Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิชา เหล่าทหารม้า ปี5

วิชา เหล่าทหารม้า ปี5

Published by military2 student, 2022-05-20 02:41:09

Description: วิชา เหล่าทหารม้า ปี5

Search

Read the Text Version

๓-๘ ๖. ให้การคุ้มครองรถถงั ขณะดาเนนิ กลยทุ ธ์ ๗. กวาดลา้ ง และชว่ ยเหลือในการเสรมิ ความมนั่ คง ณ ที่หมาย ส่วนมาตรการควบคุมท่ีใช้ในการต้ังรับของ พัน.ม.(ก.) ได้แก่ แนวขอบหน้าที่ม่ัน, เส้นแบ่งเขต, จดุ ประสานเขต, ทม่ี ่นั สกดั ก้ัน และทีร่ วมพล

๓-๙ ตอนท่ี ๔ การปฏบิ ตั ิการของ กองร้อยชุดรบ และกองพันเฉพาะกจิ คือหน่วยทหารม้าท่ีมีการจัดเฉพาะกิจหรือผสมด้วยหน่วยประเภทอ่ืนๆ หน่วยขนาดเล็กที่สุด คือ “กองร้อยชุดรบ” ซึ่งเป็นการจัดหน่วยดาเนินกลยุทธ์ในระดับกองร้อยเป็นการชั่วคราว โดยจัดขึ้น เพื่อปฏบิ ัติการรบในกจิ เฉพาะอยา่ งใดอย่างหนึ่งโดยตอ้ งพจิ ารณาปัจจยั ภารกิจ ข้าศึก ภมู ปิ ระเทศ ลมฟ้าอากาศ กาลังท่ีมีอยู่ และเวลา รวมท้งั ขอ้ พจิ ารณาดา้ นพลเรือน ชุดรบนี้อาจจะประกอบกาลังระหว่าง รถถัง - ทหารม้า บรรทุกยานเกราะ หรือรถถงั - ทหารราบ ก็ได้ กองร้อยชุดรบ กองร้อยชุดรบเป็นการจัดรวมหน่วยต่างๆ ในทางยุทธวิธี ภายใต้การบังคับบัญชาของผู้บังคับกองร้อย คนเดียว ซ่ึงกองร้อยชุดรบจัดตั้งขึ้นเพื่อการปฏิบัติการหรือภารกิจใดภารกิจหนึ่งโดยเฉพาะ กองร้อยชุดรบ อาจจะประกอบด้วยกองร้อยเต็มอัตรา ๑ กองรอ้ ย และหน่วยรบนอกอัตรา ๑ หน่วย หรือมากกวา่ มาข้นึ สมทบ หรอื อาจประกอบด้วยกองร้อย ๑ กองรอ้ ย แต่มหี นว่ ยในอัตรา ๑ หรือ ๒ หน่วย หรอื มากกวา่ แยกไปสมทบกับ หนว่ ยอ่ืน แลว้ มีหนว่ ยรบนอกอตั รา ๑ หน่วย หรอื มากกว่ามาขึ้นสมทบ กองร้อยชุดรบ สามารถจัดกาลังได้ ๓ แบบ ได้แก่ กองร้อยชุดรบหนัก ถ., กองร้อยชุดรบหนัก ม.(ก.) และกองร้อยชุดรบแบบสมดุล โดยปกติกองร้อยชุดรบของทหารม้าจะประกอบด้วย ๑ ร้อย.ถ. กับ ๑ มว.ม. หรือ ๑ ร้อย.ม.(ก.) กับ ๑ มว.ถ. หรือมากกว่า ซ่ึงผ้ทู ่ีจะทาหน้าท่ี ผบ.ร้อย.ชุดรบ น้ันพิจารณาจากภารกิจและ การประกอบกาลัง โดยท่ัวไปถ้ากองร้อยชุดรบจดั กาลังประเภทใดเป็นหลักก็ให้ ผบ.หน่วยน้ันเป็น ผบ.ร้อย.ชุดรบ และในการเขา้ ตี ผบ.ร้อย.ชุดรบจะอยู่กับส่วนดาเนินกลยุทธ์เพ่ือควบคมุ การเคลื่อนที่ และคล่คี ลายสถานการณ์ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม กองร้อยชุดรบจะมีรูปขบวนมูลฐาน คือ รูปขบวนหน้ากระดาน และรูปขบวนแถวตอน โดยจัดกาลัง เป็น ๒ สว่ น คือ ส่วนดาเนินกลยุทธและสว่ นฐานยงิ การเข้าตีของกองรอ้ ยชุดรบมักจะกระทาใน ๓ ลกั ษณะ คอื ๑. ส่วนดาเนินกลยุทธ์เขา้ ตีบนเส้นหลักเดยี ว ๒. ส่วนดาเนินกลยุทธ์เข้าตีบนสองเส้นหลัก ซ่ึงสอบเขา้ หากัน ๓. รถถังของสว่ นดาเนนิ กลยุทธ์สนับสนนุ ดว้ ยการยงิ เพยี งอยา่ งเดียว ปกติแล้ว ผบ.ร้อย.ชุดรบ จะใช้หน่วยในการดาเนินกลยุทธ์ไม่ต่ากว่าระดับหมวด แต่หากภูมิประเทศ หรือสถานการณ์ไม่อานวยก็อาจจาเป็นต้องใช้กาลังกระจายต่ากว่าหมวดได้ และมักจะไม่กาหนดกองหนุน ท่ีแน่นอน แต่จะจัดรูปขบวนไว้ในทางลึกและใช้ความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซ่ึง หนว่ ยรถถงั ในกองร้อยชุดรบมีบทบาท ดงั น้ี ๑. ใช้อานาจการยิงทมี่ ีเกราะป้องกัน เพื่อช่วยให้ชดุ รบรุกเขา้ หาขา้ ศึกได้ ๒. ตดั รอนและทาลายอาวุธของขา้ ศึกด้วยการยงิ และการเคล่อื นที่ ๓. กวาดลา้ งเสน้ ทางเคลอ่ื นทขี่ องชุดรบ ๔. ตดั รอนทตี่ ง้ั ปอ้ มค่ายด้วยอาวุธเล็งตรง ๕. สนับสนนุ การยิงเลง็ ตรงให้กบั ชดุ รบ ๖. ให้การป้องกนั ต่อสู้รถถงั ๗. เมอื่ สภาพอานวยจะเคลือ่ นทนี่ าในการเขา้ ตี

๓ - ๑๐ กองพันทหารม้าเฉพาะกจิ ในหน่วยระดับสูงข้ึนมาจากกองร้อยชุดรบ คือ กองพันรบเฉพาะกิจซึ่งเป็นหน่วยขนาดกองพัน ทีส่ นธิกาลังกันระหว่างรถถังและทหารม้ายานเกราะเป็นการชั่วคราว โดยมีส่วนสนับสนุนการรบ และส่วนช่วยรบ ตามความจาเปน็ เพือ่ ให้สามารถปฏิบัติภารกิจอย่างใดอย่างหนง่ึ ให้เป็นผลสาเร็จได้ การประกอบกาลงั ของกอง พันรบเฉพาะกิจไม่มีกฎข้อบงั คับตายตัวท่ีจะกาหนดขนาดและการประกอบกาลัง การจัดกองพันรบเฉพาะกิจ ขึ้นอยู่กับปัจจัย METT-TC และปัจจัยอื่นๆ เช่นเดียวกับการจัดกองร้อยชุดรบ อาจมีการเปล่ียนแปลง การประกอบกาลังได้ขณะท่ีสถานการณ์เปล่ียนแปลงไป ดังนั้นเม่ือได้จัดกาลังเพื่อปฏิบัติการแล้วในระหว่าง การปฏิบัติ ผบ.หน่วยอาจจะเปล่ียนแปลงการจัดหน่วยข้ึนใหม่ก็ได้ การเรียกนามหน่วยก็ขึ้นอยู่กับหน่วยหลัก ที่นามาประกอบกาลัง ถ้ามีกองพันทหารม้า(รถถัง) เป็นหลัก เรียกว่า กองพันทหารม้า (รถถัง) เฉพาะกิจ (พัน.ม.(ถ.) ฉก.) ถ้ามีกองพันทหารม้า (บรรทุกยานเกราะ) เป็นหลัก เรียกว่า กองพันทหารม้า (บรรทุกยานเกราะ) เฉพาะกิจ (พนั .ม.(ก).ฉก.) ถา้ จดั กาลังเท่าๆ กนั แบบสมดุล อาจเรียกว่า กองพันทหารมา้ เฉพาะกจิ (พนั .ม.ฉก.) ในการเข้าตีนั้น พัน.ม.ฉก. จะกาหนดทิศทางเข้าตีให้กับหน่วยดาเนินกลยุทธ์ เม่ือทัศนวิสัยจากัด, ทาการเขา้ ตีเวลากลางคืน และทาการตีโตต้ อบ และจะกาหนดฐานออกตีให้กับหน่วยกองรอ้ ยชดุ รบ และหนว่ ย ขนาดหมวดเท่านั้น โดยปกติจะใช้ มว.ค.ปฏิบัติการภายใต้การควบคุมของกองพันโดยตรง เพ่ือใช้เป็นส่วนยิง สนับสนุนของกองพัน สาหรับ มว.ลว. จะใช้ในภารกิจลาดตระเวนและระวังป้องกันให้กับกองพันโดยเฉพาะ ในการระวงั ป้องกันปีก และจะใช้หน่วยทหารมา้ บรรทุกยานเกราะในการกวาดล้าง และเสริมความม่ันคง ณ ท่ีหมาย การเข้าตีโดยใช้ทหารม้ารถถังและทหารม้าบรรทุกยานเกราะเข้าตีบนเส้นหลักสองเส้นโดยโอบปีกเข้าหากัน จะให้ผลในการจู่โจมดีที่สุด แต่เมอ่ื ท่ีหมายไม่สามารถปฏิบัติได้กค็ วรใช้ทหารม้ารถถังและทหารม้าบรรทกุ ยานเกราะ เขา้ ตีบนเส้นหลักเดยี วกนั ไมว่ ่าจะใชว้ ิธีเข้าตีอย่างไรก็ควรจะเคล่ือนท่ีด้วยความเร็วสูงสุดเทา่ ท่ีภมู ิประเทศและ สถานการณ์ข้าศึกจะอานวยให้ และเม่ือยึดที่หมายได้แล้วต้องรีบดาเนินการเสริมความม่นั คงและจัดระเบียบใหม่ เพ่ือป้องกนั การตีโตต้ อบของข้าศึกและใหห้ นว่ ยอยู่ในสภาพพรอ้ มรบ การเข้าตีเวลากลางคนื มกั จะถกู นามาใช้เสมอในการรบด้วยวิธีรุก เมื่อปฏิบัติการในเวลากลางวันมีโอกาส ได้ผลสาเร็จน้อย หรือเมื่อกาลังสนับสนุนทางอากาศของฝ่ายเราจากัด หรือเพื่อรักษาความหนุนเนื่องในการเข้าตี ต่อจากเวลากลางวัน เพื่อกดดนั อย่างต่อเนื่องท้ังกลางวันและกลางคนื โดยมิให้ขา้ ศึกได้พักผ่อนหรือจัดระเบียบ ในการต้งั รบั ใหม่ และสร้างความสูญเสียอย่างหนักแก่ข้าศึก ถึงแม้การควบคุมการปฏบิ ัติในการเข้าตีเวลากลางคืน ทาไดย้ ากลาบาก แต่ความมืดจะช่วยฝ่ายเข้าตีในการกาบังซ่อนพรางทาให้อตั ราการเสี่ยงต่าและความสูญเสยี น้อย การปฏิบัติก็คงเช่นเดยี วกับการปฏิบัติเข้าตใี นเวลากลางวนั แต่เทคนิคและการควบคมุ อาจเปลี่ยนแปลงไปบ้าง ท้ังนี้ความสาเร็จของการเข้าตีในเวลากลางคืนจะขึ้นอยู่กับการลาดตระเวนท่ีดี มีแผนท่ีสามารถปฏิบัติได้ง่าย มีมาตรการควบคุมที่ได้ผล มีการฝึกทาการรบในเวลากลางคืน และขีดความสามารถในการเฝ้าตรวจ ในเวลากลางคืนของข้าศึก ที่หมายในการเข้าตีเวลากลางคืนควรจะต้ืนหรือจากัดความลึก เน่ืองจาก ความยากลาบากในการควบคุมการปฏิบัติ นอกจากนั้นขวัญและสภาพจิตใจของทหารจะมีผลต่อการปฏิบัติ ในเวลากลางคืนอย่างมาก ดังนั้นหน่วยปฏิบัติควรได้รับการฝึกการปฏิบัติเวลากลางคืนเป็นมาอย่างดี และ ขอ้ พิจารณาที่สาคัญที่สดุ คือ หน่วยจะต้องคุ้นเคยกับภูมิประเทศที่ก่อนจะเข้าตี เมื่อผู้บังคับหน่วยตกลงใจที่จะ ปฏิบัติการเข้าตีเวลากลางคืน ต้องรีบแจ้งให้หน่วยรองทราบเพ่ือให้มีเวลาลาดตระเวนและเตรียมการ โดยเฉพาะอย่างย่ิงต้องลาดตระเวนในรายละเอยี ดในเร่ืองเส้นทางการเคลื่อนท่ี ฐานออกตี ตาบลควบคุมตา่ งๆ จุดผ่านแนวออกตีหมวด ภาพถ่ายทางอากาศของพื้นท่ีที่จะเข้าตีต้องจัดหาและแจกจ่ายถึงหน่วยกองร้อย เป็นอย่างน้อย โดยการลาดตระเวนสามารถได้ข้อมูลเพ่ิมเติมมาจากการลาดตระเวนทางอากาศ หรือ หน่วยท่ีปะทะข้าศึกในแนวหน้า

๓ - ๑๑ การจู่โจมในการเขา้ ตีในเวลากลางคืนจะเกดิ ได้จากการรักษาความลับ ซึ่งควรจะกาหนดขนาดและเวลา ในการลาดตระเวน, ใช้การยิงของปืนใหญ่ และเคร่ืองยิงลูกระเบิดเพ่ือกลบเสียงของรถถังและรถสายพาน รวมท้ังเลือกเข้าตี ณ เวลาและทิศทางท่ีข้าศึกมิได้คาดหมายไว้ ส่วนมาตรการควบคุมก็คงปฏิบัติเช่นเดียว กับเวลากลางวันแต่การควบคุมจะมีมากข้ึน เช่น จุดเริ่มต้น – เส้นทาง – จุดแยกขบวนจากที่รวมพลถึง จุดผ่านแนวออกตี – ทิศทางเข้าตี – แนวแยกรูปขบวน – แนวจากดั การรุก – เครอ่ื งหมายหน่วยพเิ ศษ เป็นต้น และต้องมีการเตรียมแผนการส่องสว่างสนามรบไว้เสมอเพ่ือใช้ช่วยอานวยความสะดวกในการควบคุมและ ประสานการปฏิบัติของสว่ นเข้าตีให้สามารถทาการยิงเล็งตรงได้ผล การรื้อถอนทุ่นระเบดิ และส่งกลงั ผูบ้ าดเจ็บ ใหไ้ ดอ้ ย่างรวดเรว็ การยิงสนับสนุนในการเข้าตีเวลากลางคืนจะทาการยิงรบกวนก่อนเสมอ เพ่ือเป็นการพรางเสียง การเคลื่อนที่ของยานเกราะ และจะเร่ิมยิงเพื่อแบ่งแยกที่หมาย, ยิงป้องกันการตีโต้ตอบ การเข้าตีเวลากลางคืน มักจะเริ่มเมื่อใกลส้ ว่าง หากต้องการที่จะยดึ ที่หมายให้ได้ในเวลากลางวัน และหากต้องการให้ขา้ ศึกสับสนและ ตอ้ งการดาเนินกลยทุ ธ์ในเวลากลางคืน กจ็ ะเริ่มปฏิบตั จิ ากรอยตอ่ ของกลางวนั สู่กลางคืน ในการขยายผลก็จะปฏิบัติต่อไปเช่นเดียวกับการเข้าตี โดยโอกาสในการขยายผลย่อมมีสิ่งบอกเหตุ จากการท่ีฝ่ายเข้าตีสามารถจับเชลยศกึ ได้จานวนเพิ่มข้ึน, มีการละท้ิงยุทโธปกรณ์มากข้ึน, สามารถยึดปืนใหญ่ และทีต่ ้ังทางการบังคับบัญชา/ท่ีต้ังทางการสื่อสาร และที่ต้ังทางการส่งกาลังบารุง เม่อื มีสิง่ บอกเหตุดงั ที่ไดก้ ลา่ วมา ก็จะเปลี่ยนจากการเข้าตีมาเป็นการขยายผล โดยการขยายผลอาจเกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วนหรือค่อยเป็น ค่อยไป และในทกุ แผนการเขา้ ตีกจ็ า เปน็ ที่จะต้องเตรยี มแผนในการขยายผลเอาไวเ้ สมอ การขยายผลเหมาะที่จะใช้หน่วยท่ีมีอานาจการยิงและความคล่องแคล่วในการเคล่ือนท่ีเข้าขยายผล โดยการปฏิบัติจะเป็นแบบแยกการซ่ึงผู้นาทุกระดับสามารถใช้ความริเร่ิมให้เกิดประโยชน์มากท่ีสุด โดยใช้อาวุธ ทุกประเภทตามขีดความสามารถและหน่วยยิงสนับสนุนต้องเคลื่อนที่ไปกับกาลังที่ปฏิบัติการขยายผล ไปข้างหลังอย่างใกล้ชิด หน่วยขยายผลจะเคล่ือนที่ไปถึงที่หมายด้วยกาลังมากที่สุดและเร็วท่ีสุดโดยหน่วย ที่ทาการขยายผลปฏิบตั กิ ารผ่านช่องวา่ งหรอื ออ้ มปกี ของขา้ ศึก โดยธรรมดาจะได้รับมอบท่ีหมายในภมู ิประเทศ ทลี่ ึกเข้าไปในเขตหลังของข้าศึก เพื่อให้ข้าศึกเกิดความสับสนอลหม่านและเสียระเบียบ ผบ.หน่วยจะต้องมีเสรี ในการปฏบิ ัติมากกว่าโดยจะปฏิบัติแบบแยกการ ทาใหห้ น่วยขยายผลมีเสรีในการปฏิบัตมิ ากกว่า เมื่อเรมิ่ เข้าตี การขยายผลต้องการการตัดสินใจอย่างรวดเร็ว สามารถแปรและปรับรูปขบวนเข้าตีที่ปรับจากรูปขบวนเดิน ได้อย่างรวดเร็ว การบังคับบัญชาต้องปฏิบัติอย่างห้าวหาญ ใช้ความริเริ่ม ความชานาญด้านยุทธวิธี และ ต้องพร้อมเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ต้องมีการควบคุมอย่างเข้มงวดโดยขบวนเคลื่อนที่จะต้อง ให้อยู่ในความควบคุมตลอดเวลาเพ่ือให้สามารถปฏิบัติ การตอบโตไ้ ด้โดยทันทีและสามารถใช้กาลังได้อย่างดีที่สุด โดยเฉพาะอย่างย่งิ ตอ้ งมีการระวังป้องกนั ตนเองจากการเข้าตีโต้ตอบจากทางปีกและดา้ นหลัง โดยการใช้หนว่ ย ลาดตระเวนทั้งทางอากาศและทางพ้ืนดิน ส่วนระวังป้องกันท้ังหลายต้องมีความคล่องแคล่วในการเคล่ือนท่ี และมีอานาจการยิงเพียงพอที่จะทาลายข้าศึกในระดับหนึ่ง ส่วนกาบังของหน่วยขยายผลควรประกอบด้วย หน่วยรถถัง, หน่วยทหารม้าบรรทุกยานเกราะ และมีหน่วยสนับสนุนการรบ/การช่วยรบ อย่างเพียงพอ ท้ังน้ี การจดั กองระวังหน้าใหจ้ ัดจากหน่วยท่ีเป็นหน่วยนาและควรมีรถถังมาเพิม่ เติมกาลงั กองกระหนาบจะให้หน่วยต่างๆ รับผิดชอบในการจัดการระวังป้องกันปีกของตนเอง ส่วนกองระวังหลังจะเป็นหน่วยรถถังเพ่ิมเติมกาลังหรือ หน่วยทหารมา้ บรรทกุ ยานเกราะเพ่ิมเติมกาลงั ในการไลต่ ิดตามจะประสบผลสาเร็จ จาเป็นต้องมีการกดดันขา้ ศึกอย่างต่อเนื่องเพ่ือขัดขวางการปรับกาลัง และเตรยี มการสถาปนาการตั้งรับขึน้ ใหม่ ผ้บู ังคับบัญชาอาจยอมเสี่ยงทจ่ี ะใชก้ าลงั สว่ นใหญ่ของตนไลต่ ิดตาม

๓ - ๑๒ ในการตัง้ รับ กองพนั ทหารมา้ เฉพาะกิจจะมภี ารกิจขับไล่ และทาลายขา้ ศกึ ดว้ ยการยิง, การรบประชิด และการตีโต้ตอบ พัน.ม.ฉก. นั้นจะปฏิบัติการโดยอาจเป็นส่วนหนึ่งของกรมในการเป็นส่วนระวังป้องกัน, ส่วนต้ังรับหน้า, เป็นกองหนุน, หรอื ในบางโอกาสอาจปฏบิ ัตกิ ารอย่ภู ายใต้การควบคุมของกองพลโดยตรง เช่น การระวังป้องกันพื้นที่ส่วนหลัง แบบของการตั้งรับและการจัดพื้นท่ีในการตั้งรับก็เช่นเดียวกับการต้ังรับ ของหน่วยดาเนินกลยุทธ์อื่นๆ คือ การตัง้ รับแบบยึดพ้ืนท่ีและการตั้งรับแบบคล่องตัว โดยการต้ังรับแบบพ้ืนที่ กระทาเพ่ือยึดรักษาภูมิประเทศท่ีกาหนด, หยุดข้าศึกไว้ท่ีขอบหน้าท่ีม่ันรบ ถ้าข้าศึกเจาะแนวตั้งรับเข้ามาได้ จะต้องทาลายหรือขับไล่ด้วยการตีโต้ตอบ ส่วนการต้ังรับแบบคล่องตัวกระทาโดยกองพลหรือหน่วยใหญ่กว่า เป็นผู้ดาเนินการ อาศัยความชานาญในการดาเนินกลยุทธ์และการยิงเข้าทาลายข้าศึก ใช้กาลังรบในขอบหน้า ที่ม่ันรบให้น้อยที่สุด เพ่ือแจ้งเตือนการเข้าตีของข้าศึกและหนว่ ยเหนี่ยวให้ขา้ ศกึ เสียระเบยี บพรอ้ มทงั้ บีบบงั คับ ให้ข้าศึกที่เข้าตีเคล่ือนเข้ามายังพ้ืนที่ท่ีเก้ือกูลต่อการใช้กาลังโจมตีขนาดใหญ่เข้าทาลาย ในการตั้งรับนั้น ผ้บู งั คบั กองพันและฝา่ ยอานวยการตอ้ งปฏิบัตติ ามขั้นตอนในการวางแผน โดย ๑. วเิ คราะห์ภารกจิ และขา่ วสารทง้ั หมดทม่ี ี ๒. กาหนดภมู ิประเทศสาคญั , แนวทางการเคล่ือนที่ ๓. กาหนดกาลงั รบท่ีใชใ้ น ขนม. และกองหนุน ๔. กาหนดสว่ นระวังป้องกันและมาตรการที่จาเปน็ ต่างๆ ๕. กาหนดความตอ้ งการเครือ่ งกีดขวาง การป้องกันต่อสูร้ ถถงั ๖. กาหนดมาตรการควบคมุ ทจ่ี าเปน็ ๗. จดั กาลงั เข้าทาการรบ ๘. กาหนดความต้องการการสนับสนนุ ทางธุรการ ๙.ทาแผนสารองสาหรบั เหตกุ ารณ์ตา่ งๆ ส่วนต่างๆ ในการต้ังรบั และพืน้ ท่กี ารรบของกองพันมีดงั น้ี คือ ๑. พนื้ ที่ระวงั ปอ้ งกนั ๒. พื้นที่ขอบหน้าพนื้ ท่ีการรบ (ขนพร.) ๓. พื้นทีก่ องหนนุ พื้นท่ีระวังป้องกันของ กองพันทหารม้าเฉพาะกิจจะมีขอบเขตจากขอบหน้าที่ม่ันการรบไปข้างหน้า โดยในพ้ืนที่ระวังป้องกันมีการปฏิบัติท่ีสาคัญ คือการแจ้งเตอื นข่าวสารเก่ียวกบั ข้าศึกให้ทันเวลา, ป้องกันไม่ให้ ข้าศึกตรวจการณ์ทางพ้ืนดิน, ลวง และหนว่ งเหนย่ี วทาใหข้ ้าศกึ เสียระเบยี บ พน้ื ที่ตั้งรบั ในขอบหน้าพื้นท่ีการรบของ กองพนั ทหารม้าเฉพาะกิจจะมีขอบเขตจากขอบหน้าพน้ื ท่กี ารรบ ลงไปข้างหลังตลอดพ้ืนท่ีการจัดระเบียบต้ังรับของกองร้อยในแนวหน้าจนถึงเส้นเขตหลังของกองร้อย ส่วนในการต้ังรับแบบคล่องตัวนั้น กาลังซึ่งปฏิบัติอยู่ในขอบหน้าพ้ืนท่ีการรบจะมีหน้าที่ในการแจ้งเตือน การเข้าตีของขา้ ศกึ ท่ีเคล่ือนท่ีเข้ามา, หน่วงเหน่ยี วทาให้ขา้ ศึกเสียระเบียบ, บีบบังคับให้การเคล่ือนท่ีไปยังพ้ืนท่ี ทีเ่ กอ้ื กูลต่อการใช้กาลังโจมตีเข้าทาลาย และทาการรบแตกหักเพ่ือรกั ษาพื้นท่ีท่กี าหนด พ้ืนท่ีกองหนุนของกองพันทหารม้าเฉพาะกิจ มีขอบเขตเริ่มจากเส้นเขตหลังของกองร้อยในแนวหน้า จนถึงเส้นเขตหลังของกองพัน การปฏิบัติของกองหนุนของกองพันจะทาการสกัดกั้นการเจาะ, เพิ่มเติมกาลัง ให้กับพื้นท่ีต่างๆ ท่ีถูกข้าศึกคุกคาม และเข้าทาลายหรือขับไล่ข้าศึกออกไปด้วยการตีโต้ตอบ เพ่ือกลับเข้าควบคุม พน้ื ท่ีตง้ั รบั ในขอบหนา้ พืน้ ท่ีการรบของกองพนั ใหม่ ภารกิจในการรบหน่วงเวลาท่ี กองพันทหารม้าเฉพาะกิจอาจไดร้ ับคอื อาจทาการรบหน่วงเวลาในเขต หรือรบหน่วงเวลาหน้าแนวข้ัน โดย ผบ.พัน. ต้องพิจารณาอัตราเร็วในการรุกของข้าศึก ประกอบกับเวลา

๓ - ๑๓ ในการเคล่ือนที่จากท่ีมั่นหน่ึงไปยังที่มั่นต่อไป ประกอบการประมาณการเวลาในการรบหน่วงเวลา ซ่ึง ผบ.พัน.ม.ฉก. จะใช้พิจารณาว่าจะเร่ิมถอนตัวได้เม่ือใด เม่ือมีกว้างด้านหน้าของพื้นท่ีรับผิดชอบมาก พัน.ม.ฉก. ก็ควร ทาการรบหน่วงเวลา ณ ที่มั่นตามลาดับข้ัน โดยแต่ละกองร้อยจะรับผิดชอบต่อเส้นหลักการเคลื่อนท่ีเข้ามา ของข้าศึก ๑ เส้นทาง และต้องมเี สน้ ทางที่จะใช้ถอนตัวไปข้างหลัง อยา่ งน้อย ๑ เส้นทาง ส่วนที่บังคบั การและ ขบวนสัมภาระรบจะไปอยู่ในแนวขั้นต่อไป ผบ.พัน.ม.ฉก. จะต้องระบุความเร่งด่วนในการยิงสนับสนุน ให้กับหน่วยท่ีถูกกดดันจากข้าศึกมาก เม่ือหน่วยรองของกองพันถูกคุกคามและเส่ียงต่อการติดพันแตกหัก ในการรบหน่วงเวลา วิธีท่ีดีท่ีสุดในการเพ่ิมอานาจกาลังรบให้กับหน่วยที่ถูกคุกคามคือการให้ความเร่งด่วน ในการยงิ สนับสนนุ ใหก้ ับหน่วยท่ีถกู คกุ คามน้ัน และจะสามารถทาการถอนตัวมายังท่ีม่นั ข้างหลงั ต่อไปก็ตอ่ เมื่อ ได้รับอนุมัติก่อนเท่าน้ัน หากกองพันไม่สามารถกาหนดหน่วยปฏิบัติเป็นกองหนุนโดยเฉพาะได้ ก็จะพิจารณา ใช้หน่วยที่ปะทะกับข้าศึกน้อยที่สุดเป็นกองหนุน เพ่ือทาการตีโต้ตอบหรือทาการเข้าตีช่วยในการผละออก จากข้าศึกแก่หน่วยที่ถอนตัว ดังนั้นจะเห็นได้ว่าความสาเร็จในการถอนตัวเมื่อถูกข้าศึกกดดันจะข้ึนอยู่ กับการดาเนินกลยทุ ธ์, อานาจการยิงและการควบคุมการปฏบิ ัติ แตห่ ากข้าศึกไม่กดดันความสาเร็จในการถอนตัว จะขึ้นอย่กู บั การลวง และความรวดเร็วในการปฏิบตั ิ

๓ - ๑๔ ตอนท่ี ๕ การปฏบิ ตั ิการของกรมทหารม้า ตามปกติแล้ว กรมทหารมา้ (กรม ม.) จะมีการจัดกาลังของส่วนดาเนินกลยุทธ์ทส่ี นธิกาลงั กันระหว่าง พัน.ม.(ถ.) และ พัน.ม.(ก.) รวมท้ังมีอานาจการยิงสนับสนุนจากกองร้อยเครื่องยิงลูกระเบิดขนาดหนัก ซึ่งอยู่ในอัตราของ กรม.ม. อยู่แล้ว ทาให้ กรม.ม. มีการจดั คลา้ ยๆ กบั การจัดเฉพาะกจิ มกี ารรวมอานาจการยิง จากรถถัง และมีขีดความสามารถในการรบเดินดินจากทหารม้าบรรทุกยานเกราะเข้าด้วยกัน แต่ก็อาจ มแี นวความคิดในการจัดกรมทหารม้าในรปู แบบต่างๆ เพ่ือให้สามารถตอบสนองต่อภารกจิ ดงั นี้ กรมทหารม้าแบบท่ี ๑ มีการจัดกาลังคือ ๒ กองพันรถถัง และ ๑ กองพันทหารม้าบรรทุกยานเกราะ ใช้ในภารกิจการรุก, การตีโตต้ อบ และการขยายผลไลต่ ิดตามเพอ่ื ทาลายขา้ ศึก กรมทหารม้าแบบท่ี ๒ มีการจัดกาลังคือ ๑ กองพนั รถถัง และ ๒ กองพันทหารม้าบรรทุกยานเกราะ ใช้ในภารกิจเข้าประชิดข้าศึกด้วยการยิง, การดาเนินกลยุทธ์และข่มขวัญ, การปฏิบัติการรบในภูมิประเทศ ที่ยากลาบากหรอื มสี ง่ิ ปลกู สรา้ งท่ีหนาแน่น กรมทหารม้าแบบท่ี ๓ มีการจัดกาลังคือ ๓ กองพันทหารม้าบรรทุกยานเกราะล้วน ใช้ในภารกิจ ในการรบประชดิ และการตโี ต้ตอบ กวาดลา้ งขา้ ศกึ ทีไ่ ม่ใช่หนว่ ยยานเกราะเพือ่ ยดึ รักษาภูมิประเทศในระยะเวลา จากดั และปฏิบตั ริ ่วมในการยุทธเ์ คลื่อนที่ทางอากาศเมอ่ื มอี ากาศยานมาสนับสนนุ กรมทหารม้าแบบท่ี ๔ มีการจัดกาลังคือ ๓ กองพันทหารม้าลาดตระเวนล้วน ใช้ในภารกิจ ทาการลาดตระเวนระวังป้องกัน และเป็นหน่วยออมกาลัง ให้กับหน่วยเหนือ และยังมีขีดความสามารถ ทง้ั การรุก ตงั้ รบั หรอื หนว่ งเวลา นอกจาก กรม ม. จะมีการจัดกาลังของกองพันดาเนินกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับภารกิจแล้ว กรม.ม. มักจะได้รับการสมทบจากหน่วยอื่นๆ เพ่ือให้เกิดความสมบูรณ์ในตัวเอง และมีระบบปฏิบัติในสนามรบ ครบทงั้ ๗ ประการ โดยหนว่ ยท่ีมักจะขึ้นสมทบหรือข้ึนควบคุมทางยทุ ธการกับ กรม ม. หรือ กรม ม.ฉก. อาจได้แก่ เพิ่มเติมกองพันดาเนินกลยุทธ์ (กองพันรถถัง กองพันทหารม้าบรรทุกยานเกราะ หรือกองพันทหารราบยานยนต์ กองพันทหารราบยานเกราะ) กองพันปืนใหญ่ กองร้อยป้องกันภัยทางอากาศ กองร้อยทหารช่าง หากมีความจาเป็น ในการเพ่ิมการขีดความสามารถในการลาดตระเวนและระวังป้องกัน อาจสมทบด้วยหน่วยลาดตระเวน และ หน่วยบิน โดยหน่วยที่มาประกอบกาลังกับ กรม ม.ฉก. ควรมีขีดความสามารถในการเคล่ือนที่ทัดเทียม กบั หนว่ ยทหารมา้ เพือ่ ท่ีจะสามารถเคลอื่ นทีต่ ิดตามใหก้ ารสนบั สนนุ ได้ ในด้านการช่วยรบ กรม ม. มักจะได้รับการสนับสนุนจากหน่วยช่วยรบโดยตรงให้แก่กรม โดยอาจ จัดกรมสนับสนุนส่วนแยกหนึ่งๆ หรือหน่วยส่งกาลังบารุงอื่นๆ เพ่ือให้การสนับสนุนการช่วยรบโดยตรง แก่ กรม ม. เพอ่ื ดารงความหนนุ เนอ่ื งในการส่งกาลังบารงุ อันเป็นสิ่งสาคัญของการยุทธ์ยานเกราะ การปฏบิ ัตกิ ารของกรมทหารม้า กรม ม. เป็นหน่วยที่มีการจัดยุทโธปกรณ์โดยมีแนวความคิดในการที่เป็นหน่วยที่เหมาะสม ในการปฏิบัติการรบด้วยวิธรี ุกและทาการปฏิบัติการรบบนยานรบเป็นส่วนใหญ่ ท่ีจะเข้าตีด้วยความห้าวหาญ และรนุ แรงโดยใช้คุณลักษณะของทหารม้าใหเ้ กิดประโยชน์สงู สุด ในสงครามนิวเคลียร์และไม่ใช่นวิ เคลียร์ กรม ม. จะเข้าตีต่อจุดอ่อนของข้าศึกด้วยการรวมอานาจการยิง และเข้าบดขย้ีฝ่ายตั้งรับโดยเร็วที่สุด แล้วเคลื่อนที่ ไปยังเขตหลังของข้าศึก เพื่อให้เสียระเบียบหากต้องการความจู่โจม กรม ม.จะใช้เส้นทางการเคลื่อนที่ ท่ีเหมาะสมน้อยท่ีสุด และจะออกคาสั่งการเข้าตีข้างหน้าโดยมิให้หน่วยรองตอ้ งมารบั คาสั่งขา้ งหลงั ผบ.กรม ม. จะอยูใ่ นท่ีซ่ึงสามารถควบคมุ ดาเนินกลยทุ ธอยา่ งได้ผลดที ี่สุด อาจจะอยูบ่ นยานพาหนะ หรอื ฮ. ก็ได้

๓ - ๑๕ หากต้องปฏบิ ัติในพ้ืนท่ีทีม่ เี ครือ่ งกดี ขวางมาก ป่าทึบ หรอื มีส่ิงก่อสรา้ ง กจ็ ะจดั กาลังใหม้ ีหนว่ ยทหารม้า บรรทุกยานเกราะเป็นหลัก และจะใช้หน่วยรถถังล้วนๆ เมื่อต้องต่อสู้รถถัง หรือเข้าตีบนยานรบผ่านพื้นที่ อาบรังสีหรือสารเคมี การใช้รูปขบวนแถวตอนเข้าตี จะทาให้หน่วยมีความอ่อนตัวในการปฏิบัติ รักษาความริเร่ิมได้ และรักษาแรงหนุนเน่ืองในการเข้าตีได้ ส่วนรูปขบวนหน้ากระดาน จะทาให้ใช้อานาจการยิงได้สูงสุด และ สามารถคล่ีคลายสถานการณ์ได้รวดเรว็ รูปขบวนหนา้ กระดานมีทั้งเป็นรปู ขบวนหน้ากระดานทีม่ ีกองหนุน และ ไม่มีกองหนนุ การใช้รูปขบวนหนา้ กระดานของ กรม ม. หมายถงึ การท่ีจัดกาลังมีหน่วยรองตั้งแต่สองหน่วยขึ้น ไปอยู่ข้างหน้า จะสามารถทาให้ กรม ม. รุกคืบหน้าได้อย่างรวดเร็วแม้ในลักษณะภูมิประเทศท่ีต้องทาการรุก ด้วยกว้างดา้ นหน้ามากๆ ก็เหมาะท่ีจะใช้รปู ขบวนหน้ากระดาน สว่ นเข้าตีจะแบ่งเป็นสว่ นเข้าตีสนับสนุน และ ส่วนเข้าตีหลัก ส่วนเข้าตีหลักจะได้รับมอบให้เข้ายึดที่หมายแห่งหนึ่งหรือหลายแห่ง ที่จะช่วยให้บรรลุภารกิจ ของกรม และจะได้รับน้าหนักในการแบ่งมอบอานาจการรบ ส่วนเข้าตีสนับสนุนช่วยให้ส่ วนเข้าตีหลัก ประสบผลสาเร็จ โดยการปฏิบัติหลายๆ อย่างเช่น บังคับให้ข้าศึกต้องใช้กองหนุนก่อนเวลาอันสมควร หรือ ในพื้นท่ีซง่ึ ไม่ก่อให้เกิดผลแตกหัก ในขณะท่ีกรมทหารม้าดาเนินการรุกเขา้ หาที่หมาย ขา้ ศึกใชก้ าลังเข้าตีโต้ตอบ ผูบ้ งั คับการกรมทหารม้าจะใช้กองหนนุ ของกรมที่เคลอื่ นทตี่ ามมา จะพรอ้ มที่จะทาลายการตีโต้ตอบของขา้ ศึก เมือ่ การปฏิบัติการเข้าตีของ กรม ม.มเี หตุการณจ์ นทาให้การเข้าตีตอ้ งหยุดชะงักลง กรม ม.จะวางฉากกาบัง เพ่ือต่อต้านการลาดตระเวน, ดารงการปะทะไว้กับขา้ ศึกและหาข่าวสารเพ่ิมเติม, วางกาลังรบใหม่ โดยถือการปฏิบัติ ในอนาคตท่ีคาดไว้เป็นมูลฐาน ดารงการติดต่อสื่อสารกับหน่วยข้างเคียง ตลอดจนทาการจัดกาลังใหม่ และ การส่งกาลังเพม่ิ เติม ในการต้ังรับแบบคล่องตวั ของกองพล กาลังท่ีวางไว้ในพื้นท่ีตั้งรับหน้ามีกิจเฉพาะท่ีจะจัดส่วนระวังป้องกัน หน้า ขนพร.อยู่แลว้ กรมที่เป็นส่วนตรึงอาจจะเข้าทาการต้านทานโดยเปล่ียนแปลงไปตามสถานการณ์ท่ีข้าศึก จะเข้าตีระดับการต้านทานน้นั ได้แก่ ป้องกนั ร้งั หนว่ ง ฉากกาบัง ส่วนตรึงน้ันจะมีการปฏิบัติโดยการจัดท่ีตรวจการณ์ ที่ฟังการณ์ ทาการเข้ายึดและต้านทาน ณ ที่ม่ันสกัดกั้น การเข้าตีต่อที่หมายจากัดและการปฏิบัติการรบหน่วงเวลา ขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นท่ีทีจ่ ะต้ังรับและกาลังที่มีอย่ขู อง ในส่วนของ กรม ม.ในฐานะท่ีเป็นสว่ นหน่ึงของการต้งั รับ แบบคล่องตัวมักถูกจัดให้เป็นส่วนตรึง และในการตั้งรับแบบคล่องตัว มักจะจัดหน่วยรถถังให้เป็นกองหนุน ของกองพลเสมอ กรม ม. ในการตั้งรับแบบยึดพื้นที่ จะจัดส่วนระวังป้องกัน ที่ตรวจการณ์ ที่ฟังการณ์ หมู่ตรวจ หน่วยระวังป้องกันปีก และหน่วยระวังป้องกันพ้ืนที่ส่วนหลัง หน่วยระวังป้องกันของกองพล (พัน.ม.(ลว.)) จะเป็นผู้จัดและควบคุม มีหน้าที่จะขัดขวาง, เข้าปะทะ, หน่วงเหนี่ยว, ทาลายระเบียบ และลวงก่อนท่ีข้าศึก จะเขา้ ตี ส่วนระวงั ป้องกนั บริเวณขอบหน้าพืน้ ทกี่ ารรบ (ขนพร.) จะจัดกาลังจากหน่วยทวี่ างในพนื้ ทีต่ ั้งรับหน้า ภารกิจของ กรม ม. ในการตั้งรับแบบยึดพื้นที่ คือ ผลักดันการเข้าตีของข้าศึกด้วยการยิง การรบประชิด และการตีโต้ตอบ ส่วนระวังป้องกันเม่ือกรมทหารม้า ต้ังรับโดยเป็นส่วนหนึ่งของกองพลหน่วยเหนือจะจัด สว่ นระวงั ป้องกันข้างหน้าร่วมกับหน่วยบินเฉพาะกิจ ส่วนในการระวังป้องกันของ กรม.ม.ในการตั้งรับแบบยึดพื้นที่ จะจัดส่วนระวังป้องกันเฉพาะบริเวณที่ต้ังโดยหน่วยในแนวหน้า ในการต้ังรับนั้น ที่มั่นใหญ่ คือ พ้ืนท่ีหลัก ในการต้งั รับประกอบดว้ ย ท่ีม่ันตั้งรบั หลายแห่งท่ีสามารถสนับสนุนซึ่งกันและกันได้ มาตรการต่างๆ ในการต้ังรับ จะประกอบด้วย ๑. เคร่อื งกดี ขวางและฉากขัดขวาง ๒. การป้องกันตอ่ สู้ยานเกราะ ๓. การป้องกันตอ่ ส้กู ารโจมตขี องหนว่ ยสง่ ทางอากาศ หรือหน่วยเคล่ือนทีท่ างอากาศ ๔. การปฏบิ ตั ิของกองโจร การแทรกซมึ ๕. การปอ้ งกันตอ่ สอู้ าวธุ เคมี - ชวี ะ – รงั สี

๓ - ๑๖ ๖. การปอ้ งกนั ตอ่ สู้การโจมตีทางอากาศ ๗. การป้องกันในขณะทศั นวิสัยจากดั เม่ือ กรม ม. ตั้งรับแบบยึดพ้ืนที่ ร้อย.ม.(ลว.) นอกจากจะได้รับภารกิจเป็นส่วนระวังป้องกัน โดยอยู่ภายใต้การควบคุมของ กรม.ม. ในการระวังป้องกันปีกแล้ว ยังให้การระวังป้องกันพ้ืนที่ส่วนหลัง โดยแจ้งเตือนและเข้าตีต่อหน่วยส่งทางอากาศ หน่วยเคลื่อนที่ทางอากาศ กองโจร หรือหน่วยแทรกซึม ของขา้ ศกึ การรบแตกหักจะเกดิ ขน้ึ เมื่อหน่วยเขา้ ทาการรบอย่างสมบรู ณแ์ บบ และไม่มีเสรีในการดาเนินกลยุทธ์ หรือไม่อาจผละจากการรบได้ด้วยหน่วยเอง ในการรบหน่วงเวลา ไม่มีความมุ่งหมายที่จะทาลายกาลังข้าศึก โดยส้ินเชิง และไม่ทาการรบติดพันแตกหัก กรม ม. ควรใช้กาลงั มากที่สดุ ในการรบปะทะกับข้าศึก และใช้กาลัง เป็นกองหนุนน้อยท่ีสุด ในการรบหน่วงเวลาต้องดารงการเกาะข้าศึก และประสานการระวังป้องกัน เพื่อมิให้ข้าศึก อ้อมผ่านหรือโอบล้อม และเมื่อ กรม.ม.ต้องการควบคุมแบบรวมการน้อย ก็จะมอบภารกิจให้ พัน.ม.ฉก. รบหนว่ งเวลาในเขต และจะทาการรบจนกระทงั่ การคกุ คามของข้าศึกบ่งถงึ การรบขัน้ แตกหกั หรอื การโอบลอ้ ม กล่าวคือเมื่อข้าศึกรุกเข้ามาถึงจุดที่อยู่ในระยะยิงหวังผลของอาวุธประจากายหรือเมื่อ ผบ.หน่วยแต่ละระดับ พิจารณาว่าหน่วยอยู่ในอันตราย และจะสูญเสียเสรีในการดาเนินกลยุทธ์ จึงทาการถอนตัว และจะหลีกเลี่ยง ตอ่ การรบติดพันแตกหัก กรม ม.อาจมีความจาเป็นต้องเสี่ยงท่ีจะต้องทาการรบแตกหักเมื่อต้องทาการรบหน่วงเวลา เพื่อหน่วงเหน่ียวข้าศึกไว้เป็นระยะเวลานานในพื้นท่ีที่มีความลึกแต่เพียงเล็กน้อย หากมีพ้ืนท่ีที่เพียงพอ ในการดาเนินกลยุทธ์ด้วยการตีโต้ตอบระหว่างกระทาการรบหน่วงเวลา ก็จะเข้าตีข้าศึกโดยจะไม่ยึด และ รักษาภูมิประเทศ แต่จะรักษาความหนุนเนื่องในการเข้าตีไว้เพ่ือให้หน่วยเข้าตีผ่านรูปขบวนของข้าศึก แล้วกลับเข้ามายังพื้นท่ีของทหารฝ่ายเดียวกันยึดอยู่ซ่ึงเป็นลักษณะของการกวาดล้างด้วยรถถัง เม่ือท่ีม่ันรบ หน่วงเวลาของ กรม ม. สามารถสนับสนุนซง่ึ กนั และกันได้ ก็จะรบหนว่ งเวลา ณ ท่มี ั่นสลับขั้น แตจ่ ะเป็นอันตราย จากการโจมตดี ว้ ยอาวุธนิวเคลียร์ ในการถอนตัว ส่ิงสาคัญ คือ กรม ม. ต้องผละจากข้าศึกให้เร็วที่สุด และสิ่งท่ีพึงประสงค์มากท่ีสุด คือ การปฏิบัติโดยมิให้ขา้ ศกึ ตรวจพบ เมือ่ จะต้องจัดส่วนแยกทิง้ ไว้ปะทะจานวน ๑ ใน ๓ ของกรม ส่วนการถอย คือ การเคลื่อนย้ายหน่วยอย่างมีระเบียบไปข้างหลัง โดยปกติการถอยจะเป็นการปฏิบัติต่อเนื่องจากการถอนตัว และมักจัดกองระวังหลังท่ีมี หน่วย ถ. เป็นหลกั ***********************************************************************

๔-๑ ภาคที่ ๔ การจัดหนว่ ยทหารม้าของ ทบ. ไทย (ลา่ สุดเมอ่ื ม.ค. ๒๕๖๒) ทหารมา้ ในกองพลทหารมา้ ๑. กองพลทหารมา้ ท่ี ๑ ๑.๑ สว่ นฐานกองพล - กองพันทหารม้าท่ี ๑๒ กองพลทหารมา้ ที่ ๑ (ม.พนั .๑๒ พล.ม.๑) (พัน.ม.(ลว.)) - กองพันทหารมา้ ท่ี ๒๘ กองพลทหารมา้ ท่ี ๑ (ม.พนั .๒๘ พล.ม.๑) (พนั .ม.(ลว.)) ๑.๒ กรมทหารมา้ ที่ ๒ - กองพันทหารมา้ ที่ ๗ กรมทหารม้าที่ ๒ (ม.๒ พัน.๗) (พนั .ม.(ยก.) รูปแบบใหม่ - กองพันทหารม้าท่ี ๑๐ กรมทหารม้าท่ี ๒ (ม.๒ พนั .๑๐) (พัน.ม.(ยก.) รูปแบบใหม่ - กองพัน.ทหารม้าท่ี ๑๕ กรมทหารม้าท่ี ๒ (ม.๒ พัน.๑๕) (พัน.ม.(ยก.) รูปแบบใหม่ ๑.๓ กรมทหารมา้ ที่ ๓ - กองพนั ทหารม้าท่ี ๑๓ กรมทหารม้าที่ ๓ (ม.๓ พัน.๑๓) (พนั .ม.(ก.)) - กองพนั ทหารมา้ ที่ ๑๘ กรมทหารมา้ ที่ ๓ (ม.๓ พัน๑๘) (พนั .ม.(ก.)) - กองพนั ทหารมา้ ที่ ๒๖ กรมทหารมา้ ท่ี ๓ (ม.๓ พัน.๒๖) (พนั .ม.(ถ.)) ๒. กองพลทหารม้าท่ี ๒ รกั ษาพระองค์ ๒.๑ สว่ นฐานกองพล - กองพนั ทหารมา้ ท่ี ๒๗ กองพลทหารม้าที่ ๒ รกั ษาพระองค์ (ม.พัน.๒๗ พล.ม.๒ รอ.) (พนั .ม.(ลว.)) ๒.๒ กรมทหารมา้ ที่ ๑ รกั ษาพระองค์ - กองพนั ทหารม้าที่ ๑ กรมทหารมา้ ท่ี ๑ รกั ษาพระองค์ (ม.๑ พนั .๑ รอ.) (พัน.ม.(ก.)) - กองพันทหารมา้ ท่ี ๓ กรมทหารม้าที่ ๑ รักษาพระองค์ (ม.๑ พัน.๓ รอ.) (พัน.ม.(ก.)) - กองพนั ทหารม้าที่ ๑๗ กรมทหารม้าท่ี ๑ รักษาพระองค์ (ม.๑ พนั .๑๗ รอ.) (พัน.ม.(ถ.)) ๒.๓ กรมทหารม้าท่ี ๔ รักษาพระองค์ - กองพนั ทหารมา้ ที่ ๕ กรมทหารม้าท่ี ๔ รกั ษาพระองค์ (ม.๔ พัน.๕ รอ.) (พนั .ม.(ถ.)) - กองพันทหารม้าที่ ๑๑ กรมทหารม้าที่ ๔ รกั ษาพระองค์ (ม.๔ พัน.๑๑ รอ.) (พัน.ม.(ก.)) - กองพนั ทหารมา้ ท่ี ๒๕ กรมทหารม้าท่ี ๔ รกั ษาพระองค์ (ม.๔ พนั .๒๕ รอ.) (พนั .ม.(ก.)) ๒.๔ กรมทหารม้าที่ ๕ รักษาพระองค์ - กองพันทหารมา้ ท่ี ๒๐ กรมทหารมา้ ท่ี ๕ รกั ษาพระองค์ (ม.๕ พัน.๒๐ รอ.) (พัน.ม.(ถ.)) - กองพนั ทหารม้าท่ี ๒๓ กรมทหารม้าท่ี ๕ รักษาพระองค์ (ม.๕ พัน.๒๓ รอ.) (พัน.ม.(ก.)) - กองพันทหารมา้ ท่ี ๒๔ กรมทหารม้าท่ี ๕ รักษาพระองค์ (ม.๕ พัน.๒๔ รอ.) (พนั .ม.(ก.)) ๓. กองพลทหารม้าที่ ๓ ๓.๑ กรมทหารมา้ ที่ ๖ - กองพนั ทหารมา้ ที่ ๖ กรมทหารม้าท่ี ๖ (ม.๖ พนั .๖) (พนั .ม.(ถ.)) - กองพนั ทหารมา้ ท่ี ๒๑ กรมทหารมา้ ท่ี ๖ (ม.๖ พนั .๒๑) (พัน.ม.(ถ.)) ๓.๒ กรมทหารมา้ ที่ ๗ - กองพันทหารม้าที่ ๘ กรมทหารม้าที่ ๗ (ม.๗ พัน.๗) (พนั .ม.(ถ.) - กองพนั ทหารมา้ ท่ี ๑๔ กรมทหารม้าที่ ๗ (ม.๗ พัน.๑๔) (พนั .ม.(ก.))

๔-๒ หนว่ ยทหารม้านอกกองพลทหารม้า (ในกองพลทหารราบ) ๑. กองพลที่ ๑ รักษาพระองค์ - กองพันทหารม้าท่ี ๔ กองพลที่ ๑ รักษาพระองค์ (ม.พัน.๔ พล.๑ รอ.) (พัน.ม.(ถ.)) - กองรอ้ ยทหารม้า(ลาดตระเวน) ที่ ๑ กองพลท่ี ๑ รกั ษาพระองค์ (ร้อย.ม.(ลว.) ๑ พล ๑ รอ.) ๒. กองพลทหารราบท่ี ๒ รกั ษาพระองค์ - กองพันทหารม้าท่ี ๒ กองพลทหารราบท่ี ๒ รกั ษาพระองค์ (ม.พนั .๒ พล.ร.๒ รอ.) (พัน.ม.(ถ.)) - กองพนั ทหารมา้ ท่ี ๓๐ กองพลทหารราบที่ ๒ รักษาพระองค์ (ม.พัน.๓๐ พล.ร.๒ รอ.) (พัน.ม.(ลว.)) ๓. กองพลทหารราบท่ี ๓ - กองร้อยทหารม้า(ลาดตระเวน) ท่ี ๓ กองพลทหารราบท่ี ๓ (ร้อย.ม.(ลว.) ๓ พล.ร.๓) ๔. กองพลทหารราบที่ ๔ - กองร้อยทหารม้า(ลาดตระเวน) ที่ ๔ กองพลทหารราบที่ ๔ (ร้อย.ม.(ลว.) ๔ พล.ร.๔) ๕. กองพลทหารราบที่ ๕ - กองพันทหารมา้ ที่ ๑๖ กองพลทหารราบท่ี ๕ (ม.พัน.๑๖ พล.ร.๕) (พนั .ม.(ถ.)) - กองร้อยทหารม้า(ลาดตระเวน) ที่ ๕ กองพลทหารราบท่ี ๕ (รอ้ ย.ม.(ลว.) ๕ พล.ร.๕) ๖. กองพลทหารราบที่ ๖ - กองร้อยทหารมา้ (ลาดตระเวน) ท่ี ๖ กองพลทหารราบที่ ๖ (ร้อย.ม.(ลว.) ๖ พล.ร.๖) ๗. กองพลทหารราบที่ ๙ - กองพนั ทหารม้าท่ี ๑๙ กองพลทหารราบที่ ๙ (ม.พัน.๑๙ พล.ร.๙) (พัน.ม.(ลว.)) ๘. กองพลทหารราบท่ี ๑๕ - กองพันทหารมา้ ท่ี ๓๑ กองพลทหารราบที่ ๑๕ (ม.พัน.๓๑ พล.ร.๑๕) (พนั .ม.(ลว.)) หน่วยทหารมา้ ตามที่ กห. กาหนด ๑. กองพนั ทหารมา้ ที่ ๒๒ ศนู ย์การทหารม้า (ม.พัน.๒๒ ศม.) (ฝากการบงั คบั บญั ชากับ ศม.) ๒. กองพันทหารม้าท่ี ๒๙ รักษาพระองค์ (ม.พัน.๒๙ รอ.) (ฝากการบังคบั บญั ชากับ พล.ม.๒ รอ.) ********************************


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook