แบบบนั ทกึ การฝึ กปฏบิ ตั ิวิชาชพี ระหว่างเรียน 1 ภาคเรียนที่ 1 ประจาปีการศกึ ษา 2564 นางสาวสทุ ธิดา คามบุตร รหสั ประจาตัวนักศกึ ษา 61115320120 สาขาวิชาดนตรศี ึกษา โรงเรยี นชัยนาทพิทยาคม สังกดั สานักงานเขตพน้ื ทีก่ ารศกึ ษามัธยมศึกษา อุทัยธานี ชัยนาท อาเภอ เมอื งชยั นาท จังหวัด ชัยนาท ฝ่ายฝึกประสบการณ์วิชาชพี ครู คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั เทพสตรี
RESUME ประวัติ ชอ่ื -สกุล : สุทธิดา คามบุตร การศึกษา ช่อื เลน่ : จนู วันเกิด : 4 สิงหาคม 2542 >> 2003-2005 ปฐมวัย อายุ : 22 ปี Tesaban wasting satid school >> 2006-2011 ประถมศึกษา ตดิ ตอ่ Tesaban wasting satid school เบอรโ์ ทร : 062-3083778 >> 2012-2014 มัธยมศึกษาตอนต้น ท่ีอยู่ : 58 หมู่ 6 ต.บอ่ แร่ Tesaban wasting satid school อ.วดั สิงห์ จ.ชัยนาท 17120 >> 2015-2017 มัธยมศึกษาตอนปลาย Uthaiwitthayakhom school >> 2018-2022 อดุ มศึกษา โซเชียล Thepsatri rajabhat university Facebook : Sutthida Khambut Instagram : junely_dontrithep ทักษะ email : [email protected] Line : 0931950515 ดนตรี กฬี า งานอดเิ รก คานวณ - เล่นดนตรี ออกแบบ - เล่นกีฬา - อ่านหนงั สือ ทัศนศลิ ป์ งานฝีมือ - ทาอาหาร
แบบบันทกึ การฝกึ ปฏบิ ัติวชิ าชีพระหว่างเรยี น 1 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2564 นางสาวสทุ ธดิ า คามบุตร รหสั ประจาตวั นักศกึ ษา 61115320120 สาขาวิชาดนตรศี ึกษา โรงเรียนชยั นาทพิทยาคม สังกดั สานักงานเขตพนื้ ที่การศกึ ษามธั ยมศกึ ษา อทุ ยั ธานี ชัยนาท อาเภอ เมืองชัยนาท จงั หวัด ชัยนาท ฝ่ายฝกึ ประสบการณว์ ิชาชีพครู คณะครศุ าสตร์ มหาวิทยาลัยราชภฏั เทพสตรี
คานา เอกสารฉบับนี้เป็นคู่มือประกอบการฝึกปฏิบัติวิชาชพี ระหว่างเรียน 1 เป็นส่วนหน่ึงของกระบวนการ ฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู เพื่อให้นักศึกษาได้มีโอกาสเรียนรู้และเข้าใจวิชาชีพครู ซึ่งได้แก่ กระบวนการ การเรยี นการสอน หลกั สตู ร ระบบการบริหารงานการศึกษาในโรงเรยี นและไดท้ างานร่วมกบั ผอู้ ่นื ซ่ึงกจิ กรรม เหลา่ นี้จะสามารถพฒั นาความรู้ ความสามารถของนกั ศกึ ษาได้เปน็ อยา่ งดี การฝึกปฏิบตั ิวิชาชีพระหวา่ งเรียน 1 เป็นการฝกึ ประสบการณ์วชิ าชีพครูเพอื่ เตรียมความพร้อมกอ่ น ออกปฏบิ ัตกิ ารสอนในสถานศกึ ษาโดยการสังเกตสภาพท่วั ไปของโรงเรียน พฤตกิ รรมการเรยี นรขู้ องนกั เรียน งานในหนา้ ทีค่ รูผ้สู อน ครปู ระจาชนั้ การศึกษางานดา้ นการบรหิ ารและบรกิ าร สภาพชมุ ชนและความสัมพนั ธ์ ระหวา่ งโรงเรียนกบั ชมุ ชน โดยเอกสารฉบับนี้ได้มีการปรับปรุงแก้ไขรายละเอียดการบันทึกงานที่ต้องฝึกปฏิบัติต่าง ๆ ให้ สอดคล้องกับบริบทสถานการณ์ปัจจุบันในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเช้ือไวรัสโคโรนา-2019 ซึ่งทาให้ นักศึกษาไม่สามารถฝึกปฏิบัติฯ ในสถานศึกษาได้ และให้ปรับมาใช้การฝึกปฏิบัติผ่านระบบออนไลน์เพื่อ ทดแทนกระบวนการตา่ ง ๆ หวังว่าเอกสารฉบับนี้คงให้ประโยชน์ในการเรียนรู้และเข้าใจในวิชาชีพครูก่อนท่จี ะออกฝึกปฏิบัติงาน วิชาชพี ครูในข้ันตอ่ ไป ฝา่ ยฝกึ ประสบการณว์ ชิ าชพี ครู คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภัฏเทพสตรี
สารบญั เร่อื ง หนา้ การฝึกปฏิบัตวิ ชิ าชพี ระหวา่ งเรยี น 1 ........................................................................................... 1 จดุ ประสงค์ของการฝกึ ปฏบิ ตั วิ ชิ าชีพระหวา่ งเรยี น 1.................................................................... 1 ขอ้ เสนอแนะในการฝกึ และการใชเ้ อกสาร .................................................................................... 2 การประเมินผลการฝึกปฏิบตั ิวชิ าชีพระหว่างเรียน 1..................................................................... 3 เกณฑ์ในการประเมนิ ผลการฝึกปฏบิ ตั ิวชิ าชีพระหว่างเรียน 1....................................................... 4 ปว.1-1 แบบบนั ทึกการสงั เกตสภาพทว่ั ไปของโรงเรียน ............................................................... 5 ปว.1-2 แบบบนั ทกึ การปฏบิ ตั ิงาน ............................................................................................... 10 ปว.1-3 แบบสมั ภาษณ์ครูพเ่ี ล้ียง.................................................................................................... 19 ปว.1-4 แผนการจดั การเรียนรู้ ..................................................................................................... 20 ปว.1-5 การวจิ ยั ในชน้ั เรยี น .......................................................................................................... 29 ปว.1-6 แบบประเมนิ การปฏบิ ตั ิตนของนกั ศกึ ษา ......................................................................... 31 ปว.1-7 แบบประเมนิ แผนการจดั การเรยี นรู้................................................................................ 32 ปว.1-8 แบบประเมนิ ด้านคุณภาพการจดั การเรยี นการสอน....................................................... 35 ภาคผนวก ..................................................................................................................................... 40 59 - แบบลงเวลาปฏิบตั งิ านนกั ศึกษา.............................................................................................
1 การฝึกปฏบิ ัติวิชาชพี ระหวา่ งเรียน 1 มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี เป็นมหาวิทยาลัยท่ีทาหน้าท่ีผลิตครูให้กับโรงเรียนประถมศึกษาและ มธั ยมศกึ ษาในท้องถน่ิ เขตรับผดิ ชอบ 3 จังหวัด ไดแ้ ก่ ลพบุรี สระบุรี และสงิ ห์บรุ ี การผลติ ครูให้มคี ุณภาพสามารถ ปฏิบัติงานในหน้าที่ครูได้เป็นอย่างดี และมีจิตวิญญาณของความเป็นครูข้ึนอยู่กับกระบวนการผลิต ซ่ึงได้แก่ กระบวนการเรียนการสอนหลกั สูตร การฝึกประสบการณ์วชิ าชีพครู และกระบวนการประเมินผล การฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูเป็นกิจกรรมที่เป็นหัวใจสาคัญของการผลิตครู ในช่วงที่ฝึกประสบการณ์ วิชาชีพครู นักศึกษาจะมีโอกาสนาความรู้ความเข้าใจในวิชาชีพครู และวิชาเฉพาะที่ศึกษาในมหาวิทยาลัยไป ฝึกปฏิบัติในชั้นเรียน นอกจากน้ียังได้เรียนรู้เก่ียวกับระบบการบริหารงานการศึกษาในโรงเรียนและได้ทางาน ร่วมกับบุคคลอ่ืนกิจกรรมเหลานี้ช่วยให้นักศึกษาได้พัฒนาตนเองให้มีทักษะในวิชาชีพ จนสามารถปฏิบัติหน้าที่ครู ได้อยา่ งม่ันใจและมีเจตคตทิ ่ดี ตี อ่ วิชาชีพ งานวิจยั หลายเรือ่ งท้ังในและต่างประเทศยนื ยันตรงกนั วา่ นักศึกษาที่ประสบ ความสาเร็จในการฝกึ ประสบการณ์วชิ าชีพครจู ะมเี จตคตทิ ด่ี ีต่อวิชาชีพครูและแนวโนม้ จะเป็นครทู ่ดี ีในอนาคต จากแผนหลักการปฏิรูปการฝึกหัดครู พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้ความสาคัญกับการฝึก ประสบการณ์วชิ าชพี ครู เพราะเปน็ กลไกสาคญั ยิง่ ในการสรา้ งบณั ฑิตครูทดี่ ี มเี จตคติทด่ี ตี อ่ วิชาชพี ครู สถาบนั ฝึกหดั ครูควรจะต้องปรับปรุงและพัฒนางานฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู ให้เอ้ืออานวยต่อการเรียนรู้งานครู จากครูที่เป็น แบบอยา่ งทีม่ ใี นโรงเรยี นและชมุ ชน นอกจากนี้ควรจะพฒั นาเครือขา่ ยการเรียนรู้ทส่ี ่งเสริมการฝึกหดั ครูใหเ้ ปดิ กว้าง สู่ชุมชนขยายความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย ขยายแหล่งเรียนรู้ แหล่งวิทยากร และแหล่งฝึกประสบการณ์ วิชาชพี ครอู ยา่ งกว้างขวาง จุดประสงคข์ องการฝึกปฏิบัตวิ ิชาชพี ระหว่างเรยี น 1 1. เพ่อื ให้นักศกึ ษามีความพรอ้ มกอ่ นออกปฏิบตั กิ ารสอนในสถานศึกษา 2. เพ่ือให้นักศึกษาได้ศกึ ษาสงั เกตสภาพทั่วไปของโรงเรียนทั้งด้านการเรียนการสอน ด้านสถานที่และด้าน กิจกรรม 3. เพื่อให้นกั ศึกษาได้บูรณาการความร้ทู งั้ หมดมาใชใ้ นการฝกึ ประสบการณ์วิชาชีพครูในสถานศึกษา 4. เพอ่ื ให้นกั ศึกษาไดศ้ ึกษาและฝกึ ปฏิบัติการวางแผนการศึกษาผ้เู รยี นโดยการสงั เกต 5. เพือ่ ให้นักศกึ ษาไดส้ มั ภาษณง์ านในหน้าท่ขี องครผู ู้สอน งานในหน้าทขี่ องครปู ระจาช้ัน 6. เพ่ือให้นักศึกษาได้ศึกษาพฤติกรรมการจัดการเรียนรู้ วิเคราะห์ลักษณะความแตกต่างและพฤติกรรม ของผู้เรียน งานบริหารและบริการของโรงเรยี น 7. เพื่อให้นักศึกษาได้ทดลองเขียนแผนการจัดการเรียนรู้วิชาเอก การฝึกเป็นผู้ช่วยครูด้านการจัดการ เรียนร้หู รือสนบั สนุนการจัดการเรยี นรู้ งานธุรการชน้ั เรียน 8. เพ่ือใหน้ ักศึกษาได้ออกแบบการวิจัยในช้นั เรยี นตามบรบิ ทของสาขาวิชาที่ศึกษา เพ่ือเตรียมความพร้อม ในการนาไปศึกษาวจิ ัยจรงิ เม่ือสามารถฝึกปฏบิ ัติวิชาชพี ในสถานศกึ ษาได้ตามปกติ 9. เพื่อให้นักศึกษาได้ทาการทดลองสอนในสถานการณ์จาลองผ่านระบบออนไลน์ และมีครูพ่ีเล้ียงให้ คาแนะนาเพ่อื ปรบั ปรุงพฒั นาการสอนของนักศกึ ษา เพอ่ื เตรียมความพรอ้ มกอ่ นไปทาการสอนจริงในสถานศึกษา
2 ขอ้ เสนอแนะในการฝึกและการใชเ้ อกสาร การประกอบวิชาชีพให้เกิดประสิทธิผล ไม่เพียงแต่จะเรียนรู้ในภาคทฤษฎีความรอบรู้ในด้านวิชาการ เทา่ น้ัน ทส่ี าคัญยิ่งกว่าอืน่ ใดคือการฝกึ ภาคปฏบิ ัติอย่างจรงิ จังและตอ่ เนอื่ ง วิชาชีพครูเป็นวิชาชีพชั้นสูง ครูเป็นผู้รับผิดชอบ “ชีวิต” ของมนุษย์ เช่นเดียวกับแพทย์มีหน้าที่รักษา โรคภัยไข้เจ็บ มีสุขภาพดีท้ังกายและใจ แต่ครูนอกจากให้ชีวิตเหล่าน้ันมีความรู้ สามารถอยู่ได้ในสังคมอย่างมี ความสขุ มคี ณุ ธรรม เป็นพลเมืองดขี องชาตแิ ลว้ ยังต้องพัฒนาใหเ้ ขาเหล่าน้นั มีคุณภาพชวี ติ ด้วย นักศกึ ษาแพทยท์ ุกคนต้องฝึกในโรงพยาบาลเปน็ ระยะๆ อย่างต่อเน่อื งฉนั ใดนักศึกษาครูยอ่ มฝึกในโรงเรียน ในสถานการณ์จริงฉันนั้น การฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูตามหลักสูตรนับเป็นโอกาสดีที่ได้เสริมสร้างคุณภาพใน วิชาชพี ของตน ข้อเสนอแนะต่อไปน้ีจะเป็นประโยชน์ต่อนักศึกษาและการพัฒนากระบวนการฝึกปฏิบัติวิชาชีพระหว่าง เรยี น และการปฏบิ ตั ิการสอนในสถานศกึ ษาอยา่ งยิ่ง คือ 1. ศกึ ษาเอกสารโดยตลอดทาความเขา้ ใจและปฏบิ ัตติ ามขนั้ ตอนของสิ่งที่ต้องจัดทาตามแบบรายงาน 2. เขา้ ปฐมนเิ ทศชีแ้ จงการดาเนินงาน และกิจกรรมต่าง ๆ ทก่ี าหนดมอบหมายไว้ 3. ปฏิบตั งิ านเปน็ ข้นั ตอนตามกาหนดการ 4. บนั ทึกลงในแบบฟอร์มต่างๆ ตามลาดับอย่างครบถ้วน 5. ให้ผูร้ ับผดิ ชอบลงช่อื ในแบบบนั ทกึ แต่ละแบบตามลาดบั (เปน็ ลายเซ็นตอ์ เิ ล็กทรอนิกสไ์ ด้ แตต่ ้องมภาพ ประกอบการทากิจกรรมตา่ ง ๆ กับครูพเี่ ลี้ยงประกอบในภาคผนวกดว้ ย) 6. ให้ผู้รับผิดชอบประเมินผลการฝึกปฏิบัติวิชาชีพระหว่างเรียน เม่ือฝึกปฏิบัติวิชาชีพระหว่างเรียนและ บันทกึ การปฏิบัติงานครบถ้วนตามกาหนด 7. หลังจากโรงเรยี นประเมินผลการฝึกปฏิบัติวิชาชีพระหวา่ งเรยี นโดยครูพีเ่ ล้ยี งแลว้ ฝา่ ยฝึกประสบการณ์ วชิ าชพี ครูและอาจารยผ์ ู้สอนจะประเมนิ ผลคร้ังสุดท้ายหลังจากครบกาหนดเวลาการปฏิบตั งิ านวิชาชีพครู
3 การประเมนิ ผลการฝกึ ปฏิบตั ิวิชาชีพระหว่างเรยี น 1 การประเมินผลการฝึกปฏบิ ัติวชิ าชีพระหว่างเรียน ประเมนิ ตามรายวิชาที่ฝึกทุกปกี ารศึกษา นักศึกษาต้อง ผ่านการฝึกเปน็ ขัน้ ตอนตามลาดบั หากไมผ่ ่านในข้นั ตอนใดต้องซอ่ มเสรมิ ให้ “ผา่ น” จงึ ฝึกในขน้ั ตอ่ ไปได้ การประเมนิ ผลการปฏิบัติงานวิชาชีพครู เปน็ การประเมนิ ผลทค่ี รอบคลมุ ทง้ั คุณลักษณะความเป็นครูและ เทคนิควธิ ี โดยมีผู้ประเมนิ ท้งั ฝา่ ยมหาวทิ ยาลัยและโรงเรียน ในการประเมินผลการฝึกประสบการณ์ข้ันศึกษาสังเกตและมีส่วนร่วม นับตั้งแต่ปีการศึกษา 2542 เปน็ ต้นไป จะเปลี่ยนระบบการประเมนิ ผลจาก ผา่ นดีเยยี่ ม, ผ่าน, ไม่ผา่ น เปน็ ระบบการประเมินแบบใหเ้ กรดคอื A, B+, B, C+, C, D+, D และ E ประเภทของแบบประเมิน แบบประเมนิ ผลการฝึกปฏิบตั วิ ชิ าชพี ระหว่างเรยี น หรอื ปว. มีทั้งหมด 8 ชดุ แบ่งเปน็ 2 ประเภท คอื 1. สาหรบั นกั ศึกษา ปว.1-1 ถงึ ปว.1-5 โดยมรี ายละเอยี ด ดงั นี้ ปว.1-1 แบบบันทกึ การสังเกตสภาพทั่วไปของโรงเรยี น ปว.1-2 แบบบนั ทกึ การปฏบิ ัติงาน ปว.1-3 แบบสัมภาษณ์การจดั การเรียนรู้ ปว.1-4 แผนการจัดการเรียนรู้ 3 แผน ปว.1-5 โครงรา่ งการวจิ ยั ในชน้ั เรียน นกั ศกึ ษามีหน้าท่บี ันทกึ ผลการศกึ ษาสังเกตใหถ้ ูกตอ้ งตามความเป็นจรงิ หลงั จากนนั้ ใหค้ รูพี่เลี้ยง และอาจารย์นิเทศกล์ งชือ่ รบั รอง 2. สาหรับครูพ่ีเลยี้ งและอาจารย์ผ้สู อน ปว.1-6 ถงึ ปว.1-8 โดยมรี ายละเอียด ดังน้ี ปว.1-6 แบบประเมินการปฏิบัตติ นของนกั ศึกษา (โดยครูพเี่ ลี้ยง) ปว.1-7 แบบประเมนิ แผนการจดั การเรียนรู้ (โดยครพู เ่ี ลี้ยง) ปว.1-8 แบบประเมนิ ดา้ นคณุ ภาพการจัดการเรยี นการสอน (โดยครพู ีเ่ ลี้ยง) ครูพเ่ี ลยี้ งทาการประเมินตามแบบฟอร์มแล้วส่งให้กบั นกั ศกึ ษาเพือ่ ทาการรวบรวมใส่ในเล่มแบบ บนั ทึกการฝกึ ปฏบิ ัติวิชาชีพระหวา่ งเรียน 1
4 เกณฑใ์ นการประเมินผลการฝกึ ปฏิบตั ิวิชาชีพระหวา่ งเรยี น 1 1. คะแนน ปว.1-6 ถึง ปว.1-8 ซึ่งได้รับการประเมินจากครูพี่เลี้ยงประจาโรงเรยี นหน่วยฝกึ ประสบการณ์ วิชาชพี ครู 2. คะแนนจากการประเมินของอาจารย์ผู้สอนรายวิชาฝึกปฏิบัติวิชาชีพระหว่างเรียน 1 ซึ่งประกอบด้วย คะแนนจากแบบบันทึกการปฏบิ ตั ิงานของนักศึกษา แผนการจัดการเรยี นรู้ งานวิจัยในช้ันเรียน การมีส่วนรว่ มในชน้ั เรยี น การนาเสนอ บุคลกิ ภาพ และการแตง่ กาย การใชว้ าจา กริ ิยาทา่ ทาง และความรับผิดชอบ 3. แนวทางการให้คะแนนรายวิชาการฝึกปฏิบัติวิชาชีพระหว่างเรียน 1 กาหนดเกณฑ์การให้คะแนน ดังนี้ 3.1 อาจารยผ์ สู้ อน รวม 60 คะแนน 3.1.1 แบบบันทึกปฏบิ ัตงิ านของนักศกึ ษาในภาพรวม 30 คะแนน 3.1.2 โครงร่างงานวิจัยในช้นั เรยี น 10 คะแนน 3.1.3 การมีส่วนร่วมในการจัดการเรียนการสอน 10 คะแนน 3.1.4 พฤติกรรมการเรียนของนกั ศึกษา 10 คะแนน 3.2 ครูพ่ีเลี้ยง รวม 40 คะแนน 3.2.1 แบบประเมนิ การปฏิบตั ติ นของนกั ศึกษา 10 คะแนน 3.2.2 แบบประเมินแผนการจดั การเรียนรู้ 10 คะแนน 3.2.3 แบบประเมินการจดั การเรียนรู้ 20 คะแนน รวมท้ังสน้ิ 100 คะแนน 4. นาคะแนนจากข้อ 1 และ 2 มารวมกนั แล้วประเมนิ เป็นเกรดโดยมีเกณฑ์ ดังน้ี คดิ จากคะแนนเต็ม 100 คะแนน คะแนน 90 – 100 ได้ระดับ A คะแนน 85 – 89 ไดร้ ะดบั B+ คะแนน 80 – 84 ได้ระดับ B คะแนน 75 – 79 ไดร้ ะดบั C+ คะแนน 70 – 74 ได้ระดับ C คะแนน 65 – 69 ได้ระดับ D+ คะแนน 60 – 64 ไดร้ ะดบั D คะแนน 0 – 59 ไดร้ ะดับ E
5 ปว.1-1 แบบบันทกึ การสังเกตสภาพท่วั ไปของโรงเรียน คาชแ้ี จง ให้นักศึกษาบันทึกข้อมูลการศึกษาและสงั เกตสภาพท่ัวไปตามความเป็นจริงของสถานศึกษาลงในช่องว่าง ตามหวั ข้อที่กาหนด 1. โรงเรียน ชัยนาทพทิ ยาคม สงั กัด สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน . เลขที่ 55/30 ซอย/ถนน ลูกเสือ 1 ตาบล/แขวง บ้านกล้วย . อาเภอ/เขต เมืองชัยนาท จังหวัด ชัยนาท . รหัสไปรษณีย์ 17000 โทรศัพท์ 056-411-645 โทรสาร 056-411-507 . 2. คตพิ จน์/ปรชั ญาของโรงเรียน/วสิ ยั ทศั นข์ องโรงเรียน คตพิ จน์ : สกิ ฺขา วิรฬุ ฺหิ สมปฺ ตตฺ า ( การศึกษา คือ ความเจริญงอกงาม ) . ปรัชญาของโรงเรียน : สามัคคี มีวินยั ใฝศ่ ึกษา . วสิ ยั ทัศน์ : โรงเรียนชยั นาทพิทยาคมเปน็ โรงเรียนแห่งการเรียนรู้ เชิดชูคุณธรรม ก้าวนาคณุ ภาพมาตรฐานสากล บนพน้ื ฐานความเป็นไทย .. 3. ชอ่ื ผู้บรหิ ารโรงเรียน วเิ ชียร แกน่ ไร่ . รองผู้อานวยการโรงเรียน ฝ่ายกลมุ่ บริหารงานท่ัวไป นางวรนุช อยเู่ ลห์ . . . นางขวญั ใจ แกว้ รตั น์ . ฝ่ายกลุม่ บริหารวิชาการ ฝ่ายกลุ่มบรหิ ารและงานบคุ คล นางอมรา อ่มิ ศิลป์ . ฝ่ายกลุม่ บรหิ ารกจิ การนักเรียน นายอดิศักดิ์ เอี่ยมรักษา . 4. บุคลากร 4.1 ครูอาจารย์ ระดบั การศึกษา สาขาวิชา จานวน รวม ชาย หญิง ปริญญาเอก - -- - ปริญญาโท - -- - ปริญญาตรี - -- - ป.กศ.สูงหรอื เทียบเทา่ - -- - ครูอตั ราจา้ ง - -- - ธุรการ - -- - อน่ื ๆ - -- - รวม - 38 118 156
6 4.2 คนงาน มีท้งั หมด - คน เปน็ หญิง - คน เป็นชาย - คน 4.3 นักเรยี น มีท้ังหมด 2,667 คน เปน็ หญิง 1,625 คน เป็นชาย 1,024 คน แยกตามลาดบั ข้นั ต่าง ๆ ได้ดังน้ี ระดับชนั้ จานวนหอ้ ง จานวนนกั เรยี น หญงิ ชาย รวม 1. มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 13 280 209 489 2. มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 13 285 195 480 3. มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 13 298 182 480 4. มัธยมศึกษาปที ่ี 4 11 267 145 412 5. มัธยมศึกษาปที ี่ 5 11 255 153 408 6. มธั ยมศึกษาปที ่ี 6 11 240 158 398 รวม 72 1,625 1,024 2,667 สรุปอัตราสว่ นระหว่างจานวนครอู าจารยต์ อ่ จานวนนักเรยี น โดยประมาณ คือ ครอู าจารย์ 1 คน ตอ่ นักเรยี น 15-20 คน 5. อาคารสถานที่ 5.1 ห้องเรยี น มีท้ังหมด 127 หอ้ ง 5.2 หอ้ งพักครอู าจารย์ มีทั้งหมด 18 หอ้ ง 5.3 ห้องส่งเสรมิ วชิ าการ มีทงั้ หมด 8 หอ้ ง คือ 1) กลุ่มบริหารงานวชิ าการ 5) หอ้ งสมุดเฉลมิ พระเกยี รติ 2) หอ้ งสานกั งาน 6) ทะเบียนวดั ผล 3) ห้องประชมุ กลุ่มบรหิ ารวชิ าการ 7) ห้องแนะแนว 4) ห้องสานักงานวชิ าการ 8) ห้องศนู ย์ฯปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง . 6. สภาพแวดลอ้ ม 6.1 สถานท่ีสาคัญที่อยู่ใกลโ้ รงเรยี น ไดแ้ ก่ - โรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร - โรงเรียนเทศบาลบ้านกล้วย - โรงเรียนอนุบาลชัยนาท . 6.2 สถานทใ่ี กล้เคียงโรงเรียนที่เป็นแหล่งวิทยาการสง่ เสรมิ การจดั การเรยี นการสอน - สวนนกชัยนาท . 7. สภาพของนักเรยี น 7.1 สภาพครอบครวั (อาชีพ ฐานะทางเศรษฐกจิ ) ครอบครัวนักเรยี นสว่ นใหญ่มฐี านะปานกลาง ประกอบอาชีพแตกต่างกันไป เช่น รับราชการ เกษตรกรรม ธุรกจิ ส่วนตัว และอ่นื ๆ 7.2 พฤติกรรมนักเรยี น ตงั้ ใจเรยี น เขา้ เรียนอยา่ งสม่าเสมอ และรับผดิ ชอบงานทีไ่ ดร้ ับมอหมายเปน็ อยา่ งดี .
7 8. ภาระหน้าทข่ี องครผู ู้สอน 8.1 ครูประจาชน้ั ทาหนา้ ท่ี ดแู ลนักเรยี นท่มี ีปัญหาด้านต่างๆ ใหค้ าปรึกษานกั เรยี น ประชาสมั พันธง์ านท่โี รงเรียนขอความ ร่วมมือไปยังผู้ปกครองนักเรียนในสายช้ันที่รับผิดชอบ กากับดูแลเรื่องการเรียนของนักเรียน/การส่งงานใน รายวิชาตา่ งๆ 8.2 งานอน่ื ๆ ประชาสมั พันธ์ข่าวสารต่างๆไปยงั ผูป้ กครอง / การตดิ ตอ่ ผ้ปู กครองเรอ่ื งนักเรียนท่ีมีปญั หา/ และงานอน่ื ๆ ทไ่ี ดร้ บั มอบหมายจากทางโรงเรียน ที่เกีย่ วขอ้ งกบั นกั เรียนในสายชน้ั ที่ตนเองรบั ผดิ ชอบ . 9. แผนผังแสดงบริเวณและที่ตง้ั ของโรงเรียน
8 10. ประวตั ิโรงเรียน โรงเรยี นชัยนาทพทิ ยาคมต้งั อยเู่ ลขท่ี 55/30 ถนนลูกเสอื 1 ตาบลบา้ นกลว้ ยอาเภอเมอื งชัยนาทจังหวดั ชยั นาทสังกัดสานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพื้นฐานกระทรวงศกึ ษาธิการจดั ตัง้ เมอ่ื พ.ศ. 2452 โดยพระ ไชยนฤนาทผูว้ า่ การเมอื งร่วมกบั ขา้ ราชการพอ่ คา้ และราษฎรสรา้ งขนึ้ ณ ตาบลวดั ปลังต่อมาปลายปี พ.ศ. 2455 เจ้า คณุ วิเชียรปราการไดม้ าเป็นผ้วู ่าการเมืองได้ย้ายทีว่ ่าการเมืองมาตั้งท่ีตาบลบ้านกล้วย พ.ศ. 2456 จงึ ย้ายโรงเรียนโดย สร้างใหม่ ณ บรเิ วณสนามหญ้าด้านทศิ เหนอื ศาลากลางจังหวัดวันท่ี 3 มกราคม พ.ศ. 2457 พระอุปกรศิลปศาสตร์ ศึกษาธกิ ารมณฑลนครสวรรคไ์ ดม้ าเปิดโรงเรียนใชช้ ่อื ว่า“ โรงเรยี นประจาจังหวัดชัยนาท” พ.ศ. 2493 ได้เปลีย่ นชื่อ เปน็ โรงเรยี นชัยนาท“ วชิ ัยบารงุ ราษฎร์” พ.ศ. 2499 กรมการฝึกหดั ครูได้มคี าส่ังยุบเลกิ โรงเรยี นฝึกหดั ครูชยั นาท และได้มอบอาคารและที่ดนิ จานวน 54 ไร่ 79 ตารางวาให้กับโรงเรยี นใช้เปน็ สถานศึกษาต่อไปวนั ที่ 27 มิถนุ ายน พ.ศ. 2518 ได้ยบุ รวมกับโรงเรยี นสตรีชยั นาท“ คณะราษฎร์บารงุ 2” เข้าเป็นโรงเรยี นเดยี วกนั ตามประกาศของ กระทรวงศึกษาธิการโดยจดั เปน็ โรงเรียนเปน็ แบบสหศกึ ษาใชช้ ื่อวา่ “ โรงเรียนชยั นาทพทิ ยาคม” ใช้หลกั สตู รมธั ยม แบบประสม (ค.ม.ส.) ในปีการศกึ ษา 2512 ต่อมา พ.ศ. 2519 โรงเรยี นเขา้ โครงการพฒั นาโรงเรียนมธั ยมศกึ ษาสว่ น ภมู ภิ าค (คมภ. 2 รุน่ 3) ปจั จุบนั เปิดสอนระดบั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1-6 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 โดยโรงเรยี นดาเนินการเข้าสโู่ รงเรยี นมาตรฐานสากล (world class standard school) โครงการงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียนโรงเรียนวิถพี ทุ ธพระราชทานหอ้ งเรียนพเิ ศษวิทยาศาสตรค์ ณติ ศาสตร์ เทคโนโลยแี ละส่ิงแวดล้อมห้องเรยี นพเิ ศษ (Gifted) วทิ ยาศาสตร์คณติ ศาสตรห์ อ้ งเรยี นพิเศษ (MEP) โรงเรียนแกน นาประชาธิปไตยโครงการบณั ณาสสมโภชเป็นต้น . 11. ข้อมูลโรงเรยี นดีเด่น - สถานศึกษารางวลั พระราชทาน ระดบั มธั ยมศกึ ษา ประจาปกี ารศกึ ษา 2563 ประเภทโรงเรียนขนาดใหญ่ - โรงเรียนแหง่ นวัตกรรมสรา้ งคณุ ภาพ - ศูนยส์ ะเตม็ ศกึ ษา ชัยนาทพทิ ยาคม (CNP-STEM-Education Center)
9 แผนภูมโิ ครงสรา้ งการบริหารของโรงเรยี น ลงชอ่ื ………………………………………….ผู้บนั ทกึ (………………………………………….) วันท่ี…………เดือน……………………..พ.ศ……………. ลงชื่อ………………………………………….ครูพ่ีเลี้ยง (………………….……………………….) วันท่ี…………เดือน……………………..พ.ศ…………….
10 ปว.1-2 แบบบันทกึ การปฏิบตั ิงาน คาชีแ้ จง ให้นกั ศกึ ษาบันทกึ ผลการปฏบิ ตั ิงานในสถานศึกษาผ่านระบบออนไลน์ทกุ ครั้งท่ปี ฏบิ ตั งิ านตามท่กี าหนดให้ วัน ศุกร์ ที่ 3 เดือน กันยายน พ.ศ. 2564 . งาน รายการท่ีปฏิบตั /ิ ที่ได้ ส่ิงทไี่ ดร้ บั จากการ ลงช่ือ เรียนรู้ ปฏิบัตงิ านนี้ ครพู ่ีเล้ยี ง 1. (สมั ภาษณก์ ารจดั การ - การทางานร่วมกันของครู - ทราบถึงการทางานร่วมกัน เรยี นรู้ของครพู เี่ ลยี้ ง และ ในกลมุ่ สาระศลิ ปะ ของครูกลมุ่ สาระศิลปะว่ามกี าร บริบทของโรงเรยี น ทางานอย่างเป็นระเบียบแบบ จานวน 1 ชวั่ โมง) แผน - วิธีการจัดการเรียนการ - โรงเรียนจัดให้มีการเรียนการ สอนในแต่ละคาบเรียน สอน สัปดาห์เว้นสัปดาห์ใน รายวิชาท่ีมี 0.5 หน่วยกิต และ สอนไม่เกิน 30 นาทีต่อคาบ เรียน - บริบทของโรงเรยี น - ครูพี่เล้ียงเป็นผู้อานวยความ ส ะ ด ว ก ทุ ก ๆ เ ร่ื อ ง ใ น ก า ร ห า ข้อมูลถือเป็นเร่ืองท่ีดีในการ ปฏบิ ัติงาน - ปั ญ ห า ในกา ร จั ด การ - เราต้องมีการเสริมแรงให้ เรยี นรู้ นักเรียนท่ีไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์ กั บ ผู้ ส อ น เ พ่ื อ ใ ห้ ก า ร เ รี ย น เป็นไปอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ - การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ - ทราบถึงการทางานของครูว่า (PLC) มีการประชุมถึงปัญหาและ แกไ้ ขปัญหารว่ มกนั - รายละเอียดต่างๆของ - รายวิชาชุมนุมมีการกาหนด รายวชิ าเพม่ิ เตมิ สัดส่วนครู 1 คนตอ่ นักเรยี น 20 คน รายวิชาเพิ่มเติมต่างๆ ไม่ เคร่งอะไรมากเพราะไม่ได้มี เกณฑก์ ารให้คะแนน
11 วนั จนั ทร์ ที่ 6 เดือน กันยายน พ.ศ. 2564 . งาน รายการท่ีปฏบิ ัต/ิ ทีไ่ ด้เรียนรู้ สิ่งทไ่ี ด้รับจากการ ลงช่อื ปฏบิ ตั ิงานน้ี ครูพเ่ี ลย้ี ง 2. (สังเกตการสอน - เทคนคิ วธิ ีการสอน - ตามงานท่ีนักเรียนส่งไม่ครบ เช่น งานส่งคลิปวิดีโอการเป่า นกั เรียนระดบั ชั้น ม.1 ขลุ่ย ผู้สอนก็จะทบทวนการ อ่านโน้ต และสาธิตการเป่า และม.2 จานวน 5 ชวั่ โมง) ขลุย่ ใหผ้ เู้ รียนดอู ีกคร้ัง - มีการสอบถามนักเรียน - แนวทางการสอนวิชาดนตรี ระหว่างการสอนเพื่อให้ทราบ ว่านักเรียนเขา้ ใจส่งิ ท่สี อน เมอ่ื นกั เรียนไมม่ ีปฏิกริ ยิ าตอบกลบั ครูผู้สอนก็จะทบทวนสิ่งน้ันให้ ใหม่ - ส อนน้อย ๆ แ ต่ ให้ เ ด็ กไ ด้ ความรู้มาก ดีกว่าสอนมากๆ แตเ่ ด็กไมไ่ ด้อะไรเลย - ทกั ษะความรู้ - ได้รับความรู้ใหม่จากการ สังเกตครูพ่ีเล้ียงสอน คือ เทคนิคการใช้มือแทนการอ่าน ตัวโน้ตบนบรรทดั 5 เสน้ - ได้ทบทวนความรู้เดิมที่เคย เรียนมา เช่น เรื่องประเภท ของวงดนตรี - ได้รับความรู้ใหม่เร่ือง แนว ทางการออกเสียงการเป่าขลุ่ย ท่ีถูกวธิ ี
12 วัน องั คาร ท่ี 7 เดอื น กันยายน พ.ศ. 2564 . งาน รายการที่ปฏิบัต/ิ ที่ไดเ้ รยี นรู้ ส่งิ ทไ่ี ด้รบั จากการ ลงชอ่ื ปฏบิ ตั งิ านน้ี ครูพี่เล้ยี ง 3. (สังเกตการสอน - วิธกี ารสอน - ท ร า บ ถึ ง ก า ร ว า ง นกั เรยี นระดับชน้ั ม.2 แผนการสอนว่าระดับชั้น และม.3 จานวน 4 เดียวกันถึงแม้จะคนละ ชั่วโมง) ห้องเรียน ก็จะสอนเรื่อง เดียวกันไปพร้อมๆกนั - ทักษะความรู้ - ได้รับความรู้ใหม่จาก การเรียนดนตรี ได้แก่ - ทกั ษะการปฏบิ ตั ิเคร่อื งดนตรี ราชาแห่งเคร่ืองดนตรี - ปฏกิ ิรยิ าของผู้สอนกบั ผู้เรยี น สากลคือ เฟรนช์ฮอร์น แ ล ะ ร า ชิ นี แ ห ง่ เ ค รื่ อ ง ดนตรีสากลคือไวโอลนิ - ได้รับความรู้ใหม่เร่ือง การไล่น้ิวโครมาติกสเกล ขลยุ่ รีคอรเ์ ดอร์ - การเรียนออนไลน์จะ พบว่านักเรียนปิดกล้อง ไม่มีปฏกิ ิริยาตอบโต้ ครูก็ จะมีแรงจูงใจถ้านักเรียน คนใดเปิดกล้องจะบวก ค ะ แ น น เ พ่ิ ม ใ ห้ แ ล ะ ระหว่างการสอนครูจะมี การซักถามอยตู่ ลอดเวลา ถ้ า นั ก เ รี ย น มี ป ฏิ กิ ริ ย า โ ต้ ต อ บ ก็ จ ะ มี ค ะ แ น น พิเศษให้
13 วัน พธุ ที่ 8 เดอื น กนั ยายน พ.ศ. 2564 . งาน รายการทีป่ ฏิบตั ิ/ที่ได้เรียนรู้ สง่ิ ทไ่ี ดร้ ับจากการ ลงชอ่ื ปฏบิ ัติงานนี้ ครพู ีเ่ ลย้ี ง 4. (สงั เกตการสอน - แนวทางการสอน - ครูจะมีการสุ่มถาม นกั เรยี นระดับช้นั ม.2 นั ก เ รี ย น เ พ่ื อ เ ป็ น ก า ร คาบชมุ นุม และเข้าพบ สารวจว่านักเรียนเข้าใจ กบั ครูพีเ่ ลย้ี งเร่ืองการทา ส่ิงที่สอนหรือไม่ ถ้าเด็ก แผนการจดั การเรยี นรู้ ห้องดนตรีก็จะให้คาตอบ จานวน 3 ชวั่ โมง) บ่อย เด็กบางห้องก็จะไม่ ค่อยตอบเพราะอาจจะไม่ - ชมุ นุม เข้าใจในส่ิงน้ัน ครูก็จะ อธบิ ายเพม่ิ เตมิ ให้ - การทาแผนการจดั การเรียนรู้ - มกี ารแลกเปล่ยี นเรียนรู้ กัน มีพี่ศิษย์เก่าท่ีจบไป ม า ใ ห้ ค ว า ม รู้ เ ก่ี ย ว กั บ เส้นทางการเรียนต่อเพ่ือ เปน็ แรงจงู ใจใหก้ บั น้องๆ - ทาแผนการสอนไว้แต่ ไม่จาเป็นต้องสอนตาม แผน เพราะบริบทของ เด็กแต่ละห้องเรยี นน้ันไม่ เท่ากัน ข้ึนอยู่ว่าเราจะ ออกแบบวิธีการสอนของ เราอยา่ งไร - แนะนาการบันทึกวิดีโอ ห น้ า จ อ ผ่ า น โ ป ร แ ก ร ม meet เราต้องออกจาก ห้องเปน็ คนสุดท้ายเพราะ ไฟล์วิดีโอจะอยู่กับคนท่ี ออกจากหอ้ งคนสุดทา้ ย
14 วัน พฤหัสบดี ท่ี 9 เดือน กันยายน พ.ศ. 2564 . งาน รายการท่ปี ฏบิ ตั ิ/ท่ีไดเ้ รยี นรู้ ส่งิ ทไ่ี ด้รบั จากการ ลงชื่อ ปฏิบตั งิ านนี้ ครพู เี่ ล้ียง 5. (สังเกตการสอน - การจดั การเรยี นการสอน - ตามงานนักเรียนเพ่อื ให้ นกั เรยี นระดับชัน้ ม.6 นั ก เ รี ย น มี ค ะ แ น น เ ก็ บ ม.1 ม.2 และประชุม นักเรียนระดับช้ัน ม.6 ชี้แจงเรื่องคาบเรยี นท่จี ะ จะตอ้ งเตรียมอ่านหนงั สอื ทดลองใช้สอน จานวน 5 ส อ บ จึ ง จ ะ ไ ม่ ส อ น แ ล ะ ชั่วโมง) เคร่งอะไรมากมายให้เดก็ ไปทบทวนและตามส่ง - การเข้าพบนกั เรยี นประจาชั้น งานกนั เอง - ในรายวิชาปฏิบตั ิเครื่อง ด น ต รี แ ต่ เ มื่ อ มี ก า ร จั ด ก า ร เ รี ย น ก า ร ส อ น ออนไลน์ครูได้ลดหย่อน ใ ห้ นั ก เ รี ย น เ ลื อ ก จ ะ ปฏิบัติเครื่องดนตรีหรือ ขั บ ร้ อ ง เ พ ล ง ก็ ไ ด้ ต า ม เพลงทีค่ รกู าหนดให้ - ค รู เ ป็ น ผู้ ช้ี แ จ ง ร า ย ล ะเ อียดทุกเร่ือง ได้แก่การป้องกันโควิด กระตุ้นให้นักเรียนส่งงาน ในแต่ละวิชา ชี้แจงเรื่อง การรับเงินเยียวยา ตาม ให้นักเรียนให้เข้าเรียนใน แต่ละรายวิชาถึงแม้จะ ปว่ ยแต่การเรียนออนไลน์ สามารถนอนฟังได้ดีกว่า ไม่รับรู้อะไรเลย และ ส อ บ ถ า ม ข้ อ ส ง สั ย จ า ก นกั เรียน
15 วัน พธุ ที่ 15 เดือน กนั ยายน พ.ศ. 2564 . งาน รายการทป่ี ฏบิ ตั /ิ ท่ีได้เรยี นรู้ ส่ิงท่ไี ด้รับจากการ ลงช่อื ปฏบิ ัตงิ านน้ี ครูพเ่ี ลี้ยง 6. (ประชมุ กบั ครพู เ่ี ลีย้ ง - การจัดทาแผนการเรียนรู้ แนะ - ต ร ว จ ส อ บ แ ก้ ไ ข ลงชอื่ ครูพีเ่ ลย้ี ง จานวน 1 ชัว่ โมง) แ น ว ท า ง วิ ธี ก า ร ส อ น แ ล ะ ข้อผดิ พลาดแผนการสอน เตรียมการสอนปรับแก้เน้ือหาข้อ และแบบทดสอบ โดย ผพิ ลาด ได้รับคาแนะนาจากครูพ่ี เล้ียงก่อนนาไปใช้สอน จริง วัน พฤหสั บดี ท่ี 16 เดอื น กันยายน พ.ศ. 2564 . งาน รายการที่ปฏิบตั ิ/ท่ไี ดเ้ รียนรู้ สิ่งทไ่ี ด้รบั จากการ ปฏบิ ตั งิ านน้ี 7. (สงั เกตการสอน - ได้ประสบการณ์สอนนักเรียน - ทราบถึงกลวิธีกระตุ้น ทดลองสอน และประชุม ครง้ั แรก ผเู้ รียนให้ผู้เรยี นเกิดความ กับครพู ่เี ลยี้ งจานวน 2 ส น ใ จ คื อ ต้ อ ง ค อ ย ชั่วโมง) ซักถามผู้เรียนในเน้ือหา น้ันเป็นระยะ เปิดโอกาส ให้ผู้เรียนได้แสดงความ คดิ เห็นในทกุ เรอ่ื ง - เป็นก้าวแรกในการ เร่ิมต้นการสอนสามารถ น า ข้ อ ผิ ด พ ล า ด ใ น ค ร้ั ง แ ร กม า ป รั บ ป รุ งแ ล ะ พัฒนาให้ดีขึ้นใ นค ร้ั ง ต่อไป - สังเกตเรียนรู้วิธีการสอนของ - ทราบถึงกลวิธีการสอน เพื่อน ของเพื่อน และนามาปรับ ใชก้ ับตนเอง
16 วัน ศุกร์ ท่ี 17 เดอื น กันยายน พ.ศ. 2564 . งาน รายการทป่ี ฏบิ ัติ/ท่ไี ด้ สิ่งทไี่ ด้รบั จากการ ลงชอื่ เรียนรู้ ปฏิบัตงิ านน้ี ครูพ่เี ลีย้ ง 8. (สังเกตการสอน - ประสบการณ์สอนและ - ก่อนเริ่มการสอนครูพี่เล้ียงแจ้ง ลงชอ่ื ครพู เี่ ลี้ยง ทดลองสอน และประชุม การแก้ปญั หาเฉพาะหน้า ว่าให้สอนเนื้อหาอีกเร่ืองหนึ่ง กบั ครพู ี่เลย้ี งจานวน 5 เพื่อที่นักเรียนจะได้นาไปสอบ ช่ัวโมง) เราก็ต้องแก้ปัญหาโดยการติดตอ่ เ พื่ อ น เ พื่ อ ข อ ยื ม ส ไ ล ด์ ใ น ก า ร นาเสนอให้นักเรียนดูและสอนให้ นักเรียนเข้าใจเป็นการแก้ปัญหา เฉพาะหนา้ อยา่ งหนึง่ - การทดลองสอนเรอ่ื ยๆทาให้เรา มีประสบการณม์ ากข้ึน - สงั เกตเรยี นรวู้ ิธกี ารสอน - ทราบถึงกลวิธีการสอนของ ของเพือ่ น เพ่ือน และวิธีการสอนมาปรับใช้ กบั ตนเอง - ครูพ่ีเล้ียงช้ีแจงการสอน - ทราบถึงการเตรียมตัวทดลอง เนื้อหาแต่ละคาบเรยี น สอนในคาบถัดไป วนั จนั ทร์ ที่ 20 เดือน กันยายน พ.ศ. 2564 . งาน รายการที่ปฏิบัต/ิ ที่ได้ ส่งิ ทไ่ี ด้รับจากการ เรยี นรู้ ปฏบิ ตั งิ านน้ี 9. (สังเกตการสอน และ - พัฒนาการด้านการสอน - ได้รับรู้ถึงพัฒนาการด้านการ สอนตนเองว่ามีความคล่องแคล่ว ทดลองสอน จานวน 5 และมคี วามกลา้ ท่ีจะสอนมากข้นึ - ครูผู้สอนเอาใจใส่นักเรียนเป็น ชัว่ โมง) อย่างมากตามงานให้ผเู้ รยี นในแต่ ละรายวิชาว่านักเรียนคนใดไม่ส่ง - การตามงานนักเรยี น ง า น วิ ช า ใ ด บ้ า ง แ ล ะ ช้ี แ จ ง ใ ห้ คาแนะนาใหน้ ักเรียนตามสง่ งาน
17 วนั องั คาร ที่ 21 เดอื น กันยายน พ.ศ. 2564 . งาน รายการทปี่ ฏิบตั ิ/ที่ได้เรยี นรู้ สงิ่ ท่ไี ด้รบั จากการ ลงชื่อ ปฏิบตั ิงานน้ี ครพู ่เี ล้ียง 10. (สงั เกตการสอน และ - พฒั นาการดา้ นการสอน ทดลองสอน และเขา้ - การแกป้ ญั หาเฉพาะหนา้ - พฒั นาการดา้ นการสอน ลงชื่อ ประชมุ นัดหมายกบั ครพู ่ี ข อ ง ต น เ อ ง มี ค ว า ม ครพู เี่ ลย้ี ง เล้ียง จานวน 5 ชั่วโมง) คล่องแคล่วและราบรื่น เปน็ ไปไดด้ ้วยดี ลงชือ่ - การตามงานนกั เรยี น - การเตรียมความพร้อม ครูพเ่ี ล้ยี ง เ ต รี ย ม กา ร ส อนแ ทน เ พื่ อ น แ บ บ เ ร่ ง ด่ ว น เนือ่ งจากเพ่อื นติดธุระ - ครูผู้สอนให้นักเรียน ตามส่งงาน และชี้แจง เร่ืองการสอบ วัน พธุ ท่ี 22 เดือน กนั ยายน พ.ศ. 2564 . งาน รายการที่ปฏิบัติ/ที่ได้เรยี นรู้ สิง่ ที่ได้รับจากการ ปฏบิ ัติงานน้ี 11. (สังเกตการสอน - เทคนคิ วิธกี ารสอน จานวน 1 ชั่วโมง) - สังเกตเทคนิควิธีการ ท ด ล อ ง ส อ น ข อ ง เ พื่ อ น แ ล ะ นา ม า ป รั บ ใช้ กับ ตนเอง วนั พฤหัสบดี ท่ี 23 เดอื น กันยายน พ.ศ. 2564 . งาน รายการทป่ี ฏิบัติ/ท่ไี ดเ้ รยี นรู้ สงิ่ ทไ่ี ดร้ บั จากการ ปฏบิ ัติงานนี้ 11. (สารวจโรงเรียน และ - สารวจบริบท สภาพแวดล้อม - สารวจอาคารเรียน เข้ารว่ มงานเกษียณ ของโรงเรยี น ต่างๆภายในโรงเรียนเพอื่ จานวน 8 ชว่ั โมง) นาข้อมูลมากรอกในเล่ม แ บ บ บั น ทึ ก ก า ร ป ฏิ บั ติ วชิ าชีพระหว่างเรียน - เขา้ รว่ มงานเกษียณ - เทคนิควิธีการบรรเลง ดนตรขี องนักเรียน - มิตรภาพของผู้เรียนใน วงดนตรี
18 หมายเหตุ : นักศึกษาสามารถออกแบบตาราง หรือเพ่ิมรายละเอียดได้ ตามหัวข้อรายละเอียดความรู้ท่ีต้องเรียนรู้ จากครพู ่เี ลี้ยง ลงชอื่ ………………………………………..…………….ผบู้ ันทึก (นางสาวสุทธิดา คามบตุ ร) ลงชอ่ื ………………………………………………..…….ครูพี่เล้ยี ง (นายสาธติ ช่นื เมือง)
19 ปว.1-3 แบบสมั ภาษณ์การจดั การเรยี นรู้ (สัมภาษณ์ครูพี่เล้ยี ง) ชอื่ นายสาธิต สกลุ ชนื่ เมอื ง . โรงเรียน ชยั นาทพทิ ยาคม อาเภอ เมืองชยั นาท จงั หวดั ชยั นาท . คาชแี้ จง ให้นักศกึ ษาสัมภาษณก์ ารจัดการเรยี นรขู้ องครพู ี่เลย้ี งและบันทกึ ลงในชอ่ งว่างท่ีกาหนด 1. ท่านสอนก่รี ายวชิ า วิชาอะไรบ้าง จานวนกช่ี วั่ โมงต่อสปั ดาห์ 5 รายวิชา ได้แก่ 1) ศิลปะ 3 2) ดนตรีสร้างสรรค์ 1 3) ดนตรีสร้างสรรค์ 5 4) ปฏิบัติการดนตรี 1 5) ปฏิบตั ิการดนตรี 5 จานวน 23 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ 2. ปญั หาทีพ่ บในรายวชิ าทีส่ อน มีอะไรบ้าง 1) ขาดความใสใ่ จในการเรียนเม่อื นักเรยี นเรยี นท่ีบ้าน จึงไม่มีสงิ่ เร้าหรอื แรงกระตนุ้ ในการเรียน 2) ขาดความรับผิดชอบในหน้าท่ีเมื่อนักเรียนเรียนที่บ้านบางคนช่วยงานผู้ปกครองหรือทาสิ่งอื่นจึงไม่ได้เข้า เรียนตามตาราง 3) การตรงต่อเวลา นักเรียนบางคนเข้าท้ายคาบจึงไม่สามารถรู้รายละเอียดของงาน และทางานค้างหรือไม่ สนใจสง่ งานภายในคาบหรือเวลาทกี่ าหนด 4) อุปกรณ์ในการเรียนของนักเรียนไม่พร้อมในการเรียน เช่น ไม่มีอินเทอร์เน็ต โทรศัพท์ตกรุ่น ไม่มี คอมพิวเตอร์ 5) นักเรียนไม่สามารถเขา้ เรียนไดเ้ พราะติดช่วยงานทางบา้ น 6) สัญญาณอินเทอร์เน็ตท่ีโรงเรียนไม่สามารถใช้ในการสอนออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิผล สัญญาณไม่เสถียร อีกทั้งไม่มีอุปกรณ์ที่ใช้สอนออนไลน์ที่ดี เช่น ห้องสอนออนไลน์ที่มีไฟ กล้อง คอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่ช่วย อานวยการสอน ครูต่างแก้ปัญหาในการสอนโดยใช้โทรศัพท์มือถือ โน้ตบุ๊ค ไอแพด ซ่ึงครูต้องหาซื้อมาเอง และใช้ สอนไมไ่ ด้ประสทิ ธิผลอยา่ งเตม็ ท่ี 3. ทา่ นไดด้ าเนนิ การแก้ไขอย่างไร/มีเทคนคิ ใดในการดาเนินการแกไ้ ข นาเสนอแนวทางการแก้ปญั หากับทางโรงเรยี นว่าโรงเรยี นควรสร้างนโยบายหรอื รปู แบบท่ชี ัดเจนเพ่อื ให้เกดิ ความเข้าใจตรงกนั ระหวา่ งครูผสู้ อน, นกั เรยี น และผปู้ กครอง ของการจดั การเรยี นการสอนทางไกลในรปู แบบ ออนไลน์ หากรปู แบบยงั คงยืดหยนุ่ ไม่มกี ารเกบ็ คะแนนเหมือนการจดั การเรยี นการสอนแบบปกติก็คงเป็นไปได้ยากท่ี จะให้นกั เรยี นเข้าเรียนส่งงานครบ 100% ตราบใดทีน่ ักเรยี นอย่บู า้ นก็ยาก ด้วยสภาพปัจจยั ทางครอบครวั เศรษฐกจิ ความรบั ผิดชอบ ความตรงต่อเวลาและการใส่ใจการเรียนของนกั เรยี นยอ่ มมีความหลากหลาย 4. ท่านมีข้อเสนอแนะอยา่ งไรในการดาเนนิ การจดั การเรียนรู้ หรืองานดา้ นอื่นๆ อยากให้มกี ารจัดการเรยี นการสอนในห้องเรียนมากกว่าการเรยี นออนไลน์ เพราะการจัดการเรยี นรู้จะได้ผล เยอะกว่า งานดา้ นอนื่ ๆครูไม่ไดไ้ ปเจอกนั สามารถดาเนินการไดอ้ ย่างรวดเร็ว 5. ทา่ นมีการแลกเปล่ียนเรียนรูร้ ะหว่างเพ่อื นครูหรือไมอ่ ย่างไร (PLC) ถ้ามที ่านดาเนนิ การอยา่ งไร และผลการ ดาเนินการเป็นอย่างไร มีการประชุม PLC ครูทงั้ กลุม่ สาระศิลปะเดือนละ 1 ครัง้ โดยการประชมุ ผ่านระบบออนไลน์ เป็นการประชมุ เพื่อชแ้ี จงถงึ ปัญหาทเ่ี กดิ ข้นึ ในชั้นเรยี นและวธิ ีการแกป้ ัญหานัน้ ช้แี จงขา่ วสารตา่ งๆ โดยผลการดาเนินงานเปน็ ไปได้ ด้วยดี
20 ปว.1-4 แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชา ดนตรี กล่มุ สาระ ศิลปะ . หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 4 เร่ือง ความรทู้ วั่ ไปเกี่ยวกับดนตรีสากล จานวน 4 ชวั่ โมง แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 1 เรอ่ื ง เคร่ืองหมายและสญั ลกั ษณ์ทางดนตรีสากล จานวน 1 ชว่ั โมง สอนวันท่ี 16 เดอื น กันยายน พ.ศ. 2564 ชนั้ ม.2 เวลา 13.10-13.10น. . -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- สาระที่ 2 ดนตรี เร่อื ง เครอ่ื งหมายและสญั ลักษณ์ทางดนตรีสากล มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ศ 2.1 เข้าใจและแสดงออกทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่า ดนตรี ถา่ ยทอดความรู้สกึ ความคิดตอ่ ดนตรอี ย่างอิสระ ช่นื ชม และประยกุ ตใ์ ช้ในชีวติ ประจาวนั ตวั ชว้ี ัด ม.2/2 อา่ น เขียน รอ้ งโน้ตไทยและโนต้ สากลท่ีมีเคร่อื งหมายแปลงเสยี ง สาระสาคัญ การอา่ น และเขยี นโน้ตสากลนนั้ จะตอ้ งรู้เคร่อื งหมายและสัญลกั ษณ์ทางดนตรี เพื่อท่ีจะบรรเลงบท เพลงหรอื ขับร้องได้ถกู ต้องตามจงั หวะและอารมณ์เพลง จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้/ผลการเรียนรู้ 1. บอกชอื่ เคร่ืองหมายและสญั ลกั ษณท์ ใี่ ช้ในดนตรีสากลได้ (K) 2. อ่าน เขยี น รอ้ ง โน้ตสากลทม่ี ีเคร่ืองหมายแปลงเสยี งได้ (P) 3. ปฏิบัตกิ ิจกรรมรว่ มกับผูอ้ นื่ ดว้ ยความสนุกสนานและมน่ั ใจ (A) กจิ กรรมการเรียนรู้ ขัน้ นา 1. ครูเขียนบรรทัดหา้ เสน้ บนกระดาน แล้วถามนักเรยี นว่า ในดนตรีสากลบรรทัดห้าเสน้ มี ไว้สาหรบั ทาอะไร 2. ครอู ธบิ ายขยายความเข้าใจของนกั เรียนเกยี่ วกบั บรรทดั หา้ เสน้ แล้วเขยี นตวั โนต้ สากล 2-3 ตวั แลว้ ให้นกั เรียนบอกชอื่ เรียกของตัวโนต๊ ทีค่ รูยกตวั อยา่ ง เพื่อประเมนิ ความรพู้ ้นื ฐานของ นักเรียน
21 ขนั้ สอน 1. ครูอธิบายเกี่ยวกบั เครอ่ื งหมายและสัญลักษณ์ทใ่ี ช้ในดนตรสี ากลให้นกั เรยี นฟงั พร้อม ใหด้ ูภาพประกอบ 2. ครูสมุ่ นกั เรยี น 5-6 คน ตอบคาถามโดยนาความรู้จากทค่ี รูอธิบายไปข้างตน้ มาเป็น แนวทางในการตอบ 3. ครใู ห้นักเรยี นฝกึ เขยี น อา่ น และร้องโน้ตเพลงสากลที่มเี ครอื่ งหมายแปลงเสยี ง 4. ครูแบง่ นักเรียนเป็นกลมุ่ กลมุ่ ละ 4 คน คละกนั ตามความสามารถ คือ เก่ง ปานกลาง ค่อนขา้ งเก่ง ปานกลางค่อนขา้ งออ่ น และออ่ น 5. สมาชกิ แตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั ฝกึ อ่านและรอ้ งโน้ตเพลงไทยสากลทม่ี ีเครื่องหมายแปลงเสียง ได้แก่ เพลงชะตาชีวติ 6. ครูดูแลและใหค้ าแนะนานกั เรียนตลอดระยะเวลาท่ีฝึกปฏบิ ตั ิ ขน้ั สรุป 1. ครแู ละนกั เรียนสรุปบทเรียนร่วมกัน และสอบถามข้อสงสัยเก่ยี วกับเครอ่ื งหมายและ สญั ลักษณท์ างดนตรี สือ่ และแหล่งการเรยี นรู้ 1. สอ่ื การเรียนรู้ - Power point เร่อื ง เคร่ืองหมายและสญั ลักษณท์ างดนตรีสากล - เอกสารประกอบการสอน - แบบทดสอบ 2. แหล่งการเรยี นรู้ - https://sites.google.com/site/nuengruethaimusic/hnwy-thi-5-kar-ptibati-dntri- sakl/kheruxng-hmay-laea-say-lak-sn-thang-dntri-sakl - http://www.aksorn.com/LC/Mu&Pa/M1/11 สมรรถนะของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี ินัย
22 2. ใฝเ่ รยี นรู้ วธิ กี าร/เครอ่ื งมือ เกณฑ์การประเมนิ 3. มงุ่ มัน่ ในการทางาน การทดสอบ / แบบทดสอบ 80% การประเมินผลการเรียนรู้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การปฏิบัติ / แบบทดสอบปฏบิ ตั ิ มากกว่าหรือเทา่ กบั 3 1. บอกชื่อเคร่ืองหมายและ สัญลกั ษณ์ท่ีใชใ้ นดนตรสี ากลได้ (K) การสงั เกตพฤตกิ รรมการทางาน ผ่าน / ไมผ่ า่ น 2. อ่าน เขยี น ร้อง โนต้ สากลทมี่ ี กลมุ่ / แบบสงั เกตพฤตกิ รรม เครื่องหมายแปลงเสยี งได้ (P) 3. ปฏบิ ตั กิ ิจกรรมรว่ มกับผอู้ ่ืนด้วย ความสนกุ สนานและมัน่ ใจ (A) บันทึกหลงั การสอน .......................................................................................................................................................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื ........................................................................ (นกั ศึกษา) ข้อเสนอแนะ .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื ........................................................................ (ครพู เ่ี ลย้ี ง)
23 แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ า ดนตรี กลมุ่ สาระ ศลิ ปะ . หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 6 เร่ือง ดนตรีกบั อาชพี ทางดนตรี จานวน 3 ชว่ั โมง แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 2 เรอ่ื ง อาชพี ทางดนตรี จานวน 1 ช่ัวโมง สอนวันท่ี 17 เดอื น กันยายน พ.ศ. 2564 ช้นั ม.2 เวลา 10.20-11.20น. .. -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- สาระท่ี 2 ดนตรี เรื่อง อาชพี ทางดนตรี มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ศ 2.1 เข้าใจและแสดงออกทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่า ดนตรี ถ่ายทอดความร้สู กึ ความคดิ ตอ่ ดนตรีอย่างอิสระ ชืน่ ชม และประยกุ ต์ใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ตวั ชี้วดั ม.2/7 ระบงุ านอาชพี ตา่ งๆ ทีเ่ กย่ี วข้องกบั ดนตรแี ละบทบาทของดนตรีในธรุ กจิ บนั เทงิ สาระสาคญั อาชพี ทางดนตรี เปน็ อาชพี ทส่ี รา้ งความสขุ ใหก้ ับสงั คม ซึง่ มีความหลากหลายตามลักษณะของการ ประกอบกิจกรรมในอาชีพนนั้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้/ผลการเรยี นรู้ 1. บอกอาชพี ที่เกี่ยวข้องกับดนตรีได้ (K) 2. ยกตวั อย่างอาชพี ทเี่ กยี่ วข้องกับดนตรไี ด้ (P) 3. ปฏิบตั กิ ิจกรรมร่วมกับผอู้ ่ืนดว้ ยความสนุกสนานและมน่ั ใจ (A) กจิ กรรมการเรียนรู้ ขั้นนา 1. ครูนาภาพบุคคลทเ่ี กยี่ วข้องกับดนตรี มาใหน้ ักเรยี นดู แลว้ ให้นักเรยี นช่วยกนั บอกว่า บุคคลในภาพประกอบอาชพี อะไร 2. นกั เรยี นตอบคาถามกระตุ้นความคิด ขัน้ สอน 1. ครอู ธิบายเก่ยี วกับอาชีพทางดา้ นดนตรี ใหน้ ักเรยี นฟงั แล้วใหน้ กั เรียนช่วยกัน ยกตัวอย่างอาชีพทนี่ กั เรียนคิดวา่ มีความเกีย่ วข้องกับทางดนตรี
24 2. ครแู บง่ นกั เรยี นเป็นกลมุ่ กลมุ่ ละ 4 คน คละกนั ตามความสามารถ คือ เกง่ ปานกลาง คอ่ นข้างเก่ง ปานกลางคอ่ นขา้ งออ่ น และออ่ น 3. สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มแบง่ หนา้ ทีก่ ันศกึ ษาความรเู้ รอื่ ง อาชพี ดนตรี จากหนังสอื เรียน 4. สมาชิกแต่ละคนนาความรูท้ ไ่ี ด้จากการศึกษามาอธบิ ายให้สมาชิกคนอน่ื ๆ ในกลมุ่ ฟงั ที ละคน และใหส้ มาชิกในกล่มุ ซักถามขอ้ สงสัย เพ่ือใหเ้ กิดความเขา้ ใจท่ถี กู ตอ้ ง 5. ครใู ห้สมาชกิ แตล่ ะกล่มุ ทาแบบทดสอบ 6. ครเู ฉลยแบบทดสอบพรอ้ มสมุ่ ถามคาถามผูเ้ รยี นแตล่ ะคนในขอ้ คาถามของแบทดสอบ 7. นกั เรยี นตอบคาถามกระตุ้นความคดิ ข้นั สรปุ 1. ครูและนักเรยี นสรปุ บทเรียนรว่ มกนั และสอบถามข้อสงสยั เกีย่ วกบั เครอ่ื งหมายและ สัญลกั ษณท์ างดนตรี ส่อื และแหล่งการเรียนรู้ 1. สื่อการเรยี นรู้ - Power point เรอ่ื ง อาชีพทางดนตรี - เอกสารประกอบการสอน - แบบทดสอบ 2. แหลง่ การเรียนรู้ - https://sites.google.com/view/musicnhp/raywicha/ดนตรี-ม-2/หน่วยการเรียนรทู้ ี่- 4-อาชีพดนตร/ี อาชีพทางดนตรี สมรรถนะของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการคดิ 2. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ยั 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. ม่งุ มัน่ ในการทางาน
25 การประเมนิ ผลการเรียนรู้ วธิ กี าร/เครอ่ื งมอื เกณฑก์ ารประเมนิ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ การทดสอบ / แบบทดสอบ 80% 1. บอกอาชีพทีเ่ ก่ยี วขอ้ งกบั ดนตรไี ด้ (K) 2. ยกตัวอยา่ งอาชพี ที่เกยี่ วข้องกับ การปฏิบัติ / แบบทดสอบ มากกวา่ หรือเทา่ กับ 3 ดนตรีได้ (P) ปฏบิ ัติ ผา่ น / ไมผ่ า่ น 3. ปฏิบตั ิกจิ กรรมรว่ มกับผ้อู ืน่ ด้วยความ สนกุ สนานและมนั่ ใจ (A) การสงั เกตพฤตกิ รรมการ ทางานกลมุ่ / แบบสงั เกต พฤตกิ รรม บนั ทกึ หลงั การสอน .......................................................................................................................................................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื ........................................................................ (นกั ศกึ ษา) ขอ้ เสนอแนะ .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ ........................................................................ (ครพู ีเ่ ลยี้ ง)
26 แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ า ดนตรี กล่มุ สาระ ศลิ ปะ . หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 1 เร่ือง ดนตรีกับสงั คมและวัฒนธรรม จานวน 3 ช่วั โมง แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 3 เร่ือง องค์ประกอบของดนตรีในสงั คมและวัฒนธรรม จานวน 1 ช่วั โมง สอนวันท่ี 20 เดือน กันยายน พ.ศ. 2564 ช้ัน ม.2 เวลา 14.55-15.55น. .. -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- สาระที่ 2 ดนตรี เรือ่ ง องคป์ ระกอบของดนตรีในสังคมและวฒั นธรรม มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ศ 2.1 เข้าใจและแสดงออกทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่า ดนตรี ถา่ ยทอดความร้สู ึก ความคิดตอ่ ดนตรอี ย่างอิสระ ช่นื ชม และประยุกต์ใชใ้ นชีวิตประจาวัน ตวั ชี้วดั ม.2/1 เปรียบเทยี บการใช้องค์ประกอบดนตรีที่มาจากวัฒนธรรมต่างกัน สาระสาคญั ดนตรี เกิดจากการนาองคป์ ระกอบส่วนย่อยๆ มารวมเข้าด้วยกนั ซ่ึงดนตรใี นแตล่ ะวฒั นธรรมจะมี การใช้องคป์ ระกอบบางอย่างทเี่ หมอื นกนั หรอื แตกตา่ งกัน จุดประสงคก์ ารเรียนรู้/ผลการเรียนรู้ 1. บอกองค์ประกอบของดนตรจี ากแหลง่ วฒั นธรรมต่างๆได้ (K) 2. เปรียบเทยี บองคป์ ระกอบดนตรีท่มี าจากวฒั นธรรมตา่ งกนั ได้ (P) 3. ปฏิบัตกิ จิ กรรมร่วมกับผ้อู ่นื ดว้ ยความสนุกสนานและมั่นใจ (A) กิจกรรมการเรยี นรู้ ขัน้ นา 1. ครูเปดิ เพลงไทยเดมิ และเพลงของชาตอิ ื่นๆ ให้นักเรยี นฟัง แล้วถามนกั เรียนวา่ บท เพลงที่นักเรียนไดฟ้ งั นน้ั มาจากวัฒนธรรมใด และนกั เรียนทราบไดอ้ ยา่ งไร 2. ครเู ฉลยคาตอบแลว้ สนทนากบั นักเรยี นเกี่ยวกับองค์ประกอบทางดนตรีในสังคมและ วฒั นธรรม ขั้นสอน 1. นักเรยี นแบ่งกลมุ่ กลุ่มละ 6 คน ตามความสมัครใจ แลว้ ให้สมาชกิ แตล่ ะคนในกลมุ่ เลอื กหมายเลขประจาตวั ตัง้ แตห่ มายเลข 1-6
27 2. สมาชิกแตล่ ะหมายเลขศึกษาความรเู้ รื่อง องค์ประกอบของดนตรีในสงั คมและ วฒั นธรรม จากหนงั สอื เรียน ดังน้ี - หมายเลข 1 ศกึ ษาความรู้เรื่อง เสยี ง - หมายเลข 2 ศึกษาความรเู้ รือ่ ง จงั หวะ - หมายเลข 3 ศกึ ษาความรูเ้ ร่ือง ทานอง - หมายเลข 4 ศึกษาความรเู้ รอ่ื ง การประสานเสยี ง - หมายเลข 5 ศึกษาความรู้เรื่อง เนอ้ื ดนตรี - หมายเลข 6 ศกึ ษาความรู้เร่ือง บันไดเสยี ง 3. สมาชกิ แต่ละหมายเลขกลบั เขา้ กลมุ่ เดิม แล้วผลดั กนั อธบิ ายความรู้ที่ได้จากการศึกษา ใหส้ มาชกิ หมายเลขอื่นๆ ในกลมุ่ ฟงั จนเกดิ ความเข้าใจท่ีตรงกนั 4. นักเรียนตอบคาถามกระตุ้นความคดิ ขั้นสรุป 1. ครูและนักเรยี นสรุปบทเรยี นรว่ มกัน และสอบถามขอ้ สงสยั เก่ียวกบั เคร่อื งหมายและ สัญลกั ษณ์ทางดนตรี ส่อื และแหล่งการเรยี นรู้ 1. สื่อการเรยี นรู้ - Power point เร่ือง องคป์ ระกอบของดนตรใี นสงั คมและวฒั นธรรม - เอกสารประกอบการสอน - คลิปวดิ โี อ 2. แหลง่ การเรยี นรู้ - http://athornmusic.blogspot.com/2018/05/blog-post_20.html สมรรถนะของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมัน่ ในการทางาน
28 การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ วิธกี าร/เครอ่ื งมอื เกณฑก์ ารประเมนิ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ การทดสอบ / แบบทดสอบ 80% 1. บอกองค์ประกอบของดนตรจี าก การปฏิบัติ / แบบทดสอบ มากกว่าหรอื เท่ากบั 3 แหล่งวฒั นธรรมตา่ งๆได้ (K) ปฏบิ ัติ 2. เปรยี บเทยี บองคป์ ระกอบดนตรที ี่มา ผา่ น / ไมผ่ า่ น จากวัฒนธรรมตา่ งกันได้ (P) การสงั เกตพฤตกิ รรมการ 3. ปฏบิ ัติกจิ กรรมร่วมกับผู้อ่นื ด้วยความ ทางานกลุ่ม / แบบสงั เกต สนกุ สนานและมน่ั ใจ (A) พฤตกิ รรม บันทึกหลงั การสอน .......................................................................................................................................................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ ........................................................................ (นกั ศกึ ษา) ข้อเสนอแนะ .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ ........................................................................ (ครพู เี่ ลี้ยง)
29 ปว.1-5 โครงรา่ งการวจิ ัยในชนั้ เรียน 1. ชอ่ื เร่ือง การศกึ ษาพฤติกรรมการไมส่ ง่ งานของนักเรียนชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 2/9 โรงเรียนชยั นาทพทิ ยาคม 2. ความเป็นมาและความสาคญั ของปัญหา ความวติ กอยา่ งหนึ่งของคนที่เปน็ ครู คืออยากให้ลูกศิษยท์ ี่เรากาลังสอนน้นั เกิดการเรียนรู้ การเรยี นรไู้ มไ่ ด้ หมายถึงการท่ีเขาตอบคาถามท่ีเราถามได้เท่าน้ัน แต่หมายถึงการที่เขารู้ว่าส่ิงท่ีเขากาลังเรียนคืออะไร สามารถใช้ ความรู้ท่ีมีอยู่แล้วมาเช่ือมโยงกับความรู้ใหม่ที่เรากาลังสอนหรือไม่ และสามารถนาส่ิงท่ีเราสอนไปประยุกต์ใช้กับ สถานการณ์อ่ืนๆ ได้หรือไม่ สิ่งเหล่าน้ีเป็นส่ิงที่ผู้เรียนต้องทาเอง ครูไม่สามารถจะทาให้เขาได้ สิ่งที่ครูจะทาได้ คือ ตอ้ งเปดิ โอกาสให้ผเู้ รยี นไดท้ าสิ่งดงั กล่าว โดยสร้างบรรยากาศการเรยี นทเ่ี ออ้ื กบั ส่งิ เหล่าน้ีการสรา้ งบรรยากาศในการ เรียนเพื่อชว่ ยใหผ้ ู้เรียนได้เกิดการเรียนรู้ คือ ต้องทาใหผ้ ูเ้ รยี น เรียนอย่างกระตอื รอื ร้น และตระหนักวา่ ตนกาลังเรยี น อะไรอยู่ ครูจะสามารถสร้างบรรยากาศแบบน้ีได้จาก การจัดชั้นเรียน การสร้างแบบเรียนและกิจกรรมในห้องเรยี น และการหาเครือ่ งมือท่จี ะช่วยใหผ้ ้เู รียนไดพ้ ดู ถงึ สิ่งทเี่ รียนออกมาเพอ่ื จะไดร้ บั ร้วู า่ ตวั เขาเองกาลังทาอะไรอยู่ เชน่ การ เขียนไดอารี่ท่ีพูดถึงการเรียน ปัญหาท่ีพบ และสิ่งที่ได้เรียนการจัดช้ันเรียน ควรจะให้ผู้เรียนได้มีโอกาสทางานกลุ่ม เพื่อท่ีจะได้แลกเปลี่ยนความรู้และความคิดเห็นกับเพ่ือน การสร้างแบบเรียนและกิจกรรมในห้องเรียน ควรจะให้ ผู้เรียนได้มีสว่ นรว่ มในการเลือกกจิ กรรม เลือกการบ้าน และเลือกกลมุ่ คนท่ีเขาอยากจะทากิจกรรมในห้องเรียนดว้ ย ผู้เรียนควรจะรู้ว่าเขาถูกคาดหวังให้เรียนอะไรในวิชานั้น เพื่อจะได้รู้ว่าวิธีการเรียนที่เขาเรียนเหมาะสมหรือไม่ และ เขาบรรลุเปา้ หมายท่ีตัง้ เอาไว้หรือไม่ ครูควรจะคานึงถึงความแตกตา่ งระหว่างผเู้ รียนว่า เด็กในช้ันมคี วามสามารถ ความชอบ และมีแรงจูงใจใน การเรียนแตกต่างกัน ถ้าหากกาหนดให้เด็กทางานแบบเดียวกัน คนทุกคนจะเกิดการเรียนร้ไู ม่เท่ากัน นอกจากนี้ครู ควรจะให้ความสาคัญกับการสอนให้เด็กตระหนักว่าเขากาลังเรียนอะไร และเรียนอย่างไรไดอาร่ีเป็นสิง่ ท่ีจะช่วยให้ ผู้เรียนสามารถบันทึกกระบวนการเรียน งานท่ีเขาทา และยังใช้เป็นสื่อที่ครูกับเด็กจะติดต่อสื่อสารกันโดยไม่ จาเป็นต้องนาเร่ืองน้ันเข้ามาพูดในห้องเรียน การเขียนไดอารีจะช่วยให้ผู้เรียนได้คิดย้อนไปถึงกระบวนการที่เขา เรียนรู้แล้วเขียนบรรยายออกมา การที่เขาต้องเขียนบรรยายถึงวิธีการและขั้นตอนในการเรียน จะช่วยให้ผู้เรียน ตระหนักถึงกระบวนการการเรียนรู้ ข้อดีและข้อด้อยของตวั เอง ซึ่งจะทาให้เขารู้ตัวและปรับปรุงตัวได้ และยังทาให้ เขารวู้ า่ กาลังเรยี นอะไร ผู้เรียนในระดับช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 2/9 ปัญหาในการเรียนรู้ที่พบมากคือไม่ส่งงานตามระยะเวลาท่ีครู กาหนดทาให้เกิดปัญหาด้านการเรียนการสอน ครูจึงควรร่วมกันฝึกผู้เรียนให้ตระหนักถึงความสาคัญกระบวนการ การเรียนร้จู ะชว่ ยใหเ้ ขามีความมน่ั ใจทีจ่ ะเรียนรู้ได้ตลอดชวี ติ 3. วัตถปุ ระสงคข์ องการวจิ ยั 1. เพอื่ ศึกษาสาเหตกุ ารไม่สง่ งานของนกั เรยี นช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 2/9 2. เพื่อรวบรวมขอ้ มูลสาหรบั การแก้ปัญหาการไมส่ ่งงานนักเรยี น
30 4. ขอบเขตของการวิจัย ประชากร นกั เรียนชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 2 โรงเรียนชยั นาทพิทยาคม กลมุ่ ตวั อยา่ ง นักเรยี นชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 2/9 โรงเรยี นชยั นาทพทิ ยาคม เนื้อหา แบบสอบถามเพอ่ื ศกึ ษาพฤตกิ รรมการไม่สง่ งานของนกั เรียน ระยะเวลา วนั ที่ 3 กันยายน พ.ศ.2564 - 23 กันยายน พ.ศ.2564 5. นยิ ามศพั ทเ์ ฉพาะ การไมส่ ง่ งาน หมายถงึ การทน่ี ักเรียนไมส่ ง่ งานตามท่ีครมู อบหมายใหใ้ นแตล่ ะคาบเรยี นและส่งผลให้ นกั เรียนเสยี คะแนนในงานชิ้นนั้น 6. ประโยชนท์ ค่ี าดว่าจะได้รับ 1. ทราบถงึ พฤติกรรมและสาเหตกุ ารไมส่ ่งงานของนกั เรยี น 2. ไดแ้ นวทางในการแก้ปัญหาการเรยี นการสอน 7. สมมตฐิ านการวจิ ยั ครไู ดแ้ นวทางในการแกไ้ ขปัญหา และนักเรียนชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 2/9 โรงเรยี นชยั นาทพิทยาคมส่งงาน ครบทุกรายวิชา 8. เอกสารงานวจิ ัยทีเ่ ก่ยี วข้อง นอิ ร แสงสขุ า, วาสนา แสงกาวนิ และชลธชิ า บุญเล้ยี ง (2546) ไดศ้ กึ ษา การสารวจการส่งงานของ นกั เรียนระดบั ประถมศกึ ษาปที ่ี 5 อนพุ งษ์ รังสีสนั ติวานนท์ (2548) ได้ศึกษา การศกึ ษาพฤตกิ รรมของนักเรียนชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 5/1 โรงเรยี นกระเทียมวทิ ยาในเร่ืองการไมส่ ่งงาน / การบ้าน ทิพรตั น์ รตั ตะมาน (2546) ไดศ้ กึ ษา การศึกษาพฤติกรรมของนกั เรยี นชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 6/6 โรงเรียนอสั สมั ชัญระยองในเรือ่ งการไมส่ ง่ งาน / การบ้าน 9. วธิ ีดาเนินการวิจัย ประชากร นักเรยี นช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 2 โรงเรยี นชัยนาทพทิ ยาคม กลุ่มตัวอยา่ ง นกั เรียนชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 2/9 โรงเรียนชัยนาทพทิ ยาคม เครือ่ งมือที่ใชใ้ นการวจิ ัย แบบสอบถามพฤตกิ รรมการไมส่ ่งงานของนกั เรียน การวเิ คราะหข์ ้อมูลใช้ คา่ เฉลยี่ (������̅) คา่ เบ่ียงเบนมาตรฐาน (S.D.) 12. เอกสารอ้างองิ ทิพรตั น์ รตั ตะมาน. (2546). การศึกษาพฤตกิ รรมของนกั เรียนช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 6/6 โรงเรียน อสั สัมชัญระยองในเร่อื งการไมส่ ง่ งาน / การบ้าน. ระยอง : โรงเรยี นอัสสมั ชัญระยอง. นิอร แสงสขุ า, วาสนา แสงกาวิน ,ชลธิชา บุญเลยี้ ง. (2546). การสารวจการสง่ งานของนักเรยี นระดบั ประถมศกึ ษาปีที่ 5. ระยอง : โรงเรียนอสั สมั ชญั ระยอง. อนพุ งษ์ รังสีสันติวานนท์. (2548). การศกึ ษาพฤตกิ รรมของนักเรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5/1 โรงเรียน กระเทยี มวทิ ยาในเร่ืองการไม่สง่ งาน / การบ้าน. สุรนิ ทร์ : โรงเรียนกระเทยี มวทิ ยา.
31 ปว.1-6 แบบประเมนิ การปฏิบัติตนของนักศกึ ษา ช่อื ....................................................................................................สาขาวชิ า............................................................... รหสั ประจาตัว....................................................ชื่อโรงเรียน.......................................................................................... คาช้แี จง ขอให้ครพู ี่เลยี้ งของโรงเรยี นประเมนิ การปฏิบตั ิงานของนักศกึ ษาตามรายการที่กาหนด โดยพิจารณา รายการประเมินแล้วทาเคร่ืองหมาย ลงในช่องผลการประเมนิ ผลการประเมนิ รายการประเมนิ ดีมาก พอใช้ ควรปรบั ปรงุ 210 1.แต่งกายสะอาด สุภาพเรยี บร้อย 2.แสดงกริ ยิ ามารยาทเหมาะสมกบั ความเปน็ ครู 3.ใชว้ าจาสุภาพ 4.มมี นุษยสมั พันธท์ ีด่ ี 5.ทางานเป็นระเบยี บเรียบร้อย 6.มคี วามรับผิดชอบตอ่ งานท่ีรับมอบหมาย 7.มีความเอาใจใสแ่ ละใฝร่ ู้ในงานครู 8.มคี วามรูค้ วามสามารถปฏิบตั ิงานท่ไี ด้รับมอบหมาย 9.มีความต้ังใจในการทางาน 10.ปฏิบตั งิ านตรงเวลา รวม รวมคะแนนทั้งหมด ลงช่อื ………………………………………….ครูพเ่ี ล้ยี ง (………………….……………………….) ……..…../………………../…………….
32 ปว.1-7 แบบประเมนิ แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชา.................................................................ภาคเรยี นท.ี่ ..............ชนั้ ...................ปกี ารศึกษา............................ โรงเรียน................................................................ครูผสู้ อน.......................................................................................... กลุ่มสาระการเรียนรู้...................................................................................................................................................... คาช้ีแจง โปรดเขยี นเครื่องหมาย √ ลงในช่องท่ตี รงกบั ระดบั การประเมิน ระดบั การประเมนิ 5 หมายถึง ดมี าก ระดับการประเมนิ 2 หมายถึง ปรบั ปรงุ ระดบั การประเมิน 4 หมายถึง ดี ระดบั การประเมนิ 1 หมายถึง ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน ระดับการประเมิน 3 หมายถึง พอใช้ รายการประเมนิ ระดับการประเมนิ 5432 1 1. กาหนดมาตรฐาน/ตวั ช้ีวัด/จดั ประสงคก์ ารเรยี นรู้ครอบคลมุ พฤตกิ รรม การเรยี นร้ดู า้ นพทุ ธพิ สิ ยั ทกั ษะพิสยั และจติ พสิ ยั 2. ความสอดคล้องมาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชี้วัด/สาระสาคัญและกิจกรรม การเรยี นรู้ 3. กจิ กรรมการเรยี นรู้มีความครอบคลุมการพฒั นาผเู้ รยี นให้มคี วามรู้ ทักษะกระบวนการ สมรรถนะที่สาคญั ของผู้เรยี นและคณุ ลกั ษณะอนั พึง ประสงค์ 4. กิจกรรมการเรียนรูต้ อบสนองความแตกตา่ งระหว่างบคุ คล 5. กิจกรรมการเรียนร้หู ลากหลายและเนน้ ผเู้ รียนเปน็ สาคญั 6. นาภูมิปัญญาทอ้ งถนิ่ และสอ่ื เทคโนโลยมี าประยุกตใ์ ชใ้ นการเรียนการ สอน 7. ส่อื การเรยี นร้มู คี วามเหมาะสมสอดคล้องกบั กจิ กรรมการเรียนการสอน 8. ประเมนิ ความก้าวหนา้ ของผูเ้ รยี นด้วยวธิ ที ่ีหลากหลายเหมาะสมกบั ธรรมชาติวชิ า 9. วิเคราะหผ์ ลการประเมินแล้วนามาใช้ในการสอนซอ่ มเสรมิ 10. วธิ ีวัดและเคร่อื งมือวัดสอดคลอ้ งกับพฤตกิ รรมทีก่ าหนดไว้ในตวั ช้วี ัด หรอื จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ รวม/สรปุ ผล รวม/เฉลยี่ สรปุ ผล ขอ้ คิดเหน็ /ขอ้ เสนอแนะ ....................................................................................................................................................................................... ...................................................................... .........................................................................................................
33 แบบประเมนิ แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ า.................................................................ภาคเรียนท.่ี ..............ชนั้ ...................ปีการศกึ ษา............................ โรงเรยี น................................................................ครผู ูส้ อน.......................................................................................... กล่มุ สาระการเรยี นรู้...................................................................................................................................................... คาช้แี จง โปรดเขียนเครอ่ื งหมาย √ ลงในชอ่ งทตี่ รงกบั ระดบั การประเมิน ระดบั การประเมนิ 5 หมายถงึ ดีมาก ระดับการประเมนิ 2 หมายถงึ ปรบั ปรุง ระดบั การประเมนิ 4 หมายถงึ ดี ระดับการประเมนิ 1 หมายถงึ ไมผ่ ่านเกณฑ์การประเมิน ระดบั การประเมนิ 3 หมายถงึ พอใช้ รายการประเมนิ ระดบั การประเมนิ 5432 1 1. กาหนดมาตรฐาน/ตัวชี้วัด/จดั ประสงคก์ ารเรยี นรู้ครอบคลมุ พฤติกรรม การเรยี นรู้ดา้ นพทุ ธิพิสยั ทักษะพิสัย และจิตพิสยั 2. ความสอดคล้องมาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้ีวดั /สาระสาคญั และกจิ กรรม การเรยี นรู้ 3. กิจกรรมการเรยี นรู้มีความครอบคลุมการพัฒนาผู้เรียนใหม้ ีความรู้ ทกั ษะกระบวนการ สมรรถนะท่สี าคญั ของผเู้ รยี นและคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 4. กิจกรรมการเรียนร้ตู อบสนองความแตกตา่ งระหวา่ งบคุ คล 5. กจิ กรรมการเรียนรู้หลากหลายและเน้นผูเ้ รยี นเป็นสาคญั 6. นาภูมิปัญญาท้องถนิ่ และสือ่ เทคโนโลยมี าประยุกตใ์ ช้ในการเรียนการ สอน 7. สือ่ การเรยี นรูม้ คี วามเหมาะสมสอดคลอ้ งกับกจิ กรรมการเรียนการสอน 8. ประเมินความก้าวหนา้ ของผู้เรยี นด้วยวิธที ีห่ ลากหลายเหมาะสมกับ ธรรมชาตวิ ชิ า 9. วเิ คราะหผ์ ลการประเมินแล้วนามาใช้ในการสอนซอ่ มเสรมิ 10. วธิ วี ัดและเครือ่ งมือวัดสอดคลอ้ งกบั พฤติกรรมที่กาหนดไวใ้ นตัวชว้ี ัด หรือจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ รวม/สรปุ ผล รวม/เฉลีย่ สรปุ ผล ข้อคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ ....................................................................................................................................................................................... ...............................................................................................................................................................................
34 แบบประเมินแผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชา.................................................................ภาคเรยี นท.ี่ ..............ชนั้ ...................ปีการศึกษา............................ โรงเรยี น................................................................ครผู ูส้ อน.......................................................................................... กลุม่ สาระการเรียนรู้...................................................................................................................................................... คาชแี้ จง โปรดเขยี นเครอื่ งหมาย √ ลงในชอ่ งทตี่ รงกบั ระดับการประเมิน ระดบั การประเมนิ 5 หมายถงึ ดีมาก ระดบั การประเมิน 2 หมายถงึ ปรบั ปรุง ระดับการประเมนิ 4 หมายถึง ดี ระดับการประเมิน 1 หมายถึง ไมผ่ ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ระดบั การประเมนิ 3 หมายถงึ พอใช้ รายการประเมนิ ระดับการประเมนิ 5432 1 1. กาหนดมาตรฐาน/ตัวชีว้ ัด/จดั ประสงค์การเรยี นรู้ครอบคลมุ พฤตกิ รรม การเรยี นรู้ดา้ นพุทธพิ ิสยั ทกั ษะพิสยั และจิตพสิ ยั 2. ความสอดคล้องมาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชี้วดั /สาระสาคัญและกิจกรรม การเรยี นรู้ 3. กิจกรรมการเรียนรู้มคี วามครอบคลมุ การพัฒนาผ้เู รียนใหม้ คี วามรู้ ทกั ษะกระบวนการ สมรรถนะทส่ี าคัญของผ้เู รยี นและคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 4. กจิ กรรมการเรียนรู้ตอบสนองความแตกตา่ งระหวา่ งบคุ คล 5. กิจกรรมการเรยี นรูห้ ลากหลายและเน้นผเู้ รียนเปน็ สาคญั 6. นาภูมิปัญญาทอ้ งถน่ิ และสอ่ื เทคโนโลยีมาประยกุ ต์ใชใ้ นการเรียนการ สอน 7. สื่อการเรยี นรู้มคี วามเหมาะสมสอดคลอ้ งกบั กิจกรรมการเรียนการสอน 8. ประเมินความก้าวหนา้ ของผูเ้ รยี นด้วยวธิ ที ีห่ ลากหลายเหมาะสมกับ ธรรมชาติวชิ า 9. วเิ คราะหผ์ ลการประเมินแลว้ นามาใช้ในการสอนซ่อมเสรมิ 10. วิธีวดั และเครอ่ื งมือวดั สอดคลอ้ งกบั พฤตกิ รรมทีก่ าหนดไวใ้ นตวั ชวี้ ัด หรือจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ รวม/สรปุ ผล รวม/เฉลย่ี สรุปผล ขอ้ คดิ เห็น/ข้อเสนอแนะ ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... สรปุ ผลการประเมนิ แผนการจัดการเรยี นรู้ 4.50 – 5.00 หมายถงึ ดมี าก 2.50 – 3.49 หมายถงึ พอใช้ ตา่ กวา่ 1.50 หมายถึง ไม่ผ่านเกณฑก์ ารประเมิน 3.50 – 4.49 หมายถึง ดี 1.50 – 2.49 หมายถึง ปรับปรุง
35 ปว.1-8 แบบประเมินด้านคณุ ภาพการจัดการเรยี นการสอน ชอ่ื -นามสกลุ (นักศกึ ษา)................................................................................................................................... สาขาวชิ า.................................................... วิชาทส่ี อน.............................................ช้นั .................................... โรงเรยี น............................................................................................................................................................ ชอ่ื ผูป้ ระเมิน..................................................................................................................................................... ประเมนิ ครงั้ ท.่ี .............วันประเมนิ วนั ที่........................เดอื น......................................พ.ศ............................... คาช้ีแจง แบบประเมินต่อไปน้เี ป็นเคร่ืองมือในการให้คะแนนทมี่ ี 2 ลกั ษณะ 1. ขอ้ มลู ในเชงิ คุณภาพ ให้คะแนนเปน็ 4,3,2 และ 1 ตามพฤติกรรมทีบ่ รรยายในแตล่ ะระดบั 2. ข้อมูลในเชิงปรมิ าณ หากแจงนบั ได้ ให้ใช้ลักษณะของปรมิ าณท่ีปฏิบัตติ ามจานวน ท่ีกาหนดไวใ้ นแตล่ ะระดับ ดงั น้ี 4 ยอดเย่ยี ม หมายถงึ การปฏิบัติมีปรมิ าณ 90 - 100 % 3 ยอดเยย่ี ม หมายถึง การปฏบิ ัติมปี รมิ าณ 75 - 89 % 2 ยอดเย่ยี ม หมายถึง การปฏบิ ตั ิมปี ริมาณ 60 - 74 % 1 ยอดเยีย่ ม หมายถึง การปฏิบัตมิ ปี รมิ าณตา่ กว่า 60 % 3. โปรดประเมินให้สอดคลอ้ งตามความเปน็ จรงิ หรอื ตามคณุ ลกั ษณะของนักศึกษา พร้อมใสร่ ะดบั คะแนนลงในชอ่ งการประเมนิ ตามความคดิ เห็นของทา่ น 4. โปรดสรุปจดุ เด่น จดุ ด้อย และข้อเสนอแนะในทา้ ยแบบประเมนิ 5. อาจารย์ผสู้ อนและครูพี่เลยี้ ง ประเมนิ นกั ศึกษาฝกึ สอน
มาตรฐาน/ตวั ชีว้ ัด 4 (ยอดเย่ยี ม) 3 (ดี) 90 - 100% 75 – 89% บคุ ลิกลกั ษณะเหมาะสมกับอาชพี ครู 1. การวางแผนการสอนและสามารถ มีการวางแผนการสอนและ มกี ารวางแผนการส ทาแผนการสอนล่วงหนา้ ตาม สามารถทาแผนการสอน สามารถทาแผนการ กาหนดเวลา ล่วงหนา้ ตามกาหนดเวลา ลว่ งหน้าตามกาหนด ไมน่ ้อยกว่า 90% ของ 75-89% ของทั้งหม ทงั้ หมด 2. สามารถทาแผนการสอนได้อย่าง สามารถเขียนแผนการสอน สามารถเขยี นแผนก ถูกตอ้ ง และครบทกุ องค์ประกอบ ท่ีมอี งคป์ ระกอบครบถ้วน ทม่ี ีองคป์ ระกอบถูก สมบูรณไ์ มน่ ้อยกวา่ 90% ระหว่าง 75-89% ของท้งั หมด ของท้ังหมด การเรียนการสอนโดยเนน้ ผูเ้ ปน็ สาคญั 1. มีการจดั การช้ันเรยี น มีความสามารถในการ มีความสามารถ จัดการชนั้ เรียนไดด้ ี ในการจัดการชัน้ เรยี ไม่นอ้ ยกว่า 90% ของเวลา 75-89% ของเวลาท ท่สี อน 2. มกี ารเลือกวธิ ีการสอน ใช้วิธีการสอนท่เี หมาะสม ใชว้ ธิ ีการสอนที่เหม ใหส้ อดคล้องกบั เน้ือหาวิชา กบั เนื้อหาวชิ าเกือบทุกครง้ั กบั เน้ือหาวชิ า 75-8 ที่ทาการสอน ของเวลาทท่ี าการส
ระดบั คุณภาพ 1 (ควรปรับปรงุ ) คะแนนประเมนิ 2 (พอใช้) ตา่ กวา่ 60% % 60 – 74% สอนและ มีการวางแผนการสอนและ มกี ารวางแผนการสอนและ รสอน สามารถทาแผนการสอน สามารถทาแผนการสอน ดเวลา ลว่ งหน้าตามกาหนดเวลา ลว่ งหนา้ ตามกาหนดเวลา มด 60-75% ของทั้งหมด 40% ของทัง้ หมด การสอน สามารถเขยี นแผนการสอน สามารถเขยี นแผนการสอน กตอ้ ง ท่มี ีองค์ประกอบถกู ต้อง ทม่ี อี งค์ประกอบถกู ต้อง 60-74% ของทั้งหมด นอ้ ยกวา่ 90% ของท้งั หมด ยนไดด้ ี มคี วามสามารถในการ มีความสามารถในการ ที่สอน จดั การชนั้ เรยี นไดด้ ี จัดการช้นั เรยี นไดด้ ี 60-74% ของเวลา น้อยกวา่ 40% ของเวลา มาะสม ทส่ี อน ทีส่ อน 89% ใชว้ ิธกี ารสอนท่ีเหมาะสม ใช้วีการสอนที่เหมาะสมกบั อน กับเนอื้ หาวิชา 60-74% เน้อื หาวิชา 40% ของเวลา ของเวลาทท่ี าการสอน ทที่ าการสอน
มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั 4 (ยอดเยี่ยม) 3 (ดี) 3. มีการจดั กจิ กรรมหลากหลาย 90 - 100% 75 – 89% เหมาะสมกบั ผูเ้ รียน จัดกิจกรรมการเรยี น จดั กจิ กรรมการเรียน การสอนหลากหลาย สอนหลากหลายโดย 4. การจัดกจิ กรรม โดยให้ผเู้ รยี นมสี ่วนร่วม ผู้เรยี นเข้ารว่ ม 75-8 ที่กระตุน้ ให้ผเู้ รยี นรจู้ กั คดิ วิเคราะห์ มากกว่า 90% ของเวลา ของเวลาที่สอน พฒั นาและสรา้ งสรรค์ ท่สี อน จดั กิจกรรมโดยกระต้นุ จดั กิจกรรมโดยกระ 5. มกี ารหากลวธิ ีใหผ้ เู้ รยี นสามารถ ใหผ้ ้เู รียนสามารถคดิ ผู้เรยี นสามารถคดิ แสวงหาความรู้ วเิ คราะหแ์ ละสงั เคราะห์ วเิ คราะห์และสงั เคร ด้วยตนเอง ความรูต้ า่ งๆ ไดด้ ว้ ยตนเอง ความรู้ต่างๆ ไดด้ ว้ ย มากกว่า 90% เพยี ง 75-89% ของนักเรียนท้ังหมด ของนกั เรยี นทง้ั หมด จัดกจิ กรรมทีส่ ามารถ จัดกิจกรรมที่สามาร ให้นักเรียนแสวงหาและ ใหน้ ักเรียนแสวงหา สรุปความรไู้ ด้ดว้ ยตนเอง สรปุ ความรไู้ ด้ด้วยต มากกวา่ 90% 75-89% ของนักเรยี ของนักเรียนทั้งหมด ทง้ั หมด
ระดบั คุณภาพ 1 (ควรปรบั ปรุง) 37 2 (พอใช)้ ตา่ กว่า 60% คะแนนประเมนิ % 60 – 74% จัดกจิ กรรมการเรยี นการ นการ จดั กจิ กรรมการเรียน สอนหลากหลายโดยให้ ยให้ การสอนหลากหลาย ผูเ้ รยี นเข้ารว่ มน้อยกว่า 89% โดยให้ผเู้ รียนเข้าร่วม 40% ของเวลาท่ีสอน 60-74% ของเวลาทสี่ อน ะตุ้นให้ จัดกิจกรรมโดยกระต้นุ จัดกิจกรรมโดยกระตุน้ ให้ผูเ้ รียนสามารถคดิ ใหผ้ ู้เรยี นสามารถคิด ราะห์ วเิ คราะห์และสงั เคราะห์ วิเคราะห์และสังเคราะห์ ยตนเอง ความร้ตู ่าง ๆ ไดด้ ้วย ความรตู้ ่าง ๆ ไดด้ ้วย ตนเองเพียง 60-74% ตนเองเพยี ง 40% ด ของนักเรียนทัง้ หมด ของนกั เรยี นทง้ั หมด รถ จดั กิจกรรมที่สามารถ จดั กิจกรรมทีส่ ามารถ าและ ให้นกั เรยี นแสวงหาและ ให้นกั เรียนแสวงหาและ ตนเอง สรุปความรไู้ ด้ดว้ ยตนเอง สรุปความรไู้ ดด้ ้วยตนเอง ยน 60-74% ของนักเรยี น นอ้ ยกวา่ 40% ของ ท้ังหมด นกั เรียนทงั้ หมด
มาตรฐาน/ตวั ชีว้ ัด 4 (ยอดเยี่ยม) 3 (ด)ี 6. มกี ารใช้การประเมนิ 90 - 100% 75 – 89% ทห่ี ลากหลาย ใช้วธิ กี ารวดั ผลท่ี ใช้วธิ ีการวัดผลที่ หลากหลาย สอดคลอ้ งกับ หลากหลาย สอดคล 7. มกี ารใชส้ อื่ และหรือใชภ้ ูมปิ ญั ญา จุดประสงค์การเรยี นรู้ จดุ ประสงค์การเรยี น ท้องถิ่นไดอ้ ย่างเหมาะสม มากกวา่ 90% ของ 75-89% ของแผนก แผนการจดั การเรยี นรู้ จัดการเรยี นรู้ มีสื่อการสอนทชี่ ่วยให้ มสี อ่ื การสอนท่ีช่วย ผเู้ รยี นเข้าใจเร่ืองทีเ่ รียนได้ ผเู้ รยี นเข้าใจเรื่องท่ีเ มากกว่า 90% ของ 75-89% แผนการจดั การเรยี นรู้ ของแผนการจดั การ ทัง้ หมด 8. มกี ารวเิ คราะหผ์ ้เู รยี นและจดั จัดกจิ กรรมการเรยี น จดั กจิ กรรมการเรยี น กิจกรรมพฒั นาผ้เู รียน (การวิจยั ในชนั้ การสอนโดยมกี าร สอนโดยมีการวิเครา เรียน) วเิ คราะหผ์ ู้เรยี นและมกี าร ผู้เรยี นและมีการพัฒ พัฒนากิจกรรมเพื่อพัฒนา กจิ กรรมเพือ่ พัฒนา ผู้เรยี นมากกว่า 90% ของ 75-89% ของการจ การจดั การเรยี น เรียนการสอน การสอน
ระดบั คุณภาพ 1 (ควรปรับปรงุ ) 38 2 (พอใช)้ ต่ากว่า 60% คะแนนประเมนิ % 60 – 74% ใช้วิธกี ารวัดผล ใช้วธิ กี ารวัดผล ที่หลากหลาย สอดคล้อง กับจุดประสงค์การเรยี นรู้ ล้องกับ ทหี่ ลากหลาย สอดคลอ้ ง 40% ของแผน นรู้ กับจุดประสงค์การเรยี นรู้ การจดั การเรยี นรู้ การ 60-74% ของแผน มีสอ่ื การสอนที่ช่วยให้ ผูเ้ รยี นเขา้ ใจเรอื่ งทีเ่ รียนได้ การจดั การเรยี นรู้ 40% ของแผนการจัดการ ยให้ มสี ื่อการสอนทีช่ ว่ ยให้ เรียนรทู้ ัง้ หมด เรียนได้ ผู้เรยี นเขา้ ใจเร่อื งทีเ่ รียนได้ 60-74% รเรยี นรู้ ของแผนการจัดการเรยี นรู้ ท้ังหมด นการ จัดกจิ กรรมการเรียน จดั กจิ กรรมการเรยี นการ าะห์ การสอนโดยมกี าร สอนโดยมีการวเิ คราะห์ ฒนา วิเคราะหผ์ ูเ้ รยี นและมีการ ผู้เรยี นและมกี ารพัฒนา าผเู้ รียน พัฒนากจิ กรรมเพื่อพัฒนา กจิ กรรมเพือ่ พัฒนาผเู้ รียน จัดการ ผเู้ รยี น 60-74% ของการ 40% ของการจดั การเรยี น จดั การเรยี นการสอน การสอน
จุดเดน่ .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... จุดด้อยและส่งิ ที่ควรปรับปรงุ .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... ข้อเสนอแนะ .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... ลงชอื่ .....................................................ผ้ปู ระเมิน (....................................................) ประเมนิ ในตำแหนง่ ............................................... วนั ท.่ี ............เดอื น........................... พ.ศ..............
40 ภาคผนวก รูปภาพ และอนื่ ๆ
41 วนั ศุกร์ ที่ 3 กันยายน พ.ศ.2564 (สมั ภาษณก์ ารจัดการเรียนรู้ของครูพเี่ ล้ยี ง และบริบทของโรงเรียน จานวน 1 ชว่ั โมง)
42 วันจนั ทร์ ที่ 6 กันยายน พ.ศ.2564 (สงั เกตการสอนนักเรยี นระดบั ช้นั ม.1 และม.2 จานวน 5 ช่ัวโมง)
Search