แอลกอฮอล์ โดยเฉพาะผทู้ อ่ี ดนอนเพราะจะกระตนุ้ ใหเ้ กดิ อาการหลบั ในอยา่ งฉบั พลนั ไม่ทานยาท่มี ีฤทธิ์กดประสาท เช่น ยาแก้แพ้ ยาลดน้�ำมกู เป็นต้น เพราะจะทำ� ให้มอี าการ ง่วงนอนในขณะขบั ขี่ ขณะเดินทาง ปรับท่าน่งั ให้ถูกต้อง ไม่นง่ั ขับในลักษณะกงึ่ นอนขบั จะช่วยให้ ร่างกายเกดิ การตื่นตัวมากขน้ึ วางแผนก่อนเดนิ ทางไกล โดยเลอื กช่วงเวลาในการเดินทาง ทเี่ หมาะสม มเี พอ่ื นรว่ มเดนิ ทาง เพอ่ื ชวนพดู คยุ หรอื ผลดั เปลยี่ นกนั ขบั รถ ตลอดจนหลกี เลย่ี ง การขบั รถติดต่อกนั เป็นเวลานาน เพราะจะท�ำให้ร่างกายอ่อนเพลียจนเกดิ อาการหลับใน
370 วชิ าป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั วธิ ีแกไ้ ขกรณีมอี าการง่วงนอน - หยุดพักรถทกุ ระยะ 150 กโิ ลเมตร หรือทกุ 2 ชว่ั โมง ในบริเวณท่ีปลอดภยั เช่น ปั๊มน�้ำมัน จุดพักรถริมทาง เพ่ือพักหลับปรับเปลี่ยนอิริยาบถจะช่วยคลายอาการ ง่วงนอนลงได้ - หากมีอาการง่วงนอน แต่ไม่สามารถหาท่ีหยุดพักรถที่ปลอดภัยได้ ให้เปิด หน้าต่างรถเพ่อื ให้แรงลมปะทะใบหน้า เปิดเพลงดัง ๆ จังหวะเร็ว ๆ และร้องเพลงคลอตาม ดมื่ นำ้� จบิ กาแฟทานของขบเคย้ี ว ใชเ้ ลบ็ จกิ ปลายนว้ิ กอ้ ยจะชว่ ยใหต้ าสวา่ งชว่ั คราว จากนนั้ เมอ่ื หาท่จี อดพักรถได้แล้วจงึ ค่อยพกั หลับสักครู่จนรู้สกึ สดชื่นขึน้ จงึ ค่อยขับรถต่อ 5. โทรไมข่ ับ...ลดเสย่ี งอุบัตเิ หตุ แม้โทรศัพท์มือถือจะเป็นอุปกรณ์ท่ีช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการติดต่อ สื่อสาร แต่การใช้โทรศัพท์มือถือในขณะขับรถจะเพ่ิมความเส่ียงสูงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ทางถนน เพอ่ื ความปลอดภยั ขอแนะวิธีป้องกนั อบุ ตั ิเหตจุ ากการโทรแล้วขบั ดังนี้
ปัจจยั เสีย่ ง วิชาป้อง ักนและบรรเทาสาธารณภัย 371 การคุยโทรศัพท์จะท�ำให้ผู้ขับข่ีเสียสมาธิ มีปฏิกิริยาโต้ตอบและการตัดสินใจแก้ไขปัญหา เมื่อ เกิดเหตุฉุกเฉินช้ากว่าปกติ 0.5 วินาที รวมท้ังยังส่งผล ตอ่ การมองเหน็ ปา้ ยสญั ลกั ษณ์ ปา้ ยจราจร ปา้ ยบอกทาง (Inattention Blindness) แมจ้ ะมองเหน็ ปา้ ย แตก่ ไ็ มส่ ามารถ จดจ�ำรายละเอยี ดของป้ายได้ วธิ ีป้องกันอบุ ัติเหตุจากการโทรศพั ทข์ ณะขับรถ - หลีกเล่ียงการใช้โทรศัพท์เคล่ือนท่ีขณะขับรถเพราะแม้สายตาของผู้ขับข่ี จะจ้องอยู่ทถ่ี นน แต่ก็เสมอื นมองไม่เห็นเส้นทาง เน่อื งจากสมาธขิ องคนขบั อยู่ที่บทสนทนา ทางโทรศพั ท์ เมื่อเกดิ เหตฉุ กุ เฉนิ จงึ ไม่สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ทนั ที ทำ� ให้เพ่ิม ความเส่ยี งต่อการเกิดอบุ ตั ิเหตุ - ใชอ้ ปุ กรณเ์ สรมิ สำ� หรบั การสนทนาทางโทรศพั ทเ์ คลอ่ื นที่ เชน่ แฮนดฟ์ รี บลทู ธู หรือให้เพ่ือนท่ีร่วมเดินทางไปด้วยรับโทรศัพท์แทนจะปลอดภัยมากกว่าเพราะหากผู้ขับข่ี ใชม้ อื ถอื โทรศพั ท์ จะเหลอื มอื จบั พวงมาลยั เพยี งขา้ งเดยี ว เมอ่ื เกดิ เหตฉุ กุ เฉนิ จงึ ไมส่ ามารถ หักหลบส่งิ กดี ขวางได้ทนั อย่างไรก็ตาม แม้จะใช้อุปกรณ์เสรมิ ในการพูดคุยโทรศัพท์ผู้ขับขี่ ก็ไม่ควรคยุ โทรศัพท์เกิน 5 นาที - หากไม่มีอุปกรณ์เสริมส�ำหรับการสนทนาหรือไม่มีเพื่อนรับโทรศัพท์แทน ควรหาท่จี อดรถรมิ ทาง ในบรเิ วณทป่ี ลอดภัยแล้วค่อยคยุ โทรศพั ท์
372 วชิ าป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั 6. ใช้อปุ กรณน์ ิรภยั ถกู วิธี...ลดอนั ตราย ลดเส่ียงตายจากอุบตั ิเหตุ แม้อุปกรณ์นิรภัยจะเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยลดอัตราการบาดเจ็บและเสียชีวิต จากอุบัติเหตุทางถนน แต่หากใช้งานอย่างไม่ถูกวิธี ก็อาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงได้ เพือ่ ความปลอดภยั ขอแนะวธิ ใี ช้อุปกรณ์นริ ภยั อย่างถกู ต้อง ดงั นี้ เขม็ ขัดนริ ภยั ในกรณีทป่ี ระสบอบุ ัตเิ หตุ เขด็ ขัดนิรภัย จะทำ� หนา้ ทฉี่ ดุ รงั้ ผปู้ ระสบเหตมุ ใิ หก้ ระเดน็ ออกนอกรถและปอ้ งกนั ศรี ษะ ล�ำตวั ไมใ่ หพ้ งุ่ กระแทกกบั อปุ กรณต์ า่ ง ๆ ภายในรถ จงึ ชว่ ยลดอตั ราการบาดเจบ็ สาหสั และเสยี ชวี ติ การคาดเข็มขัดนริ ภยั ที่ถกู ตอ้ ง คนทวั่ ไป ปรบั เบาะนง่ั ให้พอดี เพ่ือให้สายเข็มขดั แนบชดิ ล�ำตวั โดยคาดทาบ กระดกู เชงิ กราน สะโพก ในระดบั ต่�ำกว่าเข็มขดั ธรรมดา พาดผ่านหน้าอก กระดูกไหปลาร้า และหวั ไหล่ พร้อมจดั สายเขม็ ขัดให้กระชบั ไม่พลิก บิด งอ หรือหย่อน เพราะหากประสบ อุบัตเิ หตุจะไม่สามารถเหนย่ี วรัง้ ล�ำตัวของผู้ประสบเหตุ ทำ� ให้ได้รบั อันตรายมากขน้ึ สตรมี คี รรภ์ ใหเ้ ขม็ ขดั สว่ นลา่ งพาดผา่ นหนา้ ตกั ขาทงั้ สองขา้ ง และอยรู่ ะหวา่ ง กง่ึ กลางของลน้ิ ปี่ ในระดบั ต�่ำกว่าครรภ์ และหา่ งจากสะโพกมากทสี่ ดุ ห้ามคาดผา่ นบรเิ วณ หน้าท้องโดยตรง เพราะหากประสบอุบัติเหตุจะเป็นอันตรายต่อเด็กในครรภ์ ให้ใช้หมอน ใบเล็กรองท่ีหน้าท้องส่วนล่างก่อนคาดเขม็ ขัดนิรภยั จะช่วยลดแรงกระแทกได้
ขอ้ ควรระวังในการใชเ้ ข็มขัดนริ ภยั วิชาป้อง ักนและบรรเทาสาธารณภัย 373 1. ห้ามคาดพาดชิดล�ำคอ เนื่องจากอาจถูกสายเข็มขัดนิรภัยรัดคอจนขาด อากาศหายใจเสยี ชวี ิต 2. ห้ามคาดพาดวัตถุมีคมและของแข็งที่แตกหักง่าย เพ่ือป้องกันอันตราย กรณปี ระสบอบุ ัตเิ หตุ 3. หา้ มคาดไวใ้ ตว้ งแขน เพราะหากประสบอบุ ตั เิ หตุ จะท�ำให้ซโ่ี ครงหกั 4. ห้ามให้เด็กเล็กคาดเข็มขัดนิรภัยของผู้ใหญ่ เพราะไมส่ ามารถปกปอ้ งเดก็ จากการถกู กระแทกหรอื หลดุ ออก นอกตัวรถ รวมถงึ ยงั ท�ำให้เด็กได้รบั อนั ตรายจากถงุ ลมนิรภัย 5. ห้ามคาดพาดตัวเด็กในขณะอุ้มเด็กน่ังตัก เพราะหากประสบอุบัติเหตุ จะได้รบั บาดเจบ็ รนุ แรงท้งั สองคน เบาะน่ังนริ ภยั เหมาะสำ� หรับเด็กอายุตำ�่ กว่า 11 ปี โดยให้ยึดเบาะนง่ั นริ ภยั ไว้ บริเวณก่ึงกลางของเบาะหลัง เพราะเป็นจุดที่ปลอดภัยท่ีสุด รวมถึงเลือกใช้ให้เหมาะสม กบั วยั ของเดก็ ดังน้ี - เด็กแรกเกิด - 1 ปี (นำ้� หนักน้อยกว่า 10 กก.) ให้ใช้เบาะน่ังนิรภยั แบบหันไป ด้านหลงั รถ - เดก็ อายุ 1 - 5 ปี (นำ�้ หนัก 10 - 18 กก.) ให้ใช้เบาะนั่งนิรภยั แบบหนั ไป ด้านหน้ารถตามปกติ - เด็กอายุ 5 - 10 ปี (นำ้� หนัก 18 - 28 กก.) ให้ใช้เบาะน่งั นิรภัยแบบทน่ี งั่ เสริม เพอื่ ยกตัวเดก็ ให้สงู พอท่ีจะคาดเขม็ ขดั นริ ภยั ได้ ควรให้เด็กนั่งบริเวณเบาะหลังรถ ค่อนไปทางใดทางหนึ่ง ห้ามมิให้เด็กน่ังเบาะหน้า หากจ�ำเป็น ต้องเล่ือนเบาะไปทางด้านหลังให้ มากทสี่ ดุ เพอื่ ออกห่างจากคอนโซลรถและกระจก หนา้ รถ หา้ มมใิ หเ้ ดก็ นง่ั หรอื ยนื ชดิ แผงหนา้ ปดั หรอื นั่งตักผู้โดยสารท่ีนั่งด้านหน้ารถ เพราะหากประสบอุบัติเหตุเด็กจะได้รับอันตราย ทั้งจาก แรงกระแทกของถงุ ลมนริ ภยั และรถยนต์ ท�ำให้มีโอกาสเสยี ชวี ติ มากข้นึ
374 วชิ าป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั หมวกนิรภยั การสวมหมวกนริ ภยั ทไ่ี ดม้ าตรฐานอยา่ งถกู วธิ จี ะชว่ ยปอ้ งกนั การบาดเจบ็ รนุ แรง ที่ศรี ษะได้ถงึ ร้อยละ 70 และป้องกนั การเสียชวี ิตได้ถงึ ร้อยละ 40 การเลอื กใชห้ มวกนริ ภัย - ใช้หมวกนิรภัยแบบเต็มใบท่ีมีขนาดพอดีกับศีรษะ มีเคร่ืองหมายรับรอง มาตรฐานอตุ สาหกรรม (มอก.) กำ� กบั ไมใ่ ชห้ มวกนริ ภยั ทมี่ ขี นาดใหญก่ วา่ ศรี ษะ เพราะหาก ประสบอบุ ตั เิ หตุ หมวกจะหลดุ ออกจากศีรษะได้ - เลือกใช้หมวกท่ีมีสีสันสดใสหรือสีสว่าง จะช่วยให้สังเกตเห็นอย่างชัดเจน ในระยะไกล - ห้ามน�ำหมวกท่ีเคยประสบอุบัติเหตุหรือถูกกระแทกอย่างรุนแรงมาใช้งาน และเปล่ียนหมวกนิรภัยใบใหม่ ทุก ๆ 5 ปี หรือเมื่อตรวจพบว่าหมวกอยู่ในสภาพช�ำรุด และหมดอายกุ ารใช้งาน การสวมหมวกนริ ภัยอย่างถกู วธิ ี - สวมหมวกนริ ภัยตรง ๆ บนศรี ษะ ไม่เอียงไปทางใดทางหนง่ึ ปรับสายรัดคาง ให้กระชับใต้คาง สายรัดข้างไม่บิดหรือหย่อน และมีความแน่นหนาเพียงพอที่หมวก จะไม่หลุดออกจากศรี ษะหรอื เลอ่ื นเปลี่ยนต�ำแหน่งได้ง่าย วิธดี แู ลหมวกนิรภัย - ระวังอย่าให้หมวกนิรภัยกระแทกพ้ืนหรือของแข็งอย่างรุนแรง เพราะโฟม จะยบุ ตัวและเกดิ รอยร้าว ท�ำให้ประสทิ ธิภาพในการรองรบั แรงกระแทกลดลง - ไมเ่ กบ็ หมวกนริ ภยั ไวใ้ นบรเิ วณใกลแ้ หลง่ ความรอ้ นหรอื กลางแจง้ เปน็ เวลานาน ห้ามนำ� ทินเนอร์ เบนซิน นำ้� ยาเคลอื บสีรถยนต์มาเช็ดท�ำความสะอาดหมวกนริ ภยั เพราะ อาจทำ� ให้โฟมด้านในละลาย ส่งผลให้หมวกนริ ภยั เสื่อมสภาพเร็วขน้ึ ไมว่ า่ จะเดนิ ทางเปน็ ระยะทางใกลห้ รอื ไกล ทกุ ครง้ั ทข่ี บั ขแ่ี ละโดยสารยานพาหนะ ต้องใช้อปุ กรณ์นริ ภัยให้ถกู ต้อง เหมาะสมและถกู วธิ เี สมอ
7. ความพร้อมของสภาพรถ ตรวจรถให้พร้อมก่อนเดินทาง... หา่ งไกลอบุ ัติเหตุ ก่อนออกเดินทางและหลังกลับจากการเดินทางไกลผู้ขับขี่ควรตรวจสอบรถ ให้อยู่ในสภาพปลอดภยั และพร้อมใช้งานอยู่เสมอ โดยปฏิบตั ิ ดงั นี้ ยางรถยนต์ ตรวจสอบสภาพยาง โดย สังเกตหน้ายางมิให้มีรอยแตก รอยปริ หรือรอย ปูดบวม ดอกยางไม่สึกหรอ ร่องยางลึก พร้อมท้ัง เติมแรงดนั ลมยางให้อยู่ในระดบั ที่ก�ำหนด เคร่ืองยนต์ ตรวจสอบน้�ำมันคลัทช์ น�้ำมันเคร่ืองน้�ำมันเบรก น�้ำมันเกียร์ให้ห้อยในระดับ ที่ก�ำหนด ไม่รั่วไหลหรือลดระดับผิดสังเกต หากพบ สงิ่ ผดิ ปกตภิ ายในหอ้ งเครอื่ ง เชน่ ระดบั นำ�้ หลอ่ เยน็ พรอ่ ง สายพานสกึ หรออยา่ งหมอ้ นำ้� แตก หมอ้ นำ�้ รว่ั เปน็ ตน้ ให้น�ำรถไปตรวจสอบหาสาเหตุและซ่อมแซมในทันที จะช่วยป้องกันอุบัติเหตุร้ายแรงที่เกิดจากความไม่ วิชาป้อง ักนและบรรเทาสาธารณภัย 375 สมบรู ณ์ของสภาพเครอ่ื งยนต์ แบตเตอร่ี ตรวจสอบระดบั น�้ำในหมอ้ นำ�้ แบตเตอร่ี หากน้�ำแห้งจะท�ำให้รถสตาร์ทไม่ติด ไม่เติมน้�ำมากเกินไป เพราะจะท�ำให้ ประสทิ ธภิ าพการทำ� งานของแบตเตอรล่ี ดลง ระบบเบรก ตรวจสอบระดบั นำ้� มนั เบรกและผา้ เบรกหากตรวจพบความผดิ ปกติ ของระบบเบรก เช่น เหยยี บแป้นเบรกไม่ลง มีเสยี งดังขณะหยดุ รถ เบรกรถแล้วรถไม่หยดุ ในระยะท่กี �ำหนดหรอื เสียการทรงตวั เป็นต้น ให้น�ำรถไปเปลย่ี นผ้าเบรกใหม่ ระบบสัญญาณไฟ ตรวจสอบสัญญาณไฟให้แสงไฟส่องสว่างทุกดวง หาก หลอดไฟขาด หรือสัญญาณไฟช�ำรุด ให้เปล่ียนใหม่ พร้อมเช็ดท�ำความสะอาดโคมแก้ว ครอบสัญญาณไฟให้แสงไฟส่องสว่างได้มากข้ึน ระบบปดั นำ�้ ฝน หากตรวจพบเนอื้ ยางใบปดั นำ้� ฝนแขง็ แหง้ กรอบหรอื หลดุ รอ่ น และเม่อื เปิดใช้งานแล้ว กวาดนำ้� ฝนไม่สะอาด กระจกมีรอยขุ่นมัวหรอื เป็นเส้น ให้เปล่ียน ใบปัดน�้ำฝนใหม่
376 วชิ าป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั อุปกรณ์ฉีดกระจก ถังน�้ำฉีดกระจกไม่มีรอยร่ัวซึม สายยางน้�ำฉีดกระจก ไม่มีรอยฉีกขาด หัวฉีดน้�ำไม่อุดตันและตรวจสอบระดับน�้ำในถังน้�ำฉีดกระจก มิให้ น�้ำพร่องพร้อมเติมน�้ำยาเช็ดกระจกหรือแชมพูสระผมลงในน้�ำฉีดกระจก จะช่วยขจัดคราบ สกปรกได้ดีข้นึ 8. พกอุปกรณฉ์ ุกเฉินติดรถ...เพมิ่ ความปลอดภยั ในการเดินทาง อุปกรณ์ฉุกเฉินประจ�ำรถ เป็นเครื่องมือส�ำคัญท่ีช่วยแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า กรณรี ถเสีย เจ้าของรถควรจดั เตรยี มอปุ กรณ์ฉุกเฉนิ ไว้ประจ�ำรถ ดังน้ี แม่แรง ประแจขันล้อ และยางอะไหล่ ใช้ส�ำหรับเปล่ียนยางรถยนต์ ซ่ึงเจ้าของรถควรตรวจสอบยางอะไหล่ให้อยู่ใน สภาพพร้อมใช้งานอยู่เสมอ สายพว่ งแบตเตอรร่ี ถยนต์ ใชส้ ำ� หรบั กรณแี บตเตอรเี่ สอื่ มสภาพ ดว้ ยการตอ่ พว่ ง ขั้วแบตเตอรก่ี ับรถคนั อน่ื ให้ข้วั บวกต่อกับข้ัวบวก และขว้ั ลบต่อกบั ขว้ั ลบ ถังดับเพลงิ ขนาดเลก็ ใช้กรณเี กิดเพลิงไหม้รถที่ไม่รุ่นแรง โดยยึดตดิ ให้แน่นไว้ ในตำ� แหนง่ ทห่ี ยบิ ใชง้ านไดส้ ะดวก ไมว่ างไวใ้ ตเ้ บาะทน่ี งั่ คนขบั เพราะอาจกลง้ิ ไปตดิ แปน้ เบรก และคันเร่ง ก่อให้เกดิ อบุ ัตเิ หตไุ ด้ ไฟเตือนระวังสามเหล่ียมสะท้อนแสง ใช้ส�ำหรับกรณีรถยนต์ขัดข้อง และต้อง จอดริมข้างทาง ในช่วงกลางคืน ในการใช้งานให้วางไว้ในต�ำแหน่งท่ีผู้ใช้เส้นทางรายอื่น มองเหน็ ไดอ้ ยา่ งชดั เจนในระยะไกล จะไดเ้ พม่ิ ความระมดั ระวงั และเปลยี่ นชอ่ งทางรถไดท้ นั ชุดอปุ กรณ์ลาก พ่วง จูง เช่น เชอื ก ลวดสลิง เป็นต้น ส�ำหรับใช้ลากจูงกรณี รถเสยี หรือประสบอบุ ัตเิ หตุ โดยให้ผูกไว้กบั ส่วนทแ่ี ข็งแรงทส่ี ุดของโครงสร้างรถ
นอกจากน้ี ผู้ขบั ขค่ี วรนำ� ไฟฉาย และชดุ ปฐมพยาบาลเบ้อื งต้นตดิ รถไว้ รวมถงึ วิชาป้อง ักนและบรรเทาสาธารณภัย 377 ตรวจสอบอปุ กรณฉ์ กุ เฉนิ ประจำ� รถใหอ้ ยใู่ นสภาพพรอ้ มใชง้ าน และศกึ ษาวธิ ใี ชง้ านอปุ กรณ์ ฉุกเฉินแต่ละชนิดจะได้สามารถน�ำมาใช้งานและแก้ไขสถานการณ์ กรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน ในเบือ้ งต้น 9. ติดต้ัง - ดแู ลรถใช้กา๊ ซถูกวธิ ีลดเสีย่ งถังระเบดิ เพลิงไหม้รถ แม้ก๊าซ LPG และ NGV จะเป็นอีกทางเลือกหน่ึงของผู้ใช้รถในยุคนำ�้ มันแพง แต่ก็มีความเส่ียงที่จะเกิดอันตรายได้จากการติดตั้งและดูแลรถใช้ก๊าซไม่ถูกวิธี เพ่ือความ ปลอดภัยขอแนะวธิ ตี ิดตั้ง ดแู ลและใช้รถระบบก๊าซ ดงั น้ี การตดิ ตงั้ ระบบก๊าซในรถยนต์ ตดิ ตง้ั กา๊ ซกบั สถานบรกิ ารทไี่ ดม้ าตรฐาน มวี ศิ วกรควบคมุ การตดิ ตงั้ ไมต่ ดิ ตง้ั แกไ้ ข ดดั แปลงอปุ กรณท์ เ่ี กยี่ วกบั ระบบกา๊ ซดว้ ยตนเอง เลอื กใชอ้ ปุ กรณแ์ ละถงั กา๊ ซทเ่ี ปน็ ของใหม่ มีเคร่อื งหมายรบั รองมาตรฐานอตุ สาหกรรม และใช้ส�ำหรบั ติดต้งั ในรถยนต์เท่านัน้ การดแู ลและใช้รถก๊าซ - ตรวจสอบถังก๊าซให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ หม่ันใช้น�้ำสบู่ตรวจสอบรอยรั่วซึมของก๊าซตามข้อต่อ ตา่ ง ๆ หากพบรอยรว่ั ซมึ ใหน้ ำ� รถไปใหช้ า่ งผชู้ ำ� นาญการ ตรวจสอบแก้ไข - เติมก๊าซจากศูนย์บริการที่ได้มาตรฐาน ไม่เติมก๊าซเกินแรงดันและความจุของถังก๊าซ เพราะ จะท�ำให้ถังก๊าซเสอ่ื มสภาพและเสย่ี งต่อการระเบิด
378 วชิ าป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั - จอดรถในบริเวณที่อากาศถ่ายเทสะดวก หากจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานาน ให้ปิดวาล์วท่ีถังก๊าซ เพื่อป้องกันระบบวาล์วไฟฟ้าท�ำงานบกพร่อง ท�ำให้เกิดการระเบิด หรอื เพลิงไหม้ การปฏิบัตกิ รณเี กิดเหตฉุ ุกเฉนิ - กรณีก๊าซร่วั ไหล ให้รีบออกห่างจากรถ และห้ามกระท�ำการใด ๆ ท่ที �ำให้เกิด ประกายไฟในบรเิ วณที่เกิดเหตเุ พราะจะท�ำให้เกดิ การระเบดิ และเพลิงไหม้รถได้ - กรณีเกิดอุบัติเหตุ ให้น�ำรถจอดริมข้างทาง ดับเคร่ืองยนต์พร้อมดึงกุญแจ รถออก ปิดวาล์วท่หี วั ถังก๊าซ พร้อมโทรแจ้งหน่วยฉกุ เฉิน - กรณเี พลงิ ไหมร้ ถ โทรแจง้ หนว่ ยฉกุ เฉนิ หากเพลงิ ไหมเ้ ลก็ นอ้ ยใหใ้ ชถ้ งั ดบั เพลงิ ฉดี พ่นบริเวณต้นเพลงิ หากเพลงิ ลกุ ลามอย่างรวดเร็วให้ออกห่างจากรถโดยเร็วท่สี ดุ - หลังประสบอุบัติเหตุ ผู้ขับข่ีควรเปล่ียนไปใช้ระบบน�้ำมัน และรีบน�ำรถไป ตรวจสอบระบบกา๊ ซกบั สถานบรกิ าร เนอ่ื งจากถงั กา๊ ซอาจไดร้ บั การกระทบกระเทอื นจนกา๊ ซ เกดิ การร่วั ไหลและเพลงิ ไหม้รถได้
10. แนะเทคนิคขับรถ ผา่ นเส้นทางเสย่ี งอุบัตเิ หตุ วิชาป้อง ักนและบรรเทาสาธารณภัย 379 สภาพถนนถือเป็นปัจจัยส�ำคัญท่ีส่งผลต่อความปลอดภัยในการเดินทาง โดย เฉพาะการขับผ่านเส้นทางที่ไม่ปลอดภัยจะเพ่ิมความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนน เพื่อความปลอดภยั ขอแนะวิธขี ับรถผ่านเส้นทางเส่ยี งอย่างปลอดภยั ดงั น้ี ถนนเปียกล่นื ลดความเร็วให้อยู่ในระดับท่ีสามารถควบคุม รถได้ เว้นระยะห่างจากรถคนั อื่นให้มากกว่าปกติ ค่อย ๆ เหยยี บเบรกเพอื่ หยดุ รถหา้ มเหยยี บเบรกกะทนั หนั จะทำ� ให้ ล้อล็อกส่งผลให้รถเสยี หลักพลกิ คว่�ำได้ ถนนชำ� รุด เปน็ หลุมบอ่ ยึดพวงมาลัยให้มั่น หากจะหยุดรถให้แตะ เบรกเบา ๆ เพอ่ื ชะลอความเรว็ รถ จะช่วยให้ลดแรง สะบัดของพวงมาลัยและตัวรถที่ท�ำให้รถเสียหลัก ส่งผลให้รถทรงตวั ได้ดขี ้นึ เสน้ ทางท่กี �ำลงั ก่อสรา้ งหรอื อยรู่ ะหว่างการปรบั ปรงุ ปฏิบัติตามป้ายเตือนและลูกศรบอกทางอย่าง เครง่ ครดั เวน้ ระยะหา่ งใหเ้ หมาะสมและเผอื่ ระยะการเบยี่ งลำ้� ของช่องทาง เพื่อหลีกเล่ียงการเบี่ยงหลบในระยะกระช้ันชิด รวมถึงระมัดระวังเศษวัสดุก่อสร้างหรือแผงก้ันจราจรท่ีอาจ กีดขวางเส้นทางเดินรถ จะช่วยป้องกันการเฉ่ียวชนท�ำให้ เกดิ อบุ ตั ิเหตรุ ้ายแรงได้ ทางแยกท่ีไมม่ สี ัญญาณไฟ ชะลอความเรว็ มองดา้ นซา้ ยและขวาอยา่ งรอบคอบ จนแนใ่ จวา่ ไมม่ รี ถวงิ่ ผา่ นคอ่ ยขบั รถผา่ นทางแยก หา้ มเปดิ ไฟ ฉุกเฉินเพราะจะท�ำให้ผู้ขับรถคันอื่นมองเห็นไฟกะพริบ เพยี งดา้ นเดยี ว จนเกดิ ความเขา้ ใจผดิ คดิ วา่ รถกำ� ลงั จะเลยี้ ว ก่อให้เกดิ อุบตั ิเหตไุ ด้
380 วชิ าป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั ทางโคง้ ชะลอความเรว็ เมอื่ ขบั เขา้ โคง้ และเรง่ เครอ่ื ง เม่ือขับพ้นโค้งไม่ขับล้�ำเข้าไปในช่องทางอ่ืน ประเมิน สภาพเสน้ ทาง มองใหไ้ กลและลกึ หากไมม่ รี ถวงิ่ สวนทาง มาใหใ้ ชว้ ธิ ตี ดั โคง้ จะชว่ ยใหร้ ถทรงตวั ไดด้ ี หากเปน็ โคง้ หักศอกให้บีบแตรในเวลากลางวัน หรือกะพริบไฟสูง ในเวลากลางคืน เพ่ือส่งสัญญาณเตือน และป้องกัน รถวง่ิ ตดั โค้งสวนทางมา ถนนสายรอง ไม่เปลี่ยนช่องทางกะทันหันขณะแซงรถ ควรเพ่ิมความระมัดระวังรถท่ีว่ิงสวนทางมา เพราะอาจเกดิ อบุ ตั เิ หตใุ นลกั ษณะชนประสานงา การขบั รถในชว่ งกลางคนื ใหเ้ ปดิ ใช้ไฟสงู เปน็ ระยะ หากรถวิ่งสวนทางมาให้เปล่ียนเป็นไฟต่�ำทันที ระมัดระวังรถท่ีสัญญาณไฟช�ำรุด ไม่ขับรถบนไหล่ทางหรือแซงในช่องทางด้านซ้าย เพราะ อาจมีรถจักรยานยนต์ว่ิงสวนทางหรือรถจอดริมข้างทางโดยไม่ให้สัญญาณไฟ ตลอดจน ระมัดระวงั สัตว์เล้ยี งทอ่ี ยู่บรเิ วณรมิ ข้างทาง จุดตัดทางรถไฟ หากสังเกตเห็นป้ายเตือนจุดตัดข้ามทางรถไฟ ให้ผู้ขับรถชะลอความเร็วลง หยุดรถให้ห่างจากทางรถไฟ ไมต่ ำ่� กวา่ 5 เมตรมองทางดา้ นซา้ ยและขวาอยา่ งระมดั ระวงั จนแน่ใจว่าไม่มีขบวนรถไฟวิ่งผ่านเส้นทางข้างหน้า จึงจะ สามารถขับรถผ่านไปได้ ห้ามขับรถตัดหน้าขบวนรถไฟ เพราะอาจเร่งความเรว็ ไม่ทนั ท�ำให้ถกู รถไฟชนได้
ถนนที่มีเลนสวน ไหลท่ างแคบ ไม่มีไหลท่ าง วิชาป้อง ักนและบรรเทาสาธารณภัย 381 เว้นระยะห่างจากรถคันหน้าให้เหมาะสม หากขับช้าควรขับรถชิดช่องทาง ด้านซ้ายเพ่ือให้รถที่ขับเร็วกว่ามีช่องทาง เพียงพอในการขับแซง ก่อนแซง ควรมอง อยา่ งรอบคอบใหแ้ นใ่ จวา่ ไมม่ รี ถสวนทางมา ห้ามขับรถแซงบริเวณทางโค้งหรือในระยะ กระชน้ั ชดิ อยา่ งเดด็ ขาดเพราะอาจชนประสาน งากบั รถทข่ี ับสวนทางมา จุดกลับรถ หยุดรอรถและกลับรถในจุดท่ีก�ำหนด เท่านน้ั ไม่เล่อื นรถไปกดี ขวางช่องทางจราจร และ ควรมองรถจนแน่ใจว่ารถท่ีว่ิงมาอยู่ในระยะไกล จึงสามารถกลับรถได้ พร้อมกะระยะทางและ เรง่ อตั ราความเรว็ ในการออกรถใหเ้ หมาะสม สำ� หรบั ผู้ที่ขับผ่านจุดกลับรถให้เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะอาจมีรถขับตัดหน้าเพ่ือ กลับรถทำ� ให้เกดิ อบุ ัติเหตุขน้ึ ได้ 11. แนะเทคนิคขับรถ ผา่ นเสน้ ทางท่ีทัศนวิสัยไม่ดี ทศั นวสิ ยั ในการมองเหน็ เสน้ ทางเปน็ ปจั จยั ทส่ี ง่ ผลตอ่ การเกดิ อบุ ตั เิ หตทุ างถนน หากทัศนวิสัยไม่ดีจะเป็นอุปสรรคต่อการขับข่ี เพ่ือความปลอดภัย ขอแนะวิธีขับรถผ่าน เส้นทางท่มี ที ศั นวสิ ัยไม่ดี ดงั นี้ ช่วงกลางคนื - ใช้สญั ญาณไฟให้เหมาะสมกบั สภาพเส้นทาง หากขบั ผ่านเส้นทางที่มืดมาก ใหเ้ ปดิ ไฟสงู เปน็ ระยะ และเปลย่ี นมาใชไ้ ฟต�่ำหรอื ไฟปกตเิ มอื่ มรี ถวงิ่ สวนทางมา เพอ่ื ปอ้ งกนั ผู้ขบั ขี่รายอ่นื สายตาพร่ามวั จนเป็นสาเหตใุ ห้เกดิ อบุ ตั เิ หตทุ างถนน - ใชค้ วามเรว็ ใหเ้ หมาะสมกบั สภาพเสน้ ทาง ขบั รถใหช้ า้ กวา่ ปกตหิ ากเกดิ เหตฉุ กุ เฉนิ จะได้แก้ไขสถานการณ์ได้ทนั กรณีเปล่ียนช่องทางควรให้สญั ญาณไฟล่วงหน้า
382 วชิ าป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั ช่วงฝนตกและหมอกปกคลุม - เพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่เป็นพิเศษ ลดความเร็วให้ต่�ำกว่าการขับข่ี ในช่วงปกติ โดยใช้ความเรว็ ให้อยู่ในระดบั ทสี่ ามารถควบคมุ รถได้ - เวน้ ระยะหา่ งจากรถคนั หนา้ ใหม้ ากกวา่ ปกติ ไมข่ บั ชดิ ทา้ ยรถคนั หนา้ มากเกนิ ไป ไมเ่ ปลยี่ นชอ่ งทางกะทนั หนั จะท�ำใหผ้ ทู้ ขี่ บั รถตามหลงั มาหยดุ รถไมท่ นั กอ่ ใหเ้ กดิ อบุ ตั เิ หตไุ ด้ - หากจะหยดุ รถให้ค่อย ๆ แตะเบรก ห้ามเหยียบเบรกจนล้อหยุดหมุนในทันที จะทำ� ให้ล้อลอ็ กจนเสียหลกั พลิกคว�่ำได้ - เปดิ ใชส้ ญั ญาณไฟหนา้ รถและไฟตดั หมอก จะไดม้ องเหน็ เสน้ ทางอยา่ งชดั เจน ไม่เปิดใช้ไฟกะพรบิ เพราะจะท�ำให้ผู้ขบั รถรายอ่นื เข้าใจผดิ คดิ ว่าเป็นรถจอดอยู่จงึ เปลย่ี น เส้นทางกะทนั หนั ก่อให้เกดิ อบุ ตั เิ หตุได้ - กรณมี ลี ะอองฝา้ เกาะกระจกรถ ใหล้ ดระดบั กระจกหนา้ ตา่ งลงหรอื เปดิ ปมุ่ ไลฝ่ า้ ทม่ี ีตะแกรงขดลวดความร้อน - หากทัศนวิสัยแย่มากจนไม่สามารถมองเห็นเส้นทางให้จอดรถพักในบริเวณ ทีป่ ลอดภยั รอจนทศั นวสิ ัยดีขน้ึ ค่อยขบั รถต่อ
12. เรยี นรูแ้ ก้เหตฉุ ุกเฉนิ ชว่ ยชีวิตรอด...ปลอดภัย วิชาป้อง ักนและบรรเทาสาธารณภัย 383 การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าจากเหตุฉุกเฉินอย่างถูกต้องเป็นส่ิงส�ำคัญท่ีจะช่วย ให้ผู้ประสบเหตุ เอาชวี ติ รอดได้อย่างปลอดภัย หากประสบอบุ ัตเิ หตุฉกุ เฉนิ ให้ปฏิบัติ ดังน้ี - ยางระเบดิ จบั พวงมาลยั ใหม้ น่ั คอ่ ย ๆ ถอนคันเร่ง เหยียบย้�ำเบรกเบา ๆ แบบถี่ ๆ ห้าม เหยยี บเบรก หกั พวงมาลยั หรอื ดงึ เบรกมอื กะทนั หนั เพราะอาจท�ำให้รถเสียหลักพลิกคว่�ำ ห้ามเหยียบ คลทั ช์จะท�ำให้รถบังคบั ยากขึน้ - เบรกแตก โดยเหยยี บยำ้� เบรกแรง ๆ แบบถ่ี ๆ และลึกกว่าปกติ จะทำ� ให้เบรกมีก�ำลังดีข้ึนลดความเร็วลง โดยใช้เบรกมือช่วย และดึงเบรกมอื ข้นึ ลงเป็นระยะ เพ่อื ป้องกนั ล้อล็อค ท�ำให้รถเสยี หลกั พลกิ คว�่ำได้ - คันเร่งค้าง ให้ใช้เบรกช่วยชะลอความเร็วโดยไม่ต้องใช้คลัทช์ พร้อมใช้ ปลายเท้างดั คันเร่งขึ้นมา ถ้างดั คันเร่งไม่ขึ้นให้พยายามนำ� รถเข้าจอดริมข้างทางในบริเวณ ทป่ี ลอดภยั จากนน้ั ให้ดบั เคร่อื งยนต์เพ่อื หยุดการท�ำงานของคันเร่ง - หม้อน�้ำแห้งหรือร่ัว รีบเปิดฝากระโปรงหน้ารถ เพื่อระบายความร้อนออก จากหอ้ งเครอ่ื งแลว้ รอจนกวา่ เครอ่ื งยนตจ์ ะเยน็ ตวั จงึ คอ่ ยเปดิ ฝาหมอ้ นำ้� ออกโดยใชผ้ า้ หนา ๆ หรอื สวมถงุ มอื หา้ มยน่ื หนา้ เขา้ ใกลห้ มอ้ นำ้� เพราะอาจโดนไอนำ�้ พงุ่ ใสห่ นา้ เตมิ นำ�้ ลงในหมอ้ นำ้� ทลี ะนอ้ ยหากหมอ้ นำ้� รว่ั ใหใ้ ชส้ บอู่ ดุ รอยรวั่ และเตมิ นำ้� ใหเ้ ตม็ หมอ้ นำ�้ แลว้ จงึ คอ่ ย ๆ ขบั รถไป ให้ช่างตรวจสอบแต่ต้องหยดุ พกั รถเป็นระยะเม่อื ความร้อนขนึ้ สูง
384 วชิ าป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั - กระจกรถแตก ชะลอความเร็ว และน�ำรถจอดริมข้างทางในบริเวณท่ีปลอดภัย หากยังมเี ศษกระจกหลงเหลอื ให้ใช้ผ้า ค้อน ไม้ หรอื แทง่ เหลก็ ทบุ ทก่ี ระจกดา้ นนอกใหก้ ระจกทร่ี า้ ว ตกลงบนแผ่นรอง แต่ต้องระวังมิให้เศษกระจก กระเด็นเข้าตา หากกระจกหน้ารถแตกทั้งบาน ให้ปิดกระจกด้านข้างทุกบาน เพื่อมิให้ลมปะทะเข้ามาภายในรถจะช่วยให้รถทรงตัวดีขึ้น แต่หากกระจกด้านข้างแตก ให้น�ำกระจกหน้าต่างลงเพื่อลดแรงส่ันสะเทือนท่ีท�ำให้กระจก แตกเพ่ิมข้นึ - รถพงุ่ เขา้ มาในชอ่ งทาง ลดความเรว็ ลง สง่ สญั ญาณเตอื นรถทวี่ ง่ิ สวนทางเขา้ มาดว้ ยการ บีบแตร และกะพริบไฟสูง พร้อมขับรถชิดขอบ ทางด้านซ้าย เพ่ือให้รถที่ขับสวนทางมาขับผ่าน ไปก่อน ห้ามหักหลบไปทางขวาหรือในช่องทาง ที่มีรถว่ิงสวนทางมา - สง่ิ ของกดี ขวางเสน้ ทาง ชะลอความเรว็ พยายามหกั หลบสง่ิ ของทหี่ ลน่ กดี ขวาง เส้นทางแต่ต้องระวังรถที่ว่ิงสวนทางหรือวิ่งตามมาในระยะกระช้ันชิด หากหักหลบไม่ทัน ให้ขับคร่อมสิ่งของ และระวังอย่าให้ล้อรถทับส่ิงของโดยตรงเพราะจะท�ำให้ยางระเบิดได้ เมื่อขับผ่านไปแล้วให้น�ำรถจอดในบริเวณท่ีปลอดภัย เพ่ือตรวจสอบความเสียหายของ ใต้ท้องรถ
- สัตว์วิ่งตดั หน้ารถ วิชาป้อง ักนและบรรเทาสาธารณภัย 385 สุนัข ไม่บีบแตรรถ เพราะเม่ือ สุนัขตกใจและวิ่งตัดหน้ารถ ออกห่างจากสัตว์ เล็กน้อยแต่ต้องระวังถูกรถคันอ่ืนเฉี่ยวชนหรือ ชนทา้ ย หากสนุ ขั วงิ่ ตดั หนา้ รถในระยะกระชน้ั ชดิ ใหต้ ดั สนิ ใจชน หา้ มหกั พวงมาลยั หลบไปทางซา้ ย เพราะอาจท�ำให้รถเสียหลักพุ่งลงข้างทางหรือ ชนกบั ต้นไม้และเสาไฟฟ้า - สัตว์ใหญ่ อาทิ ช้าง ววั หรือควาย ต้องเพ่ิมความระมดั ระวังเป็นพเิ ศษ ห้ามบีบแตร ไลเ่ พราะจะทำ� ใหส้ ตั วต์ นื่ ตกใจและเขา้ มาทำ� รา้ ย ควรชะลอความเร็วและหยุดรถ รอจนกว่าสัตว์ จะเดินผ่านเส้นทาง จงึ ค่อยขบั รถต่อ - รถจมนำ้� กรณรี ถตกนำ้� นำ้� จะยงั ไมเ่ ขา้ หอ้ ง โดยสารในทันที แต่จะค่อย ๆ จมทีละนิด ผู้ขับข่ี ควรตั้งสติ ปลดเข็มขัดนิรภัย ปลดล็อกประตูรถ ทุกบานทันที พร้อมเปิดกระจกให้น�้ำไหลเข้ารถ เพื่อปรับความดันภายในรถและนอกรถให้เท่ากัน จะช่วยให้เปิดประตูรถได้ง่ายข้ึน จากน้ันให้รีบ ออกจากรถพร้อมดีดตัวข้ึนเหนือน้�ำทันที หาก ไม่สามารถเปิดกระจกรถได้ ให้ใช้ค้อนหรอื ของแขง็ ทุบกระจกรถด้านข้าง ไม่ควรทุบกระจกด้านหน้า หรอื ดา้ นหลงั เพราะเปน็ กระจกนริ ภยั จะแตกยากกวา่ - กรณีรถจมน้�ำทั้งคัน ไม่ควรเปิดประตูรถและไขกระจกรถในทันที เพราะ กระแสน้�ำจะไหลเข้ามากระแทกท�ำให้ได้รับบาดเจ็บจนสลบได้ควรลอยตัวและยกศีรษะ ข้นึ เหนือน้ำ� รอจนแรงดนั น�้ำภายในรถเท่ากบั ภายนอกรถจงึ ค่อยเปิดประตรู ถออก จากนนั้ ให้รีบดดี ตัวขน้ึ เหนือน�้ำ
386 วชิ าป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั 13. รหู้ ลกั ช่วยชวี ติ ...พาผ้ปู ระสบเหตุพน้ นาทวี กิ ฤต การช่วยเหลอื ผปู้ ระสบอบุ ตั เิ หตอุ ยา่ งไมถ่ กู วธิ ี นอกจากจะส่งผลใหผ้ ้ปู ระสบเหตุ ไดร้ บั บาดเจบ็ รนุ แรงถงึ ขน้ั เสยี ชวี ติ แลว้ ยงั ทำ� ใหผ้ เู้ ขา้ ไปชว่ ยเหลอื กลายเปน็ ผปู้ ระสบเหตเุ สยี เอง เพื่อความปลอดภยั ขอแนะ วิธชี ่วยเหลือผู้ประสบอบุ ัตเิ หตุในเบ้ืองต้นอย่างปลอดภัย ดังนี้ ขนั้ ตอนท่ี 1 เปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินของรถคันท่ีประสบเหตุน�ำก่ิงไม้หรือกรวย ยางสสี ะทอ้ นแสง มาวางหา่ งจากจดุ ทเี่ กดิ เหตไุ มต่ ำ�่ กวา่ 30 เมตร เพอ่ื เตอื นใหผ้ ขู้ บั รถคนั อนื่ เพมิ่ ความระมดั ระวังตรวจสอบสภาพแวดล้อมและการจราจรโดยรอบท่ีเกดิ เหตุ หากอยู่ใน สภาพปลอดภัย จึงค่อยเข้าช่วยเหลือพร้อมโทรแจ้งต�ำรวจและสถานพยาบาลให้จัดส่ง เจ้าหน้าท่มี าช่วยเหลอื ผู้ประสบอุบัติเหตุ ขัน้ ตอนท่ี 2 ส�ำรวจจ�ำนวนและประเมินอาการของผู้ประสบเหตุในเบ้ืองต้น รีบปฐมพยาบาลผู้ประสบเหตุที่หมดสติ โดยเฉพาะผู้ที่หยุดหายใจ หัวใจหยุดเต้น และ เสียเลอื ดมากเป็นล�ำดับแรก - ภาวะหยุดหายใจและหัวใจหยุดหายใจ ท�ำการปั๊มหัวใจโดยให้ผู้ประสบเหตุ นอนบนพน้ื ราบ ใชม้ อื กดบรเิ วณกลางหนา้ อกสลบั กบั การเปา่ ปากหรอื ใชว้ ธิ กี ดหนา้ อกใหย้ บุ ประมาณ 1.5 - 2 นว้ิ อย่างแรงและเรว็ ประมาณ 100 ครง้ั ต่อนาที โดยทำ� ติดต่อกนั จนกว่า ผู้ประสบเหตุจะสามารถหายใจได้เอง อย่ากดแรงเกินไป จะทำ� ให้ผู้ประสบเหตุซ่ีโครงหัก ก่อให้เกิดอนั ตรายมากขึ้น - มีบาดแผลเลือดออกมาก ท�ำการห้ามเลือดโดยยกอวัยวะส่วนที่เลือดออก ให้สูงข้ึน จะช่วยให้เลือดไหลช้าลง พร้อมน�ำผ้าสะอาดมากดบริเวณบาดแผล หรือ ใช้วธิ ขี นั ชะเนาะ โดยนำ� ผ้าหรอื สายยางมารดั บรเิ วณเหนอื บาดแผล จะช่วยมิให้ผู้บาดเจบ็ เสยี เลือดมากจนชอ็ กหมดสติ - กระดูกหกั ห้ามเคลอื่ นย้ายผู้ประสบเหตหุ รอื ดงึ กระดกู กลับเข้าท่ี ให้ท�ำการ เข้าเฝือกชั่วคราว โดยใช้กิ่งไม้ขนาบทั้งสองข้างของอวัยวะส่วนที่หัก แล้วใช้ผ้าหรือเชือก มัดให้แน่นเพื่อมิให้กระดูกส่วนท่ีหักเคล่ือนไหว จะช่วยลดอาการบาดเจ็บและป้องกัน มิให้ผู้ประสบเหตพุ กิ าร
- อวยั วะฉกี ขาด ใชผ้ า้ สะอาดปดิ บรเิ วณบาดแผล และพนั รดั หา้ มเลอื ด จากนนั้ วิชาป้อง ักนและบรรเทาสาธารณภัย 387 ให้น�ำอวัยวะส่วนท่ีฉีกขาดใส่ถุงพลาสติกสะอาดพร้อมปิดปากถุงให้แน่น แล้วน�ำถุงไป แช่น้�ำแขง็ ขั้นตอนที่ 3 หลังจากปฐมพยาบาลผู้ประสบเหตุในเบื้องต้นแล้วให้รีบน�ำส่ง สถานพยาบาลท่ีใกล้ท่ีสุด พร้อมแจ้งอาการและการปฐมพยาบาลในเบ้ืองต้นให้เจ้าหน้าท่ี ทราบจะได้ทำ� การรักษาได้อย่างถกู ต้อง ข้อควรระวงั ในการช่วยเหลอื ผู้ประสบอบุ ตั ิเหตุ - กรณเี สาไฟฟา้ ลม้ ทบั รถ หรอื สายไฟฟา้ ขาดพาดรถหา้ มเขา้ ใกลอ้ ยา่ งเดด็ ขาด เพราะอาจถกู ไฟฟา้ ดดู เสยี ชวี ติ ใหแ้ จง้ เจา้ หนา้ ทก่ี ารไฟฟา้ ตดั กระแสไฟฟา้ บรเิ วณทเ่ี กดิ เหตุ ก่อน จึงสามารถเข้าช่วยเหลอื ผู้ประสบภยั ได้ - หากมีน้�ำมันร่ัวไหล หรือได้กล่ินก๊าซ ให้รีบดับเคร่ืองยนต์และออกห่างจาก จุดทเ่ี กิดเหตุ รวมถึงห้ามกระทำ� การใด ๆ ทที่ �ำให้เกิดประกายไฟ เช่น สตาร์ตเคร่อื งยนต์ สูบบหุ ร่ี เป็นต้น เพราะจะทำ� ให้เกดิ เพลงิ ไหม้ได้
Search
Read the Text Version
- 1 - 44
Pages: