Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แบบฟอร์มแผนการสอนพลังงาน 01

แบบฟอร์มแผนการสอนพลังงาน 01

Published by j.pranomsri, 2022-06-04 08:58:52

Description: แบบฟอร์มแผนการสอนพลังงาน 01

Search

Read the Text Version

1 แผนการจัดการเรยี นรมู้ ุ่งเนน้ สมรรถนะ ช่อื วิชา พลงั งาน ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม รหสั วิชา 20001-1002 ทฤษฎี 2 คาบ หลกั สูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) -สาขาคอมพวิ เตอรธ์ ุรกจิ 1/5 -สาขาการบัญชี 1/6 -สาขาการตลาด 1/7 -สาขาการโรงแรม 1/8 -สาขาการโรงแรม 1/9 -สาขาเทคนิคคอมพิวเตอร์ 2/5 จดั ทำโดย นายจุตติ ประนมศรี วทิ ยาลยั เทคโนโลยบี างละมุงอนิ เตอร์-เทค สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

2 หลักสตู รรายวชิ า ชือ่ วิชา พลังงาน ทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อม รหัสวชิ า 20001-1002 ทฤษฎี 2 คาบ หลักสตู รประกาศนียบัตรวชิ าชพี (ปวช.) สาขาวชิ า พานิชกรรม และ อตุ าสาหกรรม จดุ ประสงคร์ ายวชิ า เพื่อให้ เข้าใจหลักการและวธิ ีการป้องกนั แก้ไขปญั หา การอนุรักษ์พลังงาน ทรัพยากรและส่ิงแวดลอ้ ม สามารถประยุกต์ใช้หลักการและวธิ กี ารเพื่อปอ้ งกัน แก้ไขปัญหา อนุรกั ษ์พลังงาน ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมในงาน อาชพี มเี จตคติทีด่ ีต่อการอนรุ ักษพ์ ลงั งาน ทรัพยากรและสงิ่ แวดล้อมในงานอาชพี สมรรถนะรายวิชา แสดงความรูเ้ ก่ียวกับพลังงาน ทรัพยากรและสง่ิ แวดล้อม หลักการและวธิ ีป้องกัน แกไ้ ขปัญหาการอนุรักษ์ พลังงาน ทรัพยากรและสิง่ แวดล้อมวิเคราะห์สภาพปญั หาและผลกระทบท่ีเกิดจากการใช้พลังงาน ทรัพยากรและ สง่ิ แวดลอ้ มวางแผนป้องกนั แก้ไขปัญหาและผลกระทบที่เกิดจากการใช้พลงั งาน ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมในงาน อาชพี วางแผนการอนุรักษ์พลงั งาน ทรัพยากรและสง่ิ แวดล้อม คำอธบิ ายรายวชิ า ศกึ ษาและปฏบิ ัตเิ กี่ยวกบั ความหมายและประเภทของพลังงานและสิง่ แวดล้อม ความสมั พันธข์ องพลงั งาน และสงิ่ แวดลอ้ มกบั การดำเนินชีวิต ปัญหาการใช้พลงั งานที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หลกั และวธิ กี ารอนรุ ักษ์ พลังงานและสง่ิ แวดล้อม การป้องกนั และแกไ้ ขปัญหา พลงั งานทดแทน กฎหมายและนโยบายท่ีเกี่ยวข้อง

3 กำหนดการสอน สัปดาห์ท่ี หนว่ ยที่ ชือ่ หน่วยการสอน จำนวนช่วั โมง 1-2 1 ความรเู้ บอ้ื งตน้ เกี่ยวกับพลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติและ 3-5 2 สิ่งแวดลอ้ ม 4 6-7 3 แหล่งกำเนดิ พลังงาน 8-9 4 ความสมั พนั ธ์ของพลังงาน ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อมกับ 6 10 การดำรงชีวิต 11-13 5 ผลกระทบการใชพ้ ลงั งาน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 4 14-15 6 16-17 7 สอบกลางภาค 4 18 หลกั และวธิ ีการการอนุรกั ษ์พลงั งาน ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ 2 สิง่ แวดล้อม การป้องกนั และการแก้ไขปญั หาพลงั งานและส่ิงแวดล้อม 6 กฎหมายและนโยบายพลงั งาน ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ สง่ิ แวดล้อม 4 ทดสอบปลายภาค รวมเวลาเรียน 4 2 34 หมายเหตุ : อาจยืดหยุ่นได้ถา้ มีการทดสอบกลางภาคควรเพม่ิ ชวั่ โมงในหนว่ ยที่ 10 หรือตามความเหมาะสม

4 หนว่ ยการเรียนรแู้ ละสมรรถนะประจำหน่วย ชื่อหน่วย สมรรถนะ หน่วยท่ี 1 ความรู้ ทกั ษะ คุณลกั ษณะที่พึงประสงค์ ความรู้เบ้อื งตน้ เกี่ยวกบั พลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติ 1.พลังงาน 1.มที ักษะในเร่ืองของ 1.ขยนั และสิ่งแวดล้อม 2.ประหยดั 2.ทรพั ยากรธรรมชาติ พลงั งาน 3.ซ่อื สตั ย์ 3.สง่ิ แวดลอ้ ม ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ 4.มวี ินัย 4.ความสัมพันธร์ ะหวา่ งพลังงาน สิง่ แวดล้อม 5.สุภาพ ทรพั ยากรธรรมชาติและ 2.มที กั ษะในกจิ กรรม 6.สะอาด สงิ่ แวดล้อม กลุม่ 7.สามคั คี 5.ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งพลังงาน 3.สามรถนำเสนองานใน 8.มีนำ้ ใจ กับระบบนิเวศ กล่มุ ได้อยา่ งดี 6.วิกฤตการใช้พลังงาน ทรพั ยากรธรรมชาติและ 4.มอี งคค์ วามร้ใู นเร่อื งที่ สง่ิ แวดล้อม เรียน 7.ผลกระทบทเ่ี กดิ จากปัญหา สิง่ แวดล้อม 8.แนวทางการอนุรกั ษ์และพัฒนา พลงั งาน ทรัพยากรธรรมชาติและ ส่งิ แวดลอ้ ม หน่วยที่ 2 1. พลงั งานสนิ้ เปลอื ง 1.มที กั ษะในเรอ่ื งของ 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ แหลง่ กำเนดิ พลงั งาน 2. พลังงานทดแทน พลังงานสิน้ เปลอื งลพลัง 2. ซือ่ สัตยส์ ุจรติ งานทดแทน 3. มีวินัย 2.มีทักษะในกิจกรรม 4. ใฝเ่ รยี นรู้ กลมุ่ 5. อยู่อยา่ งพอเพยี ง 3.สามรถนำเสนองานใน 6. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน กลมุ่ ไดอ้ ยา่ งดี 7. รักความเป็นไทย 4.มอี งคค์ วามรู้ในเรือ่ งที่ 8. มจี ติ สาธารณะ พลงั งานสนิ้ เปลอื งและ พลังงานทดแทน

5 หนว่ ยการเรยี นรู้และสมรรถนะประจำหน่วย(ตอ่ ) ชอื่ หน่วย สมรรถนะ หน่วยท่ี 3 ความสัมพันธข์ องพลังงาน ความรู้ ทักษะ คณุ ลักษณะที่พึงประสงค์ ทรพั ยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอ้ มกบั การดำรงชีวติ 1.พลงั งานแปรรปู 1.มีทกั ษะในเร่ืองของ 1.ขยนั 2.ประหยัด หน่วยท่ี 4 2.บทบาทของมนุษย์ในระบบ พลังงานแปรรปู 3.ซื่อสตั ย์ ผลกระทบการใชพ้ ลังงาน 4.มวี ินยั ทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม 2.มที ักษะในกจิ กรรมกลมุ่ 5. อยูอ่ ยา่ งพอเพยี ง สง่ิ แวดลอ้ ม 6. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน 3.การใชพ้ ลังงานใน 3.สามรถนำเสนองานใน 7. รกั ความเป็นไทย 8. มีจิตสาธารณะ ชีวิตประจำวนั กลุ่มได้อย่างดี 4.หนว่ ยวัดพลังงาน 4.มอี งค์ความรใู้ นเรื่อง 5.พลังงานไฟฟ้า พลงั งานทขี่ าด พลังงานแปรรูป ที่ใชใ้ น ไมไ่ ดใ้ นยคุ โลกาภวิ ฒั น์ ยานพาหนะและประกอบ 6.พลงั งานเช้ือเพลิงที่ใชส้ ำหรับ อาหาร ยานพาหนะ 5.มีความรเู้ รื่องมนุษยก์ บั 7.พลงั งานในการประกอบอาหาร การใชป้ ระโยชนจ์ าก 8.มนุษย์กับการใชป้ ระโยชนจ์ าก พลงั งาน พลังงาน 1.ระดับปญั หาสงิ่ แวดลอ้ ม 1.มีทกั ษะในเรื่องของปัญหา 1.ขยัน 2.ผลกระทบต่อสภาพภูมิประเทศ สิ่งแวดลอ้ ม 2.ประหยัด และทรัพยากรดนิ 2.มีทักษะในกจิ กรรมกลุ่ม 3.ซอ่ื สัตย์ 3.ผลกระทบต่ออากาศและเสียง 3.สามรถนำเสนองานใน 4.มวี ินัย 4.ผลกระทบต่อทรัพยากรน้ำ กลมุ่ ได้อยา่ งดี 5. อยอู่ ยา่ งพอเพียง 5.ผลกระทบต่อการเกดิ ภาวะโลก 4.มีองค์ความรูใ้ นเรื่อง 6. มงุ่ ม่ันในการทำงาน ร้อน ผลกระทบต่ออากาศและ 7. รักความเป็นไทย 6.ผลกระทบต่อการลดลงของชน้ั เสยี ง5.มีความรเู้ รื่องมนุษย์ 8. มจี ติ สาธารณะ โอโซน (O3) ในช้ันบรรยากาศ กับผลกระทบต่อการลดลง 7.ผลกระทบต่อการสญู เสียความ ของชั้นโอโซน (O3) ในชั้น หลากหลายทางชีวภาพ บรรยากาศ 8.ผลกระทบต่อการเกดิ มลทัศน์

6 หนว่ ยการเรยี นรู้และสมรรถนะประจำหน่วย(ตอ่ ) ช่ือหน่วย สมรรถนะ หนว่ ยท่ี 5 หลักและวิธกี ารการอนรุ ักษ์ ความรู้ ทกั ษะ คุณลักษณะทีพ่ ึงประสงค์ พลงั งาน ทรัพยากรธรรมชาติ 1.ขยนั และสง่ิ แวดล้อม 1. ความหมายของการอนรุ กั ษ์ 1.มที กั ษะในเรื่องของการ 2.ประหยดั 3.ซื่อสตั ย์ หน่วยท่ี 6 2. สถานการณ์การใช้พลังงาน อนุรักษ์พลงั งาน 4.มีวนิ ัย การปอ้ งกนั และการแก้ไข 5. อยูอ่ ยา่ งพอเพียง ปญั หาพลังงานและ 3. จิตสำนึกในการอนุรกั ษ์ 2.มที ักษะในกจิ กรรมกลมุ่ 6. มุ่งมัน่ ในการทำงาน ส่ิงแวดลอ้ ม 7. รักความเปน็ ไทย พลังงาน 3.สามรถนำเสนองานใน 8. มีจิตสาธารณะ 4. วิธกี ารเบือ้ งตน้ ในการอนรุ ักษ์ กลมุ่ ได้อยา่ งดี 1. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ 2. ซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ พลังงาน 4.มีองค์ความรู้ในเร่ือง 3. มีวนิ ัย 4. ใฝเ่ รียนรู้ 5. การปรบั ปรงุ อาคารเพ่ือการ วิธกี ารเบ้อื งตน้ ในการ 5. อยู่อย่างพอเพยี ง 6. มุ่งมัน่ ในการทำงาน อนรุ กั ษ์พลงั งาน อนุรักษ์พลงั งาน 7. รกั ความเปน็ ไทย 8. มจี ติ สาธารณะ 6. การอนรุ กั ษพ์ ลงั งานด้านต่าง ๆ 5.มคี วามรเู้ ร่ืองมนุษยก์ บั 7. การใช้แหลง่ พลงั งานอย่างมี แนวทางการจดั การ ประสทิ ธิภาพ สิง่ แวดล้อมแบบย่งั ยนื 8. หลกั การการจดั การ 6.มที ักษะตามวัตถุประสงค์ ส่งิ แวดล้อม และวิธกี ารอนรุ ักษ์ 9. แนวทางการจัดการ ทรพั ยากรธรรมชาติและ ส่งิ แวดล้อมแบบยัง่ ยนื สิง่ แวดล้อม 10. ความร่วมมือในการจัดการ สงิ่ แวดลอ้ ม 11. วตั ถปุ ระสงค์และวธิ กี าร อนรุ กั ษ์ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ สิ่งแวดล้อม 1. ปัญหาพลงั งานและ 1.มที กั ษะในเร่ืองของการ สิ่งแวดล้อม ปญั หาพลังงานและ 2. การวเิ คราะหร์ ะบบส่งิ แวดล้อม สิ่งแวดลอ้ ม 3. การป้องกนั และวธิ ีแก้ไขปัญหา 2.มีทกั ษะในกิจกรรมกลมุ่ พลงั งานสิง่ แวดล้อม 3.สามรถนำเสนองานใน 4.การประเมินผลกระทบ กลุ่มได้อย่างดี สิง่ แวดล้อม 4.มอี งค์ความรใู้ นเร่ืองการ ปอ้ งกันและวธิ ีแก้ไขปญั หา พลังงานส่ิงแวดล้อม 5.มคี วามรู้เร่ืองการ ประเมนิ ผลกระทบ สิ่งแวดลอ้ ม

7 หนว่ ยการเรยี นรูแ้ ละสมรรถนะประจำหนว่ ย(ต่อ) ชื่อหน่วย สมรรถนะ หนว่ ยที่ 7 ความรู้ ทกั ษะ คณุ ลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ กฎหมายและนโยบาย พลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติ 1. ทม่ี าของกฎหมายอนรุ ักษ์ 1.มที ักษะในเรื่องของ 1.ขยนั และส่ิงแวดล้อม 2.ประหยดั พลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติและ กฎหมายอนุรักษ์พลงั งาน 3.ซ่ือสัตย์ 4.มีวนิ ยั สิ่งแวดลอ้ ม ทรพั ยากรธรรมชาติและ 5. อยูอ่ ยา่ งพอเพียง 6. มุง่ ม่ันในการทำงาน 2. กฎหมายการอนรุ ักษ์พลงั งาน สง่ิ แวดล้อม 7. รักความเป็นไทย 8. มีจิตสาธารณะ 3. กฎหมายส่งิ แวดลอ้ ม 2.มีทักษะในกิจกรรมกลมุ่ 9.สุภาพ 10.สะอาด 4. กฎหมายสงวนและคุม้ ครอง 3.สามรถนำเสนองานใน 11.สามัคคี 12.มนี ำ้ ใจ สัตวป์ า่ กล่มุ ได้อยา่ งดี 5. กฎหมายส่ิงแวดล้อมอนื่ ๆ 4.มีองค์ความรใู้ นเรื่อง 6. ผลบงั คับทางกฎหมายของ ปญั หาการใชก้ ฎหมาย พระราชบญั ญัติ พลังงาน 7. ปัญหาการใชก้ ฎหมายพลงั งาน ทรัพยากรธรรมชาติและ ทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอ้ ม สง่ิ แวดลอ้ ม 5.มีความรูเ้ รื่องมนุษยก์ บั 8. นโยบายและแผนเกีย่ วกบั แนวทางการจัดการ พลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติและ ส่งิ แวดลอ้ มแบบย่ังยนื สงิ่ แวดล้อม 6.นโยบายและแผนเกยี่ วกับ พลังงาน ทรพั ยากรธรรมชาติและ สงิ่ แวดล้อม

8 การสอนออนไลน์ โดยใช้ Google Classroom

9 การสอนออนไลน์ โดยใช้ Google Classroom

10 แผนการจดั การเรียนรมู้ งุ่ เนน้ สมรรถนะ หนว่ ยที่ 1 ชือ่ หน่วย ความรู้เบ้อื งตน้ เก่ียวกบั พลงั งาน ทรัพยากรธรรมชาติ สอนคร้ังที่ 1-2 และสง่ิ แวดล้อม ช่ัวโมงรวม 4 ชอื่ เรอ่ื ง ความร้เู บ้ืองต้นเก่ยี วกับพลงั งาน จำนวนชั่วโมง 2 1.สาระสำคัญ 1. พลังงาน 2. ทรพั ยากรธรรมชาติ 3. สิ่งแวดล้อม 4. ความสมั พันธ์ระหวา่ งพลังงาน ทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม 5. ความสมั พันธร์ ะหว่างพลงั งานกับระบบนเิ วศ 6. วกิ ฤตการใช้พลงั งาน ทรัพยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดล้อม 7. ผลกระทบทเ่ี กิดจากปญั หาสิง่ แวดลอ้ ม 8. แนวทางการอนุรักษแ์ ละพัฒนาพลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ ม 2.สมรรถนะประจำหนว่ ย เพื่อใหผ้ เู้ รยี นไดศ้ ึกษาความรเู้ บ้ืองต้นเก่ยี วกบั พลงั งาน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม เพ่อื ประยุกต์ใช้ในชีวติ ประจำวัน 3.จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ เมอ่ื เรยี นจบหน่วยการเรียนนี้ ผูเ้ รยี นสามารถ 1. อธบิ ายความหมายของพลังงาน ทรพั ยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดลอ้ มไดถ้ ูกต้อง 2. อธิบายความสมั พันธ์ของพลังงาน ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ มได้ถกู ตอ้ ง 3. อธิบายสาเหตคุ วามเสอ่ื มโทรมของพลังงาน ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ มได้ถกู ตอ้ ง 4. อธบิ ายแนวทางการอนุรักษพ์ ลงั งาน ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล้อมได้ถูกต้อง 5. อธิบายผลกระทบท่เี กดิ จากการใช้พลงั งาน ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ มได้ถกู ต้อง 3.2 ด้านทักษะ 1.มีทักษะในเรอ่ื งของพลังงาน ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ ม 2.มีทักษะในกิจกรรมกลุ่ม 3.สามรถนำเสนองานในกลมุ่ ไดอ้ ยา่ งดี 4.มอี งคค์ วามรใู้ นเรื่องท่ีเรยี น

11 3.3 คุณลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2. ซ่อื สตั ยส์ จุ ริต 3. มวี ินยั 4. ใฝ่เรียนรู้ 5. อยู่อย่างพอเพยี ง 6. มุ่งมนั่ ในการทำงาน 7. รักความเปน็ ไทย 8. มจี ิตสาธารณะ 3.4 หลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง ด้านสงั คม -ร้จู กั แบ่งหน้าท่ีรับผิดชอบในการทำงาน -แลกเปลย่ี นเรียนรูจ้ ากเพื่อนครู ดา้ นสงิ่ แวดล้อม -มคี วามรู้ในการเลอื กใช้วสั ดอุ ุปกรณใ์ นท้องตลาดมาใชป้ ระโยชน์ได้อย่างเหมาะสม -มคี วามรู้เก่ยี วกับการรกั ษาธรรมชาติ และสง่ิ แวดลอ้ ม ด้านวฒั นธรรม -มคี วามรคู้ วามเข้าใจในภมู ิปญั ญาทอ้ งถน่ิ มาใช้ในการเรยี นรู้ และ ผลิตชิ้นงาน 4.ความรพู้ ืน้ ฐานทค่ี วรมกี อ่ นเรียน -ความรดู้ ้านพลงั งาน -ความรู้ด้านการทำกจิ กรรมกลุ่ม -ความรู้ดา้ นการนำเสนองาน 5.เน้อื หาสาระการเรยี นรู้ สิ่งแวดล้อม หมายถึง สรรพสิ่งทั้งหลายที่อยู่รอบ ๆ ตัว ไม่ว่าจะเกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ ซึ่งเรียกว่า “ทรพั ยากรธรรมชาติ” หรอื สิงแวดล้อมทมี่ นุษย์สรา้ งข้ึน ทัง้ เป็นรูปธรรม นามธรรม รวมท้ังการนำทรัพยากรธรรมชาติ มาใช้ประโยชน์ในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อปัจจัยสี่ คือ อาหาร ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม และยารักษาโรค และเพื่ออำนวย ความสะดวกสบาย ล้วนต้องพึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติทั้งสิ้น มนุษย์อาจใช้ประโยชน์ในรูปของพลังงานแปรรูป เช่น ไฟฟ้า เชื้อเพลิง น้ำมัน การใช้ทรัพยากรธรรมชาติก่อให้เกิดผลกระทบตามมา เนื่องจากขาดความตระหนักถึงการ อนุรกั ษก์ ารใชพ้ ลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อม จงึ ควรคำนงึ ถึงความยัง่ ยนื เพ่ือการพฒั นาท้งั หลาย ต้องไม่ มีผลกระทบต่อสิง่ แวดล้อมจนเกนิ ที่ธรรมชาตจิ ะรับได้

12 แผนการจดั การเรยี นรมู้ งุ่ เนน้ สมรรถนะ หน่วยท่ี 1 ชื่อหนว่ ย ความร้เู บื้องต้นเกี่ยวกบั พลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติและ สอนครั้งที่ 1-2 ชว่ั โมงรวม 4 สง่ิ แวดล้อม ช่ือเรือ่ ง ความรู้เบ้อื งต้นเกยี่ วกบั พลังงาน จำนวนชวั่ โมง....... 6.กจิ กรรมการเรียนรู้ ขั้นสนใจปัญหา จูงใจผู้เรียน (motivation) 1. ตรวจเรยี กรายช่ือ การแต่งกาย 2. แจง้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้วิชาพลงั งาน ทรพั ยากรและสง่ิ แวดลอ้ ม/การวัดผลและเกณฑ์การประเมนิ ผล/โดย เปิดโอกาสให้ผู้เรยี นซักถาม 3. บอกจดุ ประสงคก์ ารเรยี นหน่วยที่ 1 ความรเู้ บื้องต้นเกย่ี วกับพลงั งาน ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม 4. ใหท้ ำแบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยท่ี 1 (10 นาท)ี 5. สนทนา ซกั ถามจากภาพข่าวเกยี่ วกับสงิ่ แวดล้อมและเหตกุ ารณป์ จั จบุ นั จากสอ่ื ตา่ ง ๆ ให้ผเู้ รียนแสดงความ คดิ เหน็ ขัน้ ศกึ ษาข้อมูล (information) 1. อธิบายความหมายของทรัพยากรธรรมชาติ สงิ่ แวดลอ้ มและพลงั งาน ซักถามใหผ้ ูเ้ รียนยกตัวอย่าง ประกอบคำอธิบาย 2. อธิบายความร้เู บ้ืองตน้ เกีย่ วกับพลังงานและสง่ิ แวดลอ้ มกับระบบนิเวศ และสาระการเรยี นรตู้ ามหนว่ ย การเรยี น โดยใช้ Power Point ประกอบ พร้อมการซักถาม 3. ใหท้ ำกจิ กรรมใบงานที่ 1 โดยผสู้ อนจะตรวจสอบและสรุปในชัว่ โมงถัดไป 4. ใหผ้ ู้เรียนซกั ถามข้อสงสยั หรือนำไปสู่การสรุป ขัน้ นำขอ้ มลู มาทดลองใช้ (application) 1. ให้รว่ มกนั สรปุ สาระสำคัญโดยการซกั ถาม 2. ให้ทำแบบทดสอบหลงั เรียน ขั้นสำเร็จผล (progress) 1.สรุปเกณฑ์การประเมนิ ผล 2.ถ้าผูเ้ รยี นไมผ่ ่านควรมีการซ่อมเสริม

13 แผนการจดั การเรียนรมู้ ุง่ เนน้ สมรรถนะ หนว่ ยท่ี 1 ชอ่ื หนว่ ย ความรเู้ บื้องตน้ เก่ียวกบั พลงั งาน ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ สอนครง้ั ท่ี 1-2 ชั่วโมงรวม 4 ส่ิงแวดล้อม ชอื่ เรื่อง ความรูเ้ บอื้ งต้นเกย่ี วกับพลังงาน จำนวนชั่วโมง....... 7.สื่อการเรยี นรู้/แหลง่ การเรยี นรู้ สือ่ ส่งิ พมิ พ์ - หนงั สือเรยี นวชิ าพลังงาน ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ของสำนกั พมิ พ์ศูนย์สง่ เสริมวชิ าการ (2562) - ขา่ วสารเกยี่ วกับทรัพยากรธรรมชาติ สง่ิ แวดลอ้ ม และพลงั งาน ท่เี ปน็ ข่าวในสื่อต่าง ๆในเหตุการณ์ ปจั จบุ ัน ส่อื โสตทศั น์ Power Point 8.เอกสารประกอบการจดั การเรยี นรู้ (ใบความรู้ ใบงาน ใบมอบหมายงาน ฯลฯ) - ใบเนือ้ หาเรือ่ ง ความรู้เบ้ืองต้นเก่ียวกบั พลงั งาน ทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อม 9.การบูรณาการ/ความสัมพันธ์กับวชิ าอ่ืน - บูรณาการกบั วิชาพลงั งานและสง่ิ แวดล้อม 10.การวดั และประเมินผล 1. การวัดผล 1.1 จากแบบทดสอบหลงั เรียน 1.2 จากกจิ กรรมกลุ่มตามใบงาน 1.3 จากการสังเกตพฤตกิ รรม 1.4 จากการนำเสนองานกลุ่ม 1.5 จากแบบทดสอบออนไลน์ 2. เครื่องมือวัดและประเมิน 2.1 ใบงาน 2.2 แบบทดสอบออนไลน์ 2.3 แบบประเมินคณุ ธรรม จรยิ ธรรม 3. เกณฑก์ ารประเมินผล 3.1 จากแบบประเมิน พฤตกิ รรมรายบคุ คลและกลุม่ 3.2 จากคะแนนแบบทดสอบหลงั เรียน 3.3 แบบประเมินคณุ ธรรมและจริยธรรม

14 แผนการจัดการเรียนรมู้ ่งุ เน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 1 สอนคร้งั ที่ 1-2 ชือ่ หนว่ ย ความรเู้ บื้องต้นเก่ียวกับพลังงาน ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ ชวั่ โมงรวม 4 ส่ิงแวดลอ้ ม จำนวนชัว่ โมง....... ชื่อเรอื่ ง ความรู้เบื้องตน้ เก่ียวกบั พลงั งาน 1.บันทกึ หลังการจัดการเรียนรู้ 11.1 ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรียนรู้ จำนวนเนือ้ หา มคี วามเหมาะสม ไม่เหมาะสมกบั จำนวนเวลา เพราะเหตุใด............................................................... การเรียงลำดบั เนอื้ หา มคี วามเหมาะสม ไม่เหมาะสมกับความเขา้ ใจของผู้เรียน เพราะเหตุใด................................................ การนำเข้าสู่บทเรียน มคี วามเหมาะสม ไมเ่ หมาะสมกบั เนอ้ื หาแต่ละหวั ขอ้ เพราะเหตุใด...................................................... วิธกี ารสอน มคี วามเหมาะสม ไมเ่ หมาะสมกับเน้ือหาแต่ละหวั ขอ้ เพราะเหตุใด..................................................... ส่ือการสอน มีความเหมาะสม ไม่เหมาะสมกบั เนื้อหาแต่ละหวั ข้อ เพราะเหตุใด...................................................... งานที่กำหนดใหท้ ำ มคี วามเหมาะสม ไม่เหมาะสมกับเนอื้ หา/เวลา/วตั ถปุ ระสงค์ เพราะเหตุใด........................................... การนำเสนอ มีความเหมาะสม ไมเ่ หมาะสมกับเนือ้ หา/เวลา/วตั ถุประสงค์ เพราะเหตุใด........................................... การประเมนิ ผล มีความเหมาะสม ไม่เหมาะสมกบั วัตถปุ ระสงคห์ น่วย เพราะเหตใุ ด....................................................... อน่ื ๆ ............................................................................................................................. .........................................

15 เน้ือหาหนว่ ยท่ี 1 ความรเู้ บื้องต้นเกย่ี วกบั พลงั งาน ทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อม ความสำคญั ของส่ิงแวดล้อม สิง่ แวดลอ้ มเปน็ ปจั จัยพืน้ ฐานสำคัญของการดำรงชีวิตของมนษุ ย์และสงิ่ มชี วี ติ ท้ังหลายมอี ิทธิพลตอ่ พฤติกรรมการดำเนินชีวิตของมนุษยท์ ี่อาศัยอยใู่ นภูมภิ าคต่าง ๆ (ชชั พล ทรงสนุ ทรวงศ,์ 2546) ความสำคัญ ของส่ิงแวดล้อมแบ่งออกเป็น ไดด้ งั น้ี 1. สง่ิ แวดล้อมทางกายภาพ มีความสำคญั ต่อสงิ่ มีชีวิตทอี่ าศัยอยใู่ นสง่ิ แวดล้อมนัน้ เช่นน้ำใช้เพ่อื การบรโิ ภคและเป็นท่ีอยู่อาศัยของสัตว์น้ำ อากาศใชเ้ พ่ือการหายใจของมนุษย์และสตั ว์ ดินเปน็ แหล่งทอ่ี ยู่ อาศัยของสิ่งมชี ีวิตบนบกแสงแดดให้ความร้อนและช่วยในการสงั เคราะหแ์ สงของพืช ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม ปัจจุบนั ประชากรโลกเพ่มิ จำนวนขน้ึ อยา่ งรวดเร็ว ทำให้มีการใชท้ รัพยากรธรรมชาตอิ ยา่ ง มากมาย เช่น ดนิ นำ้ ป่าไม้ เป็นตน้ ตามความจำเปน็ พน้ื ฐานเพ่ือการดำรงชวี ติ การใช้ทรพั ยากรธรรมชาติ อยา่ งเตม็ ท่ีโดยไม่คำนงึ ถึงผลเสยี ทจ่ี ะเกดิ ข้นึ ประกอบกบั ความก้าวหนา้ ทางด้านเทคโนโลยีทำให้สามารถนำ ทรัพยากรธรรมชาติท่ีไม่สามารถนำมาใชไ้ ดใ้ นอดีตมาใช้ได้ ทำให้ทรัพยากรธรรมชาตเิ สอ่ื มโทรม สง่ ผลกระทบต่อ สงิ่ แวดล้อมและมีผลโดยตรงต่อมนุษย์ ความหมายของส่ิงแวดล้อม ส่งิ แวดลอ้ ม หมายถงึ ทุกสงิ่ ทุกอย่างที่อยูร่ อบตัวทั้งทม่ี ชี ีวิตและไมม่ ชี วี ติ ทงั้ ท่ีเกิดขน้ึ เองตามธรรมชาตแิ ละสิ่งท่ี มนุษยส์ รา้ งข้ึน ประกอบดว้ ยสง่ิ ที่เป็นรปู ธรรม (จบั ต้องและมองเหน็ ได)้ และนามธรรม(จบั ตอ้ งไมไ่ ด้และมองไม่ เห็น)ซึง่ ส่งิ แวดลอ้ มมคี วามสำคัญต่อการดำรงชวี ิตของมนุษย์อย่างมากและเมื่อสิง่ แวดลอ้ มเปลยี่ นแปลงไปกจ็ ะ ส่งผลต่อการดำรงชีวติ ของมนุษยโ์ ดยตรง

16 1. สง่ิ แวดล้อมที่เกิดขน้ึ เองตามธรรมชาติ (Natural Environment) หมายถึง ทุกสิ่งทุกอย่างท่อี ย่รู อบตัว มนุษย์และเป็นสิ่งที่เกิดขึน้ เองตามธรรมชาติ แบง่ ย่อยออกเป็น 2 ลักษณะ 1.1 ส่ิงแวดลอ้ มทางชวี ภาพ (Biotic Environment) เปน็ ส่ิงแวดลอ้ มทใ่ี ช้ระยะเวลาสั้นๆ ในการเกิด เป็นส่งิ ท่สี ามารถเจริญเตบิ โตและขยายพนั ธ์ได้ ไดแ้ ก่ ปา่ ไม้ สตั วป์ ่า ทุ่งหญ้า สตั วน์ ้ำ เปน็ ตน้ 1.2 สง่ิ แวดล้อมทางกายภาพ (Physical Environment) เป็นสิง่ ทไ่ี ม่มชี ีวิต ได้แก่ แรธ่ าตุ แรเ่ ชื้อเพลิง ดนิ หนิ นำ้ อากาศ ความร้อน แสงสว่าง เป็นตน้ รปู ที่ 1.1 สง่ิ แวดลอ้ มทีเ่ กดิ ข้ึนเองโดยธรรมชาติ ท่มี า: http://www.learners.in.th/blogs/posts/510266 2. สิง่ แวดล้อมที่มนุษยส์ รา้ งขนึ้ (Man-Made Environment) แบง่ เปน็ 2 ลกั ษณะ 2.1 สิ่งแวดลอ้ มที่เป็นรปู ธรรม (Physical-Feature Environment) เป็นสิ่งแวดล้อมท่ี มองเหน็ ได้ จับตอ้ งไดเ้ ปน็ ส่ิงทม่ี นุษย์สร้างขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกในการมีชวี ติ อยู่ เพอื่ สนองความต้องการขน้ั พ้ืนฐานของการดำรงชวี ิต ได้แก่ปัจจยั ส่ี ประกอบดว้ ยอาหาร ที่อย่อู าศัย เครื่องนงุ่ ห่ม ยารักษาโรค และเทคโนโลยีหรอื นวัตกรรมตา่ ง ๆ 2.2 ส่ิงแวดล้อมทเ่ี ป็นนามธรรม (Abstract Environment) เป็นส่งิ แวดลอ้ มท่ีมนุษยส์ รา้ ง ขนึ้ เพ่ือความเป็นระเบยี บเรียบร้อยของการอย่รู ว่ มกันในสังคม เช่น กฎหมาย ประเพณี ระเบยี บ ข้อบงั คับ ศาสนา ความเช่ือพิธีกรรม เปน็ ตน้ รูปที่ 1.2 สิ่งแวดลอ้ มทีม่ นุษยส์ ร้างขน้ึ ท่มี า:http://www.oknation.net/blog/u-sabuy/2009/02/21/

17 ทรพั ยากรธรรมชาติ ทรัพยากรธรรมชาติ หมายถึง ส่ิงที่เกดิ ขึ้นเองตามธรรมชาติ มปี ระโยชน์สามารถสนองความต้องการ ของมนษุ ยไ์ ดห้ รือมนุษยส์ ามารถนำมาใช้ประโยชนไ์ ด้ เช่น บรรยากาศ ดนิ น้ำ ป่าไม้ ทงุ่ หญ้า สัตว์ ป่า แรธ่ าตุ (ชัยศรี ธาราสวสั ดพิ์ ิพฒั น์, 2548 : 92) ทรพั ยากรธรรมชาติ แบง่ ออกเปน็ 3 ประเภท ท่ี สำคญั ดงั น้ี 1. ทรพั ยากรท่ีใชแ้ ลว้ ไมห่ มดเน่ืองจากธรรมชาติสร้างใหม้ ีใช้อยู่ตลอดเวลา ไดแ้ ก่ นำ้ ที่อยู่ในวัฎจักร 2. ทรพั ยากรที่ใช้แล้วหมดแตส่ รา้ งทดแทนได้ เช่น ป่าไม้ ดนิ และสัตว์ป่า เป็นต้น 3. ทรพั ยากรท่ีใช้แลว้ หมดไป โดยธรรมชาตไิ ม่อาจจะสร้างขึน้ ทดแทนไดใ้ นชั่วอายุของคนรุน่ ปจั จุบนั เชน่ แรธ่ าตุ น้ำมนั สงิ่ แวดล้อมมคี วามเก่ียวขอ้ งกับวิถีชีวติ ของมนษุ ยด์ ังนี้ 1. เป็นแหล่งปจั จยั พ้นื ฐานในการดำรงชวี ติ ของมนษุ ย์ ดังน้ี 1.1 อาหาร โดยการผลิตอาหารจากทรัพยากรธรรมชาติ 1.2 ทีอ่ ยู่อาศัย มนุษย์อาศยั อยู่ตามแหล่งธรรมชาติตามร่มไม้ หุบเขาหรือถำ้ ดดั แปลงธรรมชาติ เพ่อื ป้องกนั ภัยที่เปน็ ปรากฏการณท์ างธรรมชาติ 1.3 เครื่องนงุ่ ห่ม สมยั แรกเป็นการนำใบไม้ เยือ่ ไม้และหนังสตั ว์ที่หาได้มาห่อหุม้ ร่างกาย เพื่อให้ ความอบอนุ่ จากนัน้ มีการผลิตเสือ้ ผา้ เคร่ืองนุ่งหม่ จากวสั ดุท่หี าได้ในถน่ิ ที่อยอู่ าศยั 1.4 ยารักษาโรค มนุษยเ์ รม่ิ ใช้พืชสมนุ ไพรในการรักษาโรคภัยไข้เจบ็ โดยเอามาทั้งต้น ก่ิง กา้ น เปลือก แกน่ ดอก ราก ตม้ กินหรอื ทาครั้งละมาก ๆ ตอ่ มามนษุ ย์ใชว้ ิธสี ังเคราะห์ตวั ยาใน สมนุ ไพร 2. ส่ิงกำหนดการต้ังถิ่นฐานและชมุ ชน ความอดุ มสมบูรณข์ องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มเป็น ปัจจัยทเ่ี อ้ือต่อการตัง้ ถน่ิ ฐานและชุมชนของมนษุ ย์ 3. ตวั กำหนดลกั ษณะอาชีพ มนษุ ยใ์ นแตล่ ะท้องถน่ิ จะประกอบอาชีพแตกตา่ งกนั ไป ตามสภาพของพื้นที่ และลักษณะของทรพั ยากรธรรมชาติ เช่น บรเิ วณท่รี าบลุ่มมักจะมีอาชีพ ทำเกษตรกรรม บริเวณชายทะเลหรอื เกาะต่าง ๆ ก็จะทำการประมง บรเิ วณที่เปน็ แหลง่ แร่ก็จะทำเหมอื งแรเ่ ป็นอาชีพหลัก 4. ตวั กำหนดรูปแบบของวัฒนธรรม รูปแบบวฒั นธรรมของมนษุ ยแ์ ตล่ ะท้องถิ่นมคี วามแตกตา่ งกันตาม สภาพแวดล้อมของท้องถ่ิน เชน่ การแตง่ กาย การกนิ อาหาร ขนบธรรมเนยี มประเพณี ตลอดจนความเช่ือและ ค่านยิ มตา่ ง ๆ สรุป ส่ิงแวดลอ้ ม หมายถงึ ทุกส่ิงทุกอย่างท่ีอยูร่ อบตัว ทงั้ มชี วี ติ และไมม่ ชี ีวิต ทัง้ ที่เกิดขนึ้ เองตามธรรมชาติ และส่ิงที่มนุษยส์ รา้ งขนึ้ ส่งิ แวดลอ้ มแบง่ ออกเป็น 2 ประเภท คือ ส่ิงแวดลอ้ มท่เี กิดข้นึ เองตามธรรมชาติ และสิ่งแวดลอ้ มที่ มนษุ ยส์ รา้ งขึน้

18 ทรพั ยากรธรรมชาติ หมายถึง สิ่งท่ีเกดิ ข้นึ เองตามธรรมชาติ มปี ระโยชนส์ ามารถสนองความต้องการ ของมนุษยไ์ ด้ แบง่ ออกเป็น 3 ประเภท คือ 1. ทรัพยากรท่ีใชแ้ ล้วไมห่ มด เชน่ พลงั งานจากดวงอาทติ ย์ ลม อากาศ และนำ้ เปน็ ต้น 2. ทรัพยากรทใ่ี ช้แลว้ หมดแต่สร้างทดแทนได้ เช่น ปา่ ไม้ พชื ดนิ สัตวป์ ่า และมนษุ ย์ เปน็ ต้น 3. ทรพั ยากรที่ใช้แล้วหมดไป เชน่ นำ้ มันปิโตรเลียม ก๊าซธรรมชาติ และถา่ นหิน เป็นต้น สิง่ แวดลอ้ มมีความเกย่ี วข้องกับวิถีชวี ติ ของมนุษย์ คือ 1. เปน็ แหล่งปจั จัยพืน้ ฐานในการดำรงชีวิตของมนษุ ย์ 2. เป็นสง่ิ กำหนดการตั้งถ่ินฐานและชุมชน 3. ตัวกำหนดลักษณะอาชีพ 4. ตัวกำหนดรูปแบบของวฒั นธรรม

19 ส่ือการสอน

20 ส่ือการสอน

21 ส่ือการสอน

22 ส่ือการสอน

23 แบบทดสอบเร่อื ง ทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อม 1. ทรัพยากรใดตอ่ ไปนที้ เ่ี ป็นสงิ่ ท่มี นษุ ยส์ รา้ งขน้ึ ก. ข. ค. ง. 2. ทรพั ยากรธรรมชาติชนดิ ใดท่ใี ช้แล้วหมดไป ก. นำ้ มนั ข. ถ่านหนิ ค. แร่ทองคำ ง. ถกู ทกุ ข้อ 3. ทรัพยากรธรรมชาติมีความสำคัญในข้อใดมากท่สี ุด ก. เป็นปจั จัยพนื้ ฐานในการดำรงชีวิตของมนุษย์ ข. เปน็ แหล่งท่องเท่ียวและพักผ่อนหยอ่ นใจ ค. สามารถนำไปค้าหากำไรได้ ง. เปน็ แหล่งกำเนิดเกีย่ วกับความเช่ือของมนษุ ย์ 4. ทรัพยากรธรรมชาติใดต่อไปนี้มสี ่วนสำคัญทส่ี ดุ ในการสร้างสมดุลให้กบั ธรรมชาติ ก. นำ้ ข. แรธ่ าตุ ค.สัตว์ปา่ ง.ป่าไม้ 5. ทรัพยากรธรรมชาติประเภทใชแ้ ลว้ ไมห่ มดสิน้ ได้แก่ ก. ดวงอาทิตย์ ข. ปา่ ไม้ ค. สัตว์ป่า ง. ปลาบางชนดิ 6. ขอ้ ใดคือส่งิ แวดล้อมทางธรรมชาติ ก. ข. ค. ง. 7. ขอ้ ใดเปน็ การใช้ทรัพยากรอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพและคุ้มค่า ก. ใช้นำ้ สุดทา้ ยของการซักผ้ารดน้ำตน้ ไม้ ข. ใช้พลังงานทดแทนที่ไมก่ ่อใหเ้ กดิ มลพิษ ค. ตดั ตน้ ไม้ขนาดใหญเ่ พื่อนำมาสร้างที่อยู่อาศยั ง. นำสารเคมีมาใชใ้ นการกำจัดแมลงศัตรูพืช 8. นักเรยี นจะมีสว่ นชว่ ยอนรุ ักษ์ทรัพยากรป่าไม้ได้อย่างไร ก. รับประทานพืชผกั ให้นอ้ ยลง ข. ซ้ือเฟอรน์ เิ จอร์ไม้มาไว้ในบ้าน ค. ใช้เตาแกส๊ ในการประกอบอาหาร ง. ใชก้ ระดาษอย่างประหยัดและคมุ้ คา่ 9. ทรัพยากรใดไม่ได้เปน็ แหล่งพกั ผ่อนใหก้ ับคนในท้องถิ่น ก. ภูเขาไฟ เหมืองแร่ ข. ปา่ ไม้ แม่น้ำ ค. ภูเขา ลำธาร ง. น้ำตก ทะเล

24 10.ข้อใดเป็นการสร้างจิตสำนึกใหค้ นในชมุ ชนเห็นคุณค่าของทรพั ยากร ก. สนับสนนุ การใช้สารเคมกี ำจดั ศตั รพู ืช ข. รณรงค์ให้ใชท้ รัพยากรในท้องถ่ิน ค. จัดโครงการปลกู ป่าทดแทน ง. ส่งเสริมการใช้สินค้าไทย

หนว่ ย2ท5่ี 1 ชอื่ -สกลุ ............................................................. กล่มุ /ชนั้ ปี.............................เลขท่.ี .................. ตอนที่ 2 จงเติมคำหรือข้อความในช่องว่างตอ่ ไปน้ีใหถ้ ูกต้อง 1.ทรัพยากรธรรมชาติ แบ่งออกเป็น..........................ประเภท ได้แก่.................................................................. ............................................................................................................................. ............................................... ............................................................................................................................. ................................................ 2.ส่ิงแวดล้อม หมายถึง ....................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................... ............................................................................................................................. ............................................... 3.ขนบธรรมเนียม วัฒนธรรม ประเพณี ความเช่อื ศาสนา จัดเป็นส่ิงแวดลอ้ มประเภท ..................................... ............................................................................................................................. ................................................ ...................................................................................................................................................... ....................... 4.สงิ่ แวดลอ้ มแบ่งออกเปน็ ..................................กลุ่ม ได้แก่ .............................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................................................................................................. ............ ...................................................................................................................... ........................................................ 5.พลงั งาน หมายถึง ............................................................................................................................. ................ .................................................................................................................. ........................................................... ............................................................................................................................. ................................................. 6.เชือ้ เพลิงฟอสซิล (Fossil) หมายถงึ .................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ....................................................................................................................................... ....................................... 7.พลังงานทดแทน หมายถึง ................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................ ................................................................................................................................................. ............................ 8.พลงั งานต้นกำเนิด (Primary Energy) หมายถงึ .............................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................ ......................................................................................................................................................................... .... 9.นเิ วศพัฒนา หมายถึง ...................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................ .............................................................................................................................................................................

26 10.การอนุรักษ์ หมายถงึ ...................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ..............................................................................................................................................................................


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook