Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิชา ยุทธวิธี (หมู่ปืนเล็กในการตั้งรับและถอนตัว) ปี 3

วิชา ยุทธวิธี (หมู่ปืนเล็กในการตั้งรับและถอนตัว) ปี 3

Published by military2 student, 2022-04-27 01:54:27

Description: วิชา ยุทธวิธี (หมู่ปืนเล็กในการตั้งรับและถอนตัว) ปี 3

Search

Read the Text Version

(ข) การท�ำหลักรองรับปืนเป็นบุคคล วิธีนี้มักจะน�ำไปใช้เมื่อทหาร ิวชา ุยทธวิ ีธ 179 ประจำ� อยู่ในหลมุ บุคคลเดยี ว โดยปฏบิ ตั ติ ามล�ำดับดังต่อไปน้ี - ให้หาไม้ไผ่หรือไม้อ่ืนที่มีลักษณะเป็นไม้ง่ามมาอย่างน้อย จำ� นวน 4 อนั เสีย้ มปลายให้แหลมส�ำหรับใช้ปักลงไปในดิน - น�ำปืนมาเลง็ ไปประมาณก่งึ กลางเขตการยงิ แล้วหมายตำ� บล ลงไปบนพ้นื ดนิ 2 จุด คือ ทบ่ี ริเวณประมาณหกู ระวินบนและบริเวณหน้าโกร่งไกปืน - ปักไม้ง่ามอันหน้าลง ณ ต�ำบลที่หมายไว้บนพื้นดินซึ่งอยู่ ประมาณใกลห้ กู ระวนิ ของปนื และปกั ไมง้ า่ มอนั หลงั ลงบนพนื้ ดนิ ณ ตำ� บลทห่ี มายไวบ้ รเิ วณ หน้าโกร่งไกปืน - เลอื่ นพานทา้ ยปนื มาทางซา้ ยโดยใชไ้ มง้ า่ มอนั หนา้ เปน็ จดุ หมนุ จนกระทง่ั ปากล�ำกล้องปืนช้ตี รงไปยงั เขตการยงิ ขวาท่ี ผบ.หมู่ก�ำหนดให้ในภูมปิ ระเทศจริง แล้วปักไม้ง่ามรองรบั ปืนบรเิ วณหน้าโกร่งไกลงบนพน้ื ดนิ - เลอื่ นพานทา้ ยปนื ไปทางขวา โดยใชไ้ มง้ า่ มอนั หนา้ เปน็ จดุ หมนุ จนกระท่งั ปากล�ำกล้องปืนช้ตี รงไปยงั เขตการยงิ ซ้ายท่ี ผบ.หมู่ก�ำหนดให้ในภูมิประเทศจรงิ แล้วปักไม้ง่ามรองรบั ปืนบรเิ วณหน้าโกร่งไกลงบนพื้นดิน - ปักหลักเล็งก�ำหนดเขตการยิงซ้าย, ขวาแล้วติดเทปเรืองแสง หันมาทางด้านพลยงิ ห่างจากท่ตี ง้ั ปืนประมาณ 5 เมตร รปู ท่ี 5 การทำ� หลกั รองรบั ปนื เป็นบุคคล

180 วชิ ายทุ ธวธิ ี 5. การทำ�แผนการยิงของหมู่ เมื่อผู้บังคับหมู่ได้ก�ำหนดที่วางตัวและเขตการยิงให้กับเจ้าหน้าท่ีแต่ละคนของ หมตู่ ลอดจนอาวธุ ทไี่ ดจ้ ดั มาสมทบกบั ตนแลว้ ผบู้ งั คบั หมจู่ ะตอ้ งรบี จดั ทำ� แผนทส่ี งั เขปแสดง ใหเ้ หน็ จดุ วางกำ� ลงั และเขตการยงิ ของเจา้ หนา้ ทท่ี กุ คนและอาวธุ สมทบ แสดงตำ� บลทสี่ งู เดน่ หรอื ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศสำ� คญั ตา่ ง ๆ และระยะไปยงั ตำ� บลนน้ั โดยจะตอ้ งทำ� ขน้ึ เปน็ คฉู่ บบั จำ� นวน 2 ฉบบั ตนเองเกบ็ ไว้ 1 ฉบบั และส่งให้ผู้บังคบั หมวดทราบ 1 ฉบบั ส�ำหรับตัวอย่างแสดงแผนการยิงหรือแผนที่สังเขป แสดงการวางก�ำลังและ เขตการยิงของหมู่ ให้ดใู นรูปท่ี 6 รปู ที่ 6 แผนการยงิ ของหมปู่ นื เลก็

6. การปฏบิ ตั กิ ารตงั้ รับและการควบคมุ การยงิ ิวชา ุยทธวิ ีธ 181 การปฏบิ ตั กิ ารตงั้ รบั คอื การใชอ้ าวธุ ตา่ ง ๆ ทำ� การยงิ ขา้ ศกึ ทร่ี กุ คบื หนา้ เขา้ มายงั ทม่ี ่ันของฝ่ายเรา เพอ่ื ท�ำลายหรอื ยับยงั้ ไม่ให้ข้าศกึ ท�ำการเข้าตีได้เป็นผลส�ำเรจ็ โดยธรรมดาแล้ว เมื่อข้าศึกปรากฏตัวข้างหน้าที่มั่นตั้งแต่ในระยะไกลข้างหน้า แนวกองรักษาด่านรบ ซ่ึงอยู่ห่างจากขอบหน้าพ้ืนท่ีการรบในระยะ 1,000 - 2,400 เมตร ผบู้ งั คบั บญั ชาชน้ั เหนอื จะเปน็ ผพู้ จิ ารณาใชอ้ าวธุ กระสนุ วถิ โี คง้ ทงั้ ปวงทม่ี อี ยู่ เชน่ ปนื ใหญแ่ ละ เครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 120 มม. เป็นต้น ระดมยิงไปยังข้าศึกและลดระยะยิงลงตาม ความคบื หน้าของข้าศกึ ท่ีเข้ามา สำ� หรับทหารทกุ คนในหมู่ปืนเลก็ มีหน้าที่จะต้องปฏบิ ตั ิดงั ต่อไปน้ี ก. เม่ือทราบจาก ผบ.หมู่ว่าข้าศึกปรากฏตัวข้ึนข้างหน้า ถึงแม้จะยังอยู่ใน ระยะไกลก็ตาม ทหารทุกคนจะต้องเตรียมพร้อมในท่ีม่ันของตนทันทีและคอยตรวจการณ์ ไปข้างหน้าอย่างละเอยี ดถี่ถ้วนตลอดเวลา ข. เมื่อผู้ใดตรวจการณ์พบข้าศึกให้รายงานให้ ผบ.หมู่ทราบทนั ที การรายงาน กระทำ� โดยบอกทหารข้างเคยี งและใช้วธิ ีบอกต่อ ๆ กนั ไปจนกว่าจะถงึ ผบ.หมู่ ด้วยความ สงบเงยี บ อย่าใช้วธิ ีตะโกน ค. เม่ือเห็นหรือได้รับทราบจากผู้บังคับบัญชาว่ากองรักษาด่านรบถอนตัวแล้ว ทหารท่ีอยู่ใกล้เส้นทางที่กองรักษาด่านรบจะผ่านเข้ามา จะต้องพยายามทุกวิถีทางเพื่อ อำ� นวยความสะดวกให้กองรกั ษาด่านรบเคลื่อนท่ผี ่านไปโดยสะดวกและปลอดภัยที่สดุ ง. เมอ่ื กองรักษาด่านรบได้ถอนตวั ผ่านขอบหน้าพน้ื ทกี่ ารรบเข้ามาแล้ว ทหาร ทกุ คนภายในหมู่จะต้องอยู่ในสภาพพร้อมรบยง่ิ ข้นึ จ. จงจำ� ไว้เสมอว่าในการปฏบิ ัติการตงั้ รับนน้ั ทหารจะเร่มิ เปิดฉากการยงิ เอง โดยพลการไม่ได้ ถึงแม้จะได้ตรวจการณ์เห็นข้าศึกแล้วก็ตาม การเริ่มยิงครั้งแรกจะต้อง ได้รบั คำ� ส่งั จาก ผบ.หมู่เสมอ ฉ. เม่ือได้รับค�ำส่ังให้เร่ิมเปิดฉากการยิง ทหารทุกคนจะต้องใช้อาวุธของตน ท�ำการยิงข้าศึกที่ปรากฏในเขตการยิงที่ได้รับมอบของตนเท่านั้น จงจ�ำไว้ว่าแต่ละคนไม่มี หนา้ ทย่ี งิ ขา้ ศกึ ทป่ี รากฏนอกเขตการยงิ ของตน ใหพ้ ยายามยงิ อยา่ งรวดเรว็ และประณตี ทส่ี ดุ ช. ถา้ ปรากฏวา่ การเขา้ ตขี องขา้ ศกึ มรี ถถงั รว่ มดว้ ย หนทางปฏบิ ตั ขิ องทหารคอื ให้พยายามใช้อาวุธประจ�ำการยิงไปยังทหารเดินเท้าของข้าศึกที่ติดตามรถถัง ท้ังน้ี

182 วชิ ายทุ ธวธิ ี เป็นการแยกทหารราบข้าศึกออกจากรถถังน่ันเอง ส่วนการยิงท�ำลายรถถังเป็นหน้าท่ีของ ผู้บังคบั บญั ชาจะส่งั การใช้อาวธุ ต่อสู้รถถงั ท�ำลายรถถงั เอง ซ. ในขณะทข่ี า้ ศกึ เคลอื่ นทเี่ ขา้ มาใกลพ้ นื้ ทต่ี งั้ รบั ของหมตู่ ามลำ� ดบั ทหารจะทวี ความรุนแรงในการยิงขึ้นไปตามล�ำดับ แต่ไม่ใช่หมายความว่าให้ทหารท�ำการยิงอัตโนมัติ (ยกเว้นพลยงิ ปืนเล็กทีม่ ีหน้าทย่ี ิงเป็นอตั โนมัติ) ฌ. ถ้าข้าศึกเคลื่อนที่เข้ามาจนถึงระยะท่ีฝ่ายต้ังรับจะต้องทำ� การยิงฉากเป็น ขน้ั สดุ ทา้ ย (ระยะหา่ งจากขอบหนา้ พนื้ ทกี่ ารรบประมาณ 200 เมตร) และจะเรมิ่ ปรบั รปู ขบวน รว่ มตะลมุ บอนตอ่ ทมี่ นั่ ของฝา่ ยเรา เมอื่ ทหารเหน็ สญั ญาณยงิ ฉากปอ้ งกนั ขนั้ สดุ ทา้ ย หนา้ ท่ี การยิงทหารภายในหมู่ปืนเล็กคงท�ำการยิงต่อสู้ข้าศึกภายในเขตการยิงของตนตามปกติ ถ้าจำ� เป็นจะตดิ ดาบด้วยก็ได้ แต่ให้ทวคี วามเร็วในการยิงอย่างสูงสุด หากปรากฏว่าข้าศกึ ข้างหน้ามาก พิจารณาแล้วถ้ายงิ เป็นกง่ึ อัตโนมตั ิ จะไม่สามารถสงั หารข้าศึกให้หมดลงได้ ทหารอาจจะท�ำการยงิ เป็นอตั โนมตั ิได้ตามความเหมาะสม ญ. ถา้ ยงั ปรากฏว่าขา้ ศกึ ผ่านแนวปอ้ งกนั ขนั้ สดุ ท้ายเขา้ มาได้ จะตอ้ งพยายาม ขบั ไลข่ า้ ศกึ ดว้ ยการรบประชดิ หมายถงึ การรบอยา่ งรนุ แรง การใชร้ ะเบดิ ขวา้ ง และการตอ่ สู้ ประชดิ ตัว และถงึ ขนั้ ใช้ดาบปลายปืนด้วยกไ็ ด้ ทหารทกุ คนพงึ ระลกึ และจดจำ� ไว้เสมอว่าไม่ว่ากรณีใด ทหารจะลกุ ขึน้ หนลี งไป ข้างหลังไม่ได้เด็ดขาด เพราะการกระท�ำเช่นนั้นนอกจากจะเป็นการผิดวินัยแล้ว โอกาสที่ ทหารจะถูกสงั หารย่อมมมี ากกว่าการปักหลักสู้อย่างไม่คดิ ชีวิต ตอนท่ี 3 การปฏบิ ัตกิ ารร่นถอย 1. กลา่ วทว่ั ไป ในการศกึ ษาตอ่ ไปน้ี จะไดก้ ลา่ วถงึ เรอ่ื งการรน่ ถอย เฉพาะทเ่ี ปน็ แนวทางทจ่ี ำ� เปน็ ส�ำหรับ ผบ.หมู่ และ ผบ.หมวด ในการปฏบิ ตั กิ ารร่นถอยและเพือ่ ให้ นศท.ได้ทราบวธิ กี าร ปฏิบัติการร่นถอยเบอ้ื งต้นเก่ยี วกบั การถอนตวั ทง้ั ในเวลากลางคนื และกลางวนั ก. หมปู่ นื เลก็ นน้ั ตามปกตจิ ะปฏบิ ตั กิ ารรน่ ถอยในฐานะเปน็ สว่ นหนงึ่ ของหมวด เช่นเดยี วกนั หมวดกป็ ฏบิ ตั กิ ารร่นถอยในฐานะเป็นส่วนหนงึ่ ของกองร้อย จงึ มคี วามจำ� เป็น ท่ี นศท.จะต้องทราบและเข้าใจยทุ ธวิธีในการร่นถอยของหมวดและกองร้อยด้วย

ข. การปฏบิ ตั กิ ารรน่ ถอย คอื การเคลอ่ื นยา้ ยไปขา้ งหลงั หรอื หา่ งออกจากขา้ ศกึ ิวชา ุยทธวิ ีธ 183 ของหน่วย อย่างมรี ะเบียบ การร่นถอยน้อี าจกระท�ำโดยถกู บังคบั จากข้าศกึ หรอื โดยความ สมัครใจกไ็ ด้ ค. การปฏบิ ัตกิ ารร่นถอยอาจแยกประเภทได้เป็น - การถอนตัว - การรบหน่วงเวลา - การถอย ง. ตามปกติหมวดจะปฏิบัติการร่นถอยในฐานะเป็นส่วนหน่ึงของกองร้อย และก่อนทจ่ี ะปฏิบัติการอย่างหน่งึ อย่างใด จะต้องได้รบั อนมุ ัติจาก ผบ.ร้อย.ก่อน จ. การเคล่ือนย้ายในระหว่างการปฏิบัติการร่นถอยน้ัน อาจกระท�ำด้วยเท้า ยานพาหนะ อากาศยาน หรือใช้เครือ่ งมอื ต่าง ๆ ทก่ี ล่าวมาแล้วผสมกนั ในการปฏบิ ตั ิการ รน่ ถอยมกั ใชร้ ถสายพานล�ำเลยี งพล เพราะมคี วามเรว็ ความคลอ่ งตวั และมเี กราะปอ้ งกนั ดี ฉ. ในการปฏิบัติการร่นถอยนั้น อาจถูกข้าศึกไล่ติดตามได้ทั้งทางพ้ืนดินและ ทางอากาศ และรวมทั้งการใช้อาวุธยิงตามแบบและนิวเคลียร์ได้ด้วย หมวดปฏิบัติการ รน่ ถอยดว้ ยการรกั ษาความลบั และการลวงตามทสี่ ถานการณจ์ ะอ�ำนวยใหอ้ าศยั ประโยชน์ จากสงิ่ ปกปิดกำ� บงั และซ่อนพรางทด่ี ี และจดั การระวงั ป้องกนั ทางหน้าทางปีกและทางหลงั ไว้ตลอดเวลา ช. ในระหว่างปฏิบัติการร่นถอย ผบ.หน่วยจะต้องพยายามรักษาขวัญทหาร ของตนไว้ให้สูง จะต้องแจ้งให้ทุกคนภายในหมวดทราบเหตุผลในการปฏิบัติและงานท่ี ทหารแต่ละคนต้องปฏิบัติเพื่อให้บรรลุกิจ ข่าวลือที่ไม่จริงและรายงานท่ีเกินความจริง จะต้องตอบโต้ทนั ที โดยแจ้งข้อเท็จจริงให้ทหารทราบ การปรากฏตวั ของผู้บังคับหน่วยนำ� ณ ท่ีซึ่งหน่วยปะทะกับข้าศึก การให้สวัสดิการท่ีดีของหมวด การใช้ลักษณะผู้น�ำอย่างดี การกวดขนั ในเรอื่ งวนิ ยั การควบคมุ และการวางแผนลว่ งหนา้ จะชว่ ยในการดำ� รงใหม้ ขี วญั ดี และป้องกันการต่นื กลัว ซ. การลาดตระเวนตรวจภมู ปิ ระเทศอยา่ งละเอยี ดไปยงั ข้างหลงั นน้ั ให้กระทำ� โดยเจ้าหน้าท่ีต่าง ๆ ให้มากท่ีสุดเท่าที่สถานการณ์จะอำ� นวยให้ แต่ละคนภายในหมู่ต้อง ลาดตระเวนเสน้ ทางของตนทจี่ ะไปยงั ทร่ี วมพลของหมหู่ รอื จดุ นดั พบขนั้ ตน้ ผบ.หนว่ ยทกุ นาย ควรจะลาดตระเวนเสน้ ทางไปยงั ทร่ี วมพลของหนว่ ยเหนอื ใหส้ ง่ พวกลาดตระเวนภมู ปิ ระเทศ ไปขา้ งหลงั เพอ่ื ดดั แปลงทต่ี ง้ั และนำ� ทางหมวดเขา้ สทู่ มี่ นั่ ขา้ งหลงั เมอ่ื ใชเ้ สน้ ทางทไ่ี มค่ นุ้ เคย มาก่อน จะต้องจดั เจ้าหน้าท่นี �ำทางข้นึ

184 วชิ ายทุ ธวธิ ี ฌ. การวางแผนรายละเอียดรวมทั้งแผนสำ� รองจะต้องทำ� ขึ้นทุกหน่วย จะต้อง สงั่ การให้สมบรู ณ์ ชัดเจน และสั้นให้เร็วทีส่ ุดเท่าทจ่ี ะทำ� ได้ ค�ำสง่ั เป็นส่วน ๆ จะต้องใช้เพือ่ ให้ม่ันใจว่าได้ปฏบิ ัติการพร้อมกนั ไปในทกุ ระดบั หน่วย ญ. การใชเ้ ครอื่ งกดี ขวางตามธรรมชาติ และสรา้ งขนึ้ ขา้ งหนา้ ทางปกี และทางหลงั จะช่วยให้การปฏิบัติการร่นถอยดีขึ้น จะต้องใช้อาวุธยิงสนับสนุนอย่างกว้างขวาง และ ผบ.หน่วยทกุ หน่วยจะต้องสามารถร้องขอและปรบั การยงิ ได้ ฎ. ในระหว่างการปฏิบัติการถอนตัว จะต้องพยายามทุกวิถีทางท่ีจะไม่ให้ ผู้บาดเจบ็ ถกู จบั เป็นเชลย ฏ. ผบ.หมวดต้องม่ันใจว่ามีกระสุนเหลืออยู่ภายในหมวดของตนเพียงพอ ที่จะปฏิบัติภารกิจของตนได้ จงระลึกอยู่เสมอว่าเมื่อเร่ิมการเคลื่อนที่ส่ิงอุปกรณ์ทั้งมวล (ยกเว้นเวชภณั ฑ์) ซง่ึ ไม่สามารถจะน�ำกลับไปข้างหลงั ได้ ต้องท�ำลายเสยี 2. การตดิ ตอ่ สอื่ สาร ใช้เคร่ืองมือติดต่อส่ือสารท้ังมวลท่ีมีอยู่เพ่ือด�ำรงความควบคุมและให้เกิดการ อ่อนตัว เครื่องมือติดต่อส่ือสารหลัก คือ วิทยุและโทรศัพท์ และจะต้องก�ำหนดเครื่องมือ ติดต่อสื่อสารรองข้ึน อาจได้แก่ พลน�ำสาร ทัศนะและเสียงสัญญาณ วิทยุของรถถัง และผู้ตรวจการณ์หน้า 3. การถอนตวั ผา่ นแนวฝ่ายเดยี วกนั ก. ในระหว่างการปฏบิ ตั ิการร่นถอย หมวดอาจต้องถอนตัวผ่านหรอื อ้อมผ่าน แนวของฝ่ายเดยี วกนั การปฏบิ ตั ินีจ้ ะต้องมีการประสานงานกันไว้ล่วงหน้า ข. เมือ่ ประสานงานกนั จะต้องพจิ ารณาในหวั ข้อต่อไปนีค้ ือ (1) การบอกฝ่ายสญั ญาณทห่ี น่วยเคลอื่ นทเ่ี ข้ามาจะใช้และการตอบ (2) เส้นทางผ่านหรอื อ้อมผ่านหน่วยฝ่ายเดียวกัน (3) จุดที่ถอนตวั ผ่านหน่วยเดยี วกัน ค. เมื่อการถอนตัวผ่านหน่วยเดียวกันเสร็จสิ้นแล้ว จะต้องแจ้งให้หน่วยที่ถูก ผ่านทราบ เพอ่ื ให้หน่วยน้นั มเี สรีในการยงิ หน้าแนวของตน

4. การถอย ิวชา ุยทธวิ ีธ 185 การถอย คอื การปฏบิ ตั ซิ ง่ึ หนว่ ยหนงึ่ ถอนตวั ไปโดยไมถ่ กู บบี บงั คบั ใด ๆ จากขา้ ศกึ เมื่อการถอยท�ำต่อจากการถอนตัว การถอยจะเร่ิมเม่ือได้ผละจากการปะทะกับข้าศึกแล้ว จะได้จัดเป็นรูปขบวนเดนิ ขน้ึ แล้ว 5. การถอนตวั ก. การถอนตวั คอื การปฏบิ ตั กิ ารซง่ึ กำ� ลงั ทงั้ หมดหรอื บางสว่ นของหนว่ ยไดผ้ ละ จากการปะทะกบั ขา้ ศกึ เพอื่ ไปปฏบิ ตั กิ ารอน่ื ๆ ไดแ้ ก่ การถอย การรบหนว่ งเวลาปอ้ งกนั ทมี่ น่ั แห่งอน่ื หรอื เข้าตใี นเขตอ่นื ๆ ข. การถอนตวั น้อี าจกระทำ� โดยสมคั รใจ หรอื ถูกบังคบั จากข้าศกึ กไ็ ด้ อย่างไร ก็ตามเมื่อสามารถท�ำได้ การถอนท�ำด้วยความสมัครใจพร้อมกับการรักษาความลับและ ใช้การลวงให้มากทส่ี ุดเท่าท่จี ะท�ำได้ ค. มวี ธิ กี ารปฏบิ ตั กิ ารถอนตวั อยู่ 2 อยา่ งดว้ ยกนั คอื วธิ ถี อนตวั ในเวลากลางคนื และวิธถี อนตวั ในเวลากลางวนั (1) วิธีถอนตัวในเวลากลางคืนนั้นใช้กับเวลากลางคืน ในห้วงระยะเวลา ทัศนวิสัยเลว หรือเมื่อไม่ถกู บังคับจากข้าศึก เมื่อใช้วิธีการถอนตัวในเวลากลางคืนจะต้อง เหลือก�ำลังส่วนหน่ึงทิ้งไว้ในที่มั่นเพ่ือปฏิบัติให้เป็นไปตามปกติ ในขณะที่ก�ำลังส่วนใหญ่ ถอนตวั ไปยงั ข้างหลัง วธิ ีการเช่นนจ้ี ะช่วยในการรกั ษาความลับและการลวงได้ดีทสี่ ุด (2) วิธีการถอนตัวในเวลากลางวันนั้น ใช้เม่ือหน่วยถูกข้าศึกบีบบังคับ ใหถ้ อนตวั หนว่ ยผละจากการปะทะขา้ ศกึ ดว้ ยการตอ่ สไู้ ปยงั ขา้ งหลงั ผา่ นหรอื ออ้ มผา่ นหนว่ ย ซ่ึงทำ� หน้าท่กี �ำบงั การถอนตวั เวลากลางวนั ง. เมื่อถูกบีบบังคับจากข้าศึกให้ต้องถอนตัวในเวลากลางคืน การถอนตัวใน ลักษณะน้จี ะต้องใช้วิธีการถอนตวั เช่นเดยี วกบั ถอนตัวเวลากลางวนั จ. เมอ่ื หมวดทำ� การถอนตวั ในฐานะเปน็ สว่ นหนง่ึ ของกองรอ้ ยนนั้ จะใชว้ ธิ กี าร ถอนแบบใด ย่อมได้รบั ค�ำสง่ั จาก ผบ.ร้อย.

186 วชิ ายทุ ธวธิ ี 6. วิธกี ารถอนตวั ในเวลากลางคนื ก. การถอนตัวในเวลากลางคืนน้ัน กระท�ำเป็นความลับและใช้การลวงทุก ๆ หน่วยจากก�ำลังที่เหลือไว้ปะทะเท่านั้น เคลื่อนท่ีลงไปข้างหลัง ในเวลาเดียวกัน หน่วยที่ เหลอื ไวป้ ะทะทำ� หนา้ ทปี่ อ้ งกนั การถอนตวั ของกำ� ลงั สว่ นใหญด่ ว้ ยการลวงและการตา้ นทาน วิธีการถอนตัวในเวลากลางคืนน้ีอาจใช้ในระหว่างเวลากลางวันได้ในสภาพที่ทัศนวิสัยต่�ำ และไม่ถกู กดดนั จากข้าศกึ ข. หมวดทำ� การถอนตวั โดยเป็นก�ำลงั ส่วนหน่ึงของกองร้อย ค�ำสั่งการถอนตัว ของ ผบ.ร้อย.น้นั จะมีหัวข้อดงั ต่อไปนี้ คอื (1) เวลาในการถอนตวั เพอ่ื ประกนั การประสานการปฏบิ ตั ขิ องทกุ ๆ หนว่ ย จงึ ตอ้ งกำ� หนดเวลาเรม่ิ ถอนตวั ไว้ กำ� ลงั สว่ นใหญข่ องหมวดจะเรมิ่ เคลอื่ นทอ่ี อกจากทตี่ ง้ั ของ แต่ละบคุ คลเวลาทก่ี �ำหนดน้ี (2) ทร่ี วมพล ทรี่ วมพลของกองรอ้ ยจะกำ� หนดขนึ้ ขา้ งหลงั ทต่ี ง้ั ของหมวดหนนุ ผบ.ร้อย.จะก�ำหนดท่รี วมพลของหมวดขึ้น โดยให้ใกล้กับข้างหลังทตี่ ้ังของหมวดที่สุดเท่าท่ี จะท�ำได้ (3) เส้นทาง จะก�ำหนดเส้นทางจากที่รวมพลของหมวดไปยงั ท่รี วมพลของ กองร้อยไปยงั ต�ำบลต่อไป (4) สมทบอาวุธสนับสนุนให้กับหน่วยรับการสนับสนุน อาวุธสนับสนุน ซ่ึงตั้งอยู่ในพ้ืนที่ของหมวดใดให้สมทบกับหมวดน้ัน ๆ ทั้งน้ีเพ่ือให้การถอนตัวของอาวุธ นั้นสอดคล้องกับแผนการถอนตัว และเพื่อความม่ันใจในการป้องกันอาวุธนั้นในระหว่าง การปฏบิ ัตกิ ารถอนตัว (5) การปฏบิ ตั เิ มอ่ื ถกู ข้าศกึ เข้าตี ต้องวางแผนการปฏบิ ตั กิ ารตอบโต้ข้าศกึ ท่ีรบกวนการถอนตัวไว้ด้วย แผนเหล่าน้ีอาจได้แก่ การก�ำหนดเส้นทางส�ำรอง ก�ำหนด ที่รวมพลส�ำรองให้หมวดเข้าประจ�ำท่ีมั่นสกัดก้ันเพ่ือป้องกันการถอนตัวของก�ำลังส่วนใหญ่ การตีโต้ตอบเพอ่ื ช่วยหน่วยทถ่ี กู ตัดขาด หรอื ใช้วธิ ีการถอนตวั ในเวลากลางวันท่กี ล่าวไว้ใน ข้อ 10 ถึง 12 (6) กำ� ลังทเี่ หลอื ไว้ปะทะก�ำลังการประกอบกำ� ลัง และคำ� ส่งั ชี้แจงเกีย่ วกบั การปฏิบตั แิ ละการถอนตวั ของก�ำลังทเ่ี หลอื ไว้ปะทะ

(7) ภารกิจต่อจากการถอนตัวแล้ว ภารกิจท่ีจะให้ปฏิบัติต่อจากการ ิวชา ุยทธวิ ีธ 187 ถอนตวั นน้ั จะตอ้ งใหท้ ราบรายละเอยี ดมากทสี่ ดุ เทา่ ทส่ี ามารถกระทำ� ได้ ทงั้ น้ี เพอ่ื ใหส้ ามารถ วางแผนล่วงหน้าได้ ค. ผบ.หมวดอาศัยค�ำสั่งของ ผบ.ร้อย.เป็นหลักในการสั่งการของตน หัวข้อ สั่งการของ ผบ.หมวดนน้ั มดี ังต่อไปน้ี คือ (1) เวลาในการถอนตัว คือ เวลาท่ีทหารทุกคนเริ่มเคล่ือนที่ออกจากที่ต้ัง ของตนไปยงั ท่รี วมพลของหมู่น้นั ๆ (2) ทร่ี วมพลของหมตู่ า่ ง ๆ กำ� หนดทรี่ วมพลใหแ้ กห่ มตู่ า่ ง ๆ ในพนื้ ทข่ี า้ งหลงั ของที่ต้ังหมู่น้นั ๆ (3) เสน้ ทาง กำ� หนดเสน้ ทางใหแ้ ตล่ ะหมู่ จากทรี่ วมพลของหมไู่ ปทรี่ วมพล ของหมวด (4) สมทบอาวธุ สนบั สนนุ ให้กับหน่วยรบั การสนบั สนุน เพอ่ื ประกันในเร่ือง การปอ้ งกนั และการควบคมุ ระหวา่ งการปฏบิ ตั กิ ารถอนตวั ใหส้ มทบสว่ นตา่ ง ๆ ของหมปู่ นื กล ซงึ่ ตง้ั อยใู่ นพน้ื ทขี่ องหมปู่ นื เลก็ ใหก้ บั หมปู่ นื เลก็ นนั้ ๆ เมอ่ื เรม่ิ การถอนตวั ตามปกตแิ ลว้ หนว่ ย ขนาดของหมู่และตอนทส่ี มทบให้หมวดจะไม่สมทบต่อให้กับหมู่ปืนเลก็ (5) กำ� ลงั ทเ่ี หลอื ไว้ปะทะต้องแจ้งกำ� ลงั การประกอบกำ� ลงั และตวั ผู้บงั คบั บัญชาให้ทราบ ค�ำช้แี จงเก่ยี วกบั ภารกิจและแผนการถอนตวั ของก�ำลงั ท่เี หลือไว้ปะทะต้อง แจ้งให้ทราบโดยละเอยี ด (6) ภารกจิ ภารกจิ ที่ต้องปฏิบตั หิ ลังการถอนตวั แล้ว

ขอบหน้า ขา้ ศกึ ขอบหน้า พนื้ ที่ พืน้ ท่ี การรบ การรบ ส่วนเหลอื ไว้ปะทะ ส่วนเหลอื ไว้ปะทะ ทข่ีรอวงมหพมลู่ ทขรี่ อวงมหพมลู่ ทรี่ วมพล ทข่รี อวงมหพมลู่ ของหมู่ ขทอ่รี งวหมมพวลด ขทอรี่ งวหมมพวลด 188 วชิ ายทุ ธวธิ ี ส่วนเหลอื ไว้ปะทะ ทรี่ วมพล ทข่ีรอวงมหพมลู่ ของหมู่ ขทอี่รงวหมมพวลด ขอทงี่รกวอมงพรล้อย รูปท่ี 7 วธิ กี ารถอนตัวเวลากลางคืน

7. การวางแผนและการเตรยี มการ ิวชา ุยทธวิ ีธ 189 ก. เม่ือได้รับค�ำส่ังจาก ผบ.ร้อย.แล้ว ผบ.หมวดเร่ิมวางแผนของตนแล้วออก ค�ำสั่งเตรียมโดยเร็ว ใช้เวลากลางวันในการลาดตระเวนตรวจภูมิประเทศให้มากท่ีสุดเท่า ท่ีจะท�ำได้ ผบ.หมวดลาดตระเวนตรวจภูมิประเทศที่รวมพลของหมวดและเส้นทางไปยังที่ รวมพลของกองร้อย ผบ.หมวดเลอื กท่ีรวมพลของหมู่ต่าง ๆ และเส้นทางจากท่รี วมพลของ หมู่ไปยังที่รวมพลของหมวด ผบ.หมู่ลาดตระเวนตรวจเส้นทางจากท่ีต้ังหมู่ไปยังที่รวมพล ของหมู่ และจากทรี่ วมพลของหมไู่ ปยงั ทร่ี วมพลของหมวด ทหารภายในหมลู่ าดตระเวนเสน้ ทางจากท่ตี ัง้ ของตนไปยงั ท่รี วมพลของหมู่ ข. การลาดตระเวนที่ต้ังใหม่ข้างหลังน้ัน จะกระท�ำโดยพวกลาดตระเวน ตรวจภูมปิ ระเทศ ซึง่ ผบ.ร้อย.เป็นผู้กำ� หนดข้ึน ผบ.ลาดตระเวนตรวจภมู ปิ ระเทศนจี้ ะอยู่ใน ความควบคุมของ ผบ.หมวด ค.60 และจะออกเดินทางไปยังที่ตั้งใหม่โดยเร็วที่สุดเท่าที่ จะทำ� ได้หลังจากรบั ค�ำสั่งแล้วอย่างน้อยทส่ี ุด แต่ละหมวดปืนเล็กจะต้องมเี จ้าหน้าท่ีร่วมไป กับพวกลาดตระเวนตรวจภูมิประเทศด้วยหน่ึงนาย ซ่ึงโดยปกติแล้วจะเป็นนายสิบประจ�ำ หมวด, ผู้แทน ผบ.ร้อย.ในการลาดตระเวนตรวจภูมิประเทศ (ผบ.หมวด ค.60) จะเป็น ผู้กำ� หนดภารกจิ ของหมวดให้กบั ผู้แทนของหมวด ณ ท่ตี งั้ ใหม่ ผู้แทนของหมวดจะเลือกท่ี ต้งั ของหมู่ และอาวธุ ประจ�ำหน่วย ทีต่ งั้ ท่บี งั คับการและตรวจการณ์ของหมวด ท่ตี ั้งสำ� หรบั การระวังป้องกันเฉพาะต�ำบล ผู้แทนของหมวดจะพบกับหมวดและก�ำลังท่ีเหลือไว้ปะทะ ณ จุดแยกหน่วยท่ไี ด้ก�ำหนดไว้แล้วนำ� เข้าสู่ท่ตี ัง้ ใหม่ 8. ก�ำ ลังสว่ นท่เี หลอื ไวป้ ะทะ ก. ภารกจิ ของกำ� ลงั สว่ นทเ่ี หลอื ไวป้ ะทะกค็ อื ปอ้ งกนั การถอนตวั ของสว่ นใหญ่ กำ� ลงั ของสว่ นทเ่ี หลอื ไวป้ ะทะน้ี ผบ.รอ้ ย.เปน็ ผกู้ ำ� หนดให้ ตามปกตแิ ลว้ กำ� ลงั สว่ นทเี่ หลอื ไว้ ปะทะของหมวดจะประกอบด้วยก�ำลังหนึ่งหมู่ปืนเล็ก และคร้ังหนึ่งของอาวุธประจ�ำหน่วย ในบังคับบัญชาของ ผบ.หมู่ปืนเล็ก หมู่ปืนเล็กท่ีจะก�ำหนดให้เป็นส่วนเหลือไว้ปะทะนั้น ตามปกตจิ ะกำ� หนดหมซู่ ง่ึ อยใู่ นยา่ นกลาง ทง้ั นเี้ พอื่ ลดการเคลอื่ นยา้ ยทางขา้ งใหน้ อ้ ยลง อาวธุ ประจำ� หนว่ ยทจี่ ะกำ� หนดเปน็ สว่ นทเี่ หลอื ไวป้ ะทะนน้ั จะเลอื กอาวธุ ซง่ึ ตงั้ ยงิ ไวม้ พี นื้ ยงิ ดที ส่ี ดุ ข. เมื่อเริ่มการถอนตัว ก�ำลังส่วนท่ีเหลือไว้ปะทะจะเคล่ือนย้ายเข้าท่ีตั้งซึ่ง สามารถสกดั กน้ั แนวทางเคลอื่ นทซี่ ง่ึ เป็นทอ่ี นั ตรายทสี่ ดุ ต่อทตี่ งั้ ของหม่ปู ืนกล จะได้รบั มอบ

190 วชิ ายทุ ธวธิ ี เขตการยิงให้ปฏบิ ัตภิ ารกจิ ตามปกตแิ ล้ว รอง ผบ.ร้อย.จะเป็นผู้ได้รบั มอบให้บังคับบัญชา ก�ำลังส่วนที่เหลอื ไวป้ ะทะของกองรอ้ ย ผบ.หมทู่ บ่ี งั คบั บญั ชาสว่ นทเี่ หลอื ไวป้ ะทะของหมวด จะขนึ้ อยใู่ นบงั คบั บญั ชาและรบั คำ� สงั่ จาก ผบ.สว่ นทเี่ หลอื ไวป้ ะทะของกองรอ้ ยตง้ั แตก่ องรอ้ ย เรมิ่ ถอนตวั ค. ถ้าปรากฏว่าข้าศึกมีการใช้ยานเกราะ หรือมีการเคลื่อนย้ายของรถถังและ อาวุธต่อสู้รถถัง ซ่ึงติดตั้งบนยานพาหนะ จะท�ำให้เกิดเสียงจนเสียการรักษาความลับและ การลวงแล้ว อาวธุ เหล่านอ้ี าจท้ิงไว้กับส่วนทีเ่ หลอื ไว้ปะทะก็ได้ ง. เมอื่ หน่วยมี รสพ.อยู่ตามปกติ จะสมทบให้กับส่วนท่ีเหลอื ไว้ปะทะ รสพ.น้ี ควรจะให้อยู่ในท่ีตั้งก่อนข้ึนมาข้างหน้าเพ่ือให้ส่วนที่เหลือไว้ปะทะสามารถบรรทุก และ เคลื่อนทม่ี าข้างหลงั ได้อย่างรวดเรว็ หลังเสร็จภารกจิ ของตนแล้ว จ. ผบ.ของส่วนท่เี หลอื ไว้ปะทะของหมวดจะใช้โทรศพั ท์ วิทยุ และพลน�ำสาร ในการตดิ ตอ่ กบั ผบ.สว่ นทเ่ี หลอื ไวป้ ะทะของกองรอ้ ย เครอ่ื งมอื ตดิ ตอ่ สอ่ื สารในการควบคมุ การปฏิบัติของส่วนที่เหลือไว้ปะทะน้ัน ได้แก่ โทรศัพท์ วิทยุเสียง และทัศนสัญญาณ เครอ่ื งมอื ตดิ ตอ่ สอื่ สาร ซง่ึ ใชอ้ ยใู่ นทม่ี น่ั เดมิ คงด�ำรงไวใ้ หม้ อี ยา่ งเดมิ ในทมี่ น่ั เดมิ นนั้ ใหเ้ หลอื เจา้ หนา้ ทต่ี ดิ ตอ่ สอ่ื สารไวใ้ หน้ อ้ ยทส่ี ดุ เพยี งเพอ่ื ใชร้ ะบบการตดิ ตอ่ สอื่ สารสำ� หรบั สว่ นทเี่ หลอื ไว้ปะทะเท่านน้ั ถ้าสามารถทำ� ได้ สายโทรศพั ท์ทีไ่ ม่ใช้งานให้พยายามร้ือถอนเก็บเสยี หรอื ตัดออกเป็นช่วง ๆ เพื่อป้องกันข้าศึกใช้มาตรการในการลวงน้ัน รวมถึงการใช้สถานีวิทยุ ปลอม และทำ� การติดต่อทางวทิ ยุตามปกตใิ นทม่ี น่ั เดมิ ฉ. เครอื่ งมอื อนิ ฟราเรด เรดาร์ กลอ้ งสอ่ งตาและเครอ่ื งมอื เฝา้ ตรวจในเวลากลางคนื อน่ื ๆ จะช่วยส่วนท่ีเหลือไว้ปะทะในการตรวจการเคล่ือนไหวของข้าศกึ และปรับการเล็งให้ กบั อาวุธเลง็ ตรง และเลง็ จ�ำลองได้มาก ช. ส่วนท่ีเหลือไว้ปะทะจากหมวดหนุนของกองร้อย ในแนวหน้าอาจใช้ในการ ลาดตระเวนข้างหน้า หรอื ให้อยู่ในทีม่ ่ันเดิม เพือ่ เพ่ิมความลกึ ให้กบั ทีม่ ั่น 9. การปฏบิ ัตกิ ารถอนตวั ในเวลากลางคนื ก. ก�ำลังท้ังหมดของกองร้อย ยกเว้นส่วนท่ีเหลือไว้ปะทะเริ่มเคลื่อนที่ไปข้าง หลังตามเวลาท่ีก�ำหนด ทหารเคล่ือนที่ไปยังท่ีรวมพลของหมู่ หมู่เคล่ือนที่ไปยังท่ีรวมพล ของหมวด หมวดเคลอ่ื นทีไ่ ปยงั ทรี่ วมพลของกองร้อย และกองร้อยเคลอ่ื นท่ไี ปยงั ทีร่ วมพล หรือต�ำบลควบคมุ ของกองพัน

ข. เพ่ือความสะดวกในการควบคุม ทุกระดับหน่วยจะใช้รูปขบวนแถวตอน ิวชา ุยทธวิ ีธ 191 ตามปกติ ผบ.ร้อย.จะส่ังให้หมวดเคล่ือนที่ต่อไปข้างหลังในทันทีท่ีหมวดถึงท่ีรวมพลของ กองร้อย ตลอดทั้งข้ันตอนของการเคล่ือนท่ีนี้หมวดจะต้องจัดการระวังป้องกันข้างหน้า ทางปีกและทางหลงั ตลอดเวลา ค. เมอ่ื ทำ� การถอนตวั โดยใชย้ านพาหนะ ผบ.หมวดจะทำ� แผนการบรรทกุ หมวด ของตนไว้ล่วงหน้าและจ่ายให้กบั ผบ.หน่วยรองของตน เมื่อสามารถท�ำได้จะต้องจัดทหาร หนง่ึ นายจากหมวดทจี่ ะบรรทกุ ยานพาหนะใหท้ ราบทตี่ ง้ั ของตน พาหนะ และเปน็ ผนู้ ำ� หมวด ไปบรรทกุ ยานพาหนะโดยไม่ชกั ช้า จะต้องระมดั ระวงั ให้เกดิ เสยี งดงั โดยไม่จำ� เป็นน้อยทสี่ ดุ การใช้แสงสว่างหรอื การชกั ช้าในการบรรทกุ และการเรม่ิ เคล่อื นทตี่ ้องมนี ้อยที่สดุ จะต้องมี แผนในการป้องกนั ข้างหน้าทางปีกและทางหลังในขณะบรรทุกอยู่บนยานพาหนะ และการ ปฏบิ ตั ทิ ตี่ อ้ งกระทำ� เมอ่ื ขา้ ศกึ บบี บงั คบั ใหส้ ง่ จากยานพาหนะ เมอ่ื ยานพาหนะในขบวนตอ้ ง หยุดลง ผบ.หมวดจะต้องเคลื่อนท่ีไปข้างหน้าเพื่อพิจารณาสาเหตทุ ่ีต้องชักช้าลงและแก้ไข สาเหตุน้นั เพอื่ ให้การเคลอ่ื นทีไ่ ปข้างหลังไม่ชะงกั ชกั ช้าลง ง. เมื่อก�ำลังส่วนใหญ่เริ่มถอนตัว ส่วนเหลือไว้ปะทะเคลื่อนท่ีเข้าประจ�ำที่ต้ัง ซงึ่ ไดเ้ ลอื กไวแ้ ลว้ และทำ� การปอ้ งกนั การถอนตวั ของสว่ นใหญโ่ ดยการลวงและการตา้ นทาน ใช้การยงิ ของอาวธุ เลง็ ตรงและเลง็ จำ� ลองทมี่ อี ยทู่ ง้ั มวลอยา่ งสงู สดุ ถา้ สว่ นซง่ึ เหลอื ไว้ปะทะ ของหมวดถูกบีบบังคับจากข้าศึกจนต้องละทิ้งท่ีม่ันของตนจะต้องต่อสู้ไปยังข้างหลังและ หน่วงเหนี่ยวข้าศึกไว้จนสุดความสามารถเพื่อป้องกันการเคลื่อนที่ไปข้างหลังของก�ำลัง สว่ นใหญ่ เมอ่ื สว่ นทเ่ี หลอื ไวป้ ะทะปฏบิ ตั ภิ ารกจิ ของตนเสรจ็ สน้ิ ลง จะไดร้ บั คำ� สงั่ ใหถ้ อนตวั ไปข้างหลัง ส่วนเหลือไว้ปะทะของหมวดถอนตัวไปยังที่รวมพลของหมวดแล้ว ต่อไปยังที่ รวมพลของกองร้อยการปฏบิ ตั กิ ารเคลอื่ นย้ายน้จี ะปฏิบตั ิด้วยความรวดเรว็ และถ้ามี รสพ. ก็จะใช้ในการน้ดี ้วยอาวธุ ยิงเล็งจ�ำลอง และควนั จะใช้ช่วยในการถอนตัวของส่วนที่เหลือไว้ ปะทะได้เป็นอย่างดี จะต้องพยายามทุกวิถีทางท่ีจะให้ส่วนที่เหลือไว้ปะทะได้เคลื่อนท่ีไป ข้างหลงั โดยถึงท่ีตัง้ ใหม่ก่อนสว่าง จ. ท้ังก�ำลังส่วนใหญ่และส่วนที่เหลือไว้ปะทะจะมีผู้น�ำทางน�ำไปข้างหลังจาก ท่ีรวมพลของกองร้อยถึงจุดแยกหมวด ตัวแทนของ ผบ.หมวดในการลาดตระเวนตรวจ ภมู ปิ ระเทศจะมาพบทง้ั กำ� ลงั สว่ นใหญแ่ ละสว่ นทเี่ หลอื ไวป้ ะทะทจ่ี ดุ แยกหมวด เพอ่ื นำ� เขา้ สู่ ทต่ี ง้ั โดยตอ้ งไมใ่ หเ้ สยี เวลาชกั ชา้ ในการเคลอ่ื นทผี่ า่ นจดุ แยกหนว่ ยไปตวั แทนของ ผบ.หมวด ในการตรวจภมู ปิ ระเทศอาจได้วางแผนการยงิ ขนั้ ตน้ ไว้ ณ ทม่ี น่ั ใหม่ ซง่ึ จะต้องแจง้ แผนนใ้ี ห้ ผบ.หมวด และ ผบ.หมู่ต่าง ๆ ทราบรายละเอยี ดของแผนให้มากท่สี ดุ เท่าท่จี ะท�ำได้

192 วชิ ายทุ ธวธิ ี 10. วธิ ถี อนตัวเวลากลางวัน ก. การถอนตวั เวลากลางวนั เปน็ การปฏบิ ตั กิ ารของหนว่ ยในแนวหนา้ ทท่ี ำ� การ สู้รบลงมาข้างหลัง โดยหน่วยซ่ึงต้ังอยู่ข้างหลังท�ำการคุ้มครองการถอนตัวให้ขนาดความ กดดนั ของขา้ ศกึ จะเปน็ ปจั จยั บงั คบั ใหเ้ ลอื กวธิ กี ารถอนตวั ดขู อ้ 13 การถอนตวั เวลากลางวนั นนั้ ไม่เป็นสง่ิ ที่พงึ ประสงค์ แต่อาจต้องกระท�ำโดยถกู บีบบงั คบั จากการปฏบิ ัตขิ องข้าศกึ ข. ตามปกตหิ มวดจะทำ� การถอนตวั ในเวลากลางวนั ในฐานะเปน็ สว่ นหนงึ่ ของ กองร้อย ค�ำสั่งถอนตวั เวลากลางวนั ของ ผบ.ร้อย.นน้ั ประกอบด้วยหัวข้อดงั ต่อไปนท้ี ั้งหมด หรอื เป็นบางส่วน (1) เวลาทเี่ รมิ่ ถอนตวั เวลานมี้ กั จะไมท่ ราบลว่ งหนา้ และการถอนตวั จะเรม่ิ เมื่อรบั ค�ำสงั่ (2) ล�ำดับการถอนตัวของหมวด ถ้าสถานการณ์และลักษณะภูมิประเทศ บีบบังคับ ให้หน่ึงหรือสองหมวดยังคงประจำ� อยู่ในที่มั่นชั่วระยะเวลาหน่ึงเพ่ือป้องกันการ ถอนตวั ของหมวดอน่ื ๆ ในแนวหน้า ตามปกตหิ มวดซึง่ ตดิ พันกบั ข้าศกึ น้อยที่สดุ เป็นหน่วย ถอนตัวหน่วยแรก (3) เขตการถอนตวั ของแตล่ ะหมวดตามปกตหิ มวดจะไดร้ บั มอบเขตในการ ถอนตัว ซึ่งขยายไกลลงไปทางหลังตามท่ีคาดว่าหมวดจะต้องใช้ในการปฏิบัติการในกรณี ที่หมวดมีความจ�ำเป็นต้องท�ำการต่อสู้เพื่อไปข้างหลังแล้ว การปฏิบัติน้ันต้องท�ำภายใน เขตของตน (4) เส้นทางถอนตัวของหมวดภายในเขตของหมวด หมวดจะได้รับมอบ เส้นทางถอนตวั จากทร่ี วมพลของหมวดไปยงั ทีร่ วมพลของกองร้อย (5) ใช้ขั้นการเคล่ือนที่เพ่ือควบคุมการปฏิบัติ ขั้นการเคล่ือนที่น้ีคือ แนวทตี่ ง้ั ฉากกับทิศทางเคลอ่ื นท่ี และเป็นลักษณะภูมปิ ระเทศทส่ี งั เกตได้ง่ายทางพื้นดิน (6) ทตี่ ง้ั รวมพล ทรี่ วมพลของกองรอ้ ยนนั้ ตามปกตจิ ะอยขู่ า้ งหลงั สว่ นกำ� ลงั ของกองพนั ผบ.ร้อย.เลอื กทีร่ วมพลของหมวดข้างหลงั ส่วนก�ำบงั ของกองร้อย (7) การสมทบอาวธุ สนบั สนนุ ให้กบั หน่วยรบั การสนบั สนนุ ตามปกตอิ าวธุ สนับสนนุ เช่น อาวธุ ต่อสู้รถถงั เป็นต้น ต้ังอยู่ในพืน้ ท่ขี องหมวดใดให้สมทบให้กับหมวดน้นั เรม่ิ ต้นการถอนตวั

(8) ค�ำช้ีแจงในการเข้าประจ�ำท่ีตั้ง และการปฏิบัติของส่วนก�ำบังของ ิวชา ุยทธวิ ีธ 193 กองร้อย (9) ภารกิจทต่ี ้องปฏบิ ตั ิต่อจากการถอนตัวแล้ว ค. โดยอาศัยค�ำส่ังของ ผบ.ร้อย.เป็นหลัก ผบ.หมวดจะสั่งการตามหัวข้อ ต่อไปน้ีคอื (1) เวลาท่ีหมวดเร่ิมเคล่ือนย้ายไปข้างหลัง โดยปกติแล้วมักจะไม่ทราบ ล่วงหน้า และการปฏบิ ัตมิ กั จะเรม่ิ ตามค�ำสงั่ (2) วธิ ถี อนตวั ทห่ี มวดจะใช้ (3) จดุ นดั พบ ผบ.หมวดจะเลอื กจดุ นดั พบใหแ้ กห่ มตู่ า่ ง ๆ ใกล้ ๆ กบั ขา้ งหลงั ทตี่ ง้ั ของหมนู่ น้ั ๆ ณ จดุ นดั พบนนั้ ผบ.หมจู่ ะเรม่ิ ควบคมุ หมขู่ องตนได้ และถา้ เกดิ ความจำ� เปน็ ขน้ึ จะเตรยี มการเพอ่ื ส้รู บต่อไป ณ ตำ� บลนใ้ี หใ้ ชเ้ วลาอยู่ ณ จดุ นดั พบนน้ี อ้ ยทสี่ ดุ เทา่ ทจี่ ะท�ำได้ เลือกจุดนัดพบเพม่ิ เติมไว้ส�ำหรับหมู่และหมวดตามเส้นทางถอนตวั ของหมู่และหมวด (4) ผบ.รอ้ ย.เปน็ ผกู้ ำ� หนดทร่ี วมพลของหมวด ณ ตำ� บลน้ี หมวดจะขาดการ ปะทะกับข้าศกึ และเคล่ือนที่ต่อไปข้างหลงั โดยเรว็ (5) เสน้ ทางถอนตวั สำ� หรบั หมู่ ผบ.หมวดเลอื กเสน้ ทางทตี่ งั้ หมไู่ ปยงั ทรี่ วมพล ของหมวด เส้นทางเหล่าน้ตี ้องอยู่ภายในเขตของหมวด (6) การสมทบอาวธุ สนบั สนนุ ใหห้ มปู่ นื เลก็ เมอ่ื การถอนตวั เรม่ิ ตน้ สว่ นตา่ ง ๆ ของหมู่ปืนกลที่ตั้งอยู่ในพ้ืนที่ของหมู่ปืนเล็กให้สมทบให้กับหมู่ปืนเล็กน้ัน เพ่ือประกัน ในเรอ่ื งการประสานงาน และการควบคมุ หน่วย ซง่ึ สมทบให้กบั หมวดตามปกตจิ ะไม่สมทบ ต่อให้กับหมู่ปืนเลก็ (7) ภารกจิ ท่จี ะต้องปฏิบัตติ ่อจากการถอนตวั แล้ว

ขอบหน้าพ้นื ที่ ขอบหน้าพน้ื ท่ี การรบ การรบ จขุดอนงัดหพมบู่ จขดุ อนงัดหพมบู่ จขดุ อนงัดหพมบู่ จขดุ อนงดั หพมบู่ จขุดอนงัดหพมบู่ จขดุ อนงัดหพมบู่ 194 วชิ ายทุ ธวธิ ี ทร่ี วมพล หมวดหนนุ ส่วนก�ำบัง ทรี่ วมพล ของหมวด ของกองร้อยป้องกนั การถอนตวั ของหมวด ให้กบั หมวดในแนวหน้า จขุดอนงดั หพมบู่ จขดุ อนงัดหพมบู่ จขุดอนงดัหพมบู่ ส่วนกำ� บงั ของกองพนั ป้องกนั การถอนตวั ของหมวดหนนุ ของกองร้อยในแนวหน้า จดุ นัดพบของหมู่ ท่ีรวมพล อาจใช้หรอื ไม่ใช้ก็ได้ ของกองร้อย รปู ที่ 8 วิธีการถอนตัวเวลากลางวัน

11. การวางแผนและการเตรียมทหาร ิวชา ุยทธวิ ีธ 195 ก. การวางแผนน้ันท�ำโดยละเอียดที่สุดเท่าท่ีเวลาจะอ�ำนวยให้ ผบ.หน่วยทุก นายต้องลาดตระเวนตรวจภูมิประเทศอย่างถ่ีถ้วน ส�ำหรับเส้นทางถอนตัวเขตการถอนตัว ทีต่ ง้ั ขนั้ ต่อไป จุดนัดพบและทร่ี วมพล เวลามักจะอำ� นวยให้เพียงได้ตรวจภูมปิ ระเทศอย่าง จ�ำกัดเท่านั้น จึงต้องใช้พวกลาดตระเวนตรวจภูมิประเทศอย่างสูงสุด ผบ.หมวดต้องออก ค�ำส่ังเตือนให้เร็วที่สุดเท่าที่จะท�ำได้ ท้ังน้ี เพื่อให้ ผบ.หน่วยรองของตนสามารถวางแผน และลาดตระเวนตรวจภมู ปิ ระเทศพร้อม ๆ กับตน ใช้ค�ำสงั่ เป็นส่วน ๆ ตามแผนท่ไี ด้ทำ� ไว้ ข. ในการสั่งการของ ผบ.หมวดจะต้องควบคุมในเร่ืองต่อไปนี้ทั้งหมด คือ กำ� หนดวธิ กี ารถอนตวั เสน้ ทางถอนตวั ของหมู่ จดุ นดั พบขนั้ ตน้ ของหม,ู่ จดุ นดั พบของหมวด รปู ขบวนท่จี ะใช้เม่ือผละจากการปะทะกับข้าศึกได้แล้ว และแผนส�ำรองเพอ่ื ความอ่อนตวั ค. รถถังอาจป้องกันการเคล่ือนที่ของหมวดข้างหลังหมวดอาจถอนตัวไปกับ หมวดหรอื เคล่อื นท่ีไปยงั ท่ตี ้งั ข้างหลัง เพ่อื สนบั สนนุ การถอนตวั กไ็ ด้ ง. เม่ือมี รสพ.อยู่ ให้เข้าท่ตี ัง้ ข้ึนไปข้างหลงั ที่สดุ เท่าท่จี ะท�ำได้ และอยู่ในทีต่ ัง้ ในลักษณะบังตัวเพ่ือให้สามารถสนับสนุนการถอนตัวด้วยการยิงได้ เมื่อได้บรรทุกทหาร เรียบร้อยแล้วให้เร่มิ เคลอ่ื นทไ่ี ปข้างหลงั อย่างรวดเรว็ 12. ส่วนก�ำ บัง ก. หมวดหนุนท�ำหน้าที่เป็นส่วนก�ำบังของกองร้อย หมวดหนุนคงอยู่ในที่ม่ัน จนกว่าหมวดในแนวหน้าจะถอนตัวผ่านไปส่วนก�ำบังป้องกันการถอนตัวของหมวด ในแนวหน้าด้วยการยงิ อาวุธสนับสนุน เช่น รถถังตามปกติจะขาดจากการสมทบของหมวด ในแนวหน้าเมอ่ื ถอนตวั ข้างหลังของส่วนก�ำลงั และอาวธุ เหล่าน้ใี ห้สมทบให้กบั ส่วนก�ำบัง ข. สว่ นกำ� บงั อาจคงอยใู่ นทม่ี นั่ ดดั แปลงเดมิ ของตน หรอื เคลอื่ นทไี่ ปยงั ทตี่ งั้ ใหม่ ทอ่ี ำ� นวยใหท้ ำ� การปอ้ งกนั การถอนตวั ของหมวดในแนวหนา้ เมอ่ื หมวดในแนวหนา้ ไดเ้ คลอ่ื นที่ ห่างไปข้างหลังเพียงพอแล้ว ผบ.ร้อย.จะส่ังให้ส่วนก�ำบังถอนตัวไปข้างหลังส่วนก�ำบังของ กองพนั 13. การปฏบิ ัติการถอนตัวเวลากลางวนั ก. ผบ.ร้อย.อาจสั่งถอนตัวหมวดในแนวหน้าพร้อม ๆ กัน หรือส่ังให้หมวด ซงึ่ ปะทะตดิ พนั กบั ข้าศกึ น้อยทส่ี ดุ ถอนตัวก่อนได้ ท้ังน้ีย่อมขน้ึ อยู่กับสถานการณ์หมวดเรมิ่

196 วชิ ายทุ ธวธิ ี ถอนตวั เมอ่ื รบั คำ� สง่ั ตามปกตแิ ลว้ หมซู่ ง่ึ ปะทะตดิ พนั กบั ขา้ ศกึ นอ้ ยทส่ี ดุ และอาวธุ สนบั สนนุ จะถอนตวั ก่อนหน่วยอ่นื การยิงของอาวุธยงิ เลง็ ตรงและเลง็ จำ� ลอง รวมทัง้ การใช้ควันด้วย จะช่วยในการถอนตวั ได้เป็นอย่างดี ข. เมื่อถูกกดดันอย่างหนักจากข้าศึก หมวดจะต้องต่อสู้เพ่ือถอนตัวไปยัง ขา้ งหลงั การควบคมุ ในหว้ งเวลานถ้ี อื วา่ เปน็ สง่ิ สำ� คญั มาก หมวดดำ� เนนิ กลยทุ ธไ์ ปยงั ขา้ งหลงั โดยการคอ่ ย ๆ ทยอยออกจากแนวไป หมวดอาจใชว้ ธิ กี ารสามวธิ ดี ว้ ยกนั ในการถอนตวั จาก ทมี่ นั่ หรอื ดำ� เนนิ กลยทุ ธไ์ ปขา้ งหลงั วธิ กี ารทงั้ สามนนั้ ไดก้ ลา่ วไวใ้ นตอนตอ่ ไปแลว้ และถอื วา่ เป็นเพียงแนวทางเท่านั้น วิธีการที่จะใช้นั้นย่อมแตกต่างกันไปตามสถานการณ์และ ภูมิประเทศ ในแต่ละวิธีการ นายสิบประจ�ำหมวดจะถอนตัวก่อนเพื่อประสานการปฏิบัติ ของทหารแต่ละบคุ คลและก�ำลังส่วนต่าง ๆ ในขณะทถี่ อนตัว ส่วน ผบ.หมวดน้ันคงอยู่ใน ทมี่ ่นั จนกว่าส่วนต่าง ๆ จะได้ถอนตวั ไปหมดแล้ว (1) การถอนตัวโดยการทยอยกันออกไปจากแนวอาวุธกล ถอนตวั หลงั สุด เม่ือใช้วิธีการนี้ทหารท่ีถืออาวุธปืนเล็กถอนตัวก่อน อาวุธของหมู่ถอนตัวลำ� ดับต่อไป แล้ว จึงถอนตัวของหน่วยปืนกล ผบ.หมู่ถอนตัวพร้อมกบั ส่วนสดุ ท้ายของหมู่เมื่อใช้ รสพ.ควรให้ อยู่ ณ ทซี่ ง่ึ สามารถใชป้ นื กลทต่ี ดิ ตง้ั บนรถไดแ้ ละสะดวกในการบรรทกุ ทหารดว้ ย อาวธุ ตอ่ สู้ รถถังจะทำ� การถอนตวั เมอ่ื ใดก็ได้ ทง้ั นี้ ย่อมแล้วแต่ขดี ความสามารถของยานเกราะข้าศึก ในขณะท่ีหน่วยหน่ึงได้ถอนตัวออกไป หน่วยท่ีเหลือในท่ีม่ันต้องเพ่ิมอัตราการยิงของตน เพื่อป้องกนั ข้าศกึ ท�ำลายทม่ี น่ั หมู่ถอนตวั ไปยงั จุดนดั พบของหมู่หรอื ยงั ทม่ี น่ั ต่อไปข้างหลงั วิธีการน้ีอ�ำนวยการให้สามารถใช้อ�ำนาจการยิงได้อย่างสูงสุดตลอดที่มั่นของหมวด ในระหว่างการปฏบิ ตั ิการถอนตวั จากท่มี นั่ (2) ถอนตัวโดยการด�ำเนินกลยุทธ์ของหมู่ เม่ือใช้วิธีน้ีจะด�ำเนินการโดย ใหก้ ำ� ลงั หนง่ึ หมสู่ มทบดว้ ยอาวธุ ประจำ� หนว่ ยคงประจำ� อยู่ ณ ทม่ี นั่ ทำ� หนา้ ทเ่ี ปน็ กองระวงั หลังขณะที่ส่วนอ่ืน ๆ ของหมู่ถอนตัวไปข้างหลัง กองระวังหลังจะถอนตัวเม่ือส่วนอื่น ๆ ของหมวดถงึ ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศตอ่ ไปขา้ งหลงั แลว้ หรอื กระชน้ั ชดิ อาจมคี วามจำ� เปน็ สำ� หรบั หมวดที่จะต้องท�ำการต่อสู้ไปข้างหลังโดยใช้หมู่ต่าง ๆ และอาวุธประจ�ำหน่วย ท�ำการ ถอนตัวสลับกันไป หน่วยต่าง ๆ ของหมวดอาจใช้ รสพ.ในการถอนตัวก็ได้ ถ้ามีจ�ำนวน รสพ. อยู่จ�ำกัด หมู่ซึ่งมีหน้าท่ีเป็นกองระวังหลังจะได้รับล�ำดับความเร่งด่วนในการใช้ก่อน หน่วยอน่ื ๆ เมอื่ มรี ถถงั อยู่ด้วยควรให้รถถังคงอยู่กองระวงั หลัง หรอื ให้เข้าท่ตี ้ังเพ่อื ป้องกนั

การถอนตัวของกองระวังหลัง หมวดที่ท�ำหน้าท่ีกองระวังหลังต้องให้สามารถคุ้มครอง ิวชา ุยทธวิ ีธ 197 เส้นทางเคลื่อนท่ีท้ังมวลท่ีมุ่งเข้าสู่ที่ตั้งของหมวดด้วยการยิงได้ ท้ังน้ีเพ่ือป้องกันข้าศึกเข้า ท�ำลายท่มี ่นั และโอบปีกกองระวงั หลงั (3) การถอนตวั โดยการดำ� เนินกลยทุ ธ์ของชดุ ยิง เมอื่ ใช้วธิ นี ี้จะด�ำเนนิ การ โดยใหห้ นงึ่ ชดุ ของแตล่ ะหมเู่ คลอ่ื นทไี่ ปเขา้ ทตี่ งั้ หลงั ณ ทต่ี ง้ั นใ้ี หส้ ามารถสนบั สนนุ การถอนตวั ของชุดยิงซึ่งเหลืออยู่ในท่ีมั่นได้ พวกปืนกลคงถอนตัวลงไปข้างหลังโดยสลับกันไป เช่นเดยี วกนั ชดุ ยงิ อาวธุ ต่อสู้รถถงั นนั้ จะถอนตวั เมอื่ ใดย่อมแล้วแต่สถานการณ์ เมอื่ มรี ถถงั อยดู่ ว้ ยใหร้ ถถงั ประจำ� อยใู่ นทมี่ นั่ รว่ มกบั ส่วนของหมวดทปี่ ะทะกบั ขา้ ศกึ วธิ กี ารนจี้ ะใชไ้ ด้ดี ทส่ี ดุ เมอื่ อยชู่ ดิ กบั ขา้ ศกึ มาก และคาดวา่ ขา้ ศกึ จะทำ� การไลต่ ดิ ตามการถอนตวั สำ� หรบั รสพ. นัน้ ควรใช้ต้งั อยู่ในภูมปิ ระเทศข้างหลงั ท่ีสามารถใช้ปืนกลป้องกนั ส่วนต่าง ๆ ของหมวดใน ขณะถอนตวั ได้ ค. ณ จุดนดั พบ หมู่และหมวดจะหยดุ ลงเพียงให้กลบั ทำ� การควบคุมหน่วยได้ ตามเดิมเท่านั้น หมวดจะไม่รวมตัวกันจนกว่าจะถึงท่ีรวมพลของหมวดหรือท่ีต้ังต่อไป การยิงและการด�ำเนินกลยุทธ์น้ันควรจะใช้จนถึงเมื่อหมวดมีเสรีในการเคล่ือนท่ีเท่าน้ัน หลงั จากนนั้ แลว้ หมวดเคลอ่ื นทโี่ ดยเรว็ โดยรปู ขบวนรบซง่ึ ใหก้ ารระวงั ปอ้ งกนั ดที ง้ั หนา้ ทางปกี และทางหลงั ง. หน่วยท่ีท�ำการถอนตัวจะต้องระมัดระวังไม่ให้ไปบังทางยิงของหน่วยกำ� บัง ซง่ึ อยู่ข้างหลงั รถถงั ทท่ี ำ� การถอนตวั ให้ทำ� การยงิ ต่อข้าศกึ ในระหว่างการถอนตวั ด้วยหมวด รวบรวมกนั ขนึ้ ณ ทร่ี วมพลของหมวด แลว้ เคลอื่ นทไี่ ปยงั ทรี่ วมพลของกองรอ้ ยโดยเรว็ ทรี่ วมพล กองร้อยน้ี โดยปกติจะอยู่ข้างหลังของส่วนก�ำบังของกองพัน เมื่อหมวดในแนวหน้าถอน ตัวเสร็จแล้วส่วนก�ำบังของกองร้อยจะถอนตัวไปข้างหลังส่วนก�ำบังของกองพันในลักษณะ เชน่ เดยี วกบั หมวดในแนวหนา้ เมอื่ ถงึ ทรี่ วมพลของกองรอ้ ย หมวดแตล่ ะหมวดอาจถกู สง่ ไป เข้าประจ�ำที่ท่กี ำ� หนดให้ต่อไปกไ็ ด้

198 วชิ ายทุ ธวธิ ี ตอนท่ี 4 หมูป่ นื กลในการต้งั รับ 1. กลา่ วนำ� นศท.ไดเ้ คยรบั การศกึ ษาเรอื่ งอาวธุ ตา่ ง ๆ ทม่ี ใี ชอ้ ยใู่ นกองทพั บกขณะน้ี ซงึ่ อาวธุ แตล่ ะชนดิ ยอ่ มมอี านภุ าพ และการใชแ้ ตกตา่ งกนั ไป อาวธุ บางชนดิ ใชแ้ ทนกนั ได้ แตไ่ ดผ้ ลไม่ เท่ากัน เช่น ปล.เมื่อติดขาทำ� การยงิ เหมือนปืนกล 58 (Mag 58) จะให้แม่นย�ำและยงิ ได้ไกล อย่าง ปก.38 ไม่ได้ เป็นต้น ดงั น้นั การใช้อาวุธยงิ ทำ� ลายทห่ี มายจึงต้องพจิ ารณาให้คุ้มค่า และได้ผลมากท่สี ุด นศท.ได้เคยศกึ ษาถงึ การจดั มว.ปล.มาแล้ว ซงึ่ มี 3 หม่ปู ืนเลก็ และ 1 หมปู่ ืนกล ซงึ่ มีปืนกลอยู่ 2 กระบอก หมู่ปืนกลนีม้ ีบทบาทสำ� คัญมากสำ� หรบั มว.ปืนเล็กทจ่ี ะช่วยให้ ภารกจิ ของ มว.ปล.บรรลผุ ล ซง่ึ จะใชห้ มปู่ นื กลอยา่ งไรนน้ั นศท.จะไดเ้ รยี นในเรอ่ื งหมปู่ นื กล ในการต้งั รับนี้ 2. กล่าวท่ัวไป ก. ภารกิจ ปืนกลถือว่าเป็นอาวุธยิงสนับสนุนหลักท่ีมีอยู่ในอัตราของหมวด ปนื เลก็ ในการตงั้ รบั จงึ มภี ารกจิ เพม่ิ เตมิ อำ� นาจการยงิ ใหก้ บั หมวดปนื เลก็ เพอ่ื หยดุ ขา้ ศกึ ดว้ ย การยงิ ไปยงั พน้ื ทข่ี า้ งหนา้ ของขอบหนา้ พน้ื ทก่ี ารรบ และยบั ยง้ั ขา้ ศกึ เมอื่ ขา้ ศกึ เคลอื่ นทมี่ าถงึ ขอบหน้าพื้นท่ีการรบด้วยการยิงฉากป้องกันขั้นสุดท้าย ปืนกลของหมวดปืนเล็ก มขี ีดความสามารถในการปฏบิ ัติการต้ังรับ คอื (1) ให้การยงิ ด้วยวิธีเลง็ ตรงได้อย่างหนาแน่น (2) ทำ� การยิงกราดไว้จนถงึ ระยะ 600 เมตร (3) ให้อำ� นาจการยงิ อย่างต่อเนื่องในห้วงเวลายาวนาน (4) สามารถยงิ เป้าหมายอย่างได้ผลในระยะยิงถงึ 1,100 เมตร (5) สามารถท�ำการยิงได้อย่างแม่นย�ำต่อเป้าหมายที่ก�ำหนดไว้ล่วงหน้า โดยใช้หลกั ฐานทางทศิ และทางระยะ การก�ำหนดที่ต้ังยิง ผู้บังคับหมวดปืนเล็กเป็นผู้ก�ำหนดภารกิจและท่ีต้ังยิง คร่าว ๆ ให้แก่ปืนกลของหมู่ปืนกล และอาจก�ำหนดท่ตี ้ังยิงส�ำรอง ท่ีต้ังยงิ เพ่มิ เตมิ ให้ตาม ความจ�ำเป็นด้วย

ข. การใช้หมปู่ นื กลทางยทุ ธวธิ ี ผู้บังคบั หมวดปืนเล็กเป็นผู้พจิ ารณาจัดวาง ิวชา ุยทธวิ ีธ 199 ปืนกลไว้ตามขอบหน้าของพื้นที่การรบ เพ่ือให้มีอ�ำนาจการยิงอย่างสูงสุดส�ำหรับหมวด สามารถท�ำการยิงสนับสนุนหน่วยข้างเคียง และเพ่ือร่วมในการยิงฉากป้องกันขั้นสุดท้าย โดยมีความมุ่งหมายหลักคือ เพ่ือวางอ�ำนาจการยิงไปยังพื้นที่ซึ่งข้าศึกจะใช้เป็นท่ีเริ่มเข้า ตะลมุ บอนตอ่ แนวขอบหนา้ พนื้ ทกี่ ารรบของฝา่ ยเรา การยงิ ฉากปอ้ งกนั ขนั้ สดุ ทา้ ยนต้ี อ้ งการ ใหม้ พี นื้ ทก่ี ารยงิ ของปนื กลตดั กนั จนเตม็ พนื้ ทด่ี า้ นหนา้ ของกองรอ้ ย โดยใชว้ ธิ ปี ระสานการยงิ กบั ปนื กลของหนว่ ยขา้ งเคยี ง ผบู้ งั คบั หมปู่ นื กลเปน็ ผกู้ ำ� หนดทต่ี ง้ั ยงิ ทแ่ี ทจ้ รงิ ของแตล่ ะปนื เพอื่ ใหป้ ฏบิ ตั ภิ ารกจิ ขอตนไดอ้ ยา่ งดที สี่ ดุ การใชป้ นื กลในการตง้ั รบั นน้ั ถา้ สถานการณแ์ ละพนื้ ที่ ต้ังรับอำ� นวยให้แล้วมกั จะใช้ปืนกลตงั้ ไว้ ณ แนวขอบหน้าพ้ืนทก่ี ารรบเป็นคู่ ซึ่งมรี ะยะเคียง ระหว่างทต่ี ้ังปืนแต่ละกระบอกประมาณ 30 เมตร (ปืนทงั้ สองกระบอกมีแนวยงิ ฉากป้องกนั ข้นั สุดท้ายและเขตการยงิ เดยี วกัน) แต่อย่างไรกต็ าม อาจใช้ปืนกลตั้งยงิ แยกกนั ก็ได้ การใช้ปืนกลดงั กล่าวมาน้ี เป็นการใช้สนบั สนุนส่วนรวม เพราะฉะนนั้ ไม่ว่า จะตง้ั ยงิ ปนื กลไว้ ณ ทใี่ ดกต็ าม (ตง้ั ยงิ ค)ู่ ผบู้ งั คบั หมปู่ นื กล หรอื ผบู้ งั คบั หมวดปนื เลก็ จะตอ้ งเปน็ ผู้ควบคมุ การยงิ เองโดยใกล้ชดิ และรับผดิ ชอบในการส่งกำ� ลงั เพ่ิมเตมิ แต่ถ้าจำ� เป็นจะต้อง ตง้ั ยงิ ปนื กลแยกกนั ในพนื้ ทข่ี องหมปู่ นื เลก็ ซง่ึ อยหู่ า่ งไกลกนั มากเกนิ กวา่ ทผี่ บู้ งั คบั หมปู่ นื กล หรอื ผบู้ งั คบั หมวดปนื เลก็ จะทำ� การควบคมุ การยงิ ไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพแลว้ ผบู้ งั คบั หมวด อาจจะจดั ใหป้ นื กลกระบอกนน้ั สมทบกบั หมปู่ นื เลก็ กไ็ ด้ ซง่ึ หมายความวา่ ผบู้ งั คบั หมปู่ นื เลก็ ทไ่ี ดร้ บั การสมทบนน้ั จะตอ้ งเปน็ ผคู้ วบคมุ การยงิ ตอ่ ปนื กลกระบอกนนั้ แตผ่ บู้ งั คบั หมปู่ นื กล ก็ยังคงต้องมคี วามรับผดิ ชอบในเร่อื งการส่งก�ำลังบำ� รุงเพ่มิ เติมให้กบั ปืนกระบอกนัน้ อยู่ ค. เขตการยงิ (รปู ท่ี 9) ปืนกลแต่ละกระบอกของหมู่ปืนกลจะต้องได้รบั มอบ เขตการยิงหลกั และเขตการยงิ รองตามความเหมาะสม (1) เขตการยงิ หลกั ถา้ สามารถทำ� ไดก้ ค็ วรจะกำ� หนดใหป้ นื กล เอม็ .60 ตง้ั ยงิ บนขาหยง่ั เพอ่ื คมุ้ ครองเขตการยงิ หลกั นี้ เพราะปนื กลทตี่ ง้ั ยงิ บนขาหยงั่ ยอ่ มมคี วามแมน่ ยำ� และสามารถยิงได้จนถึงระยะยิงหวังผลสูงสุดของปืน ขาหย่ังปืนสามารถทำ� การยิงส่ายได้ ประมาณ 875 มิลเลียม ตามปกติแล้วการยิงในเขตการยิงหลักนี้ ปืนกลมักจะต้องใช้วิธี การยิงกราด (2) เขตการยงิ รอง เขตการยงิ รองอาจจะมคี วามกวา้ งเทา่ ทภี่ มู ปิ ระเทศและ สถานการณจ์ ะบบี บงั คบั ภายในเขตการยงิ รองนี้ พลยงิ จะตอ้ งเลอื กพนื้ ทเี่ ปา้ หมายทมี่ คี วาม สำ� คญั ทางยทุ ธวธิ ี ในระหว่างปฏบิ ัติการต้ังรบั พลยงิ อาจจะต้องยิงไปยังพ้ืนท่ีเหล่าน้ี และ

200 วชิ ายทุ ธวธิ ี เป้าหมายอ่ืน ๆ ที่ปรากฏในเขตนี้ ในเม่ือไม่มีเป้าหมายส�ำคัญปรากฏให้เห็นในทิศทาง ยิงหลักกไ็ ด้ ท่ีหมายในเขตการยงิ รองจะถูกยงิ โดยใช้การยงิ กราดคลายปืนด้วยการถอดปืน ออกจากขาหยง่ั แล้วใช้ยงิ จากขาทราย รปู ท่ี 9 เขตการยิงและแนวยิงฉากป้องกันขนั้ สดุ ท้ายของปืนกล ง. แนวยงิ ฉากปอ้ งกนั ขน้ั สดุ ทา้ ย คอื แนวยงิ ทไ่ี ดเ้ ลอื กอยา่ งดที สี่ ดุ และก�ำหนด ข้ึนเพ่ือใช้อ�ำนาจการยิงของปืนกลอย่างสูงสุดในระหว่างที่ข้าศึกเข้าตะลุมบอน หรือใช้ ในระหวา่ งเวลาทศั นวสิ ยั จำ� กดั ถงึ แมว้ า่ ปนื จะสามารถยงิ กราดอยา่ งไดผ้ ลในระยะ 600 เมตร ตอ่ ทหารทอี่ ยบู่ นพนื้ ทร่ี ะดบั หรอื พนื้ ทล่ี าดเสมอกต็ าม แตก่ ารยงิ กราดมกั จะทำ� ในระยะเพยี ง 400 เมตรเท่านั้น ถ้าลักษณะภูมิประเทศอำ� นวยให้ทำ� การยิงกราดได้น้อยกว่า 400 เมตร ก็ควรจะใช้ความพยายามทกุ วิถที างทจ่ี ะท�ำการยงิ สูงแค่เข่าให้ได้ (สงู สุดประมาณ 1 เมตร) การยิงกราดในแนวยงิ ฉากป้องกนั ข้ันสุดท้ายน้ี ควรจะยงิ ทางปีกตามแนว จ. การเลอื กทต่ี ง้ั ยิง ท่ีต้งั ยิงปืนกลควรมลี กั ษณะอันพงึ ประสงค์ ดงั น้ี (1) มพี นื้ ทก่ี ารยงิ และการตรวจการณด์ ี สามารถครอบคลมุ พนื้ ทซ่ี งึ่ อำ� นวยให้ พลยงิ ปืนกลปฏบิ ตั กิ ารยิงทั่วในระยะไกลและระยะใกล้ได้ (2) สามารถยงิ กราดไปยงั แนวยงิ ฉากปอ้ งกนั ขน้ั สดุ ทา้ ยได้ (3) มกี ารกำ� บงั และการซอ่ นพรางดี

ฉ. ที่ต้งั ยงิ ท่ตี ัง้ ยงิ แบ่งออกเป็น 3 ลักษณะ คอื ิวชา ุยทธวิ ีธ 201 (1) ท่ีตั้งยิงจรงิ (2) ทตี่ ง้ั ยงิ สำ� รอง (3) ที่ต้งั ยงิ เพ่มิ เตมิ 3. การเตรียมการตั้งรับ ก. เม่ือหมวดปืนเล็กน�ำก�ำลังเข้าท่ีรวมพล หมู่ปืนกลจะได้รับมอบภารกิจ ให้ทำ� การต้งั ยงิ คุ้มครองทีร่ วมพลให้กับหมวด ส่วนการเตรยี มการอน่ื ๆ คงปฏบิ ัติเช่นเดียว กบั หมู่ปืนเลก็ ข. เม่ือผู้บังคับหมู่ปืนกลต้องร่วมไปรับค�ำส่ังการตั้งรับจากผู้บังคับกองร้อยกับ ผู้บงั คบั หมวด จงึ ต้องมอบหมายการควบคมุ บงั คับบัญชาหน่วยไว้กับพลยงิ อาวโุ ส ค. หลังจากรับค�ำส่ังตั้งรับจาก ผบ.ร้อย. แล้ว ผบ.หมู่ปืนกลมีหน้าท่ีให้ ขอ้ เสนอแนะตอ่ ผบ.หมวดในการใชป้ นื ทงั้ สองกระบอกใหเ้ หมาะสมกบั ภารกจิ และลกั ษณะ ภมู ปิ ระเทศ ง. ผบ.หมปู่ นื กลรบั คำ� สง่ั การตง้ั รบั จาก ผบ.หมวดพรอ้ มกบั หมปู่ นื เลก็ อน่ื ๆ ดว้ ย 4. ระเบียบการนำ�หน่วย ผบ.หมู่ ปก.คงมขี นั้ ตอนในการปฏบิ ตั งิ านตามระเบยี บการนำ� หนว่ ย เชน่ เดยี วกบั ผบ.หมู่ ปล.จะมขี ้อแตกต่างเฉพาะทเี่ ป็นรายละเอียดของการปฏิบตั ดิ งั น้ี ก. ผบ.หมู่ปืนกลจะต้องลงตรวจภูมิประเทศเพ่ือหารายละเอียดบางอย่างท่ี ตอ้ งการ เพอ่ื กำ� หนดทตี่ ง้ั ยงิ โดยเฉพาะ โดยให้มคี ณุ ลกั ษณะดงั ทกี่ ลา่ วไวใ้ นขอ้ 2 จ. ขา้ งตน้ ข. จะต้องนำ� พลประจำ� ปืนข้ึนมาสงั่ การ ณ ตำ� บลซึ่งกำ� หนดจะให้เป็นท่ตี ้ังยิง จรงิ โดยใช้หวั ข้อสง่ั การตงั้ รบั เช่นเดยี วกบั ผบ.หมู่ ปล.จะผิดกนั แต่ในข้อที่ 3 (การปฏิบตั )ิ ซึ่งควรจะกล่าวถงึ เร่อื งต่อไปน้ี (1) เขตการยงิ และแนวยิงฉากป้องกันขน้ั สุดท้ายของปืนแต่ละกระบอก (2) ลำ� ดบั ความเร่งด่วนของงานในการดดั แปลงทต่ี ้ังยิงจริง (3) การจัดท�ำท่ีตั้งยิงส�ำรองและเพ่ิมเติม ตลอดจนการเตรียมเส้นทาง เคลือ่ นทไ่ี ปยงั ที่ต้งั ยิงเหล่านน้ั (4) การจัดทำ� แผ่นจดระยะ (5) การเตรยี มการยงิ ในเวลากลางคนื

5. ลำ�ดับความเรง่ ด่วนในการจัดท�ำ ท่ีต้งั ยงิ ผบ.หมู่จะต้องกำ� กับดูแลให้พลประจำ� ปืนจัดท�ำที่ตั้งให้เป็นไปตามลำ� ดับความ เร่งด่วนที่ตนได้สั่งการไปแล้วโดยเข้มงวดกวดขันท่ีสุด ซ่ึงโดยปกติแล้วในการดัดแปลง ท่ีตงั้ ยิงของปืนกลในการตง้ั รบั นน้ั มกั ต้องปฏิบตั งิ านไปตามล�ำดับขัน้ ดงั ต่อไปนี้ ก. การถากถางพน้ื ทีก่ ารยิงโดยให้มกี ารพรางและการซ่อนพรางคู่กันไป ข. เตรียมท่ตี ั้งยงิ เร่งด่วน (ทีต่ ัง้ ยงิ ฉุกเฉินใช้ขณะดดั แปลงภมู ิประเทศ) ค. ขุดทีต่ งั้ ยงิ ปืนกลตามแบบที่ ผบ.หมู่กำ� หนด ง. จดั ทำ� ท่ีตั้งอน่ื ๆ ของพลประจ�ำปืน จ. จัดท�ำให้มีฝุ่นซ่ึงเกิดจากเปลวไฟปากล�ำกล้องพ่นสู่พ้ืนดินให้น้อยที่สุด (อาจใช้กระสอบทรายชบุ น�้ำเปียก ๆ วางไว้ก็ได้) ฉ. ก่อสร้างเคร่อื งกำ� บงั เหนือศีรษะ ช. จดั ทำ� ทีต่ ั้งปืนให้ม่นั คงแขง็ แรง 6. การท�ำ แผน่ จดระยะและบนั ทกึ หลกั ฐานการยิง (รปู ท่ี 10, 11) ผบ.หมู่ ปก.จะต้องก�ำกับดูแลให้พลยิงจัดท�ำแผ่นจดระยะไว้อย่างถูกต้อง แผน่ จดระยะนคี้ วรจะเรมิ่ ทำ� ทนั ทที เี่ ขา้ มาประจำ� ทต่ี ง้ั ปนื โดยทำ� ขน้ึ 2 แผน่ เกบ็ ไว้ ณ ทต่ี งั้ ปนื 1 แผ่น และส่ง ผบ.มว. 1 แผ่น 300 150 100 202 วชิ ายทุ ธวิธี 500 6 7 400 5 3 200 2 1 ฝห่านย่วเยดทียหวกานัร 89 รหป้อมืนยวหดม11ายเลข 1 วนั เดือนปี 4 มมุ ภาคของ1ท0ศิ6 1,605 มลิ เลยี ม 3ม,ุม60ภ0าคมขิลอเลงทยี มศิ รูปท่ี 10 แผน่ จดระยะและบนั ทึกฐานการยงิ

รูปท่ี 11 แผน่ จดระยะและการบนั ทึกหลกั ฐานการยงิ ิวชา ุยทธวิ ีธ 203 7. การเตรียมการยงิ ในเวลากลางคืน ส�ำหรับการหาหลักฐานเพ่ือเตรียมการยิงต่อเป้าหมายท่ีเลือกไว้แล้วในระหว่าง ท่มี ีทศั นวสิ ยั จ�ำกดั นั้น สามารถจะกระทำ� ได้เป็นสองวธิ ี คือ (1) การใชห้ ลกั ฐานทห่ี าไดโ้ ดยการอา่ นมาตราจากราวสา่ ยปนื เรอื นควงมมุ สา่ ย และควงมมุ สูง (2) การใช้วิธกี ารแสวงเคร่ืองโดยการใช้หลกั เลง็ คอื ก. ยกโครงเลอ่ื นศนู ยห์ ลงั ใหส้ งู ขน้ึ โดยให้ใบศนู ยห์ ลงั อย่ใู นต�ำแหนง่ สงู สดุ ข. ใช้เทปหรอื สเี รืองแสงติดไว้ที่โครงศนู ย์ด้านหน้าและหลงั ตรงกง่ึ กลาง ค. ปักหลักเล็งไว้ข้างหน้าที่ต้ังปืน ห่างจากท่ีตั้งปืนราว 1 - 2 เมตร ในแนวเสน้ ทเี่ ลง็ ไปยงั เปา้ หมายแลว้ พรอ้ มกบั ทำ� เครอ่ื งหมายไวด้ ว้ ยแผน่ เทป หรอื สเี รอื งแสง บนหลักเล็งน้ัน เพ่ือใช้เป็นท่ีสังเกตสำ� หรับการตั้งปืนใหม่ในเวลากลางคืน โดยใช้ศูนย์เล็ง ต่อหลกั เล็งน้ี แนวปากลำ� กล้องปืนก็จะชี้ตรงไปยงั เป้าหมายท่ีกำ� หนดไว้

204 วชิ ายทุ ธวธิ ี 8. การท�ำ แผนการยิงของหมู่ เมอ่ื ได้กำ� หนดทตี่ ง้ั ยงิ จรงิ ใหก้ บั ปืนแตล่ ะกระบอกแลว้ ผบ.หมู่ ปก.จะตอ้ งจดั ทำ� เป็นแผนทส่ี ังเขป เพื่อแสดงให้เหน็ ถึงทตี่ ้งั ยงิ เขตการยงิ และแนวยงิ ฉากป้องกันข้นั สุดท้าย ของปืนทง้ั 2 กระบอก เช่นเดยี วกับตวั อย่างท่แี สดงไว้ด้วยภาพในรูปท่ี 9 ข้อ 2 ค. โดยจัด ท�ำเป็นสองฉบบั โดยเก็บไว้ท่ี ผบ.หมู่หน่งึ ฉบับ รายงานต่อ ผบ.มว.หน่งึ ฉบับ แผนการยงิ น้ี ผบ.หมู่ ปก.จะตอ้ งตรวจสอบการตรวจการณเ์ ขตการยงิ ของทต่ี งั้ ยงิ ต่าง ๆ ที่ได้เลือกไว้ และประสานงานกับ ผบ.หมู่ ปล.ต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด จนมั่นใจว่า เขตการยิงต่าง ๆ ตามที่ได้ก�ำหนดไว้นั้นสามารถใช้ปืนกลท�ำการยิงจากท่ีต้ังท่ีก�ำหนดได้ อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพมากทสี่ ดุ สำ� หรบั แนวยงิ ฉากปอ้ งกนั ขนั้ สดุ ทา้ ยนนั้ ผบ.หมคู่ วรใหพ้ ลยงิ ผู้ช่วยทดลองเดินไปตามแนวยิงฉากป้องกันข้ันสุดท้ายนั้น โดยให้พลยิงทำ� การเล็งอยู่ที่ปืน เพ่ือทดสอบว่าจะมีพ้ืนที่อับกระสุนเกิดข้ึนในย่านกระสุนกวาดตลอดแนวยิงฉากป้องกัน ข้นั สุดท้ายหรอื ไม่ ถ้ามใี ห้หาพกิ ดั ของพน้ื ทอ่ี ับกระสนุ นนั้ บันทกึ ไว้แล้วรายงานให้ ผบ.มว. ทราบเสมอ 9. การควบคุมการยงิ และการปฏบิ ตั กิ ารตงั้ รับ โดยปกติแล้วปืนกลแต่ละกระบอกมักจะต้องท�ำการยิงไปยังพื้นที่เป้าหมายท่ี ก�ำหนดไว้ล่วงหน้าน้นั ตามค�ำสั่งของ ผบ.หมู่ ปก.หรอื ตาม รปจ. ก. การยงิ ฉากปอ้ งกันขั้นสดุ ทา้ ย สัญญาณการยงิ ฉากป้องกันข้นั สดุ ท้ายน้ี จะมีอยู่แล้วในค�ำส่งั การตง้ั รบั ของ ผบ.มว. และ ผบ.มว.ปล. ในแนวหน้ามกั จะได้รบั มอบ อ�ำนาจให้เป็นผู้ร้องขอการยิงเหล่านี้ การยิงฉากป้องกันข้ันสุดท้ายน้ีจะหยุดยิงได้เมื่อมี ค�ำส่ังหรอื สญั ญาณหยุดยิง จังหวะการยิงของ ปก.เม่ือท�ำการยิงฉากป้องกันข้ันสุดท้าย ปก.จะต้องใช้ จงั หวะการยงิ เร็ว เว้นแต่ว่าจ�ำเป็นต้องใช้จังหวะการยงิ ให้สงู กว่าเพ่อื ให้ภารกิจส�ำเร็จ ข. การยงิ เปา้ หมายทเ่ี ลอื กไวอ้ นื่ ๆ เมอื่ ทำ� การยงิ ไปยงั พนื้ ทเี่ ปา้ หมายอน่ื ๆ ท่เี ลอื กไว้แล้ว ต้องใช้จงั หวะการยิงเรว็ จนกว่าจะได้รบั ค�ำสงั่ ให้หยดุ ยิง การปฏบิ ตั ิการตงั้ รบั ก. ในขณะขา้ ศกึ เขา้ ตนี น้ั ยงั อยใู่ นระยะไกลเกนิ กวา่ ระยะยงิ หวงั ผลของกระสนุ ปืนเล็กแต่เข้ามาอยู่ในระยะยิงหวังผลของ ปก.แล้ว แต่ถ้าไม่ต้องการรักษาความลับ

เกย่ี วกบั แนว ขนพร. หรอื มสี งิ่ บอกเหตวุ า่ ขา้ ศกึ ไดท้ ราบทต่ี งั้ แนว ขนพร.ของเราแลว้ และ ผบ.มว. ิวชา ุยทธวิ ีธ 205 ไม่ประสงค์จะหวังผลในการยิงอย่างจู่โจมแล้ว ปก.อาจได้รับค�ำส่ังให้ท�ำการยิงต่อที่หมาย เฉพาะต�ำบลก็ได้ แต่อย่างไรก็ตามการปฏิบัติการยิงในท�ำนองนี้มักจะไม่นิยมปฏิบัติ ทั้งนี้ เพราะการตั้งรับมักจะประสงค์เปิดฉากการยิงอย่างจู่โจมต่อข้าศึกมากกว่า ดังน้ัน ปก. จงึ ต้องสงบการยงิ ไว้ก่อน และมกั ท�ำลายทห่ี มายเหล่านน้ั ด้วยอาวุธเลง็ จ�ำลอง ข. เม่ือมีสัญญาณหรือได้รับค�ำสั่งเปิดฉากการยิงเร่ิมแรกแล้ว ปก.มีหน้าท่ี ท�ำการยงิ ต่อข้าศกึ ท่เี ข้าตภี ายในเขตการยิงหลัก และเขตการยิงรองของตนตามล�ำดบั ด้วย จงั หวะการยงิ เรว็ โดยพยายามกอ่ ใหเ้ กดิ การสญู เสยี แกข่ า้ ศกึ อยา่ งสงู สดุ เปา้ หมายทเี่ หมาะ แก่การยิงคอื ที่ต้ังอาวธุ ประจ�ำหน่วย และทหารราบเป็นกลุ่มก้อน ตามลำ� ดับ ค. เมอ่ื ไดร้ บั สญั ญาณรอ้ งขอยงิ ฉากปอ้ งกนั ขนั้ สดุ ทา้ ย พลยงิ จะตอ้ งหยดุ ยงิ ตอ่ เป้าหมายภายในเขตการยงิ หลักและรอง แล้วทำ� การยงิ ไปยงั แนวยิงฉากป้องกันข้ันสุดท้าย ตามหลักฐานทเ่ี ตรียมการไว้แล้วทศิ ทางเดยี วเท่านนั้ ด้วยการยงิ จังหวะเรว็ จนกว่าจะได้รับ คำ� สั่งหรือสญั ญาณหยุดยงิ ง. เมอ่ื ขา้ ศกึ ถอนตวั กลบั ออกไป ใหท้ ำ� การยงิ ตามเขตการยงิ เดมิ เพอ่ื ยงั ความ สูญเสียแก่ข้าศกึ อย่างสูงสดุ จ. ถ้าพื้นที่ของ มว.หรือบางส่วนของพ้ืนท่ีของกองร้อยถูกเจาะปืนกล อาจ ต้องเปล่ียนย้ายท่ีต้ังยิงไปยังท่ีตั้งยิงเพ่ิมเติม เพื่อปฏิบัติภารกิจสกัดก้ันการเจาะนั้นด้วย การเคล่อื นท่ไี ปตั้งยงิ ในพืน้ ทท่ี ี่ได้จัดเตรียมไว้แล้วกไ็ ด้ 10. ระเบียบการน�ำ หน่วย ก. ผู้บังคับหน่วยจะใช้ระเบียบการน�ำหน่วย เพื่อให้เกิดมีความมั่นใจได้ว่า ข้ันการปฏิบัติท่ีจ�ำเป็นท้ังมวลได้กระท�ำไปอย่างถูกต้องเป็นระบบ เพื่อให้พร้อมที่จะปฏิบัติ การรบได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ระเบียบการน�ำหน่วยจะช่วยให้การใช้เวลาได้ เหมาะสมท่สี ดุ ท้ังเป็นการล�ำดับเรอ่ื งทต่ี ้องคิดหรอื ต้องท�ำได้อย่างอัตโนมัติอีกด้วย ข. ระเบยี บการนมี้ ไิ ดก้ ำ� หนดไวต้ ายตวั หวั ขอ้ ปฏบิ ตั ใิ นขนั้ ตา่ ง ๆ ทจ่ี ะกระทำ� นน้ั อาจเปลี่ยนแปลงให้เหมาะสมกับสถานการณ์ หรือบางขั้นอาจกระท�ำไปพร้อมกัน และ ในขณะท่ีข้ันตอนอ่ืน ๆ อาจจะต้องกระท�ำต่อเน่ืองตลอดการรบก็ได้ ผู้บังคับหน่วยที่ดีนั้น ต้องไม่มองข้ามแม้ในส่งิ ท่ตี นได้รู้เหน็ มาแล้วก็ตาม

206 วชิ ายทุ ธวธิ ี 11. ข้ันของระเบยี บการน�ำ หน่วย ก. ขนั้ ท่ี 1 รบั ภารกจิ ภารกิจอาจได้รับมาจากค�ำส่ังเตรียม คำ� ส่ังยุทธการ หรือค�ำส่งั เป็นส่วน ๆ เม่ือรบั ค�ำสงั่ แล้วจะต้องวเิ คราะห์ภารกิจและวางแผนการใช้เวลาที่มี อยู่อย่างเหมาะสม ค�ำแนะน�ำประการแรกได้แก่ การให้ค�ำส่ังเตรียม ในค�ำสั่งเตรียมจะมีข่าวสาร เพยี งพอท่หี น่วยจะเร่มิ ต้นในการเตรยี มการปฏบิ ัตไิ ด้ ระเบียบปฏิบัติประจ�ำ (รปจ.) ของหน่วยควรมีรายละเอียดว่าจะต้องปฏิบัติ อย่างไรบ้างเม่อื ได้รับค�ำส่ังเตรียม เช่น การเบกิ กระสนุ เสบียง น้�ำ เครอื่ งมือสอ่ื สาร เป็นต้น ทันทที ่ไี ด้รบั ค�ำสง่ั ผบ.หน่วยจะต้องต้งั ถามตนเองในเร่อื งดงั ต่อไปน้ี - ภารกิจให้เราทำ� อะไรบ้าง? - ทำ� อย่างไรจงึ จะทราบข่าวเก่ียวกับข้าศกึ ? - ภมู ปิ ระเทศและลมฟา้ อากาศ จะมผี ลกระทบตอ่ การปฏบิ ตั ขิ องเราอยา่ งไรบา้ ง? - กำ� ลงั ฝ่ายเรามหี น่วยอะไรบ้าง? - จะใช้เวลาท่มี ีอยู่ให้เกดิ ประโยชน์มากท่สี ดุ ได้อย่างไร? - สิง่ อุปกรณ์และยทุ โธปกรณ์ที่ต้องการมีอะไรบ้าง? - มีกจิ พเิ ศษอะไรบ้างทีจ่ ะต้องมอบหมายให้ปฏบิ ัติ ผบู้ งั คบั หนว่ ยจะตอ้ งแบง่ เวลาในการปฏบิ ตั ิ โดยหลกั ทว่ั ไปแลว้ ผบ.หนว่ ยจะใช้ เวลาไมเ่ กนิ หนงึ่ ในสามของเวลาทมี่ อี ยู่ และใชเ้ วลาทเี่ หลอื ให้ ผบ.หนว่ ยรองในการเตรยี มการ จะต้องสงั่ หน่วยว่าให้พร้อมหรอื แล้วเสรจ็ ผู้บังคบั หน่วยจะต้องระบสุ ง่ิ ทจ่ี ะต้องกระท�ำตาม ล�ำดับเวลาย้อนหลังจากเวลาท่ีต้องการให้พร้อมเพ่ือปฏิบัติภารกิจ โดยให้ทหารได้มีเวลา เพยี งพอในการปฏบิ ัติกจิ ต่าง ๆ ตัวอย่างการวางแผนการใช้เวลาย้อนหลงั ของ ผบ.หมู่ 1420 เวลาพร้อมปฏบิ ตั กิ าร 1415 ตรวจทรี่ วมพล (เพอ่ื ใหแ้ นใ่ จไดว้ า่ มกี ารรอ้ื ถอนทนุ่ ระเบดิ สงั หารบคุ คล, ไม่ลืมทงั้ กระสนุ ฯลฯ ไว้) 1300 ตรวจความเรยี บร้อยของทหารแต่ละคน 1205 ออกคำ� สั่งยุทธการ 1200 ทำ� คำ� สัง่ ยุทธการของหมู่ให้สมบรู ณ์ 1105 ลว.ภมู ิประเทศของ ผบ.หมู่รบั คำ� สั่ง ผบ.มว. 1050 ออกคำ� ส่งั เตือนให้หมู่

ตวั อยา่ งคำ�ส่งั เตรียมของ ผบ.มว. ิวชา ุยทธวิ ีธ 207 “หมวดของเราจะทำ� การเขา้ ตเี ขานกกระจบิ เวลา 1430 ขา้ ศกึ อยใู่ นทมี่ น่ั ดดั แปลง แขง็ แรง มคี ตู ิดต่อและทก่ี �ำบงั เหนอื ศีรษะ มอี าวุธจรวดต่อสู้รถถังด้วย ให้เบิกรบั ลูกระเบดิ ขว้างคนละ 6 ลูก และเคร่ืองยงิ จรวดอาร์พจี ี 7 หมู่ละ 1 เคร่ือง เบิกจรวด เอม็ 73 10 นัด ให้แต่ละหมู่เตรียมดินระเบิด 10 แท่ง พร้อมเชื้อปะทุชนวนเคร่ืองจุด 10 ชุด ฝักแคเวลา 10 ฟตุ ฝักแคระเบิด 100 ฟตุ รอง ผบ.มว.จะเป็นผู้นำ� ไปรบั ของ ถ้ามปี ัญหาเกี่ยวกบั วทิ ยุ และอาวุธแจ้งให้ผู้หมวดทราบเวลา 1145 พบกันท่ีน่ีเวลา 1105 เพื่อไปตรวจภูมิประเทศ บนเขาฉลกั ฉลาม แล้วผู้หมวดจะได้ออกค�ำส่งั ยุทธการบนเขานั้น ข. ข้ันที่ 2 ออกคำ� ส่งั เตรียม ผบ.มว.ออกคำ� สัง่ เตรียมให้ทง้ั ผบ.หมู่, รอง ผบ.มว., นายสบิ ประจ�ำหมวด และผู้ตรวจการณ์หน้าของหมู่ ค.60 (ถ้าม)ี ผบ.หมู่จะออกค�ำสัง่ เตรยี มทง้ั หมดให้แก่ทหาร ภายในหมู่ คำ� สง่ั เตรียมอย่างน้อยทส่ี ุดจะต้องกล่าวถงึ เร่ืองต่อไปนี้ - ภารกจิ - เวลาปฏบิ ตั ิการ - การแนะน�ำโดยเฉพาะเจาะจง ถ้ามี - เวลาและสถานท่อี อกค�ำส่ังสมบรู ณ์ ภายหลงั จากไดร้ บั คำ� สง่ั เตรยี มจาก ผบ.มว.แตล่ ะหมู่ ผบ.หมกู่ ใ็ หอ้ อกคำ� สงั่ เตรยี มท�ำนองเดยี วกนั ดงั นค้ี ือ “ภารกจิ ของเราคอื ทำ� การเขา้ ตเี ขานกกระจบิ เวลา 1430 โดยเปน็ สว่ นหนง่ึ (ใน กรอบ) ของหมวด ขา้ ศกึ มกี ารดดั แปลงทมี่ นั่ แขง็ แรงตามลาดหนา้ เนนิ เขานกกระจบิ มอี าวธุ จรวดตอ่ สรู้ ถถงั ดว้ ย แตล่ ะคนเบกิ รบั ลกู ระเบดิ ขวา้ งคนละ 6 ลกู พลยงิ เครอื่ งยงิ ลกู ระเบดิ เบกิ รบั อาร์พีจี 7 1 เครอ่ื ง ลูกจรวด 10 นดั , หมู่ควนั และชดุ ยิงเบกิ รบั ดนิ ระเบิด 10 แท่ง เชอื้ ปะทุ ชนวน 10 ดอก เครือ่ งจดุ ชนวนฝักแคระเบิด 10 ฟตุ ฝักแคเวลา 10 ฟตุ ให้ทดสอบการ จุดถ่วงเวลาของชนวนฝักแคเวลาดูด้วย พลฯ...........น�ำเชือกไต่หน้าผาและห่วงเกาะเชือก พลฯ..........นำ� โทรศัพท์ที เอ 1 และล้อสายดีอาร์ 8 จ�ำนวน 2 ล้อ รอง ผบ.มว.จะมาทน่ี ่ี อีก 20 นาที เพ่อื มาบอกว่าจะรบั ของทไ่ี หน เมอื่ ใด หมู่จะรับคำ� สั่งจาก ผู้หมวด - หมู่สนั ติ รับผดิ ชอบหมู่จนกว่าหมู่จะกลบั เราจะมาพบกันทีน่ ีเ่ วลา 1205 เพื่อรบั ค�ำสงั่ ยทุ ธการ”

208 วชิ ายทุ ธวธิ ี ค. ขั้นท่ี 3 วางแผนขัน้ ต้น ผู้บังคบั หน่วยวางแผนข้นั ต้นโดยอาศัยมลู ฐานจากภารกจิ ข้าศึก ลกั ษณะ ภูมิประเทศ ลมฟ้าอากาศ และก�ำลังทมี่ ีอยู่ (ปัจจยั METT) แผนขนั้ ต้นจะช่วยให้ผู้น�ำหน่วย ได้ใช้เป็นจดุ เร่มิ ต้นท่สี ามารถน�ำไปใช้ในการประสานงาน ลาดตระเวน การจัดก�ำลงั และ การเคล่ือนย้ายได้ต่อไป อะไรคือภารกิจของหมวด? (เราต้องท�ำการเข้าตีเพ่ือยึดท่ีหมาย หรือเรา ต้องเตรยี มการตง้ั รับในท่ีม่นั แห่งน้ีในเวลา 1400) หน่วยอะไรของข้าศกึ ท่ีเป็นฝ่ายตรงข้ามกับเรา? มขี นาดเท่าใด? วางกำ� ลัง อยทู่ ไ่ี หน? มอี าวธุ อะไรสนบั สนนุ ? มที หารชา่ งสนบั สนนุ หรอื ไม?่ เป็นทหารราบธรรมดาหรอื ยานเกราะ หรอื มที ั้ง 2 อย่าง เราจะใช้ภูมิประเทศและลมฟ้าอากาศให้เกิดประโยชน์แก่เราได้อย่างไร? เพือ่ จะให้สามารถตอบค�ำถามเหล่านไ้ี ด้ ผบ.หน่วยจะตรวจการณ์และพน้ื ยงิ การก�ำบังและ การซ่อนพราง เครอ่ื งกีดขวางภูมปิ ระเทศส�ำคัญ และเส้นทางในการเคล่อื นท่ี การตรวจการณแ์ ละพน้ื ยงิ มอี ทิ ธพิ ลตอ่ การวางกำ� ลงั หมู่ อาวธุ ตถ.ปก. ตอ้ งให้ วางในท่ีที่สามารถจะสังหารท่ีมีไว้ได้มากท่ีสุด ในการเข้าตีส่วนยิงจะต้องก�ำหนดที่ตั้งยิง ใหส้ ามารถสนบั สนนุ สว่ นดำ� เนนิ กลยทุ ธ์ ในการตง้ั รบั อาวธุ ยงิ จะตอ้ งมกี ารตรวจการณ์ และ พื้นยิงคุ้มครองแนวทางเคล่ือนท่ี ผบ.มว.จะตรวจการณ์และพื้นยิงจากข้างหน้าแนว เช่นเดยี วกบั การตรวจการณ์ของข้าศกึ ทจี่ ะมองเหน็ ทมี่ นั่ ตง้ั รบั หรอื เส้นทางทใ่ี ช้ในการเข้าตี จะต้องปกปิดก�ำบงั จากจดุ ท่ีข้าศึกตง้ั รับอยู่หรือไม่? การก�ำบังและการซ่อนพราง มีอิทธิพลต่อการเลือกเส้นทาง ที่ต้ังหรือวาง ก�ำลงั และกำ� หนดเป้าหมายหรอื ไม่ เคร่อื งกีดขวาง ก็มอี ทิ ธพิ ลต่อการเลอื กเส้นทางในการเข้าตี และเลือกทม่ี นั่ ในการตง้ั รับภมู ปิ ระเทศส�ำคัญ มีผลต่อการตดั สนิ ใจเกี่ยวกบั การก�ำหนดเป็นทหี่ มาย และ เส้นทางการเข้าตี และการเลอื กเป็นท่มี ่ันตั้งรบั เส้นทางการเคล่ือนที่ เป็นเร่ืองจะต้องพิจารณาร่วมกับปัจจัยอ่ืน ๆ ท่ีมี อทิ ธพิ ล ต่อการเลอื กเสน้ ทางและทศิ ทางเข้าตี การกำ� หนดทมี่ นั่ ตงั้ รบั เขตการยงิ เป้าหมาย ของการตง้ั รบั แนวทางเคลอ่ื นทขี่ องศกึ ที่น่าจะใช้ หรือใช้ในการถอนตวั จากการรบ ซึ่งจะมี ผลกระทบต่อการปฏบิ ัติการรบของหมวดอย่างไรบ้าง?

กำ� ลงั ทม่ี อี ยู่ มอี ทิ ธพิ ลตอ่ การเลอื กทว่ี างกำ� ลงั เสน้ ทาง รปู แบบและแผนการยงิ ิวชา ุยทธวิ ีธ 209 สนับสนุนอย่างไรบ้าง? ผบ.หน่วยจะพิจารณาปัจจัยแต่ละอย่างแล้วน�ำมาเปรียบเทียบกัน โดยการวิเคราะห์ลักษณะน้ีจะช่วยให้ ผบ.หน่วยตกลงใจเก่ียวกับแผนท่ีวางไว้ได้ ซ่ึงเมื่อ ตรวจสอบแผนแล้วกจ็ ะเป็นค�ำสั่งต่อไป ง. ขน้ั ที่ 4 เคล่อื นย้ายหนว่ ยทจ่ี ำ� เปน็ ก่อน เมอ่ื ถงึ เวลา ผบ.รอ้ ย.จะนำ� ผบ.มว. ไปยงั ทตี่ รวจการณแ์ ละใหค้ ำ� สงั่ สมบรู ณ์ เพอื่ ประหยดั เวลา ผบ.มว.อาจให้รอง ผบ.มว. หรือนายสบิ ประจ�ำหมวด เคล่อื นย้าย มว. ไปยงั พื้นท่ที จ่ี ะปฏิบัตกิ ารก็ได้ จ. ขัน้ ที่ 5 การลาดตระเวน ผบู้ งั คบั หนว่ ยจะตอ้ งลาดตระเวนใหเ้ ปน็ ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศ และประเมนิ คา่ ภูมิประเทศที่จะต้องใช้ในการรบ เพื่อให้การใช้ก�ำลังพลและยุทโธปกรณ์ได้ดีที่สุด ถ้ามี เวลาน้อยกจ็ ะต้องลาดตระเวนบนแผนทใี่ ห้ได้ ในขนั้ นส้ี ามารถยนื ยนั หรอื ปรบั แผนขน้ั ตน้ ได้ ฉ. ขั้นที่ 6 ทำ� แผนสมบรู ณ์ อาศัยการลาดตระเวนภูมิประเทศ ผู้บังคับหน่วยก็จะท�ำแผนสมบูรณ์ ในการตงั้ รบั กส็ ามารถตกลงใจไดว้ า่ จะใชก้ ำ� ลงั และวางอาวธุ ยงิ ทไี่ หนบา้ งจงึ จะสมั พนั ธก์ นั อย่างแน่นหนา ในการเข้าตกี ส็ ามารถตกลงใจได้ว่าจะเคลอ่ื นทีแ่ ละเข้ายึดทหี่ มายอย่างไร ช. ขั้นที่ 7 ออกค�ำสั่งยุทธการ (การส่ังการ) คำ� สง่ั ยทุ ธการของ มว.และหมนู่ นั้ มกั จะออกดว้ ยวาจา ในการเขา้ ตี ผบ.มว. ควร ออกค�ำสั่งในที่ท่ี ผบ.หมู่สามารถมองเห็นท่ีหมายได้ ในการตั้งรับก็จะพยายามออกค�ำสั่ง ในแนวตั้งรับ ถ้าท�ำได้ก็ควรใช้แบบจ�ำลองภูมิประเทศ หรือแผนท่ีสังเขปเพื่อช่วยในการ อธิบาย ผบ.หมู่จะได้มีโอกาสออกค�ำสั่งเข้าตีจากจุดที่ทหารในหมู่สามารถแลเห็นท่ีหมาย หรอื ใชแ้ บบจำ� ลองภมู ปิ ระเทศ เพอื่ ใหห้ มขู่ องตนไดเ้ หน็ สภาพภมู ปิ ระเทศ ในการตง้ั รบั ผบ.มว. และ ผบ.หมู่สามารถออกค�ำสงั่ ได้ท่แี นวตั้งรบั เลยทีเดียว ผู้บงั คบั หน่วยจะต้องให้ทหารของ ตนทราบแผนทว่ี างไว้ด้วยเสมอ ต่อไปน้เี ป็นรปู แบบของค�ำสัง่ ยทุ ธการทอ่ี อกด้วยวาจา สถานการณ์ กำ� ลังฝ่ายข้าศกึ ข่าวเกย่ี วกบั ก�ำลังทต่ี ง้ั จดุ อ่อน และพฤติการณ์ ก�ำลังฝ่ายเรา ภารกิจของหน่วยเหนือ 1 ระดับหน่วยทางซ้าย ทางขวา ข้างหลงั (ข้างเคียง) ระดบั หมวด กค็ อื มว. ระดบั หมู่ คอื หมู่ข้างเคียง หน่วยสมทบและหน่วยแยก มีใครบ้าง และเวลาทม่ี ีผลบงั คบั

210 วชิ ายทุ ธวธิ ี ภารกจิ ชดั เจน กะทัดรัด ระบุภารกจิ จะกระท�ำให้ส�ำเรจ็ โดยหมู่และหมวด (ใคร, อะไร, เมอ่ื ใด, ท่ไี หน, ท�ำไม) การปฏิบัติ แนวความคิดในการปฏิบัติแผนกลยุทธ์และการยิงสนับสนุน ผบ.หน่วยต้องการให้บรรลุภารกิจอย่างไร กิจท่ีมอบให้หน่วย รอง ผบ.มว. บอก ผบ.หมู่ ว่าจะให้ทำ� อะไร ผบ.หมู่ กบ็ อกชุดยิงและทหารว่าต้องการให้เขาท�ำอะไร ค�ำแนะนำ� ประสานการปฏิบัติ ผบ.มว.ให้รายละเอียดที่ใช้แค่ 2 หมู่ข้ึนไป หรอื ผบ.หมใู่ หร้ ายละเอยี ดทจี่ ะใชท้ งั้ หม ู่ เชน่ แนวออกตี แนวตะลมุ บอน รปู ขบวน เสน้ ทาง เวลาออกตี การปฏิบัตใิ นระหว่างการเสริมความมนั่ คงและการจัดระเบยี บใหม่ การชว่ ยรบ ขา่ วสารเกย่ี วกบั เสบยี ง กระสนุ เวชภณั ฑ์ การปฏบิ ตั ติ อ่ เชลยศกึ และอ่นื ๆ ทเ่ี กี่ยวกบั การธุรการและการส่งก�ำลัง การบงั คบั บญั ชาและการส่อื สาร การบงั คบั บญั ชา ผบู้ งั คบั หนว่ ยจะอยทู่ ไี่ หนระหวา่ งปฏบิ ตั กิ ารรบ และมสี าย การบังคบั บัญชาอย่างไร (ค�ำส่ังท่ีให้ ผบ.หน่วยรองทำ� การแทนเมอ่ื ไม่อยู่) การสอ่ื สาร ความถแ่ี ละนามเรยี กขาน สญั ญาณ สญั ญาณผา่ นประมวลลบั ซ. ข้ันท่ี 8 การกำ� กบั ดแู ล ภายหลังออกค�ำสั่ง ผู้บังคับหน่วยก�ำกับดูแลเพ่ือให้แน่ใจได้ว่าทหารของ หน่วยได้เตรยี มการเพอ่ื ให้งานบรรลุผลส�ำเรจ็ - การยงิ การดำ� เนนิ กลยทุ ธ์ - การปฏิบัติเม่อื ปะทะข้าศึกโดยไม่คาดคิด - การปฏิบัติ ตะลุมบอน การร้ือถอนสนามทุ่นระเบิด การตะลุมบอน บนหลุมสนามเพลาะ การรือ้ ลวดหนาม การโจมตบี ังเกอร์และตึก การใช้อาวธุ พเิ ศษ และ การท�ำลาย การตรวจเสบียง น้�ำ อาวธุ กระสุน การแต่งกาย และยทุ โธปกรณ์ (เป้ ย่าม) การพรางภารกจิ พเิ ศษทม่ี อบให้ มเี ครือ่ งมอื หรือไม่ วตั ถุระเบิด เครอ่ื งจดุ ชนวน หลักฐานอา้ งองิ 1. รส. 7-15, หมู่ หมวดทหารราบ ทหารราบส่งทางอากาศ และทหารราบยานเกราะ, กองทัพบก พ.ศ. 2512 2. รส. 23-67 ปืนกล เอม็ 60 ขนาด 7.62 มม. พ.ศ. 2514 3. คู่มอื พลทหารว่าด้วยการปฏบิ ตั ิการในสนาม พ.ศ. 2516