Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สวนพฤกษศาสตร์

สวนพฤกษศาสตร์

Published by Phatchayaphon Liala, 2020-11-05 03:31:32

Description: นายพิชาญ ทองอารมย์ เลขที่ 7
นายธีรพงษ์ แหลมจริง เลขที่ 14
นางสาวพัชญาพร เลียลา เลขที่ 17
ชั้นมัธยมศึกษาปี่ที่5/5

Search

Read the Text Version

สวนพฤกษศาสตร์ใน โรงเรียน ประกอบวิชา ว32101 เทคโนโลยี2 ครูผ้สู อน ครูรัชชนก วงศ์เขียว

คานา หนงั สอื อิเลก็ ทรอนิกส์เรื่องสวนพฤกษศาสตร์ใน โรงเรียนเลม่ นีใ้ ช้ประกอบวิชาว 32101 เทคโนโลยี 2 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ท่ี 5 ซง่ึ ในเนือ้ หา จะอธิบายถงึ ต้นไม้และดอกไม้ในโรงเรียนวงั เหนือวทิ ยาหวงั เป็นอยา่ งยิ่งวา่ จะเป็นประโยชน์ ตอ่ ผ้ทู ่ีศกึ ษาได้เป็นอยา่ งดี นายพิชาญ ทองอารมย์ นายธีรพงษ์ แหลมจริง นางสาวพชั ญาพร เลยี ลา ผ้จู ดั ทา

เฟ่ื องฟ้ า (ช่ือวิทยาศาสตร์: Bougainvillea) เป็นไม้ยืนต้นประเภทพ่มุ กงึ่ เลอื ้ ย ขนาดตงั้ แตพ่ ่มุ เล็กถงึ พมุ่ ใหญ่ มีหนามขนึ ้ ตามลาต้นอยู่ ใบเด่ียว แตกออก สลบั กบั กิ่ง หรือเยือ้ งกนั มีขนขนึ ้ ปกคลมุ เล็กน้อย มสี เี ขียวหรือใบดา่ ง รูปร่างรี แหลมยาว 3-6 ซม. กว้าง 2-3 ซม. ใบประดบั ลกั ษณะคล้ายรูปหวั ใจหรือรูปไข่มี 3-5 ใบ มีหลายสี เชน่ มว่ ง แดง ชมพู ส้ม ฟ้ า เหลืองและอ่ืนๆ มที งั้ ดอกสมบรู ณ์ เพศและไมส่ มบรู ณ์เพศ ออกเป็นชอ่ ตามซอก ใบหรือปลายก่ิง แตล่ ะชอ่ มี 3 ดอก เป็นหลอดยาว 1-2 ซม. ต้องการแสงแดดจดั ในสภาพกลางแจ้ง ได้รับแสงแดดตลอดวนั ถ้าได้รับ แสงแดดไมเ่ พียงพอจะทา ให้สีของใบไมเ่ ข้มออกดอกน้อย ต้องการอณุ หภมู ิ ปานกลางหรือร้อนชืน้ เม่อื โตขนึ ้ ต้องการนา้ ปานกลาง ถงึ คอ่ นข้างต่า ถ้ารดนา้ มากเกินไปจะไมอ่ อกดอก ขยายพนั ธ์ดุ ้วยการปักชากิ่ง, ตอนกิ่ง, เสยี บยอด

สตั บรรณ เปลือกหนาแตเ่ ปราะ ผิวต้นมสี ะเก็ดเลก็ ๆ สขี าวปนนา้ ตาลกรีดดจู ะมียางสี ขาวลาต้นตรง แตกกิ่งก้านสาขามากลกั ษณะเป็นชนั้ ๆ เปลอื กชนั้ ในสนี า้ ตาล มีนา้ ยางสีขาว ใบเป็นกลมุ่ บริเวณปลายก่ิงช่อหน่ึงมีใบประมาณ 5-7 ใบ ก้าน ใบสนั้ แผน่ ใบรูปรีแกมรูปขอบขนานถงึ รูปหอกแกมรูปขอบขนาน หรือรูปมน แกมรูปบรรทดั ปลายใบเป็นติ่งเลก็ น้อย ใบด้านบนมสี เี ขียวเข้ม ด้านลา่ งมีสี ขาวนวล ถ้าเดด็ ก้านใบจะมยี างสีขาว ลกั ษณะใบยาวรีปลายใบมนโคนใบ แหลม ขนาดใบยาวประมาณ 10-12 เซนติเมตร ออกดอกสีเขียวออ่ นเป็นช่อ ตามปลายก่ิง ปากทอ่ ของกลีบดอกมีขนยาวปกุ ปยุ ดอกมกี ล่ินฉนุ รุนแรง สดู ดมเพียงเลก็ น้อยจะรู้สกึ กลน่ิ หอม หากสดู ดมมากจะรู้สกึ วิงเวียนศรี ษะ ชว่ ง คา่ จะสง่ กล่ินแรงกวา่ เวลาอืน่ ๆ ดอกเป็นกลมุ่ คล้ายดอกเข็มชอ่ หน่งึ จะมีกลมุ่ ดอกประมาณ 7 กลมุ่ ดอกมสี ีขาวอมเหลือง ปกติจะออกดอกในชว่ งเดอื น ตลุ าคมถงึ เดือนธนั วาคมผลเป็นฝักยาว ฝักคหู่ รือเดย่ี ว ลกั ษณะเป็นเส้นๆ กลมเรียวยาวประมาณ 20-30 เซนตเิ มตร เมอ่ื แกจ่ ะแตก มีขยุ สขี าวคล้าย ฝ้ ายปลวิ ไปตามลมได้ในฝักมีเมลด็ เลก็ ๆ ตดิ อย่กู บั ขยุ นนั้

ดอกลีลาวดี ล่ันทม หรือ ลีลาวดี เป็นไม้ดอกยืนต้นในวงศ์ตีนเป็ด หรือ วงศ์ไม้ ลน่ั ทม (Apocynaceae) มหี ลายชนิดด้วยกนั บางคนมคี วามเชื่อวา่ ไม่ ควรปลกู ต้นลนั่ ทมในบ้านเพราะมีความเชื่อว่า เป็นอปั มงคล คอื ไปพ้องกบั คา วา่ 'ระทม' ซงึ่ แปลวา่ เศร้าโศก ทกุ ข์ใจ นิยมปลกู กนั แพร่หลายอย่างมาก ชื่อ พืน้ เมอื งอ่นื ๆ ได้แก่ จาปา, จาปาลาว และจาปาขอม เป็นต้น (สาหรับช่ือ ภาษาองั กฤษ ได้แก่ Frangipani, Plumeria, Temple Tree, Graveyard Tree) ต้นลีลาวดเี ป็นพืชนิยมปลกู เพราะดอกมีสสี นั หลากหลาย สวยงาม ได้แก่ขาว เหลอื งออ่ น แดง ชมพู สีขาวข่นุ ฯลฯ บางดอกมีมากกวา่ 1 สี อาจมมี ากถงึ หลายสใี นดอกเดียว ดอกลลี าวดียงั เป็นดอกไม้ประจาชาตขิ องประเทศลาว โดยเรียกวา่ \"ดอก จาปา\" และพบได้มากบริเวณทางขนึ ้ พระธาตทุ เี่ มืองหลวงพระบาง สาหรับใน ประเทศไทยนนั้ มกั พบต้นลน่ั ทมตามธรรมชาตทิ างภาคเหนือเป็นสว่ นใหญ่

ดอกชบา ชบาเป็นไม้พ่มุ ขนาดกลาง ใบคอ่ นข้างมนรี มีปลายแหลม ขอบ ของใบเป็นจกั เลก็ น้อย และมสี ีเขียวเข้มอ่อน เมือ่ ขยีใ้ บจะเป็น เมือกเหนียว ดอกมีทงั้ กลบี ชนั้ เดยี วและหลายชนั้ หากเป็นชนั้ เดียวปกตจิ ะมกี ลบี ดอก 5 กลีบ มีก้านเกสรอย่ตู รงกลางดอก หนง่ึ ก้าน ลกั ษณะของกลีบดอกชบาจะมีขนาดใหญ่ มีหลายสี ไมว่ ่าจะเป็น ขาว แดง แสด เหลือง มว่ ง ชมพู และสีอ่ืน ๆ โดย ดอกชบาแบง่ ออกเป็น 3 ลกั ษณะคือ ดอกบานเป็นรูปถ้วย ดอก บานเป็นรูปแผแ่ บน และกลบี ดอกบานแบบแผโ่ ค้ง และ ขยายพนั ธ์ดุ ้วยการปักชา การตอ่ ตา การตดิ ตา และการเสียบ ยอด

ดอกพกิ ลุ พิกลุ เป็นไม้ยืนต้น ใบเดย่ี ว เรียงเวยี นสลบั รูปรี รูปไข่กว้าง 2-6 เซนตเิ มตร ยาว 7-15 เซนตเิ มตร ปลายใบแหลมเป็นต่งิ ขอบใบเป็นคลืน่ ดอกเดย่ี ว อยู่ รวมกนั เป็นกระจกุ ท่ปี ลายกิ่งหรือทีซ่ อกใบ กลบี เลยี ้ ง 8 กลบี เรียงซ้อนกนั 2 ชนั้ กลีบดอกประมาณ 24 กลีบ เรียงซ้อนกนั โคนกลีบดอกเชื่อมติดกนั เลก็ น้อย ดอกสขี าว เมื่อใกล้โรยสีเหลอื งอมนา้ ตาล ดอกบานวนั เดยี วแล้ว ร่วง มีกลนิ่ หอม ออกดอกตลอดปี ผลสีเหลือง รสหวานอมฝาด

กระบองเพรช ลกั ษณะทวั่ ไป กระบองเพชรเป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดเลก็ ถงึ ขนาดกลาง ลาต้นมีความสงู ประมาณ 1 - 12 ฟตุ ลาต้นมีสีเขียวหรือเขียวคลา้ มขี น หรือหนามรอบต้นหรือไมม่ ีก็ได้แล้วแตช่ นิดพนั ธ์ุ ลกั ษณะต้นเป็นเหลยี่ มรูป ทรงกระบอกรูปทรงกลม หรือแล้วแตช่ นิดพนั ธ์ุ หนามคือสว่ นของลาต้นที่ ทาหน้าที่แทนใบ หรือบางชนิดก็มีใบแบนกลมหนาใหญ่ อาจมีดอกสีแดง สี เหลือง หรือสขี าว ลกั ษณะดอกและขนาดดอกขนึ ้ กบั ชนิดพนั ธ์ุ

มะคา่ โมง มะค่า เป็นชื่อของไม้เนือ้ แข็งยืนต้นทีม่ ขี นาดใหญ่ชนิดหนงึ่ ท่ีสามารถ ปลกู เป็นไม้ทางเศรษฐกิจได้ เป็นต้นไม้มงคลพระราชทานประจา จงั หวดั สโุ ขทยั ผลดั ใบชว่ งสนั้ ๆ สงู ได้ถงึ 30 เมตร แตกกิ่งก้านเป็นพ่มุ กว้าง เปลอื กต้นสเี ทาออ่ น หรือสชี มพอู มนา้ ตาล ผิวต้นขรุขระ กิ่งออ่ นมี ขนประปราย ต้นแก่มกั มปี ่ มุ ปม เนือ้ ไม้มลี วดลายสวยงามสีนา้ ตาลอม เหลอื ง ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนกชนั้ เดยี ว ปลายใบคู่ ออกเรียง สลบั

ต้นสกั สัก เป็นไม้ต้นขนาดใหญ่ผลดั ใบในฤดรู ้อน ลาต้นเปลาตรงเปลอื กเรียบหรือ แตกเป็นร่องเลก็ ๆ สีเทา โคนเป็นพพู อนต่า ๆ เรือนยอดเป็นพ่มุ ทรงกลม คอ่ นข้างทบึ เปลือกสีเทา เรียบ หรือแตกเป็นร่องตืน้ ตามความยาวลาต้น ขนึ ้ เป็นหมใู่ นป่ าเบญจพรรณทางภาคเหนือ บางสว่ นในภาคกลางและภาค ตะวนั ตก มอี ย่บู ้างทางภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ สกั มกั จะได้รับความเข้าใจ ผิดเสมอวา่ เป็นไม้เนือ้ แขง็ เน่ืองจากวา่ มนั มลี กั ษณะพเิ ศษที่เป็นไม้เนือ้ ออ่ นท่ี มคี วามทนทานกวา่ ไม้เนือ้ แข็งหลาย ๆ ชนิด ช่ือสามญั อ่ืนอื่น: เซบา่ ยี,้ ปี ฮือ, ปายี,้ เป้ อยี สีขายขนมเส้น

ดอกโป๊ ยเซยี น ใบยาวรี ปลายใบจะแหลม ออกดอกเป็นกลมุ่ ๆ แตล่ ะดอกจะ มีกลบี อยตู่ รงข้ามกนั ดอกโป๊ ยเซยี นมหี ลายสี เช่น แดง เหลือง ชมพู ส้ม ขาว เป็นต้น ดอกโป๊ ยเซียนจะออกดอกทงั้ ปี แตอ่ อก มากในหน้าหนาว และดอกจะทนมาก ลาต้นมหี นามแหลม และแข็งคล้ายกระบองเพชร

ต้นหกู ระจง ต้นหูกระจง หรือ แผ่บารมี (Terminalia ivorensis Chev.) เป็นไม้ที่มกี ารเจริญเติบโตเร็ว และมีอายยุ ืน สาหรับในประเทศไทยพบต้น หกู ระจงอย่ทู งั ้ หมด 3 สายพนั ธ์ุ คือ หกู ระจงธรรมดา หกู ระจงหนาม และหู กระจงแคระ ทงั ้ นี ้หกู ระจงธรรมดาเป็นพนั ธ์ทุ ี่ได้รับความนิยม ในการซือ้ ไป ปลกู เป็นไม้ประดบั มากที่สดุ ทงั ้ ๆ ที่หกู ระจงหนามมีทรงพมุ่ ท่ีสวยกวา่ และใบของต้นหกู ระจงหนามจะเป็นเงา และแน่นกว่าเหมาะท่ีจะปลกู เป็น ไม้กระถาง เหตผุ ลที่สาคญั ที่คนสนใจปลกู ต้นหกู ระจงหนามไมม่ าก เน่ืองจากความเช่ือเร่ืองหนามที่ไมเ่ ป็นมงคลต่อผ้ปู ลกู สาหรับหกู ระจง แคระ เป็นหกู ระจงที่หายากกว่าหกู ระจงสายพนั ธ์อุ ่ืน

อินทนิล อินทนิล หรือ อินทนิลนา้ เป็นไม้ยืนต้น เป็นพรรณไม้ที่พบขนึ ้ ทว่ั ไปตามทร่ี าบลมุ่ และบริเวณริมฝ่ังแมน่ า้ ลาห้วย ในป่ าเบญจ พรรณชืน้ และป่ าดงดิบทวั่ ทกุ ภาค จะพบมากในป่ าดงดิบภาคใต้ มดี อกสีมว่ ง สวยงาม มชี ื่อในแตล่ ะท้องถิ่นตา่ ง ๆ กนั เช่น ตะแบกอนิ เดยี ฉ่องมู ซอง (กะเหร่ียง-กาญจนบรุ ี) บาเอ (ปัตตานี) บางอบะซา (ยะลา นราธิวาส มาเลเซยี ) อนิ ทนิล (ภาค กลาง ภาคใต้) ตะแบกดา (กรุงเทพฯ)

ต้นชาทอง ไม้พ่มุ สงู 1 เมตร ผิวลาต้นหยาบ ขรุขระ สีเทาออ่ น ใบเดี่ยวแบบตรง ข้าม ใบรูปรี กว้างประมาณ 1.5-2.5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 5 เซนตเิ มตร ใบสเี ขียวออ่ นอมเหลอื งถงึ สีเหลอื งทอง ปลายใบแหลม โคน ใบสอบเรียว ขอบใบเรียบ ดอกช่อแบบชอ่ วงแถวเดี่ยว กลิน่ หอม ออที่ ปลายยอด กลบี เลีย้ ง 6 กลีบ สีเขียวกลบี ดอก 5 กลีบ สมี ว่ งออ่ น เกสร เพศผู้ 5 เกสร เกสรเพศเมีย 1 อนั ผลเดยี่ ว ผลสด เมล็ดเดี่ยวแข็ง ผล ออ่ น

จดั ทาโดย นายพชิ าญ ทองอารมย์ เลขท่ี7 นาย ธีรพงษ์ แหลมจริง เลขท่ี14 นางสาวพชั ญาพร เลยี ลา เลขที่17


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook