Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทที่ 6

บทที่ 6

Published by Blackblue, 2022-08-16 12:32:25

Description: บทที่ 6 มณัญสภัทร พงศ์อติชาต
รหัส111 ออกแบบภายในสมทบปี3

Search

Read the Text Version

บทที่ 6 วชิ า อินเตอรเ์ น็ตและพาณิชยอ์ เิ ลก็ ทรอนิกสพ์ ืน้ ฐาน 1. จงบอกความหมายของระบบการสอื่ สารขอ้ มูล ตอบ ระบบการสอ่ื สารข้อมลู คอื การโอนถ่าย หรอื แลกเปลีย่ นข้อมลู (Transmission) กันระหว่างต้นทางกบั ปลายทางโดยผ่านอุปกรณอ์ ิเลก็ ทรอนกิ ส์หรอื คอมพิวเตอร์ ระบบ การสอ่ื สารข้อมูลอิเล็กทรอนกิ ส์ตอ้ งอาศัย อุปกรณ์ หรอื เครือ่ งมืออิเลก็ ทรอนกิ ส์ชว่ ยในการ ถ่ายโอนหรือเคลื่อนย้ายข้อมลู รวมท้ังยงั ต้องอาศยั สอื่ กลางใน การน าข้อมลู จากต้นทางไป ยังปลายทาง 2. อธิบายองคป์ ระกอบพื้นฐานระบบการสอื่ สารขอ้ มูล ตอบ องค์ประกอบพนื้ ฐานหลัก 4 อย่างในระบบสอื่ สารขอ้ มูล 1 ผู้สง่ หรืออุปกรณ์ขอ้ มลู (Sender) และ ผู้รบั หรอื อปุ กรณ์รับข้อมลู (Receiver) ทั้งอุปกรณ์รบั และส่งข้อมลู อาจจะ เปน็ อปุ กรณ์ชนิดเดียวกันก็ได้อปุ กรณ์รบั / ส่งข้อมูลมี 2 ชนดิ คือ  Data Terminal Equipment (DTE) เปน็ แหล่งกาเนดิ และรับขอ้ มลู เช่น คอมพิวเตอร์ เทอร์มนิ ลั คอมพวิ เตอร์ เมนเฟรม เครื่องพิมพ์  Data Communication Equipment (DCE) เป็นอปุ กรณ์ในการรบั / ส่งข้อมลู เช่น โมเดม็ จานไมโครเวฟ หรอื จานดาวเทียม Fibrotic Infrared Wireless 2 โปรโตคอล (Protocol) หรือซอฟต์แวร์ (Software)  โปรโตคอล คอื วิธีการ หรอื กฎระเบียบทีใ่ ช้ในการสื่อสารขอ้ มลู เพื่อให้ ผู้รบั และผู้สง่ ข้อมลู เข้าใจกนั สามารถติดตอ่ สอื่ สารกนั ได้ ตัวอย่างคือ x.25 SDLC TCP/IP

 ซอฟต์แวร์ คือ ส่วนที่ทาหน้าทใี่ นการดาเนินงานในการสอ่ื สารข้อมูล เปน็ ไปตามทีโ่ ปรแกรมกาหนด ตัวอย่างคอื Windows หรือ Novell’s Netware เป็นต้น 3 ข่าวสาร (Message) ข่าวสาร คือสญั ญาณอิเล็กทรอนิกสท์ ี่สง่ ผ่านไปใน ระบบสื่อสาร บางคร้ังเรียกว่า สารสนเทศ (Information) รปู แบบของข่าวสารมี 4 รปู แบบ คือ  เสยี ง (Voice)  ข้อมลู (Data)  ข้อความ (Text)  ภาพ (Picture) 4 สื่อกลาง (Medium) เป็นสอื่ กลางทีใ่ ช้ในการสือ่ สารขอ้ มลู จากต้นกาเนิดไปยัง ปลายทางสือ่ กลางนอี้ าจจะเปน็ เสน้ ลวด สายไฟ สายเคเบิล หรือสายไฟเบอร์ออปติก เปน็ ต้น หรืออาจจะเปน็ คลื่นที่สง่ ผา่ นในอากาศ เช่น คลื่น ไมโครเวฟ คลืน่ ดาวเทียม หรือ คลืน่ วิทยุ 3. จงบอกการสง่ สัญญาณบนสอื่ กลางขอ้ มูลในรปู แบบตา่ ง ๆ ได้ ตอบ 1 การสง่ สัญญาณบนสอื่ กลางแบบเบสแบนด์ (Baseband) เปน็ การใชช้ ่องทาง การสอ่ื สารเพียงช่องทาง เดยี วสาหรบั การส่งสัญญาณดิจิทลั ในแต่ละครั้งในช่วงเวลาหนึ่ง โดยเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์สว่ นใหญ่มกั ใชก้ ารสง่ สัญญาณชนิดนี้ เนอ่ื งจากเป็นวิธีการที่ไม่ ซับซ้อนและสามารถจัดการควบคมุ ง่าย 2 การสง่ สญั ญาณบนสื่อกลางแบบบรอดแบนด์ (Broadband) เป็นการใช้ ช่องทางการสอ่ื สารหลายชอ่ งทางเพือ่ ส่ง สญั ญาณอนาลอ็ ก (Analog) โดยแต่ละคร้ังข้อมูล สามารถจดั ส่งหรือลาเลียงบนช่วงความถีท่ แ่ี ตกต่างกนั ดังนั้น การสง่ สัญญาณชนดิ นจี้ ะมี ระบบการจดั การที่ยุ่งยากกว่าการส่งสญั ญาณแบบเบสแบนดม์ าก เพราะจะตอ้ ง จัดการกับ จานวนขอ้ มลู ต่างๆ ทีล่ าเลยี งอยู่บนหลายช่องความถี่

4. ใหน้ ักศกึ ษายกตวั อย่างชนดิ ส่อื กลางสง่ ข้อมูลทีน่ ามาใชง้ านบน เครือข่ายนัน้ ทัง้ แบบสอื่ กลางส่งข้อมูล แบบใช้สาย และแบบไรส้ าย พรอ้ มทงั้ อธบิ ายการ การทางาน ตอบ 1 สื่อกลางส่งข้อมลู แบบใช้สาย สือ่ กลางชนิดนจี้ ะใชส้ ายเพื่อการลาเลยี งข้อมูลระหว่างกนั ซึง่ ประกอบดว้ ย สาย เคเบิลชนิดตา่ งๆ เช่น สายคู่บิดเกลียว สายโคแอกเชียล และสายใยแก้วนาแสง สาย เคเบิลทั้งสามชนดิ นี้ ปกติมัน นามาใช้งานภายในตึกสานกั งานหรือฝังไว้ใต้ดนิ  สายคู่บิดเกลียว (Twisted-Pair Cable) ลักษณะของสายคู่บิด เกลียวแต่ละคู่จะทาดว้ ยสายทองแดง 2 เสน้ แตล่ ะเสน้ จะมฉี นวนหมุ้ พันกนั เป็นเกลียว เพือ่ ป้องกนั การรบกวนจากคลื่นแม่เหลก็ ไฟฟา้  สายโคแอกเชียล (Coaxial Cable) ลกั ษณะของสายโคแอกเซยี ล จะประกอบด้วยตวั นาทีใ่ ช้ในการส่งขอ้ มลู เสน้ หนง่ึ อยู่ตรงกลางอกี เส้นหน่งึ เปน็ สายดิน ระหว่างตัวนาสองเสน้ นจี้ ะมีฉนวนพลาสตกิ ก้ัน สายโคแอ คเชียลแบบหนาจะส่งขอ้ มูลได้ ไกลกว่าแบบบาง แตม่ ีราคาแพงและติดตง้ั ได้ยากกว่า  สายใยแก้วนาแสง (Fiber Optic) ลักษณะของสายใยแกว้ นาแสง ท าจากแกว้ หรอื พลาสติกมีลกั ษณะเป็น เสน้ บางๆ คล้าย เส้นใยแก้วจะทาตวั เป็นสือ่ ในการ ส่งแสงเลเซอร์ทมี่ ีความเรว็ ในการสง่ สญั ญาณเท่ากับ ความเรว็ ของแสง สามารถส่งข้อมูลทม่ี ี ความถีส่ ูงได้ สัญญารบกวนจากภายนอก คือ แสงจากภายนอก ดังน้ันสายใยแก้วน าแสงที่ มีสภาพดีจะมีราคาคอ่ นข้างสงู และดูแลรักษายาก 2 สือ่ กลางส่งขอ้ มลู แบบไร้สาย สือ่ กลางชนิดนี้จะใชล้ าเลยี งข้อมูลผ่านอากาศ ซึ่งภายในอากาศจะมีพลงั งาน คลืน่ แม่เหลก็ ไฟฟ้าแพร่กระจายอยู่ทั่วไป โดยคลืน่ ดงั กลา่ วจะมีทง้ั คลืน่ ความถี่ตา่ และคลนื่ ความถสี่ ูง ดังแสดง รายละเอียดตอ่ ไปนี้  อินฟาเรด (Infrared) เปน็ การสอ่ื สารขอ้ มลู โดยใช้แสงอนิ ฟาเรดเปน็ สื่อกลาง โดยในการส่งข้อมลู จาเป็นตอ้ งมี อุปกรณ์ทีท่ าหน้าที่สง่ ขอ้ มลู และรับข้อมลู  สญั ญาณวิทยุ (Radio Wave) เปน็ การสอ่ื สารข้อมูลแบบไร้สาย ท่มี ี การสง่ ขอ้ มลู เป็นสญั ญาณคลนื่ วิทยุไปใน อากาศไปยงั ตวั สญั ญาณ จึงทาให้ถกู สภาพแวดลอ้ มรบกวนข้อมูลได้ง่าย  คลื่นวิทยุ (Cellular Radio) ลักษณะของระบบสือ่ สารแบบ คลื่นวิทยุ เป็นสอื่ กลางการสอ่ื สารแบบไรส้ ายที่ สามารถแพร่ได้บนระยะทางไกล

 คลืน่ ไมโครเวฟ (Microwave) ลักษณะของคลืน่ ไมโครเวฟเปน็ คลืน่ ความถวี่ ิทยุชนิดหนึ่งทีม่ ีความถีอ่ ยู่ระหว่าง 0.3GHz – 300GHz ส่วนในการใช้งานนั้น ส่วนมากนิยมใชค้ วามถีร่ ะหวา่ ง 1GHz – 60GHz เพราะเปน็ ย่าน ความถีท่ ่สี ามารถผลิตขนึ้ ได้ด้วยอุปกรณอ์ ิเล็กทรอนิกส์เป็นสือ่ กลางในการสือ่ สารทีม่ ีความเรว็ สงู  สัญญาณดาวเทียม (Satellite) ลกั ษณะของสัญญาณดาวเทยี มเปน็ การรับส่งสญั ญาณขอ้ มูลอาจจะเป็นแบบ จดุ ต่อจุด (Point-to-Point)  สญั ญาณทูธ (Bluetooth) ระบบสือ่ สารของอปุ กรณ์อิเลค็ โทรนิก แบบสองทาง ด้วยคลืน่ วิทยุระยะส้ัน (Short- Range Radio Links) โดยปราศจากการใช้ สายเคเบลิ้ หรอื สายสญั ญาณเชอ่ื มต่อ 5.จงอธิบายการหนา้ ทขี่ องอปุ กรณ์ทีใ่ ชใ้ นการสง่ รบั ขอ้ มลู การสื่อสาร มาอย่างนอ้ ย 3 ชนิด ตอบ บรดิ จ์ ( Bridge ) บริดจ์มีลกั ษณะคล้ายเครือ่ งขยายสัญญาณ บริดจจ์ ะทางานอยใู่ นชั้น Data Link บริดจท์ างานคลา้ ยเครอื่ งตรวจตาแหน่งของขอ้ มลู โดยบริดจจ์ ะรบั ขอ้ มลู จากตน้ ทางและ ส่งให้กับ ปลายทาง โดยที่บรดิ จจ์ ะไมม่ ีการแกไ้ ขหรอื เปลยี่ นแปลงใด ๆ แก่ขอ้ มูล บรดิ จ์ทาให้การเชือ่ มตอ่ ระหวา่ ง เครือขา่ ยมปี ระสิทธิภาพลดการชนกันของขอ้ มลู ลง บรดิ จจ์ ึงเปน็ สะพานสาหรับขอ้ มลู สองเครือข่าย การ์ดเครือขา่ ย (Network Adapter) หรือ การด์ LAN เปน็ อปุ กรณ์ทาหนา้ ทีส่ ือ่ สารระหวา่ งเครื่อง ตา่ งกนั ไดไ้ ม่จาเปน็ ตอ้ งเปน็ รนุ่ หรอื ยี่หอ้ เดียวกนั แต่หากซื้อพรอ้ มๆกนั กแ็ นะนาใหซ้ ือ้ รุ่นและยีหอ้ เดียวกนั จะดีกว่า และควรเปน็ การด์ แบบ PCI เพราะสามารถส่งข้อมูลได้เรว็ กว่าแบบ ISAและเมนบอรด์ รุ่นใหม่ๆ มกั จะไมม่ ี Slot ISA ควรเปน็ การ์ดทีม่ คี วามเร็วเปน็ 100 Mbpsซึ่งจะมรี าคามากกวา่ การด์ แบบ 10 Mbps ไมม่ ากนัก แต่สง่ ขอมลู ไดเ้ รว็ กว่า นอกจากนีค้ ณุ ควรคาหนึงถึงข้ัวต่อหรอื คอนเน็กเตอรข์ องการ์ดดว้ ย โดยทั่วไปคอนเนก็ เตอร์ ของการด์ LAN จะมีหลายแบบ เช่น BNC , RJ-45 เปน็ ตน้ ซง่ึ คอนเน็กเตอร์แต่ ละแบบกจ็ ะใช้สายทีแ่ ตกตา่ งกนั ฮบั (HUB) เปน็ อปุ กรณช์ ว่ ยกระจ่ายสญั ญาณไปยังเครอื่ งต่างๆที่อยใู่ นระบบ หากเป็นระบบเครือข่ายทมี่ ี 2 เครอื่ งกไ็ มจ่ าเปน็ ตอ้ งใช้ฮบั สามารถใช้สายสญั ญาณเชื่อมต่อ ถึงกันไดโ้ ดยตรง แต่หากเป็นระบบที่มี มากกวา่ 2 เครอื่ งจาเป็นตอ้ งมีฮบั เพื่อทาหน้าทีเ่ ปน็ ตวั กลาง ในการเลือกซื้อฮบั ควรเลือกฮับทมี่ ีความเรว็ เท่ากับความเร็ว ของการด์ เชน่ การ์ดมีความเร็ว 100 Mbps ก็ควรเลือกใชฮ้ บั ที่มีความเร็วเปน็ 100

Mbps ด้วย ควรเปน็ ฮบั ทีม่ จี านวนพอรต์ สาหรบั ตอ่ สายที่เพียงพอกบั เครื่องใชใ้ นระบบ หากจานวนพอรต์ ต่อสายไม่เพียงพอกส็ ามารถตอ่ พว่ งได้ แนะนาวา่ ควรเลือกซือ้ ฮบั ทีส่ ามารถตอ่ พว่ งได้ เพือ่ รองรบั การ ขยายตัวในอนาคต นางสาว มณัญสภทั ร พงศ์อตชิ าต ออกแบบภายในป3ี สมทบ รหัส 4631071143111


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook